==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้  (อ่าน 1079741 ครั้ง)

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
พวกผมขับเลาะลดเลี้ยวไปตามทางแม่น้ำโขง จนมาถึง อ. สังคม ตอนเที่ยงพอดี
ก็ได้เวลาเติมพลังงานใส่ท้อง ก็เลยขับสำรวจร้านอาหารริมแม่น้ำ
เห็นมีที่น่าสนใจอยู่ 2-3 ร้าน เช่น ร้าน "ทานตะวัน" เห็นรถจอดกันตรึม
ส่วนใหญ่ทะเบียน กทม. ทั้งน้าน ผมเข้าไปด้อม ๆ มอง ๆ ในร้าน
เห็นมีคนนั่งรออาหารกันหลายโต๊ะ คะเนดูแล้ว ขืนเข้าไปนั่ง คงต้องรอนานเป็นชั่วโมงแน่
เลยเปลี่ยนใจไปอีกร้านหนึ่ง ชื่อ ร้าน "กุ๊กนิด" เห็นชื่อร้านแล้วไม่น่าสนใจ เดินผ่าน!
แต่พอเดินผ่านส่วนทำครัว ได้กลิ่นอาหารที่พ่อครัวกำลังปรุง กลิ่นอาหารมันช่างหอมหวนยั่วกระเพาะยิ่งนัก
พวกผม 10 คน หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วทุกคนพยักหน้ากันหงึกหงัก
พร้อมใจกันเลือกร้านนี้โดยไม่ต้องโหวต เอาร้านนี้แหละวะ!!
สภาพร้านอาจไม่น่าสนใจ ไม่เป็นไร....พวกผมนิยมประเภท อร่อย..ถูก..ดี  :impress2:

ร้าน "กุ๊กนิด" เป็นร้านอาหารสวัสดิการของตำรวจ อยู่หน้า สภอ. สังคม พอดี
รายการอาหารที่แนะนำก็มีหลายอย่าง แต่ที่มีวัตถุดิบพอให้ทำได้ในตอนนั้น
คือ "ลาบปลาแค่" "ต้มยำปลาโจก" และอื่น ๆ ที่ผมจำไม่ได้ เพราะหิวตาลายอยู่ในตอนนั้น   :really2:
พนักงานก็เหลือพ่อครัวในร้านแค่คนเดียว พร้อมลูกมือ (จำเป็น) อีก 1 คน อ้อ! คนจดรายการอาหาร+เก็บเงิน อีกคน
นอกนั้น ถูกเหมาไปจัดเลี้ยงนอกสถานที่กันเกือบหมด ยังไม่กลับมา จาน ชาม ช้อน ก็มีน้อย
ขนาดถ้วยน้ำแกง ผมยังต้องใช้ถ้วยกาแฟแทนเลยครับ
แถมพ่อครัวยังทำทีละโต๊ะ กว่าจะได้อาหารของตัวเอง เล่นเอารอเกือบสี่สิบนาที


ช่วงระหว่างรออาหาร ก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพวิวริมแม่น้ำเอาไว้เสียเลย

[attachment deleted by admin]

Classical

  • บุคคลทั่วไป

กระทู้นี้มีแต่สาระ จริงๆ 5555

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
555555 เจ้าเบียที่จริงกระทู้นี้ มีทุกรสชาติ ให้เลือกที่จะเสพ
พวกเราเจอเจอะอะไรกันมาก พอจะแบ่งบันสิ่งที่ได้รู้ ได้พบ ได้เจอ มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
อาจจะได้ข้อคิด อย่างน้อยใครมาเยี่ยมชมก็จะได้เก็บอะไรไปบ้าง   :a2:

ช่วงนี้ที่นี่ฝนตกหนัก ยังดีมีช่วงเว้นวรรคบ้าง เลยต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมอีก  :a6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2012 21:44:05 โดย nonae »

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
แอบคิดถึงกระทู้นี้ ไม่รู้ยังหลงเหลือใครมั่ง

ไม่ได้อ่านเนื้อหาที่แปะเลย แต่ดูรูปแล้วแอบหิวปนอิจฉา แหะๆ

มารายงานตัวว่ากลับมาเล่นไอดีนี้หลังจากที่หนีไปเขียนนิยายมา

(หนึ่งปีเต็มๆเลย ฮ่าๆ)

ไว้วันไหน จะมาเล่าอะไรให้ฟังในกระทู้นี้บ้าง ...

// หนิงหน่อง //

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
555555 มาเลย ๆ  คิดถึงโคตร ๆๆ เจ้าหนิง นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว
มีอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้าง จะได้ไม่หงา

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
5555 ดีใจจัง มีคนกลับมาเล่นกระทู้นี้อีก นึกว่าจะมีแต่สองหนุ่มน้อยเสียแล้ว
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

กลับมาต่อเรื่องไปเชียงคานต่อนะครับ ช่วงนี้เดินทางบ่อย เลยไม่ค่อยต่อเนื่อง ขออภัยด้วยครับ

หลังจากเติมพลังใส่ท้องกันเสร็จเรียบร้อย มีแรงเดินทางกันต่อแล้ว
พวกผมก็ออกเดินทางมุ่งสู่แก่งคุดคู้ ก่อนจะเข้าเชียงคาน
เพราะยังไงก็ต้องผ่านอยู่แล้ว เลยกะว่า จะไปถ่ายรูป กินกุ้งเต้น แกล้มมะพร้าวแก้ว ระลึกความหลังกันซะหน่อย
ของกินขึ้นชื่อของที่นี่ คือ กุ้งเต้น และมะพร้าวแก้ว รู้สึกว่า จะได้ OTOP 5 ดาวด้วย

สมัยก่อน พวกผมเคยมานั่งกินเหล้าเคล้ากุ้งเต้นกันที่นี่ ตอนนั้นเชียงคานยังไม่บูม ยังเป็นอำเภอหลังเขาอยู่เลย
สมัยก่อน กุ้งเต้นในแก่งมีเยอะมาก ลงไปช้อนเอามาสด ๆ ยังเด้งดึ๋ง ๆ ในกระชอนอยู่เลย
บีบมะนาว เหยาะน้ำปลา ใส่พริกป่น ซอยหัวหอม โรยผักชีฝรั่ง ตักเข้าปาก.....อืม!! หวาน อร่อย  :give2:
มะพร้าวแก้ว ก็หอม หวานปะแล่ม ๆ ไม่หวานจัด ไม่รู้ว่า ตอนนี้จะมีกุ้งฝอยในแก่งเหลืออยู่อีกมากน้อยแค่ไหน
แต่มะพร้าวแก้ว ยังเห็นมีร้านตั้งขายกันเป็นล่ำเป็นสัน

แต่สุดท้าย เอาเข้าจริง ๆ ก็แห้วอีกแล้วครับท่าน มาเที่ยวนี้ กินแห้วบ่อยจัง เฮ้อ!  o6
เพราะพอพวกผมมาถึงแก่งคุดคู้จริง ๆ กลับหาที่จอดรถไม่ได้
ลางไม่ดีเริ่มปรากฏตั้งแต่เลี้ยวเข้าทางเข้าแก่งแล้ว
เพราะขับมาไม่กี่กิโล การจราจรเริ่มหนาแน่น แล้วยิ่งติดขัดมากขึ้น เมื่อใกล้ถึงแก่ง
พวกผมขับวนหาที่จอดรถอยู่รอบหนึ่ง ก็ไม่มีที่จอด เลยตัดสินใจวิ่งเข้าเชียงคานไปเลยดีกว่า

แก่งคุดคู้อยู่ห่างจากเชียงคาน แค่ 5 กม. ขับมาตามทางระหว่างอำเภอ
ซึ่งเป็นถนนเล็ก ๆ วิ่งสวนกัน 2 เลน ไม่ถึง 10 นาที ก็เข้าเขตเชียงคานแล้วครับ อยู่ใกล้กันมาก
พอเข้าเขตเชียงคานเท่านั้นแหละครับ ผมนึกว่า มาแถวตรอกข้าวสารที่กรุงเทพฯ
เห็นแต่รถทะเบียนกรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ ที่พักที่จองไว้เป็นโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ริมถนนหลักของอำเภอ
ผมจองไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน เพราะกลัวเต็มเสียก่อน เลยได้ราคาช่วงโลว์ซีซั่น คือ
ห้องพักนอนกันได้ 6 คน ราคา 800 บาท ห้องพักนอนได้ 4 คน ราคา 500 บาท รวมแล้ว 1,300 บาทต่อคืน
ซึ่งถ้าจองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ราคาจะขึ้นเป็น 1,500 และ 1,200 บาท ตามลำดับ

พวกผมพักอยู่ชั้นบน มีแอร์ ทีวี ผ้าขนหนูให้ในแต่ละห้อง
ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำรวมอยู่ชั้นล่าง มี 2 ห้องพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น
มีตู้เย็นกลางให้แช่ของได้ น้ำชา กาแฟ WIFI บริการฟรี ตลอด 24 ชม.
ห้องครัวก็มีไมโครเวฟให้ใช้ พร้อมจานชามช้อนครบสรรพ
สามารถซื้ออาหารมากินกันที่บ้านได้ สะดวกดีพอสมควรเลยครับ

พอมาถึงที่พัก เจ้าของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เป็นผู้หญิง อัธยาศัยน่ารักมากครับ
ตอนที่พวกผมกำลังออกเดินทางจากอุดรฯ ตอนเช้า เขาก็โทรมาหา ถามว่า จะมาถึงกันกี่โมง
ตอนแรกว่า จะไปถึงเชียงคานประมาณ 6 โมงเย็น เขาก็บอกว่า อยากให้มาถึงก่อน 4 โมงเย็น
เพราะคนเยอะมาก กลัวจะหาที่จอดรถไม่ได้ เนื่องจากหน้าบ้านเขาจอดรถริมถนนได้แค่ 2 คัน
แต่ตอนนี้มีคนเช่าห้องเตียงคู่ 2 ห้องเข้าอยู่ก่อนแล้ว แล้วเขาก็เอารถจอดไว้แล้ว
พวกผมต้องไปจอดที่วัดมหาธาตุหรือไม่ก็วัดป่าใต้ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านแทน
พวกผมเลยต้องรีบบึ่งมาหาที่จอดรถกันที่เชียงคานก่อนกำหนด เลยชวดสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปเลย

ซึ่งก็เป็นดังที่เขาบอกครับ พวกผมมาถึงเชียงคานประมาณ 4 โมงเย็น รถราเริ่มหนาแน่นติดขัด
โชคดีที่หน้าบ้านเขามีที่จอดรถว่าง 1 คัน เลยถือโอกาสจอดไว้ซะเลย ส่วนอีกคันไปจอดที่วัดมหาธาตุ
หลังจากเอาของเข้าที่พักกันเสร็จเรียบร้อย พวกผมก็ถือโอกาสเดินสำรวจสถานที่กันเลย ไม่ให้เสียเวลา
เพราะช่วงหน้าหนาว อากาศมืดเร็วมาก สัก 5 โมงเย็นนี่ เหมือนสัก 1 ทุ่ม มืดแล้ว

ที่เชียงคาน เขามีถนน 2 สายทอดขนานกันไปกับแม่น้ำโขง แบ่งบ้านคนออกเป็น 3 ส่วน
ถนนสายหลักและถนนใกล้แม่น้ำโขง ซึ่งใช้เป็นถนนคนเดินตอนเย็น
เขาเลยเรียกว่า สายบนและสายล่าง สายบน คือ ถนนหลักที่อยู่ไกลจากแม่น้ำโขง
นอกจากนี้ ยังมีบ้านคนที่เปิดเป็นโฮมสเตย์อยู่ในซอยเล็กซอยน้อยที่เชื่อมระหว่างถนนทั้งสองสายตลอดเส้นทาง

ถ้าใครคิดจะมาเที่ยวพักที่เชียงคาน ผมแนะนำให้จองที่พักในซอยเชื่อมที่ว่าดีกว่าครับ
เพราะเงียบสงบ ได้พักผ่อนมากกว่า ที่พักที่ผมไปพักนั้น ตั้งอยู่ริมถนนสายหลัก
จะมีรถราวิ่งกันทั้งคืน ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง รถปิคอัพ บางทีก็มีรถสกายแล็ปด้วย
มิหนำซ้ำ ยังมีการเปิดเพลงเคล้าบรรยากาศกินเหล้าอีกต่างหาก
เสียงดังหนวกหู นอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน ถึงแม้จะปิดประตูหน้าต่าง เปิดแอร์แล้วก็ตาม
ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เพราะเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง เสียงย่อมลอดเข้ามาได้อยู่ดี
ตื่นเช้าขึ้นมา พวกผมแต่ละคนหน้าตาอิดโรย เหมือนนอนไม่พอกันทั้งหมดเลย



[attachment deleted by admin]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2012 14:29:17 โดย fanfic2010 »

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
พวกผมใช้เวลาเดินชมร้านค้าตั้งแต่ต้นถนนยันท้ายถนน
กินเวลาไปประมาณ 2-3 ชม. ก่อนจะไปหาที่กินข้าวเย็น
ที่จริงซื้อของกินเล่น เดินดูไปด้วย ทานไปด้วย ก็ชักอิ่มแล้วครับ

ร้านค้าขายของส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายเสื้อผ้าที่ระลึกและของชำร่วย
เขาตั้งชื่อร้านน่ารักดีนะครับ จะเน้นเกี่ยวกับคำว่า "คาน" เป็นส่วนใหญ่
มีทั้ง "ขึ้นคาน" "รอคาน" "ลงจากคาน" ใครที่ยังไม่ได้แต่งงาน อาจแสลงใจนิด ๆ 55555

ที่ผมสนใจก็มีหลายร้าน เช่น

ร้านขายน้ำซ่า "ซาสี่" แบบสมัยก่อนที่ผมยังเด็ก ๆ
คล้าย ๆ น้ำรูทเบียร์นั่นแหละครับ มีหลายรสมาก ใส่ขวดเรียงเป็นตับเลย
ผมเลยสั่งระลึกความหลังมาอย่างนึง คือ น้ำบ๊วยผสมซาสี่
รสชาติใช้ได้เลยครับ ลองดูรูปที่แนบมาแล้วกัน
ส่วนคุณชายเขาลองน้ำแดงโซดาซ่า อร่อยดีเหมือนกันครับ

อีกร้านคือ ร้านขายน้ำสมุนไพร จำพวก น้ำตะไคร้ กระเจี๊ยบ เก็กฮวย ฯลฯ


อีกร้านหนึ่ง คือ ร้านขายเครื่องหนังที่ระลึก
เขาทำเป็นสร้อยข้อมือ กำไลหนัง เข็มขัด โดยตัดและแกะสลักเป็นรูปผีตาโขน
ข้าง ๆ ร้านจะมีหลักกิโลจำลองขนาดใหญ่ เอาไว้ดึงดูดให้คนแวะมาที่ร้านและถ่ายรูป

จุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกที่หนึ่ง คือ บ้านไม้เก่าที่ตั้งอยู่ระหว่างร้านค้าสมัยใหม่
เขาจัดฉากไว้น่ารักดีครับ มีคนไปถ่ายรูปตรงนี้หนาแน่นพอสมควร

อีกร้านหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ร้านขายของที่ระลึกที่เขาตกแต่งร้านเป็นแบบโรงหนังภูธรสมัยเก่า
มีการเอาเครื่องฉายหนังรุ่นคุณปู่อันเบ้อเริ่มมาตั้งโชว์ แล้วมีใบปิดหนังสมัยมิตร ชัยบัญชามาติดรอบร้าน
ดูเก๋ไก๋ไปอีกแบบ

อีกร้านคือ ร้านขายกาแฟสด เป็นส่วนหนึ่งของโฮมสเตย์บนถนนคนเดิน
เขาแบ่งส่วนเป็นร้านขายกาแฟสด และล็อบบี้ แต่งได้น่ารักมากครับ

ผมเล่าด้วยภาพแล้วกันนะครับ ^_^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2012 14:33:57 โดย fanfic2010 »

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
มาลงรูปประกอบคำบรรยายครับ ^_^



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
ที่เชียงคาน มี 7-11 อยู่ร้านเดียวทั้งอำเภอ ไม่มี Star Buck นะครับ
คุณชายเขาเอาถ้วยกาแฟ Star Buck ติดไปใส่น้ำเย็น ใส่กาแฟกินระหว่างทางด้วย
ขณะเดินถืออยู่ ก็มีคนเข้ามาถามว่า ที่นี่มี Star Buck ด้วยเหรอ อยู่ตรงไหน เขาติดกาแฟ Star Buck มาก
ก็เลยได้แต่บอกไปว่า มีแต่ถ้วยที่ติดมาจากบ้าน กาแฟก็ซื้อเอาจากที่นี่แหละครับ

ที่นี่มีแต่ร้านกาแฟสดท้องถิ่น ถ้าเป็นอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารท้องถิ่น เช่น ส้มตำ น้ำตก
ข้าวเปียก หรือ ข้าวต้มเส้นแบบญวน ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว เป็นต้น
ของทานเล่นก็มีหลายอย่าง พวกผมซื้อแล้วเดินกินไปด้วย ดูของไปด้วย ก็ชักอิ่มเหมือนกันครับ

ร้านอาหารจะมีทั้งที่ตั้งอยู่ริมถนนหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารตามสั่ง ประเภท กระเพรา ไข่ดาว ข้าวหมูแดง ทำนองนั้น
ส่วนร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ถ้าเดินบนถนนคนเดิน จะมองไม่ค่อยออกว่า ตรงไหนคือร้านอาหาร
เพราะส่วนใหญ่ร้านจะอยู่ในตรอกหรือซอกเล็ก ๆ มีทางเข้าให้เดินสวนกันได้ เข้าไปด้านใน
พอเข้าไปแล้ว ถึงจะเห็นตัวร้านครับ ตอนแรกพวกผมก็เดินหากันอยู่พักนึง ก็หาไม่เจอ
จนเหลือบไปเห็นป้ายร้าน "บรรเจิดเลย" ก็เลยลองเดินตามป้ายไปดู ถึงได้รู้
อันที่จริง ถ้าเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง จะเป็นร้านอาหารได้ชัดเจนกว่าครับ

ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะมัวแต่จดจ่อกับอาหารจนลืมถ่าย แหะ ๆ ขออภัยด้วย
คนในร้านเยอะครับ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ที่มากันเป็นครอบครัว
เห็นแล้วสงสารเด็ก ๆ เพราะรอนานเลยครับ กว่าพวกผมจะได้อาหารก็ร่วม 40 นาที
ดีที่กินอะไรรองท้องมาบ้างแล้ว เลยพอทนได้ครับ หลังจากกินกันอิ่มแล้ว
สมาชิกที่ตอนนี้เริ่มดังแล้วแยกวงแล้วครับ ตอนแรกก็เดินอยู่ด้วยกัน
สักพัก ด้วยความที่คนมันเยอะ เลยพลัดกันไปคนละทาง สุดท้ายก็กลับไปเจอกันที่บ้าน

อีกที่หนึ่งที่ลืมเล่า คือ ที่ทำการไปรษณีย์ เขาไปตั้งนิทรรศการอยู่ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงคาน
ทำเป็นซุ้มผ้าใบ จำลองที่ทำการไปรษณีย์สมัยรัชกาลที่ 6 มีรูปถ่ายประกอบให้ดูด้วย
นอกจากนี้ ยังให้คนส่งไปรษณีย์บัตรจากเชียงคาน กลับไปบ้านเป็นที่ระลึกด้วย
แสตมป์เขาน่ารักดีครับ เป็นรูปภาพเชียงคานสมัยก่อนในหลากหลายแบบ
ผมก็ไปส่งกับเขาด้วยใบหนึ่งครับ ได้รับมาหลังจากกลับมาจากเชียงคาน
ประมาณ 1 สัปดาห์ครับ ก็รวดเร็วดีเหมือนกัน  o13


[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
แจ้งข่าวหน่อยนึงอาจจะยุ่ง ๆ ช่วงนี้ต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เข้าสถานการณ์
ฝนตกหนักและบ่อย ยังพอให้น้ำได้ระบาย ที่เห็นในข่าวนั้น เป็นบางพื้นที่
ที่ว่าน้ำท่วมสูงเพราะเป็นเส้นทางผ่านของน้ำและเป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งอาจจะมีการก่อสร้างของถนนหรือปิดทางน้ำไหล
เพราะตามคลองหรือฝายต่าง ๆ ยังสามารถรับปริมาณของน้ำได้อีกมาก

