เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2601920 ครั้ง)

lasom

  • บุคคลทั่วไป
ทำเป็นเสนอนะพี่ไผ่ สุดท้ายก็เพื่อน้องริวทั้งนั้นแหล่ะ
อิอิ รักซึมลึก :-[

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
น้องริวหน้ารักไม่เปลี่ยน ไปบ้านส่วนจะมีไรดี ๆ เกิดขึ้นไหมเนี่ยลุ้น ๆ
 :pig4: writer คะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ขอบคุณที่มาต่อครับ แต่ริวอย่าไปโกรธอลันเลยนะ

hahn

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันซะทีนะ พี่ไผ่กะน้องริว เรื่อย ๆ  เนียน ๆ ไปอีกเมืี่อไหร่

Jinkle

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
อ้างถึง
ไผ่กับริว นี่เรื่อยๆมาเรียงๆจัง เหมือนจะไม่พัฒนาไปไหน  แต่น่ารักทุกตอนเลย 
ขอบคุณคุณ spring ค่ะ สำหรับความน่ารักของพี่ไผ่กับน้องริว

อ้างถึง
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันซะทีนะ พี่ไผ่กะน้องริว เรื่อย ๆ  เนียน ๆ ไปอีกเมืี่อไหร่

ใจเย็นๆก๊าบ...เพราะ.......................




อีกน๊านนนน....ฟิ้วววววววววววววววววววว (วิ่งหนีสุดชีวิต)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
อิอิ ไร้ท์เตอร์มาตอบเองใช่ม๊าย
ดีใจๆ ต่อไปจะได้ทวงตรงตัวเลย 55
ต่อช้าไม่ว่าแต่อย่ามาม่าเลยนะคะ
บวกเจาะไข่ให้ค๊า

morrian

  • บุคคลทั่วไป
น่าร๊ากกกก

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
เมื่อไรจะเป็นแฟนกันซะทีนา เฮ้อ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
สั้นลงๆเนาะ แต่ไม่เป็นไรมาบ่อยๆก็ชื่นใจ
 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0


ริวเท่มาก อร๊ายยยยยย
 :o8:
ไปด้วย
 :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2010 13:44:28 โดย aeecd »

chae

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวสุดโค้ยยย
><

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อ่านไปยิ้่มไป แต่แอบระแวงมาม่า ...  o22

ออฟไลน์ ~prince™~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +161/-2
สั้นอะ  :z3:

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
น้องริวขับรถเก่งจังเลย

ตอนนี้เหมือนน้องริวจะตอบคำถามนักข่าวเก่งขึ้นน๊า
โชะ โชะ ไปเลย ไม่มีการอ้ำอึ้งแล้ว

แต่น้องริวก็ยังเกรงใจพี่ไผ่อยู่ดี
กลัวพี่ไผ่ไม่รักใช่ม๊า

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
นึกภาพน้องริวดริฟฟ์
งื้อออ คงจะเท่มากกกกกกก
อยากเห็นอ้ะ
ไปบ้านพี่ไผ่ๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
น้องริวนี่มีมุมเท่ห์ๆ กับเขาเยอะเหมือนกันนะ
แต่เวลาอยู่กับพี่ไผ่นี่เป็นเด็กน่ารักตลอดเลย
 o13

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ริวเริ่มแมนเรื่อยๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
มารอในวันลอยกระทง  :call: :call:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อ้างถึง
ไผ่กับริว นี่เรื่อยๆมาเรียงๆจัง เหมือนจะไม่พัฒนาไปไหน  แต่น่ารักทุกตอนเลย 

อ้างถึง
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันซะทีนะ พี่ไผ่กะน้องริว เรื่อย ๆ  เนียน ๆ ไปอีกเมืี่อไหร่

ใจเย็นๆก๊าบ...เพราะ.......................



อีกน๊านนนน....ฟิ้วววววววววววววววววววว (วิ่งหนีสุดชีวิต)

 o22  อีกน๊านนนนนานนนนนนนนนนนนแค่ไหนคะ :serius2:

นี่ผ่านมา 50 ตอน ... ดูเหมือนว่าท่าทางความสัมพันธ์ระหว่างไผ่กับริวจะไม่มีทางจะเป็นไปมากกว่าคำว่า"พี่ชาย-น้องชาย"เลย

ริวตอนนี้ก็เหมือนเด็กไร้เดียงสาอ่ะ เกิดอารมณ์กับไผ่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร อะไรๆก็ร้องไห้ ไม่รู้สิ ไอรู้เหมือนริวคือเด็กน้อยที่ต้องการอ้อนพี่เท่านั้น

ไผ่นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีท่าทางจะคิดอะไรกับริวได้ไปมากกว่าคือพี่ที่ติดน้องน่ารักๆขี้อ้อนคนหนึ่งเหมือนกัน

