@@@Writer's Talk@@@
คนอ่านเจ้าขา...พีจังกลับมาแล้ววววววววว
ออกจากโรงบาล อาการดีขึ้นแล้วค่ะ เหลือช้ำๆตามตัว จากรอยเข็มเจาะฉึกๆ นิดหน่อย
(ถ้ายังไม่หายจะไปให้หมอเขาดูอีก...มันแปลกๆ )
แต่โดยรวมดีขึ้นมาก และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา....เราไปอ่านเรื่องน้าหลานกันต่อเลยดีกว่า หุหุ ............................................
....มันอาจจะดีถ้าเขาได้อยู่กับความเงียบนี้ซักพัก.... เข็มสั้นค่อยขยับเคลื่อนไปจนแสดงเวลาเกือสองทุ่มครึ่งชายหนุ่มร่างบางถึงยอมขยับจากโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่น
"ฮึบ!"วรัญญูขยับบิดซ้ายขวา ก่อนจะดึงยางมัดผมที่หลังหัวออก
"ไปเที่ยวให้หายเครียดดีกว่าเรา" ว่าแล้ว ลูกบุณธรรมของตระกูลธิติเดชาพงศ์ ก็เดินฮัมเพลงหายเข้าห้องของตัวเองไปก่อนจะออกมาในชุดเสื้อเชิ๊ตตัวบางลายฉูดฉาดกับกางเกงยีนต์ขาดๆตั้งแต่หน้าขาลงไป มือเรียวหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดูในนั้นมีเงินสดพับอยู่นับหมื่นบาท และดูท่าทางว่าคืนนี้ มันจะหมดไปกับสถานบันเทิงในยามค่ำคืนเหมือนเช่นทุกที...มันเป็นวิธีเดียวที่เขาพอจะนึกออกเมื่อ
“ต้อง” ใช้เงินค่าขนมพวกนี้ให้หมดไป
"จะเอาให้หายเครียดไปเลย" ชายหนุ่มหัวเราะกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินออกไป
……………………………………..
ผับที่คุ้นเคยในย่านกลางคืนของเมืองกรุง อินทัชในเสื้อคอวีสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มนั่งอยู่ที่เก้าอี้มุมห้องดูเหมือนเขาจะมาที่นี่บ่อยๆ ตั้งแต่กลับมาจาก
เมลเบิร์นราวกับจะรอให้ใครบางคนมาพบเขาในบทบาทยามค่ำคืนอีกครั้งมือแกร่งยกแก้วมาร์ตินี่ขึ้นมาจิบ
"รอใครอยู่เหรอคะ " เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างอวบอัดในชุดวาบหวิวนั้นเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่เล่นไล้สีสันนั้นมองหน้าของอินทัชอย่างมีความหมาย
" มานั่งเป็นเพื่อนผมก่อนไหมล่ะ "มือแกร่งเอื้อมไปจับมือของสาวตรงหน้าแล้วดึงให้ลงมานั่งข้างๆก่อนลูบไหล่เนียนของสาวน้อยคนนั้นไปมา
" นั่งฆ่าเวลากันก่อนก็ได้ .. ดื่มอะไรดีครับ? "
"อืม ขอออนเดอะร๊อคซักแก้วก็คงจะดีค่ะ"หญิงสาวยิ้มหวานพลางส่งสายตาให้กับอีกฝ่าย
" ได้ซิ่ครับ...ให้ผมเลี้ยงคุณเอง " ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาท์เตอร์
"จะรับอะไร...อ้าว คุณยู ไม่ได้มาเสียนานเลยนะครับ" ยังไม่ทันที่บาร์เท็นเดอร์จะได้หันไปรับออเดอร์จากอินทัช คุณยู ที่ใครๆต่างก็ถามหาก็ก้าวเข้ามาเรียกเสียงฮือฮาให้กับในร้านได้เป็นอย่างดี ชื่อเรียกที่บาร์เทนเดอร์เอ่ยทำให้อินทัชต้องหันไปมองไปร่างนั้นทันที ดวงตาของทั้งคู่สบกันนิ่ง
"............................."
"............................."
" ไม่ได้เจอนานเลยนะ
ซินเดอเรลา" ผู้มีศักดิ์เป็นหลานเอ่ยทักก่อนอย่างอารมณ์ดี ร่างเล็กในเสื้อเชิ้ตเนื้อบางนั้นทำให้เขาพอใจได้ไม่น้อย ช่วงแขนแกร่งเท้ากับเคาท์เตอร์พลางหันไปมองหน้าของ “คุณยู” พลางยิ้มให้
"อ่ะ...วันนี้ขอตัวดีกว่า" ทันทีที่รู้ตัวว่าใครเป็นคนทักเขา วรัญญูหันไปยิ้มให้กับบาร์เท็นเดอร์ก่อนจะรีบหันหลังกลับแทบจะในทันที
...โอ้ย เกลียดโลกกลม!! กรุงเทพมันไม่มีที่เที่ยวที่อื่นแล้วรึยังไงนะ.... แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วมือแกร่งของอินทัชดึงแขนของคนผมยาวนั้นไว้ทันที
" จะรีบไปไหนล่ะครับ
“คุณยู” คราวที่แล้วผมยังไม่ได้เลี้ยงคุณเลยนี่ "
"ไม่เป็นไรผมไม่ถือ...”วรัญญูยกมือโบกเป็นการปฏิเสธในทันที แต่พอจะก้าวหนีก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายยังยึดแขนของเขาเอาไว้แบบนั้น
“ปล่อย ผมจะกลับแล้ว " ชายหนุ่มร่างเล็กว่าพลางขืนแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของคุณหลานมือกาว
"พูดอะไรแบบนั่นล่ะครับ... อุตส่าห์มาแล้วนี่ ไปสนุกดีกว่า " ไม่พูดเปล่าอินทัชลากแขนของน้าชายไปที่โต๊ะ " ขอโทษนะครับ ผมคงไม่ต้องฆ่าเวลาแล้วล่ะ " อินทัชบอกกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาไปตรงๆ พร้อมกับรอยยิ้ม "ไล่ที่"
"เอ๊ะ...อะไร...แล้ว
ยัยนี่ใครกัน" เสียงของหญิงสาวดูจะไม่พอใจ เมื่ออยู่ชายหนุ่มที่ตัวเองหมายปองก็พาเอา...หญิงสาว..ในสายตาของเธอมายืนค้ำหัวกันง่ายๆแบบนี้
" ซินเดอเรลาของผมไง ขอโทษด้วยนะครับ เชิญไปสนุกโต๊ะอื่นเถอะ " อินทัชกลับตอบหน้าตาเฉย เขาไม่ได้คิดจะสนใจอะไรผู้หญิงคนนี้มากมายอยู่แล้ว ผู้หญิงอวบๆไม่ใช่สเปคของเขามาแต่ไหนแต่ไร แต่ถ้าหากจะเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มรุปงามที่เขาเรียกว่า ซินเดอเรลานี่ก็คงจะไม่เป็นอะไรมากนักมือแกร่งจับแขนบางนั้นไม่ปล่อย
"ปล่อยนะ ซินเดอเรลาอะไร" วรัญญูแสดงท่าทีไม่พอใจกับคำพูดของอีกฝ่ายพลางพยายามจะสะบัดแขนออก
“ผมบอกแล้วว่าผมจะกลับ ปล่อยยยย.....” ร่างเล็กกว่าโวยวายพลางดิ้น แต่อินทัชยังไม่สนใจพลางดันร่างน้าชายของตัวเองลงไปนั่งที่เก้าอี้ติดมุม
" วันนี้ปล่อยผมด้วย?...ดีนะ...ฉันชอบแบบนี้มากกว่าใส่แว่นเนิร์ดๆเมื่อตอนกลางวันซะอีก "ดูท่าอินทัชจะไม่ได้ฟังเสียงประท้วงอะไรเลย มือแกร่งไล้กับผิวแก้มใสนั่นเบาๆก่อนจะไล้เรื่อยไปใช้ปลายนิ้วพันเล่นกับเส้นผมยาวประบ่าของอีกฝ่าย วรัญญูเบือนหน้าหนีไปให้พ้นๆจากสายตาคมที่มองมาอย่างโลมเลีย ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาผ่านไรฟันที่ขบกันแน่นเพราะความเจ็บใจ
"ทั้งหมดนี่มันเป็นการเข้าใจผิด...ผมไม่ได้คิดจะให้คุณมาชอบหรืออะไรเลย...เพราะฉะนั้นปล่อย..."
" สายไปแล้วล่ะ จะเป็น
ยู หรือจะเป็น
รัน ลูกชายคนใหม่ของคุณตา ฉันก็ไม่สน...ฉันชอบนายจริงๆนะ... " ริมฝีปากกระซิบข้างหูอีกฝ่ายก่อนจะงับเบาๆ ทำเอาร่างเล็กขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ใบหน้าสวยแดงก่ำ
"นี่! เราเป็นอะไรกัน คุณอย่าลืม..." วรัญญูผลักอีกฝ่ายออกห่าง ใบหน้าสวยแดงซ่านเมื่อรู้สึกสัมผัสเบาๆที่ข้างหู
"หึๆ...รู้สึกรึไง? " เสียงหัวเราะอย่างพึงใจดังขึ้นที่ข้างหู มือข้างที่ว่างลูบเรียวขาผ่านกางเกงยีนส์ขาดๆนั้น ริมฝีปากแตะกับผิวแก้มของอีกฝ่ายเบาๆอินทัชไม่ได้สนใจสายตาของใครต่อใครที่อาจจะกำลังมองพวกเขาอยู่เลย ตอนนี้ เวลานี้ กับผิวแก้มเนียนใสของคนตัวเล็กคนนี้ เท่านี้มันก็มากเกินพอแล้วที่จะทำให้ใจของเขาเต้นแรงได้เหมือนเวลาที่กำลังจะกินขนมของโปรด
"รู้สึก?...อย่ามาพูดบ้าๆนะ แล้วมือเนี่ยใครใช้ให้มาจับ.. ปล่อย ผมจะกลับแล้ว " วรัญญูดึงมือของอีกฝ่ายให้ออกไปพ้นหน้าขาก่อนจะฉวยโอกาสนั้นลุกขึ้น
"ผมบอกคุณแล้ว ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด"
" งั้นเหรอ ..อย่างน้อย ก็ขอทำตามคำพูดหน่อยก็แล้วกัน " พูดจบชายหนุ่มก็สั่งยกมือเป็นสัญญาณอย่างรู้กันกับบาร์เทนเดอร์ให้นำเครื่องดื่มมาให้กับอีกฝ่าย วรัญญูมองดูแก้วมาตินี่ที่ถูกบาร์เทนเดอร์เอามาวางเสริฟไว้บนโต๊ะกระจก สลับกับหน้าของชายหนุ่มร่างสูงที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานของตัวเอง
…ได้....เอาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน......จะได้หมดๆเรื่องกันไป....วรัญญูยิ้มก่อนจะยกแก้วมาตินี่ขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว ก่อนที่จะกระแทกแก้วลงกับแผ่นกระจกใสของหน้าโต้ะ ที่อยู่ตรงหน้า
"เท่านี้ เป็นพอใช่มั้ย" ดวงตาคู่สวยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก
" อื้ม...พอใจละ...”อินทัชตอบพลางยิ้ม แล้วผายมือไปที่ฟลอร์เต้นรำ
“เชิญคุณตามสบายเลยก็แล้วกัน " ชายหนุ่มบอกก่อนจะลุกขึ้นไปหากลุ่มสาวๆ ที่มองเขาอยู่นานแล้ว...แม้จะไม่ใช่สเปคของเขาก็ตามทีแต่เมื่อวรัญญูปฏิเสธเขาเสียขนาดนี้จะตามจะตื้อต่อไปก็อาจจะโดนเด็กด่าว่าหน้าด้านได้ ...ก็จะตามต่อไปทำไม สู้ไปสนุกเสียไม่ดีกว่าอย่างนั้นหรือ
ทันทีที่อีกฝ่ายลุกไป วรัญญูก็ถึงกับต้องถอนหาใจออกมาเบาๆราวกับโล่งอก
...เลือกผิดจริงๆที่มาร้านนี้อีก....ชายหนุ่มร่างบางเดินออกจากร้านไปโดยไม่ลืมที่จะจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มในส่วนของตัวเอง
...คิดจะเลี้ยงเหล้าอย่างนั้นเหรอ...อย่าหวังเลย...
…ผมไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครหรอก โดยเฉพาะกับคนแบบคุณน่ะ....ริมฝีปากบางเบะเบ้อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน แม้ว่าถนนแถบนี้ในยามค่ำคืนจะสว่างไสว แต่ถ้าหากสังเกตดูดีๆในยามค่ำคืนเช่นนี้ก็ยังคงมีอันตรายแอบแฝงอยู่ในทุกๆหัวถนน และในเมื่อไม่เคยโดนกับตัวเองตรงๆคนส่วนมากจึงมักจะคิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตัว คงไม่มีอะไรเลวร้ายมากนัก ส่วนใหญ่จึงขนาดการระมัดระวังตัว ไม่ต่างไปจากชายหนุ่มร่างบางในคืนนี้ วรัญญูเดินออกมาจากร้านผิวปากอย่างอารมณ์ดี เขาจอดรถไว้ห่างพอสมควร ร่างเล็กค่อยเดินขนานไปกับถนนที่มีรถราแล่นไปมาขวั่กไขว่ในเวลากลางคืน ปลายนิ้วเกี่ยวพวงกุญแจรถมินิคูเปอร์คันงามของตัวเองควงเล่นไปมาอย่างนั้น ไม่ได้ระแวดระวังภัยอะไรเอาเสียเลย
" โอ๊ะโอ...เดินอารมณ์ดี จะไปไหนจ๊ะน้องสาว..." เสียงหัวเราะแหบแห้งดังมาจากข้างทางที่เป็นมุมมืด
“ พี่ก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนนนนกานนนน....ขอตังค์พี่กลับบ้านหน่อยได้ม้า..." เสียงยียวนกวนประสาทดังขึ้นพร้อมกับร่างผอมๆในเสื้อลายสก๊อตพับแขนสูงกางเกงขาลีบเสียจนไม่รู้เอาเนื้อเอาหนังไปหลบไว้เสียตรงไหน ดูท่าทางก็รู้ว่าไม่ได้มาดีแน่
"น้องสาวบ้านพ่อแกดิ่..."วรัญญูไม่พูดพล่ามอะไรมากเขาหันไปสบถใส่เสียหนึ่งครั้งอย่างไม่สบอารมณ์กับวาจาและท่าทางของคนที่เรียกเขาว่า “น้องสาว” ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเร็วๆ หวังจะรีบๆไปถึงรถตัวเองเสียที แต่มือหยาบกร้านนั้นกลับดึงแขนเขาไว้
" ขอดีๆ ด่าพ่อเรอะ...ไอ้หน้าสวย? มาเดินล่อตะเข้แถวนี้ มาขายรึไง...หาลูกค้ายังไม่ได้เดี๋ยวพี่ประเดิมให้ก็ได้นะ .. เฮ้ย พวกเรา " ชายคนนั้นเรียกพรรคพวกที่รออยู่ให้ออกมา
"อะไรเล่าเฮ้ย ผู้หญิงไม่ได้ ผู้ชายก็จะเอาหรือไง....ปล่อยนะเว้ย" วรัญญูสะบัดตัวเองออกจากแขนของอีกฝ่าย ก่อนจะรีบเดินเร็วๆ...และเร็วขึ้นไปจนแทบจะเรียกได้ว่าวิ่ง
" เอาดิวะ ของแปลก น่าลองจะตาย หึ หึ " เสียงน่าสะอิดสะเอียนตามมาด้วยมือหยาบของหลายๆคนที่วิ่งตามไปจับร่างบางนั้นเอาไว้แล้วทั้งดึงกระชากลากให้ร่างเล็กนั้นเข้าไปอยู่ในตรอกเล็กๆระหว่างร้านรวงทั้งหลายที่เปิดเพลงแข่งกันกระหึ่ม เจ้าพวกนั้นจับวรัญญูโยนเข้ากระแทกกับกำแพงของตึก ก่อนจะลากมือไปทั่ว
" โอ๊ะ เจอของดีว่ะ...กระเป๋าตังค์เว้ย.. "ทั้งที่เจอกระเป๋าเงินที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังแล้วแต่มือของเจ้าคนร้ายยังไม่หยุดลูบคลำ มันโยนกระเป๋าสตางค์ไปให้เพื่อนร่วมแก๊งค์
"ปล่อยนะ ช่วยด้วย!"วรัญญูตะโกนลั่นสองมือบาง และ เท้า พยายามทั้งเตะทั้งต่อยให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเกาะกุมของคนที่อยู่ด้านหลังแต่ก็ถูกสวนกลับด้วยหมัดที่กระแทกเข้าใส่ชายโครงเสียงจนตัวงอ วรัญญูแทบจะทรุดลงไปกับพื้น
"หมูว่ะ..." เสียงหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นเมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์มาเห็นแบงค์พันอยู่หลายใบ
“รวยด้วยเว้ย....แม่งหน้าตาน่า.....อีก...” มือหยาบนั้นจับคางของวรัญญูขึ้นมาพิศมองใบหน้าสวยนั้นใต้แสงสลัว แม้จะบอกว่าเป็นผู้ชายแต่หน้าตาแบบนี้ก็พอไปวัดไปวาได้ไม่น้อย
".......!!!”น้ำลาย ของวรัญญูกระเด็นโดนหน้าของนักเลงคนนั้นแทบจะทันที
"
ไปตายซะไป ไอ้บ้า ปล่อย....ใครก็ได้ช่วยด้วย!!"
น้ำลายที่กระเด็นโดนหน้าเหมือนทำให้ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก ร่างบางของวรัญญูโดนจับกระแทกลงกับพื้นปูนชื้นแฉะ
“ไอ้เวรนี่หน้าตาก็ดีปากหมาชิบ....เดี๋ยวพ่อยัดเสียไม่ต้องพูดเลยสัตว์!” ร่างนั้นกระโดดขึ้นคร่อมร่างเล็กของวรัญญูเอาไว้ หมัดลุ่นๆต่อยใบหน้าสวยๆนั่นจนหันไปอีกทางจนวรัญญูรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่กระจายไปทั่วทั้งปาก ความรู้สึกกลัวแล่นปลาบเข้าจับที่หัวใจร่างเล็กสั่นไหวด้วยความกลัว
“...ขอกูก่อนเลยละกัน....” ยิ่งเมื่อเห็นว่าร่างที่คร่อมตัวเองอยู่นั้นกำลังจะปลดเข็มขัดของตัวเองออกยิ่งทำให้วรัญญูพยายามจะขยับดิ้นหนีไปเสียให้พ้นๆจากตรงนั้น มือเรียวค่อยยันตัวเองถอยไปตามพื้น ขาที่พยายามทั้งเตะทั้งต่อยเมื่อครู่ดูจะไร้เรี่ยวแรงขึ้นมากระทันหัน
"ไม่...อย่าเข้ามานะ.... ใครก็ได้ ช่วยด้วย !!!" วรัญญูตะโกนสุดเสียงเมื่อพวกนั้นเข้ามาจับขาจับแขนของเขาเอาไว้
เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือนั้นลอยมาเข้าหูคนที่เดินตามวรัญญูออกมาจากร้าน ร่างสูงวิ่งถลันไปยังต้นเสียงแทบจะในทันที ไม่ต้องคิดอะไรเลยวิชายูโดที่ร่ำเรียนมาถูกนำมาใช้ทันที โดยที่ไม่สนว่าฝ่ายตรงข้ามมีพวกมากแค่ไหน ร่างสูงจับเจ้าพวกนั้นทุ่มเสียจนร้องโอดโอยหนีไปโดยที่ทิ้งกระเป๋าสตางค์ของวรัญญูเอาไว้ ....น่าเสียดายที่เงินจำนวนหนึ่งในนั้นโดนพวกมันหยิบติดมือไปด้วยเสียแล้ว
ทันทีที่แรงยึดจากทั้งขาทั้งแขนหายไป..วรัญญูพยายามจะลุก แต่ก็ดูเหมือนจะลุกไม่ขึ้น ...แต่เขาก็ควรจะลุก ร่างบางขยับไปใช้ผนังเป็นหลักเพื่อช่วยให้ตัวเองลุกขึ้นมาจนได้ ผมเผ้าดูไม่ได้ ไม่ต้องนับถึงใบหน้าสวยที่โดยต่อยเสียจนเลือดกลบปากแบบนั้น
" เป็นไงบ้าง " เสียงทุ้มนั้นถามอย่างเป็นห่วง พลางช่วยพยุงให้อีกฝ่ายได้ยืนดีๆ
"
วรัญญู...รัน!" อินทัชเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางเหม่อเหมือนสติหลุดไปอย่างไรอย่างนั้นสองมือแกร่งเขย่าไหล่บางนั้นแรงๆให้รู้สึกตัว
"หา? เอ่อ....นี่ผม...เอ่อ...อินทัช...เอ่อ... "เมื่อถูกเขย่า สติสตางค์ของวรัญญูเหมือนจะถูกเรียกคืนกลับมา ดวงตากลบสบตาของร่างสูงนิ่ง อินทัชเป็นคนเข้ามาช่วยเขาเอาไว้อย่างนั้นหรอกหรือ...
...แล้วแบบนี้จะให้พูดกันอีก....ยิ่งได้เห็นว่าเป็นอินทัช วรัญญูยิ่งไม่อยากจะพูด ใบหน้าสวยเบือนหนีไปอีกทางพลางดันตัวเองออก แล้วรีบพยุงตัวเองเดินไปที่ที่มีแสงสว่างโดยเร็ว ...
เห็นท่าทางดื้อดึงแบบนั้นทำให้อินทัชรู้ได้ว่าสติของวรัญญูท่าจะกลับมาแล้ว ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่เอาไว้ก่อนจะเดินตามร่างบางนั้นไป ปล่อยให้เนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าหลุดรุ่ยออกไปแบบนั้นเดี๋ยวได้โดนลากเข้าข้างทางอีกรอบเป็นแน่ ร่างสูงเดินเข้าไปคว้าตัวของเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้
" ยังไม่ต้องขอบใจก็ได้ แต่นายต้องไปกับฉัน " อินทัชพยุงอีกฝ่ายไปที่รถ
" ฉันจะพานายกลับไปที่ห้องฉันนะ กลับไปบ้านทั้งๆแบบนี้ คุณตาได้หัวใจวายตาย " อินทัชให้เหตุผลยาวเหยียดชนิดที่ว่าไม่ปล่อยให้วรัญญูได้ทักท้วงหรือตอบโต้อะไรเลยด้วยซ้ำ ร่างสูงดันร่างของวรัญญูเข้าไปนั่งในที่นั่งด้านข้างคนขับก่อนจะบึ่งรถออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
..................................to be con