Tsundere Boy เมื่อหนุ่มซึนมาหลงรัก ตอนที่ 23
“แม่เห็นว่าเป็นผู้ชายจริงๆเหรอ” เขื่อนถามซ้ำเมื่อฟังเรื่องราวจากปากน้ำในเช้าวันถัดมา แม้อันที่จริงน้ำจะโทรไปเล่าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็ตาม
“ครับ ก็บอกแล้ว แม่ผมเป็นหมอนะ สายตานี่ชั้นหนึ่งแหละ”
“อืม เป็นผู้ชายก็ดีแล้ว ฉันจะได้เลิกสงสัยมะนาว...”
“เขื่อน ใช้อะไรคิดน่ะ!” น้ำตวาด
“น้ำ นายไม่เข้าใจหรอก เกิดเรื่องแบบนี้กับคนที่ฉันรัก ฉันก็สงสัยทุกคนแหละ” น้ำหน้าสลด ทำไมเขาจะไม่เข้าใจล่ะ ก็ถ้าเขื่อนเจอแบบนี้ เขาคงจะสงสัยแม้กระทั่งโมนและคู่แฝดนั่นแหละ
“แต่ยังไงก็ไม่ใช่มะนาวแน่นอนครับ เพราะไอ้ต้นปีปที่บ้านผม ผู้หญิงไม่กล้าปีนหรอก มันสูงมาก”
“ฉันก็แค่สงสัย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นมะนาวเต็มที่หรอก เพราะมะนาวเองก็ไม่น่าโรคจิตขนาดนั้น”
“ถ้าเขื่อนจะวัดจากความโรคจิต ทำไมไม่สงสัยตัวเองก่อนละครับ”
“อ๊ะ ไอ้นี่นิ มาว่าฉันซะงั้น ต้องโดนจั๊กจี๋พิฆาต”
“อ๊ะ ฮ่าๆๆ อย่านะครับ โอ๊ะ อ๊ะ ฮ่าๆๆๆ”
TRrrr…
“ขะ เขื่อน พอก่อน ผมจะดูโทรศัพท์” เขื่อนหยุดจี้ และชะโงกหน้ามองโทรศัพท์ของน้ำ
“โห แม่งอัพสกิลหายตัวแล้วมาแอบถ่ายข้างๆเหรอวะ” เป็นอย่างที่เขื่อนพูด รูปที่ส่งมาคือรูปที่เขื่อนจี้เอวน้ำเมื่อกี้
“เขื่อนนั่งตรงนั้นนะ” น้ำลุกขึ้นโดยถือโทรศัพท์มาด้วย มองกล้องแล้วก็มองที่เขื่อน เทียบไปเทียบมาหลายรอบ
“อะไรเหรอน้ำ” เขื่อนทนไม่ไหวต้องถามจนได้
“นี่ไงเขื่อน” น้ำชูโทรศัพท์ให้ดู หน้าจอเป็นรูปถ่ายเขื่อนจากมุมที่น้ำยืน
“ผมว่า คนที่ถ่าย ถ้ามันไม่ได้เดินผ่านตรงนี้ มันต้องถ่ายจากอาคารนั้น” น้ำชี้ไปที่อาคารตรงข้าม อาคารศิลปะและดนตรี... ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่ง ไม่มีการสนทนาใดๆ
“ฮ่าๆ ไม่หรอกมั้งเขื่อน” น้ำหัวเราะแห้งๆ
“ถ้าเราไม่แน่ใจ ก็ต้องหาหลักฐาน” น้ำใจเสีย สายตาเขื่อนเอาจริง ดูท่าจะโกรธมาก...
“น้ำตาลๆ ทำไมนั่งเหม่อตลอดชั่วโมงเลยละจ๊ะ” น้ำสะดุ้งมองหน้ามะนาว ใบหน้าสวยแฝงไปด้วยความห่วงใย
“น้ำคิดอะไรเพลินไปหน่อยน่ะ นี่หมดชั่วโมงแล้วเหรอ”
“จ้ะ วิชาต่อไปคือวิชาดนตรีนะ”
“อือ ไปกันเถอะ”
พอมาถึงห้องเรียน ก็เห็นว่าเพื่อนๆพากันไปมุงที่คนๆหนึ่ง น้ำเดินเข้าไปจนเห็นชัดจึงเรียกขึ้นมา
“คุณเดือน...”
“อ้าว น้ำ เข้ามาสิจ๊ะ” หญิงสาวกวักมือเรียกน้ำเข้าไปหา
“คุณเดือนมาทำอะไรเหรอครับ”
“วันนี้ผมให้เดือนมาเป็นอาจารย์พิเศษเรื่องพวกเครื่องสายน่ะ” อาจารย์ปฐพีตอบแทน
“ชั้นเป็นนักไวโอลินน่ะจ้ะ” คุณเดือนยิ้มหวาน ทั้งนักเรียนหญิงและชายก็ปลาบปลื้มไปตามๆกัน มองดูแล้วอาจารย์ปฐพีและคุณเดือนช่างเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันมาก
“เดี๋ยวน้ำลองเล่นเพลงหน่อยนะจ๊ะ ชั้นจะเล่นไวโอลินเอง”
“ได้ครับ” น้ำนั่งลงที่เปียโนและเริ่มเล่น คุณเดือนสีไวโอลินได้เก่งและมีท่วงทำนองที่ระรื่นหู ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับดนตรีนั้น น้ำก็นึกอะไรบางอย่างออก
‘มุมที่เขาเล่นเปียโนนั้น หากดูจากรูปถ่าย มันจะถูกถ่ายจากตรงไหนได้บ้าง’
เล่นไปสายตาก็ลอบมองไปรอบๆ จากรูปนั้นเหมือนถ่ายจากด้านหน้า จุดที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ...โต๊ะของอาจารย์ปฐพี... พอคิดแบบนี้ สมาธิก็เริ่มแตกซ่าน ทำนองเพลงก็เริ่มไขว้เขว
“เอ่อ ผม..ขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับ” น้ำลุกพรวดและตรงไปในห้องน้ำ เข้าไปห้องในสุดและล็อกประตู คว้าโทรศัพท์มากดส่งข้อความหาเขื่อน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตู? ตอนที่น้ำเข้ามาห้องอื่นก็ว่างนี่นา จะมาเคาะประตูห้องเขาทำไม
“ห้องอื่นก็ว่างนะครับ ห้องนี้ผมใช้อยู่” ลองบอกออกไปดีกว่า เขาจะได้เลิกเคาะ
“น้ำตาล ที่ผมเองนะ” เสียงทุ้มอ่อนโยนที่ได้ยินเสมอตอบกลับมา เสียงที่มักจะทำให้รู้สึกดีเสมอแต่บัดนี้มันกลับทำให้น้ำขนลุกเกรียว
“เอ่อ...อาจารย์เหรอครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ผมเห็นน้ำรีบร้อนมาห้องน้ำ ไม่สบายหรือเปล่า เลยมาดูน่ะ”
“ผมสบายดีครับ อาจารย์ไปที่ห้องเรียนก่อนก็ได้”
“เอางั้นเหรอ...” แล้วเสียงก็เงียบไป น้ำกลั้นหายใจ ออกไปแล้วเหรอ ออกไปแล้วสินะ
“อ๊ากกกกก!!”
