สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังให้ทุกคน ทั้งที่เปิดเผยและเสือซุ่ม ^_^
รวมถึงเนะด้วย ช่วงนี้แถวทางใต้มีแต่ข่าวไม่ค่อยดี
ทั้งฝนตก น้ำท่วม และภัยไม่ธรรมชาติอื่น ๆ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย
ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานอยู่ทุกคน
จงแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งสิ้นเทอญ.....
ช่วงนี้ผมหายหน้าไปหลายวัน ไม่ได้ไปเคาน์ดาวน์ที่ไหนหรอกครับ
นอกจากไปนอนหยอดข้าวต้ม นับดาวที่โรงพยาบาล
โดนไวรัสเล่นงานซะงอมพระราม
สงสัยติดมาจากพม่า (อันนี้คิดเอาเองนะครับ ^_^)
เพราะพอกลับมาก็มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ก็คิดว่า เป็นเพราะอากาศเปลี่ยน
แล้วตัวเองก็หัวแข็ง ไม่น่าเป็นไรมาก พักผ่อนนอนหลับ ดื่มน้ำมาก ๆ ก็น่าจะเอาอยู่
แต่ปรากฏว่า มันเอาไม่อยู่

กลายเป็นว่า ผมมีไข้ขึ้นสูงกว่า 38 องศา พอกินยา ไข้ก็ทุเลาลง
แต่พอหมดฤทธิ์ยา ไข้ก็ขึ้นสูงอีก ทนอยู่ 2 วัน ชักไม่ไหว เพราะมันชักจะเป็นหนักมากขึ้น
ผมเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตอนไปถึง ไข้ผมขึ้นสูงถึง 39.8
ตอนแรกพยาบาลเห็นตัวเลข ก็ไม่แน่ใจ ขอตรวจซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ก็ยังได้ผลเหมือนเดิม
หมอก็เลยสั่ง admit ผมอย่างด่วน พร้อมซักประวัติละเอียดยิบว่า
ไปทำอะไร ที่ไหนมาบ้าง ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้
ผลก็คือ ผมเป็นโรคที่ตอนนี้ดาราบ้านเราเขากำลังฮิตกัน คือ ติดเชื้อไวรัส 55555

ไม่ใช่ไวรัสไข้หวัดนะครับ อย่าเข้าใจผิด แบบนั้นไม่ระคายผมหรอก
แต่เป็นไวรัสสายพันธุ์อื่น ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่า มันชื่ออะไร ชื่อมันจำยาก
แล้วหมอแกก็บอกมาครั้งเดียวด้วย แต่สรุปแล้ว ก็คือ ผมติดเชื้อไวรัสน่ะแหละ
แล้วมันก็ลามไปที่โพรงจมูกผม ทำให้เป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน
ต่อด้วยลงไปที่คอ ทำให้หลอดลมอักเสบ เสียงผมตอนนี้ แหบหายไปเลย
ได้แต่ทำปากพงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงออกมา สุดแสนจะทรมาน
เลยเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองเลยว่า มันทรมานยังไง กว่าจะพูดออกมาได้
ตอนแรกหมอก็หาสาเหตุไม่เจอเหมือนกัน เพราะผมมาหาหมอด้วยอาการมั่ว ๆ
ผสมปนเปกันไปหมด มันไม่ชัดเจนซักอย่าง
ไข้ขึ้นสูง 39.5 องศา ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามข้อและตามเนื้อตัวมาก
เรียกว่า แค่ขยับตัวหายใจก็ปวดแล้ว แถมมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสียร่วมด้วย แต่ไม่มีจุดตามร่างกาย
เบื้องต้นหมอสันนิษฐานว่า ไม่เป็นไข้เลือดออก ก็ไข้หวัดใหญ่
แต่พอเจาะเลือดไปตรวจ ปรากฏว่า ไม่มีเชื้อทั้งสองอย่าง
หมอเลยสั่งเจาะเลือดตรวจไข้หวัด 2009 และไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อีกที
เพราะเห็นว่า ผมเพิ่งกลับมาจากพม่า ก็หาไม่เจออีก
ซึ่งผมก็แย้งไปแล้วว่า ก่อนเดินทางไปพม่า ผมไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สารพัดสายพันธุ์ที่มันมีให้ฉีด
และวัคซีนอื่น ๆ ไปหมดแล้ว ตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อไข้หวัดไอ้ที่ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้
ช่วงที่นอนโรงพยาบาลเป็นช่วงที่ทรมานมาก
ผมไปนอนโรงพยาบาล 2 วัน หมอยังหาไม่เจอว่าเป็นอะไร
เล่นเอาผมจะแย่เอา เพราะหมอก็ไม่กล้าให้ยาอะไรแรง ๆ กลัวมีผลข้างเคียง
แล้วเดี๋ยวโดนฟ้องร้องภายหลัง สุดท้ายหมอเจ้าของไข้ผมเลยส่งเรื่องไปให้
หมอเฉพาะทาง ENT ช่วยทำ consult ให้
ถึงได้รู้ว่า ผมติดเชื้อไวรัสอย่างที่บอกไปแหละครับ
พอหาสมุฏิฐานโรคได้แล้ว คราวนี้ หมอแกจัดยาฆ่าเชื้อให้ผม 3 วันติด ๆ กัน
ให้ทุก 8 ชม. โดยให้ทางสายน้ำเกลือน่ะครับ ผมไปนอนโรงพยาบาลมา 5 วัน
เล่นเอาน้ำหนักลดไปหลายกิโล หุ่นสลิมไปเลย
เพราะกินไม่ได้ กินมาเท่าไหร่ ก็ออกหมด ไม่ออกบน ก็ออกล่าง
หมอแกเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้ คนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดและสายพันธุ์อื่นกันมากขึ้น
อาการของโรคก็มีมาแปลก ๆ ไม่ค่อยได้เจอเหมือนในสมัยก่อน ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยากขึ้น
ต้องอาศัยผลวิเคราะห์จากแล็บมาช่วยมากขึ้น
ผมเลยสงสัยเป็นเพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลง เชื้อโรคมันก็เลยต้องกลายพันธุ์ เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดได้
ผมก็เลยนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เรื่อง 12 Monkey ที่บรูซ วิลลิส เล่นกับแบรด พิทท์ เมื่อสัก 20 ปีมาแล้ว(มั้งครับ)
รวมถึงเรื่องล่าสุดคือ The rise of Planet of the Apes ด้วย อีกหน่อย ลิงคงได้ครองโลกแทนเรา 555555
บรรยายมาซะเยอะเลย เดี๋ยวผมขอพักฟื้นร่ายกายอีกสักหน่อย
แล้วจะกลับมาต่อเรื่องไปเที่ยวเชียงคานนะครับ
