“จ๊ะเอ๋!!!!!”
“ว๊าย ตาเถร เจ้าพีมย่าตกใจหมดลูก” ย่าวางเข็มที่อยู่ในมือ หันมาฟาดที่แขนผมก่อนจะยกมือขึ้นทาบหน้าอก หึหึบาปแน่กู
“คนสวยขวัญอ่อนหรอครับ” ผมก้มลงกอดผู้หญิงผิวขาวตัวท้วมๆที่ผมรักมาก
“ก็ตกใจสิลูก มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงถ้าย่าหัวใจวายนะจะมาหลอกพีมคนแรก” ย่ามองค้อนผมทั้งที่ปากกำลังยิ้ม
“โอ๋ๆ เค้าล้อเล่นนะตัวเอง หึหึ สวัสดีปีใหม่ครับย่า” ผมคุกเข่าลงนั่งบนพื้นก่อนจะกราบลงบนตักย่าท่านลูบหัวผมและกอดผมไว้เช่นกัน
“สวัสดีปีใหม่จ๊ะพ่อหลานตัวดี ขอให้พีมมีความสุขมากๆ ไม่เจ็บไม่ไข้ขอให้พีมพบเจอแต่สิ่งที่ดีๆตลอดทั้งปีนะลูก” ผมซุกหน้าลงกับพุงนิ่มๆของย่า คนแก่ไม่ได้ฉีดน้ำหอมแต่ทำไมตัวหอมจัง เป็นกลิ่นหอมที่ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมสบายใจและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณครับ”
“แล้วนี่มัวไปติดสาวที่ไหน ไม่มาหาย่าบ้างถ้าไม่ปีใหม่ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าหลานใช่มั้ยเนี่ย” มีงอนๆ ฮ่าๆ
“โห่ติดสาวอะไรไม่มีเหอะ อีกอย่างเดือนที่แล้วพีมก็เพิ่งมาหาย่านะ” ผมลุกขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้อีกตัวแล้วเกี่ยวด้ายไหมพรมมาพันมือเล่น
“อ่อ ที่มากับพ่อหนุ่มคนนั้นที่หล่อๆใช่มั้ย แล้วนี่ไม่ชวนมาด้วยเหรอ” พามาแค่ครั้งเดียวยังอุตส่าห์จำได้อีกนะครับคุณย่า คือเมื่อเดือนที่แล้วผมพาภูมิมากราบย่าน่ะและดูท่าว่าจะเอ็นดูกันมากอยู่เห็นได้จากการชมไอ้ภูมิว่าหล่ออ่ะครับแต่ทีหลานตัวเองนี่ไม่เคยหรอก
“มันก็มีพ่อมีแม่นะย่าก็ต้องอยู่กับครอบครัวเขาสิคร้าบบบบ”
“อ๋ออแล้วไอ้ปุ้ยล่ะ มันไปแว๊ดๆที่ไหนทำไมไม่มากับพีม”
“อาปุ้ยไปฉลองปีใหม่ที่ภูเก็ตกับเพื่อน อาทิ้งพีมอ่ะย่า” ฟ้องๆ คึคึ เมื่อโอกาสมาเราจักต้องรีบฉวยไว้ ผมต้องรีบทำคะแนนครับ
“ไอ้นี่มันชีพจรลงเท้าจริงๆ เมื่อคืนยังโทรมาบ่นกับย่าอยู่เลยว่าเซ็งลูกศิษย์ปีใหม่มันจะไม่ออกไปไหน แล้วนี่อะไรยังไม่ทันจะข้ามวันก็ดันไปโผล่ที่ภูเก็ตซะแล้ว” ย่าส่ายหน้าเอือมระอาในตัวลูกสาว เหอๆ
“ฮ่าๆๆ จริงย่าพีมเห็นด้วยแล้วนี่ย่าอยู่บ้านคนเดียวหรอครับ ลุงกับป้าไปไหนอ่ะ”
“ไปงานปีใหม่กับพวกพนักงานที่บริษัทน่ะ ตารัฐกับแม่นุชยังถามถึงพีมอยู่เลยว่าไม่ค่อยมาหา” ป้านุชเป็นป้าสะใภ้ของผมครับเป็นเมียลุงรัฐซึ่งเป็นพี่ชายของพ่อผม ไอ้โฟโต้ที่ไอ้ภูมิเคยโทรไปด่าก็เป็นลูกลุงรัฐนี่แหละ ย่ามีลูกสี่คนเป็นลูกชายสามลูกสาวหนึ่ง คือลุงรัฐ พ่อ อาปุ้ย ส่วนน้องสาวอีกคนเสียไปตอนเด็กๆ แต่ก็ได้น้องสาวคนใหม่มาแทนในเวลาต่อมาซึ่งก็คืออาปุ้ยนั่นเอง ฮ่าๆ“แล้วไอ้โฟล่ะย่า”
“ยังไม่ตื่นเลยเมื่อคืนน้องไปฉลองกับเพื่อนมา ย่าบอกว่าถ้ากินเหล้าก็ไม่ต้องกลับให้ค้างบ้านเพื่อนน้องก็ไม่ฟังบอกว่าจะกลับมานอนกับย่า พีมขึ้นไปหาน้องสิจะได้ไปปลุกให้มากินข้าวพร้อมกัน เอ้อย่าก็ลืมถามพีมกินอะไรมารึยัง” ย่าเงยหน้ามาถามผม
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“แล้วพ่อตำรวจใหญ่แห่งเมืองเหนือล่ะเป็นไง มันคิดจะมาหาแม่มันบ้างมั้ย”
“ปีใหม่พ่อโคตรยุ่งอ่ะย่า เดี๋ยวพีมว่าจะโทรไปแกล้งแต่คืนนี้ขออาศัยนอนบ้านซักคืนนะครับ”
“หึ ย่าคิดค่าเช่านะ” แหนะๆมีแอบเหล่มองผมลอดแว่นด้วยนะ
“โห่ แค่นี้ก็รวยแล้วม้างงงง ย่าคิดเงินกับพีมเลย” ย่าส่ายหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มท่านก็ถักไปชวนผมคุยไปเรื่องสัพเพเหระ การนั่งดูย่าถักไอ้ผ้าพันคอนี่มันก็เพลินดีนะครับ เพลินซะจนหัวผมกลับไปคิดถึงแต่ภูมิ ป่านนี้มันทำอะไรอยู่นะ จะคุยกับพ่อเสร็จรึยัง ทำไมมันไม่โทรมา แล้วคืนนี้มันจะนอนที่ไหน จะคิดถึงผมบ้างรึเปล่า
“พีมมีอะไรจะเล่าให้ย่าฟังมั้ยคนแก่ชอบฟังเรื่องของลูกหลานนะ” ยาหยุดมือที่ถักผ้าพันคอก่อนจะเงยหน้าถามผมด้วยรอยยิ้มใจดี รอยยิ้มที่ผมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กจนวันนี้รอยยิ้มของย่าก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ยังเป็นคุณย่าที่น่ารักและใจดีเสมอ ผมเกยคางกับโต๊ะกลมๆสีขาวพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้ย่า
“ย่าอยากฟังเรื่องอะไรล่ะแต่พีมไม่ค่อยมีเรื่องอะไรน่าสนใจหรอกนะ”
“ก็เรื่องที่พีมคิดอยู่ตอนนี้ไง” ผมเลิกคิ้วมองย่าและพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งที่ผมค่อนข้างแปลกใจที่เห็นว่าย่ามองผมด้วยสายตาที่เหมือนเข้าใจความรู้สึกของผม มือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาของคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบเจ็ดสิบปีมือนิ่มๆอ่อนโยนข้างนั้นเอื้อมมาลูบหัวผมเบาๆ
