GAMER LOVER
CAR SCENE III
ลูกผู้ชายน่ะพูดแล้วไม่คืนคำ..!
…ไอ้อาทิตย์ละครั้งนะ…พูดแล้วก็ต้องทำให้ได้!! ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ เขาพยายามกำหนดลมหายใจมาสิบนาทีเห็นจะได้…อย่างน้อยก็เพื่อให้หัวใจที่เต้นระรัวนี่สงบลงบ้างไม่มากก็น้อย
อาทิตย์แรกจูบโดยบังเอิญ..เรียกว่าจุ๊บเห็นจะถูกกว่า…
อาทิตย์ที่สองจูบหน้าผาก..แต่ให้ตายเถอะซาร่า ตื่นเต้นได้ไม่ต่างกันสักนิด..
เขาฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยอีกครั้ง ไอ้ที่รู้สึกเหมือนไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ไอ้ที่รู้สึกเหมือนจะลอยๆแบบนี้…มันแย่ตรงที่เขาเองกลับรู้สึกมีความสุขเนี่ยแหละ ครั้งแรกอีกฝ่ายก็ดูไม่ได้ตั้งใจอยู่หรอก แต่ตัวเขาเองก็คิดว่าจะเป็นปีอยู่ละมันก็น่าจะมีอะไรๆคืบหน้าบ้าง เลยเผลอพูดออกไปแบบโง่ๆทั้งๆที่รู้ว่ามันคงไม่ได้ง่ายๆ…และสุดท้ายก็ตัวเองนี่แหละที่ทำใจไม่ได้ และในอกก็กระหน่ำรัวยิ่งกว่ากลองที่ตีเป็นประจำซะอีก
…ต่อให้จ้างสักสิบล้านเขาก็ไม่มีทางปริปากออกไปหรอก ว่าไอ้ ‘บังเอิญ’ นั่นน่ะ…เป็น ‘จูบแรก’ ในชีวิต..!! เขาไม่คิดว่าผู้ใหญ่ที่ดีจะต้องผ่านประสบการณ์ทำนองนี้มาโชกโชน แต่เพราะว่าตัวเขาเองเป็นผู้ใหญ่กว่า อายุมากกว่า เลยคิดว่าจะยอมเต้นตามเกมอีกฝ่ายผู้เดียวไม่ได้!
เพราะฉะนั้น…วันนี้แหละ..!! ก๊อกๆๆ เฮือก! ชายหนุ่มสะดุ้งสุดใจประหนึ่งกระต่ายตื่นตูม หันซ้ายหันขวาอยู่หลายครั้งก่อนจะตั้งสติได้ว่า…เจ้าของร่างสูงโปร่งที่แสนคุ้นตากำลังค้อมตัวลงมาส่องที่กระจกอีกฝั่งหนึ่ง ข้าวโอ้ตถอนหายใจสั้นๆ…พยายามทำสีหน้าให้เปิดปกติมากที่สุดตอนปลดล็อคประตู
แกรก “ทำไมไม่ลงจากรถล่ะครับ?”
“ไม่ล่ะ” ตอบชัดถ้อยชัดคำ แต่ท่าทางคงลุกลี้ลุกลนพิลึกอยู่ “มาได้ไง?”
“พอดีเห็นรถพี่แวบๆก่อนเข้าห้างน่ะครับ เลยลองเดินหาดู…เอ่อ…พี่โอ้ตหน้าซีดๆนะครับ? เป็นอะไรรึเปล่า?”
ถามด้วยสีหน้าจริงจังจนต้องหลบตา แล้วทำอะไรฝืนธรรมชาติไม่ได้มากนักนอกจากกระแอมกระไอแก้ขัด
“เปล่า สบายดี สบายมาก”
“วันนี้เลิกงานเร็วเหรอครับ?”
“นิดนึง” เขาว่า “แล้วแกล่ะ เลิกเรียนเร็วจังนะ..”
“ก็เดี๋ยวพี่โอ้ตรอ” อีกฝ่ายยิ้มอ่อน “คิดถึงน่ะครับ อยากเจอไวๆ”
..ไอ้บ้า เพิ่งเจอกันไปเมื่อวานซืน.. คนโดนหยอดก้มหน้างุด “ขึ้นมาสิ ยืนคุยอยู่ได้”
“เอ๋? แล้วไม่ลงจากรถเหรอครับ?”
“ไม่เอา ไม่ลงแล้ว”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ถึงจะนึกสงสัยแต่ก็ยอมเสือกกายเข้ามาในรถแต่โดยดี
ประตูรถปิดลงในเวลาไม่นาน และไม่มีเสียงอะไรอื่นนอกจากเสียงเครื่องยนต์กับเสียงแอร์…ฟ้าข้างนอกยังสว่างนัก เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ค่อยได้มีโอกาสนั่งอยู่ในรถด้วยกันตอนยังไม่มืดเท่าไหร่ ปกติแล้วก็นัดเจอที่ห้างเดิมๆ ที่เก่าๆ กิจกรรมเดิมๆ เสร็จผู้สูงวัยกว่าก็จะพาขึ้นรถ ไปส่งหน้าบ้าน แล้วก็กลับ..ซึ่งเวลานั้นคงจะเย็นมาแล้วด้วยซ้ำไป
ทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ไม่รู้จักเบื่อ..
หัวข้อที่คุยกันก็ไปเรื่อย ไม่มีมีเป้าหมายหรือจุดประสงค์แน่ชัด.. จะว่าสบายใจมันก็ดี แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘แฟน’ กันแล้ว(ในที่สุดก็ยอมรับ…) เลยนึกสงสัยขึ้นมาว่าคู่อื่นเขาทำแบบนี้กันบ้างรึเปล่า เสมอต้นเสมอปลาย..ไม่เห็นเปลี่ยนไปสักนิด..จนกระทั่งมันเป็นปีแล้วถึงเพิ่งมาเอะใจเนี่ยแหละ
“นี่” ในที่สุดชายหนุ่มก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้า หันไปเผชิญหน้าสักที
อีกฝ่ายเอียงหน้ามอง แล้วยิ้มกว้าง “ครับ?”
..เล่นเอาความหาญเมื่อครู่ละลายหายไปซะกลี้ยง.. “เปล่า” ข้าวโอ้ตแสดงบทคนปากหนักได้สมจริงนัก “ไม่มีอะไร”
“พี่โอ้ตเป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
“เปล่า”
“ไม่อยากเล่นเกมแล้วเหรอ?”
..ลืมซะสนิท..แต่ก็ไม่อยากพูดว่าไอ้ที่มาเซนทรัลๆทุกอาทิตย์น่ะไม่ใช่เพราะเกมแล้ว.. ข้าวโอ้ตเม้มปาก “ไม่อ่ะ เหนื่อย”
“ทำงานดึกเหรอครับ?”
“นิดนึง”
“หิวมั้ย?”
“เฉยๆ”
“ผมลงไปซื้ออะไรให้ทานได้นะ ถ้าพี่โอ้ตไม่อยากลงจากรถ”
“ไม่เอา อย่าไปนะ” “ครับ?”
“นั่งเฉยๆแปปนึง ทำใจอยู่” กอล์ฟเลิกคิ้ว แต่ด้วยนิสัยแล้ว…เขาเลยไม่ถาม และเอาใจอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจโดยไม่ปริปาก ไม่ลงก็ไม่ลง ให้นั่งเฉยๆก็นั่งเฉยๆ เขาไม่ได้เกลียดความเงียบ..ค่อนข้างชอบมันด้วยซ้ำไป
ยิ่งเวลาที่เป็นความเงียบระหว่างเขาทั้งคู่ มันก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่..เพราะไม่รู้ว่าบทสนทนาต่อไปจะออกมาในรูปแบบไหน กอล์ฟชอบเดา..เขากำลังลุ้นว่าเป้าหมายคืออะไร จากท่าทางมีพิรุธเหลือแสนแบบนี้มันเดาได้ลำบากอยู่
ร่างเล็กกว่าหายใจแรงจนได้ยินเสียง
แต่ยังไม่ทันที่คนข้างตัวจะหันไปมอง ข้าวโอ้ตก็พูดขึ้นชัดเจน
“….จูบดิ” …เงียบ… อุณหภูมิในรถพลันร้อยผ่าวขึ้นมาดื้อๆทั้งๆที่แอร์เย็นเฉียบ หรืออาจจะเพราะความตื่นตระหนกทำให้ผิวกายเต้นเร้าๆไปทั่วทุกรูขุมขน กว่าจะตั้งสมาธิ กว่าจะได้สติ ความร้อนก็กระจายจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง ซึมทั่วกันจนเนื้อหนังแทบจะกายเป็นสีเดียวกับตัวรถ
“ค…” เด็กหนุ่มขยับริมฝาก รู้สึกถึงความผิดปกติของกระแสเลือด
“ครับ? อะไรนะครับ?” “ก-ก็…ก็…แม่งเอ้ย ไม่พูดแล้วสัส!!”
“พี่โอ้ตว่าอะไรนะครับ?”
“บอกว่าไม่พูดแล้วไง เหี้ยเอ้ย! ไม่น่าพูดเลยกู!!”
“พี่โอ้ตให้จู……..”
“ไม่ให้แล้ว!!!” “หรือว่าที่พี่โอ้ตไม่อยากลงจากรถก็เพราะ…………”
“บอกว่าไม่ให้แล้วไง!!!!” “..ก็ผมจะเอาอ่ะ”
“ไม่ต้องแล้ว!!” “พี่โอ้ตพร้อมแล้วเหรอครับ?”
“ไม่พร้อม!” “เอาล่ะ..” ร่างสูงขยับตัว หันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายแบบตรงๆ “พร้อมนะ?”
“กูบอกว่ากูไม่พร้อมมมม” “อย่าหลอกให้อยากแล้วจากไปสิครับ!” “แกต่างหาก!?”
