==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ==> เมื่อผมมีรักแท้ แต่ดูแล(ไว้)ไม่ได้  (อ่าน 1079451 ครั้ง)

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
@คิง : น้องตี๋ ตอนอยู่ต่อหน้าเพื่อน คงแสดงอาการอะไรบางอย่าง ให้เพื่อนเห็นนั่นแหละ และยิ่งพอเจอหน้าคิง ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ใช่เลยแหละ มันเป็นอาการของคนที่ปลืมใครบางคน แล้วทำตัวไม่ถูก 555 เพราะอาการนี้เราก็เคยเป็น ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ... ยิ่งเพื่อนเขาเปิดทางขนาดนี้ ใช่เลย ... แต่ว่าหน้า คิง มัน ออร่า กระจายขนาดนั้นเลยเหรอ อิอิ  :laugh: ไม่แน่นะ น้องตี๋ อาจจะเป็นคนที่เฝ้ารอคอยอยู่ก็ได้

ส่วนเรื่องนอนหนุนตัก กลับกลายเป็นว่า ผมไม่ค่อยชอบให้ใครมานอนหนุนตักผมสักเท่าไหร่ครับ แต่ผมกลับชอบไปนอนหนุนตักคนอื่น ตอนเด็ก ๆ ชอบนอนหนุนตักพ่อ แม่ จนหลับไป ตอนมีแฟนตอน ม.ปลาย ก็ชอบนอนหนุนตักแฟน (แฟนบอกตอนหลับผมเหมือนแมวเหมียวมาก 555) ... ตอนมาคบกับเจมส์ ผมก็ชอบนอนหนุนตักเจมส์ แล้วเขาชอบเอามือลูบผม ลูบหัวเราเล่น แล้วเราก็จะเคลิ้มแล้วก็หลับสบาย ... แต่บางครั้งเวลาเขามีปัญหาเขาก็จะมานอนหนุนตักผม ซบผม แล้วเวลาเจมส์หลับ เขาจะตื่นง่ายเวลามอะไรรบกวน เลยไม่ค่อยอยากขยับเท่าไหร่ ขยับทีเขาก็จะตื่น แต่คนเราเวลาหลับ ยิ่งเป็นคนรัก แล้วเรานั่งมองหน้า มันน่ารักน่าทะนุถลอมเป็นอย่างมาก เหมือนว่าเรายิ่งรักเขามากขึ้นเป็น ทวีคูณ

ทะเลก็ไปเที่ยวกันบ่อยครับ สมัยเรียน ชอบไปภูเก็ต เพราะเพื่อนอยู่ภูเก็ต แล้วเวลาเราไปพักกัน เราไม่ต้องเสียเงินค่าโรงแรม พักบ้านเพื่อน เพื่อนก็จะเอารถของที่บ้าน พาเราตระเวณตามหาดต่าง ๆ อาหารการกินก็ซื้อกินบ้าง พ่อแม่ เพื่อนทำให้กินบ้าง ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะครับ ... แล้วเหมือนครั้งหนึ่ง ผมคงไปทำประเจิดประเจ้ออะไรเข้าสักอย่าง จนมารู้ทีหลังว่า แม่เพื่อนเขาสงสัยว่า ผมกับเจมส์ คงไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาแน่ ๆ ยิ่งตอนเช้า ๆ เราจะตื่นพร้อมกัน ออกมาเดินเล่น วิ่งเล่น กินกาแฟ โอวัลติน หยอกล้อกัน ซึ่งก็อาจจะเป็นจุดสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรหรือพูดอะไรที่ทำให้เราไม่สบายใจ หลัง ๆ เวลาไป แอบมีแซวเป็นนัย ๆ ด้วย อิอิ  :-[

เวลาเดินเล่น หาดทรายยามค่ำ เวลาพระอาทิตย์โพล้เพล้ หรือตอนเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ให้ความรู้สึกที่ดีอย่าบอกใครเชียว บรรยายไม่ถูกอ่ะ เวลาเม็ดทรายละเอียด ๆ ยิบ สัมผัสกับเท้าเราแล้วเราเดินเคียงคู่กัน มีความสุขและโรแมนติกสุด ๆ  เหมือนอย่างถูกหยุดเวลาไว้ ... แล้วก็ไม่เคยแปลกใจ ว่าทำไมเวลาคนรักกัน หรือ เวลาอกหัก ชอบไปทะเลและยืนย่ำอยู่บนหาดทราย

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
รู้สึกเหมือนตัวเองแปลกแยกยังไงไม่รู้แฮะ พอพูดถึงเรื่องการเขียนไดอารี่
เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเขียนเรื่องราวอะไรลงในสมุด
ถ้ามีเรื่องประทับใจ ผมจะเก็บมันไว้ในความทรงจำ
แน่นอนหลายคนอาจคิดว่า ถ้าไม่เขียนไว้ เดี๋ยวมันก็ลืม แต่ผมกลับคิดว่า
ถ้ามันเป็นเรื่องที่ประทับใจเราจริง ๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน
เราก็ต้องจำมันได้อยู่ดี อีกอย่าง เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนก็เปลี่ยนแปลง
การที่เราคิดหรือทำอย่างหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่า เราจะคิดหรือทำอย่างนั้นตลอดไป
เวลาที่ย้อนกลับมาอ่าน เราอาจเห็นทั้งข้อดีและข้อผิดพลาดอยู่ในนั้น
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีครับ ทำให้เรารู้จ้กย้อนมองดูตัวเองและแก้ไขไม่ให้ทำผิดพลาดแบบนั้นอีก
เพียงแต่โดยนิสัยผม ผมจะเป็นคนชอบเรียนรู้จากอดีต อยู่กับปัจจุบัน และมองไปในอนาคต
เพราะฉะนั้น ผมก็เลยไม่ค่อยยึดติดกับอดีตสักเท่าไหร่ แฟนผมก็คิดแบบเดียวกัน
มันถึงทำให้เราอยู่กันได้ 5555
ผมยังจำได้ว่า ตอนที่เราอยู่ด้วยกันแล้ว ผมถามเขาว่า ทำไมถึงมาชอบผม?
ทั้งที่เขาก็มีผู้หญิงสาวสวยเสนอตัวมาให้เลือกมากมาย
เขามองหน้าผม แล้วก็หัวเราะหึ หึ ในลำคอ แล้วบอกว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปกรรม"
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้ จบ

ส่วนเรื่องนอนหนุนตักกันนี่ ขอบอกว่า อยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี เราไม่เคยทำยังงั้นกันเลยครับ  :o8:
ไม่รู้สิ คือ รู้สึกว่า มันเขินและประดักประเดิดที่จะทำแบบนั้นกันน่ะครับ ไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วอย่างนึงล่ะ
ถึงอยู่กันสองคนก็เถอะ นึกถึงว่า ผู้ชายตัวโต ๆ สองคนมานอนหนุนตักสวีทกัน แค่คิดก็ผะอืดผะอมแล้วครับ
ขอโทษนะครับที่พูดแบบนี้ อาจจะไปกระทบใครเข้า แต่อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราสองคนเท่านั้นครับ
ไม่ได้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสม แล้วแต่ความชอบของแต่ละคู่ครับ คู่ใครคู่มัน
สำหรับเรา ถ้าจะแสดงความรักใคร่ห่วงหาอาทรกัน ส่วนใหญ่เราจะใช้สายตาสื่อความหมายกันมากกว่าครับ
แบบว่า ต่อให้อยู่ห่างกันแค่ไหน แต่อีกฝ่ายจะอยู่ในสายตาเสมอ ประมาณนั้นแหละครับ
ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเป็นคำพูด แต่เราจะแสดงออกด้วยการกระทำแทน
แฟนผมเขาเคยบอกผมว่า "Action lounder than words"
คำพูดนั้น เราจะเสกสรรปั้นแต่งให้สวยหรูดูดียังไงก็ได้
แต่มันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเราไม่ทำตามคำพูด
ถ้าจะมีที่ใกล้เคียงก็คือ เวลาที่ผมหรือเขานอนหลับ เราจะนั่งอยู่ข้าง ๆ
เฝ้ามองดูอีกฝ่ายหลับอย่างเป็นสุขเงียบ ๆ น่ะครับ
อาจมีแอบจับมือกันบ้าง แอบลูบหน้า ลูบผมกันบ้าง เพื่อให้รู้ว่า ยังมีอีกฝ่ายอยู่ด้วย ก็แค่นั้น

ในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ก็มีบางเวลาที่เบื่อหน้ากันเหมือนกันครับ บ่อยด้วย
แต่พวกผมก็มีวิธีแก้เบื่อกันครับ คือ เวลาเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ กันขึ้นมา
บางทีเราก็ไปเที่ยวอาบอบนวด (ผู้หญิง) กันสองคน ต่างคนต่างเลือกขึ้นไป
เสร็จแล้วก็กลับบ้านกัน จากนั้น ก็......  :-[

ส่วนเรื่องสถานที่ที่อยากไป อาจเป็นเพราะพวกเรามีโอกาสได้เดินทางกันบ่อย
ไอ้ที่อยากไปก็ได้ไปกันมาแล้ว ก็เลยไม่ได้มีสถานที่พิเศษอะไร
ที่ไหนก็ได้ ถ้ามีเราสองคน  :กอด1:

@ คิง  ยังไง ก็ดูไปก่อนดีกว่าครับ อย่าเพิ่งรีบร้อน ด่วนสรุป ว่าใช่ หรือไม่ใช่
ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้สึกที่มีต่อกันดีกว่าครับ ยิ่งถ้าคิงยังฝังใจกับโจอยู่แบบนี้
คิงอาจจะเผลอนำตี๋ไปเปรียบเทียบกับโจโดยไม่รู้ตัว แล้วมันจะไม่แฟร์สำหรับตี๋เขาน่ะครับ
ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า

ป.ล. ที่ฝันถึงอ้นนี่ อย่าลืมมาอะไรมาเซ่นสรวงบวงไหว้ พี่เนะกับพี่ด้วยนะครับ
เราสองคนตกลงจับมือกันตั้งด่านเก็บค่าผ่านทางให้อ้นน่ะครับ วะฮ่า ๆๆ :laugh:

@ น้องที  พี่ขออนุญาตไจฟ์กอดน้องทีแรง ๆ สักทีนะครับ  :กอด1:
เด็กอะไร ความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่เกินตัว นับวันจะยิ่งเป็นขวัญใจพี่ป้าน้าอาในนี้ขึ้นทุกวัน
วันไหนไม่มานี่ มีแต่คนบ่นถึง 5555 ส่วนหนึ่ง ต้องยกความดีให้ไจฟ์ด้วยมั้งครับ ที่คอยดูแลน้องเขาอย่างดี
ไม่ชิงสุกก่อนห่าม เอ๊ะ หรือจะรอจนบ่มได้ที่ก่อน ตอนอายุ 18 5555 :laugh:

@ กอดรอบทู้ให้กับทุก ๆ คนครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ใช่เลยครับพี่ปุ้ม ผมก็คิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด แต่ผมก็คิดเยอะนอยด์เองบ่อยๆเหมือนกัน ทั้งที่เขาก็วิ่งไปวิ่งมาอยู่แถวนี้
ประโยคที่ว่า ทำไมพี่ึถึงมา่ชอบผม ผมก็ึเคยโดนถามเหมือนกัน แต่ตอนนั้นมันมีที่มาจากที่เขาจิตตกเพราะไอดอลที่เขาชอบอยู่หมดสัญญากับที่เดิมแล้วก็แยกกันทำงาน เขาอินมากขนาดที่หันมาหาผมว่า "ทำไมพี่ทิ้งผม" ผมก็เออ..ที..พี่ไม่ใช่คิมฮยอนจุงนะที...ก็นั่นแหละ ผมขำๆ
หรืออ่านข่าวคู่รักแยกทางกันบางทีนะครับ บางทีน้องก็จิตตกกินข้าวไม่ลง พอเจอผมก็บอก "ป๋าเดี๋ยวก่อน ผมกำลังเพี้ยน ปล่ือยผมสักพัก"
แล้วก็ลงท้ายที่ว่า "ทำไมป๋าชอบผมเนี่ย ผมเพี้ยนขนาดนี้ ถ้าป๋าชอบคนอื่นที่เขาไม่ได้อารมณ์ขึ้นๆลงๆ อย่างผมป๋าน่าจะมีความสุขกว่านี้"

ก็..ไม่รู้สิ การที่ผมใจเย็นเรื่องความรัก กว่าจะแน่ใจว่าที่ชอบมองเขาไม่ใช่เพราะแค่หน้าตา ที่ชอบอยู่ใกล้เขาไม่ใช่เพราะเขาชอบตามใจ ที่ไม่เคยโกรธเขาไม่ใช่เพราะคนและสิ่งแวดล้อมของเขา กว่าที่จะแน่้ใจว่าผมรักคนนี้เกินกว่าน้องชาย ผมใช้เวลาทบทวนไม่น้อย ดูเขาอยู่นาน ไอ้เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเลยสักนิด




JkrR

  • บุคคลทั่วไป
แอบเขินแทน น้องไจฟ์น้องที มายืนยันตัวเป็นสาวก อันดับต้นๆ นะครับ

ส่วนที่พี่ปุ้มบอกว่า ไป อ.อ.น. ด้วยกันนี่แบบว่า ฮ่าๆๆๆ รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่าแฟนนะครับเนี่ย

นับว่าบนโลกเบี้ยวๆที่เราอยู่นี้ ยังมีเรื่องราวแปลกๆ อีกเยอะเนาะ

เมื่อวานดูรายการชิงช้าสวรรค์ ปกติชอบที่เด็กๆ มาแสดงความสามารถที่เป็นแบบไทยๆ แบบนี้อยู่แล้ว

โดยเฉพาะรายการนี้ที่เด็กๆมัธยมมักจะหยิบเอาเพลงเก่าๆ มานำเสนอให้ลุงๆป้าๆ ทางบ้าน (อย่างผมเป้นต้น  :laugh: ) ได้รำลึกถึงความหลังว่า

เพลงสมัยก่อนนี่มันก็เพราะไปอีกแบบ

แต่เทปเมื่อวานแบบว่า อ๊ากกกก กด like ล้านครั้งก็ไม่พอ ทำไมน้องคนนี้ช่างสมบูรณ์เพอร์เฟคอะไรเช่นนี้

สูง สง่า หล่อ เสียงดี แล้วยิ่งมาร้องเพลงนี้

เพราะมากกกกก ใจดวงน้อยๆของพ่อยกทางบ้านอย่างผมจะละลลายเอา

เลยเอามาแปะ ไม่รู้ว่าจะชอบเหมือนผมมั้ย

http://www.youtube.com/v/176hbgPgBic?fs=1&hl=en_US

 :impress2:

เค้าจะเอาคนนี้ๆ :-[

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
ไม่มีอะไร แค่มาหัวเราะ พี่หนิง

PS> ผมเป็นสาวกพี่คิง กับพี่ปุ้มนะครับ

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
หนิงครับ ==> จะรีบดำเนินการให้ภายในสิบสี่วันครับผม

