มาแล้วค่ะ แอบเขียนนาน แหะๆๆ
ขอบคุณที่รอ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ
...............................................................
ตอนที่ ๑๒ ‘ผมอยากได้รูปดอกเสี้ยว’
Sent: Monday, December 30, 2002 5:15:18 PM
To: เพชร (infinite_Cอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com)
ผมอยากได้รูปดอกเสี้ยว
แค่นี้!! ต่อให้พยายามเลื่อนลงจนสุดขอบล่างและกวาดตาหาตัวอักษรอื่นเผื่อจะหลงหูหลงตา แถมด้วยการลากเมาส์คลุมดำมันทั้งจอเผื่อว่าเจ้าของข้อความจะเลือกใช้สีอ่อนจนมองลำบาก ก็ยังเห็นข้อความจากคนที่ทิ้งให้รอนานเป็นเดือนจนเกือบจะหมดหวังเสียแล้วเพียงประโยคเดียว......ประโยคลอยๆ แถมไม่ยอมลงชื่ออีกต่างหาก “หึๆ เอาแต่ใจกว่าที่คิดแฮะ....”
และทั้งๆที่หลุดปากเบาๆออกมาแบบนั้นแต่นายแพทย์วัชระก็รู้สึกได้ชัดเจนเชียวว่า จังหวะหายใจของตัวเองกำลังถี่รัวกว่าปกติ.....
อันที่จริงอาการตื่นเต้นจนหัวใจเหมือนจะกระดอนอยู่ในอกมันเริ่มตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำ เปิดเครื่อง และเห็นข้อความเตือนว่ามีเมล์ใหม่มาในอีเมล์ที่ใช้ติดต่อเฉพาะเรื่องส่วนตัวแล้ว ยิ่งเห็นแอดเดรสว่า ‘tillthedawn’ ก็ราวกับตะเกียงในใจที่หรี่ๆจนน่ากลัวจะดับมันกลับลุกโชติช่วงเป็นไฟจากเตาผัดผักบุ้งไฟแดงเสียอย่างนั้น
ชายหนุ่มเลื่อนสายตาดูเวลาที่ข้อความถูกส่งมาแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวเหยียดเพราะตอนนี้ผ่านมาเกือบสามชั่วโมงแล้ว จากที่กำลังจะตอบโต้กลับไปทันที คนที่ต้องคอยมา ๒๙ วัน กับอีกเฉียด ๗ ชั่วโมง จึงเปลี่ยนใจไปเปิดแฟ้มรูปภาพที่คัดเอาไว้เฉพาะขึ้นมาก่อน
ปลายนิ้วที่ประกอบไปด้วยเล็บเจียนเรียบเป็นระเบียบสะอาดตาค่อยกดเลื่อนให้รูปภาพเปลี่ยนผ่านไปอย่างเชื่องช้า ในขณะที่สายตาที่ตอนนี้เปลี่ยนจากคอนแทคเลนส์มาอยู่หลังแว่นไร้กรอบส่งประกายวาวหวานแบบไม่ต้องหลบซ่อน จับจ้องไปยังเจ้าของข้อความสั้นแสนสั้นในอิริยาบถต่างๆที่แอบถ่ายเอาไว้ตั้งแต่วันนั้น......
เล่นทีเผลอกดชัตเตอร์จับภาพตั้งแต่คนในภาพทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าริมธารน้ำ กดอีกครั้งตอนเจ้าตัวก้มเอามือจุ่มลงไปในน้ำเหมือนจะราน้ำเล่นแบบเด็กน้อย....นึกถึงทีท่าสะดุ้งน้อยๆแล้วสะบัดมือเพราะความเย็นจัด ยิ่งทำให้รอยแย้มที่ริมฝีปากบางจัดของคนมองกว้างขึ้นอีก
ภาพต่อมาระยะใกล้เข้าไปหน่อยเพราะคนถ่ายอดใจเฝ้ามองแต่ท่าทางไกลๆไม่ไหว เลยปรับเลนส์ซูมจับไปที่สีหน้าของเด็กซนที่หนีมาเล่นน้ำตกคนเดียว เลยได้สีหน้าเหวอๆที่เจ้าตัวเขากำลังห่อปากก้มหน้าเป่าที่ปลายนิ้วตัวเองอย่างกับทำแบบนั้นแล้วจะช่วยไล่ความเย็นจากน้ำตกหน้าหนาวออกไปได้
ตอนนั้นวัชระกำลังจะก้าวเข้าไปหา แล้วถึงได้เห็นว่าคนทำท่าเป็นเด็กๆนั่นไม่ได้ตั้งใจแค่จะแกว่งมือเล่นน้ำเฉยๆ แต่ภาพเด็กหนุ่มที่เผยรอยยิ้มน้อยๆ เปลือกตาหรุบต่ำจนแม้จะอยู่หลังผิวเลนส์ก็ยังเห็นเงาจากขนตาที่ทั้งยาวทั้งหนาทาบลงบนผิวแก้ม สองมือช้อนเอาดอกไม้กลีบขาวที่ลอยมาตามกระแสน้ำแล้วยกขึ้นสูดกลิ่นห่างๆเหมือนไม่แน่ใจ จากนั้นขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะก้มลงไปจนปลายจมูกแหลมๆแทบจะแตะกับดอกไม้ในมือแล้วสูดหายใจเข้าเต็มที่อีกครั้ง
.......อยากได้รูปดอกเสี้ยว.......
.......แล้วถ้าพี่ส่งรูปนี้ไป.....ดอว์นจะว่ายังไงครับ? เมื่อตัดใจปิดโฟล์เดอร์ที่มีภาพไม่ถึงสิบภาพในแล็ปท็อปส่วนตัว นายแพทย์วัชระก็ออกจะรำคาญตัวเองเล็กน้อยที่เผลอเปิดโฟล์เดอร์นี้ทีไรเป็นอันต้องเสียเวลาไปไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงทุกที ดูจนจำได้ทุกรายละเอียดแล้วแต่ก็ยังห้ามตัวเองไม่ได้
เปิดแฟ้มภาพข้างๆกันแล้วเลือกภาพดอกไม้กลีบขาวทั้งแบบดอกเดี่ยว แบบที่อยู่รวมกันหนาแน่นบนต้น และแบบที่เห็นทั้งบนต้นและที่ร่วงลงมาทำให้พื้นดินแต้มไปด้วยสีขาวอมชมพูแล้วเปิดหน้าเมล์อีกครั้ง
ระหว่างที่โหลดภาพเพื่อส่งไปให้คนเอาแต่ใจตามความคิด ชายหนุ่มก็เริ่มเขียนข้อความแนบไปด้วย......
‘รอจนเกือบจะถอดใจเสียแล้ว ภาพที่ดอว์นบอกว่าอยากได้ผมส่งให้ไปแค่นั้นก่อน ที่จริงยังมีสวยๆอีกหลายภาพ อยากได้อีกก็บอกมานะครับ ว่าแต่...ตั้งแต่เจอกันวันนั้นคุณเป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ทำไมถึงหายไปเลย....’
พิมพ์มาถึงตรงนี้คุณหมอเพชรผู้ที่ที่แท้แล้วก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าเพชรก็กดลบจนหมดแล้วเริ่มใหม่
‘ผมส่งภาพมาให้แล้วนะครับ ที่จริงยังมีสวยๆอีกเยอะเลย นอกจากดอกเสี้ยวก็ยังมีเอื้องเทียนสีขาวที่กลิ่นหอมๆนั่นด้วย อยากได้รึเปล่าครับ.....ถ้ายังไงติดต่อกลับมานะ นี่เบอร์โทรผม 081-.........’
แล้วข้อความนี้ก็ถูกเจ้าของกำจัดทิ้งไปอีก
สุดท้ายเมื่อมองนาฬิกาที่มุมขวาล่างของหน้าจอเห็นว่าใกล้จะหมดวันเข้าไปทุกที คุณหมอที่มัวแต่คิดวกไปเวียนมาเลยพิมพ์ข้อความไปแค่สั้นๆ แล้วจึงกดส่งทันทีโดยไม่ยอมเสียเวลาทวนอีก
‘คุณไม่ได้ตอบคำถามผม ถ้าไม่ตอบ ผมจะถือว่าคุณรู้สึกเหมือนผมนะดอว์น....
ผมคิดถึงคุณ
เพชร
....นี่เบอร์โทรผม 081-xxxxxxx เผื่อฉุกเฉินนะครับ’
“แวะร้านเน็ตสองวันซ้อนเลยเหรอวะ ทำไรนักหนาเนี่ย” คุณก่อยังคงสม่ำเสมอบริหารปากได้ตลอดเวลาเหมือนเคย เมื่อเห็นว่าแทนที่พี่ดอนจะเลี้ยวไปทางทิศของบ้านเช่าพร้อมกันไอ้เพื่อนแว่นหัวสีน้ำตาลมันกลับชะงักแล้วบอกลอยๆว่าจะไปร้านเน็ต หลังจากที่วันนี้เป็นวันสิ้นปีเลยได้หยุด แล้วทั้งสี่คนเลยตัดสินใจหุ้นกันซื้อถังสังฆทานไปตระเวนทำบุญที่วัดในอำเภอใกล้ๆกันตั้งแต่ช่วงสาย
ตอนแรกกะว่าจะไปให้ครบเก้าวัด แต่ด้วยความที่แต่ละคนพอได้ลงจากรถก็เอ้อระเหยลอยชาย แถมขับรถหวานเย็นกันมาก จนบ่ายคล้อยอากาศเริ่มเย็นเลยตัดสินใจถวายถังที่วัดสุดท้ายไปห้าถังเท่าจำนวนพระภิกษุในวัดพอดี สรุปว่าใช้เวลาทั้งวันสี่คนไปได้รวมห้าวัด
“........ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เปลี่ยนชุดวิ่งรอได้เลย...” และนายอรุณรุ่งเองก็สม่ำเสมอไม่ต่างกัน ขยับปากเหมือนกับจะตอบแต่กลับทำแค่ส่งยิ้มน้อยๆให้คุณเพื่อนทั้งสามแค่นั้น แล้วกลับพูดไปอีกเรื่องเท้าก็ก้าวแยกไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้ไอ้พวกขี้อยากรู้เรื่องชาวบ้านมันยิงคำถามได้อีก
ได้เครื่องว่างปุ๊บอรุณรุ่งก็เปิดหน้าฮอทเมล์ทันทีทั้งๆที่คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะยังไม่ตอบกลับมา เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะมานั่งเช็คเมล์ทุกวัน แถมตอนที่ตัดสินใจติดต่อกลับไปนั่นก็คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าจะส่งข้อความไปว่ายังไงดี เลยส่งไปขอรูปซะอย่างนั้น......
อันที่จริงไอ้ที่คิดว่าไม่รู้จะส่งข้อความว่าอะไรนั่นก็แค่ข้ออ้าง จริงๆแล้วที่หลังจากคิดจะติดต่อกลับไปแล้วก็วุ่นวายใจทั้งวันว่าจะส่งข้อความไปว่าอะไร ลึกๆในใจของชายหนุ่มก็เกิดกลัวขึ้นมา ว่าหลังจากทิ้งเวลาไว้นานขนาดนี้ กับคนแปลกหน้าที่ได้คุยกันไม่กี่ประโยค เดินร่วมทางกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง......เพชร...อาจจะลืมกันไปแล้วก็ได้
ชื่อแอดเดรสที่เห็นทำให้ต้องส่ายหน้าน้อยๆไปพร้อมกับหัวใจที่โลดขึ้นจนเจ้าตัวรู้สึกว่ามันขยายขนาดออกเต็มช่องอก เพราะมันบ่งบอกว่าคนที่กังวลว่าจะลืมกันส่งข้อความกลับมาให้ตั้งแต่เมื่อคืน
Sent: Monday, December 30, 2002 11:31:58 PM
To: ดอว์น (tillthedawnอย่าแสดงเมลบนบอร์ด.com)
‘คุณไม่ได้ตอบคำถามผม ถ้าไม่ตอบ ผมจะถือว่าคุณรู้สึกเหมือนผมนะดอว์น....
ผมคิดถึงคุณ
เพชร
....นี่เบอร์โทรผม 081-xxxxxxx เผื่อฉุกเฉินนะครับ’ อรุณรุ่งขมวดคิ้วอยู่ชั่วครู่ แล้วข้อความในกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่หยิบมาดูแทบทุกวันก็ลอยเข้ามาในห้วงความคิด
.......คำถาม ที่ว่ายินดีที่ได้รู้จักคุณเหมือนที่คุณดีใจที่ได้รู้จักผมมั้ยนั่นน่ะนะ
......บ้าไปแล้ว จะให้ตอบได้ยังไงกัน คุณจะพาอะไรเข้ามาในชีวิตผมบ้าง ผมยังไม่รู้เลยนะเพชร และด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ชายหนุ่มก็ส่งข้อความกลับไป
‘ขอบคุณสำหรับรูป จากกล้องของคุณดอกเสี้ยวสวยจริงๆ......
สำหรับคำถามนั้น ผมขอเก็บไว้ตอบเมื่อเราได้พบกันอีกครั้งจะดีกว่า
ผมเซฟเบอร์ของคุณไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินแล้ว
ดอว์น
คุณนอนดึก...อากาศแบบนี้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ’ เย็นนั้นไอ้ดอนของเพื่อนๆโผล่หน้าเข้าบ้านไปด้วยแววตาวิบวับผิดไปจากปกติ แล้วหลังวิ่งออกกำลังกายเสร็จยังเป็นคนออกปากชวนเพื่อนทั้งสามคนแวะกินขนมน้ำแข็งไสตบท้ายอาหารเย็นอีกด้วย
ไอ้คนเป็นๆที่อยู่ร่วมบ้านไม่รู้หรอกว่าคุณเพื่อนไปอารมณ์ดีมาจากไหน นอกจากจะเดาๆเอาว่าคงเกี่ยวกับที่เพื่อนดอนมันแวะร้านเน็ตสองวันติดต่อกันนี่แน่ๆ เพราะนายอรุณรุ่งเลือกที่จะเล่าให้คนบนฟ้าได้รับรู้เพียงคนเดียวเท่านั้นตามเคย
ถึงน้องรุ่งที่รัก
อย่างที่บอกน้องรุ่งไปวันก่อนว่าพี่ดอนตัดสินใจที่จะติดต่อไปหาคนคนนั้นเสียที และด้วยความที่พี่ไม่แน่ใจว่าเขายังจะจำพี่ได้อยู่รึเปล่า พี่ก็เลยส่งข้อความไปแค่สั้นๆ บอกว่าอยากได้รูปดอกเสี้ยว.....
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ วันนี้พี่ใจตุ๊มๆต่อมๆอยู่ทั้งวันเลย มันอยากจะรู้ว่าเขาจะตอบกลับมารึยัง พอเลิกฝึกงานพี่ดอนเลยรีบแวะเข้าร้านเน็ตทันที คิดๆแล้วก็เริ่มเข้าใจหัวอกคนรอนะคะ ชักจะรู้สึกผิดเสียแล้วที่ปล่อยให้เขารอนานขนาดนั้น นี่พี่ดอนรอเวลาแค่วันเดียวยังร้อนใจอยากรู้ว่าเขาจะตอบมาหรือไม่ตอบ แล้วก็ถ้าตอบมาจะตอบมาว่ายังไงแทบแย่
แล้วเขาก็ตอบมาจริงๆค่ะ ส่งรูปที่พี่บอกว่าอยากได้มาให้สี่รูป สวยๆทั้งนั้นเลย อย่างกับมืออาชีพเลยนะคะ แต่สิ่งที่ทำให้พี่ดอนยังนอนไม่หลับจนต้องมาเขียนถึงน้องรุ่งอยู่ตอนนี้คือข้อความที่แนบมาด้วยค่ะ
......เขาทวงถามคำถามเก่าที่พี่ยังไม่ได้ตอบ เพชร....บอกว่า ‘ผมคิดถึงคุณ’
จะว่าอะไรมั้ยคะ ถ้าจะบอกว่า....พี่ดอนเชื่อว่าเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ ทั้งที่ได้พบกันไม่นาน และข้อความที่ส่งมาก็ห้วนๆทื่อๆ แต่พี่กลับเชื่อในทุกๆคำ
พี่อยากจะมีความกล้ามากกว่านี้ อยากจะแสดงอะไรให้เขารู้ว่าพี่เองก็เกิดความรู้สึกแปลกตั้งแต่ได้พบเขาครั้งแรกแล้ว.....แต่พี่ดอนของน้องรุ่งในตอนนี้เป็นแค่ผู้ชายขี้ขลาดคนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ
ยอมรับกันตรงๆว่าพี่ยังกลัว.....กลัวที่จะต้องเจ็บอีกครั้ง เพราะฉะนั้น ถึงพี่จะเชื่อว่าทุกคำของเพชรเป็นเรื่องจริง แต่สำหรับครั้งนี้ พี่คงต้องขอระมัดระวังในทุกๆก้าวที่จะปล่อยให้ใจเข้าไปใกล้เขามากขึ้น
นี่เขาส่งเบอร์โทรศัพท์มาให้พี่ด้วยนะคะ บอกว่าเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน หึๆๆๆ เขาจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้คนทางนี้ท่องจำเลขสิบหลักนั่นได้ขึ้นใจแล้ว
แน่ะ......อย่ามาขำพี่นะคะน้องรุ่ง พี่ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ก็แค่....พอเซฟเบอร์เพชรไว้ในเครื่องแล้วไม่รู้เป็นอะไร ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบขึ้นมากดดูทุกทีเท่านั้นเอง เอ.....ชักรู้สึกว่าตัวเองจะอาการหนักกว่าทุกทีแล้วสิคะ ฮ่าๆๆๆๆ
คืนนี้เริ่มมีงานประจำปีของจังหวัดที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯเป็นคืนแรก แต่พวกพี่นัดกับพี่ใหญ่เอาไว้แล้วว่าจะไปกันคืนพรุ่งนี้ เพราะว่าคืนนี้พี่ใหญ่ติดเวร อีกอย่างพี่ๆที่แผนกบอกตรงกันว่าคืนแรกมักจะคนเยอะ แน่นไปหมดแถมมักจะมีเรื่องแทบทุกปีด้วย เพราะคืนส่งท้ายปีวงดนตรีที่จังหวัดจ้างมาแสดงมักเป็นวงร็อคดังๆจากกรุงเทพฯ
ดีที่พวกพี่ไม่ค่อยจะติดตามเพลงร็อคกันเท่าไหร่ ไม่งั้นคงมีใครสักคนลากกันไปแน่ๆ (ไอ้จี๊ดบอกถ้าB5มา ต่อให้เขาตีกันจริงๆมันก็จะไปดู)
จากวันที่พี่บอกกับพี่ใหญ่ไปว่าให้เราเป็นพี่น้องกัน พี่ใหญ่ก็หายหน้าไปสองสามวันอย่างที่บอกค่ะ แล้วเมื่อเช้าก็มาแวะเรียกหน้าบ้านก่อนไปโรงพยาบาล บอกว่าถ้าไม่รีบร้อนก็อย่าเพิ่งไปเที่ยวงานกันเอง เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้พี่ใหญ่จะไปด้วย
พี่สังเกตก็เห็นพี่ใหญ่ไม่ได้มีร่องรอยว่าจะรู้สึกไม่ดียังไงนัก พี่ก็สบายใจขึ้น.... ดูแกจะใช้เวลาสองสามวันทำใจให้ยอมรับอะไรๆได้ตามที่พูดไว้จริงๆ แถมยังบอกอีกว่าหลังปีใหม่เพื่อนพี่เขาที่เป็นหมอเหมือนกันจะขึ้นมาเที่ยว ที่พวกเราตั้งใจจะเข้าไปทีลอซู ก็ให้รอก่อน ไว้ไปพร้อมกันเลย พี่เขาจะพาเพื่อนไปด้วย แล้วเขาจะเป็นเจ้ามือเอง
พอพวกพี่อ้าปากจะปฏิเสธ พี่ใหญ่ก็บอกว่าถือเป็นการฉลองความเป็นพี่น้อง......อีกอย่างฉลองที่พี่กิม(เพื่อนของพี่ใหญ่น่ะค่ะ)ยอมลางานแล้วจัดเวรใหม่ขึ้นมาหา พี่สองคนเขาไม่ได้เจอกันนานเป็นปีแล้ว......
อืม.....พี่ดอนรู้สึกว่าพี่ใหญ่คงจะสนิทกับพี่กิมคนนี้มาก เพราะน้ำเสียงพี่เขาเวลาเรียกชื่อพี่กิมมันมีอะไรบางอย่างที่ให้ความรู้สึกต่างออกไป แหะๆพี่ดอนอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้นะคะ แกคงคิดถึงมากนั่นแหละ เห็นบอกว่าคบกันมาตั้งแต่ยังพูดไม่ชัดเลยด้วยซ้ำ
จะน้ำเน่าไปมั้ยคะ.....ถ้าพี่จะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าทันทีที่เห็นเมล์จากเพชร
พี่ดอนของน้องรุ่ง
ปล. พรุ่งนี้ร้านเน็ตปิด เขาจะหยุดปีใหม่สามวันแน่ะค่ะ เฮ้อ......พี่ลืมบอกคนทางโน้นไปเสียได้ พี่ดอนนี่แย่จังนะคะ .................................................................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..
พื้นที่โฆษณาเจ้าข้าเอ๊ยยยยยยยยยยยย
เนื่องมาจากกระทู้ขอรับบริจาคของขวัญเพื่อร่วมประมูลเอาเงินเข้าเล้า
ข้าพเจ้าก็ได้ไปขโมยการ์ดจากพี่อากาศที่ไอ้ป่วนมันร้อยเป็นพวงเพื่อพกพาสะดวกไว้มาจนได้
แล้วได้ส่งไปลงขันเป็นที่เรียบร้อย
ดังนั้น หากท่านใดสนใจเก็บของร้อน(เพราะขโมยไอ้ป่วนมา) ก็เชิญร่วมประมูลได้เมื่อถึงเวลานะคะตั้งชื่อร่วมประมูลไปว่า "สมุดกลอนหวานเจื้อย" ได้รหัส LP0055
ไว้ท่านไหนสนใจเชิญนะคะ ^^
..............................................
ส่วนเรื่องหนังสือเรื่อง เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก
เห็นถามกันเข้ามามาก(เกือบสิบคนแร้นนนนนน คริคริ)
จะเปิดสั่งจองช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ๒๕๕๔ นะคะ
รออีกนิดเนอะ จะได้มีเวลาเก็บตังค์หยอดกระปุกด้วยไง ฮี่ๆ