เสียงร้องโหยหวนของน้ำเกิดขึ้นเมื่อเขาหันหน้าไปข้างบน และเห็นใบหน้าของอาจารย์กำลังจ้องมองเขามาจากห้องน้ำข้างๆ น้ำสาบานว่า ณ วินาทีนั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้เขาจะกลัวคนๆหนึ่งได้มากขนาดนี้
“ไอ้เหี้ย!!” เสียงประตูกระแทกโครม ตามด้วยเสียงสบถด่าดังก้อง และเสียงชกต่อยดังอึ้กอักไปหมด น้ำนั่งเอาหน้าซุกตักตัวเองไม่กล้ามอง ไม่อยากรับรู้ว่าเกิดอะไรด้วยซ้ำ
“น้ำ น้ำเป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเงยหน้า เสียงที่ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจของจริงมาแล้ว น้ำรีบลุกไปปลดกลอนประตู เขื่อนยืนอยู่เกือบติดหน้าประตู ใบหน้าดูร้อนรนมีแววความเป็นห่วงทั่วทุกอณู
“เขื่อน ผม..ผมกลัวเป็นบ้าเลย..” น้ำโผเข้ากอดเขื่อนแน่น เขื่อนยกแขนแกร่งขึ้นมาลูบที่หลังเบาๆเพื่อปลอบขวัญ
“แม่ง เป็นไอ้อาจารย์นี่จริงๆเหรอวะ” เสียงแทมสบถอยู่ด้านหลัง น้ำผละตัวออกและหันไปดูห้องน้ำข้างๆ อาจารย์ปฐพีลงไปนั่งกองที่พื้น ใบหน้าโชกเลือด โมนเอาเท้าไปเขี่ยๆ ดูท่าว่าจะโดนอัดจนสลบ
“ไม่เห็นพวกโมนต้องทำแรงขนาดนั้น เขาจะตายหรือเปล่าเนี่ย” น้ำพูดเสียงอ่อย โมนหันมามองหน้าน้ำแล้วยิ้ม
“ไม่ได้ทำอะไรเลย นี่มันฝีมือไอ้เขื่อนนะน้ำ มันทำคนเดียวเลย” พอโมนพูดจบ น้ำแหงนหน้ามองคนที่ตัวเองกอดอยู่ ใบหน้าคมนั้นโกรธจัด ริมฝีปากเม้มจนแทบเป็นเส้นตรง
“แค่นี้ยังน้อยไป สันดานเลว เป็นอาจารย์ได้ไงวะ พ่อมึงเลือกมาไงเนี่ย” เขื่อนหันไปด่าเพื่อน
“ไม่ใช่พ่อกูเลือก หัวหน้าแผนกดนตรีเลือกเว้ย”
“แล้วจะทำไงกับมันละเนี่ย” แทมถาม
“เอาไปหาพ่อกูเลย ไล่ออกแม่งแถมแจ้งความด้วย” พอสามคนนั้นจะช่วยกันลากอาจารย์ปฐพีออกไป ก็มีเสียงเบาๆเล็ดลอดออกมา
“อะ...อย่า...ไม่..ไม่ใช่ผม..” ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดพยายามเค้นคำพูดออกมา
“ไม่ใช่เหี้ยไร การกระทำมึงมันฟ้องอยู่!”
“ฟังผมกะ..ก่อน..” น้ำชะงัก ใจสั่นไหว เพราะความรู้จักกันมานาน ใจหนึ่งกลัว แต่ใจหนึ่งก็ไม่เชื่อว่าอาจารย์จะเป็นคนประเภทนั้นไปได้
“ฟังเขาหน่อยนะเขื่อน...” น้ำรั้งชายเสื้อเขื่อนไว้ และช้อนสายตามอง ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“มึงพูดมา พูดไม่ดี กูลากเข้าตารางแถมด้วยโรงพยาบาลโรคจิตแน่” เขื่อนกัดฟันกรอด
“ผม..เป็นห่วงน้ำ..”
“เป็นห่วงเรื่องอะไรเหรอครับ...อาจารย์..”
“เป็นห่วงถึงขนาดไปปีนต้นไม้แอบดูเลยเรอะ!” โมนตะคอกใส่
“ผม..ไปปีน เพราะแค่อยากดูว่าน้ำปลอดภัย..จากคนๆนั้น หรือเปล่า... โอ๊ย” เสียงพูดตะกุกตะกักตามด้วยเสียงร้องเจ็บปวดแผล น้ำเบือนหน้าหนีไม่อยากมอง ตอนนี้อะไรเป็นอะไรก็ไม่อาจรู้ได้แค่ใช้ตามองแล้ว
“คนๆนั้น อาจารย์หมายถึงใครครับ?” แต่คำว่า ‘คนๆนั้น’ มันกลับทำให้น้ำสนใจนักหนา
“คนที่คลั่งไคล้น้ำ...เดือน...เดือนวาดไงล่ะ..!”
