[เรื่องเล่า] เสือไบ:the series
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเล่า] เสือไบ:the series  (อ่าน 412023 ครั้ง)

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #210 เมื่อ19-07-2007 08:50:03 »

เสือไบ:the series (ตอน 47)

วันนี้วันศุกร์ ผ่านปีใหม่มาได้สองอาทิตย์แล้ว...ผมกับพี่พันยังไม่ได้เริ่มตีเทนนิส (ช่วงพักปิดซีซัน) เย็นนี้ผมแวะไปบ้านแก..ไปคุยเรื่องที่เราจะไปตกปลาที่ชุมพรกันพรุ่งนี้.......ก้ประจำแหละกิจกรรมที่ผมกับพี่พันทำตอนที่ผมไปบ้านแกก็คือ... ทำอะไรกินกัน...เล่นกีตาร์....ร้องเพลง....เล่นเกมส์...ฮ่าฮ่า ช่วงนี้ผมต้องพยายามใช้ทฤษฎีความใกล้ชิดให้เป็นประโยชน์มากที่สุด....ผมเชื่อว่า....คนเราลองได้ใกล้ชิดได้ผูกพันได้มองตา...มันก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างแหละน่า....น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน....ผมไม่คิดว่าหัวใจพี่พันจะแข็งกว่าหินหรอก...

หลังจากทำกับข้าวเสร็จเราสองคนก็นั่งโซ๊ยกัน....คุยกันไป......

"พรุ่งนี้ออกตีห้านะเอก เตรียมตัวด้วยล่ะ เกรงใจเพื่อนผม" คือเราไปกันสามคน ผม พี่พัน และก็เพื่อนพี่พันชื่อพี่โอ๋....

"ผมต้องเตรียมอะไรไปบ้างล่ะ...ตกปลาก้อไม่เป็น..."

"อยากกินอะไรก้อเตรียมไปล่ะกัน...ส่วนเรื่องตกปลาผมจะเอาเบ็ดสำรองไปด้วย...ไม่ต้องห่วงหรอกไม่ยาก...เออเราว่ายน้ำเป็นเหรอเปล่า.."

"ไม่เป็นพี่..."

"อือ น่าจะหาเสื้อชูชีพไปด้วยนะ"

"งั้นเดี่ยวไปซื้อที่เดอะมอลล์ล่ะกัน กะจะซื้อของไปกินด้วยครับ"

"งั้นเดี่ยวผมไปส่งล่ะกัน"

หลังจากกินข้าวกันเสร็จผมกับพี่พันก็ไปเดอะมอลล์กันเลย สองทุ่มกว่าๆ แล้ว เดี่ยวห้างมันจะปิดซะก่อน....ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่พันไป ...นั่งไปกอดเอวแกไป... ....ตอนนั่งซ้อนแกผมมองแผ่นหลังใหญ่ๆ ของแกมันอบอุ่นไงไม่รู้ยิ่งได้กอดเอวด้วยแล้ว...เฮ้อไม่น่าเชื่อว่าแกจะรอดมือสาวๆ มาได้ไง(ไม่ว่าหน้าตานิสัยมันน่าจะเป็นที่ต้องการของผู้หญิงเลยแหละ) ...

"เอาสีไหนดีล่ะพี่" ผมกำลังเลือกเสื้อชูชีพกับแกอยู่....

"แล้วแต่เราดิ ชอบแบบไหนล่ะ เอาสีส้มดีกว่ามั๊ง ขึ้นอืดจะได้เห็นชัด.." โหพี่ปากไม่เป็นมงคลเลยจะไปด้วยดีมั๊ยนี่...

"เอาสีนี้ดีกว่าพี่ ผมชอบสีนี้" เป็นประมาณสีเขียว.. ลายทหารบก...

"ก็สวยดีนะ แหมมีลูกหวีดด้วย กลัวไม่มีใครได้ยินเหรอไงเวลาขอความช่วยเหลือ..."

"เฮ้อ ก็กลัวแจ๊คไม่ได้ยินไงล่ะพี่..." ฮ่าฮ่า ผมเข้ามุกแจ๊คกับโรสในไททานิค  เราสองคนเพิ่งดูเรื่องนี้กัน...ผมลองเป่าดู....หุหุ คนหันมามองเป็นแถว..

"เอ๊ยเป่าทำไมอายเค้า" แกคงไม่นึกว่าผมจะเป่าน่ะ

"ก็ลองดูครับ ว่าแจ๊คจะได้ยินเหรอเปล่า..." ฮ่าฮ่า แกล้งแกได้สะใจ...

หลังจากได้เสื้อชูชีพแล้วผมก็เดินดูพวกของกิน ทริปนี้ของผมไม่น่าจะเน้นพวกตกปลานะเพราะผมตกไม่เป็นกะจะไปกินลมชมวิว ดื่มเหล้าเคล้าหน้าพี่พันไป.....แค่คิดก็ฝันไปไกลแล้ว....

"พี่น่าจะดื่มเป็นเพื่อนผมนะ ผมดื่มคนเดียวจะสนุกได้ไง"

"ไม่ครับ เดี่ยวโอ๋มันก็ดื่มด้วย มันดื่มบ่อยตอนไปตกปลา"

"ครับ" ผมเจอพี่โอ๋หลายครั้งแล้วครับ แกประมาณแฟมมิลี่แมน ....

หลังจากได้ของครบแล้วเราก้อกลับครับ ผมยังไม่ได้แพ๊คกระเป๋าเลย.....วันนี้ยังก็ต้องรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้า...

ตีห้าแล้วพี่พันมาเคาะประตูห้องผม ผมเพิ่งตื่นนี่แหละ ความจริงตั้งนาฬิกาไว้ตีสี่ครึ่งแหละมันปลุกแล้วแต่ผมขอหลับต่ออีกนิด ฮ่าฮ่า ....ตอนนี้ผมก้อเลยรีบซะ....

ตีห้าครึ่งเราก็ออกเดินทาง...พี่โอ๋เป็นคนขับพี่พันนั่งหน้า ผมนั่งแคปหลัง ฮ่าฮ่า หลับไปตลอดทางก็อย่างว่าแหละเด็กกำลังกินกำลังนอน.... ตื่นมาอีกทีอ้าวชุมพรแล้ว..เกือบเที่ยงแล้วแฮะ....กรุงเทพชุมพรมันประมาณสี่ร้อยหกสิบกิโลเมตร พี่โอ๋แกขับช้า....สิ่งแรกที่มาถึงชุมพรก้อคือไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพร

"ทำไมถึงต้องตั้งชื่อว่าชุมพรด้วยล่ะพี่" ผมเริ่มต้นถามแก...พี่โอ๋แกไม่ได้เป็นคนที่นี่...แต่แฟนแกเป็นคนชุมพร...

"ไม่รู้ดิ อาจะจามาจากที่จังหวัดนี้มีต้นมะเดื่อเยอะก้อได้ มะเดื่อชุมพร..."

"เอหรือจะชื่อที่มาจากการเพี้ยนจากคำว่าชุมนุมพลอันเกิดจากการที่จังหวัดนี้เป็นจุดชุมนุมพลในการศึกและเวลาออกรบต้องขอพรจากสิ่งศักดิ์ศิทธิ์ที่เรียกว่าชุมนุมพร..."

"ครับพี่"..

"แล้วคำขวัญจังหวัดชุมพรล่ะใครรูบ้าง.." พี่โอ๋ถามต่อ..

"ผมว่าน่ะจะมีอะไรๆ เกี่ยวกับรังนกๆ นี่แหละ..." พี่พันบอกครับประโยคนี้

"ประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟและหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก"

ตอนนี้มาถึงอนุสรณ์สถานกรมหลวงชุมพรแล้ว....อยู่ประมาณหาดทรายรี ห่างจากตัวเทศบาลมาประมาณ สิบกว่ากิโลเมตร หาดที่นี่สวยจังแฮะ ขาวๆ ทรายเนื้อละเอียด...

ตอนนี้ผมกับพี่พันมายืนอ่านประวัติของกรมหลวงชุมพร ข้างๆ ศาล....

พอไหว้เสร็จเราพักทานอาหารกลางวันที่นี่ (สงสัยล่ะจิแล้วพวกผมทานข้าวเช้ากันเหรอเปล่า ทานแค่ปาท่องโก๋ )

ช่วงนี้เราไม่รีบร้อนอะไรหรอก...เพราะกะว่าจะเข้าบ้านพักของคนนำไปตกปลาประมาณสามโมงเย็นผมก็เลยโจ้เหล้ากับพี่โอ๋แต่วันเลยครับ ชอบบรรยากาศแบบนี้จังกินเหล้าข้างทะเล ผมมองลงทะเลเฮ้อเป็นอะไรไม่รู้เหมือนผมคุ้นเคยกับมันมานาน.....

บ่ายสามโมงเราถึงบ้านคนนำตกปลา ชื่อลุงทา.... (แถวๆ หาดภราดรภาพ ถ้าจำไม่ผิด)บ้านแกเป็นบ้านประมาณชาวประมง(ชาวเล)แหละครับเป็นบ้านชั้นเดียวแกอยู่กับเมียแกสองคน บรรยากาศน่าอยู่จริงๆ .... ชนบทๆ มีต้นมะพร้าว เยอะ....ลมพัดเย็นดีจริงๆ....ตอนนี้พวกเรานอนพักผ่อนกันอีกรอบ เพราะคืนนี้ยังไง ก้อคงต้องลอยทะเลกันจนเช้า.....

"ไม่นอนเหรอพี่" ผมถามพี่พันเห็นแกเดินออกมาชมนกชมไม้(เห็นมีแต่ต้นมะพร้าว) ส่วนพี่โอ๋หลับไปแล้ว....

"ไม่ดีกว่า เดินเล่นดีกว่า นานๆ มาที"

"งั้นผมไปด้วย"  ฮ่าฮ่า หาทางใกล้ชิดแกอีกแล้ว

เราเดินไปจนถึงทะเล หาดทราดทรายที่นี่ขาวดีจัง เป็นหาดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวนะครับ ข้างๆ หาดก้อมีประมาณเรือประมงลำเล็กลำใหญ่จอดอยู่

"มีบ้านแบบนี้สักหลังก้อดีนะพี่"ผมชวนแกคุยครับตอนนี้เรามานั่งกันข้างๆทรายหาดแหละ...น้ำกำลังขึ้นด้วย...

"ก็ย้ายมาดิครับเอก ...ผมจะได้มาเที่ยวหาบ่อยๆ"

"อ้าวไม่มาอยู่ด้วยกันเหรอพี่ งั้นใครจะทำกับข้าวให้ผมกินล่ะ" ฮ่าฮ่า....

"เอกก็หาเมียดิครับ...อย่างเอกน่ะหาได้อยู่แล้วแหละถ้าไม่เลือกมาก...."

"หาไปจะเอาอะไรเลี้ยงเขาล่ะพี่ อยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว." ผมอยากจะบอกแกว่าก้อกำลังจีบอยู่นี่ไง...

"ครับ น่าจะเอากีตาร์มาด้วยนะ บรรยากาศดีจัง" ผมนั่งชมทะเลกับพี่พันเกือบชั่วโมง.....ทะเลก็เหมือนพี่พันแหละมองทีไรไม่เคยเบื่อมีบางอย่างน่าค้นหา....

"ลงเล่นน้ำดีกว่า เดี่ยวจะได้กลับ..." พี่พันลงทะเลไปแล้ว...แล้วผมจะลงตามด้วยเปล่านี่ว่ายน้ำก็ไม่เป็นอีกอย่างผมเอาโทรศัพท์มาด้วย.

"ไม่ลงเหรอครับ เอก"แกตะโกนเรียกผม

"ไม่ล่ะครับพี่ ผมเอาโทรศัพท์มาด้วย พี่เล่นไปเถอะ เดี่ยวผมนั่งรออยู่ตรงนี้"

พี่พันว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน ดำว่ายดำผุด....ท่าทางแกคงชอบทะเลเหมือนผม.....สักแป๊บแกก็ขึ้นมา...

"อ้าวทำไมรีบขึ้นล่ะพี่"

"เกรงใจคนรอ"  แกถอดเสื้อมาบิดน้ำทะเลออก...โหหัวใจผมเต้นตึ๊กตั๊กอีกแล้ว....พักหลังๆ เห็นแกเรทอาร์บ่อย แต่เห็นทีไรหัวใจผมก็เต้นแรงทุกที ผมชอบหุ่นอย่างแก สูงใหญ่ มีกล้ามท้องหกลอน กล้ามเป็นมัดๆ.....

"กลับเถอะ เดี่ยวต้องเตรียมเบ็ดอีก.."

กลับไปถึงบ้านพี่โอ๋ตื่นแล้วครับตอนนี้แกช่วยลุงทาทำครัวอยู่....

"ไปไหนกันมาเหรอ"

"เดินเล่นครับพี่"

"เออ มาก็ดีแล้ว เดี่ยวเราต้องไปซื้อน้ำมันมาเติมเรือน่ะ ไปกับพี่หน่อย" แกชวนผมไป ส่วนพี่พันตอนนี้อาบน้ำอยู่...

หลังจากได้น้ำมัน น้ำแข็งมาแล้ว พวกผมก็เตรียมตัวอาบน้ำกินข้าว กับข้าวเย็นนี้ก็อย่างว่า.....มาบ้านชาวเลคงจะได้กินหมูหรอก ฮ่าฮ่า อาหารทะเลทุกอย่าง น้ำพริกกุ้ง แกงเหลียง ปลาทอด....แต่ละอย่างอร่อยครับผม พี่พัน พี่โอ๋เบิ้ลกันคนละจาน เฮ้อ ไม่มีเกรงใจเจ้าของบ้านกันเลย ฮ่าฮ่า ก้อกับข้าวมันอร่อยจริงๆ......

ทุ่มแล้วตอนนี้พวกผมเตรียมตัวกันแล้ว อุปกรณ์ในการตกปลามันเยอะจริงๆ พี่พัน กับพี่โอ๋ เอาเบ็ดไปคนละสองคันพวกเหยื่อต่างๆ อีก โห.จะถือไปไงล่ะนี่....ไหนจะเหล้าถังน้ำแข็งถังน้ำมัน....แต่มันคงไม่เกินความพยายามของพวกผมหรอก...มาถึงเรือพวกเราก้อจัดการกับน้ำมันและอุปกรณ์ต่างๆ ... เก็บมันให้เข้าที่เข้าทาง เรือลำประมาณกลางๆนะครับไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก นั่ง 4 คน กำลังดี....ลุงทายกมือไหว้ที่หัวเรือ...ผมใส่ชูชีพ...พี่พัน พี่โอ๋ เอาเบ็ดออกมาครับ ตอนนี้เรือเริ่มแล่นออกสู่ทะเลแล้ว....นี่คือทริปออกทะเลครั้งแรกของผมกับพี่พัน...ในคืนที่ไร้แสงจันทร์....มีแต่แสงดาวสว่างบนท้องฟ้า


mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #211 เมื่อ19-07-2007 08:51:35 »

เสือไบ:the series (ตอน 48)

ตอนนี้มืดสนิท......เรือแล่นออกทะเลไปแล้ว....แล่นไปในความมืด.. บนเรือมีสี่ชีวิต....คือ ผม...พี่พัน.... พี่โอ๋.. ลุงทา.....เรือแล่นไปประมาณชั่วโมง ครับ ตอนนี้ รอบตัวผมมีแต่ความมืด สายลม แสงดาว  มีไฟนิออนสีขาวอยู่ตรงกลางเรือ....ตอนนี้ส่องโลก ไง อย่างงั้นเลยครับ พี่พันพี่โอ๋ตอนนี้เตรียมเบ็ดเตรียมเหยื่อแล้ว....

