คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คุณครับ...ได้(ฟัน)ผมแล้วก็มารักกันเถอะครับ บทที่ 59/60 พิเศษ UP 6/1/55  (อ่าน 799338 ครั้ง)

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด ฮ่าๆๆ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

อืม... ศึกชิงนาย
พร้อมความหลังอันขมขื่นของหลายชาย

อื่นๆ ของท่านประธาน

อะไรกันนี่

ขอบคุณและจะติดตามครับ
ปล.จะรอตอนลูกนอนหลับนะ

ออฟไลน์ myall

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ท่านประธานตลอดเลย หาเรื่องกายตลอด
อ่านไปอ่านมาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าใครคือผู้ร้าย ก็ต้องอ่านกันต่อไป แต่เค้าเชียร์คเชนท์นะเนี่ย
ปล. พฤศ นี่ไม่ใช่อ่านว่า พะ-ริด เหรอคะ ฤ=รึ=เสียง ร ส่วนอีกตัวที่เหมือน ภ แต่หางยาวนี่ออกเสียง ลึ =ล

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
รอลุ้นกายจะได้เป็นดาราไหมเนี้ยะ

dokjarn

  • บุคคลทั่วไป

จวนจะเฉลยแล้วมั๊งนี่

ท่านประธานพะริด...พี่ชาย คุณทะริด

คือคนที่อะจึ๊ยยยย...กับกายในคืนวันนั้น

รีบเฉลยเหอะ จะได้มีฉากที่ 2 เหอ เหอ

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้จบบทนะครับ ใกล้จะครึ่งเรื่องแล่ะ เด๋ยวมีลุ้น รับรองตื่นเต้นเหมือนเดินในซอยแล้วกลัวไม่ถูกข่มขืน อิอิ
ได้หมามาเลี้ยงเป็นลูกหนึ่งตัวแล้วครับ ตอนนี้เลยอยากมีลูกตัวที่สอง เลยอาจมาโพสแบบกระปิดกะปอยหน่อยนะครับ พอดีลูกกวน ต้องคอยวิ่งไล่จับเะราะซนเหลือเกิน อึไม่เป็นที่เป็นทางอีกตะหาก ต้องคอยตามล้างตามเช็ด สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ พูดก็ไม่รู้เรื่อง
อ่้อ ชื่อพวกพระเอกในเรื่องนี้เปิดจากตำราตั้งชื่อเลยครับ

“ไปหาคำใหม่ ถ้าคุณไม่รู้จักก็ให้ถามคุณการุณย์” พฤศตัดบท “รีบแก้ให้เสร็จก่อนกลับบ้าน ถ้าเลยเวลาทำงานคุณก็เบิกโอที ส่งมาที่ผมโดยตรง ผมจะเป็นคนพิจารณาอนุมัติให้เอง”
“ครับ” กายพยักหน้าเพราะไม่อยากโต้เถียงกับท่านประธานบริษัท
“คุณควรมีสมาธิมากกว่านี้ นอนเร็ว ตื่นเช้า สมองจะได้ปลอดโปร่ง การเที่ยวกลางคืนดึกๆ และดื่มเหล้าทำให้สมองคนเราทำงานไม่เต็มที่ คืนวันศุกร์วันเสาร์คคุณจะเมาแล้วนอนตื่นเที่ยงหรือบ่ายก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าเป็นวันทำงานคุณต้องมีความรับผิดชอบต่อเวลาแปดชั่วโมงที่นั่งทำงานอยู่ในบริษัท”
กายนั่งนิ่งด้วยความอดทน รอคำพูดคำเดียวจากท่านประธาน
“เชิญ” พฤศพยักหน้า กายจึงลุกขึ้น เดินออกไปจากห้องทำงานของท่านประธานโดยเร็วและไม่หันไปมองเลขานุการคนใหม่ของพฤศด้วยซ้ำ
...กล้าดียังไงมาตำหนิเราเรื่องส่วนตัว จะเมาเมื่อไหร่ จะเที่ยวกลางคืนมันก็เรื่องของไอ้กาย ทำงานได้ก็แล้วกัน ถ้าท่านไม่มีอคติก็ไม่เห็นคำผิดที่ไม่ควรเป็นคำผิดในเอกสารหรอก ใครมันจะทำงานได้เนี้ยบเท่าได้กายวะ...
...คอยดูนะ งานชิ้นต่อไปจะจงใจให้ผิดทุกย่อหน้าเลยทีเดียว ดูซิ จะเบื่อเรียกเราเข้าไปตำหนิหรือเปล่า...
 
องอาจหรืออ๋อง เจ้าของผับ Lose Urself ยืนมองชายหนุ่มรุ่นน้องซึ่งรู้จักกันผ่านเพื่อนของภรรยาแล้วส่ายหน้า กายมาถึงผับก็ดื่มเหล้าถึงสี่แก้วติดๆ กันแล้วนั่งหน้าบึ้งไม่พูดไม่จา
“จะเมาหรือเปล่ากาย คืนนี้จะให้เด็กเตรียมที่นอนไว้ให้” องอาจพูดขึ้น
กายส่ายหน้าแล้วสั่งเหล่าแก้วต่อไป บาร์เทนเดอร์หันมามองเจ้านาย และเมื่อเจ้านายพยักหน้าอนุญาตจึงผสมเหล้าแล้วส่งให้แขกประจำ
“ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่ากาย”
“ไม่มีอะไรมากครับ แค่เรื่องงาน” กายยักไหล่
“ตอนทำงานทีเดิมเห็นสนุกสนานร่าเริงดีนี่นา ที่ทำงานใหม่นี่มันแย่มากเลยหรือ”
“ก็โอเค แต่แค่เจ้าของบริษัทไม่ชอบหน้าผม” กายเบ้ปาก
“ขนาดนี้มันไม่โอเคแล้วนะ พี่ว่าเปลี่ยนงานใหม่เถอะ” องอาจแนะนำ “ไปเป็นดาราหรือนายแบบเลยกาย ได้เงินเยอะดี เร็วดี รูปร่างหน้าตาอย่างกาย เดี๋ยวเดียวก็ดัง”
“ไม่เอาหรอก ผมไม่ชอบ” กายส่ายหน้าแล้วยกเหล้าขึ้นดืม หันไปมองรอบๆ จึงเห็นร่างอวบๆ ของชายหนุ่มในชุดทำงาน เสื้อเชิ้ทสีขาว ผูกเนคไทสีแดงเดินเข้ามาหาพร้อมกับยกมือขึ้นโบกทักทายมาแต่ไกล
“ไฮกาย ไฮพี่อ๋อง วินเตอร์ลูกค้าขาใหญ่มาแล้ว”
“ขาใหญ่เท่าขาโต๊ะเลยล่ะ” กายประชด
“พูดน่าตบ” คนที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้สตูลข้างกายพูดยิ้ม “แล้วก็จูบ”
“จูบก็เจอหมัด” กายตอบ
“ดุแฮะ” วินเตอร์หัวเราะ หันไปพูดกับเจ้าของผับ “วันนี้่ผมมาเมา ขอเหล้าแรงๆ หน่อยนะพี่อ๋อง”
“เมาให้หมดทุกคนเลย ไม่ต้องห่วงเรื่องที่นอน พี่จะจัดให้หลังร้าน”
“ผมจะกลับไปนอนบ้าน นอนที่นี่กลัวโดนเด็กร้านพี่ข่มขืน แต่ละคนหน้าตาหื่นใช้ได้เลยล่ะ พี่มีนโนบายคัดเลือกเด็กทำงานแบบนี้หรือพี่อ๋อง”
“คนที่ควรจะกลัวคือกาย ไม่่ใช่แก” องอาจชี้หน้าวินเตอร์
“พี่อย่าดูถูกผมไปนะ เห็นแบบนี้ก็เถอะ” วินเตอร์ทำท่าทางภูมิใจตัวเองนักหนา องอาจส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วเดินจากไปเพื่อทำงานต่อ วินเตอร์จึงหันมาคุยกับกาย “คุณกาย มาก็ไม่ชวน เห็นหายหัวไปตั้งนาน มีคนตามหาแน่ะ รู้หรือเปล่า”
“ใคร”
“ไม่รู้ จำไม่ได้” วินเตอร์ยักไหล่ “รู้แต่ว่าเป็นผู้ชายรูปหล่อ ตัวสูงใหญ่ เข้ม คิ้วดก จมูกโด่ง ท่าทางอาจจะเป็นเกย์ ถึงมาดแมน เท่ขนาดนั้น แต่ไอ้วินเตอร์มองออก”
“มองออกหรือทดสอบเขาไปแล้ว”
“อ๋าย อย่าพูดยังงี้สิกาย เพื่อนจั๊กจี้” วินเตอร์หัวเราะ “ทั้งๆ ที่บางครั้งบางคราวอยากจะลองอยู่นะ แต่ว่ายังไม่พร้อมล่ะ ยังห่วงประตูหน้าอยู่ ก็พี่แกตัวใหญ่เหลือเกิน กลัวประตูหลังบาน”
“ทะลึ่ง” กายพูดเสียงห้วนแล้วมองข้ามไหล่ของเพื่อนเก่าไปยังกลางผับเมื่อเห็นใครคนหนึ่งที่รู้จัก
“กาย วันนี้เพื่อนวินเตอร์ขอเมาหัวราน้ำซักวัน แต่เพื่อความปลอดภัยว่าเราจะไม่ไปตื่นบนเตียงของใคร เพื่อนกายช่วยไปส่งเราที่บ้านเตี่ยหน่อยนะ วันนี้ไม่ได้เอารถมา ไปแท๊กซี่ก็ได้ เดี๋ยวค่ารถเพื่อนวินเตอร์ออกเอง”
“ให้น้องไปส่งสิ” กายพูดขึ้นเมื่อแน่ใจว่าคนที่เห็นยืนอยู่กลางผับเป็นใคร “นั่นเจ้าซัมเมอร์น้องชายนายนี่หว่า”
“ไหน” วินเตอร์หันไปมองแล้วอุทานขึ้นมา “อ้าว เสือกมาอยู่นี่ได้ไง ทำไมไม่บอก”
“ก็ไหนว่าย้ายไปอยู่นครสวรรค์”
“ซัมเมอร์” วินเตอร์ตะโกนเรียกน้องชายแล้วหันมาพูดกับกาย “มันไปๆ มาๆ มีแข่งรถทีไรมันก็มากรุงเทพฯ ที ถ้าชนะพนันก็อยู่ต่อ ถ้ามันเสียมันก็กลับปากน้ำโพเลย”
ซัมเมอร์ไม่ได้ยินพี่ชายเรียก วินเตอร์จึงเดินไปตบไล่แล้วลากแขนมามี่เคาท์เตอร์บาร์ แต่พอซัมเมอร์เห็นกายก็ทำท่าอึกอัก
“พี่กาย” ซัมเมอร์พึมพำ
“หายไปเลย” กายต่อว่า “ไหนวันนั้นมาท้าดวลแก้ว อยู่เฉยๆ ก็หายไปเลย”