“หึหึ อะไรอ่ะย่า อย่ามองพีมแบบนั้นสิพีมสบายดี” แต่การโกหกไม่ดีเลยว่ะ ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย แต่ย่าก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากลูบหัวผมเหมือนเดิม
“วันเวลาอาจจะทำให้หลานของย่าโตขึ้น ความคิด ความเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะมากขึ้นแต่มีสิ่งหนึ่งที่พีมยังเหมือนเดิม คือพีมโกหกไม่เก่ง” สายตามี่คุณย่ามองผมเหมือนท่านรู้ความคิดของผมจนทะลุปรุโปร่ง คงเหมือนเวลาที่เราคุยเล่นกับเด็กความคิดของเด็กคงไม่ยากที่จะคาดเดา
ผมหลบตาเสไปมองผีเสื้อตัวนึงที่เกาะอยู่บนดอกแก้ว ของที่คู่กันเวลาอยู่ด้วยกันแล้วมันดูสวยดีแต่จะมีซักกี่คนที่คิดตรงกับผม ในเมื่อดอกไม้ไม่จำเป็นต้องคู่กับผีเสื้อ พวกเขาอาจจะคิดว่าดอกไม้ต้องคู่กับแจกันก็ได้
“ย่า…… ย่าเคยเสียใจมั้ยที่อาปุ้ย เอ่อ ที่อาปุ้ยเป็นแบบนี้” ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงถามออกไปแบบนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองคุณย่า
“แบบนี้ที่พีมว่าคือแบบไหนลูก”
“ก็ที่อาปุ้ยไม่แต่งงานไม่มีสะใภ้ไม่มีหลานให้ย่า ย่าเคยเสียใจมั้ยครับ เคยคิดว่าอาปุ้ยทำผิดรึเปล่า” สิ่งที่พีมเป็นจะทำให้ย่าเสียใจมั้ย
“ทำไมต้องเสียใจด้วยล่ะ” คำตอบของย่าทำให้กล้าเงยหน้าไปมองสบตากับท่าน ย่ายังคงยิ้มอยู่มือข้างนั้นก็ยังวางบนหัวของผมเช่นเดิม “ปุ้ยมันไม่ได้ทำร้ายใครนิลูก ย่าก็ไม่เห็นจะมีใครเดือนร้อนที่มันกรี๊ดกร๊าดบ้าผู้ชายไปวันๆ ถามว่าเสียใจมั้ย ย่าไม่เสียใจหรอกไม่ว่าลูกของย่าจะเป็นอะไรเขาก็คือลูก ย่าภูมิใจด้วยซ้ำที่ปุ้ยมันมีหน้าที่การงานที่มั่นคงเป็นถึงอาจารย์ให้ความรู้คนอื่นๆ”
“……………………”
“…..พีม”
“ครับ”
“ที่ผ่านมาพีมเป็นเด็กดีของพ่อแม่ เป็นหลานที่น่ารักของย่าของอาปุ้ย พวกเราทุกคนรักพีมนะลูก ไม่ว่าพีมจะเป็นยังไงก็ขอให้เป็นคนดีก็พอนะลูกนะ”
“ครับย่า” ผมลงไปกอดย่าความรู้สึกตื้นตันใจที่มันเอ่อขึ้นมาจนแน่นอกผมแอบเช็ดน้ำตากับเสื้อเนื้อนิ่มของย่า “ขอบคุณครับ”
ผมไม่ได้หวังว่าคนทั้งโลกจะเข้าใจความรักของผม ไม่ได้ต้องการให้ใครมายอมรับเรื่องของผมกับภูมิ ขอแค่คนในครอบครัวเข้าใจ ผมขอแค่นี้จริงๆ
ในวันข้างหน้าผมไม่รู้ว่าเราจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง ไม่รู้ว่าความรักของผมกับภูมิจะเป็นยังไงต่อไป เราจะประคับประคองมันไปได้ไกลซักแค่ไหนจะต้องเจออุปสรรคอะไร แต่วันนี้ขอแค่มีครอบครัวมีภูมิเดินอยู่ข้างๆผมก็พร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่างไปพร้อมมัน แค่มีภูมิอยู่ผมก็ไม่เป็นไรแล้ว
หลังจากคุยกับย่าผมก็ขึ้นไปหาไอ้โฟโต้ มันกำลังแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกผมเลยเดินเข้าไปตบหัวมันเป็นการทักทาย
“เฮ้ยพี่พีมมาได้ไงวะ ไม่เห็นโทรมาบอกเลย โฟนึกว่าพี่จำทางมาบ้านนี้ไม่ได้แล้ว” ไอ้โฟโต้ตาลีตาเหลือกมันรีบวิ่งเข้ามากอดผมแล้วลากไปนั่งที่เตียง
“หึหึ เว่อร์แล้วๆ แล้วนี่จะออกไปไหนวะแต่งตัวซะหล่อเชียว” ไอ้โฟโต้มันก็ไม่ได้หล่ออะไรมากหรอก แค่ขาว แค่ตี๋ๆ แค่จมูกมันโด่ง แค่มันมีเขี้ยวแค่ปากมันบางๆ เออแค่นั้นแหละ แล้วเด็กห่าไรแม่งสูงจังวะได้ข่าวว่ากูกับมึงสปีชีส์เดียวกันแต่ทำไมมันต่างกันเยี่ยงนี้ห๊ะ
“นัดกินข้าวกับเด็กน่ะพี่ โห่พี่พีมน่าจะบอกก่อนถ้ารู้ว่าพี่พีมจะมานะโฟไม่นัดใครหรอก อยู่เล่นเกมส์กับพี่พีมดีกว่า ว่าแต่พี่หล่อขึ้นป่ะวะ” มันจับตัวผมบิดซ้ายบิดขวาแล้วยื่นหน้ามาสำรวจซะจนแทบขึ้นมาขี่คอ ไอ้โฟมันติดผมมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว อาจเป็นเพราะเราสองคนต่างก็เป็นลูกคนเดียวอีกอย่างทั้งตระกูลก็มีกันอยู่แค่นี้เลยทำให้สนิทกันเหมือนพี่น้องแท้ๆมากกว่าลูกพี่ลูกน้อง
“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายว่ะน้องรัก ฮ่าๆ”
“อ่ะนะคนเรา นี่ถ้าไม่ใช่พี่ชาย โฟยื่นกระจกให้ส่องนะเนี่ย”
“กวนตีนๆ ว่าแต่มึงเหอะย่าเล่าให้กูฟังว่ามึงหักอกสาวเป็นว่าเล่นเลยเหรอวะ”
“หึหึย่าอ่ะโม้ โฟก็เรื่อยๆ แต่ก็เริ่มรำคาญแล้วว่ะแม่งเอาแต่ใจชิบหาย เพื่อนมันเลยแนะนำให้คบผู้ชาย พี่พีมมีเพื่อนหล่อๆมั้ยฮ่าๆ” ไอ้นี่นิเดี๋ยวผีผลักเหมือนไอ้คิวมีเมียผู้ชายจริงๆหรอก ผมผลักไอ้เด็กตัวสูงที่หัวเราะอวดเหล็กจัดฟันสีฟ้าหน้าระรื่นจนมันหงายหลัง
“หึอยากลองของหรอมึงแต่กูเตือนไว้ก่อนนะว่า one way ticket”
“อะไรวะพี่” ไอ้โฟมันนั่งทำหน้างงๆ
“ตั๋วเที่ยวเดียวไง ถ้ามึงได้เดินทางนี้กลับไม่ได้นะน้องชาย”
“หึ รู้ดีเว้ย ประสบการณ์ตรงป่ะเนี้ยแล้ววันนี้พี่พีมค้างป่ะ”
“ค้าง”
“เยสสส มีเพื่อนเล่นเกมส์แล้วเดี๋ยวโฟจะรีบไปรีบกลับ” คราวนี้มันกระโดดกอดคอผมเหมือนเป็นเพื่อนเล่นมันเลย
“มัวแต่เล่นเกมส์คิดเรื่องเอนท์ฯได้แล้วรู้มั้ยอยู่ม.5แล้วนะ แล้วอยากเข้าคณะอะไรคิดรึยัง” ไอ้โฟมันเรียนโรงเรียนเดียวกับที่พวกไอ้ภูมิจบมาน่ะครับ
“ที่จริงก็อยากเข้าวิศวะอินเตอร์มอพี่พีมอ่ะ แต่พ่ออยากให้ไปต่อเมืองนอกโฟโคตรเซ็งเลยพี่ไปคุยกับพ่อให้หน่อยดิ” ไอ้โฟรีบอ้อนวอนผม หน้าตามันดูเซ็งเหมือนที่พูดแต่ขอโทษนะน้องรักกูคงช่วยอะไรมึงไม่ได้
“เหอๆ ไม่เอาอ่ะ ลุงรัฐดุเกิน” ดุกว่าพ่อผมอีกครับใครจะกล้า ผมก็นอนคุยเล่นกับไอ้โฟซักพักมันก็ออกไปหาเพื่อน ผมเลยลงมาอยู่กับย่าช่วยย่าปั้นบัวลอยแล้วก็ไปก่อกวนป้ายิ้มกับพี่ดาวที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวจนถูกย่าตะเพิดออกมา ฮ่าๆ พอกินข้าวเย็นเสร็จผมก็เข้าไปนอนเล่นที่ห้องย่า
นาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มกว่าๆย่าก็เริ่มง่วงผมบอกราตรีสวัสดิ์หอมแก้มย่าแล้วก็กลับมาห้องตัวเอง ผมก็มีห้องตัวเองในบ้านหลังนี้เหมือนกันน๊า
พอผมเข้าไปอาบน้ำไอ้ภูมิก็โทรมาพอดี ฮึ่มมม ตอนที่กูยังไม่อาบทำไมมึงไม่โทรมาวะ ผมเลยต้องรีบอาบรีบออกมารับเพราะถ้าผมไม่รับมันก็จะโทรอยู่แบบนี้โทรจนกว่าจะรับ เป็นร้อยสองร้อยมิสคอลก็เคยมีมาแล้วนะครับ เหอๆ ไม่บ้าจริงทำแบบภูมินทร์ไม่ได้นะเนี่ย
(ทำไมไม่รับโทรศัพท์) เอาแล้วไงกูเสียงมันโหดมาเลยครับพี่น้องงงง
“อาบน้ำอยู่ เพิ่งออกจากห้องน้ำเลยเนี่ย” เสื้อผ้ากูก็ยังไม่ได้ใส่
(แล้วทำอะไรอยู่) ก็เพิ่งบอกไปหยกๆว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“กำลังจะแต่งตัว มึงรอแปบนะกูใส่เสื้อผ้าก่อน”
(โป๊อยู่เหรอ หึหึ) หืออออ น้ำเสียงมึงมันเปลี่ยนเร็วไปมั้ย กูขอร้องมึงช่วยเลือกเวลาหื่นบ้างเห๊อออไอ้หล่อ
“สัส ทะลึ่งแระ” ผมทิ้งโทรศัพท์ลงบนที่นอนแล้วก็รีบใส่เสื้อผ้าก่อนจะปิดไฟแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงคลุมโปงแล้วก็นอนคุยกับภูมิ ^_^
ผมคุยกับภูมิเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน ก่อนจะวางผมได้ยินเสียงพี่โอ๊ตเรียกมันไปกินนมนอน หึหึ แม่งโคตรสปอยโคตรเอาใจน้องเลยว่ะ แถมยังได้ยินไอ้ฟ่างตะโกนโวยวายด้วยว่าถ้าคืนนี้มันไม่ได้นอนตรงกลางมันจะเผาบ้านเผารถทิ้ง เหอๆ กับพี่กับน้องมึงก็ไม่เว้นนะฟ่าง พอวางสายจากภูมิเสร็จผมก็ปิดไฟนอนแต่พอหัวถึงหมอนเสียงเรียกเข้าก็ดังอีกครั้ง ผมคว้ามือถือมาดูว่าใครแม่งสาระแนโทรมาดึกขนาดนี้ไม่รู้รึไงว่ากูจะหลับจะนอนแต่พอเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา……
ไอ้คลื่น หึหึ โทรมาให้กูกวนตีนก่อนนอนรึไงมึง
“ฮาโหลววววววววว มีส้นเตียนไร” ผมทักทายมันแบบผู้ดีเหมือนทุกครั้ง กร้ากกก
(หึหึ รับโทรศัพท์เพราะเนอะ มึงนอนรึยังกูโทรมากวนรึเปล่า) ทำไมเสียงไอ้คลื่นฟังดูสดใสกว่าปกติวะหรือว่ามันถูกหวยแล้วจะโทรมาแบ่งเงินให้ผม กรั่กๆ
“กูปิดไฟแล้วกำลังจะหลับแล้วมึงก็คิดเอาแล้วกันว่ากวนหรือไม่กวน หึหึ” ขอแกล้งมันหน่อยเถอะ ผมโผล่หัวออกจากผ้าห่มก่อนจะขยับลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
(หึ จะรีบนอนไปไหนนอนเร็วเดี๋ยวขาสั้นนะ)
“เชี่ยคลื่น กูวางเลยสัส”
(ฮ่าๆๆล้อเล่นครับ)
“…………………..” ผมก็เลยเงียบเพื่อแกล้งไอ้คลื่น คอยดูๆเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมโกรธ
(………………….)
“…………………”
(เฮ้ยพีมอย่าเงียบดิวะ กูล้อเล่น มึงโกรธจริงป่ะเนี่ยพีม พีมกูขอโทษ)มันรีบพูดรัวๆเลยครับน้ำเสียงแม่งโคตรรู้สึกผิดจริงๆ โอยยยยเชี่ยคลื่นมึงเชื่อคนง่ายไปมั้ยฮ่าๆ
“กร้ากกกกกกกก หลอกควายสบายใจจังหลอกกี่ครั้งก็ยังเป็นควาย”
(เชี่ยพีม เออกูโง่เองที่แคร์มึงมากเลยเชื่อมึงง่าย)
“อ่ะแหนะๆมีงอนนะครับมีงอนแต่กูไม่ง้อหรอกเว้ย ยังไงมึงก็ผิดที่ว่ากูเข้าใจ๊”
(โอเคๆกูผิดตลอดแหละ ผิดตั้งแต่ร….)
“…………………..”
(………………….)
แต่ครั้งนี้ความเงียบที่เกิดขึ้นมันเกิดโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ
“เอ่อ คลื่นมึงโทรมาดึกๆตกลงมีไรป่ะวะ นิ่วในถุงน้ำดีแตกหรือ…….”
(วันนี้วันเกิดกู) และก็เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายเงียบ ผมแทบจะตบหัวตัวเองแรงๆให้สมกับความบื้อที่ดันลืมวันเกิดไอ้คลื่น
“เอ่อ กู….ไม่รู้ เฮ้ยขอโทษนะเว้ย กู…..”
(หึหึ ไม่เป็นไร กูอุตส่าห์โทรมาให้มึงอวยพรเป็นคนสุดท้าย เท่มั้ยเจ้าของวันเกิดโทรมาหาเชียวนะ) เสียงของคลื่นยังคงฟังดูอ่อนโยนเสมอทั้งที่มันควรจะด่าจะโกรธเพื่อนแย่ๆอย่างผมด้วยซ้ำที่ลืมวันเกิดของมัน
“คลื่นกูขอโทษจริงๆนะกู…..” แม่งเป็นใครก็ต้องเสียความรู้สึกใช่มั้ยครับ ถูกเพื่อนลืมวันเกิดแล้วยิ่งคลื่นที่มันเป็นเพื่อนกรณีพิเศษของผมมันจะรู้สึกแย่แค่ไหน อีกไม่กี่นาทีก็จะเป็นวันใหม่แล้ว
(เฮ้ยพีมอย่าเงียบดิ ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไรกูไม่ได้โกรธ ไม่โกรธมึงจริงๆนะพีม อย่าคิดมากดิวะมาอวยพรให้กูดีกว่า โทรนอกเครือข่ายมันแพง)
“หึ ไอ้บ้า เออๆ ก็ขอให้มึงมีความสุขมากๆ เจอแต่สิ่งที่ดีๆแต่เกรดเอทุกวิชา สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณคลื่น เดี๋ยวของขวัญจะตามไปที่หลังเน้อแฮปปี้เบิร์ดเดย์ว่ะมึง” ได้ยินเสียงมันบอกว่าครับๆสาธุๆแล้วก็หัวเราะ หึหึ ขอให้มึงมีรอยยิ้มมีเสียงหัวเราะแบบนี้ทุกวันนะเพื่อน
(ขอบคุณนะ พีม)
“อืม แล้วไม่ได้ไปฉลองที่ไหนหรอ”
(อ๋อ กูนัดกับเพื่อนไว้แต่คงอีกซักพัก มึงไปด้วยกันมั้ยเดี๋ยวไปรับ หึหึ)
“ก็อยากไปนะแต่กูกลัวจะโดนทัณฑ์บนว่ะฮ่าๆ ไว้เดี๋ยวกูพามึงไปเลี้ยงนมปั่นนอกรอบนะ”
(โอเคเซเยสเลย สัญญาแล้วนะ)
“คร้าบบบบบบ”
(พีม)
“หืม”
(วันเกิดกู กูขออะไรหน่อยได้มั้ย) ผมเงียบทันทีเพราะไม่รู้ว่าคลื่นจะขออะไรและไม่แน่ใจว่าจะให้สิ่งที่คลื่นขอได้หรือเปล่า แต่วันนี้คือวันสำคัญของมัน อีกอย่างคลื่นก็ไม่เคยขออะไรเกินกว่าที่ผมจะให้ได้ เพราะงั้นผมจะให้มัน
“ขอไรวะ”
(ขอให้กูได้บอกรักมึงได้มั้ย)แม่งโคตรจุกน้ำเสียงสั่นๆของมันผมเป็นคนฟังยังรู้สึกใจหาย
“อืม ได้สิ” ผมเอ่ยปากอนุญาต แต่นานหลายนาทีปลายสายก็ยังเงียบผมได้ยินเพียงเสียงสูดลมหายใจของคลื่นเหมือนมันกำลังพยายามรวบรวมความกล้าอยู่
(ที่ผ่านมาหลายๆอย่างที่กูทำอาจจะทำให้มึงอึดอัดใจ กูขอโทษนะกูไม่รู้ว่าทำไมเพราะอะไรถึงตัดใจจากมึงไม่ได้ซักทีแต่สิ่งที่กูรู้และอยากให้มึงรู้คือกูรักมึงนะพีม รักมาก คลื่นรักพีมนะ)
“อื้ม ขอบคุณนะ มึง……เจ็บมากมั้ย” ผมกำโทรศัพท์แน่น ผมสงสารคลื่นแต่ผมก็รักมันไม่ได้
(ก็พอทนแต่แม่งมีความสุขว่ะ ของขวัญวันเกิดปีนี้มีค่าที่สุดแล้ว ขอบคุณนะพีม)
“เฮ้ย ขอบคุณอะไรกันวะ กู…..ไม่ได้ทำอะไรให้มึงเลยนะ” มีแต่มึงที่ทำเพื่อกูมาตลอด ถ้ากูรักมึงได้กูก็อยากรักมึงนะคลื่น ผมไม่เคยรำคาญไม่เคยอึดอัดกับสิ่งที่คลื่นมีให้เพราะผมรู้ว่าความรู้สึกมันบังคับมันห้ามกันไม่ได้ แต่กูก็รักมึงเกินเพื่อนไม่ได้จริงๆ
(อยากฟังเพลงมั้ย เดือนหน้าคณะกูมีคอนเสิร์ตกูจะขึ้นร้องเพลงมึงอย่าลืมไปดูล่ะ) เสียงสดใสของคลื่นที่ผมชอบเริ่มกลับมาอีกครั้ง
“ฮื่อออไม่เอา กูไม่อยากให้หูกูติดเสนียด ฮ่าๆ”
(หึ งั้นมึงก็ช่วยฟังแล้วก็คอมเม้นให้กูด้วยนะ จะได้เอากลับไปซ้อมใหม่)
“เอาดิๆ” ผมได้ยินเสียงกุกกักๆอยู่ซักพัก คลื่นก็บอกว่าเดี๋ยวจะเปิดโฟน จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงอินโทรกีต้าร์โปร่งและตามมาด้วยเสียงทุ้มๆน่าฟังของคลื่น
http://www.4shared.com/embed/616423969/db36760bหัวใจมันมีไว้รัก และฉันเลือกจะรักเธอคนเดียว
ไม่ได้แคร์ ไม่ได้หวัง ว่าเธอจะเหลียวมองหรือเปล่า ไม่ได้สนใจ
หัวใจมันมีไว้ใช้ และฉันเป็นเจ้าของมันคนเดียว
อยากให้มันไปกับใคร คนไหนก็ไม่เกี่ยว ที่ต้องการอย่างเดียวคือ รักเธอ
แม้ใครต่อใคร บอกว่าฉันทำอะไร บ้าบอ รอเธอไปก็เสียเวลา
ขอพูดอีกทีว่า หัวใจที่มี เลือกเธอคนนี้ ตั้งแต่สบตา
อาจจะเป็นรักโง่โง่ ในสายตาเธอก็ตาม แต่ฉันแค่ขอ ได้ทำตามหัวใจ
เป็นรักโง่โง่ งมงายแค่ไหน แต่ฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ทำอะไรเพื่อเธอ
น้ำตาจะรินและไหล เหนื่อยล้ามาแค่ไหนไม่มีทาง
เปลี่ยนให้ใจที่มันรัก ที่ยอมเธอทุกอย่าง เพราะฉันฟังอย่างเดียวคือหัวใจ
แม้ใครต่อใคร บอกว่าฉันทำอะไร บ้าบอ รอเธอไปก็เสียเวลา
ขอพูดอีกทีว่า หัวใจที่มี เลือกเธอคนนี้ ตั้งแต่สบตา
อาจจะเป็นรักโง่โง่ ในสายตาเธอก็ตาม แต่ฉันแค่ขอ ได้ทำตามหัวใจ
เป็นรักโง่โง่ งมงายแค่ไหน แต่ฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ทำอะไรเพื่อเธอ
แหละฉันไม่เสียดาย ไม่เสียใจ ที่ฉันได้รักเธอ
(เป็นไงพอฟังได้มั้ย)
“ก็ดี กูว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น รักดีๆ มากกว่านะ”
TBC >>>>>>>>>>>
…………………………
- สั้นเนอะอิอิ ที่จริงมันต้องยาวกว่านี้แต่กลัวคนอ่านจะรอนานเลยเอามาแค่นี้ก่อนเพราะช่วงนี้เวลาสำคัญกว่าทองค่ะ(ได้ข่าวว่าออนเอ็มทั้งวัน) ฮ่าๆๆ สั้นไปนิดคงไม่ว่ากันนะคะ
- แล้วก็เอาใจแม่ยกคุณคลื่น อรั้งงงงงงง HBD ย้อนหลังนะคะพ่อยอดชาย ย้อนมาไกลมากฮ่าๆตั้งแต่วันที่ 1 แหนะแต่มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะก็ขออวยพรให้มีความสุขมากๆหล่อๆรวยๆเป็นหนุ่มในฝันของสาวๆและเป็นเพื่อนที่ดีของน้องพีมไปนานๆนะคะ ปล นายแก่กว่าน้องภูมิปีนึงเลยอ่ะคลื่น
กร้ากกกกกกกกกกกก