“อาจารย์หมายถึงคุณเดือนเหรอครับ?!?”
“ใช่ หล่อน...คลั่งไคล้น้ำมากนะ ตั้งแต่ที่ผมเล่าเรื่องน้ำให้หล่อนฟัง หล่อนก็สนใจ...มาตลอด...”
“จนผม...ไปเจอรูปของน้ำ ...ในสมุดบันทึกของเดือน ผมเลยเฝ้ามองเดือนมากขึ้น..และจับได้ว่าเดือนแอบตามน้ำอยู่แทบตลอดเวลาในระยะที่เปิดเทอมมานี่ จากตอนแรกหล่อนแค่ชื่นชมในฝีมือของน้ำ แต่ตอนนี้ กลายเป็นว่าเดือนถลำลึกไปแล้ว” ทุกคนมองอาจารย์ด้วนสีหน้าแบบว่า ‘มันจริงเหรอวะ?’ จนน้ำตัดสินใจเป็นคนถามต่อ
“อาจารย์มีหลักฐานเหรอครับ ว่าคุณเดือนเป็นคนทำ”
“อืม มี..อยู่ที่บ้านผม”
“กูไม่เชื่อมึง รอตำรวจมาจับมึงไปโรงพยาบาลบ้าได้เลย” เขื่อนประกาศเสียงกร้าวและลากน้ำออกไปจากห้องน้ำ ทิ้งให้อาจารย์นั่งทรุดอยู่ที่เดิม
“เขื่อน ช่วยพยุงอาจารย์ไปหน่อยสิ” น้ำกระตุกชายเสื้อร่างสูงแรงๆขณะโดนลากมา
“เชื่อมันเหรอน้ำ จะไปใจดีกับมันทำไม ฉันยังไม่ปักใจเชื่อที่มันพูดหรอกนะ”
“ใช่ กูก็ยังไม่เชื่อ มันทำตัวส่อขนาดนั้น พอเอาเข้าจริงแม่งโทษผู้หญิง เลวจริงๆ” เสียงเทมส์กราดเกรี้ยวไม่แพ้กัน
“น้ำห้ามไปที่บ้านมันนะ ตอนเย็นเลิกเรียนให้ไปรอที่โรงยิม เดี๋ยวคืนนี้จะไปค้างด้วย” เขื่อนกำชับแน่นหนักก่อนจะพาน้ำไปส่งที่ห้องเรียน
‘มองหน้าคุณเดือนไม่ติดเลยเรา...’ น้ำนั่งรำพึงในใจไม่กล้ามองหน้าคุณเดือนจนจบชั่วโมง
“น้ำจะกลับบ้านเลยมั้ยจ๊ะ” มะนาวถามเสียงใสหลังหมดชั่วโมง
“ไม่ละ น้ำว่าจะแวะไปที่ที่หนึ่งก่อน” นึกหน้าเขื่อนตอนสั่งว่าห้ามไปหาอาจารย์แล้วก็สยอง แต่จะไปอ้ะ
“ไปไหนจะ ให้มะนาวไปเป็นเพื่อนมั้ย” น้ำชั่งใจว่าจะพามะนาวไปดีหรือไม่ ตัวเขานั้นเชื่ออาจารย์ไปครึ่งต่อครึ่ง เพราะว่าอาจารย์คอยสอนเขามาตลอดและอาจารย์ก็เป็นคนอ่อนโยนมาก น้ำไม่อยากเชื่อเด็ดขาดว่าอาจารย์จะเป็นคนแบบนั้นไปได้
“ไปบ้านอาจารย์ปฐพีน่ะ ไปเอาของ มะนาวไปเป็นเพื่อนน้ำมั้ยล่ะ”
“อื้อ ได้สิจ๊ะ งั้นเดี๋ยวมะนาวไปหยิบกระเป๋าก่อนนะ”
>>>>> TBC