^
^
^
จิ๊มตรู้ดคุณพี่รีบนทะลุไปทุกรีจนถีงตอนที่แล้ว สอยแล้วร้อยเป็นพวงเอาไปทิ้งน้ำ
เค้าล้อเล่ง
@ << รักแท้.....หรือแค่บำเรอ >> @ //// ตอนที่ 23 ...เชื่อใจ.... /// 26/01/2010
“เป็นอะไรวะแฮม นั่งมองต้นตีนเป็ดจนมันจะแยกเซลล์อยู่แล้ว”
“เปล่า มีอะไรวะ” ผมหันไปขานไอ้ดำที่เอาหนังสือมาเคาะหัวผม หลังจากที่กำลังนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ
“มึงเห็นไอ้น๊อตเปล่าวะ กูเห็นรถมันจอดอยู่แต่ไม่เห็นตัวมัน”
“ไม่เห็นนิ ไปขี้รึเปล่า ไปดูที่ห้องน้ำดิ” ว่าแต่ผมก็ยังไม่เห็นมันเหมือนกัน เพราะปกติมันต้องมานั่งเสนอหน้าอยู่แถวนี้แล้ว
“เรื่อง กูถามหามันเฉย ๆ ไม่ได้วอนท์ขนาดต้องตามไปดมขี้มันขนาดนั้นหรอก” ได้ไทพูดแล้วหยิบไอพอดมาเสียบหูแล้วโยกหัวตามเพลงที่มันฟัง ส่วนได้ไปส์อ่านหนังสือการ์ตูน เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับหลังจากกลับจากงาน ตื่นเช้าพี่เรก็ไม่อยู่แล้วเพราะต้องออกไปศาลแต่เช้า แล้วบ่าย ๆ ถึงจะเข้ามาโรงเรียน
“มาแล้วเว่ย!! มาแปลก ๆ มาด้วยกันได้ไงวะวันนี้แมร่งไต้ฝุ่นเข้าแน่ ๆ” ผมหันไปตามสายตาไอ้ไทที่มองข้ามไหล่ผมไป ภาพที่เห็นก็ทำให้ผมแปลกใจเหมือนกัน ไอ้น๊อตเดินคู่มากับพี่กร สาว ๆ งี้หันมองกันแบบโฉ่งฉ่างสุด ๆ จะว่าพี่กรตามมารังควาญมันก็เหมือนจะไม่ใช่เพราะเพื่อนผมก็ทำสีหน้าธรรมดา เหมือนเดินด้วยกันเป็นปกติ
“เฮียหวัดดีครับ วันนี้หลงกลุ่มรึเปล่าคร๊าบบบ” พวกผมยกมือไหว้พี่กร ไอ้ไปส์มันพูดเพราะไม่เห็นเพื่อนพี่แกซักคน
“เปล่า แต่กูจะอยู่กลุ่มนี้มีปัญหาเปล่าไอ้ตี๋”
“มะกล้าฮับ เฮียจะอยู่กลุ่มไหน ไปส์ มะกล้า” มันกล้าที่จะพูดกวนตีนพี่กรมาก และพี่กรไม่มีท่าทีจะเคืองอะไร แค่ยักไหล่เหมือนมันเป็นเรื่องชิลล์ ๆ ส่วนไอ้น๊อตตั้งแต่มานั่งก็นั่งค้นกระเป๋านักเรียนมัน เหมือนหาอะไร
“หาอะไรน๊อตกูเห็นมึงค้นตั้งแต่มาแล้ว”
“กูก็จัดกระเป๋ากูเฉย ๆ ไม่ได้ไง” ห๊า!! จัดกระเป๋า ทำไมมึงไม่จัดตั้งแต่อยู่บ้าน มันเงยหน้าขึ้นมาตอบผมก่อนจะก้มจัดอะไรของมันต่อ มาแปลก ๆ ผมหันไปมองเพื่อน ๆ คนอื่นที่กำลังมองมันอยู่เหมือนกัน มีเพียงพี่กรที่ยิ้มมุมปากน้อย ๆ ...วันนี้มันต้องมีอะไรแปลก ๆ แน่ ๆ
“รู้สึกปวดท้องว่ะ”
“กูคงเสกยาเข้าท้องมึงได้นะ หัดแดรกเองซะมั่ง” O_O ฮะ !!
“เอ่อ ก๊อ กู รำคาญมัน จะบ่นอะไรหนักหนา มันปวดท้องก็ให้มันไปกินยา พวกมึงมองอะไรกัน!” ผมกับไอ้สองเกลอหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก แปลกจริง ๆ เหมือนเค้ารู้อะไรกันที่พวกผมไม่รู้ หันไปมองพี่กร พี่แกก็ยักคิ้วให้แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ว่าไงไอ้จิ้งจก ว่าไงครับไอ้คุณน้อง ๆ” เสียงพี่บาสหนึ่งในกลุ่มเพื่อนพี่กรทักทาย หันไปก็เห็นกลุ่มพี่แกเดินมาพร้อมกับเพื่อนพี่กรที่เหลือ
“มึงรู้ไงได้ว่ามันเป็นจิ้งจก” พี่ในกลุ่มที่ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรหันไปถามพี่บาสหลังจากที่พากันมาแย่งนั่งโต๊ะจนตัวเบียดกัน....กระจายไปโต๊ะอื่นมั่งก็ได้คร๊าบบ
“ก็สีแม่งเริ่มซีด ๆ หงอ ๆไม่เข้มข้นเหมือนแต่ก่อน พวกมึงสังเกตดิ 5++” หัวเราะกันอย่างสนุกสนานรวมทั้งพวกผมด้วยยกเว้นแต่ไอ้คนที่นั่งก้มหน้าก้มตาเปลี่ยนจากค้นกระเป๋าเป็นเล่นเกมส์ในโทรศัพท์
“เย็ – แมร่ง ช่างน่าชัง สังเกตดีนัก เดี๋ยวกูก็เอานิ้วตีนสะกิดตามึงหรอกสัด” จะด้วยเขินหรืออะไร พี่กรก็พ่นคำสรรเสริญเพื่อน ๆ แต่ก็ไม่ยักกะโมโหแฮะ
หลังจากนั่งคุยสรรพเพเหระซักพักก็ถึงเวลาเข้าแถวเข้าเรียนตามปกติ ผมเดินลงมาที่ห้อง ผอ. เพราะพี่เรโทรให้ลงมาหา ผมเดินเข้าไปในห้องกระจกดำที่เคยเข้าไปแค่ไม่กี่ครั้ง ในห้องปิดม่านจนหมดทุกด้านแม้กระทั่งตรงประตู
“ล็อคห้องด้วยซิ” ผมหันรีหันขวางก่อนจะเดินไปล็อคประตูเลื่อนทั้งสองฝั่ง
“มานี่สิครับ” ผมเดินตามรอยยิ้มที่ส่งมาให้ แทบจะลอยได้ อยู่ด้วยกันทุกวันแต่ก็ไม่หายใจสั่น แขนแกร่งเอื้อมมาโอบเอวให้เข้าไปชิดเก้าอี้เก้าอี้ตัวใหญ่
“เอ่อ พี่เรเดี๋ยวก่อนครับ!!” ตกใจครับ ก็พี่เรเล่นดึงให้ผมนั่งตัก กลัวว่าเก้าอี้มันจะหักและกลัวคนเห็นด้วยถึงแม้จะปิดม่านแล้วก็เถอะ
“ทำไมอ่ะ ไม่เจอกันตั้งแต่เช้าแล้ว คิดถึง”
“อะไรอ่ะ ทีทุกวันไม่ได้เจอกันไม่เห็นเป็นไรเลย” ผมนั่งอยู่บนตักพี่เรบนเก้าอี้ มือต้องสอดเข้ากอดเอวหนา ๆ นั่นไว้เพราะกลัวจะล่วงจากที่นั่งอยู่
“ฟอด!! วันนี้เป็นไงมั่งครับทำไมหน้าซีด ๆ หือ จุ๊บ!” ผมต้องหันหน้าหนี การหอมการจุ๊บของพี่เร คนอะไรทำอะไม่เคยเกรงกลัวสถานที่เอาซะเลย
“พี่เร! เดี๋ยวใครก็เข้ามาเห็นนะครับ”
“ทำไมต้องกลัวล่ะ ประตูก็ปิดแล้ว” พูดไม่พอมือเริ่มเลื้อยเข้าไปในเสื้อผมหลังจากที่ดึงชายเสื้อออกมาจับมือไว้ไม่ทัน ....มือไวชะมัด
“พี่เรทานข้าวรึยังครับ” ผมต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับดันหน้าอกคนที่พยายามยื่นหน้าหน้ามานัวเนียกับซอกคอผม
“พี่ไม่หิวข้าว หืออ..” ทำเสียงซะขนลุก พูดแล้วซุกหน้าเข้ามาที่ซอกคอจนผมต้องแหงนหน้าขึ้น ปากหนาไล่ขึ้นมาจนถึงริมฝีปากผม ริมฝีปากร้อนบดเบียดลงมาเหมือนหิวกระหาย ถึงแม้ว่าไม่ได้มีอะไรกันตั้งแต่วันที่ไปทะเล เพราะผมรู้สึกยังเจ็บอยู่ ก็นอกจากที่หาดแล้วยังมาต่อที่ห้องขนาดของพี่เรมันใช่ย่อยที่ไหน แต่ไม่คิดว่าจะมาทำอะไรกันที่โรงเรียนแบบนี้หรอกนะ
“อื้อ อือ..” ผมต้องประท้วงเพราะเหมือนกับอากาศกำลังจะหมดไป มือกำเสื้อพี่เรแน่นไม่ได้คิดถึงว่ามันจะยู่ยี่ยังไง
“พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะครับ” เอ๊อ!! อย่าคิดว่าจะทำจริง ๆ หรอกนะ
“พี่เร บ้า! นี่ตั้งใจจะทำจริง ๆ เหรอ แฮมไม่เอาด้วยหรอกปล่อยได้แล้วจะไปเรียนต่อ” ผมแกะแขนที่โอบรอบเอวผมออก แต่มันแน่นยิ่งกว่าเดิมอีก
“ไม่ทำก็ได้ครับ ก็ชื่นใจนิดเดียวเอง” พี่เรพูดแล้วก้มมาหอมแก้มผมอีกรอบ พร้อมกับยิ้มที่ทะเล้นอย่างที่สุด ผมค้อนให้ก่อนจะฟาดไปที่แขนที่นึง
“เย็นนี้กลับบ้านพร้อมพี่นะ ไปรอที่รถนะครับรู้ไหม”
“ทำไมอ่ะครับ ไหนบอกว่าวันนี้จะไปธุระต่อดึก ๆ จะกลับ” เมื่อเช้าบอกว่าจะไปคุยกับลูกความเกี่ยวกับเรื่องคดีและบอกให้ลุงมารับแล้วด้วย
“ยกเลิกเป็นพรุ่งนี้อ่ะครับ มันดีมาก ๆ เลย วันนี้จะกลับบ้านเร็ว แล้วก็เข้าห้องเร็วด้วย” สายตากรุ้มกริ่มที่ส่งมาทำให้ผมต้องหลบสายตาและหยิกที่ต้นแขนแก้เขิน
“ผมจะไปเรียนแล้วครับ ปล่อยได้แล้ว” ผมแกะมือหนาออก คราวนี้ออกอย่างง่าย ๆ ผมรีบดีดตัวลุกขึ้นยืนแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะหันไปมองหน้าคนที่ตั้งหน้าตั้งตามองผมอยู่ มองไม่เท่าไหร่แต่สายตานี่มันทำให้ผมอาย
ตอนเย็นผมมารอพี่เรที่รถ โดยมีไอ้น๊อตเดินมาเป็นเพื่อนเพราะรถมันก็จอดอยู่แถวนี้ ไอ้สองเกลอนั่นกลับไปแล้วแต่คนที่ไม่กลับยังเดินตามผมกับไอ้น๊อตเป็นขี้ปลาทองคือพี่ กร
“น้องแฮมกลับ กับใครครับ” ผมหันหน้าไปมองหน้าไอ้น๊อตกับคำถามนี้ ผมเริ่มแน่ใจว่าไอ้น๊อตรู้เรื่องของผมเพราะมันไม่ถามและทำตัวได้ถูกเสมอเวลาผมต้องไปหาหรือมีธุระที่เกี่ยวกับพี่เร แต่คนที่ถามนี่สิจะตอบยังไงจะว่ากลับกับพี่เขยก็ใช่ที่เพราะตอนนี้พี่หมีกับพี่เรไม่ได้อยู่ด้วยกัน ซ้ำพี่หมียังอยู่กับพี่โน้ตอย่างออกหน้าออกตาแล้ว
“แล้วมึงจะถามมันทำไมล่ะ เสือก!!” เบาครับคุณเพื่อน เสียงดังจนคนหันมาดูกัน พวกมรึงยิ่งเด่นกันอยู่
“ก็ถามแค่นี้ผิดเหรอวะ แมร่ง หึงกูอ่ะดิ”
“ชั่ว!!”…. ฮึ ๆ แน่ ๆ เลย
“แฮมมึงรอคนเดียวได้นะ เดี๋ยวกูกลับก่อน แล้วมึงจะกลับยังไง” มันพูดกับผมก่อนจะหันไปหาพี่กรที่ยืนทำหน้ามึน ๆ อยู่ข้าง ๆ
“กูมากับมะ อุ๊บ!!” ??? อะไรของมันพี่กรยังพูดไม่จบมันรีบเอามือตะปปปากพี่แก ทำเอากระเป๋าล่วงลงพื้น
“......” แน่ะ มีกระซิบข้างหู ผมยืนมองเพื่อนตัวเองมีลับลมคมในพิกล พอมันกระทำการกัดหูพี่กรเสร็จ พี่แกก็ยิ้มแบบกวน ๆ ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายผมแล้วเดินไปหน้าโรงเรียน
“แล้วพี่กรไม่ได้เอารถมาเหรอ” ผมหันไปถามไอ้คนที่ยืนส่งยิ้มแหย ๆ ให้
“ไม่รู้มันดิ.. คงมีคนมารับมั้ง งั้นกูไปก่อนนะ รอได้เปล่า”
“อืม ได้ ซักพักคงมามึงไปเถอะ เดี๋ยวมีคนรอ”
“ใครรอ.. แฮม มึงอย่ามั่วสัด” 5+++ คิดว่ามีแต่มันที่รู้ผมเหรอ ผมดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอาจจะเป็นยังไง...ร้อนตัว...
หลังจากที่ไอ้น๊อตออกรถไปผมก็นั่งรอพี่เรเกือบ 20 นาที นักเรียนแทบจะไม่เหลือแถวนี้จะมีก็แต่ตรงสนามกีฬาซึ่งอยู่คนละฟากตึก
“รอนานไหมครับ” พี่เรพูดกับผมขณะที่กำลังถอยรถอยู่
“นิดหน่อยครับ” ผมตอบแล้วหันไปมองเสี้ยวหน้าสารถี ไม่น่าเชื่อว่าคน ๆ นี้จะเป็นของผม แล้วจะเป็นตลอดไปรึเปล่านะ พอถึงบ้านก็ต้องแปลกใจเมื่อมีรถจอดอยู่ก่อนแล้ว ผมกับพี่เรรีบเดินเข้าไปในบ้าน เพราะตัวพี่เรเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครจะมาหา
“ฟาง // พี่ฟาง” ผมกับพี่เรพูดพร้อมกันก็คนที่นั่งอยู่หันหน้ามายิ้มให้ ทำเอาผมใจกระตุกมาได้ยังไง ผมหันไปมองหน้าพี่เร แวบนึงแล้วหันกลับมามองพี่ฟางกับเพื่อนอีกคน
“พี่เรสวัสดีค่ะ หวัดดีค่ะน้องแฮมกลับบ้านช้าจังนะคะฟางมารอตั้งนานแน่ะ” พี่ฟางพูดแล้วเดินมาเกาะแขนพี่เร ทำไมดูสนิทสนมกันจัง และพี่เรก็ไม่มีท่าทางขัดขืนอะไรด้วย
“หมูแฮมจ๊ะยังไงวันนี้พี่ต้องขอตัวพี่ชายซักวันนะ อาบน้ำดื่มนมแล้วนอนนะเด็กดี ตกลงพี่เรไปเที่ยวกับฟางนะคะ” พี่ฟางพูดกับผมก่อนจะหันไปเกาะแขนพี่เรเขย่าอย่างออดอ้อน พี่เรหันมามองหน้าผม..ทำไม...ทำไมไม่ปฏิเสธไป วันนี้พี่เรจะอยู่กับผมนี่นา ทำไมไม่แสดงอะไรออกมาที่ทำให้คนอื่นรู้สึกยังไงกันแน่ สิ่งที่พี่เรแสดงออกมาทำให้ผมใจไม่ดี ไม่มีปฏิกริยาอะไรตอบสนองทั้งคำถามที่ออกจากแววตาผม และการออดอ้อนของพี่ฟาง
“งั้นแฮมขึ้นห้องก่อนนะครับ ตามสบายครับ” ผมทนความอึดอัดตรงนั้นไม่ไหวแล้ว คิดอะไรไปต่าง ๆ นานา แล้วน้ำตามันพาลจะไหล
“ไปครับ ฟาง” ......น้ำตาผมหยดแหมะลงทันทีที่ได้ยิน นี่มันอะไรกันแล้วก่อนหน้านั้นที่บอกว่าคิดถึงและจะอยู่ด้วยกันคืออะไร
“อุ๊ยพี่เรจะไปตอนนี้เลยเหรอคะ” ผมรีบก้าวขาต่อไม่อยากได้ยินอะไรอีกแล้ว
“เดี๋ยวครับหมูแฮม ลงมาหาพี่สิไปด้วยกันนะ” ผมหยุดยืนอยู่ตรงขั้นบันได รีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา
“แฮมไม่ไปหรอกครับ พี่เรไปเถอะเที่ยวให้สนุกนะ” ผมหันไปมองและฝืนยิ้มให้คนสามคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเตรียมตัวออกไป ผมหันกลับทันทีจะก้าวต่อแม้ขามันจะก้าวไม่ออกก็ตาม
“ใครว่าพี่จะไปเที่ยวล่ะ” ผมชะงักทันที แล้วหันไปมองพี่เรที่ตอนนี้เดินเข้ามายืนหน้าบันได พี่ฟางและเพื่อนกำลังทำหน้างงสุดขีดอยู่เหมือนกัน ผมมองหน้าพี่เรที่เดินขึ้นมาจูงมือผมให้เดินลงบันไดด้วยกัน
“พี่จะไปส่งฟางกับเพื่อนที่รถน่ะ พี่คงไปเที่ยวด้วยไม่ได้นะเพราะพี่จะอยู่กับแฟนพี่ นี่หมูแฮม ไม่ใช่น้องชายแต่เป็นคนที่พี่รัก พี่รู้ว่าฟางรู้อย่ามาฝืนกันดีกว่า ยังไงก็อย่ามายุ่งกับเราเลยนะ”
“อ่ะ พี่เร กะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!! ไอ้พวกบ้า ทำไม เด็กคนนี้มันดีกว่าฟางตรงไหน อุตส่าห์เสนอตัวถึงบ้านขนาดนี้แท้ ๆ !! แอร๊ยยยย”
“หยุดนะ!! อย่ามาทำกริยาอย่างนี้ในบ้านผม ผมไม่รู้หรอกนะว่าหมูแฮมน่ะดีกว่าคุณตรงไหน เพราะผมยังไม่เคยเห็นความดีของคุณ ผมรู้แต่ว่าหมูแฮมดีทุกอย่างสำหรับผม และที่สำคัญเขาเป็นคนที่ผมรัก พอใจรึยังแล้วก็ออกไปได้แล้ว ไม่งั้นผมจะโทรเรียกตำรวจ” ทุกคำพูดเสียดแทงเข้าโสตประสาท ผมเงยหน้ามองคนที่โอบกอดและจับมือ สีหน้าจริงจังกับคำพูดที่พูดออกมาอย่างมั่นใจมันกำลังเสียดแทงใจผม จนน้ำตาไหล
“กรี๊ดดดดดดดดด ฮื่อ ๆๆ ไอ้พวกวิปริต วิตถาร เจนนี่กลับ” พี่ฟางกรีดร้องก่อนจะกระทืบออกไป พี่เรหันมามองหน้าผม ผมรีบก้มหน้าเพราะตอนนี้น้ำตาผมกำลังไหลออกมา
“ร้องไห้ทำไมครับ ฮึ ไหนบอกพี่ซิ” พี่เรก้มลงมาจูบที่ขมับพร้อมกับมือที่ปาดน้ำตาที่แก้ม มันกลับทำให้ผมยิ่งสะอื้นฮักเข้าไปใหญ่ ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิด
“ฮือ ก็ แฮม คิด ฮึก ว่า พี่เรจะไป ฮือ เที่ยวกับ พี่ฟาง ฮือ” ผมไม่รู้พี่เรจะฟังผมรู้เรื่องรึเปล่าเพราะยิ่งพูดก็ยิ่งร้อง ผมก็ไม่รู้ว่าจะร้องทำไม พี่เรพาผมเดินขึ้นห้องเพราะผมเริ่มงอแงหนักปลอบไม่หยุด ก็มันอยากร้อง... เพราะอะไร โล่งอก..ตื้นตัน..
“หึ หึ เด็กโง่ พี่จะไปกับคนอื่นทำไม พี่บอกแล้วไงว่าจะอยู่กับหมูแฮม นี่หมูแฮมยังไม่เชื่อใจพี่เหรอครับ” ตอนนี้พี่เรนอนตะแคงกอดผมอยู่บนเตียง มือลูบปรอยผมที่หน้าออกจากน้ำตาที่ชื้นแฉะ
“ก็ พี่เรไม่เห็น ฮึก ปฏิเสธพี่ฟางนี่ครับ ฮึก” ผมหยุดร้องแล้วแต่ก็ยังสะอื้นอยู่
“ทำไมละครับ ก็พี่ไม่ได้คิดอะไรนี่นา เขาอยากทำอะไรก็เรื่องของเขา พี่ไม่ได้เออออกับเค้าซักหน่อย พี่รักหมูแฮมนะ รอมาตั้งนาน พี่ยังจะมีที่ว่างให้ใครได้อีกล่ะ.. หมูแฮมต้องเชื่อใจพี่นะ ที่ผ่านมาให้มันผ่านไปไม่ว่าเรื่องอะไรทั้งที่หมูแฮมรู้และไม่รู้ อยู่กับปัจจุบันและใช้ความสุขตรงนี้ให้ดีที่สุด สัญญานะครับต่อไปอย่าคิดเอง มีอะไรให้ถาม โอเคไหม เด็กน้อย”
ผมหันไปมองหน้าผู้ชายที่ตะแคงข้างมองผมอยู่เหมือนกันโครงหน้าหล่อเหลา บ่ากว้าง และแขนแกร่งที่โอบกอดผมอยู่ ผมไม่ลังเลเลยที่จะเชื่อ ทำไมล่ะในเมื่อมาถึงขั้นนี้ ผมจะลังเลอะไรอีก ในเมื่อตอนนี้ความสุขมันมากอดกองอยู่รอบตัวผมเต็มไปหมด ตราบใดที่พี่เรยังบอกว่ารักผมและอยู่กับผมตรงนี้ มันดูเหมือนว่าอะไรก็จะดีไปหมด..
“ไม่เด็กซักหน่อย” พูดแล้วย่นจมูกให้คนที่กำลังใช้มือลูบแก้มผมอยู่
“งั้นต้องลอง ฮ่า ๆๆ”