“ผมทำไม?”
“โธ่ว้อย! จะว่ากลับกรอกก็ช่างเถอะ! ไม่ให้แล้ว!!”
ผู้สูงวัยกว่ารีบขยับตัวหันหลังให้ แล้วซุกหน้าลงกับเบาะรถ…แทบจะฝังตัวให้หายไปกับไรฝุ่นให้รู้แล้วรู้รอด
คนมองจะว่าขำก็ขำ จะว่าน่ารักก็น่ารัก จะว่าสงสารก็สงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ถูกนอกจากการเอื้อมมือไปสะกิดเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ด่าว่ากล่าวอะไร เลยถือวิสาสะดันตัวขึ้นคร่อมเบาะ ล้วงมือเข้าไปถึงปุ่มปรับพนักพิง…คนใต้อ้อมแขนดูจะรู้ตัว…แต่ก็ไม่ได้ดิ้นขืน…
ดวงตากลมโตดุดันคู่นั้นเบือนมาสบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหลุบลง…มันทำให้คนมองได้ใจนัก จึงค่อยออกแรงปรับให้เบาะคนขับเอนลงช้าๆ…
“พร้อมนะ?” คำถามอีกครั้ง..ช่างเป็นประโยคที่คนฟังอยากจะต่อยหน้าแม่งซะจริงๆ..
ข้าวโอ้ตกระแทกเสียง “เออ”
“อย่าเกร็งนะครับ”
“เออออ”
“อย่าเม้มปากด้วย”
“เออออน่ะ!”
“อีกเรื่อง….”
“อะไร?”
“เอ่อ…” กอล์ฟหน้าแดง กรอกตาไปมา
“…ลึกซึ้งนิดนึงได้มั้ยครับ?” “…..อะไร?”
“นิดนึงน่ะ”
“หมายความว่าไง?”
“คือ ไม่ใช่แค่ซอฟท์คิส” เด็กหนุ่มพยายามอธิบายขณะเท้าแขนคร่อมกับเบาะอีกฝ่ายในท่วงท่าที่ไม่สร้างความลำบากใจมากนัก และในที่สุดดวงตาที่เขาสบอยู่ก็บอกออกมาค่อนข้างชัดเจนทีเดียวว่า ‘ไม่รู้เรื่อง’ ไอ้ที่เขาจะอธิบายสักนิด..
“และซอฟท์คิสกับคิสธรรมดามันต่างกันยังไง?” ..นั่นไง.. “พี่โอ้ต…”
ร่างสูงกว่าพยายามกลั้นขำด้วยการซุกหน้าลงกับไหล่ผอมบาง แต่แน่นอนว่าคนตรงหน้าน่ะเห็นอมยิ้มอยู่ชัดๆ เลยอดไม่ได้ที่จะประชดประชัน
“’โทษที แต่พี่ไม่เข้าใจ”
“น่ารัก..โคตรพ่อโคตรแม่เลยอ่ะ” เรียวคิ้วกระตุกทันที “ห๊ะ?”
“ผมบอกว่า…พี่โอ้ตโคตรน่ารัก”
“อะไรของแกวะ?!”
“หลับตาสิครับ”
“ไม่เอา! เดี๋ยว….ก่อน…ให้กูได้ปฏิเสธหน่อยเหอะสัส………อ……………………..” หลังจากนั้นไม่นาน…ข้าวโอ้ตก็เอารถไปติดฟิล์มดำเพื่อประกันความปลอดภัย(หรือเพิ่มอัตราเสี่ยงก็ไม่รู้..)เป็นที่เรียบร้อย….
เอวังด้วยประการฉะนี้แล..
MAY BE HAPPY ENDING??
==========================
ตอนพิเศษมาแบ้วววว
เหมือนจะสั้นเนอะ แต่ไม่สั้นนะ 5555
งงกันมั้ยคะ คือจะเป็นสามช็อตสั้นๆบนรถค่ะ .////.
อ่านแล้วอาจจะสับสนไปบ้าง..เพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องใส่รายละเอียด 555 ไม่งั้นมันไม่ฟินนนนน
นี่ขนาดแค่จูบยังขนาดนี้...โหว..กอล์ฟ...กว่าจะได้เนี่ย......อีกนานเลยนะยะ -_-''
เป็นพระเอกที่โคตรพ่อโคตรแม่สุภาพบุรุษและมีความอดทนสูงที่สุดเท่าที่โอเคยเขียนมาเลยค่ะ กร๊ากกกกกกก
((แต่ก็จะมีบางช่วงที่น้องกอล์ฟแกลนลานเหมือนกันนะ...อุฮิ
))
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์จ้ะ
ozaka*
ปล. เกมเมอร์เลิฟเวอร์ยังจองได้อยู่นะคะ แต่หมดรอบของแถมแล้วจ้ะ >3<
ปล2. ขอบคุณทุกคนมากๆๆๆๆๆนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