...มาแล้วค่า~ คู่นี้ช้ากว่าคู่อื่น แต่ความหวานแซงชาวบ้านไปแล้ว~คุณตำรวจยอดรัก
==============
17
โทนี่เอื้อมมือไปหมายจะดึงรั้งร่างของผู้กองหนุ่มมาโอบกอด แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคิดถึงว่าอาจจะเพราะไม่สบาย ทำให้เจ้าตัวเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา และหากภามหายเป็นปกติ ผู้กองหนุ่มก็อาจจะนึกรังเกียจทั้งเขาและตัวเองขึ้นมาก็เป็นได้
สีหน้าครุ่นคิดและปฏิกิริยาชะงักงันของหนุ่มลูกครึ่ง ทำให้ภามยิ้มเศร้า ๆ เมื่อหวนคิดถึงตัวเองที่พยายามสร้างกำแพงกับอีกฝ่ายมาตลอด ทำให้โทนี่ไม่กล้าแตะต้องเขา ทั้ง ๆ ที่แสดงออกถึงความรักและต้องการเขามากถึงขนาดนี้ก็ตาม
“โทนี่...ถึงผมจะเป็นไข้ จนทำให้ความคิดและจิตใจ อาจจะหวั่นไหวไปบ้าง ...แต่ผมก็ยังมีสตินะ มีสติพอที่จะแยกแยะออกว่า ใครกันที่ปรารถนาดีต่อผมมาตลอด ...และใครกัน ที่รักผมจากใจจริง”
ภามบอกด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนโยน โทนี่เม้มปากแน่น แล้วรั้งร่างของผู้กองหนุ่มมากอดอย่างโหยหา
“ได้ใช่ไหมครับ ...ผมสัมผัสคุณได้สินะครับ”
ภามหน้าแดงระเรื่อ เขาหลับตาพริ้มยามที่สบตากับอีกฝ่ายแทนคำตอบ โทนี่แย้มยิ้มอย่างยินดี แล้วค่อย ๆ ชะโงกหน้าลงมาประทับริมฝีปากของตนกับผู้กองหนุ่มอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน
“ผมรักคุณนะ ...คุณภาม”
ถ้อยคำกระซิบนุ่มนวลข้างหูดังขึ้น ก่อนที่ร่างของคนป่วยจะถูกอีกฝ่ายประคองให้นอนราบไปบนเตียง โดยที่ร่างสูงเฝ้าวนจุมพิตไปทั่วใบหน้าแดงระเรื่อนั้นจนสมอยาก แล้วจึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าระหว่างกันและกันออกจนหมดสิ้น
“โทนี่ ...ผมไม่เคยมาก่อน ...ไม่รู้ต้องทำยังไง...”
คนหน้าแดงบอกอย่างเขินอายและเป็นกังวล จนทำให้คนมองแทบอยากจะกลืนกินเจ้าตัวไปทั้งร่างเสียเดี๋ยวนั้น เขาพยายามอดทนกับความปรารถนาที่จวนเจียนจะระเบิดของตน แล้วบอกตัวเองว่า ในครั้งแรกนี้ เขาจะทำให้ภามเต็มไปด้วยความประทับใจ และรู้สึกดีที่สุด
“ผมรู้ดีครับ ว่าผู้กองยังซิงอยู่”
โทนี่แสร้งกระเซ้าให้อีกฝ่ายหายเครียด และได้ผล ภามทุบเบา ๆ ที่ไหล่ของเขาด้วยความฉุนปนอาย
“ไม่ต้องกลัวไปครับ ผมรับรองว่า ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด”
เสียงกระซิบทุ้มนุ่มอ่อนโยนเอ่ยปลอบ ทำให้ผู้กองหนุ่มรู้สึกถึงความผ่อนคลาย เขาหลับตาซึมซับสัมผัสของอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวเนิบนาบผ่านผิวกายเปลือยเปล่าของตน แล้วครางออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“โทนี่...ผม...ผมต้องทำยังไง ...ถึงจะทำให้คุณมีความสุขได้บ้าง...”