“วันไหน” วินเตอร์ถามแทรก
“แกนี่ก็สมองปลาทองจริงๆ เลย แค่นี้ก็จำไม่ได้” กายบ่นให้วินเตอร์
“ผ่านไปเกินอาทิตย์หรือยังล่ะ” วินเตอร์เลิกคิ้วถาม “ถ้าเกินแล้วจำไม่ค่อยได้หรอก”
“ก็คืนวันศุกร์ที่นายนัดมาไง บอกว่าไม่ได้เจอเพื่อนสมัยเรียนมานาน เลยนัดกลุ่มเราให้มารวมกัน” กายเท้าความทั้งที่รู้ว่าวินเตอร์คงจำไม่ได้เพราะฝ่ายนั้นความจำสั้นมาก แต่เขาไม่มีวันลืมคืนวันนั้นเด็ดขาด
“ผมมีธุระ” ซัมเมอร์หลบตาแล้วขอตัว
“จะรีบไปไหนวะ กินเหล้ากับเฮียซักแก้วก่อน แล้วคืนนี้ลื๊อก็พาเฮียไปส่งบ้านเตึ่ยด้วย นอนที่นั่นเลย พรุ่งนี้จะได้กินข้าวด้วยกัน เตี่ยบ่นว่าไม่ได้เจอหน้าลื๊อนานแล้ว คืนนี้เฮียจะมา ไอ้กายไม่ายอมพากลับ เพราะลื๊อจะเมาด้วยใช่ไหมล่ะกาย” วินเตอร์พูดกับน้องชายแล้วหันมาชี้หน้ากายพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
“ผมไม่ว่าง ผมจะไปหาเพื่อน” ซัมเมอร์ส่ายหน้า
“คุยกันก่อนสิซัมเมอร์” กายเรียกน้องชายของวินเตอร์เอาไว้ “ขอถามอะไรหน่อย”
“ผมไม่รู้ เพื่อนรอ” ซัมเมอร์ส่ายหน้าแล้วรีบเดินหนี”
“อะไรของมันวะ” วินเตอร์มองตามน้องชายพร้อมกับส่ายหน้างงๆ “พักหลังชอบหลบหน้าหลบตาเฮีย มันไปสร้างปัญหาหรือมีหนี้พนันที่ไหนอีกก็ไม่รู้ ชอลหลบหน้า ไอ้เรนมันยังบ่นเลยว่าพี่ชายไปค่อยไปเยี่ยมทั้งที่อยู่ใกล้กัน”
“เรนเป็นไงบ้าง” กายถามถึงน้องชายคนที่สามของวินเตอร์ซึ่งผิดหวังจากความรักและย้ายไปอยู่บ้านของลุงที่ต่างจังหวัด
“ดีขึ้นมาหน่อย ได้ไปอยู่ต่างจังหวัด มีเพื่อนเยอะ ไม่ค่อยฟุ้งซ่าน” วินเตอร์ถอนหายใจ “เฮ้อ ทำไมคนเรามันจะรักใครได้มากมายยังงี้วะ ไม่เข้าใจจริงๆ แค่อกหัก มันถึงกับเลิกเรียนทั้งๆ ที่ฝึกงานใกล้จะจบแล้ว เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น”
“เรื่องหัวใจใครจะไปรู้ได้” กายยักไหล่
“พูดเหมือนคนมีประสบการณ์” วินเตอร์เย้า “ว่าแต่ว่า รูปร่างหน้าตาอย่างเพื่อนแกเนี่ย ทำไมไม่เห็นมีแฟนซักทีวะ ไอ้ที่เขาว่า หล่อเลือกได้นี่คงไม่จริงซะล่ะมั๊ง แกหล่อขนาดนี้ยังไม่เห็นมีใครมอง จะสามสิบแล้วนะกาย ระวังจะขึ้นคาน”
“ไม่ต้องมากังวลแทนหรอก ห่วงตัวเองเถอะ”
“สบายมาก วินเตอร์ซะอย่าง กระดิกนิ้วเมื่อได้มีเสียว” วินเตอร์ทำหน้าทะเล้น กระดิกนิ้วประกอบคำพูด
“เสียวใช้นิ้วแหย่ก้นตัวเองเล่นนะสิ”
“ไอ้บ้า รู้ได้ไงวะ” วินเตอร์หัวเราะขำ กายส่ายหน้า แต่วินเตอร์เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังแล้วป้องปากกระซิบกาย “เฮ่ย กาย อย่าบอกใครเชียวนะ อั๊วะเคยลองว่ะ ลองแหย่ๆ เข้าไปดู เสียวนิดๆ เหมือนกัน แต่มันทำไมรู้ปวดอึด้วยก็ไม่รู้ เพื่อนกายเคยลองหรือเปล่า มีทริ๊กอะไรไหม”
“ไอ้...” กายทำหน้าขยะแขยง “สัปดน ไม่เคยโว้ย”
“อ้าว อย่างพวกแกต้องเคยกันทุกคนไม่ใช่หรือ”
“เฉพาะพวกเซ็กส์จัดขาดไม่ได้เท่านั้นล่ะ ไม่ก็คนที่หาไม่ได้จริงๆ” กายเบ้ปาก
“แต่อย่างเพื่อนกายนี่คงหาได้ทุกครั้งที่ต้องการ”
“เลิกพูดทุเรศยังงี้ได้แล้ววินเตอร์” กายทำเสียงดุ “ทำอะไรบ้าๆ”
“อ้าว ก็เห็นในหนังเขาทำกัน ก็เลยอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง”
“ไปหาของจริงลองซะไป๊”
“ยังใจไม่กล้าพอว่ะเพื่อน” วินเตอร์หัวเราะร่า กระดกเหล้าเข้าปากแล้วสั่งเพิ่มอีกหนึ่งแก้ว
กายนั่งคุยกับเพื่อนต่อไม่นานก็ขอตัวกลับ ครั้นเดินผ่านกลุ่มของซัมเมอร์เขาสังเกตเห็นว่าน้องชายคนรองของวินเตอร์ปรายตามามอง แต่พอเขาหันไปสบตาฝ่ายนั้นก็รีบหันหน้าหนี
กายรู้สึกแปลกๆ สัญชาตญาณของเขาบอกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล ซัมเมอร์พยายามหลบหน้าเขา ไม่ใช่หลบหน้าพี่ชาย
 
กายวางโทรศัพท์ลงในลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วดันลิ้นชักปิดช้าๆ ปกติเขาพยายามไม่คุยโทรศัพท์ส่วนตัวเพราะไม่อยากถูกเพิ่งเล็ง กายมีความรู้สึกว่าตัวเองถูกจับตามองทุกฝีเก้า แม้เขาพยายามมองหากล้องวงจรปิดในบริเวณห้องทำงานของแผนกและไม่เห็นแม้แต่กล้องเดียว แต่กายก็ไม่กล้าที่่จะวางใจ
เมื่อครู่เขาคุยโทรศัพท์กับเชิงชาย ความจริงกายไม่ได้ตั้งจะรับโทรศัพท์เพราะปิดเสียงเรียกเข้าเอาไว้ตลอดเวลา แต่ขณะที่เปิดลิ้นชักเห็นว่าบนหน้าจอแสดงว่ามีสายเรียกเข้าจึงตัดสินใจรับ เชิงชายชวนไปทานอาหารทะเลเพราะได้บัตรส่วนลดพิเศษ เขาปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าเหนื่อย ต้องการกลับบ้านไปพักผ่อน แต่เชิงชายก็ดึงดัน

“หรือกายไม่อยากไปกับชายเพราะมันเป็นร้านอาหารธรรมดาและชายต้องใช้บัตรลด ชายอยากจะเลี้ยงหรูนะ แต่ตอนนี้เงินมันไม่เยอะ ไว้ให้เก็บ...”
“เลิกคิดแบบนี้ได้แล้ว ก็รู้อยู่ว่าเราเป็นคนยังไง หรูไม่หรูไม่สำคัญหรอก” กายตอบ “หรือว่าไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนยังไงถึงได้คิดจะทำอะไรแบบนี้”
“ก็...”
“ถ้าว่างนักก็ไปหางานอาสาสมัครทำสิ ไปอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟังก็ได้” กายแนะนะ
“ชายอยากใช้เวลากับกาย ถ้าขี้เกียจไปกินข้าวก็ไม่เป็นไร งั้นชายจะไปหาที่บ้าน”
“บอกแล้วไงว่าเหนื่อย จะกลับบ้านพักผ่อน”
“ก็ใครบอกว่าจะไปกวน” เชิงชายตอบ “ชายไปนั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้ ไม่ทำให้รำคาญหรอก ถ้าถึงเวลากายเข้านอนแล้วชายก็จะกลับ”
“ชาย”
“กาย ชายอยากใช้เวลาอยู่กับกายจริงๆ นะ ยิ่งไม่ได้ทำงานด้วยกัน ไม่ค่อยได้เจอกัน ก็ยิ่งรู้สึกแย่ มันโหวงๆ ยังไงไม่รู้ ตอนนี้พี่ตั๋มก็มักจะให้ชายไปทัวร์ไกลๆ นานๆ เจ๊นอร์ก็ชอบทำทัวร์ใกล้ๆ กรุงเทพฯ แบบไปเช้าเย็นกลับ ชายเหงา ไม่มีเราสามคนแล้วรู้สึกว่ามันแปลกๆ” เชิงชายทำเสียงโอดครวญ “จริงๆ นะกาย ชายเหงาะจริงๆ ไม่รู้เป็นอะไร พักหลังนี่ไม่มีสมาธิเลย”
“ลองฝึกนั่งวิปัสสนาดูสิ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”
“ฝึกก็ฟุ้ง ช่วยไม่ได้หรอก แต่ถ้าได้อยู่กับกายแล้วไม่ฟุ้ง” เชิงชายตอบ
“ชาย”
“จ๋า” เชิงชายตอบเสียงอ่อนหวาน “ถ้าชายรู้ว่ามันทรมานมากแบบนี้ ถ้าชายห้ามใจตัวเองได้ ชายก็คงทำไปนานแล้ว แต่นี่ชายเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้วิเศษ ไม่มีฤทธิ์เดช ที่จะห้ามใจไม่ให้รัก”
“ชาย” กายเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้ม “ก่อนจะพูด คิดให้ดีๆ ก่อนนะ พูดพร่ำเพรื่อมันจะไม่มีความสำคัญ”
“คิดดีแล้ว คิดมาตั้งนาน แสดงออกมาตั้งนาน เมื่อไหร่จะเก็ทซะที เวลาและวารีไม่เคยรอใครนะกาย ถ้ามันไม่ได้มีอุปสรรคอะไร ทำไมไม่มารักกันซะเลย ยังต้องรออะไรอยู่อีก”

...นั่นสิ ยังต้องรออะไรอยู่อีก ความจริงเชิงชายก็เป็นคนดี บางครั้งไร้สาระไปบ้าง แต่ส่วนมากก็มีสาระ...
...การรอคอยมันทรมานมากหรือไงนะ...
กายถอนหายใจเบาๆ แล้วก้มลงมองกระดาษหนึ่งแผ่นซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขาทำงานชิ้นล่าสุดเสร็จ แต่จงใจไม่ส่งให้เจ้าของงานเพราะตั้งใจว่าจะรอให้เกินกำหนดเวลาไปสักสองนาที
เขาต้องการให้ท่านประธานอารมณ์เสีย เพราะไหนๆ ก็มีอคติกับเขาอยู่แล้ว อยากชอบว่าเขาดีนัก ก็จะหาเรื่องทำให้ 'ว่า' ซะเลย ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันที่นาเบื่อเสียแล้ว
 
::: End of Chapter 20 :::

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
Guy Chapter 21
 
วันนี้ทั้งวันกายติดต่อวินเตอร์ไม่ได้ เขาตั้งใจจะคุยกับเพื่อนเรื่องซัมเมอร์เพราะรู้สึกสงสัยอะไรบางอย่าง ส่วนการุณย์มอบหมายงานให้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วก็หายหน้าไป คเชนทร์ก็เช่นกัน แม้เขาจะนั่งเหม่อบ่อยครั้งแต่ก็ไม่โผล่มาให้เห็น
เมื่อนาฬิกาบอกเวลา16.01 นาที กายจึงลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเพื่อเดินไปยังออฟฟิสของท่านประธานบริษัท เจนจิราเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารบนโต๊ะและชี้มือไปยังประตูห้องทำงานของเจ้านายพร้อมกับพูดสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เข้าไปเลยค่ะ”
ท่านประธานนั่งอยู่ที่โต๊ะ สวมเสื้อเชิ้ทสีขาวไม่ผูกเนคไท ปลดกระดุมเม็ดบนสุด แขนเสื้อพับขึ้นเหนือศอก ดูราวกับว่ารู้สึกอึดอัดกับชุดทำงานของตัวเอง แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ แต่กายกลับรู้สึกประหนึ่งว่ามีกองไฟลุกอยู่หลายกองในห้องทำงานกว้างขวางห้องนี้
“ผมมาส่งงานครับ” กายพูดขึ้นเบาๆ ท่านประธานเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตาเรียบนิ่งเช่นเคย พร้อมกับยื่นมือมารับแล้วใช้เวลาอ่านประมาณหนึ่งนาทีก่อนจะพยักหน้าให้กายนั่งลงแล้วอ่านต่อเงียบๆ กายแปลกใจเพราะผิดคาด เขาคิดว่าจะโดนดุเรื่องมาส่งงานช้า แต่ท่านประธานกลับเงียบจนกายรู้สึกอึดอัดยิ่งกว่าเดิม
...หาที่ผิดไม่ได้ล่ะสิคุณท่านประธานพฤศ...
กายนึกอยู่ในใจ พลางสังเกตดูใบหน้าของคนที่มีอคติกับเขา พยายามเปรียบกับธฤตว่าหน้าตาคล้ายกันตรงไหน สิ่งที่กายสังเกตได้คือทั้งสองคนมีคิ้วดกดำ จมูกโด่งคมเป็นสันได้รูป โหนกแก้มสูง กรามแข็งแกร่งเหมือนกัน แต่เค้าหน้าไม่เหมือนเป็นพี่ชายกับน้องชายสักนิด
“มีที่ผิดไหมครับคุณพฤศ” กายถามเมื่อเห็นว่าท่านประธานใช้เวลาอ่านนานเกินไป
“พรุ่งนี้ผมจะให้คุณไปเป็นล่าม” พฤศพูดขึ้นมาเบาๆ ทั้งที่กำลังก้มหน้าอ่านเอกสาร
“เช้าหรือบ่ายครับ ตอนเช้าผมมีงานแปลสองชิ้น คุณการุณย์ต้องการสิบเอ็ดโมง”
“บ่าย” พฤศตอบ “แต่ถึงมีงาน คำสั่งของผมก็เหนือกว่าคำสั่งของคนอื่นทุกคนในบริษัทนี้ ไม่เว้นแม่แต่คุณคเชนทร์ ถ้าผมจะบอกให้คุณไปตอนเช้า คุณการุณย์ก็คงหาคนอื่นทำแทนเอง พรุ่งนี้ทานอาหารเที่ยงเสร็จก็ไปเลย ประชุมบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง เสร็จแล้วคุณก็กลับบ้านได้ ไม่ต้องกลับเข้าบริษัทอีก อ้อ คุณไม่ต้องกลับมาเอารถที่บริษัทใช่ไหม เพราะคุณไมมีรถขับมาทำงานนี่นะ”
“ที่ไหนครับ” กายถาม ไม่สนใจคำพูดกระทบกระเทียบเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว “ผมอยากขอเอกสารไปศึกษาก่อนครับ จะได้...”
“F-35” พฤศเงยหน้าขึ้น วางเอกสารในมือลงบนโต๊ะ “คุณเชี่ยวชาญอยู่แล้วนี่ คงไม่ต้องศึกษาอะไรเพิ่มเติม”
“ที่กองทัพอากาศหรือครับ” กายถาม
“ผมกับ Jean Michael จะฟรีเซนต์  F-35 ให้ ผบ. ทอ. กับนายทหารระดับสูง คุณแปลให้ Jean Michael เวลาผมหรือคนอื่นพูด แล้วคุณก็แปล Jean Michael เวลาเขาพรีเซนต์”
“ภาษาฝรั่งเศส” กายพูดเสียงดังเกือบจะเป็นการอุทาน
“ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส” พฤศตอบ “ทำไม มีปัญหาอะไร”
“ได้ครับ” กายตอบเสียงเรียบ “แต่ภาษาฝรั่งเศสผมไม่คล่องเท่าภาษาอังกฤษ”
“ผมก็ว่ายังงั้นล่ะ” พฤศพยักหน้า “แต่คุณคเชนทร์คัดเลือกคุณเข้ามาแล้วนี่ ก็คงหมายความว่าคุณเหนือกว่าคนอื่นๆ ในแผนก จะเป็นรองก็แต่คุณการุณย์ หรือคุณคิดว่าเก่งกว่าคุณการุณย์
“ผมไม่เคยได้ยินคุณการุณย์พูดฝรั่งเศสครับ” กายตอบเสียงเข้ม รู้สึกฉุนกึกที่โดนพูดกระทบกระเทียบแบบนั้น
“คุณการุณย์จบการแปลฝรั่งเศสจากธรรมศาสตร์ จบล่ามจากที่เดียวกับคุณ จบภาษาศาสตร์จากไอเดนเบิร์ก เป็นอาจารย์สอนพิเศษอยู่ที่เอยูเอและมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ตอนนี้เป็น PhD. Candidate ของคอร์เนล” พฤศพูดเสียงเนิบนาบ
“ถ้ายังงั้นผมคงเทียบคุณการุณย์ไม่ได้ครับ” กายตอบเสียงเรียบ ในใจรู้สึกทึ่งในตัวของการุณย์จนอยากจะแสดงความรู้สึกออกมา แต่เขารู้ว่านั่งอยู่หน้าพฤศจึงไม่สามารถทำแบบนั้นได้
“แต่ก็คงพอไปทำงานง่ายๆ พรุ่งนี้ได้ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า” พฤศถาม
“ครับ” กายตอบแล้วนั่งรอ 'คำพูดคำเดียว' จากท่านประธานซึ่งหวังว่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายจากคนหน้าดุ
…“เชิญ”...
กายลุกขึ้น แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินท่านประธานพูดออกมาด้วยนำ้เสียงเข้มๆ
“เดี๋ยวสิ ผมยังไม่อนุญาตให้ไป”
...อ้าว หูแว่วหรอกหรือ เมื่อกี้ได้ยินคำว่า เชิญ นี่นา...
...เป็นอะไรไปวะ พักนี้หูไม่ค่อยดี...
กายเลิกคิ้วแล้วนั่งลง
“ผมยังพูดไม่เสร็จ คุณต้องรอจนกว่าผมซึ่งเป็นประธานบริษัทอนุญาตถึงจะออกไปได้”
“ขอโทษครับ” กายพยายามใจเย็น
“แล้วต้นเดือนหน้า คุณเตรียมตัวไปเป็นล่ามที่พม่า เรื่องเรดาร์ MZR77CH3  ไปที่แผนก Research ขอเอกสารมาดู ศึกษาให้ละเอียดทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ถ้ามีคำถามเรื่องศัพท์เทคนิคให้ถามคุณธเนตร เขาเชี่ยวชาญเรื่องเรดาร์ ไม่ต้องไปรบกวนคุณคเชนทร์ ตอนนี้เขากำลังยุ่งกับเรื่อง CTX พรุ่งนี้เอาพาสปอร์ตมาให้คุณเจนจิราจัดการเรื่องวีซ่า”
...ไม่ต้องการดักคอผมหรอก ผมจะถามคุณธเนตรตามที่แนะนำก็ได้ แต่ถ้าติดขัดจริงๆ ผมก็จะถามคุณคเชนทร์ ใครจะทำไม...
...แล้วเรื่องไปเป็นล่ามให้นักบินที่จะไปลองขับ F-35 ที่อเมริกาล่ะ ตกลงจะให้ใครไป...
กายอยากจะถามแต่ก็ไม่กล้าเพราะพฤศพูดเสร็จก็ก้มหน้าลงอ่านเอกสารแปลของเขาต่อแล้วพยักหน้า แต่กายยังนั่งนิ่ง พฤศจึงเงยหน้าขึ้นแล้วเลิกคิ้ว ทำสีหน้าสงสัยว่าทำไมกายยังนั่งอยู่ที่เดิม
“ผมไปได้แล้วใช่ไหมครบั” กายถามเพื่อความมั่นใจ
“เชิญ” พฤศพูดสั้นๆ แล้วมองกายลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้อง ในใจคิดว่า
...ฮึ เด็กของคเชนทร์ ดูซิจะเก่งขนาดไหน...
 
เมื่อวรุจน์เห็นกายเดินออกมาจากประตูด้านหน้าตึกซึ่งเป็นสถานที่ทำงานจึงรีบปรี่เข้าไปหา วันนี้เขามารอชายหนุ่มตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน ก่อนหน้านั้นเขานึกหวั่นว่าจะเจอ 'คู่แข่ง' เจ้าของรถฮอนด้าแจ๊สสีขาวแต่โชคดีวันนี้ไม่เห็นฝ่ายนั้นโผล่มา
“คุณวรุจน์” กายพึมพำเบาๆ พร้อมกับหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาเชิงชาย
“ผมมารับไปทานข้าว” วรุจน์พูด
“เพิ่งสี่โมงครึ่งเองนะครับ” กายพูดประโยคเดิมๆ ที่เคยพูดกับวรุจน์
“ก่อนทานข้าวไปเดินชอปปิ้งกันหน่อย ที่พารากอนมีงานไอที ผมว่าคุณไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ซะเถอะ เครื่องที่ใช้อยู่หน้าจอเล็ก ขาวดำอีกต่างหาก”
“ผมว่ามันก็ใช้ได้ดี”
“ผมส่งรูปให้คุณดูไม่ได้ คุณก็ส่งรูปให้ผมดูไม่ได้ เมื่อเช้าผมส่งรูปให้คุณดู คุณก็ไม่ตอบกลับ”
“ไม่เห็นมีข้อความอะไร” กายโกหก ความจริงเขาไม่ได้เรียกดูข้อความด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะข้อความของใคร
“เครื่องคุณอาจจะใช้ไม่ได้เพราะมันเป็น MMS” วรุจน์ยิ้ม “ผมส่งรูปผมตอนที่นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิสมาให้ดูครับ”
“ส่งมาทำไมครับ”
“ผมอยากให้คุณเห็น” วรุจน์ตอบ
“ทำเป็นเด็กวัยรุ่นไปได้” กายส่ายหน้า
“ก็ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตอนเพิ่งเป็นหนุ่มนี่ครับ” วรุจน์หัวเราะเบาๆ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย “จริงสิ ผมใกล้จะนึกออกแล้วว่าเคยเจอกับคุณที่ไหน เมื่อคืนผมฝันว่าเห็นคุณตอนเป็นวัยรุ่น คุณตัวเล็กกว่านี้เยอะ”
“เป็นเด็กวัยรุ่นก็ต้องตัวเล็กกว่านี้สิครับ ตอนนี้ผมอายุจะ 27 ปีแล้ว”
“ผมคุณยาวกว่านี้ แล้วก็ตาโตกว่านี้ ผิวคล้ำกว่านี้ สงสัยคงเพราะตากแดด” วรุจน์มองหน้าของกายอย่างหลงไหล
“คุณวรุจน์” กายพูดช้าๆ “อย่าบอกนะว่าคุณเห็นผมจากชาติที่แล้ว”
“ถ้าเป็นยังงั้นได้ก็ดีสิครับ” วรุจน์หัวเราะเบาๆ “ถ้าเป็นเนื้อคู่กันจริง ผมก็ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก คุณก็รู้ ผมรู้สึกคุ้นเคยกับคุณมาก แค่เจอครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนว่าเคยเจอกันมานานแสนนาน ไม่งั้นผมไม่หยุดรถทันทีที่เห็นคุณกำลังจะข้ามถนนหรอก จริงๆ นะครับกาย ผมไม่ได้ทำเป็นเจ้าชู้ จอดรถจีบใครข้างถนน แบบนั้นมันเกินไป”
กายแอบถอนหายใจ วรุจน์เป็นเอามาก อาการหนักกว่าเดิม สายตาคู่นั้นที่มองมามีแววหม่นๆ ทั้งที่แรกพบกายเห็นว่าท่าทางเป็น 'คนเจ้าชู้เอาเรื่อง' เขาคิดว่าตอนนี้สายตาของวรุจน์เหมือนคนที่จมอยู่ในอดีต ราวกับว่าเคยมีคนรักแล้วคนรักจากไป และมาเจอคนใหม่ที่หน้าตาพิมพ์เดียวกับคนรักเก่าราวฝาแฝด จึงมองคนใหม่เหมือนถูกสะกดจิต
...นี่หรือ ซาตานในคราบเทพบุตร ตัวอันตรายอย่างที่คเชนทร์เตือน หรือพรานล่าเหยื่ออย่างที่ธฤตกล่าว...
...หากวรุจน์เป็นนักแสดง ก็เรียกว่าตีบทได้แตก...
“ให้มันรู้ไปว่าคุณจะปล่อยให้ผมผิดหวังทุกครั้งที่มายืนรอรับคุณ” วรุจน์จ้องตากาย “ผมไม่เลิกล้มความตั้งใจหรอกครับกาย ถ้าผมมารอคุณสิบครั้ง แล้วคุณไปกับผมซักครั้งสองครั้งผมก็ถือว่าโอเคแล้ว”
“คุณทำแบบนี้ทำไมครับ” กายถาม
“แล้วคุณคิดว่าผมทำทำไมล่ะครับ” วรุจน์ถามกลับ “ผมทำเพราะมีเหตุผล คุณก็น่าจะรู้ว่าทำไม”
...เหตุผลแบบที่ธฤตว่าวรุจน์ตอนที่เราแอบได้ยินในคืนวันนั้นหรือ เราควรจะเชื่อสิ่งที่ทั้งสองโต้เถียงกันหรือเปล่า แต่เราก็ไม่เข้าใจทั้งหมดว่าสองคนนั้นเถียงกันเรื่องอะไร...
...หรือต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าวรุจน์จะจริงจังกับเรา ไม่ใช่เป็นพรานล่าเหยื่ออย่างที่ได้ยิน ไม่ใช่ตัวอันตรายอย่างที่คเชนทร์เตือน อาจจะต้องรอดูวรุจน์ไปซักระยะ...
 
วันนี้กายมาทำงานเช้ากว่าเวลาทำงานถึงสิบห้านาที แทบจะเป็นคนแรกของบริษัทด้วยซ้ำ เขาได้ยินเสียงคนเดินตามเข้ามาในห้องโถงด้านหน้า หันไปมองจึงเห็นว่าเป็นคเชนทร์ วันนี้คเชนทร์แต่งสูทสีเทาอ่อน ผมหวีเรียบ ใบหน้าสดชื่น และส่งยิ้มให้เขาพร้อมกับยกมือขึ้นทักทาย
“มีอะไรครับ” กายถาม
“คุณนี่จริงๆ เลย” คเชนทร์่ส่ายหน้า อมยิ้มขำๆ
“ทำไมหรือครับ”
“เจอหน้ากันตอนเช้า แทนที่จะ Hello, good morning  อรุณสวัสดิ์ บองชูร์ โอฮาโย คุณถามใครว่า มีอะไรหรือเปล่าแบบนี้หรือ “ คเชนทร์บ่น “นักเลงไม่ใช่เล่นนะเนี่ย”
“ก็...”
“อรุณสวัสดิ์ครับกาย” คเชนทร์ทักทายใหม่
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณคเชนทร์” กายทักทายตอบ “มีอะไรหรือครับ”
“อยากจะรู้จริงๆ ใช่ไหม”
“ก็ใช่สิครับ ต่อจากนี้ไปผมจะเป็นคนตรงไปตรงมา” กายพูดเสียงหนักแน่น “คุณมีอะไรก็พูดกับผมตรงๆ”
“ก็ได้” คเชนทร์หัวเราะ “คุณไปแหย่รังแตนเรื่องอะไรล่ะทีนี้ ท่านประธานถึงให้ไปเป็นล่ามให้”
“ไม่ทราบครับ ผมไม่เคยทำอะไรใคร” กายส่ายหน้า
“ถ้าใครถูกสั่งให้ไปเป็นล่ามให้ท่านประธาน แสดงว่าโดนเพ่งเล็ง ท่านต้องการ ทดสอบ และ จับตามอง อย่างใกล้ชิด ถ้าไม่ผ่านมีสิทธิ์ ปิ๋ว อย่าลืมนะ คุณยังอยู่ในโพรเบชั่น”
“อย่ามาล้อเล่นกันแรงๆ นะครับคุณคเชนทร์” กายถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ผมเคยล้อเล่นกับคุณที่ไหน ลองคิดย้อนไปดูสิ ทุกอย่างที่ผมพูด มันจริงทั้งหมดใช่ไหมล่ะ”
“ท่านประธานมีอคติกับผม” กายถอนหายใจอีกครั้ง “ไม่รู้จะจองเวรจองกรรมอะไรนักหนา ผมใจเย็นอย่างที่คุณเตือนแล้วนะครับ”
“จริงเร๊อ”
“จริงสิครับ ไม่ว่าท่านพูดอะไรมาผมก็พยักหน้าไม่เถียง”
“แน่ใจ๊” คเชนทร์เลิกคิ้ว
“ก็...” กายชะงัก
“ผมว่าไม่” คเชนทร์ส่ายหน้าแล้วยิ้ม “ผมมองคุณออก คุณเป็นคนไม่ยอมคน”
“เฮ้อ” กายถอนหายใจเป็นครั้งที่สาม คราวนี้จงใจทำเสียงดังให้คเชนทร์ได้ยินชัดๆ
“ตายแน่ๆ เลยทีนี้ ถ้าไปพรีเซนต์ให้ระดับ ผบ. ทอ. กับคณะอย่างเป็นทางการ ท่านควรเอาคุณการุณย์ไป แต่กลับมาเลือกมือวางอันดับสี่”
“ผมนะหรือ” กายชี้นิ้วเข้าที่หน้าตัวเอง
“มือวางอันดับหนึ่งคือผม” คเชนทร์ชี้นิ้วเข้าที่หน้าตัวเองเลียนแบบกาย “สองคือคุณการุณย์ สามคือคุณธเนตร สี่คือคุณ”
“ใครจัดอันดับครับ” กายถาม “คุณจัดหรือ”
คเชนทร์่ส่ายหน้าแล้วตอบว่า “คุณการุณย์ อ้อ คุณเจนจิราเป็นอันดับห้า ทั้งที่ผมอยากให้เป็นอันดับสี่ แต่เพราะเป็นเลขาแล้วก็เลยไม่นับ”
“คุณเจน” กายแปลกใจ
“อย่าดูถูกเชียวนะ นั่นจบนอกเลยล่ะ ท่านประธานเป็นคนสัมภาษณ์และเลือกคุณเจนจิราเอง ไม่งั้นผมก็ไม่กล้ารับเดิมพันเยอะขนาดนั้น คุณเจนได้เงินเดือนสูงกว่าเลขาทั่วไปด้วย ท่านเป็นคนที่คาดหวังอะไรสูง เพราะฉะนั้นต้องการเฉพาะคนเก่งๆ ผมว่าท่านพอใจคุณระดับหนึ่ง แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยากแกล้งคุณดีนัก”
“ผมคิดว่าท่านคิดว่าผมเป็นเด็กคุณ” กายตัดสินใจพูดสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“ฮ้า ผมไม่เคยมีอะไรกับคุณซักหน่อย ถูกเนื้อต้องตัวก็ไม่เคย คนเคยนั่นกันก็ว่าไปอย่าง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” กายอ่อนอกอ่อนใจกับความคิดแปลกๆ ของคเชนทร์ “ผมหมายถึงท่านประธานคิดว่าผมเป็นเด็กเส้น เข้ามาทำงานเพราะมีเส้นสาย และไม่คิดว่าผมจะเก่งจริงอย่างที่คาด”
“ท่านคงจับได้ว่าผมช่วยคุณเรื่องแปล F-35”
“หลังจากนั้นถึงได้ให้แปลแต่งานง่ายๆ แต่มักเป็นงานด่วน” กายพูดเติม
“คุณต้องเอาชนะท่านประธานให้ได้เพื่อลบคำสบประมาท”
“คุณบอกว่าไม่ให้ท้าทายท่าน” กายแย้ง
“ไม่ใช่ท้าทาย แต่เป็นการพิสูจน์ความสามารถ เพราะฉะนั้น ผมจะช่วยคุณเอง เรื่องเป็นล่ามให้ ผบ. ทอ. นั้นไม่ยาก ผมจะติวให้” คเชนทร์พูดเสียงจริงจัง
“ติว” กายเลิกคิ้ว “เพื่อบ่ายวันนี้นี่นะครับ”
“ติ้วเข้ม ตัวต่อตัว แบบเร่งรัด” คเชนทร์เลิกคิ้วแล้วกระดิกนิ้วเรียกกาย “รีบตามผมมา ไปที่ออฟฟิสผมเร็วเข้า จะได้ติวให้สองต่อสอง ตามมาสิ ก่อนที่ยักษ์วัดแจ้งจะมาเฝ้าประตู ผมจะเขียนโน๊ตไว้บนโต๊ะเขาว่า ถ้ามาถึงแล้วให้ไปทำธุระให้ผม”
“ผมต้องทำงาน กายหันไปมองโต๊ะทำงานของตัวเอง
“ผมจะโทรมาบอกคุณการุณย์เอง”
“คุณรอตอนคุณพุดเดิ้ลไปห้องน้ำสิครับ แล้วค่อยเรียกผมเข้าไป” กายต่อร้องเชิงประชดประชัน คเชนทร์หัวเราะก๊ากเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเลขานุการของตัวเองแบบนั้น
“คุณนี่เรียนรู้เร็วแฮะ เข้าใจมุขผม แบบนี้ค่อยไปกันได้หน่อย”
“คุณกลัวเลขาคุณหรือไง”
“เปล่า ผมนะหรือจะกลัวใคร” คเชนทร์ส่ายหน้า “คุณไม่รู้อะไรหรือกาย ผมปกป้องคุณนะจะบอกให้ ผมไม่อยากให้คุณออกรายการข่าว Breaking News ของ CNN"
“มีด้วยหรือครับ” กายแปลกใจ
“เห็นเงียบๆ ต่างคนต่างอยู่ในคอกใครคอกมันแบบนี้ล่ะ นินทากันดีนัก เขารู้หมดทุกเรื่องนั่นล่ะคุณ น้อยซะเมื่อไหร่”
“ทำได้ยังไง” กายขมวดคิ้ว นึกภาพพนักงานบริษัทนี้นินทากันไม่ออก
“เอายังงี้ ถ้าพร้อม คุณเอ็มมาหาผม หรือไม่ก็ทวิตเตอร์ก็ได้ แต่ทิ้งเมนท์ไว้ในหน้าหนังสือไม่เอานะ” คเชนทร์สรุป
“อะไรคือหน้าหนังสือครับ” กายถาม
“Facebook ไง” คเชนทร์ตอบแลัวหัวเราะ “เชยจริงๆ เป็นล่ามเป็นนักแปลซะเปล่า”
“แล้วเราต้องแปลคำที่เป็นภาษาอังกฤษทุกคำด้วยหรือครับ ครั้งที่แล้วก็ห้างดอกบัว คราวนี้ก็หน้าหนังสือ” กายเบ้ปาก “แต่การช่วยเหลือของคุณครั้งนี้ก็คงมีข้อแลกเปลี่ยนอีกใช่ไหมครับ”
“ของฟรีมีในโลกหรือคุณกาย” คเชนทร์ขยิบตา
กายยืนนิ่งชั่วครู่แล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจว่า “ผมจะลองสู้ดู ผมคงผ่านพ้นไปได้ ผมไม่รบกวนคุณก็ได้ครับ”
“ใจสู้แฮะ แบบนี้สิพนักงานดีเด่น ถ้าคุณกล้าลุกขึ้นสู้กับท่านประธาน ผมจะมอบตำแหน่งให้เลย”
“ตำแหน่งอะไรครับ” กายถามอย่างคลางแคลงใจเพราะกลัวจะตามคำพูดของคเชนทร์ไม่ทัน
“ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยคามิกาเซ่” คเชนทร์หัวเราะแล้วเดินจากไป ก่อนจะออกจากประตูห้องจึงหันมาโบกมือพร้อมกับขยิบตาให้คนที่ยืนขมวดคิ้วมองตาม กายพยายามแปลความหมายคำพูดสุดท้ายของรองประธานบริษัท ไม่นานก็นึกอะไรได้บางอย่าง
...ล้อเล่นหรือขู่ นักบินคามิกาเซ่ต้องตายไม่ใช่หรือ นี่กะจะเล่นกันถึง 'ตาย' เลยหรือเนี่ย...
...หรือคุณคเชนทร์ต้องการให้เราโดนไล่ออก ยุให้เราสู้กับท่านประธานทั้งที่ก่อนหน้านี้คอยเตือนว่าไม่ให้ท้าทาย...
...ฮื่อ มองคเชนทร์ไม่ออกจริงๆ เลย คนอะไรอ่านยาก คเชนทร์ทำเหมือนรู้อะไรบางอย่างแต่ก็เก็บเอาไว้พร้อมๆ กับกระตุ้นให้สงสัย...
 
::: End of Chapter 21 :::
 

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
ขอจิ้มก่อน
 
เหอๆ อ่านจบบท 20 แล้วรู้สึกว่าซัมเมอร์คนนี้ต้องมีส่วนรู้เห็นอะไรบางอย่างในคืนที่กายเีสียตัวเป็นแน่  :impress2:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

คุณคฑาฯ

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า พ่อคเชนทร์ช้าง..ไม่ใช่!!

เรื่องของกายกับคืนวันที่ 20 นั้น น่าจะมีคนรู้เรื่องหลายคน รวมทั้งซัมเมอร์??
และผู้ชายหลายคนในเรื่อง ก้อรู้จักกันดี ทั้งคเชนทร์ วรุจน์ และธฤต รวมทั้งคุณพฤศ

อ่านแล้ว กลัวกายเหมือนแทน เดี๋ยวเชียร์ผิดคน ๕๕๕



cherrycream

  • บุคคลทั่วไป
พอถึงจุดนี้แล้วบอกตรงๆว่า ไม่ลุ้นและจะเป็นใครก็ช่าง...เพราะแต่ล่ะตัวละครเดาทางยากเป็นที่สุด (ทั้งๆที่บอกว่าตอนที่ 20 จะพอเดาได้แล้วแท้ๆ เฮ้อ...ตอนที่ 21 ก็เดาไม่ออก) แต่ยังไงก็ยังแอบเชียร์คเชนทร์ครับ ไรท์เตอร์สู้ๆครับ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






JAYZK*

  • บุคคลทั่วไป
ผมเชียร์ท่านประธาน น่าหมั่นไส้ดี อยากอ่านตอนที่ประธานรู้สึกชอบกายอ่ะ

ประธานแน่ๆๆๆๆ :m19:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
หึ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2010 23:35:34 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
มึนไปหมดไม่รู้จะเชียร์ใคร แต่แอบเชียร์คเชนทร์นิดหนึ่ง
 :really2:

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
ผ่านมายี่สิบตอนล่ะ เรายังเดาไม่ออกเลยแหะ   :really2: :really2:


ชอบคเชนท์นะ แต่ไม่รู้ทำไมใจมันเชียร์ท่านประธานช่างกัดทุกที   :laugh:

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
คเชนทร์นี่ตลอดเลยเหอะ เล่นได้ตัลหลอดดดดด

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
ดักตีหัวซัมเมอร์แล้วจับมาเค้นความจริงเลยดีกว่า... :z6:
ท่านประธานก็ท่าทางจะสนใจกายไม่น้อย...เสียแต่ยังอคติมากไปหน่อย
คเชนทร์ก็ช่างสรรหาเรื่องมาให้สงสัยจริง ๆ เล้ย! :laugh:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ประธานคิดว่ากายเป็นเด็กคเชนท์จริงๆด้วยอ่ะ  วันนั้นกายโดนมอมใช่ป่าว แล้วเหมือนอีตารุจน์กะพี่ชาย(ซึ่งเป็นใครไม่รู้)เคยมอมเหล้าคน
แล้วตกลงใครเป็นพี่ชายอีตารุจน์กัน คเชนท์ไปรู้เรื่องอะไรมา รู้แต่ว่าอีคเชนท์เนี่ยห่วงกายสุดละ อิอิ เชียร์ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2010 23:21:12 โดย โจ๊กกุ้ง »

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
ซัมเมอร์ต้องมีส่วนรู้เห็นด้วยแน่ๆเลย..........
ว่าแต่คนที่มาถามหากายเนี่ย..........จะเป็นใครกันแน่นะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อันดับแรกที่กายต้องทำ คือ จับซัมเมอร์ขึงพืด  แล้วเค้นเอาความจริงมาก่อน
จากนั้นค่อยลงโทษขั้นสูงสุด  แล้วปล่อยตัวไป  อิ อิ อิ

ออฟไลน์ myall

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
อ่านแล้วก็ยังงงอยู่ดี ไม่รู้ว่าใคร แต่ก็เชียร์คเชนท์มาตลอดอ่ะนะ
ยิ่งเห็นซัมเมอร์มีพิรุธแบบนี้ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่
แล้วยังคนที่มาถามหากายอีกล่ะ
เอาเป็นว่าตอนต่อไปมาเร็วๆนะคะ อิอิ o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ talentcs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
โอ้ย งงงง คร้าบ
หรือในคืนที่ 20 จะอยู่กันทั้งกลุ่ม
 :serius2:

dea

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์ประธานอ่า ความรู้สึกบอกเลยนี่แหละพระเอก

(ทั้งที่ไม่มีไรตรงกับผู้ชายคืนนั้นเล้ยย)

จับซัมเมอร์มาดู 4 คนนั้นแล้วชี้ตัวเลย   :angry2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
Guy Chapter 21
 

“ผมคิดว่าท่านคิดว่าผมเป็นเด็กคุณ” กายตัดสินใจพูดสิ่งที่ตัวเองสงสัย
“ฮ้า ผมไม่เคยมีอะไรกับคุณซักหน่อย ถูกเนื้อต้องตัวก็ไม่เคย คนเคยนั่นกันก็ว่าไปอย่าง”
 
::: End of Chapter 21 :::
 
จะถือประโยคนี้ตัดคเชนท์ได้รึยังนะ
ปวดหัว :serius2:

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
 :pig4: :pig4: :pig4: ไม่เชียร์ใครแหละกลัวผิดหวัง
กายได้กะใครก็โอเคหมดแหละ หล่อ รวย เก่งกันทั้งนั้น

@#Jackie#@

  • บุคคลทั่วไป

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น
ยิ่งลุ้นยิ่งมึน

แต่ก็สนุกดีเหมือนเดิม

ขอบคุณและจะติดตามครัย

ออฟไลน์ kawaiineko

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาจิ้มๆไว้ก่อน เดียวจะมาอ่านทีหลังเน้อ

ดีใจจังมาต่อแล้ว วรุจ สู้ๆเราเชียร์นาย o13

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
เข้ามาอ่านคอมเม้นท์อย่างเดียว คึคึึ

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

zombiepe

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแจอซัมเมอร์อยากจะพุ่งเข้าไปจิกหัวมาถาม
เอ็งรู้ไรบ้าง!!!!
555 ไม่ไหวจะเคลียร์ค่ะ อยากรู้จริงๆ
ยิ่งอ่านแต่ละตอนๆยิ่งอยากรู้ แต่.....คุณเมฆหายไปปปปปป    คิดถึงอ่ะ T^T
รักท่านประธานเสมอมาค่ะ จุ๊บๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด