“ก็กินเท่าไรไม่เคยอ้วนนะ จริงๆก็กินเก่งละ แต่มันก็ยังผอมแบบนี้อะช่วยไม่ได้
...ออกกำลังกายหรอ ก็ถ้าคุณพ่อว่างก็มักจะไปออกกำลังกายกันเสมอละ ไปวิ่งกันตอนเช้าบ้าง ไปตีแบทกันตอนเย็นบ้าง
คุณพ่อก็ชอบบ่นเสมอๆว่าเรานะผอมไป ชอบยัดเยียดให้เรากินเสมอๆละ”
ผมสังเกตดวงตา ใบหน้าของเบส เวลาพูดถึงคุณพ่อ มันเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
ดูท่า เค้าจะรักและเคารพคุณพ่อเค้ามากๆ จากที่เคยคุยกัน พ่อเบสเค้าเก่งมาก เลยทำให้เบสใฝ่ฝันอยากจะเก่งแบบพ่อเค้า
“งั้นหรือ เอาเหอะ มามะมามะ มากินข้าวกันเร็ว จะเย็นหมดละ” ผมตัดบทชวนเบสมากินข้าวเช้าต่อ
วันนี้ผมรู้สึกข้าวเช้าอร่อยกว่าเดิม คงเพราะได้กินข้าวข้างๆคนน่ารักที่ผมแอบปลื้ม ถึงเราจะเป็นไปมากกว่าเพื่อนไม่ได้
แต่การได้ใกล้ชิด ก็ช่วยทำให้ผมมีความสุขจริงๆ ผมไม่กล้าโลภมากกว่านี้หรอก
เอ๊ะ แต่ไอ้ที่แอบจูบตอนนอนนะ ถือว่ากำไรเล็กๆน้อยๆละกันนะ หึหึหึ
หลังจากเก็บกวาดข้าวเช้าจนเกลี้ยง ผมกับเบสก็เข้าครัวไปช่วยกันล้างจาน
โดยที่ผมเป็นคนล้างน้ำเปล่า เบสเป็นคนลงน้ำยา ระหว่างที่เราทำกิจกรรมร่วมกันนั้น
ก็คุยกันเรื่อยเปื่อย นับวันๆ ผมยิ่งชอบเบสมากยิ่งขึ้น ลองได้เข้ามาคุยใกล้ชิดด้วยกันแบบนี้แล้ว ยิ่งเข้าใจเลยว่า เบสมีสเน่ห์แค่ไหน
“แปลกนะ นายก็คุยกับเรารู้เรื่องดี หลายๆอย่างนะ จะเรื่องหนัง เรื่องเพลง เกมส์ก็ได้ ทำไมคนอื่นๆยังว่านายอะเฉิ่ม
....เอ่อ....เราไม่ได้ด่านายนะ แค่ได้ยินมายังงั้นนะ เอ........จะว่าไป นายก็คุยสนุกนิ”
ผมรีบอธิบายเพราะกลัวเบสจะเข้าใจผิดว่าผมดูถูกเค้า
“ไม่หรอก เรารู้ตัวนะโต้ง....เราเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ไม่สนิทใจ หรือว่าสาวๆพวกนั้นนะ มันจะตื่นเต้นจนพูดไม่ออก
ยอมรับอย่างไม่อายเลย บางทีเราก็ปากสั่นพูดตะกุกตะกักเลยละ ทำให้มีแต่โดนคนเค้าหัวเราะเยาะเอา
...นี่เพราะเป็นโต้งละ เราถึงสบายใจจะคุยด้วย ไม่รู้ทำไมนะ แต่คุยกับโต้งแล้วสนุกดี”
เบสหันมายิ้มตาเป็นประกายให้ผม
นี่แสดงว่า ผมเป็นคน”พิเศษ”ใช่ไหม ผมคิดอย่างนี้ไม่ผิดใช่ไหมเบส
ผมอยากถามเค้าจริงๆ แต่ผมก็รู้ว่า ความ”พิเศษ”ของผมนะ มันแค่ไหน เบสมองผมเป็นเพื่อนสนิทคนนึงก็เท่านั้นเอง
“ดังนั้น นายจะเปลี่ยนแค่ภายนอกไม่ได้ นายต้องเปลี่ยนภายในด้วย...แต่เอาเหอะ ของแบบนี้ไม่ใช่เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ อย่างน้อยเริ่มจากเรื่องง่ายๆ เปลี่ยนจากภายนอกก่อนละกัน”
“อึม ขอบใจนะโต้ง”
“ไม่เป็นไรๆ เอาละ เสร็จละ ไปอาบน้ำกันเหอะ เบสนายไปอาบก่อนละกัน จะได้ออกไปข้างนอก”
“ไม่ละ โต้งเป็นเจ้าของบ้าน ไปอาบก่อนเหอะ”
“เรื่องมากนัก งั้นอาบพร้อมกันไหม?” ผมแกล้งแซวเล่น
เบสทำหน้าเขินๆ ด่าผมเบาๆว่า”บ้า” แล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมแอบหัวเราะตามหลังเบสไปเบาๆ คนอะไร
น่ารักจริง นี่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นนะ ผมคงโดนตบกบาลไปแล้ว
ผมนึกขึ้นมาได้ ผมยังไม่ได้หาชุดให้เบสใส่เลย เบสคงจะรีบไปเข้าห้องน้ำด้วย เลยไม่ทันคิดเหมือนกัน
คิดได้ยังงั้นผมก็รีบไปหาชุดแต่งตัวมาให้เบส ผมพยายามเลือกเสื้อยืดตัวที่เล็กที่สุดของผมให้เบส
ผมเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ
“เบสๆ เราลืมเอาเสื้อมาให้นะ นายลืมเอาเข้าไปในห้องน้ำ”
“อึมๆ ขอบใจโต้ง เด๋ียวเราเปิดไปเอา แป๊บนึง”
ผมรอไม่นาน เบสก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา ตอนนี้เบสคาดผ้าขนหนูอยู่ที่เอว เนื้อตัวเต็มไปด้วยพรายน้ำเกาะ
กลิ่นหอมๆจากสบู่เหลวอาบน้ำ กับผิวขาวๆเต็มไปด้วยหยดน้ำของเบส มันช่างกระตุ้นอารมณ์ผมจริงๆ
ผมมองเบสจนแทบจะกินเบสทางสายตา เบสคงรู้สึกตัวได้เหมือนกัน
“โต้ง ไหนละเสื้อ มองอะไร เราเขินนะ” เบสพูด
“อะ นี่เสื้อเปลี่ยน ส่วนกางเกงใน ยังดีนะเรามีของใหม่ให้อีก ส่วนเสื้อผ้าเก่านายอะ
เอาไว้นี่ก็ได้ เดียวเราซักให้ เก็บไว้ที่นี่ละ เพื่อนายมาค้างอีก” เบสรับเสื้อที่ผมส่งไปให้
“จะดีหรอ เกรงใจอะโต้ง”
“เออ ไม่เป็นไรหรอก ซักเครื่อง ไม่ได้ลำบากอะไร”
“ไม่ใช่ หมายถึง เรามาค้างอีกได้หรือ?”
“บอกไปแล้วเมื่อคืนไง ได้เสมอเลยสำหรับนาย”
ผมส่งยิ้มจริงใจไปให้เบส
เบสยิ้มตอบกลับผมมา แล้วก็ปิดประตูห้องน้ำ กลับไปทำธุระของเบสต่อ
ส่วนผม...ตอนนี้น้องชายแข็งจนเจ็บไปหมดละ โอ้ยยย อยากทำโว้ย ผมคิดในใจ
แต่ก็ต้องหักห้ามใจตัวเองอีกเป็นรอบที่ 100 แล้วมั้ง ในช่วง 2-3วันนี้
ต่อจากเบส ก็เป็นผมที่เข้าไปอาบน้ำ หลังจากเตรียมตัวกันเสร็จแล้ว เราก็ตกลงกันว่า จะให้เบสขับรถพาไปสยามก่อน
ไปหาร้านตัดผมแถวนั้น แล้วจะได้ไปเลือกซื้อเสื้อผ้า จากนั้นเย็นๆ ค่อยไปจตุจักรกัน จะได้ไม่ร้อนจนเกินไป
พอตกลงได้แล้วก็เริ่มออกเดินทาง
บนรถ พวกเราคุยกันอีก เรื่อยเปื่อยจนมาถึงสยาม เบสเลือกที่จะเอารถไปจอดที่ห้างแถวนั้นก่อน ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะไปไหน
ผมพาเบสไปร้านตัดผมที่ต่อเคยแนะนำผม ต่อมันเป็นพวกรักสวยรักงาม เสื้อผ้า หน้าผม ต้องเป๊ะ
และมันก็แนะนำผมบ่อยๆว่าไปร้านนั้นดียังงั้น ร้านนี้ดีอย่างนี้ ร้านนั้นราคาไม่แพง ร้านนั้นบริการไม่ดี
ผมเลยได้ใช้ความรู้ที่เด็ก กรุงเทพฯอย่างต่อสอนมา เอามาใช้กับเด็กกรุงเทพที่ไม่รู้เรื่องอะไรแบบเบส
ก่อนอื่น ผมพาเบสไปตัดผม ดูจากการแต่งร้าน ร้านนี้ดูท่าจะแพงไม่ใช่เล่นแต่เบสก็ลูกคนรวยละนะ
ผมไม่ห่วงเรื่องเงินหรอก ที่เลือกร้านนี้เพราะต่อบอกว่า ตัดดี บริการเยี่ยม ราคาสมเหตสมผล
ถึงราคาจะค่อนข้างแพง ถ้าคิดว่าพวกเรายังเป็นเด็กนักศึกษา แต่ก็เห็นมีเด็กวัยรุ่นเข้ามารอคิวกันเยอะแยะ
ระหว่างนั่งรอคิว ผมกับเบสก็ช่วยกันเลือกทรงผม เบสหน้าขาว ปากแดงๆ ผมเลยแนะนำให้โกรกสีผมไปด้วย
เอาสีน้ำตาลอ่อนๆ เพราะถ้าทำมากไป ก็ดูไม่เหมาะ
“ถึงคิวแล้วค๊ะ เดียวเชิญไปสระผมก่อนนะค๊ะ ทางนี้เลยค๊ะ”
พนักงานของร้านเรียกเบสไปสระผม
ระหว่างที่รอเบสตัดผม ผมก็นั่งอ่านนิตยสารไปพลาง
“ขอโทษนะโต้ง รอเราเฉยๆ เบื่อไหม”
เบสเข้ามานั่งข้างๆผม ตอนนี้เบสกำลังรอย้อมสีผม ดังนั้นจึงมีผ้าพันอยู่บนหัว
“ไม่เป็นไรๆ เออ แล้วบอกพี่เค้ายังว่าจะเอาทรงไหน”
“อึม...บอกแล้ว เอาทรงที่โต้งเลือกให้นะละ”
“เราจะรอลุ้นนะ ตื่นเต้นดีจัง ฮ่าๆ”
จากนั้นเบสก็ถูกเรียกไปล้างผม ทำโน่นทำนี่ ผมที่นั่งรอก็นั่งอ่านนิตยสารรอพลาง
แอบมองเบสไปพลาง ผมยังไม่เห็นหรอกว่า ผมทรงใหม่ของเบสจะออกมาเป็นยังไง อยากเก็บไว้ลุ้นตอนเสร็จทีเดียวเลย
“เสร็จแล้ว..รอนานไหม”
ผมหันไปมองคนน่ารักในลุคใหม่....โอ้....ผมว่าแล้ว ผมว่าแล้วไม่ผิด ทรงผมทรงใหม่ของเบส เข้ากับโครงหน้าเบสมากๆ
ผมสีน้ำตาลอ่อนๆ ดัดเป็นลอนเล็กน้อยที่ปลายผม ช่างไม่ได้ตัดออกไปมากนัก
แค่เล็มเอาส่วนที่ไม่สวยออก และตัดให้เข้าทรง ตัดด้านหน้าที่รกออก มันยิ่งทำให้หน้าของเบส สวยมากขึ้น
ใช่แล้วผมไม่ได้ใช้คำผิดไปหรอก มันยิ่งกว่าน่ารัก แต่เป็นสวยเลยละ
ผมสีน้ำตาล ยิ่งทำให้ใบหน้าเบสขาวขึ้น ปากแดงจัดตัดกับหน้าขาวๆ โอ้ย ผมแทบละลาย
ผมมองเบสตาค้าง เบสก็คงรู้ตัว เลยรีบถามผม
“โต้ง คิดว่าไง เหมาะกับเราปะ เห็นพี่เค้าบอกน่าจะดัดด้วยเล็กน้อย เราเลยให้พี่เค้าตัดสินใจเองเลย
ผิดจากที่คุยกันเล็กน้อย โต้งว่าไงบ้างอะ”
“เหมาะมากเบส สุดยอดเลยร้านนี้ ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆด้วย”
“คุณน้องเค้าหน้าตาน่ารักอยู่แล้ว แต่เอาไว้แต่ผมยาวๆปรกหน้าปิดหน้า มันทำให้ดูไม่สดใสเลย
พี่ก็เลยตัดมันออก แล้วก็ดัดเล็กน้อยนะค๊ะ หล่อมากเลยใช่ไหมคะ ขนาดพี่เป็นคนตัดเอง ยังตกใจเลย นี่เพราะพี่เก่งหรือคุณน้องหล่ออยู่แล้วก็ไม่รู้นะค๊ะ “
พี่คนที่ตัดผมให้เบส เดินเข้ามาคุยด้วย พี่คนตัดเป็นกะเทยร่างใหญ่
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ฝีมือจะดีขนาดนี้ ผมคงต้องขอบคุณเค้ามากๆ ที่ช่วยทำให้คนน่ารักของผม ยิ่งดูดีขึ้นกว่าเดิม2เท่า
ไม่ซิ หลาย10เท่าเลยละ
“ขอบคุณนะครับพี่ที่ช่วยออกแบบทรงให้ เดียววันหลังผมจะมาใช้บริการอีกนะ
ขอฝากตัวเป็นลูกค้าประจำเลยละกัน” เบสตอบกลับไป
“โอ้ย ลูกค้าหล่อๆแบบนี่ พี่เต็มใจเลยค๊ะที่จะบริการ ไว้วันหลังมาอีกนะค๊ะ “ พี่กะเทยส่งยิ้มจริงใจให้ผมกับเบส
หลังจากจ่ายเงินแล้วออกจากร้าน ผมก็พาเบสไปร้านแว่นตา เพราะแว่นตาเชยๆอันนี้ละ
ทำให้คนอื่นเรียกเบสว่าเป็นคุณป้า ผมเลยพาเบสไปซื้อคอนแทคเลนส์
“พี่ครับ เดียวช่วยแนะนำวิธีใส่คอนแทคให้เพื่อนผมด้วยนะ แล้วเดียวเราจะใส่ไปกันเลยครับ”
เบสในตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย ใบหน้าขาวใส เวลาที่ไม่มีแว่นตา ยิ่งทำให้หน้าหวานๆ สวยขึ้น
แต่สำหรับคนไม่เคยใส่มาก่อนอย่างเบส รู้สึกว่ามันจะยากและน่ารำคาญมาก
พอเห็นสภาพทุลักทุเลในการใส่คอนแทคของเบส ผมเลยตัดสินใจเลือกกรอบแว่นตาใหม่อีกอันให้เบส
เอาไว้ใช้ใส่ยามฉุกเฉิน ผมเลือกกรอบพลาสติก ดีไซน์วัยรุ่นๆหน่อย สีดำมาให้เบสลองใส่
มันสวยถูกใจผมและพนักงานที่ช่วยเชียร์อยู่ข้างๆมาก
“ตกลงเอาอันนี้ละกันเบส สวยเข้ากับนายมาก”
“แล้วแต่โต้งละ เราไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอก”
เบสตอบกลับมา
เนื่องจากสั่งตัดเลนส์เอาไว้ อีก 3วัน ทางร้านถึงจะนัดให้มาเอาแว่น
เบสในแว่นใหม่ก็ดี หรือจะเป็นเบสที่ใส่คอนแทคก็ดี ช่างน่ารักกระชากใจผมจริงๆ นี่ละมั้งที่เค้าเรียกว่าหนุ่มแว่น
“เอาเป็นว่า แว่นอันนี้ เบสไว้ใส่ตอนอยู่บ้านละกัน ส่วนเวลาออกข้างนอกก็ใส่คอนแทคอันนี้ โอเคไหม”
จากนั้นผมก็พาเบสในสภาพเหมือนเกิดใหม่ออกมาจากร้านแว่นตา
“หิวยัง ไปหาไรกินกันไหม”
“ก็หิวนิดๆละ โต้งอยากกินไรละ เดียวเราเลี้ยงเอง ตอบแทนที่โต้งช่วยทำอะไรให้เราหลายอย่าง”
“จริงหรอ เย้ ...งั้นไปกินเอ็มเค กันไหม “
“อึม อะไรก็ได้ ไปซิ”
เบสในสภาพใหม่ ดูเก้ๆกังๆ ไม่ใช่น้อย คงเพราะยังไม่ชินกับตัวเองในสภาพใหม่
ตลอดเวลาที่พาเบสเดินไปร้านอาหาร ผมรู้สึกได้เลยว่ามีคนมองพวกผมสองคน
โดยเฉพาะ คนที่ดูก็รู้ว่าเป็นเก้งกวางเหมือนกับผม จะมองที่เบสตาเป็นมันเลย
เบสตอนนี้สลัดคราบเด็กเรียนเฉิ่มๆ เป็นเด็กเฉี่ยวที่มีใบหน้าสวยคม
หลายคนแอบซุบซิบ แล้วมองมาทางเรา สาวๆหลายคนที่เดินผ่านก็ทำหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มมองมาทางพวกเรา
เอ๊ะ ไม่นะ พวกเค้าคงไม่ได้มองว่าพวกผมเป็นแฟนกันหรอกนะ
จะว่าไป ผมเองยังอดคิดไม่ได้เลย เพราะเราสองคนเดินคุยกันอย่างกะหนุงกะหนิง เหมือนคู่รักเกย์ทั่วไปเลย
ยิ่งผมดูแมนๆเท่ๆ เบสดูสวยหวาน คงทำให้คนเข้าใจผิดได้มาก
ผมพาเบสไปร้านเอ็มเคที่เป็นตัวตึกบริเวณสยาม ระหว่างนั่งกินข้าวกัน เบสดูจะพูดมากกว่าปกติ
ดูเค้าดีใจที่ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นอย่างมาก ใบหน้าสวยๆ คุยกับผมด้วยท่าทางร่าเริง
“โต้ง ขอบใจจริงๆนะ เราเคยคิดอยากจะเปลี่ยนตัวเองมานานแล้ว แต่ก็ไม่กล้า กลัวโน่น กลัวนี่
นี่ถ้าโต้งไม่พาเรามานะ เราก็คงไม่รู้จะทำยังไงเลย
แล้วนี่นะ เรารู้สึกเหมือนโดนมองตลอดเลยอะ มันแปลกๆอะ เขินยังไงไม่รู้ เราวางตัวไม่ถูกนะ
ถ้าไม่ได้มากับโต้ง เราคงหนีกลับไปบ้านแล้วแน่เลย”
เบสพูดอย่างกระตือรือร้น
“ไม่หรอก เราไม่ได้ทำอะไรหรอก นอกจากมาเป็นเพื่อนเฉยๆ เบสหล่ออยู่แล้ว ต่อให้ไม่ทำอะไรก็หล่อนะ”
ผมชมเบสกลับไป
“ปากหวานจริงเลย นี่ใครได้เป็นแฟนโต้ง คงโดนโต้งชมบ่อยๆแน่เลย สงสัยเราต้องเลียนแบบโต้งบ้างละ ฮ่าๆ”
คนสวยของผมตอบกลับมา แต่ด้วยคำตอบ ทำให้ผมสะอึกไม่น้อย ถ้าเบสมีแฟนเหรอ....
ผมแทบไม่อยากคิดเลยว่า ผมจะทนให้เบสไปมีแฟนได้หรือเปล่า จะทนเห็นเบสเดินกับผู้หญิงได้หรือเปล่า
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมก็แค่แอบชอบ แอบปลื้มรุ่นพี่คนนี้เฉยๆ แต่ช่วง 2วันที่ผ่านมา เราใกล้ชิดกันมาก
จนผมเผลอใจไปแล้วใช่ไหมเนี่ย จากความชอบ กลายเป็น
ความรักงั้นหรือ
ไม่ๆ ผมจะไม่รักคนที่ไม่ได้เป็นเกย์เด็ดขาด ผมสัญญากับตัวเองไว้แล้วนิ สงสัย ผมคงต้องห่างๆกับเบสบางละ หลังจากวันนี้ไป
“หาให้ได้ก่อนเถอะ ค่อยมาพูด ...แต่โต้งพูดจริงนะ ตอนนี้โต้งว่าจากนี้ไปเบสต้องป๊อบมากๆ แน่ๆ ไหนจะหล่อ เรียนเก่ง บ้านก็รวย”
“ฮ่าๆ บอกแล้วว่าโต้งปากหวาน เราไม่ได้ดีขนาดนั้นซะหน่อย....ยังไงเราก็เป็นเบสคนเดิมละ ถึงภายนอกจะเปลี่ยนไป... เรายังไม่ค่อยมั่นใจเลยว่า
ถ้าไปมหาลัยสภาพแบบนี้จะเป็นยังไง เราแอบกลัวละโต้ง เพราะวันนี้เราอยู่กับโต้งหรอกนะ เราถึงกล้าเดินไปมา นี่ถ้าให้ไปเดินในมหาลัยคนเดียวแล้วมีแต่คนมองแบบนี้นะ เราคงกลับไปเป็นเหมือนเดิมที่ไม่มีคนสนใจดีกว่าอะ”
“นี่ นายลืมแล้วหรอเบส เราเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออะไร มั่นใจในตัวเองมากกว่านี้หน่อยซิ”
------------------------------------------------------------------------------------
มาต่อให้อีกส่วน เบสเริ่มโดนโต้งแปลงโฉมแล้ว เหลือไปเดินจตุจักรกันต่อ เดี๋ยวมาต่อให้พรุ่งนี้นะครับ