ถึงทีนายอัศวิน 2 โดย mam“น้องอัศครับ แค่พี่มากินข้าวด้วยถึงกับดีใจจนพูดอะไรไม่ออกเชียวหรือครับ?”
ดีใจกะผีน่ะสิ!~ เซ็งชีวิตจนพูดอะไรไม่ออกต่างหากเฟ้ย
“…….” ยิ้มทำไมฟะ บ้าเปล่า!!~
“น้องอัศเป็นคนที่ดูง่ายดีนะครับ คิดอะไรก็ออกทางสีหน้าหมด”
เฮ้ย!! ดูรู้ขนาดนั้นเชียะ!!?
“……..”
แล้วจะเงียบทำไมเนี่ย กลัวนะ!~
“น้องอัศครับ…. ที่พี่เคยบอกว่าชอบน้องอัศน่ะ พี่จริงจังนะ พี่ไม่ได้หวังว่าน้องอัศจะต้องตอบพี่ในทันทีทันใด พี่พร้อมจะรอจะให้เวลาน้องอัศได้ตัดสินใจแม้นานกี่ปีก็ช่าง ขอเพียงให้น้องอัศรู้ไว้ว่าในกลุ่มคนรอบตัวน้องอัศยังมีพี่อีกคนที่รักน้องอัศอยู่เสมอ”
“ผมเป็นผู้ชาย”
“พี่รู้ครับ พี่ก็เป็นผู้ชาย”
“ผมไม่ใช่ตุ๊ดใช่เกย์นะ”
“พี่ก็ไม่ได้บังคับให้น้องอัศเป็นนี่ครับ”
“แล้วพี่จะให้ผมเป็นแฟนพี่ได้ไง!~”
“พี่กำลังบอกว่าพี่จริงจังกับความรู้สึกชอบน้องอัศต่างหากครับ”
โอ้ย!~ เล่นเกมส์ถามตอบกันอยู่รึไงฟะ!!! ยังจะมายิ้มอีก!
“น้องอัศไม่ต้องรีบร้อนไปหรอกครับ ปล่อยให้เวลาพาเราผ่านไปเถอะ ค่อย ๆ ทำความรู้จักกันไป ค่อย ๆ คุ้นเคยกัน ค่อย ๆ เข้าใจกัน เพราะพี่จริงจังกับความรู้สึกนี้พี่ถึงอยากใช้เวลาให้มากเท่ากับความรู้สึกของพี่ นะครับ…”
ยังมานะค๊งนะครับอีก ฟังไม่รู้เรื่องว๊อย~
“ผมไม่ใช้เวลาทำอะไรทั้งนั้นแหละ!!! เลิกยุ่งกับผมได้แล้ว!!” ผมเดินหนีเข้าห้องมาเจอเอเลี่ยนกำลังน้ำลายยืดอยู่พอดี เข้าบรรยากาศเหลือเกินนะ ข้างนอกมีอีกตัวกำลังจ้องจะกินฉันอยู่เฟ้ย!~
พอกลับมานั่งคิดดี ๆ แล้ว… ความจริงผมก็ทำตัวไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก พี่เขาก็ไม่ได้บังคับให้ผมเป็นแฟนเขาซักหน่อย
จริง ๆ ผมก็ไม่ได้รังเกียจพี่ศรหรอกนะแต่… ผมรู้สึกว่าผมอยากจะเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ คนนึง อยากมีแฟนเป็นผู้หญิงอยากมีครอบครัวอบอุ่น อาจเป็นเพราะพี่ผมเกย์เพื่อนผมก็เป็นเกย์ ชีวิตของคนเป็นเกย์มักจะไม่ค่อยมีความสุขนัก แต่ผมอยากมีความสุขนี่นา…
แต่ว่าถ้าพี่เขารู้สึกจริงจังกับผมจริง ๆ เขาจะเสียใจกับสิ่งที่ผมพูดไปแค่ไหน ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของเขานะ
ผมค่อย ๆ เปิดประตูออกไปดูหน้าแขก เห็นกำลังยืนล้างจานอยู่สีหน้าเศร้า ๆ
“…คือ….” ก็ยังไม่หันมา โกรธจริง ๆ เหรอ….
“..คือ… ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นกับพี่นะ คือ…ผมแค่…ผมแค่อยากเป็นผู้ชายปกติ..”
“….ครับ…พี่เข้าใจ…”
เข้าใจแล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า!~
“….คือ…จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้รังเกียจพี่หรอกนะ แต่ผม…ผม…ผมไม่เคยคิดเรื่องชอบผู้ชาย…ในตอนนี้…”
“………”
ฮ่วย!~ จะเอายังไงฟะ!!!
“…ผมขอโทษ!~ ขอเวลาให้ผมหน่อยนะครับ!”
ในที่สุดไอ้พี่ศรบ้านั่นก็หันมา…ด้วยสีหน้าที่ผมอยากจะเข้าไปชกให้คว่ำ ยิ้มกว้างจะถึงหูอยู่แล้ว!
“พี่ให้เวลาน้องอัศได้เสมอครับ เห็นทีพี่จะต้องขอตัวกลับห้องซักที ดูหนังให้สนุกนะครับ”
หนอย!~ สีหน้าระริกระรี้กลับไปเชียวนะ หลวมตัวพูดไปได้ไงฟะ โธ่ว๊อย~…. พลาดตกหลุมไปจนได้!!~
“โอย…..” ทุกท่านครับ….ไอ้ไวจะฆ่าผม…. มันเล่นบอลภาษาอะไรฟะ!!~ กระแทกทีผมหัวทิ่มลงมาจูบพื้นฟอดใหญ่ตัวมันก็ควายเรียกพี่อย่างนั้นยังมากระแทกหนุ่มบอบบางอย่างผมแรงขนาดนี้ มันเป็นตัวยิงแล้วดันมายุ่งอะไรกับตัวจ่ายลูกอย่างผ๊ม!!~ ผมไปทำอะไรให้ม๊านนน!!~ แค่เผลอไปโอบน้องเฉื่อยหน่อยเดียวเล่นงี้เรอะ!!!
“เฮ้ย!~ ตายยังวะ?”
“คำถามมึงสร้างสรรค์มากเลยไอ้ไว”
“แหม…. น้องอัศก็ พี่ไวไม่ได้ตั้งใจนี่ฮ้า~….”
ไอ้ตอแหล!~….
“ลุกไหวเปล่าวะ?”
ขอบใจที่มีน้ำใจนะไอ้กิต
“ถ้าลุกไม่ไหวก็ลุกเองเหอะ พวกกูจะเล่นบอลกันต่อมึงหอบสังขารตัวเองไปห้องพยาบาลเองก็แล้วกัน”
อ้าว!~ ไอ้เพื่อนหมา ๆ นี่ อุตส่าห์ดีใจที่มึงมีน้ำใจ
“เฮ้ย!!~ ไอ้ไว ไอ้กิต ไอ้อัศ ‘จารย์ชุมพลเรียกว่ะ… อ้าว~….แล้วนั่นไอ้หมาอัศเป็นอะไรวะ?”
“เป็นบิดาน้องสาวมึงมั้ง…. พวกมึงช่วยกูหน่อยสิวะ เสือกยืนมองกันเฉย ๆ”
“มือกูไม่ว่าง”
ดันตอบเหมือนกันหมดด้วยนะ ทำแป๊ะอะไรอยู่ฟะ!~
“ให้พี่ช่วยมั้ย?” เสียงเขย่าขวัญสั่นประสาทดังขึ้นตรงหัว เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นหน้าผียืนยิ้มเผล่อยู่บนหัว
“ไม่ต้อง!!!”
“ดีเลยครับพี่ พวกผมต้องไปพบอาจารย์พอดี ฝากพี่หิ้วมันไปส่งห้องพยาบาลหน่อยนะ”
ไอ้ไว๊!!!!!~ เดี๋ยวเด้!!! จะไปไหนกันวะ!!!?
“เจ็บมากเหรอครับ?”
มากก็ไม่ตอบเฟ้ย!~ เชอะ
“เฮ้ย!!!!~” อยู่ ๆ ไอ้พี่ศรก็อุ้มผมตัวลอย ทำไมแรงเยอะขนาดนี้ฟะ!?~ ผมว่าผมตัวหนักขนาดไอ้ไวกับไอ้กิตไม่อยากประคองแล้วนะ
“ปล่อยผมลงนะ!~ ผมเดินเองได้!!”
“พี่ว่าไม่ได้มั้งครับ ถ้าไม่อย่างนั้นเมื่อกี้น้องอัศคงลุกเดินไปเองแล้วล่ะ”
ไอ้พี่บ้านี่ยังอุ้มผมเดินดุ่ย ๆ ไปห้องพยาบาลหน้าตาเฉย
“…………” เถียงสู้ไม่ได้ครับ ไม่ใช่อะไรหรอก มันเจ็บจริง…. น้ำตาจะร่วงอยู่แล้ว
“..ซ้น..” คำนิยามข้อเท้าผมที่อาจารย์ห้องพยาบาลกล่าวให้เป็นขวัญกำลังใจแก่ผมคำเดียวทำเอาผมเซ็งชีวิต ข้อเท้าซ้นแล้วจะเล่นบอลยังไงฟะ!?
“ทายาไว้อย่าเพิ่งลุกไปเล่นบอลล่ะ” อาจารย์โยนบาล์มให้ผมหลอดเบ้อเริ่มก่อนจะเดินหนีไปอย่างเบื่อหน้าผมเต็มทน
อาจารย์อย่าเพิ่งไปดิ่~ กลับมาก๊อนนนนนนนนน!~
อยู่ ๆ ไอ้พี่ศรก็เอาบาล์มมาทาข้อเท้าผมแถมไปหยิบผ้ายางมาพันขาให้เสร็จสรรพ อะไรฟะเนี่ย!?~ เป็นบุรุษพยาบาลได้ด้วยเรอะ?
“เอาล่ะเดี๋ยวพี่จะพาน้องอัศกลับห้องนะครับ เลิกเรียนเราค่อยไปหาหมอกันอีกที”
เอ่อ… ฮัลโหล ๆ โทษนะครับนี่เขาคิดว่าผมเป็นอะไรครับ หิ้วผมไปมาอย่างกับผมเป็นตุ๊กตางั้นแหล่ะ ปล่อยนะว๊อย!~
คนเราทุกคนต่างมีบุคลิกต่างกันออกไปเป็นแบบของตัวเอง และมีอีกจุดหนึ่งที่แทบจะต่างกับเวลาปกติโดยสิ้นเชิงอยู่ในตัว อย่างรอบ ๆ ตัวผมก็เช่นกัน
ไอ้ไว…. มันเป็นคนที่ดูเหมือนจะเรื่อย ๆ กับชีวิต แต่กลับจริงจังกับความรักที่มีให้น้องเฉื่อยจนผมไม่อยากเชื่อว่าเพื่อนผมจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เพราะเด็กผู้ชายเป๋อ ๆ คนเดียว
ไอ้กิต…. มันเป็นคนที่มุ่งมั่นในการใช้ชีวิต เวลาทุกนาทีที่จะผ่านไปต้องมีจุดหมาย แต่กับเวลาที่ให้น้องเอ๋อมันกลับมองแต่ละวินาทีอย่างเรื่อย ๆ และเต็มไปด้วยความสุข
แต่ผมล่ะ?…… ผมไม่รู้เลยว่าผมเป็นคนยังไง…. ผมไม่รู้ว่าเวลาที่ผมทุ่มเทอะไรเพื่อใครซักคนจะเป็นยังไง…. แต่สิ่งเดียวที่ผมรู้คือผมมีความสุขกับลูกยางกลม ๆ ที่เรียกว่าฟุตบอล
เวลาที่อยู่กลางสนามหญ้าสีเขียวนั่นมันเป็นเวลาเดียวที่ผมจะอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นเวลาเดียวที่ผมจะกำหนดสิ่งใด ๆ ก็ตามให้มันเป็นได้อย่างใจ ลูกกลมสีขาวดำนั่นจะกลิ้งไปในทิศทางที่ผมคิดเสมอและเพื่อน ๆ ก็จะวิ่งไปในทิศทางที่ผมบอกเช่นกัน เมื่อไหร่ที่ไอ้ไวและไอ้กิตยิงประตูได้มันเหมือนกับว่าเป็นความสำเร็จของผมด้วยเหมือนกัน
แต่เวลานี้สิ่งที่ผมทำได้กลับเป็นแค่การนั่งมองเพื่อน ๆ วิ่งอยู่ในสนามหญ้า เฮ่อ~…. น่าเบื่อเป็นบ้าเลย… ผมเอนหลังลงนอนกับพื้นหญ้าข้างสนามบอลมองท้องฟ้าที่มีเมฆลอยไปมาชวนให้ง่วง
“ฟ้าสวยนะครับ”
บอกผมทีสิว่าผมหูเพี้ยนไป หรือไม่ผมก็เสียสติไปแล้วที่ได้ยินเสียงนี้
“น้องอัศรู้มั้ยครับว่าทำไมเราถึงได้เห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้า?”
ไม่อยากรู้เฟ้ย จะฟ้าจะเขียวก็เรื่องของมันดิ
“ที่เราเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเพราะมันเกิดการกระเจิงของแสงนะครับ แสงอาทิตย์ที่เป็นสีขาวจะเคลื่อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศที่มีโมเลกุลของก๊าซต่าง ๆ และเพราะขนาดของโมเลกุลในอากาศมีค่าน้อยกว่าความยาวของคลื่นแสงอาทิตย์จึงเกิดการกระเจิงของแสงไงครับ ตาของคนเรามีความไวกว่าแสงในแสงสีฟ้ามากกว่าสีอื่นเราจึงมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้ายังไงล่ะครับ”
จะมาสอนวิชาวิทยาศาสตร์อะไรตอนนี้ฟะ
“ท้องฟ้ามันก็สีฟ้านั่นแหละ ไม่อย่างนั้นมันจะเรียกท้องฟ้าได้ยังไง หรือว่าพี่มองฟ้าเป็นสีอื่น”
“ก็อาจจะเป็นได้ครับ เพราะตอนนี้พี่มองอะไรเป็นสีชมพูไปหมดเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้องอัศรึเปล่า”
พูดบ้าอะไรฟะ!!!
“ไอ้อัศโว้ย!~ เอ้า! กาแฟของมึง” ไอ้โอ๋มาได้จังหวะ เอากาแฟที่ผมฝากซื้อมาให้พอดี
“น้องอัศชอบดื่มกาแฟหรือครับ?”
“…ผมกินทุกอย่างแหละ จะกาแฟ โอวัลติน”
“มันชอบกาแฟเย็นพี่ มันฝากผมซื้อทุกวันแหละ”
อ้าว~ ไอ้โอ๋ ไอ้ปากหมา รีบ ๆ ไปเลยนะมึง แล้วนั่นยิ้มทำไมอีกล่ะ อย่ายิ้มดิ กลัวนะเฟ้ย
“พี่ยิ้มทำไม?”
“พี่นึกถึงสิ่งที่เพื่อน ๆ พูดให้ฟัง”
“?”
“เพื่อน ๆ พี่เคยพูดว่า เราสามารถเปรียบคนรักของเราได้เหมือนกาแฟ”
หา?…
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ เขาพูดกันมา พักหลัง ๆ นี่พี่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันจริง”
เฮ้ย!~ มาแย่งดูดกาแฟไปหน้าตาเฉยได้ไงฟะ!!
“น้องอัศชอบกาแฟหวานนะครับ พี่ชอบกาแฟที่ใส่ครีมเยอะรสจะออกมัน ๆ มากว่า รู้ไหมครับว่าเพื่อน ๆ พี่บอกว่ายังไง?”
จะไปรู้เรอะ
“เขาบอกว่าใครที่ชอบกาแฟหวาน ๆ ก็แสดงว่าเป็นคนที่มักจะมีคนรักเป็นคนที่โรแมนติก อ่อนโยน ส่วนคนที่ชอบกาแฟที่รสออกมันหรือขมแสดงว่าเป็นคนที่มักจะมีคนรักที่เป็นคนมีเสน่ห์ ชอบการผจญภัย ตื่นเต้นกับชีวิต พี่ว่ามันก็จริงนะ”
อะไรจริงฟะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย เลอะเทอะใหญ่แล้วนายคนนี้ นี่ถ้าไม่ติดว่าขาเดินไม่สะดวกจะลุกหนีแล้วเชียว
แบบว่าจะไปเพิ่มชื่อเรื่องด้วยอ่ะ
แต่มันเพิ่มไม่ได้ มันฟ้องว่าเกิน20000 ตัวอักษรง่า ใครช่วยแก้ให้นู๋ที พี่เรย์ก็ได้แก้ให้เค้าทีจิ