หลังจากได้ให้คำมั่นสัญญากันในเย็นวันนั้น ทินกฤตก็ยังคงแอบไปเยี่ยมจุนเจือในช่วงเวลาที่ปลอดคน เงินยังคงถูกใช้ราวกับเป็นเบี้ยที่จ่ายให้กับทุกด่านที่กีดขวาง สภาพของจุนเจือเองก็ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผ่านความอ่อนแอที่สุดของชีวิต เด็กหนุ่มก็ตั้งใจว่าจะเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไปให้ได้ .. ตามสัญญาที่มีให้กับคนรัก..
+++++++++++++++++
จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล ครอบครัวที่แตกสลายไปแล้วของเด็กหนุ่มก็ส่งเพียงคนขับรถให้มารับเพียงเท่านั้น และสิ่งที่รออยู่ที่บ้าน นอกจากกุญแจห้องที่เตรียมลอคขังเอาไว้จากด้านนอก ก็มีเอกสารที่พร้อมสำหรับการเดินทางไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นอย่างไม่มีกำหนดกลับ โดยการเห็นชอบของเจนสุดา หล่อนสัญญาว่าจะดูแลน้องชายคนนี้เองนั่นทำให้พ่อและแม่ซึ่งไม่รู้ความจริงของลูกสาวเองรู้สึกวางใจได้มาก
---- RRR----
"ฮัลโหล..." ทินกฤตเพิ่งจะได้มีวันหยุดหลังจากเข้าบริษัทโหมการโหมการโหมงานมาซักพัก เขาย้ายออกไปอยู่คอนโดคนเดียว และหลีกหนีการติดต่อกับพ่อและแม่ให้มากที่สุด โดยเฉพาะรายหลังที่ดูเหมือนจะมีสายมีตาอยู่มากมายเสียเหลือเกิน
...."แกไปหาเด็กนั่นที่โรงพยาบาลมาใช่ไหม...ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าให้เลิกซะ ทุกอย่างที่แกเป็น".... เสียงแม่กรอกมาตามสาย และคำตอบเดียวที่เขาตอบกลับไปได้ก็มีเพียงแค่คำว่า
...."แม่ห้ามผมไม่ได้หรอก..." ...+++++++++++++++++
"ว่าไง บาส" ไม่ใช่แม่คนเดียวที่มีสาย เขาก็มีสายของเขาเช่นกัน
" พี่เทียนฮะ..ไอ้จุนเจือมันจะไปญี่ปุ่นคืนนี้แล้ว บินไฟลท์สี่ทุ่มฮะ .. พี่ ผมขอโทษนะ ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน " บาส ที่เป็น "สาย"ให้ทินกฤตมาตลอดตั้งแต่รู้ความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทกับอดีตเจ้านายของตัวเอง ถึงตอนแรกจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ที่เรียกว่า"เป็นชู้รัก"ของเพื่อนเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่ได้รับรู้อะไรมากมาย นั่นทำให้เขาเลือกที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับเพื่อนคนนี้
"วันนี้?....."ทินกฤตถามย้ำ เขาคาดการณ์เอาไว้แล้ว เพราะจากที่คิดต่อกับเจนสุดาครั้งก่อน เจนก็พูดอยู่เหมือนกันว่าอาจจะเป็นภายในอาทิตย์นี้ ....
