ตอนที่ 53 แคร์นะ…..
ช่วงนี้ผมเป็นโรคหวาดระแวงการถูกชวนออกไปข้างนอกครับ หลายวันมาแล้วที่ผมต้องคอยระวังว่าไอ้สารเลวภูมิมันจะพาไปไหนรึเปล่า จะไปน่ะไม่หวั่นหรอก แต่ที่ผมกลัวคือการใส่เสื้อตัวนั้น เสื้อเปรตนั่น ใส่ออกไปกับมัน แม่ง คิดแล้วมันจี๊ดครับมันจี๊ด
วันนั้นที่มันหยิบยื่น(ศัพท์สูงมากกู)เสื้อมารหัวขนนั่นมาให้ผม ผมก็แทบจะวิ่งเอาหัวชนผนังห้องให้ลืมข้อความบนเสื้อไปซะ เผื่อบางทีมันจะเป็นแค่ความฝัน
แต่ก็แค่นั้นแหละครับเพราะมันคือความจริง Y^Y ไอ้เสื้อสีขาวสองตัวมันก็ยังแขวนเด่นเป็นราคีอยู่ในตู้เสื้อผ้า ให้ผมหลั่งน้ำตาทุกครั้งที่เปิดไปเจอ กูแซ้ดดดดดดดดด
“เตี้ย เสร็จยัง ปิดไฟนะ”
“อืม” ผมขานตอบภูมิที่กำลังจะปิดไฟเตรียมเข้านอน ผมวางแลคเชอร์ที่ยืมไอ้ฝ้ายมาอ่านลงข้างหัวเตียง ก่อนจะดึงผ้านวมผืนใหญ่หนานุ่มหอมกลิ่นน้ำนมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มขึ้นมาคลุมถึงอก
ทันทีที่แสงไฟสว่างจ้าถูกปิดลง แสงสีเขียวอ่อนจากดาวเรืองแสงนับร้อยและไฟหยดน้ำที่ผมเห็นก่อนนอนทุกคืนจนชินตาก็เข้ามาแทนที่ พร้อมๆกับภูมิที่สอดตัวเข้ามานอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
“เป็นไร โกรธเรื่องเสื้อเหรอ” มันเอ่ยถามและดึงผมเข้าไปกอดเหมือนทุกครั้ง กูไม่ได้โกรธ แต่กูอายและสงสัยว่ามึงคิดได้ยังไง ฮ่วย
“เปล่า” ผมเหล่มองไอ้ภูมิที่ชักจะกอดผมแน่นเกินเหตุ มันเปลี่ยนจากกอดมาเป็นมุดเข้าซุกอกผมแทน ไอ้หล่อมัน…แม่ง พูดคำว่าหล่อแล้วภาพเสื้อลอยมากระแทกม่านตาเลยกู
ผมพยายามพลิกตัวเพื่อจะเปลี่ยนท่านอนให้สบาย ไอ้ภูมิมันก็พยายามตามมาซุกหน้าลงกับซอกคอผม แถมยังส่งเสียงหื้อ ไม่ให้ขัดใจไม่ให้ดิ้นหนีอีก เฮ้ย ท่านี้กูเมื่อย ปล่อยก่อนนนน
“ภูมิปล่อยก่อน จะได้นอนดีๆแบบนี้มันเมื่อยนะ” ผมนอนหงายแล้วนอนไม่หลับ เพราะชินกับการนอนตะแคงไปแล้วครับ
ภูมิยอมปล่อยให้ผมนอนตะแคงซ้ายเข้าหามันตามที่ขอ แล้วมันก็รีบตามมาซุกอกผมตามเดิม แถมยังกอดผมแน่นยิ่งกว่าเดิม ไอ้ตอนจะนอนนี่ก็กอดกันอยู่หรอก แต่พอหลับก็ฟรีสไตส์ครับ บางครั้งตื่นมาตอนเช้านี่อยู่ห่างกันเป็นโยชน์
“ภูมิกูถามจริงๆ มึงกล้าใส่เสื้อที่สกรีนมาเหรอวะ” เราเงียบกันไปซักพัก ผมเป็นคนที่เอ่ยถามก่อนและลูบผมนิ่มๆของภูมิเล่น
“ทำไมถึงไม่กล้าล่ะ เสื้อออกจะเท่” ผมรู้สึกเหมือนภูมิกำลังสูดดมผิวตรงซอกคอของผม
“ถ้าใส่ออกไปข้างนอก คนอื่นก็รู้สิว่าเราเป็นอะไรกัน”
“อ้าว แล้วเราเป็นไรกัน”
“ก็เป็นแฟนกันไง”
“อ้าว…เราเป็นแฟนกันหรอ หึหึ”
“เชี่ยภูมิอย่ากวนตีน” ช่วยเครียดเป็นเพื่อนกูบ้างไรบ้างครับ ใช่ซี้เสื้อตัวเองมันเกิดอยู่คนเดียว แต่ของกูนี่ดับแล้วดับอีก ดับแบบไม่มีวันได้ผุดได้เกิด โธ่ธธธธธธธ
“มึงจะคิดมากทำไมพีม คนอื่นจะรู้หรือไม่รู้แล้วไง”
“กูไม่ได้แคร์คนอื่นนะ แต่….กูกลัวว่ามันจะไปถึงหูพ่อแม่มึง” ครอบครัวภูมิมีหน้ามีตาในสังคม แน่นอนว่าภูมิก็ต้องเป็นที่รู้จักของคนอื่นอยู่ไม่น้อย และมันจะเป็นยังไงถ้ามีคนรู้จักภูมิเอาไปบอกคุณพ่อว่าเห็นลูกชายคนเล็กของบ้านเดินควงคู่กับคนรักที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ภูมิเลื่อนตัวขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่าผม มันดึงผมขึ้นไปกอดเกยแนบอก ริมฝีปากอุ่นนุ่มประทับลงกับหน้าผากผมเนิ่นนาน เป็นสัมผัสที่อ่อนโยนและถ่ายทอดความรู้สึกอุ่นใจมาให้ผมในเวลาเดียวกัน
“กูก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะว่ายังไง แต่ถ้าวันนั้นมาถึงเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”
“อื้มมม”
คืนนี้ก็เป็นเช่นทุกคืน ผมกับภูมิเรานอนอยู่บนเตียงหลังใหญ่ภายใต้ผ้าห่มผืนนุ่มด้วยกัน เราหลับอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของกันและกัน และมีดาวนับร้อยส่งเราเข้านอนและอวยพรให้ฝันดี
ไม่ว่าวันข้างหน้าจะต้องเจอกับอะไร ขอแค่เรายังอยู่ข้างๆกันแบบนี้ก็พอ
เนอะภูมิ^^ ……………………………..
ผมสอบเสร็จแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากตะโกนให้ดังๆ ดังกว่านี้ซักสิบล้านเท่า แต่กลัวบ้านข้างๆจะปาขวดมาใส่หัวผมได้ครับ เหอๆ ผมสอบเสร็จแล้วครับ จบเสียทีที่เธอต้องทนทรมาน เดินบนทางที่เราหวังกัน ฮา ไม่ใช่ล่ะ
มันผ่านไปแล้วช่วงเวลาแห่งการอดหลับอดนอน ต้องอ่านหนังสือจนตาลาย ต้องแอบอ่านการ์ตูนโดยไม่ให้ไอ้ภูมิจับได้ ต้องงดเล่นเกมส์ วันนี้กูเป็นไทแล้วโว้ยยยยยยยยยยยย
พวกผมเลยมานอนอืดที่บ้านไอ้แทน(รึของไอ้ฟ่างหว่า อันนี้คงต้องไปถามไอ้แทนเองนะครับ ว่าเงินมันซื้อแต่ชื่อเจ้าของโฉนดน่ะใคร คึคึ)
“เชี่ยพีม มึงจะแหกปากไรนักหนา ห๊ะ กูรำคาญ” ไอ้เจ้าของบ้านปาหนังสือมาเกือบโดนหัวผม ไอ้ฟ่างไอ้เลวเกิดหัวกูแตก???ทำไง
“เฮ้ยๆพวกมึง สอบเสร็จแล้ว อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวกันดีกว่า” ไอ้คิวมันเสนอครับ
“เที่ยวไหน แล้วไอ้พีมปิดเทอมมึงไม่กลับเชียงใหม่เหรอวะ” ราชนิกูลเบียร์ลงทุนกดหยุดเกมส์เพื่อมาถามสารทุกข์สุขดิบผม ต่างจากไอ้ภูมิที่ตั้งหน้าตั้งตากดจอยส์ยิกๆต่อไป ใครเป็นแฟนกูกันแน่วะห๊ะ
“ปิดเดือนเดียว กูคงไม่กลับว่ะ พ่อกับแม่กูจะขึ้นมาหาย่าด้วย เบี้ยวกูมาหลายครั้งแล้ว”
“อืม งั้นโหวตกันดีกว่าว่าจะไปไหนดี” พวกเรียนนิติมันชอบความเป็นประชาธิปไตยแบบไอ้เบียร์ทุกคนรึเปล่า แม่งจะทำอะไรโหวตตลอด เอาว๊ะ one man one vote แต่มีอยู่ one man ที่อยู่เหนือเสียงโหวต ฮ่าๆๆ
“อิหร่าน” เสียงโหวตแรกครับ จากเชี่ยมิค ญาติมึงอยู่อิหร่านเหรอมิค
“ไปหาพ่อมึงเหรอสัสที่อิหร่าน หรือมึงจะไปช่วยเค้าทำสงคราม” ไอ้คิวไม่สนอง
“ไปเชียงใหม่มั้ย” ไอ้เชนเสนอ
“ติดใจสาวเหนือล่ะสิมึง ไม่เอา ไปบ่อยแล้วกูเบื่อ” โดนไอ้คิวรู้ทัน ฮ่าๆๆ ยัตตินี้เป็นอันตกไปครับ
“เบื่อเชียงใหม่หรือเบื่อสาวว่ะ ใช่ซี้ได้หลังแล้วลืมหน้า” ไอ้เบียร์ช่วยชีวิตไอ้เชนไว้อย่างหวุดหวิด ฮ่าๆๆ เชี่ยคิวพะงาบๆเถียงไม่ออก สม แซวคนอื่นดีนัก เจอไอ้คุณชายเชือดนิ่มๆเป็นไงล่ะมึง ฮ่าๆๆๆ
“แหม พวกมึงก็ลองบ้างสิวะ รับรองจะติดใจ” ไอ้แทนก็รีบส่งความช่วยเหลือมาหาไอ้คิวเช่นกัน
“งั้นขอลองกับข้าวฟ่างได้มั้ยคะ” ไอ้เชนเอื้อมมือไปจับผมฟ่าง
“สาดดดดดดดด อย่าแตะเมียกู”
“ก็ดีนะเชน มึงนัดเวลาสถานที่ได้เลย ช่วงนี้กูว่าง” ไอ้ฟ่างยิ้มมุมปากให้ไอ้เชน
“นี่ก็เหลือเกิน เดี๊ยะๆ คืนนี้กูจัดชุดใหญ่ ฟรีค่าจัดส่งถึงเตียง” แล้วมันก็โดนฝ่ามืออรหันต์ของไอ้ฟ่างไปอีกสิบแปดกระบวนท่า
“พอๆ เลิกเล่น ตกลงจะไปเที่ยวที่ไหนกันเนี่ย”
“พีม อยากไปไหน” คราวนี้ภูมิหันมาสนใจผมแล้วครับ กูปลื้มปิติน้ำตาแทบไหล นึกว่ามันจะใส่ใจแต่รถแข่ง
“ที่ไหนก็ได้แล้วแต่เพื่อน มึงอ่ะ”
“ที่ไหนก็ได้ แล้วแต่มึง”
“โฮ่ฮฮฮฮฮฮฮ”
“ฮิ้วววววววววววววววววววววววว” พวกสัมพะเวสีมันทำงานกันเป็นทีมอีกแล้วครับ แซวกันมาเป็นปี มึงไม่เบื่อบ้างรึง๊ายยยย
“ข้าวฟ่างอยากไปไหนจ๊ะ เดี๋ยวแทนพาไปทุกที่เลย” ไอ้แทนมันดัดจริต ทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อพวกผม
“ไปที่ไหนก็ได้ที่มีคนจัญไรๆอย่างมึงไปด้วยอ่ะที่รัก” สาดดดดดดดดไอ้ฟ่างกับไอ้แทนมันล้อเลียนพวกผมครับ มันล้อผม ไอ้ฟ่างเอนหัวพิงอกไอ้แทน มันยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วกวนตีนใส่ผมกับภูมิด้วย กู กู กูเกลียดมึงงงงงงงงงงง
“โหยพี่ภูมิช่วงนี้น้ำตาลแพง เพลาๆความหวานลงบ้างเหอะพี่ สงสารคนไม่มีคู่อย่างผมบ้าง” เชี่ยแมทอย่างมึงเหรอไม่มีคู่ ถุย สับขาหลอกแทบไม่ทันล่ะสิ ไอ้แมทมันไปร่ำเรียนวิชาฝากตัวเป็นศิษย์เอกสำนักไอ้เชนมาได้ซักพักแล้วครับ
ตั้งแต่อกหักจากสาวรุ่นพี่บัญชีคนก่อน ไม่รู้ไอ้เชนพามันไปถึงสุดยอดวิชาแห่งเส้าหลินรึยัง รู้สึกไอ้แมทจะหูตาแพรวพราวขึ้นเยอะ
“เยี่ยมมากศิษย์น้อง หนุ่มโสดขี้เหงาอย่างเราไม่มีใครเข้าใจหรอก หึหึ”
“ถุย” ไอ้ภูมิ
“ถุ๊ย” ผม
“ถุ๊ยถุ๊ย” ไอ้ฟ่าง ฮ่าๆๆๆ ไอ้เชนหลบน้ำลายแทบไม่ทัน พ่อคนโสด คนไม่มีคู่ คนเหงา มันนั่งหัวเราะจับมือไอ้แมทอย่างถูกใจ
“เอาล่ะๆกูว่าทางที่ดี….” ไอ้แทนกำลังจะออกความเห็น
“คือทางด่วน” เชี่ยปัน ภาษาไรของมึง
“หืมมมมมมมม???????” พวกผมหันพรึ่บไปมองหน้าไอ้ปันกันอย่างพร้อมเพรียง ทางที่ดีคือทางด่วน??? งั้นทางไม่ดีคงเป็นทางลูกรังสินะ ไอ่ฟายยยยกูต้องแปลมุขมึงป่ะเนี้ยยยยยย
“พวกมึงเอาไอ้ปันไปเก็บไป” กรั่กๆ ไอ้ปันมันเก็บตัวเองด้วยการเดินไปหาของกินมาเพิ่ม “เรายังไม่เคยไปเที่ยวทะเลยกกลุ่มสิบคนเลยใช่มั้ย กูว่าไปทะเลก็ดีนะ ภูเก็ตเสร็จทั้งกลุ่ม ดีมั้ยมึง หึหึ” ไอ้เชน ไอ้นี่ก็วนๆเวียนๆอยู่แต่เรื่องเดียว ไม่ทราบว่าหมกมุ่นหรือเป็นงานอดิเรกครับเพื่อนครับ
“เออใช่ ไปทะเลกัน ไม่ได้ไปทะเลด้วยกันนานแล้ว แต่ภูเก็ตจะดีเหรอว่ะ ไปกะบี่ฟรีที่พักนะเฟ้ย” ไอ้คิวปลดแอก เอ้ย ปลดแขนไอ้เต้ยที่พันคอพันหน้ามันออก รีบลุกมาเห็นด้วยกับไอ้เชน
“อืม ท่านพ่อมึงมีรีสอร์ทที่กระบี่ด้วยนิ โอเค เอาเป็นว่าไปกระบี่กัน” เมื่อไอ้ฟ่างได้เสนอซึ่งก็เท่ากับบังคับกลายๆเป็นอันว่าตามนั้นครับ ปิดเทอมนี้ไปกระบี่กันโว้ยยยยยยยยยยยยยย
พอตกลงเรื่องสถานที่ที่จะไปเที่ยวได้แล้ว ตอนนี้ไอ้ปันมันเลยเปิดศาลเตี้ยอยู่กลางวง ส่วนหัวข้อที่มันกำลังพล่ามก็คือเรื่องที่ไอ้มิคมันเคยลั่นวาจาไว้ว่าอยากเป็นเกย์น่ะครับ จำกันได้ใช่ไหม
ทีแรกผมก็นึกว่าแม่งพูดเล่น มันคงเพ้อเจ้อไปตามความบ้าเหมือนตอนที่มันอยากเป็นฮิพฮอพ บีบอย (ซึ่งครั้งนั้นมันได้พยายามอยู่สามวันครึ่ง ก่อนจะล้มเลิกความตั้งใจ ด้วยเหตุผลที่ว่า มันไม่ใช่) และไอ้ที่อยากเป็นเกย์นี่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะคึกอยากเป็นได้ซักกี่วัน แต่สิ่งที่รู้ตอนนี้คือกูรูปันมันได้เสนอความช่วยเหลือให้ไอ้มิคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
How to gay ก็ได้อุบัติขึ้นครับ
“กูว่าวิธีของมึงยากว่ะปัน กูถามจากพวกไอ้แทนดีกว่า” ไอ้มิคเริ่มถอดใจหลังจากฟังไอ้ปันมันสาธยายมาซักพักใหญ่ๆ ไอ้แทนถึงกับสะดุ้งสุดตัวที่ถูกลากเข้าสู่วังวน ฮ่าๆๆ
“มึงจะไปถามอะไรพวกมือใหม่หัดเป็น แม่งเป็นจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้ มึงต้องเชื่อกูสิไอ้เพื่อนมิค มึงเห็นมั้ยที่ไอ้คิวกับไอ้เต้ยมันได้ดิบได้ดีอย่างทุกวันนี้เพราะใครครับ นี่ครับ เพราะกู” ไอ้ปันมันตบอกตัวเองตุบๆ แม่งโดนกันทุกคนทั้งไอ้คิวไอ้แทน กรั่กๆๆ สะใจโว้ยยย
เชี่ยคิวพยายามจะยื่นพระบาทามาถีบยอดหน้าไอ้ปัน แต่มันมาไม่ถึงเพราะถูกไอ้เต้ยนอนทับกลิ้งอยู่บนตัวมัน
“เพราะเฮียปันแหละ ทำพี่คิวร้องได้ เต้ยจำได้ โอ๋ๆๆพี่คิวไม่ร้องๆ” ไอ้เต้ยดึงหัวไอ้คิวมาซบไหล่ แต่พี่คิวของมันไม่ให้ความร่วมมือ นอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือ ไอ้คิวยังจะร่วมตีนให้ไอ้เต้ยอีก มึงจะรุนแรงกันไปไหน
ดูตัวอย่างไอ้แทนกับไอ้ฟ่างสิ นอนพันกันจะเป็นงูดินแล้ว แม่งจะหาเห็บหาเหาตามไรผมให้กันแดกมั้ง
“เป็นเหี้ยไรของเมิ้งงงงไอ้เต้ย ยาหมดเหรอ กูพาไปวัดพระบาทน้ำพุมั้ย” เอ่อ ผิดที่รึเปล่าคิว ไอ้เต้ยขำคิกๆปีนขึ้นไปกลิ้งบนตัวไอ้คิวอีกหน ไอ้ภูมิกับไอ้เบียร์ก็หันไปเล่นเกมส์กันต่อ โดยปล่อยให้ผมนั่งฟังไอ้ปันปราศรัยเพียงลำพัง
“เอาล่ะมิค อย่ามัวเสียเวลากับพวกมันเลย กูไม่อยากเสวนากับพวกมีอัณฑะ”
“พันธะ!!!!!” กร๊ากกกกกกกกกกกกกก แม่ง พูดผิดแบบนี้กูเสียวนะ แต่ไอ้ปันมันก็ได้หาแคร์สิ่งใดไม่ ยังดั้นด้นสอนไอ้มิคต่อไป “ข้อแรกในการเป็นเกย์นะมิคนะ คือมึงต้องเลือกฝั่ง มึงจะเป็นอะไร รุกหรือรับ” บุ่ย มีเลือกฝั่งด้วย
“อะไรคือรุกคือรับวะ” เอ๋า ไอ้นี่โง่หรือบื้อครับเชี่ยมิค
“โหยย นี่มึงไม่รู้จักรุกรับ? สาสสส แล้วสะเออะอยากเป็นเกย์ แม่งไม่มีความรู้พื้นฐานเลย เอาง่ายๆนะมึงจะเป็นแบบไอ้แทนหรือไอ้ฟ่าง” โอยไม่ไหวจะฮาครับ มึงเข้าใจเปรียบเทียบนะไอ้ปัน เดี๋ยวไอ้ฟ่างลุกมาแหกอกมึงหรอก ส่วนไอ้มิคมันก็จ้องไอ้แทนใหญ่เลยครับ
“สัส มึงจ้องกูไมเนี่ย”
“แล้วไอ้แทนกับไอ้ฟ่างนี่มันต่างกันยังไงวะ” อันนี้ผมว่าไอ้มิคเริ่มกวนตีนแล้วครับ เพราะหน้ามันตอแหลซะขนาดนั้น
“ถ้ามึงเลือกแบบไอ้แทนนะ มึงก็จะเหนื่อยหน่อยแต่ไม่เจ็บ ส่วนแบบไอ้ฟ่างมึงจะเจ็บแต่ไม่ค่อยเหนื่อย เลือกเอา”
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
“อ๊ออออ งั้นกูขอเป็นแบบไอ้แทนล่ะกัน”
“โอเค มึงจะเป็นรุก” ไอ่ฟ่างควันออกหู ตีปีกร่ำๆจะเข้ามาต่อยปากไอ้ปันเลยครับ ฮ่าๆๆ ดีที่ไอ้เชนคว้าคอเสื้อมันไว้ทัน(เพราะไอ้แทนมัวแต่ขำกลิ้งไปกับพื้น) ฮ่าๆ ไอ้คิวชูนิ้วโป้งกดลงไปในอากาศแบบเน้นๆเป็นท่ากดไลค์ให้ไอ้ปันหนักๆ โอยยยยย ปรมาจารย์ปัน มึงจะเกรียนไปไหน แสรดดดดดดดดดด
“กฎข้อต่อมาของการเป็นเกย์คือ มึงต้องหล่อ กูสำรวจมาแล้วร้อยล่ะแปดสิบของคนเป็นเกย์จะหล่อทั้งนั้น มีตัวอย่างให้ดูด้วยคร้าบบบบ” แล้วมันก็ผายมือมาที่พวกผม ไอ้เวร “ซึ่งหน้าอย่างมึงเนี่ยนะมิค ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่ากูไม่มาก(มันอวยตัวเองแล้วครับ) เพราะฉะนั้นมึงก็ถือว่าเข้าข่ายหล่อนะมิคนะ”
“หึหึ ถ้าใครหล่อเท่ามึงคงไปตะกวด เอ๊ย ประกวดหนุ่ม ครีโอแล้วล่ะปัน”
“อย่าพูดความจริงเบียร์ เมื่อวานกูไปเดินเซนปิ่นฯกับไอ้ปลื้มเว้ย คนแม่งมองกูกับน้องกันเป็นแถว คงนึกว่าดาราเกาหลี” เกาหลีมาอีกแล้วครับ มึงไม่คิดว่าเขาอาจจะมองของแปลกก็ได้นะปัน หึหึ
“ทำไมมึงไม่ชวนกูว่ะปัน เราจะได้ไปแบบดูโอ้ไง นิชมิค กับ ปัน คิ บอม แจ่มสาสสสสส”
“ปันคิบอม หึหึ โคตรแนวว่ะมิค เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนชื่อในเฟช พวกมึงไปกดไลค์คึให้กูด้วยนะ”
“ไลค์คึมันเป็นยังไงอ่ะพี่ปัน ฮ่าๆ” กร๊ากกกก ลูกครึ่งอย่างไอ้แมทถึงกับงงเอคเซนท์ไอ้ปันเลยครับ “เป็นยังไงก็อยู่ที่ปลายลิ้นกูนี่แหละ มาๆมิค เรามาว่ากันต่อ ข้อที่สาม” นี่ยังไม่เลิกอีกเหรอ กูนึกว่าลืมไปแล้ว “ก็เหมือนที่มึงอ่านเมื่อคราวก่อนอ่ะ นิ้วมือ นิ้วก้อยมึงต้องเหยียดตลอดเว เข้าใจ๊” แล้วไอ้มิคก็ลองกรีดนิ้วด้วยท่าทางที่ไม่น่าจะรอด
“ยากเหมือนกันนะเนี่ย แล้วทำไมคนแม่งนิยมเป็นจังวะ”
“สัสมิค เกย์นะเว้ยไม่ใช่ปลัดถึงนึกอยากจะเป็นก็สอบเป็นได้เลย มันเป็นเรื่องของจิตใจ ฮอร์โมน สภาพแวดล้อม หลายๆอย่างรวมกัน แล้วมึงอยากเป็นไปทำไมกูถามจริง” ไอ้หมอเชนผลักหัวไอ้มิคจนหน้าเกือบทิ่ม
“ก็กูอยากติดเทรนส์นี่หว่า ใครเป็นเกย์เป็นไบช่วงนี้แม่งมาแรง” กูขอบูชาให้กับเหตุผลของมึงเลยมิค
“ถ้ามึงจะเป็นเกย์เนี่ยนะมิค ตามตำราบอกไว้ว่า มึงควรจะเปลี่ยนชื่อ” เชี่ยปันนี่ก็ไม่ได้ฟังใครเขาเลย มันยังตั้งหน้าตั้งตาอธิบายต่อไป “โดยทั่วไปจากโพลที่กูสำรวจมา ชื่อแบงค์นี่มาอันดับต้นๆ คนชื่อแบงค์เป็นเกย์เยอะ ตามมาด้วยกอล์ฟ นัท ต๊ะ ที่สำคัญนะไม่ว่ามึงจะเป็นอะไรมึงต้องเป็นคนดี เกย์ที่ดีนี่น่ารักนะ”
“แล้วมึงรู้ได้ไง ว่าเกย์ที่ดีต้องเป็นยังไงไอ้ปัน” ไอ้คิวถาม
“เพื่อนคิวช่างกล้าถาม นี่ไงครับ สมองครับ แล้วมึงมีพี่เกิ้ลไว้ทำไมฮึ ให้พี่เกิ้ลช่วยสิเว้ย เว็บฯเกย์เยอะแยะ เข้าไปศึกษาดิ” ไอ้ปันมันชี้นิ้วไปที่ขมับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
“ปัน นี่มึงเป็นรึเปล่าเนี่ย แม่งรู้ลึกรู้จริงจนกูกลัวเลยไอ่สัส”
“พี่ปันเค้าอาจจะศึกษามาจากพี่องุ่นก็ได้นะพี่ภูมิ”