คำพูดนั่นทำให้ใจเต้นแรงอีกครั้ง ผมหายใจเข้าลึก บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าผมต้องคุมเกมสิ จะปล่อยให้มันมั่นแบบคราวก่อนไม่ได้ ไม่งั้นมีหวังโดนพลิกกลับสถานะอีกแหง ๆ
คิดดังนั้นจึงก้าวขึ้นมาบนเตียงบ้าง ถึงผมจะเตี้ยกว่าเจ้าบ้านี่ แล้วก็ไม่ได้มีกล้ามเนื้อเลยสักนิด แต่จะยังไง ความสูงก็ไม่มีผลในแนวระนาบหรอกน่า ผมจะแสดงทีเด็ดให้เจ้านัทหลง แล้วยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำเลย คอยดู
ผมขยับเข้ามาคร่อมคนด้านล่าง ที่ยังคงนอนนิ่งยินยอมอย่างว่าจริง ๆ พอมองลงไป คนด้านล่างที่นอนอยู่ ก็จ้องหน้าผมตรง ๆ ขึ้นมาซะงั้น ผมเผลอชะงักค้างอยู่เป็นครู่ เมื่อดวงตาคมเข้มนั้นจ้องเอา ๆ จนชักร้อนผ่าวที่ใบหน้าอีกแล้ว เจ้าคนหน้าด้านนี่ ทำไมไม่รู้จักหลบตาเขินอายกับใครเขาบ้างนะ มองอยู่ได้ มันเขินไม่ใช่เหรอ!
อ่ะ..ไม่ได้ ผมจะมาเขินไม่ได้ ต้องรุกกว่านี้
“ถอดเสื้อผ้าซะสิ” ผมสั่งมันด้วยเสียงห้วน ๆ พยายามเก๊กแมนสุดฤทธิ์
คนถูกสั่งหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “การถอดเสื้อผ้าให้ฝ่ายรับ ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายรุกไม่ใช่เหรอ”
เออ…มันพูดถูกแฮะ ผมพึ่งจะนึกได้ ถ้างั้น…ผมก็คงต้อง…ถอดให้มันด้วยสินะ
เอ้า ถอดก็ถอด
ผมโน้มตัวลงมาอย่างเงอะงะเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อให้เจ้านัท…ทีละเม็ด..ทีละเม็ด…พอกระดุมถูกปลดออก ผิวเนียนสีเข้มกว่าผิวของผมนิดหน่อย ก็ค่อย ๆ เผยออกมา เจ้านัทก็ไม่ได้มีกล้ามอะไรมากมาย แต่ก็เฟิร์มพอที่จะทำให้ผม..ชักรู้สึกแปลก ๆ ตอนสัมผัสเสียแล้ว แค่ถอดเสื้อเท่านั้น ผมก็เริ่ม…
ไม่นะ อดทนเข้าสิ! ผมกัดฟันทำนิ่งต่อไป จากประสบการณ์ที่ (พยายาม) ศึกษามาดีจนแทบไม่ได้นอน บอกกับผมได้ว่า คนเป็นฝ่ายรุก ต้องรุกแบบหน้านิ่งสุด ๆ แล้วก็จะต้อง…ไม่แสดงอารมณ์อ่อนไหวออกมา เกินจำเป็น
เพราะถ้าทำแบบนั้น มันจะไม่แมนน่ะสิ!
ผมขบฟันเบา ๆ พยายามจดจ่ออยู่กับแผงอกเรียบลื่นแข็งแรงจนน่าลูบนั้น โดยพยายามที่จะไม่มอง…หน้าเจ้านัทอีก
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกได้ ถึงแววตาคมเข้มที่ยังคงมองผมอยู่…มอง…แล้วก็ยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย
หน้าผมเริ่มร้อนอีกแล้ว แถมยังร้อนไปยังส่วนอื่นอีกด้วย…ให้ตายเถอะ ทำไมคนกำลังรุกอย่างผม ถึงได้รู้สึกมากกว่าเจ้าบ้านัทที่กำลังจะโดนกดด้วยเล่า!
ผมตัดใจดึงเสื้อเจ้านัทออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเลื่อนตัวลงมาที่กางเกงบ้างแล้ว ชุดนอนบางเบา ที่แน่นอน ก็เหมือนคราวก่อนนั่นแหละ เจ้านัทไม่ใส่กางเกงใน เหมือน ๆ กับผมในตอนนี้…ดังนั้น…อะไรต่อมิอะไร ใต้กางเกง จึงเห็นชัดนัก…เวลามันเริ่มตื่น
กางเกงผ้าอ่อนนุ่มตัวบาง ถูกบางอย่างดันขึ้นมาจนนูนเป่ง ผมที่เลื่อนตัวลงไปมอง เลยเผลอผงะด้วยความตกใจ
เจ้านัทน้อย…กลายเป็นเจ้านัทใหญ่ซะแล้ว! ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ เจ้าหื่นนี่!
“ถอดซะทีสิเนย หรือว่า…จะให้ฉันถอดให้” เสียงพูดลอย ๆ ข้างตัว ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก ไม่น่าจ้องมากไปหน่อยเลย ดูซิ เสียสมาธิหมด ผมพยายามข่มกลั้นความอาย ก่อนจะดึงกางเกงเจ้านัทออกในทีเดียว
ท่าทางของผมทำให้เจ้านัทหัวเราะน้อย ๆ ดูอารมณ์ดีเสียจนน่าหมั่นไส้
“รุนแรงจริงนะ หรือว่า…นายอยากจะลองเล่น SM กับฉันล่ะ”
“ใครจะไปบ้าเล่นอะไรโรคจิตแบบนั้นล่ะ นายนั่นแหละ นอนไปเงียบ ๆ เลย” ผมทำเสียงดุข่มมันกลับ เรื่องอะไรจะยอมให้มันคุมเกมได้ล่ะ
“ก็นอนเงียบมาตั้งนานแล้ว นายไม่ทำอะไรซักทีนี่นา” คนบนเตียงแกล้งถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ ขนาดมันนอนโป๊ต่อหน้าผม มันยังกล้านอนอ้าสู้ฟ้าดินอย่างไม่กลัวใครจะเผลอมองจนตากุ้งยิงด้วยซ้ำ คนอะไร หน้าหนาจนปูนซีเมนต์ยังอายได้ขนาดนี้
“หรือว่า…ต้องให้ฉันยั่วยวนนายด้วย ถึงจะมีอารมณ์?” เจ้านัทยังคงพูดต่อไป ไม่พูดเปล่า มันยังชันเข่าขึ้น ก่อนใช้มือจับอ้าออกอย่างจงใจกว่าเดิม
“อ้าแค่ไหนถึงจะพอล่ะ…เท่านี้…กว้างพอมั้ย” เสียงทุ้มนุ่มมีเสน่ห์จนผมใจเต้นแรงอีกแล้ว ไอ้บ้านี่ทำได้ไม่มีอายเลยนะ ฝ่ายรับน่ะ มันต้องเขินอายถึงจะถูก!
มันทำท่ายั่วยวนก็จริง แต่ทำไมผมต้องเขินแทนมันด้วยเนี่ย แต่…จะไม่ให้เขินได้ไง ในเมื่อเจ้านัทน้อย…เอ๊ย เจ้านัทใหญ่นั่น มันตื่นตัวซะไม่มี!
ไม่สิ…อย่าไปนึกถึงมัน กะอีแค่ใหญ่กว่าเจ้าลูกชายของผมนิดหน่อย อย่ามาทำเบ่งเลย ผมน่ะ…ไม่สนหรอก!
ผมหายใจเข้าลึก พยายามนึกในแง่ดี เออ มันอ้าให้แบบนี้ อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเสียเวลาบังคับมันสินะ ท่าทางเต็มใจซะขนาดนั้น สงสัยอยากให้ผมรุกบ้างแล้วล่ะสิ
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้านัทที่นอนอ้ากว้าง ก็หุบขาฉับซะงั้น ผมที่ตั้งท่าจะเริ่มกด เลยชะงักค้างไปอีก
“อ้าว ปิดทำไมล่ะนั่น หรือว่า…นายจะอาย” ผมเริ่มรู้สึกมั่นใจขึ้นอีกเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่า เจ้าบ้านั่น ไม่ได้กล้าให้ผมทำจริงเสียหน่อย พอผมจะกด มันก็หุบขาหนี โธ่เอ๊ย กลัวโดนกดก็บอกมาเถอะ แบบนี้ค่อยเหมือนฝ่ายรับที่ดีหน่อย
“อืม…ฉันอายมากเลยล่ะ” เจ้าบ้านั่นยอมรับหน้าตาย คนกำลังอายเนี่ย เขากล้าพูดงี้ด้วยเรอะ พูดไม่พูดเปล่า ยังมองกันตรง ๆ แถมยังจ้อง…ตรงเป้ากางเกงผม เป็นพิเศษอีกต่างหาก
ผมขยับถอยหนีโดยสัญชาตญาณ เมื่อรู้สึกได้ว่ามือเจ้านัท เริ่มกุมมาที่เป้ากางเกงผม ซึ่งคร่อมตัวมันอยู่บนเตียงแล้ว เฮอะ คิดจะลวนลามเบี่ยงประเด็นล่ะซี่ ผมน่ะรู้ทันมันอยู่หรอก ดังนั้นผมไม่มีทางหลุดเสียงครางหวานแบบฝ่ายรับให้มันได้ยินแน่ ผมคว้าข้อมือมันไว้ ก่อนจะบอกว่า “หน้าที่เล้าโลม ก็เป็นของฝ่ายรุกไม่ใช่เหรอ นายน่ะ นอนเฉย ๆ ไปเลยไป”
ร่างแข็งแรงยิ้มหวานทำหูทวนลม แล้วพลิกตัวลุกขึ้น คลานสี่ขามาหาผมแทนที่ ท่าร่างคล่องแคล่วว่องไว แถมยังมั่นอกมั่นใจเสียเต็มเปี่ยม ขนาดมันโป๊นะเนี่ย ยังกล้าซะ
“แต่มันก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายรับ…ที่จะปลุกฝ่ายรุก ให้ตื่นตัวไม่ใช่เหรอ” เจ้านัทย้อนผมบ้าง
เออ..จริงสิ ถ้าไม่ตื่นตัวพอ คงจะใส่ไม่รอดสินะ ผมเผลอคิดตามมัน คำพูดเจ้านัทก็ดูเหมือนจะมีเหตุผลอยู่
ขณะกำลังคิดเพลิน ๆ กางเกงก็โดนรั้งลงต่ำซะแล้ว ผมสะดุ้ง ก่อนรีบรั้งขอบกางเกงไว้แทบจะในทันที
“เฮ้ย นายจะทำอะไรเนี่ย!”
- อ่านต่อหน้า 6 -