ไจฟ์กะน้องทีครับ ==> ก็...ถามว่าห่วงอ้นมั้ย พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะก่อนนอนคืนสองคนนั้น คงไปอ่านรีที่อ้นกะน้องทีคุยกันเรื่องสอบแน่เลย..ก็เลยคงจะเก็บเอาไปฝัน......
แต่พี่ก็เป็นงี้แหละครับ บางทีในฝันยังทำงานงกๆๆ อยู่เลย หรือบางทีเครียดเรื่องอะไรก็เก็บเอาไปฝันซะงั้น
แต่ถ้าถามว่าฝันว่าอะไร ฝันแบบไหนยังไงเนี่ย ไว้เล่าให้ฟังในพีเอ็มดีกว่าครับ แบบว่า....มันเป็นฝันที่..เอ่อ..ติดเรทเล็กน้อยถึงปานกลาง อีกอย่าง..สถานการณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว....ไจฟ์เข้าใจใช่มะครับที่พี่เคยพีเอ็มคุยกะไจฟ์เรื่องนั้นอ่ะ    ====>ส่วนเรื่องที่ไอ้น้องตี๋เค้าเรียกพี่ว่ามะนาวเนี่ย.......อืม..มีแอบรู้สึกไม่ชอบเหมือนกันนะครับที่เพิ่งจะรู้จักกัน...แต่เหมือนจะเล่นหัวกันซะแล้ว แต่ก็(พยายาม)จะเข้าใจอ่ะครับว่าน้องเค้ายังเด็กก็เลยอาจจะอยากสร้างความสนิทสนม(รึปล่าว?)     ====>ส่วนข้อสามของไจฟ์เนี่ยตรงข้ามกะพี่เลยครับ จนพี่น๊อตต้องบอกว่า “เฮ้ยคิง ตกลงนี่จับฉลากได้น๊อตมารึไง ใส่ใจบ้าง มีเวลาให้บ้างก็ดีนะ” 555 ดูสิครับ เค้าประชดผมสุดทีนจริงๆ คือเวลาคบกัน พี่จะไม่ค่อยติดหนึบอยู่กะแฟนอ่ะครับ คือยังสมาคมอยู่กับเพื่อนเหมือนเดิมอ่ะครับจนพี่น๊อตเค้าจับพี่ไปอยู่ในกลุ่มเค้าอ่ะ..นั่นแหละพี่กะเค้าถึงได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น (แต่กว่าจะลงรอยกะเพื่อนเค้าได้เนี่ยใช้เวลานานเหมือนกันครับ เพราะเพื่อนๆ ของพี่น๊อตแต่ละคนเนี่ย..บอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดาจริงๆ)    ====>แต่ถ้าเป็นตอนที่คบกะโจเนี่ยพี่จะมีเวลาให้เค้าเยอะครับ (แต่ยิ่งมีเยอะก็ยิ่งทะเลาะกันเยอะซะงั้น)     ====>ส่วนเรื่องความเป็นเด็กในแต่ละคนนั้น ก็จริงอย่างที่ไจฟ์บอกแหละครับว่าทุกคนล้วนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว ส่วนจะมีอยู่มาก มีอยู่น้อย แสดงออกมาก หรือแสดงออกมาน้อยนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กะกาลเทศะและคนที่อยู่ข้างๆ นั่นแหละครับ อย่างพี่..พี่ก็ยอมรับนะว่าพี่ก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว โดยเฉพาะที่พี่เป็นคนคิดมาก และขี้น้อยใจเป็นที่หนึ่ง ว่าแต่...ไอ้บางรีที่ว่าเนี่ยมันรีของใครเหรอครับ อยากรู้    ====>ส่วนเรื่องหนุนตัก 555 ก็ไม่รู้สิครับ น้องทีอาจจะตัวเล็กด้วยไงไจฟ์ก็เลยสบายๆ แต่อย่างพี่นี่ก็อย่างที่บอกแหละครับว่ามันหนักจริงๆ เอาง่ายๆ เลยครับว่าขนาดตอนเรียนมีคาบหรือมีกิจกรรมที่ต้องนั่ง ไม่ว่าจะนั่งพับเพียบหรือขัดสมาธิก็ตาม พี่คนนึงล่ะที่นั่งนิ่งๆ อยู่ได้ไม่ถึงห้านาที เพราะมันเมื่อยมากๆๆๆๆๆๆๆ    ====>สุดท้ายคำพูดก่อนจบประโยคของไจฟ์เป็นคำพูดที่ถูกต้องละครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเข้าใจจริงๆ ต่อให้รักกันขนาดไหน แต่ถ้าไม่เข้าใจก็จบเกมครับ เหมือนกรณีศึกษาของพี่เป็นต้น...
ปล. พี่ก็เป็นสาวกของ jivetea เหมือนกัน
จบก๊าบ.

เนะครับ ==> เรื่องจะสละโสดคงอีกนานครับเนะ เพราะหนึ่งเลยคือผมกะน้องตี๋เพิ่งจะรู้จักกันได้สองวันเท่านั้น แล้วผมก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเค้าคิดอะไรกะผมมากกว่าเพื่อน พี่และน้องรึปล่าว เพราะงั้น..ยังครับ ยังไม่อยากจินตนาการ ยังไม่อยากฝันไกล อีกอย่างตอนนี้ผมกะลังทำตัวเป็นเงามรณะแอบปลื้มคนในเล้าอยู่คนนึงอ่ะครับ ซึ่ง..เจ้าตัวเค้าอาจจะยังไม่รู้ (แต่ไม่รู้อ่ะดีแล้ว) สองคือผมยังรู้สึกไม่ชอบมาพากลกะไอ้น้องตี๋คนนี้อยู่ รู้สึกว่า.....อืม..ไม่รู้ดิครับ มันแปลกๆ อ่ะ คือการที่ใครซักคนจะทำความรู้จักกะใครซักคนมันต้องใช้เวลาอ่ะครับ แต่ไอ้น้องคนนี้ดูจะไม่เป็นอย่างงั้น ไม่รู้จะแอบแรงลับหลังรึปล่าว แบบพอลับหลังแล้วสาวแตก หรือพนันอะไรกะเพื่อนไว้นี่ก็ไม่ไหวนะครับ เอ...หรือผมจะนอยด์มากไปก็ไม่รู้ดิ

แจ๊คครับ ==> ไอ้น้องตี๋คนนี้เค้าน่ารักมากครับ (ไม่หล่อ แต่น่ารัก) หน้าตาตี๋ๆ แบบนี้เนี่ยแถวจุฬาเพียบ ซึ่งก็ไม่รู้เพราะผมชินหน้าตี๋ๆ แบบนี้แล้วรึปล่าวก็ไม่รู้ ก็เลยยังไม่รู้สึกปิ๊งๆ กะน้องเค้าเท่าไหร่ อีกอย่าง...อย่างที่ผมบอกกะเนะแหละว่าทุกอย่างมันดูง่ายเกินไปมั้ยที่คนสองคนจะรู้จักกันภายในวันสองวันเท่านั้น    ====>ส่วนเรื่องออร่าของผมเนี่ยเลิกคิดไปได้เลยครับ ไม่แน่ๆ แต่ที่คนอื่นๆ หันมามองหรืออะไรนั่นน่าจะเป็นเพราะเสียงเรียกของเพื่อนสาวของน้องตี๋อ่ะครับ อีกอย่างวันนั้นผมดันใส่เสื้อ(เชิ้ต)สีชมพอ่ะครับ มันก็เลย...อาจจะคิดได้สองอย่างคือ กล้ามากนะมึงที่ใส่เสื้อชมพู หรือไม่ก็คงสงสัยกันแหละครับว่าไอ้หัวลูกชิ้นคนนี้มันเกย์ป่ะวะ 555    ====>ส่วนเรื่องทะเลของผมกะคนของผม เดี๋ยวค่อยเล่าละกันครับ แต่ฟีลน่าจะประมาณเดียวกัน แต่ผมไม่เดินจับมือนะครับ คือมันเขินมากอ่ะครับเวลาที่มีคนมองมาที่เรา

พี่ปุ้มครับ ==> เรื่องการเขียนไดอารี่ จริงๆ แล้วผมก็ไม่ชอบขีดๆ เขียนๆ เหมือนกันครับ คือรู้ตัวไงว่าเป็นคนเขียนอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ที่เขียนเพราะเห็นเพื่อนมันเขียนแล้วมีความสุข ผมก็เลยเอามั่ง ช่วงนั้นเนี่ยเขียนทุกวันเลยครับ แล้วก็วันละหลายๆ เวลาด้วย (ผมว่าอาจจะเป็นอาการข้าวใหม่ปลามันด้วยมั้งครับ ก็เลยเหมือนมีอะไรให้เล่าให้บันทึกเยอะแยะ) แต่ผมยอมรับนะครับว่าการเขียนไดอารี่มันมีข้อดีตรงที่มันบันทึกความทรงจำบางความทรงจำที่เราอาจจะเคยลืมๆ ไปแล้วไว้ หลายๆ ครั้งที่ผมหยิบไดอารี่เล่มเก่าๆ ขึ้นมาอ่าน เชื่อมั้ยครับบางหน้าผมอ่านไป ผมก็งงไปว่าเฮ้ย..กรูเคยทำอย่างที่บันทึกไว้ด้วยเหรอวะ แล้วบางอย่างมันก็งี่เง่าจนแบบว่าเฮ้ย..ตอนนั้นกรูทำแบบนั้นลงไปได้ไง อะไรประมาณนี้ครับ จะว่ามีความสุขก็คงสุขแหละ แต่บางความทรงจำ พอเอากลับมาอ่านมันก็เหมือนเป็นการตอกย้ำความผิดของตัวเองอ่ะครับ สรุปก็คือพี่ปุ้มพูดถึงประเด็นในวันนี้ถูกต้องอีกแล้วครับ ข้าน้อยขอคารวะในการเป็นกูรูของท่านพี่จริงๆ     ====>ส่วนเรื่องที่แฟนพี่กะวลีเด็ดที่ว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม อืม..เมื่อก่อนผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้นะครับ แต่โจเค้าจะเชื่อและงมงายมากๆ มากไม่มากลองดูที่คอเค้าเวลาเค้าจะเดินทางไปไหนไกลๆ นะครับ แบบว่ามีพระเต็มคอเลย แล้วก็...หลังโจเค้าจะมีริ้วคล้ายๆ แผลเป็นเหมือนคนผิวแตกเป็นริ้วๆ อ่ะครับ มีเยอะมาก แล้วผมก็จะชอบถามเค้าว่าเฮ้ย ตกลงตอนเด็กๆ ไม่ได้โดนใครเฆี่ยนมาจริงๆ ดิ ซึ่งเค้าก็จะหัวเราะแล้วก็จะบอกแบบทีเล่นทีจริงอ่ะครับว่า “สงสัยชาติที่แล้วเฮียคงเฆี่ยนหนูเพราะหนูทำอะไรผิดซักอย่างมั้ง ชาตินี้หนูก็เลยต้องมาเป็นทาสรับใช้เฮีย รองรับอารมณ์เฮียแบบนี้” คือ...เอ่อ..จะฟังให้ขำมันก็ขำนะครับ แต่ถ้าฟังดีๆ เนี่ย....อื้ม..เหมือนเค้าจะรู้ชะตากรรมตัวเองอ่ะครับว่าเค้าอยู่กะผมแล้วไม่มีความสุข แต่ที่ต้อง(ทน)อยู่ก็คงเพราะกรรมเก่า อะไรประมาณนั้น    ==>ส่วนเรื่องนอนหนุนตัก ไม่ว่าผมจะคบกะใคร ผมจะยอมให้เค้าหนุนตักผมเฉพาะในห้องที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองเท่านั้นล่ะครับ หรือถ้าจะซบกันก็ในรถระหว่างติดไฟแดงนี่ก็ได้ แต่ถ้าเป็นอะไรที่นอนกจากนี้ ผมก็ไม่สามารถเหมือนกัน    ====>ส่วนเรื่องที่ว่าด้วยอาการนิทราของคนรัก ผมเองก็ชอบทำแบบที่พี่ปุ้มทำนะครับ แต่ก็ต้องรอให้เค้าหลับไปแล้วซะก่อนถึงจะค่อยนั่งทำงานไป พอพักสายตาทีถึงจะมองคนที่หลับที มีเดินไปลูบหัว ลูบผมบ้าง ห่มผ้าให้บ้าง หรือบางทีนึกสนุกก็เอากระดาษขยำๆ ไปยัดใส่ปากบ้าง เอาคัดตั้นบัดไปแหย่จมูกบ้าง เอาปากกามาวาดหนวดแมวให้บ้าง ส่วนก้มจูบหน้าผากเนี่ยผมทำเป็นประจำอยู่แล้วครับพี่    ====>ส่วนเรื่องของน้องตี๋ที่พี่แนะนำ แน่นอนครับว่าผมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของพี่อย่างเคร่งครัด จริงๆ ก็ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกรอบแหละ ครั้งนี้ก็เลยว่าจะค่อยๆ ดูไปก่อน โดยการพยายามเอาพี่ปุ้มกะแฟนพี่ และไจฟ์กะน้องทีเป็นแบบ 555 งานนี้เหมือนผมเป็นมือใหม่หัดรักยังไงก็ไม่รู้สิครับ
จบก๊าบ.

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
สรุปว่าเราเป็นสาวกกันเองใช่มั๊ยเนี่ย
หรือว่า
ที่จริงแล้วเป็นสาวกน้องทีกันแน่ ฮ่าๆๆๆๆๆ ป๋าเป็นปลื้ม
บอกแล้วไม่ยอมเด็ดขาดใครจะมาน่ารักกว่าน้องที ไม่มี๊

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
คอนเฟิร์มว่าเป็นสาวกนายไจฟ์ก่อนครับ

ส่วนน้องทีเนี่ย....เค้าเรียกว่าอืม.....เหมือน Loved me love my dog อ่ะครับ

แล้วปั๊กตัวนี้ก็น่ารักใช่เล่นซะด้วย ก็เลยรักทั้งคู่....มากมายก่ายกอง



ยังจำได้เลยว่ารู้จักกะไจฟ์ได้ยังไง 555 'วินวินโค้งคำนับพี่ลีโอ แต่พี่ลีโอกะลังหันหลังทำอะไรอยู่ก็ม่ายรุ'
แล้วตอนนั้นก็สงสัยว่า jivetea นี่มันอ่านว่าอะไรหว่า เปิดดิกออนไลน์หาก็บ่เจอ
จนสุดท้ายมารู้ว่าอ้อ...เจ้าของเรื่อง 'Don't leave me alone ' เนี่ยเค้ามากันเป็นแพ๊คคู่นี่เอง

แล้วยิ่งวินวินน่ารักถูกใจคนอ่านอย่างพี่ด้วยอีก เอ้ออออออออ ก็เลยต้องหลงรักทั้งวินวินและพี่ลีโอไปตามระเบียบ



(รักแบบพี่น้องนะครับ)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
เข้ามาเก็บข้อมูล  :z2:  แต่ละคนหิหิหิ อ่านแล้วเขินตามจริงๆเน้อะ  :o8:

พูดถึงไดอารี่  เราไม่คิดจะเขียนเลย เพราะว่ามีโลกส่วนตัวสูงมาก  จดไปถ้าใครมาอ่าน เหมือนว่า "เห้ยๆๆ แกเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ไง" อะไรทำนองนี้  แต่ที่เคยจดบ้าง ก็ จดความฝันเฉพาะฝันที่มันชัดเจนบางทีมันอารมณ์ค้าง อยากเก็บไว้นานๆ   เชื่อมะ ว่าบางทีเมื่อเรามานั่งอ่านมันทีหลัง  มันก็มีคำตอบสำหรับปัญหาที่เราเจอ ยามตื่นเหมือนกัน   แล้วก็ เดชาวู นิที่เจอกับตัวเอง เหอๆ มันรู้สึก งงๆ แปลกดี ว่าเอ้ นี่กรูเคยฝันไว้แบบนี้แปะเลย แล้วตอนนี้ก็เจอกับเหตุการณ์  o22

แต่ถึงไม่ทำไดอารี่ เราก็ชอบทบทวนตัวเองบ่อยๆ นะ คือ พอว่างๆไม่มีไรทำ จะนึกย้อนไปว่า วันก่อนๆ ปีก่อนๆ เราทำอะไรมาบ้าง พบเจอๆอะไรมาบ้าง เหมือนมานั่งสแกนเม็มโมรี่อ่ะ  (เหมือนพวกเก็บกดไหมนิกรู) เชื่อไหม เราจะมานั่งหัวเราะกับเรื่องที่เคยทำให้น้ำตาไหล  :m20: คนเรามันโตขึ้นทุกวันๆ วันละนิดวันหน่อยแม้สังเกตุไม่ได้แต่พอนานเข้า มันจะแสดงออกมา และความเป็นเด็กก็อยู่กับตัวเราตลอดนิ แต่พอเวลาผ่านไป เรากลับปิดกั้นมันด้วยรูปแบบความคิดความเชื่อที่ผ่านเข้า ไอ้ความเป็นเด็กแต่แรกจึงถูกขังไว้


ปล. วันนี้พาฉันกระทู้เครียดไปไหม  (บ่นวันนิด จิตแจ่มใส)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 17:14:09 โดย กิมตี๋หัดขับ »

chocolate

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 18:23:13 โดย jivetea »

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
เอ่อ คิง เราก็แหย่เล่น ๆ ที่จริงยังไม่อยากให้คนโสดลดลง กอดคอเป็นเพื่อนกันก่อน เหอะ ๆ
สำหรับตี๋นั้นดีแล้วที่ดูไปเรื่อย ๆ ก่อน ไม่ชอบมาพากลยังไง ค่อยชิ่งที่หลังยังทัน
ไจฟ์ พี่เองปลื้มน้องทีเหมือนกัน น่ารัก น่าฟัด จริง ๆๆ 555
ปกติ ไม่ค่อยเขียนไดอารี่ แต่เมื่อก่อนที่มีปัญหาเคยเขียนระบายเอาไว้ ไม่มากมายอะไร พอกลับมาดูที่หลัง อืม เมื่อก่อนเราเป็นถึงขนาดนั้นเลยหรือนี่
ทำให้มาย้อนมองในปัญหาที่เกิด และการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่จะเก็บในความทรงจำ ลืมบ้าง จำได้บ้าง มาเล่นที่นี่ แหละ
เลยได้ฟื้นความทรงจำขึ้นมา หลังจากที่ไม่ค่อยได้นึกถึงมานานนนมาก  บางเรื่องทำไมตรูบ้าไปได้ขนาดนั้นนะ
เรื่องที่มีความสุข เฮ้ย.. ลืมไปได้ยังไงเนี่ย เหมือนได้ทบทวนความทรงจำในอดีตที่ผ่านมาไปด้วย
นึกนะว่า โห เรานี่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมายขนาดนี้เลยหรือ  ช่วงเวลาที่มาอยู่บ้านนอกนะ เหมือนเมมโมรี่ถูกลบไปช่วงนึงเลย

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าจะบอกว่าผมเป็นคนชอบขีดชอบเขียนมาแต่เด็กก็คงไม่ผิดนัก แต่เริ่มเขียน บันทึก หรือ ไดอารี่อย่างจริงจัง ก็ตอน ม.5 เทอม 2 ซึ่งจริง ๆ มันเริ่มจากที่ผมต้องบันทึกรายรับจ่ายของผม เพราะพ่อกับแม่ เปลี่ยนจากให้เงินรายวัน มาเป็นรายสัปดาห์ ต้องบริหารให้รู้ว่าเราใช้จ่ายเงินอะไรไปบ้าง  แล้วมันก็เลยมาเป็นบันทึกไดอารี่ส่วนตัว แต่ไม่ได้บันทึกทุกวันหรอก จะบันทึกเฉพาะตอนที่มีเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์ประทับใจ หรือ การได้ทำกิจกรรมอะไรบางอย่างร่วมกัน

ปัจจุบันนี้ผมมีสมุดบันทึกอยู่ 5 เล่ม หลายอย่างเราหลงลืมไป พอเราเอากลับมานั่งอ่าน เออ ... เราเคยคิดแบบนี้ เราเคยเป็นแบบนี้ บางเหตุการณ์มีรูปถ่ายแปะติดไว้ประกอบด้วย รูปบางรูปเป็นรูปหาหายาก ที่ไม่ได้มีในอัลบัมรูปส่วนตัว แต่อยู่ในไดอารี่ ซึ่งอาจจะเกิดจากเอามาจากล้องเพื่อน หรือเพื่อนอัดมาให้เป็นต้น

ในอัลบัมรูปผมก็เหมือนกัน ทุก ๆ อัลบัมผมจะเขียนโน๊ตไว้ว่า เป็นเหตุการณ์อะไร ถ่ายในปีไหน วันอะไร หลังรูปก็จะมีบันทึกไว้ด้วยด้วยปากลูกลื่น เพราะบางอย่าง บางครั้งเราก็จำไม่ได้ว่าเราไปเที่ยวกัน ปีไหน เดือนอะไร เนื่องในโอกาสอะไร ... ส่วนหนึ่งที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะผมเป็นคนลืมง่ายด้วย ถ้าไม่ใช่เหตุการณ์ที่พิเศษสุดจริง ๆ ก็มักจะหลง ๆ ลืม ๆไป

วกกลับมาที่ไดอารี่ ทุกวันนี้เวลาเหงา ๆ ว่าง ๆ หยิบเล่มเก่า ๆ มาอ่าน แล้วมันก็รู้สึกดีนะ มันสะท้อนทุกมุมมอง ความคิดของเรา แล้วมันก็มีพัฒนาการมาเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังเขียนอยู่นะ แต่เล่มล่าสุดนี้เขียนมาจะ 2 ปีกว่า ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่เต็ม

อ้อ... เรื่องนอนหนุนตักเหมือนกัน ถ้าไม่ใช่ในที่ห้องตัวเอง ก็ต้อง เฉพาะในหมู่เพื่อนฝูงที่สนิทกันจริง ๆ จะไม่มีการนอนหนุนตักกันให้เห็นนะครับ

อย่างที่พี่ปุ้มบอกแหละครับ มันเป็นแนวทางของแต่ละคน ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 19:04:10 โดย @#Jackie#@ »

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งกลับมาจากไปตะลอนช๊อปพวกของใช้มาครับ เอาละครับ มาว่ากันที่เรื่องที่เกี่ยวกับทะเลของผมบ้างดีกว่า..........


เรื่องนี้จะเป็นพาร์ทของผมกะพี่น๊อตนะครับ อาจจะไม่โรแมนติกเท่ากะคู่ของคนอื่น แต่ก็นั่นแหละครับ ผมล่ะ!!
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมกะพี่น๊อตคบกันได้ซักพักละครับ เวลาน่าจะราวๆ ที่เราตกลงเป็นแฟนกันน่าจะซัก....อืม..ไม่น่าจะเกินสี่เดือนอ่ะครับ ก็...อย่างที่ผมอาจจะเคยได้บอกไปแล้วว่าจริงอยู่ที่ตอนเด็กๆ ฐานะความเป็นอยู่ของผมค่อนข้างจะติดหรูอยู่ซักหน่อย แต่หลังจากที่ที่บ้านของผมประสบปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ ที่โดนโกงเงินจากคนใกล้ตัวไปค่อนข้างเยอะ หรือจากปัญหาภายใน.......ที่เรื่องมันออกจะน้ำเน่าหน่อยตรงที่ปู่ของผมมีย่าสองคน พ่อของผมเป็นลูกของย่าคนแรก (พูดง่ายๆ ว่าย่าผมเป็นเมียหลวงของปู่อ่ะครับ) ก็เลยเกิดเป็นกรณีแก่งแย่งชิงดี ชิงเด่น ชิงสมบัติที่(ปู่)โกงเค้ามาอีกทีกันขึ้น ส่วนรายละเอียด...เอาไว้ถ้าผมจะเล่าให้ฟังอีกทีละกันครับ
นั่นแหละครับจากที่ชีวิตที่เคยสะดวกสบายของผมก็ต้องมีอันพลิกผัน ถามว่าผมปรับตัวได้มั้ยที่ผมต้องกลายมาเป็นคนจนๆ ในวันนึง?? จริงๆ มันก็ปรับตัวได้แหละครับ แต่อย่าถามนะครับว่าทำใจได้รึปล่าว เพราะผม...บอกตรงนี้ตรงๆ เลยครับว่าผม...ไม่เคยทำใจได้เลยแม้แต่ซักวินาทีเดียว.....................
กลับมาที่เรื่องของผมกะพี่น๊อตละกันครับ ก่อนที่ผมจะดราม่า & บ้าบอมากไปกว่านี้ คือ...ตอนที่ผมคบกะพี่น๊อตใหม่ๆ บอกตามตรงครับว่า ณ ตอนนั้น ผมพยายามสร้างภาพตัวเองให้ดูหรูเข้าไว้ เพื่ออะไร? เพื่อที่จะได้เข้ากะสังคมของผู้มีอันจะกินอย่างสังคมของพี่น๊อตได้ยังไงล่ะครับ ผมจำได้ว่าผมพยายามฝืนทำตัวแบบนั้นอยู่ซักพัก จนพี่น๊อตถามผมในค่ำวันนึงว่าผมไม่เหนื่อยเหรอ ถ้าเหนื่อยก็เลิกพยายามซะที!!! อะไรประมาณนี้ครับ นั่นแหละครับตั้งแต่วันนั้นผมถึงยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และทำทุกอย่างอย่างที่ผมเคยทำ..ก่อนที่ผมจะมีพี่น๊อต ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรถเมล์ การกินข้าวข้างทาง และอื่นๆ อีกมากมาย
จากคำพูดของพี่น๊อตในวันนั้นทำให้ผมทึ่งในผู้ชายคนนี้อย่างนึงครับ ทึ่งตรงไหน? ทึ่งตรงที่เค้าไม่เคยเอาความแตกต่างระหว่างสังคมของเค้ามาเปรียบเทียบกับสังคมของผมเลย ในทางกลับกัน กลับเป็นเค้าซะอีกที่พยายามปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสังคมของผม แค่นั้นยังไม่พอครับ เค้ายังดึงเพื่อนๆ ในกลุ่มของเค้าให้ทำแบบที่เค้าทำกับผมด้วย นั่นจึงเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด โดยเฉพาะกับคำพูดนึงที่เค้าเคยบอกกับผมว่า ‘ถ้าคนรวยมัวแต่รักกันเอง โลกนี้คงมีแต่คนเห็นแก่ตัวอยู่เต็มไปหมด’
ครับ ตอนที่เราคบกันซักพัก มีอยู่ช่วงปิดเทอมในปีนึงผมต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอ่ะครับ (ปกติผมก็กลับทุกปีอยู่แล้ว) ซึ่งก็...ปกติเวลากลับที ผมก็จะกลับนานเป็นเดือนอ่ะครับ วันนั้นผมก็เลยบอกพี่น๊อตของผมไปอย่างงั้น บอกว่าผมอาจจะกลับบ้านซักเดือน ซึ่ง....พอได้ยินอย่างงั้นเค้าก็เอะอะโวยวายใส่ผม หาว่าผมบ้ารึปล่าวที่จะกลับตั้งเป็นเดือน ถ้ากลับไปเป็นเดือนๆ แล้วเค้าจะอยู่ยังไง ก็เว่อไปตามประสาเค้าแหละครับ แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจ ก็กรูจะกลับนี่หว่า ถ้าคิดถึงก็โทรคุยกันดิ ผมก็คิดของผมแบบนี้ในใจอ่ะครับ พอเรื่องไม่เคลียร์เค้าก็เหมือนงอนๆ ผมอ่ะ จำได้เลยว่าจากที่ปกติโทรมาหาผมทุกวัน ช่วงนั้นก็ไม่โทรมาอยู่สองสามวัน จนผมต้องตามไปง้อถึงบ้าน........นั่นแหละครับ เค้าถึงจะหายงอนผม
แต่ไอ้ที่หายงอนเนี่ย มีข้อแลกเปลี่ยนนะครับ แล้วก็เป็นข้อแลกเปลี่ยนที่.....อื้ม..เจ้าเล่ห์เพทุบายซะด้วยสิ! สรุปก็คือเค้าจะหายโกรธผมก็ต่อเมื่อผมยอมให้เค้าไปด้วยอ่ะครับ
ตอนแรกผมก็ไม่ยอมนะ แต่พอเค้าอ้างโน่นอ้างนี่เยอะๆ เข้า ผมก็ต้องยอมในที่สุดแหละครับ การกลับบ้านครั้งนั้นก็เลยแพ๊คกันไปเป็นคู่ ด้วยการนั่งรถทัวร์กันไป
จะบอกว่า............สงสารหนุ่มไฮโซคนนี้มากเลยครับที่ต้องมาทนเมื่อยอยู่บนรถเกือบๆ สิบสองชั่วโมง (แล้วก็ไม่ใช่ทนเฉยๆ นะครับ บ่นแล้วก็บ่นอีก บ่นจนผมต้องไล่ให้ไปนอนที่เบาะหลังที่ว่างอยู่อ่ะครับ เค้าถึงจะได้ยืดตัวและหลับลงได้)
พอไปถึงที่บ้านแล้ว พ่อแม่ของผมก็งงๆ ครับว่าผมพาใครมา แต่พอผมบอกว่าเป็นรุ่นพี่(??)ที่มหาลัย แถมยังโกหกไปอีกนิดว่าบ้านเค้าอยู่จังหวัดใกล้ๆ บ้านเรานี่เอง (แต่อยากแวะมาเที่ยวบ้านผมก่อน) ท่านก็ไม่ว่าอะไรครับ กลับยิ่งต้อนรับดีซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะพ่อผมเนี่ย ตกเย็นนั้นก๊งเหล้ากันใหญ่เลยครับ เหมือนจะคุยกันถูกคอซะอีก แถมยังมีการมาฝากฝังผมไว้กะเค้าซะดิบดี เหอๆ อยากจะหัวเราะและอยากจะร้องไห้ไปพร้อมๆ กันเดี๋ยวนั้นเลยเชียวล่ะครับ เพราะคนที่พ่อควรจะพูดอย่างนั้นด้วย ต้องเป็นผมสิครับ ผมสิที่พ่อควรจะฝากฝังให้ผมดูแลเค้าเป็นพิเศษ นี่อะไร เห็นเค้าตัวโตกว่าผมหน่อย รีบฝากฝังผมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของเค้าซะงั้น
คืนนั้น ผมโดนแซวเรื่องนี้ทั้งคืนเลยครับ แซวจนต้องเอาปากประกบปากทุกๆ สิบนาทีอ่ะ ไม่งั้นไม่ยอมหยุดแซวซะที แล้วก็...วันนั้นผมไม่ได้ให้พี่น๊อตนอนที่บ้านผมหรอกนะครับ ผมไล่ให้เค้าไปเช่าโรงแรมนอน (โดยมีผมติดสอยห้อยตามไปด้วย) ส่วนเหตุผลที่ผมไม่อยากให้เค้าค้างที่บ้านผม เพราะบ้านผมมันไม่ค่อยสะดวกสบายอ่ะครับ ห้องเล็กๆ แคบๆ แถมยังไม่มีแอร์อีกตะหาก
จนเช้าวันรุ่งขึ้น พี่น๊อตเค้าก็เซอร์ไพร์ทผมด้วยการขับรถ(ของพ่อผม)พาไปทะเล ไปหาดที่ผมชอบเล่าให้เค้าฟังบ่อยๆ ว่าตอนเด็กๆ พ่อแม่ชอบพาผมกะน้องๆ ไปตั้งแคมป์ด้วยกันบ่อยๆ
พอไปถึงหาดที่ว่าก็....เราก็มีความสุขกันเล็กน้อยครับ (???) หลังจากนั้นเราก็ขับรถไปตลาด ไปซื้อพวกของกินมานั่งกินลมชมวิวริมทะเลกัน พอสายๆ หน่อยก็กลับบ้านไปกินข้าวกะพ่อแม่ และแนะนำให้รู้จักกะน้องๆ ของผม จนถึงเย็นๆ นั่นแหละครับเราถึงไปเช่าเต้นท์แล้วมาตั้งแคมป์ริมหาดกันสองคน
ฟังดูเหมือนโรแมนติกใช่มั้ยครับ 555 จริงๆ แล้วพี่น๊อตเค้าก็อยากได้บรรยากาศแบบนั้นแหละครับ สองต่อสอง คนนึงร้องเพลง อีกคนก็นั่งเกากีต้าร์ท่ามกลางกองไฟกันไป แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าพอตกค่ำหน่อยก็เริ่มมีเรือเล็กลากปลาหมึก ลากหอย มาจอดอยู่ใกล้ๆ ห่างออกไปไม่ใกล้ไม่ไกลก็มีกลุ่มน่าจะเป็นกลุ่มนักศึกษากลุ่มนึงตั้งวงร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานครื้นเครง ไอ้ที่พี่น๊อตเค้าหวังว่าจะเอาบรรยากาศแบบสองต่อสองเงียบๆ ก็เลยอดไปครับ แต่ผมว่าก็ดีออก เพราะมีคนอยู่เยอะๆ มันอุ่นใจกว่า จะได้ไม่ต้องมาระแวงว่าจะมีใครมาปล้นฆ่ารึปล่าว


จบสั้นๆ ครับ จริงๆ เรื่องมันมีอะไรมากกว่านี้เยอะ แต่เดี๋ยวมันจะไม่เข้าคอนเซ็ป ‘ทะเล’ ซะเปล่าๆ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
คราวหน้าพี่จะไปทะเล พี่เรียกผมไปไล่กลุ่มทำลายบรรยากาศก่อนดีมั้ย
ฮ่าๆๆๆ

@ พี่กิมตี๋ครับ @ พูดถึงไดอารี่  เราไม่คิดจะเขียนเลย เพราะว่ามีโลกส่วนตัวสูงมาก  จดไปถ้าใครมาอ่าน เหมือนว่า "เห้ยๆๆ แกเป็นใคร เข้ามาในบ้านฉันได้ไง" <<< คิดเหมือนกันเลย แต่ของผมหนักไปทางจดโน๊ต เวลาที่นึกอะไรขึ้นมาได้ ไม่ได้จดบันทึกเป็นไดอารี่

@ พี่เนะครับ @ ช่วงเวลาที่มาอยู่บ้านนอกนะ เหมือนเมมโมรี่ถูกลบไปช่วงนึงเลย << แค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ผมก็รู้สึกว่าพี่ชายผมคนนี้(เอ..หรือพี่ชายน้องทีหว่า..) ผ่านมาไม่น้อย แต่แค่ไม่ได้บอกให้ใครฟังเท่านั้นเอง

@ พี่แจ๊คครับ @ ผมไม่เคยบันทึกรายรับรายจ่ายเลย ฮ่าๆๆ แย่จริง

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
ไจฟ์ครับ ==> มุขนี้ของน้องเนี่ยคิดเองป่ะครับ แบบว่ามันโบมากๆ    ====>ส่วนเรื่องที่จะไปไล่คนอื่นให้พี่ พี่ว่ากลุ่มไอ้เบื๊อกพวกนั้นกะกลุ่มเพื่อนของไจฟ์น่าจะอารมณ์เดียวกันนะ 555 แต่คงไม่มีคราวหน้าหรอกครับ ถ้ามี..ก็คงไม่ใช่มีแค่พี่กะแฟนคนใหม่ของพี่หรอก อาจจะมีไจฟ์กะน้องที และทุกๆ คนในทู้นี้ฟอร์มทีมรวมอยู่ด้วยก็ได้ ใครจะไปรู้เนาะ

หนิงครับ ==> เล่นของสูง ระวังโดนเจ๊เบียบจวกนะครับ

กิมตี๋ครับ ==> เรื่องเดจาวูเนี่ย ผมเป็นบ่อยมากๆ จนบางครั้งแบบว่ารู้ตอนจบเลยอ่ะครับว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป แต่หลายๆ ครั้งก็รู้เอาตอนที่เรื่องเกิดแล้วอ่ะว่าเฮ้ย เออว่ะ เหมือนมันเคยเคยมาก่อนจริงๆ อย่างบางทีจะรู้เลยว่าคนที่เราคุยด้วยเค้าจะพูดว่ายังไง แล้วจะนั่งท่าไหน ทำอะไรต่อ อืม...เป็นอะไรที่แปลกดีเหมือนกันครับ    ====>ส่วนเรื่องที่ว่าคนเราต้องโตขึ้นทุกวันนี่ก็จริงๆ เค้าถึงได้บอกไงครับว่าคนที่เคยผิดพลาดมาแล้วเท่านั้น ถึงจะรู้จักวิธีแก้ปัญหา
ปล. กระทู้ควรจะเครียดบ้างน่ะถูกต้องที่สุดละครับ

บูมครับ ==> ไม่เร็วหรอกครับ ปกติ

เนะครับ ==> นี่ผมก็กะลังคิดอยู่ว่าอาจจะอัพเดทเรื่องของน้องคนนี้ให้เนะกะไจฟ์และคนอื่นๆ ฟังทุกวัน เผื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากล ผมจะได้ชิ่งทัน แบบว่าไม่อยากไว้ใจใครส่งเดชอีกแล้วอ่ะครับ ชักเริ่มเข็ดและขยาดกะคนที่มีจุดประสงค์แอบแฝงเต็มที

แจ๊คครับ ==> ถ้าว่าถึงเรื่องของการขีดๆ เขียนๆ จริงๆ ก็ไอ้การบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างที่แจ๊คทำตอนสมัยยังละอ่อนอยู่นั่นแหละครับ ที่ผมเคยทำเหมือนกัน แต่ผมได้เงินเป็นรายวันนะ ถ้าวันไหนหยุดเรียนก็จะไม่ได้ (นี่ก็เลยอาจจะเป็นเหตุผลที่ผมไม่ค่อยได้โดดเรียนมากมายอย่างเพื่อนคนอื่นๆ เค้าทำกัน) อย่างตอนนั้นที่ทำบันทึกเนี่ย จำได้เลยว่าตอนนั้นไททานิคเพิ่งออกเป็นวีดีโอใหม่ๆ แล้วราคาก็แพงมากซะด้วย ผมก็เลยต้องเก็บเงิน    ====>ส่วนเนื้อในของไดอารี่ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คือ เมื่อก่อนผมจะชอบลิสท์ไว้ว่าผมอยากได้อะไรบ้าง แล้วก็บ่นบ้าบอคนเดียวว่าชาตินี้คงไม่มีปัญญา แต่พอลองไปเปิดอ่านดูอีกครั้ง เฮ้ย แบบว่าดีใจครับ ไอ้ที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีปัญญาจะซื้อได้ เดี๋ยวนี้ก็มีเกือบหมดแล้ว ขาดก็แต่บ้านให้พ่อแม่ กะรถหรูๆ ซักคนละมั้งที่ต้องพยายามกันต่อไป แล้วก็...จะว่าไปผมก็มีไดอารี่เยอะเหมือนกันครับ มีทั้งที่แบบเป็นเล่มๆ และที่เขียนใส่เอสี่เก็บใส่แฟ้มไว้    ====>ส่วนเรื่องรูปถ่าย ตอนที่ผมคบกะพี่น๊อต ผมจะมีรูปที่เราถ่ายคู่กันไว้เยอะมากกกกก แต่พอเลิกกันไป ด้วยความงี่เง่าของผม..ผมก็เลยส่งรูปพวกนั้นคืนเค้าไปซะงั้น ทุกวันนี้ก็เลยไม่มีรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันเลย (มีแต่รูปติดบัตรของเค้า)    ====>ส่วนที่ว่าเหงาแล้วอ่านไดอารี่ แจ๊คเป็นเหมือนผมเลย อย่างถ้าวันไหนผมทะเลาะกะโจ ผมจะไปแล้ว ไปหยิบไดอารี่แล้วก็ไม่นั่งอ่านอยู่คนเดียวตรงมุมห้อง อย่างกะเด็กมีปัญญา

greenoak

  • บุคคลทั่วไป
หัวข้อต่อไปผมจะพูดถึงเรื่องของ ‘คำสัญญา’ ครับ

พอจะจำได้มั้ยครับว่าเค้าสัญญาอะไรกับคุณไว้บ้าง







(เดี๋ยวผมจะเอาสัญญาตัวจริงๆ ที่โจเขียนให้ผมมาลิสท์ให้ฟังเป็นข้อๆ)

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






JkrR

  • บุคคลทั่วไป
บวกให้กับหัวข้อครับ แต่ไม่ตอบเพราะมันสะเทือนจวยยย  :sad4:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
 :impress: "เขาสัญญากับฉันไว้...ว่ารักฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข" "แล้วเขาก็สวมแหวนที่นิ้วนางซ้ายให้  :impress:
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.  :laugh:ตื่นขึ้นมาน้ำตาอาบแก้มเลย คือฝันชนิด คมชัดลึก ยิ่งกว่ายามตื่นซะอีก  :a5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2010 21:03:07 โดย กิมตี๋หัดขับ »

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
พูดถึง บันทึกรายรับรายจ่าย จะมีใครว่าผมบ้าเปล่า แต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่  :m28:

ผมจะมีสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ 1 เล่ม ติดตัวตลอเวลา เล่มประมาณเล็กกว่า Passport นิดหน่อยน่ะครับ ด้านหน้า จะเป็นด้านที่ใช้บันทึกรายรับรายจ่าย ด้านหลัง จะใชับันทึกบางอย่างเช่นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ รสชาติอาหาร ชื่อร้าน ที่ตั้ง เป็นต้น หรือ เหตุการณ์ประทับใจอื่น ๆ เป็นช๊อตโน๊ต แล้วจะไปเขียนใส่เล่มใหญ่อีกที

มาถึงส่วนสำคัญ คือด้านหน้าคือบันทึกรายรับจ่าย ทุกวันนี้มันติดเป็นนิสัยโดยอัตโนมัติเลย ทุก ๆ วันใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ผมจะบันทึกลงสมุดบันทึกเล่มนี้้ ด้วยเหตุผลคือ

1. เราต้องการรู้รายรับ-รายจ่าย ของเราแต่ละเดือน ว่าเรามีรายได้เข้ามาทางใดบ้าง เงินเดือน งานนอก รับเข้ามาวันที่เท่าไหร่
2. รายจ่าย เริ่มตั้งแต่ตอนมัธยม ที่ต้องบริหารเงินให้พอค่าใช้จ่ายประจำสัปดาห์ที่แม่ให้ เพราถ้าไม่พอแม่จะไม่ให้เพิ่ม แล้วก็ห้ามไปยืมเพื่อนด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การเรียน อันนั้นไปขอเพิ่มทีหลังได้ ... หลังจากเข้าเรียน มหาวิทยาลัย ผมก็จะได้เงินเป็นรายเดือนแทน ผมได้จากที่บ้านเดือนละ 4500 บาท (เยอะมากสำหรับ ครอบครัวเกษตรกรอย่างพ่อแม่ผม) รวมค่าหอไว้ในนั้นแล้ว ดังนั้นผมต้องประหยัด อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด การบันทึกจะทำให้เรารู้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปบ้าง และจำเป็นมากน้อยแค่ไหน แล้วผมก็พบว่าผ่าน 3 เดือน ทำให้ผมมองเห็นภาพรวมในการใช้เงินของผมได้ ผมเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะลดรายจ่ายไม่จำเป็น และเพิ่มรายได้ จากบันทึกเล่มนี้...