สองคนนี้มองยังไงก็ไม่มีท่าทีจะมากไปได้กว่านั้น ทั้งๆที่นี่ก็ผ่านมา 50 ตอนแล้วนะคะ

ไอทายว่า..กว่าไผ่จะรู้สึกใจเต้นแปลกๆกับริวขึ้นมาบ้างคงต้องคูณสองของตอนนี้เลยล่ะมั้ง(ซึ่งไม่ได้แปลว่ารักกันแล้วด้วยนะ)

 :เฮ้อ:  ก็รออยู่นะคะ  ^^  แค่รู้สึกว่าคงไม่มีทางพัฒนามากไปกว่านี้ได้แล้วน่ะ ก็เลยอยากเห็นตอนสองคนนี้พัฒนาไปบ้างแล้วอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
มาตอบน้องไอ และหลายๆคนที่ข้องใจว่าอิคู่นี้เมื่อไหร่มันจะรักกัน หรือเมื่อไหร่จะได้อ่านเลิฟซีน(วะ)

อย่างคู่ริวกับไผ่  ต้องใช้คำว่ารักซึมลึก  มันยากที่จะเปลี่ยนผู้ชายแท้ๆสักคนให้รักผู้ชายด้วยกัน  แต่มันต้องมีสิ่งที่เรียกว่า "สถานการณ์+ความผูกพัน= จุดเปลี่ยน"

 นิยายเรื่องนี้เดินเรื่องเรื่อยๆมาเรียงๆมาก  ด้วยเหตุที่ความรักของคู่นี้จะต้องเป็นรักแบบ "เธอคือลมหายใจ"  เพราะงั้นมันคงไม่ใช่แบบเจอหน้ากัน ปิ๊งกัน  จีบไปสักวันสองวันแล้วขึ้นเตียงกัน  แล้วจะบอกว่า  รักจนอีกคนเป็นเหมือนลมหายใจที่ขาดไม่ได้

โลกนี้ไม่ได้มีแค่ไผ่กับริวสองคน  ทั้งสองคนอยู่ในฐานะคนของประชาชน  ไผ่จึงคิดมากและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะริวไม่คิด  ไม่แคร์  และไม่สนใจอะไรเลย :เฮ้อ:

ความรักของไผ่มันแฝงอยู่ในการกระทำค่ะ ไม่ใช่คำพูด  ความห่วงหา  ความเอาใจใส่  เอื้ออาทร  รวมไปถึงอารมณ์หึงหวง  ไผ่จะไม่มีวันแสดงออกมาตรงๆอย่างแน่นอน  แต่หลายๆคนในนี้ก็คงจับอาการได้ว่าไผ่เองก็หวงน้อง  ไผ่เค้าแสดงความรักในแบบไผ่เองนะคะ

ส่วนริวที่มีพื้นฐานมาจากศูนย์กลางจักรวาลในโลกของตัวเองมาตลอด  ริวยอมลงให้ไผ่เพราะอยากให้พี่รัก  นั่นคือเหตุผลที่ริวเป็นเด็กดี  ริวยังมีพื้นฐานความเป็นเด็กในตัวสูงมากจึงแสดงความรู้สึกตรงๆได้ตลอดเวลา  ริวจะงอแง จะอ้อน  ก็เฉพาะกับพี่ไผ่  กับคนอื่นริวก็ไม่ได้ทำ  เพราะนั่นคือการแสดงความรักในแบบของริวเหมือนกัน

คนร้องไห้ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ  เพียงแต่ไม่เคยมีใครสอนริวว่า  เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้...

แต่บางที  “น้ำตา”  ก็ทำให้ได้ “อะไรๆ” ในแบบที่ต้องการ  โดยที่คนให้เองก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกบังคับให้ยอม ใช่มั๊ยคะ o18

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
^
^
^
 :z13: คนแต่ง
ดีใจที่คุณ Anonymus เข้ามาตอบคำถามค่ะ ได้อ่านแล้วรู้สึกเคลียร์กับหลายๆข้อ คิดว่าความรักของไผ่กับริว เป็นแบบรักซึมลึกเหมือนกันค่ะ ถึงบอกว่าคู่นี้เค้าเรื่อยๆมาเรียงๆ ชอบที่คุณAnonymus บรรยายการแสดงออก การกระทำ คำพูด ของทั้งคู่ค่ะ อ่านแล้วอบอุ่นดี คำพูดของพี่ไผ่ที่สอนน้องก็ให้ข้อคิดได้ด้วย รอ "สถานการณ์+ความผูกพัน= จุดเปลี่ยน" ที่จะมาถึงค่ะ
:L1: คนแต่ง+คนโพสต์ค่ะ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
สถานการณ์ที่ว่านั่นมาถึงในตอนต่อไปที่จะมาต่อคืนนี้เลยได้ไหมคะ
เอิ๊กๆ แอบกดดันทั้งคนแต่งและคนโพส

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยกับAnonymusมากๆค่ะ คู่น้องริวกับน้องไผ่ต้องเป็นไปแบบค่อยๆ"ซึมลึก"ค่ะ

เพราะรักมันจะค่อยๆขยายจากความผูกพันกันจนกลายเป็นลมหายใจของอีกฝ่าย

ชอบตรงความน่ารัก ความผูกพันที่ทั้งคูมีให้กันเสมอ รอๆๆๆ อยู่น้าาาา

SweetSmile

  • บุคคลทั่วไป
อืม~เห็นด้วยค่ะ
ความรักของน้องริวกับพี่ไผ่ต้องค่อยเป็นค่อยไป
การจะเปลี่ยนผู้ชายซักคนที่ไม่เคยชอบผู้ชายด้วยกัน
ให้หันมามีความรู้สึกชอบ รัก ผู้ชายด้วยกัน มันยากมาก
ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง มันก็คงต้องใช้เวลาเนอะ

พี่ไผ่ก็เป็นห่วงน้องริวมาก ๆ
อนาคตก็คงจะพัฒนาเป็นความรัก
ยิ่งเวลาน้องริวอ้อน พี่ไผ่ก็ยอมทุกอย่างเลย

รอวันที่น้องริวกับพี่ไผ่ถึงจุดเปลี่ยนนะคะ
เมื่อถึงตอนนั้นความรักความผูกพันของทั้งสองคน
คงจะเป็นลมหายใจของกันและกัน
ที่ไม่อาจจะขาดห้วงไปซักวินาทีนะคะ



Namtarn

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านเรื่องนี้ยิ่งหลงรักพี่ไผ่ ค่อยๆ รักซึมลึก อิอิ  :L2:
แต่เห็นไร้ท์เตอร์พูดเรื่องสถานการณ์แล้วกังวล
ไม่เอามาม่าชามโตนะคะ เข้าใจว่าต้องมีนิดหน่อยแหละ แต่เยอะนักไม่ไหว ใจจะขาด

humanculus

  • บุคคลทั่วไป


รัก Tr  เสมอ  เท่าที่เธอพยายามปั่นสุดฤทธิ์  กว่าจะหมดลมหายใจ  ขอเป็นกำลังใจอยู่ข้าง  คร้าบบบบบบบบบบบบ



เขินจัง  ...   เวลาตังไม่มี  5555+

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อืมมมมม.... รักซึมลึกสินะ

ไอพอมองเห็นนะว่าไผ่มีหงุดหงิดเหมือนกันตอนริวทำอะไรไม่บอก
แต่ตอนนี้ไอก็มองเห็นแค่ไผ่กังวลและเป็นห่วงในฐานะพี่ที่ไม่เห็นน้องอยู่ในสายตาเท่านั้นเอง
เพราะไผ่ไร้เดียงสามาก ไอมองยังไงตอนนี้ทั้งสองคนก็ยังไม่สามารถก้าวไปถึง"รักแบบแฟน"ได้

แต่พี่บอกว่า "รักซึมลึก" "สถานการณ์+ความผูกพัน = จุดเปลี่ยน" ก็พอเข้าใจ.... o8

เฝ้ารอดูสองคนนี้ต่อไป~ :oni1:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
ตอนที่ 51



ก่อนถึงบ้านพสุให้รถจอดที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อโลชั่นทากันยุงให้ริว  ไวยากรณ์หัวเราะก๊ากเมื่อเห็นริวทาโลชั่นกันยุงของเด็กแล้วแซวไปตลอดทางว่าริวผิวบาง...แต่ก็ต้องเลิกแซวเพราะตะวันก็เอายากันยุงไปทาเหมือนกัน


“แม่สวัสดีครับ...ป้าใจสวัสดีครับ”  ริววิ่งตื๋อเข้าไปกอดสุดาเป็นคนแรก 

“สวัสดีครับลูก...ริวตัวโตขึ้นอีกแล้วนะเนี่ย”  สุดาทักยิ้มๆ  พร้อมลูบแก้มลูบหน้าริวอย่างคิดถึงก่อนจะหันไปกางแขนรับพสุเข้ามากอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา

“แม่ครับ  พี่กรครับ  ผู้จัดการวง  ส่วนนั่นก็ตะวัน  ธีรดล  แล้วก็ไวยากรณ์ครับ” ทุกคนเข้ามาไหว้สุดากับป้าใจกันเป็นทิวแถว 

“สวัสดีจ้ะ  ตามสบายนะลูก  ไผ่พาพี่เขากับเพื่อนๆ ไปเที่ยวในสวนก่อนนะลูก  ทุเรียนต้นริมคลองจัดแล้ว  แม่ให้คนงานเขาไปตัดให้อยู่  เดี๋ยวคงขนเข้ามาให้”

“ครับแม่”  พสุเดินนำทุกคนเข้าไปในสวน  แต่ละคนตื่นตาตื่นใจกับสวนผลไม้ที่ออกลูกระย้าแทบทุกต้น  ขนาดริวที่เคยมาเห็นแล้วก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้


แรกๆทุกคนก็มัวสนใจแต่ผลไม้  แต่ครู่เดียวไวยากรณ์ก็เริ่มเกาจนแขนแดงไปหมดเพราะโดนยุงกัด  พอเหลียวไปดูพสุกับริวก็เห็นเดินคุยหัวเราะกันแบบสบายๆ   เพราะทายากันยุงมาก่อนจึงไม่โดนกัด


“โอ๊ย! กัดอะไรนักหนาเนี่ย”

“พี่ไวย์เอายากันยุงไหม”  ริวถามแล้วส่งขวดยากันยุงให้  เพราะเห็นแขนไวยากรณ์มีแต่รอยยุงกัดแดงไปหมด

“โหยได้ทีนะไอ้หนูริว” ไวยากรณ์หน้าง้ำ  เพราะเมื่อครู่เพิ่งแซวริวเรื่องผิวบางมาหมาดๆ  แต่สุดท้ายตัวเองก็ต้องมาขอพึ่งยากันยุงของริว

“น้องหวังดียังจะไปว่าน้อง  ตกลงไม่เอาใช่มั๊ย  งั้นเอามานี่”  ธีรดลเดินมาดึงขวดยากันยุงไปจากมือไวยากรณ์แล้วเอาไปแบ่งกันทากับกรเวชหน้าตาเฉย  ไวยากรณ์โวยวายตามไปแย่งเพราะกลัวหมด

“พี่...ริวช่วย” ริวตามไปช่วยพสุตัดผลไม้ลงกระจาด  พสุก็คอยบอกว่าลูกไหนแก่ตัดได้   ลูกไหนยังอ่อนเกินไป  เพราะผลไม้บางชนิด  ก็มองออกว่าแก่แล้ว  แต่บางชนิดต้องอาศัยความชำนาญถึงจะแยกออกว่าแก่หรืออ่อน 

“ที่นี่ร่มรื่นดี...น่ามานอนแต่งเพลง”  ตะวันแหงนขึ้นมองต้นไม้รอบๆตัวแล้วสูดอากาศลึกอย่างพอใจ

“เอาสิ...อยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย  ถ้าไม่รำคาญเรื่องยุงเยอะนะ  ที่นี่ก็สงบดี” พสุชวนแล้วหยิบฝรั่งในกระจาดโยนให้ 

“อืม...วันหลังจะมา”  ตะวันพยักหน้ารับ  แล้วแทะฝรั่งที่พสุให้พลางเดินดูรอบๆ อย่างสนใจ


พอเดินกันไปถึงดงทุเรียน  ก็เจอคนงานชาย 3-4 คนกำลังตัดทุเรียนลงมาวางเรียงไว้เพื่อเตรียมขนกลับไปที่บ้าน  ธีรดลนั้นอยากกินเลย  แต่ยังกินไม่ได้ เนื่องจากเป็นทุเรียนดิบต้องเอาไปบ่มไว้ก่อน 


“พี่ไผ่...ใบมะพร้าว”  ริวสะกิดพสุให้ดูต้นมะพร้าวน้ำหอมที่เตี้ยจนทลายแทบถึงพื้น  เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจลูกมะพร้าว  แต่สนใจใบของมันมากกว่า  เพราะนกสาน  ตั๊กแตนสานที่ได้ไปนั่นแห้งจนกลายเป็นสีน้ำตาลดำๆ หมดแล้ว

“วันนี้แม่คงไม่มีเวลาสานให้หรอกริว  วันหลังเราค่อยมากันดีกว่า” พสุบอกเบาๆ พอได้ยินกันสองคน  แล้วจับหัวเด็กหนุ่มโยกเล่น  ริวก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

“ครับ”

“มะพร้าวอะไรต้นเตี้ยนิดเดียวมีลูก”  ไวยากรณ์ที่เพิ่งตามมาทันโวยวายแล้วปรี่เข้าไปดูจนใกล้

“มะพร้าวน้ำหอมไงท่านเซ่อ”  ธีรดลตอบแล้วหันไปยักคิ้วให้กวนๆ 

“เฮ้ย! อยากกิน  พี่ดลปอกให้หน่อย”

“อะไรวะ  ใช้กันง่ายๆ”  ปากบ่นแต่ธีรดลก็ไปขอยืมมีดจากคนงานมาตัดมะพร้าวทั้งทลายลากมากองไว้ตรงกลางลานโล่งข้างร่องสวน

“เลือกเอามาแต่ลูกที่กินได้สิพี่ดล  เอามาทำไมหมด” ไวยากรณ์ยังไม่วายเจ้าปัญหา  แต่ก็ตามมานั่งยองๆ ดูธีรดลปอกมะพร้าวให้ตาเขม็ง

“มะพร้าวมันอ่อนแก่พร้อมกันทั้งทลายเฟ้ย  ไม่รู้ยังจะมาเจ๋ออีก” ธีรดลตอบแล้วตัดบริเวณจุกออกให้เสมอพอตั้งได้  แล้วปาดเปลือกด้านบนออก  เฉาะเป็นช่องพอให้สามารถตักเนื้อกินได้แล้วส่งให้ไวยากรณ์ก่อน 

“โห  น้ำหวานมากเลย...เสียดายไม่มีช้อนว่ะพี่ดล”

“โธ่ท่านเซ่อ  ช้อนธรรมชาติไงฟระ”

“เอามือควักเหรอ”

“บ้าเหรอ...เปลือกที่ปาดออกนี่ไง  ใช้แทนช้อน...เอ้า!” ธีรดลหยิบเปลือกที่ปาดไว้แล้วยังไม่เปื้อนส่งให้  ไวยากรณ์ยกขึ้นกินน้ำจนหมดแล้วถึงได้เริ่มขูดเนื้อกิน


พสุเข้าไปช่วยปอกให้คนอื่นๆ เพราะไวยากรณ์กินเร็วมาก ธีรดลยังไม่ทันปอกลูกที่สองเสร็จไวยากรณ์ก็ถือช้อนเปลือกมะพร้าวรอแล้ว  พสุปอกลูกแรกส่งให้ริวแล้วถึงได้ปอกให้ตะวันกับกรเวช  แต่พอหันกลับมาริวก็ยังถือลูกแรกเฉย


“ทำไมไม่กินล่ะริว”

“ริวรอพี่”

“อ๊ะไม่กินก็ไม่บอกเดี๋ยวพี่กินแทนให้”  ไวยากรณ์ทำท่าจะเอื้อมมือมาคว้าแต่ธีรดลเอาเปลือกมะพร้าวเคาะมือให้ซะก่อน

“ตลกบริโภคแระ  ใครเขาจะตั้งหน้าตั้งตากินไม่รอคนอื่นเหมือนแกวะเจ้าไวย์”

“ก็พี่ดลเฉาะช้า  ดูพี่ไผ่ดิ๊  เฉาะส่งๆ  แปร๊บเดียวได้กินทุกคน”

“มาหาว่าพี่ช้า  แกกินไปกี่ลูกแล้วล่ะ”  ธีรดลหันไปว๊าก  แล้วสงครามน้ำลายก็เริ่มต้นโดยมีกรเวชเป็นกรรมการห้ามมวย


ริวรอจนพสุเฉาะเสร็จอีก 3 ลูกถึงได้มากินด้วยกัน  ริวยกลูกมะพร้าวขึ้นกินน้ำเหมือนๆ ที่เห็นคนอื่นทำ  แต่เพราะกะแรงไม่ถูก  น้ำมะพร้าวก็เลยหกรดเปียกไปหมดทั้งหน้าทั้งคอ  แถมยังสำลักอีก  พาให้ทุกคนหัวเราะกันเกรียวกราว


“เฮ้ย! เอาน้ำมะพร้าวล้างหน้าเลยเหรอวะริว”  ไวยากรณ์แซวแล้วขำก๊าก

“ดีหน้าจะได้ใสๆ  เขาบอกว่าน้ำมะพร้าวทำให้ผิวสวย  สังเกตไหมสาวๆ แถวนี้สวยๆ ทั้งนั้น” ธีรดลรีบแก้ต่างให้ริว

“ริวน่ะไม่ล้างด้วยน้ำมะพร้าวหน้ามันก็ใส  แต่พี่ดลล้างจนมะพร้าวหมดสวนก็ใสไม่ทันแระ” ไวยากรณ์แซวแล้วรีบวางมะพร้าวในมือลง

“ไอ้ไวย์” ธีรดลลุกขึ้นไล่เตะไวยากรณ์  แต่ไวยากรณ์โดดหนีข้ามไปยืนแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกอยู่ท้องร่องฝั่งตรงข้าม  ธีรดลชี้หน้าคาดโทษ ไวยากรณ์ก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ  แล้วขยับจะโดดกลับมาแต่ลื่นตกลงไปในท้องร่อง  ขี้โคลนท่วมถึงหัว  คราวนี้ทุกคนหัวเราะกันจนท้องคัดท้องแข็ง  มีแต่ไวยากรณ์คนเดียวที่ขำไม่ออก


“ฮ่าๆๆ  สมน้ำหน้า” ธีรดลเยาะเย้ยอย่างสะใจ

“กรรมติดจรวดนะไวย์”  ตะวันบอกยิ้มๆ  แล้วเข้าไปช่วยลากไวยากรณ์ขึ้นจากโคลน

“ไปๆ  กลับไปอาบน้ำกัน”  พสุบอกขำๆ  แล้วเดินนำกลับบ้าน  ทุกคนช่วยกันขนผลไม้ที่ตัดไว้เต็มสองตะกร้ากลับไปด้วย  ปล่อยให้ไวยากรณ์เดินเหม็นโคลนหึ่งตามหลัง  พอไปถึงบ้านไวยากรณ์ก็โดนป้าใจกับคนงานขำกันอีกรอบ 

“ไวย์อาบน้ำที่ห้องน้ำข้างล่างนี่แล้วกัน  เดี๋ยวพี่เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน”

“ครับ” ไวยากรณ์รีบเผ่นเข้าห้องน้ำเพราะแขยงโคลนเต็มที่แล้ว 

“ไปริว  ไปอาบห้องข้างบน”  พสุหันมาเรียกริว  เพราะน้ำมะพร้าวที่เปียกเลอะเทอะ  พอแห้งก็เหนียวเหนอะหนะเหมือนกัน  ริวตามพสุขึ้นไปอาบน้ำ  ขณะที่ป้าใจมาตามกรเวช  ตะวัน และธีรดลไปรอที่โต๊ะอาหารก่อน


ถึงจะเคยมาบ้านสวนเป็นครั้งที่ 3  แล้ว  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ริวได้ขึ้นมาชั้นบน  พสุเดินนำเด็กหนุ่มไปที่ห้องด้านในสุด  ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าห้องริมบันได  พอเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องนั้นเปิดหน้าต่างไว้โดยรอบทำให้โล่งโปร่ง 


“ห้องใครครับ”  ริวถามแล้วสูดกลิ่นหอมๆ ในห้องอย่างสดชื่น  บนโต๊ะข้างหน้าต่างมีแจกันปักดอกเข็มเขียวหรือบุหงารำไป  กลีบดอกสดใหม่แสดงว่าดอกไม้ถูกเปลี่ยนทุกวัน

“ห้องพี่เอง  เมื่อก่อนตอนอยู่ที่นี่พี่นอนห้องนี้...อาบเสร็จแล้วก็ตามลงไปนะ”  พสุบอกพร้อมกับส่งผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ริว  ขณะที่ถืออีกชุดลงไปให้ไวยากรณ์ข้างล่าง


ริวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ  ก็เอาผ้าขนหนูออกไปตากไว้ที่ระเบียง  แต่ก่อนจะออกจากห้องก็สะดุดตากรอบรูปที่วางคว่ำหน้าไว้  จึงเดินไปหยิบตั้งขึ้น  ในภาพเป็นชายหนุ่มในชุดสูทสีขาว  อุ้มเด็กชายตัวน้อยแก้มยุ้ยที่กำลังหัวเราะร่าจนเห็นฟันหลอ  เคียงข้างด้วยสตรีหน้าหวานที่มองเพียงปราดเดียวริวก็จำได้  เด็กหนุ่มจึงมองย้อนกลับมายังเด็กชายตัวน้อยในรูปอีกครั้ง


“อ้าว! ก็อาบเสร็จแล้วนี่  ทำไมไม่ลงไปล่ะริว  พี่ๆเขารอกินข้าวกันอยู่”  พสุย้อนขึ้นมาตามริวเพราะทุกคนพร้อมอยู่ที่โต๊ะอาหารหมดแล้ว

“ครับ” ริวรีบวางกรอบรูปลง  พสุมองตามแล้วชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาหยิบกรอบรูปคว่ำลงอย่างเดิม  แล้วหันหลังกลับ  แต่ริวคว้าแขนพสุไว้

“ขอโทษนะครับ  ริวไม่ได้ตั้งใจจะเสียมารยาท”

“พี่ไม่ได้โกรธริวหรอกนะ...เพียงแต่...บางอย่าง มันก็เปล่าประโยชน์ที่จะนึกถึง” พสุตอบแล้วมองกรอบรูปที่คว่ำหน้า  ด้วยสายตาเจ็บปวด


ริวตรงเข้าไปสวมกอดพสุไว้  วางคางลงบนไหล่ของชายหนุ่มแล้วกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีกนิด


“พี่อย่าลืมนะว่าพี่มีริว”


พสุตบไหล่เด็กหนุ่มกลับเบาๆ เป็นเชิงขอบใจ  แล้วดันไหล่ริวออก

“ไปกินข้าวกันเถอะ  ดลบ่นหิวจนจะแทะจานแทนข้าวแล้ว”

“ไปครับ”ริวตอบหัวเราะๆ  แล้วตามพสุลงไปข้างล่าง  แต่ปรากฏว่าทุกคนลงมือกินข้าวกันไปแล้ว

“ขอโทษครับที่ช้า”

“ไม่ต้องขอโทษเพราะพี่กินก่อนแล้ว  กับข้าวฝีมือคุณแม่  อาหย่อยที่ซู๊ดดดดดดดดด” ธีรดลลากเสียงยาว  สีหน้าปลาบปลื้มจัดจนทุกคนพากันหัวเราะ

“อร่อยก็กินเยอะๆนะจ๊ะ  ริว...ทอดมันหน่อกะลาไงลูก  อยากกินไม่ใช่เหรอ  เมื่อเช้าตอนซื้อมายังคิดถึงริวอยู่เลย  ไม่นึกว่าจะได้ทำให้กินวันนี้” สุดาหันมาบอกริวเสียงอ่อนโยน 

“ขอบคุณครับแม่”  ริวไหว้สุดาแล้วลงนั่งที่ว่างข้างพสุ

“โหยยยย...ตกลงริวเป็นลูกแม่หรือพี่ไผ่เป็นลูกแม่กันแน่ครับเนี่ย  อะไรๆ ก็ริวตลอดเลย  ผมอิจฉานะเนี่ย” ไวยากรณ์ทำเป็นโวยวาย  แต่ดูก็รู้ว่าแกล้งแซวริวเล่นที่เห็นเด็กหนุ่มสนิทสนมกับครอบครัวพสุเหมือนเป็นลูกอีกคน

“แหม...ก็ลูกทั้งสองคนนั่นแหละ  แต่ริวเป็นคนเล็กนี่นา  ก็ต้องตามใจหน่อยสิจ๊ะ” สุดาตอบยิ้มๆ  แล้วเหลือบไปมองริวอย่างเอ็นดู  สำหรับเธอตอนนี้ริวก็เหมือนเป็นลูกคนเล็กจริงๆ 


การที่พสุทะเลาะกับพรเทพแรงขนาดนั้นไปไม่นาน  แต่กลับมาสดใสร่าเริงได้อย่างเดิม  ในเวลาอันสั้นแบบนี้  สุดาแน่ใจว่าเป็นเพราะมีริวอยู่กับพสุ  เพราะที่ผ่านมา  ถ้าพสุทะเลาะกับพรเทพ  เขาจะไม่มาบ้านอีกนาน  อย่างน้อยก็เป็นเดือนๆ นอกจากมีเรื่องจำเป็นจริงๆ  ผิดกับคราวนี้ที่หายไปไม่นานก็พาเพื่อนๆมาเที่ยวบ้านสนุกสนานกันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“คุณริวคะ  ต้มยำกุ้งแบบไม่เผ็ดอยู่นี่ค่ะ”  ป้าใจที่หายเข้าไปในครัวตั้งแต่เห็นริวกับพสุลงมา  ยกถ้วยต้มยำกุ้งมาวางตรงหน้าริว  กุ้งตัวโตเต็มถ้วย  ทำเอาไวยากรณ์กับธีรดลต่างชะโงกมาดูแล้วอุทานพร้อมกัน

“โหยยย  อิจฉา!”

“อิจฉาอะไรค๊า  ในถ้วยใหญ่นี่ยังไม่เห็นจะพร่องเลย  ที่ต้องแยกถ้วยเป็นเนี่ยเพราะคุณริวกินเผ็ดไม่ได้หรอกค่า” ป้าใจชี้แจงแล้วหัวเราะชอบใจ

“อิจฉาตรงที่พิเศษๆนี่แหละครับ  ทีผมไม่เห็นจะมีใครรู้เลยว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร”  ไวยากรณ์โวยวายแล้วทำหน้ามุ่ย  ท่าทางอิจฉาริวจริงจังจนคนอื่นๆพากันหัวเราะ

“อยากให้มีคนรู้ใจว่าชอบไม่ชอบอะไร  ก็ต้องมาเที่ยวบ่อยๆสิจ๊ะ  รับรองว่าคราวหน้าได้กินของโปรดแน่ๆ”  สุดาบอกเสียงอ่อนโยน  แล้วตักกุ้งผัดรวมใส่จานให้ตะวัน  ที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ขอบคุณครับ” ตะวันขอบคุณเบาๆ  แต่ใบหูแดงระเรื่อ  ชายหนุ่มไม่ชินกับการที่มีใครมาใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้  จึงอดเขินไม่ได้

“กลับจากเกาหลีเรามากันอีกดีกว่า  ได้ไหมครับแม่”  ไวยากรณ์ถามความเห็นทุกคนแล้วไม่รอคำตอบแต่ถือโอกาสขออนุญาตสุดาแทนทุกคนไปเลย

“ยินดีต้อนรับเลยจ้ะ  ขอให้มาจริงๆ เถอะ”

“มาแน่ๆ เลยครับ  รับรองว่ามากันยกวงแน่นอนเลย”  ไวยากรณ์ยืนยันหนักแน่น  เพราะเขาชักติดใจบ้านสวนที่สงบร่มรื่น แถมอาหารก็อร่อยกว่าภัตตาคารด้วยฝีมือแม่ที่แสนใจดีของพสุ


พอกินข้าวเสร็จ  กรเวชก็ขอตัวพาทุกคนกลับ  เพราะวันพรุ่งนี้ทุกคนต้องทำงานแต่เช้า  สุดาจึงให้คนงานช่วยกันยกทุเรียนและผลไม้ขึ้นรถ  ส่วนป้าใจนั้นมีขนมตะกร้าใหญ่แถมมาให้อีก


“แม่ครับ...ริวกลับแล้วนะครับ”  ริวเข้าไปกราบสุดาที่อกแล้วกอดเอวเธอแน่นๆ  สุดาก็กอดตอบ  ก่อนที่ริวจะถอยให้พสุได้เข้าไปกอดลาแม่บ้าง

“อีกสองวันไผ่ต้องไปเกาหลีแล้วนะครับ  คงไปหลายวันเหมือนกัน  แม่ดูแลตัวเองดีๆนะครับ  อย่าคิดมาก  เสร็จงานแล้วไผ่จะมาหาแม่อีกนะครับ”


พสุกอดแม่แน่นด้วยความอาลัยอาวรณ์  เพราะคงอีกหลายสัปดาห์กว่าจะได้กลับมาหาแม่อีก


“จ้า  แม่จะรอนะลูก  ไผ่ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยเหมือนกันนะลูก...ริว...แม่ฝากริวดูพี่ด้วยนะลูก” สุดาหันไปพูดกับริวเบาๆ  เพราะเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ

“ครับแม่  ริวจะดูแลพี่ไผ่อย่างดีเลยครับ” ริวรับคำเสียงหนักแน่น  เขาไม่ได้เพียงแค่รับปาก  แต่ตั้งใจไว้อย่างนั้นจริงๆ

“ฝากผิดคนแล้วครับแม่  แม่ต้องฝากไผ่ดูน้องต่างหาก” พสุแกล้งโวยวายแต่ยังกอดแม่ไว้แน่นเหมือนเดิม

“ฝากน้องแหละถูกแล้ว  ไผ่น่ะผอมเอ๊าผอมเอา  ตอนนี้ริวตัวโตกว่าแล้วนะ” สุดาอดกระเซ้าไม่ได้  เธอรู้ว่าพสุไม่ได้ผอมลง  แต่เพราะริวตัวโตขึ้นมากจริงๆ  ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนทางตะวันตก

“นั่นสิคะ  คุณไผ่ตัวเล็กกว่าคุณริวแล้วจริงๆ นั่นแหละ” ป้าใจนั้นตัดสินจากสายตา  ให้กี่ปีๆ  นางก็ยังมองพสุเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม

“ไม่จริงเลยนะครับ  ไผ่น้ำหนักขึ้นด้วยซ้ำ  แต่ริวน่ะโตเร็วต่างหาก  ไผ่เลยดูตัวเล็กกว่า”

“ไม่รู้แหละจ้ะ  กลับมาจากเกาหลีไผ่ต้องอ้วนกว่าตอนนี้ก็แล้วกัน” สุดาคาดคั้นแล้วหอมแก้มพสุซ้ายขวา  พสุก็หอมแม่ตอบ

“จะพยายามครับ  ไผ่กลับแล้วนะครับ  เสร็จงานแล้วจะรีบมาทันทีเลย”

“จ้า เดินทางปลอดภัยนะลูก  เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะทุกคน”  สุดาหันไปอวยพรคนอื่นๆ ที่มาไหว้ลา  แล้วยืนรอส่งทุกคน   ริวรอจนแสงไฟจากบ้านลับตาจึงหันมาเอียงหัวซุกไหล่พสุ

“เพิ่งออกจากบ้านแท้ๆ  แต่ริวคิดถึงแม่แล้วล่ะพี่”  ริวกระซิบบอกพสุเบาๆ  ชายหนุ่มก็เองก็รู้สึกอย่างนั้นเช่นกัน

“พี่ก็เหมือนกัน  กลับจากเกาหลีเรามารับแม่ไปกินข้าวกันดีกว่า”

“ครับ”



.............................................................



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด