ต้องขอบอกว่ากว่าที่จะเข็นตอนนี้ออกมาได้ยากมากเลย ไม่รู้จะทำอย่างไงให้เฟตกับบีมดีกันได้ แต่คนอ่านตอนนี้ไปคงงนิดหน่อยที่บีมกับใจอ่อนง่ายๆ ต้องขอบอกว่าที่บีมยอมง่ายๆ ก็เพราะว่าบีมเองก็มีใจให้กับเฟคอยู่เหมือนกัน
และขออีกนึดนึงว่า ที่มีคนถามเข้ามาว่าทำไมบีมถึงยอมให้เฟคขนาดนั้นในตอนแรกทั้งๆ ที่พ่อตัวเองก็ใหญ่พอสมควร ต้องขอตอบว่าเพราะบีมเองไม่อยากเอาเรื่องส่วนตัวมากวนคนในครอบครัวนะซิครับ ขนาดหนีเฟคกลับมาบ้านยังไม่ยอมเล่าให้ใครฟังเลยส่วนเนื้อหาอาจจะไม่แน่นและหนักเหมือนตอนเริ่มต้นของเร่องเพราะว่า กลัวเนื้อหาจะแรงจนเกินไป ทางผมจึงได้ลดความโหดลงมานิดนึง
หวังว่าผมคงตอบข้อข้องใจของแฟนๆ ได้บ้างนะครับ เพราะเหตุสงสัยส่วนมากผมจะตอบลงไปในเนื้อหาของนิยายเสียส่วนมาก เลยไม่ค่อยได้ตอบตรงนี้เท่าไร
ปล. เคยมีแฟนคลับเขียนขึ้นมาว่าพออ่านนิยายเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนนิยายเรื่องหนึ่งที่เป็นตำนานของบอร์ดนี้ ผมต้องขอขอบคุถณนะครับที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเรื่องนั้นทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ตั้งใจให้เหมือนแต่พี่นักเขียนคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเขียนงานออกมาครับ ที่เขียนมาทั้งหมดนี้จะบอกว่าดีใจครับที่ผลงานของผมเข้าตาคนอ่านเหมือนกัน
และอีกไม่นานจะมีผลงานเรื่องใหม่ขึ้นมาอีกเรื่องตอนนี้กำลังเขียนอยู่ แต่เนื้อหาจะไม่หนักเท่าเรื่องที่ผ่านๆ มาของผมหรอกครับ
“อ้าวไปถามพี่เขาอย่างนั้นได้ไงไอ้เด็กคนนี้”
ยังไม่ทันท่ไอ้เฟคมันจะตอบผมพ่อผมก็ดุผมแทรกมาก่อน
“พี่เขาก็มาเยี่ยมพ่อนะซิ แล้วพี่เขาก็บอกว่ารู้จักกับบีมด้วย”
“มาเยี่ยมพ่อ แล้วพ่อไปรู้จักเออ...เขาได้ไงล่ะ”
“5555...ก็เฟคเนี๊ยเป็นลูกของอาพลกับอากี๋ไงลูก จำพี่เขาไม่ได้เหรอ เมื่อก่อนพ่อเห็นติดเฟคมากกว่าติดพี่โบ๊ทเสียอีก ตอนที่พี่เขาย้ายไปเรายังร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์อยู่เลย เด็กอะไรความจำเสื่อม”
อ๋อ...พอพ่อของผมพูดอย่างนี้ผมก็พอจะนึกออกได้แล้วว่าอาพลกับอากี๋เนี๊ยเป็นใคร อาพลคืออาทหารที่ใจดีมากๆ เมื่อก่อนตอนที่ผมเด็กมากๆ อาเขาก็อยู่บ้านพักทหารหลังที่อยู่ติดกับผมนี่แหละ และผมก็พอจำได้ว่าอาพลมีลูกสองคนผู้ชายหนึ่ง ผู้หญิงหนึ่ง และผมก็ติดลูกของอาพลมาก เพราะพี่เขาสองคนใจดีมากและพี่เขาก็อายุมากกว่าผมหลายปี
แต่ไม่นึกเลยว่าไอ้เฟคมันจะคือลูกของอาพลที่แสนดีคนนั้น
“นึกออกหรือยังล่ะ...”
“ออกแล้วครับพ่อ”
“เออ...ดีเลย พ่อจะได้ให้เราพาพี่เขาไปนอนที่ห้องด้วย แล้วก็คอยดูแลพี่เขาด้วยตอนที่พี่เขามาเที่ยวที่นี้”
“ไม่เอา...อ่ะพ่อ ให้บาสมันดูไปซิ”
“อย่า...นะบีม น้องไม่ว่าง น้องต้องไปเรียนแล้วเรานะเรื่องเมื่อคืนที่ออกไปกับพวกหมวดกิจแล้วไม่กลับมานอนบ้านนะพ่อยังไม่ได้จัดการเลย หรืออยากให้พวกหมวดกิจเดือดร้อน”
ผมหันไปมองหน้าไอ้เฟค มันยิ้มอย่างคนที่ได้ชัยชนะ ผมเห็นแล้วอยากจะลุกขึ้นไปต่อยมันสักทีเหมือนกัน
“พ่ออ่ะ...”
“ไม่ต้องต่อรองอะไรทั้งนั้น บีมก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ใช้เหรอลูก ช่วยพ่อหน่อยไม่ได้หรือไง”
สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้ให้กับพ่อผมจนได้ แม้ใจจริงผมนะไม่อยากยุ่งกับมันเลยให้ตายซิ แต่ดวงทำไมจะต้องมาเกี่ยวพันกันจนได้
พ่ออยู่คุยกับไอ้เฟคอีกพักใหญ่จนแม่ของผมต้องมาตามนั้นแหละ พ่อจึงยอมออกไปทำงานได้ ก่อนไปพ่อยังย้ำให้ผมดูแลไอ้เฟคมันดีๆ นี่ถ้าพ่อรู้ว่าไอ้คนที่นั่งตรงหน้าของพ่อนะเคยทำร้ายลูกชายของพ่อจนเกือบตาย พ่อจะยังบอกให้ผมดูแลมันอีกหรือเปล่า
ส่วนแม่ก็บอกให้ผมพามันไปกินข้าวด้วยแม่ทำเอาไว้ให้แล้ว หลังจากสั่งงานเสร็จทั้งแม่และพ่อก็ออกไปทำงานปล่อยให้ผมอยู่กับไอ้เฟคกันสองคน
“บีมพี่หิวข้าวแล้วครับ พาพี่ไปกินข้าวหน่อยซิ”
อยู่ดีๆ ไอ้เฟคมันก็พูดขึ้นมาหลังจากที่มันเงียบอยู่นาน ผมถลึงตาใส่มันนิดนึงเพื่อขู่ให้มันรู้เสียบ้างว่าอยู่ในถิ่นใคร แต่ไอ้เฟคมันก็ไม่ได้สลดหรือกลัวผมเลยสักนิดเดียว
“นะ...นะครับ พี่หิวข้าวแล้วจริงๆ เมื่อคืนกว่าจะเครียร์งานเสร็จก็ดึกมาก พอเสร็จปุ๊บพี่ก็ขับรถตามบีมมาเลย ไม่เห็นใจพี่เลยเหรอครับ”
“แล้วใครใช้ให้พี่ตามผมมาล่ะ ถ้าหิวมันก็เรื่องของพี่”
“ทำไมใจร้ายจังเลย พี่ขอโทษนะเมื่อวันก่อนที่พี่ทำไม่ดีกับบีม.....บีมยกโทษให้พี่ไม่ได้เหรอ...?”
“อ่ะ...”
พอไอ้เฟคมันพูดจบมันก็ขยับลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ผมพร้อมกับกอดเอวผมแน่นจนผมตกใจร้องออกมา และอีกอย่างก็กลัวว่าใครจะเห็นด้วยถ้าเกิดพ่อหรือแม่ย้อนกลับมาเห็นคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ผมจึงพยายามแกะมือของมันออกแต่มันก็ไม่ออกกลับรัดแน่นขึ้นอีก
“พี่เฟคปล่อยเลยนะ...เดี๋ยวใครมาเห็นก็เป็นเรื่องหรอก”
“ไม่ปล่อย...ถ้าบีมยังไม่ยกโทษให้พี่ แต่ถ้ามีใครมาเห็นก็ดีซิ คนอื่นจะได้รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ไม่ต้องเลยนะพี่เฟค ปล่อยผมได้แล้ว และอีกอย่างผมกับพี่เป็นอะไรกัน ผมเองก็ยังไม่รู้เลย”
ไอ้เฟคมันก็ยอมปล่อยผมง่ายๆ แต่มันกับจับให้ผมหันหน้าไปทางที่มันนั่งอยู่
“บีม...ฟังพี่ให้ดีนะครับ พี่จะบอกบีมให้บีมเข้าใจเสียที พี่รักบีมครับ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ไปรักบีมตอนไหน แต่พี่มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ไม่พอใจทุกคนที่เข้ามาใกล้บีม พี่อยากให้บีมอยู่กับพี่ตลอดเวลา เวลาที่พี่ทำงานเหนื่อยๆ แค่เห็นหน้าบีมพี่ก็มีกำลังใจทำงานแล้ว หลังจากที่บีมหายตัวออกมาพี่ถึงรู้ใจตัวเองว่าชีวิตของพี่คงขาดบีมไม่ได้แล้ว พี่ไม่เคยมีความรักมาก่อน แม้แต่คนในครอบครัว หลังจากที่พ่อของพี่ย้ายไปจากที่นี่ พ่อของพี่ก็ลาออกจากราชการและหันไปทำธุรกิจและมันก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้ทั้งพ่อและแม่แยกทางกันไปปล่อยพี่เอาไว้คนเดียว พี่จึงไม่รู้หรอกว่าความรักมันเป็นอย่างไง”
“แล้วน้องสาวของพี่ล่ะ ผมจำได้ว่าพี่มีน้องสาวอีกคนหนึ่งนี่ครับ”
“ใช่พี่เคยมี แต่ตอนนี้พี่ไม่แล้วล่ะ หลังจากย้ายไปน้องของพี่ก็ป่วยจนตายไปก็เลยเหลือพี่คนเดียว”
“ผมเสียใจด้วยนะครับพี่เฟค”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่บีมจะยกโทษให้พี่ได้หรือเปล่า ที่ทำไม่ดีกับบีมเอาไว้ พี่คงจะแสดงออกไม่เก่งแต่ใจดวงนี้ของพี่ พี่ให้บีมคนเดียว”
“ผม...ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรพี่นี่ครับ”
ผมถึงกับพูดเกือบไม่ออกที่อยู่ดีๆ ไอ้เฟคมันก็มาสารภาพความในใจกับผม ว่ามันรักผม นี่ขนาดมันรักผม ผมยังเกือบตายถ้ามันเกลียดผม ผมคงตายไปแล้วแน่ๆ
“จริงนะครับบีม แล้วบีมจะอยู่ข้างๆ พี่ตลอดไปนะ”
ไอ้เฟคมันฉวยโอกาสมากอดผมอีกครั้ง แต่ตอนนี้ผมเขินจนไม่มีแรงจะขัดขืนมันแล้วล่ะครับ ผมจึงตอบมันไปว่า
“ครับ”
ผมคงปฎิเสธไม่ได้ว่าผมก็มีใจให้กับไอ้เฟคไปเหมือนกัน แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่ามันคิดอย่างไงกับผม แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันคิดอย่างไงกับผม
ระหว่างที่เราสองคนกำลังโรแมนติกกันอยู่นั้นอยู่ดีๆ เสียงท้องของไอ้เฟคมันก็ดังขึ้น ทำเอาผมหมดอารมณ์โรแมนติกเลยที่เดียว จนผมต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้จนเกือบไม่อยู่
“อย่าหัวเราะนะ ก็พี่รีบทำงานทั้งวันจะได้มาตามเมียกลับบ้าน จนไม่ได้กินอะไรเลย”
“อย่าพูดคำว่าเมียอีกนะพี่เฟคผมไม่ชอบ”
“อ่ะก็ได้เมียสั่ง”
ยังพูดกันไม่ทันจบไอ้เฟคมันก็พูดขึ้นมาอีกมันเลยโดนผมซัดไปที่หน้าอกอีกหนึ่งที มันก็แกล้งทำสำออยจนผมตกใจนึกว่ามันเจ็บจริงเลยรีบก้มไปดู แต่พอผมก้มลงไปใกล้มันก็กอดผมพร้อมกับดึงผมให้ล้มทับไปบนตัวมัน เลยกลายเป็นว่าผมกับมันนอนกอดกันอยู่บนโซฟานั้นเอง เราสองคนนอนกอดกันอยู่อย่างนั้นนานพอสมควรผมจึงชวนให้มันไปกินข้าวเสียที
ไอ้เฟคมันจึงยอมปล่อยผมให้ลุกขึ้นก่อนที่ผมจะพามันไปกินข้าว ตอนที่กำลังกินข้าวผมจึงถามมันว่ามันตามผมมาถูกได้อย่างไง ไอ้เฟคมันก็ยักคิ้วให้ผมทีนึงก่อนที่จะบอกว่า
“มื้อชั้นนี้แล้วกระจอก แค่แฟนตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้แล้วจะอยู่เป็นคนได้ไง”
“เอาดีๆ พี่เฟคอย่ากวน”
มันก็เลยตอบว่ามันต้องไปถามกับเพื่อนผมหลายคนแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบมันจึงจ้างให้คนสืบดูว่าผมน่าจะไปอยู่ที่ไหนได้บ้าง จนได้ที่อยู่ผมมานี่แหละ ตอนที่มันรู้ว่าผมเป็นใครมันก็ตกใจเหมือนกัน แต่มันก็แอบดีใจเล็กๆ ว่าผมคือเด็กผู้ชายข้างบ้านของมันในสมัยก่อน มันบอกว่าตอนนั้นมันรักผมเหมือนน้องชายเพราะว่ามันไม่มีน้องชาย แต่ตอนนี้มันรักเป็นอย่างอื่นมากกว่า แถมยังทำตาเจ้าเหล์ใส่ผมอีก
แต่มันก็ยังมีแอบหนักใจอีกด้วยว่ามันจะเข้ามาที่บ้านของผมได้อย่างไง จนมันคิดแผนออกว่าทำทีมาเยี่ยมพ่อกับแม่แล้วก็บอกพ่อกับแม่ว่ารู้จักผมด้วย เรื่องมันก็เลยง่ายขึ้น ผมคิดในใจว่าจะมีใครร้ายและเจ้าเหล์เท่ามันอีกหรือเปล่า
พอเราสองคนกินกันจนอิ่มแล้ว ไอ้เฟคมันก็ขอขึ้นไปนอนบนห้องของผม เพราะว่ามันเหนื่อยจากการเดินทางมาก
“บีมๆ...”
“อะไรอีก”
“พี่ขอยืมเสื้อผ้าหน่อยซิพี่ไม่ได้เอามาเลยรีบมาก”
“ก็ได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปหาเสื้อของพี่ชายบีมมาให้นะ เพราะของบีมมีแต่ตัวเล็กๆ พี่เฟคคงใส่ไม่ได้”
“ก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่ขอยืมผ้าเช็ดตัวด้วยนะครับ”
“ได้ๆ...ไม่เตรียมอะไรมาเลยจริงๆ หรือไงเนี๊ย”
“น่า...นิดหน่อยเอง เราเป็นคนเดียวกันแล้วนะอย่าบนเลยนะคนเก่ง”
แล้วไอ้เฟคมันก็ถอดเสื้อผ้าออกต่อหน้าผมนั้นแหละ ทำเอาผมรีบออกจากห้องไปหาเสื้อผ้ามาให้มันแทบไม่ทัน พอผมปิดประตูห้องปุ๊บผมก็ได้ยินเสียงมันหัวเราะจนลั่นห้องมันคงสนุกที่ได้แกล้งผม ผมกลับเข้ามาอีกที่ผมก็ไม่เห็นมันแล้วแต่ได้ยินเสียงน้ำจากในห้องน้ำ แฟคมันคงกำลังอาบน้ำอยู่แน่ๆ ผมจึงเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ
“พี่เฟคเสื้อผ้า กับผ้าเช็คตัวได้แล้วนะ ผมแขวนไว้หน้าห้องน้ำนะครับ”
“อืม...ขอบใจมากเดี๋ยวพี่ไปหยิบเอง”
เสียงไอ้เฟคมันตะโกนกลับมาจากในห้องน้ำ ผมจึงเดินไปหาเสื้อผ้าเพื่อจะเปลี่ยนบ้างเพราะตั้งแต่เมื่อคืนผมเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย พอผมหันกลับมาอีกทีไอ้เฟคมันก็มายืนซ้อนอยู่ด้านหลังของผมแล้ว ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันมายืนอยู่ตั้งแต่ตอนไหนเหมือนกัน
“อะไรยังไม่ได้อาบน้ำเหมือนกันเหรอว่าแล้วตัวเหม็นๆ”
พูดจบมันก็หอมมาที่ท้ายทอยผมเล่นเอาขนลุกไปทั้งตัวเลย
“ว่าเหม็นแล้วดมมาทำไม”
“ถึงจะเหม็นแต่พี่ก็ชอบนะถ้ามันเป็นกลิ่นของบีม”
“ไอ้บ้า...หื่นว่ะพี่เฟค”
พูดจบผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที ขืนช้ากว่านี้คงเสร็จมันแน่