เง้อ... จบซะทีนะ สำหรับเรื่องยาวเรื่องนี้ ร้สึกมัน่างยาวนานเสียเหลือเกิน
ตอนแรกนึกว่าจะเยนไม่จบ แล้วิ่งหนีไปซะก่อน สดท้ายเลยรวบรัดให้มันจบลงซะดื้อ ๆ
ขอบคุณทุกคนที่ช่วยติดตามอ่านมาตลอดนะ เอาล่ะ ตอนอวสานมาแล้ววววว
**************************************
ตอนจบ
ฉันตัดสินใจบอกรักนายภูในวันที่ฉันจะต้องย้ายที่ทำงานจากภูเก็ตมาที่กรุงเทพฯ วันนั้นเป็นวันที่ฉันเศร้าใจมากที่สุด ฉันไม่อยากจากนายภูแล้วก็เพื่อนๆทุกคนที่นี่ไปเลย แต่ทำไงได้ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว
“ไปบอกลาไอ้ภูมันรึยังล่ะ” ออมบอกฉันให้ไปลามัน แต่ฉันกลัว กลัวร้องไห้ต่อหน้ามัน
“เด๋วค่อยโทรไปบอก”
“ไปแล้วก็อย่าลืมโทรมาหากันบ้างนะ” ออมมันจะไปเรียนต่อโท
“อืม ไม่ลืมหรอก”
ทุกคนเครียดไปตามๆกัน ก็ทำมาเกือบสองปีแล้ว มันผูกพันนะ อยู่ๆจะต้องย้ายไป มันก็หดหูน่าดู เรื่องที่ฉันจะย้ายนี้ นายภูยังไม่รู้ แต่ฉันตั้งใจว่าจะโทรไปบอกตอนพักกลางวันนี้แหละ แล้วฉันก็โทรไปจนได้
“ฮัลโหล ฉันเองนะ”
“ว่าไง จะให้ไปรับรึไง” มันก็ถามเหมือนๆเดิม ปกติของพวกเรา
“อืม มารับไปกินข้าวด้วยนะ” มันก็ตอบอืม แล้วก็วางสายไป
พักเที่ยงมันก็ออกมารับฉันไปกินข้าวด้วย วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เราสองคนจะได้เจอหน้ากัน อีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่ฉันจะได้พบมันอีก
“หน้าแปลกๆ มีอะไรรึเปล่าแก” มันถามเหมือนรู้
“อือ คือว่า” ฉันลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ
“เอาไว้บอกตอนเย็นดีกว่า เราไปเขารังกันนะ” ฉันว่าที่นั่นคงจะเหมาะดี
“เอ๋า... เอางั้นก็ได้ ท่าจะสำคัญมาก”
“แหงอยู่แล้ว” ฉันอยากมอง อยากจดจำภาพใบหน้าของคนๆนี้ไว้ แต่ฉันกลัว กลัวว่าจะลืมเข้าสักวันหนึ่ง
“ข้าวมาแล้ว มื้อนี้เลี้ยงเอง” ทุกมื้อเลยละมั้งเนี่ย ถ้ามากินกับมันน่ะ
“กับแฟนเป็นไงมั่ง” ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นโทรหากันเลยนิ
“ก็ไม่ยังไง มันไม่ค่อยมีเวลาน่ะ” เอ๋.... ห่างกันก็อย่างงี้แหละ
“งั้นเหรอ กินข้าวเถอะ เด๋วจะเย็นซะก่อน” ฉันเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้ภูต้องมาเล่าอะไรเครียดๆให้ฟัง
เรากินข้าวเสร็จแล้ว ก็กลับไปทำงานตามปกติ พอเลิกงานแล้ว ฉันก็เดินไปหามันที่ตึกตรงข้าม บอกว่าจะไปอาบน้ำก่อน ให้มันรอที่บ้านนั่นแหละ
พออาบน้ำเสร็จแล้ว ฉันก็เดินไปหามัน มันก็อาบน้ำแต่งตัวใหม่เหมือนกัน เราสองคนนั่งรถเข้าเมือง ตรงไปหาอะไรกินกันก่อน จากนั้นก็ขึ้นไปบนเขารังกัน ตอนนั้นเป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว
“วันนี้คนน้อยเนอะ” ดีแล้วล่ะ คนเยอะฉันคงอายเค้าจะแย่
“ไปนั่งที่เดิมของเราสิ”
“วันนี้มีอะไรรึเปล่าเนี่ย” มันเริ่มสงสัย ฉันน่ะมีแน่ๆ
“เด๋วก็รู้ ไปเถอะน่า” ฉันเดินนำมันไปนั่งที่ประจำของเราก่อน
