ช่วงนี้งานเยอะมากเลยอ่ะ รามก็จะสอบอีกแล้วด้วย กลับมาบ้าน เหนื่อยแทบทุกวันครับ บางทีอยากมาต่อให้ แต่พอเปิดคอมขึ้นมาก็ง่วงแล้ว เลยหายไปนาน วันนี้ขอดูก่อนนะครับ ว่าจะไปรอดไหม
ในที่สุดก็เสร็จครับ มาอ่านกันต่อเร็วๆๆ ^^
ผมช่วยวางโครงเพิงเก็บของจนเสร็จ พี่กกกับพี่น้อยไปช่วยกับทำที่พักขนาดย่อม เอาไว้นอนเฝ้าไร่ โดยที่ไอดิษมันจะมาเฝ้าเอง ส่วนที่เหลือมันไล่กลับไปนอนที่บ้านของผู้ใหญ่ ผมดูจากสภาพแล้ว ถ้ามันอยู่คนเดียวคงจะเหงามาก กะว่าจะไปขออยู่เป็นเพื่อนซะหน่อย
“ พง คืนนี้ ให้คนนี้นอนห้องพี่นะ พี่จะเฝ้าไร่ ” เดี๋ยวนี้มึงไม่เรียกชื่อกูเลยนะ
“ หัวหน้า วันนี้ยังไม่มีข้าวมีของ ยังไม่ต้องเฝ้าหรอก ” พี่น้อยบอกไอดิษ
“ นั่นดิ ชอบทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วง ”
“ ฮ่าๆๆ ” พวกพี่กับไอพงหัวเราะออกมาทันทีที่ผมพูด มันตลกตรงไหนวะ
“ พี่ดิษชอบทำแบบนี้จริงๆด้วยพี่คิม ”
“ เออๆ งั้นพรุ่งนี้เจอกัน เอากี่โมง ” อย่างว่า คนอกหักอะนะ ชอบทำตัวเป็นภาระ มันคุยเสร็จก็หายวับไปทันที ปล่อยให้ผมกับไอพงอยู่ที่ไร่
“ พี่คิม ตกลงพี่มาช่วยงานพี่ดิษจริงอะ ” ไอเด็กนี่จมูกท่าจะไวนะ
“ อืม เดะ ไม่ให้มาช่วยงาน จะให้มาทำอะไร ”
“ ผมเห็นสนิทกันมาก นึกว่า ”
“ ไปๆ พาพี่กลับบ้านได้ละ ” ผมไม่รู้หรอกว่า ไอเด็กพงจะพูดอะไร แต่ผมมาที่นี่เพื่อทวงของๆผมคืน ผมไม่อยากให้คนอื่นมาเป็นตัวแปรเพิ่ม เลยไม่คุยกับไอเด็กนี่
พอกลับถึงบ้านของผู้ใหญ่ ไอดิษกำลังยืนคุยกับผู้ใหญ่อยู่ แต่แหม มันเล่นถอดเสื้อโชหุ่นซะ
“ พี่ดิษหุ่นดีเนอะ ”
“ ใช่ดิ มันเป็นนักกีฬาสมัยเรียนมหาลัย ” ผมบอกไอพง
“ อยากหุ่นแบบพี่แกบ้าง ” ผมมองจากหุ่นของมันแล้ว เรื่องความสูงหายห่วง เพราะไอพงมันสูงกว่าผมอีก
“ กินข้าว กินนม ออกกำลังกายดิ ”
“ พยายามแล้วนะพี่ แต่มันมาแค่เนี่ย ” ไอพงถกเสื้อขึ้นให้ดู อะไรกันเนี่ย มันมีกล้ามเนื้อ และผิวขาวด้วย ผมงี้มองซะเพลินอีกล่ะ ฮ่าๆ
“ ไอพง !!!!!! ” เสียงโหดแบบนี้ ไอวากบ้าพลังชัว
“ อะไรพี่ ” ไอพงรีบวิ่งไปหาไอดิษ
“ ซื้อเบียร์ บุหรี่มา แล้วมึงอยากกินอะไรก็ซื้อมา ”
“ พี่คิมไปกับผมไหมพี่ ”
“ ไม่ต้อง ที่ซุกนอนยังไม่มีเลย จะไปด้วยทำไม ตามมา ” ผมกำลังจะอ้าปากว่าอยากไปด้วย ไอวากบ้าแม่งดักคอซะอีก ผู้ใหญ่จันทร์มองพวกผม แล้วก็หัวเราะ แกคงจะสนุกแกมั้ง
ไอดิษพาผมขึ้นมาบนชั้นสอง ต้องบรรยายก่อนว่า ชั้นสองนี่คล้ายๆกับศาลาการเปรียญของวัดอะครับ คือจะโล่งๆ และจะมีห้องแยกๆกัน ผมเดินมาถึงมุมๆนึง ไอดิษโยนมุ้งกับที่นอนให้
“ ให้นอนนี่อะนะ ” ไอดิษเลิกคิ้วสูง
“ ใช่ คิดว่าจะได้นอนที่ไหน ห้องไอพงหรือไง ” พูดกับกู แล้วไปพาลไอพงทำไมวะ
“ ไอพงมีห้องด้วยเหรอ ”
“ นี่ !!!!! มันยังเด็ก อย่าแม้แต่จะคิด ” ผมยืนนึกแป็บเดียว
“ เหอะๆ นี่มึงคิดว่ากูจะแดกไอพงเหรอวะ ฮ่าๆๆๆๆ ” ผมหัวเราะอยู่ดีๆ ไอดิษมันตรงเข้ามากระชากคอเสื้ออย่างแรง อันนี้ผมอึ้งเลยครับ ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงกับผม
“ อย่าเอาสันดานไม่ดี มาทำให้คนดีๆต้องเสีย เรื่องเลวๆถ้าอยากทำ เอากลับไปทำที่มหาลัย ”
“ ดิษ แรงไปไหมวะ ” ผมฟังมันพูดแล้ว เจ็บนะ มันพูดเหมือนผมหาดีไม่ได้เลย
“ แรงหรือไม่แรง ใช้หัวคิดเอาสิ ....... ห้องน้ำเดินลงไปตรงนู้น หมดธุระกูแล้วนะ ” ไอดิษปล่อยคอเสื้อผม และเดินจากไปเฉยๆ ผมวางกระเป๋าลง และนั่งตรงมุมๆนั้น น้ำตาของผมเกือบไหลออกมา เพราะมันว่าผมแรงมาก ในชีวิตของผม แม้แต่พ่อที่ชอบดุด่าว่ากล่าวต่างๆนาๆ ก็ไม่เคยพูดถึงขนาดนี้ ขณะที่ความคิดกำลังฟุ้งซ่าน ผู้ใหญ่ก็เดินมาพอดี
“ เป็นจังได๋ พอนอนได้บ่ ”
“ อ๋อ ได้ครับ เคยนอนลำบากกว่านี้อีก ” ผู้ใหญ่นั่งลงข้างๆ
“ เป็นลูกอ้ายโรจน์ คือบ่เว้า ”
“ อ้าว ผู้ใหญ่รู้จักพ่อผมด้วยเหรอ ” ผู้ใหญ่มองผมแต่ไม่ตอบ กลับถอนหายใจยาวๆ และลูบหลังผมอย่างเอ็นดู
ผู้ใหญ่จันทร์ พอมองดูดีๆ ผมรู้สึกไปเองหรือปล่าวก็ไม่ทราบ ผมว่าแกคล้ายไอดิษอะ ผมมองจากดวงตาดุนิดๆ และพอแกถกแขนเสื้อ ผมถึงเห็นว่าแกผิวขาวด้วย
“ กะรู้จักอยู่ เคยไปเฮ็ดงานให้อยู่ ”
“ ครับ ”
“ กลางค่ำกลางคืน กะมีต๊กโตอยู่เด้อ เห้อๆๆ เอ้าๆตามสบายเด้อ ” ต๊กโตนี่อะไรวะ ช่างเหอะ มันคงไม่น่ากลัวเหมือนตุ๊กแกหรอกมั้ง
ผมอาบน้ำอาบท่า โชคดีที่แถวนี้เป็นเทศบาลแล้ว มีน้ำประปามาถึง เลยไม่ลำบากมาก หลังจากทำธุระเสร็จ ผมเดินๆมาแอบมองว่าเค้าอยู่ที่ไหนกัน ผมเห็นไอดิษ ไอพง กับพี่สองคนกำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ แต่ละคนถอดเสื้อกันหมด อันนี้คงไม่ใช่เพราะอยากโชหุ่นกันหรอกครับ แต่เพราะอากาศมันร้อน ผมใส่กางเกงบอลขาสั้น และเดินลงมา
“ กินอะไรกัน กินด้วยๆ ”
“ ป๊าดดดดด พี่คิม ขาวแท๊ ” ไอพงพูดก่อนใครเลย
“ มาๆคิม มานั่งๆ ” พี่น้อยเรียกผมครับ ผมไปนั่งข้างๆแก ไอพงงี้มองไม่วางสายตาเลย
“ เฮ้ย เติมน้ำแข็งดิ๊ ” ไอดิษเริ่มจะฟาดงวงฟาดงาละครับ
“ เรียกดีๆก็ได้ โถ่ ”
“ นี่จบแล้วบ่ครับ ” พี่กกถามผมมั่ง
“ ยังครับ พอดีมาหาไอ ......... เอ่อๆ พี่ดิษครับ ”
“ ใครใช้ให้มา ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ” พูดจาเหมือนตอนที่เพิ่งเจอกันใหม่ๆเลยว่ะ กวนมาก
“ พี่คิมมาก็ดีนะ จะได้สอนการบ้านผมด้วย ” ไอพงนี่ชื่นชมผมเป็นพิเศษนะ ดีครับ อย่างน้อยกูก็มีแนวร่วมคนนึงละ
“ กูก็สอนได้ กูเก่งกว่ามันอีก ”
“ มันไม่แน่ทุกวิชาหรอก ” ผมกวนมันกลับครับ มันก็กัดฟันกรอดๆตามนิสัยมัน พวกผมนั่งคุยเล่นกันไป ยกเบียร์กันไป พอฟ้าเริ่มมืด พี่ๆสองคนแยกย้ายกลับบ้านไป เหลือแค่ผมสามคน
“ ผมไปอาบน้ำนอนดีกว่า ง่วงมาก ฝันดีเด้อพี่คิม ” ไอพงมันไม่ได้ดื่มเบียร์หรอกครับ พอมันกินข้าวอิ่มก็ขอตัว ทีนี้เลยเหลือแค่ผมกับไอดิษแค่สองคน
“ เก็บของด้วยนะ ล้างด้วย ”
“ เฮ้ยๆๆๆ มึงจะไปไหนอะ กินด้วยกัน ก็ช่วยด้วยดิวะ ” ไอดิษจะไปนอนเลยครับ ผมรีบบอกให้มันช่วยล้างจานกับผม
“ เบียร์เนี่ยใครออกเงิน ข้าวเนี่ยใครออก มากินข้าวบ้านเค้าฟรีๆยังไม่รู้จักคิด ”
“ มึงจะพูดจาแบบนี้กับกูอีกนานไหม มึงโกรธกูมาก แต่ก็ไม่เห็นต้องพูดแบบนี้นี่วะ ” ไอดิษยืนขึ้น
“ แล้วใครที่มาบอกเลิกกับกู ทำให้กู ........ ทำให้กู ” มันกลืนน้ำลายอย่างลำบาก จ้องผมไม่วางตา เวลาเมาตาของมันยิ่งน่ากลัวครับ
“ กูขอโทษนะดิษ ”
“ พอเลย บอกแล้วใช่ไหม อย่ามาทำแบบนี้ที่นี่ ไม่ใช่ที่ๆมึงจะทำอะไรก็ได้นะ ” มันพูดจบก็จะเดินหนีอีก แต่ผมสังเกตเห็นบางอย่างเข้าพอดี
“ เฮ้ย !!!!!!! ” ไอดิษยืนนิ่ง ผมเดินตามหลังมันไป
“ มีอะไรอีก ”
“ สร้อย มึงห้อยแหวนของกูไว้ด้วยใช่ไหม ” ผมดิษรีบมองที่สร้อย และเอามือปิดไว้ มันเอาแหวนที่ผมคืนให้มาแขวนไว้ครับ
“ กูง่วงนอน รีบไปล้างจานซะก่อนที่จะมืดกว่านี้ พรุ่งนี้มีงานอีกมาก ” มันเดินหนีไปอีกจนได้ แต่ผมยังยิ้มได้ครับ อย่างน้อยมันก็ยังมีความทรงจำดีๆกับผม
ผมเก็บจานชาม แก้วน้ำมานั่งล้างที่หลังบ้าน ตอนที่ล้างๆก็มีเสียงตุ๊กแกร้องสนั่นบ้านไปหมด ผมกลัวตุ๊กแกมากเลยนะครับ ทำไมไม่เห็นมีใครพูดก่อนเลยว่าตุ๊กแกชุม มีแต่บอกว่าต๊กโตๆ
“ เอ้า ” ผมตกใจรีบหันไปตามเสียง
“ สะ สวัสดีครับ ” ผมเห็นผู้หญิงวัยกลางคนๆนึงครับ รูปร่างท้วมๆ แต่หน้าตาเป็นมิตรมาก
“ ผู้ใดนิ ”
“ ผมเป็นเพื่อนกับพี่ดิษครับ มาช่วยทำงาน ”
“ อ่อๆ เหรอคะ ” น้าคนนั้นเดินมาช่วยผมล้างจานครับ น้าแนะนำตัวว่าเป็นเมียของผู้ใหญ่จันทร์ เพิ่งกลับจากหาเห็ดกับหน่อไม้ในป่า
“ ดีแท่น้อ มีญาติมาเยี่ยมมาหาผู้ใหญ่แกเบิ้ง ”
“ ใครเหรอครับ ” ผมยังไม่เห็นใครจะมาที่บ้างนี้นอกจากผมกับไอดิษอะครับ
“ กะบักดิษไง บ่ฮู้ติ ”
“ ยังไงนะครับ ใครญาติใครนะครับ ”
“ เอ้า กะผู้ใหญ่น่ะเป็นพี่ของอีหล่า เอ้อๆ น้องสาวของผู้ใหญ่ เป็นแม่แท้ๆบักดิษไง ” หืม ผู้ใหญ่เป็นลุงของไอดิษอะสิ
“ งั้นนี่ก็เป็นบ้านของแม่แท้ๆพี่ดิษสิครับ ” น้าแกพยักหน้าอย่างเร็ว ผมอึ้งไปเลยครับ ผมนึกภาพย้อนกลับไปว่า ทำไมผู้ใหญ่จันทร์ถึงหน้าตาคล้ายๆไอดิษ
“ พงนี่เป็นลูกน้าใช่ไหมครับ ”
“ จ้ะ ลูกน้ามีสองคน ผู้ชายสองคน อีกคนไปทำงานในเมืองแล่ว ” ผมเข้าใจละครับว่าทำไมมันต้องโกรธผมตอนที่ผมกับไอพงอยู่ใกล้กันมากๆ
“ คิมอยากไปไหว้แม่บักดิษบ่ล่ะ ” แม่ของไอวาก แม่แท้ๆของมันสินะ
“ ไปสิครับ เดี๋ยวล้างจานก่อนเนอะ ” ผมเริ่มทำความรู้จักน้าสะใภ้ของไอดิษ แกน่ารักครับ คุยง่ายๆ พยายามสอนภาษาถิ่นให้ผมด้วย พอล้างจานเสร็จ น้าพาผมมาที่มุมอีกด้านที่ผมต้องนอน
มุมนั้นมีพระพุทธรูป โต๊ะหมู่บูชาครบ ผมกราบพระและสวดมนต์สั้นๆ น้าชี้ให้ผมดูที่อัฐิของแม่แท้ๆไอดิษ ผมได้มีโอกาสเห็นหน้าแม่แท้ๆของมันเป็นครั้งแรก ท่านสวยมากเลยครับ น้าบอกให้ผมอยู่ตามสบาย แกจะไปล้างของที่หามาได้ พวกเห็ด พวกของป่าอะครับ
ผมไหว้ที่รูป และดูอัลบั้มเก่าๆของท่าน ผมได้เห็นภาพของพ่อไอวากด้วย สมัยนั้นหล่อเฟี้ยวเลยล่ะครับ การแต่งกายไม่เหมือนสมัยนี้ กางเกงสีขาวๆสมัยนั้นคงจะนิยมกันมาก ผมเห็นในภาพถ่าย ใส่กันแทบทุกคน
และ ภาพที่ผมเห็นด้วยในนั้นคือ รูปของเด็กผู้ชายคนนึง ผมเดาว่าคงเป็นไอดิษ เพราะแม่ของมันกำลังอุ้ม และยืนข้างๆพ่อของมัน หน้าตาไม่มีเค้าโครงว่าจะเป็นอย่างวันนี้เลย ผมแอบนึกในใจเล่นๆว่า อยากเขกหัว อยากบีบแก้มตุ้ยนุ้ยของมันจริงๆ เฮ้อ ทำไมมึงถึงไม่มานั่งดูรูปพวกนี้กับกุนะไอวาก มึงนี่ใจแข็งกับกูเหลือเกิน
ผมวางอัลบั้มและรูปกลับที่เดิม และกราบอัฐิ กะว่าพรุ่งนี้จะไปหาซื้อพวงมาลัยมาไหว้ท่าน และจะขอกับท่านเรื่องหนึ่งด้วย ผมอยากจะขอท่านว่า ......... แม่ครับ ลูกชายของแม่คนนี้ ผมขอเถอะครับ