"เดี่ยวเราจะไปตกหมึกกัน" ลุงทาบอก....น่าสนใจดีเหมือนกัน เกิดมาผมยังไม่เคยตกปลาหมึกเลยตกหมึกนี่เอาไปทำเป็นเหยื่อเพื่อตกปลาเก๋าและปลาต่างๆ...

"เอก นี่เบ็ดคุณ " พี่พันยื่นคันเบ็ดให้ผม.... เบ็ดเป็นตะขอเหล็กนะ หลายตะขอ ไม่ได้เอาไว้ตกปลานะครับแต่สำหรับตกปลาหมึกโดยเฉพาะ...เหยื่อที่ใช้สำหรับตกปลาหมึก ที่เราเรียกมันว่าโยทะกาตัวสีขาว ผูกคู่กับเหยื่อกุ้งปลอม หรือ โยซูริ ถูกนำมาประกอบเข้าชุดสำหรับตกปลาหมึกศอก......

"วิธีการผูกชุดตกปลาหมึกแบบ ทูอินวันนั้นเราจะผูกเหยื่อกุ้งปลอม ให้อยู่เหนือโยทะกา ประมาณ 1 ฟุต นั้นคือตัวโยทะกาจะผูกอยู่ที่ปลายสาย เป็นตัวถ่วงให้เหยื่อจมน้ำอย่างรวดเร็ว ส่วนตัวกุ้งปลอม จะพริ้วตัว ตามกระแสน้ำ ส่ายระริกระรี้ หลอกล่อปลาหมึกศอกให้เข้ามาจับ วิธีการตกปลาหมึกวิธีนี้ไม่ยุ่งยาก โดยเรา จะปล่อยเหยื่อให้ถึงพื้นดินด้านล่าง แล้วก็กระตุกคัน การกระตุกคันจะช่วยสร้าง Action ให้กับเหยื่อกุ้งปลอม ถ้ามีปลาหมึกศอกอยู่บริเวณนั้น ไม่นานมันจะเข้ามาจับ เหยื่อของเราเอง เมื่อมีหมึกมาเกาะโยทะกา เราจะ สามารถ รับรู้ ได้จากน้ำหนักที่ปลายสาย เราจะรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆ มาเกาะโยทะกา เมื่อเรารู้ว่าหมึกมาเกาะ โยทะกาแล้ว ก็ไม่ต้องรีบร้อน รีบปั่นรอกกรอสายเอ็น นะครับ ค่อยๆ หมุนสายเก็บเข้ามาเรื่อยๆ บางครั้งเรา อาจจะมีการต่อสู้ดิ้นรน ขัดขืนจากตัวปลายสาย เราก็ไม่ต้องตกใจ พยายามอย่างเดียวว่า อย่าให้สายเอ็นนั้นหย่อนเป็นอันขาด เพราะ ปลาหมึกศอก มันฉลาดมาก มันสามารถปลดปล่อยตัวมันเองออกจากหนามแหลมของโยทะกาได้เอง คือมันจะใช้หนวด ของมัน ไต่ย้อนตัว โยทะกาขึ้นมาจนหนวดมันหลุดออกจากคมหนามแหลมของโยทะกา "

พี่พันแกอธิบายให้ผมฟัง ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกแต่พอเข้าใจง่ายๆว่าเมื่อเบ็ดดิ้นแปลว่ามีหมึกมาติดแล้วก็กระตุกขึ้นเลย.....ลุงทาแกพามาถึงจุดที่มีหมึก.....ผมขอเรียกว่าหมายล่ะกัน.... แกจอดเรือ ส่องไฟลงไปในน้ำ ตอนนี้เสียงเรือเงียบแล้วครับ เรือลอยเท้งเต้งบนทะล.. ตอนนี้ผมเห็นใต้น้ำมีปลาหมึกลอยกระจึ่งๆ มาแล้วครับ...

"โอเค เริ่มได้เลย" พี่พัน กับ พี่โอ๋ และผมหย่อนเบ็ดไป ส่วนลุงทาแกจะใช้ประมาณสวิงบ..คอยตักคอยช้อน...โห นั่นพี่พันตกได้แล้วบ ตัวใหญ่ดีเหมือนกัน .... พี่โอ้ได้ตามมา... ส่วนผมมือใหม่ ตอนแรกพลาด...แต่หลังจากนั้นผมก็ได้บ เราเพลิดเพลิน กับการ ตก หมึก อย่างสนุกสนานเดี๋ยวคนโน้นวัดเดี๋ยวคนนั้นสาว ปลาหมึกที่เราช่วยกันตกขึ้นมาได้แต่ละตัว มีขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้น หมึกบางตัว ยาวกว่าศอกก็มี เราช่วยกันตกปลาหมึกขึ้นมาได้ตั้งหลายสิบตัว เพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็มีปลาหมึก อยู่ในถึงโฟม ไม่ต่ำกว่าร้อยตัว ตอนนี้เรามีเหยื่อสำหรับตกปลาเหลือเฟือ เหลือพอที่จะเอามาทำอาหารให้คนกินได้อีกด้วย บัดนี้ น้ำในถังโฟมเหยื่อ ดำปิ๊ดปี้ เพราะปลาหมึกมันพ่นหมึกออกมาลุงทาแกตักน้ำทะเลลาดลงไปในถังโฟมครับ ทำให้มันสะอาดขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มอ๊อกซิเจนให้พวกมันไม่งั้นมันจะตายและเน่าหมดครับ...

ตอนนี้ลุงทาขับเรือย้ายหมายใหม่แล้วครับ หมายที่มีปลาเก๋าชุม... ตอนนี้พี่พัน พี่โอ๋ เปลี่ยนเอ็นเบ็ดใหม่แล้วครับ แกเปลี่ยนให้ผมด้วย... เบ็ดขนาดเจ็ดโอสองตัว ผูกด้วยสายรีดเดอร์ลวด ขนาดแปดสิบปอนด์ยาวประมาณสองเมตร เกี่ยวด้วย หมึกศอกตัวใหญ่ พี่พันอยู่ข้างซ้าย....พี่โอ๋ด้านขวา ส่วนผม ยืนหัวเรือ  เราจะไม่ยืนใกล้กันครับ เดี่ยวเบ็ดจะพันกัน...ตอนนี้ทุกคนหย่อนเบ็ดลงไปแล้วครับ...

ตกปลาเก๋าต้องใจเย็น....ตอนนี้ผมลืมเหล้าลืมเสบียงที่ซื้อมาแล้ว..มันสนุกดีครับตกปลาแบบนี้ผมไม่เคยมาแบบนี้เลยตอนนี้ขอตกปลาแทนดื่มเหล้าล่ะกัน.....

โหพี่โอ๋ตกได้แล้วครับ ตัวประมาณสามโล ขึ้นมาเป็นตัวแรก เก่งจังแฮะ....ส่วนผมยังไม่ได้เลย....พี่พันได้แล้วครับตอนนี้ แกดึง ปลาเก๋าลูกหมู ตัวประมาณห้ากิโลกรัม โหลุงทาต้องรีบเข้าไปช่วยพี่พัน เพราะปลามันตัวใหญ่ ตอนแกดึงปลาขึ้นมา แกจะใช้ตะขอเกี่ยวตรงตัวปลาอย่างแม่นยำ...และปลาก้อหมดฤทธิ์ไปเลยครับ ตอนนี้พี่พัน พี่โอ๋ ตกได้หลายตัวแล้ว  ส่วนผมกำลังจะตกได้ตัวแรก เบ็ดกระตุกแล้ว โห กระตุกแรงด้วย... ผมรีบชักรอกคืน...โหได้แล้ว...ลุงพันรีบมาดู โห ได้จริงๆ ตัวเท่าฝ่ามือ...แต่ลุงพันบอกว่าให้ปล่อยไป ปลาแบบนี้กินไม่ได้ ประมาณมันมีพิษผมก็เลยเซ็งอารมณ์เลย เฮ้อ ขอนั่งลุ้นดีกว่า.....

ลุงทาแกเปลี่ยนหมายไปอีกสองสามหมาย... เราก็ตกได้บ้างไม่ได้บบ้าง... ผมมองดูเวลา โหจะเช้าแล้วเหรอนี่ ทำไมเวลามันเร็วแบบนี้ เกือบตีสามแล้ว....ตอนนี้ลมเริ่มพัดแรงขึ้น... โหท้องฟ้าตอนนี้ไม่เห็นดาวแล้ว....แกเร่งเรือให้เร็วขึ้น ประมาณไปให้ใกล้ๆ เกาะ ที่เห็นก่อน.... เพราะถ้าฝนตกลมแรง กลัวเรือจะล่มแหละครับ เรือมันลำไม่ใหญ่...ตอนนี้ผมใจตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว... คนมันว่ายน้ำไม่เป็นนี่...พี่พัน พี่โอ๋ตอนนี้เก็บเบ็ดแล้ว

"เราอาจจะต้องเข้าเกาะหลบลมก่อนนะ ลุ้นอยู่ขออย่าให้ฝนตกลมแรงเลย..."  ลุงทาแกบอก...

แกเอาเรือเข้าหลังเกาะ.. เพื่อหลบลม เฮ้อ ค่อยยังชั่วเมื่อกี๊ผมเกือบเมาคลื่นแหละ  ถือว่าโชคดีของพวกเรา พายุฝนตอนนี้หายไปแล้ว ท้องฟ้ากลับมาเห็นดาวตามเดิมแล้ว...ลุงทาแกบอกว่าฝนในทะเลก้อแบบนี้แหละ มาเร็วไปเร็วบางครั้งก็คล้ายจะตก ถ้าลมแรงมันก็จะหอบฝนไปหมด....เฮ้อดีเหมือนกันที่ไม่ต้องหลบเข้าไปในเกาะ แกบอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบนเกาะมีอะไรเพราะไม่เคยมาเกาะนี้เลย....เกาะโจรสลัดเหรอเปล่าก้อไม่รู้....ฮ่าฮ่า...

ประมาณตีห้า.... เรามาถึงหมายใหม่ ที่นี่จะมีปลาใหญ่เลย....พี่พัน พี่โอ๋ เตรียมเบ็ดให้ผมตอนนี้ไม่ตกแล้วครับ..ขอลุ้นขอช่วยอย่างเดียว...ท้องฟ้าเริ่มมีแสงบ้างแล้ว....ผมมองเห็นปลาได้ชัดเลยแฮะ.....โหปลาตัวใหญ่เยอะมากๆ เพียงแต่มันจะกินเบ็ดเหรอเปล่าแค่นั้น ตอนนี้เรือแล่นอยู่...แต่แล่นช้าๆ วนรอบๆ ..ครับเพื่อให้ปลากินเหยื่อ..

ปลาติดเหยื่อพี่โอ๋แล้ว  ผมพี่พัน ลุงทาวิ่งไปดู โหปลามันตัวใหญ่จริงๆ .... พี่โอ๋กำลังชักรอกเบ็ดอยู่ครับ พี่พันกับผมคอยช่วยจับ ลุงทาตอนนี้แกดับเรือแล้ว คอยใช้ตะขอเกี่ยวตัวปลาตอนปลาขึ้นจากน้ำ...โหขึ้นมาแล้วครับ ปลาตัวยาวเท่าแขนเลย....ตอนนี้หมดฤทธิ์ไปแล้ว เพราะขอเกี่ยวของลุงทา...แกเรียกปลาชนิดนี้ว่าปลาสาก ผมไม่ค่อยรู้เรื่องปลานะ....เลยอธิบายไม่ค่อยถูก.....

เมื่อได้ตัวแรกก้อต้องมีตัวสอง....ตัวสาม วันนี้พวกเราโชคดีครับ ปลาติดเบ็ดบ่อยๆ...ลุงทาแกบอกว่า วันนี้น้ำเดินดี..

ประมาณ เจ็ดโมงแหละครับตอนนี้แดดเริ่มออกแล้ว...พี่พันกับพี่โอ๋ ขอตกเป็นรอบสุดท้าย ....ลุงทาแกเลยวนเรือวนอีกรอบหนึ่ง......โหเบ็ดพี่พันกระตุกแ โห...คราวนี้กระตุกแรงมากๆ เลย ท่าทางตัวจะใหญ่

"เอก โอ๋ มาช่วยผมดึงหน่อย" เบ็ดมันดิ้นแรงมากจริงๆเลย...

"เอ้ย มัยปลา มันว่ายขึ้นมาแปลกๆ ชอบกล"

"นั่นดิ" ปลามันว่ายแฉลบไปแฉลบมาครับ ตอนนี้...

"มันโดนเบ็ดเกี่ยวที่ข้างลำตัว มิน่าละ มันถึงได้สู้เบ็ดจัง "

"เอ๊ย เตรียมดึงนะ.....ใกล้แล้ว" พี่พันเตรียมกระตุกเบ็ดแล้วลุงทาเตรียมใช้ตะขอเหมือนเดิม..

พี่พันกระตุกขึ้นมาแล้วครับ ปลาตัวใหญ่มากๆเลยครับ เท่าขาเลย ตอนนี้เบ็ดงอมากๆ แล้วด้วย

"หนึ่ง สอง สาม" แกกระตุก ตอนนี้ตะขอปักตัวปลาแล้ว ...

ลุงทาหิ้วปลาไปเก็บแล้วแต่พี่พันกำลังจะเก็บคันเบ็ดแล้วแต่เรือมันเอียงครับ ผมยืนข้างๆ พี่พัน เอ๊ย แค่สุดเสียงผมก็ตกทะเลไปแล้ว.....อารามที่ตกใจเลยตะเกียกตะกายใหญ่เลยครับนึกว่าไม่รอดแล้ว

"ตูม " เสียงดังสนั่น พี่พันโดดลงจากเรือแล้วแกว่ายน้ำมาตรงที่ผมตะเกียกตะกายอยู่ แกเข้ามาข้างหลังผม..

"เอกอย่างดิ้น อย่าลืมดิ เราใส่ชูชีพอยู่" แค่นั้นแหละ ผมเลิกตะเกียกตะกาย เพราะใส่ชูชีพมันลอยน้ำ เฮ้อน่าอายจริงๆ ผมหลังจากที่พี่โอ๋ ลุงทา ฉุดมือผม พี่พัน ขึ้นจากเลยแล้ว...โหตอนนี้หนาวมากๆเลยครับ น้ำทะเล เย็นมากๆเลย...ผมสั่นแล้ว....

"ถอดเสื้อบิดน้ำก่อน เดี่ยวหนาว" มันหนาวไปแล้วพี่ ผมถอดเสื้อบิดครับ ตอนนี้เหลือแต่ชูชีพ...

"อ้าวนี่" พี่โอ๋ ยืนขวดเหล้าให้ผม

"ดื่มซะ แก้หนาว ได้" ผมดื่มเข้าไปครับ โหอุ่นขึ้นจริงๆ เอ้อ ...ตอนนี้หายหนาวแล้ว....พี่พันตอนนี้ถอดเสื้ออยู่...ผมเดินเข้าไปหาแก...

"ขอบคุณนะพี่ ที่ช่วยผม"

"ไม่เป็นไร  มันไม่จมสักหน่อย"

"ก็นั่นแหละพี่" ผมตอบแบบเขินๆ

 เฮ้อ นึกถึงอ้อมกอดของพี่พันในทะเลแล้ว อบอุ่นจริงๆ อยากจะแช่แบบนั้นนานๆจัง....ฮ่าฮ่า ประมาณโรสในอ้อมกอดแจ๊ค.....

หลังจากที่เข้าฝั่งแล้ว ตอนนี้ภาระหนักของพวกเราก็คือบรรดาปลาทั้งหลาย ตกมาเยอะก็แบบนี้แหละ ทั้งปลาหมึก ปลาเก๋า ปลาสาก... เราตกลงว่าเราจะให้ปลาพวกนี้กับลุงทาแกหมด เอาไปกรุงเทพก็ต้องเป็นภาระยุ่งยาก......

 หลังจากจัดการกับของเสร็จแล้ว พวกเราขอตัวกลับ....ตอนนี้ให้ค่านำทัวร์ไปประมาณ พันบาทบาท...ทีแรกแกไม่รับ พวกผมก็เลยคะยั้นคะยอจนแกใจอ่อน..... แกแลกกับของฝากประมาณกุ้งแห้ง ปลากรอบที่แกทำไว้ติดบ้านแกให้พวกเราไปกิน....

ภาพที่พี่พันกอดผมช่วยผมในทริปนี้มันติดตรึงติดตาผมเหลือเกิน ผมเริ่มหวั่นไหวกับแกมากขึ้น นี่ผมเป็นอะไรไปแล้ว..ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ถ้าเก็บไว้แบบนี้มีหวัง..อกแตกตาย... เฮ้อถ้าแกป็นเกย์ผมคงจัดการอะไรได้ง่ายขึ้นแต่นี่.. ทำไมมันยากเย็นแบบนี้.......นึกหาวิธีไงก็นึกไม่ออก.....เฮ้อ โอ๋เจ้าความรักมันจะเล่นงานผมไปถึงไหนนี่ผมเกลียดความรักแบบนี้จริงๆ .... ได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารัก ได้เห็นได้สัมผัส แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของ...

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #212 เมื่อ19-07-2007 10:30:30 »

ติดตามอ่านอยู่ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :m1:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #213 เมื่อ19-07-2007 12:19:46 »

ห่างหายจากเรื่องนี้ไปหลายวัน
กลับมาอีกทีตามอ่านจนตาเปียกตาแฉะ :impress:


ได้อยู่ใกล้คนที่เรารัก แต่ไม่อาจแสดงมันออกมาได้นี่ เจ็บปวดจริงเลยนะ :sad2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #214 เมื่อ19-07-2007 12:47:33 »

โอ้วววววววววววววววววววววววววววววว

ตอนนี้เจ้ก็รู้สึกเหมือนคนเขียนเรื่องเคอะ  :o12:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #215 เมื่อ19-07-2007 13:31:25 »


..........รักแต่ไม่กล้าบอก......มันทรมานนะ........ :o12: :o12:

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #216 เมื่อ19-07-2007 14:51:29 »

เคยตกน้ำแบบนี้เหมือนกันเยย ใส่เสื้อชูชีพด้วย แล้วก็ลืมไปว่าตัวเองใส่อยู่  -*-  อารมณ์เดียวกัน  :laugh:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #217 เมื่อ19-07-2007 16:01:23 »

จริงๆแล้วแอบตกเรืออ่ะดิ  :m12: เข้าใจคับว่าอยากอยู่ในอ้อมกอด ที่แสนอบอุ่น หุ หุ

ได้ความรู้เรื่องตกหมึกด้วย ตอนนี้

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #218 เมื่อ19-07-2007 17:49:42 »

ทำไมชีวิตมันช่างรันทดเยี่ยงนี้
 :m15: :m15: :m15:

เอาหน่ะ ถือว่าชีวิตนี้ก็ได้ทำอะไรที่มีความสุข
 :m4: :m4: :m4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #219 เมื่อ19-07-2007 21:35:02 »

หุหุ เป็นโรคกลัวน้ำเหมือนกันเลย  :m4:  :m4:  :m4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เสือไบ:the series by matheww
« ตอบ #219 เมื่อ: 19-07-2007 21:35:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #220 เมื่อ20-07-2007 08:34:09 »

เสือไบ:the series (ตอน 49)

หลังจากกลับมาจากชุมพรแล้ว สถานภาพผมกับพี่พันก้อยังไม่มีอะไรคืบหน้า....ผมยังคิดหาวิธีไม่ได้...จนถึงวันนี้...วันนี้วันที่ อังคาร 14 กุมภาพันธ์....เฮ้อเป็นวันที่ผมไม่อยากมาทำงานเพราะอะไรน่ะเหรอ.....ใช่ครับวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ วันนี้ของปีนี้กับปีแล้วต่างกันอย่างลิบลับ ปีแล้วก็อย่างที่รู้ๆ แหละผมยังไม่ได้ตัดความสัมพันธ์กับพี่พี ผมมีความสุขกับวันนี้เมื่อปีที่แล้ว จนถึงเช้า ... จนถึงวันที่เราไปนั่งดู(ซบไหล่)ทะเลที่พัทยาด้วยกันกับพี่พี ...แต่ปีนี้ผมไม่มีแก.....ความจริงแกก็เศร้าไม่แพ้ผมเหมือนกันแหละวันนี้ เราต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากันทำงาน ไม่มีดอกไม้สีแดงมาวางบนโต๊ะ ไม่มีการ์ดอวยพร ไม่มีช๊อคโกแล็ค ไม่มีสติกเกอร์รูปกามเทพหรือหัวใจมาแปะชุดทำงาน มีแต่ความเงียบขรึมและสายตาที่ว่างเปล่าของเราสองคน......ผมทำงานจนกระทั่งพักเที่ยง...ตื๊ดๆ พี่พันโทรมา...(ผมกับแกทานข้าวกลางวันกันแทบทุกวันครับ ถ้าไม่ติดประชุมหรือไปราชการ)

"เอก ผมรอที่เดิม นะครับ" แกจะรอผมประมาณทางขึ้นลงบันไดที่ตึกที่ผมอยู่....

"ครับ พี่ ผมลงไปเดี่ยวนี้แหละ" เดินออกไปเจอพี่พี แกก้มหน้าก้มตาทำงาน เหมือนเดิม ฮ่าฮ่า แต่แกคงได้ยินที่ผมคุยโทรศัพท์แหละ....

หลังจากถึงโรงอาหาร ผมกับพี่พันก้อสั่ง ข้าวราดแกงกันมากินคนล่ะจาน.... ตามธรรมดาครับ ช่วงเที่ยงเป็นช่วงที่เร่งรีบ...รีบกินให้เสร็จๆ แล้วก้อจะได้กลับไปทำงานต่อ.....

"เอก วันนี้รีบกลับเปล่า"

"ทำไมล่ะพี่"

"ไม่ส่งผมเดอะมอลล์หน่อยดิ" อาแน่ ตอนนั้นผมดีใจมากเลยครับ คิดไปประมาณว่าแกจะชวนไปกินข้าว ดูหนัง หรือไม่งั้นก้อเดินเล่นอะไรแบบนี้ (คือแบบว่าคิดไปเองนะครับ)

"ไปกี่โมงครับ"

"สามโมง" โหชวนโดดงานเลยเหรอนี่....

"โอเค สามโมงเจอกันข้างล่างตึกพี่เลยนะครับ"

หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็กลับไปทำงานต่อด้วยหัวใจที่แบบว่า...กระชุ่ม...กระชวย ดีใจ....  คิดอะไร กับผมตั้งนานไม่ยอมบอก.... จะมาบอกในวันนี้ .....

สามโมงเย็นผมรอพี่พันใต้ตึก...หลังจากที่แกเดินมาแล้วเราก้อโบกแท๊กซี่ไปเดอะมอลล์งามวงงานกัน...ตอนอยู่บนรถผมก็ประมาณชวนคุยนั่นคุยนี่...เราคุยกันอย่างสนุกสนานครับจนถึงเดอะมอลล์...

"เอกไม่ถามเหรอครับ ว่าผมชวนมาทำไม"

"ไม่รู้ดิพี่ มีอะไรเหรอครับ" ตอนนี้ผมแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ครับ ฮ่าฮ่า ลองแสดงความดีใจออกนอกหน้าดิมีหวังโดนว่า...

"เออ.....คือ........"

"อ้าวพูดมาดิ พี่ ผมจะรู้เหรอนี่...."

"พูดก้อพูด เออ คือเย็นนี้ผมมีนัดกินข้าวครับ กับพื่อน จะเรียกว่าแฟนก้อได้นะ..." ผมองหน้าพี่พัน ตอนนี้อาการที่ดีใจตอนอยู่ในรถตอนนี้มันหายไปแล้วแต่ผมก้อนิ่งๆ นะครับ....

"ครับ พี่แล้วไง..."

"ก้ออยากให้เอกมาช่วยเลือกของให้หน่อยน่ะ ของสำหรับให้คนที่เรารักในวันนี้"

"ครับ พี่" ตอนนี้พูดได้แต่คำนี้คำเดียวครับ มันเหมือนหมดอาลัยตายอยากอย่างไงอย่างงั้น...

"พี่จะเอาอะไรล่ะ วันนี้วันแห่งความรัก ที่เขาให้ๆ กันก้อ ดอกไม้ ช็อคโกแล๊ค หรือไม่งั้นก้อตุ๊กตา...แฟนพี่ชอบแบบไหนล่ะ..."

"ไม่รู้ดิ ผมก้อเห็นเค้าชอบหมด น่ะ..."

"งั้นเอาตามที่พี่อยากซื้อให้ก้อแล้วกัน แต่ผมว่าน่าจะเป็นดอกไม้กับตุ๊กตานะ"

"งั้นเอาตามที่เอกบอกล่ะกัน ดอกไม้กับตุ๊กตา.."

"โหตกลงแฟนใคร ครับนี่" ผมแซวๆ แก เฮ้อ ตอนนี้จะเศร้าจะซึมไปก้อไม่มีประโยชน์แล้วครับ....ถึงขั้นนี้แล้วไงช่วยแกไปล่ะกัน....แกมีความสุขผมก้อน่าจะมีความสุขด้วยนี่...

เราเดินไปร้านดอกไม้ก่อนครับ ไปสั่งไว้ก่อนแล้วค่อยไปรับหลังจากที่เดินไปซื้อตุ๊กตาเสร็จ...

"เอาดอกอะไรดีล่ะเอก"

"อ้าวเวน เลย วันวาเลนท์ไทน์ซื้อดอกมะลิดีมั๊งพี่"

"มะลิเหรอ งั้นเอามะลิก้อได้.." ผมได้แต่เกาหัว

"ผมว่าประชดน่ะพี่ เข้าใจเปล่าพี่ ประชด"

"อ้าวเหรอ เอก ผมไม่รู้นี่ ไม่เคยซื้อดอกไม้ให้สาวนี่"

"งั้นสั่งแพ็คเกควาเลนไทน์ล่ะกัน ผมว่าสวยดี เข้ากับเทศกาลด้วย"

"ก้อได้ สวยดีๆ" แหมจะซื้อของให้สาวไม่บ่นเรื่องราคาเลยนะ....

หลังจากที่สั่งดอกไม้เสร็จเราก้อเดินไปชั้นกิ๊ปช็อบ มีของให้เลือกเยอะเลยครับ ก้ออย่างเดิมแหละ..พี่พันแกไม่รู้จะเอาอะไรแบบไหน...

"เอกตัวนั้นผมว่าน่ารักดี" เป็นประมาณตุ๊กตากามเทพถือศรน่ะครับ ผมจำชื่อไม่ได้...

"งั้นเอาตัวนี้เลยนะพี่ ผมก้อว่าสวย" ฮ่าฮ่า ความจริง ผมไม่มีอารมณ์ในการเลือกแล้วครับ ...

ระหว่างที่นั่งรถให้พนักงานห่อตุ๊กตาให้ผมถามพี่พันว่า....

"พี่รู้จักแฟนพี่นานเหรอยังครับ"

"จะสองปีแล้ว เค้าอยู่ชลบุรี"

"อ้าวแล้วเค้ามา กทม.เหรอครับ วันนี้"

"มาอบรม อาทิตย์ หนึ่งน่ะ ที่........ เย็นนี้เราเลยนัดกันกินข้าว.." แฟนพี่พันประมาณ สาวแบงค์ล่ะครับ...

"เอกไปด้วยกันเปล่าล่ะ" อ้าวเวนแล้วจะให้ผมไปทำไมล่ะนี่ คนเค้าจะสวีทกัน...เดี่ยวเถอะแม่งจะหึงใส่ให้...

"ไปเถอะพี่ แหม จะเอาผมไปทำอะไรนี่..."

"ก้อแกล้งชวนไปงั้นแหละครับ"

ห้าโมงครึ่งแหละครับ เราเสร็จธุระกัน ผมขอแยกกับพี่พันหน้าเดอะมอลล์เลยเพราะแกไม่ได้กลับปากเกร็ดครับ แกไปที่ร้านอาหารประมาณร้านติดแม่น้ำแห่งหนึ่งครับ  ผมคงไม่มีอารมณ์ไปสนุกที่ไหนหรอกครับคืนนี้ ไร้คู่แบบนี้สู้ไปนอนหาวิธีเผด็จศึกพี่พันดีกว่า....

ระหว่างนั่งรถกลับ ผมว่ามันถึงเวลาที่ผมต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว ถ้าไม่รีบ...มีหวังผมต้องอดแน่เลย ตอนนี้ผมไม่สนอะไรแล้วขอให้ได้ตัวแกก้อพอ.....เรื่องอื่นเป็นค่อยว่ากัน.....ตัณหาและความต้องการในตัวผมมันพลุ่นพล่านเหลือเกินตอนนี้....

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #221 เมื่อ20-07-2007 08:36:43 »

เสือไบ:the series (ตอน 50)

และแล้วประมาณกลางเดือนมีนาคม ผมถึงคิดวิธีและรวบรวมความกล้าได้ ทำไงดีล่ะ...ก็ใช้วิธีจู่โจมโดยฉับพลันไงครับ...วิธีน่ะเหรอตามที่ผมคิดไว้....

1.ชวนแกไม่ดื่มเหล้า...ประมาณฟังเพลงสร้างบรรยากาศ......พอแกเมาหน่อยก็...... ฮ่าฮ่า เสร็จโจร....

ปัญหามันก้อคือแกไม่ดื่มเหล้า....งั้นจะแก้ไงล่ะ.... เอางี้จะผมต้องสร้างบรรยากาศให้โรแมนติกโดยหาร้านที่มีเพลงฟังประมาณเพลงช้าๆ ซึ้งๆ...มีสาวสวยๆด้วยคงจะดี....

2.แล้วถ้าเกิดแกดื่มเหล้า...จนแกเมาล่ะผมจะทำไง...

อันนี้ไม่น่ายากน่ะ ก้อพาแกขึ้นสวรรค์ซะเลย....เป็นสิ่งที่ผมต้องการอยู่แล้วนี่...ตอนนี้บอกตรงๆ ผมไม่ต้องการสิ่งที่เค้าเรียกกันว่าความรักแล้วแหละครับ...เพราะคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้... แกมีแฟนแล้ว... ผู้ชายเหมือนกัน....แกคงจะเลือกล่ะนะ ...ตอนนี้แค่ความใคร่..(ขอโทษนะครับ ถ้าพูดง่ายๆ ตามประสาคนในเนทก้อคือ น้ำแตกแล้วแยกทาง..) มันก้อน่าจะดีสำหรับผมแล้ว ขอสักครั้งแค่ได้ลิ้มรสกามาของแก...เฮ้อ...ผมบ้าไปแล้วหรือนี่....

ตื๊ดๆๆ เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น เอเบอร์ไม่คุ้นเลยแฮะ...

"สวัดดีครับ"

"ดี เอก พี่จูพูดนะ"

"ว่าไงครับพี่" พี่จูคนนี้เป็นเจ้าของผับแห่งหนึ่งข้างๆ กรมฯพลาธิการ เป็นร้านที่ผมไปเมากับพวกไอ้เอสไอ้โจ้บ่อย..

"เสาร์นี้ ร้านพี่มีคอนเสิร์ตน่ะ สุเมธแอนด์เดอะปั๋ง...สนใจมาเปล่าล่ะ พี่คิดค่าจองโต๊ะให้เอกเป็นพิเศษเลย"

"น่าสนพี่ แต่ผมจะไปกับใครล่ะ เออแล้วราคาเท่าไหร่ล่ะพี่"

"โต๊ะสองพันห้า แต่พี่คิดให้เอก สองพัน มีชีวาสขวด มิกซ์ฟรี แถมกับแกล้มให้2 อย่าง"

"งั้นขอเวลาผมครึ่งชั่วโมงนะพี่ ขอชวนเพื่อนก่อน แล้วเดี่ยวผมโทรกลับ"

ฟ้าดินช่างเป็นใจจริงๆ พี่พันแกชอบเพลงแนวนี้แหละครับ แนวรัก (ตอนนั้นคู่นี้กำลังดังครับ) เอาล่ะด่านแรกผ่านแล้ว...หาร้านหาแนวเพลงได้แล้ว....ด่านต่อไปก้อคือตัวแก....ผมเลยโทรหาแก...

"ว่าไงเอก..."

"เสาร์นี้ กลางคืนมีไปไหนเหรอเปล่า"

"เสาร์นี้เหรอ ไม่ไป ครับ ทำไมเหรอ.."

"ผมได้บัตรโต๊ะมาน่ะ คอนเสิร์ต สุเมธแอนด์เดอะปั๋งเผอิญเพื่อนมันขายต่อผม..เห็นมันถูก...เหล้าก้อดี ผมก้อเลยหาเพื่อนไปน่ะพี่.." แหลจริงๆ กรู....

"ผมไม่ดื่มเหล้า เอกก้อรู้ไม่ใช่เหรอ"

"ก้อไม่เป็นไรพี่ ผมดื่ม พี่ก้อนั่งดู เพื่อนผมมันไม่ว่างเลยน่ะ นะ นะ พี่" ใส่ลูกอ้อนแกนิดหน่อย...

"เอางั้นก้อได้....ไปกับเอกไงก้อต้องสนุกอยู่แล้ว"

"ครับพี่" สนุกแน่พี่...คงจะสนุกทั้งคืนเลย.....

หลังจากวางสายกับพี่พันแล้วผมก้อโทรหาพี่จู....ตกลงเรื่องโต๊ะ...คุยเสร็จผมก้อมาคิดวิธีต่อไป....คือมันต้องให้เนียนไม่มีที่ติไงครับ ถ้าถามผมว่าทำไมไม่ใช้ยานอนหลับหรือยาปลุกใจ ฮ่าฮ่า ยาพวกนี้ผมหาได้นะครับ ไม่ยาก เพื่อนของไอ้เอ็กซ์ผมก้อรู้จักเยอะ ไม่งั้นก้อถามไอ้กาย...ถึงที่ซื้อ......ผมคิดว่าการใช้ยาพวกนี้มันก้อเหมือนผมทำร้ายพี่พันไปในตัวคือมันอาจจะมีผลข้างเคียงและที่สำคัญมันเหลือหลักฐานไง....ถ้าแกรู้ว่าผมใช้ยาผมอาจจะตายคารองเท้าบูทแกเลยก้อได้...คนที่เราไว้ใจกันลองใครมาทำกับเราแบบนี้....ถ้าเป็นผมน่ะโค-ตะ-ระ แค้นเลย

พี่พันแกไม่เคยดื่มเหล้า ถ้าแกเห็นเหล้าแกก้อคงไม่ดื่ม.....งั้นทำไงดีล่ะ....ใช้วิธีนี้ล่ะกัน...ใช้ประมาณสปายไวน์คูลเลอร์ก้อแล้วกัน....แกไม่เคยดื่มแค่ขวดสองขวดก้อน่าจะพอ..แต่เอาให้อยู่หมัดคงต้องประมาณสักโหลแหละ...ฮ่าฮ่า ผมไปตกลงกับพี่จูเจ้าของร้านไว้ก่อนแล้วครับ ว่าผมจะเลี้ยงรุ่นพี่เพื่อนร่วมงาน.....บอกพี่จูแกว่าคนที่ผมจะเลี้ยงแกไม่ดื่มเหล้าแต่ดื่มสปายได้ โดยผมขอพี่จูว่า สปายที่ดื่มเป็นของฟรีจากทางร้านที่มอบให้ลูกค้า...(แต่ผมจ่ายตังส์ไว้แล้วตอนไปเอาบัตรจองโต๊ะ)

วันเสาร์มาถึงอย่างรวดเร็วครับ...วันนี้ผมนอนทั้งวัน...ฮ่าฮ่า จะออกล่าเหยื่อคืนนี้แล้วนี่...ร่างกายต้องฟิต....ไม่งั้นอาจโดนอุ้งเท้าเหยื่อเล่นงานเอา..ผมนัดพี่พันไว้ที่บ้านผม...บอกให้แกขี่มอเตอร์ไซด์มารับ..แล้วก้อซ้อนกันไป..ทำไมล่ะเหรอ..เหตุผลง่ายๆก้อคือทำให้แกคิดว่าคืนนี้น่าจะเป็นคืนที่เบาๆ นั่งฟังเพลงเสบายๆสร็จก้อกลับบ้านนอน...

เรามาถึงเกือบสองทุ่มครึ่งแหละ...ตอนนี้คนมากันเยอะแล้ว..โต๊ะเต็มทุกโต๊ะ....คนมาวันนี้ก้อจะประมาณมาเป็นกลุ่มส่วนใหญ่หน้าตาคุ้นๆนะแต่ไม่มีโต๊ะไหนเป็นรุ่นน้องผมเลย......ประมาณวัยทำงานซะมากกว่า...

"คนเยอะนะเอก" หลังจากที่เราได้โต๊ะแล้วเราก้อนั่งดื่มกันครับ...

"ครับ สาวๆ เยอะด้วยนะพี่" ฮ่าฮ่า...สร้างบรรยากาศการดื่มเหล้าหน่อย...สุรานารีเสียงเพลง มันของคู่กันในวงเหล้า..

"เอาอะไรกันบ้างคะ เหล้าสองแก้ว หรือสปายดีคะ" เด็กเสิร์ฟครับที่ผมเตี๊ยมกันไว้แล้ว เด็กเสิร์ฟคนนี้สวยนะครับผมจ่ายค่าเตี๊ยมไปตั้งร้อยแน่ะ...ฮ่าฮ่า

"ผมเหล้า ครับ แต่สปายคงไม่มีคนกิน น้องเอาไปกินเถอะ." พี่พันมองหน้าผมครับ...

"เขาห้ามเด็กเสิร์ฟกินค่ะ มันเป็นกฎของร้าน คือสปายนี่แถมให้นะคะ ถ้าไม่กินก้อไม่แถม คือถ้าเปิดชีวาสทางเราจะแถมสปายให้หนึ่งโหล" ฮ่าฮ่า เหมือนอย่างที่เตี๊ยมไว้เลย..น่าให้ตุ๊กตาทองเลยนะนี่...

"ว่าไงล่ะครับพี่พัน เอาหน่ยยก้อดีนะครับ เสียดาย ขวดตั้งสามสิบบาทแค่ไวน์คูลเลอร์ไม่เมาหรอกมันก้อแค่น้ำผลไม้"แกนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง....

"เอาก้อเอา ครับ" แกตกลงครับ ฮ่าฮ่าตอนนี้ แผนการณ์อันชั่วร้ายของผมประสพความสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว...

หลังจากที่เราดื่มกันครับ ผมก้อพยายามสร้างบรรยากาศนะครับ โดยการชวนแกคุยโน่นคุยนี่ คุยเรื่องสาวโต๊ะนั้นโต๊ะนี้แต่ผมจะเลี่ยงไม่คุยเรื่องแฟนแกครับ มันเป็นข้อห้าม...ของการล่าเหยื่อแบบนี้ ....

ตอนนี้สปายหมดไปหนึ่งขวดแล้วครับ หน้าตาแกเริ่มแดงแล้ว ฮ่าอ่าสังเกตุได้ชัดครับ แกเริ่มจะหัวเราะร่าแล้ว..โหอะไรจะคออ่อนขนาดนั้น...

"อร่อยดีเหมือนกันแฮะเอก หวานๆ เปรี้ยวๆ ขมนิดหน่อย ขออีกล่ะกัน" เข้าทางผมล่ะซิ

"เอาเลยครับ พี่พัน ไม่กินก้อเสียของ" ขวดสองผ่านไป ขวดสามเริ่มตามมา... สี่ทุ่มดนตรีของสุเมธและปั๋งก้อเริ่มเล่นแล้ว....ดนตรีก้อใช้ได้ครับประมาณซอฟๆ ฟังสบายๆ .......

เที่ยงคืนแล้วนักร้องกลับแล้วตอนนี้ก้อเหลือแต่วงดนตรีของที่ร้านแหละครับ วงนี้เล่นดีนะครับ จะเน้นประมาณเพลงแดนซ์หรือเพลงตลาดๆ ดังๆ....ดนตรีเริ่มเล่นแล้วครับเพลงประมาณร๊อคแดนซ์ โห ที่นั่งเงียบๆ ซึ้งๆ เมื่อกี๊แต่ละโต๊ะเริ่มลุกเริ่มแดนซ์กันแล้ว....

ผมหันไป..โหพี่พันลุกแล้ว....อะไรของแกนี่ ฮ่าฮ่า เริ่มเข้าแผนของผมเต็มๆ แล้ว ผมเหลียวไปมองขวดสปาย แปดขวดไปแล้ว ตอนนี้แกส่ายหัวไปมาแล้ว ท่าทางจะมันส์ แล้วก้อเมา.....ผมเหรอไม่ปล่อยช่วงเวลานี้ให้หลุดลอยไปหรอก ผมเลยต้องชนแกบ่อยๆ ครับ อีกสี่ขวด ต้องเอาให้หมด...

เกือบตีสองแล้วครับ...ชีวาสผมลงไปครึ่งขวดแล้ว สปายพี่พันหมดไปแล้วครับ แล้วพี่พันล่ะ....อยู่ที่โต๊ะหลับคาโต๊ะไปแล้ว..ผมกำลังเดินไปสั่งกาแฟร้อน น้ำร้อน ผ้าเย็นมาให้พี่แก.. ตอนนี้ร้านคนเริ่มทยอยกลับแล้วครับ เหลือไม่กี่โต๊ะ...ผมกลับมาที่โต๊ะโหทำไงดีนี่

"พี่ครับ ดื่มอะไรร้อนๆ หน่อย เช็ดหน้าหน่อย"

"หือ หือ" แล้วแกก้อฟุบไปอีกรอบ ผมก้อเลยต้องเช็ดหน้าแกเอง...

"เอกเอากลับไหวเปล่า" พี่จูมาถามผมครับ ตัวพี่พันก้อรู้ๆ อยู่ ตัวโต..สูงใหญ่...

"พี่จูผมขอแรงเด็กเสิร์ฟ คนล่ะกัน ผมฝากมอเตอร์ไซต์ไว้ด้วยนะครับพี่พรุ่งนี้เช้าผมแวะมาเอา"

"ได้ๆ" หลังจากนั้นผมกับเด็กเสิร์ฟก้อหอบร่างคนเมา ฮ่าฮ่า พี่พันขึ้นแท๊กซี่ด้วยความยากลำบาก ครับ .

"เอกไปไหน นี่"

"กลับบ้านพี่ พี่เมาแล้ว นอนๆ เดี่ยวถึงบ้านแล้ว"

"จะรีบกลับไปไหนล่ะ พี่ยังไม่เมาเลย... มาๆ เต้นกันต่อ..."

"โหพี่ไม่เอา ครับ อยู่บนรถ" ตอนนี้แกดิ้นๆ ครับ..ใกล้จะถึงแล้ว...

"เอก"

"อะไรพี่" ยังถามไม่ทันจบครับ เต็มๆเลยครับ แกอ๊วกใส่ตัวผมดีนะครับผมเอาเสื้อรับไว้

"พี่จอดข้างทางเลยครับ ไม่งั้นเลอะแน่ะ" พี่แท๊กซี่ก้อดีครับ แกจอดตอนี้ตัวทั้งตัวผมมีแต่อ๊วกแกครับ ...หลังจากพาแกไปอ๊วกข้างทางได้แป๊บก้อลากแกขึ้นรถ...

"อือ อือ" เฮ้อ ตัวผมมีแต่คราบอีวกแกครับ ไม่ว่าจะเสื้อ กางเกง รองเท้า...บนรถไม่ต้องพูดเลยครับกลิ่นหึ่ง...ถึงบ้านซะที.....

"พี่ครับ ผมขอแรงช่วยหามหน่ยนะครับ เดี่ยวผมให้ค่าเสียเวลาพี่ ผมเอาไม่ไหวจริงๆ" ผมขอแรงแกครับ...แกก้อใจดีนะครับ ไม่โกรธที่พี่พันทำให้รถมีกลิ่นคาว...กว่าจะหามเข้าบ้านได้ แกสร้างหลักฐานที่แกเมาไว้อีกสองหย่อม คือหน้าบ้านตรงประตูเข้า กับ หน้าห้องน้ำ.....ตอนนี้ตัวแกเปรอะไปด้วยอ๊วกพอๆกับผมแล้ว...

ผมจ่ายเงินให้ค่าแท๊กซี่ไป 400 บาทครับ ค่ารถมันแค่ 70 เองที่เหลือถือว่าทิป... คุ้มเปล่านี่...ตอนนี้พี่พันนอนสลบไสลบนเตียงครับนอนแผ่หราอยู แกหลับสนิทครับ ท่าทางแกคงอ๊วกออกหมดจนไม่มีอะไรจะออกแล้ว....

ตอนนี้ผมขอถือวิสาสะเปลี่ยนชุดผมก่อนเลยครับ... อ๊วกแกกลิ่น....งี้ หมดอารมณ์ ...ผมก้อเลยขออาบน้ำก่อนครับ ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว.. ผมเดินกลับมาที่เตียงพี่พัน....ผมมองไปที่ร่างของพี่พันที่นอนหลับอยู่..

ตอนนี้พี่พันอยู่ในอุ้งมือผมแล้ว.. ผมต้องการแกไม่ใช่เหรอ.....ตอนนี้ความรู้สึกด้านดีกับด้านชั่วของผมมันต่อสู้กันอยู่ครับ ผมกำลังสับสนมากๆเลย ผมต้องการคนๆนี้นี่ ผมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้แกมา และผมก้อกำลังจะได้ แต่....ผมมองหน้าแกครับ ตอนนี้แกเมาไม่ได้สติ ถ้าผมจัดการรวบรัดแกเลย มันก้อไม่น่าจะยากนี่ เสื้อกับกางเกงมันก้อไม่ใช่จะถอดยากอะไร แต่ถ้าผมทำแบบนั้น พี่พันตื่นมาแกจะรู้สึกไงล่ะ ผมต้องการทั้งตัวและหัวใจนี่ ....ผมหลับตาครับตอนนี้มันสับสนจริงๆ.... ผมนึกภาพตอนที่พี่พันกระโดดลงไปช่วยผมตอนผมตกน้ำทะเลตอนไปตกปลาที่ชุมพร เฮ้อ ถ้าผมทำแบบนี้ผมก้อคงเลวเต็มทนในสายตาแกแล้ว...

ผมเอามือกุมขมับปิดหูปิดตา.... ภาพพี่พันนอนแผ่หราตอนนี้มันช่างยั่วยวนกิเลสของผมเหรอเกิน...กิเลสเกย์นะครับ..ผมจะทำไงล่ะนี่ ..ผมสูดหายใจลึกๆ .... เมาๆ แบบนี้ผมต้องมีสติ...และแล้วผมก้อตัดสินใจครับ.......

อย่างแรกก้อคือถอดเสื้อแก....อย่างที่สองถอดรองเท้าถุงเท้า....อย่างที่สามก้อคือถอดกางเกง...กางเกงยีนส์นะครับ ไม่ใช่กางเกงใน แต่ถอดกางเกงยีนส์มันก้อเห็นกางเกงในแหละ...ผมพยายามหลับตาปี้แบบปิดห้านิ้ว เอามือเขี่ยๆ ไอ้นั่น .... (ฮ่าฮ่า ประมาณสาวน้อยไม่เคยเห็นของชายหนุ่มอะไรปานนั้นแหละ)  ฮ่าๆ หลังจากถอดหมดแล้วผมก้อเดินเข้าห้องน้ำครับ หยิบเอาผ้าขนหนูพร้อมถ้วยขันน้ำมาเช็ดตัวให้แก...เฮ้อกว่าจะเสร็จเหงื่อผมงี้แตกซิก...

หลังจากที่เสร็จแล้วผมก้อหาเสื้อผ้ามาใส่ให้แกครับ แต่เสื้อที่ใส่ไปเที่ยวผมก้อกองไว้แบบนั้นแหละครับข้างๆ ที่นอนไว้เป็นหลักฐานตอนแกตื่นขึ้นมา....จากนั้นผมก้อหยิบผ้าห่ม หมอนมานอนที่ห้องรับแขกครับ ไม่กล้านอนข้างๆแก กลัวใจตัวเองครับ ผมรู้ว่าผมเป็นคนไง ขืนนอนข้างๆกันมีหวังไม่เหลือครับ......

ครับอย่างที่ได้อ่านแหละผมเลือกทางนี้จริงๆ ผมยอมทิ้งความต้องการของตัวเอง...เพราะอะไรน่ะเหรอ..ผมตอบไม่ได้ครับ....อาจจะเพราะผมไม่กล้าพอ หรืออาจจะเพราะผม....ไม่อยากจะได้พี่พันมาโดยวิธีนี้....หรืออาจจะกลัวพี่พันตื่นมาตื๊บผมเอา....แต่เหตุผลจริงผมรู้ครับเพราะผมต้องการที่จะได้ทั้งตัวและหัวใจของพี่พันมากกว่า.....

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #222 เมื่อ20-07-2007 08:59:29 »

 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:

ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า

ทำไมความรักมันยากอย่างนี้

 :freeze: :freeze: :freeze: :freeze:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #223 เมื่อ20-07-2007 15:23:25 »

ดีแล้วครับ  เพราะความรักที่ได้มาโดยไม่เต็มใจ

ยังไงเราก็เก็บไว้ได้ไม่นาน

ยิ่งแย่งของคนอื่นมาด้วย ยิ่งไปกันใหญ่

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #224 เมื่อ20-07-2007 16:53:01 »


...........ได้แต่ตัวแต่ไม่ได้ใจ.........

...........สู้ไม่ได้มันเลยดีกว่า........... :o12: :o12:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #225 เมื่อ20-07-2007 17:32:30 »

ดีแล้วหล่ะที่หักห้ามใจได้แบบนี้ o13  ตอนอ่านไปก็ลุ้นไปนะว่าจะทำไรพี่พันรึป่าว คือ กลัวว่าแกตื่นขึ้นมาแกจะตืบเอก เอาอะดิ แล้วจะเสียความเป็นเพื่อนกันไปอีก   :teach: ถึงเราจะไม่ได้ตัว ไม่ได้ใจเขา แต่ก็ได้ความเป็นเพื่อนจากเขา ซึ่งมันยั่งยืนกว่า

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #226 เมื่อ20-07-2007 19:45:16 »

 o13  o13  o13

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #227 เมื่อ23-07-2007 07:50:00 »

เสือไบ:the series (ตอน 51)

ตอนนี้ผมอยู่ไหนนี่ ......อ๋อบ้านพี่พันนี่เอง ...เรานั่งที่โต๊ะรับแขกกันครับ เราสามคน ผม ....พี่พัน...และผู้หญิงอีกคน...ผู้หญิงคนนี้ชื่อรุ่ง....แฟนพี่พันเอง....บรรยากาศตอนนี้ตึงเครียดมาก....ความรู้สึกที่บรรยายออกจากหน้าตายามนี้ก็คือ

ผม...กังวลไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์ต่อไปอีกนาทีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป...

พี่พัน....กลัว เสียใจ...กังวล....แววตาแกฉายความเสียใจอย่างบอกได้ชัด....

พี่รุ่ง.... เสียใจ ตาแกเหมือนจะร้องไห้...มองพี่พันอย่างอาฆาตแค้น....

ปั๊ก พี่รุ่งแกโยนซองสีน้ำตาล ลงบนโต๊ะรับแขกมาซองหนึ่ง.....

"'เปิดดูดิ พัน  รูปในซองนี่หมายความว่าไง" พี่รุ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆ พี่พันหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมาดูพร้อมกับเปิด ผมนั่งอยู่ข้างๆ กำลังชำเลียงมอง ว่าในซองนั่นมีอะไรกันแน่....เป็นภาพถ่าย....

พี่พันเปิดดูแต่ละภาพด้วยมือที่สั่นเทา....ผมชำเลืองมองว่ามันเป็นภาพอะไร...โหตายแล้ว มันเป็นภาพผมกับพี่พันกำลังทำอะไรกันอยู่ เรทเอ็กซ์ๆ ทั้งนั้น คงเป็นเหตุการณ์เมื่อคืน......

"พันอธิบายมาซิ ว่าในรูป พันกับ เอก หมายความว่าไง."ตอนนี้ผมได้แต่ก้มหน้า...ซวยแล้ว.....พี่พันปากแกสั่นๆ แกคงตกใจ....เสียใจ...ความรักของแกท่าทางจะไปไม่รอด....ผมจะดีใจดีหรือเสียใจดีล่ะ...

"ผม ไม่มีอะไรจะอธิบาย แล้วแต่รุ่งจะคิด" หลังจากที่พี่พันอึ้งไปนาน แกเปิดปากพูดมาแล้ว...

"ที่รุ่งคิดไม่ผิดหรอก ผมกับเอก เรามีอะไรกัน"แล้ว พี่พันก็หอมแก้มผมหนึ่งฟอด

"เอ๊ย" ผมไม่ทันตั้งตัวและไม่นึกว่ามันจะออกมาแบบนี้.. ตอนนี้ผมอยู่ในอ้อมกอดพี่พัน....

"เรารักกันใช่มั๊ย ตัวเอง" พี่พันกอดผมแน่นขึ้น จนผมหายใจไม่ออก....

ผมสะดุ้งสุดตัว เอ๊ย ......ผมฝันไปนี่หว่ะ.....

ตอนนี้ผมตื่นแล้ว เหลือบมองตัวเอง เอ๊ย ผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม มันหลุดไปตอนไหนนี่ คงตอนที่สะดุ้งตื่นนั่นเอง... เอ๊ย แล้วพี่พันก็นั่งอะไรไม่ไกลจากที่ผมนอนเท่าไหร่.... โหแกจะเห็นอะไรเปล่านี่ โด่เชียวเจ้าเอกน้อย ...

ผมหอมกลิ่นข้าวต้ม ...พี่พันคงทำอะไรกินแล้วแหละ (โต๊ะรับแขกที่ผมนอนกับห้องครัวมันไม่ไกลกันเท่าไหร่)

"อ้าวเอก ตื่นแล้วเหรอ เดี่ยวกินข้าวต้มกัน"

"ครับ พี่กี่โมงแล้วครับ"

"เกือบเที่ยงแล้ว แล้วเรามานอนทำไมตรงนี้ล่ะ ยุงไม่หามเหรอ"

"โห พี่พันจะให้ผมนอนที่ไหนล่ะ "

"เตียงผมไง" แกตอบมาหน้าตาเฉยเลย ..

"เฮ้อ เหม็นอ๊วกคนเมา พี่ไม่ไหว" ฮ่าฮ่า อยากบอกว่าผมอยากจะนอนด้วยจะตายแต่กลัวห้ามใจตัวเองไม่ไหว....

"เมื่อคืนผมคงเมามากเลยแหงๆ บอกแล้วว่าผมไม่กินเหล้า ชวนจัง"

"แหะ แหะ" ก็ผมชวนเองนี่หว่ะ เฮ้อ อุตส่าห์วางแผนไว้ซะ....เหยื่อยก็ติดแล้ว แต่ทำไมใจมันไม่กล้าก็ไม่รู้...

"พี่พันเดี่ยวผมขออาบน้ำก่อน นะพี่ มึนๆ เดี่ยวออกมากินด้วย" ว่าแล้วผมก็เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ....

ผมคิดไปต่างๆ นานา  ผมทำถูกทำผิดนี่ แต่ผมก็ทำไปแล้ว ที่ไม่คิดทำอะไรพี่พันตามที่ผมต้องการ...ถ้าผมทำอะไรแกลงไป.......ผมเองนั่นแหละจะรู้สึกผิด... (เพราะตอนนั้นคาดว่าพี่พันคงจะไม่รู้เรื่องอะไร และผมคงไม่เหลือหลักฐานให้แกจับได้หรอก แกจะจับได้อย่างเดียวก็คือตื่นมาตอนที่ผมทำอะไรแกตอนนั้น ฮ่าฮ่า)

อาบน้ำเสร็จ อ้าว ผมไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนนี่.....

"พี่ พัน ผมยืมเสี้อกางเกงขาสั้น ชุดหนึ่งดิพี่ เมื่อคืนโดนใครไม่รู้อ๊วกใส่" ผมบอกแก แกชี้ไปชุดที่แกเตรียมให้ผมแล้ว โหท่าทางจะรู้สึกผิดที่อ๊วกใส่ผม..

"ชุดเราพี่ซักไปแล้วนะ ฮ่าฮ่า โทษที เมื่อคืนเมาจริงๆ เฮ้อ เอกไม่น่าชวนกินเลย สปาย"

"ไม่กินก็เสียของ  กินไปแล้ว ช่างเถอะ ครับ  แต่อ๊วกพี่ กลิ่นไม่เหม็นนะ เหมือนน้ำผลไม้เลย"

"เฮ้อ คงเมาเหมือนหมา ฮ่าฮ่า ก็ดีนะ แล้วมอเตอร์ไซด์ผมล่ะ"

"อยู่ที่ร้าน ครับพี่ เดี่ยวผมขี่มาให้"

"มากินข้าวกันก่อน เดี่ยวผมไปด้วย ให้เอกขี่มาคนเดียวได้ไง เดี่ยวรถเมล์เฉี่ยวไปจะทำไง"

"ครับ พี่ " ก็ห่วงผมแบบนี้แหละ ผมถึงไม่กล้าทำอะไรพี่ไง....

 เรานั่งทานข้าวต้ม อย่างเอร็ดอร่อย  คนเมากำลังหิวก็แบบนี้แหละ เมื่อคืนก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยหลังจากที่เมาแล้ว.....

"ช่วงบ่าย เอกไปไหนเปล่า ครับ"

"ไม่ล่ะพี่ วันนี้พัก ทำไมเหรอครับ"

"ไปนั่งตกปลา ที่แม่น้ำเจ้าพระยา ดีกว่า ไปเปล่า"

"ครับ พี่ ขอสัก ห้าโมงเย็นล่ะกัน ครับ"

"ได้ๆ เดี่ยวห้าโมง ผมรอที่ ท่าน้ำเจ้าพระยาเลยนะ เอกตามไปล่ะกัน"

หลังจากเรากินข้าวเสร็จ ผมกับพี่พัน ก็ไปเอามอเตอร์ไซด์ ที่ร้านพี่จู พี่พันโดนพี่จูแซวอีก ว่า เมาเหมือน......

"อ้าวฟื้นแล้วเหรอ พัน เมื่อคืน รู้เปล่าเอกมันหามพันกลับ ฮิฮิ.... นึกว่ามันจะถีบลงรถซะแล้ว เมา เอะอะ"

พี่พันได้แต่หัวเราะ....

หลังจากได้มอเตอร์ไซด์แล้ว พี่พันก็มาส่งที่แฟลต  ผมไม่ได้บอกนะครับ ว่าจะไปไหน ฮ่าฮ่า เรื่องของเรื่องคืออยากนอน ครับ ...ตอนนี้ภาพพี่พัน ตอนนอน บนเตียงมันตามหลอกหลอนผมเหลือเกิน (สมแล้วครับ ที่ผมโดนมิตรรักนักอ่านด่านะ ของมันอยู่คาปากแล้ว ดันคาย เฮ้อ ไม่น่าเลย เอก...)

ห้าโมง ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ ผมก็ปั่นจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ ไปที่แม่น้ำเจ้าพระยาหลังแฟลตผมประมาณแปดร้อยเมตร พี่พันวางเบ็ดรอแล้วแฮะ...

"โทษทีพี่ มาช้าไปหน่อย"

"ตกด้วยกันเปล่า ผมเอาเบ็ด เอาเหยื่อมาเผื่อด้วย"

"ไม่เอาดีกว่าพี่กลัวปลาติด.." ตกปลาที่ท่านี้ต้องระวังหน่อยนะครับ เพราะมีวัดอยู่ฝั่งตรงข้าม ...บางครั้งวัดก็จะลากศพผ่านมาที่เราตกปลากัน เฮ้อ คิดแล้วไม่อยากกินปลาเลย.....

"เอกผมมีข่าวดี ครับ"

"อะไรพี่....ได้ปลายักษ์เหรอไง" ผมงงๆ ข่าวดีอะไรแกนี่....

"วันนี้ญาติแฟนผมเค้า ไปหาฤกษ์ แต่งงานน่ะ ได้แล้ว"....ผมเริ่มอึ้งอีกแล้ว เฮ้อ ผมต้องเสียพี่พันไปจริงๆ หรือนี่...

"มีสองฤกษ์น่ะ พฤษภา กับ สิงหา" แกบอกผมอีก...

"แล้วพี่จะแต่งเดือนไหนล่ะ"

"คงต้องสิงหาแหละเอก ผมยังไม่พร้อมเลย นี่กะว่าจะกู้สหกรณ์ มาแต่ง แต่ก็คงไม่พอ" ชีวิตราชการอย่างพวกผมก็แบบนี้แหละ.... ถ้าบวชหรือแต่งงานก็จะกู้สหกรณ์ไปบวชหรือแต่งงาน...

"ครับ พี่ มีอะไรให้ผมช่วยก้อบอกได้นะพี่ แล้วสินสอดล่ะพี่ แพงเปล่า..."

"ก็พอได้แหละ แต่ แฟนผมคงออก ...ผมไม่มีปัญญาหรอก...เฮ้อ ก็แบบที่เอกเคยบอกสาวๆแหละ รักพี่ต้องหนีตาม"

"แม่ยายพี่ไม่ว่าเหรอ..."

"ก็แม่เค้าบอกแบบนี้ อยากอุ้มหลานเร็วๆ"

"ครับ ดีแล้วพี่ อายุพี่ก็มากแล้ว" ผมพูดประชดไปงั้น ตอนนี้ใจมันหวิวๆ เหมือนสูญเสียสิ่งที่ดีอย่างหนึ่งในชีวิตไป....อายุแกก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับแก่กว่าผมสองปี ผมเบญจเพศ...

"แต่งเสร็จ ผมก็คงต้องย้ายไปอยู่ ที่ชลบุรีเลยน่ะ..." เฮ้อ นี่ผมจะไม่ได้เจอแกแล้ว....อาจจะได้เจอตอนแกมาแข่งกีฬาหน่วยงาน...เฮ้อปีละครั้งก็ยังดี...

"ครับ พี่" ผมหมดแรงที่จะคุย หมดแรงที่จะพูดไปแล้ว ผมมองเหม่อไปที่ดวงอาทิตย์ที่กำลังตก....ดวงอาทิตย์ตกมายังมีวันขึ้นมาให้ผมเห็น นี่พี่พันจะไปแล้ว ผมคงเหลือเวลาความสุขอีกไม่นาน...เวลาความสุขสำหรับผมทำไมมันเร็วจัง ผมยังไม่ได้ตั้งตัวที่จะเสียแกไปเลย....

"เอกจะเอาบ้านผมเหรอเปล่า ผมให้"แกจะให้สิทธิ์ในการครอบครองบ้านของแกให้ผม....

"ขอบคุณครับพี่ แต่ไม่ล่ะพี่ มันไกลไปครับ น่ากลัว ด้วย ดึกๆ นอนคนเดียวไม่ไหว" นี่คือเหตุผลที่ผมบอกแกไป แต่ความจริงไม่ใช่หรอก... ผมไม่อยากเก็บความทรงจำที่ดีๆ มาคอยตอกย้ำผมไง..ผมรู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี รู้สึกมันเหมือนครอบครัวดีน่ะ ...

หลังจากกตกปลาที่แม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว พวกเราก็กลับบ้านกัน พี่พันตกปลาได้มาสองตัว....

ตอนนี้ ความรู้สึกสูญเสีย ความรู้สึกเหงา ความรู้สึกอ้างว้างเริ่มเข้ามาหาผมอีกแล้ว ผมจะเสียแกไปอีกแล้ว ผมจะเสียคนที่ผมรัก คนที่ผมอยากอยู่ใกล้ๆ คนที่ผมอยากเป็นเจ้าของ... แต่ผมก็ควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ คนที่ผมรักเค้ากำลังจะสร้างครอบครัวใหม่....กับคนที่เค้ารัก...ผมก็น่าจะดีใจแล้ว ที่เห็นคนที่ผมรักมีความสุขกับคนที่เค้ารักซึ่งไม่ใช่ผม.....ยิ่งคิดยิ่งเจ็บปวด......

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #228 เมื่อ23-07-2007 07:57:02 »

เสือไบ:the series (ตอน 52)

ผมกำลังจะสูญเสียคนที่ผมรักไปอีกแล้ว.....ความรู้สึกแบบนี้ทำไมมันเกิดกับผมซ้ำแล้วซ้ำเล่านี่...คนที่ผมรักคนที่ผมอยากอยู่ใกล้ เค้ากำลังจะจากผมไป...จากไปอย่างไม่มีวันกลับ...จริงอยู่ ผมอาจจะเจอเขา อาจจะได้ยินเสียงเขา...แต่เขาคนนั้นไม่ได้เป็นเหมือนเดิมแล้ว เขามีเจ้าของแล้ว...ทำไมผมต้องเจอแบบนี้...ตอนนี้ผมอ่อนแอลงทุกทีๆ .......

ห้าวันเต็มๆ  ผมลาพักร้อน ความจริงลาไปก็ไม่ได้ไปไหนหรอก ผมเก็บตัว ปิดโทรศัพท์ ไม่ออกไปไหน...ผมขอหมกตัวอยู่ในห้อง...เฮ้อ ธรรมดา เวลาผมอกหักผมก็จะไปเล่นกีฬา แต่ตอนนี้ถ้าผมไปเล่นผมว่าผมยิ่งจะเจ็บมากกว่าเดิม เจ็บที่ได้เห็นพี่พัน เจ็บที่พี่พันเขากำลังจะแต่งงานกับคนที่แกรัก... เฮ้อ ผมท่าจะบ้าไปแล้ว.....

ผมเปิดโทรศํพท์ดู โห เอสเอ็มเอสมาตรึมเลย....

"เอก ทำไมปิดเครื่อง.. เป็นอะไรหรือเปล่า ผมเป็นห่วงนะ"

"เจอกันที่สนามเทนนิสนะ เย็นนี้.."

"กินข้าวคนเดียวเหงาจังครับ เป็นอะไรเหรอเปล่า.."

"ผมไปบ้านเอกมา บ้านปิดก็เลยกลับ"

"ไอ้เอก มรึงปิดเครื่องทำห่าอะไรวะ กรูจะชวนมรึงไปมอร์แกน" อันนี้ของไอ้กาย...

โอเค ผมพร้อมที่จะเจอพี่พันแล้ว หลังจากที่ใช้สมองอันบ้าๆ คิดว่าถ้าผมเป็นแบบนี้ต่อไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นผมน่าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้อยู่ใกล้กับคนที่ผมรัก.....พยายามเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ ไว้ ก่อนที่เขาจะจากผมไป.....

"หายไปไหนมาครับ" พี่พันทักผม

"ลาพักร้อนไปทำใจ พี่ช่วงนี้เบื่อๆเรื่องงาน' ฮ่าอ่า ครึ่งแรกน่ะใช่ ครึ่งหลังผมต้องโกหก...

หลังจากวันนั้นผมกับพี่พันก็เจอกันทุกวันไม่เว้นเสาร์อาทิตย์ ผมมักจะหาข้ออ้างเจอแกประจำ อย่าว่ากันนะ ที่ผมเห็นแก่ตัวแบบนี้ ....

วันเสาร์ประมาณเดือนกรกฎาคม ใกล้งานแต่งงานพี่พันแล้ว....เมื่อคืนผมมานอนค้างที่บ้านแก แค่นอนค้างนะครับ ไม่ได้มีอย่างอื่น...ตอนนี้ผมไม่มีความคิดแบบนั้นแล้ว คือเรื่องของเรื่องผมต้องมาช่วยแกพิมพ์ซองแต่งงาน...หลังจากที่เรากินข้าวเช้ากันเสร็จ ตื๊ดๆ มีโทรศัพท์ของแกเข้ามา...แกรับ..

"เอก ผมต้องไปถ่ายรูปน่ะ ช่วยผมทำต่อนะให้เสร็จวันนี้เลย พรุ่งนี้ต้องเอาไปแจกแล้ว'

"ครับ พี่ เดี่ยวผมทำให้เสร็จเลยเหลืออีกไม่เยอะ ถ่ายให้หล่อๆ เลยนะพี่ ฮ่าฮ่า'

หลังจากที่แกไปแล้วผมก็พิมพ์ซองการ์ดแต่งงานให้แก โห เยอะเหมือนกัน เกือบๆ สี่ร้อยซองแหละ...

แล้วก็ถึงวันที่แกแต่งงานครับเดือนสิงหาคม แกแต่งที่ชลบุรี ผมไปกับพี่โอ๋ ประมาณเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ฮ่าฮ่า ..แกแต่งงานแบบจีน ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่....

เก้าโมง เราต้องแห่ขันหมากกัน แบบจีนๆ

เกริ่นๆ หน่อยล่ะกันนะครับ พิธีเต็มๆ ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นแบบนี้เหรอเปล่า..

ก่อนแต่ง: เมื่อตกลงจะแต่งงานกัน.....ฝ่ายชายจะเอาดวงของคู่บ่าว-สาว ไปให้ซินแสทำการ “ซึ้งเมี้ย ” ( ผูกดวง) หลังจากนั้นฝ่ายชายก็จะทำการ “ทงใจ๋ ” คือส่งข่าวรายละเอียดของฤกษ์ยามต่างๆ เช่นฤกษ์สระผม ตัดผม ว่าเป็นวันไหน เวลาไหน ฯลฯ

ข้าวของที่เจ้าสาวต้องเตรียม : มีมากมาย เพื่อไม่ให้ฝ่ายชายดูถูกว่า “มาแต่ตัว” แต่คงไม่ต้องเตรียมเอง ไปหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์วิวาห์ของชาวจีนที่เยาวราช......ของใช้เหล่านี้ต้องใหม่ เป็นสีแดงหรือสีชมพู ทุกอย่างต้องจัดเป็นคู่ ประกอบด้วย ถังน้ำสีแดง กระป๋องน้ำสีแดง กระโถน กระจก กรรไกร เข็ม ด้าย ถาด กะละมังสีแดง หมอน1ชุด ส่วนใหญ่ใช้สีชมพู ประกอบด้วยหมอนข้าง 1 คู่ หมอนหนุน 1 คู่ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หวีสี่เล่ม เพื่อเป็นมงคลและมีนัยหมายถึง มีเงินทองไหลมาเทมา เอี๊ยมแต่งงานสีแดงผืนเล็ก ( ไม่ได้ให้เจ้าสาวนุ่ง แต่ใช้ประกอบพิธีเท่านั้น เอี๊ยมจะปักอักษรจีน อ่านแบบแต้จิ๋วว่า “แป๊นี้ไห่เล่า” หมายถึงอยู่กินกันจนแก่เฒ่าถึงร้อยปี และยังปักภาพกิเลนและมังกร ) ต้นเมียหลวงหรือต้นชุงเฉ้า ( คล้ายต้นกุยช่าย ) พัดจีนสีแดง ( ไว้ให้เจ้าสาวถือ ) แผ่นหัวใจสีแดงทำจากผ้าสักหลาด สำหรับวางเครื่องประดับ ที่เป็นสินสอดของหมั้น ......ดูเหมือนซื้อครบชุดราคาราวๆ 1 หมื่นบาท ( แพงเนอะ !!!! )

สิ่งที่ฝ่ายชายต้องเตรียม : ก็คือเครื่องขันหมาก นิยมใช้ส้มเช้งผลเขียวๆ ติดตัวหนังสือ “ซังฮี่” ทุกผล จำนวนเป็นเลขคู่ พร้อมเครื่องขันหมากอื่นๆ ซึ่งอาจเป็นชุดหมู คือเป็นขาหมูทั้งขา มา2 ข้างแบบสดๆ หรืออาจเป็น ตับหมู หัวใจหมู กระเพาะหมู ให้มาทั้งดิบๆ ทุกอย่างติด “ซังฮี่” สีแดง .....นอกจากนี้ก็มีขนมขันหมาก ( ขนมแต่ง ) แบบขนม 4 สี หรือขนม 5 สี จำนวน 4 อย่าง หรือ 5 อย่าง แล้วแต่นิยม

วันยกขันหมาก : ฝ่ายหญิงมอบของที่เตรียมไว้ให้ฝ่ายชายไป ซึ่งรวมถึงเอี๊ยมแดงที่เสียบปิ่นทอง โดยฝ่ายชายจะต้องคืนปิ่นทองมาให้ฝ่ายหญิงในเช้าวันส่งตัว เพื่อเจ้าสาวใช้ติดผมตอนออกจากบ้าน.......ฝ่ายหญิงยังต้องเตรียมส้มเช้ง จำนวนเป็นคู่ ติด“ ซังฮี่” เช่นกัน และต้องคืน“ขนมแต่ง ”ที่ฝ่ายชายให้มา โดยคืนกลับไปครึ่งหนึ่ง

วันออกเรือน ( คืนส่งตัว ) : เจ้าสาวใส่ชุดแต่งงาน ทำผมประดับปิ่นทองและใบทับทิม ปิ่นทองทำเป็นลาย “ยู่อี่ ”หมายถึง สมปรารถนา....แล้วเจ้าสาวไหว้เทพยดาฟ้าดิน เจ้าที่ และบรรพบุรุษ ....เมื่อฝ่ายชายมาถึง ฝ่ายหญิงต้อนรับด้วยน้ำชาและขนมอี๊ พอได้เวลา เจ้าบ่าวและ“เล่าตั้ว” ( พี่เลี้ยงเจ้าบ่าว ) จะต้องฟันฝ่าประตูเงินประตูทองของฝ่ายหญิง โดยจ่าย “อั่งเปา”จนครบ แล้วเจ้าบ่าวจึงเข้าไปมอบช่อดอกไม้ให้เจ้าสาว ซึ่งแต่งชุดวิวาห์ ถือพัดแดงนั่งคอยอยู่ : )

วันรับตัว: ก่อนออกจากบ้าน บ่าวสาวคู่แต่งงานจะต้องนั่งกินขนมอี๊ชมพูด้วยกัน..... เสร็จแล้วจึงไหว้ลาพ่อแม่ ไปขึ้นรถแต่งงาน( นิยมรถเบนซ์ ผูกโบว์ชมพู ) ..ฝ่ายหญิงต้องมีญาติที่เป็นผู้ชาย ถือตะเกียงที่จุดสว่าง นำหน้าขบวนไป ( จะนั่งรถคันหน้า หรือนั่งรถบ่าวสาว แต่นั่งข้างหน้าก็ได้ ) ถึงบ้านเจ้าบ่าว ก็จะต้องนำตะเกียงไปตั้งในห้องนอนและให้จุดไว้ตลอดคืน....เมื่อถึงบ้านฝ่ายชาย คู่บ่าวสาวต้องไหว้ฟ้าดิน เจ้าที่เจ้าทาง บรรพบุรุษ ไหว้พ่อแม่ ยกน้ำชาให้พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย แล้วก็กินขนมอี๊สีชมพู.......บางบ้าน เจ้าบ่าวจะเอามือเท้าประตูไว้ให้เจ้าสาวมุดเข้าไป เป็นเคล็ดว่าให้ผู้หญิงอยู่ใต้อำนาจสามี ( ได้ไง !!! )

วันตึ่งฉู่ : สามวันหลังวันแต่ง ( บางแห่ง 12 วัน ) เจ้าสาวจึงจะกลับบ้านพ่อแม่ได้ เรียกว่า “ตึ่งฉู่ ”โดยต้องมีน้องชายเจ้าสาวมารับ และเตรียมส้ม 12 ผลใส่ถาดไปด้วย .....ที่บ้านฝ่ายหญิง คู่แต่งงานต้องทำพิธี “ขั่งเต๊ ”หรือยกน้ำชาให้พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิง ผู้ใหญ่จะให้พรและของขวัญ......นิยมเป็นทรัพย์สิน เพื่อให้คู่แต่งงานได้ตั้งตัว

ท้ายสุดอย่าลืมแม่สื่อ ( บ่วยนั้ง ) ตามธรรมเนียม ฝ่ายชาย ต้องตอบแทนแม่สื่อด้วยขาหมู และเงินเป็นมูลค่า 5 เปอร์เซ็นต์ ของสินสอดที่ให้ฝ่ายหญิง................อีกอย่าง เท่าที่เคยเห็น ฝ่ายหญิงยังต้องเตรียมแหวน ( เพชร ) ไว้แลกกับเจ้าบ่าวด้วย.....ไม่แน่ใจว่าเป็นธรรมเนียมของทุกบ้านหรือแล้วแต่จะทำ........

ตอนนี้เก้าโมงกว่าๆ แล้ว ขบวนขันหมากเริ่มแล้ว ผมถือถาดประมาณถาดผลไม้ คนอื่นๆถือถาดกันอีกเพียบผมจำได้ไม่หมด เมื่อเช้าผมกับพี่โอ๋ต้องช่วยกันเอาเงินใส่ซองแดงให้พี่พัน ประมาณเงินอั่งเปาค่าผ่านประตูเงินประตูทอง ค่าเถ้าแก่ ค่าเด็กๆ ....ยุ่งยากจริงๆ แต่ก็สนุก สงสารพี่พันตอนต้องกินขนมกับพี่รุ่งนี่แหละ ....เฮ้อ ขนมอี๊ ไม่รู้รสชาดจะเหมือนขนมโก๋เหรอเปล่า....(ฮ่าฮ่า เกิดมาไม่เคยแต่งงานซะที)

เสร็จพิธีแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นรถไปแล้ว....ไปที่จัดงานเลี้ยงครับประมาณภัตาคาร(กลางเมืองชลบุรี) ผมนั่งรถพี่โอ๋ไป เฮ้อ เห็นแกมีความสุข ผมก็มีความสุขแล้ว (แต่ในใจมันหวิวๆ เหวงๆ ไงไม่รู้) วันเวลาที่จะได้เจอแกเหลือน้อยเต็มทีแล้ว เฮ้อเจ้าความรักทำไมถึงเล่นตลกกับผมแบบนี้นะ......


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #229 เมื่อ23-07-2007 09:37:41 »

รักที่เป็นไปไม่ได้
 :o12: :o12: :o12: :o12:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เสือไบ:the series by matheww
« ตอบ #229 เมื่อ: 23-07-2007 09:37:41 »





theera

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #230 เมื่อ23-07-2007 15:38:18 »

เห็นใจจังคับ :m8:

ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #231 เมื่อ23-07-2007 16:15:15 »

รักเค้าแล้วเก็บเอาไว้ ก็ต้องช้ำใจแบบนี้แล  :try2:

ทิ้งไว้แบบนี้หลายคน จะกินแห้วนะค๊าบบ เอก

รอ No.3 9อปายยย o3

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #232 เมื่อ23-07-2007 18:42:13 »

 :m15:กะแล้ว ว่าต้องจบคล้ายๆพี่พี เฮ้อ  :เฮ้อ: เศร้าจัง    รอ No.3 คนต่อไปละกัน  :m8:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #233 เมื่อ23-07-2007 20:47:21 »

No. 2 จบได้สวยกว่า No. 1 นะ อย่างน้อยก็รู้สึกดี ๆ ต่อกันอยู่
รอ No.3 ต่อปายยย  :m1:  :m1:

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #234 เมื่อ24-07-2007 08:15:34 »

เสือไบ:the series (ตอน 53)

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมได้มาบ้านพี่พัน ประมาณมาช่วยแกเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปที่ชลบุรี...ของเยอะเหมือนกันแฮะไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มโสดจะมีของเยอะแบบนี้....โทรทัศน์ ...ตู้เย็น เตียง ฯลฯ.....ขนใส่ประมาณรถสิบล้อแ...

ขนตั้งแต่สิบโมงเช้า.....จนถึงบ่ายสาม.....

"เสร็จสักที" ผมกับพี่พันตอนนี้เหงื่อท่วมตัวเลย  ก็ขนกัน 4 คน ผม.. พี่พัน...แล้วก็คนขับรถที่จ้างมาสองคน...

"เอกตกลงคุณไม่เอาบ้านผมไว้เหรอ" พี่พันถามผมอีก คือเรื่องของเรื่องแกอยากจะให้ผมมาอยู่แทนแกแหละ แต่ผมมาคิดดูแล้วไม่เอาดีกว่าบ ผมไม่อยากให้ความทรงจำดีๆ ของเราสองคนมาหลอกหลอนผมตลอดเวลา....

"ไม่เอาล่ะพี่ ผมมีแฟลตแล้ว อยู่หลายที่ค่าใช้จ่ายมันเยอะ"

"ไม่เอาก็ไม่เอา"  หลังจากเสร็จแล้วพวกเราก็มานั่งคุยกันตรงริมน้ำหลังโรงพยาบาล...พี่พันไม่ได้กลับพร้อมรถขนของ ...แกบอกว่าแกมีธุระตอนเย็นๆ....

"ว่างๆ แวะมาเที่ยวหาผมบ้างนะครับ อย่าไปแล้วไปเลยล่ะ" ฮ่าฮ่า ผมเริ่มอ้อนแกก่อน ตอนนี้ในใจผมมันเหมือนคนที่สูญเสียของที่มีค่าอย่างหนึ่งไปแล้ว....ผมมองเหม่อไปในบึงน้ำ..แดดกำลังดีครับลมพัดเฉื่อยๆ...แต่ในใจผมตอนนี้มันวุ่นวายสับสนไงไม่รู้....

"ได้ๆ แต่ไม่รู้จะได้มาเหรอเปล่า ถ้ามาคงเจอกันช่วงแข่งกีฬาหน่วยงาน"

"ครับ...แล้วพี่มีโครงการจะปั๊มลูกเลยเหรอเปล่า" ผมถามอีกเพราะหลังจากที่แกแต่งงานและไปฮันนีมูนกันแล้ว ผมก็ไม่เห็นแกมีข่าวดีเรื่องเจ้าตัวเล็กเลย...

"ตอนนี้ คงยังครับ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องเงิน และ งาน"

"แต่งงานนี่มันก็ยุ่งยากเหมือนกันแฮะ....เห็นพี่แต่งงานแล้วผมชักไม่อยากจะมีแล้ว..." อันนี้เฉไฉ เพราะตอนนี้บรรยากาศมันเงียบๆ ..วังเวงๆ ไงไม่รู้...

"ฮ่าฮ่า ....แต่งเมื่อไหร่อย่าลืมโทรไปบอกด้วยล่ะ ผมมาแน่นอน"

"ครับ พี่" จะบอกแกว่าไงนี่ว่าผมคงไม่แต่งงานหรอก...ผมยังไม่พร้อมที่จะหลอกใคร...ยิ่งคนที่เขาต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับผมด้วยแล้ว....ผมสงสารเขา...ยิ่งคิด....ใจผมยิ่งวุ่นวายมากขึ้น ตาผมตอนนี้เริ่มมีน้ำตาไหลซึมๆ แล้ว....คิดถึงหน้าตาพี่พัน คิดถึงเวลาที่เรามีต่อกัน คิดถึงตอนที่ผมกอดเอวแก...ยิ่งคิดมันยิ่งสะเทือนใจครับ ความรู้สึกมันยากจะบรรยายจริงๆ ผมพยายามซ่อนน้ำตาไว้ แต่ตอนนี้มันกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว...

พี่พันหันมาพอดีเลย...ตาผมแดงน้ำตาผมซึมออกมาแล้ว....

"ร้องไห้ทำไมล่ะครับ" อ้าวถามแบบนี้ผมจะตอบไงล่ะ....

"ปล่าว พี่ ฝุ่นคงเข้าตา ครับ" ผมฝืนยิ้ม ฝืนทำตัวให้ร่าเริงแต่มันไม่ไหวแล้วจริงๆ...

ผมเงียบไป เมื่อวานก่อนนอนผมคิดแล้วว่าวันนี้ไงมันต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้.....ผมอยากจะบอกความในใจที่ผมมีกับแก....แต่บอกไปจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ ถึงบอกไปว่า....ผมชอบแก ผมรักแก....แกจะรับได้เหรอ...แกจะทำใจได้เหรอที่ผมเป็นแบบนี้....บอกไปแล้วแกจะไม่ไปจากผมเหรอ...แกจะยอมทิ้งชีวิตแกและคนที่แกแต่งงานด้วยมาอยู่กับผมเหรอ....มันคงไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก.....

"ไหนมาดูซิครับ ฝุ่นเข้าตาจริงๆ เหรอเปล่า" เอาแล้วผม ....เจอของจริงเข้าแล้ว.....พี่พันมองที่ตาผมแล้วเอามือมาเช็ดน้ำตาให้...น่าอายจังครับตอนนั้น แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ....

"ไม่เห็นมีเลย....โอ๋ไม่เอาน่ะ ผมไปแล้วไปลับที่ไหนล่ะ เราคุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้"

"ไม่รู้พี่ ผมรู้สึกใจหายไงไม่รู้....พี่พันอย่าลืมดิ พักหลังๆ ผมกับพี่เจอกันแทบทุกวัน....คนเรามันต้องมีบ้างแหละน่า...คนมันเคยเห็นหน้ากันทุกวันนิ.....หนีผมไปอยู่กับเมียซะไกลเลย... ใจร้ายจริงๆ" ผมพยายามทำเหมือนมันเป็นเรื่องขำๆ ...

"แหมๆ ผมขอโทษครับ เอก...."

"ไม่เป็นไรพี่ ผมก็คงเหมือนบึงนี้แหละ มันเคยเห็นพี่มาตกปลา มาเล่นกีตาร์ที่นี่ อีกหน่อยมันก็คงไม่เห็นแล้ว"

"เฮ้อ....ผมชักไม่อยากจะไปแล้วดิ...คิดถึงบึงนี้ คิดถึงโรงบาลแล้วก็คิดถึง........"

"โหไปเถอะพี่ เดี่ยวพี่รุ่งก็งอนเอาหรอก" ผมแย่งพูดก่อน กลัวแกจะบอกว่า....แล้วก็คิดถึงผม....

"แล้วพี่จะกลับชลบุรีกี่โมงครับ" ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

"คงดึกๆ น่ะ กว่าจะเสร็จะธุระ ไปด้วยกันเหรอเปล่าล่ะ...."

"ไม่ล่ะพี่ เดี่ยวผมจะกลับบ้านลุงเหมือนกัน งั้นกลับกันเลยล่ะกันนะพี่...."

ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ถ้าขืนอยู่คุย อยู่เห็นหน้า อยู่เห็นรอยยิ้ม แบบนี้ต่อไป ผมมีแต่จะร้องไห้...ผมไม่อยากให้แกเห็นน้ำตาผม ไม่อยากให้แกคิดว่าทำไมผมถึงร้องไห้...ผมขอกลับไปเจ็บคนเดียวที่ห้องดีกว่า.....คืนนั้นทั้งคืนผมนอนคิดนอนร้องไห้(อีกแล้ว หลังจากที่ไม่เคยร้องไห้มานาน).....นอนจนหลับ ตื่นมาตาแดงซ้ำ....

ตอนนี้พี่พันเดินจากผมไปแล้ว... ตลอดหนึ่งปีที่แกเดินผ่านเข้ามาในชีวิตผม แกทำให้ผมมีความสุขมากๆ แกทำให้ผมรู้สึกเหมือนผมมีคนรัก คนคอยดูแล เอาใจใส่....เฮ้อ แต่มันคงถึงเวลาที่ผมจะต้องทำใจแล้ว......แกต้องเดินจากผมไปเพื่อสร้างชีวิตครอบครัวของแก...

เรื่องราวของนัมเบอร์ 2 ของผมก้อจบแล้ว จบแบบดีๆ แม้ผมจะเสียใจที่แกจากผมไป แต่ผมก็ดีใจที่ผมได้เห็นคนที่ผมรักมีความสุขกับชีวิตครอบครัว กับคนที่แกรัก......

mathewwww

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #235 เมื่อ24-07-2007 08:17:25 »

เสือไบ:the series (ตอน 54)

หลังจากโศกเศร้ากับการไปของพี่พันได้ไม่กี่วัน ผมก็กลับมาสู่โลกความจริง เศร้าไปจะได้อะไรขึ้นมาล่ะ....เศร้าไปพี่พันแกก็ไม่กลับมาหาผมหรอก......หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ผมไม่ค่อยได้เที่ยวไม่ค่อยได้ดื่มเหล้าสักเท่าไหร่ถ้าเทียบกับตอนที่ผมสนิทกับพี่พี หรือตอนที่จบมาใหม่ๆ....ว่าแล้วเย็นนี้หาเหล้าดื่มหรือเจอเพื่อนสังสรรซะหน่อย....คืนนี้ผมเลือกไอ้เรย์ล่ะกันตั้งแต่ที่มันย้ายไปอยู่กับแฟนผมก็ติดต่อมันอยู่..บางครั้งก้อไปหามันบ้างช่วงเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดตอนนี้มันอยู่กับ ปอ (แฟนมัน)...มีโครงการจะแต่งงานกันอีกไม่นาน.....

"ฮาโหล....เรย์เหรอวะ เย็นนี้ว่างเปล่า เดี่ยวกรูเข้าไปหาพวกมรึงที่บ้านนะ" บ้านมันกับปออยู่แถวเสนา...

"อ้าวมรึงเองเหรอวะไอ้เอก กรูนึกว่ามรึงตายไปซะแล้วหายหัวไปนานเลยนะมรึง"

"อือ กรูไม่ค่อยว่าง แต่วันนี้กรูว่างน่ะ เจอกันที่บ้านนะ ทำงานเปล่า.."

"ทำ เลิกเย็น เย็นนี้พวกกรูฉลองกัน มาได้เลยนะ"พวกทำงาน tagsข้างการบินไทยแหละครับ

"ได้ๆ"หลังจากที่คุยเสร็จผมก้อกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว...ผมยังไม่ไปซ้อมเทนนิสนะครับยังทำใจส่วนนี้ไม่ได้...

มาถึงบ้านไอ้เรย์ตรงเสนาเกือบทุ่มแหละ เฮ้อ รถแถวนี้ทำไมมันขยันติดจัง.....ไปถึงสมาชิกครบ....หน้าเดิมๆ

"แหมเอก แกหายไปเลยนะโว๊ย " ปอแฟนไอ้เรย์ทักเมื่อเห็นผม...

"แหมเจ๊ ก็ เอกก็ติดงานติดหญิงเหมือนกันนิ" ผมเรียกปอว่าเจ๊ ประจำ ประมาณว่าผมไม่อยากแก่น่ะ....

"จ้า กินอะไรมาเหรอยัง มาๆ เดี่ยวชงเหล้าให้"

กิจกรรมที่นี่ก็แบบนี้แหละครับ เมา.....เล่นไพ่..คุยกันประสาเพื่อนฝูง... จนเช้าบางทีสามวันติดยังมีเลย...

สโลว์แกนวงนี้ก้อประมาณ  "เงินทองเรากินกัน ความสัมพันธ์เรายังอยู่......"

"ไอ้เอก เดี่ยวมีเพื่อนปอมาแจมอีกคนน่ะ สวยนะเฟ๊ย จีบดิ" อ้าวเวนยุกันแบบนี้เลยเหรอ.....

"อือ" ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้สนใจอะไรหรอก... ผมนึกว่าสวยของมันก็ประมาณปอแหละ....คือประมาณว่าไอ้เรย์มันไม่ค่อยสเป็คหญิงเท่าไหร่ ขอสวยๆ ผมยาวๆ เอาใจเก่งๆ ก็พอแล้ว หน้าตาก็ไม่ต้องสวยมาก.....

ตอนนี้เรานั่งโจ้เหล้ากันอยู่ โดยมีปอเป็นคนชงให้....อือ..ก็อย่างว่าแหละ มาดื่มเหล้านี่.จะให้นั่งตบยุงได้ไง..สักพักเสียงเคาะประตูดังขึ้น...

"เอก มรึงไปเปิดประตูหน่อยดิวะ นังป่านคงมาแล้วแหละ" ผมนั่งใกล้ประตูสุด...

ผมเดินลุกไปเปิดประตู....แหมใช้แขกเลยนะเฟ๊ยไอ้เพื่อนเวน...ผมเปิดประตูออกมา....

โหภาพที่เห็นประมาณนางฟ้าเลย....เคยดูละครหลังข่าวเวลา พระเอกเจอนางเอก หรือตัวรองเจอนางเอกประมาณนั้นเลยครับ ผม.....ตะลึงในความสวย.....(ประมาณโคนาสมูทอี ที่น้องจุ๋มเดินมาแล้วเศษแก้วตกดังเพล้งแหละ...แต่คนนี้เค้าสวยจริงๆ น้องๆ แพนเค้กนางเอกช่องหลายสีเลย)

"เออ คือ..." พูดอะไรไม่ออก แต่จะพูดไปทำไมนี่...เค้าใช้มาเปิดประตู..

"มาหาปอ ค่ะ" แล้วเธอคนนี้ (ตอนหลังรู้ว่าชื่อป่านครับ) ก็เดินเข้าข้างใน

หลังจากที่แนะนำกันให้รู้จักกันแล้วผมก็มีความกล้ามาขึ้น ฮะแน่ ก็คนเค้าสวยนี่ หมาอย่างผมก็ต้องแหงนมองเครื่องบินเป็นของธรรมดา...โบร๋ว.. อย่าเพิ่งแปลกใจน ว่าทำไมผมถึงสนใจผู้หญิง... มันไม่แปลกหรอกครับผมไม่ใช่เกย์ที่ชอบผู้ชายอย่างเดียวนี่...ผมชอบผู้หญิงด้วย.....ไม่งั้นผมจะไปอาบอบนวดกับเพื่อนร่วมงานตอนเงินเดือนออกเป็นประจำไปทำไมล่ะ....เสือไบก็แบบนี้แหละ ได้ทั้งชายทั้งหญิง.....

หลังจากกินเหล้าได้กำลังกรึ่มๆ...

"ปอ ข้าว่าตั้งวงดีกว่า หว่ะ" ป่านชวนเล่นไพ่ซะแล้ว....

"ว่าไงล่ะเอก...แกเล่นเปล่าวะ"ปอถามผม...

"เล่นอะไรดีล่ะ เอกไม่อยากเป็นเจ้านะ คนเยอะๆ แบบนี้เล่นเก้าเก ดีกว่า..."

"อือได้" แล้วพวกเราก็ตั้งวงเล่นไพ่กัน...ผมไม่ค่อยมีสมาธิในการเล่นเท่าไหร่เพราะอะไรน่ะเหรอ....

ก็ป่านล่ะซิครับ วันนี้ใส่ชุดทำงานมาประมาณเสื้อกระโปรงสีเหลืองสั้นๆ เธอนั่งข้างๆ ผมด้วยดิ แหมเล่นไปแทงไปขยับทีผมหวั่นไหวซะทุกครั้ง โหจะไม่ให้หวั่นไหวได้ไงล่ะ ขาว หมวย สวย อึ๋ม ขนาดนี้ (ประมาณอั้ม+ได๋) ผมยาวๆ ลีลาอ้อนๆ ยั่วๆ เวลาขอดูไพ่หรือภาษาชาวบ้านเรียว่าจับไก่... เธอก็จะเอามือไม้มาจับผมอย่างที่ไม่น่าเรียกว่าเป็นการรู้จักกันครั้งแรก....แบบนี้จะไม่ให้ผมหวั่นไหวได้ไงล่ะ....

"เอก สองร้อย จะเกทับเหรอเปล่า" โหมีท้า....ตานี้เหลือผมกับป่านสองคน คนอื่นหมอบกันหมดแล้ว...ผมมองดูหน้าไพ่ ไพ่ผมก็จัดกว่าดีนะนี่ ...จะหมอบก็กระไร เงินตรงหน้าตักกลางวงก็เยอะด้วยดิ...

"เกไปอีกสองร้อย" ฮ่าฮ่า ขอจับไก่ก่อนนะจ๊ะ.....

"โห เอก" ตอนนี้ป่านมันทำสายตาเย้ายวนอีกแล้ว...เล่นไพ่กันนะนี่ ทำไมต้องใช้มารยาหญิงด้วย ฮ่าฮ่า...อ้าวมือไม่อยู่สุขอีกจับขาของผมอีก...ผมก็นะ ได้ทั้งเหล้า ทั้งไม่มีหญิงผ่านมือมานาน....ฮ่าฮ่า....

"จะสู้ หรือจะขอดูล่ะ" ผมถามอีก

"ขอดูล่ะกัน แกเท่าไหร่วะ มาดูกันสองคน"  โหดูกันสองคนจริงๆ  ป่านทำประมาณเอาหัวมาซบอกผม...และก็ดูไพ่ผม.....คนอื่นกระแอมกันใหญ่...

"เออแกกินไปล่ะกัน..." ฮ่าฮ่า ไก่มาเหรอป่าน ระดับเอกไม่มีไก่อยู่แล้ว....

"เดี่ยวมานะเล่นกันไปก่อนเข้าห้องน้ำแป๊บ"

"แหม แกไปเล่นของเหรอฟะ นังป่าน" ปอแซว ....

ป่านเข้าห้องน้ำแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแต่พวกผมนั่งเล่นกันต่อ...

"ไอ้เอกมรึงสนใจก็จีบนะได้นะเว๊ย" ไอ้เรย์เริ่มยุแล้ว..

"จะไหวเหรอ เรย์...ไอ้ป่านมันระดับไหนแล้ว เอกจีบไปมีหวัง..." ปอบอก.....ผมเริ่มสงสัยแล้ว..

"ทำไมล่ะเจ๊"

"ป่านแฟนมันเยอะหว่ะ เอก มรึงจีบมันไม่ติดหรอก มันไม่ค่อยเลือกหน้าตาหรอก แต่มันเลือกที่ความพอใจ"

"มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ เรย์"

"มรึงจะจีบจะชอบ ก็ทำใจหน่อยล่ะกัน กรูเตือนมรึงในฐานะเพื่อน..."

"อือ ขอดูก่อนหว่ะ หน้าตาอย่างกรูป่านมันคงจะสนแหละ"

"บอกแล้วไง แฟนล่าสุดเด็กบริหารธุรกิจ หน้าตาแย่กว่าแกอีกหว่ะเอก" ปอบอกต่อ....

"อือ" พูดกันเรื่องป่านได้แค่นี้ก็ต้องหยุด เพราะป่านเล่นของเอ๊ย ออกมาจากห้องน้ำแล้ว.....

"นินทาอะไรข้า วะ ปอ ได้ยินชัดทุกคำเลยน่ะโว๊ย"ป่านแซวๆ

"ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไร เล่นต่อเถอะ.."

เราเล่นไพ่กันต่อจนถึงเช้า นี่คือครั้งแรกที่ผมเจอป่าน(ผู้หญิงที่ผมคิดว่ามีครบทุกอย่างไม่ว่าจะ สวย รวย มีสเน่ห์ มีมารยาหญิงแบบที่ผู้ชายต้องการ).... ผมขอเลือกที่จะเดินหน้าจีบล่ะกัน บางทีไม่แน่นะผมอาจจะกลับเป็นผู้ชายปกติก็ได้ ผู้ชายที่ชอบผู้หญิง ผู้ชายที่มีความรักแบบธรรมชาติ...ไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบรักต้องห้ามแบบที่ผมเคยเจอมากับพี่พีและพี่พันอีก.....แม้ผมจะเคยเจ็บปวดกับพิศ(ผู้หญิงที่ผมรักคนแรก)แต่ผมก็จะลองเสี่ยงดูอีกสักที...ไม่แน่นะครับ สิ่งที่ผมเสี่ยง...อาจจะเป็นสิ่งที่ผมตามหามานานก็ได้.........

http://www.ijigg.com/songs/V24BEE0P0

ก็ยังคง เดินทาง และยังคงเดินไป หาใคร บางคน
อยากมีคนจริงใจ ผ่านเข้ามาในใจ ซักคน
แล้วฉัน ก็เดินทางต่อไป เพราะฉันไม่เจอใคร อย่างนั้น
ฉันมั่นใจ ว่าเขานั้นมีตัวตน
ยังเต็มใจที่จะตาม ค้นหา และปฏิเสธ ที่จะท้อใจ
ยินดีที่จะเฝ้ารอ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่หายไป
ยังพอใจที่จะตาม ค้นหา ว่าคนดีดีที่มีรักจริง อยู่ที่ไหน
คอยที่จะเจอเขา แม้ไม่รู้เมื่อไหร่
อาจเป็นการเดินทาง ที่ไม่มีปลายทาง ให้เจอ ซักที
แต่ไม่เคยลังเล ที่จะคอยบางคน ที่ดี
เพราะฉันเชื่อ ในทางเดินแห่งรัก
ที่พร้อมจะนำทาง ให้ฉัน
และฉันมั่นใจ ว่าเขานั้นมีตัวตน
รักนั้นมีอยู่ รักนั้นยังมีอยู่
ใครคนนั้น คนที่ตามหา คงมี
ใครคนนั้น ยังต้องตามหา
ใครคนนั้น คนที่ตามหา คงมี
ใครคนนั้น ยังต้องตามหา
ใครคนนั้น คนที่ตามหา คงมี
ใครคนนั้น ยังต้องตามหา..

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #236 เมื่อ24-07-2007 13:58:50 »


...........เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป........แต่กลับกลายเป็นเดินหนีใจตัวเอง........ o7 o7

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #237 เมื่อ24-07-2007 17:59:35 »

อย่าบอกนะ ว่า NO. 3 เปลี่ยนมาเป็นหญิง ซะงั้น  :m12: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่นะ ผิดคอนเซป อ่ะ  :m11:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #238 เมื่อ24-07-2007 19:34:07 »

อืม No.3 เป็นหญิงรึนี่    :m13:  :m13:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: เสือไบ:the series by matheww
«ตอบ #239 เมื่อ25-07-2007 08:49:03 »

 :o :o :o
มันช่างเข้าใจได้ยากเจงๆ
 :amen: :amen: :amen:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด