เทศกาลหยุดยาว กลับบ้านแม่ครับ เพิ่งว่างเลยรีบปรุ๊ดมาต่อเลย
*************************************************************************
ผมกับวากดิษเดินทางไกลเพื่อมุ่งมาที่ไร่ของตัวเค้าเอง ผมเคยมาไร่นี้แล้วครั้งนึง ตอนที่มาตามตื้อดิษให้กลับมาคุยกัน สาเหตุก็เพราะผมไม่ยับยั้งชั่งใจ เมาขาดสติ จนก่อเรื่องเข้า
“ เจริญขึ้นทันหูทันตาเนอะ” ผมคุยกับท่านวาก ขณะที่กำลังขับรถตัดเข้ามาในตัวอำเภอ
“ รู้ได้ยังไงว่าเจริญ ”
“ เอ้า ...... ตอนที่มาครั้งนู้น ถนนบางสายยังเป็นหินกรวดอยู่เลย ” พูดแล้วนึกภาพออกเลยกู เหอะๆๆ
“ ลำบากมากเลยนะ เด็กดื้อ ” มันพูดไปก็ลูบหัวผมไปด้วย เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีหางเข้าไปทุกวันแล้วเนี่ย
“ แล้วพงกับผู้ใหญ่สบายดีไหมอะ ” ผมถามต่อไป ดิษทำท่าเซ็งๆก่อนจะตอบผม
“ เดี๋ยวนี้พงไม่เหมือนเดิมนะ ไม่รู้ว่าทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น ”
“ ยังไงล่ะ ”
ดิษเล่าให้ผมฟังว่า พ่อของไอพง ซึ่งก็คือญาติทางแม่ของดิษ โทรศัพท์มาเล่าปนระบายให้ฟังอยู่เหมือนกัน ว่าบักพงมันเที่ยวเป็นแล้ว ไม่สนใจเรียนเท่าที่ควร อยากให้ดิษมาอบรมมันหน่อย
“ พี่ก็ลำบากใจ เพราะพี่ไม่เคยทำตัวเกเรไง ”
“ สรุป จะเหน็บกูใช่มะ ” ไอวากบ้ายิ้มกว้าง
“ ฉลาดมาก ขอลูบหัวหน่อย ”
“ พอๆๆ ไม่ต้องเลย .... แต่ทำไมมันกลายเป็นนั้นได้หว่า เจอกันคราวก่อนยังบอกอยู่เลยว่า อยากเรียนสูงๆ ”
“ คนที่อยู่ไกลๆก็เป็นแบบนี้แหละคิม พี่เคยเห็นมาเยอะ ส่วนนึงคงคิดว่าตัวเองไม่มีอนาคตมั้ง ” ผมเห็นด้วยครึ่งนึงครับ
“ เจอมันต้องคุยซักหน่อย ”
“ วากคิมลงเอง สงสัยจะงานใหญ่ ...... โอ๊ยๆๆๆ อย่าหยิกๆ ขับรถอยู่นะ ” มันหันมาทำหน้าดุใส่ผม แม่ม เอะอะกัดๆ หยิกซะ ฮ่าๆๆๆ
ผมมาถึงบ้านของผู้ใหญ่จันทร์ก็เวลาค่ำแล้วครับ แถวนั้นไกลจากตัวอำเภอประมาณสองกิโลซึ่งก็ไม่ไกล แต่ห่างไกลแบบนี้สิงกิโลก็ถือว่าไกลมากครับ
“ สวัสดีครับผู้ใหญ่ ” ผมยกมือไหว้ ผู้ใหญ่รีบรับไหว้แล้วหันไปหาไอดิษ
“ !#$%$$$##!!!!! ” สองคนคุยอะไรก็ไม่รู้ครับ แต่พอจบประโยคก็พากันหัวเราะชอบใจ ฮึ่มมมม เห็นว่าผมไม่รู้ภาษาถิ่นล่ะสิ คืนนี้จะบี้ไอวากบ้าให้ได้ว่าพูดอะไรกัน
“ พงล่ะน้า ” กลับมาพูดภาษาคนกันแล้วครับ เหอะๆๆ
“ ........ ไม่เห็นมันตั้งแต่เช้า ”
“ มันเป็นยังไงครับผู้ใหญ่ ” ผู้ใหญ่ก็เล่าทำนองเดียวกับวากดิษครับ ทำให้ผมพาลนึกไปถึงพ่อของผมเอง ที่ก็พูดทำนองว่าไม่เข้าใจผมเหมือนกัน เห็นท่าวากคิมต้องลงเองอย่างที่ดิษว่าแล้วล่ะ เลือดรักเพื่อนมนุษย์ฉีดอีกแล้วครับ
“ ผู้ใหญ่รู้ไหมว่า พวกนั้นชอบไปสุมหัวกันที่ไหน ” ผมถาม
“ ข้างๆตลาด ..... ที่บักดิษเคยไปเที่ยวนั่นล่ะ ” ไอร้านเที่ยวที่ดิษเคยหลอกให้ผมนอนตากน้ำค้าง ให้เลือดยุงอะครับ
“ มานี่ก่อนๆ ” ดิษดึงผมออกมาห่างๆ
“ ดึงทำไมเล่า ”
“ คิม คนพวกนี้มันไม่สนใจหรอกนะว่าเราเป็นใคร มันถือว่าพวกมากก็จะข่มเหงเรานะ ” เห็นสายตาแบบนี้แล้ว ไม่รู้ดิ อยากกอด เหอะๆๆ
“ พี่ดิษ ” ผมเรียก
“ ห่ะ ..... ห๊ะ ครับ ” พูดเพราะหน่อย แสดงอาการอย่างกับเจอผีเลยนะ
“ อย่าลืมสิว่า คิมก็อยู่บ้านนอก คิมเคยเป็นหัวโจกมาก่อนด้วย คิมรู้ดีว่าเด็กพวกนี้จะมีอนาคตหรือจุดจบยังไง คิมไม่อยากเห็นเด็กสันดานดีๆเสียคนนะ ”
“ เฮ้อออ ...... แต่ต้องให้พี่ไปด้วย ”
“ ได้เลย ” ความจริงผมก็หลอกมันอีกนั่นแหละ แต่ผมมีเหตุผลของผมแล้วกัน
คืนวันนั้น ผู้ใหญ่ให้แฟนทำกับข้าวให้ แล้วคุยกันเรื่องสร้างบ้านในไร่ของวากดิษ ผู้ใหญ่บอกว่าไม่อยากให้สร้างบ้านไม้ เพราะตอนนี้ราคาสูงและแถวนั้นมีปลวกมาก จะไม่คุ้มครับ ผู้ใหญ่ยังชี้ให้ดูตามโคนเสาของเรือนว่าเสียหายขนาดไหน เราเลยคุยกันว่าจะจัดการไล่ปลวกพวกนี้กันยังไงครับ จากนั้นก็เตรียมเข้านอน
“ ฮิ้วววววว ฮ่าๆๆๆ ” ผมกำลังมองซ้ายมองขวาหลบตุ๊กแกอยู่ ดันมีเสียงเหมือนขี้เมามาร้องโวยวายครับ
“ นอนๆ ” วากดิษพยายามดึงผมนอน
“ ไม่ออกไปดูหน่อยเหรอ อาจจะเป็นไอพง ”
“ ก็นั่นแหละ ถ้ามันเมามาเห็นเรามา จะพาลไม่ได้นอนนะ ” มันพูดอะไรของมันอะ
“ จะออกไปดูอะ นอนรอนี่นะ ” วากดิษพยายามดึงผมอีก แต่มีหรือจะจับปลาไหลคิมได้ หึหึ
ผมเดินออกมาก็เห็นไอพงจริงๆครับ แต่เป็นไอพงที่สภาพเน่าสุดๆ มันไว้หนวด ไว้ผมยาม หน้าตาดูไร้ราศีมากๆ ไม่เหมือนเด็กดีๆคนนั้นที่ผมเจอเมื่อคราวก่อนเลย
“ เห๊อะ ...... เห๊อะ เมียพี่ดิษมาว่ะ ” อ้าว
“ ไหน เอ็ย นั่นผู้ชายเว้ย ”
“ ฮ่าๆๆ ผู้ชายไม่มีรู้หรือไง มึงอยากให้กูทำให้ดูมะ ” ผมหน้าง้ำเลยครับ อารมณ์พาลเดือดขึ้นพอสมควร ไอเพื่อนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์อีกสองคน เริ่มรู้สึกได้
“ พวกมึงอายุเท่าไรกัน ” ผมถามพวกนั้น
“ มังไม่ต้องกลัวๆ เมียพี่กูใจดี๊ใจดี ” มันยังไม่หยุดครับ ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วจับที่ท้ายทอยดึงให้มันลุกขึ้น ไอนี่ยังอ่อนประสบการณ์มากครับ พอโดนจับจุดสำคัญ มันร้องโอยๆจนคนในบ้านเดินออกมาดู
“ ถามว่า ...... พวกมึงอายุเท่าไรกัน จะตอบตรงนี้หรือไปตอบที่โรงพัก ”
“ ไม่ต้องตอบๆ อ๊า !!!!!!! ” ผมกดนิ้วหัวแม่มือตรงไหปลาร้ามันครับ มันทรุดฮวบเลย ผมมองไปรอบๆเห็นผู้ใหญ่กับแฟน และไอดิษมายืนมองอยู่ห่างๆ ไม่ได้เข้ามาหาผม
“ สิบหก / สิบเจ็ดครับ ”
“ พ่อแม่มึงรู้ไหมว่ากินเหล้าเมาหัวราน้ำแบบนี้น่ะ ”
“ รู้ครับ ” ผมเหนื่อยใจแทนเลยครับ
“ ดิษ พามันไปหน่อย เดี๋ยวคิมขอคุยกับมันตัวต่อตัว ” ไอเด็กบ้าปลากะพงเริ่มเงียบเสียงลงครับ
“ อืม มานี่ ” วากดิษลากไอพงไปรอผมที่บ้านหลังใหญ่ ส่วนผมก็หันมากระซิบถามไอเด็กสองคนนั้น พูดในสิ่งที่คนอย่างพวกผมรู้กัน พวกนั้นยอมบอก ผมถึงไล่มันกลับ จากนั้นผมเดินกลับมาที่บ้านใหญ่ ไอพงสงบลงเยอะครับ
“ ดิษ ขอเราคุยกับมันหน่อยนะ ” ดิษพยักหน้าแล้วเดินออกไป
“ ไอพง ”
“ พี่คิม ผมขอโทษ ” พอสภาพเด็กบ้าของมันเริ่มหายไป ความรู้สึกที่ผมมีกับมันค่อยๆกลับมาครับ
“ ไปอาบน้ำล้างตัว โกนหนวดออกให้หมด พี่จะคอยอยู่นี่ ” ไอพงยกมือขอโทษแล้ววิ่งลงไป ผมรออยู่ (ด้วยความกลัวตุ๊กแก) ประมาณห้านาที มันก็กลับมา
“ บอกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม ชอบใช่ไหม ไอการเป็นนักเลงบ้านนอกน่ะ ”
“ มันเท่ดี ”
“ อะไรคือเท่ ” มันกัดริมฝีปากไม่ยอมพูด
“ พรุ่งนี้ คอยดูว่า เท่น่ะมันเป็นยังไง ไปนอนซะ ” ผมเห็นว่าดึกแล้วครับ มันยังต้องไปเรียนตอนเช้าไม่อยากให้มันง่วงนอนตอนไปเรียนหนังสือ พอพูดจบผมก็เดินเข้ามาในห้องนอน วากดิษนอนรออยู่แล้วครับ
“ คุยอะไรกันเหรอ ”
“ ด่ามันนิดหน่อย ”
“ มา นอนเถอะ ” บอกก่อนว่า ปกติผมไม่ได้นอนเตียงเดียวกันครับ ยกเว้นบางวันเกิดนึกครื้มๆถึงจะนอนด้วยกัน แต่ที่นี่มีเตียงเดียวครับ ผมเลยนอนด้วยกัน ผมยังไม่ชินกับการที่มีคนนอนร่วมเตียงอะครับ
รุ่งเช้า ผมตื่นสายกว่าเพื่อนเพราะวากดิษไม่ปลุก มันบอกว่าอยากให้ผมนอนมากๆ วันนี้จะได้ไปช่วยกันดูไร่ และทำเรื่องบ้านด้วย ผมไม่เห็นไอพงครับ แต่รู้จากผู้ใหญ่ว่า วันนี้มันตื่นเช้ามาหุงข้าว กวาดบ้าน แล้วไปโรงเรียนก่อนผมตื่น อาจจะไม่อยากเจอหน้าผมมั้งครับ
ภารกิจวันนี้ คือไปสำรวจโรงงานที่รับซื้อของและคำนวณราคาสินค้าที่อาจจะผลิตได้ ว่าช่วงไหนตก ช่วงไหนขาดตลาด ก็แปลกไปอีกแบบครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่า วากดิษทำงานละเอียดบวกจุกจิกมาก
ช่วงเย็น วากดิษบอกว่าอยากไปไหว้ศพพี่กก ผมรู้ตอนนั้นเองว่า พี่คนที่ชอบเที่ยวคนนั้นถึงแก่กรรมไปแล้ว ด้วยโรคที่น่าจะรู้กันดี ผมเลยอาศัยช่วงที่วากดิษบอกว่าจะไปไหว้ศพ จัดการกับไอพงซะด้วย
อย่างที่เคยอ่านกันมาบ้างว่า ผมอยู่บ้านนอกคอกนา พ่อมีเงิน มีชื่อเสียง ผมเลยได้บารมีพ่อไปทำเรื่องไม่ดีไว้มากมาก่อน เรื่องที่ผมจะทำให้ไอพงเห็นก็คือ การไปหาลูกพี่ของมัน เพื่อให้ลูกพี่มันรู้ว่า พงจะไม่ใช่คนของมันอีก ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องแสดง อาจจะเสี่ยงต่อการเจ็บตัว ผมเลยไม่อยากให้ดิษเห็นผมในสภาพนั้น ผมแอบออกจากบ้านโดยให้ไอเด็กสองคนเมื่อวานมารับ มันพาผมเลาะออกมาหลังตลาดอย่างที่ผู้ใหญ่ว่าจริงๆ
“ ในนี้ครับ ” ผมหันไปมองมันสองคน
“ มึงสองคนเข้ามาด้วยก็ได้ ”
“ พี่จะตีพวกเราเหรอครับ ”
“ กูไม่ใช่คนแถวนี้ กูแค่รักน้องของกู ” แล้วผมก็เดินเข้ามา
ในนั้นเป็นห้องเช่าเล็กๆ มีเด็กอายุซักสิบสี่สิบห้าหลายคน กำลังนั่งมั่วสูบบุหรี่ ไม่ก็มีผู้หญิงตัวเล็กๆนั่งคลอเคลีย ครั้งนึงผมเคยรู้สึกสนุกกับเรื่องแบบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่า น่าสมเพชขนาดนี้เชียว
“ เฮ้ย ไหนหัวหน้า ” มีไออ้วนตัวสูงใหญ่คนนึงยกมือ แล้วเดินมาหาผม
ผมคุยกับมันคร่าวๆว่าเป็นใครมาจากไหน แล้วต้องการอะไร พวกมันตอบว่ามันต้องการคนใช้งาน มันไม่ให้ไอพงออกจากกลุ่ม นี่แหละครับ ตอนแรกก็อยากเท่ๆ ไม่คิดถึงผลที่ตามหลัง ผมเดาว่าไอพงก็อึดอัดใจ
“ งั้นถ้ากูอยากเอามันไปล่ะ ”
“ เจอนี่ไง ” มันเอามีดขึ้นมาจ่อคอหอยผม แวบแรกใจหายเลยครับ
“ อย่าทำนะๆ ” ไอตัวปัญหามาแล้วครับ ไอปลากะพง
“ มึงเตรียมตัวเหอะ อยากออกมึงต้องทำงานสิ ให้ไออ่อนนี่มาคิดว่าจะจบไหม ” ไอ้ทำงานที่ว่า คงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงหรอกครับ ผมเดาว่าเป็นเรื่องต่อยตีมากกว่า
“ ไม่ปาดกูเลยล่ะสัด ” มันกำลังโมโหได้ทีเลย ขณะที่มันจะทำอย่างอื่นต่อ ก็มีเสียงเอะอะจากด้านนอก
“ ตำรวจมาๆๆๆ ” ไออ้วนตกใจ จะวิ่งหนี ผมกระโดดถีบสุดแรงเกิดเลยครับ ไออ้วนกระเด็นหน้ากระแทกกำแพงนอนดิ้น ร้องเป็นตุ๊ดเลยครับ
“ นี่เหรอหัวหน้ามึง ไอควาย ” ผมไม่ได้ด่าไอหัวหน้าหรอกนะครับ ผมด่าไอพงกับไอเด็กลิ่วล้อสองคน ไม่นานตำรวจก็มาคุมตัวพวกเราไป ผมโดนจับไปด้วยครับ
ผู้ใหญ่จันทร์รู้เรื่องก็รีบมาทันที ผมก็ให้การไปตามความจริง โดยมีไอเด็กในแก็งค์ยืนยันให้ ปรากฏว่าไออ้วนนี่ก็เป็นพวกเด็กที่เรียนไม่จบ คงจะมีปมด้อย เลยมาเอาพวกเด็กที่คึกคะนองไปเป็นพวก เป็นกลุ่มที่ไม่มีน้ำยามากมายอะไรเลยครับ
“ คุณตำรวจครับ ” ผมพูดกับจ่าคนนึง
“ เด็กพวกนี้ ไม่ได้ทำอะไรตอนที่ผมเข้าไป นอกจากสูบบุหรี่กับเด็กผู้หญิง ไม่มีเรื่องอื่นครับ ขออนุญาตยืนยัน ”
“ คุณนี่ใจกล้ามากนะ น่ามาเป็นตำรวจ ” มีแซวๆ
ผู้ใหญ่เอารถกระบะไปไล่ส่งพวกเด็กที่บ้าน ผมเห็นสายตาและอาการของพ่อแม่แต่ละคนแล้ว น้ำตาซึมครับ เพราะมันเหมือนกับตอนที่แม่และพ่อของผมกอดกันร้องไห้ ตอนที่ผมรอดตายกลับมาจากการไปมีเรื่อง แต่ไอเด็กโง่ชื่อปลากะพง มันร้องไห้มาตลอดทางเลยครับ ระหว่างทาง ผมเล่าให้พวกน้องมันฟัง ถึงประสบการณ์ทางลบของผมให้ฟัง ว่าเส้นทางนักเลงเท่ก็จริง แต่ท้ายที่สุดตายไม่ดี ไม่มีอนาคต ใหญ่แค่ไหนก็เจอผลกรรมเหมือนกัน ผมยังขอให้พวกน้องๆไปไหว้พ่อแม่ซะด้วย
พอกลับถึงบ้าน ไอพงก้มกราบเท้าของพ่อและแม่ ร้องไห้ไม่หยุด ผมก็ตามไปลูบหลังมัน มันก็จะกราบผมอีก ผมต้องรีบคว้ามือของมันไว้
“ ต่อไป นึกถึงเรื่องวันนี้ แล้วอย่าทำอีก ”
“ ครับ ผมสัญญาๆ ”
ผมเข้าไปอาบน้ำล้างตัว มีความสุขที่ได้ทำประโยชน์บ้าง แล้วมานั่งอารมณ์ดีรอวากดิษกลับมาจากไหว้ศพ
“ ดิษ ....... ดิษ ” วากดิษเดินมา ทำหน้าเข้มมาก เดินผ่านผมไปเลย ยังไงวะเนี่ย ผมรีบเดินไปหาผู้ใหญ่และบักพง
“ มีคนบอกดิษเรื่องนี้เหรอครับ ”
“ ผู้ใหญ่ไม่ได้บอกนา ”ผู้ใหญ่รีบปฏิเสธ ส่วน ไอพงยิ้มแหยๆ
“ พี่ดิษมาบังคับผมให้พูด เมื่อเช้าครับ ” นั่นไง สงสัยพ่อข้าวกล้องจะงานกูอีกละ ผมรีบเดินตรงไปที่ห้องนอน แต่มันล็อคประตูครับ
“ ดิษๆ ........ เปิดหน่อย กลัวตุ๊กแก ” มันเปิดให้ครับ แต่แง้มๆไว้
“ กลัวมันทำไม คิมต้องกลัวพี่มากกว่า ”
“ กลัวทำไมอะ ขอเข้าไปหน่อยนะๆ ” ผมพยายามจะสอดตัวเข้าไป แต่พี่ท่านดันประตูงับร่างผมเฉยเลย
“ ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ ”
“ ดิษ ...... กลัวตุ๊กแกจริงนะเว้ย ” ไอดิษเริ่มยิ้มออก แสดงว่าไม่โกรธจริงครับ
“ บอกมา เราสัญญากันว่าจะไปด้วยกัน ทำไมไปคนเดียว ”
“ ขอเข้าไปในห้องก่อนไม่ได้เหรอ ” อันนี้ไม่ใช่กลัวตุ๊กแกหรอกครับ กลัวเดี๋ยวมันไม่อยากฟัง จะปิดประตูไล่ผมอีก
“ อ่ะ เข้ามา ” ผมเดินเข้ามา แล้วล็อคห้อง
“ นั่งพับเพียบอยู่ตรงนั้น เร็ว ” ผมงงเลยครับ ทำไมกูต้องนั่งพับเพียบวะ
“ ทำไมอะ ”
“ ต่อไป ถ้าทำผิด พี่จะให้นั่งแบบเนี่ย ” เออๆ ตามใจมึง
“ คือ ....... เรากลัวดิษเป็นห่วง ..... อะ ”
“ เวลาพูดไม่ต้องมองหน้า มองพื้น ”
“ เฮ้ย ไม่ใช่ศาลไคฟงนะเว้ย ” ไอนี่ชักจะบ้าหนังจีนใหญ่ละ
“ เว้ย กับใคร ” ทำไมวันนี้กูกลัวมันจังเลยวะเนี่ย ฮุ้ววววววว
“ จริงๆ เรากลัวดิษจะห่วง เราไปทำอะไรเสี่ยงๆมานิดนึง ”
“ ติดเป็นนิสัยเลยสินะ ทำอะไรห่วงใจพี่มั่งสิ ” แง้ววว จุก เหอะๆๆ
“ ต่อไป ...... คือ ต่อไปแบบจริงๆ จะบอกก่อนนะ ……. อุ๊บบบบ ” วากดิษ ก้มหน้าลงมาจุ๊บปากผมครับ แล้วกอดผมอีก
“ เด็กดื้อ ”
“ อื้อออ ” เราไม่ได้พูดอะไรกันนานทีเดียว สำหรับผมสองคนมักจะเป็นแบบนี้อะครับ พูดน้อยไปหน่อย ไม่คงไม่ได้แปลว่าเราห่วงใยกันน้อยหรอกใช่ปะ
จนตอนค่ำ ผู้ใหญ่ เรียกพี่น้อย คนงานที่เคยทำงานคู่กับพี่กกมากินข้าวด้วยกัน ไอพงทำหน้าที่เหมือนเดิมครับ ตักข้าว ชงเหล้า บริการเต็มที่ มันคงรู้แล้วว่ามันทำผิดไป ผมหวังแต่ว่ามันจะสำนึกได้และพยายามไม่เข้าไปยุ่งอีก
หลังจากอิ่มกันแล้ว ก็ชวนกันเข้านอนครับ แต่ผมยังมีเรื่องคาใจนิดหน่อย
“ เอ้อ ผู้ใหญ่ครับ ตอนผมมาถึงเมื่อวาน ผู้ใหญ่คุยอะไรกับดิษครับ ” ผู้ใหญ่หันไปมองหน้าไอดิษ
“ เว้าแล้วสิหงายเงิบบ่ ”
“ ไม่หงายไม่เงิบหรอกครับ อยากรู้เฉยๆ ” สงสัยผู้ใหญ่เห็นท่านักเลงแล้วแอบหวั่น เหอะๆ
“ งั้น บักดิษไปบอกเองเด้อ ”
“ อ้าว น้า ” ไอดิษทำหน้าเหรอหรา ตลกมากอะครับ
“ สรุปว่าไง ” ไอดิษเรียกให้ไอพงมาหา
“ พง .............. พี่ไปนอนก่อนนะ ” ไอดิษกระซิบให้ไอพงได้ยินแล้ววิ่งไป ไอพงก็ยืนงงอยู่
“ มันว่าไง ”
“ ให้ผมแปลเลยเหรอ มันออกจะทะลึ่งนะพี่ ”
“ เออน่า บอกมาเหอะ ”
“ พี่ดิษบอกว่า พี่ดูจะสวยขึ้น สงสัยน้ำพี่ดิษจะดี ” ผมยืนคิดอยู่ไม่นานก็นึกออก หน้าแดงดิครับ
“ ขอบใจที่แปล ” หึหึ ผมเดินขึ้นห้องจะมาคิดบัญชีกับไอวากดิษ ปรากฏว่า ..... มันล็อคห้องครับ
“ เฮ้ย เปิดๆ ”
“ ไม่เปิด สัญญาก่อนว่า จะไม่ต่อยพี่ ” แม่มนี่ แผนสูงอีก รู้ว่ากูกลัวตุ๊กแกเลยเอามาต่อรอง
“ เออออ เปิด มึงชนะ โอเคม้ายยยย ”
“ ฮ่าๆๆๆๆ ”
********************************************************************
ต่อท้ายนิดนึง ตำรวจที่ไปรวบพวกนั้น ก็เพราะไอดิษไปแจ้งความไว้ตั้งแต่เช้า ตำรวจจึงมาดักรออยู่ครับ
ช่วงนี้ งดเหล้างดเบียร์มาเป็นเดือนแล้ว รู้สึกแบบว่าแข็งแรงขึ้นนิดนึง
แต่ก็อย่างว่า เหล้ากับผมคู่กันแล้วหายนะเกิดบ่อย เลยต้องพยายามละมัน
ขอบคุณทุกคนที่มารอนะครับผม ขอให้วันหยุดสำคัญนี้เป้นช่วงเวลาที่ดีสำหรับทุกคน และถ้ามีเวลาก็ควรเข้าวัดบ้างนะครับ ผมไปทำบุญมาแล้วเหมือนกัน สุขกาย สุขใจ นะครับ