ตอนที่ 22 ขัดจังหวะ
Ver. Poiiz
“พอยท์ช่วงนี้แฮตเป็นอะไรทำไมไม่ยอมกินข้าวเลย กินแต่ละทีก็น้อยมาก น้องยังไม่หายป่วยหรอ” สีหน้าคุณน้าเคร่งเครียดตอนพูดกับผม เออแต่ก็จริงช่วงนี้กินข้าวน้อยมาก หรือจะมีเรื่องกลุ้มใจกันนะ
“เอาน่าคุณ แฮตพึ่งหายป่วยไม่น่าเป็นไรมาก ยังไงพอยท์ก็ดูน้องหน่อยแล้วกัน”
“ครับพ่อ”
จบการสนทนาก็แยกย้ายกันเข้านอน ผมก็แยกตัวมาคิดๆ … อืมมม หรือว่าจะเป็นเรื่องไอ้เซอร์วะ ในผับคืนนั้นก็เหมือนสองคนนี้รู้จักกันมาก่อน แถมไอ้เวรซักคนที่โยนขวดแก้วขึ้นแฮตก็วิ่งไปรับแทน หรือว่าเราจะเข้าใจผิดไปเอง คืนนั้นเซอร์ไม่ได้ลวนลามแฮต แต่แฮตนี่แหละสมยอม โอ้พระเจ้า ! แล้วนี่เราไปมีเรื่องกับแฟนน้องแสดงว่าแฮตมันต้องไม่สบายใจเรื่องนี้แน่ๆ ปล่อยไว้ไม่ได้ละ เราต้องชดเชยให้แฮต โอ้ยย แฮตพี่ขอโทษษษ
“เฮ้ยเซอร์” เสียงคู่อริดีกรีพี่รหัสผมเรียกผมไว้น้ำเสียงค่อนข้างหาเรื่อง ผมก็ไม่ยอมแพ้ ตวัดหางตาที่มั่นใจมาเสมอมมาว่าคมกริบกลับไป แต่มันก็หาได้สะทกสะท้าน สงสัยความด้านมันจะเท่ากับผมเหมือนกัน
“อะไร”
“วันนี้ไปบ้านกูหน่อย”
“อะไรนะ มึงบ้าไปแล้วไงให้กูไปบ้านมึงเพื่อไร”
“กูจะจัดงานเลี้ยง ปาร์ตี้ในกลุ่มโว้ยยย มึงเสือกเป็นน้องรหัสกูไงยังไงก็ต้องไป”
“เออๆ เตรียมเรด บลู แบล็คให้ด้วย เอาไฮเนเก้นไปแกล้มด้วยก็ดี”
“ถุ้ย กูไฮโซมีแต่บรั่นดีว่ะ” แล้วสัสนี่มันก็ยักคิ้วกวนอวัยวะเบื้องล่าง
“ไฮโซก็น่าจะมีตังซื้อสิ่งที่กูขอ ใจเปล่าๆ”
“เออๆ เดี๋ยวกูเตรียมไว้ให้” ทำไมมันยอมผมแปลกๆวะ เออช่างแม่ง
“งั้นเจอกันหน้าคณะสี่โมงเดี๋ยวไปบ้านกูไม่ถูก”
“เดี๋ยวพอยท์”
“อะไร” ผมเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะถามคำถามที่คาใจออกมา
“มึงเป็นไรกับเห็ด”
“ห่ะ? มึงถามเพื่อไรเนี่ย กูจะไปเป็นไรกับเห็ดได้ไง”
“แน่นะ”
“เออสิวะ มึงคิดว่ากูไปผสมพันธุ์กับเห็ดในต้มยำหรือไงเล่า ถามเหิ้ยไรเนี่ยยย”
“ไอ้สัส ไม่ใช่เห็ดที่ใช้แดกโว้ยยยยย ไอ้แฮตอ่ะกูหมายถึงไอ้แฮต”
“อ้ออ หึหึหึหึหึหึหึหึ เดี๋ยวมึงก็รู้เอง ก๊ากกก” แล้วมันก็เดินลัลล๊าจากไป แม่งเอ้ย !!!
ณ บ้านพอยท์
“มีใครอยู่มั่งปะวะ กูจะได้ไปสวัสดีคุณอาคุณน้าก่อน” เพื่อนไอ้พอยท์เหมือนจะมาบ่อยจนเชี่ยวชาญละ
“ไม่มีๆ แดรกตามสะดวกเขาไปต่างจังหวัดกัน” แล้ววงเหล้าก็เริ่มขึ้นในเวลาหกโมงเย็นหลังเคารพธงชาติเสร็จ ที่บอกว่าหลังเคารพธงชาติเพราะไอ้พอยท์มันเปิดทีวีเคารถธงชาติด้วยน่ะสิ เลือดรักชาติแม่งท้วมท้นจริงจัง ทำให้ผมก็แอบคิดว่าจริงๆมันเป็นหน้าที่ของชาวไทยทุกคนนะ นับว่าน่าทำตามเป็นอย่างยิ่ง ( ป๊าดในที่สุดสาระก็ปรากฏในนิยายหนู TT )
“เฮ้ยพอยท์ห้องน้ำอยู่ไหนวะ อยากล้างมือ”
“อยู่มุมซ้ายติดบันไดอ่ะ ถ้ามีใครเข้าอยู่ก็ไปเข้าห้องกูข้างบน มันมีสามห้องห้องกูห้องที่สองนับจากบันได อย่าเข้าผิดนะมึง”
“เออกูไม่โง่” ผมก็เดินไปตามมันว่า ไอ้พีเพื่อนรักก็ดันปวดฉี่ผมเลยต้องระเห็จไปเข้าข้างบน บ้านมันนับว่าแต่งสวยจริงๆสไตล์โมเดิ้นล้ำสมัยน่าจะมีใครมายืมบ้านมันถ่ายละครนะเนี่ย เหมาะสุดๆอย่างกับสตูดิโอ ผมก็เดินขึ้นไปข้างบนปรากฏประตูสีขาวสามบาน ผมแน่ใจว่าประตูที่อยู่ตรงกลางในสุดคงไม่ใช่ห้องมันแน่ๆ แต่อีกสองประตูที่แม่งตรงกันพอดีนี่ดิ มันห้องไหนวะ ห้องหนึ่งมันมีป้ายอะไรซักอย่างหล่นลงมา สงสัยเขียนว่าห้ามเข้ามั้งขี้เกียจไปพลิกเปิด เอาเป็นว่าเข้าๆไปซักห้องไม่ใช่ค่อยเปลี่ยน แล้วผมก็เลือกเข้าห้องๆหนึ่งไป ห้องนอนสีขาวทั้งห้องปรากฏสู่สายตาผม โอ้โห ไม่น่าเชื่อไอพอยท์ห้องนอนจะเรียบง่ายสไตล์คุณชายปานนนี้ เออช่างแม่งรีบๆล้างมือดีกว่า ผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป
“เฮ้ย”
“เฮ้ย”
สองเสียงผสานกัน คนที่ทำให้ผมหวั่นไหวมาเสมอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าในสภาพมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวผูกอยู่ตรงเอว เรือนผมและร่างกายเต็มไปด้วยหยดน้ำ ผมรู้สึกตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาแปลกๆ
“อะ เอ่อ สวัสดี” คำทักทายเห่ยๆหลุดจากปากผม
“อะ .. สวั .. สวัสดี” คำพูดเบาๆหลุดออกจากปากคนตรงหน้า ที่หน้าขึ้นสีเรื่อหน่อยๆ
ผมเข้าข้างตัวเองหรือเปล่าที่คนตรงหน้ากำลังเขิน
“อาบน้ำพึ่งเสร็จหรอ หืมม” ผมก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆคนตัวเล็ก ที่ก้มหน้าหงุดๆ
“อื้มม” ผมเชยคางเขาขึ้นมา แต่คนตรงหน้าก็ยังไม่ยอมมองหน้าผม สองแก้มนี่แดงไปหมดละ น่ารักจริงๆ
“คิดถึงนะครับ” สิ้นคำพูดผมก็ประทับจูบลงบนริมฝีปากบางๆของคนตัวเล็ก แขนอีกข้างก็รวบคนตัวเล็กเข้ามากอด และเหมือนคนในอ้อมกอดก็ยกแขนโอบรอบคอผมเช่นกัน
กริยาของทั้งสองคนเป็นไปด้วยความเคยชินเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วๆไป ไม่ใช่คนที่ห่างหายกันไปแม้แต่น้อย จูบที่เริ่มรุนแรงขึ้นเร่าร้อนขึ้นส่งผลให้ร่างบางแอ่นตัวเข้าหาร่างสูงตามสัญชาติญาณ เหมือนร่างสูงก็รับรู้ได้เช่นกันดันหลังร่างบางติดกำแพงก่อนจะยกขาคนในอ้อมแขนขึ้นกี่ยวกับเอวตัวเอง จูบที่ราวกับจะสูบดวงวิญญาณของกันและกันไม่ได้ลดความเร่าร้อนลงไปเลย ซ้ำยังทำให้รู้สึกโหยหากันมากขึ้น มากขึ้น ราวกลับไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ และไม่มีวันพอ
“อื้อ .. อ้ะ” เสียงครางเบาๆหลุดลอดออกมาจากลำคอของร่างบางที่กำลังถูกคนตัวสูงขบเม้นไปตามซอกคอ ไหปลาร้าและไหล่ จนเริ่มขึ้นรอยจางๆสีแดง ก่อนจะสะดุ้งหลุดเสียงครางยาวออกมาเมื่อยอดอกข้างหนึ่งถูกขบเม้นดุนดันจนแข็งขันตามแรงอารมณ์ ฝ่ายรุกก็ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้ร่างบาง ใช้มืออีกข้างขึ้นสะกิดยอดอกอีกข้างทำให้ร่างบางที่โดนปลุกเร้าหอบเสียงกระเซ่าออกมาจนเข่าอ่อน
“ยะ ยืน มะ ไม่ไหว” เสียงสารภาพอายๆทำให้ร่างบางยิ่งดูน่ารัก ร่างสูงช้อนร่างบางขึ้นก้าวเท้ายาวๆวางคนในอ้อมแขนลงบนเตียง และผละออกไปล็อคประตูห้องแต่มือก็ไวพอจะดึงผ้าขนหนูผืนน้อยหลุดออกมาด้วย
“อ้ะ” ก่อนจะทันได้ว่าอะไร ร่างสูงก็หันกลับมาโน้มตัวขึ้นคร่อม ขณะนี้คนในอ้อมแขนไม่สามารถหนีไปไหนได้แล้ว สายตาคมกริบกวาดไปทั้งเนื้อทั้งตัวของร่างเปลือยเปล่าราวกับสำรวจขุมทรัพย์ก็ไม่ปาน คนถูกมองก็ทำอะไรไม่ถูกแค่เพียงสายตาคมเขาก็รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรม่ถูกแล้ว
มุมปากข้างหนึ่งของร่างสูงถูกยกขึ้นมาก่อนจะเลื่อนตัวลงไปข้างล่างชันเข่าทั้งสองของร่างบางขึ้น
“จะทำอะไร อะ .. อื้อออ อ้า” ส่วนกลางของร่างกายได้ถูกร่างสูงรวยเข้าไปในปากร้อน ก่อนจะใช้ปลายลิ้นดุนดันจนเขาขยุ้มผ้าปูเตียงแอ่นตัวขึ้น แล้วปากร้อนก็ค่อยๆรูดเบาๆ ฟันคมที่ขูดไปกับผิวเนื้อทำให้ร่างบางรู้สึกเสียวเป็นที่สุด ปากร้อนรูดไปได้สักพักก็ผละออก จนร่างบางร้องประท้วงเบาๆ
“ฮะๆ ใจเย็นๆสิครับ หืมม จะไปก่อนได้ยังไง” ร่างสูงประทับจูบลงบนขมับหนักๆก่อนจะผละไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมโลชั่น
“ระ .. เร็วๆไม่ .. วะ..ไหวแล้ว” เสียงกระเซ่าร้องประท้วงออกมา
“เดี๋ยวนี้แหละ” มือหนาหมุนขวดโลชั่นออกมาก่อนจะใช้นิ้วชี้ควักโชลั่นออกมาค่อยโน้มตัวเข้าหาร่างบาง ค่อยสอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนปลายนิ้วจะสะกิดลงที่จุดๆหนึ่งส่งผมให้ร่างบางบิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็เหมือนแกล้งกันร่างสูงกดย้ำลงไปหลายๆที จนแก่นกายของร่างบางที่แข็งขันอยู่แล้วเริ่มมีหยาดน้ำไหลออกมา แต่ร่างสูงกลับก้มลงไปใช้ปลายลิ้นเลียในส่วนยอดเบาๆ ก่อนจะสอดนิ้วที่สองที่สามตามลงไป เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าพร้อมแล้วก็เอานิ้วทั้งหมดออกแล้วถอดกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็วก่อนจะสอดแก่นกายที่ตั้งชันเต็มที่เข้าไปจนสุดในคราวเดียว
“อ๊า … อื้อออ อ้า” เสียงครางของทั้งสองคนดังผสานกันออกมา ร่างสูงแช่ไว้สักพักให้ร่างบางเริ่มชินก่อนจะเริ่มขยับตามจังหวะ จากช้าๆเริ่มเร็วขึ้นแรงขึ้น จนร่างบางยกแขนโอบคอร่างสูงไว้ ปากทั้งสองประกบกันอีกข้างจูบกันด้วยความรุนแรง ผสานกับจังหวะที่ยังคงรักษาความเร็ว แล้วร่างสูงก็เลื่อนมือข้างหนึ่งกอบกุมแก่นกายร่างบางก่อนจะรูดตามจังหวะไปพร้อมๆกัน อุณหภูมิห้องตอนนี้ร้อนดุเดือดแม้เปิดแอร์ เวลาผ่านไปทั้งสองคนก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆกัน
“เก่งมากครับ” เซอร์ประทับจูบลงบนขมับผมแรงๆทีหนึ่ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆแน่นอนว่าเขาดึงผมเข้าไปกอด หน้าผมก็ซุกหงุดๆอยู่ตรงแผงอกแกร่งนั่น มือมันก็ลูบอยู่แถวๆก้นผม
“จับอะไร ปล่อยเลยนะ” ผมพยาดึงมือมันออกแต่มันกลับรวบมือผมไว้แล้วยกขึ้นไปหอม
“คิดถึงจังเลย” มันกลับตอบคนละเรื่องซะงั้น
“โม้ชัดๆ”
“ที่แสดงออกเมื่อกี๊ยังไม่ชัดอีกหรอ สงสัยต้องอีกรอบ” ว่าแล้วมันก็จะขึ้นคร่อมผมอีกรอบ
“พอเลยนะ เมื่อกี๊มันแค่เผลอไผลเหอะ ออกไปเลยป่ะ”
“กลัวคนแถวนี้จะงอนถ้าออกไปมากกว่า”
“โหยไม่เคยเหอะ ไม่ได้สำคัญอะไรสักหน่อย”
“ไม่เชื่อหรอกวันนั้นในผับใครก็ไม่รู้มาบอกว่าคิดถึง” โอ้ยยย อยากกัดลิ้นตัวเองตาย
“อะไร .. กะตอนนั้น .. มันเมานี่”
“เค้าว่าคนเมามักพูดเรื่องจริงหรอกน่า ฮะๆ” แล้วมันก็จูบปากผมเบาๆ
“ไอ้บ้า”
“บ้ารักเห็ด”
“หน้าไม่อาย”
“ไม่อายที่จะรัก”
“ด้านรึไง”
“ด้านได้อายอด” แล้วมันก็ยักคิ้ว แม่งง มันน่าหมั่นไส้เว่ยยยย
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยครับ” สายตาคอมฉายแววง้องอน ทำให้ผมหวั่นไหวจนใจเต้น ได้แต่หลุบตาลง
“อย่าเลย หาคนที่ดีกว่านี้เหอะ” ผมหันตะแคงหนีมัน
“ทำไมคิดแบบนั้น ลืมกันได้แล้วหรอ” เสียงตัดพ้อทำให้ผมน้ำตาซึม
“ตะ.. แต่ว่า กูไม่ดีพอสำหรับมึงหรอก กูเปลี่ยนไปแล้ว”
“เปลี่ยน เปลี่ยนยังไง ไม่รักกันแล้วไง” มันดึงผมหันไปมองหน้ามัน
“ไม่ใช่ไม่รัก แต่ว่า …”
“แต่ว่าอะไร” น้ำเสียงและสายตาที่คาดคั้น ทำผมร้องไห้ออกมา
“ก็ .. ตอนนี้”
“ตอนนี้อะไร”
“ตอนนี้กูอ้วน อ่ะ ฮืออออ มึงอยากได้แฟนเป็นหมูรึไง โฮฮฮฮ” แล้วผมก็ปล่อยโฮออกมาแบบหยุดไม่อยู่ แต่ไอ้เซอร์กับนิ่งไปเลย แล้วมันก็
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก โอ้ยยย คิดได้ไง มึงนี่ฟุ้งซ่านชิบหาย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ผมกับมันตอนนี้ร้องไห้เหมือนกันต่างกันที่มันขำจนร้องไห้
“อะไรเล่า ไม่จริงหรือไง” ผมยกหมอนฟาดมันแรงๆ
“โอ้ยย เห็ดน้อยขี้กังวลมานี่พี่เซอร์จะแสดงให้ดูว่าน้องเห็ดอ้วนๆนี่แหละ พี่เซอร์โคตรรักเลย” แล้วมันก็เลื่อนตัวขึ้นคร่อมผมอีกครั้ง จากนั้นก็เริ่มลีลาเพลงรักอีกรอบ ในขณะที่ผมกำลังเตลิดอารมณ์กำลังขึ้นอยู่นั้น
ปัง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เหิ้ยยยยเซอร์ ทำไรน้องชายกู ออกมาเดี๋ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงพี่พอยท์ทุบประตูพร้อมโวยวายดังลั่น และได้ยินเสียงใครอีกหลายคนตะโกนห้ามพี่พอยท์ไว้
“แม่งเอ้ยขัดจังหวะชิบหาย” ไอ้เซอร์สบถเซ็งๆ
ถ้าเป็นตอนอื่นผมก็อาจจะยินดีที่ได้แกล้งเซอร์นะ แต่แม่งทำไมต้องตอนนี้วะ อารมณ์กำลังเตลิด มันค้างว้อยยยยย
-----------
ใครค้างยกมือเร้ว 55555