ที่ไม่มาต่อนิ โทษเยอรมันเลยนะพี่น้อง ฮ่าๆๆ
มาต่อละเน้อ
กว่าจะปรึกษา หารือกันจบ เล่นเอาพวกปีสองเหนื่อยหอบไปตามๆกัน พวกนี้มันไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเป็นรุ่นพี่หนักแค่ไหน พอได้สัมผัส หลายคนถึงกับเดินมาขอโทษขอโพยพี่ๆ ที่เคยก่อกวนกันตอนรับน้อง
“ คิม เป็นไงบ้าง ” ผมหันไปมอง
“ สบายดีพี่ ปิดเทอมเที่ยวไหนนิ ” พี่โจสุดหล่อเดินมาทักทาย ตั้งแต่แกเมาจนพูดจาไม่เป็นเรื่องวันนั้น ผมไม่กล้าคุยด้วยเลยครับ แอบกลัวว่าจะมาเปิดศึกชิงคนหล่ออย่างผม ฮ่าๆๆ
“ ไปไหนได้ล่ะ วนเวียนแถวๆนี้ .......... กับพี่ดิษ โอเคไหม ” ถามจนได้
“ เรียบร้อยแล้วพี่ ขอบคุณที่ห่วงนะครับ ผมไปนะ ” ผมรีบลุกหนี เวลาคุยเรื่องนี้ รู้สึกร้อนอกร้อนใจบอกไม่ถูก
“ คิม ”
“ ครับ ” พี่โจเดินมาใกล้
“ พี่ว่าเราเป็นพี่น้องกันก็พอเนอะ ”
“ ครับ เราเป็นพี่น้องกันตั้งสองปีแล้วนี่ ” พี่โจยิ้มๆ
“ พี่ลืมว่าคิมเป็นน้องไปตั้งแต่วันนั้น แต่พี่จะไม่คิดอีกละ ไปเถอะน้องชาย ” พี่โจเป็นฝ่ายเดินหนีไปครับ เฮ้อ กูมีดีอะไรวะ ถึงมีแต่คนมาทำดีด้วย เอาล่ะ อย่างน้อยผมจะไม่หักหาญน้ำใจใคร ทำตัวเป็นคนดีกับเค้าบ้าง
ผมกลับมาที่หอ เจอไอวินยืนดักอยู่ที่หน้าห้อง
“ มีอะไร ” ผมถามมัน
“ ปล่าว ”
“ มึงจะมาชวนกูไปเดินตลาดนัดอีกเหรอ ”
“ ฮ่าๆๆๆ ผมมาชวนเพื่อนไปเที่ยว ” เพื่อนมึง สงสัยหมายถึงดิษจูเนียร์
“ ทำไมไม่เข้าไปในห้อง ไม่ได้ล็อคนี่หว่า ” ผมเดินเข้าไปไม่ทันได้เคาะประตู
“ เฮ้ยยยย ”
“ เฮ้ยยยยย ” ไอเดย์มันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ไม่ยอมล็อคประตูเฉย
“ เข้ามาทำไมพี่ ” ดูมันถาม
“ เอ๊า ห้องกูเหมือนกันนะเว้ย มึงจะเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนแสง ทำไมไม่ล็อคประตู ”
“ ..... มึงออกไปนอกห้องทำไมวะ ” ผมหันไปตามนิ้วของไอเดย์ มันชี้มาที่ไอวิน ไอนั่นกำลังยืนนิ่งไม่พูดไม่จา
“ กูว่าจะไปดูดบุหรี่ กลัวจะเหม็นในห้อง ”
“ เออๆ รีบๆแต่งตัว แล้วออกไปกันซะไป ” ผมไล่ไอสองคนนั้น
“ พี่ให้ผมซื้อของมาฝากไหม ” ไอวินถามผมก่อนออกไป
“ ซื้อๆมาเหอะ กินได้ทั้งนั้น ”
“ เหอะ ถามพี่เค้าทำไมวะวิน อายุตั้งมาก หาข้าวกินเองไม่เป็นหรือไง ” ไอวินตาเหลือกเลย มันรู้นิสัยกันอยู่ครับ ผมไม่ชอบคนพวกกวนทรีนอะ ถึงผมจะชอบกวนทรีนชาวบ้านก็เถอะ
“ แล้วมึงเผือกอะไร ”
“ ผมล้อเล่นๆ ” ไอเชี้ยนี่ล้อเล่นจริงจังมากเลยว่ะ
“ เดี๋ยวผมซื้อมาฝากครับ ” ผมโบกมือไล่มันสองคนอีกครั้ง พอมันไป ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรคุยกับไอดิษต่อ
ไอดิษเล่าว่าไร่ของมันมีแนวรั้วแล้ว ต้องขอซื้อน้ำมาใช้ชั่วคราว เพราะท่อประปายังไม่มาต่อให้ มันบอกด้วยว่าพาไอพงไปสมัครเรียนแล้ว
“ เออดิษ พ่อกับแม่กู ทำท่าจะจับคู่ให้กูด้วย ”
“ ว่าไงนะ ” เสียงหลงมาเชียว
“ อย่างที่บอกอะ ลูกผู้ใหญ่ด้วยนะ ”
“ เกิดอยากเป็นลูกเขยคนใหญ่คนโตเหรอ ” แหมๆ มีกวน
“ ไม่เว้ย แต่ที่เล่าให้ฟัง เพราะกูกลัวว่ะ ” ไอดิษเงียบไปพักนึง
“ คิม พี่ตามคิมไปทุกที่ไม่ได้ คิมรู้ใช่ไหม ”
“ อืม กูรู้ แต่มึงก็รู้ด้วยนี่ ว่ากูมีนิสัยแบบไหน ” ตั้งแต่ผมคบกับมัน และตั้งแต่มันโกรธผมครั้งที่ผ่านมา ยอมรับว่าผมกล้ามองตัวเองมากขึ้นนะ กล้ายอมรับว่าตัวเองไม่ดีในหลายๆเรื่อง
“ อย่าหวั่นไหวสิ เพราะถ้าคิมหวั่นไหว แสดงว่าพี่ไม่ดีพอนะ ” พอมันตัดพ้อตัวเอง ผมเลยเลี่ยงคุยเรื่องอื่นแทน โดยที่ยังไม่ได้บอกว่า ผมกลัวใจของพ่อกับแม่มากกว่า
ผมนอนกลิ้งเกลือก ดูหนังสือไปเริ่มเบื่อ ตัดสินใจเดินลงมานั่งดูทีวีกับพวกชาวหอ ไอพวกตัวดีอยู่กันเยอะครับ
“ ไงคุณเพื่อนทั้งหลาย เดี๋ยวนี้เพื่อนไม่สำคัญเลยเนอะ สงสัยรับน้องต้องจัดเพื่อนตัวเองหน่อยมั้ง ” ไอเร ไอโต้ง ไอวาฬกำลังกินขนม นิ่งไปเลย ฮ่าๆๆ
“ ทีตัวเองหายไปอยู่กับแฟน ยังไม่มีใครว่าเลยนะคร้าบท่านวาก ”
“ วิ้ววๆๆ พี่วากมีแฟนจริงอะ ใครๆ ” แม่งพูดตอนปีสองอยู่ด้วยอีก พวกเวร
“ ปากอะ ปาก ...... เออมึงรู้แล้วใช่ปะ ต้องลงกันตอนไหน วันไหน ”
“ เล่ามาเพื่อน ” ผมบอกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ช่วงนี้สบายๆครับ เพราะปีหนึ่งที่เช่าหอยังไม่มา แต่หลังจากน้องๆมา ผมต้องเริ่มแสดงละครกันอีก จะว่าไปเรื่อยเบื่อนะเนี่ย
“ พี่ๆ ” มันเรียกใครพี่วะ
“ เฮ้ย ... ไม่ใช่นี่หว่า ” ไอโต้งตกใจรีบวางขนม จะยกมือไหว้ ไอคนที่เรียกผมคือไอเดย์ครับ
“ หน้าเหมือนพี่ดิษนะนิ ไม่เคยเห็นมันเลยนะ ” ไอเรบอกอีกคน
“ แล้วมันเรียกใคร ” ไอวาฬพูด
“ เรียกกูนี่แหละ กูไปก่อนนะเว้ย ” ผมเดินมากับน้องสองคนนั้น หอนี้ไม่ให้เอาของขึ้นมากินหรอกครับ แต่ผมก็ทำมาสองปีละ
“ ไปไหนมา ” ไอวินยังไม่ลงไปห้องมัน ผมเทข้าวใส่จานแล้วมานั่งกับมัน
“ แถวนี้อะ พี่ดิษว่าไง ” ผมรีบหันไปมองไอเดย์ มันจ้องผมรออยู่แล้ว
“ ดิษนี่ใครวิน ” เอาแล้วไง
“ ไม่ต้องรู้หรอก ว่าไงๆ ” ไอวินขยับมาใกล้กว่าเดิม ยังดีที่มันไม่ยอมบอกไอเดย์
“ เรียบร้อย ”
“ สองคนนี่มีความลับกันจริงนะ ” ไอเดย์สอดอีกรอบ มันถอดเสื้อออก เดินมานั่งข้างไอวิน พอผมกินข้าวเสร็จไอวิวินถึงลงไปข้างล่าง ไม่วายไอเดย์ตามลงไปอีก ผมเริ่มจะสงสัยมันแล้วดิ ท่าทางแบบนี้ไม่ค่อยเหมือนเพื่อนเค้าทำกัน
“ เฮ้อ ” ไม่นานไอเดย์ก็ขึ้นมา
“ มึง ” ผมเรียกมัน ชื่อเก๋ไหมล่ะ ฮ่าๆ
“ มีอะไรพี่ ”
“ มึงเป็นเกย์หรือปล่าว ” ไอเดย์อ้าปากค้าง
“ เหอะๆ พี่บ้าหรือปล่าว ผมเหมือนเกย์ตรงไหน ”
“ มึงไม่เหมือนไง กูถึงถาม เป็นก็รีบบอกมา ก่อนที่กูจะจับได้ ” มันเริ่มมองซ้ายทีขวาที
“ ผมไม่ใช่นะพี่ ”
“ เออๆ ไม่ใช่ก็อย่าจริงจัง กูถามไปงั้นแหละ ” ผมเห็นมันหงอยผิดหูผิดตา เลยไม่ถามต่อ แต่มันดันเดินมานั่งที่เตียงผมแทน
“ ท่าทางผมออกใช่ปะ ” ผมมองตั้งแต่หัวจรดเท้าของมัน
“ ไม่นี่ ”
“ งั้นพี่ถามทำไม ” ไอนี่ชักจะจริงจังมากไปนะ
“ กูเห็นมึงอี๋อ๋อกับไอวิน เลยถาม ”
“ .......... ” มันลุกขึ้น เดินเข้าห้องน้ำ มันโกรธกูหรือปล่าววะ ผมเริ่มจะรู้สึกที่ถามมันแบบนี้ อย่างว่า ขนาดตอนที่ผมโดนพี่โจใส่ความ ผมยังโกรธจนต่อยพี่แกคว่ำ
“ พี่รังเกียจพวกเกย์ใช่ปะ ”
“ เฮ้ย โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียง กูกำลังคิดเพลินๆ ” มันโผล่หัวออกมาจากห้องน้ำ
“ ใช่ปะ ”
“ ไม่นี่ ทำไมต้องเกลียด ” มันปิดประตู สงสัยจะล้างตัว พักนึงถึงเดินออกมา
“ ผมเชื่อใจพี่นะ ขอปรึกษาหน่อย ”
“ ก็เอาดิ ” มันนั่งลงตรงหน้าผม
“ ผมว่า ผมแอบชอบไอวินมันพี่ ”
“ ห๊า ชอบ ชอบจริงอะ ” ไอเดย์มันสาธยายต่อว่า ทีแรกมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับไอวิน มันเห็นแค่ไอวินดูดี แต่หลังๆมันอยากรู้จัก แค่ได้คุยด้วยก็พอ และมันเริ่มไม่ค่อยมองหาสาวๆด้วย
“ มึงว่ามาก็ไวไป บางทีอาจจะเพราะมึงอยากมีเพื่อนสนิท และถูกชะตากับมัน ”
“ ใช่ปะพี่ ผมก็คิดงั้นแหละ ” ผมมองมัน และนึกถึงไอดิษ แต่ไม่ได้คิดในทำนองนั้นนะ คิดถึงตอนที่มันสับสน หน้าตามันจะเป็นแบบนี้ไหม
“ แต่ขอเตือน ถ้ารู้สึกมากกว่านั้น มึงห่างๆกันซะ ”
“ ทำไมล่ะ ” ผมถอนหายใจ ไม่กล้าบอกมันว่า ประสบการณ์นี้กูเจอมากับตัว และผมรู้ว่าความใกล้ชิดมีอิทธิพลให้คนรักกัน
“ เออน่า ไว้ค่อยอธิบายให้ฟัง วันนี้กูง่วง จะอ่านหนังสือ ฟังเพลง ตามใจนะ ไม่ต้องเกรงใจ ” ไอเดย์ยังงงอยู่ มันเดินไปหยิบคอมโน้ตบุ๊คมาเปิดเล่น บ้านรวยนะมึง ผมกลิ้งไปกลิ้งมาทีสองทีก็นอนหลับ
เช้าวันต่อมา ผมตื่นแต่เช้า โดยที่ไอเดย์มันนอนหลับก่ายเต็มเตียง ผมลุกไปล้างหน้าล้างตาเงียบๆไม่อยากรบกวนมัน แล้วออกมาจากห้องเลย วันนี้ผมนัดเพื่อนๆมาที่คณะ จะได้มาคุยงานกันต่อ และเพราะว่าปีนี้คณบดีคนเก่าอยู่ครบวาระ เป็นคณบดีคนใหม่ ท่านเรียกประชุมพวกผมครับ
“ คิมเว้ย ”
“ ..... ไงวะ ” ไอเรเรียกผมครับ ที่ผมเงียบไปตอนที่มันเรียก เพราะผมเห็นมันเดินมากับน้องผู้หญิงชมรมเดียวกับมัน ท่าทางสนิทสนมด้วย สงสัยมันจะเลือกน้องคนนี้ ไม่ได้เลือกดา
“ กูไปช้าหน่อย ขอไปส่งน้องขึ้นรถก่อน ” ผมดึงมันมาห่างๆ
“ ตกลงคนนี้ปะ ”
“ ไม่ใช่ๆ ”
“ งั้นดาล่ะสิ ” ไอเรนิ่งๆ
“ คงไม่ใช่แน่ ” มึงจะเอาไงแน่เนี่ย ผมไม่ถามต่อให้มันไปทำธุระ ผมมาที่คณะโดยที่พวกพี่ๆเตรียมเข้าประชุมแล้ว
ผมนั่งประชุมกับคณบดีคนใหม่ คนนี้บอกไม่ถูกครับ ท่านเป็นศิษย์สายเกษตรนะ แต่แนวคิดท่านไม่ใช่เลย
“ ปีนี้ ผมขอลดการประชุมเชียร์จากสองวัน เป็นหนึ่งวัน แต่ช่วงปีสามปีสี่ลง ผมให้สองวัน ”
“ ขออภัยครับอาจารย์ สองวันคงไม่พอนะครับ ” พี่ปีสามคนนึงทัก พี่คนนี้เป็นแนวสายแข็ง และไม่ค่อยถูกกับผมด้วย แกแข็งแบบใช้แรง และกดดันน้องๆหนัก ผิดกับผมที่จบแค่กิจกรรม
“ ผมมาคุยกับคุณ เพื่อให้ทำตามได้ ผมไม่อยากให้คณะเราถูกติติงมาก จากคณะอื่น ” อันนี้ผมเข้าใจนะ เพราะคณะผมไม่ค่อยเป็นที่รัก ด้วยที่ว่ารับน้องหนัก และชอบมีเรื่องนอกมหาลัย
“ ครับ ” แกยอมง่ายผิดปกติว่ะ
พอประชุมเสร็จ ถึงรู้ว่าพี่กลุ่มนั้นจะไม่สนที่คณบดีขอร้อง แต่จะรับกันหนัก พี่ฟาง พี่โจแม้จะเป็นแกนนำ แต่ต้องเข้าใจว่า กลุ่มบริหารก็ส่วนหนึ่ง ตอนทำกิจกรรมก็ส่วนหนึ่ง และปีสี่ชุดนี้มีซีเนียร์รับมาหนัก ผมชักจะห่วงๆ เลยตัดสินใจขอคุยกับพี่ฟาง พี่โจ
“ อ้าว ไม่ทราบว่าคุยอยู่ ขออภัยครับ ” พอผมแอบๆเข้ามา เพิ่งเห็นว่าคณบดีกำลังคุยอยู่กับพี่ๆ
“ น้องมาเลยๆ เป็นวากเกอร์ใช่ไหม ” คณบดีเรียกผมน้องเหรอ
“ ครับ ” ท่านเชิญผมเข้าไปอีกคน
“ ผมรู้ว่าเรามีปัญหาภายใน ถ้าเราคุมกันไม่ได้ คณะเราจะโดนตัดงบกิจกรรม พวกน้องน่ะจะลำบาก ” พอคุยแบบนี้ แกดูมีมาดผู้นำกว่าเดิม ผู้นำแบบลุยๆนะครับ
“ ผมจะพยายามครับ ”
“ วาก อยู่ฝ่ายไหน ” คุยกับผมละครับ
“ ผมก็อยู่กับพี่ๆนี่แหละครับ ”
“ ดี งั้นช่วยๆกัน ถ้ากลุ่มนั้นจะเป็นตัวถ่วง ตัดมันออกไป สู้ๆนะ ” ผมยังงงอยู่เลยอะ
“ อะไรวะพี่ ” ผมถามพี่ฟาง
“ เตรียมตัวทำศึกเหอะ ปะๆ ” ผมชักจะได้กลิ่นทะแม่งๆในคณะตัวเอง หรือกำลังจะมีศึกภายในอย่างที่พี่ๆว่ามาจริงๆ
************************************************************