มาตอบเมนท์ดันตัวเองดีกว่า
แบบว่าขายของมันก็ต้องมีการโฆษณานิดนึง >/////<
เอาแบบรวมๆก่อนแล้วกันนะคะ อย่างที่บอกเลยคือตอนแรกของชุดเรื่องเล่าจากความฝันที่เขียนนี่เขียนไปแล้วอ่านเมนท์ของตอนแรก
ก็เห็นว่ามีเมนท์(น่าจะของพี่แตมนะคะ) บอกว่า แล้วถ้ามีชาติไหนเกิดมาเป็นผู้หญิงล่ะ ก็ไม่ใช่นิยายชาย-ชายสิ
ในใจคนเขียนนี่อยากจะวิ่งบวกสิบเลย เพราะในใจนี่เรื่องราวที่เกิดอะไรขึ้นท่านเทพบุตรถึงรักกับศวัตราได้มันผุดพุ่งขึ้นมาแล้ว
เพียงแต่เป็นทางตรงข้ามกัน คือไม่ใช่ชาติต่อๆไป หรือชาติไหนๆเป็นหญิง แต่เรื่องราวมันเริ่มขึ้นที่เป็นหญิงเลยต่างหาก
ประกอบกับได้คุยกับพี่ๆน้องๆหน้าเชาท์ (หลังลงไปได้สองสามตอน) ก็มีการถามว่า คราวหน้าจะพาไปเที่ยวไหน
แล้วก็คุยกันว่าไปแถบยุโรปบ้างมั้ย ภูเขาหิมะ รึเข้าถ้ำ อะไรก็ว่าไป แต่คนเขียนเนี่ยปลื้มเรื่องราวแถบเอเชียเราเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะอินเดียโบราณ เลยคิดว่าต้องมีแน่ๆล่ะเรื่องของฤๅษี ไม่ก็โยคี พราหมณ์ หรือตัวละครแถบๆนี้
ก็เริ่มหาข้อมูลตั้งแต่ตอนนั้นว่าลัทธินิกายสมัยโบราณเป็นอย่างไร สิ่งไหนที่เป็นที่นับถือ
(ตอนเด็กๆชอบดูหนังแขกประเภทเทพเจ้าด้วย แบบเต้นระบำวิ่งข้ามเขา แอบหลังต้นปาล์มก็ชอบ ^^)
เลยไปเจอเรื่องของลัทธิบูชาไฟ ก็หาๆๆว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไร วุ่นวายไปหมด ข้อมูลเยอะมากค่ะ
แต่อ่านไปอ่านมาก็นึกขึ้นได้ เราเขียนเรื่องจากความฝันอยู่นะ ไม่ใช่สารคดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เลยตัดโน่นนี่ออกไปเกือบหมด
เอาแค่บรรยากาศมาพอได้กลิ่น
ฤคเวท ส่วนบทสรรเสริญเทพเจ้าจากคัมภีร์พระเวทที่ยกมานั่น
อย่าแปลกใจว่าทำไมอ่านแบบบาลีแล้วขัดๆ เพราะว่าเป็นภาษาสันสกฤตค่ะ
ถ้าอยากลองฟังเสียงสวดลองเข้าไปในยูตุ๊บ หาคำว่า Agni Rig veda ดูนะคะ
มาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์กัน สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีหัวหน้า(เทวราช) คือพระอินทร์ เทวดาที่อยู่บนสัญลักษณ์ประจำกรุงเทพมหานครนี่เอง
ซึ่งพระอินทร์ท่านเป็นเทพที่มีหลายพระนาม ในเนื้อเรื่องใช้อยู่สองพระนามคือ สักกะเทวราช และ สหัสนัยน์ ซึ่งแปลตรงตัวว่า พันตา
เนื่องจากพระอินทร์ท่านมีดวงตาถึงหนึ่งพันจริงๆนะคะ เรื่องนี้ที่จริงก็มีตำนานอยู่ หลายท่านคงทราบแล้ว แต่สำหรับเด็กๆที่ไม่เคยรู้มาก่อน...
ตำนานที่ว่าอยู่ในเรื่องรามเกียรติ์ค่ะ พระอินทร์ท่านเป็นเทวดาที่มีภรรยาเยอะมาก แล้วไม่พอเห็นภรรยาคนอื่นเขาสวยๆก็ถูกตาต้องใจ ไปเก็บเล็กเก็บน้อยตลอด
ทีนี้คราวหนึ่งท่านก็เห็นฤๅษีแก่(จำชื่อไม่ได้ค่ะ)มีภรรยาสาว แถมภรรยายังสวยอีกด้วย
ท่านเทวดาจอมเจ้าชู้ท่านเลยถือโอกาสที่ฤๅษีออกจากอาศรม แปลงร่างให้เหมือนพระฤๅษี แล้วเข้าอาศรมเขาไปยุ่งกับสาวงาม(เมียคนอื่น)
ต่อมาเกิดเรื่องพระฤๅษีจับได้ เลยจัดการสาปซะ ด้วยความโกรธ ให้มีโยนี(อวัยวะส่วนนั้นของผู้หญิงน่ะค่ะ)ติดตัวพระอินทร์ท่านพันอันเลย
พระอินทร์ก็อับอายมาก (ใครไม่อายก็แปลกแล้ว ขนาดผู้หญิงมีแค่หนึ่งยังต้องแอบต้องซ่อนไม่ให้ใครเห็นเลย นี่ท่านเทวราชเล่นมีตั้งพัน กึ๋ยๆๆๆ)
ท่านเลยขอร้องให้พระฤๅษีถอนคำสาป (จำไม่ได้อีกแหละค่ะว่าพระฤๅษีท่านยอมใจอ่อนถอนเอง หรือต้องแบกโยนีพันชิ้นไปขอให้เทวดาท่านอื่นช่วย)
แต่ในที่สุดก็มีคนช่วยพระอินทร์ท่าน ถอนคำสาปไม่ได้ก็จริง แต่ก็เปลี่ยนจากโยนีเป็นลูกตาซะ
ตั้งแต่นั้นมาพระอินทร์ท่านจึงได้ชื่อว่าสหัสนัยน์ หรือท่านท้าวพันตานั่นเอง
ตามวรรณคดีไทย และหนังจักรๆวงศ์ถึงมักจะมีพระอินทร์มาเกี่ยวข้องไงคะ
ว่าเวลาทิพยอาสน์แข็งก็สอดส่องดูความเป็นไปบนมนุษย์โลก ว่าเกิดเหตุอาเพศใดขึ้นรึเปล่า ก็ท่านมีตั้งพันตา ทำไมจะมองเห็นได้ไม่ทั่วโลก ฮี่ๆๆๆๆ
(เผลอเล่ายาวอีกแล้ววววววววววววววว)
มาตอบเมนท์ต่อดีกว่า เห็นว่าจากตอน
"นิมิตกลางกูณฑ์"นี่สิ่งดึงความสนใจมากคือบทอัศจรรย์
สำหรับบทอัศจรรย์คราวนี้เริ่มแรกนุ่นก็ตั้งใจจะเขียนเป็นฉันท์แบบเดิมค่ะ กะให้สอดคล้องกับในค่ำคืนแห่งความฝัน แต่นานมากก็ได้แค่บทสองบทเอง
เลยเปลี่ยนใจดีกว่า ไม่งั้นป่านนี้ก็คงยังไม่ได้แปะ บทอัศจรรย์ระหว่างเทพและมนุษย์เลยมาในแบบกาพย์ฉบัง๑๖
ชื่อตอน นิมิตกลางกูณฑ์ สำหรับเด็กๆที่ยังไม่ทราบ คำว่า "กูณฑ์" แปลว่าไฟ กองไฟ นะคะ (บอกเผื่อๆมีเด็กน้อยมาอ่านงิ)
เอาล่ะมาต่อที่กาพย์ฉบังก่อน เห็นมีหลายท่านอ่านแล้วถึงกับเลือดกระฉูด โฮะๆๆๆๆๆๆๆ คนเขียนก็เขียนไปเขินไปค่ะ แบบว่าสิงร่างอยู่แถวนั้นไปเขียนไป
สำหรับบทบนก็เป็นระหว่างชาย-หญิง พอจะพีคๆก็ตามขนบบรรยายถึงแมลงกับดอกบัวในบึงไปโน่น ตั้งใจให้ทั้งเทพทั้งคนสบตากันปุ๊บไฟลุกพรึบปั๊บค่ะ
เลยออกแนวกระโจนเข้าใส่กันอย่างที่เห็น แหะๆๆ ศวัตราแอบใจง่ายเนอะ >//////< แล้วพอทำไปแล้วคิดได้ทีหลังก็มาร้องไห้
แถมที่ไล่ให้หนีไปนั่นคือเป็นห่วงสามีหมาดๆนะคะ กลัวท่านพ่อจะไล่ฆ่าเอา
เป็นเจ้าหญิงอยู่ดีดี หนีออกมาเที่ยวก็ผิดแล้ว นี่ยังมาชิงสุกก่อนห่ามอีก รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น......
(ถ้ามีท่านไหนอยากให้ถอดความก็บอกไว้นะคะ แต่ไม่อยากถอดเท่าไหร่ อยากให้อ่านไปแล้วใช้จินตนาการเยอะๆมากกว่า...ที่จริงคือเขิน)
ส่วนบทหลัง ที่เป็นบทอัศจรรย์เมื่อยอดดวงใจของท่านเทพกลายเป็นหนุ่มน้อยแล้ว อันนี้มั่นใจว่าไม่ต้องถอดความ เพราะใช้คำตรงไปตรงมามาก
(ตรงตั้งแต่เลือกจะใช้เสียงครางเป็นคีย์ >//////<) เอาจริงๆเลยคือคนเขียนพยายามหามุขอื่นๆมาเขียนบทอัศจรรย์ค่ะ
เห็นเรื่องอื่นเวลาอัศจรรย์กันเขาต้องคราง เหมือนว่ายิ่งครางอีกฝ่ายจะยิ่งชอบ เลยเอาเสียงครางใส่มันเข้าไปในกาพย์ฉบังซะเลย
อารมณ์ของบทหลังนอกจากตั้งใจให้ร้อนแรงแล้ว คือตั้งใจให้หวานจนศวัตราเชื่อว่าร่างกายที่เปลี่ยนไปของตนไม่มีผลอันใดต่อความรู้สึกขององค์เทพบุตร
ต้องการให้มั่นใจว่าความรักของทั้งสองจะไม่เปลี่ยนแปลง พยายามสื่อออกมาให้ชัดที่สุด แต่ก็ได้เท่าที่เห็นน่ะค่ะ
หวังว่าคนอ่านจะถูกใจนะคะ แล้วคือขอสารภาพว่าพอข้าพเจ้าเขียนตอนนี้จบปุ๊บ
รู้สึกอยากไปกดโหวตให้ท่านสารถีเทพเป็นพระเอกแห่งปีมาก ท่านแม้นนนนนนแมน

สุดท้ายสำหรับการตอบเมนท์ยืดยาว ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกท่านที่เข้าไปเสนอชื่อผลงานของคนเขียนในกระทู้โหวตด้วย
แค่เห็นมีชื่อเรื่องที่เขียนขึ้นก็ปลาบปลื้มมากแล้วค่ะ คนอ่านจำนวนไม่มาก แต่ก็ยังอุตส่าห์มีชื่อได้อยู่ในหน้าโหวตกับเขาด้วย ขอบคุณมากนะคะ

ตอนล่าสุดเลือดแทบพุ่ง
บางคำต้องใช้เวลานึกอยู่นานถึงจะเข้าใจ
แต่ก็พอจะเข้าใจในเรื่อง อ่านนิยายพี่นุ่น รักภาษาไทยขึ้นจมเลยค่ะ
ปลื้มใจนะคะที่ทำให้คนอ่านรู้สึกรักภาษาไทยมากขึ้นได้ น้องสวีทตี้ซ์ กอดดดดดดดดดด มารักและรักษ์ภาษาไทยกันค่ะ ^o^