ขอบคุณมากปุ้ม (ไม่รู้ว่าเล่าจบทริปหรือยัง)  จะเอาไว้เป็นข้อมูลเพราะมีโอกาสอยากจะไปเที่ยวอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
มาแว้บๆ แอบมอง

 :m22: :m22:

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ หายไปเกือบปีได้ เข้ามาบอร์ดนี้อีกที ตกใจ เจอกระทู้นี้ยังอยู่ 0__0

อยู่ยงคงกระพันกันจริง ๆ ว่าแต่ยังมีใครเหลืออยู่บ้างเนี่ย

พี่ปุ้ม ยังเขียนเรื่องเล่า ยาว ๆ เหมือนเดิม ... เหมือนเขียนไดอารี่เลย ... ผมว่าพี่ปุ้ม น่าจะ save เก็บไว้ด้วยนะ ผมนับถือพี่เลย เขียนยาวเหยีด โดยไม่รู้ว่าจะมีใครอ่านบ้าง 555

แต่ผมชอบอ่านเรื่องเล่านะ แต่เดี๋ยวคงมาอ่านย้อนหลังเอา ^ ^ ตอนนี้ดูแต่รูปอย่างเดียวไปก่อน 555

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
^
^
^
ขอบคุณมากทั้งสองคนที่ยังนึกถึงแวะมาเยี่ยมเยียนกระทู้นี้อีก
ตอนนี้ก็หายหน้าหายตาไปหลายคน เหลือแต่พี่กับพี่เนะ สองหนุ่มน้อยที่เป็นตัวยืน
ส่วนเรื่องที่เขียนยาว ๆ พี่เขียนเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เล่าสู่กันฟัง
ไม่ได้คาดหวังว่า จะมีใครเข้ามาอ่านมากน้อยแค่ไหน
เพราะไม่ได้คิดจะรวมเล่มหรือทำเป็นเรื่องเล่าอะไร
(แอบสนองความต้องการส่วนตัวของตัวเองไว้ด้วย อิอิ)


ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
กลับมาแล้วครับ หลังจากหายหน้าไปถกโสร่งหนุ่มพม่ามาหลายวัน  :impress2:

ขอเล่าเรื่องเยือนพม่าแทรกนิดนึง

อย่างที่หลายคนรู้กันอยู่ว่า ตอนนี้พม่าเนื้อหอมมาก ถนนทุกสายมุ่งสู่เมียนมาร์
หลายคนอาจจะคิดว่า พม่ายังล้าหลังห่างไกลความเจริญ
เหมือนบ้านเราเมื่อสัก 20-30 ปีที่แล้ว อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ
เพราะตอนนี้พม่าเจริญเร็วมาก โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็น เนปิดอ เมืองหลวงใหม่ ร่างกุ้ง เมืองหลวงเก่า มัณฑะเลย์ ฯลฯ
รถราวิ่งกันขวักไขว่ ส่วนหนึ่งไม่อยากบอกว่า มีรถจากบ้านเราไปวิ่งปะปนอยู่ด้วย
ส่วนมาจะแบบถูก กม. หรือไม่นั้น ไม่อาจทราบได้ 5555
ส่วนแฟชั่นบ้านเขา ก็ไล่หลังบ้านเรามาติด ๆ แหละครับ
เพราะคนพม่าที่มีอันจะกินส่วนใหญ่ นิยมส่งลูกหลานมาเรียนที่เมืองไทย
หรือไม่ก็ส่งไปอินเดียบ้าง อังกฤษบ้าง เพราะเขาจะได้สิทธิพิเศษในการเข้าเมืองและอื่น ๆ

ส่วนที่เห็นเป็นตลาดแบกะดิน เรือนไม้เก่า ๆ โทรม ๆ
ผู้คนยังใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาตินั้น ผู้หญิงยังนิยมประทินผิวหน้าด้วยทานาข่า
มักจะเป็นแถบชานเมือง หรือต่างจังหวัดของเขามากกว่า
ก็เหมือนบ้านเราแหละครับ ตามต่างจังหวัด ชนบทก็ยังมีให้เห็นอยู่
ทำให้ผมชักวิตกว่า ความเป็นธรรมชาติของพม่าจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว
ถ้าใครอยากไปเที่ยวพม่า ควรหาโอกาสไปแต่เนิ่น ๆ นะครับ

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ถึงว่าหายไปหลายวัน ปีหน้ามีคนชวนไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ยังไม่รู้รายละเอียด
เมื่อต้นเดือนเค้าก็ชวนไปสิบสองปันนา เราก็ไม่ได้ไป ช่วงนี้คนนิยมไปเที่ยวเพื่อนบ้านกันมากนะ
พม่าบ้าง สิบสองปันนาบ้าง หลวงพระบางถึงเวียดนามเลย
ปีใหม่นี่ก็อดไปเที่ยวเลย ติดงานนนน  :z3:
ใครที่เดินทางไปเที่ยวก็ระมัดระวังความปลอดภัยด้วยนะ  คนออกเที่ยวกันมาก

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
สวัสดีวันขึ้นปีใหม่ ขอให้ปุ้ม และทุกคนในทู้นี้ มีแต่ความสุข คิดสิ่งใดให้สมความปรารถนาทุกประการนะ  :L2:  :เหอะ1:
ปีที่ผ่านมาปี 2555 ได้หัวเราะตาม พ.ศ.เลยหล่ะ เหนื่อยจนต้องหัวเราะเพราะทำแทบไม่ทัน
หวังว่าปีนี้คงได้ไม่เหนื่อยมากเหมือนปีที่แล้วนะ (ที่จริงก็งานมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่ละ เฮ้อ....)  :z2:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
แวะมาทักทายและรับคำอวยพร
และบอกว่า ยังอยู่นะครับ ไม่ได้หายไปไหน ^^

ไจฟ์ครับ..

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังให้ทุกคน ทั้งที่เปิดเผยและเสือซุ่ม ^_^
รวมถึงเนะด้วย ช่วงนี้แถวทางใต้มีแต่ข่าวไม่ค่อยดี
ทั้งฝนตก น้ำท่วม และภัยไม่ธรรมชาติอื่น ๆ
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย
ช่วยปกป้องคุ้มครองให้ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานอยู่ทุกคน
จงแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งสิ้นเทอญ.....