ภามลืมตาขึ้นถาม เมื่ออีกฝ่ายปล่อยให้เขาพักหอบหายใจ หลังจากที่เล้าโลมทั่วร่างเขาได้สักพัก โทนี่ยิ้มตอบอย่างซาบซึ้ง แล้วจูบอีกฝ่ายเบา ๆ ที่หน้าผาก
“แค่คุณยอมรับผม...แค่นี้ผมก็สุขจนแทบตายแล้ว ...คุณภามครับ ไม่ต้องคิดเรื่องตอบแทน หรือเรื่องน้ำใจอะไรหรอกครับ ...ผมรักคุณ ขอแค่คุณรับรู้ไว้แค่นี้ก็พอแล้ว”
“โทนี่”
ภามพึมพำเรียกชื่อของชายตรงหน้าเขาอย่างตื้นตัน จากนั้นผู้กองหนุ่มก็ใช้แขนโอบรั้งใบหน้าของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ แล้วจูบริมฝีปากของอีกฝ่ายเบา ๆ จูบของภามนั้นไม่ได้เชี่ยวชาญชำนาญอันใด หากแต่มันกลับยิ่งไปกระตุ้นให้คนที่จวนเจียนระเบิดอยู่แล้ว เริ่มจะทนไม่ไหว
“คุณภาม ... ถ้าผมจะขอรักคุณให้มากกว่านี้ …จะได้ไหมครับ”
“ถ้าผมตอบว่าไม่...คุณจะหยุดได้ไหมล่ะ”
ภามแสร้งถามอย่างลองใจของอีกฝ่าย โทนี่ชะงักกึก แม้จะทรมานเพียงใด แต่ความสุขและความต้องการของคนที่เขารัก มันย่อมอยู่เหนือความปรารถนาของเขา
“ถ้าคุณภามบอกว่าไม่...ผมก็จะไม่ทำเกินเลยไปมากกว่านี้”
“ทั้งที่คุณต้องการผมมาก ...ขนาดนี้อย่างนั้นหรือ”
ภามถามกลับไป ในขณะที่มือเอื้อมไปสัมผัสความแข็งขึงที่ตื่นตัวรอคอยการปลดปล่อยของอีกฝ่าย
“คุณภาม...ได้โปรด อย่าแกล้งลองใจผมมากไปกว่านี้เลยนะครับ”
โทนี่วอนขอเสียงแผ่ว ภามชะงักแล้วจึงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อีกฝ่าย
“คุณเองก็ยังรู้มากไปหมดเหมือนเดิม ...ผมถึงไม่ค่อยชอบหน้าคุณมาตั้งแต่ตอนแรก ๆ ที่เรารู้จักกันแล้ว”
“ผิดกับผมนะครับ ...ผมตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกพบ ถึงตอนนั้นจะยังไม่รู้ว่าเป็นความรักก็เถอะ”
โทนี่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ซึ่งภามก็ยิ้มตอบ จากนั้นมือที่สัมผัสที่แก่นกายของอีกฝ่ายก็ค่อย ๆ เลื่อนมาลูบไล้ที่หน้าอกของหนุ่มลุกครึ่งแผ่วเบาเนิบนาบ
“ทำตามที่คุณต้องการเถอะ...โทนี่”
คำตอบนั้นสร้างความยินดีให้กับหนุ่มลูกครึ่งเป็นยิ่งนัก เขาจูบภามอีกครั้งอย่างหนักหน่วงและเร่าร้อน จนผู้กองหนุ่มเพลิดเพลินไปกับรสจูบนั้นอย่างลืมตัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อนิ้วมือของอีกฝ่ายล่วงล้ำเข้ามาสำรวจช่องทาง ที่ไม่เคยให้ผู้ใดได้เข้าผ่านมาก่อน
“ชู่ว! ใจเย็นคุณภาม...ไม่ต้องกลัวนะครับ แล้วมันจะดีเอง”
โทนี่เอ่ยปลอบ เมื่อเห็นร่างนั้นมีปฏิกิริยาต่อต้าน เขาอยากจะหาโลชั่นหรือสิ่งหล่อลื่นมาเบิกทางให้อีกฝ่ายคุ้นเคยเสียก่อน แต่ก็ไม่อยากทิ้งร่างบนเตียงเอาไว้ลำพัง กลัวว่าภามจะเปลี่ยนใจขึ้นมา มีหวังถึงตอนนั้นเขาคงจะได้คลั่งเอาจริง ๆ แน่
“อาจจะเจ็บสักหน่อย ...แต่ก็แค่ตอนแรกเท่านั้นนะครับ...อดทนหน่อยนะ”
โทนี่ปลอบ ในขณะที่เพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปเบิกทางให้อีกฝ่ายคุ้นเคย ภามนิ่วหน้ากัดฟัน แต่ไม่ส่งเสียงร้องออกมาให้ได้ยิน แสดงถึงความใจแข็งของเจ้าตัว และนั่นก็เป็นนิสัยอีกอย่างที่โทนี่หลงรัก
“คุณภาม...ผมจะเอาเข้าไปแล้วนะครับ”
