"สุขสันต์ วันวาเลนไทน์ ทุกคนค่ะ" (ลงแทนแน๋ว แย้วกัน เอิ้กๆ) ตอนพิเศษ : ปากดี ขี้เหล้า เอาแต่ใจ - -“คนเราอะนะมันก็ต้องมีช่วงงี่เง่าสุดขีดของชีวิตเหมือนกันทุกคนอะแหละ แต่บังเอิญว่าไอโมมันมีวันนั้นมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเค้าเท่านั้นเอง ทำไงได้ “คนมันหล่อ ทำอะไรก็ดูดี” อิอิ (ไม่เกี่ยวกันเลยนะว่าปะ)
เช่นวันนี้ก็เหมือนกัน(วันไหน)
มันเป็นวันศุกร์ครับ วันศุกร์สุดหรรษาหลังจากที่ผมตรากตรำทำงานอย่างหนักและหน่วง(TOT) เพื่อนพ้องน้องพี่ของผมก็ชวนผมกับสุดที่รักไปแดนซ์ปลดปล่อยแรงเฉื่อยกัน แฮะ ไม่ต้องชวนให้มากความครับ
4 ทุ่มโดยประมาณไอโมกับเพื่อนพ้องก็ไปนั่งหน้าสลอนอยู่ที่ route กัน วันนี้ไอโมได้รับอนุญาตให้เมาได้ครับแฮะ อิอิ ก็แหมไม่ได้ดริ้ง แดร้ง ดรั้ง มานานหลายเพลานี้ครับ ขอซะหน่อยเหอะ หุหุ..
ด้วยความที่โต๊ะผมนะครับมีแต่ชายหนุ่ม ( ประมาณ 6-7 คนอะ) ก้เลยกลายเป็นเป้าสายตาของทั้งสาวๆและไม่สาวไปโดยปริยาย (ก็คนหน้าตาดีไง) แต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอกครับมาแดนซ์ มาดื่ม มาเมาครับ ไม่ได้มาจับคู่(ปากดีไปงั้นอิอิ)
ในขณะที่เพื่อนๆผมบางคนไปม่อสาวโต๊ะข้างๆ ผมก็ดริ้งอย่างเดียวแหละครับโดยมีสุดที่รักนั่งให้กำลังใจคลอเคลียไม่ยอมห่างอิอิ เขินจัง พอดริ้งได้ที่พอกึ่มๆก็ถึงเวลาแดนซ์สิครับ พยายามลากไอคิมไปแดนซ์ด้วยแล้วครับแต่มันไม่ไปอะ
“ไม่หล่ะ ไปสนุกกับเพื่อนเถอะ” มันว่าเงี๊ยะ เกล้ากระผมก็ไม่สนใจมันหล่ะครับ แฮะ..
แดนซ์กระจาย ออกสเต๊ปแบบชนิด ไมเคิล แจคสัน เรียกป๋า(อิอิ) แต่แล้วหลังจากที่ไอโมแดนซ์แบบลืมตายอยู่นั้น สายตาอันแหลมคมและหาเรื่องของผมก็ชแว๊ป ไปเห็นว่า ณ.ตรงที่ ที่ผมได้แสดงความเป็นเจ้าของไว้ ทั้งโต๊ะและคนนั่งเฝ้าโต๊ะนั้น ตอนนี้ได้มีผู้ไม่ประสงค์ดีกำลังจะงาบเอาหัวสุดที่รักผมเข้าปากอยู่มะร่อมมะร่อ
แหม๋ ...มันจี๊ดครับมันจี๊ด สาวอวบอึ๋ม นางนึงกำลังนั่งไขว้ห้างเอามือเท้าคางเอียงคอ(ฮึ่ม)กระซิบกระซาบอะไรซักอย่างกับไอคิมของกระผมอยู่...
ส่วนไอคิมอะเหรอครับ มันก็นั่งให้เค้ากระซิบมันเฉยอะดิครับ หน้าตาเคลิบเคลิ้มมากมาย
ไม่แค่นั้นครับไม่แค่นั้น สาวเจ้ายังเอามือลูบแข้งลูบขา ลูบหน้าลูบหลัง ( -^-)ไอคิมสุดที่รักผมด้วย แถมยังนั่งเบียดไอคิมซะนมทิ่มแขนมันเลยทีเดียว โฮ แล้วใครจะไปทนได้(ก็มึงไง)
พวกความอดทนเป็นศูนย์อย่างผม ยืนกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน หยุดแดนซ์ ณ บัดนาว แล้วเฝ้ามองปฏิกิริยา ของไอคุณคิมมันต่อไป ผมไม่สนใจว่าผู้หญิงเค้าจะทำอะไร แต่ที่ผมสนใจคือ ไอคิมอะแหละมันจะทำยังไง
ผมหยุดเต้น ยืนมองมันอยู่พักนึงครับ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะทำอะไร ก็ยังปล่อยให้หญิงไทยใจงามคนนั้น ประทุษร้ายร่างกายมันต่อไป
“ไอเจี่ย” ไม่บ่อยหรอกครับที่ผมจะสบถด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบนี้ นี่เป็นสัญญาณว่า
*กูกำลังโกรธเจี่ยๆเลย*
ไอโมเงียบครับแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอีกโต๊ะนึงที่เพื่อนผมกำลังม่อสาวอยู่ โดยสายตาผมไม่ได้เหลือบแลไปทางไอคิมกับผู้หญิงคนนั้นเลย....ไม่รู้สิครับตอนนั้นผมอยู่ในอารมณ์ไหนผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ...
ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะ ที่ไอแทนมันม่อสาวอยู่นั้น ก็มีสาวๆมาคุยกับผมเหมือนกันครับ แต่ด้วยอารมณ์ผมมันเซ็งเกินพิกัด อารมณ์ไม่ดีอย่างรุนแรง เธอๆทั้งหลายก็เลยได้ ตาขวางๆ พร้อมเสียงกัดฟันกร๊อดๆของไอโมตอบแทนสำหรับไมตรีจิตของพวกเธอไปซะชิบ
“กลับเหอะ” เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหูพร้อมกับลิ้นร้อนๆที่เลียแผล๊บที่ใบหูผม
ทำให้ไอโมสะดุ้งครับ เมื่อเงยหน้าจากแก้วเครื่องดื่มสีฟ้าสดใสขึ้นไปมอง ก็เห็นเป็นไอผู้ชายหน้าม่อผู้มีนามกรว่าคิม ยืนยิ้มกรุ่มกริ่มให้ผมอยู่ตรงหน้านี่เอง
รู้สึกโกรธ จนแทบคลั่งเลยครับ แม่มเป็นเจี่ยไรไม่รู้ อารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ ในระหว่างที่กูกำลังงอนอยู่มะกี้อะแม่มมึงไปทำหะอะไรที่ไหน ถึงได้ยิ้มจนปากแทบฉีกแบบนี้
อย่ามายิ้มโรคจิตให้กูแบบนี้นะเว้ยไอบ้า.งืดๆ ..ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งงอน ทั้งน้อยใจ ปนเปกันไปหมดครับ ยิ่งผสมกับความเมาเข้าไปด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ
“เฮ้ย แทน พวกกูกลับก่อนนะ” ผมได้ยินเสียงไอคิมมันสั่งเสียไอแทนแว้วๆ ไอแทนพยักหน้าหงึกหงัก
แล้วจากนั้นมันก็เอามืออันหยาบกระด้างของมันอะแหละครับ มาจับที่แขนผมที่ตอนนี้ยังคงนั่งก้มหน้าก้มตา มองเครื่องดื่มสวยๆที่อยู่ตรงหน้าแบบไม่สนใจใยดีมันเลยแม้เพียงเสี้ยวเล็บ
“เฮ้ย” พูดได้เท่านี้แหละครับไอโม
เมื่อไอคิมมันออกแรงหน่อยเดียว กระผมก็ปลิวตามมันไปเสียแล้ว ไม่อยากขัดขืนมันด้วยครับไม่มีกะใจอะ..กำลังหมดอาลัยตายอยากอยู่ครับไอโม..
“งอนอะไรอีกหล่ะ” ไอคิมมันถามผมขณะที่มันเลี้ยวรถออกมาจากซอยศูนย์วิจัยอะครับ ไอโมไม่พูดครับเงียบ
“โม ตกลงจะไม่พูดจริงๆเหรอ เป็นอะไร หึหึ” ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะครับ ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมันกำลังหัวเราะเยาะผม
ไอฟาย ไม่รู้ก็ควายแล้วหล่ะมึงว่ากูเป็นอะไร เด็กประถมมันยังรู้เลยว่าอารมณ์กูตอนนี้กำลังอยากกินหัวมึงอย่างหนักเลยแหละ หัวเราะเยาะกูอีกเลวมากเลยมึง
ไอโมก็ฉุนกึกเลยครับ จากแค่งอนๆ เคืองๆ และต้องการคำอธิบายเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วไอโมก็เลยฟิวส์ขาดครับ..
“จอด” พูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“อะไร..” น้ำเสียงที่มันตอบกลับมายังมีแววขำๆอยู่ในน้ำเสียงอยู่เลยครับ ไอฟายยยยยยยยย
“!!!จอด!!!” คราวนี้ไอโมตวาดเลยครับ น้ำตาคลอด้วยความเจ็บใจ
แล้วหันหน้าไปมองมันอย่างแค้นๆ ไอคิมหน้ามันเหวอเลยครับ แล้วมันก็เงียบ สีหน้าเริงรื่นเมื่อกี้เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเลยทีเดียว
“หูแตกเหรอ..บอกให้จอดไง จอด จอด จอด จอดเดี๋ยวนี้” โมโหอะลมออกหูวิ้งๆเลย มันไม่ยอมจอดครับ ไอโมก็เลยอาละวาดซะเลย
“เออ เว้ย จอดแล้ว เป็นห่ะไรวะ” แล้วมันก็เหยียบเบรค อย่างปัจจุบันทันด่วนจนเสียงล้อรถบดกับถนนดังเอี๊ยด ไอโมหัวสั่นหัวคลอนเลยครับ(ดีที่คาดเบล)
พอมันจอดรถเสร็จก็หันหน้ามาเหมือนกับจะกัดคอผมเลยอะครับ ไอโมก็มองสบตากะมันไม่ยอมหลบเหมือนกัน
“ลงไป”สั้นๆครับไอโม
ไอคิมมันอ้าปากค้างอีกรอบ มองผมอย่างโมโหสุดขีด โทษทีครับที่ผมไม่ใช่นางเอกหนังไทยที่จะยอมเดินลงรถพร้อมน้ำตาแล้วให้พระเอกขับรถย้อนกลับมารับ
“บอกให้ลงไปไง ลงไปเลยนะ ลงไปจากรถเราเลย” อาละวาดอีกรอบพร้อมกับน้ำตาที่ปริ่มๆจะไหลอยู่มะร่อมมะร่อ
ปากว่ากำปั้นก็ฟาดเพียะเข้าที่แก้มไอคิมมันครับ แบบมันไปเองอะไม่รู้ตัวนะ
“หะเอ้ย” ไอคิมมันสบถอย่างหยาบแล้ว เอามือดันหน้าผมให้ออกห่างจากมันให้มากที่สุดแล้วมันก้อเปิดประตูรถออกไปเลยครับ
พอมันลงจากรถเรียบร้อยพร้อมปิดประตูรถเสียงดัง ไอโมก็เผ่นผล่อยข้ามเกียร์รถเข้าประจำที่คนขับแล้วขับวืดๆ ออกไปเลยครับ ไม่ได้สนใจใยดีมันเลยซักนิด ขับรถไปน้ำตาก็ไหลพรากๆ
คือตอนนั้นผมโมโหมันอะครับที่มันทำเล่นๆกับความรู้สึกของผม ผมไม่รู้ว่าที่มันยอมให้ผู้หญิงคนนั้นใกล้ชิดกับมัน มันทำไปทำไม ทั้งๆที่ผมก็อยู่ตรงนั้นกับมันด้วยผมเห็นจะจะตา และก็เห็นว่ามันไม่ได้ปัดป้องอะไรผู้หญิงคนนั้นเลย
ผมอยากให้มันง้อผมอธิบายให้ผมฟังไม่ใช่ให้มันมานั่งหัวเราะเยาะผมแบบนี้ ตอนนี้ผมกับมันไม่ใช่แค่แฟนเหมือนเมื่อก่อนแต่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน...เราเป็นครอบครัวเดียวกัน...
ผมขับรถไม่ถึง 30 นาทีก็ถึงคอนโดฯแถวๆเอแบค พอถึงห้องไอโมก็ก้าวขาฉับๆเข้าไปในห้องนอนแล้วหงายผึงลงกับเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน..คิดไปต่างๆนาๆพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้อารมณ์กรุ่นๆของตัวเองมันเย็นลง….
ถึงจะทิ้งไอคิมมันไว้ข้างทางแบบนั้นแต่ผมก็ไม่ได้ห่วงอะไรมันมากหรอกครับผมคิดว่ามันคงมีปัญญาหาทางกลับบ้านเองได้ ถ้าไม่ได้ก็ให้มันตายอยู่แถวๆนั้นแหละ ก็ตอนนั้นยังเคืองมันอยู่มากนี้ครับ
ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่ห่วงมัน โกรธมันอยู่ แต่ในใจลึกๆก้แอบเงี่ยหูฟังเสียงประตูห้องอยู่ตลอดเวลาเหมือนกันครับ
ผมนอนเงี่ยหูฟังเสียงลูกบิดประตู พร้อมกับอารมณ์ที่ค่อยๆเย็นลง ความโกรธความโมโห ความน้อยใจค่อยๆทุเลาเบาบางลง แล้วจากนั้นไอโมก็หลับ( - -“)
************
ผมมารู้สึกตัวตื่นประมาณ ตอน ตี 5 กว่าๆ(ตอนกลับถึงห้องประมาณ ตี 2 ตี 3) ได้มั้งครับ พอตื่นก็ควานมือหาใครบางคนที่นอนกอดผมทุกค่ำคืนสิครับ แล้วไอโมก็พบกับความว่างเปล่า หัวคิ้วขมวดขึ้นมาทันใด
แล้วสมองน้อยๆก้อเริ่มใคร่ครวญ พอคิดได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบยื่นมือไปที่หัวเตียงแล้วมองนาฬิกาอย่างด่วนๆ
ความกังวลเริ่มมาเยือนป่านนี้แล้วทำไมไอคิมมันยังไม่ถึงบ้าน หรือว่า มันจะไปค้างบ้านพ่อแม่มัน แต่ก็ไม่น่าใช่นะ ปกติถ้ามันมีเรื่องทะเลาะอะไรกับผม...ที่สุดท้ายที่มันจะไปคือบ้านมัน
แล้วมันไปไหนทำไมมันยังมาไม่ถึงบ้าน เอาหล่ะสิครับ ไอโมกลุ้มแดกเลยทีเดียว รีบไสหัวตัวเองลุกจากที่นอนคว้าโทรศัพท์มือถือมาโทรหามันอย่างด่วนๆ
“ตืดดดดดดดดดดดดดดดดด ตืดดดดดดดดดดดดดดด ตืดดดดดดดดดดดด”
เสียงตืดยาวๆ จากปลายสายทำให้ผมรู้ว่าสัญญาณโทรศัพท์ว่างแต่ไม่มีคนรับ ผมกระหน่ำโทรอยู่ เป็น สิบๆครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมคือไม่มีคนรับ ไอโมเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆครับ
คว้าพวงกุญแจที่มีทั้งกุญแจรถผม กุญแจคอนโด และกุญแจอะไรมากมายอยู่ในนั้นแล้ววิ่งถลาออกจากห้องไปอย่างเร่งด่วน
ไอโมมายื่นหอบแฮกๆ อยู่ข้างๆรถคันจ้อยของผมที่จอดสงบนิ่งอยู่ แล้วจัดการโทรหาไอคิมอีกครั้ง...
ไอโมตกใจหน้าซีดเลยครับ เมื่อผมได้ยินเสียงเพลงเรียกเข้าดังแว่วๆออกมาจากรถผม ผมยื่นกุญแจไปเปิดประตูรถด้านคนขับออกอย่างช้าๆ
เสียงเพลงจากโทรศัพท์ยิ่งดังยิ่งกว่าเดิม ผมจึงเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ไอคิมที่วางอยู่ในช่องว่างของหน้ารถมาถือไว้
หัวใจไอโมเต้นตุบๆ อย่านะ อย่าเป็นอย่างที่ผมคิดเลย ไอโมน้ำตาคลอเบ้าอีกรอบ ใจเหมือนจะขาดเลย ผมควานมือเข้าไปในช่องที่ไอคิมมันเอาโทรศัพท์ไปวางไว้อีกรอบ แล้วค่อยๆดึงกระเป๋าหนังสีดำใบเล็กๆออกมา แล้วน้ำตาผมมันก็ไหลออกมาจริงๆ
นี้ผมทำอะไรลงไป ทำไมผมถึงไม่มีความยั้งคิดเอาเสียเลย ตอนนี้ไอคิมมันจะเป็นยังไงบ้าง จากรูทมาถึงเอแบค มันไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ ไอคิมมันจะกลับบ้านได้ยังไง ในเมือมันไม่มีเงินติดตัวเลยซักบาท โทรศัพท์ก็ไม่มีใช้ แล้วมันจะกลับยังไง มันจะเป็นยังไงบ้าง
..แต่ว่า นะ...แล้วไอโมก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมานิดๆครับ เมื่อคิดได้ว่าไอคิมมันคงไม่โง่ขนาดนั้นหรอก มันคงโบกแท็กซี่แล้วเก็บเงินปลายทางหล่ะมั้ง
แล้ว แล้วทำไมมันยังไม่ถึงห้องหล่ะ มันไปอยู่ไหน หรือว่า เกิดอะไรขึ้นกับไอคิม
เอาแล้วครับไอโมฟุ้งซ่านขึ้นมาอีกรอบ รีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนๆที่ไปเที่ยวด้วยกัน ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่รู้ไม่เห็น ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกสว่างคาตาไอโมแล้วเรียบร้อย กระผมจึงกดโทรศัพท์ไปที่บ้านมัน ทั้งๆที่ไม่อยากโทรเท่าไหร่กลัวพ่อกับแม่มันไม่สบายใจหน่ะครับ
ไอโมก็เลยถามอ้อมๆเอาและก็ได้คำตอบว่า
“เจ้าคิมนี้มันแย่จริงๆ มันไม่มาให้แม่เห็นหน้าก็ไม่เป็นไร น้องแตงโมมาเยี่ยมแม่บ้างนะลูก” แค่นี้ไอโมก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้กลับบ้านจริงๆ
แล้วนี้มันไปอยู่ที่ไหนกัน เช้าแล้วนะ
“คิม นาย ไปอยู่ไหนอะ เราขอโทษ” ผมร้องไห้ออกมาเบาๆด้วยความเป็นห่วงมันจับจิต