จากนั้นโซเฟียก็พาเราไปนั่งชิมชาที่โรงงานชาของรัฐ
ก็มีเจ้าหน้าที่สาวมาเชิญให้พวกเราเข้าไปนั่งในห้องชงชาที่จัดไว้
แล้วก็มีคนมาสาธิตวิธีดื่มชาแล้วให้พวกเราลองชิมชาหลากหลายประเภทดู
จากนั้น ก็เป็นรายการขายของเหมือนที่อื่น ๆ แหละครับ
เห็นน้องสาวผมเสียเงินซื้อชาบำรุงสุขภาพมาหลายชุดเหมือนกัน
ผมไม่ได้เอารูปมาลงไว้ เพราะมันมีคนอื่นอยู่ในรูปด้วย
เดี๋ยวมีใครรู้จักแล้วเอาไปบอก พวกผมจะซวยเอา
เพราะเพื่อน ๆ น้องไม่มีใครรู้ว่า พวกผมเป็นแฟนกัน
คงคิดว่า พวกผมเป็นเพื่อนสนิทมาเที่ยวด้วยกัน ขออภัยด้วยนะครับ
จากนั้น โซเฟียก็พาเรามาที่สนามกีฬาโอลิมปิค ที่เป็นรังนกนั่นแหละครับ เป็นที่สุดท้าย
แต่ไม่ท้ายสุด เพราะใต้ตึกสเตเดี้ยมในนั้น มันมีร้านจำหน่ายไข่มุก
ซึ่งรวมถึงครีมไข่มุกพอกหน้าที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรารวมอยู่ด้วย
งานนี้ พวกสาว ๆ ช็อปกระจาย ทำยังกะของแถมงั้นแหละ ทั้งที่ราคาก็ไม่ถูกนะครับ
กระปุกหนึ่ง ประมาณ 50 กรัม ราคาตั้งพันกว่าแน่ะ แต่ถ้าซื้อ 2 แถม 1 หรือไงเนี่ยแหละ
ก็เลยเกิดการรวมตัวกันซื้อเฉพาะกิจของสาว ๆ ขึ้นมา
ผมเห็นคุณชายเขาไปเดิน ๆ ดูเหมือนกัน ท่าทางเหมือนสนใจ แต่ก็ไม่ซื้อ
แอบกระซิบถาม เขาบอกว่า อยากซื้อเหมือนกัน แต่กลัวเพื่อนน้องจะรู้
แล้วเขาคิดว่า เขาก็มาที่นี่บ่อย ค่อยมาซื้อทีหลังก็ได้
ส่วนผม ไม่เคยสนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้วครับ
ทุกวันนี้ก็อาศัยใช้ร่วมกับของคุณชายเขา เขาใช้อะไร ผมก็ใช้ด้วย ไม่มีก็ไม่ใช้
แล้วผมก็ไม่เห็นว่า มันจะมีอะไรน่าถ่ายรูป ก็เลยไม่ได้ถ่ายไว้นะครับ
ที่สุดท้าย ที่โซเฟียพามา คือ สถาบันแพทย์แผนจีน ที่อยู่ใต้ตึกนั้นเหมือนกัน
ห่างกันประมาณ 500 เมตรได้มั้ง ที่นี่แหละที่ผมสนใจ รอมาตลอดทริปนี้
โซเฟียพาพวกผมเข้าไปลองใช้บริการแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพร
และนวดเท้าจากพนักงานนวด เป็นบริการฟรีนะครับ
เขาจัดให้พวกผมเข้าไปใช้บริการในห้อง ๆ หนึ่งที่มีเก้าอี้นอนแบบเก้าอี้นวดเท้าบ้านเรา
สักพักก็มีคนเอาถังน้ำใส่สมุนไพรจีนมาให้แช่เท้า ระหว่างที่แช่เท้าไป
เล่าซือแกก็เข้ามาบรรยายสรรพคุณสมุนไพรยาจีนต่าง ๆ ไป
เรียกว่า ไม่ให้เสียเวลาขายของกันเลย
เล่าซือคนที่มาบรรยายสรรพคุณสินค้า แกเคยมาเรียนที่เมืองไทย 3 ปี
เลยพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างดีมาก พวกเราก็แช่เท้ากันอยู่ประมาณ 15 นาที
จนเท้าใกล้จะเปื่อยแล้ว ก็มีพนักงานนวดเดินเรียงแถวกันเข้ามานั่งประจำที่แต่ละคน
ถ้าเป็นบ้านเรา พนักงานนวดส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงใช่มั้ยครับ แต่ที่นี่ ผู้ชายล้วนครับ
แถมแต่ละคนหุ่นยังกับนักกีฬา ผมก็สอบถามคนนวดเท้าของผมว่า
การเป็นพนักงานนวดที่นี่ ต้องเรียนอะไรมาบ้าง ใช้เวลานานมั้ย
เขาบอกว่า ทุกคนต้องจบปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ถึงจะมาทำงานนี้ได้
แล้วเขาก็ทำหน้าภาคภูมิใจมากนักนะครับ ผมก็อึ้งไปนิดนึง
ในใจคิดว่า อะไรวะ แค่เป็นพนักงานนวดที่นี่ ต้องใช้คนจบปริญญาตรีวิทยาศาสตร์เลยเหรอ
แล้วผมก็ถึงเข้าใจ ตอนเล่าซือแกอธิบายให้ฟังว่า
ที่แห่งนี้ เป็นสถาบันฟื้นฟูสภาพและเตรียมความพร้อมให้นักกีฬาของจีน
เพราะฉะนั้น พนักงานของที่นี่ จึงต้องมีความรู้ ความเข้าใจในหลักการยศาสตร์
(Ergonomics) และโครงสร้างร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างดี
ก็คงเหมือน PT ตามฟิตเนสบ้านเรามั้งครับ แต่ผมว่า อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ
ดูเป็นอาชีพมีเกียรติ มีหน้ามีตาไม่น้อยทีเดียวในเมืองจีน
พวกเขาก็นวดเท้าพวกผมไป ขายของไป จนพวกผมเคลิ้มเลยล่ะครับ
นอกจากพนักงานนวดแล้ว ก็จะมีซินแส แบบหมอแมะบ้านเรา
เข้ามาตรวจดูฝ่ามือ ฝ่าเท้าของเรา
เพื่อตรวจดูว่าสุขภาพโดยรวมและอวัยวะส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง
ที่พวกเขาต้องการขายคือ ครีมบัวหิมะ สมุนไพรแช่เท้า และยาบำรุงสุขภาพมากกว่า
ซึ่งก็ได้ผล เพราะพวกผมซื้อกันไปหลายอย่างทีเดียว
ขนาดเงินหยวนไม่พอ พี่แกยังให้รูดบัตรได้โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
ถ้าไม่สะดวกรูดบัตร ก็จ่ายเป็นเงินบาทไทยก็ได้ พี่แกรับหมดทุกสกุลเลยครับ เอากะพี่แกสิ
แถมยังบอกด้วยว่า ถ้าต้องการสั่งของเพิ่ม ก็ให้ติดต่อมาตามนามบัตรที่ให้ไป ค่าจัดส่งฟรี
เพราะรัฐบาลจีนช่วยจ่ายให้ เพื่อต้องการส่งเสริมสมุนไพรจีนให้คนรู้จักกว้างไกลไปทั่วโลก
สั่งมากน้อยแค่ไหนก็ได้ ไม่เสียค่าจัดส่ง รับส่งให้ทั่วโลก
ของผมนี่ ซินแสแกมาแมะมือผมทีเดียว เล่นเอาผมหมดไปเกือบสองหมื่น
เพราะแกบอกว่า ช่วงนี้ เลือดลมผมเดินไม่ดี ไตอาจมีปัญหา
ให้ทานถั่งเฉ้าติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน แล้วจะดีขึ้น
แกโฆษณาว่า ถั่งเฉ้าของที่นี่ เป็นของแท้เพียวๆ ไม่มีอย่างอื่นปน
มีใบรับประกันคุณภาพเรียบร้อย เพราะเป็นของรัฐบาลจีน
ผมก็ลองซื้อมากินดูหน่อยครับ ตอนนี้ก็กินมาได้เดือนนึงแล้ว
ก็รู้สึกเหมือนกันว่า จากที่อ่อนเพลียง่าย หลัง ๆ นี้ นอนหลับสบายขึ้น
ปัสสาวะบ่อยและใสขึ้นด้วยครับ ของแบบนี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นิ 55555
