ช่วงนี้ยุ่งมากจริง ๆ ขออภัยที่ต่อช้า แถมยังมาทีละนิด T^T แต่ก็ดีว่าไม่มีมาเลยล่ะนะ
===============================
(part 4)
มือนั้นรวบข้อมือทั้งสองที่แสนบอบบางของผมได้ในพริบตา และจับมันรวบไว้เหนือหัว ก่อนจัดการใช้เข็มขัดนั่นพันเสียแน่น
ผมขยับดิ้นอย่างอึดอัด ท่าทางของเจ้าบ้านี่คล้ายไม่ได้ล้อเล่นเสียแล้ว
“ปล่อยฉันนะ นายทำบ้าอะไรเนี่ย!”
“ทำอะไรน่ะเหรอ…” คนถูกถามทวนคำ “ฉันก็กำลังใช้สมองคิดอย่างที่นายบอกน่ะสิ ว่าอะไร…ที่ฉันไม่เคยทำกับนาย จนนายโกรธ แต่สมองอันชาญฉลาดของฉัน บอกมาว่า เรื่องที่พวกเรา ‘ทำกันสองต่อสอง’ มันก็คงหนีไม่พ้นเรื่องนี้…” ว่าพลางยิ้มหวานชนิดมองแล้วเสียวถึงก้นให้กับผมก่อนพูดต่อไปว่า
“ฉันก็เลยอยากรู้น่ะสิ…ว่าท่าไหน ที่ฉันไม่เคยทำ แล้วนายอยากให้ฉันทำกันแน่”
เจ้าคนลามกนี่มันเข้าใจอะไรผิดไปไหมเนี่ย…ใช้สมองส่วนไหนตีความกัน
ผมไม่ได้บอกให้มันลองหลาย ๆ ท่าซักหน่อยนะ!!!
“ไอ้บ้า นี่มันในโรงเรียนนะ ใครเห็นเข้าจะทำไง” ผมพยายามงัดเหตุผลเข้ามาแย้ง
“ไม่เป็นไร ฉันล็อคประตูแล้ว และอีกอย่างนะ ฉันชวนแล้ว แต่นายไม่ยอมไปบ้านฉันเองนี่ ช่วยไม่ได้ อย่าส่งเสียงดังนักแล้วกัน” เจ้านัทพูดง่าย ๆ มือเริ่มปลดเข็มขัดผม ตามด้วยตะขอกางเกงเสียแล้ว ผมจะพูดไงให้ไอ้หื่นนี่หยุดดีเนี่ย
ท่าทางที่ดูเอาจริงกว่าที่คิดเล่นเอาผมซีดไปเลย
โอ๊ย ทำตัวเองแท้ ๆ
มือที่กำลังจัดแจงถอดเสื้อผ้าผมหยุดลงก่อนจะถามขึ้นว่า “ฉันจะหยุดก็ได้นะ ถ้านายยอมบอกฉัน ว่านายโกรธฉันเรื่องอะไร”
หนอยแน่ะ ทำเป็นมัดเป็นถอด ที่แท้ก็จะแกล้งหลอกให้ผมพูดสินะ ผมรู้ทันหรอก มันไม่ได้กะจะทำจริงสักหน่อย ก็นี่มันในโรงเรียนนะ ไม่ใช่ในห้องเก็บเสียงเหมือนบ้านเจ้านัทกัน
คงคิดว่าผมจะอายแล้วยอมพูดทุกอย่างล่ะสิ เจ้าคนเห็นแก่ตัว สนใจก็แค่ร่างกายจริง ๆ สินะ
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ คราวนี้ผมไม่ยอมมันแน่ เรื่องแค่นี้…คนทำก็ต้องรู้เองสิ
“ถ้านายคิดเองไม่ได้ ฉันก็ไม่หายโกรธนายหรอก อย่าหวังให้บอกซะให้ยากเลย!” ผมกัดฟันเถียงมันไปทั้งอย่างนั้น ต่อให้มันทำมากกว่านี้ ผมก็จะไม่ปริปากบอกก่อนหรอกน่า ของแบบนี้ถ้าคิดเองไม่ได้ ก็อย่ามาคบกันอีกเลย!
แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าจะคาดคั้นผมอย่างที่คิด ใบหน้าหล่อเหลา เอ๊ย…ไม่สิ กวนโอ๊ย นั่น ยังคงยิ้มอย่างพอใจกว่าเดิมซะอีก ยิ้มแบบนั้นมันขนลุกนะไอ้บ้านี่ ผมมองมาพลางหันรีหันขวาง จะหนีก็ไม่ได้ด้วยข้อมือที่ถูกรวบไว้ด้วยเข็มขัด ยังคงโดนรัดคล้องไว้กับซี่รั้วเหล็กราวกั้นดาดฟ้า ทำให้มือของผมไม่เป็นอิสระอย่างเคย คนเบื้องหน้าที่ยืนมองอย่างเป็นต่อด้วยท่าทางที่แสนหื่นในสายตาของผม กลับดูไม่ทุกข์ร้อนนัก ที่ขู่ผมไม่สำเร็จ
“ฉันดีใจนะ ที่นายไม่ยอมบอก”
อ้าวเฮ้ย มันควรดีใจเหรอนั่น
ผมขมวดคิ้วอย่างขัดใจกว่าเดิม เพราะเจ้าบ้านี่ดูเอาจริงขึ้นมาอีกแล้ว ถึงโวยวายไปก็คงไม่เป็นผล ผมเลยเปลี่ยนแผนเป็นพยายามหว่านล้อมแทนที่ “แก้มัดได้แล้วน่า เดี๋ยวเข้าเรียนคาบต่อไปไม่ทันกันพอดี” คำพูดสมกับเป็นเด็กเรียนเสียอย่างนั้น แม้ปกติแล้วผมจะแอบหลับแอบเล่นในห้องเรียนอยู่บ่อย ๆ
แต่คำพูดนั้นไม่ได้เป็นประโยชน์เลย เมื่อเจ้านัทตัดบทว่า “ถ้านายกลัวเรียนไม่ทัน ฉันจะติวให้เอง แต่ตอนนี้…ฉันต้องหาก่อนว่า ‘อะไร’ กันแน่ ที่ฉันไม่เคยทำกับนาย”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ปล่อยฉันเลยนะนัท!” ผมเริ่มทำเสียงห้วนดุกว่าเดิม ด้วยหวังว่ามันจะกลัว
แต่เปล่าเลย เพราะมันกลับรูดซิปกางเกงผมต่อเสียอย่างนั้น ผมพยายามเอาขายันมันออกไป แต่กลับสู้แรงมันไม่ได้ ดวงตาคมเข้มมองมาอย่างน่ากลัวกว่าเดิมเมื่อพูดขึ้นว่า “ถ้านายไม่เลิกถีบล่ะก็ ฉันจะหาอะไรมัดขานายไว้ด้วยนะ”
“เจ้าบ้า ฉันไม่ได้อยากให้นาย…อะ….” ประโยคหลังชักเริ่มสะดุดหลุดเสียงร้องแผ่วเข้าแล้ว จะไม่ให้ร้องได้ไงไหว ก็มืออุ่น ๆ ของเจ้านั่นมันกำอยู่ที่จุดยุทธศาสตร์ของผมแล้วนี่ ถึงจะยังมีกางเกงในกั้นอยู่ แต่มันก็ล้วงลึกซะขนาดที่เล่นเอาผมไม่กล้าหือมันไปเลย ขืนมันทำอะไรกับเจ้าจ้อย เอ๊ย ดูสิ ติดมาจนได้ ต้องเรียกว่าเจ้าเนยใหญ่ของผมสิ ถึงตอนนี้มันจะยังเป็นเนยน้อยอยู่แต่เดี๋ยวมันก็จะตื่นแล้ว ก็เพราะมือเจ้าหื่นนี่แหละ ถ้าเป็นมือคนอื่นมีหรือมันจะตั้ง…
อ๊ะ…ผมจะไปชื่นชมมันทำไมอีกเนี่ย เหมือนผมจะเสร็จได้ก็ต้องอาศัยเจ้านัทคนเดียวเลยงั้นนี่
ผมตั้งใจว่าจะไม่ง้อมันแล้วไม่ใช่หรือ กะอีแค่เซ็กส์ จะใครก็ได้ ไม่เห็นต้องเป็นเจ้าบ้าลามกนัทนี่เลย!
มือที่ขยับลูบไล้ผ่านกางเกงในตัวบางนั่นคล่องแคล่วนัก ผมเกือบเคลิ้มไปเสียแล้วแต่ก็ต้องสะดุดกึกเมื่อได้ยินเสียงเจ้าหื่นบ้านี่พูดขึ้นมาว่า “ลูบผ่านกางเกงในตัวเดียวจนนายเปียกเสียขนาดนี้ ฉันก็พึ่งเคยทำ ใช่เรื่องที่นายโกรธฉันรึเปล่า”
อ่ะ…ไอ้บ้านี่ ตอนกำลังทำเรื่องพรรค์นี้ ยังไม่วายคิดเรื่องนั้นอีกนะ!
ผมมองมันด้วยดวงตาเขียวปัดกว่าเก่า แล้วก็พบใบหน้าที่ยังคงยิ้ม ซึ่งจ้องมองท่าทางของผมโดยไม่ให้คลาดสายตามาตลอด “ไม่ใช่สินะ ไม่เป็นไร ยังมีอีกหลายอย่าง…แล้ว…แบบนี้ล่ะ” มันพูดต่อโดยไม่สนใจว่าผมจะพูดยังไง แต่จริง ๆ ผมก็พูดไม่ออกแล้วล่ะ เพราะตอนนี้…เจ้านัทกำลัง…ล้วงเนยจ้อย…เอ๊ย เนยน้อยของผม ที่ใกล้จะตื่นเต็มทน ออกมาจากกางเกงในเสียแล้ว อย่านะเฟ้ย…อย่าจับแบบนั้น…. ผมขมวดคิ้วมุ่นแล้วคิดห้ามต่อในใจ
ก็เพราะเจ้าบ้านี่รูดมันขึ้นลงไม่มียั้งจนเสียวไปหมด แล้วผมจะไปจะไปมีแรงออกเสียงห้ามมันได้ยังไงล่ะ
ปากนุ่ม ๆ นั่นจูบเบา ๆ ที่ส่วนปลายซึ่งกำลังเสียวได้ที่จนแทบกลั้นไว้ไม่ไหว ก่อนถามขึ้นว่า “แล้วแบบนี้ล่ะ”
ผมหน้าแดงเรื่อขึ้นมาทันที มีไอ้บ้าที่ไหนจะเพี้ยนเท่าไอ้บ้านัทนี่ไหม จูบปากมันไม่เคยจูบ แต่มันดันมาจูบ…ตรงนั้น…ของผมซะก่อน แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกันเล่า!!!
“ไม่ใช่! …อะ…ออกไปเลยนะ…เจ้าบ้า!” ผมพยายามพูดออกมา แม้คำพูดจะเป็นการโวยวายแบบเดิม แต่เสียงที่ปะปนหอบซะขนาดนี้ ดูยังไงก็ไม่น่ากลัวสำหรับเจ้านัท ที่ตอนนี้เริ่มทำมากกว่าจูบกับเจ้าเนยน้อยของผมซะแล้ว
สัมผัสอ่อนนุ่มนั้นทำให้ผมเกร็งตัวสะท้านเฮือกเลยทีเดียว ยิ่งมองลงมาเห็นเจ้าบ้านั่นทำให้ผมแบบนั้น ใจเจ้ากรรมก็ยิ่งเต้นแรงอย่างไม่ต้องสั่งเลยทีเดียว ผมพยายามขืนตัวไว้ ไม่เผลอไผลไปกับรสสัมผัสที่ทำให้รู้สึกดีขนาดนี้ ก่อนจะส่ายหน้าถี่ยิบ
“อึก…ปละ….ปล่อยนะ….” มือของผมเกร็งแน่นแม้จะถูกรัดไว้ด้วยเข็มขัด เพราะถูกรั้งไว้เช่นนี้ เลยทำให้ผมต้องฝืนให้ถูกทำเรื่องน่าอายในท่ายืนเสียจนได้ ร่างกายที่อึดอัดยังคงตอบรับกับสิ่งที่เจ้าบ้านี่ทำให้อย่างรู้สึกดีเป็นทวีคูณ แล้วนี่ผมจะทนมันได้สักกี่น้ำกัน
“อะ…ฮ้า…อยะ….”
สะโพกบางของผมเกร็งแน่นกว่าเก่า เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงดูดดึงที่แรงขึ้นและเร่งเร้ากว่าเดิม กางเกงที่ถูกดึงร่นเหลือเพียงกางเกงใน กลับถูกมือคล่องแคล่วแทรกเข้าไป โดยเจ้าตัวคนทำไม่ถอดมันออกเสียอย่างนั้น นิ้วที่คุ้นเคยแทรกเข้าทีละน้อยที่เบื้องหลัง ยามขยับทั้งส่วนหน้าและหลังพร้อม ๆ กัน ทั้งที่ยังมีปราการด่านสุดท้ายกางกั้นอยู่แบบนี้ แม้เป็นเพียงแค่ผ้าบ้าง ๆ แต่มันกลับเสียดสีจนเสียวซ่านได้เหลือเชื่อ จนผมทนไม่ไหวอีกต่อไป
น้ำรสฝาดเฝื่อนที่หลั่งเข้าในโพรงปากของเจ้านัท ทำให้หน้าผมแดงหนักกว่าเก่า ถึงเจ้านัทจะเคยทำแบบนี้ให้ผมแล้ว แต่ทำทั้ง ๆ ที่ใส่กางเกงในไว้แบบนี้ แถมยังโดนมัดมือไว้เสียอีก นับว่าเป็นครั้งแรกจริง ๆ
ผมมองมันพลางหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อเราสบตากัน ผมก็รีบเบี่ยงหลบโดยสัญชาตญาณทันที แม้ว่าตอนนี้จะเขินจนแดงเรื่อไปถึงหูแล้วก็เถอะ
ริมฝีปากอุ่นค่อย ๆ ผละออกมา “นี่ก็ไม่ใช่เหรอ…”
“จะ…จะใช่ได้ยังไงล่ะเจ้าบ้า นายทำกางเกงในฉันเลอะหมดเลยนะ!” ผมแว้ดใส่มัน หลังจากตั้งหลักหอบหายใจอยู่เป็นครู่ ตอนนี้แม้จะยืนได้ แต่ก็คล้ายขาจะสั่นอยู่เหมือนกัน ผมพยายามทรงตัวไว้ไม่ให้เห็นว่าเผลอคล้อยตาม ก็ผมยังโกรธมันอยู่นี่นะ เรื่องอะไรจะยอมแพ้ง่าย ๆ เล่า
“เสียดายจังที่ไม่ใช่” เจ้านัทพึมพำยิ้ม ๆ ไอ้บ้านี่ยิ้มได้ยิ้มดี ไม่ได้เสียดายแบบที่พูดไปเลยสักนิด
ผมชักสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาอีกแล้ว เพราะดวงตาคมเริ่มมองกวาดตั้งแต่หัวจรดเท้าของผม ก่อนจะดึงกางเกงในออกไปรวดเดียว พร้อมกางเกงตัวนอก ทำให้ตอนนี้ผมยืนโป๊ท่อนล่าง ท้าสายลมและแสงแดดเสียจนแทบสั่นสะท้านกันเลยทีเดียว ยังดีว่าวันนี้ดาดฟ้าไม่ร้อนนัก ไม่งั้นถ้าผมดำแค่ท่อนล่าง ใครเห็นคงดูไม่จืดแหง ๆ
“เฮ้ย ถ้าใครมองขึ้นมาเล่า ไอ้บ้า ถอดไม่คิดเลยนะ”
ผมพยายามดุมัน แม้จะดึงกางเกงไว้ไม่ได้ ด้วยแขนโดนมัดอยู่
“ฉันยอมให้มองได้แค่ก้นสวย ๆ ของนายจากระยะไกลเท่านั้นแหละน่า รับรองไม่มีใครจำได้หรอก ว่าเป็นก้นของนาย ถึงจะขาวน่าลูบขนาดนี้ก็เถอะ” เจ้านัทหื่นตอบหน้าตาย
“มันก้นฉันไม่ใช่ก้นนายนะ รีบ ๆ เลย”
“แหม ใจร้อนขนาดนี้ คงอยากให้ฉันลองให้ครบทุกท่าสินะ เอาเป็นว่าท่าไหนใช่ก็บอกแล้วกัน” คนทำบอกง่าย ๆ ซะอย่างนั้น เล่นเอาผมชักของขึ้น
“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย” ผมดุมันกลับ แต่ไม่ได้ผลอะไรอีกเช่นเคย มือนั้นกลับจับที่ต้นขาผมพลางลูบไล้ ปากนุ่มนั่นจูบซ้ำซะหนักหน่วงจนฝากรอยจูบไว้บนโคนขาด้านบนเสียอย่างนั้น เป็นตำแหน่งที่ใส่กางเกงแล้วก็คงไม่เห็น…รอบคอบจริงนะเจ้าบ้า…แต่ว่า….ผมก็ไม่ได้อยากให้จูบตรงนั้นสักหน่อย!!!
ผมอ้าปากจะด่ามัน แต่ก็ต้องสะดุดกึก ขืนไปโวยวายว่าให้จูบทางปากก่อน ก็เท่ากับผมยอมแพ้มันสิ
อยากจูบตรงไหนก็จูบไป แต่ถ้าไม่จูบปากภายในวันนี้ล่ะก็ ผมจะโกรธมันตลอดชาติเลยคอยดู!
(TBC)