นายภูเดินตามมานั่งลงข้าง ๆ ฉัน สายตาก็ทอดมองลงไปยังตัวเมืองด้านล่าง ที่ตอนนี้เริ่มเปิดไฟกันบ้างแล้ว ฉันนั่งมองใบหน้านั้น ฉันไม่รู้ว่าฉันรักไปได้ยังไง ภูไม่ใช่คนหล่อเหลาเอาการ แต่ภูเป็นคนดีมาก ถึงแม้จะติดเกมส์ไปหน่อยก็เถอะ แต่ข้อดีก็มีมากกว่าข้อเสีย
และนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันรัก และยอมตัดสินใจที่จะบอกว่า ฉันรัก ต่อให้มันออกมารูปแบบไหนก็ตาม ฉันเตรียมใจมาแล้วล่ะ
“ว่าไง มีเรื่องอะไรจะบอกเหรอ” มันถามแล้ว
“คือ.... คือว่าพรุ่งนี้ ฉัน... เอ่อ” พอจะบอกจริงๆ มันก็อัดอั้น พูดไม่ออกแฮะ
“หืม พรุ่งนี้ทำไมเหรอ”
“ฉัน ต้อง... ย้ายไป กรุงเทพฯแล้ว”
“หือ ย้ายไปไหนนะ”
“ไปกรุงเทพฯ พรุ่งนี้แล้ว” มันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
“ฮึ่ย พรุ่งนี้เนี่ยนะ ทำไมมันกะทันหันนักล่ะ”
“ไม่รู้สิ ฉันต้องไปจริงๆนั่นแหละ” ฉันเศร้านะ ไม่อยากไปเลย แต่จะทำไงได้
“แล้ว พรุ่งนี้จะไปกี่โมง” เสียงมันดูซึมๆไปเหมือนกัน
“6 โมงเย็นน่ะ” ฉันเริ่มพูดไม่ออก เรื่องที่จะบอกรักก็ดูเหมือนจะยากยิ่งเหลือเกิน
“ให้ฉันไปส่งมั้ย” ไม่รู้สิ ถ้ามันไปส่ง ฉันต้องร้องไห้แน่ๆเลย
“อืม ภูธร…..” ฉันตัดสินใจแล้ว ต้องบอกไป เรื่องมันจะได้จบๆเสียที
“อะไรเหรอ”
“ฉันมีอีกเรื่องจะบอก” มันพยักหน้ารับรู้
“แต่สัญญานะ ว่าถ้าบอกไปแล้ว เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่” ตอนนี้ภูเริ่มสงสัยหนักเข้าไปอีก บางคนพอบอกมาถึงตรงนี้ เขาก็จะรู้แล้วว่าจะบอกอะไร
“อือ สัญญาสิ มีเรื่องอะไรก็บอกฉันมาเถอะ”
“อื้ม จะบอกแล้วล่ะ ภูธร..... ฉันรักแกนะ”
หลังจากบอกคำนั้นออไปแล้ว ทุกอย่างดูสงบเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรเลย ภู พอได้ฟังแล้วก็ทำท่าอึ้งนิดๆ ก่อนที่จะหันหน้าไปมองในเมืองอีกครั้ง
พอมาถึงตรงนี้ ฉันก็รู้แล้วล่ะ ว่ามันหมายถึงอะไร ฉันรู้ ว่าทุกอย่างมันจะเป็นไปในรูปแบบไหน ฉันว่าฉันเตรียมใจมาพร้อมแล้ว แต่ว่า... มันก็ไม่ได้ทำให้ฉัน กลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ได้เลย
ฉันก็มองลงไปยังเมืองที่ตอนนี้มีแสงไฟระยิบระยับอยู่เหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ ดวงตาทั้งของข้างของฉันมันเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มอย่างไม่ขาดสาย ฉันไม่สะอื้นออกมา เพราะมันสะอื้นอยู่ภายในอก
มันเจ็บแปลบ เจ็บร้าว ทรมานจนแทบจะหายใจไม่ออก แล้วก็มันก็ยิ่งเจ็บไปมากกว่านั้นอีก เมื่อภูมันบอกออกมาว่า
“ฉันก็รักแกเหมือนกันนะ แกเป็นคนพิเศษสำหรับฉัน เราสองคน...” มันหยุด แล้วก็พูดต่อ
“จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไป”
ขอบคุณ.... ขอบคุณที่แกพูดออกมาแบบนี้ ขอบคุณนะ ฉันจะไม่มีวันลืมแกเลย ลาก่อน.... เพื่อนรักของฉัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++