โทนี่กระซิบบอก ภามกัดฟัน สะดุ้งเฮือก เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่ใหญ่กว่านิ้วกำลังถูกดันเข้ามาภายในร่างของเขา แรงตอดรัดและความเกร็งซึ่งสัมผัสได้ ทำให้หนุ่มลูกครึ่งเองก็ขบกรามแน่นเช่นกัน เขามองร่างเปลือยใต้ร่างของเขา ที่มีใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยด้วยความเจ็บอย่างนึกสงสาร ก่อนจะชะโงกหน้าลงไปจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของอีกฝ่าย แล้ววนจูบซับไปทั่วใบหน้า ลำคอ และแผ่นอกกว้าง เพื่อกระตุ้นให้ภามรู้สึกดีจนลืมความเจ็บปวดไปได้บ้าง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มผ่อนคลายความตึงเครียดลง โทนี่ก็ใช้มือรั้งเอวของผู้กองหนุ่มแล้วค่อย ๆ ดันตัวตนของเขาเข้าไปใหม่อย่างช้า ๆ เรียกเสียงหลุดครางจากอีกฝ่ายทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว และพอทุกอย่างเริ่มลงตัว โทนี่ก็เริ่มขยับช้า ๆ ให้ภามเคยชิน ก่อนจะค่อย ๆ เร่งจังหวะทีละน้อย
“อะ...โทนี่ ...ผม...รู้สึก แปลก ๆ ...”
“แล้วดีไหมล่ะครับ”
หนุ่มลูกครึ่งถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงกระเส่า สีหน้าของภามยามนี้ช่างดูเซ็กซี่เสียจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหว อยากจะกระแทกกระทั้นความเป็นชายเข้าไปให้ลึกล้ำกว่านั้น อยากจะเห็นสีหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกดียิ่งกว่านี้ แต่ก็จำต้องอดกลั้นไว้ก่อน ภามเพิ่งเคยจะได้สัมผัสการมีเซ็กส์เช่นนี้เป็นครั้งแรก เขาต้องการให้ผู้กองหนุ่มรู้สึกดีกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“โทนี่...ดีจัง...ฮึก...ผมรู้สึกดี...มาก...เลย”
ภามตอบไปหอบไป มือทั้งสองข้างโอบกอดรอบคอของร่างสูงบนกายของตน บั้นท้ายขยับกระแทกสวนไปอย่างเป็นธรรมชาติ
“คุณภาม...ผมจะทนไม่ไหวแล้ว”
โทนี่กัดฟัน เขาเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนภามสะดุ้งครางเสียงหลง แต่มาถึงขั้นนี้หนุ่มลูกครึ่งก็หยุดตัวเองไม่ได้แล้ว เขาจับบั้นท้ายของอีกฝ่ายประคองเอาไว้แน่นก่อนจะกระแทกความเป็นชายของตนเข้าไปรัวแรง ...เสียงครางระงมผสมกับเสียงหอบหายใจหนักดังขึ้นยาวนาน จนกระทั่งความปรารถนาของทั้งคู่ได้รับการปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ภายในห้องจึงหลงเหลือเพียงแต่เสียงหอบหายใจอย่างอ่อนแรงของชายสองคนเพียงเท่านั้น
โทนี่มองร่างเปลือยที่หลับไปแล้วในอ้อมแขนของตนอย่างรักใคร่ ในที่สุดเขาก็ได้เป็นเจ้าของครอบครองร่างนี้ และถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป หัวใจของภามเองนั้นก็รู้สึกดี ๆ กับเขาด้วยเช่นกัน
“รักคุณที่สุดเลยนะ คุณภาม”
โทนี่จูบที่เส้นผมของอีกฝ่ายแผ่วเบา เขามองไปรอบห้องของภาม แล้วก็นิ่งคิดบางสิ่ง ก่อนจะชะงักเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงละเมองึมงำไม่ได้ศัพท์ของคนที่นอนหลับอยู่ข้างเขา
“อืม...อร...รัก ...ขอบ...คุ...”
ชื่อของพิราอรที่หลุดออกมา ทำให้หนุ่มลูกครึ่งนิ่งเงียบ เขาเข้าใจดีว่าภามยังคงรักพิราอร และรักมากจนแทบไม่มีที่ว่างให้เขาเข้าไปแทรก การที่ชายหนุ่มยอมนอนด้วยกับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมมอบหัวใจให้เขาด้วยทั้งหมด
พอคิดได้แบบนี้ใบหน้าหล่อเหลาก็สลดลง ฝืนยิ้มเศร้า ๆ ให้กับตัวเอง นั่งคิดอะไรไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งภามตื่นขึ้น
“คุณภาม ... เป็นยังไงบ้างครับ ยังปวดหัวอยู่ไหม?”
โทนี่ถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายรู้สึกตัว ภามนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อขยับกาย ก่อนจะยิ้มให้กับคนถาม
“ไม่ปวดแล้วล่ะ แต่ผมอยากอาบน้ำ...”
“ยังไม่ได้ครับ ไข้เพิ่งลด แต่เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้นะ”
โทนี่รีบแย้ง แล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่ และตักน้ำขันใหม่มาจากห้องน้ำ โดยไม่คิดสนใจสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองแต่อย่างใด ภามนั้นทั้งเขินทั้งระอา แต่ก็ยังคงแอบลอบยิ้มมองเวลาเห็นอีกฝ่ายหยิบโน่นหยิบนี่อย่างตั้งใจเพื่อเขา
“รู้สึกดีไหมครับ”
คนเช็ดตัวถามคนที่นอนหลับตา ไม่อยากเผชิญหน้าอีกฝ่ายยามนี้ด้วยความอาย แต่เพราะเมื่อครู่ได้ยินภามละเมอ จึงทำให้โทนี่เผลอคิดไปว่า ภามไม่อยากสู้หน้าตนเองเพราะรู้สึกผิดที่ไปมีอะไรกับเขา
“เสร็จแล้วครับ”
โทนี่บอกพลางฝืนยิ้ม ทว่าน้ำเสียงผิดปกติของเจ้าตัว ก็ทำให้ผู้กองหนุ่มรู้สึกได้ ภามลืมตามองอีกฝ่ายอย่างสงสัย แต่เมื่อเห็นโทนี่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ พลางคิดว่าตัวเองไปเผลอพูดหรือแสดงท่าทางอะไรให้คนตรงหน้าน้อยใจอีกหรือไม่
“เมื่อครู่ที่หลับไป ...ผมฝันด้วยนะ”
คนที่เงียบไปนานเอ่ยขึ้น ทำให้หนุ่มลูกครึ่งชะงัก แล้วมองร่างบนเตียงที่หันมาทางเขา
“ผมฝันถึงอร เธอมาหาผม แล้วก็ยิ้มให้ ...แปลกนะ ก่อนหน้านั้นที่ผมฝันถึงเธอแต่ละครั้ง เธอไม่เคยยิ้มให้ผมเลย มีแต่ทำหน้าเศร้า ๆ ตลอด”
ภามถอนหายใจเบา ๆ มองใบหน้าที่สลดลงของอีกฝ่าย แล้วจึงเล่าต่อ
“ผมคุยกับเธอหลาย ๆ เรื่อง ที่ผมจำไม่ค่อยได้ ...แต่ที่ผมจำได้ดีก็คือ ผมถามเธอว่า ถ้าผมจะมีรักใหม่อีกครั้ง เธอจะให้อภัยผมไหม...”
โทนี่ใจเต้นแรงเมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ ภามยิ้มน้อย ๆ แล้วเล่าต่อไป
“อรบอกผมว่า ให้ผมเป็นอิสระ อย่ายึดติดกับเธออีก ให้ลืมเธอเสีย ...แต่ผมบอกว่า ผมลืมเธอไม่ได้ ผมรักเธอ และคนที่ผมรักอีกครั้ง ก็เคยบอกกับผมว่า เขายินดีและเต็มใจให้ผมเก็บความรักที่มีต่อเธอเอาไว้ ... จากนั้นอรก็ยิ้มให้ผม แล้วก็หายไป”
ภามหันมาสบตากับคนข้าง ๆ แล้วเอ่ยถามเขาแผ่วเบา
“คุณคิดว่ายังไงโทนี่ ... คุณคิดว่าจะยังรักผู้ชายที่ยึดติดกับความรักครั้งเก่า ได้เหมือนที่คุณเคยบอกกับผมไหม”
โทนี่นิ่งเงียบไปสักพัก ทว่าภามก็ต้องตกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีน้ำตาไหลออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยนั้น
“โทนี่เป็นอะไรไป!”
“คุณภาม...”
โทนี่เรียกชื่อของผู้กองหนุ่มแล้วรั้งร่างนั้นเข้ามากอดแน่น ก่อนจะกระซิบตอบ
“ผมรักคุณ... แม้ว่าในใจของคุณจะไม่มีผมอยู่ในนั้นเลยก็ตาม ...ผมก็ยังรักคุณ”
“โทนี่...ขอโทษนะ ผมคงทำให้คุณทรมานใจมากใช่ไหม”
ภามกอดตอบ รู้สึกโล่งใจ เมื่อได้สารภาพความจริงออกไปสักที ทั้งคู่กอดกันนิ่งเช่นนั้นอยู่พักใหญ่ ภามจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วผลักอกของอีกฝ่ายออก ก่อนจะเอ่ยกับคนตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม
“ต่อไปนี้ ผมคงต้องขอฝากตัวกับคุณด้วยนะ มิสเตอร์หว่อง”
ภามแกล้งทำเป็นเรียกนามสกุลของอีกฝ่ายเหมือนก่อนหน้านั้น ทำให้โทนี่ยิ้มออกมาได้ เขาจูบริมฝีปากของผู้กองหนุ่มเบา ๆ แล้วจึงตอบกลับไป
“ผมเองก็เช่นกันครับ ...ผู้กองยอดรักของผม”
คำหวานของอีกฝ่ายทำให้ภามทั้งเขินทั้งนึกขำ ทั้งคู่คุยกันอยู่สักพัก โทนี่ก็ชำเลืองดูเวลาแล้วจึงลุกไปใส่เสื้อผ้า และขอตัวไปเตรียมอาหารเย็นให้กับคนป่วย ทิ้งให้ภามนอนเฉย ๆ บนเตียง พลางพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
“อีกหน่อยคงได้กลายเป็นคนเอาแต่ใจแน่เลยนะเรา เล่นมีคนคอยเอาใจตลอดแบบนี้ ...เฮ้อ”
คนบ่นอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารปรุงเองร้อน ๆ ลอยเข้ามาในห้องนอน และสักพักร่างสูงก็ถือชามข้าวต้มเข้ามา คนป่วยนั้นถูกช่วยพยุงกายให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วนั่งมองให้อีกฝ่ายป้อนตนอย่างว่าง่าย สร้างความพึงพอใจให้กับคนป้อนยิ่งนัก และในคืนนั้น โทนี่ก็ขอนอนค้างที่ห้องของภาม เพราะเป็นห่วงกลัวชายหนุ่มจะไข้กลับ ซึ่งภามเองแม้จะกลัวว่าอีกฝ่ายจะติดหวัดของตน แต่ก็ยังคงยินยอมให้โทนี่ค้างแต่โดยดี เพราะลึก ๆ แล้ว เขาก็อยากให้หนุ่มลูกครึ่งอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปแบบนี้เช่นเดียวกัน
=== TBC ===