มาต่อล่ะครับ เด๋วตอนบ่ายๆ จะมาโพสตอนจบต่อครับ
คึกคัก มากมาย วันศุกร์
********************************************************************************
ผมครางออกมาเบาๆและแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ต้นมันกลับกุมมือผมแน่นขึ้น ผมอธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลยล่ะครับมันตื้นไปหมดผมทั้งตกใจทั้งดีใจว่าผมกำลังนั่งอยู่ข้างๆคนรักเก่าของผมอีกครั้ง
“ปล่อยมือผมเถอะ” ผมบอกมันเมื่อตั้งสติได้
“เรื่องไรล่ะ ปล่อยบอยก็หนีดิ” ผมกำลังจะอ้าปากเถียงมัน แต่ต้นมันกลับใช้มือที่ว่างชี้หน้าผม
“เงียบไปเลยนะถ้าไม่อยากโดนไล่ออกจากโรง คนอื่นเขาดูหนังกันอยู่”
แล้วผมจะกล้าเถียงอะไรมันล่ะครับ ผมเลยต้องยอมให้มันนั่งกุมมือผมดูหนังไปด้วยกันจนจบเรื่อง หลายฉากหลายตอนที่ผมหันไปสบตากับมันด้วยความบังเอิญ
ไม่สิผมต้องไม่แพ้ใจตัวเองผมลืมมันมาได้นานแล้ว ใจผมกำลังจะหายดี
ผมแกะมือมันออกเมื่อไฟเริ่มสว่างจ้าและคนอื่นๆก็ทยอยกันออกจากโรงแล้ว เราเพิ่งมีโอกาสมองหน้ากันชัดๆก่อนที่ต้นมันจะจามขึ้นมาอีก
มันคงไม่สบายแน่เลยล่ะครับ อากาศในโรงก็เย็นเฉียบขนาดนี้มือมันก็เย็นยังกะน้ำแข็ง
แต่ช่างมันเถอะผมกับมันจบกันไปนานแล้วจะเป็นจะตายช่างมัน แต่มันดันไอขึ้นมาอีกเหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิดเล่นเอาผมตกใจ โรคเก่าเล่นงานมึงแล้วสิเนี่ย
“ผมว่าเราออกไปจากนี่เถอะมันหนาว”
ต้นมันพยักหน้าตอบร่างกายมันคงไม่ไหวแล้ว จริงๆดูมันสลึมสลือกว่าจะเดินออกมาจากโรงได้เล่นเอาผมลุ้นแทบตายว่ามันจะล้มทรุดเมื่อไหร่ สุดท้ายมันก็พาร่างมันเองไปนั่งไอที่เก้าอี้นั่งพักจนได้
“ผมว่าพี่ไปหาหมอเถอะนะครับ”
ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์อื่นแล้วล่ะครับนอกจากห่วงมันเท่านั้น
“ไม่อ่ะเดี๋ยวนั่งพักแป็บ เดี๋ยวก็หาย”
“แล้วพี่มากะใคร” ต้นมันจ้องหน้าผม
“คนเดียว”
ผมอยากจะถามถึงขวัญแต่ก็ได้แค่อยากถามครับผมไม่อยากรื้อฟื้นอะไรทั้งนั้น
“ผมไม่รู้นะว่าตอนนี้ผมจะมีสิทธ์ห่วงพี่ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ในฐานะคนเคยรู้จักกันผมอยากให้พี่ไปหาหมอได้มั๊ยครับ”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะลากมันไปหาหมอแล้วล่ะครับอาการขนาดนี้ แต่ตอนนี้ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้อีก ผมก็แค่หวังว่ามันจะยอมฟังผมบ้างในฐานะคนเคยรู้จักกัน
“แค่คนเคยรู้จักกันแค่นั้นเหรอครับ”
มันมองหน้าผมเหมือนจะค้นหาอะไบางอย่างในแววตาผม มันทำให้ผมต้องย้ำคำเดิมเพื่อปกปิดความรู้สึกที่มันพยายามค้นหาไว้
“ครับแค่คนเคยรู้จักกัน”
“แต่สำหรับพี่ บอยเป็นมากกว่านั้น”
ผมเริ่มหวั่นไหวกับคำพูดและแววตามันอีกครั้ง ทำไมล่ะครับทำไมมันถึงได้มีอิทธิพลเหนือจิตใจผมได้ตลอดเวลา ผมอุตส่าห์หลีกหนีความเจ็บมาได้ตั้งนาน ผมต้องไม่หลงเชื่อกับคำพูดแค่นี้
ผมต้องไม่ใจอ่อนกับมันใช่มั๊ยครับ…..ผมต้องไม่ใจอ่อน…..
......กูจะไม่ใจอ่อนกับมึงอีก.....
“แต่สำหรับผมพี่เป็นได้แค่นั้น”
ผมเคยตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้วเมื่อครั้งที่คืนแหวนให้มัน ผมไม่ต้องการที่จะย้อนกลับเรื่องราวให้มันวุ่นวายอีก
ต้นมันเอาแต่มองผมมันไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ ถ้ามันเจ็บผมก็อยากให้มันรู้ว่าผมเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ามันที่ต้องกัดฟันเอ่ยคำนั้นออกไป แต่ทุกอย่างมันจบลงไปแล้ว แก้วที่มันร้าวยังไงก็ยากที่จะกลับมาผสานรอยเดิม
…ผมกับต้นก็คงจะเหมือนกัน……
“พี่เคยบอกว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับพี่ไม่มีใครบังคับพี่ได้ ผมก็คงทำได้แค่นี้พี่จะไปหาหมอหรือไม่ไปขึ้นอยู่ที่พี่แล้วล่ะครับ ส่วนผมคงช่วยพี่ได้แค่นี้ ดีใจที่ได้เจอ ดูแลตัวเองให้ดีนะครับ”
ผมก้าวเดินหันหลังออกมาจากมัน ไม่มีประโยชน์ที่ผมจะยืนทดสอบจิตใจตัวทั้งที่ผมรู้ว่าผมไม่มีทางชนะใจตัวเองได้เลย ถ้ายืนสบสายตากับมันนานๆ