"เข้าใจแล้ว...เราจะไปส่งเพื่อนใหม่ละ"
"ครับพี่....ไปสิครับ เพื่อนผมทั้งคน " บาสตอบ ที่จริงเขาก็อยากจะพาเอกไปด้วยหรอก แต่จากสถานการณ์ที่บ้านของเพื่อนตอนนี้ที่ออนไหวต่อคนประเภทเขามากนัก จึงไม่อยากเสี่ยงเท่าไหร่
"อืม...แล้วเจอกัน" ทินกฤตตอบกลับเสียงเบา ก่อนจะตัดสายไป
+++++++++++++++++
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิยังคงไม่หลับใหลแม้จะดึกดื่นเพียงใด การเดินทางออกนอกประเทศในหลายๆประเทศเองก็มักจะนิยมบินช่วงกลางคืนเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนและพร้อมสู้กับงานที่รออยู่ยังที่หมาย จุนเจือในชุดลำลองค่อนข้างทะมัดทะแมงสำหรับการเดินทางไกลเพียงลำพังยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ของสายการบินประจำชาติ ที่ตรงหน้าเขานั้นมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบทับด้วยกระเป๋าสะพายที่ใส่ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นอยู่บนรถเข็นของสนามบิน มือเรียวข้างหนึ่งถือตัวเดินทางที่แนบกับพาสปอร์ต หากไม่เกิดเรื่องที่ยากเกินจะมองหน้ากันได้เหมือนเดิมในครอบครัวแล้ว วันนี้คงจะได้ยินเสียงถามย้ำว่าลืมของอะไรหรือเปล่า จะกลับเมื่อไรจากผู้เป็นแม่ รวมถึงเสียงให้กำลังใจจากผู้เป็นพ่อ ไม่ใช่จากคนขับรถที่บ้านที่เพิ่งจะรับเข้ามาทำงานใหม่คนนี้ ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ห่างๆ เพราะเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ
ทินกฤตมาถึงที่สนามบินตรงตามเวลา ชายหนุ่มร่างสูงเดินไปบริเวณเคาท์เตอร์ที่อีกฝ่ายเดินไปเช็คอิน และเห็นร่างสูงโปร่งของคนที่รักหมดใจตอนนี้
"เจือ...." ทินกฤตเดินเข้าไปคว้ามือของอีกฝ่ายเอาไว้ ร่างบางหันมาตามแรงดึง
" พี่เทียน? "ดวงตาคู่สวยดูตกใจไม่น้อยเขาไม่คิดว่าทินกฤตจะมา การเดินทางของเขาในวันนี้เป็นความลับที่อีกฝ่ายไม่น่าจะรู้ เพราะเขาไม่อยากร้องไห้ตอนที่จากลากัน
"มาได้ไงฮะ..ไอ้บาสมันบอกพี่เหรอ? "เด็กหนุ่มเริ่มองหาตัวการที่บอกเขาว่าจะมาส่งแต่ก็ยังไม่โผล่หน้ามา
"พี่ก็มีสายดีเหมือนกันนะ"ทินกฤตยิ้ม...ก่อนเหลือบมองไปทางคนขับรถคนใหม่ที่เขาไม่คุ้นหน้า
"นั่นคงไม่ใช่สายของพ่อกับแม่หรอกนะ"
"เดี๋ยวก็คงจะไปรายงานพ่อกับแม่นั่นแหละ..วันนี้ลุงคนนี้เขามาส่ง ชื่ออะไรเจือยังจำไม่ได้เลยเป็นคนขับรถคนใหม่อะ "จุนเจือให้ข้อมูลคนรักไปแบบนั้น ได้ยินคำตอบนั้นทำให้ทินกฤตยิ้มน้อยๆที่มุมปาก
"งั้นเดี๋ยว เจือรอพี่เดี๋ยวนะ..." ชายหนุ่มว่าพลางเดินเข้าไปหาคนขับรถคนใหม่คนนั้น เขายื่นแบงค์พันให้อีกฝ่ายไปหนึ่งใบ พร้อมกับขอให้กลับไปก่อน โดยไม่เอาเรื่องของเขาไปพูดต่อให้ใครฟัง
"เท่านี้ก็ไม่มี ก ข ค แล้วนะ " ชายหนุ่มร่างสูงเดินกลับมาพลางยิ้มให้กับอีกฝ่าย ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคดี หนุ่มอารมณ์ดีที่เป็นสายให้ทินกฤตก็เดินออกมาถึงพอดี
" อ้าว เจอกันแล้วหรอฮะ? "
"ไม่มี ก ข ค แต่ดันมีเจ้าบาส..."ทินกฤตแทบจะตบหน้าผากตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงดังๆของเด็กหนุ่มคนนั้น
" ฮะ ฮะ ฮะ ท่าทางผมจะเป็นก้าง เนอะ~ " บาสเหล่มองทินกฤต เขาเห็นเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มยัดเงินให้ลุงคนขับรถคนนั้นพอดีดังนั้น
" พอดีว่าผมยังไม่ได้กินอะไรเลยพี่...เห็นสตาร์บัคก็อยากกินมั่งอะไรมั่ง ปกติกินแต่กาแฟเซเว่นน้อ~ "
"เออๆ...ขอเวลาพี่ซักยี่สิบนาทีกับเพื่อนแกแล้วพี่ก็จะไป" ทินกฤตเริ่มหงุดหงิดยัดแบงค์ห้าร้อยใส่มือของอดีตเด็กฝึกงานคนนั้นไปอย่างเสียไม่ได้
" ขอบคุณคร้าบ~ " บาสแทบจะยกมือทำความเคารพแฟนของเพื่อน ก่อนจะยักคิ้วให้จุนเจือเล็กน้อยแล้วไปตามทางของตัวเอง
+++++++++++++++++
" พี่เทียน..เอาตังค์ให้ไอ้บาสมันทำไม .. เดี๋ยวมันก็โอนมาให้เจือซื้อกันพลาให้มันอยู่ดี " มือเรียวตีที่แขนของคนรักเบาๆพลางทำคิ้วขมวดเมื่อบาสจากไปแล้ว
"มาตราการกำจัด ก ข ค" ทินกฤตหันมายิ้มพลางเก็บกระเป๋าสตางค์
"ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง" มือแกร่งจับมือของจุนเจือขึ้นมาจูบเบาๆ ชายหนุ่มหลับตาลงราวกับจะซึมซับเอาสัมผัสนั้นเอาไว้
"ถ้าเทียบกับที่ได้ทำแบบนี้ เรื่องพวกนั้นมันเล็กมาก"
"อะ..นี่สนามบินนะฮะ ไม่อายเค้าเหรอ? " มือที่ถูกดึงไปจูบต่อหน้าคนที่เดินผ่านไปมาทำเอาจุนเจือต้องถามอย่างตกใจ ทินกฤตเป็นถึงประธานบริษัท เขาเป็นคนมีชื่อเสียง มีหน้าตาทางสังคม มากกว่าเขาทีเป็นแค่เด็กธรรมดาๆ การทำแบบนี้ที่สนามบินย่อมไม่ส่งผลดีแน่อย่างแน่นอน
"จนป่านนี้พี่ไม่ห่วงอะไรแล้ว... เจือ...
พี่อยากรักกับเจืออย่างเปิดเผย เจือก็รู้
แค่การที่เจือต้องไปญี่ปุ่นมันไม่ได้ทำให้พี่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจนี้หรอกนะ ถ้าใครเถียงใครว่า พี่....จะจัดการมันเอง" ดวงตาคมนั้นดูมาดมั่นไม่เปลี่ยน
จุนเจือสบตาคนรักของตัวเองนิ่ง ดวงตาของทินกฤตฉายแววมั่นคงในคำพุดของตนเองเสมอ ถ้าเป็นเรื่องความรักของพวกเขา หากจะขอให้สัญญาซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เท่ากับว่าเขาไม่เชื่อใจอีกฝ่ายเลย ... ณ ที่นี่เวลานี้ เพียงแค่สบตากัน จุนเจือก็รู้ได้ทันทีว่า ทินกฤตไม่ได้โกหก ชายหนุ่มจะต้องไปรับเขากลับมาอยู่ด้วยกันแน่ๆ ....และเขาจะรอ... ใบหน้าสวยขยับไปซบอีกอีกฝ่าย เขาไม่แคร์สิ่งใดอีกแล้ว
" เจือจะเข้มแข็งกว่านี้..จะเป็นผู้ใหญ่กว่านี้..พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ ""ขอบใจนะเจือ..." ได้ยินคำตอบของคนรัก ทินกฤตดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดด้วยแขนข้างหนึ่ง มือแกร่งยึดไหล่บางของเด็กหนุ่มเอาไว้แน่น ไม่ต่างจากครั้งแรกที่เขาเคยดึงอีกฝ่ายเอามากอดเพื่อปลอบใจ
+++++++++++++++++
คำพูดที่มีให้แก่กันและกันเป็นครั้งสุดท้าย...แม้จะมีเงินอยู่ในมือเพียงใด สุดท้ายทินกฤตก็ไม่อาจซื้อเวลาได้ ร่างบางเดินเข้าเกทไปเพื่อเดินทางไปยังประเทศที่เขาไปเพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองชอบและอยากจะทำจริงๆ ที่นั่น พี่สาวที่รักของเขารออยู่ แม้ว่าจะต้องห่างจากคนที่รักแต่จุนเจือก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ร่างสูงเพรียวเดินไปข้างหน้าด้วยก้าวย่างที่มั่นคง และมุ่งมั่นที่กลายเป็นคนที่ทินกฤตไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป
+++++++++++++++++
talk : ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆหลายอย่างมาก เลยขอแจ้งข่าว ณ ที่นี้เลยว่าจะขอเลื่อนการอัพเรื่องนี้ออกไปก่อนจนกว่าชีวิตจะลงตัวนะคะ..ไม่นานหรอกค่ะ อาจจะซักอาทิตย์หนึ่ง สองอาทิตย์ หรืออาจจะหนึ่งเดือนตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนค่ะ คือตอนนี้ขอจัดการเรื่องอนาคตก่อนนะคะ
ในตอนนี้เจือเองก็ก้าวไปข้างหน้าแล้ว เพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้นและดีพอสำหรับอยู่ข้างๆพี่เทียนค่ะ ยังไงก็ขอกำลังใจให้น้องเจือกับพี่เทียนด้วยนะคะ