ผมไม่รู้ว่าพวกนี้นอนกันตอนไหน เพราะตอนที่ลุกมาเข้าห้องน้ำตอนตีสองกว่าพวกมันยังนั่งกันอยู่เลย ผมตื่นมาก็สายแล้ว ลุกขึ้นอาบน้ำแล้วหยิบเสื้อผ้าคีย์มาใส่อีกชุด ตอนแรกโทรหาพี่นิคว่าจะให้มารับแต่พี่นิคออกไปร้านแล้วก็เลยไม่อยากกวน รอให้คีย์ตื่นแล้วค่อยให้ไปส่งก็ได้ ผมนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ห้องคีย์สักพักเสียงคนที่นอนข้างเตียงก็เริ่มขยับ เป็นฟิวส์ที่ตื่นก่อน ฟิวส์ลุกขึ้นนั่งเบลอๆ มึนๆ ก่อนจะมองเห็นผมแล้วยิ้มแหะๆ ให้ก่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ
“ตื่นนานแล้วเหรอ”ฟิวส์ลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆ มองหน้าจอที่เปิดกระทู้ทำขนมค้างเอาไว้ ผมชอบนั่งดู อันไหนน่าสนใจก็จะเอาไปให้แม่กับพี่นิคลองทำอีกที
“สักพักแล้ว หิวป่ะ”ผมถามมันเพราะผมน่ะหิว ยิ่งจ้องรูปพวกนี้นานๆ ยิ่งหิว น้ำลายไหล ท้องร้องโครกๆ
“นิดนึง แต่อยากได้กาแฟมากกว่า”
“เอาจริงเปล่า เดี๋ยวไปชงให้”ฟิวส์พยักหน้าผมเลยเดินลงมาชั้นล่าง ฟิวส์ก็เดินตามเข้าไปในครัว เสียบกาต้มน้ำร้อน ความจริงบ้านคีย์มีเครื่องทำกาแฟนะแต่ผมใช้ไม่เป็น
“บ้านคีย์มันเงียบจัง ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ”
“อืม พ่อแม่คีย์ทำงานอยู่จีน ไปๆ มาๆ พี่คีย์เปิดเต้นท์รถ ไม่ค่อยกลับมานอนที่นี่หรอก มันไกล”
“งั้นมันก็อยู่บ้านคนเดียวดิ”
“เมื่อก่อนก็ไม่หรอก อยู่กับพี่มันสองคนแล้วก็มีแม่บ้านมาทำแบบไปกลับ พ่อแม่มันก็สลับกันไป แต่พอมันไปเรียนมหาฯลัยไงก็เลยไปทั้งคู่ เมื่อก่อนมีญาติมันอีกคนอยู่ด้วยแต่เพิ่งแต่งงานออกไป อยู่ถัดไปสองซอยเอง”บ้านคีย์มันไม่ค่อยมีผู้ใหญ่อยู่ไงครับ เมื่อก่อนก็เลยเป็นแหล่งสุมหัวของพวกผมประจำ กินเหล้าเมาสูบบุหรี่ก็ไม่มีใครมาบ่น แต่ถ้าโดดเรียนหนักๆ พี่มันก็ด่าเหมือนกัน บางทีคีย์มันก็เหงา แต่มันก็ชอบอยู่แบบนี้เพราะอิสระดี มันว่ามันรับผิดชอบตัวเองได้ แล้วมันก็ทำได้จริงๆ ด้วย
“เหมือนจะน่าเหงา แต่คีย์มันเพื่อนเยอะคงไม่เหงาเท่าไรหรอกมั้ง”ฟิวส์ตักกาแฟครีมน้ำตาลใส่แก้วที่ผมวางไว้ให้ รอน้ำเดือดก็เสร็จ แล้วเราก็ย้ายมานั่งที่ห้องนั่งเล่น ผมเอาน้ำแข็งก้อนนั่งประคบตาที่บวม น้ำที่ละลายก็หยดเปื้อนหน้าให้ฟิวส์ได้นั่งหัวเราะเยาะ นั่งทำแป๊บเดียวก็หยุดเพราะเลอะเทอะเกินไป
“แล้วจะกลับไปตอนเปิดเทอมเลยหรือเปล่า”ฟิวส์ถามคำถามที่ผมก็ไม่รู้คำตอบอีกแล้ว ใจจริงตอนแรกกะว่าจะอยู่บ้านสักพักก่อน เพราะพี่โก้สัญญาไว้ว่าปิดเทอมจะมาหาผมทุกสัปดาห์ ผมเลยคิดว่าพี่โก้จะลำบากเกินไป เลยกะว่าจะอยู่บ้านแค่ครึ่งเดือนแล้วก็กลับไปอยู่กับพี่โก้ดีกว่า แต่...ตอนนี้คงไม่เป็นอย่างนั้นแล้ว เพราะ...พี่โก้คงไม่มีเวลาว่างจะมาหาผมที่ไม่ได้สำคัญที่สุดแล้ว
“คงงั้นมั้ง ต้องถามคีย์ก่อนอะ”
“โห ตอบเหมือนมันเลย เมื่อวานถามมันก็บอกจะถามเนมก่อน อย่าทำให้หึงได้มั้ย ชอบทำตัวติดกัน อิจฉานะ”ฟิวส์สะบัดหน้าใส่เหมือนงอน ผมหัวเราะก๊ากกับท่าทางสะดีดสะดิ้งของมัน
“เฮ้อ...ยิ้มซะที ฟิวส์ชอบตอนเนมยิ้มมากเลยนะ อย่าร้องไห้บ่อยนักล่ะ”พอมันพูดผมเลยหุบยิ้มทันที ใครบ้างจะอยากร้องไห้บ่อยๆ
“อันที่จริงก็ไม่อยากเสือกหรอกนะ แต่เล่าได้มั้ยว่าร้องทำไม”
“......ทะเลาะกับแฟนนิดหน่อย ไม่มีไรหรอก เนมงี่เง่าด้วยแหละ”ผมคนโกโก้ในแก้วตัวเอง พยายามไม่คิดมากอะไรอีก ช่างมัน ปล่อยมันไป....อะไรจะเกิดก็ต้องยอมรับให้ได้ ต้องทนให้ได้
“งี่เง่าเรื่องไร เนมขี้หึงเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก มัน...บอกไม่ถูก เนมแค่....เรียกร้องอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้น่ะ เราเลยทะเลาะกัน”ที่ผมเป็นอยู่ไม่ใช่การหึงพี่โก้ ผมไม่ได้หึงพี่เจ มันไม่ใช่....ผมก็แค่กลัว
“อะไรที่เป็นไปไม่ได้....แหะๆ ฟิวส์ถามมากไปรึเปล่า ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ ฟิวส์เป็นห่วง อยากให้เนมได้ระบายหรือปรึกษาใครบ้าง เพราะท่าทางเนมเมื่อคืนมัน...ดูอึดอัด แล้วเท่าที่เห็นเนมก็ไม่เล่าให้คีย์ฟังด้วยใช่มั้ยล่ะ”
“.................เนมกับพี่โก้เคยคบกันตั้งแต่เนมยังอยู่มัธยมอยู่เลย เราเหมือนพี่น้องแต่ว่ามันมากกว่านั้น เราไม่ได้ตกลงคบกันเป็นคำพูดอะไรหรอก แต่ความรู้สึกเนมตอนนั้นก็คือแฟนกันล่ะนะ แต่คบๆ ได้แป๊บเดียวก็เลิกเพราะเนมดันไปสอดรู้จนได้เรื่อง.....ดันรู้ว่าพี่เขาแอบรักคนอื่นอยู่ มีคนที่สำคัญมากกว่าเนม”ผมก้มหน้าเล่าใส่แก้วโกโก้ เหมือนพูดลอยๆ คนเดียว ฟิวส์ก็นั่งเงียบและนิ่งสมกับที่เคยพูดไว้ว่าจะทำตัวให้เหมือนอากาศ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รับรู้ได้ล่ะนะว่าฟิวส์นั่งอยู่ตรงหน้า และกำลังมองผมอยู่ ผมก้มหน้าเล่าต่ออย่างสบายใจมากขึ้น
“ตอนนั้นพี่โก้เรียนปีสุดท้ายแล้ว เราห่างกันด้วยแหละ เนมก็ยิ่งระแวงด้วย น้อยใจด้วย หลายๆ ครั้งที่โทรคุยกันแล้วได้ยินเสียงพี่โก้อยู่กับคนนั้นเนมก็ยิ่งไม่พอใจ แต่พูดไปก็ทะเลาะกัน จนสุดท้ายเนมขอให้พี่โก้มาหา....แต่พี่โก้ไม่ได้มา เรื่องมันอาจจะเหมือนเล็กนิดเดียว แต่เนมที่ต้องรอแล้วผิดหวังซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ แบบนั้นเนมก็เลยเลิกรอ....และเลิกกัน จนได้มาเจอกันที่นี่ เนมไม่เคยคิดว่าจะกลับมาคบกันใหม่ พี่โก้เองก็คงไม่คิดเหมือนกัน แต่....ไม่รู้สิ เนมว่ารักแรกของทุกคนคงเป็นแบบนี้ เราไม่เคยลืมว่าเรารู้สึกยังไง เนมจำได้ทุกๆ ความรู้สึกตอนนั้น เราเลยลองคบกันอีกครั้ง....แต่เนมดันลืมไปว่า ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ คนที่พี่โก้รักก็ยังไม่ใช่เนมอยู่ดี”ผมเช็ดน้ำตาที่หยดลงบนมือ ผมไม่ได้พูดเพื่อประชด แต่เป็นเพราะผมเพิ่งนึกออกจริงๆ ตอนนั้นผมรู้ว่าพี่เจไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมดีใจจนแทบหุบยิ้มไม่อยู่ เราคบกันอย่างสบายใจ ผมไม่ได้นึกไปว่าวันหนึ่งพี่เจต้องกลับมา และที่ว่างข้างๆ พี่โก้ที่ผมเคยจับจองได้เต็มที่ก็จะไม่ว่างเหมือนเดิมอีกต่อไป พี่โก้มักจะกันที่ส่วนตัวให้พี่เจก่อนเสมอ และที่ตรงนั้นใครก็แตะต้องไม่ได้แม้แต่ผม
“เนมเคยคิดนะว่าเมื่อก่อนเนมเด็กมากเลย อายุห่างกันตั้งเยอะ เลิกกันเพราะห่างทั้งอายุและระยะทางด้วยแหละ พอมาคบกันใหม่เนมเลยคิดว่าตอนนี้เนมโตแล้ว อะไรคงดีขึ้น แต่ความจริง...พี่โก้เองก็โตเหมือนกัน ระยะห่างของเรามันเลยเท่าเดิม....หรือมากกว่าเดิมด้วยมั้ง”
“เนมจะเลิกกับเขาหรือเปล่า”ทำไมพอมีเรื่องแบบนี้ ใครๆ ก็ถามว่าผมจะเลิกเหรอ....นั่นสิ ผมจะเลิกกับพี่โก้เหรอ....บางทีผมอาจไม่ได้เป็นฝ่ายบอกเลิก แต่พี่โก้อาจจะเลิกสนใจผมแล้วก็ได้
“..........ไม่หรอก ถึงเนมจะร้องไห้แต่เนมก็ยังรักพี่โก้อยู่.....และรักมากพอจะยอมทนไปเรื่อยๆ สักวันเนมคงเลิกร้องไห้ไปเอง”ผมอมยิ้มกลืนน้ำตาที่ไหลออกมา ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันหนักแค่ไหน แต่ผมไม่ลืมว่าผมรักพี่....และคิดว่าพี่เองก็รักผมเหมือนกัน....ไม่ต้องมากที่สุดก็ได้ ขอแค่นิดเดียว.....ผมก็พอใจแล้ว
ผมบอกให้ฟิวส์ขับรถไปส่งผมที่บ้านเพราะไม่อยากรอให้คีย์ตื่นมาซักไซ้ผม ระหว่างทางก็บอกให้ฟิวส์จำสถานที่สำคัญๆ เวลาขับกลับมาจะได้มาเองได้ เราแวะร้านอาหารที่ผมบอกไว้เมื่อคืนว่าจะพามา แต่วันนี้ผมคงไม่ออกมาอีกแล้วเลยพาฟิวส์มาทานก่อน แล้วก็ซื้อใส่กล่องกลับไปให้พวกนั้นด้วย
ผมพาฟิวส์เข้ามานั่งในบ้านก่อน ทุกคนออกไปร้านกันหมด ผมหยิบขนมในบ้านใส่ถุงให้เอาไปทานกันเพราะท่าทางจอห์นจะติดใจ
“ขอบใจนะ...ทุกๆ เรื่อง”อย่างน้อยผมก็สบายใจขึ้นที่ได้พูดกับใครสักคน ผมพูดกับพี่นิคไม่ได้ เพราะพี่นิคเคยเตือนแล้ว และมันอาจจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น ผมพูดกับคีย์ไม่ได้เพราะคีย์ใจร้อนและคงยุให้ผมเลิกอย่างเดียว ส่วนฟิวส์เองถึงจะบอกว่าชอบผม แต่ก็ไม่ได้ยุยงให้เลิก แค่รับฟังอย่างที่บอกจริงๆ
“ไม่ต้องขอบใจหรอก ฟิวส์ทำได้แค่นั่งฟังเฉยๆ แบบนี้รู้สึกไม่ดีเลย ฟิวส์เคยคิดว่าแค่ชอบเนมมาก แต่ว่าเริ่มรักมากขึ้นแล้วล่ะ ฟิวส์ไม่อยากทำตัวเป็นมือที่สามมาแทรกตอนเนมมีปัญหาหรอกนะ แต่ถ้าเนมรักเขาน้อยกว่านี้สักนิด แล้วแบ่งใจมามองฟิวส์บ้างก็คงดี”
“ฟิวส์เป็นคนดีนะ หน้าตาก็ดี มีคนว่างๆ อีกเยอะแยะให้ฟิวส์ไปชี้นิ้วเลือก เนมไม่มีอะไรดีหรอก”
“ดีสิ อย่างน้อยก็ตรงรักเดียวใจเดียวอย่างนี้ไง ถ้าเนมรักเขามากขนาดนี้และไม่ตัดใจ ฟิวส์ก็อยากลองรักเนมไปเรื่อยๆ แล้วเรามาแข่งกันว่าใครจะเลิกรักก่อนกันดีมั้ย”
“.............ถ้ารักจริงๆ แล้ว บางทีอาจไม่มีวันตัดใจได้เลยก็ได้.....ไม่งั้นเนมคงไม่ต้องร้องไห้อย่างนี้”ถ้าเราตัดใจจากใครสักคนได้ง่ายๆ จริงๆ....พี่โก้ก็คงไม่รักเขาอยู่แบบนี้ แต่ผ่านมานานขนาดนี้ ผมยังไม่เห็นว่าจะมีทางเป็นไปได้เลย
“ร้องอีกแล้ว เฮ้อ...ถึงฟิวส์จะอยากให้เนมระบายแต่อย่าร้องต่อหน้าฟิวส์บ่อยๆ ดีกว่านะ เพราะมันยิ่งทำให้ฟิวส์อยากแย่งเนมมามากขึ้น”ฟิวส์ลูบหัวผมแล้วเช็ดน้ำตาให้เบาๆ แต่มันยังไม่หยุดไหล และยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม ไม่รู้สินะ พอยิ่งมีคนปลอบ ผมก็ยิ่งอยากระบายมากขึ้นไปอีก ผมปล่อยโฮออกมา ยกมือปิดหน้าตัวเองเอาไว้ ทุกอย่างมันเหมือนหวนกลับไปที่เดิม พี่โก้ไม่มา...ไม่ทำเพื่อผม....และเลือกเขาก่อนเสมอ
ฟิสว์ระบายลมหายใจเสียงดังก่อนรั้งหน้าผมไปแนบบ่า มือคู่เดิมปลอบประโลมแผ่นหลังเหมือนเมื่อคืน ผมกำเสื้อคีย์แน่น พยายามหยุดสะอื้น หยุดร้อง หยุดคิด เสียงชู่วๆ เบาๆ ข้างหูช่วยให้สงบลงได้ ผมเหมือนตัวคนเดียวเมื่อปรึกษาใครไม่ได้ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเลย ผมแค่ต้องการที่ยืนของตัวเอง....ต้องการที่ว่างข้างๆ พี่โก้....แค่อยากอยู่กับพี่โก้....แค่นั้นจริงๆ
“อ๊ะ...ฟิวส์!.....”ผมเบี่ยงหน้าหนีเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากที่แนบข้างขมับก่อนเลื่อนลงมาข้างแก้มแล้วขยับใกล้ริมฝีปากมากยิ่งขึ้น
“ฟิวส์ อย่า!!”
“เนม....เลิกกับเขาเถอะ”ฟิวส์รัดผมแน่นจนผมขยับตัวไม่ได้ และถึงพยายามหลบก็ยังหนีไม่ค่อยพ้น ปากอุ่นๆ แตะแก้มเฉียดปากไปมา
“อื้อ......ไม่.....”ผมพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ยอมรับว่าฟิวส์จูบเก่ง มือข้างหนึ่งรัดเอวแล้วยกตัวผมขึ้นนั่งบนโต๊ะกลางครัว อีกมือล็อคปลายคางไม่ให้ขยับหนี ตามองสบอย่างไม่ยอมถอย ไม่ว่าผมจะหนีหรืออ้อนวอนแค่ไหนฟิวส์ก็ไม่ปล่อย
“ขอโทษ อย่าโกรธฟิวส์นะ นะครับ....อืม....อีกนิดนะ….เนมน่ารักจัง”
“พอ....ฟิวส์….อื้อ”ผมจับมือที่สอดเข้ามาลูบเอวไว้ พยายามพูดทุกครั้งที่ฟิวส์ผละออกห่าง ยิ่งนานก็ยิ่งหมดแรง ถึงฟิวส์จะจูบเก่งหรือมีชั้นเชิงแค่ไหน แต่ผมไม่ต้องการ
ถึงฟิวส์จะพร่ำบอกว่าขอโทษแต่ก็ไม่หยุด ลำตัวที่โน้มเข้ามาทับจนหลังแนบโต๊ะขยับไปไหนไม่ได้ มือยังคงค้างไว้แค่เอวแต่ปากก็ยังประกบแน่น เรียวลิ้นที่ตวัดพันเข้ามาผมทำได้เพียงนิ่งเฉยๆ และพยายามเบี่ยงหน้าหนี ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป แรงกดทับทั้งหมดหายไปอย่างรวดเร็วจนผมสะดุ้งลืมตาขึ้นมามอง....พี่โก้!!
เพล๊ง!!
พี่โก้ลากฟิวส์ออกจากตัวผมแล้วเหวี่ยงไปชนชั้นวางแก้วจนตกแตก เศษแก้วกระจายเกลื่อน ผมนั่งมองตาค้าง ฟิวส์พยายามลุกขึ้นมาโดยมีพี่โก้จับคอเสื้อไว้แล้วลากไปจากห้องครัว ได้ยินเสียงดังตุบดังเข้ามาพาให้สติกลับ ผมรีบวิ่งตามออกไปถึงห้องนั่งเล่น ฟิวส์สวนหมัดก่อนหมัดพี่โก้จะไปถึงหน้า แต่พี่โก้แค่ปล่อยมือที่จับคอเสื้อไว้ขึ้นมากันแล้วต่อยเข้าไปเต็มๆ หน้าฟิวส์ที่คิ้วแตกและเลือดไหลชโลมอยู่ ฟิวส์รีบลุกแต่ไม่ทันเท้าที่เตะสวนเข้าชายโครงจนฟิวส์นอนตัวงอ
“พี่โก้อย่า!!”ผมวิ่งไปกอดเอวพี่โก้แต่ก็ผ่อนแรงเท้าที่ถีบฟิวส์อยู่ได้นิดเดียว ผมเบี่ยงตัวเองมาด้านหน้ากั้นกลางระหว่างทั้งคู่ไว้ ฟิวส์ลุกขึ้นพร้อมกับพี่โก้ที่ผลักผมกระเด็นออกมา ผมมองภาพตรงหน้าอึ้งๆ ทำอะไรไม่ถูก ผมสะดุ้งเพราะเสียงแจกันดอกไม้ที่ฟิวส์ถีบพี่โก้ถอยไปชนตกมาแตก แต่พี่โก้จับเท้าฟิวส์ค้างไว้แล้วเตะงัดขึ้นจนฟิวส์ล้มกระแทกพื้น ผมรีบวิ่งเข้าไปแยกทั้งคู่ก่อนที่พี่โก้จะกระทืบบนตัวฟิวส์ซ้ำ
“พอ!! พี่โก้หยุด!”ผมพยายามดันพี่โก้ออกเพราะฟิวส์ดูท่าจะลุกไม่ขึ้นแล้ว ผมเหลียวมามองก่อนหันกลับมาจ้องพี่โก้ที่กัดฟันแน่นและบีบต้นแขนผมจนเจ็บ
“ทำไม!!”แค่ผมกับพี่โก้เผลอนิดเดียวฟิวส์ก็ลุกขึ้นมาได้แล้ว ผมอยากหันไปด่าจริงๆ นอนแกล้งตายไปก็สบายตัวแล้วแท้ๆ จะลุกขึ้นมาอีกทำไม
“เนมถอยไป”พอฟิวส์พูดพี่โก้ผลักตัวผมแทบกระเด็นแต่ผมยื้อไว้ไม่ยอมถอย มือทั้งสองคนสวนไปมาผ่านตัวผมจนโดนเฉียดแขนให้รู้สึกเจ็บจนชา ผมดันพี่โก้ให้ถอยออกไปเพราะฟิวส์มันหมดแรงแล้วแหละ ยืนได้ก็บุญแล้ว แต่พี่โก้ยังแรงเยอะอยู่ ต่อยอีกทีฟิวส์ตายแน่ๆ แต่ผมพลาดเองที่ดันพี่โก้แรงไปจนไปเหยียบเศษแก้วด้านหลัง ไม่มีเสียงร้อง แค่การสะดุ้งนิดๆ ให้ผิดสังเกต พอมองตามก็เห็นรอยเลือดที่เริ่มไหล่ซึมออกมาจากฝ่าเท้าพี่โก้ และเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“.....พี่โก้...เนมไม่ตั้งใจ”
“….พอใจแล้วใช่มั้ย”พี่โก้ถามเสียงนิ่งอย่างที่รู้ว่าพยายามสะกดกั้นตัวเองขนาดไหน ฝ่ามือทั้งสองข้างกำแน่นจนเห็นเส้นเลือด ผมทำได้แค่ยืนนิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก พี่โก้จ้องหน้าผม ผมพยายามขอโทษแต่เหมือนพี่โก้จะไม่สนใจ ใบหน้าที่ผมคิดถึงตลอดเวลาที่ผ่านมาส่ายหน้าช้าๆ ให้ผมก่อนจะเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงรอยเลือดตามทางเดิน ผมวิ่งตามพี่โก้ออกไปจนถึงรถแต่พี่โก้ไม่ยอมเปิดและขับจากไป ผมหันกลับมาตามเสียงรถที่จอดด้านหลัง
พี่นิคมาช้าไปนิดเดียว ถ้ามาเร็วกว่านี้จะได้มีกรรมการห้ามมวยสักหน่อย พี่นิคบอกว่าพี่โก้โทรมาหาผมแต่โทรไม่ติดเลยโทรหาพี่นิค พี่นิคก็โทรหาผมไม่ติด เพราะผมปิดเครื่อง พี่นิคเลยโทรไปหาคีย์ที่ยังไม่ตื่น พอรู้ว่าผมไม่อยู่บ้านคีย์เลยคิดว่าน่าจะถึงบ้านแล้ว ก็เลยกลับมา เพราะกลัวผมกับพี่โก้จะทะเลาะกันอีก....แต่เรื่องจริงที่เกิดมันดันเป็นมวยคนละคู่
“แม่ด่าแน่ๆ ของแตกหมด ไอ้ห่านี่เหมือนกัน กล้าไปสวนหมัดไอ้โก้ได้ไงวะ ไม่รู้เหรอว่ามันเป็นนักมวยเก่า ซี่โครงหักไหมนั่น”พี่นิคพอฟังที่ผมเล่าพร้อมเห็นซากประกอบก็เริ่มต้นบ่น ผมได้แต่นั่งสงบนิ่ง โทรหาคีย์แล้วมันกำลังมา ฟิวส์นอนหมดสภาพบนโซฟา ผมเช็ดคราบเลือดออกให้บางส่วนแล้ว ความจริงไม่อยากทำให้หรอกเพราะยังโมโหที่อยู่ดีๆ ก็ลวนลามผมไม่ได้ แต่สภาพมันซ้ำเติมไปมีแต่ตายกับตาย เลยสงเคราะห์ให้หน่อย
“พี่ว่าพามันไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวลูกเขาเป็นอะไรจะซวยกันหมด”
“พี่นิคพาไปหน่อยดิ ขับรถฟิวส์มันไปก็ได้ รอคีย์มาแป๊บนึง เดี๋ยวเนมอยู่เก็บบ้านเอง”ผมมองของเกลื่อนบ้านเหมือนผ่านสมรภูมิรบมาอย่างเหนื่อยใจ ฟิวส์ส่งสายตาอ้อนๆ อยากให้ผมไปด้วย แต่ตอนนี้อ้อนไม่ขึ้นจริงๆ ว่ะฟิวส์
รอไม่นานคีย์กับจอห์นก็มา พอเห็นสภาพเพื่อนมันแล้วก็ได้แต่อึ้ง ต่อมาคืออาการโมโห เหมือนอยากจะพูดแต่เพราะพี่นิคนั่งอยู่ด้วยเลยไม่พูดอะไรออกมา พี่นิคเป็นคนขับรถพาไปโรงพยาบาลเพราะเผื่อต้องจ่ายอะไรจะได้มีคำจ่ายก่อนได้ ผมเก็บของทุกอย่างในบ้านอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ที่เห็นแล้วปวดใจคือคราบเลือดของพี่โก้
ผมนั่งจ้องมองโทรศัพท์มือถือตัวเองที่เปิดเครื่องมาพักใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนที่ต้องการพูดด้วยโทรเข้ามา ยกเว้นพี่นิคที่โทรมาบอกว่าฟิวส์ปลอดภัย เย็บหางคิ้วแตกนิดหน่อย นอกนั้นก็น่วมแทบทั้งตัว หมอให้นอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน พี่นิคโทรไปบอกพ่อเพื่อให้พ่อคุยกับแม่ แต่สุดท้ายผมก็โดนบ่นอยู่ดี
“แม่โก้บอกจะมาพรุ่งนี้นะ เอาค่าเสียหายมาให้”พี่นิคเปิดประตูห้องเข้ามานั่งคุยกับผมบนเตียง
“รู้ได้ไง”
“ก็มันโทรมาบอกเมื่อกี้”โห....ไม่โทรหาผมแต่โทรบอกเรื่องค่าเสียหายกับพี่นิค....สุดๆ เลยพี่โก้เนี่ย
“พี่โก้อยู่บ้านเหรอ”
“เปล่า กลับไปแล้ว”
“......เนมทำไงดีล่ะพี่นิค”
“อยากคุยกับมันก็โทรไปสิ”พี่นิคหงายตัวนอนข้างๆ หลับตาเหมือนจะหลับไปจริงๆ
“....อยากเจอมากกว่า พี่โก้โดนแก้วบาดด้วย พี่นิคเห็นรอยเลือดมั้ยล่ะ น่าจะแผลใหญ่ แล้วขับรถกลับแบบนั้นเป็นไงบ้างไม่รู้”
“ไม่รู้ ไม่สน ไม่ใช่เลือดน้องพี่ก็พอ”
“รักเนมรู้หรอก”ผมนอนพาดหัวไว้บนท้อง นานๆ เราจะอ้อนกันสักที
“มันจ่ายแต่ค่าของที่พังนะ ค่ารักษาเพื่อนเนมมันไม่จ่าย”
“รู้หรอกน่า จ่ายก็บ้าแล้ว”ถึงพี่โก้จะเป็นคนมีความรับผิดชอบสูงแค่ไหน แต่ถ้าอันไหนที่ตัวเองไม่เห็นว่าผิด ก็จะไม่ยอมรับว่าผิด และอันที่จริงก็ไม่ผิดจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ทำเกินไปนิดนึง ผมตัวสั่นแทบจะเข่าอ่อนเลยตอนพี่โก้กระทืบฟิวส์บนพื้น จำได้ว่าตอนเด็กเคยให้พี่นิคพาไปดูพี่โก้ขึ้นชก แต่ผมดูได้แค่ยกเดียวก็ร้องไห้จนพี่โก้หันมามองแล้วโดนอีกฝ่ายชก ผมยิ่งร้องหนักจนพี่นิคต้องรีบพากลับ จากนั้นพี่โก้ก็บอกว่าไม่ให้ไปดูอีก
“อยากคุยก็โทร อยากไปหาก็ไป เดี๋ยวพี่บอกพ่อแม่ให้ แต่ไปแล้วก็รีบกลับ”พี่นิคเอามือสางผมเป็นจุกแล้วดึงไปมาจนผมเริ่มมึนเลยทุบขาไปทีนึงถึงจะหยุด ผมยกโทรศัพท์กดโทรออกไปเบอร์ที่จ้องอยู่นานแล้ว รอสักพักใหญ่ๆ จนสายตัดเข้าฝากข้อความก็หันมามองพี่นิคที่ยังนอนหลับตาอยู่ ผมเลยกดโทรออกไปอีกครั้ง และเลือกที่จะกดวางหลังจากรอไม่นาน
“พรุ่งนี้พี่นิคไปส่งเนมที่ท่ารถหน่อยนะ”
รุ่งเช้าผมปลุกพี่นิคแต่เช้าเพื่อไปขึ้นรถ ระหว่างรอก็โทรหาคีย์ที่นอนเฝ้าฟิวส์อยู่ ผมต้องเคลียร์กับฟิวส์แน่ๆ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เลยได้แต่ถามอาการทางโทรศัพท์ ฟิวส์แย่งโทรศัพท์ไปพูดแล้วก็ขอโทษผม ฟิวส์ยอมรับว่าผิดเองที่ห้ามตัววเองไม่อยู่ ผมได้แต่เงียบไม่ได้พูดอะไรเพราะยังไม่ได้คิดเรื่องฟิวส์เลย เราจะเป็นเพื่อนกันต่อ หรือเป็นแค่คนรู้จักนั้น....ผมยังไม่ตัดสินใจ อันที่จริงฟิวส์เป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ดี มีเพียงเมื่อวานครั้งเดียวที่ล้ำเส้น แต่อาจเป็นเพราะผมเองที่เผลอเปิดโอกาส ทั้งๆ ที่รู้ว่าฟิวส์มีใจให้แต่ก็ยังสนิทสนมด้วย แรกๆ ผมยอมรับว่าอยากใช้ฟิวส์ให้พี่โก้หึง แต่มันไม่ทั้งหมดหรอก ฟิวส์นิสัยดีจริงๆ ผมเลยคุยด้วยอย่างสบายใจคล้ายๆ กับคีย์ แต่ทั้งหมดที่เกิดก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างเริ่มที่ผม ผมเลยบอกฟิวส์สั้นๆ ว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน แล้วขอโทษที่ไม่ไปเยี่ยม สรุปปิดเทอมนี้ฟิวส์และจอห์นพักบ้านคีย์ยาวจนกว่าแผลจะหาย ไม่งั้นกลับบ้านสภาพนี้เป็นเรื่องแน่นอน
ผมเดินเข้าคอนโดฯ ตอนนี้ยังสายอยู่ แต่พี่โก้คงออกไปทำงานแล้ว ผมกะว่าจะนอนสักงีบเพราะนอนไม่หลับมาหลายคืน แล้วตื่นมาค่อยไปรอรับพี่โก้ที่ทำงาน ไม่รู้พี่โก้ไปทำงานยังไง ขับรถไหวหรือเปล่า ผมไขกุญแจห้องเปิดเข้าไปด้านใน ไฟกลางห้องสว่าง เสียงโทรทัศน์ดังพร้อมภาพรายการอะไรสักอย่างที่ผมไม่เคยดู รวมทั้งคนที่ยืนกลางห้องในชุดคลุมอาบน้ำของพี่โก้...แต่ไม่ใช่พี่โก้ และ....เป็นคนที่ไม่อยากเห็นหน้าที่สุด...พี่เจ
“เอ่อ....โก้ยังไม่ตื่น”เสียงเล็กๆ ที่ได้ยินทำให้ผมพุ่งตัวไปที่ประตูห้องนอนของเรา เปิดเข้าไปเห็นพี่โก้นอนหลับบนเตียง มีผ้าห่มพาดเอวไว้หมิ่นๆ ให้เห็นบ็อกเซอร์ตัวเล็กโชว์แผ่นอกเปล่าๆ ผมหันกลับมามองคนที่มายืนด้านหลังและพยายามเขย่งตัวมองข้ามไหล่ผมเข้าไปข้างในและตะโกนเรียกเจ้าของห้อง
“โก้!!”
เพี๊ยะ!!
ฝ่ามือผมสวนกับคำเรียกที่ออกจากปาก ชื่อพี่โก้....นี่คือห้องของแฟนผม คนที่นอนคือแฟนของผม ชุดที่เขาสวมคือของแฟนผม คนของผม แฟนของผม...คนอื่นไม่มีสิทธิ์
+++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีค่ะ มีข่าวแจ้งนิดนึง
ช่วงนี้ถ้าใครตามแฟนเพจจีในเฟสบุ้คจะเห็นว่าจีกำลังทำแบบสอบถามยอดสั่งของหนังสือรีปริ้นอยู่นะคะ ซึ่งจะมีรีปริ้นทั้งหมด 2 เรื่อง คือเรื่อง ระเบียงรักนักศึกษ และ รัก...ร้าย
รายละเอียดต่างๆ ยังไม่แน่นอนเพราะปัจจัยหลายๆ อย่างทั้งยอดสั่งและโรงพิมพ์ แต่จีบอกได้แค่คร่าวๆ ว่าราคาจะมีการปรับขึ้นแน่นอน ราคาต่อเล่มประมาณ 300+
รัก...ร้าย เป็นการรีปริ้นปกติ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมแปลกใหม่จากรอบอื่นๆ
ระเบียงรักนักศึกษา เป็นฉบับจัดทำใหม่ ปกใหม่ จัดหน้าใหม่(แก้คำผิดต่างๆ) และเปลี่ยนเป็นกระดาษถนอมสายตา รวมทั้งปกในภาพสี 2 หน้า
ย้ำ!!! ทั้ง 2 เรื่องไม่มีตอนพิเศษใดๆ เพิ่มขึ้นกว่ารอบอื่นๆ ทั้งสิ้นปล.เป็นแค่การแจ้งข่าวและสอบถามทางแฟนเพจ ไม่ใช่การเปิดจองอย่างเป็นทางการใดๆ นะคะ หากเปิดจองอย่างเป็นทางการเมื่อไรจะประกาศอีกที ขอบคุณค่ะ
เพิ่มเติม
ปล2.เรื่องระยะเวลาในการเปิดจองเปิดโอน คาดว่าจะเปิดจองประมาณ 1 เดือน และเปิดโอน 2 เดือน รวมแล้ว 3 เดือนในการเตรียมตัว ถ้าถึงเวลาจริงๆ ใครมีปัญหาอะไรขอให้บอกนะคะ คุยกันก่อน ทุกอย่างแก้ไขได้....ยกเว้นยืมเงิน