+ G A M E R L O V E R +
แฟนผมเป็นโอตาคุเกมครับ!
16
วัยรุ่นกับโทรศัพท์มือถือยังคงเป็นของคู่กันได้ไม่ขาด อย่างน้อยตอนนี้ชายหนุ่มก็เลิกความคิดเรื่องจะเอาเข็มร้อยพวงมาลัยมาเย็บมันติดกับหูแล้วล่ะ....เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่ต่างกันนัก...เริ่มจากการเอาแต่นั่งมองหน้าขอซัมซุงกาแลคซีS3ของตัวเองมาได้ราวๆสามชาติเศษ อ่านแชทล็อคในไลน์ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งๆที่มันไม่ได้มีเนื้อหาอื่นใดนอกไปจากเรื่องเดิมๆ
OTTO : เลิกเรียนกี่โมง?
GOLF : อีกครึ่งชั่วโมงเลิกแล้วครับ
GOLF : ไปหาได้มั้ย?
GOLF : (สติ๊กเกอร์หมีเขิน)
OTTO : (สติ๊กเกอร์กระต่ายละเหี่ยใจ)
OTTO : ไม่ต้องอ่ะ
OTTO : รออยู่แมคชั้นล่าง
OTTO : มาให้ไว
เมสเซจขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับ
ข้าวโอ้ตมองนาฬิกา...สี่สิบนาทีผ่านไปแล้ว...ดูเหมือนมันจะเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรในการรอ แต่อยู่กันมาหลายเดือนทำให้เขาชักติดนิสัย 'ชอบรอ' ของอีกฝ่ายมานิดๆหน่อยๆ
...แต่ก็ไม่ได้รอไปเสียทุกคนหรอกนะ มันต้องเลือกด้วย “เฮ้อออ"
ว่าแล้วก็ขอดูดน้ำอัดลมที่น้ำแข็งละลายจนเจือจางนี่สักหน่อยก็แล้วกัน...ดูเหมือนนั่นจะเป็นการฆ่าเวลาที่สดชื่นที่สุดแล้ว
ช่วงนี้ เขาเองก็ยุ่งๆกับออฟฟิศใหม่....อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าข้าวโอ้ตไม่เหมาะกับงานในบริษัทใหญ่สักเท่าไหร่นัก หลังจากทำงานปรับตัวอยู่ไม่นานถึงได้รู้ว่าการไต่ระดับแบบพนักงานบริษัทช่างไม่เหมาะกับตัวเขาเลย จึงลากไอ้โจ้(เหมือนเคย) ออกมาทำออฟฟิศดีไซน์เล็กๆของตัวเอง....มันเป็นเวลาเดียวกับที่อีกฝ่ายเปิดเทอมใหม่ๆพอดี ต่างคนต่างยุ่งๆ หลายๆเรื่องก็ไม่ค่อยได้คุยกัน
นี่เป็นการพบกันครั้งแรกในรอบสองอาทิตย์ ที่เขาพยายามหลอกตัวเองว่าไม่ได้ตื่นเต้นอยู่...
เรื่องแบบนี้มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? ศักดิ์ศรีของนักกีฬา...จะไม่มีทางล้มมวย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...
ศักดิ์ศรีของเกมเมอร์...จริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างกัน... ….............แต่....... ยิ่งนึกก็ยิ่งหงุดหงิด แต่พออยู่คนเดียวมันก็อดจะนึกเรื่องเก่าๆไม่ได้สักที นี่สินะที่เรียกเป็นอาการของคนที่แก่ตัวลงแล้ว...และก็ต้องมานั่งคิดแล้วคิดอีกว่าทำไม 'วันนั้น' ตนจึงยอมเสีย 'ศักดิ์ศรี' ลงไปได้ถึงขนาดนั้น...
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มเศร้าๆที่เห็น...มันเป็นครั้งแรกที่ข้าวโอ้ตอ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายได้จากสีหน้า
บางทีมันอาจจะเป็นคำพูดที่ตระหนักได้ทีหลังว่าโคตรมัดมือชก...ที่อีกฝ่ายยอมเสี่ยงโดยไม่ทราบถึงผลลัพธ์มาก่อน
หรือบางทีมันอาจจะเป็นตั้งแต่ครั้งแรก...
...ครั้งแรกที่เห็นชื่อ MINAMI อยู่บนไฮสกรอ... ..แกรก..
“ขอโทษที...รอนานมั้ยครับ?” ถาดเบอร์เกอร์ถาดหนึ่งวางลงตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มแทบจะลื่นตกจากมือที่เท้าคางอยู่ ก่อนจะเงยหน้ามองอีกคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาชื้นเหงื่อ กับดวงหน้ายิ้มอ่อนๆแบบที่มันทำประดับหน้าไว้เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่
คนถูกถามก้มมองนาฬิกาข้อมือ แล้วพูดชัดเจน "45นาที"
“....ผมรีบออกมาก่อนเวลาเลยนะเนี่ย"
“ล้อเล่นน่ะ" ข้าวโอ้ตโบกมือปัดเหมือนไม่ใส่ใจ "พี่เองก็มาเร็วไปเหมือนกัน ไม่ได้นัดก่อน...ยุ่งอยู่รึเปล่าวะ?”
“ไม่ครับ วันนี้ว่างพอดี"
“แน่ใจ?”
“แน่ดิ"
“แล้วเรื่องรับน้องล่ะ?”
“อ้อ" กอล์ฟกรอกตา ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม "โดดมาครับ...วันเดียวเอง"
“ไอ้บ้านี่!”
“ก็นานๆทีจะได้เจออ่ะ จะให้ผมเบี้ยวนัดพี่โอ้ตรึไงกัน...คิดถึงเป็นเหมือนกันนะ”
เท่านั้นแหละคนฟังหยิบถาดมาทำท่าจะฟาดทันที...แต่ก็ทำได้แค่ท่า ก่อนจะโยนถาดเปล่าไว้ที่โต๊ะข้างๆแทน
เมื่อเห็นการกระทำแบบนั้นคนมองก็ได้แต่อมยิ้ม "พี่โอ้ตทานไรยังครับ?”
“กูแดกแม่งจะทุกเมนูอยู่ล่ะ"
“รอนานเลยสิเงี้ย....”
“ไม่ได้ว่า" คนตัวเล็กกว่าสวนควับ
"รอได้" เด็กหนุ่มหัวเราะ ก่อนจะตัดสินใจลงมือทานชีสเบอร์เกอร์เนื้อที่ซื้อมาตรงหน้า นี่สิถึงค่อยคุ้มกับที่โบกวินมอเตอร์ไซค์จากมหา'ลัยมาหน่อย มาเพื่อฟังคำหวานๆที่อีกฝ่ายไม่ตั้งใจจะพูดเนี่ยแหละ
ข้าวโอ้ตยกสองแขนขึ้นมาเท้าคางแล้วพิจารณาคนตรงหน้าช้าๆ...ตั้งแต่ปลายนิ้วที่กำลังจับเบอร์เกอร์ลงมาถึงนาฬิกาข้อมือมียี่ห้อรับกับท่อนแขนที่มีกล้ามเนื้อกำลังดีอย่างคนออกกำลังกายหลุบเข้าไปในแขนเสื้อที่พับไว้เหนือศอก...เขาไม่ค่อยได้เห็นอีกฝ่ายในชุดแบบนี้เท่าไหร่นัก...ทั้งเสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ชายเสื้อรุ่ยออกจากกางเกงแสลคสีดำนิดหน่อยก็ดี เรือนผมสีดำสนิทที่ยาวกว่าตอนอยู่ม.ปลายนี่ก็ดี...มันช่างดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย...
…..แย่ชะมัด...
…..เล่นเอาใจเต้นไปหมดเลยแหะ... เคยมีคำกล่าวที่ว่าพอขึ้นมัธยมต้น ก็จะหันไปมองเด็กประถม...พอขึ้นมัธยมปลาย ก็จะหันไปมองเด็กมัธยมต้น...พอขึ้นมหา'ลัย ก็จะหันไปมองเด็กมัธยมปลาย......แล้วพอทำงาน....ก็จะหันไปมองเด็กมหา'ลัยสินะ....
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแก่ชะมัดเลยว่ะ!
ชายหนุ่มถอนหายใจหนึ่งครั้ง เลิกเปรียบเทียบอายุตัวเองกับคนตรงหน้าไปตั้งแต่ปีมะโว้
แต่ยังไม่ทันถอนหายใจจนสุด...รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้ก็ฉุดสติตัวเองกลับมาก่อน
“อะไร?”
“เปล่าครับ" คู่สนทนายิ้มกว้าง "แค่คิดว่า...พี่โอ้ตในชุดไปรเวทเหมือนเด็กมหา'ลัยเลย"
“อุ 'โทษทีนะที่แก่"
“ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย แค่จะบอกว่า 'น่ารัก' เท่านั้นเอง"
สิ้นประโยคเรียวแขนเล็กก็ตวัดไปจะคว้าถาดอาหารมาฟาดใส่มันแบบจริงจังสักครั้ง แต่พนักงานก็เก็บเรียบไปเสียชิบ จึงได้แต่หลบตาแล้วด่า
“ไอ้บ้านี่ เดี๋ยวจะโดน!”
“ออฟฟิศใหม่เป็นยังไงบ้างครับ?”
..แหม..เปลี่ยนเรื่องเก่งเชียวนะไอ้นี่... “ก็เรื่อยๆอ่ะ ขลุกขลักอยู่บ้างพอสมควร...แต่ได้พวกรุ่นพี่รุ่นน้องสมัยมหา'ลัยมาช่วยบ้าง วันนี้ก็เพิ่งว่างแล้วก็คิดว่าไม่ได้ตีกลองมานานเหมือนกัน.....ไม่ได้คิดถึงอะไรหรอกนะบอกไว้ก่อน"
..แหม..บอกไว้ก่อนทีเดียวเชียว... กอล์ฟยิ้ม "แต่ผมคิดถึงนะ"
“ถ้าแกยังไม่เลิกพูดคำนั้นกูจะ..............”
“ครับ ครับ ยอมแล้วครับ"
“แล้วหัวเราะอะไร!?!”
“เปล่าครับ แค่คิดว่า....” คู่สนทนาปรือตามอง จนอีกฝ่ายรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ
“เป็นแฟนกันมากี่เดือนแล้ว...ทำไมพี่โอ้ตยังไม่ชินสักทีนะ?” ….ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด.....!! ความดันเลือดแทบจะพุ่งทะลุปรอท(?!) สูบให้ใบหน้าขาวขึ้นสีจัดจนเกือบจะกลายเป็นสีเดียวกับซอสมะเขือเทศ ข้าวโอ้ตก้มซุกหน้าลงกับมือทั้งสองข้างด้วยไม่รู้จะหลีกหนีไปทางไหน แถมยังทำอะไรไม่ได้นอกจากการนั่งอยู่เฉยๆปล่อยให้มันมอง...แล้วก็ปล่อยให้มันหัวเราะเหมือนกับเขาเป็นดาวตลก!
“....ถามจริงๆเถอะ!!” เขาโพล่งขึ้น "เป็นอะไรวะ ทำไมอยากเป็น.........กับพี่นัก!!”
กอล์ฟเลิกคิ้ว “เป็น..........อะไรน่ะครับ?”
“.........ก็ฟ............” คนถูกถามหน้าแดงแปร้ด "….ฟ-.....”
“ฟ-?”
“แฟ.........ฟ.......”
“แฟ?”
ป้าบ! “...ไม่ต้องมายียวนว้อย!!” “ฮะๆ" เด็กหนุ่มหัวเราะ ยิ้มกว้างจนแก้มแทบจะปริ...ไม่ได้คิดจะกวนประสาทจริงๆจังๆนักหรอก แต่พอเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงพูดจาตะกุกตะกักแบบนั้นมันอดไม่ได้จริงๆนี่หว่า "ก็ผมชอบพี่...”
“เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วน่า!”
“รู้แล้วถามทำไมน่ะครับ?”
“บ้าเอ้ย ไม่ถามแล้ว!”
“ผมล้อเล่นน่า ถามมาเถอะครับ...ผมอยากตอบ"
..เกลียดที่สุดเลยว้อย!! เมื่อคิดแล้วคิดอีกว่าไอ้การนั่งอยู่แบบนี้มีแต่จะโดนมันแกล้ง จึงได้แต่จบเรื่องที่ตัวเองเป็นคนเริ่มด้วยคำพูดที่ว่า
“ก-กินเร็วๆสิ! อยากตีกลองแล้ว!”
“ครับ!”
คนถูกสั่งหัวเราะ ก่อนจะก้มลงไปกัดเบอร์เกอร์คำหนึ่ง...นาน...ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
“พี่โอ้ตครับ...” “อะไร?”
“... 'เดิมพัน' กันอีกรอบได้มั้ยครับ?” นั่น..เป็นประโยคที่คนฟังไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ยินมาก่อน
ไอ้ 'เดิมพัน' ครั้งที่แล้วของมันสร้างความเจ็บแสบเอาไว้มากนัก ดังนั้นครั้งนี้เขาเชื่อว่ามันต้องวางแผนอะไรเอาไว้สักอย่างเหมือนครั้งที่แล้วแน่ๆ และข้อเสนอที่แสนจะสุดโต่งขนาดนั้นทำให้เขาใจอ่อน...ใจอ่อนขนาดที่ยอมแพ้ง่ายๆกับเพลงง่ายๆที่เขาถนัดที่สุด และไอ้เจ้าบ้านี่ที่รู้อยู่เต็มอกก็เลือกเพลงนี้..! เพื่อลองใจเขา....
เพื่อ-ลอง-ใจ-เขา-!! ...ครั้งนี้เขาไม่มีทางแพ้เกมบ้าๆนี่กับมันอีกแล้ว!! จมูกรั้นเชิดขึ้นเล็กน้อยตอนที่ถาม “จะเอาอะไร?”
“เปล่า....” คนจะยื่นข้อเสนอทำเสียงหงอลงไปเล็กน้อย "แค่คิดๆดูแล้วพวกเราก็คบกันมานานแล้วนะ...เลยคิดว่า....”
“ว่าอะไร?”
“.....ผมไม่เอาดีกว่า" “อะไรของแกเนี่ย!”
“ไม่เอา ผมเขินเป็นเหมือนกันนะ"
“เขิน?”
ข้าวโอ้ตเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะขมวดคิ้วเพ่ง ถึงได้เห็นว่าดวงหน้าคมนั้นขึ้นสีเล็กน้อย...เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อไตร่ตรองหาความน่าจะเป็นในข้อเสนอดังกล่าวแล้วก็นึกไม่ออกนอกจากเรื่อง........
…......ได้กัน...... “ไอ้บ้า!! ลามก!! คิดอะไรอยู่!!” “หา? เดี๋ยวก่อนครับ...ผมไม่ได้.....”
“ไอ้วิกลจริต! บัดสีบัดเถลิง!”
“อะไรครับ? ฟังผมก่อนสิ...นี่พี่นึกถึงเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย....?”
“ไม่ฟัง ไม่สน ไม่เดิมพันแล้วด้วย"
“พี่โอ้ต ฟังผมก่อน” ในที่สุดเหตุการณ์ก็สงบลงได้ด้วยการเอามืออุดปากอีกฝ่ายก่อนจะโวยวายไปมากกว่านี้ เคราะห์ดีแค่ไหนที่ทำเลที่นั่งไม่ได้อยู่ใจกลางร้านท่ามกลางผู้คน และค่อนข้างเป็นส่วนตัวเกินกว่าจะปล่อยให้ใครต่อใครคิดไปกันเอง เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจ...ดูท่าทางแล้วเขาจะใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกฝ่ายมากพอสมควร
แต่ถึงแม้มือใหญ่จะอุดปากไว้แค่ไหน ใครว่าอีกฝ่ายจะสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ ยังมีการส่งเสียงอู้อี้ๆเล็ดลอดผ่านมา...แถมยังใช้สายตาดุดันจนแทบจะยิงเลเซอร์ออกมาได้อยู่แล้วแบบนั้นอีก
“ฟังผมก่อนนะ" กอล์ฟไม่ค่อยอยากใช้กำลังเท่าไหร่ แต่พอคิดถึงเรื่องที่อีกฝ่าย 'คิด' มันก็อดจะหน้าแดงไม่ไหวจริงๆ
“....ผมน่ะ...แค่อยากหอมแก้มพี่โอ้ตเท่านั้นเอง....” คำพูดง่ายๆแบบนั้นทำให้คนฟังแดงลงไปถึงคอ ก่อนจะผลักมืออีกฝ่ายออกแล้วปฏิเสธชัด
“ไม่"
“ผมคิดอยู่แล้วล่ะว่าถ้าขอพี่คงไม่ให้...”
“ไม่"
“ก็เลยว่าจะขอเดิมพันดูอีกสักครั้ง...”
“ไม่"
“แต่เราก็คบกันมาหลายเดือนแล้วนะครับ...”
“ไม่!”
“แถมยังไม่ค่อยได้เจอกันอีก ผมคงจะชื่นใจ...”
“ไม่!”
ตึง! เหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างในเส้นสมองขาดผึงลง ก่อนที่คนขอจะเผลอตะคอกใส่อย่างลืมตัว
“งั้นก็หยุดทำตัวน่ารักแบบนี้ซะทีสิ!!” ...กริบเลยทีเดียวเชียว... ดวงตาสองคู่สบกัน หนึ่งกำลังแสดงอาการตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ส่วนอีกหนึ่งกลับรู้สึกผิดเหลือครณา...และเมื่อตั้งสติได้ คนพูดก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ"
คนฟังเม้มปาก
"อะไรของแก...” “ไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังใส่....”
“อะไรของแก...” คนตัวเล็กกว่าทวนคำเดิม แล้วหลุบตาลง
"….น่ารักตรงไหนกันวะ....” กอล์ฟกระพริบตาปริบๆ "เอ่อ...ผมแค่....”
“แค่หอมนะ?” ..ซวยแล้ว..จะน่ารักไปไหนเนี่ย... “ครับ" เขากลืนน้ำลาย "แค่หอม"
“ไม่เอาอย่างอื่นนะ?”
“อย่างอื่น?”
“ตอบว่า
'ครับ' ก็พอ"
“เดี๋ยวก่อนนะ...” เด็กหนุ่มยกมือ "คำว่า 'ไม่เอาอย่างอื่น' ของพี่โอ้ตนี่หมายถึงตลอดไปเลยรึเปล่าครับ?”
อีกฝ่ายดูลังเล แต่ก็พยักหน้าช้าๆ "มีปัญหารึไง?”
“มีครับ" เขาตอบตรง "เยอะด้วย"
“ตอบว่า
'ไม่มีครับ' ก็พอ..”
“ผมรอพี่โอ้ตพร้อมได้ แต่ให้รอตลอดไปน่ะ.....”
“อะไร?”
“เอ่อ...ผมขอไม่อ้อมค้อมนะครับ" กอล์ฟหน้าแดง แต่ก็ประสานมือไว้บนโต๊ะด้านหน้าเพื่อถามไปตามตรง
“พี่โอ้ตเคยคิดบ้างมั้ยครับว่าสักวัน...เราสองคนต้องมีอะไรกันน่ะ?” กึก.. “ไม่เคยว้อย!!!!”
“ผมรอได้ครับ รอได้ คือจนกว่าพี่โอ้ตจะพร้อม"
“ไอ้บ้า!!”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่โอ้ตกลัว"
“พูดอะไรของแก!?!”
“และคงจะมีเวลาเรียนรู้ จะได้ไม่ทำให้พี่โอ้ตเจ็บ.."
“หยุด!!!” ในที่สุด ชายหนุ่มก็เริ่มทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นยืนพร้อมเท้าแขนดันโต๊ะแทบคว่ำ เมื่อพบว่าคำพูดคำจาของอีกฝ่ายเริ่มจะไม่เข้าหูขึ้นเรื่อยๆ แถมความที่เป็นคนจินตนาการเก่งและไม่ใช่ว่าไม่เคยศึกษามาก่อน...ทำให้อายจนแทบจะฆ่าคนได้
"....มีเรื่องสงสัย...." กอล์ฟพยักหน้าช้าๆด้วยรอยยิ้มอ่อน "ครับ?”
ข้าวโอ้ตกลืนน้ำลาย พยายามเรียบเรียงคำพูดด้วยเสียงสั่นสะท้าน
“.........ทำไม......พี่ถึงต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำล่ะ??”+ G A M E R L O V E R +
...นี่เป็นเรื่องของ 'ศักดิ์ศรี' ชนิดคอขาดบาดตาย... ตึง ตึง! ตึงๆๆๆๆๆๆๆ ตึงตึงๆตึง!! แกรก แกรก! แกรกๆๆๆๆๆๆ แกรกแกรกๆแกรก!!
ตึงแกรกตึง! พูดตามตรงแล้ว...เด็กหนุ่มคิดว่า 'นี่' เป็นครั้งแรกที่เขาเอาจริงเอาจังกับการตีกลองได้มากมายถึงขนาดนี้ เรื่องจับไม้กลองแน่นแบบนี้ก็ดี เรื่องที่กระหน่ำตีจนแทบลืมหายใจนี่ก็ดี...บางทีนี่อาจจะเป็นการดวลครั้งแรกที่เขาไม่เผลอตัวเบือนสายตาไปมองอีกฝ่ายอย่างหลงใหลแน่ๆ
..เมื่อมีเดินพันที่หวานหอมและขมขื่นวางอยู่ขนาดนั้น..
ตึงแกรกตึง! ไม้กลองถูกหยุดลงทันทีที่จังหวะเสียงสุดท้ายจบลง วินาทีต่อมาดวงตาคมคายก็เบือนไปมองสกรอที่แถบมุมซ้าย ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างลืมตัวตอนที่พูดว่า
“ชนะ!” แต่พอหันกลับมามองอีกฝ่ายก็แทบชะงัก
เมื่อดวงตาที่ดุรั้นอยู่ตลอดกลับมีน้ำใสๆคลออยู่จางๆ...และก้มมองกลองสีแดงตรงหน้าประหนึ่งนี่คือเหตุการณ์ที่น่าสลดใจที่สุดในชีวิต
กอล์ฟเผลอหันไปมองซ้ายขวาอย่างเลิ่กลั่ก และเมื่อพบว่าในเวลานี้ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลยแม้แต่น้อยก็หันกลับมามองคนตัวเล็กข้างๆใหม่อีกหน มือเรียวผอมที่กำลังยันขึ้นเช็ดจมูกตัวเองแรงๆนั่นทำให้เขารู้สึกโหวงอย่างน่าประหลาดในอก ท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงด้วยความยินดียิ่งกว่าการเดิมพันครั้งที่แล้ว
GOT A NEW HIGH-SCORE!! ดูเหมือนเจ้าวาดะดนและวาดะคัตซึนั่นจะมีความสุขซะเหลือเกินถึงได้กระโดดเด้งๆอยู่ในจอ เจ้าของกลองสีฟ้ากำลังเริ่มทำอะไรไม่ถูก...เลยยื่นมือไปแตะ
“พี่โอ้ตครับ....”
“อึก...รู้แล้วน่า"
เสียงหายใจปนหอบดังขึ้นมาเป็นคำตอบรับโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมอง
...เดิมพันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องอะไรเลย... ...คนชนะ...ได้เป็นฝ่ายรุก... มันช่างเป็นความเจ็บปวดของชายชาตรีเสียจริง... ไม่รู้ว่าเริ่มข้อตกลงแบบนี้ลงไปได้ยังไง กอล์ฟเองก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะตัวเองไม่ได้เป็นคนเสนอ...ข้าวโอ้ตคงแอบนึกอยู่ในใจว่าตัวเองต้องมีฝีมือมากกว่าเป็นแน่ถึงได้พูดมันออกมา และเมื่อสถานการณ์ตอนจบเป็นแบบนี้....
“พี่โอ้ต...ผม....”
“กูเคยอ่านมา....” เจ้าของนามพูดเสียงอู้อี้
"นอกจากจะเจ็บแล้ว เลือดยังออกอีก" “ครับ?”
“เจ็บสะโพก ปวดขา...แถมยังต้องคอยล้างตู้เย็นอีก" “.........พี่โอ้ต?”
“กูไม่เข้าใจว่าโดนเอาข้างหลังมันจะรู้สึกดีได้ยังไง...ก็ในเมื่อ...ในเมื่อ.....” แทนที่จะสงสาร คนฟังกลับนึกขำ
โชคดีที่เทคนิคการกลบเกลื่อนความจริงนั้นเป็นงานถนัด กอล์ฟพยายามทำหน้านิ่ง..ก่อนจะยื่นมาออกไปลูบหลังอีกฝ่ายแผ่วเบา จะเร่งรัดตอนนี้มันก็ยิ่งไม่ใช่เรื่อง...จริงๆเขาไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้วในวันนี้ ที่ต้องการน่ะไม่ได้ถึงขั้นนั้นสักหน่อย ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำท่าเหมือนพยายามกลั้นน้ำตาอย่างสุดพลังแบบนี้มันก็ยิ่ง.....
“...พี่โอ้ตครับ" “อะไรอีก?”
“หอมแก้ม...แล้วหายกันนะ?” ข้าวโอ้ตหันมามองด้วยใบหน้าคล้ายกับว่าสวรรค์ทรงโปรด
...แต่ก็เพียงครู่เดียว...ก่อนเจ้าตัวจะมุ่ยหน้าลงไปอีก
“จะดีเหรอ...”
..แน่ะ..ยังจะถามอีก...จะร้องไห้อยู่แล้วแท้ๆนะ... “ดีสิครับ"
“ทีเดียว?”
“ไม่เอา" กอล์ฟสะดุ้งสุดใจ "หมายถึง...เอ่อ...วันละครั้ง"
“ข้อตกลงไม่เลว เราไม่ได้เจอกันทุกวัน...”
“เอาไปทดวันต่อไปได้สิครับ ถ้าไม่ได้เจอกันเดือนนึง ก็หอม30ครั้ง"
“แกไม่ได้ตกลงแบบนี้นี่!”
“ใช่ครับ ก็ไม่ได้ตกลงแบบนี้ตั้งแต่แรกนี่นา...”
“อุ...” “หรือพี่โอ้ตจะ.....”
“หอม!!!!” คู่สนทนาโพล่งขึ้นมา ก่อนจะกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายไปกดจมูกลงข้างแก้ม
"วันนี้หมดแล้ว!” ไอ้ใจเต้นมันก็มีอยู่หรอก แต่แม่งเกิดเร็วมากจนตั้งตัวไม่ทัน "ไม่เอาแบบนี้ดิ!”
“ก็หอมแล้วไงวะ จะเอาอะไรอีก!?”
“ผมต้องเป็นคนหอมสิครับ!”
“ง-งั้นก็รีบๆทำสิ...”
“ไม่เอา" นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายืนกรานเสียงแข็ง "ถ้าผมหอม จะเอาให้ลึกๆให้ชื่นใจกว่านี้"
“ไอ้สัส โรคจิตชะมัด"
“เพราะงั้น....คืนนี้ค้างบ้านผมนะ?”
“ไม่!?”
“ไม่ทำอะไรหรอกครับ ผมสัญญา แต่ไม่อยากหอมที่ห้างนี่นา...เสียดาย"
“อะไรของแก...!”
“ไม่ได้เจอกันสองอาทิตย์...เท่ากับ 14 ครั้ง"
“มันเริ่มนับตั้งแต่วันนี้ว้อย! อย่ามาหาเรื่องกันน่า!”
PLEASE TYPE YOUR NAME..... เกมนี้มันดีตรงที่ได้บันทึกคะแนนสูงสุดเป็นคู่กลอง เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงบันทึกแบบนี้ได้...แปลว่ามันอาจจะต้องมีอะไรสักอย่างที่ดึงดูดเขาทั้งคู่เขามาหากัน....ซึ่งนั่นเป็นอะไรกอล์ฟไม่อยากคิดเอาเอง...
ข้าวโอ้ตเดินนำไปแล้ว แต่เด็กหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่หน้าตู้ ผ่านมาหลายครั้งเขาต้องเป็นคนคิดว่าจะบันทึกชื่ออะไรดีเพราะอีกฝ่ายขี้เกียจครีเอท....ซึ่งทุกครั้งก็ไม่เคยซ้ำกันเลย แน่นอนล่ะ...ไม่มีใครรู้ว่าชื่อไหนมันจะดีที่สุด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจใช้ชื่อสั้นๆที่มีความหมายรู้กันเฉพาะกลุ่ม...
GMLV ก็นะ...ถ้าใช้ชื่อเต็มว่า GAMER LOVER น่ะ....ช่องตัวอักษรมันก็จะไม่พอเอาน่ะสิMAY BE HAPPY ENDING?
อย่าลืมแอบดูบันทึกไฮกรอกันก่อนจิ้นนะ!
==============================
จ-จบแล้วววววว

บอกแล้วว่าเรื่องนี้มันเรื่องสั้น... /หลบตา/ เพียง150หน้าเท่านั้น.....
และอย่างที่บางคนอาจจะรู้แล้วนะคะ เปิดจองกับสนพ.สุดขอบค่ะ

)
อาจจะได้รับหนังสือช้าหน่อยนะคะ แบบว่าตั้งใจทำกันมาก ลูกเล่นเยอะสุดๆๆๆๆ ต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว
http://story.raikrob.com/index.php?topic=210.msg5015#msg5015อันนี้แฟนเพจรักร้ายนะคะ เกี่ยวกับเรื่องนี้นิดๆแต่ไม่เกี่ยวมาก....กร๊ากกกกกก
http://www.facebook.com/rakraiz.theseriesเจอกันตอนพิเศษนะฮว๊าฟฟฟ เรื่องนี้ตอนพิเศษโคตรเยอะเบยยย ;;___;;//~ #เพราะเนื้อเรื่องหลักมันไม่มีอะไร....5555
ขออนุญาตกล่าวทักทายนักอ่านนะคะ

เจอกันโอเองแล้วเน้ ยินดีที่ได้รู้จักนักอ่านหน้าใหม่ และขอบคุณนักอ่านหน้าเก่าทุกคนนะคะ (ฮา)
เรื่องGMLVนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับรักร้าย...แต่จะว่าไม่เกี่ยวก็ไม่ใช่ทีเดียว...
อนึ่ง...หากใครได้อ่านเรื่องXY จักได้รู้ว่าข้าวโอ้ตเป็นน้าชายของ 'ปั๊ม' เพื่อนเอ็กซ์ ค่ะ
หากใครที่ได้อ่านปฏิบัติการณ์รักร้ายฯ ก็จะรู้จักกับ 'กังหัน' หรือ 'กรัง' ที่เป็นน้องนักศึกษาฝึกงานของข้าวโอ้ต
แถมยังเป็นเพื่อนคนหนึ่งในขบวนการรักร้าย...ที่ถึงแม้จะไม่ค่อยมีบทบาทก็ตาม 5555555
ส่วนน้องกอล์ฟของเรา...ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรักร้ายแต่อย่างใดค่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก <<น่าสงสารจริงๆ
พูดถึงตัวละครของเราดีกว่า..!!คุณข้าวโอ้ตคุณข้าวโอ้ตมีพี่สาวชื่อข้าวปั้น เพื่อนสนิทชื่อโจ้ และเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่
เพราะเป็นคนแบบขวานผ่าซาก ปากมากปากร้าย และก็โคตรเอาแต่ใจ ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ด้วย โห..ดูไม่น่าคบเลย แต่น่ารัก... .///. #ผิด
จริงๆแล้วข้าวโอ้ตไม่ได้ซึนนะ ไม่ได้ปากไม่ตรงกับใจด้วย...เรียกว่าเล่นตัวดีกว่า กร๊ากกกกกกกก เคะที่ดีต้องแบบนี้แหละ!
อีกคนค่ะ..น้องกอล์ฟถึงตัวจะเป็นเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่(โคนัน? ไม่ใช่ล๊าววว) เป็นคนใจเย็น สงบเยือกเย็นแต่ไม่ได้ขรึม จะยิ้มอย่างเดียว...
บางทีก็ทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่เครียด...แต่บางทีก็ไม่คิดอะไรจริงๆนะ 555555
เราตั้งใจจะเขียนให้กอล์ฟดูนิ่งๆมากกว่านี้นะ อยากให้ดูไร้ความรู้สึกไปเลยเหมือนกัน...แต่พออิมเมจโอตาคุเกมแล้วมันไม่ใช่
เลยออกมาเป็นน้องกอล์ฟช่างหยอดสุดน่ารักคนนี้เนี่ยแหละ!!
โจ้ >> เป็นเพลย์บอยแบบเบาๆค่ะ คือจริงใจกับคนอื่นไปทั่ว แต่ไม่จริงจัง
ด้วยบุคลิกแบบนี้ทำให้เพื่อนเยอะมากค่ะ เข้ากับคนง่าย...จนบางทีก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่
คิม >> เพื่อนน้องกอล์ฟ เป็นคนโผงผางตรงไปตรงมา เปิดเผยสุดๆ
ดอย >> ภาพพจน์คือผู้ชายตัวผอมสูงโย่ง หลังค่อมนิดๆ แล้วก็เอ๋อหน่อยๆ เป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นค่ะ 5555
กระป๋องน้อย >> โดนข้าวโอ้ตรังแกตลอดตั้งแต่เข้าบริษัท แอบบ่นในใจบ่อยๆแต่ไม่ค่อยพูด สักษณะเหมือนหนูขี้กลัว..น่าฉงฉาน
ปล. แล้วเจอกันเรื่องอื่นน้า
