พิมพ์หน้านี้ - Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: goldfishpka ที่ 25-11-2010 17:05:59

หัวข้อ: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 25-11-2010 17:05:59
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญ...กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

...............................................................


@@@WRITER'S TALK@@@
:pig2:สวัสดีค่า นักอ่านทุกท่าน :L2:วันนี้มีนิยายเรื่องใหม่กันนะคะ
(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/touchingyou.jpg)
เรื่องนี้มีนักเขียนสองคนค่า
kuruma & p.k.a
คู่เก่าเจ้าเดิม ... ส่วนคนโพสต์เรื่องนี้ p.k.a รับหน้าที่โพสต์เองค่า
ถ้ายังไงแล้ว ก็ขอฝากนวนิยายเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ

..............................................................


"RRRR RRRR "
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องทำงานขนาดใหญ่ของตึกสำนักงานใจกลางกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ชายหนุ่มผมสีดำละจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วกดรับโทรศัพท์ทันทีที่เห็นหมายเลขที่คุ้นเคย

" มีอะไรให้รับใช้หรือครับ คุณตา" เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นเรียบๆหมายเลขที่เห็นทำให้เขากรอกภาษาไทยลงไปตามสายอย่างไม่ลังเล ริมฝีปากที่หากดูเพียงผิวเผินจะรู้สึกเหมือนกำลังยิ้มหยันอยู่นั้นหยักขึ้นน้อยๆ ปลายนิ้วเคาะเบาๆลงบนผิวหน้าเรียบของโต้ะทำงาน รอฟังคำตอบจากปลายสาย

"รับใช้? นี่แกเห็นตาเป็นลูกค้าตั้งแต่เมื่อไรกัน เจ้าทัช" เสียงทรงอำนาจของชายวัยชราดังขึ้นจากปลายสาย ได้ยินเสียงกระแอมไอดังให้ยินเล็กน้อย

" ก็ปรกติ เวลาคุณตาโทรมาหาผม ก็ต้องมีเรื่องให้ผมรับใช้ตลอดนี่ครับ" ทัช หรือ อินทัช หัวเราะออกมาเล็กน้อยแม้จะได้ยินเสียงกระแอมไอนั่นแต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินซะ

"เอาเป็นว่า ครั้งนี้ตาโทรมาใช้ให้แกกลับมาเมืองไทยก็แล้วกัน" เสียงที่แหบแห้งอ่อนแรงไปตามวัยของภูธรดังตอบลงไปตามสายโทรศัพท์
"ผมยังต้องเคลียร์งานทางนี้นะครับ ธุรกิจเรากำลังไปได้สวย " อินทัชปฏิเสธผู้เป็นตาทันที
"ธุรกิจ โอ้ย อย่าเอาคำนี้มาอ้างเลย ฉันรู้ว่าแกจัดการได้ ขาดทุนซักสองสามร้อยล้านตาไม่ว่าหรอก กลับมานี่เป็นคำสั่ง จะได้กลับรวมญาติให้มันครบๆเสียงที ทั้งแม่ทั้งน้าแกก็รออยู่เนี่ย กลับมาภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นตาจะปลดแกออกจากตำแหน่งผู้บริหาร"
" ปลดผมแล้ว คุณตาจะกลับมาทำไหวหรือครับนั่น " ชายหนุ่มไม่ยอมลงให้ใครง่ายๆเลย เพราะตนเองเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของตระกูล การฝึกให้ตนเองมีเขี้ยวเล็บ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ทำให้มันติดเป็นนิสัย
 “ว่าแต่เมื่อกี้ ตาพูดว่าอะไรนะครับ น้า?...น้าที่ไหน ผมไม่มีน้า...ตามีแม่เป็นลูกคนเดียวนี่นา” พลันนึกเอะใจกับคำพูดของตาจึงได้ถามออกไปเช่นนั้น

"ฮ่ะๆ " ตัวของผู้ที่ได้ชื่อว่าตานั้นรู้ดีถึงนิสัยของหลานชายเพียงคนเดียวคนนี้ดี ...ไม่เคยอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ แต่ก็นึกเสียดายอยู่ในทีที่เจ้าหลานชายคนเดียวมาทำตัวอย่างกับเขาเป็นลูกค้าของบริษัทกันเสียอย่างนี้ อินทัชเป็นลูกชายของรุ่งนภาลูกสาวคนเดียวของเขาเอง พ่อของอินทัชเสียไปตั้งแต่ยังเด็ก เขากับรุ่งนภาก็คอยเลี้ยงดูมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้ทำให้รู้สึกว่าคิดผิดเล็กๆที่เลี้ยงหลานมาให้เป็นนักธุรกิจมากกว่าจะเลี้ยงให้มาเป็นหลานที่จะมาคอยดูแลเอาใจคนแก่เฒ่าในบั้นปลายชีวิต 

"ก็ตาถึงได้บอกไงล่ะว่าให้แกกลับมา...แกน่ะอยู่เมืองนอกนานจนไม่รู้อะไรมากเกินไปแล้ว กลับมาซะ และแกจะรู้เอง...อีกอย่างตอนนี้ ตาน่ะมีลูกชายคนใหม่แล้ว ไม่ต้องรอแกก็ได้ ปลดแกออกให้ลูกชายทำแทน ฮ่ะๆ"เสียงของท่านตาหัวเราะอย่างขี้เล่นผ่านสายโทรศัพท์
" ลูกชาย! " คำพูดของตาทำให้เขาทวนคำพูดนั้นอย่างตกใจ
"ก็ ใช่น่ะซิ่ กลับมาได้แล้ว พอๆ ตาไปล่ะ เดี๋ยวจะพา "ลูกชาย" ไปดูบริษัท ห้องทำงานแกตาก็ว่าจะยกให้ด้วยนะเนี่ย ฮ่ะๆ "ว่าแล้วชายชราขี้เล่นอย่างภูธรก็วางหูโทรศัพท์ไป ทิ้งให้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนต้องยืนงงอยู่กับเสียงสัญญาณถี่ๆของโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป
 
อินทัชกดโทรศัพท์แล้วโยนใส่โซฟายาวภายในห้องอย่างไม่สบอารมณ์ คิ้วเรียวขมวดแน่น อาจจะเป็นจริงอย่างที่คุณตาภูธรของเขาว่า เขาอาจจะไม่ได้กลับเมืองไทยมานานเกินไปก็เป็นได้ อยู่ๆตาที่อายุอานามปาเข้าไปเกือบจะเจ็ดสิบห้าของเขาก็จะไปปั้มลูกชายที่ไหนมาได้โตทันใช้ ตัวเขาเองปีนี้ก็อายุสามสิบสองเข้าไปแล้ว...อยู่ๆจะมีน้ามาให้ทันใช้ได้ยังไงกันคิดอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด

..ลูกชายคนใหม่งั้นเหรอ?..


...............................................

เสียงเพลงอึกทึกดังออกมาจากผับหรูแห่งหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนใจกลางมหานครกรุงเทพฯ สถานที่ซึ่งผู้มีอันจะกินทั้งหลายเพิ่งจะได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ เข้ามาสู่สังคมกลางคืนของเมืองแห่งแสงสี ร่างเพรียวในชุดสูทลำลองสีดำสนิท ยืนยักย้ายไปตามจังหวะเพลงอยู่ที่กลางฟลอร์เต้นรำนั้นดูจะเป็นที่ดึงดูดสายตาของใครหลายๆคน

"คนนั้นใครน่ะ... "เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งถาม
"ไม่รู้ซิ่ เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน" เสียงอีกคนตอบ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครมาจากไหน แต่ภายในเวลาหนึ่งอาทิตย์ทั้งใบหน้าสวยและวิธีการใช้จ่ายเงินของเจ้าของเรือนผมสีดำยาวประบ่าคนนั้นก็เป็นที่เลื่องลือไปทั่วเสียแล้ว

"คุณยูครับ...จะรับอะไรอีกดีครับ" เสียงผู้จัดการของร้านเดินเข้ามาถามเมื่อร่างเพรียวนั้นเดินกลับมานั่งตรงที่นั่งที่จับจองเอาไว้ล่วงหน้า ใบหน้าสวยได้รูปของชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองผู้จัดการร้านด้วยดวงตากลมเป็นประกาย บนผิวแก้มนั้นมีเม็ดเหงื่อเกาะพราว

"อืม...ขออะไรชื่นใจๆนะ...ขอแรงๆ และแพงๆ...แจกให้กับคนทุกคนในร้านด้วยบอกว่า ยูเลี้ยง" เสียงหวานหูดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่พาลทำให้ใจของคนฟังสั่นไหว  ก่อนจะต้องรีบพยักหน้ารับคำหันไปส่งสัญญาณให้เด็กในร้านรีบไปจัดการสรรหามาให้ทันที

...นานๆจะมีแขกใจป้ำแบบนี้มาเสียที...

"อ๊ะ... " เสียงนุ่มอุทานเบาๆ เมื่อเหลือบไปเห็นใครที่ไม่คุ้นตาเดินเข้ามาในร้าน ท่าทางที่ดูไม่ค่อยจะอารมณ์ดีเท่าที่ควรของชายหนุ่มผมร่างสูงคนนั้นดูจะขัดต่ออารมณ์ที่อยากจะสนุกของเขาในคืนนี้เสียเหลือเกิน มือบางแตะแขนของผู้จัดการเอาไว้เล็กน้อย
"แล้วก็คนนั้น...ไม่ว่าเขาจะสั่งอะไร ก็จัดให้เขาไปเลยนะ บอกไปว่า “ยู” เป็นคนเลี้ยง" ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางว่าพลางยิ้มอย่างนึกสนุก

“ครับๆ ได้ครับ คุณยู” ผู้จัดการร้านว่ารีบเดินไปรับแขกที่เข้ามาใหม่ทันที  “สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ...ไม่ทราบจะรับอะไรดีครับ”   

" มาร์ตินี่ " ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่สั่งเครื่องดื่มทันทีที่นั่งลงที่เคาท์เตอร์ เขาไม่ได้สนใจใครเลยซักนิด คิ้วคมทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเพราะอารมณ์ที่ขุ่นมัวหลังจากที่นั่งเครื่องบินหลายช่วงโมงแล้วกลับไปรับรู้ความจริงทั้งหมดเมื่อกลับไปที่บ้านใหญ่ของคุณตาภูธร ในตอนนี้เขาจึงอยากดื่มเท่านั้น

….ตาบ้า...แก่จะตายอยู่แล้วยังจะไปสรรหาลูกมาเพิ่มอีก....
....น่าโมโหเป็นบ้า ทำอะไรไม่ปรึกษาหลานเลย.....


ไม่นานนักบาร์เทนเดอร์ก็จัดการเสริฟแก้วมาร์ตินี่ให้กับอีกฝ่าย ขัดจังหวะอารมณ์ที่ขุ่นมัวนั้นให้เหลือเป็นเพียงแค่ความแปลกใจเมื่อได้ยินคำของบาร์เทนเดอร์
 
"แก้วนี้ฟรีครับ"  ซึ่งสายตาของของบาร์เทนเดอร์ก็ทำให้อินทัชข้าใจได้ทันที
" ใครเป็นคนจ่าย? " ริมฝีปากได้รูปยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"คุณยูครับ" ว่าแล้วก็บุ้ยใบ้ไปทางร่างบางที่นุ่งอยู่ตรงโต๊ะที่หัวมุม เงามืดสลัวและแสงไฟวูบวาบทำให้มองเห็นหน้าของคนที่บาร์เทนเดอร์ว่าไม่ชัดเจนนักจากจุดที่เขานั่งอยู่ ดวงตาสีเข้มมองตามหาเจ้าของเหล้าแก้วนี้ ร่างโปร่งของคนที่นั่งตรงมุม ผมยาวประบ่าสวย ทำให้เขายิ้มอย่างถูกใจก่อนจะถือแก้วเหล้านั้นแล้วเดินไปหาคนที่เลี้ยงเหล้าทันที

" ว่างไหมครับ? " เสียงทุ้มนุ่มของอินทัชเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะรอคำตอบ เขานั่งลงข้างๆ ร่างบางนั้นก่อนที่คนที่ชื่อ “ยู” คนนี้จะได้ตอบอะไรเสียอีก
 " ในเมื่อเลี้ยงเหล้าผมแล้ว ก็ให้เกียรติดื่มเป็นเพื่อนผมซักแก้วนะครับ "  แก้วในมือของ “ยู” ยกขึ้นเล็กน้อยนั่นดูจะเป็นคำตอบได้ดี  ชายหนุ่มยกแก้วมาตินี่ขึ้นจิบก่อนจะยกมือขึ้นไล้กับปอยผมนุ่มของอีกฝ่าย เมื่อเจ้าของร่างโปร่งไม่ได้ขยับออกห่าง มือนั้นก็กลับไล้ไปที่แก้มแทน

 " คุณมาบ่อยหรือเปล่า? " เสียงทุ่มกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหูท่ามกลางเสียงเพลงดังอึกทึก
"ก็....นิดหน่อย" เสียงเจ้าของเรือนผมยาวนั้นตอบเบาๆเสียงใส แบบผู้ชายไม่ได้ทำให้อินทัชชะงักเลยแม้แต่น้อย
" ก็ดีครับผมจะได้มาบ่อยๆ..ดีไหม " ริมฝีปากได้รูปแตะกับผิวแก้มใสนั้นเบาๆ สัมผัสแผ่วผ่านนั้นทำให้ชายหนุ่มร่างบางนั้นหัวเราะออกมาน้อยๆ
"แค่คุณมาวันแรก...ยังขนาดนี้...มาบ่อยเข้าผมคงหมดทั้งตัว"เสียงยูว่า มือเรียวไล้เบาๆบนหัวเข่าของชายอีกคน
" ผมอยากตอบแทนเรื่องเหล้า " นิ้วเรียวแตะที่แก้มอีกฝ่าย "ไว้คราวหน้า ให้ผมเลี้ยงคุณบ้างสิ"
"คุณก็มาอีกก็แล้วกัน...ผมจะได้ให้คุณเลี้ยง..."ริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มมือเรียวไล้เล่นเบาๆบนท่อนแขนของอีกฝ่าย เสื้อเชิ๊ตเนื้อดีนั้นทำให้รู้ได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายก็มีฐานะเหมือนกัน 
"ว่าแต่ผมเองก็คงจะอยากรู้ชื่อเหมือนกันนะ คนที่จะมาเลี้ยงผมเนี่ย"
" เรียกผมว่า ทัชก็แล้วกัน "อินทัชไม่ได้บอกชื่อจริงเสียงจริงออกไป เขายังคงเป็นความไม่ไว้ใจใครอยู่ดี .. จะเอาอะไรมาก กับคนที่เจอกลางคืน.. ชื่อนั้นเรียกเสียงหัวเราะคิกคักได้จากร่างบางนั้นไม่น้อย

"ทัช...ชื่อเหมือนนักร้อบสมัยก่อนนะครับ...เรียกผมว่ายูก็แล้วกัน"
" ยินดีที่รู้จัก "มือแกร่งจับมือบางนั้นขึ้นมาแตะริมฝีปากตนเบาๆ
"ฮ่ะๆ ...ไม่ต้องมาทำเป็นฝรั่งเลย ผมรู้ว่าคุณเป็นคนไทย" ยูหัวเราะหากแต่ก็ไม่ได้ชักมือกลับแต่อย่างใด
" สร้าง First Impression ไง "ชายหนุ่มบอกแล้วปล่อยมืออีกฝ่าย
"ฮ่ะๆ...ถ้าอย่างนั้นผมคงให้คะแนนคุณ ซัก 9.5 จากเต็ม 10"ยูนะว่าพลางลุกขึ้นยืน “เลยเที่ยงคืนแล้ว ผมคงจะต้องกลับซะที” ริมฝีปากได้รูปท่ามกลางแสงไฟสลัวนั้นแย้มยิ้ม
" หมดเวลาซินเดอเรล่าแล้วเหรอ " อินทัชถามพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
"คงใช่...."ชายหนุ่มร่างบางว่าก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบเบาๆที่ข้างแก้มของอีกฝ่าย
"ไว้เจ้าชายไปตามหาเอาก็แล้วกัน...ลาก่อน" มือเรียวยัดอะไรบางอย่างใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อของอีกฝ่ายก่อนที่จะเดินจากไป

ชายหนุ่มมองตามร่างนั้นไป และเพียงแต่ร่างบางนั้นออกจากร้านไปเท่านั้น หญิงสาวอีกคนก็เดินเข้ามานั่งข้างๆทันที ทำให้เขาไม่มีเวลาใส่ใจกับอะไรก็ตามที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อสูทแม้แต่น้อย

............................................

เสียงบานประตูไม้เนื้อดีเปิดออกช้าๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเท้าในรองเท้าสลิปเปอร์ดังชวนหนวกหูทุกครั้งที่คนใส่ก้าวเท้า ก่อนที่ผ้าม่านสีเข้มเนื้อเบาจะถูกเลื่อนออกปล่อยให้แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบกับร่างที่ดูจะยังหลับไม่รู้เรื่องอยู่ในฟูกนอน

"คุณชายคะ อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ "
" อือ รู้แล้ว..ขอบใจ " ชายหนุ่มตอบกลับเสียงงัวเงียก่อนจะลุกจากเตียงนอนที่ไม่ได้กลับมานอนเสียนาน แล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับแล้วเดินออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้สาวใช้จัดการเตียงให้เหมือนอย่างที่เคยทำ

เสียงเดินพร้อมเสียงผิวปากที่ดังมาจากบันไดจากชั้นสองของบ้านหลังใหญ่นั้นดังก้องตรงช่องบันได ทำให้คนที่นั่งรออยู่ที่ห้องอาหารรู้ได้ไม่ยากเลยว่าหลานชายหัวแก้วหัวแหวนตื่นนอนแล้ว

"ตื่นซักที ปล่อยให้รออยู่ได้ตั้งนาน " เสียงภูธรว่า ก่อนจะมีเสียงเครื่องยนต์ขยับเมื่อชายชราขยับเก้าอี้ไฟฟ้าด้วยมือที่วางอยู่บนคันโยก ชายชรานั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะอาหารตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องอาหาร
"เอ้านั่งซะซิ่ แล้วก็นั่น ตาจะแนะนำให้รู้จัก "น้า"ของแก เจ้ารัน...ลูกชายคนใหม่ของตาเอง " มือผอมเกร็งของชายชราผายไปยังชายหนุ่มร่างบางผมยาวมัดรวบครึ่งหัวในชุดเสื้อเชิ๊ตสีออ่อนดูสบายตาที่นั่งอยู่ไม่ห่างออกไปนัก
"อรุณสวัสดิ์ "หลานชาย"" เสียงนุ่มเอ่ยทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรบนใบหน้าสวยได้รูป ดวงตากลมใต้กรอบแว่นสีเงินนั้นดูเป็นสดใสชวนมอง ตรงกันข้ามกับดวงตาสีเข้มของอินทัชที่มองอีกฝ่ายเพียงปราดเดียวด้วยสายตาเย็นชาแล้วนั่งลงฝั่งตรงกันข้าม
" ผมคงรับไม่ไหวหรอกครับ คุณตา  " ชายหนุ่มเอ่ยสองมือประสานบนหน้าโต้ะดวงตาคมจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งติดจะมองอย่างเหยียดๆเสียด้วยซ้ำ
 " หมอนี่...เด็กกว่าผมเป็นสิบปีได้มั้ง "

"ฮ่ะๆๆ " เสียงคุณตาหัวเราะ ใบหน้าที่มีรอยของกาลเวลานั่นยับย่นไปเมื่อริมฝีปากคู่นั้นขยับ
"ตาก็ว่าแบบงั้นล่ะ แต่มันคงดีกว่าหากจะให้เจ้ารันนี่มาเป็นน้องบุญธรรมใช่ไหมล่ะ จะรับไม่รับตาไม่รู้ แต่ให้รู้ไว้ว่า เขาเป็นลูกของตานับจากนี้ไป และ ตาก็จะให้เขาจัดการบริษัทด้วย" มือของคุณตาตบลงบนบ่าบางๆของชายหนุ่มที่ยังคงนั่งยิ้มสงบปากสงบคำ ดวงตาที่หันไปมองตาของตัวเองอย่างประจบประแจงแบบนั้นทำให้อินทัชรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
" จัดการบริษัท? " อินทัชทวนคำของผู้เป็นตา
"เจ้าทัชนี่...หูแกตึงกว่าปู่เรอะ เอาล่ะ รู้เรื่องกันแล้วไปคุยกันเอาเอง ...เอ้า รัน กินข้าวเถอะลูก" ว่าแล้วคุณตาก็หันไปหาชายหนุ่มร่างบางพลางยิ้มให้อย่างเอ็นดู
"ครับ คุณพ่อ " เจ้าของชื่อยิ้มรับว่าพลาง ยกถ้วยน้ำชาให้ตาของอินทัชก่อนจะหันไปจัดการกับอาหารเช้าสุดหรูอย่างเงียบๆ  เห็นแบบนั้นยิ่งทนดูไม่ไหว อินทัชลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารทันที
 "ผมแค่มาทักทายคุณตา ปกติ ผมไม่ทานอาหารเช้าครับ ขอตัว
"อินทัช คุณพ่ออยากจะทานข้าวกับเธอนะ " เสียงรันดังขึ้น โทนเสียงนั้นดูไม่ค่อยจะพอใจนักกับการที่อีกฝ่ายลุกขึ้นไปอย่างนั้น

แต่อินทัชกลับไม่สนใจเสียงนั่นแม้แต่น้อย เขาเดินออกจากห้องไปทันที แน่นอนด้วยว่าอารมณ์โมโหอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะปู่ที่ทำอะไรตามใจแล้วยังจะต้องมาเจอกับ เด็กอวดดีที่ไหนก็ไม่รู้มาใช้ภาษาแบบนั้นกับตัวเอง...คิดได้แบบนั้นก็เดินกลับไปขึ้นไปชั้นบนจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกระเป๋าเดินทางของตัวเอง ออกจากห้องไปทันที เขาไม่อยากจะอยู่ร่วมชายคากับเด็กคนนั้นหรอก...เป็นใครมาจากไหนกันมาถึงก็มาลอยหน้าลอยตาประจบประแจงคุณตาของเขาแบบนั้น

.........ไม่อยู่เมืองไทยเข้าหน่อย พวกคนที่บ้านนี้บ้ากันไปหมดแล้ว...........

ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงรถสปอร์ตคันงามของหนุ่มนักธรุกิจที่เพิ่งจะกลับมาจากออสเตรีเลียคนนั้นบึ่งออกจากบ้านไป  เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ เมื่อหันไปมองจากหน้าต่างของห้องอาหารแล้วเห็นรถคันงามนั้นแล่นออกไป ชายหนุ่มร่างบางหันไปหาชายชราที่ดูจะยังคงอารมณ์ดีไม่ได้รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

"คุณพ่อฮะ...ผม...ไม่แน่ใจนักว่ามันจะไปได้สวย สำหรับ ผม กับเขา ... "ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้าของบุคคลที่สามนั้นดูหนักใจอยู่ไม่น้อย
“นี่แค่เจอหน้ากันไม่กี่ครั้งเองนะฮะ...”
"ฮ่ะๆ เรื่องแบบนี้ มีถมเถไป...เอาเป็นว่าเดี๋ยวทั้งเรากับเจ้านั่นก็จะชินกันไปเองนั่นล่ะ...กินข้าวได้แล้วรัน...เอ้อหยิบขนมปังนั่นให้หน่อยซิ่...ทาแยมให้พ่อด้วยนะ " ภูธรว่าพลางชี้ไปยังขนมปังที่วางอยู่ห่างออกไป
“ครับๆ....” ลูกชายคนใหม่ของภูธรรับคำพร้อมรอยยิ้ม “คุณพ่อเองก็อย่าทานของหวานเยอะนะครับ...เดี๋ยวคุณหมอจะดุเอานะครับ”
“เออน่า...ทาไปเถอะแยมน่ะพ่อชอบ เร็วๆ หิวแล้วๆ” ไม่วายคนแก่ยังจะอ้อนทำให้ชายหนุ่มอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

..............................................................

 
...บางทีผมอาจจะต้อง ผูกสัมพันธ์น้าหลานกันเล็กน้อย...


ผู้เป็นน้ายังจำได้กับคำที่พูดไว้กับพ่อบุญธรรม ภูธร เป็นคนรักเก่าของคุณย่า หากจะให้พูดคงเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อนัก เมื่ออยู่ๆ ก็มีเศรษฐีวัยชรา มาขอคนที่ไม่รู้จักมักจี่ไปเป็นลูกบุญธรรมด้วยเพียงเพราะว่าหน้าตาของเขานั้นละม้ายคล้ายกับย่า สมัยยังสาวๆ เป็นใครได้ยินเรื่องนี้เข้าก็คงจะรีบเข้ามาหาเขาทำตาโต พลางบอกว่า ...นี่มันหนูตกถังข้าวสารชัดๆ... ก็อาจจะเป็นจริงเช่นนั้น  ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะบรรจงกดปลายนิ้วลงบนออดหน้าประตูห้องในคอนโดหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมืองที่ซึ่งเขาสอบถามมาจากทางแม่บ้านของที่บ้านแล้วว่าเป็นที่พักอีกแห่งหนึ่งของอินทัช "หลานชาย” ของตัวเอง

"Ting Tong"


เจ้าของห้องเปิดประตูให้ทันที เพราะเขานัดสาวสวยที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่ไม่กี่วันมาที่ห้อง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อพบว่าใครมา

"คุณตาให้เอาเอกสารมอบอำนาจมาให้เซ็นรึไง? " อินทัชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ซักเท่าไร เมื่อเห็นว่า “น้าชาย” ที่อายุน้อยกว่าเกือบสิบปีมายืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้องแบบนี้ ชายหนุ่มร่างเล็กมัดผมรวบครึ่งศรีษะ ยกปลายนิ้วขยับแว่นกรอบเงินที่สวมอยู่เล็กน้อย
"ก็นะ...เนี่ยกำลังว่าอยากจะขอที่ดินเพิ่มพอดี เอาเอกสารมาให้เซ็นโอนให้เลยซะดีไหม” รันเอ่ยประชด “ ...ทีนี้จะให้น้าเข้าไปได้หรือยัง" ภาษาที่พูดกับอีกฝ่ายนั้นดูจะไม่ได้นึกถึงอายุที่แตกต่างกันเกือบจะสิบปีระหว่างตัวเองและอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มร่างบางยืนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง 

"ฉันไม่คิดจะมีน้าเด็กกว่า  " ถึงสีหน้าจะไม่ยินดีต้อนรับแต่อินทัชก็ขยับเปิดทางให้อีกฝ่ายเดินเข้ามาด้านใน จังหวะนั้นเองที่กลิ่นโคโลญจน์หอมหวานลอยเข้ามาแต่ที่ปลายจมูก แต่เขาจำไม่ได้ว่าเคยได้กลิ่นนี้ที่ไหน
"น้าก็ไม่เคยคิดว่าจะมีหลานเกิดก่อนเกือบสิบปีแบบนี้เหมือนกัน" ชายหนุ่มร่างบางยิ้ม ยามที่เขาหันกลับผมที่ถูกผูกไว้ด้านหลังนั้นสะบัดไปมาเล็กน้อย
"นี่นาย...ไม่กระดากปากบ้างรึไง ฉันแก่กว่านายเป็นสิบปีนะ " อินทัชส่ายหน้าอย่างระอากับท่าทางของคนอายุน้อยกว่าก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาโยนให้กับแขกที่เขาไม่ได้เชิญให้มาเยือน
" กินๆแล้วก็รีบๆไปซะ "
"โยนให้แบบนี้แล้วยังไล่กลับเนี่ยนะ ...เธอนี่ช่างเป็นเจ้าบ้านที่ใช้ไม่ได้จริงๆเลยนะ อินทัช" ชายหนุ่มร่างบางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเปิดเบียร์กระป๋องนั้นขึ้นดื่ม
" คุณตาใช้ให้มาเช็คพฤติกรรมรึไง " อินทัชถามอย่างไม่พอใจนัก
"ก็.... " ชายหนุ่มร่างบางยักไหล่
"อาจจะใช่ น้าแค่อยากรู้ว่า คนที่อยู่ๆก็ได้มาเป็นหลานนี่ จะเป็นคนยังไงก็เท่านั้นเอง " ดวงตาภายใต้กรอบแว่นจ้อมมองอีกฝ่ายก่อนที่ริมฝีปากจะคลี่ยิ้ม
" สนไปทำไม ในเมื่อ คุณตาเขามอบกิจการนี้ให้นายแล้ว "ชายหนุ่มชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
" ทำให้หมดล่ะ บริษัทของคุณตาน่ะมันมีไม่น้อยหรอกนะ "
"มอบกิจการ ฮ่ะๆ... อืม... ถ้าเธอยังทำพฤติกรรมแบบนี้อยู่ล่ะก็นะ " เสียงหวานนั่นยังคงเจื้อยแจ้ว รอยยิ้มอย่างเป็นมิตรยังคงมีให้อย่างไม่ขาดสายผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้าถือกระป๋องเบียร์ไว้ด้วยสองมือสายตามองสำรวจไปทั่วคอนโดของอีกฝ่าย ใหญ่โตโอ่โถงอยู่ไม่น้อย

....สมแล้วที่เป็นหลานเศรษฐี....

" นายขู่ฉันรึไง ไอ้หนู? " มือแกร่งทุบโต๊ะดังปัง
" พฤติกรรมในเวลาส่วนตัว ไม่ได้เป็นปัจจัยของการทำธุรกิจให้เกิดผล และพฤติกรรมดีๆ ในธุรกิจ ก็ไม่ได้ทำให้นายประสบความสำเร็จหรอก  " ท่าทางอินทัชจะเริ่มหมดอารมณ์จะญาติดีด้วยกับท่าทียียวนกวนประสาทของอีกฝ่ายแล้ว ใบหน้าคมของชายหนุ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ
"ขู่? เจ้าหนู?...เธอกำลังพูดกับคนที่เป็นน้าของเธออยู่ อินทัช แม้ว่าอายุจะต่างกัน แต่ น้า ก็ยังเป็นน้า เป็นน้องของแม่ ...เธอคิดว่า พูดกับน้องของแม่แบบนี้ได้อย่างนั้นเหรอ" ทั้งๆที่อีกฝ่ายกำลังระเบิดอารมณ์แต่ รันยังคงยิ้ม ดวงตาสวยภายใต้กรอบแว่นนั่นยังไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรที่จะมองเห็นได้ก็มีเพียงรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้าก็เท่านั้น
" ฉันไม่ยอมรับนาย ..และไม่มีทางยอมรับ เด็กที่ไม่รู้กำพืดอย่างนาย " อินทัชยกมือชี้หน้าของอีกฝ่ายอย่างเหลืออด ชายหนุ่มขบฟันกรามแน่น " กลับไปซะ " เสียงคำรามเล็ดลอดไรฟันออกมา หากเป็นใครมาฟังคงได้รู้สึกหนาวสันหลัง ท่าทางแบบนั้นไม่ได้ล้อเล่นเลย 
"ก็กะว่า...จะมาเชื่อมสัมพันธ์ "น้าหลาน" เสียหน่อย...มาแป๊บๆ ก็จะไล่กลับแล้ว...แย่จังนะ" มือเรียวค่อยวางกระป๋องเบียร์ลงบนแก้วโต๊ะกระจกตรงหน้าที่อินทัชนั่งอยู่ ร่างเพรียวก้มลงมามองหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย พลางทำหน้าผิดหวัง 
" นายหลอกคนอย่างคุณตาได้ แต่หลอกฉันไม่ได้แน่ ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็ตาม จำไว้  "ชายหนุ่มย้ำมือแกร่งที่วางอยู่บนหน้าขากำแน่น คนตรงหน้ากำลังกวนประสาทเขาอย่างถึงที่สุด แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อเสียงกริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน
 
"โอ๊ะ...มีแขกมาเยี่ยมแน่ะ..." รันยังคงยิ้มดูก็รู้ว่าพยายามที่จะทำท่าตกใจ "เดินไปรับซิ่ อาจจะเป็นสาวที่นัดเอาไว้เมื่อคืนก็ได้" ชายหนุ่มผมยาวปัดนิ้วของอีกฝ่ายออกจากหน้าก่อนจะพยักเพยิดไปทางประตู
“นายเองก็รีบกลับๆไปได้แล้วเหมือนกัน” อินทัชฉวยโอกาสนั้นคว้าแขนของร่างบางเอาไว้แล้วลุกขึ้น ลากแขนอีกฝ่ายไปที่ประตูทันที และเมื่อเปิดประตู คนที่ยืนรออยู่นั้นก็เป็นหญิงสาวที่เขานัดไว้จริงๆ

"อุ้ย..สวัสดีค่ะ...อ๊ะ วันนี้มีเพื่อนด้วยเหรอคะ " เสียงหญิงสาวร่างเล็กแต่งหน้าจัดจ้านในเสื้อผ้าแนวเกาหลีรัดร่างฟิตแน่นไปทั้งตัวดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก ท่าทางเหมือนจะดื่มอะไรบางอย่างมา
"เขา กำลังจะกลับน่ะ..คุณเข้ามาสิ "มือแกร่งของอินทัชผลักคุณน้าเมื่อวานซืนของเขาออกจากห้องอย่างแรง เขาตั้งใจจะเรียกชื่อหญิงสาวตรงหน้าแต่ก็จำไม่ค่อยได้ว่าอีกฝ่ายชื่ออะไร

ชายหนุ่มผมสีเข็มที่ถูกผลักสวนทางออกมานั้น แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์ ที่เปลี่ยนไปมากจากครั้งสุดท้ายที่เคยเห็น แต่หลังจากหลายๆครั้งที่ได้เห็นโดยบังเอิญตามสถานบันเทิงยามค่ำคืนต่างๆของกรุงเทพก็ทำให้สาวนักเที่ยวอย่างผู้หญิงคนนี้ มั่นใจมากทีเดียว

"เอ๊ะ...คุณยูใช่ไหมคะ "

.......................................to be con

EDIT: เปลี่ยน "ปู่" ให้ถูกเป็น "ตา" ค่ะ ต้องขออภัยในความเบลอ เรื่องการนับญาติของตัวเอง ...
(แต่จะว่าไปคาแรกเตอร์น่าจะถูกเรียกว่าปู่นะ มันได้อารมณ์ดี) :z6:

และแก้ชื่อตัวละครที่พิมพ์ผิดค่ะ...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 25-11-2010 17:44:59
จิ้มเรื่องใหม่
 :z13:


น่าติดตามมากๆ
แต่มีข้อติงหลายที่นะ

อย่างพระเอกเนี่ยเรียกว่าปู่
แต่ว่าแม่เป็นลูกของปู่
งั้นก็ต้องเรียกว่าตานะ

แล้วก็เรื่องชื่อ
ตกลงชื่อ คิโยโนบุ
หรือว่าอินทัชกันแน่
 :really2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 25-11-2010 17:46:12
ท่าทางจะโดน น้า ปั่นหัวแระ อิอิ
แล้วทัชจำไม่ได้หรอว่า น้าคือยูอ่ะ
รอตอนต่อไปจ้า  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-11-2010 19:40:29
เรื่องใหม่เรื่องนี้ชวนอ่าน น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 25-11-2010 20:14:24
ยู หรือ รัน เนี้ยดูนิสัยไม่ดีเลยอ่ะ (ถ้าเป็นคนเดียวกันอ่ะนะ)
เป็นแค่ลูกบุญธรรมแต่เอาเงินเขาไปใช้ซะมันส์เลย ดูไม่น่าไว้ใจจริงๆด้วย
ไม่ค่อยชอบนายเอกแบบนี้เลย แต่เนื้อเรื่องดูน่าสนใจดี
ต้องรอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 25-11-2010 20:22:29
รับเรื่องใหม่
สนุก อยากอ่านต่อ
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 25-11-2010 20:34:17
ทัชชี่จำไม่ได้หรอน่ะ
ภาพพจน์ต่างกันลิบลับอ่ะดิ๊!!
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-11-2010 20:35:00
 :L1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: heefever ที่ 25-11-2010 21:12:05
น้ากะหลาน  :z1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 25-11-2010 21:16:36
แวะมาอวยน้องรัน~ ..เรื่องนี้เป็นโคไรเตอร์ แวะมาดันน้องค่ะ! ..

(http://i40.photobucket.com/albums/e223/kuruminna/run1.jpg)

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เราทั้งสองคนชอบมากๆค่ะ ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 25-11-2010 21:44:12
^^
^^
จิ้มโคไรเตอร์ สักสองจึ๊ก
 :mc4: ยิ้นดีกับเรื่องใหม่นะครับ เป็นกำลังใจให้
ปล. แต่ยัง + ไม่ได้ รอเวลาอีก 9 ชม. :z2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 25-11-2010 21:51:32
 :o8: ตามมาต้อนรับด้วยค่ะ มีภาพตัวละครให้ได้นึกตามไปด้วย...ดีจริงเอย...
ไปอ่านก่อนนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-11-2010 07:06:43
โห จำน้าตัวเองไม่ได้เชียว 555
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 26-11-2010 09:00:50
แอร๊ยยย เรื่องใหม่ คุณยู/รัน ท่าทางแสบไม่เบา 555
หลานมาได้ไม่เท่าไหร่ปั่นหัวซะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-11-2010 09:53:55
มีเรื่องหนุกๆมาให้ได้ตามอ่านกันอีกเเล้ววววว
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 26-11-2010 10:54:36
ว๊ายยยยย เข้ามาโอบอุ้มน้องรัน
กร๊ากกกกกก

รอติดตามจ้า่
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 26-11-2010 11:20:48
เปิดรื่องมาก็น่าจะแรงแล้ว ขอตามอ่านด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 26-11-2010 11:24:18
ชอบจัง
ผู้ใหญ่รู้เห็นเป็นใจด้วย :mc4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 26-11-2010 13:24:47
มาลงชื่อรอเสพเรื่องใหม่ คึคึ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 26-11-2010 13:33:08
 :m4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 26-11-2010 15:16:20
 o22 o22 o22

คุณ "ยู"
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 26-11-2010 16:39:33
 :z1: :z1: ชอบบุคลิครันจัง
รอตอนตอ่ปค่ะ  เรื่องนี้น่าอ่านมากๆๆ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 26-11-2010 17:01:46
เจิมก่อน  เดี๋ยวมาอ่าน
................................

คุณน้าท่าทางแสบเอาเรื่องนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 26-11-2010 17:24:07
ตามมาอ่านเื่องใหม่จ้า
+1 ไปก่อนเลย

ฉลองให้กับเรื่องใหม่ด้วยจ้า
 :mc4:   :mc4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 1 25/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 26-11-2010 18:35:13
ยู หรือ รัน เนี้ยดูนิสัยไม่ดีเลยอ่ะ (ถ้าเป็นคนเดียวกันอ่ะนะ)
เป็นแค่ลูกบุญธรรมแต่เอาเงินเขาไปใช้ซะมันส์เลย ดูไม่น่าไว้ใจจริงๆด้วย
ไม่ค่อยชอบนายเอกแบบนี้เลย แต่เนื้อเรื่องดูน่าสนใจดี
ต้องรอดูต่อไป
เห็นด้วยครับ ถึงมีเงินเป็นพันล้าน ก็คงจะหมดในเวลาไม่นาน
แต่ยังตัดสินอะไรตอนนี้ไม่ได้  รอตอนต่อไป น้ากับหลานจะลงเอยกันยังไง
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 26-11-2010 21:12:41
@@@@@ Writer's Talk@@@@@
 :pig4: :pig4: ขอบคุณทุกคนสำหรับเสียงตอบรับนะคะ...
และก็ขอ :กอด1: ด้วยรักให้ทุกคนที่ตามมาจากเรื่อง"หอมกลิ่นกาแฟฯ" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17200.0)  ด้วยนะคะ
 ยังไงก็ขอฝาก...คุณทัช อินทัช กับ น้องรัน (ยู) เอาไว้ด้วยนะคะ
...โอ้ยหลายชื่อคนเขียนก็สับสนนะ  :serius2:.....  

........................................



"เอ๊ะ...คุณยูใช่ไหมคะ "


เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ ชายหนุ่มต้องหันกลับมายิ้ม...ดวงตาคู่สวยภายใต้กรอบแว่นเงินนั้นดูลังเลระคนตื่นตระหนกเล็กน้อย ริมฝีปากบางขมุบขมิบเหมือนจะบ่นพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะตอบออกไป

"คุณคงจะจำคนผิด” แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อหญิงสาวคนนั้นกลับคว้าแขนของเขาเอาไว้
"ไม่จริง...น้ำฝนจำได้นะ...คุณยูจริงๆด้วย" ดวงตาของหญิงสาวจับจ้องเขาราวพิจารณา ก่อนจะยิ้มออกมาราวกับดีใจนักหนา คำพูดของสาวสวยคนนี้ทำให้คนที่ฟังอยู่อย่างอินทัชต้องขมวดคิ้ว

.. ยู?...ถ้าจำไม่ผิด…..หนุ่มน้อยที่เขาเห็นหน้าไม่ชัดที่ผับวันนั้น..
...คนที่เขา พยายามไปมองหาที่ผับประจำ..
...ตั้งแต่ได้เจอครั้งแรกในคืนนั้น....ก็ชื่อ...ยู...เหมือนกัน

"นี่ คุณยูขา...ไม่ได้ไปที่ ร้านตั้งอาทิตย์แล้วนี่คะ รู้ไหมคะว่าพวกที่ร้านน่ะ ถามหาคุณกันใหญ่ หนุ่มปาร์ตี้ไม่อยู่ทีเนี่ย พากันสนุกไม่ออกเลย ...งานกร่อยมาหลายวันแล้ว วันนี้ไปกับน้ำฝนนะคะทีนี้ น้ำฝนจะได้ยืดใส่พวกเพื่อนๆเลยว่า พาคุณยูกลับมาได้" มือเรียวของหญิงสาวยังคงเขย่าแขนของชายหนุ่มร่างบาง

"ผม...เอ่อ..." รันยังคงอ้ำอึ้ง ดวงตาสีเข้มเหลือมองชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเจ้าของห้องสลับกับใบหน้าของหญิงสาวคนนี้เล็กน้อย  "นี่ อินทัช...เธอ ดูแลแฟนเธอหน่อยซิ่"
"น้ำฝนครับ คุณจะบอกว่า..รัน? คือ ยู...เหรอ? " อินทัชถามคู่ควงของเขาให้แน่ใจ เพราะมองอย่างไร ชายหนุ่มท่าทางถือตัวปนจะอวดดีคนนี้ไม่น่าจะใช่คนเดียวกับที่เลี้ยงเหล้าแถมยัง..ยั่ว..เขาให้รู้สึกร้อนรุ่มแบบนั้นได้เลย  
"ก็ใช่น่ะซิ่คะ คนนี้ล่ะค่ะ คุณยู วรัญญู ธิติเดชาพงศ์ ที่น้ำฝนชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆ ดังมากเลยนะ รวยมากด้วย เนี่ยเห็นว่าเป็นลูกชายของคุณภูธรเจ้าของเครือพีทีกรุ๊ปน่ะค่ะ... เป็นเซเล็บดาวรุ่งพุ่งแรงของปีนี้เลยนะค่ะ " น้ำฝนดูจะยิ่งตื่นเต้น เมื่อคิดขึ้นมาได้ถึงคำถามหนึ่ง
"พวกคุณสองคนเป็นเพื่อนกันเหรอคะ เยี่ยมไปเลยนะคะ คุณอินทัชเนี่ยไม่เห็นอยู่เมืองไทยมาพักใหญ่ยังอุตส่าห์รู้จัก เซเล็บที่กำลังดังตอนนี้ด้วย" หญิงสาวร่างเล็กยังคงจีบปากจีบคอพูดต่อไป ตรงกันข้ามกับอินทัชที่กำลังยืนพิจารณา “วรัญญู” นิ่งดวงตาคมคู่นั้นมองร่างเล็กกว่านั้นอย่างพิจารณา...ด้วยความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง

" หึ หึ.. เซเล็บ?..เพื่อน? งั้นเหรอ?  เขาอยากเป็นมากกว่านั้นน่ะสิ ถึงมาหาผมถึงนี่น่ะ .. น้ำฝน ฝากไปบอกเพื่อนๆคุณด้วยนะ ว่า คุณยูของทุกคนน่ะ เขามีเจ้าของซะแล้ว ไม่ต้องไปตามหาตัวให้วุ่นหรอก " คำพูดของหญิงสาวที่พูดออกมานั้นอธิบายอะไรหลายๆอย่างได้ดีทีเดียว ความจริงแล้ว คุณรัน น้าเมื่อวานซืนของเขา ก็คือ ยู หนุ่มน้อยในผับในคืนนั้นนี่เอง ริมฝีปากของอินทัชหยักยิ้ม มือแกร่งดึงแขนของวรัญญูเข้ามาหาตัว
"อ๊ะ...เฮ้ย...คุณ เอ้ย อินทัช ปล่อยน้านะ" วรัญญูร้องขึ้นด้วยความตกใจ  

ท่าทางประหนึ่งเจ้าข้าวเจ้าของและคำพูด รวมไปจนถึงสายตาที่มองหน้าของวรัญญูอย่างปรารถนานั้น ทำเอาน้ำฝนถึงกับพูดอะไรไม่ออก คู่ควงของเธอที่ได้เจอกันเมื่อคืนก่อน...กับ "คุณยู" หนุ่มปาร์ตี้ ที่ใครๆต่างก็พูดถึงในตอนนี้เป็น...

 “นี่อย่าบอกนะ...ว่าพวกคุณ.....พวกคุณ....โอ้ย ไม่เอาแล้ว ผู้ชายสมัยนี้" ทั้งๆที่คิดว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนกันนั่นน่าจะเจ๋งดี แต่เลยเถิดไปถึงแบบนี้ก็ทำเอาเธอทนไม่ไหวเหมือนกัน
 "ฉันไปล่ะ" ท่าทีน่ารักเมื่อครู่นี้ไม่เหลืออยู่เลยหญิงสาว ร่างบางในชุดเสื้อผ้า...รัดๆ.. เดินสะบัดกลับไปอย่างไม่พอใจนัก  แต่ก็ดูเหมือนอินทัชจะไม่ได้สนใจหญิงสาวคนนั้นเลยแม้แต่น้อย เขาลากวรัญญกลับเข้าไปในห้อง มือแกร่งปิดประตูดังปัง

.......................

" ว่าไงล่ะ .. คุณยู..มีอะไรจะพูดไหม...แนะนำตัวกันอีกรอบจะเป็นไง”

อินทัชเอ่ยถามด้วยใบหน้าประหนึ่งคนที่ถือไพ่เหนือกว่า ดวงตาคมหรี่มองหน้าของอีกฝ่าย สองแขนล้อมกรอบคนตัวเล็กกว่าเอาไว้กับประที่เพิ่งจะปิดลงไปเมื่อครู่

"พูดเรื่องอะไรกัน น้าไม่เห็นจะรู้เรื่อง" ผู้ที่ถูกเรียกยังคงยืนยัน แต่อินทัชไม่ตอบมือแกร่งดึงยางรัดผมของอีกฝ่าย รวมถึงแว่นตาออกก่อนจะจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
“ก็นี่ไง..... อธิบายมาซิ่” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงทุ้มที่แฝงไปด้วยอำนาจ
"โอ้ย เจ็บนะ" เสียงผู้เป็นน้าโวยวาย เมื่ออินทัชได้เห็นหน้าของวรัญญูตรงๆแบบนี้ก็เหมือนได้ทบทวนความทรงจำของเขาอีกครั้ง ใบหน้าได้รูปล้อมกรอบด้วยเส้นผมยาวสีดำสนิทริมฝีปากสีสวนดูดื้อรั้น คงไม่ได้ต่างอะไรกับนิสัยที่แสดงออกมา ใช่...เป็นคนๆนี้ไม่ผิดแน่นอน
" สวัสดีครับ คุณวรัญญู รู้สึกจะมีสองชื่อนี่นะ จะให้เรียกชื่อไหนดีล่ะ ยู?...เซเล็บที่ใครต่อใครก็ว่ารวยมาก .. เพราะตาเฒ่าภูธร ธิติเดชาพงศ์ นึกสนุกอยากจะรับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านประเคนเงินให้เอาไปถลุงเล่น...เอ หรือจะให้เรียกว่า รัน...ก็เหมาะดีนะ นายวิ่งหนีหน้าฉันมากี่คืนแล้วล่ะ ฉันถึงไม่เห็นนายไปที่ผับนั่นเลย"
"นั่นมัน..." ชายหนุ่มร่างบางตั้งใจจะเถียง แต่ในความคิดของเขาตอนนี้ มันมีแต่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของชายชราใจดีที่ต้องการให้เขาทำความรู้จักกับหลานชาย และอยากจะให้เข้ากันให้ได้มากๆเท่านั้น

"นั่นมันแล้วแต่ "คุณ" จะคิด"สรรพนามที่ใช้เรียกชื่อของอีกฝ่ายนั้นต่างออกไปจากเดิม

" แล้วแต่ฉันจะคิด?...ได้.... " นิ้วแกร่งเชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมา
" ถ้าฉันจะบอกว่า ฉันตามหานายมาตั้งแต่คืนนั้น..นายจะคิดว่าไงล่ะ? " ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้จนแทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของชายสูงวัยกว่า
"หา?... " คำพูดของอีกฝ่ายทำให้วรัญญู หรือที่ในยามค่ำคืนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ยู" ต้องเลิกคิ้วสูงขึ้นด้วยความประหลาดใจ
"หลานจะมาตามหาน้าให้ได้เรื่องอะไรขึ้นมา ...ไม่รู้ล่ะ เอาแว่นผมคืนมาด้วย ต่อให้เป็นหลานก็ไม่มีสิทธิ์ จะมาดึงแว่น ดึงผมของผมเล่นแบบนี้ " ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง ไม่ได้ดูนิ่งเฉยไร้อารมณ์และเต็มไปด้วยรอยยิ้มจอมปลอมแบบเมื่อครู่ใหญ่ๆก่อนหน้านี้
" ฉันตามหา คนที่ให้ท่าฉันที่ผับ คนที่ชื่อยู..คนๆนั้นก็คือนายไม่ใช่หรือไง? " ชายสูงวัยกว่าโยนแว่นทิ้งไปอย่างไม่ยี่หระ
"นั่นมัน... บังเอิญ เฮ้ย...แล้วนั่นมันแว่นผม" วรัญญูดันไหล่กว้างของอีกฝ่ายออก ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเก็บแว่นกรอบเงินของตัวเองขึ้นมาใส่

ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึกราวกับจะพยายามสงบสติอารมณ์ ให้กลับเข้าสู่ ตัวละครเดิมๆ ของตัวเอง...สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมันยิ่งตอกย้ำถึงความรู้สึกสับสนของตัวเองในเช้าวันนั้นในห้องอาหารที่บ้านของพ่อบุญธรรม คำว่า “คืนนั้น” ที่อีกฝ่ายย้ำนักย้ำหนา...เขาไม่อยากจะบอกเลยว่า เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรลงไปใน “คืนนั้น”   จำไม่ได้จนกระทั่งเห็นหน้าของอีกฝ่ายเดินหน้าบึ้งตึงเข้ามาในห้องอาหารในเช้าวันนั้น!

....งานเข้าแล้วไหมล่ะ....

วรัญญูอยากจะร้องแบบนั้นออกมาให้มันดังๆเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเขาคาดเดาไม่ออกเลยว่า พ่อบุญธรรมของเขาจะคิดว่าอย่างไร ที่ลูกบุญธรรมไปยั่วยวนให้ท่าหลานชายของตัวเองแบบประชิดแนบเสียติดเนื้อขนาดนั้น ไม่พอ...ยังเอาเงินส่วนหนึ่งที่พ่อบุญธรรมให้มาเป็น “ค่าขนม” ไปใช้จ่ายเสียขนาดนั้นด้วย

" จะบอกว่าบังเอิญให้ท่ารึไง? " อินทัชถาม มือแกร่งไล้กับผิวแก้มที่ตัวเองเคยใช้ริมฝีปากคู่นี้สัมผัสแผ่วผ่านไปเมื่อคืนก่อน...เขายังจำสัมผัสหอมหวานนั่นได้ดี...
"ใช่!!...” ดวงตากลมโตสะท้อนประกายกร้าว ดูชวนมองอย่างประหลาด น่าเสียดายที่ยามปรกติมักจะใช้กรอบแว่นสีเงินที่ดูภูมิฐานขัดกับใบหน้านั้นซ่อนเร้นเอาไว้
“พอใจรึยัง? ทีนี้ กลับไปทำตัวให้เหมาะกับการเป็นน้าหลานกันได้แล้ว "วรัญญูแทบจะตะโกนคำแรกออกมาดังๆ ก่อนที่มือเรียวใส่แว่นกลับคืนเข้าที่ ดวงตาใต้กรอบแว่นนั้น เป็นประกายดูมั่นใจ เย่อหยิ่งเหมือนคืนก่อนหากแต่ไม่ได้แฝงความนัยเอาไว้เหมือนอย่างที่อินทัชเคยเห็น
" ในฐานะนั้น ฉันไม่สน .. แต่ฉันอยากได้ ...ยู..มากกว่า "

คำพูดตรงๆไม่มีอ้อมค้อมส่งมาพร้อมกับดวงตาคมที่ทำให้เจ้าของชื่ออย่างวรัญญูต้องสูดลมหายใจเข้าลึก เพราะมันทำเอาหนุ่มปาร์ตี้ที่ไม่เคยแม้แต่จะแสดงท่าทางเคอะเขินยามที่ออกไปเต้นอยู่กลางฟลอร์ต่อหน้าผู้คนมากหน้าหลายตาถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึง

"เอ่อ...อ้อ ถ้าอย่างนั้นแผนยั่วของผมคงจะได้ผล ดีนะที่ผมไม่ใช่คนเลวร้ายเหมือนในละคร...ไม่อย่างนั้นคงได้ฮุบให้หมดทั้งคนทั้งบริษัท...” วรัญญูหัวเราะเสียงสูง
“แต่ก็นะ พอดีผมเป็นคนดีกว่านั้น...เอาเป็นว่า...” ดวงตาคู่สวยนั่นกลับมองผ่านกรอบแว่นนั้นมาอย่างเหยียดหยัน “ผมขอแค่บริษัทก็พอ...ตัวคน...ผมไม่เอา"
" ก็ถ้าอยากได้บริษัท ก็เอาตัวมาสิ .. แล้วจะยกให้" แต่อินทัชก็โต้ตอบทันควัน ร่างสูงกว่าเดินเข้าไปหมายจะโอบเอวเล็กเข้ามาหาตัว

"ผั่วะ!!"


แต่ก่อนที่จะได้ทันถึงตัว เสียงหมัดกระทบเข้ากับใบหน้าของว่าที่ประธานบริษัทคนต่อไปเข้าอย่างจังทำเอาร่างสูงกว่าเซไปอีกทาง อินทัชยกหลังมือขึ้นเช็ดมุมปาก เขาได้รสเลือดกระจายไปทั่ว อีกฝ่ายซัดเข้ามาเต็มแรงไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเผลอกัดปากไป...
 
"เผลอยั่วไปก็จริง แต่ไม่ได้จะมาขายตัวนะเว้ย! คนอย่างคุณนี่มัน....ไปตายซะไป!"
วรัญญูชี้หน้าอีกฝ่ายพลางตะโกนลั่นด้วยความเหลืออดกับคำพูดดูแคลนของอินทัช ก่อนจะเดินเลี่ยงหมายจะออกไปจากคอนโดของอินทัชทันที แผนการที่คิดว่าอยากจะมานั่งพูดคุยถึง “สถานการณ์” ของตนเอง มา “กระชับมิตร” น้า-หลาน ตามที่ตั้งใจมีอันต้องพังลงไม่เป็นท่า เขาไม่มีอารมณ์จะมาพูดคุยอะไรต่ออีกแล้ว

...คิดว่าอะไรๆ มันจะง่ายกว่านี้เสียอีก...
..นี่มาให้เขาดูถูกฟรีๆอีกต่างหาก....
....ขอโทษนะฮะ คุณพ่อ...


" หึ หึ  "

พลันได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้าของห้องดังขึ้นมาจากด้านหลัง ช่วงขาเพรียวหยุดที่หน้าประตูห้องก่อนจะหันกลับมาพบว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องนั้นกำลังจุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างสบายใจ  

"ยังจะหัวเราะได้อีกนะ..โดนต่อยก็แล้วยังจะมีอะไรน่าสนุกนักหรือไง...คนปากเสียๆน่ะ โดนต่อยก็สมควรแล้ว.... " วรัญญูมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง เสียงหัวเราะนั่นยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ร่างบางกำลังจะเดินออกไปพ้นประตูเมื่อได้ยินเจ้าของห้องพูดขึ้นมาอีกครั้ง
" พอทำแบบนี้ค่อยดูสมวัยหน่อย "ริมฝีปากได้รูปยิ้มที่มุมปากกับท่าทางและคำพูดที่ควรจะเป็น ไม่ใช่การปั้นท่าทางที่พยายามจะทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่จนเกินอายุ
"สมวัย?..." คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาวรัญญูต้องหยุดแต่ก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปมอง มือเรียวที่จับลูกบิดประตูยู่นั้นเกร็งแน่น
"...คุณน่ะจะไปรู้เรื่องอะไร..."   เสียงนุ่มนั้นพึมพำออกมาเบาๆ

....คิดว่าผมอยากจะตกถังข้าวสารใหญ่ขนาดนี้อย่างนั้นเหรอ....

"เป็นคุณ คุณจะทำยังไงถ้าอยู่ๆ ต้องมามีหลาน แก่กว่าแบบนี้ล่ะ" วรัญญูเอ่ยถามออกไปตรงๆ มันเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เขาต้องปฏิบัติกับอีกฝ่ายแบบนี้...
" เลยต้องยกตัวเองข่มงั้นเหรอ นายน่ะถ้าทำตัวปกติ ก็คงไม่มีปัญหากับฉันหรอก  " เสียงทุ้มดังขึ้นที่ด้านหลังไม่ห่างออกไปนัก มือแกร่งของอินทัชกุมมือเล็กกว่าของวรัญญูที่จับลูกบิดประตูเอาไว้หลวมๆ ก่อนที่อินทัชจะค่อยๆส่งแรงช่วยให้อีกฝ่ายบิดลูกประตูนั้นเปิดออก ...เขาสัมผัสได้ว่ามือเล็กนนั้นกำลังสั่น...
"เอาเป็นว่า.. ฉันจะให้นายแก้ตัว .. คราวหน้า " เจ้าของห้องว่าพลางเปิดทางให้กับวรัญญู
“..........................................” คำพูดที่ทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กนั้นยิ่งท่ำให้วรัญญูรู้สึกไม่พอใจ ชายหนุ่มร่างเล็กกว่ายืดคอเกร็งไหล่ พลางหันไปมองหน้าของอินทัช ดวงตากลมเป็นประกาย
"เสียใจ น้ายังไงก็คือน้า" ชายหนุ่มร่างบางเอ่ย พลางขยับแว่นขึ้นเล็กน้อย ทำท่าทางเหมือนโตกว่าวัยเช่นทุกครั้ง
" ก็บอกแล้ว...ว่าฉันไม่เอาน้า "มือแกร่งดันหลังอีกฝ่ายออกจากห้องไป " กลับดีๆล่ะ " ว่าพลางก็โบกมือให้เหมือนจะส่งเด็กไปโรงเรียน หรืออะไรเช่นนั้น รอยยิ้มระรื่นแบบนั้นของอินทัชแม้ว่าอาจจะชวนให้ใครต่อใครหลงใหลแต่คงไม่ใช่วรัญญูในตอนนี้เป็นแน่ ในสายตาของเขาดูอย่างไรมันก็ช่างกวนประสาทเสียเหลือเกิน

...ฉันก็ไม่ได้อยากได้หลานโข่งขนาดนี้หรอก...

วรัญญูคิดในใจ แต่ก็ได้แต่เก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ ชายหนุ่มร่างบางมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะปั้นยิ้มจอมปลอมให้กับอินทัช

"หวังว่าน้าจะได้เห็นเธอที่บริษัทนะ อินทัช "

คิ้วได้รูปของอินทัชขมวดมุ่น ทำไมอีกฝ่ายช่างหาเรื่องพูดให้เขาหงุดหงิดได้แบบนี้นะ ท่าทางแบบนั้นมันไม่ได้เหมาะกับหน้าตาแบบนั้นเลยไม่ใช่หรือไง คิดได้แบบนั้นมือแกร่งก็รวบเอาเอวบางของ “คุณน้า”ของเขาเข้ามาหาตัว

" เลิกพูดแบบนี้ซะ..ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้นายเรียกฉันแบบนั้นไม่ได้อีก " ดวงตาคมจ้องหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง น้ำเสียงทุ้มนั้นขมขู่ดูเอาจริงอยู่ไม่น้อย
"ฮ่ะ...มันคงน่ากลัวนักล่ะ...จะทำอะไร ใช้วิธีปิดปาก แบบ โบราณๆที่ น้าที่เกิดหลังเธอไม่รู้จักอย่างนั้นเหรอ..."ดวงตาสีเข้มจ้องอีกฝ่ายกลับผ่านกระจกใสของแว่นสีเงิน
“ระวังจะเจออีกซักหมัดนะ คราวนี้จะซัดให้ฟันหักเลย...ไอ้ที่แก่ๆอยู่แล้วจะได้แก่สมวัย”
" ปากดีจริงนะ ไอ้วิธีปิดปากเนี่ยถึงจะรู้จักแล้วก็ไม่เห็นเสียหาย. ..สอนอีกครั้งก็ยังได้ อย่าลืมนะว่า ฉันยังอยากได้นายอยู่ " อินทัชขู่แต่กลับปล่อยมือออกจากเอวบาง พลางส่ายหน้าอย่างระอากับท่าทีไม่ยอมลดไม่ยอมละของวรัญญู
"เฮ้อ เบื่อจะเห็นหน้าแล้ว...รู้ไหมว่าการพยายามจะทำตัวเป็นน้าของนายมันน่าหัวเราะแค่ไหน "อินทัชหัวเราะหัวเราะในลำคอราวกับจะเย้ยหยันพร้อมโบกมือไล่  
" ไปซะ "
"ไม่ต้องบอกก็ไปแน่ล่ะ หลานบ้าๆ...คอยดู...คุณพ่อจะไม่ให้บริษัทเธอแน่ อินทัช!" ถึงคำพูดจะประดิษฐ์เสียแก่แดดแต่วรัญญูกลับใบหน้าแดงก่ำเมื่อรู้สึกเริ่มทำตัวไม่ถูก ก่อนจะรีบเดินหนีไป ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของ “หลานชาย” ดังขึ้นไล่หลังลั่นที่โถงทางเดินจนรู้สึกอายจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ จนต้องทำเสียงประหลาดๆพลางชูไม้ชูมือไปตามทางเดินเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ของตัวเองไปตลอดทาง...

.............................to be con.
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 26-11-2010 21:48:45
อ่านไปแล้วเหมือน ยูจะไม่ใช่คนดี แต่ก็เหมือนจะ เป็นคนดี   ดูๆกันต่อไปแล้วกันเน๊อะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-11-2010 22:01:39
 :L1:ลุ้นเรื่องราวตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 26-11-2010 22:33:42
ไหวมั้ยน้าหลานคู่นี้ เป็นอย่างอื่นน่าจะง่ายกว่าเหอะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 26-11-2010 22:49:09
(http://i40.photobucket.com/albums/e223/kuruminna/run2.jpg)

โธ่..น้ารัน..โดนเปิดเผยตัวซะแล้ว อย่าดื้อกับหลานให้มากนะจ๊ะ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย อิ อิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 26-11-2010 23:04:02
โอ๊ยย ปะทะกัน น่ารักจริงๆ
สงสัยจังมะไหร่น้า จะโดนจับกด เพราะปาก
แต่อย่างว่านะ นุ้ง ยู เล่น ข่มซะขนาดนั้นอ่ะ
เผลอยั่วผิดคนด้วย  :laugh: :laugh:
มารอตอนต่อไปจ้า มาไวๆนะค๊า เริ่มติดหล่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 27-11-2010 15:25:07
เหมือนยูจะไม่ใช่คนดีเลยเนอะ
เอาเงินมาใช้เล่นซะแบบเลี้ยงเหล้าคนทั้งร้านน่ะ

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: NumPing ที่ 27-11-2010 19:51:24
สนุกจัง เนื้อเรื่องน่าติดตามมาก

อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป น้าหลานคู่นี้ จะรักกันยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: p_pink ที่ 27-11-2010 20:55:15
เข้ามาติดตามซีรี่ยส์ใหม่ของสองนักเขียนเจ้าเดิมจ้ะ  :กอด1:

โอ๊ะโอ! ยังไม่ทันไรคุณหลานก็เกิดอาการอยากเปลี่ยนสถานะกับคุณน้าเข้าซะแล้ว อย่างนี้คุณน้าจะทำยังไงกันล่ะเนี่ย
"ยู" หรือ "รัน" แบบไหนที่เป็นตัวจริง? เป็นคนทั้งสองบุคลิก หรือว่าไม่ใช่ทั้งสองแบบ

....คิดว่าผมอยากจะตกถังข้าวสารใหญ่ขนาดนี้อย่างนั้นเหรอ....
ยังไงกันแน่นะ ... สงสัยและติดใจกับประโยคนี้จริงๆ จ้ะ  :m29:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 27-11-2010 21:50:55
ถึงจะตะหงิดๆ กะสรรพนามก้อเหอะ
มันดูไม่เข้ากันเลยเนอะ เหอๆ

แล้วอะไรกันน๊าา ที่ยอมมาเป็นน้าของหลานตัวแสบ
เ๊อ๊ะ!!! หรือ น้าจะแสบกว่า
ลุ้นนนนจ้าาา

ปล.ถ้าน้าแสบกว่า จับปล้ำเลยคุณหลาน กร๊ากกก
ย่นระยะทาง ให้สนิทกันไว้ขึ้นนนนนน ^ ^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 27-11-2010 22:59:03
น่ารักจัง............
เรื่องนี้คอมเมดี้ใช่ไหม......
หรือจะแอบใส่มาม่า orz
แสดงว่าน้องน้อยใกล้จบแล้วจิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 28-11-2010 18:54:54
ตามมาอ่านแล้วจ้าา
เรื่องนี้ท่าทางจะน่ารัก แต่ก็ยังไม่วางใจ - -"
ดูเหมือนนอกจากเรื่องคุณตาเป็นคนรักเก่าของคุณย่ารันแล้ว ดูเหมือนรันจะมีปมในใจนะ?
รออ่านต่อนะคะ มาต่อเรื่องนี้ด้วยน้าา ชอบๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-11-2010 21:33:46
รอยู่น๊าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 2 26/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-11-2010 23:02:37
ตามมาอ่านเรื่องใหม่ทันแล้วนะคะ

เรื่องนี้ก็สนุกค่ะ น่าลุ้น ชวนติดตามตั้งแต่เริ่มต้นเลย
ยูหรือรัน ยอมมาทำหน้าทีคุณลูกเพราะอะไรกันนะ
แล้วอินทัชจะเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างมั้ย ท่าทางจะร้ายไม่ย่อยเลย

ไม่น่าจะมีมาม่าเนอะ หรือถ้ามีก็คงไม่บ่อย ไม่มาก ไม่ถึงกับจุก
ระแวงไว้ก่อน  :laugh:

 :L2: ขอบคุณสำหรับเรื่องใหม่นะคะ บวกแต้มเพิ่มยังไม่ได้จ้า

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 29-11-2010 22:38:09
@@@ Writer'sTalk @@@
ขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้รอ พีจังมัวแต่ไปแก้งานส่งรวมเล่มอยู่
โอ้ว ความอับอายทางวิชาการกำลังจะได้ถูกจารึกไว้....เรื่องมันเศร้าค่ะท่านผู้อ่าน :เฮ้อ:
แต่เอาเป็นว่า ไปอ่านเรื่องของคุณอินทัชกะวรัญญูกันต่อดีกว่านะคะ
และขอบคุณมากๆสำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ ช่วยอยู่เป็นกำลังใจกันต่อไปด้วยนะคะ  :กอด1:

.........................................



คืนนั้นอินทัชเดินวนเปิดตู้เสื้อผ้าค้นหาเสื้อสูทตัวงามที่เขาใส่ไปเที่ยวในคืนที่พบกับ “ยู” หรือ “รัน” ความทรงจำอันลางเลือนในคืนนั้นบอกเขาว่าอีกฝ่ายยัดอะไรบางอย่างใส่กระเป๋าเสื้อของเขามาด้วย

“เจอแล้ว...หลักฐานคาตายังจะมาเถียงว่าไม่ใช่ๆ ยั่วซะขนาดนั้นมีเหรอจะจำไม่ได้...”  มือแกร่งดึงนามบัตรนั้นออกมาดู ชื่อที่ปรากฏอยู่บนนามบัตรนั้นทำให้ยิ้ม  

วรัญญู ธิติเดชาพงศ์
เลขานุการ
บริษัท ........ ในกลุ่มบริษัท พีที กรุ๊ป.....

เลขา?...นี่คุณตาให้งานมาเป็นเลขาที่บริษัทเลยเหรอ?...” อินทัชอ่านทวนตัวหนังสือสีดำแบบเรียบๆบนกระดาษสีขาวเนื้อด้าน น่าแปลกใจเหลือเกินที่นามบัตรของอีกฝ่ายกลับเป็นเพียงแค่นามบัตรหน้าตาธรรมดาเรียบๆ ไม่ได้หรูหรา หรือ ดูฉูดฉาดเหมือนอย่างเจ้าตัวที่เขาได้พบเจอในผับนั่นไม่... ริมฝีปากได้รูปของอินทัชหยักยิ้ม

“ดี...ทีนี้นายจะทำตัวยังไง วรัญญู”

.....................................

เสียงล้อรถมินิคูเปอร์ใหม่เอี่ยมอ่องปีนขึ้นลานจอดรถของตึกสูงใจกลางกรุงดังก้องไปทั่วลานจอดรถแสนจะว่างเปล่าในเช้าตรู่ของวันจันทร์ ชายหนุ่มรูปร่างผอมบางก้าวลงมาจากรถยนต์คันกระจิดแต่ราคามโหฬารนั้นอย่างเนือยๆ มือหนึ่งถือกระเป๋าใส่เอกสารขึ้นวางไว้บนหลังคารถคันงาม อีกมือก็พยายามผูกเนคไทให้สวยงามได้รูป ใบหน้ามนหันส่องกระจกเช็คแล้วเช็คอีกว่าผมยาวประบ่าของตนเองนั้นรวบเรียบร้อย ดูภูมิฐานเข้ากับแว่นกรอบเงินแล้วหรือยัง
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอารมณ์จะมายิ้มให้กับกระจกเหมือนเช่นทุกที วรัญญูถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเอกสารและเดินเข้าบริษัทไป ด้วยท่าทีเหนื่อยๆเนือยๆไม่ได้มาพร้อมรอยยิ้มจอมปลอมที่พร้อมจะแจกใครต่อใครเหมือนเช่นทุกวันใบหน้าสวยภายใต้กรอบแว่นนั้นดูซีดเซียวเหมือนคนอดนอน

“สวัสดีค่ะ คุณรัน วันนี้ดูเหนื่อยๆนะคะ ...เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ” เสียงสุรีรัตน์พนักงานในแผนกเลขาเดินเข้ามาถามไถ่อาการเมื่อเห็น ลูกบุญธรรมของคุณภูธร เดินสะโหลสะเหลเข้ามาในแผนกเลขานุการ
“เอ่อ...แค่นอนไม่หลับน่ะครับ... พี่รัตน์ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ” ชายหนุ่มว่าพลางยิ้มแห้งๆ ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ประจำตำแหน่งของตัวเอง...จะให้นอนหลับได้ยังไง พอนอนก็มีแต่หน้าหลาน กับเสียงหัวเราะ ของหมอนั่นหลอกหลอนอยู่อย่างนั้นน่ะ...

...ไม่อยากได้น้า...

คำพูดนั้นทำให้วรัญญูรู้สึกอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ เขาไม่น่าเมาจนไปเล่นแบบนั้นกับอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวเลย วรัญญูพยายามสะบัดเอาความง่วงงุนนั้นออกไปให้พ้นตอนนี้เขาควรจะต้องโฟกัสกับงาน...

แต่เมื่อคิดได้แบบนี้ก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อคิดถึงคำว่างาน ดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นมองโต้ะทำงานของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งคำรบ อดคิดไม่ได้ว่ามันช่างเป็นโต้ะทำงานที่ว่างเปล่าเสียนี่กระไร สภาพของโต้ะทำงานที่มีเพียงแค่ เอกสาร สองสามแฟ้มที่แวะเวียนมาให้เขาช่วยพิมพ์งาน กรอกข้อมูลง่ายๆ แล้วก็ลอยผ่านไปจากโต้ะ เพราะมักจะมีคนมาเก็บไปเสมอ เหมือนกับว่าคนทั้งแผนกไม่อยากจะใช้งานเขาอย่างไรอย่างนั้น อันที่จริง แม้ตำแหน่งงานของเขาจะเป็น “เลขานุการ” ก็จริง แต่เขาไม่เคยได้ไปเดินต้อยๆตามหลังผู้บริหารคนไหนเลย  จะมีเคยเดินตามก็แค่คนเดียวซึ่งก็คือ รุ่งนภา พี่สาวบุญธรรม แม่ของอินทัชนั่นเอง ในวันแรกที่เธอพาเขามาเข้ามาฝากทำงานที่แผนกเลขานุการด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะมีโทรศัพท์โฟนอินเข้ามา ปลายสาย คือ พ่อบุญธรรมของเขาที่ประกาศประกาศิตกลายๆ ด้วยการฝากฝังพนักงานในแผนกเลขาทั้งหมดว่า

“ ทุกคน ฝาก วรัญญู ลูกชายผมด้วยก็แล้วกัน”

เพียงเท่านั้น...เขาก็มีสภาพประหนึ่งคนว่างงานมาเกือบสองเดือน...ไม่มีใครกล้าใช้งานเขาเลยแม้แต่คนเดียว

....แล้วแบบนี้มันจะเรียกว่างานได้ยังไง...

ชายหนุ่มร่างเล็กได้แต่ทอดถอนหายใจ พลันเหลือบไปมองเห็นปฏิทินตั้งโต้ะที่วงเอาไว้ด้วยปากกาสีแดงเส้นหนา ทำเอาวรัญญูผุดลุกจากเก้าอี้แทบไม่ทัน เขาลืมวันนี้ไปได้ยังไงกัน

“พี่รัตน์ครับ...วันนี้ ประธานจะเข้ามาใช่ไหมครับ”  แต่ยังไม่ทันที่เจ้าของชื่อจะได้ตอบโทรศัพท์บนโต้ะของวรัญญูก็ดังขึ้น โทรศัพท์ที่แทบจะไม่มีการใช้งานมาตลอดสองเดือนแผดเสียงลั่น ทำเอาคนเกือบทั้งแผนกที่เริ่มเข้าโต้ะประจำที่จะทำงานต้องหันมามองลูกชายบุญธรรมของคุณภูธรกันเป็นตาเดียว
 
“น้องรันคะ...ไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ” เสียงพี่รัตน์ดังขึ้นพลางชี้มาที่โทรศัพท์
“อ่ะ..เอ่อ...ครับๆ” วรัญญูรีบหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะกรอกเสียงลงไป...พยายามสงบสติอารมณ์มากที่สุด
“รับโทรศัพท์ช้าแบบนี้...ตัดเงินเดือนดีไหม...” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นจากปลายสายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับ...คุณอินทัช...” ทั้งๆที่เมื่ออยู่นอกบริษัทเขาทำตัวข่มอีกฝ่ายด้วยการพยายามเป็นน้ามาโดยตลอด แต่เมื่ออยู่ในบริษัทเขาจะต้องปรับเปลี่ยนท่าที
“เก็บของบนโต้ะที่แผนกซะ...ขนมาอยู่ที่โต้ะที่หน้าห้องผมนี่ แล้วเข้ามาพบผมที่ห้องด้วย...เร็วๆเข้าล่ะ” ผู้ถืออำนาจมากกว่าในบริษัทเอ่ยสั้นๆก่อนจะวางสายไป  คำพูดของอีกฝ่ายทำให้วรัญญู ยิ่งรู้สึกอยากจะเป็นลมมากยิ่งขึ้น

“โอย...นี่มันจะอะไรกันตั้งแต่หัววันล่ะเนี่ย...”

แต่ถึงจะบ่นหรือโอดครวญอะไรต่อไปก็ดูเหมือนจะป่วยการ วรัญญูคว้าสมุดจดบันทึกที่อย่างน้อยก็คิดว่าจะต้องใช้ ส่วนของที่เหลือ ชายหนุ่มมองดูของบนโต้ะโล่งๆของตัวเอง ไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร แต่เท่าที่คิดได้ก็มีเพียงแค่หยิบเอากล่องใส่เอกสารขึ้นมาวางไว้บนโต้ะเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน

“เอ่อ เดี๋ยวผมออกไปหาคุณอินทัชนะครับ”  วรัญญูเอ่ยขึ้น ทำเอาทั้งแผนกหันมามองกันเป็นตาเดียว
“เดี๋ยวค่ะน้องรัน...เอานี่ไปด้วยนะ” พี่รัตน์เดินเอาแฟ้มเอกสารมายื่นให้เหมือนรู้ว่าจะต้องใช้งาน ร่างเล็กวิ่งขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นบนของตึกทันที...หัวใจในอกเต้นโครมครามอยู่ไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกก็ได้ที่เขารู้สึกว่าจะได้ “ทำงาน” จริงๆ

....แม้ว่าเจ้านายจะเป็น เจ้าหลานโข่งคนนั้นก็เถอะ!!


เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานกว้าง เห็นชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีเข้มยืนอยู่ที่หน้าโต้ะประจำตำแหน่ง ในมือมีแฟ้มเอกสารยืนพิงโต้ะอ่านอยู่ท่าทางสบายใจไม่น้อย

" มาสายนะ ผมขอวาระการประชุมด้วย "
"ผม...เอ่อ...นี่ครับ" วรัญญูพัลวันหยิบเอาวาระการประชุมที่โชคดีพี่รัตน์บอกให้เขาเอามาด้วยเมื่อครู่นี้ยื่นให้กับอีกฝ่าย  
" แล้วโทรนัดรึยัง? "เขากวาดสายตาเอกสารในมือ
"เอ๊ะ...เอ่อ ซักครู่นะครับ..." ร่างเล็กกว่ารับคำเสียงเบา พลางเปิดดูสมุด ใช่แล้ว...เขาโทรนัดไปเมื่อวันก่อน...แต่เขาดันลืมไปเสียเพราะมัวแต่ว้าวุ่นใจกับเรื่องที่เจอกับอีกฝ่ายที่บ้ายของภูธรนั่นล่ะ
"วันนี้มีเรื่องที่ต้องประชุม เป็นเรื่องสำคัญมาก หุ้นส่วนบริษัทต้องร่วมกันตัดสินใจ ขาดใครไม่ได้ " ว่าพลางก็ส่งแฟ้มที่ยืนอ่านอยู่เมื่อครู่ให้กับวรัญญู “ไปโทรตามมาให้หมด”
"อ่ะ...ครับ" เลขาประจำตัวรับคำอย่างไม่มั่นใจนัก ดวงตาคู่สวยกวาดมองรายชื่อของผู้ถือหุ่นที่อยู่ในลิสต์ มันมีมากกว่ายี่สิบชื่อเลยทีเดียว
"มีอะไรอย่างอื่น อีกหรือเปล่าครับ...ถ้าไม่มีผมขอตัว" ชายหนุ่มร่างบางว่า พลางขยับถอยออกมาเล็กน้อย สายตาที่มองมาของหลานตัวโข่งก็ทำเอาหนาวสันหลังวาบๆ ไม่อยากจะอยู่ใกล้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่เป็นอันหลับอันนอนให้มันนานนัก  

" หน้าที่ของนายคือทำบันทึกการประชุม .. เตรียมตัวซะ วันนี้นาน " อินทัชสั่งงานยิ้มน้อยๆที่มุมปาก อีกฝ่ายอยู่ในบริษัทแบบนี้ก็มีฐานะเท่ากับเลขานุการ...อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา เป็นแบบนี้แล้วก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าวรัญญจะมีท่าทีแบบไหน
"ครับ" น่าแปลกใจที่วรัญญูกลับรับคำอย่างสุภาพ สีหน้าเรียบเฉย...อย่างน้อยก็ทำให้ดูเหมือนเรียบเฉย “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวครับ...ต้องจัดการกับรายชื่อนี่ก่อน” ว่าพลางก็ค้อมตัวเล็กน้อยให้กับผู้ที่ตามเอกสารแล้วมีศักดิ์เป็นหลานของตัวเอง

................................

หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา วรัญญูก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของอินทัชพร้อมสัมภาระที่จัดแจงขนย้ายมาไว้ที่โต้ะที่หน้าห้องของ “ท่านประธาน”ก่อนจะเดินไปเข้าในห้องทำงานของอินทัชพร้อมทั้งรายงานเรื่องของผู้ถือหุ้นที่จะมาพร้อมประชุมกันในอีกหนึ่งชั่วโมง โดยที่ไม่ได้เล่าให้อีกฝ่ายฟังว่าเขาต้องเจอกับคำเหน็บแนมมากขนาดไหนกว่าจะทำการนัดหมายแทรกตารางได้จนครบทุกคน แถมยังต้องวุ่นวายเก็บเอกสารเก็บของหอบหิ้วย้ายจากชั้นล่างขึ้นมาข้างบนนี่อีก

"เฮ้อ.... " ชายหนุ่มร่างบางแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่ออินทัช หันหน้าไปอีกทาง ถ้อยคำเหล่านั้นของเลขาฯของผู้ถือหุ้นทั้งหลาย หรือแม้แต่ตัวคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น “ผู้หลักผู้ใหญ่” มันยังคงเสียดแทงเข้าไปในอก อึดอัด....จนต้องแอบถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งคำรบ
" เมื่อกี้คงไม่ได้หาวใช่ไหม..เตรียมตัวหรือยัง? ทำบันทึกประชุม ต้องมีสติกับหัวข้อตลอดเวลา แต่ถ้ากันพลาด ก็ใช้เครื่องบันทึกเสียงอัดเอา...อย่าหลับกลางทางก็แล้วกัน   " อินทัช สอนอีกฝ่ายราวกับเป็นเด็กฝึกงานเพราะท่าทางงกๆเงิ่นๆของวรัญญูนั้นเหมือนจะเป็นเช่นนั้นมากกว่าเป็นเลขาเสียอีก

การประชุมอันน่าเบื่อหน่ายยาวนานและน่าปวดหัวมากสำหรับวรัญญูเริ่มขึ้นด้วยความวุ่นวายด้วยความไม่รู้อะไรทำให้เขาเอาน้ำเปล่าเสิรฟแขกที่มา จนต้องเปลี่ยนเป็นน้ำส้มและกาแฟอย่างดี ทำให้เสียเวลาในการเตรียมสถานที่ไปมาก และ ก็จบลงด้วยดารที่ผู้บริหารทุกคนเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าแช่มชื่นเมื่อข้อตกลงนั้นไม่มีปัญหาอะไร อินทัชดูจะจัดการในการนำการประชุมครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ต่างกับตัวเขาเองที่ดูเหมือนจะถูกกระชากเอาวิญญาณ ออกไป

"เฮ้อ... "วรัญญูถอนหายใจออกมาเมื่อกลับไปนั่งที่โต๊ะ เขายังต้องถอดบัญทึกการประชุมยาวเหยียดนี่อีก มือเรียวกดปุ่มเล็กๆบทเครื่องบันทึกเสียง แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเครื่องบันทึกเสียงนั้นไม่มีเสียงออกมา
"...เอ๊ะ...ทำไมไม่มีเสียงล่ะ" เหมือนอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ มือเรียวจับเครื่องบันทึกเสียงนั้นผลิกซ้ายขวา  
"เอ้ยย...กดผิดนี่...ตรงไหนล่ะๆๆ" วรัญญูโวยวาย เมื่อ รู้ตัวว่ากดปุ่นอัดเสียงแทนที่จะเป็นปุ่มเพลย์ เป็นนานเหมือนกันกว่าจะตั้งสติกดหยุดเทปได้  เสียงโวยวายนั่นทำให้ประธานบริษัทอย่างอินทัชเดินออกจากห้องมา พร้อมกับบันทึกสั้นๆ ได้ใจความที่เขาจดเอาไว้เอง เกี่ยวกับเนื้อหาการประชุม กระดาษบันทึกสี่ห้าแผ่นวางลงตรงหน้าของคนที่นั่งโวยวายกับเรื่องของเทคโนโลยี
" ขยายความเอาก็แล้วกัน มีอะไรสงสัยให้ปรึกษา ...คุณธิดา ตอนนี้ย้ายไปฝ่ายขายแล้ว "
“...............................” วรัญญูไม่ได้พูดอะไร ดวงตากลมภายใต้แว่นกรอบเงินบางนั้นเหลือบมองหน้าอีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูก ก็อยากจะขอบคุณแต่ก็เจ็บใจจนเกินกว่าจะพูดออกมาได้ ชายหนุ่มรับเอาเมโมนั้นเอาไว้ มือเรียวกำแน่น  

"อย่างที่คิด ตำแหน่งนี่มันดูจะไม่เหมาะจริงๆด้วย"
เป็นครั้งที่เท่าไรของวันแล้วที่วรัญญูพึมพำออกมาเบาๆแต่คำพึมพำเบาๆของเขาก็ปเข้าหูของอินทัชเข้าจนได้ ร่างสูงขยับตัวมานั่งที่ของโต้ะของวรัญญู วางมือเท้าลงกับโต้ะพลางโน้มตัวลงมาใกล้

" ก็ไหนว่าอยากฮุบบริษัทไม่ใช่เหรอ...ฉันไม่ได้ขู่นะ .. แต่ถ้าอยากเป็นประธานต้องศึกษางานให้มากกว่านี้ งานของประธานคือ รู้งานของทุกคนในองค์กร ถ้านายทำได้ .. นายก็บริหารทั้งงานทั้งคนได้ "ชายหนุ่มสอนอีกฝ่ายก่อนจะกดโทรศัพท์ที่โต๊ะของเลขามือใหม่
" ฮัลโหล คุณธงชัยใช่ไหมครับ นี่ผม อินทัชนะครับ ช่วงนี้ถ้ายังไง ผมขอยืมตัวคุณธิดามาทำงานแผนกเลขา แล้วให้เขามาช่วยติวงานให้เลขาคนใหม่ของผมหน่อยจะได้ไหมครับ...คงไม่ขัดข้องนะครับ " คำพูดของประธานทำให้เลขาฝึกหัดอย่างวรัญญูต้องหันไปมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

...จะทำอะไรอีกล่ะ...

" เอาล่ะ เดี๋ยวคุณธิดาจะมาสอนงานเลขาให้นาย ตั้งใจเรียนรู้ให้มากล่ะ .. ตารางนัดช่วงบ่ายมีอะไรไหม วรัญญู " เขาถามเลขาของตนเองที่มีศักดิ์เป็นน้าบุญธรรม
"เอ่อ....” วรัญญูพลิกหน้ากระดาษสมุดจดรวดเร็ว “ช่วงบ่ายมีนัดเจรจาธุรกิจกับบริษัท Aที่โรงแรม...ตอนบ่ายสองครับ" ชายหนุ่มร่างเล็กใช้ปลายนิ้วปัดผมที่ตกลงมาบังหน้าของตัวเองขึ้นทัดข้างหูเล็กน้อย ก่อนจะปิดสมุดจดบันทึกลง
“โอเค...งั้นตอนบ่ายก็ตามผมออกไปด้วยก็แล้วกัน ถือว่าไปเรียนรู้งาน...”

ท่าทางที่เหมือนกำลังสั่งสอนเขาอยู่ตลอดเวลาทำให้วรัญญูต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่อัดอั้นอยู่ในใจออกไป

"แล้วก็ขอบคุณที่อุตส่าห์เป็นห่วงเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานของผม..." วรัญญูพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้แล้วพยายามจะพูดกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ ทั้งๆที่คิ้วเรียวนั้นชมวดมุ่นอย่างเห็นได้ชัด จริงๆในใจตอนนี้ เขาจะไม่อยากยืนอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าถอยตอนนี้ ถอนตัวเสียตอนนี้แล้ว...เขาจะทำยังไงต่อไป ปล่อยให้คนตรงหน้ายิ้มเยาะอย่างนั้นเหรอ

…หลานโข่งนี่ หมดเวลางานเมื่อไรนะ...น่าดูแน่....

“ก็...เท่าที่เห็นมันก็น่าห่วงนี่นะ....” อินทัชยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจของอีกฝ่าย ก่อนจะกลับข้าไปในห้อง ทิ้งให้ผู้มีศักดิ์เป็นน้าของเขาศึกษางานกับธิดาเมื่อเห็นว่าเธอเดินมาถึง ชายหนุ่มเพียงแค่มองหน้าธิดาเท่านั้นแล้วหญิงสูงวัยคนนั้นก็เหมือนจะเข้าใจได้ในทันทีว่าเขาต้องการจะให้เธอทำอะไรบ้าง

อินทัชเดินกลับเข้ามาในห้องทำงาน เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะขำในท่าทางงกเงิ่นของเลขามือใหม่อย่างวรัญญูหรือควรจะสงสารอีกฝ่ายดี แต่เท่าที่ดูแล้วก็พอจะดูออกว่าเจ้าของเส้นผมนุ่มคนนั้นฝืนใจกับงาน ราวกับว่านี่คือสิ่งที่ต้องทำเพียงเพราะมันเป็น คำสั่ง เป็นหน้าที่ ไม่ใช่สิ่งที่อยากจะทำจริงๆ...แต่ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การจับพลัดจับพลูเข้ามาทำงาน หรือเป็นความต้องการที่จะ “ฮุบ” บริษัทอย่างที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ แต่เมื่อเข้ามทำงานแล้ว เขาก็ไม่อยากให้ต้องเกิดปัญหากับวรัญญู ทั้งนี้ก็เพราะตัวชายหนุ่มร่างเล็กคนนั้นเอง..และเพื่อชื่อเสียงของเขาและบริษัทด้วยเช่นกัน

.............................

ช่วงบ่ายวรัญญูตาม อินทัชออกไปข้างนอกด้วยสีหน้าทีเพียงมองก็รู้ว่าเป็นเพียงแค่หน้ากากที่ทำการปั้นรอยยิ้มจอมปลอมฉาบเอาไว้ พวกเขาใช้เวลาหมดไปกับกาแฟอย่างดีและน้ำแร่ของโรงแรมสุดหรูไปอีกสามชั่วโมง ...และมันดูเหมือนว่าการรับงานวันแรกแบบเต็มๆสำหรับวรัญญูจะจบลงด้วย การที่ชายหนุ่มผมยาวคนนี้ต้องเสียพลังงานเกือบทั้งหมดไปเลยก็อาจจะว่าได้

"เฮ้อ..."วรัญญูถอนหายใจออกมาในทันทีที่ขึ้นรถ เขาไม่แน่ใจนักว่าวันนี้เขาถอนหายใจไปแล้วกี่ครั้งแต่อย่างน้อยเมื่อเขารู้ว่ามันจบแล้วเขาก็อยากจะถอนหายใจออกมาให้รู้สึกโล่งให้ได้มากที่สุด

" เหนื่อยรึไง? " เสียงทุ้มที่เริ่มจะคุ้นหู เพราะต้องเจอกันมาทั้งวันดังขึ้นข้างๆ อินทัชปลดเนคไทออกเล็กน้อย ช่วงขายกขึ้นนั่งไขว่าห้างท่าทางสบายๆ

"อ๊ะ...เปล่าครับ ไม่เลย" ชายหนุ่มร่างเล็กตอบแบบโกหกันเห็นๆ

" งั้นไปที่บ้านเลยก็แล้วกัน ...สุเทพแวะส่งวรัญญูที่บ้านด้วยก็แล้ว "อินทัชออกคำสั่งกับคนขับรถของบริษัท

รถของทางบริษัทพาประธานของบริษัทและเลขาส่วนตัว ผ่านการจราจรติดขัดในช่วงของเวลาเลิกงานกลับไปยัง คฤหาสน์หลังงามของบ้านธิติเดชาพงศ์ มองจากด้านนอกตัวบ้านใหญ่ดูสง่างามน่าเกรงเขม บ่งบอกได้ถึงอำนาจและบารมีของผู้เป็นเจ้าของอยู่ไม่น้อย

"เลิกงานแล้ว...ขอบใจมากนะ อินทัช" รอยยิ้มสวยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของวรัญญู ก่อนที่จะเปิดประตูรถ คำพูดเริ่มประโยคนั้นราวกับจะเป็นการกำหนดระยะเวลาว่า เวลาใดเขาควรจะทำตัวเป็นลูกน้อง และเวลาใดที่เขาควรจะทำตัวเป็นน้า แต่คนที่ตัดสินได้ว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะในยามนี้ก็คงจะมีแต่อินทัชเท่านั้น ซึ่งคำตัดสินนั้นก็แสดงออกมาทางสีหน้าของชายหนุ่มสูงวัยกว่า

" คราวหน้าเข้าประชุม ให้คุณธิดาเข้าด้วย นายคอยศึกษาจากเขาให้มากล่ะ " อินทัชตอบกลับมาราวกับว่าไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายกวนประสาทเขาก่อนจะโบกมือไล่ให้อีกฝ่ายลงจากรถไป วึ่งวรัญญูก็ตอบกลับด้วยแรงกระแทกเมื่อผลักประตูรถให้ปิดลง อินทัชมองใบหน้าหงิกงอของวรัญญูผ่านกระจกที่ติดฟิลม์เสียทึบ ก่อนบอกให้คนรถขับรถออกจากบ้านไป โดยไม่คิดแม้แต่จะเข้าไปทักทายผู้เป็นตาแม้แต่น้อย

................................


"เจ้าอินทัช มันเล่นมาซะอ่วมเลยล่ะซิ่" เสียงของชายชราดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้นเบาๆ ของเก้าอี้รถเข็น  ภูธรเห็นไฟของรถของทางบริษัทแล่นออกไปเมื่อครู่จึงได้ออกมารับลูกชายที่หน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างบางไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าไปอย่างเสียไม่ได้ มือเรียวปลดเนคไทออก ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟายาวของห้องนั่งเล่น

"ผมคิดว่าผมคงไม่เหมาะกับงานนี้หรอกครับ คุณพ่อ...ผมไม่อยากทำให้คุณพ่อเสียใจหรอกนะครับ แต่หากจะให้ผมพูดตามตรงผมคิดว่า ผมคงจะเหมาะกับงานเดิมมากกว่า" ดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มอ่อนแสงลง เขาไม่แน่ใจนักว่าชายชราจะสังเกตเห็นหรือเปล่า

"งานเดิมของเราน่ะเหรอ...มันจะไปได้ดีอะไรกัน ไม่ใช่ว่าพ่อดูถูกงานของเรานะแต่พ่อรู้ว่าเราคงไม่พอใจที่พ่อทำแบบนี้...แต่...เราเหมาะแล้วกับหน้าที่นี้...เชื่อพ่อ แล้วทุกอย่างจะดีเอง" เสียงภูธรพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เก้าอี้ไฟฟ้านั้นจะค่อยๆเลื่อนหายวเข้าไปในห้องหนังสือ ทิ้งให้ลูกชายอยู่เพียงลำพังในห้องนั่งเล่น วรัญญูนั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางความเงียบก่อนจะค่อยๆเอนตัวลงกับโซฟาตัวใหญ่ ร่างเล็กเหยียดขายาวยกแขนพาดก่ายหน้าผาก

....มันอาจจะดีถ้าเขาได้อยู่กับความเงียบนี้ซักพัก....



..........................................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 29-11-2010 22:45:58
จะได้ไหมล่ะยู 555
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-11-2010 22:50:04
 :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 29-11-2010 22:59:16
เหนื่อยแทน
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 30-11-2010 01:14:25
เหมือนโดนปั่นหัวยังไงไม่รู้สิ ถือซะว่า ได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ก็ได้น๊าาา
สู้ๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 30-11-2010 02:54:22
 :-[น่ารักจังเลยค่ะ

อิอิ

แวมาอัพเร็วน้า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 30-11-2010 06:58:09
การต้องมาเรียนรุ้งานใหม่แบบไม่ตั้งตัว ช่วงแรก ๆ อาจทำให้ดู งก ๆ เงิ้น ๆ ไปบ้าง
แต่อีกหน่อยคง คล่องปรื๊ด ๆ แล้วเมื่อนั้นค่อยมาเอาคืนภายหลัง
จากอาการของท่านประธาน ฯ ดูห่วงใย คุณน้าดีออก
มาลุ้นกันดีกว่า ว่าเมื่อไหร่ สองคนนี้จะลงเอยกัน
+1 ให้ทั้งสองคนครับ ช่วยกันดีจริง ๆ คนหนึ่งเขียน คนหนึ่งเติมเต็ม  :z1:
ปล. รอดูว่าเหตุใดคุณตาจึงเลือก " ยู " ให้มาทำงานนี้
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 30-11-2010 10:26:30
น่าเหนื่อยจริงๆด้วย
มันไม่ง่ายเลยนะนั่น
เฮ้ออออ สงสารยูจัง - -"
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 30-11-2010 11:03:21
งานเลขานี้มันวุ่นวายจริงCF !!!!!!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 30-11-2010 15:26:01
เหนื่อยแทน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 30-11-2010 16:43:42
 :z2: :z2: :z2: เหนื่อยแทนรันอะ  รันสู้ๆๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 30-11-2010 17:08:27
 o22
เหนื่อย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 30-11-2010 17:40:54
ตามมาแล้วค่ะ
สนุกแหงๆขนาดแค่เพิ่งจะเริ่มนะเนี่ย

แต่ว่า ที่ตอนแรกที่แปะเลยนั่นยังมีอยู่ที่หนึ่งที่ยังพลาดจากตาเป็นปู่อยู่นะคะ
ยังไงไว้ว่างๆก็อย่าลืมกลับไปแก้นะคะ

ที่แน่ๆขำอินทัช สรุปว่าเป็นเด็กขี้อิจฉานี่นะพระเอกของเราคนนี้ :m20:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-11-2010 18:12:38
เป็นเรื่องราวของคู่กัด ที่สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 01-12-2010 00:45:13
สู้ๆๆๆๆๆรัน
พึ่งเริ่มเอง
เรายังไม่คุ้นเคยยังไม่รู้จักเฉยๆๆๆ
พอเราเข้าใจเเล้วอะไรๆมันก็จะง่ายขึ้น
รวมทั้งเรื่องหลานโข่งตัวเท่าตึกนั่นด้วย

555555555555555555555
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 01-12-2010 04:42:22
และแล้วก็ติดงอมแงมอีกเรื่องจนได้ ^^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (คนเขียนขอลาป่วย)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 03-12-2010 16:23:18
คนอ่านที่รัก
ขออภัยถ้าจะต้องทำให้รอไปอีกซักหน่อย
ตอนแรกก็คิดว่าจะได้ช่วยเฝ้าไข้แม่ แด่ไปๆมาๆดันติดไข้เสียเอง
เลยมาขอลาป่วยซักพักค่ะ

รักและคิดถึงคนอ่านทุกคน
p.k.a
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 03-12-2010 19:21:01
ดูท่าคุณน้ายูจะเหนื่อยเอาเรื่อง ฮ่า
คนแต่งหายป่วยไวๆนะคะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 05-12-2010 00:37:57
มามะมาเทรนงานกับป้าแก่ ๆ มายูเดีย๋ยวป้าสอนให้
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-12-2010 00:16:32
หายไข้ไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 09-12-2010 00:16:08
หายเร็วๆ นะจ๊ะ

รอได้ ๆ ๆ ๆ ^^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 10-12-2010 20:45:42
หายไวไวนะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 12-12-2010 20:12:25
หายไวๆนะคะ
เรื่องนี้ดูท่าจะยุ่งละสิ หลานแก่กว่าเป็น 10 ปีเนี่ย
แล้วคุณตานี่คิดอะไรอยู่นะ 555
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 3 29/11/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 12-12-2010 20:57:19
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 13-12-2010 21:59:05
@@@Writer's Talk@@@
คนอ่านเจ้าขา...พีจังกลับมาแล้ววววววววว :กอด1: :กอด1:
ออกจากโรงบาล อาการดีขึ้นแล้วค่ะ เหลือช้ำๆตามตัว จากรอยเข็มเจาะฉึกๆ นิดหน่อย
(ถ้ายังไม่หายจะไปให้หมอเขาดูอีก...มันแปลกๆ )

แต่โดยรวมดีขึ้นมาก และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา....เราไปอ่านเรื่องน้าหลานกันต่อเลยดีกว่า หุหุ
............................................


....มันอาจจะดีถ้าเขาได้อยู่กับความเงียบนี้ซักพัก....


 
 
เข็มสั้นค่อยขยับเคลื่อนไปจนแสดงเวลาเกือสองทุ่มครึ่งชายหนุ่มร่างบางถึงยอมขยับจากโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่น

"ฮึบ!"วรัญญูขยับบิดซ้ายขวา ก่อนจะดึงยางมัดผมที่หลังหัวออก
"ไปเที่ยวให้หายเครียดดีกว่าเรา" ว่าแล้ว ลูกบุณธรรมของตระกูลธิติเดชาพงศ์ ก็เดินฮัมเพลงหายเข้าห้องของตัวเองไปก่อนจะออกมาในชุดเสื้อเชิ๊ตตัวบางลายฉูดฉาดกับกางเกงยีนต์ขาดๆตั้งแต่หน้าขาลงไป มือเรียวหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาดูในนั้นมีเงินสดพับอยู่นับหมื่นบาท และดูท่าทางว่าคืนนี้ มันจะหมดไปกับสถานบันเทิงในยามค่ำคืนเหมือนเช่นทุกที...มันเป็นวิธีเดียวที่เขาพอจะนึกออกเมื่อ “ต้อง” ใช้เงินค่าขนมพวกนี้ให้หมดไป

"จะเอาให้หายเครียดไปเลย" ชายหนุ่มหัวเราะกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินออกไป

……………………………………..


ผับที่คุ้นเคยในย่านกลางคืนของเมืองกรุง อินทัชในเสื้อคอวีสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้มนั่งอยู่ที่เก้าอี้มุมห้องดูเหมือนเขาจะมาที่นี่บ่อยๆ ตั้งแต่กลับมาจาก
เมลเบิร์นราวกับจะรอให้ใครบางคนมาพบเขาในบทบาทยามค่ำคืนอีกครั้งมือแกร่งยกแก้วมาร์ตินี่ขึ้นมาจิบ

"รอใครอยู่เหรอคะ " เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างอวบอัดในชุดวาบหวิวนั้นเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาที่เล่นไล้สีสันนั้นมองหน้าของอินทัชอย่างมีความหมาย

" มานั่งเป็นเพื่อนผมก่อนไหมล่ะ "มือแกร่งเอื้อมไปจับมือของสาวตรงหน้าแล้วดึงให้ลงมานั่งข้างๆก่อนลูบไหล่เนียนของสาวน้อยคนนั้นไปมา
" นั่งฆ่าเวลากันก่อนก็ได้ .. ดื่มอะไรดีครับ? "
"อืม ขอออนเดอะร๊อคซักแก้วก็คงจะดีค่ะ"หญิงสาวยิ้มหวานพลางส่งสายตาให้กับอีกฝ่าย  
" ได้ซิ่ครับ...ให้ผมเลี้ยงคุณเอง " ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาท์เตอร์

"จะรับอะไร...อ้าว คุณยู ไม่ได้มาเสียนานเลยนะครับ" ยังไม่ทันที่บาร์เท็นเดอร์จะได้หันไปรับออเดอร์จากอินทัช  คุณยู ที่ใครๆต่างก็ถามหาก็ก้าวเข้ามาเรียกเสียงฮือฮาให้กับในร้านได้เป็นอย่างดี ชื่อเรียกที่บาร์เทนเดอร์เอ่ยทำให้อินทัชต้องหันไปมองไปร่างนั้นทันที ดวงตาของทั้งคู่สบกันนิ่ง

"............................."
"............................."

" ไม่ได้เจอนานเลยนะ ซินเดอเรลา" ผู้มีศักดิ์เป็นหลานเอ่ยทักก่อนอย่างอารมณ์ดี ร่างเล็กในเสื้อเชิ้ตเนื้อบางนั้นทำให้เขาพอใจได้ไม่น้อย ช่วงแขนแกร่งเท้ากับเคาท์เตอร์พลางหันไปมองหน้าของ “คุณยู”  พลางยิ้มให้
"อ่ะ...วันนี้ขอตัวดีกว่า" ทันทีที่รู้ตัวว่าใครเป็นคนทักเขา วรัญญูหันไปยิ้มให้กับบาร์เท็นเดอร์ก่อนจะรีบหันหลังกลับแทบจะในทันที


...โอ้ย เกลียดโลกกลม!! กรุงเทพมันไม่มีที่เที่ยวที่อื่นแล้วรึยังไงนะ....

 

แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วมือแกร่งของอินทัชดึงแขนของคนผมยาวนั้นไว้ทันที

" จะรีบไปไหนล่ะครับ “คุณยู” คราวที่แล้วผมยังไม่ได้เลี้ยงคุณเลยนี่ "
"ไม่เป็นไรผมไม่ถือ...”วรัญญูยกมือโบกเป็นการปฏิเสธในทันที แต่พอจะก้าวหนีก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายยังยึดแขนของเขาเอาไว้แบบนั้น
“ปล่อย ผมจะกลับแล้ว " ชายหนุ่มร่างเล็กว่าพลางขืนแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของคุณหลานมือกาว
"พูดอะไรแบบนั่นล่ะครับ... อุตส่าห์มาแล้วนี่ ไปสนุกดีกว่า " ไม่พูดเปล่าอินทัชลากแขนของน้าชายไปที่โต๊ะ " ขอโทษนะครับ ผมคงไม่ต้องฆ่าเวลาแล้วล่ะ " อินทัชบอกกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของเขาไปตรงๆ พร้อมกับรอยยิ้ม "ไล่ที่"
"เอ๊ะ...อะไร...แล้วยัยนี่ใครกัน" เสียงของหญิงสาวดูจะไม่พอใจ เมื่ออยู่ชายหนุ่มที่ตัวเองหมายปองก็พาเอา...หญิงสาว..ในสายตาของเธอมายืนค้ำหัวกันง่ายๆแบบนี้

" ซินเดอเรลาของผมไง ขอโทษด้วยนะครับ เชิญไปสนุกโต๊ะอื่นเถอะ " อินทัชกลับตอบหน้าตาเฉย เขาไม่ได้คิดจะสนใจอะไรผู้หญิงคนนี้มากมายอยู่แล้ว ผู้หญิงอวบๆไม่ใช่สเปคของเขามาแต่ไหนแต่ไร แต่ถ้าหากจะเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มรุปงามที่เขาเรียกว่า ซินเดอเรลานี่ก็คงจะไม่เป็นอะไรมากนักมือแกร่งจับแขนบางนั้นไม่ปล่อย
"ปล่อยนะ ซินเดอเรลาอะไร" วรัญญูแสดงท่าทีไม่พอใจกับคำพูดของอีกฝ่ายพลางพยายามจะสะบัดแขนออก
“ผมบอกแล้วว่าผมจะกลับ ปล่อยยยย.....” ร่างเล็กกว่าโวยวายพลางดิ้น แต่อินทัชยังไม่สนใจพลางดันร่างน้าชายของตัวเองลงไปนั่งที่เก้าอี้ติดมุม

" วันนี้ปล่อยผมด้วย?...ดีนะ...ฉันชอบแบบนี้มากกว่าใส่แว่นเนิร์ดๆเมื่อตอนกลางวันซะอีก "ดูท่าอินทัชจะไม่ได้ฟังเสียงประท้วงอะไรเลย มือแกร่งไล้กับผิวแก้มใสนั่นเบาๆก่อนจะไล้เรื่อยไปใช้ปลายนิ้วพันเล่นกับเส้นผมยาวประบ่าของอีกฝ่าย วรัญญูเบือนหน้าหนีไปให้พ้นๆจากสายตาคมที่มองมาอย่างโลมเลีย ริมฝีปากได้รูปเม้มแน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาผ่านไรฟันที่ขบกันแน่นเพราะความเจ็บใจ
"ทั้งหมดนี่มันเป็นการเข้าใจผิด...ผมไม่ได้คิดจะให้คุณมาชอบหรืออะไรเลย...เพราะฉะนั้นปล่อย..."
" สายไปแล้วล่ะ จะเป็น ยู หรือจะเป็น รัน ลูกชายคนใหม่ของคุณตา ฉันก็ไม่สน...ฉันชอบนายจริงๆนะ... " ริมฝีปากกระซิบข้างหูอีกฝ่ายก่อนจะงับเบาๆ ทำเอาร่างเล็กขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ใบหน้าสวยแดงก่ำ

"นี่! เราเป็นอะไรกัน คุณอย่าลืม..." วรัญญูผลักอีกฝ่ายออกห่าง ใบหน้าสวยแดงซ่านเมื่อรู้สึกสัมผัสเบาๆที่ข้างหู
"หึๆ...รู้สึกรึไง? " เสียงหัวเราะอย่างพึงใจดังขึ้นที่ข้างหู มือข้างที่ว่างลูบเรียวขาผ่านกางเกงยีนส์ขาดๆนั้น ริมฝีปากแตะกับผิวแก้มของอีกฝ่ายเบาๆอินทัชไม่ได้สนใจสายตาของใครต่อใครที่อาจจะกำลังมองพวกเขาอยู่เลย ตอนนี้ เวลานี้ กับผิวแก้มเนียนใสของคนตัวเล็กคนนี้ เท่านี้มันก็มากเกินพอแล้วที่จะทำให้ใจของเขาเต้นแรงได้เหมือนเวลาที่กำลังจะกินขนมของโปรด

"รู้สึก?...อย่ามาพูดบ้าๆนะ แล้วมือเนี่ยใครใช้ให้มาจับ.. ปล่อย ผมจะกลับแล้ว " วรัญญูดึงมือของอีกฝ่ายให้ออกไปพ้นหน้าขาก่อนจะฉวยโอกาสนั้นลุกขึ้น
 "ผมบอกคุณแล้ว ทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด"
" งั้นเหรอ ..อย่างน้อย ก็ขอทำตามคำพูดหน่อยก็แล้วกัน " พูดจบชายหนุ่มก็สั่งยกมือเป็นสัญญาณอย่างรู้กันกับบาร์เทนเดอร์ให้นำเครื่องดื่มมาให้กับอีกฝ่าย วรัญญูมองดูแก้วมาตินี่ที่ถูกบาร์เทนเดอร์เอามาวางเสริฟไว้บนโต๊ะกระจก สลับกับหน้าของชายหนุ่มร่างสูงที่ได้ชื่อว่าเป็นหลานของตัวเอง

…ได้....เอาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...

...จะได้หมดๆเรื่องกันไป....

วรัญญูยิ้มก่อนจะยกแก้วมาตินี่ขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว ก่อนที่จะกระแทกแก้วลงกับแผ่นกระจกใสของหน้าโต้ะ ที่อยู่ตรงหน้า  
"เท่านี้ เป็นพอใช่มั้ย" ดวงตาคู่สวยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก
" อื้ม...พอใจละ...”อินทัชตอบพลางยิ้ม แล้วผายมือไปที่ฟลอร์เต้นรำ
“เชิญคุณตามสบายเลยก็แล้วกัน " ชายหนุ่มบอกก่อนจะลุกขึ้นไปหากลุ่มสาวๆ ที่มองเขาอยู่นานแล้ว...แม้จะไม่ใช่สเปคของเขาก็ตามทีแต่เมื่อวรัญญูปฏิเสธเขาเสียขนาดนี้จะตามจะตื้อต่อไปก็อาจจะโดนเด็กด่าว่าหน้าด้านได้ ...ก็จะตามต่อไปทำไม สู้ไปสนุกเสียไม่ดีกว่าอย่างนั้นหรือ

ทันทีที่อีกฝ่ายลุกไป วรัญญูก็ถึงกับต้องถอนหาใจออกมาเบาๆราวกับโล่งอก

...เลือกผิดจริงๆที่มาร้านนี้อีก....


ชายหนุ่มร่างบางเดินออกจากร้านไปโดยไม่ลืมที่จะจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มในส่วนของตัวเอง

...คิดจะเลี้ยงเหล้าอย่างนั้นเหรอ...อย่าหวังเลย...
…ผมไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครหรอก โดยเฉพาะกับคนแบบคุณน่ะ....



ริมฝีปากบางเบะเบ้อย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินออกมาจากร้าน แม้ว่าถนนแถบนี้ในยามค่ำคืนจะสว่างไสว แต่ถ้าหากสังเกตดูดีๆในยามค่ำคืนเช่นนี้ก็ยังคงมีอันตรายแอบแฝงอยู่ในทุกๆหัวถนน และในเมื่อไม่เคยโดนกับตัวเองตรงๆคนส่วนมากจึงมักจะคิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตัว คงไม่มีอะไรเลวร้ายมากนัก ส่วนใหญ่จึงขนาดการระมัดระวังตัว ไม่ต่างไปจากชายหนุ่มร่างบางในคืนนี้ วรัญญูเดินออกมาจากร้านผิวปากอย่างอารมณ์ดี เขาจอดรถไว้ห่างพอสมควร ร่างเล็กค่อยเดินขนานไปกับถนนที่มีรถราแล่นไปมาขวั่กไขว่ในเวลากลางคืน ปลายนิ้วเกี่ยวพวงกุญแจรถมินิคูเปอร์คันงามของตัวเองควงเล่นไปมาอย่างนั้น ไม่ได้ระแวดระวังภัยอะไรเอาเสียเลย
 

" โอ๊ะโอ...เดินอารมณ์ดี จะไปไหนจ๊ะน้องสาว..." เสียงหัวเราะแหบแห้งดังมาจากข้างทางที่เป็นมุมมืด
“ พี่ก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนนนนกานนนน....ขอตังค์พี่กลับบ้านหน่อยได้ม้า..." เสียงยียวนกวนประสาทดังขึ้นพร้อมกับร่างผอมๆในเสื้อลายสก๊อตพับแขนสูงกางเกงขาลีบเสียจนไม่รู้เอาเนื้อเอาหนังไปหลบไว้เสียตรงไหน ดูท่าทางก็รู้ว่าไม่ได้มาดีแน่

"น้องสาวบ้านพ่อแกดิ่..."วรัญญูไม่พูดพล่ามอะไรมากเขาหันไปสบถใส่เสียหนึ่งครั้งอย่างไม่สบอารมณ์กับวาจาและท่าทางของคนที่เรียกเขาว่า “น้องสาว”  ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินเร็วๆ หวังจะรีบๆไปถึงรถตัวเองเสียที แต่มือหยาบกร้านนั้นกลับดึงแขนเขาไว้

" ขอดีๆ ด่าพ่อเรอะ...ไอ้หน้าสวย? มาเดินล่อตะเข้แถวนี้ มาขายรึไง...หาลูกค้ายังไม่ได้เดี๋ยวพี่ประเดิมให้ก็ได้นะ .. เฮ้ย พวกเรา "  ชายคนนั้นเรียกพรรคพวกที่รออยู่ให้ออกมา

"อะไรเล่าเฮ้ย ผู้หญิงไม่ได้ ผู้ชายก็จะเอาหรือไง....ปล่อยนะเว้ย" วรัญญูสะบัดตัวเองออกจากแขนของอีกฝ่าย ก่อนจะรีบเดินเร็วๆ...และเร็วขึ้นไปจนแทบจะเรียกได้ว่าวิ่ง
" เอาดิวะ ของแปลก น่าลองจะตาย หึ หึ " เสียงน่าสะอิดสะเอียนตามมาด้วยมือหยาบของหลายๆคนที่วิ่งตามไปจับร่างบางนั้นเอาไว้แล้วทั้งดึงกระชากลากให้ร่างเล็กนั้นเข้าไปอยู่ในตรอกเล็กๆระหว่างร้านรวงทั้งหลายที่เปิดเพลงแข่งกันกระหึ่ม เจ้าพวกนั้นจับวรัญญูโยนเข้ากระแทกกับกำแพงของตึก ก่อนจะลากมือไปทั่ว

" โอ๊ะ เจอของดีว่ะ...กระเป๋าตังค์เว้ย.. "ทั้งที่เจอกระเป๋าเงินที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังแล้วแต่มือของเจ้าคนร้ายยังไม่หยุดลูบคลำ มันโยนกระเป๋าสตางค์ไปให้เพื่อนร่วมแก๊งค์

"ปล่อยนะ ช่วยด้วย!
"วรัญญูตะโกนลั่นสองมือบาง และ เท้า พยายามทั้งเตะทั้งต่อยให้ตัวเองหลุดพ้นจากการเกาะกุมของคนที่อยู่ด้านหลังแต่ก็ถูกสวนกลับด้วยหมัดที่กระแทกเข้าใส่ชายโครงเสียงจนตัวงอ วรัญญูแทบจะทรุดลงไปกับพื้น

"หมูว่ะ..." เสียงหนึ่งในกลุ่มนั้นพูดขึ้นเมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์มาเห็นแบงค์พันอยู่หลายใบ
“รวยด้วยเว้ย....แม่งหน้าตาน่า.....อีก...” มือหยาบนั้นจับคางของวรัญญูขึ้นมาพิศมองใบหน้าสวยนั้นใต้แสงสลัว แม้จะบอกว่าเป็นผู้ชายแต่หน้าตาแบบนี้ก็พอไปวัดไปวาได้ไม่น้อย

".......!!!”น้ำลาย ของวรัญญูกระเด็นโดนหน้าของนักเลงคนนั้นแทบจะทันที
"ไปตายซะไป ไอ้บ้า ปล่อย....ใครก็ได้ช่วยด้วย!!"

น้ำลายที่กระเด็นโดนหน้าเหมือนทำให้ยิ่งโมโหขึ้นไปอีก ร่างบางของวรัญญูโดนจับกระแทกลงกับพื้นปูนชื้นแฉะ

“ไอ้เวรนี่หน้าตาก็ดีปากหมาชิบ....เดี๋ยวพ่อยัดเสียไม่ต้องพูดเลยสัตว์!” ร่างนั้นกระโดดขึ้นคร่อมร่างเล็กของวรัญญูเอาไว้ หมัดลุ่นๆต่อยใบหน้าสวยๆนั่นจนหันไปอีกทางจนวรัญญูรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่กระจายไปทั่วทั้งปาก ความรู้สึกกลัวแล่นปลาบเข้าจับที่หัวใจร่างเล็กสั่นไหวด้วยความกลัว

“...ขอกูก่อนเลยละกัน....” ยิ่งเมื่อเห็นว่าร่างที่คร่อมตัวเองอยู่นั้นกำลังจะปลดเข็มขัดของตัวเองออกยิ่งทำให้วรัญญูพยายามจะขยับดิ้นหนีไปเสียให้พ้นๆจากตรงนั้น มือเรียวค่อยยันตัวเองถอยไปตามพื้น ขาที่พยายามทั้งเตะทั้งต่อยเมื่อครู่ดูจะไร้เรี่ยวแรงขึ้นมากระทันหัน

"ไม่...อย่าเข้ามานะ.... ใครก็ได้ ช่วยด้วย !!!
" วรัญญูตะโกนสุดเสียงเมื่อพวกนั้นเข้ามาจับขาจับแขนของเขาเอาไว้

เสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือนั้นลอยมาเข้าหูคนที่เดินตามวรัญญูออกมาจากร้าน ร่างสูงวิ่งถลันไปยังต้นเสียงแทบจะในทันที ไม่ต้องคิดอะไรเลยวิชายูโดที่ร่ำเรียนมาถูกนำมาใช้ทันที โดยที่ไม่สนว่าฝ่ายตรงข้ามมีพวกมากแค่ไหน ร่างสูงจับเจ้าพวกนั้นทุ่มเสียจนร้องโอดโอยหนีไปโดยที่ทิ้งกระเป๋าสตางค์ของวรัญญูเอาไว้ ....น่าเสียดายที่เงินจำนวนหนึ่งในนั้นโดนพวกมันหยิบติดมือไปด้วยเสียแล้ว

ทันทีที่แรงยึดจากทั้งขาทั้งแขนหายไป..วรัญญูพยายามจะลุก แต่ก็ดูเหมือนจะลุกไม่ขึ้น ...แต่เขาก็ควรจะลุก ร่างบางขยับไปใช้ผนังเป็นหลักเพื่อช่วยให้ตัวเองลุกขึ้นมาจนได้ ผมเผ้าดูไม่ได้ ไม่ต้องนับถึงใบหน้าสวยที่โดยต่อยเสียจนเลือดกลบปากแบบนั้น
 
" เป็นไงบ้าง " เสียงทุ้มนั้นถามอย่างเป็นห่วง พลางช่วยพยุงให้อีกฝ่ายได้ยืนดีๆ
" วรัญญู...รัน!" อินทัชเห็นอีกฝ่ายมีท่าทางเหม่อเหมือนสติหลุดไปอย่างไรอย่างนั้นสองมือแกร่งเขย่าไหล่บางนั้นแรงๆให้รู้สึกตัว

"หา? เอ่อ....นี่ผม...เอ่อ...อินทัช...เอ่อ... "เมื่อถูกเขย่า สติสตางค์ของวรัญญูเหมือนจะถูกเรียกคืนกลับมา ดวงตากลบสบตาของร่างสูงนิ่ง อินทัชเป็นคนเข้ามาช่วยเขาเอาไว้อย่างนั้นหรอกหรือ...

...แล้วแบบนี้จะให้พูดกันอีก....


ยิ่งได้เห็นว่าเป็นอินทัช วรัญญูยิ่งไม่อยากจะพูด ใบหน้าสวยเบือนหนีไปอีกทางพลางดันตัวเองออก แล้วรีบพยุงตัวเองเดินไปที่ที่มีแสงสว่างโดยเร็ว ...
เห็นท่าทางดื้อดึงแบบนั้นทำให้อินทัชรู้ได้ว่าสติของวรัญญูท่าจะกลับมาแล้ว ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่เอาไว้ก่อนจะเดินตามร่างบางนั้นไป ปล่อยให้เนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าหลุดรุ่ยออกไปแบบนั้นเดี๋ยวได้โดนลากเข้าข้างทางอีกรอบเป็นแน่ ร่างสูงเดินเข้าไปคว้าตัวของเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้

" ยังไม่ต้องขอบใจก็ได้ แต่นายต้องไปกับฉัน " อินทัชพยุงอีกฝ่ายไปที่รถ
" ฉันจะพานายกลับไปที่ห้องฉันนะ กลับไปบ้านทั้งๆแบบนี้ คุณตาได้หัวใจวายตาย " อินทัชให้เหตุผลยาวเหยียดชนิดที่ว่าไม่ปล่อยให้วรัญญูได้ทักท้วงหรือตอบโต้อะไรเลยด้วยซ้ำ ร่างสูงดันร่างของวรัญญูเข้าไปนั่งในที่นั่งด้านข้างคนขับก่อนจะบึ่งรถออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว


..................................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-12-2010 22:04:20
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-12-2010 22:13:26
อื๋อ  คุณหลานจะดูแลถึงขนาดไหนน๊อ  ลุ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 13-12-2010 22:13:32
กำจริงๆ
จะไหวมั้ย ยูเอ้ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 13-12-2010 22:31:12
 :serius2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 13-12-2010 22:36:56
 :seng2ped: รันโหมดช็อค
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 13-12-2010 23:03:36
อะหึๆ มาแบบมึนๆ
ดีที่คุณหลานมาช่วยทัน ครึๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-12-2010 23:12:43
จะเป็นไงต่อไปหละเนี้ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-12-2010 23:17:42
จะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ลึกๆต่อกันรึเปล่า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 14-12-2010 00:08:03
โธ! ไม่ได้ระแวดระวัง
คุณน้าพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่หลุดความเป็นเด็กออกมาบ่อยๆ
แบบนี้คุณหลานคงต้องเหนื่อยมากหน่อยละมั้ง

จะญาติดีกัีนได้หรือยัง

บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ

ขอให้หายวันหายคืนนะคะพีจัง ถ้าอาการแปลกๆ ก็รีบหาหมอเลยค่ะ เอาชัวร์ๆ :3123:

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 14-12-2010 00:39:11
ยู ดื้อจนได้เรื่อง แต่อย่างว่านะ อินทัชก็กวนอ่ะ ทำให้ยูเกลียดขี้หน้าเลยดูสิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 14-12-2010 00:58:42
สนุกเหมือนเคย
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-12-2010 01:49:37
แวะมาอ่านขอรับ สนุกมามายเรื่องนี้ :man1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 14-12-2010 19:13:45
รันเป็นไงมั่ง

มันน่าตืบพวกเลวนั่นจริงๆๆเลย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 4 13/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 15-12-2010 23:39:29
เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้สองคนนั่นรู้สึกดีๆ ต่อกันหรือไม่
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 19-12-2010 17:05:48
@@@Writer's Talk@@@

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์เจ้าค่ะ...แหม่ๆ เชียร์กันสนุึกเลยน้อ
หลายคนหวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิด สถานการณ์ต่อเนื่องส่งให้สองคนเขาเข้าใจกันมากขึ้น?
หุหุ อันนี้เป็นอย่างไรก็ต้องตามอ่านกันต่อไป.....กริ๊วๆ จะโพสต์ตอนนี้ล่ะ คนโพสต์เขินนะ  :-[
(ไม่ค่อยจะสปอย)

เอาล่ะไปตามอ่านกันต่อเลยดีกว่านะคะ หุหุหุ

.................................................


ตลอดทางที่ขับกลับไปยังคอนโดหรูของตัวเอง ดวงตาคมของอินทัชเหลือบมองคนที่นั่งข้างๆอยู่ตลอด วรัญญูกอดแขนของตัวเองเอาไว้หลวมๆ ท่าทางยังสับสนและหวาดกลัว แต่ในดวงตากลมโตคู่นั้นก็ยังฉายแววดื้อดึงเอาไว้ไม่เปลี่ยน

.....แบบนี้ก็ต้องเป็นบุญคุณกันอีกน่ะซิ่.....
.....แล้วยังอยู่ๆก็เข้ามาจับแบบนั้น.....


ริมฝีปากบางได้รูปของวรัญญูขมุบขมิบ เขาอยากจะบ่นออกมาเสียให้มันดังๆ แต่เมื่อคิดถึงมือแกร่งที่เขย่าไหล่ของเขาเสียจนเจ็บกับดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงคู่นั้นก็ทำเอาเลือดลมในร่างกายมันวิ่งพล่านเสียหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ วรัญญูเบือนหน้าไปอีกทางหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่สังเกตเห็นว่าตัวเองหน้าแดงขนาดไหนในตอนนี้

 รถสปอร์ตคันงามของอินทัชเข้าจอดที่จอดรถประจำของตัวเองในที่จอดรถของคอนโดฯหรูกลางเมืองของตัวเอง ร่างสูงรีบวิ่งมาเปิดประตูรถฝั่งด้านข้างคนขับ

“เดินไหวไหม...” มือแกร่งยื่นไปหวังจะให้อีกฝ่ายยึดเอาไว้เป็นหลัก
“ไม่ต้องหรอกน่า ผมยืนเองได้...” ถึงปากจะบอกออกไปแบบนั้นแต่ร่างของวรัญญูที่ก้าวออกมาจากรถของอินทัชนั้นไม่ได้มั่นคงพอที่จะยืนเองตามปากว่าเอาเสียเลย
ปากดี...สงสัยจะโดนซ้อมจนสมองกระทบกระเทือน...” ไม่พูดเปล่าสองแขนแกร่งช้อนเอาร่างเล็กกว่าขึ้นมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย
 “เอาเป็นว่า ไปกันแบบนี้ก่อน...อ๊ะๆ...ห้ามเถียง ห้ามดิ้น ห้ามเตะ...ไม่งั้นพ่อโยนทิ้งกับพื้นอีกรอบนะเอา...” อินทัชขู่เมื่อเห็นริมฝีปากช้ำๆของวรัญญูอ้าปากเตรียมจะโวยวายอีกระลอกแต่ก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆไปเช่นนั้น ....เพราะก็กลัวโดนโยนลงกับพื้นจริงๆเหมือนกัน  
"........................"
“เงียบๆแบบนี้ล่ะดี เกาะแน่นๆล่ะ เดี๋ยวจะตก” ริมฝีปากได้รูปของอินทัชยิ้มน้อยๆเมื่อได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายเป็นการเกาะแน่นขึ้นตามที่บอก ร่างสูงปิดประตูรถก่อนจะอุ้มเอาร่างช้ำๆของวรัญญูเดินเข้าไปขึ้นลิฟต์ทันที

.....................................

" ทำแผลก่อนนะ "อินทัชวางร่างบางนั้นลงกับโซฟาก่อนจะหยิบกล่องพยาบาลมาจัดการทำแผลให้อีกฝ่าย
"ขอบใจนะ อินทัช" ทั้งๆที่ยังตกใจกลัว แต่วรัญญูยังไม่วายปากดีพยายามจะยกตัวเองข่ม คำพูดคำจาจึงไม่เข้าหูคนฟังซักเท่าไรนัก
" พูดกับผู้ใหญ่ไม่ดีเลย นายน่ะ คนเขาอุตส่าห์ช่วยมาเจอพูดแบบนี้ใส่อีก ทำคุญบูชาโทษแท้ๆ " อินทัชบ่นไปพลางก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดคราบดิน คราบเลือดออกจากใบหน้าสวยของอีกฝ่าย วรัญญูสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เบือนหน้าหนีเหมือนอย่างทุกครั้ง เขาปล่อยให้”หลาน”ทำแผลให้ต่อไปเรื่อย ดวงตากลมมองหน้าของอินทัชนิ่ง
 "แล้วนี่พกเงินสดขนาดนั้นทำไม มีการ์ดก็หัดใช้บ้างก็ได้ พกมากมายขนาดนั้นได้โดนทุบหัวแบะกันพอดี "
"ก็มันมีให้ใช้... ก็ต้องเอาออกไปใช้ แล้วเธอก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากไปกว่าฉันเท่าไหร่นักหรอก ไม่ต้องมาทำเป็นสอนเลยนะ อินทัช" วรัญญูว่าพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
" สิบปี...สิบปีนี่มันไม่มากเลยใช่ไหม วรัญญ หึ หึ " ชายหนุ่มหัวเระาออกมาเบาๆ
" ไปอาบน้ำไป ออกมาจะได้ทายาจะได้ไม่หน้าบวมหน้าช้ำไปทำงาน” มือแกร่งวางลงบนศีรษะของอีกฝ่ายพลางขยี้แรงๆเหมือนอีกฝ่ายเป็นเด็กๆอย่างไรอย่างนั้น
"อย่ามาไล่ เหมือนคนอื่นเขาเป็นเด็กๆจะได้ไหม...”มือเรียวปัดมือของอินทัชออกแทบจะในทันที ดวงตากลมมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง
“เรื่องแค่นี้ รู้หรอกน่า ไม่นั่งตัวเหม็นแบบนี้ให้โง่หรอก" วรัญญูทำหน้าดุใส่อีกฝ่าย ก่อนจะเดินวนซ้ายวนขวาด้วยไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ทางไหนแต่ก็ทำปากหนักไม่ถามไปเช่นนั้น เดินวนอยู่นานพอดูก่อนจะเห็นว่ามีประตูห้องน้ำซ่อนอยู่หลังฉากบังตาร่างเล็กรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที...

...................

ภาพของวรัญญูที่เดินแทบจะเรียกว่างอนตุบปัดตุบป่องเข้าห้องน้ำไปทำให้เจ้าของห้องอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

.....เด็กบ้าเอ้ย...ถ้าเจ็บก็ทำไมไม่อ้อนให้มันน่ารักๆหน่อยนะ....

"แล้ว..นี่จะให้ใส่อะไรล่ะ อินทัช" เวลาผ่านไปพักใหญ่ ก่อนจะได้ยินเสียงวรัญญูดังขึ้นพร้อมกับเสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออกกลิ่นของสบู่หอมฟุ้งลอยออกให้ได้กลิ่นมาแต่ไกล

" เดินออกมาเลยซิ มีเหมือนๆกันไม่ใช่รึไง "

เจ้าของห้องเองก็ตะโกนบอกด้วยน้ำเสียงกวนๆ ร่างสูงของอินทัชนั่งรออยู่ที่ปลายเตียงช่วงขายาวไขว่ห้างกันเอาไว้ในขณะที่เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยท่าทางสบายๆแบบนี้มีให้เห็นไม่บ่อยนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่อยู่ในบริษัท

เสียงตอบกลับมาของอีกฝ่ายทำเอาคนฟังต้องหน้าแดง ... จะตะโกนด่าออกไปรึเดี๋ยวก็จะหาว่าอาย วรัญญู ตัดสินใจคว้าผ้าเช็ดตัวพันกายเดินออกไป

"แล้วจะปล่อยให้อยู่อย่างนี้ให้เป็นหวัดหรือยังไง เป็นหลานก็หัดดูแล น้าดีๆหน่อย" ร่างเล็กออกไปยืนเท้าเอวอยู่หน้าฉากบังตาโดยที่มีผ้าพันกายอยู่แค่ผืนเดียว ผมยาวประบ่าของวรัญญูเปียกน้ำลู่ลงมานาบข้างแก้มเนียนก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะเสยผมขึ้น ดวงตากลมโตฉายแววไม่พอใจเมื่อต้องเดินออกมาทั้งๆที่กึ่งเปลือยเช่นนี้  ตรงกันข้ามกับอินทัชที่ดูจะพึงใจกับผิวขาวๆองคนตรงหน้า ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยราวกับพิจารณาถึงรูปร่างและผิวกายเรียบดูท่าน่าจะลื่นมือของวรัญญูก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ

 "มองอะไรไม่ทราบ ไหนว่ามีเหมือนกัน ไปดูของตัวเองโน่นไป" เมื่อรู้สึกถึงสายตา “โลมเลีย” ของอินทัชก็ต้องยกแขนกอดอกตัวเองแน่น ไม่กล้าเดินไปนั่งข้างๆอีกฝ่าย ด้วยพอจะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนแบบไหน แต่แล้วก็ต้องก้าวถอยเมื่ออยู่ๆร่างสูงลุกเดินเข้ามาหา มือแกร่งนั้นยื่นมาดึงมือของเขาออกจากแผ่นอก ปลายนิ้วไล้เบาๆที่หน้าท้อง

“โดนต่อยซะ เดี๋ยวก็ช้ำเอาหรอก....ทายาซักหน่อยไป”  ว่าพลางยื่นหลอดยาทาแก้ฟกช้ำให้กับอีกฝ่าย
"เหวอ.." ชายหนุ่มร่างบางขยับตัวออกแทบไม่ทันเมื่ออยู่ๆ ก็โดนอีกฝ่ายมาลูบท้อง
 "บอกเฉยๆก็ได้ไม่ต้องมาถึงเนื้อถึงตัวหรอกน่า แค่นี้...ทำเองได้" ยังมีคำบ่นอีกสองสามคำจากริมฝีปากบาง ร่างเล็กฉวยเอายาทาแก้ฟกช้ำมาก่อนจะเดินไปหลบมุมทายาคนเดียว โดยที่ไม่รู้หรอกว่าลับหลังนั้นอินทัชแอบยิ้มเป็นรอบที่เท่าไร อินทัชเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเอาเสื้อนอนออกมาวางไว้ให้อีกฝ่ายที่ปลายเตียง ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปโดยที่วรัญญูไม่ได้รู้ตัวเลย

.................................
 
“โอย...เจ็บเหมือนกันแฮะ” เสียงวรัญญูโอดครวญส่องกระจกไปพลางทายาไปพลาง ก่อนจะหันกลับมาพบกับห้องนอนที่ว่างเปล่า และชุดนอนที่วางไว้ที่ปลายเตียงหนึ่งชุด ชายหนุ่มร่างเล็กเดินมาหยิบเสื้อยืดกับกางเกงขายาวนั่นขึ้นมาแม้ไซส์จะใหญ่ไปเสียหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรใส่เลย วรัญญูถอนหายใจออกมาเบาๆ

"ยังดี..."

....ดีนะไม่บอกว่า ให้นอนทั้งๆอย่างนี้...
....คนลามกแบบนั้น...


คิดได้แบบนั้นก็จัดแจงใส่กางเกงและเสื้อนอนตัวโคร่งแต่ไม่ทันจะได้ดึงกางเกงให้มันเข้าที่เข้าทาง ประตูห้องนอนก็เปิดผั่วะเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของอินทัช

" ไม่มีใครนอนโซฟา คืนนี้ " ชายหนุ่มว่า ก่อนที่หมอนใบใหญ่จะลอยละลิ่วปลิวมาใส่วรัญญู
“โอ้ย โยนมาทำไมเนี่ย...” วรัญญูหันไปโวยมือหนึ่งก็พยายามจะดึงขอบกางเกงขึ้นอีกนิด
" นอนซะ เตียงไม่ใช่เล็ก " อินทัชตอบสั้นก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงไปเสียแบบนั้นช่วงขายาวนอนเหยียดตามสบาย ดวงตาสีเข้มของวรัญญูมองร่างของคนที่ได้ชื่อว่าหลานอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะต่อให้ต้องเรียกว่าหลานก็เถอะ...
"อย่าทำอะไรแปลกๆก็แล้วกัน.." เสียงผู้เป็นน้าพึมพำเบาๆ ว่าพลางเดินกอดหมอนใบโตเข้าอกแน่นก่อนจะค่อยๆเอนตัวนอนลงช้าๆในหัวยังนึกคิดเจ็บใจตัวเองที่เคยไปแสดงอาการยั่วยวนอีกฝ่ายไว้ก่อน

...ไม่น่าไปเล่นบ้าๆก่อนเลย...

แต่ทันทีที่วรัญญูนอนลง มือแกร่งก็พาดที่เอวบางก่อนจะดึงให้เข้ามาใกล้ทันที

"เอ้ย...จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ " การกระทำของอินทัชทำให้วรัญญูอุทานออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ชายหนุ่มร่างบางพยายามหันหน้าไปมองคนที่กอดเขาจากด้านหลังแต่เมื่อหันไปหมายจะโวยวายเหมือนทุกครั้งก็ต้องสะดุ้ง เมื่อหันไปเจอกับริมฝีปากของอีกฝ่ายเข้าโดยบังเอิญ ริมฝีปากของวรัญญูแตะกับริมฝีปากของอินทัชเบาๆ ก่อนทีจะเลื่อนออกไปตามแรงที่หันบวกกับแรงสะดุ้ง

“อ่ะ...ขอโทษ” เสียงแหบพร่าดังได้ยินเพียงกระซิบ ใบหน้าของวรัญญูแดงก่ำขึ้นมากะทันหัน
“ทำไมต้องขอโทษล่ะ” แต่อินทัชกลับตอบมาพร้อมรอยยิ้ม มือแกร่งกลับดึงร่างนั้นให้เข้ามาใกล้ ริมฝีปากได้รูปยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วเลื่อนหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากอีกฝ่ายเบาๆและนุ่มนวลก่อนจะถอนออกมาแล้วแตะไปอีกครั้ง
"อ๊ะ..หยุด ทำบ้าอะไร ไม่เอา" เมื่อเจออีกฝ่ายจูบปานจะหยอกเอินเล่นแบบนั้น วรัญญูก้มหน้าลงพยายามหลบเลี่ยงสองมือพยายามดันอกหนาของอินทัชออกห่าง
" ฉันอยากได้นายจริงๆนะ..รัน "  เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นแผ่วเบาที่ข้างหู ปลายนิ้วของชายหนุ่มจับคางเล็กเชยขึ้นมาสบตา แล้วมอบจูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นรสจูบที่ต่างออกไป

"อื้อ... " ดวงตาคู่สวยหลับแน่น รสจูบที่อีกฝ่ายมอบให้นั้นแฝงไปด้วยความหมายในเชิงปฏิบัติของคำพูดเมื่อครู่ ร้อนแรง จนมือที่จะผลักไสชายหนุ่มร่างสูงกว่าให้ถอยออกไปเมื่อครู่อ่อนแรงต่อต้านลงอย่างช่วยไม่ได้  สติของวรัญญูเหมือนกับจะหลุดลอยทั้ๆงที่รู้ยังรู้ตัวดี เพราะว่าคืนนี้เขาดื่มไปแค่แก้วเดียว เสียงหอบหายใจดังขึ้นเบาๆระหว่างคนสองคน ปลายลิ้นร้อนของอินทัชยังเล็มเลียริมฝีปากบางที่แดงเรื่อของวรัญญูอยู่ไม่ห่าง

" ดีไหม "เสียงนั้นถามเย้ายวน พร้อมๆกับมือที่ไล้กับแผ่นหลังใต้เสื้อยืดเนื้อบางนั้น
"ด...ดีบ้าซิ่...ปล่อย ...คุณเป็นหลานผมนะ"วรัญญูสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วของอีกฝ่าย
 " ก็ฉันบอกไปหลายรอบแล้ว ว่าไม่อยากได้น้า ...นี่จะให้ฉันทำให้เป็นอย่างอื่นดีไหม เผื่อนายจะได้เลิกดื้อ " ปลายนิ้วของอินทัชนั้นจงใจลากจางแผ่นหลังลงมาตามแนวสันหลังของวรัญญู จนร่างเล็กในอ้อมแขนนั้นผวาเฮือก
"ไม่...หยุด...ปล่อย" วรัญญูหลับตาแน่นสองแขนเล็กพยายามผลักอีกฝ่ายออกห่าง ร่างบางขยับออกไปแทบจะสุดเตียงจนร่างสูงกว่าจำใจต้องปล่อยมือจากร่างที่ยอมกรุ่นกลิ่นสบู่ยั่วยวนใจนั้น ใบหน้าเล็กๆของวรัญญูแดงก่ำจนเกือบจะเป็นสีของมะเขือเทศ อินทัชหยักยิ้มน้อยๆกับใบหน้านั้น เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังสับสน แต่พอแกล้งแล้วมันก็หยุดไม่ค่อยจะได้ซักเท่าไร...ใบหน้าแบบนั้นของวรัญญูมันทำให้ใจของเขาเต้นรัวมากเกินไปจริงๆ

" ใจแข็งให้ได้ตลอดเถอะ หนูน้อย " ชายหนุ่มหัวเราะบาเๆ ก่อนจะขยับตัวลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องนอนพร้อมกับหมอนใบใหญ่ที่ใช้หนุนอยู่เมื่อครู่ ร่างสูงหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วหันหลังกลับมามอง
" นอนพักซะ... จะล็อคห้องก็ตามใจนะ " อินทัชว่าพลางกดสวิตท์ปิดไฟให้
"งั้นก็ช่วยล็อคห้องแล้วก็เชิญออกไปเลย" ท่ามกลางความมืดนั้นนิ้วเรียวชี้ไปที่ประตูราวกับจะไล่ ใบหน้าสวยไม่ได้หันไปมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป วรัญญูดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมกายเสียจนมิด ก่อนจะได้ยินเสียงล็อคกลอนแล้วปิดประตูลงเป็นคำตอบของเจ้าของห้องที่เดินจากไป  

..................................

"เฮ้อ.............."
วรัญญูถอนหายใจยาวทันทีที่ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง เขาไม่แน่ใจว่าครั้งนี้มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันแต่เขารู้สึกว่าครั้งนี้ แต่นี่ก็เป็นครั้งที่เขารู้สึกโล่งใจที่สุดเลยก็ว่าได้ ใบหน้าสวยนั้นยังแดงซ่าน สัมผัสร้อนบนริมฝีปากกับสัมผัสยั่วเย้าบนผิวกายนั้นทำให้ใจเต้น ยอมรับเลยว่าเขาไม่ได้เกลียดอีกฝ่าย...อาจจะเรียกได้ว่าถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแถมยังเป็นฝ่ายไปยั่วเขาไว้แต่แรกก่อนอีกต่างหาก แต่ในเมื่อสถานภาพของพวกเขามันเป็นแบบนี้ และเป็นผู้ชายเหมือนกันแบบนี้อีก...ความสัมพันธ์นี้คงพัฒนาต่อไปเหมือนอย่างที่อินทัชอยากให้เป็นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพ่อบุญธรรมของเขาคงได้ช็อคตายเป็นแน่ คิดไปแบบนั้นก็ยิ่งปวดหัว วรัญญุยกมือขึ้นก่ายหน้าผากก่อนจะเลื่อนลงมาปิดดวงตาคู่สวยนั้น ร่างกายและจิตใจของเขาหนื่อยล้าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ...ภายในหัวคิดหาทางแก้ไม่ออกอีกแล้ว ด้วยความเหนื่อยอ่อนวรัญญูจมดิ่งเข้าสู่ห้วงของความฝันไปในเวลาไม่นาน


..............................................to be con

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 19-12-2010 17:27:33
ทำไมไม่เผด็จศึกอ่ะอินทัช อ่อนนินา รัน เค้าอุตส่าห์ไหลไปแล้วนะเนี่ยะ
หวานๆๆๆ นะตอนนี้ชอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-12-2010 17:28:11
 :L1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 19-12-2010 17:36:59
น้องรันนนนนนนน~~~ ... โคไรท์ฯ ตายไปเลย " ฉันอยากได้นายจริงๆนะ..รัน "  

รีดเดอร์คงอยากเห็นใช่ไหมคะว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น โคไรท์ฯก็เลยแอบดูน้องมาให้แล้วล่ะ

ปรากฏว่า....

(http://i40.photobucket.com/albums/e223/kuruminna/run3.jpg)
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 19-12-2010 17:47:52
ดูท่าแล้วไม่รอดมือหลายแน้เลย :z1:

ร้ายซะ

 :call:

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-12-2010 17:59:20
เกือบได้สามีแทนหลานแล้วไหมจ๊ะพ่อรัน
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 19-12-2010 18:00:04
>///////////<

ก็คุณอาน่ารักขนาดนี้ จะให้คุณหลานอดใจไหวได้ไงล่ะนิคุณอินทัชนิ
ก็นะ ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเลย
แค่เป็นอาหลานกันต่อไป แต่รักกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น แนบแน่นกันมากขึ้น
สามัคคีกันไว้ .....ดีออกน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-12-2010 21:02:17
แอร๊ยยย  ผิดหวังนิดหน่อยที่คุณหลานปล่อยเหยื่อ  เอ๊ยย  คุณน้าให้นอนคนเดียว
มันหนาวจริง ๆ น๊า  ทำไมไม่ดูแลคนเจ็บให้ใกล้ชิดหว่านี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 19-12-2010 21:06:50
คุณอาน่ารัก และน่าลักหลับ อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-12-2010 21:16:02
คุณน้าอ่ะคิดมากอยู่ได้
ตกลงปลงใจซะได้ช่วยกันทำมาหากิน
เคยได้ยินป่ะ "เรือล่มในหนอง เงินทองนั้นจะไปไหน"
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 19-12-2010 21:34:29
ถึงแม้อยากจะทำให้มากกว่าที่ทำ แต่อย่างน้อยก็พอมีสติยับยั้งไว้
ถือสุภาษิตที่ว่า " อดเปรี้ยวไว้กินหวาน "  :z1:
หัวใจนะตรงกันแล้ว รอแต่เวลาเท่านั้น
+1 คนคนละแต้ม เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: SeLoFENa ที่ 19-12-2010 21:40:50
 :o8: :o8: :o8: มาอ่านครั้งแรกชอบๆอะค่ะไรเตอร์

ไรเตอร์สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 19-12-2010 21:47:10
อร๊ายๆๆ รังสีความหวานแผ่ซ่าน
เดี๋ยวก็จะได้กลายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่น้าหลานแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 19-12-2010 22:39:53
อึ้ยยยยยยยยย

เกือบไปแล้วนะรัน
อินทัชเนี่ยก็เป็นสุภาพบุรุษเหมือนกันแฮะ
คิดว่ารันจะโดนจับกดซะแล้ว

 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 20-12-2010 02:29:56
น้้าหลาน ใจตรงกันนั่นละ
แต่ติดที่ว่า หลานทำตามใจตัวเอง ส่วนน้ายังวิตกกังวลไปอีกสารพัด
คุณหลานก็พยายามทำความเข้าใจคุณน้าและก็หาวิธีทำให้คุณน้าเชื่อใจ วางใจหน่อยสิ
เผื่อมันจะดีกันทั้งสองฝ่าย

ขอบคุณมากๆนะคะ จัดไปหนึ่งแต้มค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 20-12-2010 11:18:26
 :-[...สุภาพบุรุษตัวจริง
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 20-12-2010 20:12:37
อยากให้มาต่อทุกวันนะเนี่ย

แบบว่า...น่ารักจริงๆ เด็กดื้อเนี่ย 555+
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 25-12-2010 15:57:14
นึกว่าจะโดนอินทัชทำอะไรซะแล้วสิ
อิอิ

แต่เมื่อไรจะถึงวันนั้นน้อ
อิอิ

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-12-2010 16:40:03
เกือบไปแล้ว! รอตอนต่อไปโลดขอรับ :-[
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 31-12-2010 00:03:17
5555+
น่ารักจัง ทั้งน้าทั้งหลานเลย  :m3:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 5 19/12/2010)
เริ่มหัวข้อโดย: aphanite ที่ 02-01-2011 16:57:25
Happy New Year' 2010
Starting,,,
good healthy
good richful and
lucky in game lunck in love ^^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 03-01-2011 00:33:01
@@@@WRITER's Talk@@@@

 :L2: :L2: :L2:
สวัสดีีปีใหม่ค่า นักอ่านทุกคน
ขอให้เป็นปีที่ดี เด้งดึ๋งๆเหมือนกระต่ายเลยนะคะ
ตำแหน่งหน้าที่การงานเด้งๆ สูงขึ้นๆนะคะ ไม่ใช่เช็ค!

หายตัวไปนานหน่อย คิดว่าคงมาในความเร็วประมาณนี้ ขอสารภาพว่ามีส่วนที่ต้องแก้ไขเยอะเลยใช้เวลานิดหนึ่งนะคะ
รักกันก็อดใจรอนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนก่อน
เอาล่ะไปตามดูเรื่องกันต่อดีกว่า
.............................................


เวลาเช้าผ่านมาถึงดวงตาคู่สวยของชายหนุ่มร่างบางลืมตาตื่นขึ้น ตรงตามเวลาเดิมๆในตอนเช้า มันเป็นกิจวัตรไปแล้วที่วรัญญูจะตื่นขึ้นในตอน หกโมงครึ่งของทุกๆวัน

“โอ้ย...เจ็บแฮะ” เสียงโอดครวญดังขึ้นเมื่อวรัญญูตั้งใจจะบิดขี้เกียจ คงเป็นเพราะผลจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นของวางอยู่บนโต้ะจึงลุกไปดูแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นกระเป๋าสตางค์ของตนเองวางอยู่คู่กับเสื้อผ้าชุดที่ใส่อยู่เมื่อคืน

“...เก็บไว้ให้ด้วยเหรอเนี่ย” ริมฝีปากบางคลี่เป็นรอยยิ้ม เมื่อคืนเขามัวแต่ตกใจงุนงงกับเหตุการณ์มากเสียจนไม่ทันได้สังเกตว่าอินทัชได้เก็บกระเป๋าสตางค์ของเขากลับมาด้วย ขายหนุ่มเปิดดูก็บ่นพึมพำออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าเงินถูกเจ้าพวกนักเลงนั่นขโมยไปเสียจนเกลี้ยง แต่ก็ยังดีที่พวกนั้นไม่ทันได้หยิบบัตรเครดิตการ์ด เอทีเอ็ม หรือบัตรประจำตัวประชาชนของเขาไปด้วย ไม่อย่างนั้นในวันที่ปวดไปทั้งตัวแบบนี้ได้เป็นวันที่ยาวนานกับการวุ่นแจ้งหายทำเอกสารอะไรอีกหลายอย่างเป็นแน่ มือเรียววางกระเป๋าสตางค์นั้นลงอย่างโล่งใจก่อนจะหันมาสนใจกับเสื้อผ้าของตัวเอง แต่แล้วริมฝีปากได้รูปก็ต้องเบ้เบะ ดวงตากลมโตตวัดมองไปทางประตูห้องนอนในทันที หากจะมีพลังมองเห็นทะลุทลวงกำแพงได้เหมือนซุปเปอร์แมน เป้าหมายของดวงตากลมโตนี้คงจะหนีไม่พ้นเจ้าของห้องหรูอย่างอินทัชที่อาจจะกำลังนอนอยู่ข้างนอกเป็นแน่แท้


“เหอะจะมาโชว์ว่า หล่อรวยเอาใจใส่ดีมีเวลาให้ แถมรีดผ้าเป็นหรือยังไง”


ที่พูดไปนั้นด้วยความหมั่นไส้ระคนเจ็บใจล้วนๆที่ยังหาข้อให้ตำหนิจากอินทัชไม่ได้เลยซักข้อ วรัญญูนึกอยากจะขยี้ขยำเสื้อกางเกงเรียบกริบพวกนี่ให้ยับยู่คามือเสียงจริง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าจะต้องใส่เสื้อผ้าชุดนี้กลับก็ได้แต่ขบเม้มปากอย่างขัดใจแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

พอออกมากจากห้องน้ำวรัญญูใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมยาวประบ่าของตัวเองลวกๆแรงๆ หนึ่งคือพยายามไล่ความล้าออกไปให้หมด เขาใช้ปลายนิ้วสางผมอย่างลวกๆทั้งๆที่ผมยังเปียกชื้น แต่หากเขาใช้ไดร์เป่าผมคงต้องมีเสียงดังให้เจ้าบ้านที่โดนไล่ออกไปอยุ่นอกห้องได้รู้ตัวเป็นแน่ เมื่อแต่งตัวจนเรียบร้อย ร่าเงล็กเดินไปเปิดประตูห้องนอนออกไปเบาๆ โดยพยายามที่จะไม่ทำให้เกิดเสียงดัง

ดวงตาคู่สวยมองออกไปด้านนอก ร่างโปร่งของอินทัชยังเหยียดยาวอยู่บนโซฟาราคาแพง

...ยังไม่ตื่น...สมควรแล้วล่ะ...
…หน้าคุณชายไฮโซคงตื่นเช้าไปเป็นซิ่ท่า...


รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนที่ร่างบางจะค่อยแทรกผ่านประตู ตรงไปยังประตูหน้าแล้วเดินออกไปจากห้องโดยที่เจ้าของห้องไม่รู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำ
 
.................

แสงแดดยามเช้าทำให้รู้สึกดีไม่น้อย ชายหนุ่มยืนรับแสงแดดอยู่นานก่อนที่ ร่างบางเดินออกมาจากบริเวณคอนโดของอินทัชได้ก็รีบโบกมือเรียกแท๊กซี่ไปลงยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดทันที ด้วยเห็นว่าไม่ได้เดินทางแบบ “สามัญชน” ทั่วไปมานานแล้ว...เขาคิดถึงการเดินทางแบบนี้เหลือเกิน และที่สำคัญแทนที่ปลายทางจะเป็นบ้านของคุณพ่อภูธร ชายหนุ่มร่างบางกลับนั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานีที่คุ้นเคย ข้ามฝั่งไปยังฝั่งธนบุรี แล้วนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อไปอีก โดยที่ระหว่างทางก็โทรบอกให้คนไปเอารถของเขาที่จอดไว้เมื่อคืนกลับมาที่บ้านให้ด้วย
 

สองขาพาวรัญญูเดินตรงไปยัง ร้านขายสัตว์เลี้ยงในตึกแถวเก่าๆที่ยังคงตั้งอยู่ที่ตรงหัวมุมถนน  ป้ายหน้าร้านเป็นสีส้มดูสดใสไม่ต่างไปจากครั้งสุดท้ายที่เขาเคยเห็นจะต่างก็ตรงที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงร้านนี้...ไม่มีเขาคอยดูแลอีกต่อไปแล้ว ร่างเล็กหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้าน กระจกใสด้านหน้าเมื่อมองเข้าไปเห็นลูกหมาพันธ์เล็กที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งกระโดดทั้งร้องตะกุยเท้าตะกายกระจกอยู่
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกกับเสียงประตูกระจกที่กระแทกดังปึงปัง มองเข้าไปด้านในก็เห็นต้นเสียง

" โฮ่งๆๆๆๆ " เสียงเห่าอย่างดีใจดังลั่นของเจ้าหมาตัวโตกว่าวัยและพันธ์เดียวกัน ขนหางเป็นพวงสีน้ำตาลทองของมันสะบัดไปมาจนแทบดูไม่ทัน
“เคน!” วรัญญูเรียกชื่อของลูกหมาตัวโตก่อนจะเดินไปเปิดประตู เจ้าเคนกระโดดเข้าชาร์จคนมาใหม่ทันที
 "โอ้ย...เจ็บนะเคน" ถึงจะว่าออกไปอย่างนั้น แต่ มือกลับรับร่างของลูกหมาพันธ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนั้นเอาไว้เต็มรัก
"ตัวโตขึ้นเยอะเลยนะเรา"เสียงวรัญญูหัวเราะเบาๆ พร้อมกับมือที่ขยี้ขนนุ่มของลูกหมาตัวโตนั้นอย่างเอ็นดู
 
" งี๊ดด " หัวโตๆของมันซุกกับหน้าของผุ้เป็นนาย  มันดมกลิ่นสำรวจเป็นการใหญ่ ดูท่านายของมันคงมีสิ่งที่เปลี่ยนไปเยอะจมูกเจ้าเคนได้กลิ่นแปลกๆเต็มไปหมดเลย
"ฮ่ะๆ....โอเคๆ รู้แล้วๆไปเข้าร้านๆ" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินนำลูกหมาตัวใหญ่ให้เดินกลับเข้าไปในร้าน ด้านในห้องแถวที่มีพื้นที่ไม่ได้มากมายนักแต่ก็เพียงพอสำหรับดูแลลูกสุนัข ลูกแมว รวมไปจนถึงจัดวางชั้นอาหารและอุปกรณ์ต่างๆสำหรับสัตว์เลี้ยงได้อย่างสวยงาม  มองเข้าไปที่เคาท์เตอร์ด้านในเห็นหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนั่งอยู่
"หวัดดี ฟ้า...ร้านเป็นไงมั่ง" ชายหนุ่มร่างบางถาม กับ ฟ้าเด็กสาวที่ "เดิม" ทำงานใหักับเขา
" พี่รันไม่อยู่ ลูกค้าสาวๆคิดถึงจะแย่ " เด็กสาวนั่งลงตรงหน้าเจ้าเคน ลูกหมาโกลเดนท์รีทรีฟเวอร์ที่ไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะนึกว่ามันเป็นพาคินสันซินโครม เพราะหูของมันใหญ่เกินไปนั่นเอง

" ไง เจ้าเคน ได้กลิ่นพี่รันแล้วแจ้นไปก่อนเลยนะ "
"ก็มันหมาของพี่ ก็ต้องรักพี่ซิ่ " วรัญญูว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ เขามองไปรอบๆร้าน บรรยากาศ เดิมๆ กลิ่นเดิมๆ เสียงเดิมๆ ของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายทำให้รู้สึกคิดถึงอย่างบอกไม่ถูก

"ขอโทษนะ ที่อยู่ๆก็ต้องมาทิ้งไปแบบนี้ " เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ยังจำได้ดีในวันที่ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ


.................................


หลังจากที่พ่อแม่เสียไปเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่กับย่า คุณย่าซึ่งเลี้ยงดูส่งเสียเขาเรียนเป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันจะได้ช่วยทำงานได้ทดแทนบุญคุณของย่าให้สมกับที่ได้เลี้ยงดูตัวเองมา ย่าพรของเขาก็มาด่วนจากไปอย่างกระทันหัน หลังจากนั้นเขาก็เลยอยากจะปรับปรุงร้านให้เป็นมากกว่าร้านขายอาหารสัตว์ในระแวกนี้โดยการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาขาย ช่วงแรกก็ดูจะดีอยู่แต่ก็เหมือนกับว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ทำให้ร้านนี้เคยจะต้องปิดตัวลงอย่างถาวรในเวลาหลายเดือนต่อมา เพราะเรื่องของเศรษฐกิจ การจะหาหมาพันธ์ดีเข้าร้านแทนจะหาหมาแมวเกรดต่ำลงมาอีกนิดมาเข้าร้านเพราะตัวเขาเกลียดการย้อมแมมวย้อมหมาขายเป็นที่สุดนั้นจำเป็นจะต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนไม่น้อย และเขาก็ใช้เงินก้อนสำคัญ ก้อนสุดท้ายไปกับการสั่งซื้อแต่กลับเจอคนโกงเอาเงินไปเสียนี่

ในขณะที่กำลังสิ้นหวัง วันหนึ่งก็มีรถยนต์คันโตแล่นมาเทียบจอดข้างฟุตบาทที่หน้าร้าน ชายชราเดินลงมาด้วยไม้เท้าทำจากเนื้อไม้อย่างดี ชายชราเงยหน้าขึ้นมองป้ายสีส้มสดใสที่ไม่ว่าจะซ่อมแซมป้ายร้านซักกี่ครั้งย่าพรก็ยืนยันให้ใช้สีส้มเหมือนเดิมจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านไปเสียแล้ว ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้กระจกหน้าร้าน ดวงตาที่ระยะการมองร่วงโรยไปตามวัยหรี่ลงพยายามมองเข้าไปด้านในชายชราพยายามมองซ้ายทีขวาทีจนวรัญญูที่นั่งเหม่ออยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์เพราะมัวแต่คิดเรื่องเงินที่สูญไปสังเกตเห็น ร่างบางจึงรีบเดินไปเปิดประตูหน้าร้านทันที 
 
“มองหาอะไรอยู่เหรอครับ...คือถ้ายังไงเข้ามาดูได้ก่อนนะครับ...ที่ร้านมีทั้งหมาแมวนะ...อาจจะมีให้เลือกไม่เยอะแต่ทุกตัวพันธ์ดีแล้วก็มีเพดดีกรีด้วยนะครับ”
“ไม่ได้มามองหาหมาหรอก มามองหาคนน่ะ หลานแม่พรรึไง...”  ชายชราว่าเขาเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มใกล้ๆก็พอจะรู้ได้ในทันที ดวงตากลมโตใบหน้าได้รูป คิ้วเรียวคมเข้มแบบนี้ เพียงเห็นก็จะนึกได้ถึงคนผู้เดียวเท่านั้น
“อ่ะ...ครับ เอ่อ คุณปู่..รู้จักคุณย่าด้วยเหรอครับ” วรัญญูเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเพราะไม่ค่อยเห็นคนรุ่นราวคราวเดียวกับย่าของเขาแวะเวียนมาที่ร้านนี้นานแล้ว...หลังจากงานศพก็แทบจะพากันหายหน้าไปหมด “เข้ามาก่อนซิ่ครับ ข้างนอกร้อน คงจะไม่ค่อยสบายนัก” ร่างบางว่าพลางเปิดประตูให้ ชายชราค่อยเดินตามเข้าไป
เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ....ที่นี่..”  แม้ใบหน้าจะมีร่องรอยแห่งเวลาอยู่มากมายแต่ในดวงตาคู่นั้นยังคงเป็นประกายที่บอกได้ถึงความสดใสของหัวใจ ชายชรามองไปรอบๆด้วยดวงตาที่เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวในอดีต ก่อนที่สายตาจะมองไปพบกับรูปถ่ายขาวดำของหญิงชราที่มีใบหน้ายามที่ยังอ่อนวัยละม้ายคล้ายกับเด็กหนุ่มคนนี้เสียเหลือเกิน
 
“แม่พร...เสียแล้วรึ” ชายชราถามทั้งๆที่ไม่ได้หันไปมองหน้า เขายังคงมองรูปภาพนั้นนิ่ง

“ครับ คุณย่าเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว...”วรัญญูตอบกลับไปด้วยเสียงเบาๆ ดูท่าทางแล้วชายชราผู้นี้จะไม่ใช่เพียงแค่รู้จักคุณย่าของเขาอย่างผิวเผินเสียแล้ว
“ร้านนี่...ตอนนี้เราก็ทำเองซิ่นะ...ฉันชื่อภูธร...แม่พรน่ะ เคยเป็นคู่หมั้นของฉันเอง”
“อ่ะ ครับ...เอ๊ะ?” ยังไม่ทันจะได้ตอบรับคำถามแรกก็ต้องแปลกใจกับประโยคถัดมา
“ให้ฉัน...แวะมาหาแม่พรที่นี่บ่อยๆจะได้ไหม” ภูธรถามพลางยิ้มด้วยรอยยิ้มเศร้าๆที่วรัญญูเองก็ปฏิเสธไม่ลง

หลังจากนั้นมาชายชรา ฐานะดีที่ชื่อภูธรก็จะแวะเวียนมาที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงที่กำลังจะต้องปิดกิจการของวรัญญูอยู่บ่อยๆ ภูธรเล่าให้วรัญญูฟังว่า ครั้งหนึ่ง เขากับ “แม่พร” หรือ “ย่าพร” ของวรัญญูนั้น เคยเป็นคู่หมั้นหมายกันมาก่อน แต่เป็นเพราะว่าฐานะทางบ้านของแม่พรเกิดไม่ดีเกือบถึงขั้นล้มละลายหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็ทำให้ต้องถอนหมั้นเลิกรากันไปเพราะตระกูลธิติเดชาพงศ์นั้นไม่ต้องการที่จะแต่งกับคนที่ฐานะไม่เท่าเทียมกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรักและคิดถึง “แม่พร” มาจนถึงตอนนี้  ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสที่จะออกตามหา เพราะมัวแต่ทำงานสร้างฐานะให้กับตนเองและครอบครับในปัจจุบัน จนเกษียณตัวเองออกมานังๆนอนๆอยู่บ้านจึงเกิดขึ้นถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นจึงออกมาตามหา ภูธรมักจะมานั่งมองรูปของย่าของวรัญญูอยู่เป็นชั่วโมงๆ พลางชวนวรัญญูคุยเรื่องนั้นนี้ไปเรื่อย ปากก็ชมว่าหน้าตาเหมือนย่าเสียเหลือเกิน จนกระทั่งวันหนึ่งภูธรที่ทั่วไปแล้วเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน จึงออกปากขอให้วรัญญูมาเป็นลูกบุญธรรมของตัวเอง เหตุเพราะชอบที่วรัญญูเป็นเด็กดีพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะกอบกู้สถานการณ์ของร้าน แต่ในเมื่อมันแย่ขนาดนี้ เขาก็อยากจะช่วย จึงขอให้วรัญญูมาเป็นลูกบุญธรรม แล้วเขาจะช่วยเรื่องเงินกับทางร้าน มีข้อแม้เพียงแค่ว่าให้ย้ายออกจากที่นี่ไปอยู่กับเขาที่บ้านตระกูลธิติเดชาพงศ์เท่านั้น วรัญญูเองแม้ตอนแรกจะไม่เข้าใจ และไม่มั่นใจนักกับคำพูดของอีกฝ่าย แต่ด้วยอยากจะรักษาร้านของย่า สถานที่แห่งความทรงจำของย่าเอาไว้ เขาจึงต้องตอบตกลงอย่างช่วยไม่ได้

.....................................................to be con...



หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 03-01-2011 06:47:29
อ่อ ยังงี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-01-2011 07:04:11
ที่มาที่ไป เอาต่อไปก็มาลุ้นกันต่อว่า น้าหลานจะดำเนินต่อไปยังไง
+1 แล้วก็ สวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ไปไหนมีแต่คนรัก ( คนหลง ) คนเมตตานะครับ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-01-2011 07:06:22
ขอโทษ เอา + คืนมาก่อน + ให้ไปเมื่อคืน รอก่อนนะครับ  :m23:
เอากอดแน่ ๆ ไปแทนล่ะกัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-01-2011 08:18:06
อ่อ ที่แท้ก็หลานคู่มั่นเก่า ถ้าได้แต่งกัน ตารันก็คงจะเป็นลูกๆหลานๆแกนี่แหละเนอะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 03-01-2011 10:31:51
ความสัมพันธ์รุ่นปู่นี่เอง...ที่ผูกเอาไว้...
รอดูรุ่งหลานเค้าจะสานต่อยังไงเนอะ อิอิ
รออ่านจ้า...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 03-01-2011 11:13:25
อดีตรักฝังใจ... :monkeysad:
... :mc4: Happy New Year 2011... :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 03-01-2011 15:11:03
 :mc3: สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :mc4:  :L2:
เรื่องโน้นก็สนุก  เรื่องนี้ก็สนุก แต่ดูถ้าว่าเรื่องนี้จะสนุกกว่า 55
..ยังไงก็จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้ทั้ง 2 เรื่องค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-01-2011 15:17:11
อดีตของน้องรันและของปู่ :L1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 03-01-2011 18:17:56
เรื่องราวเป็นมาอย่างนี้เอง อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-01-2011 18:48:56
อ๋อออ  เข้าใจละ  แต่ที่ไม่เข้าใจว่าก็คือทำไมชอบเลี้ยงเหล้าคนในผับด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 04-01-2011 01:34:21
อ๋อออออออออ

เป็นแบบนี้นี่เอง

ปล.Happy New Year 2011 จร้า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 04-01-2011 03:21:18
แวะมาอ่านค่ะ  :L2:
สนุกมากกกกกกกกกกก ชอบอ่ะๆ  :o8:
มาต่อเร็วๆนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-01-2011 07:45:23
น่ารักจังเลย  :-[

ไม่รอดหลานนอกไส้แล้ว

ยอมรับซะ :laugh:

 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 09-01-2011 03:02:16
เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้เอง

กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ต้องพยายาม เพื่อรักษาไว้ซึ่งของรักและสมบัติของปู่ย่าตายาย

คุณน้าพยายามเข้า แล้วคุณหลานจะได้รู้ความจริงเมื่อไรกันนะ

ลุ้นต่อไป ขอบคุณค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 09-01-2011 09:32:53
เป็นเรื่องที่อ่านลื่น และน่าติดตามมาก
ไม่รวมเหตุผลของตัวละคร ติดตามๆๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน$
เริ่มหัวข้อโดย: Cupcake ที่ 10-01-2011 01:11:26
เพิ่งตามมาอ่านค่าาาา
น่าติดตามอีกเรื่องนึงแล้ว
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 6 3/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Monkzaa ที่ 10-01-2011 09:53:07
อืม รอ รอ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 17-01-2011 18:30:06
@@@Writer's Talk@@@
เหลียวซ้าย.....และขวา.....  :m22: อ๊ะ !! ถูกจับได้แล้วซิ่ว่าคนเขียนอู้ (ฮา)  :m29:
มาแล้วค่ามาแล้ว ปล่อยให้รอนาน แต่ไม่ได้ให้รอเก้อนะคะ (อย่างน้อยก็คงไม่ปล่อยให้รอจนกระทู้โดนลบ ฮา...) (ไม่ตลกละ)

เอาล่ะค่า ไม่พูดพล่ามทำเพลง โพสต์ต่อล่ะนะคะ

................................................


"แต่พี่ก็มีเงินจ้างหนู แล้วก็ดูแลร้านได้นี่คะ...แค่พี่สบายก็ดีแล้วล่ะค่ะ”

เสียงของฟ้าดังขึ้นเรียกสติของวรัญญูให้ตื่นจากภวังค์ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าๆให้กับอีกฝ่าย สองมือลูบหัวโตๆของเจ้าเคนไปมา ซึ่งเจ้าเคนเองก็คลอเคลียวรัญญูเหมือนกำลังอยากจะบอกข้อความบางอย่างออกไป

 “ดูท่าเจ้าเคนมันอยากไปกับพี่นะ" ฟ้าบอกเพราะมันเป็นเวลานานเลยทีเดียวตั้งแต่วรัญญูจากร้านนี้ไป ตั้งแต่วันนั้นมาเธอจะเห็นเจ้าเคนที่ตัวโตเกินกว่าจะอยู่ในตู้โชว์เหมือนหมาแมวตัวอื่นๆได้ ไปนั่งรออยู่ที่หน้าประตูกระจกหน้าร้าน มองคนเดินผ่านไปมา จนกระทั่งร้านปิด มันรอให้วรัญญูกลับมาทุกวัน เหมือนกับว่ามันไม่เคยลืมเจ้านายที่รักเลย

"ก็อยากจะพาไปอยู่ด้วยหรอกนะ...แต่ "คุณพ่อ" ท่านจะว่ายังไงพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" แววตาของวรัญญูอ่อนแสง

ตั้งแต่วันที่คุณพ่อภูธรรับเขาเป็นลูกบุญธรรม แผนการทุกอย่างที่เคยวางไว้ในชีวิตก็เปลี่ยนไป เขาจำเป็นต้องเลิกทำงานที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงที่เขารัก หันไป "พยายาม" จะเอาดีทางด้านเลขานุการ แต่มันก็ดูจะไม่เข้ากับคนอย่างเขาเอาเสียเลย ภูธรเองก็แปลกทั้งๆที่รู้ว่าเขาทำงานออกมาได้ไม่ดีนักแต่ก็ยังคงให้เขาทำงานในตำแหน่งนี้ต่อไป พอถามถึงเหตุผลก็มีหลายครั้งที่จะตอบว่า “เดี๋ยวเหตุผลก็มาเอง”  ได้ยินแบบนั้นแล้วใจนึกอยากจะเถียงแต่วรัญญูก็ได้แต่ปิดปากเงียบเก็บความสงสัยเอาไว้ จนทุกอย่างมันเริ่มสะสมหาที่ระบายความกลัดกลุ้มนี้ออกไปไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นจะมีเงินโอนเข้ามาในบัญชีพร้อมกับคำพูดของพ่อบุญธรรมที่โต้ะอาหารว่า “เอาไปเที่ยวซะ” ซึ่งเขาก็ทำเช่นนั้น จนการออกไปเที่ยวกลางคืน ดื่มกินเต้นให้มันชุ่มปอดในเกือบจะทุกๆคืนเท่านั้นกลายเป็นเรื่องปรกติไปเสียแล้ว
 
" งี๊ด " เจ้าเคนรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเจ้านาย มันเข้าไปคลอเคลีย หางที่แกว่งไปมา ตกลง รู้สึกเศร้าตามไปด้วย
" พี่รัน เจ้าเคนฉลาดออก หนูว่าพ่อบุญธรรมพี่ต้องชอบมันแน่ๆเลย ถึงมันจะสอนอะไรไม่ค่อยจำให้ยกขาตีลังกาหมอบคลานไม่ค่อยได้ แต่มันรู้เรื่องนะ  หนูสงสารมัน เอามันไปด้วยนะ " ฟ้าขอร้องนายจ้างของตนเอง
"อืม... "มือเรียวของชายหนุ่มลูกหัวของเจ้าเคนอย่างเอ็นดู ก่อนจะมองหน้าของฟ้าเด็กสาวเองก็ส่งสายตาออดอ้อนไม่แพ้กัน  "เดี๋ยวพี่จะลองไปถามดูก็แล้วกันนะ ยังไงจะมาอีกทีก็แล้วกัน นี่แค่อยากจะมาเยี่ยมเฉยๆน่ะ "

" งี๊ดๆๆ " ราวกับรู้เรื่องว่าเจ้านายของมันกำลังจะกลับไปอีกแล้ว เจ้าเคนคลอเคลียเจ้านายอยู่ไม่ห่าง ดวงตาสีนำตาลกลมโตของลูกหมาตัวใหญ่มองคนทั้งคู่สลับกัน แล้วส่งเสียงเห่าเหมือนจะบอกให้วรัญญูพามันกลับไปด้วย
"ไม่ได้หรอก...อย่างน้อยก็ตอนนี้นะ เคน รอหน่อยนะ พี่ไปแล้วนะฟ้า...ถ้ายังไงจะมาเยี่ยมอีกก็แล้วกันส่วนเรื่องเงินพี่ก็จะเอาเข้าให้เรื่อยๆ ขาดเหลืออะไรก็บอกนะ" วรัญญูยิ้มให้ลุกจ้างของตัวเองก่อนจะขยี้เส้นขนสีทองของเจ้าลูกหมาตัวโต แล้วหันหลังเดินกลับออกมา โดยที่ห้ามตัวเองเหลือเกินที่จะไม่หันกลับไปมอง ทั้งที่เจ้าเคนนั้นกำลังร้องและเห่าเสียงดังพลางใช้ลำตัวตัวใหญ่เกินวัยของมันกระโดดตะกุยประตูกระจกของร้านด้วยอยากจะวิ่งตามเจ้านายออกไป
วรัญญูหลับตาลงเมื่อได้ยินเสียงนั้น เขาไม่อยากจะฝืนพาเจ้าเคนไปลำบากด้วยตอนนี้

....แม้แต่เรื่องของตัวเองฉันยังจัดการมันไม่ค่อยได้เลย ขอโทษนะ เคน...


จนเมื่อวรัญญูเดินลับสายตาไปเจ้าเคนถึงได้เงียบเสียงลงท่าทางซึมลงไปทันตาเห็นใบหูโตๆของมันตกลู่ ปลายจมูกก้มลงแทบติดพื้นก่อนจะหมอบตัวลงตรงหน้าประตูเหมือนเช่นทุกที

" เคน " ฟ้าเรียกเจ้าสี่ขาด้วยน้ำเสียงสงสารจับใจ ก่อนจะพยายามหาเรื่องที่มันชอบ อย่างเช่น .. สายจูง..ทันทีที่เห็นสายจูงสีชมพูสดใสที่ฟ้าบรรจงเลือกให้ เจ้าเคนก็กระโดดเกาะโต๊ะพยายามชูคอให้ใส่สายจูงให้ทันที หางของมันแกว่งไปมา ดูท่าการได้ออกไปเดินเล่นจะสำคัญเหนือเรื่องอื่นใด
 " ฮะ ฮะ แกเนี่ยน้า .. ปะ ไปเที่ยวกันๆ " เด็กสาวใส่สายจูงให้มันก่อนจะพามันออกนอกร้านเพื่อพาไปเดินเล่น

………………………………


ใครจะไปคิดว่าหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศเสียส่วนใหญ่จะชอบเดินชมย่านเก่าแก่ของเมือง และบางครั้งก็เตลิดเลยมาจนถึงฝั่งธนบุรีอยู่บ่อยครั้ง อินทัชเดินเรื่อยเปื่อยในวันหยุดจะว่าไป นี่ก็เป็นวันแรกตั้งแต่กลับจากเมลเบิร์นที่ได้พักผ่อนจริงๆแบบนี้ ที่จริงเขากะจะใช้วันว่างวันนี้กับวรัญญูซักหน่อย จะด้วยการแกล้ง หรืออะไรก็ตามแต่วรัญญูก็กลับหนีกลับไปเสียก่อนในตอนเช้า ทำให้อดขำไม่ได้ว่าทำไมอีกฝ่ายจะต้องรีบหนีเขาไปไหนนักหนา หรือเป็นเพราะว่าจะกลัวการใช้เวลาในยามเช้าร่วมกัน

..ทีแบบนี้ทำเป็นไร้เดียงสา..
 
อินทัชคิด ขณะที่เดินดูตึกรามบ้านช่องไปเรื่อย น่าแปลกที่เขาอชอบมองดูอาคาร และสิ่งก่อสร้างต่างๆ มันทำให้เขาสงบอย่างประหลาดเมื่อได้มอง
“แท่งคอนกรีต” และ “ส่วนผสมของอิฐ เหล็ก และปูน” เหล่านั้น อาจจะเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เคลื่อนไหว แต่ก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาล ไม่เหมือนกับผู้ที่อาศัยอยู่ คนพวกนั้นเปลี่ยนไปเรื่อย เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความจริงแล้วเขาอยากจะทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ สิ่งปลูกสร้างอะไรแบบนั้น แต่ในเมื่อธุรกิจที่บ้านเป็นด้านอิมพอร์ทแอนด์เอ็กซ์ปอร์ตมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องมาดูแลด้านนี้ อินทัชพยายามหาจุดที่เขาชอบในงานนี้อยู่นานจนกระทั่งคิดได้ว่า ถ้าหากเป็นเรื่องเงินแล้วล่ะก็เขาก็คงจะนั่งมองมันได้อย่างสบายใจ เงินมันไม่มีชีวิต แต่มันก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกัน ความผันผวนของค่าเงินมันน่าสนุกกว่าการมานั่งเดาใจคน ทั้งคนในบ้าน คนนอกบ้าน ไม่ว่าใครเขาก็ไม่ค่อยอยากจะสนใจนัก สู้ทำงานให้สบายใจให้มีเงินให้ได้กำไรจะไม่ดีกว่าอย่างนั้นหรือ....แต่ตั้งแต่กลับมาเมืองไทยนี่ ดูเหมือนว่าความคิดนี้ของเขาจะค่อยๆจางหายลงไป...เพราะเหตุใดนั้นอินทัชก็ได้ยิ้มน้อยๆเหมือนเช่นทุกที

"เคน...โอ้ย ช้าๆหน่อยจะเดินตามไม่ทันอยู่แล้ว"

เสียงเด็กสาวโวยวายขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงวิ่งทั่กๆมาตามทางเดิน เบื้องหน้าของเธอคือสุนัขพันธ์โกลเด้นรีทีฟเวอร์ที่ดูจะพยายมลากเธอให้เดินกึ่งวิ่งเสียมากกว่า

" แฮ่ๆๆ " เจ้าเคนวิ่งจนลิ้นห้อย จมูกของมันพยายามหาที่มาของกลิ่น หางของมันประดิกไม่มาอย่างดีใจ มักลากเจ้าของสายจูงมาจนกระทั่งถึง..
 "โฮ่งๆๆๆ " เจ้าเคนเดินไปนั่งลงตรงที่อินทัชยืนอยู่แล้วส่งเสียงเฮ่า พลางมองคนแปลกหน้าที่มีกลิ่นเดียวกับเจ้านายของมันสลับกับใบหน้าตกใจของฟ้า
 "เคน ไม่เอา อย่าไปเห่าเขาซิ่" ฟ้าพูดพลางพยายามดึงให้ลูกหมาตัวโต ลุก แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล แต่ ก็อดแปลกใจไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมกับคนแปลกหน้า แล้วเจ้าเคนถึงยอมนั่งเสียเรียบร้อย แทนที่จะเห่าเสียงดังใส่อย่างเดียว
"ขอโทษนะคะ เจ้าตัวนี้มันดื้อไปหน่อย"  อินทัชเห็นตาใสๆของเจ้าเคนที่แสดงให้เห็นถึงความแสนรู้น่าเอ็นดูนั่นก็ต้องยิ้ม
" ชื่อเคนรึไง เราน่ะ " ชายหนุ่มลูบหัวมันเบาๆ ซึ่งเจ้าเคนก็เงยหน้าให้ลูบหัวของมันอย่างเต็มใจ  มันเห่าอย่างดีอกดีใจราวกับเจอเจ้านายตัวเองยังไงยังงั้น
"เคน.... "ปฏิกริยานั้นทำเอาฟ้าแปลกใจไม่น้อย "ดูท่ามันจะชอบพี่มากเลยนะคะ กับหนูบางทียังไม่ยอมเลย ..."ฟ้าว่าพลางหัวเราะ
"ได้ทีล่ะอ้อนอย่างกับได้เจอเจ้านายเลยนะ แก "
" บางที ผมอาจจะมีกลิ่นเหมือนเจ้านายมันก็ได้นะ .. ว่าไง เจ้าเคน” ว่าพลางร่างสูงก็ลูบหัวของเจ้าตูบไปมา เคนซุกหัวกับขากางเกงราคาแพงของชายหนุ่มแทนคำตอบ แววตาของมันที่มองเขา ราวกับขอให้เขาพามันไปด้วย " ............ อะไรของแกน่ะ .. อยากไปด้วยรึไง? " ชายหนุ่มถามมันขำๆ ซึ่งเจ้าเคนก็เห่ารับทันที
"ฮ่ะๆ เหรอคะ อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เจ้านี่ป่วยน่ะค่ะ ...ไม่มีใครซื้อไปเลี้ยงซักที ทางร้านก็เลยต้องดูแลมัน ตั้งแต่ตัวเท่านี้..."ฟ้าทำมือ
" จนตัวโตป่านนี้แล้ว..."
" ป่วยงั้นเหรอ? " ชายหนุ่มนั่งลงตรงหน้ามันลองพิจารณราและนึกถึงหมาพันธ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เขาเคยเห็น หูของเจ้าเคนนี่คงจะใหญ่และยาวกว่าปรกติของหมาพันธ์เดียวกันกระมัง " เขาคงคิดว่าเป็นพาคินสันซินโดรม แต่ มันก็ไม่เคยเดินตัวสั่น ใช่ไหม? "
"ไม่ค่ะ..จะสั่นก็เวลา กลัวฟ้าร้องเท่านั้นเอง "ฟ้าพูดติดตลกพลางลูบหัวเจ้าเคนเบาๆ
" ถ้าแบบนั้นมันก็ไม่ป่วยหรอก ผมว่ามันฉลาดมากเลยนะ ใครได้ไปคงรักมัน” อินทัชว่าพลางยิ้มเขานึกเอ็นดูเจ้าตูบตัวนี้อย่างบอกไม่ถูก
" โฮ่ง " เจ้าเคนเห่ารับคำราวกับรู้เรื่องที่ทั้งสองคนพูด
"ถ้าอย่างนั้น พีี่ไม่เอาไปเหรอคะ ...เนี่ย เจ้านายสุดที่รักของมันก็อยู่ๆ ต้องย้ายไป...คงจะเหงา และดูท่ามันก็ชอบคุณมากๆเสียด้วยซิ่" ฟ้าเริ่มพูดยาวไม่พอยุให้คนแปลกหน้าคนนี้รับเจ้าเคนไปเลี้ยงเสียอีกต่างหาก  
" จะไม่เป็นปัญหาเหรอครับ? "ชายร่างสูงถามย้ำพลางลูบขนนุ่มๆของมันไปมา
"ไม่หรอกค่ะ...เจ้านายของมันก็คงจะดีใจด้วย ทางนั้นเขาก็ อืม จะให้พูดยังไงดีล่ะคะ น่าสงสารมาก ทำร้านเพ็ทช๊อปอยู่ดีๆ ก็ต้องเลิกไป เพราะมีคนมารับไปเป็นลูกบุญธรรมเศรษฐี...เป็นคุณตาเลยนะคะ  ต้องไปสืบทอดกิจการอะไรนั่นล่ะค่ะ "ฟ้าว่าพลางนั่งลงลูบหัวลูกหมาของเจ้านาย
“เจ้าเคนเลยต้องอยู่ตัวเดียว บางทีพี่เขาก็เปรยๆนะคะ ว่าถ้ามีใครมารักเจ้าเคนแทนเขาได้ก็คงดี”
 
ลูกบุญธรรม...คุณตา?..สืบทอดกิจการ?

ชายหนุ่มขมวดคิ้วข้อมูลที่เขาได้ทำให้สมองทำงานประมวลผล ถึงแม้จะไม่มั่นใจนัก แต่ ณ เวลานี้ตอนนี้จะมี ตาแก่บ้าที่ไหนจะมารับคนไม่รู้จักไปเป็นลูกบุญธรรมได้ถ้าไม่ใช่ ตาภูธรของเขาเอง

....ก็สวยซิ่.....
ริมฝีปากของอินทัชเหยียดยิ้มก่อนจะล้วงประเป๋าเงิน
 
" เท่าไหร่ครับ สำหรับค่าเลี้ยงดูเจ้าเคน ที่ผ่านมา "
"อุ้ย...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ...เอาเป็นราคาเดิมก็แล้วกันค่ะ....อืม...ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ที่ หกพันนะคะ”ฟ้าว่า ข้อเสียของเด็กสาวคนนี้คือคิดไวทำไวจนบางครั้งก็เหมือนจะไม่ได้คิดอะไรมากเสียด้วยซ้ำไป
" งั้นพี่ให้น้องสองหมื่นก็แล้วกันนะครับ บวกค่าแสนรู้ของเจ้าเคน " อินทัชว่าก่อนจะแบมือขอสายจูงจากหล่อน
" ไปด้วยกันไหมเคน? "เจ้าเคนนั่งลงมองหน้าเจ้านายคนใหม่ของมันตาเป็นประกายแทนคำตอบ...แต่ดูท่าเจ้าเคนจะมองสายจูงเสียมากกว่า ทั้งสองทำการแลกเปลี่ยนสายจูงเป็นเงินสดทันควัน

"อ่ะ...ขอบคุณมากค่ะ ยังไงหนูจะรีบติดต่อเจ้านายคนเก่าของมันทันที...เอ่อ ไม่ทราบขอชื่อกับที่อยู่ของพี่จะได้ไหมคะ คือ...ทางนั้นเขาก็จะได้ไม่เป็นห่วง" ฟ้ากุลีกุจอส่งสายจูงให้ก่อนจะรีบ ดึงเอาสมุด ปากกาออกมา แต่อินทัชกลับยื่นนามบัตรของตนให้แทนคำตอบ
"บอกเขาว่าถ้าจัดการชีวิตตัวเองได้และยังต้องการมันอยู่ก็ให้มาหาผม "
"อ่ะ..ค่ะ" ฟ้ารับนามบัตรของอีกฝ่ายมาอย่างงงๆ แต่ถึงกระนั้นก็ ไม่ได้ถามอะไรต่อ
" ไป..เคน " เขากระตุกสายจูงเล็กน้อย เจ้าเคนยืนขึ้นแล้วขืนตัวหันไปทางฟ้าเห่าเสียงดัง
"เดี๋ยวฉันบอกเจ้านายแกเอง ไม่ต้องห่วงนะเคน" ฟ้าว่าพลางโบกมือให้ บนดวงตาของหญิงสาวนั้นมีน้ำตาคลอหน่วย อดใจหายไม่ได้ ทาอยู่ๆลูกหมาขายไม่ออกที่ดูแลมาตลอด ก็จะมาขายออกเอาปุบปับและถูกพาไปง่ายๆแบบนี้

" งี๊ดๆ " เจ้าเคนยังคงหันหน้าหันหลังอยู่ตลอด แต่มันก็เดินตามผู้เป็นนายคนใหม่ของมันไปเมื่อสายจูงสีชมพูดถูกเขย่าไปมาเรียกความสนใจของมันอีกครั้ง

………………………………………………


เสียงโทรศัพท์มือถือของวรัญญูดังขึ้นกลางดึก เลขานุการหนุ่มยังไม่หลับ เขายังง่วนอยู่กับการถอดการประชุมเมื่อวันก่อน แล้วต้องจัดการพิมพ์มันให้เรียบร้อย มือเรียวคว้าโทรศัพท์มารับ
"ฮัลโหล ฟ้าว่าไง " วรัญญูรับโทรศัพท์ทั้งๆที่ยังไม่ละตาละมือจากคีย์บอร์ด ผมยาวประบ่าถูกมัดรวบหลังหัวเหมือนทุกที ด้วยคิดว่ามันจะทำให้มีสมาธิขึ้นอีกนิดกับการทำงาน  
" พี่รัน พี่ดีใจกับหนูหน่อยซิ่ เจ้าเคนน่ะขายออกแล้วนะ " ฟ้าบอกเพราะเธอก็เฝ้ารอวันที่จะมีคนมาซื้อเจ้าเคนไปอยู่เป็นนานสองนาน จนในวันนี้อยู่ๆจะมี่คนมาจ่ายเงินซื้อก็เอาไปกันง่ายๆแบบนั้น
"หา! ขาย? ขายให้ใคร ? ฟ้า เธอขายเจ้าเคนเหรอ..."ทันทีที่ได้ยิน วรัญญูแทบจะตะโกนถามด้วยความตกใจเกือบจะโกรธด้วยซ้ำไป  
" อ้าว ก็พี่บ่นๆไม่ใช่รึไง ว่ามันขายไม่ออก เลยต้องเลี้ยงเอาไว้น่ะ แถมคนที่ซื้อไปนะ เขาให้ตั้งสองหมื่นแน่ะ สองหมื่นเชียวนะพี่ สำหรับหมาป่วยอย่างเจ้านั่นน่ะ " ฟ้าบอกอย่างตื่นเต้น
"สองหมื่นยังไงแต่ทำไมเธอไม่ถามฉันก่อน ฟ้า เคนนั่นนะ หมาของฉันนะ!! " เสียงของวรัญญูสั่น เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะ โกรธเด็กสาวที่ตัดสินใจโดยพละการหรือว่าอะไรกันแน่
" ก็พี่ไม่ได้บอกหนูนี่ว่า เจ้าเคนไม่ได้มีไว้ขายน่ะ .. ทำไงดีล่ะ หนูขอโทษๆ เนี่ย หนูมีนามบัตรของเขาด้วย พี่ไปเอามันคืนมาซี่ " ฟ้าระล่ำระลักบอกรีบบอก
"เหรอ ที่ไหน บอกที่อยู่พี่มา " วรัญญูเองก็ถามอย่างร้อนรน
" เขาชื่ออินทัชนะพี่ ส่วน เอ่อ....ที่อยู่ก็.. "
 "ชื่ออะไรนะ " วรัญญูแทบจะตะคอกถามด้วยความตกใจ
 " อินทัช ทำงานที่พีทีกรุ๊ปอ่ะ ทำไมเหรอพี่? "ฟ้าถามอย่างงงๆ อดคิดไม่ได้ว่านอกจากขายเจ้าเคนไปแล้วเธอไปทำผิดอะไรเอาไว้อีก
"ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องบอกแล้ว พี่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน" ชายหนุ่มหน้าสวยกัดริมฝีปากด้วยความแค้นใจ ที่ลุกสุนัขตัวโปรดของตัวเองถูกขายไป และ แค้นใจกับความที่โลกใบนี้มันกลมมากเสียจะส่งใครมาซื้อเจ้าเคนไปไม่ส่ง จะต้องมาส่งผู้ชายที่ชื่ออินทัชคนนี้มาเสียด้วย!!

...............................

เช้าวันรุ่งขึ้นรถมินิฯของวรัญญูขับพุ่งออกไปตามถนน มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มปล่อยจากพวงมาลัยมากดปุ่มโทรศัพท์หาเบอร์ที่เขามักจะโทรเข้ามาเสมอๆในช่วงนี้ เนื้อหานั้นหรือก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการ “จิก” ให้เขาวิ่งเข้าไปหาที่ห้อง หรือวิ่งไปทำนั่นนี่ให้ระหว่างที่อยู่ที่บริษัทอยู่เสมอๆ

หมายเลขโทรศัพท์ที่อินทัชบันทึกเอาไว้ แต่ไม่เคยได้รับสายสักครั้งเพราะอีกฝ่ายไม่เคยที่จะโทรหาเขาก่อนเลยปรากฎตรงหน้าจอโทรศัพท์ราคาแพง ชายหนุ่มละสายตาจากหนังสือพิมพ์ยามเช้า แล้วกดรับมัน โดยที่ไม่ไกลจากเขาคือมารดาที่กำลังจัดโต๊ะอาหารโดยที่มีเจ้าลูกหมาตัวโตอยู่ข้างๆ เดินไปเดินมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

"คืนหมาของผมมานะ!! " เสียงของวรัญญูดังขึ้น จากปลายสาย วิธีการพูดนั้นดูจะต่างไปมากเหลือเกินจากเวลาปรกติไม่ต่างอะไรกับเด็กที่ถูกแย่งของเล่นไป
" หมาของนาย?  " เสียงทุ้มทวนคำ ก่อนจะยิ้มออกมา  "อ้อ แน่ใจน้า...ว่าหมาของนาย? จัดการชีวิตตัวเองเรียบร้อยแล้วรึไง ถึงโทรมาน่ะ? "
"ชีวิตของผม ก็เรื่องของผม หมาของผม ก็คือหมาของผมเหมือนกัน บอกมาว่ามันอยู่ที่ไหน " วรัญญูขมวดคิ้วแน่น ดูเขาจะเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาได้ง่ายทีเดียวเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกหมาตัวนี้
" ฉันจ่ายไป สองหมื่นกับหมาที่เด็กที่ร้านนายบอกว่ามันป่วย ง่ายไปมั๊ง ไอ้หนู " อินทัชกวนประสาทผู้อ่อนวัยกว่าอย่างนึกสนุก
"ใครเป็นไอ้หนูของเธอไม่ทราบ..." ทันทีที่อีกฝ่ายขึ้นคำแบบนั้น วรัญญูก็สวนกลับแทบจะทันที " อินทัช อย่าลืมว่า ต่อให้อายุเท่าไรฉันก็เป็นน้าของเธอนะ "
" หึ หึ .. นายรู้จักบ้าน ”พี่สาว” นายไหมล่ะ? มันอยู่นี่ล่ะ รีบมาแล้วกัน "ชายหนุ่มบอกก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์ สัญญาณถี่ๆจากสายที่ถูกตัดไป ทำให้ วรัญญู แทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอีกทาง พลางเท้าก็กดเร่งคนเร่งไปยังสถานที่ที่เขาเองก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่เสมอ

...บ้านของพี่สาว...


...................................................To be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 17-01-2011 18:53:42
รอบเอาคืนเรอะ
อยากอ่านต่อ
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-01-2011 18:57:56
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-01-2011 19:32:06
สงครามประสาท เริ่มยกที่หนึ่ง ว่าด้วยเรื่องน้องหมา  :z2:
+1 เป็นกำลังใจให้ แม้จะหายไปนานนนนน ก็ตาม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 17-01-2011 19:39:16
ทะม๊ายยย อินทัช ต้องชอบแกล้งรันด้วยอ่าาาาา  :z3: :z3:
หมั่นไส้แอบถีบ ทีนึง  :z6: หนอยยยย ขอให้รันเอาคืนมั่งเหอะ
สะบัดบ๊อบบบ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 17-01-2011 20:33:32
หาเรื่องไปแกล้งเค้า โดนเกลียดจะสมน้ำหน้าให้นายอินทัช
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 17-01-2011 21:18:12
เจ้าเคน~~~ .. โคไรท์ฯเป็นแฟนคลับเจ้าเคนค่ะ!! อิมเมจพร้อมนิสัยนั้น โขกมาจากน้องหมาที่บ้านของไรท์เตอร์เองแหละ !!
เอาล่ะน้องรัน อย่าได้ยอมแพ้หลานโข่งเชียว พาเจ้าเคนกลับบ้านให้ได้นะคะ!!

(http://i40.photobucket.com/albums/e223/kuruminna/run4.jpg)
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-01-2011 21:41:20
เจ้าเคนสบายเลย  :mc2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-01-2011 21:47:19
มีพี่สาว โผล่มาอีกคน
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: LEKU_W ที่ 17-01-2011 21:53:17
ง่ะ อินทัชนิสัยไม่ดี
มาเอาเจ้าเคนไปทำมา เอามาแกล้งรันอีก นิสัยไม่ดีจริงๆ

เชอะ ไม่เข้าข้างหรอก

แต่เฮ้อ พี่สาว มาอีกหนึ่งชีวิตวุ่นวาย น่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-01-2011 21:55:35
ค้างงงงงงง :z3:

กำลังเป็นเรื่องเลย

 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-01-2011 21:55:56
บวกให้ๆๆ
ต้องพึ่งเจ้าเคนให้ช่วยเชื่อมสัมพันธ์ซะละม๊างง >.<
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 17-01-2011 23:03:12
ชอบอ่ะ คุณไรท์เตอร์ มาต่ออีกยาวๆ ได้ป่าว  :call: :call:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-01-2011 23:38:04
เจ้าเคนจะกลายเป็นสื่อรักมั้ยหนอ

อย่างน้อย เคนก็น่าจะได้เจอกับรันบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนใช่มั้ย
อินทัชก็ท่าทางจะเอ็นดูเจ้าเคนไม่น้อยเลย

ลงมือทำงานได้แล้วเคน

บวกอีก 1 แต้มนะจ๊ะ มาถี่ๆก็ีดีจ้า

ชื่อผิดอยู่จุดหนึ่งจ้า อินทัช ไม่ใช่ ทินกฤต สินะ
แต่ทินกฤตกลับยื่นนามบัตรของตนให้แทนคำตอบ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 17-01-2011 23:42:52

ชื่อผิดอยู่จุดหนึ่งจ้า อินทัช ไม่ใช่ ทินกฤต สินะ
แต่ทินกฤตกลับยื่นนามบัตรของตนให้แทนคำตอบ


แก้แล้วนะคะ ขอบคุณค่า...พีจังเบลออย่างแรง ขอบคุณค่ะ

//////////////

edit : มาอวยเจ้าเคน

ไหนๆน้องรัน ก็มีคนอวยไปแล้ว ก็เลยเอาเจ้าเคนมาอวยค่ะ

(http://i270.photobucket.com/albums/jj87/goldfishpka/08151550-01.jpg)

หน้าแบบนี้ล่ะค่า...น่ารักเนอะ ไม่ใช่ของพีจังหรอก ของโคไรท์ คุรุมะ เขาต่างหาก ชื่อจริงน่ะเหรอ ก็..."เคน" นี่ล่ะค่า 
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-01-2011 13:36:00
มาต่ออีก
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 18-01-2011 15:54:35
ว้าว จะเป็นน้องหมาสื่อรัก หรือเปล่านะ :call:

 :z2:น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-01-2011 16:38:12
สงสัยเคนจะเป็นพ่อสื่อนะครับ งานนี้
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 18-01-2011 19:30:44
บ้านพี่สาว
ใครอ่ะ

ทะเลาะกันเรื่องหมาซะแล้วสิ

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 18-01-2011 20:51:12
กระโดดกอดคนเขียน + น้องเคน
อย่างงี้ต้อง +1 สำหรับการสื่อรักซะแล้วล่ะม้างงง งงง
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 18-01-2011 22:48:42
เมื่อไหร่มันตะได้หวานสักทีน้อคู่นี้ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 29-01-2011 17:20:16
อยากอ่านต่อเร็วๆๆจังน้า

ให้เจ้าเคนเป็นพ่อสื่อไปเลย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 7 17/1/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 31-01-2011 01:37:32
อ๊ายยย น่ารักจัง
รออ่านต่อค่า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 08-02-2011 12:56:14
@@@Writer's Talk@@@
มาแล้ว มาแล้ว...
มาช้ายังดีกว่าไม่มา ขอโทษที่ทำให้คนอ่านต้องรอคอย
กันจนคอยืดคอยาว....ชะแง้แลหาอินทัช กะ วรัญญูกันมาเสียนาน...
เมื่อยไหมคะ?

พีจังนวดๆให้น้า :z6: ...อ่ะ....ไม่ใช่ละ o22

เอาล่ะไปอ่านต่อกันเลยดีกว่า.....

........................................................


" หึ หึ .. นายรู้จักบ้าน ”พี่สาว” นายไหมล่ะ? มันอยู่นี่ล่ะ รีบมาแล้วกัน "ชายหนุ่มบอกก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์

สัญญาณถี่ๆจากสายที่ถูกตัดไป ทำให้วรัญญูแทบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอีกทาง พลางเท้าก็กดเร่งคนเร่งไปยังสถานที่ที่เขาเองก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่เสมอ

...บ้านของพี่สาว...

...................................................


ไม่นานนัก รถมินิคูเปอร์ของวรัญญูก็พาเจ้าของรถมาถึงประตูบ้านหลังใหญ่ที่มองจากภายนอกดูเรียบหากแต่โก้หรูอยู่ไม่น้อย บ้านหลังนี้อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรห่างจากบ้านของพ่อบุญธรรมของเขาไปราวสี่สิบห้านาที ไม่ได้ไกลเลยแต่กระนั้นแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะได้โพล่หน้ามาที่นี่บ่อยนัก

อากาศยามเช้ายังคงเย็น วรัญญูสูดอากาศเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจกดออดที่หน้าประตูบ้าน วรัญญูชะเง้อชะแง้เข้าไปด้านใน ไม่มีเด็กรับใช้ในบ้านเดินออกมาซักคน พลางยกแขนขึ้นมองดูนาฬิกาข้อมือ ยังไม่ทันจะแปดโมงดีเลยเกิดโพล่พรวดพราดเข้าไปตอนนี้ไม่รู้ เจ้าของบ้านที่เป็น “พี่สาว” ของเขาจะว่าอย่างไรบ้าง พลันเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่อีกฟากของรั้ว สิ่งนั้นพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็ว....และไม่ใช่คน
 
" โฮ่งๆๆๆ "

เสียงของลูกหมาตัวโตดังขึ้นพร้อมเอาสองขาตะกายประตูรั้ว เสียงหอบหายใจกับหางเป็นพวงที่กระดิกไหวนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันยินดีแค่ไหนที่ได้เห็นวรัญญู
“เคน! มาอยู่นี่จริงๆด้วย เคนๆ มานี่มาเด็กดีมาๆ...เดี๋ยวพ่อพากลับไปอยู่ด้วยกันนะ” ชายหนุ่มผมยาวประบ่ายื่นมือลอดรั้วเข้าไปสัมผัสกับหัวโตๆของเจ้าลูกหมาที่เขาฝังใจว่ามันถูก “ลักพาตัว” มา

“ใครจะพาใครกลับบ้าน? หึ?...” เสียทุ้มดังขึ้นทำให้วรัญญูต้องเงยหน้าขึ้นมอง อินทัชยืนเท้าแขนกับประตูรั้วยิ้มเพล่

“คุณ!! เอาหมาของผมคืนมาเดี๋ยวนี้นะ”  วรัญญูโวยแทบจะในทันที อินทัชไม่ตอบร่างสูงส่ายหน้าเล็กน้อย ชายหนุ่มสวมเสื้อยืดกับกางเกงวอร์มบนใบหน้ามีเหงื่อเกาะพราวดูท่าเพิ่งจะออกกำลังกาย ..หรืออะไรก็ตามมาหมาดๆ...ทำให้วรัญญูนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ ร่างสูงตาเปิดประตูเล็กให้อีกฝ่ายเดินเข้ามา
“เข้ามาก่อนซิ่....” ว่าพลางก็ถอยให้อีกฝ่ายเดินเข้ามา แต่ดูท่าวรัญญูจะไม่ได้สนใจฟังเขาซักเท่าไร ร่างเล็กโผเข้ามากอดเจ้าลูกหมานั่นทันที

"เคน !" วรัญญูเรียกชื่อของลูกหมาตัวโต ก่อนจะก้มลงไปกอดลูกหมาของเขาเต็มรัก  
"ไปกันเถอะ เคน ฉันจะพาแกกลับนะ "  ว่าพลางก็กระตุกปลอกคอของเคนเป็นสัญญาณหนึ่งว่าจะให้เดินตามกลับไปด้วยกันทันที

" ใครมาน่ะ อินทัช " แต่ก่อนจะได้ทำอะไรเสียงของรุ่งนภา “พี่สาว” บุญธรรมของวรัญญู หรือ แม่ของอินทัชก็ดังขึ้นที่หน้าประตูบ้าน ทำเอาวรัญญูถึงกับหยุดกึก หญิงสูงวัยสวมเสื้อผ้าสบายๆอยู่กับบ้าน ผิดกับทุกทีที่แต่งตัวออกจะดู...ทะมัดทะแมงเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่งเดินสั่งงานอยู่ในบริษัท
" วรัญญูมาครับแม่ " อินทัชตอบพลางมองคนที่กอดเจ้าเคน
"อ่ะ... "วรัญญูรีบปล่อยเจ้าเคนแล้วลุกขึ้นยืนทันที  "ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้าครับ พี่บุญธรรม " ว่าพลางยกมือไหว้ท่าทางเก้ๆกังๆ เขาไม่ค่อยได้พบกับรุ่งนภานัก นึกทำตัวไม่ถูกทุกครั้งที่ต้องอยู่ต่อหน้าของหญิงสูงวัยที่ดูมีอำนาจคนนี้  
" เรียกแบบนั้นอีกแล้ว " หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าไปมา " กินข้าวมาหรือยังล่ะ...มาทานข้าวสิ “ ว่าพลางก็เดินกลับเข้าไปด้านในตัวบ้าน เจ้าเคนตัวดีก็วิ่งตามแม่ของอินทัชเข้าไปทันที

เคน...เอ้ย เคน.....”   ยังไม่ทันที่จะได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรกับคำชวนของรุ่งนภาวรัญญูก็ต้องวิ่งตามเจ้าเคนเข้าไปด้านในทันทีซึ่งอินทัชก็เดินตามเข้าไปพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ

..................................

รุ่งนภาเดินนำทั้งคนทั้งหมาไปที่โต๊ะอาหาร ไม่ห่างออกไปมากที่ตรงอีกมุมของห้องอาหารที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายหากแต่มีสไตล์ เด็กรับใช้เดินเอาชามข้าวมาเทอาหารสุนัขอย่างดีใส่เอาไว้ให้ซึ่งเจ้าเคนก็เหมือนกับจะรู้หน้าที่ ลืมนายเก่าวิ่งเข้าหาชามข้าวอย่างว่องไว

"พี่บุญธรรม...เอ่อ.... " วรัญญูหันไปมองเจ้าเคนสลับกับชามข้าว อาหารสุนัขอย่างดีที่ถูกเตรียมไว้นั้น ราวกับจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าเคนจะมาที่นี่นั้นเดาได้ไม่ยากเลยประกอบกับที่อยู่อาศัยของคนที่ไปซื้อมาโดยพลการแล้วด้วย
 "พี่จะเลี้ยง...เจ้าเคนเหรอครับ? "
" มีปัญหาเหรอจ๊ะ ที่นี่ก็กว้างขวางดี มันก็มีความสุขดี เธอจะเอามันคืนเหรอ? "รุ่งนภาถามน้องชายบุญธรรมที่อายุรุ่นราวคราวลูกออกมาตรงๆ  
“นั่งซิ่...กินข้าวด้วยกัน” รุ่งนภาว่าพลางนั่งลงที่หัวโต๊ะ ผายมือให้วรัญญูนั่ง ส่วนอินทัชนั้นก็นั่งลงประจำที่ของตัวเองเรียบร้อย
"คือ...เอ่อ...ผม..." คำถามตรงๆนั่นทำให้ชายหนุ่มร่างบางถึงกับสรรหาคำตอบมาตอบทันทีทันควันออกมาไม่ได้ทันการณ์เหมือนอย่างทุกที ใบหน้าสวยของคนที่ตี่นเช้ากว่าปรกติยิ่งหน้าซีดเข้าไปใหญ่ วรัญญูค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งกับเก้าอี้อย่างเสียไม่ได้  
"ผมแค่คิดว่า ถ้าผมได้ถามคุณพ่อก่อน แล้วถ้าท่านอนุญาติ ผมกำลังคิดว่าจะเอามันไปที่บ้านโน้น ด้วยน่ะครับ " มือเรียวลูบเบาๆลงบนหัวของเจ้าหนูที่เพิ่งจะจัดการอาหารในชามไปหมาดๆ แล้ววิ่งมานั่งอยู่ข้างๆแต่ก็ดูเหมือนจะนั่งใกล้ค่อนไปทางพี่บุญธรรมของเขามากกว่า

" มันขี้อ้อนมาก คงไม่ค่อยมีใครดูแล  " เธอตอบกลับมา ก่อนจะพยักหน้าเป็นสํญญาณให้เด็กรับใช้เดินไปหยิบโถข้าวสวยมาตักข้าวให้วรัญญู
"ถ้าคิดถึงก็มาหามันบ่อยๆสิ "

คำพูดนั้นทำให้วรัญญูถึงกับหมดคำพูดไปเลย รุ่งนภา พี่สาวบุญธรรมของเขาดูจะเป็นผู้หญิงเด็ดเดี่ยว ได้ยินทั้งจากพ่อบุญธรรมและเคยเห็นมาสองสามครั้งว่าเธอเคยดูแลกิจการทั้งหมดก่อนที่จะยกต่อให้ลูกชาย แต่กระนั้นก็ยังเข้ามาสั่งงานเองบ้างในบางครั้ง ลองผู้หญิงที่เด็ดเดี่ยวขนาดนั้นพูดแบบนี้ล่ะก็ มันคงไม่ง่ายแน่ที่เขาจะได้พาเจ้าเคนกลับไปด้วยกัน

"เอ่อ.....ครับ " เส้นผมยาวๆของวรัญญูทิ้งตัวลงตามเมื่อเขาก้มหัวให้กับรุ่งนภา พลางยกมือขึ้นไหว้  
"ถ้าพี่บุญธรรมว่าอย่างนั้น ผมก็ขอฝากเจ้าเคนด้วยก็แล้วกันนะครับ" ทั้งๆที่พูดไปแบบนั้นแต่มือเรียวที่วางอยู่บนตักกลับกำแน่น

"มาเยี่ยมมันบ่อยๆก็แล้วกัน ดูมันจะดีใจที่ได้เจอเธอ  " รุ่งนภาย้ำก่อนจะทานอาหารของตนเองเงียบๆ เช่นเดียวกับลูกชาย ส่วนเจ้าเคนเมื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็มาคลอเคลียกับเจ้านายคนเก่า
 
" งี๊ดด "
 
หัวโตๆของมันถูกับขาของวรัญญูไปมา พลางกระดิกหางให้ มือเรียวลูบลงเบาๆที่ขนนิ่มของเจ้าเคน ใบหน้าสวยหันไปยิ้มเศร้าๆให้กับลูกหมาที่ดูแลมานาน เขาในตอนนี้ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลย.... ไม่คิดเลยว่าอินทัชจะเล่นไม้นี้ พาเจ้าเคนมาอยู่ที่นี่เขาไม่มีทางได้เจ้าเคนกลับคืนไปแน่ๆลองถ้า รุ่งนภายืนกรานคำไหนแล้วทุกอย่างก็จะต้องเป็นไปตามนั้น

...เอาเถอะ...ยังไงก็มาหาได้นี่นะ ....

วรัญญูร่วมโต๊ะอาหารกับสองแม่ลูกไปอย่างเงียบๆ ตลอดเวลารู้สึกได้บ้างถถึงสายตาของอินทัชที่มองมา แต่เขารู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อกรใดๆกับอีกฝ่าย มันไม่ใช่การเริ่มเช้าวันใหม่ที่ดีเลยที่รู้ว่าจะต้องยกหมาของตัวเองให้กับคนอื่นเลี้ยงแบบนี้
 
"ผม...อิ่มแล้วครับ พี่สาว " ชายหนุ่มร่างบางว่าพลางรวบช้อนวาง หลังจากที่ข้าวเช้าถูกจัดการไปได้ไม่ถึงครึ่ง
" ไม่อร่อยรึ? " รุ่งนภาถาม ส่วนลูกชายของเธอยิ้มเล็กๆ อินทัชปล่อยให้แม่ของตนเองจัดการไป
"ไม่ครับ อร่อยมาก ..เพียงแต่ผมทานอะไรมาแล้ว ก่อนจะออกมานี่" วรัญญูตอบเลี่ยงไปแบบนั้น เขาโกหกผู้ที่มีอายุมากกว่าไปคำโตทั้งๆที่สาเหตุจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น

" งั้นรึ? เออนี่ อินทัช วรัญญูนี่เด็กกว่าเรากี่ปีนะ? " รุ่งนภาดูเหมือนจะไม่ได้สนใจที่จะฟังคำตอบจากปากของเจ้าตัว หญิงสูงวัยวางช้อนลงกับจานกระเบื้องสวยก่อนจะหันไปถามลูกชายคนเดียวของเธอแทน
" ตามประวัติพนักงาน .. ประมาณ 9 ปีได้ล่ะครับ " อินทัชตอบเสียงเรียบๆแล้ววางแก้วน้ำลงกับโต๊ะ   ได้ยินคำตอบนั้นรุ่งนภาก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เธอหันไปบอกให้เด็กรับใช้เก็บจานชามแล้วไปยกชากาแฟมาเสริฟแทน


...เล่นอะไรกัน...
บทสนทนานั้นทำให้ดวงตาสีเข้มของวรัญญูมองใบหน้าของสองแม่ลูกสลับกันด้วยความไม่เข้าใจนักท่าทางของเด็กหนุ่มดูสับสนอยู่ไม่น้อย

" แม่ไม่เข้าใจเลยว่า แม่น่ะ จะหาน้องให้เราอีกคนไม่ได้หรือไง อินทัช " รุ่งนภาว่าพลางหันไปหาลูกชาย ดวงตาคมมีพลังที่เหมือนกับดวงตาของลูกชายแทบจะทุกอย่างนั้นเหลือบมองมาทางวรัญญูที่ยังนั่งเป็นเป้านิ่งอยู่เล็กน้อย " แต่ตอนนั้น คุณตาของลูกถึงไม่ยอมท่าเดียวน่ะ "
อินทัชเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเล็กน้อย เขาเพิ่งเคยได้ยนเรื่อง “การรับลูก หลานบุญธรรม” จากปากของมารดาอย่างเป็นจริงเป็นจังก็วันนี้
"อย่างนั้นเหรอครับ ผมนึกว่า คุณแม่ไม่เห็นด้วยเสียอีก "
"แม่น่ะ บอกท่านแล้วว่า ถ้าจะรับ วรัญญูมาน่ะ ก็ให้เขาเป็นน้องชายลูกน่ะสิ " รุ่งนภาพว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยกถ้วยการแฟที่เด็กรับใช้นำมาเสริฟขึ้นดื่ม เธอชอบกาแฟดำใส่น้ำตาลหนึ่งช้อนเป็นที่สุด คำพูดของพี่สาวบุญธรรมทำให้เจ้าของชื่อถึงกับอ้าปากค้าง

"ครับ??" เจ้าของชื่อเลิกคิ้วสูง

" อ้าว วรัญญู...นี่เธอไม่รู้เรื่องมาก่อนเหรอ? .. เพราะแม่เห็นว่าอีกหน่อยมันจะทำให้เธอวางตัวกับอินทัชลำบาก เห็นว่า ตอนนี้ก็เป็นเลขาของเขาอยู่ไม่ใช่หรือไง? " รุ่งนภาถามอย่างแปลกใจ

"มันก็ใช่นะครับ "
วรัญญูรับคำเบาๆ

...แต่มันคงไม่ลำบากแบบนี้ ถ้าผมไม่ไปยั่วเขาก่อน....  เสียงของชายหนุ่มร่างบางตะโกนอยู่ในใจ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองชายหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเล็กน้อย

"ถ้าเขาเป็นน้องชายผมคง...ลำบาก...กว่านี้ล่ะครับ " ผู้เป็นลูกชายบอก ริมฝีปากได้รูปนั้นหยัดยิ้มเล็กน้อย ดวงตาคมมองข้ามโต้ะมายังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างมีความหมาย
 
..จะเป็นน้า หรือ น้อง ก็ไม่อยากได้ทั้งนั้น..


"ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องขอโทษด้วยก็แล้วกันที่ทำให้เธอลำบาก" วรัญญูว่าพลางตวัดสายตามองหน้า ”หลานชาย”
"วรัญญู แม่เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่ ยังไง อินทัชก็อายุมากกว่าเธอนะ " รุ่งนภาหันมา "ดุ" วรัญญูเสียงเข้ม ถ้อยคำที่ใช้นั้นบ่งบอกได้เลยว่าเธอก็นับเอาวรัญญูเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งเหมือนกัน แต่เด็กคนนี้ก็ยังคงดื้อรั้นอยู่ตลอด หญิงสูงวัยถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยใจที่จะบอกจะพูดแล้ว รุ่งรภาลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหารไป โดยมีเจ้าเคยที่ลุกขึ้นแทบจะในทันทีที่เธอลุกขึ้น เจ้าตูบหัวโตเดินแกว่งหางตามรุ่งนภาไปทันที

"อ่ะ...พี่สาวครับ " ถึงจะพยายามเรียกเอาไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วดวงตาคู่สวยตวัดสายตามองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าแทบจะในทันที
"สมใจเธอหรือยังล่ะ อินทัช" น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง และ สับสนในจุดยืนของตัวเอง เจ้าของชื่อหัวเราะเบาๆ กับท่าทางของวรัญญู
"เลิกพูดจาพิลึกแบบนั้นเถอะ บอกกี่รอบแล้ว ว่ามัน...น่าขำ " อินทัชเองก็ลุกจากโต๊ะอาหารเช่นกัน เขาพยักหน้าเชิงให้วรัญญูเดินตามเขาไปยังห้องรับแขก...ส่วนแม่ของเขานั้นดูเหมือนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานแล้ว แม้ในวันอาทิตย์รุ่งนภาก็ยังจะใช้เวลาช่วงหนึ่งในการตรวจสอบตัวเลขต่างๆในรายงานที่ได้รับมาจากที่บริษัท  
 
"........................ " วรัญญูหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องรับแขกนั่นเอง เขาไม่อยากจะเดินตามอินทัชเข้าไป เหนื่อยใจเกินพอแล้วสำหรับเช้านี้ หากก้าวเข้าไปด้านในไม่รู้จะต้องพาลพบกับคำพูดอะไรอีกบ้าง...
“เข้ามาซิ่....” แต่กระนั้นอินทัชก็ยังคงยืนกรานให้เขาเดินตามเข้าไป ชายหนุ่มร่างเล็ก สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินตามเข้าไปด้านใน  
" ถ้าไม่ให้เรียกว่า เธอ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร ...พี่ชาย หรือทางนี้ก็ไม่เอาเหมือนกันล่ะ..." ชายหนุ่มผมยาวว่าหยุดอยู่ตรงหน้าของอีกฝ่าย
อินทัชนั่งไขว่ห้างท่าทางสบายๆอยู่บนโซฟา สองแขนเท้ากับพนักของโซฟา ดวงตาคำมองหน้าของวรัญญูอย่างพิจารณาติดจะมองอย่างยียวนเสียด้วยซ้ำไป
"ผมจะกลับล่ะ ฝากลาพี่บุญธรรมด้วยก็แล้วกัน" เห็นสายตาแบบนั้นแล้วยิ่งอารมณ์เสีย วรัญญูฮึดฮัดทำท่าจะเดินออกจากห้องรับแขกไป  
" แม่ฉัน คิดจะรับเลี้ยงนายเป็นลูกแต่นายเรียกเขาว่าพี่สาวทางนี้ก็รับไม่ไหวเหมือนกัน...คิดซะบ้าง " เสียงของอินทัชที่ดังขึ้นทำให้วรัญญูหยุดนิ่ง ริมฝีปากบางเม้มแน่น ตอนนี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบจากกำแพงทั้งสองด้าน และที่ว่างที่เขาพอจะยืนได้ก็แคบลงเรื่อยๆ วรัญญูหันไปมองหน้าของคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่โซฟา ตัวใหญ่

"ผมมีแม่ของผม...ชาตินี้มีได้แค่คนเดียวเท่านั้น..." เสียงที่พูดนั้นสั่นเล็กๆ สองมือบางกำแน่นที่ข้างตัวเกร็งเสียจนสั่นไหว

" งั้นก็ให้ความเคารพท่านแบบญาติผู้ใหญ่สิ แม่ของนายเด็กกว่าแม่ของฉันเสียอีก .. “ สองมือแกร่งของอินทัชยกมาประสานเข้าหากันที่หน้าตัก วรัญญูดูสับสด อัดอั้น...มันไม่ใช่ใครเลยที่พาอีกฝ่ายมาอยู่ในสถานะนี้นอกจากคุณตาของเขาเอง...และตัวของเขาเองก็อยากจะยัดเยียดสถานะใหม่ให้อีกฝ่ายอีกเช่นกัน ...

“ได้โปรดอย่าพูดถึงแม่ของผมอีก...ท่านก็ตายไปนานมากแล้ว อายุของท่านไม่มีวันที่จะมากไปกว่านั้นอีกแล้ว” ร่างบางเค้นเสียงสั่นเครือออกมาพูด ดวงตากลมโตมองหน้าของอินทัชด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย มันเจ็บปวดเหลือเกิน
“ได้...ฉํนก็แค่อยากจะให้รู้เอาไว้...ว่านายจะพูดจายังไงกับฉัน มันก็จบที่ฉัน แต่กับแม่ .. ท่านถือมากนะ” ชายหนุ่มจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ " ที่ฉันอยากจะพูดก็คือ...ฉันอยากให้นายเป็นตัวเองจริงๆมากกว่า "
" เป็นผมจริงๆ? ฮ่ะๆ " วรัญญูหัวเราะออกมาเบาๆ “เป็นยังไงล่ะ ช่วยบอกผมทีเถอะครับ ท่านประธาน...ไปยกเลิกเอกสารทุกอย่างเลยจะเป็นไร?” ดวงตาคู่สวยมองหน้าของอีกฝ่าย ดวงตากลมโตนั้นเหมือนเทียนที่ไหววูบไปกับแสงลมพัดผ่าน หากแต่ความจริงแล้วมันคือน้ำตาที่คลอหน่วย
"ถ้าทำแบบนั้นได้ ทีนี้ พวกเราทุกคนคงจะได้ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกัน ให้มันปวดหัว สับสน กะอีกแค่คำสรรพนามใช้เรียกกันแบบนี้หรอก...เพราะยังไงซะเรามันก็เป็นแค่คนแปลกหน้าก็เท่านั้นเอง..."  วรัญญูเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด

" แค่ฉันกับนาย ก็พอแล้วนี่ .. ฉันบอกแล้วนี่ ว่าคิดกับนายยังไง " ดวงตาคมของอินทัชจ้องใบหน้าสวยนั้นนิ่ง วรัญญูเบะปากทันที

".........แต่ด้วยท่าทางของคุณแบบนั้น "วรัญญูหยุดเล็กน้อย ก่อนจะสูดหายใจลึก"ต่อให้เราเป็นคนแปลกหน้ากัน ผมก็ไม่อยากได้อะไรแบบนั้นจากคุณหรอก "
"ฉันจะคอยดู"  ชายหนุ่มว่าพลางผายมือไปที่ประตูทางออก" ไว้เจอกันที่บริษัท "
"แล้วเจอกันที่บริษัท...อินทัช" ชายหนุ่มอ่อนวัยกว่า เอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย นอกจากวรัญญูจะไม่ได้หมาที่เขารักกลับไปแล้ว เขายังถูกทำให้สูญเสียจุดยืน หลักยึด หรืออะไรก็ตามที่ตัวเองพยายามจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกราะกำบังตัวเองมาโดยตลอดให้ทลายลงไปอย่างไม่มีชิ้นดีอีกด้วย...มันคงไม่มีเช้าวันอาทิตย์วันใดที่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้อีกแล้ว

.........................................................

ทันทีที่เสียงรถมินิออกจาบ้านไป รุ่งนภาก็เดินกลับมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือ มีเจ้าเคนเดินตามหลังต้อยๆ ก่อนจะตามมาด้วยเด็กรับใช้ที่เดินเอาน้ำชามาส่งให้กับคุณชายของบ้าน

"ถูกใจเหรอลูก? "
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ " ชายหนุ่มรับเอาถ้วยชาขึ้นมาจิบ แม่ของเขารู้ดีและรับได้ในสิ่งที่เขาเป็น อันที่จริงเธอไม่ค่อยจะสนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะชอบเด็กผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ขอเพียงแค่ว่าเป็นคนดีและอินทัชพอใจเท่านั้นก็น่าจะเพียงพอ  
"หัวรั้นไปหน่อยนะ " คุณแม่นั่งลงที่โซฟา ส่วนเจ้าเคนก็หมอบลงตรงพื้นพรมข้างล่างพวงหางฟูๆนั่นยังสะบัดไปมา เหมือนจะรอฟังว่าทั้งสองจะคุยเรื่องอะไรกัน
"ไม่หรอกครับ เขาแค่ไม่เชื่องเท่านั้นเอง " อินทัชวางถ้วยชาลงกับโต๊ะ
"แล้วคิดจะทำให้เชื่องเหรอ? " ผู้เป็นแม่อย่างรุ่งนภาถามต่อ พลางลูบขนนุ่มๆของเจ้าเคน อินทัชส่ายหน้าเบาๆ
" ผมคงไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกครับ งานที่เมลเบิร์น ผมไม่ไว้ใจให้ใครแตะทั้งนั้น " น้ำเสียงนั้นยืนยันในสิ่งที่ตัวเองพูด รุ่งนภาหรี่ตาลงพิจารณาท่าทีของลูกชาย
" ก็เลยคิดจะสอนงานเลขาให้เป็นผู้บริหารงั้นสิ? " คำพูดตรงๆของผู้เป็นแม่ทำให้ลูกชายยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มของคนที่ “ปลง” แล้ว  

"คุณตาจะยกทุกอย่างให้เขานี่ครับ "


...............................................................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 08-02-2011 15:40:06
เคน~~ น่ารักเนอะ

คุณแม่อินทัช เป็นสาววายแน่ๆเลย อิ อิ

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 08-02-2011 18:45:53
 :เฮ้อ:ฝืนใจ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 08-02-2011 18:54:51
อืม...มันก็น่าสับสนอยู่นะ แม้แต่หมายังแปรพรรค 555+
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 08-02-2011 19:33:02
คุณแม่เด็ดขาดดีจิงๆ เลยนะ
พูดอะไรมาวรัญญูตอบไม่ได้สักคำ
นอกจากรับคำอย่างเดียว
อิอิ

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 08-02-2011 19:50:02
โอ มันเป็นอย่างนี้น่ะเอง
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 08-02-2011 19:59:01
....
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 08-02-2011 20:04:35
สงสารคุณน้่าวรัญญู คงสับสนอย่างหนัก เครียดแทนเลย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 08-02-2011 20:10:31
หายไปนาน คิดถึงน้าหลานคู่นี้จริงๆ
คุณแม่แลดูปลงๆ กะชีวิตลูกชายไม่น้อย 555

รอดูว่าเค้าจะจัดการยังไงกะเด็กดื้อ ที่ไม่ค่อยจะเชื่อง...
ขอบใจมากจ้า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 08-02-2011 21:43:35
สงสารนายเอกเราจัง แม้แต่หมายังแปร
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: dolphins ที่ 08-02-2011 22:02:35
หายไปนาน พรุ่งนี้ขออีกตอนได้ป่ะ  :call: :call:

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 09-02-2011 00:20:02
เหมือนจะสงสารรัน ที่คงวางตัวลำบาก แต่เหมือนเราก็แอบชอบอยู่ลึกๆ 55

หายหน้าไปนาน มาอัพอีกบ่อยๆนะค้าาา
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 09-02-2011 00:34:58
สงสารยูอ่ะ
เคน เหมือนเป็น"ครอบครัว" ที่เหลืออยู่แค่ตัวเดียว
แต่ก็โดนแย่งไปดื้อๆซะงั้น
ถึงจะบอกให้มาเยี่ยมก็ได้เหอะ นะ
แต่ความรู้สึกว่า สูญเสียให้คนอื่นไปแล้ว มันยังเหมือนเดิมอยู่ดี :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 09-02-2011 21:11:26
โอ้ยยยย

สงสารรันจังเลย
คงสับสนน่าดู

เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 09-02-2011 21:45:30
สับสน งงค่ะ!!
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: LEKU_W ที่ 09-02-2011 22:32:52
เจ้าเคนทำแบบนี้ได้ยังไง แปรพรรคไปได้ไงอ่ะ
แต่อ่ะ คุณแม่รับได้ โอะ เริ่ด

แต่ๆๆๆๆ สงสารวรัญญูจัง ดูสับสนมากๆเลยอ่ะ น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 11-02-2011 02:15:39
เจ้าเคนช่วยเป็นกามเทพกลายๆแน่เลย

สงสัยจะรู้ว่า ใครที่คู่ควรกับรัน  :-[

แต่เป็นรันก็น่าอึดอัดใจนะ วางตัวยากแท้ๆ

บวกไปอีก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 11-02-2011 17:40:34
คุณตาคิดอะไรแปลกๆดีนะ อันที่จริงแปลกกันทั้งบ้านเลยละ

รอชมและเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน$
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-02-2011 07:24:01
มาตามอ่านด้วยคนค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะพีจังกับคุณkuruma
สงสารรันอ่ะ อึดอัดแทน ไม่เข้าใจการกระทำของคุณตาหรือว่าอยากจับคู่่ให้หลาน(ถ้าจริงก็จะแปลกไปแล้ว บ้านนี้ดูจิตทั้งบ้าน)
ปล. กำลังอ่านซีรี่ส์อยู่ คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆถึงจะตามทัน :3123:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: waan_warunee ที่ 04-03-2011 17:16:16
ยังไม่มาต่อเลยหรอ? เฉา ๆ ๆ เลย รออยู่นะค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Iariyo ที่ 06-03-2011 00:18:21
มาอัพเต๊อะน้าค่าชอบ เรื่องนี้มากๆๆเลยค่ะคุนน้ากะคุนหลานกินกันไม่ลงเลย
รอๆๆน้า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 06-03-2011 01:01:16



บวกให้ค่ะ ขอนักอ่านทุกท่าน อดใจรอ พีจังต้องขออภัยที่โพสต์ช้าค่ะ
หลากอารมณ์ หลายเรื่องเหลือเกินช่วงนี้
แล้วจะกลับมาต่อในเร็ววันแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 06-03-2011 16:38:11
คุณน้าน่ารักแบบนี้คงต้องลงมือทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะทัชเอ้ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 8 8/2/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 23-03-2011 15:29:02
มาดันจ้า
มาต่อได้ละนะ
หาเกือบไม่เจอ
อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-03-2011 01:24:16
@@@Writer's Talk@@@
 :pig4:ขอบคุณที่ยังมีคนคิดถึงเรืองนี้ถึงขนาดมาช่วยดันค่ะ
พอดีว่าที่ผ่านมามีเรื่องหนักใจหลายเรื่อง...และ ไม่ทราบว่าเคยบอกไว้แล้วหรือเปล่า
ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นเมื่อ หลายปีก่อน...ราวปี 49ได้ ทำให้ต้องมีการปรับแก้
ตัวบทในหลายส่วนและใช้เวลาในการแก้อยูไม่น้อย ทำให้อัพช้า ต้องขออภัยนะคะ
ถ้าผู้อ่านเข้ามาอ่านแล้วคิดว่า สำนวน สำเนียง ไม่ค่อยเหมือน kuruma&p.k.a
ในหอมกลิ่นกาแฟซีรีย์ฯ นั่นเป็นเพราะ เวลาผ่านไป เราสองคนก็โตขึ้นสำนวนสำเนียงอ่านเปลี่ยนไป
แต่ก็อยากให้คนอ่านได้สนุกกับเรื่องที่เราเขียนเหมือนเดิมค่ะ
ก็อยากให้ทราบไว้ ถึงข้อนี้ด้วยค่ะ m(_ _)m

เอาล่ะ เราไปตามเรื่อง น้าหลานคู่นี้กันต่อดีกว่า

////////////////////////////////////////////////


" ก็เลยคิดจะสอนงานเลขาให้เป็นผู้บริหารงั้นสิ? " คำพูดตรงๆของผู้เป็นแม่ทำให้ลูกชายยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มของคนที่ “ปลง” แล้ว 

"คุณตาจะยกทุกอย่างให้เขานี่ครับ "

.........................................

เสียงรถมินิคูเปอร์ที่แล่นเข้ามาจอดก่อนได้ยินเสียงประตูรถกระแทกเข้าดังปัง ทำให้ชายชราที่ยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ไฟฟ้าในห้องทำงานสนใจหันไปมองผ่านกรอบหน้าต่าง ดวงตาที่ยังคงเฉียบคมแม้วัยจะล่วงเลยไปมองเห็นภาพของเด็กหนุ่มที่เขาตั้งใจรับมาเป็นลูกบุญธรรมเฝ้ามองใบหน้าสวยได้รูปที่ไม่ว่าจะพิศมองเมื่อใดก็รู้สึกว่าช่างละม้ายคล้ายกับคนรักในอดีตเสียเหลือเกิน  วรัญญูยกมือขึ้นขยี้ตาแรงๆจนทั้งใบหน้าและดวงตานั้นเหมือนจะแดงก่ำก่อนเงยมองขึ้นไปยังด้านบน สีหน้าและแววตานั้นคาดเดาไม่ถูกว่าอีกฝายกำลังมองไปยังที่ใด แต่เท่าที่สังเกตได้คงบอกได้เพียงว่า คงกำลังพยายามกล้ำกลืนอะไรบางอย่างลงไปไม่ให้ไหลรินลงมา...และบอกได้เลยว่า วันนี้ คงไม่ใช่เช้าวันอาทิตย์ที่สดใสสำหรับวรัญญูเป็นแน่  ภูธรเห็นร่างเพรียวของลูกบูญธรรมผละออกจากประตูรถที่ใช้พิงเป็นหลักเมื่อครู่ เดินหายเข้ามาทางประตูบ้านที่อยู่อีกด้าน ไม่นานนักได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเร็วๆมาหยุดอยู่ที่หน้าประตู ไม่ต้องบอกเลยว่าเป็นใคร

"เข้ามาซิ่ รัญ " เสียงทุ้มของชายวัยชราดังขึ้นเจ้าของชื่อเลือนบานประตูไม้ประดับด้วยกระจกลายสวยแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“ขอโทษที่ต้องรบกวนแต่เช้าแบบนี้ครับ คุณพ่อ" ชายหนุ่มผมยาวว่าพลางยกมือไหว้ 
"เป็นอะไรไปอีกล่ะ หน้าตาอย่างกับโกรธใครมา" คำถามที่ดังจากปากของอีกฝ่ายนั้นทำให้วรัญญูต้องกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ ชายหนุ่มร่างบางตัดสินใจเดินไปนั่งอยู่ตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะอ่านหนังสือฝั่งตรงข้ามกับชายชรา
"ผม...อาจจะไม่เหมาะที่จะอยู่ที่บ้านนี้ก็ได้" เสียงของวรัญญูดังขึ้นแผ่วเบา คำพูดของวรัญญูทำให้ ผู้เป็นพ่อบุญธรรมต้องหันไปมองด้วยความประหลาดใจ
"เป็นอะไร ไป"
" วันนี้ผมไปที่บ้านของ พี่บุญธรรมมา ...เพราะ อินทัชเขามาเอาลูกหมาของผมไปน่ะครับ" ชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่อง
"อ้อ...เจ้าลูกหมาตัวนั้น ที่อยู่ที่ร้านน่ะรึ" เสียงภูธรรับคำพลางพยักหน้าเล็กน้อย
“เพิ่งรู้นะว่าเจ้าทัชมันรักหมาด้วย ฮ่ะๆ” ชายชราว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
"ก็ไม่เชิงว่ามาเอาไปหรอกครับ เขามาซื้อไปเพราะเด็กที่ร้านผมเขาขายให้...แต่ผมไม่อยากขาย ผมเลยว่าจะไปเอาคืนแต่ดูเหมือนว่าพี่บุญธรรมเขาจะอยากเอาได้เอาไว้เอง" วรัญญูยังคงเล่าต่อมือเรียววางอยู่บนหน้าตักนั้นกำแน่น
 
"อ้อ... ยัยรุ่งน่ะเหรอรายนั้นเขาก็รักสัตว์นี่นะ ก็ดีนะเจ้าเคนนั่นจะได้มีบ้านดีๆอยู่ไง"  ดวงตาคู่สวยของวรัญญูเหลือบมองใบหน้าที่ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มของชายชรา
“ผมไปที่บ้านนั้นก็อยากจะได้หมาของผมคืน แต่ในเมือพี่บุญธรรม ท่านไม่ให้ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง ...อาจจะต้องปล่อยไปยังไงซะก็ยังพอไปเล่นกับมันด้วยได้ แต่...ดูเหมือนว่าผมจะทำให้พี่บุญธรรมโกรธน่ะครับ ดูจะไม่ชอบใจที่ผมเรียกลูกชายของเขาว่า "หลาน" และก็คงจะไม่ชอบใจเอามากๆที่ผมเรียกเธอว่า "พี่สาว" ลูกชายเขาก็โกรธด้วยเหมือนกัน"   วรัญญูเล่าเรื่องเสียงเบา

"ฮ่ะๆ...." แต่ชายชรากลับหัวเราะ "เรื่องแค่นี้เอง จะไปสนใจทำไมก็เจ้าเป็นลูกฉัน...รุ่งนภาก็ต้องเป็นพี่สาวเจ้าน่ะซิ่" เสาหลักของครอบครัวอย่างภูธรหัวเราะเสียงดังดูท่าทางจะไม่ได้คิดอะไรมากนักแต่ดวงตาคมที่หาได้อ่อนแสงไปตามวันเวลากลับมองหน้าของวรัญญูนิ่ง
“อีกอย่าง การที่พ่อรับเจ้าเข้ามาเป็นลูกเนี่ยเพราะว่าเอ็นดูเจ้านะ ตัวคนเดียวไม่มีใคร เป็นหลานคนเดียวของผู้หญิงที่พ่อเคยรัก แม่พรเขาก็คงดีใจที่หลานได้มีอนาคต พ่อรู้ว่าเจ้าทำงานนนี้ได้แล้วจำได้ใช่ไหมว่าหน้าที่ของเจ้าที่พ่อไหว้วานให้เจ้าช่วยทำ คือช่วยทำให้ไอ้เจ้าทัชมันหันมาสนใจเรื่องในบ้านบ้าง ไม่ใช่อะไรๆก็ทำแต่งานหวงแต่ธุรกิจนอกบ้าน...พ่อก็รู้ว่าตอนมันยังเด็กก็สอนมันแต่เรื่องธุรกิจ ไม่ได้คิดเลยว่าพอแก่ตัวแล้วไม่มีลูกหลานมาคอยดูแลเพราะมันมัวแต่ทำธุรกิจจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตนี่มัน....ทำให้รู้สึกเศร้าแบบนี้”
ชายชราว่าพลางยกมือขึ้นทาบอก เป็นครั้งที่สองที่วรัญญูได้เห็นท่าทีอ่อนแรงของภูธร ครั้งแรกคือตอนที่ภูธรบอกว่าจะรับเขาเข้ามาเป็นลูกบุญธรรมของที่บ้านนี้นั่นล่ะ ....ความจริงแล้วเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพราะความเหงาของชายชราคนนี้....มันเริ่มต้นจากจุดนี้เท่านั้น
 
จริงอย่างที่ภูธรว่า วรัญญูรู้ดีว่าเขาเพียงมีหน้าที่ที่จะทำยังไงก็ได้กับเงินก้อนใหญ่ที่พ่อบุญธรรมของเขาให้มาทุกเดือน จะเอาไปใช้จ่ายบ้าบอแค่ไหนก็ได้ตามใจ เพื่อที่จะให้คนที่รักเงิน รักงาน และผลประโยชน์ของบริษัทคนนั้น หันกลับมาสนใจเรื่องในบ้านในครอบครัวให้ได้...มันก็เพียงเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าแค่การแสดงละครตบตาทำตัวเป็นพวกบ้าเงินใช้เงินเป็นเบี้ยอย่างที่ทำอยูตอนนี้มันจะย้อนกลับมาทำให้เขาทุกข์ใจได้ขนาดนี้...สูญเสียตัวตนไปเหมือนจะกู่ไม่กลับ...การมีเงินท่วมหัวบางครั้งมันก็ทำให้คนเขวไปได้ไม่น้อยและเขาเองก็รู้สึกเขวไปมากอยู่เหมือนกัน แล้วยังต้องทนกับถ้อยคำที่บางครั้งก็เชือดเฉือนใจอยู่ไม่น้อยของอินทัชแบบนี้อีกวรัญญูถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"ขอโทษครับ คุณพ่อ..ผม... เรื่องในตอนนี้มันมากเหลือเกิน ผมชักจะเริ่มวางตัวไม่ถูก ...แล้วยังเรื่องงานที่บริษัทอีก...ผมไม่คิดว่าผมเหมาะกับงานและชีวิตแบบนี้" วรัญญูพูดกับอีกฝ่ายราวกับจะขอร้องทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่พ่อบุญธรรมให้เขามานั้นมันมากมายเกินกว่าจะทดแทนได้หมด
"วรัญญู....เจ้าคิดว่าฉันดูคนไม่เป็นหรือยังไง" เสียงทุ้มนั่นกล่าวด้วยท่าทีจริงจังเช่นเดียวกับดวงตาภายใต้กรอบแว่นเล็กๆที่มองมาทำให้วรัญญูต้องนิ่งฟัง
"ฉันรู้ว่าเจ้ารักงานเก่าของเจ้ามาก...แต่เชื่อเถอะว่าทุกอย่างมันจะดีเอง"มือของชายสูงวัยเลื่อนมาสัมผัสเบาๆที่เส้นผมนิ่มมือ  "จำไว้นะ รัญ ถึงเจ้าจะไม่ใช่สายเลือด โดยตรงของครอบครัวนี้ แต่ ทั้ง ฉันและรุ่งนภาลูกของฉัน ก็รักเจ้าเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง ที่รุ่งนภาเขาจะเข้มงวดไปซักหน่อยแต่นั่นก็เพราะเขาหวังดี ส่วนเจ้าหลานบ้านั่นมันก็ดื้อ ...ไม่ต่างอะไรจากเจ้าเท่าไหร่หรอก คุยกันดีๆอะไรพอจะผ่อนนิดหย่อนหน่อยก็ต้องไปตกลงกันเอง...” ชายชราว่าพลางถอนหายใจยาว
“นี่ตื่นมาแตเช้า ยังไม่ได้กาแฟซักแก้ว...ไป...ไปกินข้าวกันดีกว่า...” ว่าแล้วก็กวักมือเรียกให้วรัญญูมาช่วยเข็นรถเข็นนานๆครั้งภูธรจึงจะให้ใครช่วยเข็นรถเข็นให้ซักครั้ง...เช้านี้คงรู้สึกเหนื่อยมากก็เป็นได้

.........................................................

เช้าวันจันทร์อินทัชรีบเข้าบริษัทแต่เช้าเพราะเขาต้องเตรียมเคลียร์งานเพื่อประชุมทางไกลกับทางเมลเบิร์น กลับมาเมืองไทยคราวนี้เขาอยู่ที่นี่นานมากกว่าที่คิด ทำให้อดเป็นห่วงงานทางนั้นที่เขาเป็นคนไปบุกเบิกเอาไว้ไม่ได้ ดวงตาคมนั่งมองเอกสารไปพลาง คิดเรื่องของ “ตัวป่วน” ที่เข้ามาป่วนจิตใจของเขาไปพลางจะทำอย่างไรให้พูดจากันได้ดีๆซักครั้งบ้างไหม เขาอดคิดไม่ได้ ปากกาที่อยูบนปลายนิ้วขยับหมุนไปมา เขามักจะหมุนปากกาเล่นแบบนี้เสมอเมื่อใช้ความคิด

"อรุณสวัสดิ์ครับ"

เสียงของชายหนุ่มร่างบางเดินเข้ามาพร้อมกับเอการสรุปการประชุมเมื่อวันก่อนวรัญญูเดินเอาเข้าไปวางไว้บนโต๊ะของประธานบริษัทหนุ่ม

"ตารางงานวันนี้ ตอน 11 โมงตรง ประธานจากบริษัท.... จะมาขอเข้าพบครับ เรื่องการต่อสัญญาร่วม ส่วนช่วงบ่ายนั้นผมจะนำเอกสารที่จำเป็นจะต้องได้รับการเซ็นต์อนุมัติมาให้ครับ....จะรับกาแฟไหมครับ" เลขานุการหนุ่มพูดยาวเหยียด ดวงตาภายใต้กรอบแว่นนั้นไร้ความรู้สึก ผิดไปจากเมื่อวานที่ดูจะเต็มไปด้วยอารมณ์และความสับสน

" อืม .. ช่วยบอกให้ฝ่ายเทคนิค เตรียมการประชุมทางไกลด้วย หลังเที่ยง " อินทัชเปิดเอกสารอ่านดู " เช็คอีเมลด้วยล่ะ เมลเบิร์นส่งวาระการประชุมมาทางเมล" ชายหนุ่มบอกให้อีกฝ่ายไปเช็คอีเมลทั้งที่จริงเขาเช็คส่วนของตัวเองแล้วเรียบร้อยแค่อยากให้อีกฝ่ายได้มีเวลาเตรียมตัวและจัดหาข้อมูลอะไรที่อีกฝ่ายคิดว่าเขาควรจะมีเพิ่มมาให้ดูก็เท่านั้น

"อ่ะ ครับ..ทราบแล้วครับ" วรัญญูรับครับพลางจดทุกอย่างลงในสมุดบันทึก แล้วเดินไปที่โต๊ะทำงาน กดโทรศัพท์สายตรงไปยังฝ่ายเทคนิคของบริษัททันที แม้จะได้ยินเสียงโอดครวญมาเหมือนกันว่ายังไม่ถึงเวลาเข้างานดีแต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของเจ้านายทางนั้นก็ไม่มีสิทธิ์จะบ่นอะไรมากนัก

"เอ่อ...." ใบหน้าสวยของวรัญญูเงยหน้าขึ้นมาจากจอคอมพิวเตอร์ขณะรอให้หน้าจอนั้นโหลดข้อมูลอีเมลล์ขึ้นมา
"แล้วไม่ทราบว่าจะรับกาแฟไหมครับ... อาหารเช้า...ทานมาหรือยัง"
"กาแฟดำแค่นั้นล่ะ .. ตอนประชุมจะให้ช่างเทคนิคอัดไว้ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องเข้า " เสียงนั้นดูเรียบเฉยทั้งๆที่อินทัชเองก็เป็นห่วงอีกฝ่ายในเรื่องการทำงานอยู่ไม่น้อย
"ไม่ครับ พร้อม...พร้อมครับ" วรัญญูรับคำพลางกดปริ๊นท์เอกสารที่เพิ่งจะเข้ามาทางอีเมลล์เอาไปยื่นให้กับอีกฝ่าย “เดี๋ยวผมไปเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวห้องมาให้นะครับ” น้าบุญธรรมในหน้าที่ของเลขานุการหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เมือเห็นอีกฝ่ายยังคงมีท่าทีเรียบเฉยเย็นชา...ดูท่าจะไม่พอใจเรื่องที่พูดกันเมื่อวานอยู่จริงๆ "กาแฟดำ รอซักครู่นะครับ" ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมกับกาแฟดำหนึ่งแก้วก่อนจะทำท่าจะออกจากห้องทำงานของอีกฝ่ายแต่อินทัชกลับเรียกเอาไว้
"คุณสุรีรัตน์ยังไม่มาสอนงานอีกหรือ "
"อ่ะ..ยังครับ" วรัญญูหันไปมองหน้าของอีกฝ่าย  คำพูดนั้นเหมือนมีเจตนาตำหนิ...อย่างน้อยวรัญญูก็จับใจความได้ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้นคิ้วเรียวเลิกขึ้นสูงอย่างแปลกใจก่อนจะหันกลับมา
"ผมทำอะไรผิดอีกหรือเปล่าครับ"

.....ไหนๆช่วงนี้ก็ทำดีอะไรไม่ขึ้นตลอดนี่นา...
….อ้อมค้อมไปก็เท่านั้น....


ภายในใจของวรัญญู แอบคิดแบบนั้น

"ถ้ายังไม่คล่องกับงาน ก็ยืมตัวคุณสุรีรัตน์ต่อดีไหม? “
เห็นอินทัชถามพลางมองหน้าของเขานิ่งแบบนั้นยิ่งไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร ...ในตอนนี้เขาทำงานห่วยมากขนาดที่ต้องกลับไปฝึกงานกับคุณสุรีรัตน์ใหม่ทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?

"ถ้าคุณคิดว่านั่นเป็นการเหมาะสมกับผมแล้ว...ผมก็คงต้องปฏิบัติตามครับ" วรัญญูตอบดวงตาคู่สวยภายใต้กรอบแว่นจ้องตอบ
" วรัญญู คุณกำลังประชดผมอยู่นะ  " เสียงทุ้มเข้มขึ้นมาเล็กน้อย
"เปล่าครับ...ผมเพียงแต่คิดว่า หากว่าคุณอินทัชเห็นว่าเป็นการสมควร คุณซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา ก็มีสิทธิ์ที่จะออกคำสั่งครับ..."วรัญญูกล่าวด้วยเสียงเรียบๆใบหน้าสวยนั้นไม่แสดงออกแต่อย่างใด

...จะสั่งอะไรก็สั่งมาเถอะ ไม่เคยทำให้พอใจได้อยู่แล้วนี่...

" ผมเป็นห่วงคุณก็เท่านั้น " ชายหนุ่มยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
"ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ และผมรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากที่กรุณาให้ความสนใจ...ถ้าเป็นอย่างนั้น หลังจากการประชุมในวันนี้แล้วผมจะติดต่อให้คุณสุรีรัตน์มาสอนงานให้ผมตามที่คุณต้องการก็แล้วกันนะครับ" รอยยิ้มอย่างที่ยากจะคาดเดาความหมายปรากฏขึ้นบนใบหน้าก่อนที่มือเรียวจะดึงเอาสมุดจดขึ้นมาจดอีกครั้ง คำตอบของวรัญญูที่เหมือนจะเมินเฉยต่อสิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นยิ่งทำให้อินทัชหงุดหงิด

" ไม่ต้อง...” ชายหนุมยกมือขึ้นเชิงห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเดินออกไปจากห้อง
“ ถ้าคุณคิดว่าเก่งแล้ว ก็ถือว่าแตกฉานงานเลขาแล้ว " ดวงตาคมของอินทัชสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ทำไมอีกฝ่ายถึงไมเข้าใจนะว่าคำพูดของเขานั้นจะกลายเป็นประโยชน์ต่อตัวของอีกฝ่ายบ้างไม่มากก็น้อย  ว่าพลางยกหูโทรศัพท์ขึ้น  "บอกมาซิ่ ว่าอยากศึกษางานด้านไหนต่อ? การตลาดไหม? "
"นั่นก็แล้วแต่คุณจะกรุณาครับ"  เลขาฯหนุ่มยังคงประชดประชันเจ้านายของตัวเองต่อไป นั่นทำให้อินทัชกดโทรศัพท์ไปที่แผนกการตลาดทันที
"คุณวรวุฒิ พรุ่งนี้ผมจะส่งคนเข้าไปศึกษางานด้านการตลาดนะ ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ .. ใช่ วรัญญูนั่นแหละ .. " ระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้น วรัญญูยืนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ไม่ยอมขยับไปไหน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกหงุดหงิด ...แต่เขาจะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อ เขานั้นก็ดูไม่ดีในสายตาของอีกฝ่ายมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้ก็คงรำคาญเลยจะส่งเขาไปให้พ้นๆหูพ้นๆตาก็เท่านั้น
"พอใจแล้วใช่ไหม? " อินทัชว่าหลังจากวางหูโทรศัพท์
"ผมไม่ได้ประชดคุณ...ผมบอกคุณแล้ว และทั้งหมด มันก็เพื่อความพอใจของคุณเท่านั้น"
" ทั้งๆที่ความจริงนายก็น่าจะรู้ได้เองบ้างนะว่า ฉันออกคำสังไปเพราะอะไร...ถ้านายยังจะคิดว่าฉันทำไปเพราะต้องการจะแกล้งแล้วมาทำหน้าอึดอัดเสียเหลือเกินเวลาอยู่ต่อหน้าฉัน ถ้านายคิดแบบนั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด "อินทัชตบโต๊ะดังปัง
"ถ้าคุณไม่อยากเห็นผมอึดอัด......." ชายหนุ่มผมยาวพูด ก่อนที่เสียงนั้นจะขาดหายไป

....ก็ช่วยไปบอกคุณตาของคุณให้เซ็นต์ชื่อ ยกเลิกการเอาผมเป็นลูกบุญธรรมทีเถอะ....

อินทัชหรือจะรู้ถึงคำพูดที่ขาดหายไปของคนตรงหน้า ดวงตาคมอ่อนแสงลงคำพูดที่ขาดหายไปนั้นเขาเหมือนจะเข้าใจได้โดยที่วรัญญูอาจจะไมต้องเอ่ยปากซ้ำ

... จะบอกว่า .. ให้กลับเมลเบิร์นไปงั้นเหรอ?...

"ให้ฉันเคลียร์งานที่ต้องทำที่นี่...อีกไม่นานหรอก นายคงได้หายอึดอัดเสียที " ชายหนุ่มเอาเอกสารมาเปิดพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองไปยังงานที่อยู่ตรงหน้าเสีย คำพูดของเขาทำให้ อีกฝ่ายขมวดคิ้ว

...หมายความว่ายังไง? ...

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป ชายหนุ่มโค้งให้กับอีกฝ่ายก่อนจะกลับไปทำงานของตนต่อ


งานตลอดทั้งวันผ่านไปได้อย่างราบรื่น ทั้งเรื่องของการประชุมทางไกลของประธานบริษัท เอกสารที่วรัญญูเตรียมมาให้ประกอบการประชุมนั้น กระชับสั้นและเข้าใจง่าย ไม่แน่ใจว่าที่ทั้งสั้นและง่ายเพราะทักษะที่ช่วงนี้ได้ฝึกมาหรือเป็นเพราะประชดไม่อยากจะสื่อสารอะไรกับเจ้านายแม้ทางตัวอักษรหรือเปล่า  หลังจากวันนั้นทั้งคู่ต่างก็แยกกันอยู่โดยอินทัชนั่งทำงานอยู่ในห้องและวรัญญูที่ลงไปใช้เวลาส่วนใหญ่ทำงานกับฝ่ายการตลาดที่อยู่ข้างล่าง โดยที่ต่างก็ยังมีความขุ่นมัวคงอยู่ในความรู้สึกเอาไว้อย่างนั้น


....................................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 30-03-2011 01:38:04
ทำไมไม่เปิดอกพูดละคร้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 30-03-2011 03:22:57
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 30-03-2011 04:26:24
 :เฮ้อ: อ่านแล้วอึดอัดแทน

อ้ากกกกกกกกกกก


อินจัด
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 30-03-2011 05:10:29
เริ่มรำคาญอิคู่นี้ :เฮ้อ:
ประชดกันทั้งปีอยู่นั่นล่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 30-03-2011 06:52:42
คิดแทนกันและกันได้ดีม๊าก >.<
บวกให้ค่า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 30-03-2011 08:20:12
ถูกใจนะคงถูกใจอินทัส แต่กับวรัญ นี่สิ เพราะคิดไปไกลถึงขนานนั้นแล้ว
ความหวังดี แต่การกระทำที่แสดงออก มันทำให้อีกฝ่ายตั้งรับ เหมือนจะออกศึกซะงั้น
ถ้าออกศึก คงรับศึกหนักแน่ เพราะอีกฝ่ายกองหนุนเพียบ  :เฮ้อ:
+1 ให้คนละแต้ม พร้อมลุ้นว่า เมื่อไหร่คุณน้า จะมาเป็นภรรยเมีย  :z2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 30-03-2011 08:40:42
อึดอัดแทนจริง ๆ

 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-03-2011 08:48:50
สงสารน้องรัญ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 30-03-2011 09:08:43
ที่จริงแล้วเมื่อคืนยังคุยกับพีจังว่า เรื่องนี้เราเขียนกันมากี่ปีแล้วนะ ก็เพิ่งจะจำกันได้เนี่ยล่ะค่ะว่าเขียนกันในช่วงที่เค้ามีงานพืชสวนโลก..อ่า ก็ปี 49 สินะ..(แล้วก็เขียนจบไปกันนานมากกกกแล้ว ถึงปัดฝุ่นมาทำใหม่นี่แหละค่ะ)
อย่างที่พีจังว่าล่ะค่ะ ถ้ามาจนถึงปีนี้ ก็นับเวลาได้4-5ปีแล้ว สำนวนต่างๆนานา ก็ย่อมแตกต่างจากหอมกลิ่นกาแฟ Series เป็นธรรมดานะคะ

ยังไงก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ยังจำเรื่องนี้ได้เพราะไม่ได้อัพนานมากแล้วนะคะ^^

แปะน้องรัน

(http://img.photobucket.com/albums/v328/Izumi-chan/kamen%20rider%20W%20eps%2016/sudamasaki.jpg)
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 30-03-2011 09:48:58
เมื่อไหร่จะพูดกันดีๆได้ครับ  มีอะไรก็พูดกันตรงๆมัวแต่อ้อมไปอ้อมมา  เรื่องมันเลยไปกันใหญ่
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 30-03-2011 13:39:06
โฮๆๆๆ

คิดกันไปคนละทางเลยอ่ะ

แล้วจะเข้าใจกันตอนไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 30-03-2011 14:17:11
บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อยใจ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-03-2011 14:56:07
อิฉันก็อึดอัดไปกับรัญและอินทัชเหมือนกาน
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH 9 30/3/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kazhiki ที่ 30-03-2011 15:44:01
ง่ะ คิดอะไรก็พูดออกไปเถอะจ้า จะดีเอง  คนอ่านเชียร์อยู่
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 24-04-2011 20:14:49
ประกาศค่า ประกาศ

 :pig4: ก่อนอื่นขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อาจจะแวะเวียนเข้ามาอ่าน
และคอยเมียงมองว่าเมื่อไรพีจังจะได้ฤกษ์อัพเรื่องนี้เสียที ...
ต้องออกปากก่อนว่า ขอโทษที่อาจจะต้องทำให้ทุกท่านรอไปอีกซักพัก
ตอนนี้สภาพจิตใจของพีจังเรียกได้ว่าโหวงเหวงเหลือเกิน

เพราะหลังจากสองปีกับการเฝ้าไข้ท่านยายอย่างใกล้ชิด สลับกันป่วยกับยายต้องให้ยายหาข้าวให้กินตอนขาหักบ้าง
เราหาข้าวให้ยายทานบ้าง...คุณยายที่รักของเราเพิ่งจากไปอย่างสงบเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา
จากเดิมที่ก่อนหน้านี้รู้สึก....แย่มากๆ... ในตอนนี้รู้สึกว่างเปล่ามาก จนยังไม่อาจจะมาแก้นิยายมาอัพให้ทุกท่านอ่านได้
ขอเวลาให้พีจังซักหน่อยนะคะ .... แล้วจะกลับมาต่อให้ทุกๆคนได้อ่านกันต่อแน่นอนค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

p.k.a
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 24-04-2011 20:44:20
ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

ยังไงก่อนท่านจากไปเราก็ได้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-04-2011 20:52:57
โอ..น้องพีขา :กอด1:น้องพี ขอแสดงความเสียใจกับน้องพีด้วยนะจ๊ะ ถึงเวลาที่คุณยายท่านจะได้พักผ่อนแล้วล่ะค่ะน้องพี
พี่เข้าใจความรู้สึกนี้ดีจ้ะ ยิ่งเราได้ดูแลกันอย่างใกล้ชิด เป็นผู้ที่เราสนิทใจในทุกเรื่องด้วย เป็นปีสองปีพี่ก็ยังร้องไห้ทุกทีที่เห็นร่องรอยของแม่
ช่วงนี้ถ้ามีโอกาส น้องพีก็หมั่นทำบุญสะสมความดีอุทิศให้ท่านก็แล้วกันนะจ๊ะ
เรื่องนิยายไว้สบายใจเมื่อไรค่อยมาต่อค่ะ ขอใช้ภาษากาย:กอด1:อีกทีค่ะ เพื่อให้กำลังใจน้องพี
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 24-04-2011 21:20:58
สู้ๆ เพราะเราก็เสียยายที่เลี้ยงดูเราตั้งแต่เด็กแล้วเหมือนกัน

แม้จะผ่านมาสามปีแล้ว แต่ก็ยังคิดถึงอยู่ แต่ไม่เสียใจแล้ว

เพราะเราทำทุกอย่างให้ยายดีที่สุดแล้วดูแลจนถึงวันที่ยายจากไป
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 29-04-2011 03:17:13
เสียใจด้วยนะค่ะ

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: babyfaibossy ที่ 29-04-2011 04:15:07
ต่างคนก็ต่างคิดไปเอง


 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (ประกาศ 24/4/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 29-04-2011 21:48:04
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ นะครับ พีจัง  ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง ความเปลี่ยนแปลงเป็นปกติของโลก
ถึงท่านจะไม่ได้อยู่กับเรา แต่ความผูกพัน ความรัก ที่เรามีให้ท่านไม่ได้เลือนหายไปจากความทรงจำ แม้จะนานเท่าใดก็ตาม  :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 30-05-2011 01:47:42
@@@Writer's Talk@@@
กลับมาแล้วค่ะ... :pig4:
ขอบคุณทุกความห่วงใย
ขอบคุณที่ยังคิดถึงกัน...
เพื่อไม่ให้เสียเวลา วันนี้ แอบจัดเต็ม ยาวนิดนึงนะคะ!

________________________________



“เด็กบ้าเอ้ย...ทำมาประชดประชัน...ถ้าคิดว่าเก่งนักจะโรเททไปทำงานอื่นให้เข็ด.....”

อินทัชบ่นพึมพำขณะเดินไปยังรถยนต์ของตัวเองที่จอดไว้ที่ลานจอดรถของบริษัท วันนี้เขาบอกคนรถไว้แล้วว่าไม่ต้องเอารถบริษัทมารับมาส่ง ช่วงเวลาหลังเลิกงานแบบนี้บางทีเขาก็อยากจะอยู่คนเดียว...กับความคิดของตัวเองบ้าง

...คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ...


ทั้งที่ตั้งใจว่าจะอยู่กับความคิดของตัวเอง “คนเดียว” แต่ก็ทำไม่ได้แบบนั้นในเมื่อทุกความคิดของเขานั้นมีแต่ใบหน้าที่มองมายามประชดประชันของเด็กอวดเก่งกับคำพูดนั้น...

...นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยใช่ไหม...
...ถึงได้อยากให้ฉันไปไกลๆขนาดนั้น....


.......................

เมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนในสังคมของเหล่านักตระเวณราตรีแล้วอาจจะไม่ใช่สถานที่ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางอะไรมากนัก พวกที่ถูกอกถูกใจชอบบรรยากาศก็ยังคงยึดอยู่กับสถานที่เดิมๆที่ตนเองเคยไป อินทัชเองก็เป็นผู้หนึ่งในจำนวนคนพวกนั้น ร่างสูงโปร่งถอดเสื้อสูทและเนคไทออกทิ้งเอาไว้ในรถ กระดุมเสื้อถูกปลดออกเล็กน้อย แต่แม้จะคลายความอึดอัดกายได้แต่ในใจนั้นกลับ...ยิ่งถูกบีบรัดแน่นมากกว่าเดิม เมื่อหลับตาลงแล้วยังเห็นสายตาคู่นั้นของวรัญญูอยู่ร่ำไป
 
…ไม่ว่าจะอยากได้มาขนาดไหน...
...แต่ในเมื่อมันทำไม่ได้....
...บางทีก็ต้องปล่อยไปซิ่นะ....


ดวงตาคมของอินทัชจับจ้องอยู่ที่ก้นแก้ว ของเหลวใสแต่มีอานุภาพมากมายนั้นไม่ได้ช่วยให้เขาปล่อยละจากสิ่งที่รบกวนจิตใจเขาอยู่ได้เลย ชายหนุ่มนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่เคาท์เตอร์เงียบๆ ไม่ได้สนใจใคร ทำให้ไม่ทันได้หันไปมองเลยว่ามีใครมาปรากฏกายที่ร้านด้วยรูปลักษณ์ดึงดูดสายตาใครต่อใครเหมือนเช่นหลายๆคืนที่ผ่านมา

“...ชิ....”
เสียงวรัญญูดังขึ้นเบาๆอย่างไม่พอใจเมื่อมองผ่านแสงสีฉวัดเฉวียนในร้านไปพบว่า “เจ้านาย” ของตัวเองมานั่งดื่มอยู่ตามลำพังที่เคาท์เตอร์ด้านในร้าน ..แต่กระนั้นก็ไม่ได้ยี่หร่ะ ร่างเล็กของ “เลขานุการ” กลับยักย้ายเข้ากับจังหวะเพลงทักคนนั้นแวะคุยกับคนนี้ไปเรื่อย จนท้ายที่สุด... "คุณยู" ของใครๆก็ลงไปวาดลวดลายยั่วยวนอยู่บนฟลอร์เต้นรำข้างล่าง
ในสถานที่นี้เท่านั้นที่ดูเหมือนว่าวรัญญูจะไม่ต้องสนใจสายตาของใคร ไม่ต้องมาคอยระวังการกระทำของตนเองกับใครต่อใคร เขาเปลี่ยนจาก "วรัญญู ลูกชายบุญธรรมของภูธร " เป็น "คุณยู เซเลบ นักท่องราตรี " ไปโดยสิ้นเชิง ชายหนุ่มผมยาวยังคงสั่งเครื่องดื่มด้วยเงินจำนวนมากใช้จ่ายเงินราวกับเบี้ยไปทั่วเหมือนเช่นเคย ...นอกเหนือจากใบหน้าที่สวยงามนั้นแล้ว การที่มีเงินคงเป็นเพียงแค่สองข้อดีที่ทำให้คนพวกนี้สนใจอยากจะรู้จักเขา คิดแบบนั้นแล้วยิ่งทำให้นึกเหยียดหยันตัวเองในใจ...เมื่อในความเป็นจริงแล้วเขา “ไม่ใช่ใคร” และ “ไม่มีใคร” ในหมู่คนพวกนี้เลย

ร่างเล็กของวรัญญูยังคงยักย้ายอยู่บนฟลอร์ ปล่อยให้ร่างกายและจิตใจนั้นล่องลอยไปกับเสียงดนตรี ท่าทางที่บิดร่างไปมาน้อยๆนั้นย่อมดึงดูดใจใครต่อใครได้อย่างง่ายดาย รวมถึงกลุ่มทั้งชายหญิงที่เข้าไปประกบเต้นด้วยอย่างเร่าร้อน เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยจากรอบข้าง เสียงนั้นเรียกความสนใจของอินทัชให้หันไปมอง ในคราแรกเพียงนึกสงสัยว่าฮือฮากันด้วยเหตุอะไร จนเมื่อเห็น “ตัวต้นเหตุ” กำลังแดนซ์กระจายจนเหงื่อพราวอยู่ที่ฟลอร์นั่นก็ต้องขมวดคิ้วแล้วหันกลับไปสั่งเหล้าเพิ่มอย่างหงุดหงิด

....โธ่เอ้ย ปล่อยให้เราคิดมากมาได้ทั้งวัน....
....เจ้าตัวไม่เห็นจะสนใจ ห่านอะไรเลย....
…ดูท่าจะสนอย่างเดียวซิ่นะ....
...บริษัทของตาเฒ่า....
...กับหาเรื่องแดนซ์บ้าไปวันๆ....


เสียงดนตรี จังหวะเร้าอารมณ์ ยิ่งทำให้คนที่กำลังเคลิบเคลิ้มด้วยแอลกอฮอล์และเสียงดนตรีอย่าง "ยู" ยิ่งใส่อารมณ์เข้าไปใหญ่ สะโพกมนขยับเข้าไปใกล้กับชายหนุ่มคนที่เข้ามา ไม่ได้รู้สึกเคอะเขินเลยที่มือของอีกฝ่ายเข้ามาโอบที่เอวบางยามที่ร่างกายของทั้งคู่สายสะบัดไปตามเสียงเพลง

ยิ่งเห็นได้เห็นภาพเหล่านั้นราวกับได้ของแกล้มเหล้าที่แสนปวดใจ แก้วแล้วแก้วเล่าที่แอลกอฮอลล์ในมือของอินทัชว่างเปล่าได้ในเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นแก้วใหม่ ดวงตาคมที่จับจ้องไปยังคนที่อยู่ที่กลางฟลอร์นั้นร้อนผ่าว ทำไมทีกับเขาถึงปฏิเสธนักหนา ที่กับคู่เต้นคนแล้วคนเล่าผ่านมาเข้ามากลับทำท่าราวกับจะเชื้อชวนให้เข้าใกล้

วรัญญูยังคงเต้นต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะเหน็ดเหนื่อย ยิ่งเวลาผ่านไป เหงื่อก็ยิ่งออกมากขึ้น ใบหน้าสวยและเส้นผมสลวยนั้นเกาะเพราวไปด้วยเม็ดเหงื่อที่ดูจะเป็นประกายยามเมื่อต้องกับแสงไฟหลากสี ราวกับจะช่วยเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนให้กับผิ้วเนื้อนวลใต้เสื้อตัวบางบนร่างเพรียวนั้น

และภาพนั้นประหนึ่งจะทำให้อินทัชหมดความอดทน ชายหนุ่มวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะก่อนจะเดินเข้าไปกลางฟลอร์มือแกร่งดึงแขนบางของ “คุณยู”ของใครต่อใครให้เดินตามแต่วรัญญูก็ยื้อตัวเองเอาไว้

"อะไรเล่าปล่อยนะ! "
" กลับ "มือแกร่งออกแรงกระชากวรัญญูให้เดินกลับออกไปด้วยกัน
"ไม่กลับ" วรัญญูสะบัดแขนออกจากมือของอีกฝ่าย เสียงของคนที่ถูกขัดจังหวะนั้นแน่นอนว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก แม้ในใจจะรู้ดีว่าแผนของเขาส่วนหนึ่งมันได้ผลอีกครั้ง

....คงจะหวงเงินที่เราเอาไปใช้ล่ะซิ่นะ....
....พวกลูกนักธุรกิจก็เป็นกันซะแบบนี้ใช่ไหม...


แทนคำตอบนั้นอินทัชกลับออกแรงดึงมากขึ้นจนวรัญญูตัวปลิวเข้าไปซบในอกกว้างของร่างสูง

" โอ้ย เจ็บนะ คุณไม่มีสิทธิ์จะมาลากผมแบบนี้นะ " วรัญญูเริ่มโวยวาย อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าทำให้เขาไม่ได้วางท่าทีทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยเหมือนอย่างที่เคยทำ
“ช่าย...เป็นใครจะมาลาก น้องยูกลับปายแบบเน้...” เสียงพวกคนที่เต้นรำกับวรัญญูอยู่...โดยเฉพาะผู้ชายคนเมื่อครู่หันมาโวยด้วยเสียงที่เริ่มยานคาง...ดูท่าคงจะเมาใช่ย่อย อินทัชเห็นแบบนั้นก็แสยะยิ้มน้อยๆ
“สิทธิ์?...ผมจะลากคนของผมกลับบ้านนี่มันคงไม่ใช่ธุระกงการอะไรของพวกคุณหรอกนะ...เสียใจด้วยแต่คืนนี้ คุณยู คงไม่สามารถเลี้ยงเหล้าพวกคุณได้หมดทุกคนหรอก....เพราะเงินที่เขาใช้น่ะ...เงินของผม!” ดวงตาคมของอินทัชจ้องมองหน้าของคนพวกนั้นเรียงหัว ทำเอาไม่มีใครกล้าโต้เถียงอะไรอีก ปล่อยให้ชายร่างสูงฉุดกระชาดเอา “เจ้ามือ” ที่เคยเลี้ยงเหล้าพวกเขาออกไปจากร้าน...

...........................................

โธ่เอ้ย  ปล่อยเซ่....อินทัช ปล่อยนะคุณไม่มีสิทธิ์มาลากผมแบบนี้ผมไม่ใช่หมานะ!”  
วรัญญูโวยลั่นเมื่อเจอลากคอเสื้อออกมาจนถึงลานจอดรถ ซึ่งอินทัชก็ยอมปล่อยหรือหากให้เรียกตามตรง เขาแทบจะเหวี่ยงวรัญญูไปให้พ้นมือเมื่อเดินมาถึงหน้ารถของตน
" สิทธิ์? นายจะมาเรียกร้องเอาอะไรอีก? .. ไม่ว่าจะเงินจะบริษัท เดี๋ยวมันก็เป็นของนายทั้งนั้น" ชายหนุ่มว่าท่าทางไม่ได้สนใจฟังอีกฝ่ายเท่าใดนัก ในใจร้อนรนไปหมดจนรู้สึกเหมือนมือทั้งสองข้างมันสั่นระริก

...คนแบบนี้ ถ้าปล่อยให้บริษัทอยู่กับคนแบบนี้....

อินทัชคิดไปแบบนั้นแต่อีกด้านหนึ่งของหัวใจกลับค้าน เรื่องเงินทองหรือบริษัทน่ะหรือที่ทำให้เขาโกรธขนาดนี้ ใช่...มันควรจะเป็นอย่างนั้น...แต่ก็น่าแปลกที่ในตอนนี้ ในทั้งหมดของหัวใจมันไม่ได้คิดแต่เพียงเรื่องของผลประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายต้องการจะให้เขาไปหรือที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บจนแทบจะทนไม่ได้...

"พูดเรื่องอะไร...ไม่เห็นจะรู้เรื่อง" วรัญญูแทบจะตะโกนใส่หูของอีกฝ่ายอย่างอารมณ์เสีย
“ขึ้นรถ....” แต่อินทัชก็ไม่ได้ตอบคำถาม เขาเดินไปบังคับให้อีกฝ่ายขึ้นรถแล้วขับออกจากผับไปอย่างรวดเร็ว
“นี่มันเรื่องอะไรกันคุณ...ผมจะเที่ยวนี่มันไม่ได้เลยเหรอ เงินนั่นมันก็ไม่ใช่ของคุณซักหน่อย..คุณพ่อให้ผมมาใช้”  
"แน่ล่ะ! นายมันลูกรักของคุณตานี่ ว่าที่ประธานคนต่อไป นายจะใช้เงินของที่บ้านฉันไปอีกซักกี่บาทกี่สตางค์เขาก็คงไม่ว่าหรอก เพราะยังไงนายมันก็จะได้บริษัททั้งหมดอยู่แล้ว! นายไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย มันน่าสมเพช " ชายหนุ่มกระแทกมือเข้ากับพวงมาลัยรถ ปลายเท้าเหยียบคันเร่งพาอีกฝ่ายมุ่งหน้ากลับมายังคอนโดหรูใจกลางเมืองของตัวเอง
“...................................”
วรัญญูเม้มปากแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บในอกที่ยากจะอธิบาย แม้พูดออกไปอย่างเย่อหยิ่งแต่สุดท้ายกลับรู้สึกผิด เขาจะต้องโกหกตัวเอง...และอีกฝ่ายไปอีกนานแค่ไหนกัน...ยกกิจการให้น่ะหรือ มันคงไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก ในเมื่อภูธรกับเขาทำสัญญากันไว้แล้วว่าถึงเขาจะมาเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลธิติเดชาพงศ์ แต่เขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับงานบริหารและหุ้นทั้งหลายในบริษัท ไม่มีสิทธิ์สืบทอดใดๆ เป็นเพียงแค่พนักงานประจำคนหนึ่งของบริษัทประกอบกับเงินจำนวนหนึ่งที่ให้ใช้จ่ายให้สมฐานะ และ..เอาไว้ใช้ล่อให้อินทัชเกิดความระแวงสงสัยจนต้องหันกลับมาสนใจเรื่องภายในครอบครัวบ้าง...ทั้งหมดมันเป็นแค่แผนการณ์ของพ่อบุญธรรมของเขาที่ทำไปเพียงเพราะความเหงาคิดถึงลูกหลานในยามบั้นปลายของชีวิตเท่านั้น...เรื่องทั้งหมดนี่จะให้เขาพูดออกไปตอนนี้แล้วอีกฝ่ายจะยังเชื่อเขาอยู่อย่างนั้นหรือ ในเมื่อในสายตาของอีกฝ่าย...ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ผิดไปเสียทุกประตูแบบนี้

......................................

จนเมื่อรถสปอร์ตคันงามของอินทัชมาถึงที่คอนโด ร่างสูงดูเหมือนจะสงบลงบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความร้อนรุ่มในภูเขาไฟทั้งลูกจะดับมอดลงในคราเดียว อินทัชดึงเอาร่างบางออกจากรถแล้วตรงไปที่ลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องพักของตน ได้ยินเสียงโอดครวญเล็กๆดังมาจากร่างของชายหนุ่มผมยาวเพราะแรงที่กระชับแน่นจนเรียกได้ว่าบีบลงบนผิวเนื้อนั้นก็ใช่น้อย

“คืนนี้ฉันเบื่อจะเห็นนายออกไปเต้นยั่วชาวบ้านแล้ว..เชิญ!...ลูกรักของคุณตาเข้าไปข้างในเลย จะอาบน้ำทำอะไรก็เชิญ!”

อินทัชดึงแขนของอีกฝ่ายไปที่หน้าประตูห้องน้ำ วรัญญูแทบจะสะบัดมือแกร่งนั้นออกไปในทันที ดวงตากลมโตเป็นประกายกร้าว เมื่อไรอีกฝ่ายจะเลิกใช้ถ้อยคำตอกย้ำเขาแบบนั้นซักที หรือจริงๆแล้วเป็นเขาเองที่ผิดแต่ต้นที่ไปก้าวล้ำเส้นของอีกฝ่ายก่อน
“ไม่ต้องมาสั่งผม...” มือเรียวยกขึ้นลูบท่อนแขนของตัวเองเบาๆ ตรงบริเวณที่อีกฝ่ายสัมผัสด้วยความโกรธนั้นมันเจ็บซึมลึกเข้าไปในเนื้อเลยทีเดียว ร่างเล็กหันหลังให้กับอีกฝ่ายหมายจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ แต่กลับถูกอีกฝ่ายรั้งคอเสื้อเอาไว้ อินทัชใช้ข้อศอกดันอกของวรัญญูอย่างแรงจนแผ่นหลังบางกระแทกเข้ากับฝาผนังที่อยู่ด้านหลัง
“โอ้ย...” ร้องออกมาแต่ก็ต้องเงียบเสียงเมื่อรู้สึกถึงปลายจมูกโด่งที่เลื้อยไล้อยู่ที่ข้างแก้มจนได้ยินเสียงสูดลมหายใจเบาๆจากร่างสูง ในอกหัวใจเต้นระรัวด้วยทั้งกลัวและตื่นเต้นกับสัมผัสแผ่วผ่านนั้น ดวงตากลมหลับแน่นไม่กล้ามองหน้าของอีกฝ่าย แต่ใครจะคิดเลยว่าสิ่งที่จะได้ยินนั้นจะกรีดหัวใจของเขาได้มากมายเหลือเกิน

“...... ที่สำคัญเอาให้มั่นใจด้วยนะว่าล้างกลิ่นของไอ้ผู้ชายพวกนั้นออกไปให้หมดน่ะ...จะเป็นลูกรักของคุณตา จะเป็นว่าที่ประธานบริษัทใหญ่ทั้งทีก็ทำตัวให้มันเหมาะสมกับฐานะแล้วเลิกทำตัวให้มันมีราคีได้แล้ว”

ได้ยินคำนั้นของอินทัช วรัญญูถึงกับเปิดตาโพลง ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเคยหมิ่นเขาเอาไว้มากขนาดไหนแต่มันไม่เคยมากเท่านี้ มือเรียวยกขึ้นชกเข้าที่ข้างแก้มของร่างสูงเสียจนอีกฝ่ายหน้าหัน  

ผั่วะ!!


"ลูกรัก?...อ้อ ใช่ แน่ล่ะ "วรัญญูว่าด้วยเสียงดัง ใบหน้าสวยบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดในใจ "คุณคิดว่าผมอยากจะเป็นแบบนี้หรือยังไง!...ผมเคยมีชีวิตของผม มีบ้าน มีงานที่ผมรัก เคยมีหมาที่เหมือนเป็นเพื่อนตัวเดียวของผม! ผมรู้ว่าคุณไม่เคยมองเห็น แต่ผมก็เคยเป็นคนเดินดินคนนึง! ที่มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน” มือเรียวที่เมื่อครู่ฟาดกำปั้นลงไปบนใบหน้าของอินทัช ทุบลงบนอก เขาอึดอัดมาโดยตลอด
“แต่พอมันเข้าตาจน อะไรที่คิดว่าพอจะช่วยให้สถานที่ที่ผมรักยังคงอยูได้ ผมก็ต้องทำ คุณเข้าใจไหม! คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงได้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้! เพราะหน้าของผมนี่ไง...ถ้าผมไม่หน้าเหมือนย่าที่เป็นรักแรกของคุณภูธร ท่านก็คงไม่เอ็นดูผมแบบนี้หรอก ต่อให้หอบเอกสารผลงานดีแค่ไหนไปสมัครงานที่บริษัทของคุณ แม้แต่พวกที่ประชาสัมพันธ์ก็คงยังไม่แลผมด้วยซ้ำ... "
วรัญญูพูดออกมาด้วยความรู้สึกอัดอั้น ด้วยฤทธิ์เหล้าที่ปนอยู่ในเลือดทำให้คนที่ปรกติพยายามจะทำหน้าตายซ่อนความรู้สึกเอาไว้ใต้กรอบแว่นสีเงินอย่างวรัญญูไม่อาจห้ามน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป ริมฝีปากบางสีสดนั้นสั่นระริก ก่อนจะพยายามเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองอาจจะส่งเสียงสะอื้นออกมา ร่างบางค่อยทรุดลงตรงหน้าของอินทัช สองเข่ายกขึ้นกอดเอาไว้พลางงุดหน้าลง เขาไม่อยากให้อินทัชต้องมาเห็นใบหน้าของเขาตอนนี้ ถ้าเห็นอีกฝ่ายคงได้หัวเราะเยาะแล้วถากถางเขาด้วยความสมเพชเหมือนเช่นที่ผ่านมาเป็นแน่  

" ............................... " ความเจ็บยังแผ่ซ่านไม่ทั่วไปใบหน้ากระเทือนสร้างความมึนงงไปทั่วแผ่นกะโหลก แต่กระนั้นแล้วอินทัชก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรคนที่เพิ่งซัดเขาเข้ามาเต็มหมัด..

“นายอยากจะ...ออกไปจากชีวิตฉันขนาดนั้นเลยเหรอ อยากจะจบเรื่องพวกนี้มากนักใช่ไหม”   ร่างสูงขบฟันกรามเสียจนแน่น คำพูด การกระทำ กับน้ำตาของอีกฝายนั้นมันมากพอที่จะบอกให้รู้ว่าสิ่งที่เขาพยายามจะทำให้กับอีกฝ่ายนั้นมันไม่เคยเป็นผล ... และนั่นก็มากพอ...มากพอที่จะให้รู้สึกได้ถึงคำว่า... “เสียใจ”

"จบ?...แล้วคุณจะทำยังไง... "วรัญญูเงยหน้าขึ้นมองหน้าของอีกฝ่ายทั้งที่เสียงยังสั่นเครือ แต่ยังดีเหลือเกินที่แขนเสื้อนั้นได้ซับเอาน้ำตาออกไปจากสองแก้มแล้ว ภาพของคนตรงหน้าดูบิดเบี้ยวอาจเป็นเพราะบางส่วนของหยดน้ำนั้นยังเกาะพราวอยู่บนขนตายาวประกอบกับฤทธิ์ของเหล้าที่ได้ดื่มกินเข้าไปก่อนหน้า ในตอนนี้ไม่ใช่แค่อาการมึนงงที่ทำให้เขาไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนักหากแต่เป็นคำพูดของอินทัชเองด้วย
 
" ฉันจะจบมันให้นายเอง .. จบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกบุญธรรมบ้าบอนั่นหรืออะไรก็ตาม" ดวงตาคมสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง แสงของดวงไฟที่อยู่เหนือศีรษะของร่างสูงทำให้เกิดเป็นเงาดำทอดผ่านลงมา จนมันยากเหลือเกินสำหรับวรัญญูที่จะบอกว่าอินทัชกำลังมองหน้าเขาด้วยสายตาแบบใด ถึงน้ำเสียงที่ได้ยินนั้นจะหนักแน่น แต่คนอย่างอินทัชนะหรือที่จะทำอะไรให้คนอื่นได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับคนอย่างเขาด้วยแล้ว... คนๆนี้คงแค่อยากจะแกล้งเขาเหมือนที่เคยทำมาเท่านั้นเอง ...วรัญญูเบนสายตาหนีไปอีกทาง

"คนแบบ คุณ ...ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะทำอะไรให้ฟรีๆ....ภายใต้เงื่อนไขอะไรอีกล่ะ...ผมคงเสนอเงินให้คุณไม่ได้ ในเมื่อคุณก็จะบอกว่า “นี่มันเงินของฉัน” อยู่ดี...ใช่ไหมล่ะ” คำพูดของวรัญญูในยามที่ทั้งเมามายและเสียใจนั้นยิ่งเชือดเฉือนคนตรงหน้าและเหมือนจะได้ผลดีกว่าทุกครั้ง

....สำหรับนาย...
...ฉันเป็นได้แค่คนหน้าเงินอย่างนั้นเหรอ....


ได้ยินแบบนั้นแล้วทำให้อินทัชต้องเงยหน้าขึ้นมองเพดาน เบือนสายตาไปให้ห่างจากอีกฝ่าย รู้สึกสังเวชตัวเองอย่างบอกไม่ถูก นี่เขากำลังทำอะไรอยู่ กำลังอยากจะให้เด็กตรงหน้าคนนี้ยอมรับเขาอย่างนั้นหรือ...ด้วยสถานะอะไรกัน....ในตอนนี้ไม่ว่าจะมีเงินกี่ร้อยกี่พันล้านมันก็ไม่สามารถจะยื้อหรือซื้อใจให้อีกฝ่ายนึกเปลี่ยนใจอยากจะอยู่ในฐานะคนที่มีนามสกุลเดียวกัน...เชื่อมโยง...กันกับเขาได้เลย

...นั่นซิ่นะ....
...ในเมื่อเป็นได้แค่นั้น....


" ฟรี? ..เงื่อนไข? ” อินทัชแค่นหัวเราะออกมา พลางย่อตัวลงมานั่งคุกเข่าต่อหน้าของอีกฝ่าย ในตอนนี้เมื่อระดับสายตาเท่ากันแล้ว เขาสามารถมองใบหน้าสวยที่ยังมีคราบน้ำตานั้นอยู่ได้อย่างถนัดตา และไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่ามันทำให้เขาแทบจะลืมหายใจ อินทัชไล้ริมฝีปากเลียริมฝีปากล่างของตัวเองเบาๆ ปลายนิ้วแกร่งจับปลายคางมนนั้นเชยขึ้น พิศมองใบหน้าของวรัญญู ใบหน้าสวยที่ยั่วยวนสติของเขามาตั้งแต่คืนแรกที่พบเจอกัน... มันทำให้เขานึกออกว่าเขาอยากได้อีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขนมากขนาดไหน ดวงตาคมหรี่ลงมองใบหน้าของวรัญญูสบสายตากร้าวของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า
“ถ้านายคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ออกจากปากฉันไปมันเป็นเรื่องธุรกิจ...อยากจะคิดแบบนั้นก็เชิญนายก็แค่จ่ายด้วยสิ่งที่นายมีก็เท่านั้น " มือแกร่งไล้กับผิวแก้มอีกฝ่ายเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
“ฮ่ะๆ... ”
น่าแปลกที่คนที่ควรจะรู้สึกหวาดหวั่นตัวสั่นงันงก กลับหัวเราะออกมาเบาๆ ไหล่ทั้งสองข้างสั่นไหวน้อยๆเมื่อวรัญญูหัวเราะ ดวงตาคู่สวยหันกลับมามองหน้าของอินทัชอีกครั้ง ริมฝีปากบางคู่นั้นแสยะยิ้ม ใบหน้าสวยนั่นยังแดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้า
“ที่นี้ผมไม่สงสัยแล้ว..ว่าทำไมคุณภูธรถึงไปลากผมมายุ่งวุ่นวายอะไรกับเรื่องในบ้านของคุณ ... เพราะคุณมันไม่เคยสนใจอะไรนอกจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ...อะไรที่ใช้เงินซื้อได้คุณก็ซื้อ อะไรที่ใช้ “อำนาจในมือ” ต่อรองได้ คุณก็ทำ...คนแบบนี้น่ะเหรอ จะมาทำให้คุณภูธรรู้สึกสุขใจได้ตอนบั้นปลายชีวิต...ยิ่งมีแต่จะกลุ้มเสียมากกว่า...แล้วผมจะบอกให้นะ" แม้เสียงจะอู้อี้ด้วยอาการมึนเมาที่มีอยู่แต่เดิม แต่ในทุกถ้อยคำและสัมผัสจากปลายนิ้วที่ขยี้ลงไปบนอกของชายหนุ่มอายุมากกว่านั้นบอกให้รู้ได้ว่าวรัญญูมีสติมากกว่าคืนไหนๆ  
"คุณหาไอ้คุณตัวราคาแพงเกินไปหน่อยแล้ว...ที่ผับนั่นมีเยอะนะ เอาถูกๆกว่านี้มั้ย ผมจะไปหามาให้ คุณไม่ต้องเปลืองตัวมากอดผมด้วยซ้ำ"วรัญญว่าพลางก็ดันอีกฝ่ายออกห่าง ร่างเล็กพยายามจะลุกขึ้นแต่กลับเจอมือแกร่งนั้นดึงเอาไว้
"ไม่ ...ฉันไม่เอาไอ้-อีตัวหน้าไหนทั้งนั้น ฉันบอกนายแล้ว... แลกมาซิ่ แล้วฉันจะทำให้นายกลับไปมีชีวตแบบที่นายต้องการเอง "
"เหอะ!” วรัญญูยิ้มเย้ยอีกฝ่าย “คุณหวังแค่คืนเดียวมาตั้งแต่แรกก็บอกเถอะ...ไม่ต้องต่อรองอะไรให้มันมากความหรอก...ถึงมันจะเปลี่ยนผมได้ ..แต่มันก็เปลี่ยนคุณไม่ได้...นั่นล่ะที่จะทำให้คุณตาของคุณจะยิ่งเสียใจ" ริมฝีปากบางเอ่ยโต้ตอบ
"ฉันจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน มันก็จะไม่ใช่ธุรกงการอะไรของนายแล้วนี่ ...ยังไงซะนายก็อยากจะไปจากชีวิตแบบนี้อยู่ดีไม่ใช่หรือไง” ดวงตาคมสบตาของอีกฝ่าย ประกายตาไหววูบเมือต้องแสงไฟและจิตใจของอินทัชเองก็เช่นกัน

...ยังไงนายก็จะไปจากฉันอยู่ดี....


"ใช่! มันไม่ใช่ธุระกงการให้ของผม แต่มันเป็นเรื่องของคุณภูธร...รู้ไหมว่าท่านถอนหายใจเพราะเรื่องของคุณต่อหน้าผมมากี่ครั้ง...การที่ต้องเห็นหลานของตัวเองปฏิบัติกับตัวเองเหมือนเป็นลูกค้า...ท่านต้องเศร้าขนาดนั้นเพราะหลานแท้ๆของท่านไม่เคยคิดจะแคร์อะไร หรือ ใครมากกว่าธุรกิจนั่นไง!”

วรัญญูรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทาง พยายามจะเดินไปให้ถึงประตูห้อง แต่ก็ไปได้ไม่ไกล เมื่ออินทัชกลับคว้าร่างของเขาเอาไว้ มือแกร่งช้อนที่หลังศีรษะบังคับให้เขาอยู่นิ่งๆเมื่อริมฝีปากร้อนของชายหนุ่มสูงวัยกว่าบดเบียดลงมาอย่างถือวิสาสะ ปลายลิ้นอุ่นแทรกกลีบปากของวรัญญูเข้าไปค้นหาความหวานและสัมผัสนุ่มจากเรียวลิ้นของอีกฝ่าย ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยตกใจ มือทั้งสองข้างทั้งทุบทั้งพยายามดันให้อีกฝ่ายละออกห่าง

แต่การตอบรับจากร่างสูงมีเพียงแค่ท่อนแขนแกร่งที่โอบรัดเข้ามาจนแทบจะอุ้มให้เขาลอยขึ้นจากพื้น เพียงไม่กี่ก้าวแผ่นหลังก็ตกกระทบลงกับเตียงนอนนุ่ม สองมือแกร่งยึดข้อแขนของวรัญญูเอาไว้ กดลงกับเตียงจนอีกฝ่ายไม่อาจจะขัดขืนได้ อินทัชขยับถอยละออกจากริมฝีปากของวรัญญูอย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาคมที่สบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเป็นประกายที่ยากจะคาดเดาความหมาย
“ปล่อยผม... เกลียดผมไม่ใช่เหรอ ไม่ได้อยากให้เป็นน้าไม่ใช่เหรอ จะทำแบบนี้ให้เสียมือ ทำไม คุณแค่ไปบอกคุณตาของคุณซะว่าต่อจากนี้คุณจะปรนนิบัติใกล้ชิดท่านให้มากขึ้น...เรื่องมันก็จะจบ ผมจะได้ไปจากที่นี่เสียที”  วรัญญูเบือนหน้าหนีริมฝีปากและสายตาของอีกฝ่ายไปอีกทางใบหน้าของเขาร้อนผ่าวอาจเป็นเพราะอากาศที่ถูกช่วงชิงไปเมื่อครู่ ในตอนนี้ที่ได้หอบรุนแรงเช่นนี้
“ฉันบอกนายมาตลอด......ว่าฉันไม่อยากได้น้า”
 อินทัชก้มลงมาเสียแทบชิดกับใบหูบาง เป่าลมหายใจอุ่นๆให้ร่างเล็กของ “น้าชาย” สั่นสะท้าน ดวงตาคมพิจารณาผิวกายขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อเชิ้ตเนื้อดีออกมา จริงอยู่ที่เขาเคยเห็นมาแล้ว...แต่ในตอนนี้มันต่างกันออกไป ในเมื่อมีอีกฝ่ายมาอยู่ใต้ร่างของเขาเช่นนี้  

ฉันอยากได้นาย



.............................................to be con
(ตัดตอน ฉับๆ แล้ว เผ่นนนนน....  :m22:)


หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/20
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 30-05-2011 02:13:12
จิ้ม ทันไหมหว่า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 30-05-2011 06:30:19
ตัดแบบทำร้ายจิตใจมากกกก

 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 30-05-2011 07:10:30
ต่างคนต่างใช้อารมณ์และเหตุผลที่ตัวเองคิดเอาไว้  :เฮ้อ:
คำพูดที่เชือดเฉือนรังแต่จะทำให้ความห่างของใจ ทวีมากขึ้นกว่าเก่า แต่.....
ดูท่ามันจะไปกันใหญ่ เมื่อคุณหลานใช้วิธีรวบหัวรวบหาง  :z3:
มาลุ้นกันต่อดีกว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้
+1 ให้คนละแต้มเช่นเคย
ปล. หายไปนานยังใจร้ายยยยยย.... ตัดฉับ  :z1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-05-2011 07:37:25
 :3123:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 30-05-2011 19:54:53
บวกให้ด้วยความสงสารยูค่ะ
บอกความจริงเหอะมั้ย?!
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: LEKU_W ที่ 30-05-2011 21:41:54
ต่างคน ต่างใช้อารมณ์ และ คิดไปเองต่างๆนานา

แต่ว่านะ ความคิดคนเรามันต่างกัน

แต่ ตัดกันแบบนี้ ใจร้ายน้า คนแต่งขา

ไม่ได้เข้ามานานมากเลย คิดถึงนะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 30-05-2011 23:26:50
ค้างงงง

กำลังลุ้นเลยย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 01-06-2011 16:11:59
โอ๊ย!!!  ค้างที่สุด...

รออยู่นะ...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 01-06-2011 19:00:34
 :serius2: :serius2: :serius2:
โดนคนเขียนทำร้าย
กว่าจะมาต่อก็ o22 :o12: :sad4:
กลับมาต่อเลยน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 19:34:10
ดีใจจัง คุณน้าคุณหลานกลับมาแล้ว
แต่ว่าตอนนี้อ่านแล้ว ...คิดมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 01-06-2011 23:38:27
โอ๊ยตาย พูดอะไรไป อินทัชก้ยังเบื๊อกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (UP!: CH10 30/5/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 04-06-2011 02:22:11
กำลังค้างได้ทีเลยนะเนี้ย
รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้วนะเนี้ย

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 04-07-2011 05:30:45
@@@Writer's Talk@@@
สวัสดีหลังวันเลือกตั้งค่ะ ...
ทุกคนกลับบ้านไปเลือกตั้งกันหรือเปล่าคะ
พีจังเจอสมรภูมิืที่หมอชิตอยู่ชั่วโมงกว่า :sad4: ก่อนทนไม่ไหว ถอยทัพกลับค่ะ
อ๊ะ  แต่ไม่ได้นอนหลับทับสิทธิ์นะ:teach: ... โทรบอกเสด็จแม่เสด็จพ่อให้มารับกันเลยทีเดียว
(ขอบคุณคุณพ่อกะแม่มา ณ ที่นี้ :pig4:)
ระหว่างทางรถติด เกือบเจออุบัติเหตุด้วยล่ะ ดีนะคันหลังเบรคทัน กลับถึงบ้าน ท่านยายก็มารับเลย เอิ้กๆ
หลานรักจะกลับบ้านก็แบบนี้ (เรื่องนี้ไว้วันไหนอัพบล็อกเล่าให้ฟังอีกที เดี๋ยวจะเหนือธรรมชาติเกินประเด็นบอร์ด)

ป.ล. เพิ่มข้อมูลเรื่องบล็อกexteenไว้แล้ว ว่างๆกดลิงค์ไปอ่านกันได้นะคะ (ไร้สาระหน่อยก็เถอะ)

เอาล่ะ ก่อนจะเวิ่นเว้อไปมากกว่านี้ ไปอ่านต่อกันเลยค่า.... (คราวนี้สั้นนิดหน่อยแต่จะเร่งมาลงให้อีกนะคะ)
.............................................

 

“ฉันบอกนายมาตลอด......ว่าฉันไม่อยากได้น้า”

อินทัชก้มลงมาเสียแทบชิดกับใบหูบาง เป่าลมหายใจอุ่นๆให้ร่างเล็กของ “น้าชาย” สั่นสะท้าน ดวงตาคมพิจารณาผิวกายขาวที่โผล่พ้นคอเสื้อเชิ้ตเนื้อดีออกมา จริงอยู่ที่เขาเคยเห็นมาแล้ว...แต่ในตอนนี้มันต่างกันออกไป ในเมื่อมีอีกฝ่ายมาอยู่ใต้ร่างของเขาเช่นนี้   

“ฉันอยากได้นาย”

...............................


สิ้นเสียงกระซิบหากแต่ดังชัดเจนท่ามกลางความเงียบของห้องนอนกว้าง ริมฝีปากได้รูปของอินทัชสัมผัสกับกลีบปากเล็กที่มักจะโต้เถียงเขาอยู่เป็นประจำ ไม่ได้รุนแรงจาบจ้วง หากแต่ละมุนละไมอ่อนโยนและเนิ่นนาน เรียวลิ้นไล้กับปลายลิ้นของชายหนุ่มอายุน้อยกว่า ซึมซับอุณหภูมิร้อนจากร่างของอีกฝ่ายในขณะที่ตัวเองนั้นก็มอบความอบอุ่นผ่านริมฝีปากนั้นก่อนจะค่อยถอนออกอย่างอ้อยอิ่งราวกับไม่อยากจะละห่างจากความหอมหวานตรงหน้า ร่างสูงที่ยืดตัวขึ้นเหนือร่างของวรัญญูเพียงเล็กน้อย ระยะห่างระหว่างสองกายแม้จะมีบ้างแต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะกลบเกลื่อนจังหวะของหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอกของวรัญญูได้เลยแม้แต่น้อย...เสียงอวัยวะที่เต้นอยู่ในอกนั้นเต้นแรงจนเหมือนจะได้ยินดังอยู่ข้างหู ส่งแรงสะเทือนมาตามแอ่งชีพจรใต้การเกาะกุมของมือแกร่ง ใบหน้าของชายหนุ่มผมยาวนั้นแดงระเรื่อ

ดวงตากลมโตที่จ้องมองมานั้นยังคงดูชุ่มชื้นจนเป็นประกาย...อาจเป็นเพราะน้ำตาที่เพิ่งจะหลั่งรินออกมาเมื่อครู่ก็เป็นได้

.....อะไรกัน.......
.....ก็แค่จูบ.......
.....แต่ทำไมมันเจ็บแบบนี้ล่ะ....


วรัญญูคิด ริมฝีปากบางสั่นน้อยๆ เขาไม่แน่ใจว่าในอกที่รู้สึกสั่นไหวนั้นเป็นเพราะความกลัว  หรือเพราะความรู้สึกหวั่นไหวที่มีต่ออีกฝ่ายกันแน่

ดวงตากลมโตที่ดูสับสนหากแต่มีบางอย่างที่เหมือนจะเชื้อเชิญทำให้อินทัชต้องก้มลงจูบที่หน้าผากมนของอีกฝ่าย อยากปลอมประโลมวรัญญูขึ้นมาอย่างห้ามใจเอาไว้ไม่ได้...เขาควรจะแสดงให้จบ...แต่ก็ห้ามใจเอาไว้ไม่ได้
 
อย่ามองหน้าฉันแบบนั้น...มันเหมือนนายกำลังเชิญชวนฉันอยู่นายรู้ตัวรึเปล่า”  อินทัชกระซิบเสียงแผ่วที่ข้างหู
“ผม...ไม่ได้เชิญชวน...ไม่...ผมไม่ได้ขอให้คุณทำแบบนี้” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นเบาๆที่ข้างหูยิ่งทำให้ใบหน้าของวรัญญูร้อนจนแทบจะลุกไหม้ร่างเล็กเถียงกลับทันควันหากยกมือขึ้นปิดหน้าของตนเองได้คงทำไปแล้ว ...นี่เขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่กัน
“แต่สำหรับฉันมันยิ่งกว่าใช่นะ....” อินทัชยิ้มน้อยๆขยับจูบที่ข้างขมับของคนที่อยู่เบื้องล่าง แขนข้างหนึ่งปล่อยข้อมือของอีกฝ่าย แต่กลับไม่ได้ละห่างออกไปไหนไกลมือร้อนทาบทับลงบนเสื้อตัวบางของวรัญญูย้ำสัมผัสแน่นจนร่างของชายหนุ่มผมยาวเกร็งกระตุก เมื่อผิวผ้าเสียดสีกับผิวเนื้อยอดอกแต่ก็ได้แต่ขบฟันกลั้นเสียงของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าสวยเบือนไปอีกทาง

"............................"
“....................อะไร” เห็นท่าทางของอีกฝ่ายเป็นแบบนั้นอินทัชหยุดทุกสัมผัส พลางยืดตัวขึ้นเหนือร่างของวรัญญู
"แล้ว...ยังไงต่อล่ะ..." วรัญญูเค้นเสียงผ่านไรฟัน เสียงประท้วงถามนั้นคล้ายจะหอบเบาๆ เขานึกโล่งอกที่อีกฝ่ายหยุดเส้นผมยาวประบ่านั้นสยายไปกับพื้นผิวของเตียง
"ทำแบบนี้...คิดว่า...มันดีแล้วเหรอ" ดวงตากลมที่จ้องมองกลับมานั้นเป็นประกายคาดคั้นด้วยอยากจะได้คำตอบจากปากของอินทัช เห็นท่าทีแบบนั้นแล้วทำให้ริมฝีปากของอินทัชหยักยิ้มกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่วรัญญูทำให้เขาแปลกใจกับท่าทีที่บางครั้งคล้ายจะโอนอ่อน บางครั้งก็ดื้อรั้นและต่อต้าน เห็นแบบนั้นแล้วยิ่งนึกอยากจะปลดโซ่ที่รั้งความปรารถนาของตัวเองออกไปเสียให้หมด
"ใช่..ฉันคิดแล้ว”  ชายหนุ่มร่างสูงกระซิบอย่างเย้ายวนติดริมฝีปากอีกฝ่าย ปลายลิ้นไล้เบาๆกับริมฝีปากแดงระเรื่อนั้น
"แล้วคุณ...ได้อะไร"ปลายลิ้นที่ไล้เล่นกับริมฝีปากนั้นฉวยโอกาสที่ริมฝีปากบางนั้นเผยอขึ้น เข้าไปลิ้มรสความหวานภายใน นี่เป็นครั้งแรกที่ดวงตาคู่สวยนั้นปิดลงวรัญญูได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นอยู่ภานยในอก


ไม่มีเสียงตอบใดๆออกมาอีก มือแกร่งประคองใบหน้าเล็กไว้ด้วยสองมือ เพิ่มสัมผัสบดเบียดริมฝีปากเข้าหาร่างเล็ก ลิ้นเรียวฉกชิงเอาความจากอีกฝ่าย ย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยินเสียงครางเครือเบาๆจากร่างเล็ก สองมือที่พยายามดึงไหล่เสื้อของเขาให้ถอยออกห่างนั้นกลับทาบทับลงบนไหล่กวางปลายนิ้วเรียวจิกย้ำลงมาบนเนื้อจนรู้สึกเจ็บ การต่อต้านเปลี่ยนแปรเป็นสัมผัสที่ตอบสนอง ทั้งกายของวรัญญูโอนอ่อนราวยอมแพ้แล้วต่อแรงชักจูงจากปลายลิ้นและสัมผัสของมือแกร่งที่สัมผัสแผ่นอกของเขาผ่านผิวผ้า

อินทัชละฝีปากถอยห่างปลายนิ้วขยับไหวรวดเร็วปลดกระดุมเสื้อออกจากรังดุม ก่อนรั้งสาบเสื้อออกกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกบางเรียบ ผิวกายขาวจัดที่เคยเห็นเมื่อครั้งก่อนหน้าที่วรัญญูมาค้างคืนที่ห้องของเขา บัดนี้ ก็ยังคงความขาวนวลตา อินทัชสูดลมหายใจเข้าลึก เพราะเมื่อถอยห่างออกมาขนาดนี้แล้วค่อยใช้มือไล้เบาๆลงมาตามสัมผัสเนียนเรียบนั้นยิ่งทำให้รู้สึกยากจะหักห้ามใจเอาไว้ได้ไหว

“รัน....” เสียงทุ้มเอ่ยเป็นชื่อเล่นจริงๆของผู้อ่อนวัยกว่า ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก วรัญญูหลับแต่แน่นเมื่ออีกฝ่ายลากปลายนิ้วลงไปตามแผ่นอกสร้างความรู้สึกวาบวามที่ยากจะปฏิเสธ

“รัน....” อินทัชเอ่ยเรียกเขาอีกครั้ง แต่วรัญญูยังไม่กล้าที่จะเปิดตาขึ้นมองต้นเสียง
“ถามฉันใช่ไหมว่า.....แล้วฉันจะได้อะไร” คำพูดของอีกฝ่ายทำให้อดที่จะคิดตามไม่ได้ วรัญญูเผลอลืมตาขึ้นมองหน้าของอีกฝ่าย
".........................................” แต่ซุ่มเสียงกลับหายไปในลำคอ เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับดวงตาคมที่จ้องมองเขานิ่ง น่าแปลกที่อินทัชที่มักจะมองเขาด้วยสายตาประหนึ่งแฝงเสียงหัวเราะเย้ยหยัน บัดนนี้กลับดู....เศร้าหมองเสียเหลือเกิน

............อะไรกัน................
………….ทำไม.............
....ต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ....


แม้จะถามแบบนั้นกลับไปด้วยสายตา แต่อีกฝ่ายก็ยังคงเงียบ อินทัชก้มลงแตะริมฝีปากที่อกซ้ายของอีกฝ่าย เม้มริมฝีปากดูดซับรสจากผิวกายเนียนรุนแรงเสียจนวรัญญูเผลออุทานออกมาด้วยความเจ็บ จนเมื่ออีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกก็ปรากฏเป็นรอยแดง...ที่วันรุ่งขึ้นคงฝากรอยช้ำเลือดไว้บนผิวบางเป็นแน่

“ฉันอยากได้ใจของนาย...”

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาหากแต่หนักแน่นเมื่อถอนริมฝีปากออกไป
“อะ....อะไรกัน...” วรัญญูรู้สึกว่าใบหน้า และ ณ จุดที่อีกฝ่ายสัมผัสนั้นร้อนผ่าว เขาพยายามซ่อนความอายนั้นไว้ด้วยการเบือนหน้าหนีไปอีกทาง
ฉันพูดจริง...และคนอย่างฉันไม่คิดจะโกหกอยู่แล้ว

....อย่างน้อยก็ครั้งนี้....

ก่อนที่จะได้เอ่ยถามอะไรร่างสูงกลับลุกออกจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างของวรัญญู ดึงผ้าห่มพาดทับร่างเล็กเอาไว้เสียแน่นจนอาจจะเรียกว่าตรึงเอาเลขาหนุ่มคนนี้เอาไว้กับเตียง

“ ฉันจะไปบอกคุณตาให้ .. จะเอาชีวิตเดิมๆกลับมาให้นาย ตามที่นายต้องการ"

ดวงตาคมของผู้สูงวัยกว่าสบตาของวรัญญูที่ดูเหมือนจะยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใบหน้าอ่อนวัยนั้นยังแดงก่ำ ริมฝีปากบางนั่นก็ยังคงแดงและฉ่ำชื้นนึกเสียดายเหลือเกิน...แต่ทุกสิ่งคงเป็นไปไม่ได้มากกว่านี้ อินทัชก้มลงเล็กน้อยเพื่อมอบจูบแผ่วผ่านที่หน้าผากมน ก่อนละออกแล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่
“คืนนี้ก็นอนซะที่นี่...ฉันจะกลับไปค้างที่บ้านแม่...กุญแจอยู่บนโต้ะ พรุ่งนี้ก็เอาไปฝากไว้ข้างล่างก็แล้วกัน”  โดยไม่ได้หันกลับมามองหน้าของวรัญญู อินทัชคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งอีกฝ่ายเอาไว้กับความงุนงง และเสียงสะท้อนของประตูที่ดังก้องเมื่อกระแทกปิดลง

“อะไรกัน........”

วรัญญูที่ถูกทิ้งให้อยู่ในห้องนอนกว้างเพียงลำพัง ยกมือขึ้นทาบที่อกข้างซ้าย ในตอนที่อีกฝ่ายผละออกไปนั้นไม่เพียงแต่ถอนเอาความเร่าร้อนที่อยู่บนกายของเขาออกไปเท่านั้น ยังเหมือนว่าอินทัชได้หยิบอะไรบางอย่างติดมือออกไปด้วย ความรู้สึกว่างเปล่าวิ่งเข้ามาแทนที่ที่อกข้างซ้าย  เมื่อหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองบริเวณที่อินทัชได้สัมผัสก็เห็นเพียงรอยแดงบนผิวขาวของตัวเอง

...รอยจูบ...


มันก็ควรจะเป็นเพียงแค่นั้น แต่น่าแปลกเหลือเกินที่ทำให้รู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างเบาโหวง และ เคว้งคว้างอย่างประหลาด.... บางอย่างกำลังบอกวรัญญูว่า... สิ่งนี้กำลังจะนำความหนักใจบางอย่างมาให้ตัวเขาเอง และบางที...มันอาจจะไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย...


...................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 04-07-2011 06:31:25
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-07-2011 07:00:51
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-07-2011 07:01:32
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-07-2011 07:00:19
  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-07-2011 07:03:57
บอกกล่าวความในใจให้ คุณน้าได้รับรู้ความรู้สึกแล้ว
ส่วนคนร่างบาง ยังสับสน กับการกระทำให้หลานชายตัวโตอยู่  :z1:
+1 เป็นกำลังใจให้ พีจัง
ปล.อย่าหายไปนานอีกนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 04-07-2011 09:33:43
อ่านทันแล้ววววววววววววว    สนุกมาก ๆ เลยค่ะ   

ขอแสดงความเสียใจกับ คุณพี ด้วยนะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ

อยากให้คุณน้ารักคุณหลานไว ๆ จัง  ^_____________________^

ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kuruma ที่ 04-07-2011 10:26:10
ชอบตอนนี้อย่างบอกไม่ถูกค่ะ ... อ่า เอามาลงแล้วหรือนี่ .. เตรียมรูปแทบไม่ทัน
ฝากอินทัชกับน้องรันด้วยนะคะ ^^

(http://i40.photobucket.com/albums/e223/kuruminna/run.jpg)
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-07-2011 15:09:05
   :กอด1: ต้อนรับผู้เขียนทั้งสองท่าน ที่พาน้องรันกับอินทัชกลับมาให้หายคิดถึงค่ะ
น้องรันคะ อินทัชได้ใจของน้องรันไปด้วยใช่ปะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-07-2011 16:15:37
เศร้า!!!!!!
ทำไมไม่เข้าใจกันสักทีนะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 04-07-2011 20:20:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 04-07-2011 20:49:23
อ๊าย บอกความในใจกันแล้ว แล้วคำตอบจากรันล่ะ

รอลุ้นว่ารันจะตัดสินใจยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 04-07-2011 23:59:43
ห่างหายไปนาน
เป็นกำลังใจให้ลงต่อไปคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-07-2011 12:47:37
ลุ้นมากๆๆอ่ะ

รันให้คำตอบไว้ๆ ทีเถอะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 30-07-2011 23:23:24
อยากอ่านต่อ  :impress:
 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 31-07-2011 10:21:58
หายไปไหนแล้วววว  T^T
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH11 4/7/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 31-07-2011 15:03:48
เอ่อ ทำไมคุณหลานชักช้าแบบนี้
อย่างรันดื้อๆ นี่ต้องจัดการให้อยู่ในโอวาท
ขอหวานๆ บ้างนะคะ คู่นี้ตั้งแต่ต้นมีแต่จิกกัดกัน
น้องรันเป็นเด็กคิดมาก ค่อนข้างกดดันตัวเอง
ไม่รู้ว่า ถ้าไม่เมาจะรู้สึกอะไรกับคุณหลานบ้างหรือเปล่า
+1 เป็นกำลังใจคนเขียนทั้งสองนะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 27-08-2011 15:41:13
@@@Writer's Talk@@@
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ทำให้คอยกันมานานนะคะ
เดือนที่ผ่านมา คนโพสต์อย่างข้าพเจ้านั้น มีเรียนสามอาทิตย์ติด
อ่านนิยายทุกวันมันก็ัคงสนุกหรอกนะคะ แต่อ่านแล้วต้องเอาไปเรียนทุกวันนี่
ก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ แต่ก็สนุกมากๆเลยล่ะค่ะ เมื่อคืนเลยแก้นิยายเตรียมโพสต์ไว้เรียบร้อย
หลังจากนี้ก็คิดว่าจะได้โพสต์กันแบบไม่ต้องให้รอนานแล้วล่ะค่ะ
เอาล่ะ ไปต่อกับเรื่องของสองน้าหลานกันต่อเลยก็แล้วกันนะคะ :L2:

.....................................................


แสงไฟหน้ารถสาดเข้ามาสาดลงบนผนังสีขาวของตัวบ้านหลังใหญ่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่ดูหรูหราชานเมือง ชายหนุ่มเดินลงจากรถมาเปิดประตูรั้วแล้วขับรถเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง ดึกดื่นป่านนี้เขาไม่อยากจะปลุกให้คนรถหรือแม่บ้านแหกขี้ตาตื่นมาเพียงเพื่อเปิดประตูให้เขาเข้าบ้านเท่านั้น ร่างสูงขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถขนาดใหญ่ที่มีรถมียี่ห้อจอดเรียงอยู่สองคัน คันหนึ่งเอาไว้ใช้รับรองแขกหรือไปออกงานต่างๆ ในขณะที่อีกคันก็มีไว้ให้แม่ของเขาใช้เวลาไปบริษัทหรือเวลาส่วนตัว

“โฮ่งๆๆ....”

พลันได้ยินเสียง “ตัวประกัน” ดังมาจากด้านหลังบ้าน ถึงจะเป็นกลางดึกสงัดแต่ในสวนก็มีไฟส่องแสงสลัวนำทางให้เดินไปด้านหลังบ้านได้ไม่ได้ยากเย็นอะไร ร่างสูงเดินไปตามเสียงเจ้าตัวดีที่เห่าเรียกประหนึ่งรู้ว่าเป็นเขาเองที่มา เจ้าเคน โกลเด้นท์รีทรีเวอร์หัวโตยกหางส่ายไปมาจนสั่นไปทั้งตัวด้วยความดีใจ
เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้กรงแล้วนั่งยองๆลงตรงข้างกรงนั่นเอง เคนพยายามยื่นปลายจมูกชื้นๆมาดมที่มือที่เขายื่นออกไป มันดมแล้วดมอีกเหมือนจะพยายามสำรวจและพิสูจน์ว่ากลิ่นนั้นใช่กลิ่นของเจ้านายเก่ามันหรือไม่ และเหมือนจะยิ่งดีใจหนักทั้งครางทั้งเลียที่มือของอินทัชจนเปียกเลยทีเดียว
 
“ได้กลิ่นรันใช่ไหมล่ะ...คิดถึงเขาใช่ไหม เจ้านายเราน่ะ ดีใจซิ่นะ”

 น้ำเสียงทุ้มที่มักจะสั่งงานลูกน้องอย่างเด็ดขาด สายตาคมที่พิจารณาธุรกิจของตนเองอย่างไม่เคยมีเรื่องบกพร่อง บัดนี้กลับแหบพร่าและไหววูบ นี่ถ้าเจ้าเคนมันรู้ว่า มือที่มันกำลังเลียและพยายามเอาหัวมาอิงด้วยความดีใจนี้ล่ะ ที่สัมผัสและทำให้เจ้านายที่มันรักนักหนาต้องเสียน้ำตาล่ะก็...มันจะหันมาฝังเขี้ยวลงบนฝ่ามือของเขาหรือเปล่า

“ขอโทษนะ....”

.......................................


แม้กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปดึกดื่นค่อนคืนแล้ว แต่อินทัชกลับลืมตาตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ เปิดสมุดบันทึกดูตารางงานแล้วเห็นว่าในช่วงเช้าตัวเองยังพอมีเวลาว่างให้ไป “สะสาง” ในเรื่องที่ยัง “ค้างคา” อยู่ ร่างสูงจัดแจงแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนทับด้วยสูทสีเทา ไม่ผูกเนคไทด้วยรู้สึกว่าเรื่องที่กำลังจะไปทำนั้นมันคงชวนให้อึดอัดมากพออยู่แล้ว การผูกเนคไทคงรังแต่จะช่วยให้ความอึดอัดที่มีอยู่ในใจนี้มันยิ่งหนักมากขึ้น ร่างสูงคว้ากุญแจรถขับรถออกจากบ้านไปโดยที่ไม่ได้รอพบหน้ามารดาแต่อย่างใด

"คุณท่านคะ คุณชายมาขอพบค่ะ” 

เสียงสาวใช้ดังขึ้นเมื่อเดินนำอินทัชไปถึงห้องอาหาร ดวงตาคมของชายหนุ่มมองเข้าไปด้านในก่อน แต่เมื่อเห็นว่ามีชายชรานั่งอยู่เพียงลำพังจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ อาจจะยังเช้าเกินไปจนวรัญญูอาจจะไม่ทันได้กลับออกมาจากคอนโดของเขาก็เป็นได้...ถ้าอย่างนั้นแล้วคงได้พูดในเรื่องที่อยากจะพูดได้มากขึ้น

"มีอะไรถึงได้ถ่อมาถึงนี่ได้แต่เช้า อินทัช " เสียงของชายชราดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงช้อนกระเบื้องที่ค่อยวางลงกับจานรอง ข้าวต้มร้อนๆยามเช้า กับกาแฟเป็นสิ่งที่ภูธรโปรดปรานนัก
 
" ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้คุณตาทราบน่ะครับ " อินทัชเอ่ยด้วยเสียงเรียบๆ พลางเดินเข้าไปดึงเก้าอี้ตัวที่ใกล้กับที่นั่งของคุณตาของตัวเองมากที่สุดให้ถอยออกห่างจากโต๊ะก่อนนั่งลง สองมือประสานบนพื้นผิวเรียบที่ปูทับด้วยผ้าปูโต้ะผืนงาม
" เรื่อง วรัญญู "

"วรัญญู? เรื่องของเด็กนั่น มีอะไรรึ จะมาบ่นอะไรอีกล่ะ" เสียงชายชราหัวเราะเบาๆ พลางขยับเลื่อนเก้าอี้ไฟฟ้าให้หันไปทางที่อีกฝ่ายนั่งอยู่จะได้มองหน้ากันได้อย่างถนัดถะหนี่

" คุณตาคงทราบดี ว่าผมไม่เคยเห็นด้วยที่คุณตารับวรัญญูมาเป็นลูกบุญธรรม และผมรู้ว่าคุณตาก็มีหูตากว้างขวางพอที่จะเห็นว่าระหว่างผมกับเขา พวกเราไม่เคยคิดจะญาติดีกันซักเท่าไร...ผมไม่คิดว่าเราจะเป็นญาติกันในแบบ น้า หลาน หรืออะไรก็ตามที่คุณตาคิดเอาไว้ได้ ผมกับเขาไม่สามารถอยู่ในสถานะที่จะเป็นญาติกันได้...ผมว่าคุณตาควรจะยุติเรื่องนี้ครับ " ดวงตาคมสบตากับผู้เป็นตานิ่ง

"สถานะ?...อธิบายซิ่ ว่าไอ้สถานะที่แกว่า เนี่ย มันเป็นยังไง ตาตามคำศัพท์ของแกไม่ทันหรอกนะ" ผู้เป็นตายังคงเห็นว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้น เป็นแค่อาการประท้วงเดิมๆที่ นั่นก็อยู่ในการคาดการณ์ของเขามาตลอดแล้ว

" ผม....” อินทัชสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกได้ว่ามือข้างหนึ่งของตัวเองกำลังสั่น ชายหนุ่มบีบมือข้างนั้นด้วยมือข้างอีกข้างจนแน่น “ผมไม่คิดว่าเขาคู่ควรกับบ้านหลังนี้ ไม่ควรที่จะมาเป็นลูกชายที่จะมาใช้นามสกุลของตา วรัญญู...หมอนั่นมันก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ขายทุกอย่างเพื่อที่จะให้มีกินมีใช้ไปวันๆ แต่ยังมาชูคอเดินไปมาในบริษัทของเรา เอาเงินของคุณตาไปใช้พร่ำพรื่อ...ผม...ทนไม่ได้หรอกที่ต้องเห็นเขาทำตัวแบบนั้นทั้งๆที่ยังมีนามสกุลของเราห้อยท้าย...หมอนั่นไม่สมควรจะมีเกียรติอะไรทั้งนั้น...ผมเลยต้องเอาคืน ผม.....ข่มขืนหมอนั่น...จะได้ไม่มาหือมาอืออะไรกับผมอีก และหมอนั่นคงไม่มีหน้าจะมาอยู่ในบ้านอีกแล้ว ...คุณตาก็ช่วยสงเคราะห์ให้เขาไปไกลๆผมซักทีเถอะครับ...ผมขยะแขยง "

"........................" คำพูดของหลานชายทำให้ผู้เป็นตาถึงกับนิ่งเงียบ ดวงตาของชายชรามองหน้าของอินทัชนิ่ง
"นี่แก...แกกำลังจะบอกว่า แกใช้กำลังกับผู้ชาย...กับเจ้ารันมันอย่างนั้นใช่ไหม “เสียงของภูธรที่ปรกติแหบแห้งด้วยชราวัยเหมือนถูกบีบเค้นออกมาจากลำคอที่แห้งผาก

"  ........ " คำพูดของผู้เป็นตาทำให้อินทัชต้องกลืนน้ำลายลงไปในคอ กังวลอยู่น้อยๆว่า “การแสดง” ในครั้งนี้ของตัวเองจะสามารถตบตาชายที่ผ่านชีวิตมามากมายผู้นี้ได้หรือไม่ ชายหนุ่มเชิดหน้าขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง

“ผมก็แค่ทนไม่ได้กับการที่จะต้องเห็นหน้าหมอนั่นทุกวัน ไปๆเสียก็ดีเหมือนกัน...ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ยอมรับเขาในฐานะญาติของผมแน่นอน...คุณตาเองก็ควรจะเลิกเล่นเกมส์บ้าๆนี่ได้แล้วนะครับ”

คิ้วของภูธรขมวดเข้าหากันแน่น บางอย่างในคำพูดของหลานชายทำให้สมองที่ยังเฉียบคมแม้จะอายุจะล่วงเลยเข้าสู่วัยชรามานานเริ่มทำงานอีกครั้ง

"คนอย่างแกนี่ล่ะนะ...ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องเอามาให้ได้ตลอดเลยใช่ไหม” ร่างของชายชราขยับเอนมาข้างหน้าเพื่อมองหน้าของหลานชายให้ถนัดถนี่
“แล้วแก ไอ้หลานตัวดี ก็เอาเรื่องที่แกไปอะไรกับเจ้ารันมาเล่าให้ฉันฟังแบบนี้ แกก็คงรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าฉันจะทำยังไง...ตัวแกเองก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่แล้วด้วยซิ่นะ” ถึงจะพูดออกไปเชิงรู้ทัน แต่เรื่องที่ได้ยินได้ฟัง หากเป็นจริงดังที่อีกฝ่ายเล่ามานั้น....มันก็คงจะน่าผิดหวังไม่น้อย

" ผมแค่มาขอให้คุณตายุติเรื่องนี้เท่านั้น .. และไม่ว่าคุณตาคิดจะทำโทษผมที่ไปทำเรื่องผิดกับวรัญญูยังไง ผมยินดีจะรับโทษของการกระทำครั้งนี้ทั้งหมด ...ขอแค่อย่างเดียว เอาหมอนั่นออกไปให้พ้นจากบ้านของเราเสียที" อินทัชเอ่ย พยายามซ่อนเร้นความรู้สึกบนสีหน้าและดวงตาของตัวเองเอาไว้

"ยอมขนาดนั้นเชียว?...นี่เป็นครั้งแรกนะที่ตาเห็นแกพยายามจะทำอะไรมากขนาดนี้...ได้ บทลงโทษคงมีแน่ ตาอาจจะต้องเขียนพินัยกรรมใหม่เลยก็ได้...ก็ไปอธิบายกับแม่ของแกเอาก็แล้วกันไม่อย่างนั้นจะมาหาว่าตาลำเอียงอีก" ภูธรกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พลางยกแก้วกาแฟร้อนขึ้นจิบ

" ขอบคุณครับ " อินทัชยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นตา

"ได้... ตาจะทำให้ แต่ไอ้เรื่อง "ขืนใจ "ที่ว่าน่ะ ถ้ามันจริงแล้วมีเรื่องแจ้งความหรืออะไรขึ้นมา ตาไม่รู้ด้วยนะ ส่วนไอ้เรื่อง "ฝืนใจ"น่ะ เลิกเล่นกันได้แล้ว โตๆกันแล้ว" ภูธรว่าพลางวางแก้วกาแฟลง ก่อนจะกดปุ่มเลื่อนเก้าอี้ออกจากห้องอาหารไปยังห้องหนังสือ ดูเหมือนว่า คุณตาคงจะต้องมีธุระคุยกับทนายของบ้านอีกยาวเป็นแน่

….หลานชายคนเดียวของบ้าน....
....เพิ่งจะบอกว่าข่มขืนผู้ชายด้วยกัน...
....หาทางหนีทีไล่เรื่องพินัยกรรมไว้ก่อนท่าจะดี...


............................................................

อินทัชยังคงนั่งอยู่ในห้องอาหาร ชายหนุ่มปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมไปทั่วห้อง แม้สาวใช้จะเข้ามาถามว่าเขาจะรับอาหารเช้าหรือไม่ แต่อินทัชกลับหันไปบอกว่าเขาขอเวลาอยู่คนเดียวซักพัก เวลาผ่านไปนานเท่าใด ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจ จนในที่สุดก็ตัดสินใจดึงเอาโทรศัพท์ราคาแพงขึ้นมากดปุ่มโทรด่วนหาสุรีรัตน์หัวหน้าแผนกเลขานุการ

" คุณสุรีรัตน์เหรอครับ...ผมเอง...รบกวนจองตั๋วเครื่องบินไปเมลเบิร์นให้ผมหน่อยจะได้ไหมครับ...ขอด่วนที่สุดเลยก็แล้วกัน "

 เมื่อวางสายจากสุรีรัตน์ อินทัชยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เจ็ดโมงกว่าเข้าไปแล้ว เดี๋ยวเขาคงต้องรีบบึ่งไปจัดการงานเอกสารที่บริษัท แต่ก่อนจะได้เดินออกจากห้องอาหารไปไหน เมื่อมองไปก็เห็นร่างบางของชายหนุ่มผมยาวยืนพิงกรอบประตูอยู่อย่างนั้น สองแขนเรียวกอดอกแน่น

"คุณจะกลับไปเมลเบิร์นอย่างนั้นเหรอ" เสียงนุ่มของวรัญญูดังขึ้น ก่อนที่ร่างบางจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของอินทัช ดวงตาคู่สวยที่ปราศจากกระจกใสของแว่นมาบดบังนั้นเห็นได้ชัดว่ายังแดงก่ำ ใบหน้าสวยของวรัญญูเหมือนจะยังไม่ได้นอนเสียด้วยซ้ำ ท่าทางอิดโรยอยู่ใช่น้อย

" มันเป็นวิธียุติเรื่องนี้ที่ดีที่สุด ก็เท่านั้นเอง .. ฉันบอกนายแล้วนี่...ส่วนนายอยากจะทำยังไงก็ไปบอกคุณตาท่านเอาเองก็แล้วกัน "ดวงตาสีน้ำตาลมองใบหน้าสวยนิ่งก่อนจะเหลือบเห็นรอยแดงเป็นจ้ำที่เขาฝากฝังเอาไว้ที่ผิวบางตรงลำคออีกฝ่าย

"คุณคิดอะไรของคุณกันแน่ ทิ้งคำถามให้ผมต้องตอบไว้ให้ผม  แต่สุดท้ายก็หนีไป คิดเหรอว่าคุณตาของคุณจะภูมิใจ..." ดวงตาคู่สวยจ้องหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง เขาเพิ่งจะกลับมาถึงที่บ้านเดินมาที่ห้องอาหารเห็นอีกฝ่ายนั่งคุยอยู่กับภูธรก็หยุดอยู่ที่หน้าประตู แม้จะได้ยินใจความไม่หมด แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า อีกฝ่ายคิดจะกลับไปเมลเบิร์นแน่ๆ และ คงจะไม่ได้กลับมาง่ายๆ นี่คนตรงหน้าของเขาคนนี้ คิดจะทิ้งหน้าที่ความเป็นหลานที่พ่อบุญธรรมของเขาอยากได้นักหนากันไปง่ายๆแบบนี้หรือ

"นั่นมันเรื่องของฉัน แล้วก็ช่วยเลิกเอาเรื่องความภูมิใจของคุณตามาเกี่ยวด้วย...เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคุณตา..."
อินทัชตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา แค่เห็นว่าดวงตาของอีกฝ่ายยังแดงช้ำ เพียงแค่นั้นเขาก็เกือบจะ “แสดง” ไม่จบเสียแล้ว ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลีกทางของวรัญญูก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยไม่หันมาหาอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

...........................................

เมื่อมองอีกฝ่ายเดินไปจนลับตา วรัญญู ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหา พ่อบุญธรรมที่คงจะนั่งอยู่ในห้องหนังสือ

ก๊อก...ก๊อก...


เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆก่อนที่วรัญญูจะเปิดประตูเดินเข้าไปด้านใน

"คุณพ่อ..." เสียงของวรัญญูแผ่วเบา  “สวัสดีครับ” ชายหนุ่มว่าพลางยกมือขึ่นไหว้ภูธรร่างเล็กกึ่งกล้ากึ่งกลัวที่จะเดินเข้าไปหา

 "พ่อขอโทษที่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เจ้ารัน...."เสียงของชายชราแหบพร่า รถเข็นไฟฟ้าส่งเสียงมอเตอร์ยามที่ภูธรหันกลับมามองหน้าของวรัญญู ทำเอาชายหนุ่มอายุคราวหลานถึงกับทำอะไรไม่ถูก ร่างเล็กแทบถลาเข้าไปนั่งพับเพียบข้างรถเข็นไฟฟ้าคันนั้นแทบไม่ทัน

“คุณพ่อพูดอะไรแบบนั้นครับ....”

ภูธรมองหน้าของวรัญญู มือที่เหี่ยวย่นนั้นแตะข้างแก้มของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ใบหน้านี้ช่างดูเหมือนรักแรกของเขาเสียนี่กระไร แต่ใบหน้าที่เหมือนกับคนรักเก่ากลับต้องดูอิดโรย ดวงตาแดงก่ำ แถมยังมีร่องรอยปรากฏอยู่ที่บนผิวเนื้ออีก....

.....ไอ้ทัช ไอ้หลานตัวดี....
.....ทำให้เจ้ารันร้องไห้ขนาดนี้เลยเรอะ....

 
"ขอโทษ...ที่ฉันเอาเรามาเป็นลูกบุญธรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันก็มีเหตุผลหลายอย่าง...หนึ่งในนั้นคือ ฉันอยากจะเอ็นดูเรานะ เจ้ารัน เพราะว่าเราน่ะ เป็นเลือดเป็นเนื้อของผู้หญิงที่ฉันเคยรักนะ...ถึงเราจะไม่ได้เป็นเลือดเป็นเชื้อ แต่ฉันก็ละเลยหลานของคนที่ฉันรักไปตอนที่เขามีปัญหามากมายแบบนั้นไม่ได้หรอก จริงไหม "วรัญญูพยักหน้าลง เขารู้ดีถึงข้อนั้น

"ผมทราบครับ "

"ฉันชอบเรานะ เจ้ารัน เราเป็นลูกชายที่ดี ในช่วงสั้นๆ ก็เถอะ... แต่ถ้านั่นทำให้เราอึดอัดนักที่จะทำอะไร ... เราก็กลับไปใช้นามสกุลเดิมของเราเถอะ เรื่องการเรื่องงานถ้าอยากจะไปทำงานที่อื่น หรือกลับไปเปิดร้านอะไรก็ไปเถอะ... แต่ฉันแค่ยังอยากให้เราอยู่ที่นี่เพราะสำหรับฉันเราก็ยังเป็นลูกชายคนนึงของฉันอยู่ดี...คงไม่ว่าหรอกนะ หากจะอยู่เป็นเพื่อนตาแก่แบบนี้"

“................................................” ท่าทางของชายสูงวัยที่ศร้าสร้อยอย่างน่าประหลาด แม้ภูธรจะยิ้มแต่ก็เป็นเพียงยิ้มฝืนๆที่เพียงมองก็รู้ได้ในทันทีทำให้คนที่มักจะตัดพ้ออยู่ในใจตลอดมาอย่างวรัญญูรู้สึกเจ็บปวดในใจ ร่างเล็กไม่ตอบอะไรเพียงแค่ซบหน้าลงกับไออุ่นจากมือที่เหี่ยวย่นเพราะความชรา เขารักมือคู่นี้เพราะมันให้ความรู้สึกอบอุ่นเช่นเดียวกับมือของย่าของเขานั่นเอง

“.................................................” ภูธรนิ่งไปนานราวกับว่าลังเลที่จะพูดออกไป วรัญญูได้ยินเสียงทอดถอนหายใจแผ่วเบาจากร่างผอมของชายชรา

"เจ้าหลานบ้านั่นมันบอกว่า มันขืนใจเรา...จริงไหม วรัญญู "  คำพูดของพ่อบุญธรรมทำให้ชายหนุ่มร่างบางต้องเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ

"อะไรนะครับ? "  วรัญญูไม่รู้ว่าควรจะทำสีหน้าแบบไหนดี จะให้ร้องว่าตัวเองเป็นเจ้าทุกข์หรือ เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น...นอกจากรอยจูบที่อินทัชทิ้งเอาไว้...เขาก็แทบไม่ได้เป็นผู้เคราะห์ร้ายทางกายเลย

"เพราะความดื้อของเจ้าอินทัชมันซิ่นะ... นึกผิดจริงๆที่ให้มันทำความเข้าใจกับธุรกิจแต่เด็กๆ...มันเลยไม่ค่อยจะสนใจความรู้สึกของคนอื่นเท่าไรนัก มองข้ามญาติพี่น้อง อะไรๆก็ดีแต่จะหากำไร สร้างธุรกิจ นี่ฉันเคยคิดว่าถ้ามีเธอมาอยู่ด้วย เขาอาจจะรู้สึกอยากจะแบ่งปันอะไรกับคนอื่นขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่คิดแค่ว่าถ้ามีใครเข้ามาใหม่แล้วจะต้องคิดมาแก่งแย่งชิงดีเอาทรัพย์สมบัติแต่เพียงอย่างเดียว หรือถ้าใครอยากจะได้อะไรก็ต้องแลกมาด้วยเงิน หรืออะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะมาใช้วิธีแบบนี้...ฉันผิดหวังจริงๆที่มันพูดออกมาแบบนั้น ก่อนที่จะสอนเรื่องเงินเรื่องทอง ฉันควรจะสอนมันเรื่องศักดิ์ศรีและการให้เกียรติคนก่อนเห็นจะดี "

คำพูดของภูธนั้นราวกับจะรู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดวงตาของชายชรายังคมกริบ เขาเห็นได้ในสีหน้าของวรัญญู ผิวแก้มของเด็กหนุ่มคราวหลานนั้นเจือเลือดฝาดยามที่เอ่ยชื่อของอินทัช ความสัมพันธ์แบบคู่กัด เจ้านายลูกน้อง ความใกล้ชิดอะไรก็ตามทีที่อาจจะไปเกิดขึ้นในที่ลับสายตาของเขานั้น มองปราดเดียวก็เห็นได้ชัดเจน

"เจ้ารัน...ฉันเองก็ไม่แน่ใจนักหรอกนะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา กับ เจ้าอินทัช...แต่คิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ และไปถามเขาเองเถอะว่ามันเรื่องอะไร...เพราะอะไรกันแน่ถึงได้พูดแบบนั้นออกมา ทั้งๆที่ปากบอกว่าอยากไล่เราให้ออกจากบ้านนี้ไป แต่ตัวเองกลับหาเรื่องจะให้โดนไล่ออกจากกองมรดกเองเนี่ย...มันเรื่องอะไรกัน รีบไปถามล่ะ ไอ้เจ้าหลานบ้ามันยิ่งเป็นพวกมาไวไปไวอยู่ด้วย" ชายชราโบกมือไล่

“อะไรนะครับ...ไล่ออกจากกองมรดก...”

...ก็จะไม่ได้กลับมาแล้ว....อย่างนั้นเหรอ....

หัวใจในอกของวรัญญูเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความหวาดหวั่น แต่ทำไมเขาต้องกลัวด้วย...กับความคิดที่ว่า อินทัช จะไม่กลับมาแล้ว...เขาควรจะดีใจไม่ใช่หรือ? แต่....ความรู้สึกตอนนี้มัน... มือเรียวเผลอจับที่อกเสื้อของตน ใจในอกสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้

" เดี๋ยวขอโทรคุยกับทนายก่อนก็แล้วกัน เราจะไปทำอะไรก็ไปซะเถอะ"

“ครับ คุณพ่อ...ถ้าอย่างนั้นผม...ผม....ผมขอลา” เด็กหนุ่มว่าพลางกราบอีกฝ่ายแทบตักก่อนจะจะขอตัวกลับออกมาในสมองเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่นึกว่า อินทัช จะพูดออกไปแบบนั้น

....ข่มขืนเหรอ บ้าไปแล้วหรือไง ....
...หาเรื่องโดนตัดออกจากกองมรดกเหรอ....
...อะไรกัน คุณเป็นคนบอกว่าจะปล่อยผมไปไม่ใช่รึไง...
...แล้วนี่มันอะไรกัน...


มือเรียวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากด หมายเลขที่จะทำให้เขาติดต่อกับอีกฝ่ายได้ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อ ดูเหมือนว่า มันจะถูกปิดเบอร์ไปเสียแล้ว

“บ้าชะมัด ปิดเครื่องเรอะ!” วรัญญูโวยลั่น ในขณะที่มืออีกข้างก็พยายามควานหากุญแจรถมินิคูเปอร์ของตัวเอง ชายหนุ่มดูลนลานจนทำอะไรไม่ถูก แต่เขาอยากได้คำอธิบายจากอีกฝ่าย ตอนนี้ เดี๋ยวนี้

“อย่ามาทิ้งเรื่องเอาไว้แบบนี้นะ เจ้าหลานบ้า!”  พลันนึกขึ้นมาได้ ข้อความสุดท้ายที่เขาได้ยิน อินทัชกำลังโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง มือเรียวยกโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขลงไปอีกครั้ง

...คุณสุรีรัตน์...

คือชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

" ค่ะ น้องรัน มีอะไรให้พี่ช่วยเหรอคะ? " เสียงหวานของเลขาอย่างสุรีรัตน์ดังขึ้น

"อ่ะ ครับ เมื่อซักครู่ ที่ท่านประธานโทรมาบอกให้ช่วยจองตั๋งให้ ไม่ทราบว่าเครื่องจะออก กี่โมงหรือครับ" วรัญญูถามอย่างร้อนรน

" เครื่องไปเมลเบิร์นจะออกบ่ายสองค่ะ ท่านประธานได้ฝากเอกสารให้คุณศึกษาแล้วนะคะ ดิฉันวางไว้ที่โต๊ะค่ะ "สุรีรัตน์เอ่ย ถึงจะแปลกใจกับการให้จองตั๋วเครื่องบินแบบกะทันหัน แต่เธอก็ไม่ได้คิดจะแปลกใจเป็นธรรมดาของพวกผู้บริหารที่มักจะมีธุรปะปังด่วนอยู่เสมอ มีบ่อยครั้งที่ต้องรีบจัดหาเครื่องบินส่วนตัวให้เสียด้วยซ้ำ ดูท่าแล้วเจ้านายใหญ่อย่างอินทัชคงจะมีธุระด่วนจริงๆ

"เมลเบิร์น บ่ายสองใช่ไหมครับ "วรัญญูมองนาฬิกาข้อมือ "ขอบคุณมากครับ" ชายหนุ่มว่าพลางตัดสายจากอีกฝ่ายวิ่งไปหารถมินิคูเปอร์ของตัวเอง ติดเครื่องยนต์แล้วบึ่งออกไปทันที

....ตอนนี้ก็แปดโมงเข้าไปแล้ว....
....บ่ายสอง จะเข้าต้องเช็คอินก่อน...
...รถติดแน่ แต่...ไม่ลองก็ไม่รู้ล่ะวะ วรัญญู!!...



.............................................to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 27-08-2011 19:13:31
ตัดสินใจไวสุดๆจริงๆ ลงมือปุ๊บเตรียมบินปั๊บ  :o
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 27-08-2011 20:22:31
มาไว ไปไว เคลมไว ทำยังกับประกันรถยนต์ไปได้ ป๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาด
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 28-08-2011 16:44:31
อินทัชจะหนีไปนอกซะแล้วสิ
รันจะตามไปทันไหมนะ

รอตอนต่อไปนะ
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 29-08-2011 22:19:52
หายไปนานๆๆๆๆ
ขอบคุณที่มาต่อครับ
อย่ามาม่า่มากนะครับ  กลัวรับไม่ไหว  5555+
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: LEKU_W ที่ 29-08-2011 23:21:37
หายไปนานมากเลยนะค่ะ

โฮกกกกก อินทัช แกทำอะไรลงไป  จะหนีหน้าน้องรันหรอ

ไม่ให้ไปง่ายๆน้า น้องรีัน จัดการเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 29-08-2011 23:34:37
หายนานมาก..สงสารคนอ่านนิดนึง...ค้างนะ
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 30-08-2011 00:10:27
มาไวไปไวจริงๆๆ

ตกลงอินทัชคิดจะแก้ปัญหายังไงกันแน่เนี่ย
ไหงมันกลายมาเป็นแบบนี้ได้อ่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-09-2011 00:53:36
น้าหลานกำมะลอคู่นี้ ชักจะยังไงซะแล้วสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 06-09-2011 02:21:51
@@@Writer's Talk@@@
มาต่อแบบเร็วๆ...แต่อาจจะสั้นหน่อยนะคะ
อาทิตย์นี้ เอื่อยเฉื่อยจังเลย ชีวิตคนโพสต์อย่างพีจังดูไร้สีสัน
ใครมีวิธีทำให้รู้สึกสดชื่นได้บ้างช่วยบอกหน่อยเถอะค่า... :monkeysad:

ว่าแล้วไปอ่านเรื่องของน้าหลานกันต่อดีกว่า จะไปทันไหมนะ!

.................................................


ถึงการจราจรไปยังสนามบินสุวรรณภูมิจะทำให้การเดินทางของอินทัชล่าช้าไปบ้าง แต่ก็เป็นไปตามกำหนด ชายหนุ่มจัดการเรื่องเอกสารต่างๆในการเดินทางให้เรียบร้อย รอเพียงเวลาที่จะขึ้นเครื่องเท่านั้น อินทัชแวะดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในสนามบิน สุวรรณภูมิ ท่ามกลางผู้คนมากมายต่างชาติต่างศาสนาที่เดินสวนกันไปมา และพูดคุยกันด้วยสำเนียงเสียงที่บางครั้งก็ไม่คุ้นหู ตรงหน้ามีแก้วกาแฟร้อนหอมกรุ่นแต่กลับไม่ได้รู้สึกอยากจะยกขึ้นมาจิบลิ้มรส ดวงตาคมเหม่อมองออกไปยังกลุ่มคน ร่างสูงนั่งครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เขากลับมาที่เมืองไทย

....คืนแรกในกรุงเทพฯหลังจากหลายปีที่เขาไม่ได้กลับมาเหยีบแผ่นดินแม่ เขาได้เจอกับชายหนุ่มร่างบางผู้ลึกลับ น่าค้นหา ผิวกายนุ่ม เส้นผมละเอียด กลิ่นกายหอมหวานบวกกับน้ำเสียงหวานใส...เพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที ที่ได้พูดคุยหยอกล้อ บทสนทนาที่ฉาบฉวยเหมือนทุกครั้งแต่เขาคนนี้กลับ.....ตกหลุมรัก..

...แต่ในเช้าวันต่อมา เขากลับพบกับเด็กที่พยายามทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่กว่าเขา จนน่าขัน ทั้งรวบผมยาวประบ่านั่นเสียแน่นตึง แถมยังใส่แว่นกรอบเงินดูจริงจังผิดกับหน้าตาที่ดูไร้เดียงสา แก้มใสขยับน้อยๆยามที่เม้มริมฝีปากด้วยขัดใจแต่ก็พยายามจะสกัดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้แบบนั้นก็ดูน่าเอ็นดูไม่หยอก ....

 ... เหมือนชะตาเล่นตลกกับเขา ที่สองคนนั้นคือคนๆเดียวกัน และน่าแปลกเหลือเกินที่เด็กหนุ่มคนนี้ กลับทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป จนถึง ณ วินาทีนี้ จริงอยู่ที่เขาหาทางแกล้งให้อีกฝ่ายได้หัวหมุนอยู่เนืองๆ แต่นั่นเพียงเพราะอยากเห็น ธรรมชาตีที่แท้จริงของอีกฝ่ายก็เท่านั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า ตลอดชีวิตของอินทัชคนนี้ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วเป็นแค่เพียงเกม เป็นเพียงธุรกิจที่จำต้องทำให้สำเร็จลุล่วง สิ่งใดที่เขาต้องการ เขาจะแย่งชิงมาไม่ว่าจะต้องใช้เงินมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่...กับวรัญญูคนนี้.. เขากลับเลือกที่จะเสียสละเพื่ออีกฝ่าย นึกถึงตรงนี้ เขาก็ต้องยิ้มเยาะตนเองอย่างช่วยไม่ได้

….นายจะหาว่าฉันบ้าก็ได้....
....แต่ดูเหมือนว่าฉันจะยกให้นายไปหมดแล้วล่ะ....
...ไม่ว่านายจะอยากได้หรือไม่ก็ตาม...
...เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้...นายก็ไม่เข้าใจฉันเสียที....


ชายหนุ่มนั่งทบทวนอะไรอยุ่นาน จนกระทั่งนาฬิกาข้อมือราคาแพงของเขาและหน้าจอตรงหน้าบอกเวลาที่ต้องไปแล้ว อินทัชลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปทางประตูที่จะพาเขากลับไปที่ออสเตรเลีย มือที่ถือเพียงบอร์ดดิ้งพาสและพาสปอร์ตเอาไว้นั้นกำแน่น ดวงตาคมมองไปยังประตูที่จะเดินไปยังเพื่อเช็คเอกสาร ถ้าผ่านประตูนี้ไป จะเกิดอะไรขึ้นกัน ชายหนุ่มถามตัวเองในใจ มันไม่แน่ว่าจะได้กลับไปมีชีวิตเดิมกับการเป็นผู้บริหาร หลังจากนี้เขาอาจถูกลดขั้นเป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดา เพราะสิ่งที่ได้บอกกับผู้เป็นตาไปก็เป็นได้

.......................................................


“อยู่ไหนนะ.....”  วรัญญูมองซ้ายขวาหาร่างสูงที่คุ้นตาท่ามกลางผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มายังสนามบินขนาดใหญ่แห่งนี้ เขาพยายามเร่งเครื่องมาให้ได้เร็วที่สุดแล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังบริเวณเค้าท์เตอร์ของสายการบินที่อินทัชจะต้องเข้าเช็ค แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็มองไม่เห็นคนที่คุ้นเคย ร่างบางร้อนใจ ในอกกระวนกระวายและร่างกายของเขาเหมือนจะอยู่ไม่สุข ยังนึกถึงดวงตาคมกับใบหน้านั้นที่มองมา คำพูดที่พูดทิ้งท้ายเอาไว้เมื่อคืน ยังคงทำให้ใจของเขาสั่นสะท้าน ในใจภาวนาขอให้ตัวเองมาทันเวลา ร่างเล็กวิ่งไปเข้าไปหาพนักงานที่เคาท์เตอร์สอบถามตารางเวลาของเครื่องที่จะบินไปเมลเบิร์น

"ขอโทษนะครับ...เที่ยวบิน.....ไปเมลเบิร์นนี่ไม่ทราบว่าออกไปแล้วหรือยังครับ"

"คะ...สักครู่นะคะ"
พนักงานสายการบินยิ้มหวาน แม้จะดูตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆก็มีคนพุ่งพรวดเข้ามาหาเธอที่เคาท์เตอร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดปรกติสักเท่าไรนัก 

วรัญญูยืนมองผู้หญิงตรงหน้าคีย์ข้อมูลด้วยความรวดเร็ว์ แต่สำหรับเขาแล้วมันเหมือนนานเป็นชั่วโมง คำตอบนี้ต้องได้ไวที่สุดเท่านั้นและขอให้ มันเป็นคำตอบที่เขาต้องการด้วย

..... คิดจะหนีไปง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ....
......ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย.....
......ในเมื่อเรื่องทั้งหมด จริงๆแล้วมันก็ควรจะเป็นแค่....


"เอ่อ...คุณคะ"
น้ำเสียงของพนักงานสายการบินเรียกให้วรัญญูต้องออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง

"ครับ?...ว่าไงครับ" น้ำเสียงที่เอ่ยถามซ้ำออกไปนั้นแหบพร่า ปนกับอาการหอบหายใจเบาๆจากตัวเขาเอง

"เที่ยวบิน....ไปเมลเบิร์นเวลา บ่ายสองนะคะ เครื่องเทคออฟออกไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วนี้เองค่ะ"

"...เหรอครับ....ครับ....ครับ....ขอบคุณครับ"  วรัญญูรับคำซ้ำๆกับตัวเองอยู่หลายรอบ ก่อนจะค่อยๆผละออกมาจากเค้าท์เตอร์ของสายการบิน ขาที่ก้าวเดินออกมานั้นเหมือนไม่มีแรงจะเดิน กระนั้นก็ยังพยายามพยุงตัวเองให้เดินต่อไป ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาด มันเหมือนกับว่าในอกนั้นมีบางอย่างหลุดลอยหายไป เมื่อรู้ว่าตัวเองนั้น ... มาช้าเกินไป


...ไม่ทันหรอกเหรอ...



................................................


ไม่นานนัก คนที่หุนหันออกจากบ้านของตระกูลธิติเดชาพงศ์ไปก็กลับมาถึงบ้านด้วยท่าทีที่ดูจะต่างไปจากตอนออกไปอย่างสิ้นเชิง

"นี่ไปไหนมาทั้งวันเจ้ารัน...คนที่บริษัทเขาโทรมาถามหาแน่ะ...แล้วทำไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ มานี่สิ เป็นอะไรไปเรา? "
เสียงของชายชราที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ร่างเล็กค่อยๆเดินเข้าไปหาภูธรที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าเหมือนทุกที ร่างเล็กทรุดลงนั่งพับเพียบข้างรถเข็นไฟฟ้าราคาแพงของชายชรา

"ก็หลานชายของ...ท่านประธา..." วรัญญูจะพูดแต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นมือของชายชรายกขึ้นราวกับจะห้าม เขาเลือกใช้คำเช่นนั้นเพราะคิดว่าต่อแต่นี้ไปเขาคงไม่ได้มาข้องเกี่ยวอะไรกับนามสกุลธิติเดชาพงศ์อีกแล้ว...แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไป

"พ่อ...ฉันถือว่าเราเป็นลูกไปแล้ว ...เรียกพ่อซะดีๆ "

"อ่ะ..ครับ พ่อ ..."วรัญญูรับคำ รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าอ่อนแรง

"คือ...เขามาทิ้งปริศนาให้ผมแก้ ...ให้ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เขาพูด เขาทำไปทั้งหมดนั้นเพื่ออะไร ... แล้วเขาก็ไป...ง่ายๆ แบบนั้นเลย "
วรัญญูหัวเราะเบาๆ ซึ่งก็ดูรู้ว่าเป็นการฝืนแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกแย่แบบนี้ นับตั้งแต่เมื่อคืนที่อินทัชผละออกมา ในอกนี้รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไป ราวกับว่าตอนที่ร่างของชายหนุ่มคนนั้นถอยหลังเดินหนีออกไปนั้น อินทัชได้หยิบอะไรจากตัวเขาเดินจากไปด้วย ร่างกายของเขา สั่นสะท้านบ้างร้อนรนควบคุมความรู้สึกนึกคิดต่างๆที่เกิดขึ้นในหัวไม่ได้ ทุกอย่างดูสับสน ยิ่งเมื่อเดินทางไปถึงสนามมบินแล้วพบว่าตัวเองตามไปไม่ทันเยี่ยงนี้....มันเหมือนกับว่า เขาจะไม่มีวันได้สิ่งนั้นกลับคืนมาอย่างไรอย่างนั้น ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาต่อหน้าภูธรด้วยลืมตัว ก่อนจะกระแอมไอเบาๆเป็นเชิงกลบเกลื่อน สิ่งนั้นยิ่งทำให้ภูธรแน่ใจในสิ่งที่ตัวเองคิด ยิ่งเมื่อตอนกลางวันที่สายโทรศัพท์ด่วนมาจากรุ่งนภาด้วยแล้ว...ทุกอย่างก็เหมือนจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น

"นี่เราคงไม่คิดว่าฉันแก่แล้วไม่รู้อะไรหรอกนะ วรัญญู "เสียงของพ่อบุญธรรมดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“เอ่อ....ไม่ครับ ผมไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นกับคุณพ่อเลยนะครับ” วรัญญูส่ายหน้ารัว
นี่เขาแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปกันอีกฝ่ายถึงได้ถามเขาเช่นนั้น แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาคมของภูธร มองแล้วละม้ายคล้ายกับดวงตาของอินทัชอย่างบอกไม่ถูก หากแต่มีประกายตาที่สุขุมเปี่ยมด้วยประสบการณ์อยู่มาก เมื่อถูกสายตาเช่นนั้นมองมาแล้วเขาจะสรรหาคำพูดใดมาโกหกอีกฝ่ายได้ แต่วรัญญูก็ยังไม่อยากจะพูดออกไป...ไม่อยากพูดออกไปทั้งๆที่ในใจของเขายังรู้สึกสับสนเช่นนี้ แต่เนื่องจากโกหกต่อหน้าอีกฝ่ายไม่ได้ ในท้ายที่สุดวรัญญูก็ต้องพยักหน้าลงช้าๆ

ท่าทางของคนที่ทั้งสับสนในตัวเอง สับสนในเหตุการณ์รอบๆกายของวรัญญูนั้นทำให้ ภูธรอดจะรู้สึกใจหายไมได้ วรัญญูเคยเป็นเด็กหนุ่มที่สดใส ใบหน้าที่จัดได้ว่าสวยเหมือนใบหน้าของรักแรกของเขานั้นมักมีรอยยิ้มให้เขาตลอดมา และคงเป็นเพราะอาศัยอยู่กับย่ามาโดยตลอด วรัญญูจึงรู้จักวิธีปฏิบัติตัวเขา “คนแก่” อย่างเขาเป็นอย่างดี แต่ในตอนนี้ภาพของเด็กหนุ่มคนนี้กลับทำให้เขารู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย

....เจ้าพวกเด็กปากแข็งนี่ล่ะนะ....

“เอ้า...เจ้าอินทัชมันทิ้งไว้ให้” มือที่เหี่ยวย่นของชายชรายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับอีกฝ่าย 

“อะไรเหรอครับ....”  วรัญญูรับมาพลางเปิดหา ก่อนต้องตาโตด้วยตัวอักษรที่พิมพ์เอาไว้อย่างเรียบร้อยและกำกับไว้ด้วยลายเซ็นต์ของสองแม่ลูก รวมไปจนถึงลายเซ็นของบอร์ดผู้บริหารทั้งหมด

....นี่มัน....

“คุณพ่อครับ แบบนี้มันมากเกินไปนะครับ!” วรัญญูอุทานลั่น

อะไร ที่หมอนั่นข่มขืนเราแล้วขอโอนหุ้นทั้งหมดของตัวเองกับอำนาจในการบริหารบริษัทที่เมืองไทยนี่ให้เราดูแลเป็นการไถ่โทษน่ะเหรอ...หึ...มันก็สาสมแล้วนี่นะ กับคนที่ทำผิดแบบนั้นน่ะ” ภูธรหัวเราะออกมาเบาๆในลำคอ

“แต่เขา.................” วรัญญูหมายจะเอ่ยค้านแต่เมื่อเห็นสายตาของผู้ที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลก็ต้องเงียบ ...

"ฉันรู้...ว่าเจ้าตัวดีนั่นไม่ได้ทำหรอก... ถึงจะเป็นพวกชอบเอาชนะ แต่เจ้านั่นไม่เคยคิดจะ หาเรื่องก่อคดีแน่... ถ้าเราไม่ยอม...จริงไหม" ดวงตาของผู้สูงวัย มองลึกเข้าไปในดวงตาของวรัญญู ราวกับจะบาดลึกลงไป นั่นยิ่งทำให้ต้องพยักหน้ารับ

"เราก็ไปคิดเอาเองเถอะว่า เขาทำไปทำไม...ส่วนเรื่องบริษัท...ก็ดีเหมือนกันพ่อกำลังเบื่อๆอยู่พอดี " ชายชราเอ่ยอย่างอารมณ์ดีปลายนิ้วที่เหี่ยวย่นนั้นขยับไปมาด้วยความตื่นเต้น บางทีเขาอาจจะได้กลับไปลงสนามในฐานะที่เป็นพี่เลี้ยงผู้บริหารมือใหม่ก็เป็นได้

……………………………………


ทางด้าน อินทัช เมื่อกลับไปที่เมลเบิร์น ชายหนุ่มแปลกใจที่คุณตาของเขายังไม่ได้มีหนังสือสั่งปลดเขาออกจากงาน มิหนำซ้ำยังมีงานสั่งมาให้ทำยาวเป็นหางว่าว แถมยังเจอกับงานเก่าคั่งค้างที่กองสุมกันร่วมเดือนกว่าๆ งานที่รอให้เขาตัดสินใจทุกอย่าง
แม้จะเหนื่อยใจกับงานการมากมาย แต่อินทัชกลับไม่คิดลังเล ชายหนุ่มกระโจนเข้าหางานต่างๆที่รอเขาอยู่อย่างจริงจัง และทำงานจนแบบที่ใครเห็นคงอดจะเอ่ยปากถามไม่ได้ว่า ไปหิวเงินหิวงานมาจากไหน

ร่างสูงหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน จัดการกับงานเอกสาร ติดต่อบริษัทคู่ค้าจากต่างประเทศเอง แบบที่ไม่ยอมปล่อยงานออกจากมือไม่ยอมพักผ่อนจนพนักงานคนอื่นๆต้องแปลกใจ ต่อให้เจ้านายของพวกเขาจะจริงจังกับงานแค่ไหนแต่ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาก็ไม่เคยเห็นว่าอินทัชจะทำงานหามรุ่งหามค่ำขนาดนี้ ซึ่งมันผิดปรกติวิสัยของคนไทยหลายๆคนที่ฝรั่งหัวทองอย่างพวกเขาจะเคยพบเคยเจอ

สถานที่ๆเคยไปอย่างผับสุดหรูกลางเมืองหรือการแอบหลบไปเล่นเซิร์ฟบอร์ดที่ชายหาดแบบนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว เหมือนกับว่า
“งานอดิเรก” พวกนั้นไม่เคยมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับชีวิตของเขามาก่อน ชายหนุ่มไม่ได้สนใจอะไรรอบตัวนอกจากงานตรงหน้าเท่านั้นราวกับว่าพยายามจะหาอะไรทำให้มือไม่ว่าง และให้ตัวเองยุ่งมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะได้ลืมอะไรบางอย่างไป...ก็เท่านั้น

"ท่านประธาน ถ้าไม่พักแบบนี้ร่างกายจะแย่เอานะคะ " เสียงเลขาสาวดังขึ้นเบาๆ

" รู้แล้วล่ะ แอนนา ขอบคุณที่ห่วง .. "ชายหนุ่มตอบกลับไป ก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารตรงหน้า ไม่แตะแม้กาแฟร้อนที่อีกฝ่ายยกเข้ามาให้ ถึงกระนั้นก็ยังรู้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงเดินเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าลำบากใจ

" ถ้าเป็นพวกนั้นโทรมา ผมไม่คุยนะ " อินทัชหมายถึงหญิงสาวหลายต่อหลายคน รวมไปจนถึงผู้ชายอีกหลายรายชื่อที่พยายามติดต่อเขาแทบจะตลอดเวลาตั้งแต่กลับมายังออสเตรเลีย

"ทราบแล้วค่ะ.... " คำสั่งที่มีให้เธอยิ่งทำให้เอาไปพูดกันลับหลังได้สนุกปาก เมื่ออยู่ๆ เพลย์บอย
อย่างประธานอินทิช อยู่ๆ ก็จะมาถอดเขี้ยว ถอดเล็บ หลบการติดตามของใครต่อใครแบบนี้

...สงสัยไปเจออะไรดีๆ ที่เมืองไทยมาแน่เลย...



…………………………………………to be con
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 06-09-2011 06:51:30
หนีอะไรก็หนีพ้นแต่หนีใจตัวเองมันจะหนีไปอยู่ตรงไหนดีคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 06-09-2011 08:32:04
เอาละสิ ที่นี้ต่างคนต่างก็รอคอยหัวใจที่ฝากกันเอาไว้ แบบไม่ได้เอ่ยปาก
ส่วนคุณหลานชายก็การพยายาม ทำให้ยุ่งจะได้ไม่มีเวลาว่าง ให้คิดถึงคุณน้า  :m20:
อะไรก็ช่าง กับความเป็นไป ก็ไม่พ้นสายตาก็ผู้สูงวัย 
มาลุ้นกันต่อว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร
+1 ให้คนละแต้ม พร้อมเป็นกำลังใจให้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Wins_Sha ที่ 07-09-2011 11:21:58
คุณตาคิดจะทำอะไรอ่ะ

ท่าทางรันกะอินทัชคงเจอศึกหนักแน่ๆๆเลย


ปล.เมื่อไหร่จะเข้าใจกันซักทีนะ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-09-2011 15:52:34
ลุ้นๆๆๆๆๆ
เมื่อไหร่จะเปิดใจกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 07-09-2011 17:07:18
 :เฮ้อ:
ทิ้งรันไปได้งัยเนี่ย...

ให้เป็ดเป็นกำลังใจนะจ๊ะ...

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 07-09-2011 17:10:05
สั้นอะมายาวกว่านี้ได้ปะ :z3:

 :call:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 07-09-2011 18:08:59
ตามเขาไปดีไหมรัญ
หรืออินทัชควรเป็นฝ่ายกลับมาเก็บเอาหัวใจของตัวเอง
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 07-09-2011 18:55:15
หนีได้ก็ตามได้~  :oni1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-09-2011 20:40:40
ให้น้องรันตามไปสั่งงานถึงเมลเบิร์นเลยดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 07-09-2011 21:17:00
เอาล่ะสิปัญหาใหญ่เลย

เมื่อไหร่คู่นี้เขาจะเข้าใจกันได้เนี่ย
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH13 6/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 07-09-2011 22:06:04
รีบตามไปโดยด่วนเด็กน้อย!!!
อย่าช้า เดี๋ยวหลายชายในนามจะตายไปกับงานกองโตเสียก่อน เร็วๆ เล้ย!!
รออ่านตอนหน้า รู้ใจ(เปิดใจ)กันสักทีนะจ๊ะ...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: goldfishpka ที่ 18-09-2011 03:18:40
@@@Writer's Talk@@@
คนอ่านที่รักทุกท่าน.......
ท่านจะโกรธเราไหม...........
ถ้าจะบอกว่า....................................



ตอนนี้ตอนจบแล้วเจ้าค่า!!!!

อย่า...อย่าทำหน้าตกใจแบบนั้น
พีจังเขียนเรื่องนี้กันมากับ Kuruma ก็ตกใจเหมือนกัน
แบบ....เฮ้ย ....จบละ? แต่....จบแล้วจริงๆค่ะ
เอาล่ะ เราไปดูตอนจบของนิยายเรื่องนี้กันเลยดีกว่านะคะ  :L2:

.............................................




ทางด้านของวรัญญู

ถึงแม้ว่าจะมีหนังสือออกมาเป็นทางการแล้วว่าจะมีการโอนหุ้นในส่วนของอินทัชให้กับวรัญญู แต่ชายหนุ่มกลับยืนกรานปฏิเสธที่จะรับด้วยท่าทีนอบน้อม และขอยกหุ้นในส่วนนั้นรวมไปจนถึงอำนาจบริหารคืนให้กับรุ่งนภา ซึ่งจะเป็นเหมือนรักษาการแทนประธานบริษัทแทนที่จากภูธรซึ่งดูจะสนุกกับการเข้ามาที่บริษัทเป็นพักๆ แต่ในท้ายที่สุดก็ยกให้ลูกสาวเป็นผู้ดูแลแทนเช่นเดิม และถึงแม้ว่าที่บริษัทจะไม่ได้มีประธานบริษัทมานั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานแล้ว แต่สำหรับวรัญญูแล้วทุกวันยังเป็นวันทำงาน ชายหนุ่มยังคงมาทำงานที่ห้องนั้นทุกวันในฐานะของพนักงานคนหนึ่ง

นามสกุลที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นนามสุลเดิมนั้นทำให้ เขารู้สึกสบายใจที่จะเดินเข้าไปขอศึกษาดูงานกับใครๆมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะภายใต้รอยยิ้มที่มีให้กับคนที่ทำงาน หรือว่า บาร์เท็นเดอร์ที่ผับ ตัวตนของชายหนุ่มร่างบางกลับกำลังเป็นทุกข์ด้วยว่าคิดไม่ตกเรื่องที่ ชายหนุ่มร่างสูงคนนั้นทำ หลังจากที่อินทัชไม่อยู่ วรัญญูได้รับรู้ข้อมูลมากมายว่า อินทัชไปขอให้หลายๆคนช่วยมาดูแลเขาเป็นอย่างดี

..ท่านประธานทำเหมือนกับจะสอนงานให้ น้องรันสืบทอดตำแหน่งต่ออย่างนั้นล่ะค่ะ ..

สุรีรัตน์เลขาคนเก่ง บอกมาเช่นนั้น


"สืบทอดตำแหน่ง?...อินทัช คุณคิดมาได้ยังไง...ในเมื่อทั้งหมดมันก็เป็นของๆคุณ"
วรัญญูไม่เข้าใจเลย ทั้งๆที่ในตอนแรกอีกฝ่ายก็ดูจะอารมณ์เสียมากขนาดนั้นแท้ๆ กับมุขตลกร้ายของภูธรที่ไปรับเขาเข้ามาเป็นลูกบุญธรรม

" อุ้ย ขอโทษจ้ะ น้องรัน"

สุรีรัตน์ที่เปิดประตูห้องประธานเข้ามาต้องผงะเมื่อเปิดประตูเข้ามาพบกับร่างบางของวรัญญูยืนเหม่อลอยอยู่ที่ริมหน้าต่างกว้างบนชั้นบนสุดของตึกสูง น่าแปลก ทั้งๆที่ประธานไม่อยู่ แต่หนุ่มร่างบางกลับมานั่งอยู่ที่โต้ะเลขาในห้องนี้ทุกวัน บางครั้งก็ดูเหม่อลอยบางครั้งก็ดูครุ่นคิดปัญหาอะไรซักอย่างอยู่

"อ่ะ...ขอโทษนะครับ ผมแค่อยากจะคิดอะไรนิดหน่อย" วรัญญู ฝืนยิ้มให้กับอีกฝ่าย

" ไม่หรอกค่ะ .. ที่จริงคุณอินทัชเองก็ฝากพี่ให้ดูแลน้องรันมากๆ เห็นน้องรันไม่ค่อยสบายใจ พี่ก็เป็นห่วง " สุรีรัตน์รีบบอก
" ท่านเคยเปรยกับพี่ไว้ว่า อีกหน่อย ถ้าน้องรันได้เป็นประธานคนต่อไป อยากให้พี่มาเป็นเลขาให้น้องรันน่ะคะ "

"ฮ่ะๆ .... " คำพูดของหญิงสูงวัยกว่าทำให้วรัญญู ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ "เขาคิดไปเองต่างหาก...เขานั่นล่ะ คือ ประธานตัวจริง"

" ท่านเป็นห่วงคุณนะคะ ถึงขนาดออกหน้าให้น้องรันดูงานในหลายๆแผนกแบบนี้นี่ พี่ก็เพิ่งเคยเห็น "


...เป็นห่วง?...



คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ใจนั้นเจ็บขึ้นมา


"ผมคิดว่าผมไม่เป็นไรหรอกครับ..ขอบคุณนะครับ" วรัญญูยิ้มน้อยๆให้กับอีกฝ่าย

สุรีรัตน์ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป ถึงจะบอกว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเลขานุการของประธานบริษัท แต่การที่ได้รับการไว้วางใจถึงขนาดนั้นจากทั้งอินทัชเองก็ดี รุ่งนภาเองก็ดี รวมไปจนถึงคุณภูธรด้วยแล้ว ทำให้รอบกายของเด็กหนุ่มผมยาวประบ่าคนนั้นดูมีพลังงานที่แตกต่างจากพนักงานคนอื่นจริงๆ ...และนั่นทำให้เธอไม่ลังเลเลยที่จะปฏิบัติกับคนๆนี้ในฐานะที่เป็นประหนึ่งผู้บริหารคนหนึ่ง

………………………………….


...เป็นห่วงถึงทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ...
....แต่ผมกลับว่าคุณไปแบบนั้น ...ผมนี่ก็เห็นแก่ตัวนะ...คุณยังจะดีกับผมอีก...อินทัช...


ยิ่งคิดวรัญญูก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวเขาไม่เข้าใจ

...ทำไม...แล้วยังเรื่องที่ว่าร้ายตัวเองไปแบบนั้นอีก...
....นี่ไม่ใช่ละครนะที่พระเอกจะรักนางเอกมากถึงขนาดจะยอมทำให้ขนาดนี้น่ะ...


คิดได้แบบนั้น ชายหนุ่มร่างบางก็ต้องนิ่งไปกับความคิดของตัวเอง

...รัก?...

ในวินาทีนั้นร่างทั้งร่างปานมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่ากลางร่างของวรัญญู เขารู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นคนคิดมาก แต่ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้นก็มีบางเรื่องที่เขาคาดไม่ถึงไปเหมือนกัน หรือ อาจจะเรียกได้ว่าไม่อยากจะคาดถึงจนกลายเป็นไม่อยากจะคาดหวังไปเสีย ท่าทีของอินทัชที่มีมาตั้งแต่เริ่มแรก ไม่ใช่อะไรเลยนอกจากแสดงออกให้เขารู้ว่า ชายหนุ่มคนนั้นมีใจให้เขาแค่ไหน ต้องการเขาแค่ไหน แต่เขาก็ถูกความคิดของตัวเองตีกรอบกั้นเอาความรู้สึกที่ส่งมานั้นของอินทัชออกไปเสมอ...


“หึ....งี่เง่าจริงเรานี่....” วรัญญูหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก
"พี่...สุรีรัตน์ครับ!! " วรัญญูผลุนผลันไปที่ประตู ก่อนจะเรียกเอาตัวสุรีรัตน์เอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินไปไหนไกล ใบหน้าสวยของอินทัชแทบจะฉีกยิ้มให้กับอีกฝ่าย

" คะ? " หล่อนรับคำเบาๆ พลางหันไปยิ้มตอบอย่างงุนงง

"ถ้าจะทำเอกสารไปออสเตรเลีย กับจองตั๋วไปเมลเบิร์นนี่ใช้เวลานานไหมครับ” วรัญญูเอ่ยถามอย่างสุภาพ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองทำหน้าแบบไหนอยู่

“ก็คงไม่นานนะคะ มีธุระอะไรด่วนเหรอคะ”

“เอ่อ....ก็........“ วรัญญูอึกอักใบหน้าสวยของชายหนุ่มแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ 

" รับทราบค่ะ .. ว่าแต่ ต้องการเที่ยวบินด่วนที่สุดไหมคะ? " สุรีรัตน์ถามกลับพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ นี่เธอไม่ได้เห็นรอยยิ้มจากวรัญญูมานานแค่ไหนแล้วนะ ...ถ้าให้บอกก็คงตั้งแต่อินทัชไม่อยู่นั่นกระมัง ที่แท้ความห่วงใยที่ยากนักที่จะเห็นจากอินทัชนั้นคืออะไรเธอก็พอจะเข้าใจได้ในตอนนี้เอง

“เอ่อ ขอด่วนมากๆเลยนะครับ แล้วก็ขอเครื่องกลางคืนก็ได้นะครับ ผมอยากไปถึงโน่นตอนเช้า"

“ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้นะคะ น้องรันไม่ต้องเป็นห่วง”

“ขอบคุณครับพี่” วรัญญูเอ่ยพลางยกมือไหว้ “เอ่อ....พี่สุรีรัตน์ครับ....” ชายหนุ่มเรียกอีกฝ่ายเอาไว้อีกครั้ง

“คะ?”

“แล้วก็ขอที่อยู่ของบริษัทที่นั่นให้ผมด้วยนะครับ พอดีผมมีธุระด่วนมากที่เพิ่งนึกขึ้นได้จะต้องไปสะสางน่ะครับ...ถ้าได้เรื่องยังไงแล้วรบกวนบอกผมด้วยก็แล้วกันนะครับ"

" ค่ะ " สุรีรัตน์รับคำก่อนขอตัววรัญญูไปจัดการเรื่องเอกสารทันที


...............................


หนึ่งอาทิตย์ในการเตรียมเอกสารแบบเร่งด่วนสุดๆของสุรีรัตน์ผ่านไปกับทุกๆวันของวรัญญูที่แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ไม่สุขด้วยคอยมาถามความคืบหน้าอยู่เป็นประจำ...

วรัญญูดูจะตื่นเต้นกับการเดินทางไปต่างประเทศอยู่ไม่น้อย ร่างเล็กของชายหนุ่มที่ยังอาศัยอยู่กับภูธรที่บ้านหลังใหญ่ชายเมืองนั้นวิ่งวุ่นเก็บแพ็คของใช้เล็กๆน้อยๆลงกระเป๋า เมื่อเห็นว่าลูกบุญธรรมของตัวเองอยู่ๆก็มาวิ่งวุ่นกับการเก็บกระเป๋าแบบนั้นก็ทำเอาชายชราอย่างภูธรต้องหัวเราะออกมาเบาๆอย่างช่วยไม่ได้

...เจ้าพวกนี้เนี่ยล่ะน้า...แล้วฉันจะได้มีทายาทสืบสกุลไหมเนี่ย...

……………………………………………………..


ไฟห้องทำงานชั้นบนสุดของอาคารยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงแม้จะเข้าสู่เช้ามืดของวันใหม่ อินทัชยังอยู่กับงานที่กองอยู่บนโต๊ะ และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คคู่ใจ สูทสีเข้มราคาแพงถอดออกพาดพนักเก้าอี้ไว้ เหลือเพียงเสื้อนอกที่ปลดทั้งเนคไทและคลายกระดุมออก ร่างสูงเอนกายไปด้านหลังจนสุดพยายามบิดเนื้อตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าเอกสารที่เขียนแก้มาหลายรอบในที่สุดก็เสร็จสมใจ ก่อนเหลือบมองเวลาจากนาฬิกาข้อมือบ่งบอกเวลาใกล้จะรุ่งสาง บวกกับแสงสีทองที่ขอบฟ้าทำให้อินทัชลุกจากเก้าอี้ผู้บริหาร ร่างสูงเซเล็กน้อยเป็นสัญญานเตือนจากร่างกายว่ากำลังจะดำเนินไปถึงขีดสุดของร่างกาย และมันกำลังจะทนต่อไปอีกไม่ไหวเพราะโหมทำงานเกินขีดจำกัดมาหลายอาทิตย์  ชายหนุ่มลงจากลิฟท์ของอาคารลงมาชั้นล่าง โดยหยิบเพียงแค่กุญแจรถกับโทรศัพท์มาเท่านั้น
 
ประตูอาคารถูกเปิดออก เมื่อมันจับการเคลื่อนไหวของคนที่อยู่ภายในอาคารได้ที่หน้าประตู เมื่อก้าวออกมาด้านนอก ลมเย็นของยามเช้าพัดผ่านมาหอบเอาละอองน้ำจากน้ำพุที่ลานหน้าตึกมากระทบกับผิวกาย อินทัชหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าลึก สองหูเงี่ยฟังเสียงน้ำที่ตกลงกระทบกับบ่อน้ำเบื้องล่าง เขารู้สึกดีขึ้นได้เสมอเมื่อได้ยินเสียงน้ำพุหน้าอาคาร มันทำให้เขาสดชื่นได้เสมอ แม้จะเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ตาม

“เอาล่ะ ได้เวลาไปงีบซักหน่อย”

ที่บอกว่างีบเพราะเขาใช้เวลาแค่วันละไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นในการพักผ่อน นับแต่กลับมาถึงเมลเบิร์น อินทัชลืมตาขึ้นแต่ก็ต้องหยีตาลงเล็กน้อยเมื่อพบกับแสงจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะพ้นกลุ่มเมฆที่จับกลุ่มบดบังแสงแรกแห่งวัน พลันต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีร่างของใครบางคนอยู่ตรงหน้า และภาพที่อยู่ตรงนั้น ก็ทำให้ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากค้าง ร่างบางของชายหนุ่มผมยาวประบ่าคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ขอบของบ่อน้ำพุ ส่งยิ้มน้อยๆพลางโบกมือให้

" วรัญญู? " เสียงของชายหนุ่มแหบพร่า เพราะสภาพร่างกายของตนเอง ดวงตาคมที่บัดนี้ดูเหนื่อยล้ามองอีกฝ่ายราวกับไม่เชื่อว่าจะใช่เจ้าของชื่อ

...ทำงานมากไปหรือไง? .. ถึงได้ตาฝาด..


" เป็นนายเหรอ วรัญญู " อินทัชพยายามประคองตนเองเอาไว้ มือแกร่งข้างหนึ่งพิงกับกระจกของอาคาร

"ก็ผมน่ะซิ่ คิดว่าเป็นใครล่ะ ผมดันขอมาแต่ที่อยู่ของบริษัท ไม่รู้จะเข้าไปยังไงเลยกะว่าจะนั่งรอคุณอยู่ที่นี่..." ชายหนุ่มร่างบางว่าพลางหัวเราะกับความเปิ่นของตัวเองที่ตระเตรียมทุกอย่างเสียดิบดีท้ายที่สุดดันไม่มีที่อยู่ที่พักของคนที่อยากจะเจอเสียนี่ ร่างเล็กเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
"ผมอยากจะมาถามคุณ ...ให้มันรู้เรื่องไปเลย... " 

อินทัชปล่อยมือจากกระจก เขาพยายามจะยืนให้ได้ แต่สภาพร่างกายของเขาที่ฝืนตนเองมาหลายวันหลายคืนกำลังทำให้เขาไม่ไหว ร่างสูงเซ แต่ก็ได้วรัญญูที่ปราดเข้ามาหาเป็นหลักยึด

"อินทัช!? คุณเป็นอะไรหรือเปล่า เรียกหมอไหม" วรัญญูปราดเข้าไปพยุงอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยกลัวว่าร่างที่อ่อนแรงนั้นจะล้มลงไป ชายหนุ่มค่อยประคองให้อีกฝ่ายเดินไปนั่งที่ชายของบ่อน้ำพุที่หน้าบริษัทสองมือเล็กประคองร่างสูงเอาไว้ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายที่ดูอ่อนแรกนั้นจะหงายหลังลงไปในน้ำเสียก่อน

" ไม่..ไม่เป็นไร " อินทัชส่ายหน้าเบาๆก่อนอิงศีรษะซบลงกับไหล่บางของวรัญญู กลิ่นหอมอ่อนๆของโคโลญจน์ที่ใช้กลิ่นเดียวกันมาตลอดทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้อินทัชสูดลมหายใจเข้าไปเสียเต็มปอด
" เป็นนายจริงๆ "

"ก็เป็นผมไง...จะมีใครบ้าลงจากเครื่องแล้วมานั่งรอหน้าบริษัทแบบนี้บ้างล่ะ" วรัญญูหัวเราะเบาๆ สองมือบางโอบรอบร่างของอีกฝ่ายเอาไว้
"ผมมาหาคุณแล้ว" พูดออกไปแบบนั้นแต่ก็อมยิ้มเองด้วยความเขินอาย

" ไม่ได้บอก..ให้มา " มือแกร่งกอดตอบร่างนั้นแทบจะทันที ริมฝีปากบางกระซิบข้างหูของอีกฝ่าย

"ผมมาเอง...ผมแค่อยากรู้..จากปากคุณ" วรัญญูขยับถอยออกมาเล็กน้อย เพียงเพื่อจะได้มองหน้าของอีกฝ่ายได้ถนัดตายิ่งขึ้น ใบหน้าคมที่มักจะดูดีตลอดเวลานั้นดูแปลกไปจากทุกรั้งที่ปลายคางนั้นเริ่มมองเห็นได้ถึงเคราที่ขาดการโกนและดูแล เสื้อผ้า นั้นถูกปลดกระดุมออก แถมยังยับยู่ยี่เหมือนไปผ่านศึกอะไรมาแบบนี้อีก
"นี่คุณไม่ได้นอนมากี่วันแล้วเนี่ย?" สภาพแบบนั้นทำให้ต้องเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

" ก็...ตั้งแต่..กลับมา...ละมั้ง " อินทัชหัวเราะเสียงแห้ง พลางก้มลงมองสภาพของตัวเอง เสื้อเชิ้ตยับๆไม่ได้เนี๋ยบเหมือนทุกที
" น่าเกลียดชะมัด "

"ให้ผมตอบว่าใช่ หรือเปล่าล่ะ" วรัญญู หัวเราะเบาๆ สภาพของอีกฝ่ายในตอนนี้ช่างแตกต่างทุกๆครั้งที่เคยพบเจอ อินทัชที่แสนจะสมบูรณ์แบบคนนั้นน่ะหรือจะกลายสภาพมาเป็นแบบนี้ บอกกับใครกี่สิบรอบก็คงไม่มีใครยอมเชื่อเป็นแน่ สองแขนเรียวกระชับอ้อมแขนกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่นขึ้น “พวกเรานี่ล่ะนะ มีเรื่องให้คิดหนักกันเยอะเลยให้ตายเหอะ”

" อย่ากอดฉันเลย..สภาพแบบนี้..ฉันอยากกลับแล้วล่ะ " อินทัชบอกก่อนจะพยายามลุกขึ้นจากน้ำพุ " ไปบ้านฉันเถอะ "

"เอาอย่างนั้นเหรอ...ไหนรถคุณล่ะ ผมขับให้ แล้วคุณจะได้นอน ...แต่บอกทางให้ผมก่อนนะ"

ชายหนุ่มยื่นกุญแจรถให้อีกฝ่าย แล้วพยายามใช้สติเพื่อบอกทางให้อีกฝ่ายพาเขากลับบ้านของเขาที่เช่าเอาไว้เผื่อใช้รับแขก ความจริงเขามีทาวเฮาส์ใกล้บริษัทอีกที แต่ทำใจคิดไว้แล้วว่าถ้าเสร็จงานเอกสารที่เพิ่งลุล่วงไปนี่แล้วเขาจะลาพักซักสองสามวัน เลยติดกุญแจบ้านมาแต่บ้านตากอากาศเท่านั้น รถสปอร์ตคันงามมาจอดในย่านคนมีอันจะกินใกล้ชายทะเล บ้านแบบตากอากาศกว้างขนาดชั้นครึ่ง มีเฉลียงออกไปรับวิวและลมทะเล ด้านหน้ามีสระว่ายน้ำ คือบ้านของอินทัช

.....................................


"เอ้า...ค่อยๆลงนะ กุญแจบ้านล่ะ มา ผมจะเเปิดให้ "
วรัญญูรีบวิ่งลงมาจากอีกฝั่งเพื่อรับอีกฝ่ายเอาไว้ คีย์การ์ดถูกยัดใส่มือของวรัญญูแทบจะทันที ชายหนุ่มร่าบางพยุงอีกฝ่ายให้เดินไปที่ประตู จัดการเปิดบ้าน เปิดไฟพาอีกฝ่ายเดินเข้าไปนั่งที่โซฟายาวทันที เพราะด้วยไม่รู้ว่าห้องนอนอยู่ตรงไหน

" ห้องนอน..ทางนี้ " ชายหนุ่มชี้ไปด้านใน ยังไงเขาก็ไม่ยอมนอนโซฟาเด็ดขาด เขาเป็นแบบนี้มาตลอด จะมีนอนโซฟาก็คืนนั้นเอง คืนที่พาวรัญญูมาค้างที่คอนโดตอนอยู่ที่เมืองไทย

"อ่ะ...ถ้าอย่างนั้นก็ลุก "วรัญญู พยายามพยุงอีกฝ่ายไปที่ห้องนอนอย่างทุลักทุเล เพราะ ตัวเขาเองก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

ประตูห้องนอนขนาดใหญ่ที่ยื่นระเบียงออกไปให้เห็นทะเลรอบด้าน สีของมันเข้ากับผ้าม่านสีขาวพริ้ว และพื้นไม้ มีเตียงขนาดใหญ่ที่กลางห้องหมอนดูนุ่มน่านอนวางเรียงกันหลายใบ 

"เอาล่ะ ถึงแล้ว...นอนซะนะ " วรัญญูว่า พลางค่อยๆ จัดให้อีกฝ่ายนอนลงบนเตียง

แต่ทันทีที่หลังของเขาพิงกับพื้นเตียง มือแกร่งที่ดูเหมอืนจะไร้เรี่ยวแรงกับดึงให้วรัญญูลงมานอนบนเตียงด้วยกันทันที มือแกร่งดันให้อีกฝ่ายลงไปนอนอยู่ข้างล่างในขณะที่ตัวเขานั้นกลับขยับขึ้นคร่อมร่างนั้นไว้

"อะไร...ง่วงไม่ใช่เหรอ อย่ามาแผนเยอะนะ" วรัญญูเอ่ย ใบหน้าสวยงอง้ำเมื่อรู้ว่าโดนหลอก สองแขนเล็กพลางพยายมดันอีกฝ่ายออก

" อื้อ..ยังมีแรงอยุ่ " มือนั้นลูบผิวแก้มใสนั้นไปมา " นายกับฉันต้องคิดหนักเรื่องอะไร?” คำพูดที่ถูกละเลยไปเมื่อครู่ถูกนำมาย้อนถามวรัญญูอีกครั้ง

คำถามนั้นทำให้ร่างบางต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าสวยเปื้อนยิ้ม มือเรียวจับมือของอีกฝ่ายให้แนบชิดกับผิวแก้มของเขามากขึ้น....

.....อุ่นจัง.....
 
"คิดถึงเรื่องที่พวกเราทำไป...ผมคิดนะ..เรื่องที่คุณทำให้ผมทั้งหมด" ดวงตาคู่สวยสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง

" ฉันไม่ได้ทำอะไรดีๆให้นายซักหน่อย" อินทัชปฏิเสธ พลางก้มลงกระซิบเสียงแผ่ว ปลายขมูกโด่งไล้เรื่อยกับผิวแก้มนั้นเบาๆ

"ก็...ทั้งเรื่องบริษัท แล้วก็เรื่องที่คุณเอาไปพูดกับคุณพ่อ" วรัญญูตอบเสียงเบา  "ผมแค่อยากจะถามว่าทำไม "

" แล้วนั่นมันเรียกว่า เสียสละ .. แบ่งปัน หรืออะไรที่นายคอยย้ำมาตลอดหรือเปล่า? " ชายหนุ่มกระซิบติดริมฝีปากอีกฝ่าย

"อาจจะใช่...แต่คุณก็ทำเกินไป จนผมอยากจะถามคุณว่า คุณรักผม ขนาดนั้นเลยหรือยังไง หรือเพียงแค่ ประชดกันไปมา ในเกมบ้าๆ ของพวกเรา " ดวงตาคู่สวยปิดลง วรัญญูรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นบนผิว และ เสียงหัวใจเต้นจากอกของตัวเองสอดคล้องกับเสียงแห่งชีวิตของอีกฝ่าย

" อาจจะใช่ก็ได้..วรัญญู..เพราะฉันไม่เคยทำให้ใครแบบนี้..ฉันไม่เคยอยากให้ใครเข้าใจการกระทำของฉันมากเท่านาย อยากให้นายเห็นฉันบ้าง ที่ใจนี้ อยากให้นายลองสัมผัสฉัน และอยากให้นายยอมให้ฉันได้สัมผัสตัวตนของนายแบบนี้...ทุกอย่างอาจจะเป็นเพราะนาย..ตั้งแต่คืนนั้นที่เจอกันในสภาพที่เป็นยู..และนายที่เป็น รัน เป็น วรัญญูคนนี้ "มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มลูบไล้ร่างของอีกฝ่ายไปทั่ว

" ฉันคงตกหลุมรัก ตั้งแต่คืนนั้นแล้ว "


"สำหรับผม...ก็คงจะเหมือนกัน คืนนั้นผมก็คงจะตกหลุมกับหน้ายุ่งๆของคุณตอนเดินเข้ามาในร้าน" สองมือเรียวจับใบหน้าคมของอีกฝ่ายให้สบตากับเขา

"ผมรักคุณ อินทัช  "

อินทัชยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ตัวเขาเองก็คงไม่เคยเห็นตัวเองยิ้มเช่นนี้มาก่อน ร่างสูงก้มลงแตะริมฝีปากกับอีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน สัมผัสอีกฝ่ายด้วยรักอย่างที่ใจเฝ้ารอคอยมานาน

“ฉันรักนาย...คุณน้าตัวดี”

“ทีแบบนี้มาเรียกน้า เดี๋ยวต่อยเลยนี่” วรัญญูทุบไหล่ของร่างที่ทาบทับเสียงดังอึก

“ล้อเล่นน่ะ...ก็บอกแล้วไงครับ...ว่าไม่อยากได้น้า” อินทัชยิ้มน้อยๆ พลางจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายอีกครั้ง “หัวใจที่ขอน่ะ ให้ได้หรือยัง” ไม่วายยังทวงถามสิ่งที่ต้องการมาโดยตลอด

“เอาแต่หัวใจเหรอ ตัวไม่เอาใช่ไหม” ร่างเล็กถามกลับ ดวงตาคู่สวยสบตาของอินทัชนิ่ง ประกายตาของวรัญญูนั้นบ่งบอกความหมายลึกซึ้งจนอินทัชต้องพยักหน้าลงแทนคำตอบ ริมฝีปากได้รูปจูบเม้มรับความหอมหวานจากร่างบาง สองมือไล้บีบทั่วร่างเล็กราวจะยืนยันถึงการมีอยู่ของวรัญญูในอ้อมแขนของตน

“พูดแบบนี้...ก็ขอเลยก็แล้วกัน”

.........................................................


หลังจากนั้นผ่านไปอีกอาทิตย์กว่าๆ บ้านพักตากอากาศของท่านประธานหนุ่มก็ดูเหมือนจะมีสีสันเข้ามาเพิ่มเติม วรัญญูต่อเติม ตกแต่งหลายมุมในบ้านพักตากอากาศของ “คนรัก” ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ไปเลือกซื้อมา ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความภูมิในในฝีมือการตกแต่งของตัวเอง

"รอเจ้าเคนอีกนานเลยนะเนี่ย... " บ่นพลางเดินไปทิ้งตัวลงกับโซฟาตัวใหญ่ ที่ตั้งอยู่หน้าทีวี

" ไว้ไปเยี่ยมก็ได้นี่ .. สนามบินแค่นี้เอง " อินทัชที่เดินกลับมาจากห้องครัวว่า ชายหนุ่มวางจากขนมลงบนโต้ะ เขารบกวนให้แม่ของเขาส่งเจ้าเคนขึ้นเครื่องมาที่เมลเบิร์น โดยมีวรัญญูนั่งเครื่องไปรับเจ้าโกลด์เด้นท์ตัวโตนั่นมาจากเมืองไทย

" กินซะ เมื่อคืนใช้พลังงานซะเยอะ " อินทัชบอกอีกฝ่ายยิ้มๆ พลางส่งขนมให้กับอีกฝ่าย

"ก็เพราะใครล่ะ" วรัญญูถึงกับหน้าแดงก่อนจะต้องยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มแก้เขินเสียอึกใหญ่ท่าทีขวยเขินที่มีนั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนเชิญชวนให้ขยับเข้าใกล้ อินทัชเท้าแขนกับพนักด้านหลังพลางก้มลงเข้าไปหาชายหนุ่มร่างบาง


RRRR RRRR

ก่อนที่ใบหน้าคมจะได้ก้มลงไปใกล้กับวรัญญูมากไปกว่านั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียเข้าให้ อินทัชดูนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจ ในเวลาแบบนี้จะเป็นใครไปได้

"สวัสดีครับ คุณตา ไม่ทราบมีอะไรให้ผมรับใช้หรือเปล่าครับ? " ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปราวกับเป็นเครื่องตอบรับโทรศัพท์อัตโนมัติ

"เออ มี แกเอาลูกชายของฉันไปไหน เจ้าหลานตัวดี "เสียงชายขราดังขึ้นตอบท่าทางไม่สบอารมณ์นัก

" เขาไม่ใช่ลูกชายคุณตาแล้วนี่ครับ .. เขาเป็นแฟนผมต่างหาก อยู่ข้างๆนี่เลยด้วย " อินทัชตอบกวนๆอย่างอารมณ์ดีไม่วายมือแกร่งคว้าไหล่ของคนที่นั่งอยู่ข้างๆมาไว้ในอ้อมแขน ทำเอาวรัญญูต้องส่งเสียงประท้วงเบาๆ

"อ้าว ได้ยังไง แล้วนี่แกก็ยังเอาหมาไปด้วยอีก แกจะให้แม่กับตาของแกอยู่กันบ้านเงียบๆแบบนี้น่ะเหรอ...แล้วนี่เรื่องบ้านนี้จะไม่มีเหลนมาให้ฉันอุ้มอีก ลูกชายก็ไม่มี ....เจ้าอินทัช รีบกลับมาเมืงไทยเดี๋ยวนี้นะ " เสียงคุณตาบ่นยาวมาตามสายโทรศัพท์

"โธ่ ก็คุณตารับใครมาเป็นลูกอีกคนก็ได้นี่ครับ .. ผมจะได้สอนงานให้ " ชายหนุ่มตอบกลับไปท่าทางผ่อนคลายขึ้นมาก ตั้งแต่เขาคบกับวรัญญูแล้ว ความเย็นชาในหัวใจที่เคยมีมานั้นก็ค่อยหายไปเรื่อย เพียงแค่มีคนที่รักอยู่ข้างๆ ความสุขนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเงินตราอีกต่อไป

"โอ้ย เอามาอีก แกก็จะได้แย่งไปอีกน่ะเหรอ คราวนี้ เอาลูกสาวคนใหม่ก็แล้วกัน " เสียงคุณตาบ่นอะไรตามมาอีกก็ไม่รู้ยาวเหยียด

“คร้าบ....คร้าบ....เอ๊ะ อะไรนะฮะคุณตา ไม่ได้ยินเลย สายไม่ดีแน่เลยครับ ผมวางหูก่อนนะครับ” ชายหนุ่มหาข้ออ้างไปเรื่อยก่อนจะใช้จังหวะที่ผู้เป็นตากำลังโวยวายนั้นตัดสายของคนแก่ขี้บ่นอย่างภูธรหน้าตาเฉย

"คุณพ่อบ่นยาวเลยเหรอ" เสียงวรัญญูถามขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะน้อยๆ ตาหลานคู่นี้นี่เป็นแบบนี้ตลอดเลย 

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไปเยี่ยมเจ้าเคนกันดีกว่าไหม? "อินทัชทำเป็นไม่ตอบคำถามนั้น แต่ก็หยักคิ้วให้กับอีกฝ่ายเป็นอันรู้กันดี

"อื้ม ไปๆ ไม่ไปเยี่ยมเดี๋ยวเคนมันงอนเอา  " วรัญญูว่าพลางยิ้มก่อนจะส่งแก้วชาให้กับอีกฝ่าย


ทั้งสองคนใช้เวลายามบ่ายไปกับการจิบชา ก่อนที่ช่วงเย็นจะพากันไปเดินริมหาดทราย ฝากรอยเท้าของทั้งคู่ที่เดินเคียงกันอาไว้บนผืนทรายก่อนที่พระอาทิตย์จะลาลับแล้วยามค่ำคืนที่หอมหวานจะกลับมาเยือนบ้านพักตากอากาศหลังนี้อีกครั้ง


-Fin-


@@@Writer's Talk@@@
และแล้ว....เรื่องมันก็จบลงไปด้วยประการฉะนี้นี่เอง.....
ขอบคุณคนอ่านทุกคน ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่มีให้
ขอบคุึณทุกความห่วงใย ทุกความเห็นใจที่มีให้กันมาโดยตลอดนะคะ

เอ...เรื่องใหม่? อ้อ มีแน่นอนค่ะ (ไม่รู้จะมีคนถามไหม แต่ พีจังชิงตอบไว้ก่อน)
รอติดตามกันให้ได้เลยนะคะ!!!

(ป.ล. ช่วงนี้เห็นคนใช้กันเยอะ Fin ที่เห็นเขียนนั่น อ่านว่า แฟง นะคะ เป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ
ปรกติจะใช้ตอนจบของหนังน่ะค่ะ แต่ถ้าทั่วไปแล้วจะ เขียนว่า la fin ค่า) 
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-09-2011 11:28:06
แฮปปี้ แฮปปี้เอนดิ้ง
 :มอบ :L2:และคำ :pig4:สำหรับคนเขียนทั้งสองค่ะ
จะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-09-2011 16:23:34
สนุกจ้า

แต่มีบางช่วงที่ประชดๆกันอ่านแล้วงงๆ ต้องการสื่ออะไรหว่า

ชอบเจ้าเคน น่ารักง่ะ!
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-09-2011 16:23:55
 :o8:ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆครับ  จะมีตอนพิเศษแถมให้หรือเปล่าน้า :o8:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 18-09-2011 17:10:04
ดีจัง ในที่สุดก็เข้าใจกัน  :กอด1:
คุณตาคงเหงา แต่แบบนี้ก็คงสบายใจกว่า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 18-09-2011 17:11:57
ว๊าวว เข้ามาอ่านตั้งแต่ตอนแรก สนุกมากๆเลยค่ะ
รันน่ารักมากฮ่าๆๆ กว่าจะรู้ใจตัวเองกันได้
ว่าแต่จะทิ้งคุณตาอยู่บ้านคนเดียวหรอเนี่ย -..-
กลับไปบริหารงานที่ได้ก็ได้ อิอิ รอเรื่องต่อไปนะคะ
จะคอยติดตามผลงานค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 18-09-2011 20:27:00
เรื่องนี้สั้นรวบรัดดีจัง ฮาาาาาา
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 18-09-2011 20:39:19
สนุกดีครับ

รวดเดียวจบ

แม้บางตอนจะงี่เง่า ช่างประชดประชันกันไปบ้าง

สรุปเรื่องนี้  เจ้าเคนน่าร๊ากกกที่สุด
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 18-09-2011 22:07:24
เผลอแป็บเดียวเรื่องนี้ก็จบลงด้วยรอยยิ้ม

ไม่มีสิ่งใดจะกล่าว นอกจากขอบคุณคนเขียนทั้งสอง
ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดีมาให้อ่านกัน

รักทั้งคุณน้าคุณหลานเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH12 27/8/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 18-09-2011 22:19:18
มาไว ไปไว เคลมไว ทำยังกับประกันรถยนต์ไปได้ ป๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาด
^
ขอยืมใช้นะคุณณัฐ o13
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆ
แต่จบสั้น ห้วนไปนิดอีกเรืื่องแล้ว
อยากอ่านตอนพิเศษ
+1
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: from_mars ที่ 18-09-2011 22:23:21
จบแล้ว พ่อแง่ แม่งอน...ได้ปรับความเข้าใจกันสักที
ก็แค่พูดออกมาเนอะ...
ขอบคุณมากจ๊ะ และจะติดตามต่อไปนะคะ...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 18-09-2011 23:22:39
เย้ๆ ในที่สุดก็รักกันซักที ลุ้นจนเหนื่อย แต่ก็น่ารักมากเลยค่า
ขอบคุณนะค๊าาา
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: iota ที่ 18-09-2011 23:30:23
กด+ พร้อมคำ ขอบคุณครับ :L2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 19-09-2011 00:07:31
จบแล้วเหรอออออออ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: represser ที่ 21-09-2011 11:45:49
โอ๊โอ  อยากให้เปลี่ยนสถานะจัง   :-[
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 21-09-2011 17:17:24
ในที่สุดก็จบแบบมีความสุขได้เนอะ
หลังจากประชดกันไปประชดกันมาเกือบทั้งเรื่อง
อิอิ

เรื่องต่อไปนะค้า
เป็นกำลังใจจ้า
สู้ๆ นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 01-08-2012 14:37:39
 o13
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 13-08-2012 20:09:10
 :กอด1:   :o8: :-[
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 14-08-2012 10:53:32
บางช่วงเราอ่านแล้วงงๆ นะคะ
แต่รวมๆ แล้วเข้าใจดี
ที่จริงแล้ว ก็เป็นรักแรกพบนี่นา
สุดท้ายแล้วสงสารคุณตา กับคุณแม่นะ
เหงากันอยู่ 2 คน
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-09-2012 00:35:31
ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 24-06-2014 22:26:43
จบแล้ว

กว่าจะยอมรับกันได้

หวานเฉพาะตอนจบเหอะๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-07-2014 14:55:38
ชอบยูมาก ยิ่งตอนทำตัวเป็นผู้ใหญ่ มันน่าเอ็นดูมากๆ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 15-07-2014 16:03:45
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-07-2014 22:50:47
อ่านจบแล้ว อิอิ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 25-07-2014 16:43:22
เข้ามาบอกว่า ขอตอนพิเศษนะค้า
ชอบอินทัชมากๆเลย ขอขอบคุณผู้แต่ง
และผู้ลงให้อ่านมากๆเลยนะค้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 27-07-2014 13:38:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 27-07-2014 20:58:59
 :pig4: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-05-2015 13:13:51
เรื่องนี้ เจ้าเคนเป็นพระเอกสินะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 23-05-2015 23:46:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 24-05-2015 02:02:12
ชอบคุณตากับคุณแม่อ่ะ ลึกล้ำทั้งคู่
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านกันนะคะ
จะรออ่านเรื่องต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 26-05-2015 11:51:25
รู้สึกสงสารคุณตาแฮะ 55555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 12-11-2015 23:21:42
ขอบคุณค่ะ
เป็นเรื่องที่ดราม่าไม่หนักมากนะ  แต่เราร้องไห้ครึ่งเรื่องเลย 555
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 15-11-2015 20:48:27
ลุ้นแล้วลุ้นอีก5555555
รันน่ารักกก อยากได้ตอนพิเศษน้าใ :hao7:
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 16-11-2015 01:26:07
โถ ลูกหมาเคน บทน้อยจัง ยังอ่านไม่จุใจเลย // แอบงง ตกลงเรื่องจบยังไงเหรอคะ สองหนุ่มย้ายมาอยู่ Melbourne? ถ้าใช่ก็แอบเสียใจนิดๆ ทิ้งตาให้อยู่คนเดียว ทิ้งแม่ให้รับภาระบริษัทที่ไทยคนเดียว เหมือนที่คุณตาทำไปทั้งหมดเสียเปล่าเลย...
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-05-2017 11:52:36
กลับมาเสพดราม่าเบาๆ?
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-06-2023 08:17:53
กลับมาอ่านอีกรอบ ^^
หัวข้อ: Re: Touching You ~ลุ้นรัก คุณน้ากำมะลอ~ Story by kuruma&p.k.a (CH14 END 18/9/2011)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 06-03-2024 18:04:47
หมดเขตสมัคร  30  เมษายน  2567
ดีแทค  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  12 Mbps(เม็ก)  ราคา  193  บาท  นาน  7  วัน
*104*841*8488034#
เร็ว  12 Mbps(เม็ก)  ราคา  482  บาท  นาน  30  วัน
*104*842*8488034#
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=885661673572866&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo/?fbid=885661673572866&set=a.496909265781444)