Part...19
.
.
.
.
.
.
.
“ของที่คอนโดน่ะ จะเก็บเองหรือว่าจะให้คมกริชเก็บ” มือหนาของลีโอลูบแผ่วๆ ไปที่ต้นแขนของร่างบางอย่างเคยชิน
“เก็บเองดีกว่า ขืนให้คมกริชเก็บ ต้องเป็นลมแน่ๆ เสื้อผ้าคุณเยอะจะตายไป” ร่างบางหยิกไปที่หลังมือของลีโออย่างหมั่นไส้
“ที่ไหน ของน้ำซุปเยอะกว่าของผมอีก ผมว่านะถ้าเอาไปถมทะเลได้เกาะอีกเกาะแน่ๆ” ผมไม่ได้โกหกนะคุณผู้อ่าน น้ำซุปชอบสะสมเสื้อเชิ้ตลายหมี ไม่ว่าจะแบบไหนลายไหน ขอให้มีรูปหมีสกีนอยู่ น้ำซุปซื้อหมด และอีกอย่างเจ้าตัวชอบสะสมแว่นกันแดดอันใหญ่ ใส่ทีหนึงนี่บังหน้าให้หมด ผมก็ว่าน่ารักดีนะ มันติดตรงที่ว่าแว่นนี่มีประมาณ 2 ตู้เห็นจะได้
“ฮ่าๆๆ เจ้าพ่อเวอร์ล่ะ มันไม่ได้มากมายขนาดนั้นซะหน่อย”
“ไม่เยอะหรอก แค่ตู้เสื้อผ้า 5 ตู้ เป็นของคุณหมดเลย ของผมมีแค่ไม่กี่ชุด”
ที่ลีโอพูดก็จริง ที่คอนโดมีตู้ตั้งหมด 5 ตู้ ของเขาสักประมาณ 4 ส่วน ของลีโอซักประมาณ 1 ส่วน
“ยอมแล้วๆ...........” ร่างบางเงียบลงทันที เมื่อคิดได้ว่าตัวเองนั้นต้องพูดเรื่องอะไรกับลีโอ น้ำซุปก้มหน้า ดวงตากลมโตฉายแววลำบากใจอย่างชัดเจน
“มีอะไรปิดบังอยู่หรือเปล่าน้ำซุป” ลีโอพูดอย่างรู้ทัน ทำไมเขาจะไม่รู้ทัน อยู่ด้วยกันมากี่ปีแล้ว ไอ้ท่าทางอย่างนี้น่ะน้ำซุปจะชอบทำตอนที่มีเรื่องปิดบังเขาอยู่
“ลีโอ คือ......................”
“คืออะไร”
“ผมหิวข้าว เราไปกินข้าวกันเถอะ” ร่างบางพูดติดตลก กระโดดลงจากโต๊ะม้าหินอ่อน กำลังจะลากแขนของร่างสูงไปเข้าไปในร้าน แต่ลีโอก็ขืนเอาไว้
“บอกมาน้ำซุป ว่าปิดบังเรื่องอะไรอยู่ ก่อนที่ผมจะเดือดมากไปกว่านี้” ลีโอจอมโหดกลับมาแล้วไง แงๆ
“สัญญาก่อนซิ ถ้าฟังแล้วจะไม่โกรธ ห้ามตะคอก ห้ามงอน”
“สัญญา”
“คืออย่างนี้นะลีโอ เรื่องมันมีอยู่ว่า พี่ณุเนี่ยเป็นเจ้าของนิตยสารวัยรุ่นชื่อดัง ที่มียอดขายมากมายหลายล้านเล่ม”
“เขาเกี่ยวอะไรกับเรา แล้วไปรู้จักมันตอนไหน”
“ฟังให้จบก่อนซิ เดี๋ยวค่อยหึง”
“ก็อย่าเล่าอะไรที่มันทำให้ผมหึงแล้วกัน”
“ฟังต่อนะลีโอ ตอนที่เราสองคนยังไม่เจอกัน ผมไม่รู้จักคุณเนี่ย ไอ้เฟรียสกับไอ้นมบูดมันอยากเป็นนายแบบเพื่อที่เอาเงินมาเรียนหนังสือ ไม่อยากให้ที่บ้านส่งเงินมาให้เพราะ บ้านจน ผมก็เลยให้ไปออดิชั่นกับพี่ณุ แต่พี่ณุบอกว่าตกลง แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องไปถ่ายแบบเขากับซักครั้ง”
ร่างบางเล่าไปก็ลุ้นว่า กลัวว่าร่างสูงจะลุกขึ้นมาโวยวาย อาละวาด แต่ไม่เป็นอย่างที่เขาคลาดเอาไว้ เพราะนอกจากลีโอจะไม่อาละวาดแล้ว ยังนั่งฟังอย่างเงียบๆอีกด้วย มีบางครั้งที่คิ้วเข้มของลีโอขมวดเข้าหากัน แต่ในสุดท้ายมันก็คลายออก
“แล้วตอนนี้พี่ณุก็มาทวงสัญญาที่ผมเคยรับปากเอาไว้”
“ไม่ถ่าย!!” และแล้วคำตอบของลีโอก็เฉลยออกมาแล้ว ถึงแม้น้ำซุปจะเล่ายังไม่จบก็ตาม
“ลีโอ....”
“ไม่ต้องไปถ่ายอะไรทั้งนั้น ห้าม ถ้าบอกไม่ฟังล่ะก็ มีเรื่อง!”
“คุณไม่มีเหตุผลเลยอ่ะ ผมไปทำงานนะ ไม่ได้ไปเที่ยวซักหน่อย อีกอย่างผมจะไปผิดคำพูดกับเขาไม่ได้”
“ผมไม่สน ห้ามคุณไปถ่ายแบบที่ไหนเด็ดขาด” ใบหน้าคมหันไปมองทางอื่น เพราะถ้าหากหันกลับไปมองที่ใบหน้าของร่างบางตอนนี้ เขาต้องใจอ่อนแน่นอน
“ขอเหตุผลหน่อย” ร่างบางกระชากแขนร่างสูงอย่างแรง เป็นผลให้ลีโอหันหน้ากลับมามองที่น้ำซุปอีกครั้ง
“ไม่มี”
“ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก” แล้วน้ำซุปก็หันหลังกลับ แล้วเดินหนีเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว ตามแรงอารมณ์
“น้ำซุป!” ลีโอวิ่งตามร่างบางเข้าไปในร้านทันที
.
.
.
.
.
[ น้ำซุป กล่าว.......(ความในใจ 1) ]
คุณว่าไหมว่าพระเอกเรื่องนี้หล่อ.....?
คุณว่าไหมว่าพระเอกเรื่องนี้น่ารัก....?
คุณว่าไหมว่าพระเอกเรื่องนี้เจ้าเล่ห์...?
คุณว่าไหมว่าพระเอกเรื่องนี้ ดูดีไปหมดทุกอย่าง
และคุณเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า ว่าลีโอ แอ็คซายน์ สามีของผม “ขี้หึง” ที่สุด
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะห่วง และ หวง ผมได้มากขนาดนี้ แต่มันก็รู้สึกดีที่คนของเราคอยหึง คอยหวง เพราะนั้นก็แสดงให้เขาได้รู้ว่าเขารักเรามากแค่ไหน
แต่ในกรณีของลีโอนั้น ผมว่าเขาหวงผมมากเกินไป และหึงจนเกินเหตุ การใช้ชีวิตของผมจึงเปลี่ยนหมดทันทีเมื่อตัดสินใจคบกับเขา เขาจะตั้งกฎประมาณสามล้านข้อเพื่อห้ามไม่ให้ผมคุยกับเพศตรงข้าม หรือ เพศเดียวกัน ตอนแรกก็รับไม่ได้นิดหน่อย ไอ้เราก็เป็นคนที่รักสนุก เฮฮา เพื่อนเยอะตามนิสัยคบชอบสังคม และแล้วลีโอแอ็คซายน์ก็ทำวงจรชีวิตด้านบันเทิงของผมพังอีกเช่นกัน ยังไม่พอ ด้านการทำงาน ผมโดนบังคับให้ออกจากงาน ทั้งที่ไม่เต็มใจซักนิด แต่ก็โดนมาเฟียหน้าหล่อบังคับให้ออกมาจนได้ โดยที่ให้เหตุผลว่า “เจ้าพ่อกลัวน้ำซุปเหนื่อย” ผมจึงต้องจำใจออก
และเรื่องการใช้ชีวิต ผมโดนบังคับให้ไปอยู่คอนโดสุดหรู ยังกับคู่แต่งงานชัดๆ คิดไปคิดมา เหมือนกับว่าเขาจะจัดการชีวิตของผมไปซะทุกด้าน
ครั้งแรกที่เราสองคนเจอกัน มันไม่ได้สวยงามอย่างที่ควรจะเป็น เพราะด้วยความที่ผมเกลียดนักธุรกิจ ผมคิดว่าคนพวกนี้คิดแต่จะเอาผลกำไร โดยไม่คิดถึงผู้ที่อยู่ต่ำกว่า บ้านผมก็รวยนะ แต่ผมถูกสอนมาแต่เล็กๆว่า อย่าเอาเปรียบผู้ที่ด้อยกว่าเรา
ผมจึงมองลีโอ เป็นผัก ปลา ไม่มีความสำคัญในสายตาของผม เขาไม่ค่อยมาตรวจงานบ่อยนัก เพราะธุรกิจเยอะ เลยส่งลูกน้องอย่าง คมกริชมา ลูกน้องในผับมักจะบอกผมว่า นายใหญ่ของพวกมันเจ้าของผับนี้นั้น หล่อ รวย ชาติตระกูลดี เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง ครั้งแรกที่ได้ฟังผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร ยังมีอีกเหรอ คนที่เพียบพร้อม ไม่มีจุดด้อยอะไรเลยในตัว
ขอผมย้อนอดีตเล่าความหลังแล้วกันนะ ผมอยากจะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า ความรักของเรานั้นกว่าจะได้มาครอบครองนั้น ต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมายขนาดไหน
*กว่าจะมีวันนี้*
“ลูกพี่น้ำซุป!!” เฟรียส เด็กหนุ่มหน้าตาดีประจำร้าน หนึ่งในสมาชิกลูกน้องของผม ตะโกนเรียกอยู่ข้างสบามบาส ต้องขอบคุณลีโอ ที่รู้จักทำสบามบาสให้ลูกน้องไว้เล่นเวลาว่าง
“ลูกพี่คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ” เมื่อผมไม่ได้สนใจ มันก็วิ่งเข้าในสนามและเข้ามาแย่งลูกบาสจากในมือผมอย่างหน้าด้านๆ ไอ้นี่วอนตีนล่ะ
“เฮ้ย! เดี๋ยวได้โดนเตะ ฉันเล่นอยู่เดี๋ยวแกได้โดนดีไอ้กระโดน” หมดอารมณ์เล่นแล้วครับ แล้วอีกอย่าง ผมเหนื่อยแถมร้อนอีกต่างหาก เลยเดินตามไอ้เฟรียสมันออกมานั่งที่โต๊ะมาหินอ่อนใตต้นมะขามข้างๆสนาม
“กระโดนมันคืออะไรลูกพี่ ทำไมถึงชอบเรียกผมจัง”
“แกไม่รู้จริงเหรอ หรือว่าแกล้งโง่”
“ผมไม่รู้จริงๆ” สภาพมันตอนนี้ช่างไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตัวน้อยๆ ที่รอคอยอาหารจากเจ้าของซะจริงๆ *-* 55+
“เฟรียสเอ้ย กระโดนนี่นะมันคือ พันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ กระโดนบก กับกระโดนน้ำ อย่างแกนี่ต้องกระโดนน้ำ”
“อ่าห๊ะ แล้วผมไปเหมือนมันตรงไหน อธิบายด่วน”
“อย่างแรก แกขายาว หัวหยิก ผิวก็ขาว โง่ก็โง่ มันก็ไปเหมือนกระโดนที่ตรงต้นมันสูง ใบหยิกยังไงล่ะ ฮ่าๆ” แล้วผมก็วิ่งหนีมันออกมาทันที เพราะทนฟังเสียงร้องอันโหยหวนต่อไปไม่ไหว บอกแล้วว่าฉายาลูกน้องคนสนิทแต่ละคนที่ผมตั้งให้นั้น มันต้องมีที่มา และที่ไป
“อาโลมเยนนน เหมือนนามมม นายยยย โอ่งงงงงงงงงงงงง กรู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ -____-;;; ” ถึงผมจะร้องเพลงได้ปัญญาอ่อน แต่ผมก็ร้องมาจากใจจริงนะครับ เสียงผมมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
/ บอกว่าอย่าขอหมอรำ ฮิ้วๆๆๆๆๆๆ บอกว่าอย่าขอหมอรำ/ เสียงเรียเข้าของผมเองแหละ มันแปลกและแหวกแนวดี เลยตัดสินใจเลือกเพลงเป็นเสียงเรียกเข้าอย่างทันที ฮ่าๆ