ตอนที่ 25 อีกคน
ช่วงนี้เหมือนพวกผมแต่ละคนถูกตัดออกจากโลกภายนอก ตะบี้ตะบันอ่านหนังสือลูกเดียว เหลืออีกสองวิชาผมก็จะสอบเสร็จแล้วครับ แต่มีบางคณะที่สอบเสร็จก่อนแล้ว แล้วก็บางคณะที่จะสอบเสร็จหลังพวกผม อาทิเช่น วิศวะ กับพวกคุณหมอทั้งหลาย เลยไม่มีใครติดต่อใคร
ส่วนไอ้ภูมิ ผมคุยกับมันวันละสิบนาทีได้มั้ง นอกนั้นก็ส่งข้อความเอา แล้วใครที่คิดว่าคนหล่อๆอย่างมันจะกวนตีนไม่เป็น หึ ไอ้ภูมินี่แหละครับตัวพ่อ
“อ่านหนังสือดึก ระวังขาสั้นกว่าเดิมนะ ฮ่าๆ”
“พักผ่อนด้วยนะตัวเตี้ย กูยังไม่อยากได้เมียเหมือนหลินฮุ่ย^^”
“คิดถึงมึงว่ะ ไอ้ผู้ชายโหลดต่ำ”
“ตั้งใจอ่านหนังสือนะครับที่รัก (ห้ามยิ้ม แหนะๆบอกว่าอย่ายิ้ม)” “ไอ้บ้าภูมิ” ผมด่าไอ้เจ้าของข้อความปัญญาอ่อน มันบอกว่าห้ามยิ้ม แต่ผมกลับหุบยิ้มไม่ได้ เลยตัดสินใจว่าจะส่งข้อความกลับไปหรือโทรไปด่ามันดี โทรหามันดีกว่า ผมปิดหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันออกที่อ่านทบทวนรอบสองจบ แล้วกดโทรหาไอ้ภูมิ
“รักนะคะคนดีของฉัน”
“จะวันไหนก็รักเพียงเธอ”
“และจะบอกว่ารักเธอที่สุด”
“ใจดวงนี้ของฉันหยุดที่เธอ”
“รักนะคะคนดีของฉัน……” อื้อหื้อ เพลงรอสายไอ้ภูมิ ผมละลายเลยดีมั้ยเนี่ย เมื่อวานยังเป็นเพลงหวานเย็นอยู่เลย วันนี้พี่บี้มาเองซะงั้น
(ครับเตี้ย) แม่งพูดจาสุภาพ แต่น้ำเสียงกวนทีนมากมาย
“เพลงเพราะเนอะ” ผมทิ้งตัวลงนอนแผ่กับเตียง แล้วยิ้มให้เพดาน ได้ยินเสียงหัวเราะของไอ้คนปลายสายดังมาแว่วๆ
(เอาไว้ให้แฟนฟังน่ะ ตั้งไว้ให้เบอร์พิเศษ คนพิเศษแค่คนเดียว)สงสัยว่ามันจะเครียดกับการสอบ สมองเลยสั่งการแปลกๆ
“เหรอ คงรักแฟนมากเลยเนอะ”
(อืม รักมาก ถึงแฟนกูจะโง่แต่มันก็เตี้ย ฮ่าๆ)
“ไอ้ฟายยย ด่ากู”
(กูด่าแฟนกู ไม่ได้ด่ามึง มายุ่งอะไรเนี่ย) เสียงหัวเราะของภูมิ ยังมีไม่หยุด
“หมาภูมิ เอ้อ กูมันไม่ดี ใช่ซี้” ผมแกล้งต่อว่าและหลุดขำ มือก็เผลอกำเขาไอ้โง่(ตุ๊กตาควายที่ไอ้ภูมิปาลูกโป่งให้น่ะครับ มันชื่อโง่ ผมตั้งเอง ไอ้ภูมิบอกว่า ชื่อนี้บอกความเป็นตัวตนของผมมาก เฮอะ) ผมก็ซื้อให้มันเหมือนกันแต่สีน้ำตาล ชื่อไอ้บื้อ ไม่ต่างกันเลย ฮ่าๆ
(ก็ใช่มั้ยล่ะ มึงไม่ใช่แฟน แต่เป็นเมีย เมียอ่านหนังสือเสร็จแล้วเหรอ)
“สัด ระดับกูไม่ต้องอ่าน กูก็ทำได้โว้ย”
(เหรออออ)
“เออดิ แล้วมึงอ่านจบยัง กูโทรมากวนรึเปล่า”
(จบแล้ว กำลังคิดถึงมึงเลย)
“สงสัยจะอ่านหนังสือมาก แล้วเบลอใช่มั้ยเนี่ย”
(เบลอว่ารักแถบ)
“ฮ่าๆ ช่างกล้านะภูมิ มึงนี่เป็นเอามาก อาการหนักแล้วนะกูว่า”
(หึ เพิ่งรู้รึไง แล้วพรุ่งนี้มึงสอบเช้าหรือบ่าย ให้ไปรับมั้ย)
“สอบเช้า ไม่ต้องมาเพราะเดี๋ยวไอ้คิวมารับ”
(ทำไมไอ้คิวต้องมารับ มึงไม่อยากเจอกูเหรอเตี้ย)
“ไม่อยากเจอหรอก มึงหน้าโหล กูเบื่อ” ถ้าอยู่ใกล้กันผมมีสิทธิ์ถูกมันเตะเลยนะ คึ
(ครับ ผมมันหน้าโหล คุณเตี้ยหน้าอินเทรน หล่อมาก หล่อได้อีก)
“ฮ่าๆ มึงไม่ต้องพูดความจริงก็ได้ภูมิ กูรู้ตัวดีว่ากูหล่อ”
(ถ้ากูรู้สึกหมั่นไส้แฟนตัวเองจนอยากจะกระทืบ กูจะบาปมั้ยพีม) สันดานเก่าเริ่มโผล่ หวานได้ไม่นาน ความโหดโฉดชั่วก็กลับมา แต่หวังว่ามันจะพูดเล่นนะ เพราะผมก็แอบกลัวอยู่ อิอิ
ผมคุยกันอีกไม่กี่คำก็วาง ไปล้างหน้าแปรงฟันอีกรอบแล้วก็เข้านอน ก่อนนอนผมได้รับข้อความสุดท้ายของคืนนี้
“ฝันดีนะครับ ไอ้เตี้ยของกู”ผมยิ้มให้โทรศัพท์ราวกับมันเป็นหน้าของคนที่ส่งข้อความมา แล้วผมก็ส่งกลับไป
“ฝันดีเหมือนกันนะครับ ไอ้เหี้ยของกู แบร่ ฮ่าๆ”ผมนั่งมองมือถือจนหน้าจอบอกว่า ข้อความที่ส่งไปถึงมือผู้รับเรียบร้อยแล้ว ผมวางโทรศัพท์ไว้ข้างโคมไฟ ปิดไฟและล้มตัวนอน ยังไม่ทันจะหลับตาเสียงสัญญานเตือนว่ามีข้อความเข้าก็ดังลั่น ผมรีบคว้ามาดูพร้อมรอยยิ้ม ไอ้ภูมิคงส่งกลับมาด่า
แต่ว่าไม่ใช่ภูมิ กลับเป็นใครอีกคน“หลับฝันดี พรุ่งนี้ตั้งใจสอบนะครับ…”
ไอ้คลื่น……………………………………..
“เฮ้ย หน้ากูเหมือนจัสติน บีเบ่อเหรอวะ แม่งจ้องอยู่ได้” ไอ้คิวโวยวายเพราะตั้งแต่สอบเสร็จผมก็เอาแต่นั่งจ้องหน้ามัน ไม่ใช่แค่ผมซะด้วย รวมถึงไอ้ภูมิ ไอ้แทน ไอ้ฟ่าง ไอ้มิค ส่วนพวกที่เหลือมีสอบบ่าย ยังไม่ออกจากห้องสอบครับ
คนอื่นจ้องธรรมดานะครับ แต่เชี่ยมิคชะโงกเข้าไปจ้องใกล้ๆ จนแทบจะแดกขนคิ้วไอ้คิวอยู่รอมร่อ ไอ้ปันไม่มาก็ใช่ว่าคนประหลาดจะหมดไป ไอ้มิคก็น้อยหน้าซะที่ไหน
“มึง……หล่อดีเนอะ” ผมชมไอ้คิวแบบเบลอๆ มันขมวดคิ้วใส่ทันที
“เชี่ยพีม กูขนลุก ไอ้ภูมิมึงลากเด็กมึงไปไกลๆกูเลยนะ บรึ๋ย แหยะๆ” นี่กูน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอคิว ผมเอาเท้าสะกิดไอ้แทนใต้โต๊ะ ให้มันดำเนินการตามแผนก่อนที่ไอ้มิค จะทำให้เสียการใหญ่
“คิว ใครตั้งชื่อให้มึงวะ” คงไม่ทันแล้วล่ะครับ “กูว่าจริงๆแล้วมึงต้องชื่ออิคคิว เฮ้ยพวกเราต่อไปนี้เรียกไอ้คิวว่าอิคคิวนะ ดีมั้ยเพื่อน” ไอ้ภูมิลากคอไอ้มิคมานั่งข้างๆเหมือนเดิม สงสัยจะเหยียบเท้าด้วย ไอ้มิคถึงได้ทำหน้าเจ็บปวดแบบนั้น
“หน้ากูดูเหมือนเณรนักรึไงห๊ะ กูชื่อไอคิวโว้ย ไม่ใช่อิคคิว”
“มึงไม่ต้องไปสนใจไอ้มิคหรอกคิว มึง เอ่อ มึง มึงยังไปร้านพี่โอ้อยู่มั้ย” ไอ้แทนถามได้ตรงประเด็นมาก แผนที่พวกผมคุยกันไว้ สิ่งแรกคือเช็คความรู้สึกของไอ้คิวว่ายังเหมือนเดิมหรือเปล่า หมายถึงมันยังรักยังรู้สึกกับน้องนมปั่นของมันอยู่มั้ย พวกผมจะได้เดินเกมส์ถูก และเหมือนจะได้ผล
“ถามทำไม” มันสวนกลับไอ้แทนทันที เซี้ยววินาที ที่ดวงตาคู่นั้นของไอ้คิววูบไหวและเหมือนจะหลบตา
“ก็ถามดู พี่โอ้สบายดีรึเปล่าวะ”
“ก็ดี”
“มึงยังไปบ่อยเหรอ”
“มึงอยากพูดอะไร ก็พูดตรงๆเลยดีกว่าแทน” ไอ้คิวเริ่มหงุดหงิด เหมือนไม่อยากจะคุยแล้ว
“เปล๊า ก็ถามดู นึกถึงสมัยก่อนไง ที่มึงชอบไปบ่อยๆ ไม่รู้แม่ง มีอะไรดี” สงสัยไอ้แทนมันจะอยู่กับไอ้ฟ่างมากเกินไป เลยถูกไอ้ฟ่างออสโมซิสรังสีความน่ากลัวใส่ สายตงสายตา คำพูด แม่งดูเจ้าเล่ห์ไปหมด
ไอ้คิวไม่ตอบ มันควงปากกาในมือเล่น เวลาที่มันแก้ปัญหาไม่ได้ หรือตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน ไอ้คิวมักจะเงียบ นิ่ง ไม่ตอบสนองสิ่งเร้า ผมกับไอ้แทนมองหน้ากันเพราะรู้ดี
แต่ยังไม่ทันที่จะง้างปากไอ้คิวให้สำเร็จ เสียงหลอนประสาทของไอ้ปันก็ดังแทรกมาซะก่อน ฮึ่ม พวกกูกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เชี่ยปันมาเสียหมด
“พวกมึงงงงง กูสมเสร็จแล้วววว” ไอ้ปันวิ่งโร่แหกปากมาแต่ไกล สมเสร็จเหี้ยไรของมึงเนี่ย สมเสร็จมันสัตว์ป่าสงวนใกล้สูญพันธ์เว้ย
“สอบเสร็จบ้างเหอะปัน” ผมบอกมันตอนที่ถูกมันเบียดจนเกือบตกม้านั่ง ดีที่ภูมิคว้าแขนผมไว้ทัน
“เออน่า มันก็เหมือนๆกันแหละ เอ้อคิว กูมีของมาฝาก นมปั่นเย็นๆ ส่วนของพวกมึง วีต้าพรุนสกัดจากรังนกแท้”
“วีต้าพ่อมึงสิ สกัดจากรังนก”
“อิอิ แล้วคุยอะไรกันอยู่ น่าสนุกจัง เล่าให้กูฟังบ้างสิ ว่าไงๆ” มึงเอาขนตาเส้นที่เท่าไรดู ถึงเห็นว่าบรรยากาศตอนนี้สนุก ห๊ะ ปัน
“พวกกูกำลังคุยกัน ว่าถ้ากูเตะปากมึง จะเป็นยังไง ใช่มั้ยครับแทน” ฮ่าๆ ไอ้ฟ่าง เอาคางเกยไหล่ไอ้แทน ลอยหน้าลอยตาตอบ กวนตีนมาก แต่ภูมิถึงกับส่ายหน้าให้กับความเลวของพี่ชายมัน
“เตะปากกู กูก็เจ็บสิ”
“เออ ไม่อยากเจ็บก็หุบปาก”
“ไอ้แทนถ้าเมียมึงคลอดลูก กูขอซักสองตัวนะ จะเอาไปเฝ้าบ้าน แม่งดุชิบหาย”
“ฮ่าๆ” พวกผมพร้อมใจกันหัวเราะไอ้ฟ่างที่ถูกไอ้ปันหลอกด่าเป็นหมา ไอ้แทนนี่คงสะใจมากตบมือตบโต๊ะซะเว่อร์ เลยถูกไอ้ฟ่างตบหัวกลับ เออ มันรักกันด้วยลำแข้งจริงๆ
“มึงนั่งจ้องแก้วทำไมวะคิว แดกสิแดก แดกเลย” ไอ้ปันคะยั้นคะยอ
“พวกมึงเป็นเหี้ยไรกันวะ ทำไมทำตัวแปลกๆ”
“แปลกยังไง แปลกตรงไหน ไม่เห็นแปลก เนอะภูมิ”
“อืม” เออ มึงก็เออ ออ ไปกับมันนะภูมิ
“อยู่ดีๆ ซื้อ…นมปั่นให้กูทำไม”
“อ้าว ก็กูจำได้ว่าเมื่อก่อนมึงชอบกินไง พอดีกูเดินผ่านเห็นมันน่ากินเลยซื้อมาฝาก กูหวังดีนะคิว ดื่มนมจะได้ฉลาด มึงอยากสมองนิ่มแบบไอ้พีมหรอ”
“เชี่ยปัน แม่งเกี่ยวอะไรกับกูวะ” แค่นั้นแหละ ไอ้คิวเลิกระแวง คว้าแก้วนมปั่นมาดูด ยิ้มเลวยักคิ้วให้ผม สรุปต้องเอากูเข้าแลกใช่มั้ย ไอ้ตัวข้างๆนี่ก็ขำไปกับเขานะ
“หัวเราะอะไรภูมิ พ่อมึงเสียหรอสัด”
“อ้าว พ่อมันก็พ่อกูนะเชี่ยพีม โอ๊ะโอ เป็นพ่อสามีมึงด้วยนะนั่น ฮ่าๆ” ไอ้ฟ่าง มึงนี่เหนือคำบรรยายเกินไปแล้ว
“พ่อเมียกูด้วยใช่มั้ยฟ่าง”
“ไม่เสือกซักเรื่องก็ไม่มีใครรู้หรอกว่ามึงจัญไรไอ้แทน”
กำลังแหกปากสาดน้ำลายใส่กันมันส์ๆ แบบไม่มีไอ้หน้าไหนฟัง มีแต่คนจะพูด เสียงโทรศัพท์ไอ้ภูมิก็ขัด มันยกมาดู
“ไอ้เบียร์น่ะ” พวกผมพยักหน้า มันก็รับโทรศัพท์เพื่อนซี้มัน
“เออ…. อยู่คณะกู มึงจะมามั้ยหรือจะกลับบ้าน… อือ…. แล้วไอ้เชนล่ะ…. อืมเดี๋ยวกูโทรหา” ไอ้ภูมิคุยกับไอ้เบียร์เสร็จก็หันมาจ้องหน้าผม หลังๆมานี่ผมเริ่มเข้าใจภาษาตาของมันมากขึ้นครับ เรียกว่าไม่ต้องพูดแค่มองตาก็เข้าใจว่างั้นเถอะ เหอๆ ส่วนมากดวงตาไอ้ภูมิจะตั้งโปรแกรมคำสั่งไว้อย่างเดียว
อย่างตอนนี้ตามันบอกผมว่า “กูจะกลับบ้าน มึงต้องกลับกับกู” งี้แหละครับมีแฟนหล่อพูดน้อยโลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก ไอ้พีมเลยต้องมีความสามารถพิเศษเยอะหน่อย นี่ถ้าเอาผมไปฝึกมากๆอาจจะกระโดดลอดห่วง หรือดมหายาบ้าได้ก็เป็นได้นะครับ
“ไอ้ฟ่างงง อ้าว พวกมึง ไอ้พีม ไอ้คิว ไอ้แทน ไอ้ปันปัน มาทำอะไรที่นี่” เพื่อนสุดสวย แต่ปากกรรไกรของผม มายืนงงอยู่หัวโต๊ะ
“อ้าวฝ้าย มึงรู้จักกันด้วยเหรอ” ไอ้มิคถามงงๆ
“เออ นั่นสิ มึงรู้จักพวกไอ้ฟ่างด้วยหรอฝ้าย” ไอ้คิวงงบ้าง
“หึ น้อยไปสิ ฝ้ายอ่ะเมียเก่ากู”
“เชี่ยฟ่าง ปากหมานะมึง กูเป็นเมียน้องมึงต่างหาก จริงมั้ยคะภูมิ” ไอ้ฝ้ายยิ้มหวาน สไลด์ตัวลงนั่งข้างไอ้ภูมิ จะว่าไปโลกมันก็กล๊มกลม ที่ฝ้ายมันจะรู้จักพวกผมทั้งสองกลุ่ม แต่ตอนนี้เป็นกลุ่มเดียวกันแล้วนิเนอะ
“อ้วกกก ส้นตีนเหอะ พวกมึงดูดิ ได้ยินไอ้ฝ้ายพูดคะ กูขนลุกเลย” ไอ้คิวยื่นแขนมากลางวง
“อ้วกทำไม ตีนใครติดคอมึงห๊ะ มึงก็เหมือนกันไอ้แทน อย่าหล่อให้มันมากนัก เดี๋ยวกูอดใจไม่ไหว ฮ่าๆ”
สรุปคือไอ้ฝ้ายกับไอ้ฟ่างเคยคบกันจริงสมัยเมื่อนานมาแล้ว แต่บังเอิญด้วยความปากหมาระดับตำนานทั้งคู่ คบกันอยู่ดีๆกลายเป็นเพื่อนรักซะงั้น ผมก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ปกติมีแต่เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟน นี่เปลี่ยนแฟนมาเป็นเพื่อน
แต่ก็เล่นเอาอึ้งเหมือนกันกับความจริงที่ว่าไอ้ฝ้ายสุดยอดแห่งความปาก…กับไอ้ฟ่างเจ้าพ่อความเลวเคยคบหากัน มันจีบกันยังไงวะ ไอ้แทนมันก็คงรู้มาก่อน เพราะมันดูไม่ตกใจ ไม่ตื่นเต้นเท่าไร
“แล้วสามีสุดที่รักกูไปไหน”ไอ้ฝ้ายย้ายที่มานั่งเบียดไอ้มิค แถมคว้าแก้วนมปั่นไอ้คิวไปดูดเสียงดัง ภาพพจน์อดีตเฟรชชี่ศิลปกรรมไม่เหลือแล้ว
“สามีมึง?ใครวะ”
“ก็พี่เชนกับพี่เบียร์ไง ไม่อยู่กับพวกมึงเหรอ”
“ตกลงจะเชนหรือจะเบียร์”ไอ้ปันถาม แต่มันก็ไม่สนใจจะรอเอาคำตอบ เพราะกำลังช่วยไอ้มิคเลี้ยงทามาก็อต โอ้ววว นี่ศตวรรษที่ 21 แล้วนะ ยังมีทามาก็อตเล็ดรอดเหลือมาอีกเหรอ
“น้องฝ้ายของสองคะ เอ๊ะ ขอหมดนี่เลยแล้วกัน พวกมึงนี่ก็เข้าใจคบเพื่อนนะ แม่งกูนึกว่ารวมคนหล่อ”
“มึงพูดถูกใจว่ะ”
“ถูกใจก็เรียกใช้บริการได้นะคะคุณแทน”
“บริการขัดส้วม ถูบ้าน อะไรประมานนี้รึเปล่าวะฝ้าย” ฮ่าๆ ไอ้ฝ้ายหน้างอ หน้าบึ้ง แต่พวกผมกลับหัวเราะสะใจ นานๆทีจะมีเหตุให้ฝ้ายด่าไม่ออก ต้องรีบสมน้ำหน้ามัน สุภาพบุรุษกันมาก รุมแกล้งผู้หญิง ฮ่าๆ
“หึ” เสียงไอ้ฟ่างครับ ถ้าฝ้ายจะสังเกตซักนิดนึง คงจะเห็นมือไอ้แทนที่โอบเอวไอ้ฟ่างอยู่
“แล้วตกลง มึงมาทำอะไรแถวนี้วะ”
“พี่กูคุมสอบ เลยมารอมัน” พี่ไอ้ฝ้ายเป็นอาจายร์สอนในคณะวิศวะครับ “เออ พีม เรื่องค่ายตกลงมึงไปใช่มั้ย”
“อืม ไปดิ ไอ้คิวไอ้เต้ยก็ไป”
“ค่ายอะไรพีม” เสียงเย็นๆจากคนที่นั่งข้างๆ แม่งนรกมาเยือนแล้วกู ผมลืมบอกไอ้ภูมิว่าจะไปออกค่าย หน้ามันตอนนี้เลยคำว่าหงิก บึ้ง ไปไกลแล้ว
“เอ่อ ค่ายศิลปะ กูว่าจะบอกมึงนะ แต่มันยุ่งๆน่ะ เอ่อ คือ กูลืม”
“มึงอยากไปหรอภูมิ” ไอ้ฝ้ายยื่นหน้ามาถามตาแป๋ว ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แต่ไอ้ภูมิก็หาได้สนใจไม่ มันยังเอาแต่จ้องผมตาไม่กระพริบ อย่าเพิ่งแดกหัวกูนะภูมิ “หึ เสียใจนะจ๊ะที่รัก ครั้งนี้มีแค่ถาปัดกับศิลปกรรม นอกนั้นหมดสิทธิ์จ๊ะ เออ มึงไม่ไปเหรอฟ่าง”
“ไม่ว่ะ กูกลัวมึง”
“กลัวเหี้ยไร กูไปค่ายครั้งนี้ก็เพื่อการนี้แหละมึง คอยดูกูจะหาแฟนถาปัด กลับจากค่ายกูคงได้ผู้ชายเป็นพรวน” น่ากลัวเกินไปแล้วเพื่อนผม เข้าใจนะว่าจบหญิงล้วนมา แต่ช่วยทำอะไรที่มันเข้ากับหน้าตาหน่อยเถอะฝ้าย
“ไอ้คิว ไอ้พีม พรุ่งนี้สอบเสร็จไปเจอกันที่ห้องสโมฯนะ พี่เจตจะแจ้งกำหนดการ พวกถาปัดก็จะมา ผู้ชายถาปัดอ่ะมึ้ง สเป็คกู”
“น้อยๆหน่อยมึงไอ้ฝ้าย ผู้ชายคณะกูก็เลือกเหอะ อย่างมึงนี่ หึ ใครเค้าจะเอา เฮ้ยพีมมึงเอามั้ยวะ แบบไอ้ฝ้าย” ไม่บอกไม่เชื่อนะครับ ว่ามันสองตัวเคยเป็นแฟนกัน กัดกันขนาดนี้
“ให้ฟรีหรอวะ ขอกูคิดดูก่อนนะ”
“ไอ้พวกเชี่ย ที่กูยังไม่มีแฟนเพราะกูมีมาตรฐานโว้ย”
“ฐานเจดีย์หรือฐานข้อมูลวะ ฮ่าๆ” ไอ้คิวหัวเราะเสียงดัง พร้อมผลักหัวฝ้ายอีก
“ระวังนะมึง เลือกมากๆจะตายบนคาน ผู้ชายสมัยนี้ยิ่งมีน้อย”ไอ้มิคพูดโดยที่ตาอยู่ที่ทามาก็อตในมือไอ้ปัน
“หึ มีน้อยกูไม่ห่วงว่ะมิค แต่เสือกแดกกันเองนี่สิ” มันมองไอ้ฟ่างยิ้มๆ ผมก็ร้อนๆหนาว ๆ ภูมิก็ยังนั่งหน้านิ่ง ไม่มีอารมณ์ร่วมกับใครหน้าไหนทั้งนั้น ผมกับมันคงมีคุยกันยาวแน่ๆเรื่องที่ผมจะไปค่าย
“อะไร มองทำไม” ไอ้ฟ่างถามกลับนิ่งๆ ไม่ได้สะทกสะท้าน และไม่ขยับออกจากไอ้แทนด้วย
“มึงกับไอ้แทนคบกันใช่มั้ย”
“ใช่ แล้วไง” กูนึกว่าไม้บรรทัด ตรงมากอะไรมากครับฟ่าง ส่วนไอ้แทนยกนิ้วโป้งให้กับความเจ๋งของแฟนมัน
“ฝ้ายย มึงรู้ได้ไงวะ” ไอ้คิวมันสงสัย
“โอ๊ย ให้กูบอกเลยมั้ยว่าในกลุ่มพวกมึงเก้าคนสิบคนเนี่ย ใครผัวใครเมีย มันจะไปดูยากอะไรก็ดูตาไอ้แทนที่มองไอ้ฟ่างสิ เพื่อนกันมันไม่มองแบบนั้นหรอก ไอ้ปัน ไอ้มิค ยังเป็นความหวังของชะนีได้ ส่วนมึง” มันชี้มาที่ผม “เป็นของใครระหว่างไอ้คิวกับไอ้ภูมิ” ไอ้คิวรีบคว้ากระดาษขึ้นมาโบก เป็นสัญลักษณ์ว่า กูยกธงขาว ไอ้ฝ้ายหันมามามองผมแบบเคืองๆ
“หล่อ… รวย… เก่ง แม่งก็กลายพันธุ์กันไปหมด” มันพ่นคำว่าหล่อใส่หน้าไอ้ภูมิ รวยมันก็ด่ากราด เก่งมันก็สาดใส่อย่างทั่วถึง “แล้วดูเหลือไว้ให้พวกกูแดกดิ มีแต่กากๆ แม่ง” ผมอยากด่ามันกลับเหมือนกัน แต่ถึงมันจะเป็นเพื่อน มันก็เป็นผู้หญิงผมคงด่าไม่ลง อย่าใส่กระโปรงสิวะ พ่อจะปล่อยหมากัดให้หมด
“เฮ้ย พี่กูคุมสอบเสร็จแล้ว ไปก่อนนะเว้ย ค่อยเจอกัน ไอ้คิวไอ้พีมอย่าลืมนะพรุ่งนี้ห้องสโมฯ” ไอ้ฝ้ายถลกกระโปรงพีทกระโดดข้ามโต๊ะ ผมล่ะเสียวแทน มึงจะแมนแข่งกับพวกกูใช่มั้ยฝ้าย
“ชาตินี้จะมีผู้ชายคนไหนเอามันวะ”
“หึหึ อย่างน้อยมึงก็เคยคบมันแหละฟ่าง”
“มึงเงียบไปเลยมิค”
.............................