พอมาทำงาน ไม่มีเงินสนับสนุนจากทางบ้านแล้ว ต้องใช้เงินเงินเดือนตัวเองในการดำรงชีพ นิสัยการบันทึกรายรับจ่ายนี้ มันก็ติดตัวผมมาและเป็นประโยชน์มาก ในการวางแผนการใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือน การใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหมดไป แต่แทนที่ด้วยภาษีสังคมในแวดวงการทำงาน แต่ละเดือนแต่ละปีจะมีการ์ดเชิญมาให้เรื่อย ๆ ยิ่งอายุการทำงานมากขึ้น รู้จักคนเยอะขึ้น การ์ดเชิญก็มากเป็นเงาตามตัว ไหนจะการ์ดเชิญจากเพื่อน ๆ สมัยเรียนอีก ที่เริ่มบวช เริ่มทะยอยแต่งงานกัน ... เหล่านี้ถ้าไม่มีการจดไว้ เราจะไม่รู้เลยว่า ภาษีสังคมเราแต่ละเดือน เยอะแค่ไหน ... ตั้งแต่ทำงานมา ผมเห็นเพื่อนที่ทำงานหลายคน เงินเดือนไม่พอใช้ เที่ยวหยิบยืมคนโน้นคนนี้ ถามว่าเอาไปใช้อะไรหมด ก็ตอบไม่ได้ แต่ก็บ่นว่าเงินเดือนไม่พอใช้ ???

เอาง่าย ๆ ผมจดไว้แม่กระทั่งว่า "28/10/53 มื้อกลางวัน ก๋วยเตี๋ยวหมูสับ น้ำเปล่า ผลไม้ 60 บาท ... 28/10/53 ไม้ปั่นหู ลูกอม หมากฝรั่ง ซื้อที่เซเว่น 30 บาท"


ส่วนเรื่องคำสัญญา ... ไว้จะมาบอกทีหลัง อิอิ

Bench

  • บุคคลทั่วไป
เจี๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยก
อ่านไม่ทันแล่้ว!!!!
 :m31:

ออฟไลน์ ★L'Hôpital

  • แค่เราได้พบกัน...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-18
พูดถึง บันทึกรายรับรายจ่าย จะมีใครว่าผมบ้าเปล่า แต่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่  :m28:

ผมจะมีสมุดบันทึกเล่มเล็ก ๆ 1 เล่ม ติดตัวตลอเวลา เล่มประมาณเล็กกว่า Passport นิดหน่อยน่ะครับ ด้านหน้า จะเป็นด้านที่ใช้บันทึกรายรับรายจ่าย ด้านหลัง จะใชับันทึกบางอย่างเช่นเบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ รสชาติอาหาร ชื่อร้าน ที่ตั้ง เป็นต้น หรือ เหตุการณ์ประทับใจอื่น ๆ เป็นช๊อตโน๊ต แล้วจะไปเขียนใส่เล่มใหญ่อีกที

ผมก็เป็บแบบพี่แจ็คนะครับ แต่เมื่อก่อนมีแยกสมุดจดเรียบร้อยเลย แต่ละเล่มจดแยกกัน แต่บางทีขี้เกียจก็ลืมจดบ้างครับ
แต่หลังๆ พกเป็นเหมือนแบบ organizer เล่มเล็กๆ ที่จดทั้งรายรับรายจ่าย ตารางงาน schedule ตารางรถไฟ สมุดเบอร์โทรศัทพ์-ที่อยู่
รวมไปถึงมีเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องพิเศษ ก็จะจดลงไปในสมุดเล่มนี้เลยครับ (organizer ที่นี่เล่มเล็กๆ แต่มีทุกอย่างครอบจักรวาลเลยครับ ผมเลยชอบมาก :m3:)
แต่เด๋วนี้เวลาจดรายรับรายจ่าย ถ้าเป็นของเล็กๆน้อยๆ ผมจะไม่ค่อยลงรายละเอียดเท่าไรแล้วนะครับ จดเป็นภาพรวมเลยมากกว่า เป็นเพราะสมุดมันเนื้อที่น้อยด้วย


แต่ถ้าตอนนั้นผมคบใครอยู่ จะมีสมุดพิเศษเพิ่มขึ้นมาตะหากอีกเล่มนึงครับ ไว้คอยจดเรื่องราว กิจกรรม หรืออารมณ์ความรู้สึกที่เค้ามีต่อผม ในช่วงนั้นๆไว้ครับ
อย่างเช่น ผมจะจดว่า ผมรู้จักเค้าตั้งแต่เมื่อไร เริ่มคบกันตอนไหน เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร วันนี้วันนั้นทำอะไรไปเที่ยวไหนกัน เค้าทำอะไรให้ผม อย่างนี้เป็นต้นอะครับ
การที่จดบันทึกอย่างนี้ ทำให้ผมได้รู้นะคับ ว่าแต่ละวันวันอะไรยังไง เช่นวันครบรอบที่เรารู้จักกัน ครบรอบเป็นแฟน แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ผมก็เอาเรื่องนั้นมาเป็น topic แล้วก็ฉลองอะไรเล็กๆน้อยๆ ให้แฟนผมครับ (ผมอยากให้วันทุกวันจะได้เป็นวันพิเศษเหมือนกันหมด หะๆ...ไม่ใช่แค่วันเกิด วันครบรอบ หรือวันวาเลนไทน์แล้วก็จบไปอะครับ)
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกไม่ดีกับเค้า ผมจะไม่จดลงในสมุดเล่มนี้ครับ แต่จะไปจดใน diary แทน...คือไม่รู้ซิครับ ผมคิดว่าสมุดเล่มนี้อยากให้มีแต่เรื่องดีๆ น่าประทับใจเก็บไว้มากกว่านะ

ส่วนเรื่องพี่คิง อ่านแล้วสลับกับผมเลยนะ วินด์มันแนวคุณชายนิดๆ ชอบความสบาย แต่พอมาคบกับผมที่ติดดิน มันเลยต้องมาเหาะเหินขึ้นรถเมล์ ลงเรือ ขึ้นรถตู้ นั่งรถไฟฟ้ากับผม  :laugh:
จนผมต้องบอกมันว่า ถ้าทนไม่ไหวก็บอกนะ...แล้วหลังจากนั้นมา ถ้าผมจะไปไหน วินด์จะให้ผมนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถแทน -_-" (มันก็สบายดีนะ แต่อีกใจมันชินยังไงไม่รู้) เว้นแต่ผมจะยืนกรานว่าไปด้วยวิธีอื่น แต่อย่างนึงที่วินด์ชอบคือ ชอบนั่งเป็นสก๊อย แล้วให้ผมขี่มอไซต์คู่ชีพผมพาไปไหนต่อไหน 55+

ปล. อ่านเรื่องน้องไจฟ์-ที ทีไร แล้วนั่งอมยิ้มแก้มป่องมีความสุขทุกทีเลย  :m1:

เข้ามากอดทุกคนครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ Goodfellas

  • mgAmuptUF
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • private dating without chat
แวะมากอดจขกท.  และทุกๆคนด้วยครับ :กอด1:

chocolate

  • บุคคลทั่วไป
ไว จริงๆ อ่านไม่ทัน คอมก็พึ่งเปิดติด อยากกลับบ้านอีกแล้วววว คิดถึงแม่ 

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
สำหรับพวกผม จะแปลกมั้ย? ถ้าจะบอกว่า เราสองคนไม่เคยเอ่ยคำสัญญาใด ๆ ต่อกันเลย
ไม่ว่าจะเป็น "เราจะรักกันชั่วฟ้าดินสลาย" หรือ "เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
เพราะอย่างที่บอก เราสองคนคิดเหมือนกัน คือ อยู่กับปัจจุบัน และมองไปในอนาคตครับ
ถ้าเราทำปัจจุบันให้ดี อนาคตย่อมไม่แย่ไปกว่านี้แน่นอน
ก็อยู่กันไปเรื่อย ๆ เผลอแป๊ปเดียว ย่างเข้าปีที่ 12 แล้ว  :เฮ้อ: เฮ้อ! เวลาช่างผ่านไปเร็วจัง

แล้วก็อย่างที่เคยบอกอีกนั่นแหละว่า เราสองคนชอบแสดงออกด้วยการกระทำ มากกว่าคำพูด
นอกจากตอนที่ผมตัดสินใจรับรักเขา ตอนที่เขานอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล และเราเปิดเผยความรู้สึกต่อกันแล้ว
หลังจากนั้น เราไม่เคยพูดคำว่ารักต่อกันอีกเลย จะมีบ้าง ก็ตอนที่อีกฝ่ายกำลังเมากรึ่ม ๆ แล้วหลุดพูดออกมา
แต่คำพูดของคนเมา บางครั้งก็เอามาเป็นสาระไม่ได้ เพราะพอสร่างเมา ก็ลืม 55555
แต่อย่างน้อย ผมก็จะรู้ว่า เรายังมีกันและกันอยู่ในใจเสมอครับ

 :-[

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
พี่ปุ้มครับ
 o13

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป
แนวการดำเนินชีวิตของพีปุ้มดีมาก ๆ ครับ อยู่กับปัจจุบัน และมองไปในอนาคต ขอนับถือเลยครับ  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด