เอาล่ะนะครับ เมื่อคุณคิงไม่ว่าอะไีรผมก็ขอเริ่้มเลยแล้วกัน เรื่องราวของผมเอง ถือเป็นการระบายไปด้วยในตัวครับ
3 ปี มาแล้ว หรือมากกว่านั้นผมไม่แน่ใจในช่วงเวลา แต่รู้ว่ามันนานอยู่ เรื่องมันเริ่มต้นในบอร์ดแห่งนึง
ผมชอบสิงสู่ในบอร์ดนี้อยู่บ่อยๆ เนื่องด้วยเป็นคนติดบ้าน และนิสัยก็ไม่ใช่คนมีเพื่้อนเยอะ(เอาเข้าจริงถึงขั้นขาดแคลนด้วยซ้ำ) แต่ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะอยู่คนเดียวมาจนชิน จนมาวันหนึ่งในกระทู้นั้น ผมจำไม่ได้ว่ากระทู้มันชื่ออะไรแต่มันเกี่ยวกับหนังนี่แหละครับ มีสมาชิกคนหนึ่งเอา Link มาแปะ ซึ่งมันเป็นคลิปฮาๆเกี่ยวกับหนังที่พูดกันในกระทู้ครับ ผมก็เข้าไปดูแล้วก็หัวเราะตามและด้วยอะไรดลใจไม่รู้ ผมaddเมลไอ้คนแปะlinkนั้นใน msn
มันก็เหมือนกับอีกหลายๆเรื่องในโลกนี้แหละครับ ที่เริ่มต้นด้วยสิ่งที่เล็กมากๆแต่จุดจบของมันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เช่น การกดaddเมลในครั้งนี้ ผมก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่านี่จะเป็นคนที่มาสั่นคลอนชีวิตแบบเดิมของผมจนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หลังจากเค้ารับ add ผมแล้ว ก็มีทักทายแนะนำตัวกันตามปกติครับ จากนี้ไปผมขอใช้ชื่อสมมุติให้เค้าว่า S แล้วกันนะครับ S เนี่ยอายุอ่อนกว่าผมหน่อยนึง เป็นคนชอบหนังสือ ชอบเกม ชอบวาดรูป มีหลายอย่างที่ชอบคล้ายผมเหมือนกันและเป็นคนหัวครีเอตคือชอบทำโลโก้ หรือเขียนกลอนอะไรมาให้ผมดูอยู่บ้าง แต่เอาเข้าจริง s กับผมเนี่ยช่วงแรกแทบไม่ได้คุยกันเลยครับ คือคุยนิดๆหน่อยๆ และก็เงียบหายแล้วก็มาคุยกันอีก ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากอ่ะครับ ถือซะว่าไว้ประดับ m แล้วกัน เป็นอย่างนี้ประมาณ 4 - 5 เดือน มั้งครับ
จนมันมีเหตุการณ์อะไรไม่รู้ผมจำไม่ได้จริงๆ รู้แต่ว่ามันคือบุพเพอาละวาดครับ เพราะมันทำให้ผมกับเค้าเริ่้มคุยได้ถูกคอหรือต่อติดกันหลังจากนั้น ผมเริ่มรู้ว่าเค้ามีความคิดหลายอย่างเหมือนกับผม ผมใช้ emo แบบไหนเค้าก็เริ่มใช้ตาม ผมพูดถึงอะไรเค้าจะเห็นด้วยกับผม คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้งที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าเค้าไม่เหมือนใครคนอื่น เพราะไม่เคยมีใครเข้ากับผมหรือให้ความสำคัญกับผมขนาดนี้มาก่อน มันอาจเป็นการหลงตัวเองอย่างนึงของผมมั้งครับ จากที่ไม่ค่อยได้คุย กลายเป็นว่าทุกครั้งที่เปิดmขึ้นมา เค้าจะเข้ามาทักผมก่อนเสมอไม่ผมก็เป็นคนทักเค้า เราเริ่มคุยเรื่องที่ไปไกลมากกว่าเรื่องผิวเผินทั่วไปเช่น วันนี้เค้าบอกว่าที่โรงเรียนเค้าเจอนั่นเจอนี่ เค้ามีปัญหากับที่บ้านหรือกับเพื่อนในห้อง ผมก็รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาห่วยๆไปตามเรื่องตามราวครับ
ทุกประโยคที่เราได้ส่งต่อกันหลังจากนั้น เหมือนน้ำที่มันรดลงบนต้นไม้ชนิดหนึ่งในซอกหลืบหัวใจของผม นับวันมันยิ่งเติบโตและผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมที่ทวีความหอมขึ้นทุกวันๆ ดอกมันก็ดูสวยงามยิ่งขึ้นแทบจะทุกวินาที แต่ไอ้ต้นไม้ต้นนี้ หากมันไม่โตในเนื้อดินของทั้งสองคนไปพร้อมกัน ลำต้นมันจะอุดมด้วยหนามแหลมและเติบโตด้วยน้ำตาที่หล่อเลี้ยงมัน เสียดาย...ผมรู้สึกตัวช้าเกินไป
เดี๋ยวมาต่อนะครับ