เพิ่งไปอ่านผลโหวตเซ็งเป็ดอวอตร์มาแล้วเกิดอยากได้รางวัลหนึ่งขึ้นมาจะพูดไปแล้วก็อยากได้รางวัลนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ไม่ได้สักที ปีนี้เลยทุ้มสุดตัวอ่ะ ใครก็ได้ช่วยหน่อย...อยากได้รางวัลดองเค็มแห่งปีอ่ะ...555555555 ถ้าได้รางวัลนี้จะภูมิใจมาก.....
คำว่าเจ็บจนชามันเป็นอย่างนี้ นี่เอง ใครไม่โดนเขาไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ไหน แต่จะให้มานั่งเสียใจคร่ำครวญอยู่มันก็ไม่ใช่คนอย่างบีม....ผมเป็นลูกนายทหาร แม่ว่าทั้งพ่อและแม่จะดูแลเหมือนไข่ในหินในสายตาของคนทั่วไป แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมอ่อนแอจนเปราะบางใครแตะต้องไม่ได้ จากการเลี้ยงดุที่พ่อเคยสอนมาเสมอว่าล้มแล้วต้องลุก เจ็บแล้วให้จำ แล้วเอาอดีตกลับมาเตือนใจตัวเองให้อยู่เสมอว่าอย่าได้เดินตามรอยเดิมที่เคยเจ็บมา
แม้จะเจ็บบ้างแต่ผมก็ต้องรีบลุกขึ้นมาอย่างเร็ว
ผมเดินทางกลับมาที่ห้องเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปตามที่ผมได้นัดไว้กับขิงและพี่กันต์เอาไว้ คืนนี้พี่ก้องเองก็จะค้างกับผมที่ห้องด้วยเลยทำให้ผมสบายใจว่าคืนนี้ผมจะมีคนพากลับห้องอย่างปลอดภัยแม้ว่าจะเมาเหมือนหมาขนาดไหน
“น้องบีมครับ....ทำไมเงียบจังคิดอะไรอยู่”
“เปล่าครับพี่ก้อง”
พี่ก้องถามผมขณะที่เราสองคนเดินจากลานจอดรถของหอพักใหม่ของผม มายังที่ห้อง
“เอ่อ...น้องบีมพี่ว่าจะถามตั้งแต่อยู่ในร้านแล้วผู้ชายคนที่มากับเพื่อนของน้องบีมนะครับ นองบีมรู้จักหรือเปล่าครับ”
“คนไหนครับพี่ก้อง”
“ก็...คนที่ใส่สูทนะครับ”
พี่ก้องคงหมายถึงไอ้เฟคแน่ๆ เลย ผมจึงหันไปมองหน้าพี่ก้อง
“น้องบีมอย่ามองหน้าพี่อย่างนั้นซิครับ...”
พี่ก้องแก่คงงงนะครับที่อยู่ดีๆ ผมก็หันไปมองหน้าแกอย่างสงสัย
“แล้วพี่ก้องถามทำไมล่ะครับ...ผมก็รู้จักอยู่นะครับแต่ไม่ได้สนิทอะไรกัน”
ผมโกหกพี่ก้องไป เพราะพี่ก้องเองก็ไม่รู้จักไอ้เฟคหรอกครับ แต่ถ้าเป็นพี่กิจนะรู้จักครับ เพราะว่าตอนที่ไอ้เฟคไปบ้านผม มันเคยไปกินเหล้ากับพี่เขาครับ ตอนแรกพี่ก้องก็จะไปด้วยแต่พอดีพี่แกติดธุระเลยไม่ได้ไปด้วยคราวนั้น แต่ก็ดีแล้วครับที่ไม่ไปรู้จักคนอย่างไอ้เฟค
“งั้นเหรอ....พี่เห็นเขามองน้องบีมตลอดเวลาเลยนะครับ ตอนแรกพี่นึกว่ารู้จักสนิทกับน้องบีมเสียอีก เล่นมองเสียขนาดนั้น”
“ก็อย่างที่บอกนั้นแหละครับ รู้จักกันเฉยๆ ไม่ได้สนิทสนมอะไร พี่ก้องอย่าไปสนใจเลยครับ ถึงห้องแล้วพี่ก้องก็อาบน้ำก่อนผมเลยนะครับ”
“ครับ...แล้วแต่บัญชา”
พอมาถึงห้องพี่ก้องก็จัดการตัวเองไปตามคำสั่งของผม ส่วนผมก็จัดการของที่ขนมาให้เข้าที่เข้าทางอีกสักหน่อย เพราะอย่างไงก็เหลือเวลาอีกตั้งมากมายกว่าจะถึงเวลานัด ผมจัดของจวนจะเสร็จอยู่แล้วก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของผม ผมเดินลากขาไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมาหาผมกันแน่ อาจจะเป็นขิงก็ได้ที่เป็นคนที่โทรมา เร่งจริงๆ พ่อคนนี้
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ใครแปลกๆ แต่อย่าไปสงสัยมากเลยรับแล้วก็รู้เองนั้นแหละว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
“สวัสดีครับ”
“บีม....ทำไมทำอย่างนี้”
ผมอึ้ง...ไปชั่วขณะ เสียงที่ดังมาตามสายก็คือไอ้เฟคนั้นเอง
“อย่ากดสายถิ้งนะ....ไม่อย่างงั้นเจอดีแน่”
“พี่เฟคมีอะไรก็ว่ามา ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วจะมาทำอย่างนั้น”
ผมตอบมันไปด้วยน้ำเสียงที่ผมคิดว่าเย็นชาและเรียบง่ายที่สุด เมื่อมันอยากคุยกับผม ผมก็จะคุยกับมัน แม้ว่าใจจริงแม้แต่เสียงหรือชื่อของมันผมก้ไม่อยากจะได้ยินทั้งนั้น
“เหรอ...ไม่ใช่เด็กๆ แล้วทำไมบีมทำอย่างนี้”
“ ทำอย่างไหนล่ะ...ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรสักหน่อย แล้วพี่บ้าหรือเปล่าอยู่ดีๆ ก็โทรมาพูดอะไรไม่รู้ พี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่”
“พี่ไม่ได้บ้า...แล้วบีมล่ะบ้าหรือเปล่าที่เข้ามาทำลายข้าวของ ของคนอื่นเขา”
อ๋อ....ที่แท้ที่มันโทรมาหาผมก็เพื่อพูดเรื่องที่ผมไปคว้างรูปที่มันกับเด็กของมันไปสวีทหวานนั้นเองนึกว่าเรื่องอะไร
“เออ..ผมมันบ้าแล้วก็โง่ด้วย แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวผมจะจัดการค่าเสียหายให้พี่กับเด็กของพี่ก็แล้วกัน...มีแค่นี้ใช้ไหม...งั้นผมว่างแล้วนะ”
“เดี๋ยวก่อน...พี่ยังพูดไม่จบ เรื่องของแค่นี้พี่ไม่คิดอะไรมากหรอก ไม่ต้องมาอวดรวยกับพี่ แต่ที่โทรมาวันนี้เพื่อบอกให้บีมรู้ว่า บีมยังเป็นคนของพี่ อย่าคิดสวมเขาให้พี่จำไว้ ตราบใดที่พี่ยังไม่ได้บอกเลิกกับบีม บีมไม่มีสิทธิ์มีคนอื่นจำไว้”
มันพูดจบผมแทบสะอึ้ก ไอ้เฟคมันเป็นคนที่เห็นแกตัวที่สุดคนหนึ่งเมื่อมันไปมีคนอื่นได้ แต่มันกลับห้ามผมไปมีคนอื่น
“น้องบีมครับ....พี่อาบน้ำเสร็จแล้วครับ จะอาบต่อเลยหรือเปล่า......อ้าวคุยโทรศัพท์อยู่เหรอ งั้นพี่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ”
ตอนที่ผมกำลังอึ้งกับคำพูดที่เห็นแก่ตัวของไอ้เฟคอยู่นั้นพี่ก้องก็อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี แต่พอพี่เขาเห็นว่าผมคุยโทรศัพท์อยู่พี่เขาจริงเดินเลี่ยงไปแต่งตัวแทน ชั่วขณะนั้นความคิดของผมก็แวบขึ้นมา ผมจะต้องเอาคืนจากมันบ้าง เมื่อมันคิดว่าผมจะมีคนอื่น ผมก็จะทำตามที่มันคิด
“บีมเสียงใครอ่ะ...”
ไอ้เฟคมันคงได้ยินเสียงพี่ก้องดังลอดเข้าไป มันเลยถาม ผมจึงตัดสินใจพูดออกไปว่า
“เสียงใครพี่จะไปสนใจทำไมล่ะ..เมื่อพี่มีคนอื่นเข้าไปอยู่ด้วยได้ ผมก็มีได้เหมือนกัน...แค่นี้นะ ผมจะรีบไปอาบน้ำแล้วคืนนี้ผมจะได้ไปทำอะไรกับคนของผมบ้าง”
“เดี๋ยวบีม...บีมอยู่ที่ไหนบอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ผมกดสายของมันทิ้งทันที ก่อนที่จะปิดโทรศัพท์ด้วยเพื่อไม่ให้มันโทรมากวนผมอีก เอาไว้ใกล้เวลานัดค่อยเปิดเครื่องแล้วโทรไปหาขิงอีกที
ไม่รู้ว่าผมทำผิดหรือทำถูกที่ไปลากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอย่างพี่ก้องมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ด้วยอารมณ์ที่อยากประชดหรืออยากเอาชนะมันกันแน่ที่ทำให้ผมบอกกับมันไปอย่างนั้น
พอได้เวลานัดผมก็โทรหาขิงก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้าน ร้านนี้เป็นร้านที่ผมกับขิงเคยมาด้วยกันบ่อยๆ ตอนที่เรายังคบกันอยู่ผมก็เลยไม่ค่อยเป็นห่วงว่าขิงจะมาไม่ถูก
แต่ขิงบอกว่าจะรีบตามผมมาให้เร็วที่สุดตอนนี้กำลังเคลียร์อะไรกันก็ไม่รู้ ขิงไม่ยอมบอก แต่ผมก็ไม่สนใจหรอก คงเป็นเรื่องส่วนตัวของเขานั้นแหละ
พอเข้ามาในร้านเด็กในร้านก็พาผมกับพี่ก้องไปหาที่นั่ง ผมเลือกเอาบริเวณที่เป็นส่วนตัวหน่อย แสงสีจากไฟในร้านมันดึงเลือดในตัวของผมให้ลุกขึ้นระหว่างที่รอขิงกับพี่กันต์อยู่นั้นผมจึงโยกเบาเพื่อเรียกเหงื่อ
“ท่าทางคุ้นเคยคงมาเที่ยวบ่อยซิครับ”
พี่ก้องมากระซิบที่ข้างหู แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับเพราะเสียงเพลงมันดังเหลือเกิน ขนาดยังไม่ดึกยังมีคนออกไปดิ้นกันบ้างแล้ว
“ก็ไม่บ่อยหรอกครับ....อ้าวขิงมาพอดีเลย”
ระหว่างที่ผมกำลังก้มลงไปพูดที่ข้างหูของพี่ก้องขิงก็เดินมาพอดีพร้อมกับพี่กันต์ที่เดินยิ้มมาด้วยข้างๆ ผมจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาขิง
“พี่ก้องนั่งรอก่อนนะครับ..เดี๋ยวผมมา”
ผมหันไปบอกพี่ก้องก่อนเดี๋ยวแกจะหาว่าผมทิ้งแกไว้คนเดียว พี่ก้องพยักหน้าให้ผมนิดหนึ่งก่อนที่พี่ก้องจะหันไปชงเหล้าสำหรับตัวแกเองและผมด้วย ผมเดินไปหาขิง
“นึกว่าจะมาเช้าซะแล้วเร็วเลย เหล้ามาพอดี”
ผมเดินไปจับมือขิงแล้วลากมาด้วยกันด้วยความเคยชิน โดยลืมไปว่าตอนนี้ผมกับขิงไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว พอนึกขึ้นได้ ผมจึงปล่อยมือแล้วหันไปยิ้มให้พี่กันต์ ซึ่งพี่เขาก็มองยิ้มๆ ครับ
“ไม่เป็นไรครับบีมพี่ไม่ถือหรอกครับแต่คนอื่นพี่ไม่ยอมครับ”
พูดจบพี่กันต์ก็หันไปยิ้มให้ขิง ดูสองคนนี้หวานกันมากกว่าเดิมจริงๆ เจอกันครั้งก่อนสองคนนี้ยังไม่หวานเท่านี้เลย
“เออ...บีม...เรามีเรื่องจะบอกล่ะ”
ขิงพูดอำอึ้งระหว่างที่ผมเดินคู่มากับผม
“มีเรื่องอะไรเหรอ..ขิงบอกเราได้”
“ก็จะมีคนตามมาด้วยล่ะ เรานะไม่เต็มใจให้มันมาเลยจริงๆ แต่พอมันรู้ว่าเราจะมาเที่ยวกับขิง มันก็ขอตามมาด้วย พี่กันต์นั้นแหละไม่ดี ไปยอมให้มันตามมาด้วย”
“นินทาอะไรพี่ครับขิงได้ยินพูดถึงพี่”
“ไม่ได้นินทา ก็พี่อ่ะยอมให้เพื่อนพี่ตามมาด้วย ก็รู้ว่าผมไม่ชอบหน้าเพื่อนพี่คนนี้ ยังจะให้ตามมาอีก ขอเลยนะถ้าเพื่อนพี่คนนี้จะไปเที่ยวหรือไปไหนกับพี่ ไม่ต้องให้ผมไปด้วยเลย ผมไม่ไปหรอก”
สงสัยขิงจะไม่ชอบเพื่อนของพี่กันต์คนนี้จริงๆ ถึงได้พูดออกไปแรงขนาดนี้ พี่กันต์ก็ส่ายหน้าน้อยๆ
“ขิงครับ...อย่าโกรธซิ ขิงก็รู้ว่าพี่กับไอ้เฟคเป็นเพื่อนสนิทกัน”
“อะไรนะพี่กันต์พี่เฟคจะมาด้วยเหรอ..”
ผมเองก็เพิ่งจะรู้ว่าไอ้เฟคจะมาด้วยตอนแรกก็นึกว่าเพื่อนคนอื่นของพี่กันต์เสียอีก เริ่มเซ็งแล้วงานนี้”
“อืม..ไอ้นั้นแหละ”
ขิงเป็นคนตอบผมครับ ส่วนพี่กันต์ก็ยิ้มแบบสำนึกผิด พี่กันต์เองก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้ผมกับไอ้เฟคเป็นอะไรกันแล้วมันเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับมัน พี่กันต์ยังจะมาทำอย่างนี้อีก ถ้าเป็นขิงผมจะไม่ว่าอะไรเลย เพราะขิงเองไม่รู้ว่าผมคบอยู่กับไอ้เฟค
“พี่กันต์ทำอย่างนี้กับผมได้ไง”
“บีมพี่ขอโทษจริงๆ นะครับก็ไอ้เฟคมันขอมาด้วยพี่เลยไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน เข้าใจพี่หน่อยนะครับ”
ผมจะโกรธพี่กันต์ก็โกรธไม่ลง พี่กันต์กับไอ้เฟคเขาสนิทกันมาก คงจะเกรงใจกันจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นพี่กันต์คงไม่อยากทำอย่างนี้หรอก เพราะดูแล้วพี่กันต์ก็คงจะรู้ว่าไอ้เฟคมันทำอะไรกับผมไว้บ้าง
“งั้นก็ไม่เป็นไรครับแต่พี่ก็ห้ามเพื่อนพี่มายุ่งกับผมก็แล้วกัน”
พี่กันต์พยักหน้ารับ ส่วนขิงก็ดูงงๆ ที่ผมกับพี่กันต์พูดเรื่องอะไรกันอยู่ ผมจึงถือโอกาสลากแขนขิงไปที่โต๊ะ พอไปถึงผมก็แนะนำให้พี่กันต์รู้จักกับพี่ก้อง พี่กันต์เองก็รีบทำความรู้จักกับพี่ก้องแล้วแลกนามบัตรกันไว้ เพื่อว่าในอนาคตจะได้ช่วยเหลือกันได้ในทางธุรกิจช่างหัวคิดก้าวไกลจริงๆ พี่กันต์
พวกเรานั่งกันไปได้สักพัก ผมก็เริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ พี่กันต์ก็รับโทรศัพท์ก่อนที่จะเดินออกไป แล้วกับมาพร้อมกับไอ้เฟคที่เดินยิ้มมาแต่ไกล แต่ผมไม่สนใจมันหรอก ผมรีบแอนตัวไปอิงพี่ก้องเอาไว้ พี่ก้องก็ดีครับด้วยความเป็นห่วงผม พี่ก้องจึงเอาแขนมาโอบไหล่ผมไว้ตอนนี้เลยดูเหมือนว่าพี่ก้องกอดผมไว้เลย
จากตอนแรกที่ยิ้มๆ ตอนนี้หน้าเริ่มงอแล้ว เอา...ซิมึงทำได้กูก็ทำได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว
“สงสัยน้องบีมจะเมาแล้วล่ะครับ”
เสียงพี่ก้องดังขึ้นข้างๆ หู
“ไม่เมาครับพี่ก้อง...ผมไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
ผมเอาหน้าไปกระซิบที่หูของพี่ก้องแบบใกล้มากๆ ตอนนี้ผมแทบจะขึ้นไปนั่งบนตักของพี่เขาแล้ว ไอ้เฟคมันเริ่มตาเขียวขึ้นเรื่อยๆ
“พี่ไปเป็นเพื่อนเอาหรือเปล่า..วันนี้เมาเร็วจัง”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมกลับมานะ เหลือเหล้าไว้ให้ผมด้วยล่ะ อย่ากินหนีหมดนะครับ”
“ครับ..คนเก่ง”
แล้วพี่ก้องก็เอามือมายี้หัวผมด้วยความเอ็นดู ส่วนผมก็สะบัดตูดมาที่ห้องน้ำโดยที่ไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมเข้าไปฉี่จวนเสร็จแล้วผมก็รู้สึกว่ามีคนมายืนข้างๆ ผม แต่อารมณ์นั้นผมก็ไม่ได้สนใจคงจะเป็นคนเข้ามาฉี่เหมือนกัน แต่พอผมฉี่เสร็จเขาก็ไม่ไปเหมือนกัน หรือแอบดูน้องชายผมว่ะ ผมจึงหันกลับไปก็เห็นว่าคนที่ยืนอยู่นั้นคือไอ้เฟคนั้นเอง ตาของมันจ้องผมเขม็งเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อผม ผมจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ไม่พ้นมันครับมันจับมือผมไว้ก่อนที่จะดึงผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูล็อคกลอน มันคิดจะทำอะไรผมกันแน่......