Tsundere Boy เมื่อหนุ่มซึนมาหลงรัก ตอนที่ 10
“โทษนะครับ ห้องน้ำไปทางไหนครับ” น้ำชี้หน้าตัวเอง คนๆนี้ถามเขางั้นเหรอ
“ครับ ถามนายนั่นละ” ไอ้หน้าหล่อที่ดูท่าจะเป็นเด็กโรงเรียนอื่นยิ้มกว้าง
“เอ่อ เดี๋ยวผมพาไปนะครับ” น้ำเดินนำไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด วันนี้เป็นงานวิชาการ จึงมีเด็กจากหลายโรงเรียนมาแข่งกันเยอะมาก
“ขอบคุณนะ น่ารักแล้วยังใจดีจัง”
“อ่า..ครับ” น้ำยิ้มแหย ลำพังคำขอบคุณก็พอรับได้ แต่ไอ้ประโยคหลังนี้สิ มันทะแม่งๆ
“นั่นอะครับ ตรงไปเลยนะ แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว”
“อ้าว ไม่ส่งให้ถึงที่เหรอครับ”
“ผม...ต้องไปธุระครับ ไปก่อนนะ” น้ำรีบชิ่งออกมา เขาก็ต้องรีบไปเหมือนกันนี่นะ
“เจอกันอีกแล้ว...” น้ำนิ่วหน้า ไอ้หล่อนี่มันตามเขามารึ แต่เอ...มันนั่งอยู่ตรงโต๊ะของคนที่มาเข้าแข่งคณิตศาสตร์นี่นา
“นี่ครับ กระดาษ” น้ำไม่สนใจต่อล้อต่อเถียง ยังคงตั้งหน้าตั้งตาแจกกระดาษสำหรับเขียนคำตอบให้
“เชียร์ผมด้วยนะ” มันยิ้มแล้ว มีเขี้ยวด้วย น้ำหลบตาควับทันที คนอะไรทำไมดูเจ้าชู้จัง น้ำเดินหนีและไปแจกกระดาษให้คนอื่นต่อ และต้องรอช่วยอาจารย์เคลียร์ห้องด้วย ทำให้ได้รู้ว่า ไอ้หน้าหล่อคนนี้ไม่ได้หล่ออย่างเดียว มันเทพคณิตศาสตร์มาก! สูตรยากๆมันคำนวณออกมาได้ไวกว่าเครื่องคิดเลขอีก หรือสมองมันจะมีกลไกเพื่อการนี้โดยเฉพาะกันนะ
“นายเก่งจังนะ” น้ำมองคนหล่อตรงหน้าอย่างทึ่งๆ พอเสร็จการแข่งปรากฎว่าไอ้หน้าหล่อชนะจริงๆด้วย แถมมันยังเดินยิ้มหวานมาหาน้ำอีก
“เพราะมีคนเชียร์น่ะ ได้กำลังใจดี”
“อะนะ...”
“นายชื่อะไร ผมชื่อเฟมนะ” อ่า ชื่อมันดีแฮะ เฟม ที่แปลว่าชื่อเสียงงั้นเหรอ
“ผมชื่อน้ำ”
“ชื่อน่าดื่มจังนะ หึหึ” น้ำสะดุ้งวาบ ไอ้เฟมนี่มันเป็น...เกย์ แน่นอน
“เอ่อ งั้นผมไปก่อนนะเฟม ต้องไปแสดงต่อน่ะ”
“จริงเหรอ น้ำแสดงอะไร เฟมขอไปดูได้มั้ย” น้ำรู้สึกอยากตบปากตัวเองที่สุด ไม่น่าพูดออกไปเลย ถ้าเฟมไปเจอกับเขื่อนละก็งานงอกแน่ๆ
“น้ำตาล!” น้ำหันไปหาเสียงหวานที่เป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิต มะนาวเดินยิ้มร่าตรงมาทันที
“นี่ใครเหรอจ๊ะ เพื่อนน้ำตาลเหรอ”
“เอ่อ เขาแข่งคณิตศาสตร์ชนะน่ะ ห้องที่น้ำไปช่วยอาจารย์แจกกระดาษไง”
“อ๋อ หวัดดีค่ะ แล้วน้ำจะไปรึยัง” มะนาวหันไปทักทายเฟมตามประสาเจ้าบ้าน และหันมาถามน้ำ
“ไปสิ รีบอยู่เนี่ย ฝากดูแลเฟมหน่อยนะ” แล้วน้ำก็รีบชิ่งไปได้อย่างสวยงามอีกครั้ง
“เอ่อ จะไปดูน้ำแสดงดนตรีด้วยกันมั้ยคะ” มะนาวหันมาถามเฟม และเฟมก็พยักหน้ารับ มะนาวจึงพาเดินไปยังหอประชุมด้วยกัน
“มะนาว นั่นใครนะ” โมนกับสองแฝดเดินรี่เข้ามาเมื่อเห็นมะนาวเดินมากับหนุ่มแปลกหน้า
“อ๋อ คนรู้จักของน้ำตาลเค้าน่ะจ้ะ น้ำตาลฝากให้มะนาวดูแล มะนาวเลยพามาดูแสดงด้วยกัน”
“โตจะตายอยู่แล้ว คงดูแลตัวเองได้ละมั้ง ไม่มีเพื่อนมาเลยรึไง” โมนหันไปถามเอาเรื่อง
“เพื่อนน่ะมีครับ แต่เขายังแข่งวิชาการกันไม่เสร็จ เลยมาเดินเล่น” เฟมพูดยิ้มๆ โมนตาขวางขนาดนี้ใครจะดูไม่ออก ว่าชอบหญิงสาวน่ารักคนนี้
“นายไม่ต้องห่วงหรอกนะ ที่ผมสนใจไม่ใช่ผู้หญิงของนาย แต่เป็นนู่น คนนู้นต่างหาก” เฟมลดเสียงเป็นการกระซิบให้โมนได้ยินคนเดียว และชี้มือไปทางด้านเวที
“ผมไม่ชอบผู้หญิงหรอก” เฟมยิ้ม แล้วเดินไปหาที่นั่ง โมนมองตามไปทางที่เฟมชี้ แล้วก็อึ้งรับประทาน
“น้ำ...งั้นเหรอ งานงอกแน่มึง.. พวกมึงอยู่กับมะนาวนะ กูจะไปหาไอ้เขื่อนก่อน” โมนชี้นิ้วสั่งสองแฝด ส่วนตัวเองก็รีบวิ่งไปหาเขื่อนที่หลังเวที
“หลังจากที่หลายๆคนเหน็ดเหนื่อยกับการใช้สมองมาแล้ว ทางโรงเรียนของเราก็มีโชว์ดนตรีให้ทุกคนได้ฟังกันสบายๆนะครับ โดยเรามีนักเปียโนฝีมือเยี่ยมจะมาแสดงให้ทุกท่านชมครับ” พอสิ้นเสียงของพิธีกร ไฟบนเวทีก็ดับลง เผยให้เห็นเพียงสปอร์ตไลท์ส่องตรงกลาง และเปียโนหลังใหญ่
“เอ่อ มะนาว น้ำเขาเล่นเปียโนเก่งเหรอครับ” เฟมกระซิบถามมะนาวที่นั่งข้างกัน
“ใช่จ้ะ เก่งมากเลยละ เห็นตอนนี้กำลังซ้อมหนักอยู่นะ เพราะว่าปีหน้าอาจารย์จะพาไปแข่งละ” เฟมพยักหน้าตาม แววตามีความพึงใจที่เพิ่มพูนขึ้นไปอีก และยิ่งเป็นประกายวิบวับเมื่อเห็นร่างบอบบางเดินออกมาจากหลังม่านและนั่งหลังตรงบนเก้าอี้ คำว่าท่วงท่าสะกดทุกสายตาคงเหมาะกับน้ำในตอนนี้ที่สุด
เสียงเพลง The Garden ของ Torley ดังกังวานขึ้น ทุกเสียงเงียบกริบลงหมด มีเพียงเสียงเปียโนและใบหน้าอ่อนหวานของน้ำที่อยู่ในสมองของเฟมเท่านั้น ณ วินาทีนี้สิ่งเดียวที่เฟมคิดออกคือ ต้องเป็นคนนี้เท่านั้น...ต้องเป็นน้ำเท่านั้น...
“เหนื่อยมั้ย” น้ำส่ายหัวแทนคำตอบ มือเรียวรับขวดน้ำแร่จากเขื่อนมาดื่มอึกใหญ่
“แต่ผมตื่นเต้นมากกกก” น้ำลากเสียงยาว บ่งบอกว่าตัวเองตื่นเต้นขนาดไหน
“หึหึ แสดงบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินนะ” เขื่อนแตะแก้มน้ำเบาๆ
“เขื่อน!! มึง ไปอยู่ไหนมาวะ” โมนตะโกนเรียกดังสนั่น เขื่อนหันมามองอย่างหงุดหงิดเต็มที่
“อะไรของมึงวะ คนกำลังจะโรแมนติก เหี้ย”
“โรแมนติกเอาไว้ก่อน กูมีเรื่องด่วนจะบอก คือว่านะ-”
“น้ำ เก่งมากเลยครับ” โมนพูดไม่ทันจบดี เรื่องก็มาเสียแล้ว เฟมเดินนำมะนาวตรงรี่มาหาน้ำที่หลังเวที เขื่อนหันไปมองตาขวาง ส่วนน้ำทำหน้าเหมือนอยากจะให้ธรณีสูบลงไป ณ ตอนนี้เลย
“ขอบคุณครับ” น้ำยิ้มแหยไปให้
“เราไปเดินเที่ยวกันมั้ยครับ ผมเลี้ยงขนมเอง” เฟมชวนต่อ น้ำหันไปมองคนรอบตัว โมนที่ยืนนิ่งไม่กล้าพูดอะไร และเขื่อน...ที่รังสีอำมหิตแผ่ซ่าน แต่เฟมก็ไม่รับรู้
“เอ่อ ไม่ละครับ ผมขอไปกับเพื่อนผมดีกว่า” ยังไม่ทันจะบอกลาก็โดนเขื่อนลากไปแล้ว เฟมได้แต่มองตามงงๆ
‘อย่าบอกนะ ว่านั่นแฟนของน้ำ หึ ป่าเถื่อนสิ้นดี...’ เฟมคิดในใจ
“นายน่ะ อย่าไปยุ่งกับน้ำดีกว่านะ เจ้าของมันหวง” โมนบอกทิ้งท้ายไว้ และทิ้งให้เฟมยืนอยู่คนเดียว
“ไอ้ซีด!! นั่นใคร” น้ำหลับตาปี๋เมื่อถูกตะโกนใส่หน้า เพราะใบหน้าหล่อเถื่อนๆของเขื่อนตอนนี้ดูโหดร้ายขึ้นอีก 50 %
“ไม่รู้จักครับ เขามาทักเอง” น้ำพยายามทำใจดีสู้เสือ
“มึงนี่นะ ไม่ได้เลย ปล่อยไม่ได้เลย” เขื่อนสบถอย่างหัวเสีย น้ำหน้าหงิกที่เขื่อนพูดไม่ดี
“ทำไมต้องเรียกว่ามึงด้วยครับ”
“คิดคนเดียว ไม่ได้พูดด้วย” เขื่อนเถียงกลับ เขาแค่คิดในใจ แต่มันคงดังไปหน่อย...
“เออ อย่าให้ผมคิดมั่งนะ” น้ำบ่นพึมพำ
“ลองดูสิ จับกัดให้ลิ้นขาดเลย” น้ำอ้าปากหวอ เขื่อนนี่คงเป็นพวกหูผีจมูกมดจริงๆ อะไรที่ไม่อยากให้ได้ยิน ไม่อยากให้เห็นก็รับรู้ตลอด
“ฮิฮิ ผมชอบเวลาเขื่อนโหดจัง” สงสัยจะมีมารดลใจให้น้ำพูดเรื่องยั่วยวนแบบนั้นออกไป เพราะเขื่อนตาวาวเป็นประกายขึ้นมาทันที แถมยังขยับร่างมาบดเบียดน้ำจนติดกำแพง
“ไปหัดพูดจาแบบนี้มาจากไหน หืม?” ร่างสูงเบียดน้ำจนติดกำแพง ขาแกร่งสอดค้ำมาที่หว่างขาของน้ำ และยกร่างบางให้นั่งบนขาตัวเอง
“ไม่มีอะ ผมพูดเอง...” น้ำก้มหน้าหลบตา พูดอะไรออกไปนะเรา
“รู้มั้ย พูดแบบนี้จะโดนเอานะ ชอบแบบโหดๆเหรอ ชอบซาดิสม์ใช่มั้ย”
“อื๊อ เจ็บนะ” น้ำบิดร่างหนีเมื่อเขื่อนงับมาที่ซอกคอ
“ชอบไม่ใช่เหรอ” เขื่อนใช้ฟันขบลงไปที่เนื้อขาวเน้นๆ ทั้งขบและกัด ดูดเม้มจนเป็นรอยช้ำแดงจัด
“ฮื้อ เป็นรอยแน่เลย”
“ดีแล้ว คนอื่นจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว ถ้าเห็นว่าไปหว่านสเน่ห์ใส่คนอื่นอีกนะ จะเอาโชว์แม่งเลย”
“พูดไม่เพราะเลย หยาบคาย!”
“หยาบคายแล้วชอบให้เอามั้ย หึหึ” เขื่อนกระเซ้าเมื่อเห็นน้ำหน้าแดง คนแบบเขายิ่งอายยิ่งชอบ ยิ่งอายยิ่งแกล้ง
“ไม่คุยละ โรคจิต” น้ำผุดลุกขึ้นและรีบเดินหนีเขื่อนออกมา มือเรียวแตะที่ลำคอตัวเอง เจ็บระบมไปหมดเลยแฮะ
เสียงโห่ร้องเฮฮาที่ดังสนั่นไปทั้งบริเวณดึงดูดให้น้ำหันไปสนใจ นักเรียนหลายสิบคนกำลังมุงดูบางสิ่งอย่างสนุกสนาน น้ำเดินแทรกกลุ่มคนจำนวนมากเข้าไปและก็ได้พบกับ...
“ไอ้เฟม สู้เว้ย อย่าไปยอมแพ้” นักเรียนชายท่าทางห้าวคนหนึ่งกำลังตะโกนเชียร์เฟมอย่างออกรสชาติ น้ำจ้องไปที่เฟม และรุ่นพี่ม.6 ของโรงเรียนเขา เหมือนว่าทั้งคู่กำลังแข่งอะไรบางอย่างกัน
“ขอโทษนะ เขาแข่งอะไรกันเหรอ” น้ำหันไปถามคนข้างๆที่เหมือนจะดูการแข่งนี้มาแต่แรก
“อ๋อ เขาแข่งแก้โจทย์เลขกันน่ะ ไอ้พี่ม.6 นั่นมันได้ยินมาว่าคนที่ชื่อเฟมแข่งชนะ มันเลยมาท้าด้วยน่ะ” น้ำพยักหน้ารับรู้ พี่ม.6คนนั้นเขาเคยไปแข่งโอลิมปิกนี่นะ คงอยากวัดฝีมือมั้ง น้ำมองด้วยความสนใจ และต้องอึ้งเมื่อเห็นความสามารถของเฟม เฟมเป็นคนที่คิดเลขและแก้โจทย์ได้ไวมากเข้าขั้นอัจฉริยะ โจทย์แคลคูลัสระดับมหาวิทยาลัยกลายเป็นโจทย์เลขประถมไปเลยเมื่อผ่านมือเฟม จวบจนสุดท้ายผลก็ออกมาว่าเฟมชนะ
‘เก่งว่ะ อัจฉริยะตัวจริงเลยนะเนี่ย’ น้ำมองอย่างทึ่งๆ และกำลังจะแหวกคนออกมา แต่ก็ถูกดึงไว้เสียก่อน
“น้ำตาลครับ มาหาเฟมเหรอ” เฟมยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นน้ำ
“อย่าเรียกว่าน้ำตาลดิ เรียกน้ำเฉยๆก็พอนะ”
“เรียกน้ำตาลน่ารักดีออก” เฟมยิ้มเผล่ มือไม่ยอมปล่อยน้ำเสียที
“ปล่อยมือผมเถอะครับ” น้ำพยายามดึงมือออก
“ไม่ครับ”
“เอ๊ะ” น้ำเริ่มหงุดหงิด เดี๋ยวเขื่อนมาเห็นก็เป็นเรื่องอีก ไอ้บ้านั่นยิ่งเหมือนมีเรดาห์อยู่
“น้ำตาล เฟมชอบน้ำตาลนะ จะรับเฟมไว้พิจารณาสักคนไม่ได้เหรอ” เฟมถามใบหน้านิ่ง แววตานั้นดูจริงจังจนน้ำไม่กล้าหลบตา
“เอ่อ...”
“อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยนะ เป็นเพื่อนกันไปก่อนก็ได้”
“ถ้า..ถ้างั้นก็ได้ครับ เป็นเพื่อนเท่านั้นนะ”
“อื้ม” เฟมยิ้มรับอย่างดีใจ แต่น้ำหลบตา ทำไมเฟมยิ้มได้น่ารักขนาดนี้นะ เรียกว่าคนละบรรยากาศกับเขื่อนเลยด้วยซ้ำ
“ปล่อยมือผมได้ยังอะ”
“ขอมือถือก่อน” เฟมแบมืออีกข้าง น้ำหยิบส่งให้แบบงงๆ เฟมรับไปกดเบอร์แล้วโทรออก
“เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ เฟมต้องกลับละ บ๊ายบาย” เฟมส่งโทรศัพท์คืนให้และดึงมือของน้ำมาหอม น้ำรีบดึงมือกลับทันที ใบหน้าหวานแดงก่ำทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนอึ้งอีกพักใหญ่
>>>>> TBC