ช่วงนี้ผมหายหน้าไปหลายวัน ไม่ได้ไปเคาน์ดาวน์ที่ไหนหรอกครับ
นอกจากไปนอนหยอดข้าวต้ม นับดาวที่โรงพยาบาล
โดนไวรัสเล่นงานซะงอมพระราม
สงสัยติดมาจากพม่า (อันนี้คิดเอาเองนะครับ ^_^)
เพราะพอกลับมาก็มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ก็คิดว่า เป็นเพราะอากาศเปลี่ยน
แล้วตัวเองก็หัวแข็ง ไม่น่าเป็นไรมาก พักผ่อนนอนหลับ ดื่มน้ำมาก ๆ ก็น่าจะเอาอยู่
แต่ปรากฏว่า มันเอาไม่อยู่  :sad11:
กลายเป็นว่า ผมมีไข้ขึ้นสูงกว่า 38 องศา พอกินยา ไข้ก็ทุเลาลง
แต่พอหมดฤทธิ์ยา ไข้ก็ขึ้นสูงอีก ทนอยู่ 2 วัน ชักไม่ไหว เพราะมันชักจะเป็นหนักมากขึ้น
ผมเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตอนไปถึง ไข้ผมขึ้นสูงถึง 39.8
ตอนแรกพยาบาลเห็นตัวเลข ก็ไม่แน่ใจ ขอตรวจซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ก็ยังได้ผลเหมือนเดิม
หมอก็เลยสั่ง admit ผมอย่างด่วน พร้อมซักประวัติละเอียดยิบว่า
ไปทำอะไร ที่ไหนมาบ้าง ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้

ผลก็คือ ผมเป็นโรคที่ตอนนี้ดาราบ้านเราเขากำลังฮิตกัน คือ ติดเชื้อไวรัส 55555  :laugh:
ไม่ใช่ไวรัสไข้หวัดนะครับ อย่าเข้าใจผิด แบบนั้นไม่ระคายผมหรอก
แต่เป็นไวรัสสายพันธุ์อื่น ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่า มันชื่ออะไร ชื่อมันจำยาก
แล้วหมอแกก็บอกมาครั้งเดียวด้วย แต่สรุปแล้ว ก็คือ ผมติดเชื้อไวรัสน่ะแหละ
แล้วมันก็ลามไปที่โพรงจมูกผม ทำให้เป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน
ต่อด้วยลงไปที่คอ ทำให้หลอดลมอักเสบ เสียงผมตอนนี้ แหบหายไปเลย
ได้แต่ทำปากพงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงออกมา สุดแสนจะทรมาน
เลยเข้าใจความรู้สึกของคนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองเลยว่า มันทรมานยังไง กว่าจะพูดออกมาได้

ตอนแรกหมอก็หาสาเหตุไม่เจอเหมือนกัน เพราะผมมาหาหมอด้วยอาการมั่ว ๆ
ผสมปนเปกันไปหมด มันไม่ชัดเจนซักอย่าง
ไข้ขึ้นสูง 39.5 องศา ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดเมื่อยตามข้อและตามเนื้อตัวมาก
เรียกว่า แค่ขยับตัวหายใจก็ปวดแล้ว แถมมีอาการคลื่นไส้ ท้องเสียร่วมด้วย แต่ไม่มีจุดตามร่างกาย

เบื้องต้นหมอสันนิษฐานว่า ไม่เป็นไข้เลือดออก ก็ไข้หวัดใหญ่
แต่พอเจาะเลือดไปตรวจ ปรากฏว่า ไม่มีเชื้อทั้งสองอย่าง
หมอเลยสั่งเจาะเลือดตรวจไข้หวัด 2009 และไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อีกที
เพราะเห็นว่า ผมเพิ่งกลับมาจากพม่า ก็หาไม่เจออีก
ซึ่งผมก็แย้งไปแล้วว่า ก่อนเดินทางไปพม่า ผมไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สารพัดสายพันธุ์ที่มันมีให้ฉีด
และวัคซีนอื่น ๆ ไปหมดแล้ว ตั้งแต่เดือน พ.ย. ที่ผ่านมา
เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อไข้หวัดไอ้ที่ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

ช่วงที่นอนโรงพยาบาลเป็นช่วงที่ทรมานมาก
ผมไปนอนโรงพยาบาล 2 วัน หมอยังหาไม่เจอว่าเป็นอะไร
เล่นเอาผมจะแย่เอา เพราะหมอก็ไม่กล้าให้ยาอะไรแรง ๆ กลัวมีผลข้างเคียง
แล้วเดี๋ยวโดนฟ้องร้องภายหลัง สุดท้ายหมอเจ้าของไข้ผมเลยส่งเรื่องไปให้
หมอเฉพาะทาง ENT ช่วยทำ consult ให้
ถึงได้รู้ว่า ผมติดเชื้อไวรัสอย่างที่บอกไปแหละครับ

พอหาสมุฏิฐานโรคได้แล้ว คราวนี้ หมอแกจัดยาฆ่าเชื้อให้ผม 3 วันติด ๆ กัน
ให้ทุก 8 ชม. โดยให้ทางสายน้ำเกลือน่ะครับ ผมไปนอนโรงพยาบาลมา 5 วัน
เล่นเอาน้ำหนักลดไปหลายกิโล หุ่นสลิมไปเลย
เพราะกินไม่ได้ กินมาเท่าไหร่ ก็ออกหมด ไม่ออกบน ก็ออกล่าง

หมอแกเล่าให้ฟังว่า ช่วงนี้ คนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดและสายพันธุ์อื่นกันมากขึ้น
อาการของโรคก็มีมาแปลก ๆ ไม่ค่อยได้เจอเหมือนในสมัยก่อน ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยากขึ้น
ต้องอาศัยผลวิเคราะห์จากแล็บมาช่วยมากขึ้น
ผมเลยสงสัยเป็นเพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลง เชื้อโรคมันก็เลยต้องกลายพันธุ์ เพื่อปรับตัวให้อยู่รอดได้
ผมก็เลยนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เรื่อง 12 Monkey ที่บรูซ วิลลิส เล่นกับแบรด พิทท์ เมื่อสัก 20 ปีมาแล้ว(มั้งครับ)
รวมถึงเรื่องล่าสุดคือ The rise of Planet of the Apes ด้วย อีกหน่อย ลิงคงได้ครองโลกแทนเรา 555555

บรรยายมาซะเยอะเลย เดี๋ยวผมขอพักฟื้นร่ายกายอีกสักหน่อย
แล้วจะกลับมาต่อเรื่องไปเที่ยวเชียงคานนะครับ

 :bye2:

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
หายไวไวนะ ปุ้ม หายแล้วก็อย่าพึ่งวางใจนะ บางทีมันแอบไม่หายง่าย ๆๆ
ช่วงนี้งานยุ่งมากกก อาจจะคุยน้อยนิด แต่จะมาดูเรื่อย ๆๆ 

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
กลับมาแล้วครับ หลังจากหายป่วย ก็เจองานรุมเร้า แถมต้องเดินทางอีก
เพิ่งจะมีเวลาว่างมาต่อเรื่องไปเที่ยวเชียงคาน หลังจากผ่านมาเดือนกว่าแล้ว
หวังว่า มิตรรัก แฟนคลับทั้งหลายยังคงติดตามอยู่นะครับ ^_^

หลังจากพักผ่อนนอนหลับ สัมผัสบรรยากาศโฮมสเตย์ริมถนนที่เชียงคานแล้ว
พวกผมก็ตื่นขึ้นมา ตอนตี 5 เพื่อเตรียมตัวไปดูตะวันทอแสงผ่านทะเลหมอกที่ภูท่อก
พวกผมไม่มีใครอาบน้ำกันสักคน แค่ล้างหน้า แปรงฟันเท่านั้น กะจะกลับมาอาบน้ำกันทีหลัง
กว่าจะล้างหน้า แปรงฟันกันครบทุกคน ก็เสียเวลาไปร่วมครึ่งชั่วโมง แต่ฟ้าก็ยังมืดอยู่
ออกเดินทางกันประมาณตีห้าครึ่ง ใช้เวลาเดินทางจากเชียงคานไปภูท่อก ประมาณ 30 นาที

พอไปถึง ก็เห็นนักท่องเที่ยวเดินแถวกันเป็นขบวนยาว เพื่อไปรอขึ้นรถไปยอดภูท่อก
ทางการฯ เขาให้นำรถไปจอดในที่จอดรถที่จัดไว้ให้ ซึ่งจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีครับ
เจ้าหน้าที่เขาประกาศผ่านโทรโข่ง เสียงดังฟังชัดดีครับ
ระหว่างทาง ก็มีร้านขายของเรียงรายไปตลอดทาง ส่วนใหญ่เป็นของกิน
เช่น ร้านกาแฟสด ร้านขายข้าวจี่ (ข้าวเหนียวชุบไข่ปิ้ง) ร้านขายไก่ย่าง ไส้กรอก ฯลฯ
มีอยู่ร้านหนึ่ง ผมก็ไปด้อม ๆ มอง ๆ แม่ค้าเขากำลังปิ้งข้าวจี่อยู่ ก็เลยขอเขาถ่ายรูปมาให้ดู
เขาก็เลยเปิดผ้าปิดปาก เผยให้เห็นหน้าตาชัด ๆ ยิ้มหวานให้ถ่ายรูปอย่างเต็มใจมาก ๆ
แถมยังบอกว่า จะให้โพสต์ท่ายังไง ก็บอกแล้วกันนะคะ ดูรูปก็แล้วกันนะครับ   555555  :laugh:

หลังจากจ่ายเงินค่ารถขึ้นภูท่อกกันคนละ 50 บาท เรียบร้อยแล้ว
ก็มายืนรอขึ้นรถไปบนยอดภู โชคดีที่กลุ่มผมได้ขึ้นรถตู้ เลยได้นั่งไปด้วยกันทั้งหมด
บางกลุ่มได้รถสองแถว ก็ต้องแบ่ง ๆ กันไปกับคนอื่น
เข้าแถวยืนรอ แล้วได้รถคันไหน ก็ต้องไปคันนั้น เลือกไม่ได้นะครับ
ขืนเรื่องมาก อาจได้ยินเสียงคนด่าลอยมาตามสายลมให้เดาเล่นถึงที่มาของเสียง 555555


[attachment deleted by admin]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
หลังจากนั่งรถเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตามความโค้งของถนน พอให้หวาดเสียวเล่นเป็นกษัย
เราก็มาถึงยอดภูโดยสวัสดิภาพ แต่ผมแอบหายใจไม่ทั่วท้อง ตอนพี่คนขับแกเข้าโค้ง
เพราะถนนมันค่อนข้างแคบ รถสวนกันลำบาก ถ้าไม่ชำนาญพื้นที่เพียงพอ

พอขึ้นไปถึงยอดภูท่อก ก็เห็นคนหลายร้อยคน ยืนบ้าง นั่งบ้าง เตรียมอุปกรณ์อยู่บ้าง
เพื่อรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น พวกผมก็หาที่เหมาะ ๆ นั่งรอบ้าง เหล่สาวบ้าง
ให้สมกับที่นาน ๆ ที แต่ละคนจะได้วีซ่าจาก ผบทบ. ให้มาแรดแบบไม่มีควาญมาคุม
บางคนก็แวะไปถ่ายรูปรอบบริเวณบ้าง อากาศก็กำลังดี ไม่หนาวมาก แต่มีลมมาเป็นระยะ ๆ
พอให้ขนลุกเสียวเล่น

นั่งรอกันสักพัก แสงอาทิตย์ยามเช้าก็เริ่มส่องแสงเรื่อเรืองมาให้คนตื่นเต้นกันเล่น
บางคนทำยังกับไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นมาก่อนในชีวิตอย่างนั้นแหละ
น่าเสียดายตอนที่พวกผมไป หมอกลงจัด ทำให้ไม่ค่อยเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเต็มใบ แต่ก็สวยไปอีกแบบ

อีตอนขากลับ ลงจากภูท่อก ผมว่า ขาขึ้นคนเยอะแล้วนะครับ แต่มันค่อย ๆ ขึ้นกันไปเป็นกลุ่ม ๆ
เลยมองไม่ออกว่า มีคนเยอะมากแค่ไหน แต่ตอนขาลง ทุกคนก็แห่กันลงทั้งหมด
ทำให้การจราจรบนยอดภูติดขัดน่าดู ต้องยืนเข้าแถวเป็นงูกินหางกันหลายขนด
ผมเลยถ่ายรูปมาให้ดูแก้เซ็ง ระหว่างยืนรอเข้าแถวขึ้นรถลงจากภู



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
หลังจากลงมากันแล้ว พวกผมก็เลยแวะกินกาแฟกันแถวเชิงภูนั่นแหละครับ
เลยถือโอกาสอุดหนุนแม่ค้ายิ้มหวานที่ยอมให้ผมถ่ายรูปไปด้วย

พอกลับมาถึงที่พักที่เชียงคาน แต่ละคนก็รีบอาบน้ำ เพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ
ตอนแรกว่า จะแวะไปเที่ยวและพักที่เขาค้ออีก 1 คืน
แต่มีเพื่อนบางคนเกิดติดธุระกระทันหัน ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน
กลับก่อนกำหนด 1 วัน ก็ตีรถยาวจากเชียงคาน วิ่งมาทางเพชรบูรณ์
ผ่านหล่มเก่า หล่มสัก มาถึงแถวชัยบาดาล ก็เที่ยงพอดี
เลยแวะกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านไก่ย่างตาแป๊ะ 2
ต้นตำรับไก่ย่างวิเชียรบุรีอันเลื่องชื่อ ร้านที่ไปกิน เป็นสาขา 2
ของลูกสาวคนโตของอาแป๊ะแกครับ พวกผมไปถึงตอน 11 โมงกว่า
ก็มีคนนั่งกินกันหนาตาแล้วครับ มาถึงถิ่นต้นตำรับแล้วก็ต้องลองชิมไก่ย่างวิเชียรบุรี
ถ้าใครมีโอกาสผ่านมาแถวชัยบาดาล-วิเชียรบุรี แนะนำให้มาลองชิมที่ร้านนี้นะครับ
หาง่ายมาก เพราะตั้งอยู่ริมถนนใหญ่
จุดสังเกตุคือ ก่อนถึงจะมีร้านขายไก่ย่างตั้งเรียงรายทางซ้ายมือมาตลอดทาง
ร้านไก่ย่างตาแป๊ะ 2 จะอยู่แถวกลาง ๆ ครับ พวกผมเกือบชับเลย
เพราะมีป้ายขายไก่ย่างอันเบ้อเริ่มของอีกร้านหนึ่ง บังป้ายร้านอยู่

รายการอาหารแนะนำ ได้แก่

1) ไก่ย่างวิเชียรบุรี ซึ่งของที่นี่ เขาย่างจนหนังบาง กรอบมาก
ขนาดคุณชาย ซึ่งปกติจะไม่กินพวกของมัน ๆ อย่างหนังไก่ อะไรพวกนี้ ยังกินเลยครับ
เขาเสริฟมาพร้อมกับน้ำจิ้ม 4 แบบ ให้เลือกกินตามอัธยาศัย
2) ลาบเป็ด  ของที่นี่ เนื้อเป็ดล้วน ๆ ครับ แล้วให้มาเยอะมาก
เรียกว่า กินคุ้ม ไม่เสียดายเงินเลย
3) ส้มตำ ปู-ปลาร้า  รสชาติเป็นยังไง ต้องไปลองชิมเองครับ ผมบอกไม่ถูก
บอกได้แต่เพียงว่า ขนาดเหลือแต่น้ำติดจาน เพื่อนผมมันยังเอาข้าวเหนียวปั้นจิ้มกินเลยครับ
4) แกงอ่อม  ของที่นี่ รสชาติกลมกล่อม ไม่มีกลิ่นคาวของปลาร้าให้กวนใจ

หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้ว คราวนี้ก็เหยียบยาวกันจนถึงกรุงเทพฯ เลยครับ
มีแวะเข้าห้องน้ำบ้าง แต่ก็ไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนอีก เพราะพอเริ่มเข้าเขตสระบุรี
รถก็เริ่มหนาแน่นแล้วครับ พวกผมวิ่งออกทางเลี่ยงเมืองลพบุรี-สระบุรี
แล้ววิ่งเข้าพหลโยธิน กว่าจะถึงกรุงเทพฯ ก็หกโมงเย็นพอดี
จากนั้น ก็บ้านใคร บ้านมัน

ก็จบการเดินทางไปเชียงคานเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ

ทริปหน้า กำลังเถียงกันอยู่ระหว่าง นิวซีแลนด์ (ซึ่งผมอยากไป)
กับ เยอรมัน ที่คุณชายอยากไป

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
คนไปเที่ยวเยอะมากเลย แต่ก็ดีนะ คนเข้าคิวขึ้นรถไม่แย่งกัน
เห็นบรรยากาศแล้วนึกถึงตอนเราไปเที่ยวภูกระดึง ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหล่มสัก
คนมากแบบนี้หล่ะ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก นึกว่าไปเที่ยวต่างประเทศมา ที่ไหนได้ประเทศไทยของเราเอง

ปุ้ม เชียร์ไปนิวซีแลนด์ แถบยุโรปปุ้มไปมาแล้วนิ เราว่านิวซีแลนด์มีอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่
      แล้วอาการที่ป่วยหายสนิทดีแล้วหรือ โหมงานซะขนาดนั้น

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
คุณชายอยากไปเยอรมันแล้วข้ามไปเที่ยวแถบยุโรปตะวันออก เช่น
เชค - สโลวีเนีย - โปแลนด์ - โรมาเนีย ประมาณว่า เช่ารถขับเที่ยวเอง
แต่ผมยังเกรงอยู่ว่า จะมีปัญหาเรื่องภาษาหรือเปล่า
เพราะแถบนั้นเขาพูดกันแต่ภาษาประจำชาติ หรือไม่ก็ เยอรมัน/รัสเซีย
ถึงคุณชายเขาจะพอพูดเยอรมันได้ แต่ก็ร้างราไปนานเต็มทีแล้ว
กลัวจะโดนเหมือนเพื่อนผมเมื่อปีกลาย

เพื่อนผมเขาแบกเป้เที่ยวยุโรปคนเดียว 9 ประเทศ อารมณ์ประมาณว่า "กูเซ็ง!"
เลยปลีกวิเวกหนีไปเที่ยวคนเดียวซะครึ่งเดือน
ก็ขับรถคนเดียวตะลอน ๆ ไปที่นั่น ที่นี่เยอะแยะ แล้วก็ส่ง FB มาอวดให้อิจฉาเล่น
ก็เที่ยวแบบนี้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนวันสุดท้ายที่จะกลับ เจอแจ็คพ็อตจนได้

เพื่อนผมจะต้องมาขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยที่มิวนิค เยอรมัน
ระหว่างทางก็แวะจอดพักที่โมเต็ลในเมืองที่เป็นทางผ่านจากปรากมามิวนิค
เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ซึ่งแถวยุโรปเขาจะมีที่แวะพักให้อาบน้ำ ล้างหน้าได้
ด้วยความที่ตั้งใจแวะจอดทำธุระแป็บเดียว ก็เลยเอาของลงไปแต่เฉพาะอุปกรณ์อาบน้ำ
และเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยน เป้และสัมภาระอย่างอื่นรวมทั้งข้าวของที่ซื้อมาก็ทิ้งไว้ในรถหมด
ปรากฏว่า กลับออกมา รถโดนงัด ข้าวของทั้งหมดหายอันตรธานไปหมดเลย
โชคดีที่ถือกระเป๋าใส่เงิน โทรศัพท์และพาสปอร์ตติดมือไปด้วย ไม่งั้นมีเฮ!

เพื่อนผมต้องเสียเวลาโทรแจ้งตำรวจท้องถิ่น ไปแจ้งความ ติดต่อบริษัทรถเช่าเพื่อแจ้งเหตุ
ติดต่อสายการบิน ฯลฯ
กว่าจะคุยกับตำรวจให้รู้เรื่อง ต้องส่งภาษามือ ภาษากายจนเหนื่อย
เพราะตำรวจบ้านเขาพูดภาษาอังกฤษไม่สันทัด ถนัดแต่ภาษาเยอรมันกับภาษาท้องถิ่น
กว่าจะเสร็จเรื่อง กว่าบริษัทรถเช่าจะส่งรถคันใหม่มารับไปส่งที่สนามบิน
เล่นเอาเกือบตกเครื่อง ดีที่เพื่อนผมมันโทรไปบอกสายการบินเขาล่วงหน้าแล้ว
ตอนที่มันไปเช็คอินที่สนามบิน มีแต่ตัวไปจริง ๆ
เล่นเอาเพื่อนผมสาปส่งและเข็ดไปนานเลย



ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
วันนี้ ผมมีนัดทานข้าวกับเพื่อนที่ไปเที่ยวเชียงคานมาด้วยกันที่ เซ็นทรัล แกรนด์พระราม 9
ตั้งแต่กลับกันมา ต่างคนต่างก็ยุ่งกับเรื่องของตัวเอง ยังไม่มีเวลาเจอกันอีกเลย
กะว่า จะเอารูปในกล้องของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนกันดูด้วย เพราะจะให้ส่งทาง FB หรือ E-mail ไฟล์ก็ใหญ่เกิน

วันนี้นอกจากเพื่อน ๆ แล้ว ยังพ่วงเอาครอบครัวของแต่ละฝ่ายมาด้วย
อย่างน้อยก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้บรรดาเมีย ๆ ทั้งหลายมั่นใจว่า สามีของแต่ละคนไปเที่ยวกันมาจริง ๆ (นะจ๊ะ)  o3

พวกผมนัดเจอกันที่ Food Republic ซึ่งเป็นสวนอาหารเปิดใหม่ อยู่บนชั้น 6 ของห้างฯ
ตั้งแต่เซ็นทรัลฯ ที่นี่เปิดมาตั้งแต่ปลายปีก่อน ผมยังไม่มีโอกาสมาเลย
วันนี้เลยเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้มาสำรวจเสียเลย งานนี้ฉายเดี่ยวครับ เพราะคุณชายไปทำงาน
ผมเลยลั้ลลาเป็นพิเศษ 555555  :laugh3:

เมื่อวานยังถามเขาอยู่เลยว่า ที่มีข่าวประท้วงกันวุ่นวายที่สนามบิน ยังจะทำงานได้เหรอ
เขาก็บอกว่า The show must go on.  อาจจะชักช้า ขลุกขลักหน่อย แต่ก็พอถูไถไปได้
หวังว่า อีตอนขากลับ เรื่องราวคงคลี่คลาย จบกันด้วยดี

ร้าน Food Republic ที่ว่า เขาลอกแบบมาจากที่สิงคโปร์
ถือว่า จัดร้านใช้ได้เลยครับ เมื่อเทียบกับ loft ที่สาขาอื่น ถือว่า ราคาไม่แพงเลย
เช่น ข้าวมันไก่สิงคโปร์ เขาทำตามสูตรของที่นั่นเป๊ะ รสชาติอาจแตกต่างจากบ้านเรา รวมทั้งน้ำจิ้มด้วย
ก็อร่อยไปอีกแบบ

ส่วนร้านค้าอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์เนมมีชื่อ
ที่บางยี่ห้อก็เพิ่งมาเปิดตลาดที่บ้านเรา น่าสนใจดีครับ ที่จอดรถก็สะดวกสบาย
ช่วงเปิดใหม่ ๆ มีโปรโมชั่น จอดรถฟรีทั้งวันในวันหยุด ส่วนวันธรรมดา ฟรี 3 ชั่วโมงแรก
ถ้ามีใครมีโอกาสแวะไปที่นี่ ก็ลองแวะมาดูนะครับ

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
เมื่อวันเสาร์น้องเราก็กลับจากคุนหมิง เครื่องลงตั้งแต่หกโมงเย็นละ แต่ต้องรอกว่าจะได้ออก กว่าจะได้กระเป๋า สองทุ่มกว่า
ที่จริงไม่น่าจะให้กระทบกับผู้โดยสารที่ใช้บริการ ประกอบกับกรุ๊ปที่น้องไปมีนักข่าวไปทั้งกลุ่ม เลยถ่ายรูปทำข่าวกันใหญ่
จนการท่าต้องออกมาให้สัมภาษณ์ เห็นว่า นักบินรอบนเครื่องแล้วแต่อาหารกับกระเป๋ายังไม่ขึ้นบนเครื่อง เพราะกราวน์ไม่ทำงาน
รู้มาว่าเครื่องเลทตั้งแต่วันพฤหัส มีการประชุมที่คุนหมิงเวลาเลทไปสามชั่วโมงต้องเลื่อนการประชุม ป่วนไปหมดทั้งในและนอกประเทศ
ฟัง ๆ เค้าคุยกันไว ๆ เห็นว่าไม่ได้โบนัสตั้งแต่ปีที่แล้ว เรายังไม่ได้ถามรายละเอียดให้ชัดเจนเลย

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
เนะ.....ได้ผลสรุปเรื่องทริปหน้ามาแล้ว แอ่น แอน แอ๊น
"New Zealand"  :z2:

ตอนนี้กำลังค้นหาข้อมูลอยู่ว่า จะวางแผนเดินทางกันยังไง จะไปที่ไหนกันบ้าง
กะว่า จะหาบัดดี้ไปอีก 2 คน เป็น 4 คน จะได้ช่วยกันขับรถ
ถ้ามีใครเคยไปมาแล้ว ช่วยแชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะครับ

อีกเรื่องนึง วันเสาร์นี้ จะไปงานเลี้ยง เขาให้แต่งตัวเลียนแบบฮีโร่ในดวงใจ
ยังนึกไม่ออกว่า จะแต่งเป็นใครดี ใครมีไอเดียเจ๋ง ๆ ช่วยบอกหน่อยนะครับ

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
55555 ถูกใจมากกกกกก ทำไมคุณชายถึงยอมเปลี่ยนใจได้หล่ะ
วางแผนไปช่วงไหน ล็อควันเดินทางยัง จะรอดูทริปนี้ ถ่ายรูปมาเยอะ ๆ ด้วย 55555
จะลองถามเพื่อนดูเค้าทำทัวร์อยู่น่าจะเคยไปที่นั่น ยังไงจะส่งข่าวให้

http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E12571197/E12571197.html
ลองอ่านดูเป็นข้อมูลนะ

งานเลี้ยงไม่มีไอเดียอ่ะ ถ้าเจอแล้วจะมาบอก น่าจะทันวันเสาร์ แล้วปุ้มชอบใครหล่ะ ลองแต่งเลียนแบบคนนั้นดูดิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2013 21:31:53 โดย nonae »

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
ขอบคุณมากครับ สำหรับลิ้งข้อมูล
ผมกะว่า จะไปช่วงปลายเดือนเมษา หรือต้นพฤษภา
ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงของที่นั่นพอดี คนไม่ค่อยไปเที่ยวมากเท่าไหร่
จะได้มีเวลาดื่มด่ำกับธรรมชาติได้มากหน่อย
ไม่ต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยวให้เสียอารมณ์

ส่วนเรื่องที่ทำไมคุณชายเขายอมไปนิวซีแลนด์
แทนที่จะเป็นเยอรมันอย่างที่อยากไปแต่แรกนั้น
เพราะผมบอกเขาว่า "ถ้าจะไปเยอรมัน ก็ออกไปนอนข้างนอก"
 :laugh:

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
5555 เป็นวิธีการที่เยี่ยมที่สุดเลย แบบนี้ใครจะกล้าหล่ะนะ
ยังมีเวลานาน พอจะหาข้อมูลและวางแผนการเที่ยวอยู่

ปุ้มพอจะมีข้อมูลโครงการเส้นทางทวาย-แหลมฉบังบ้างปะ เราก็หาในเนตบ้างละ แต่เผื่อปุ้มจะมีอะไรเพิ่มเติม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด