
เยี่ยมทั้งไรเตอร์และก็ภูมิ..
ขอชมไรเตอร์ว่าเป็นคนที่ใช้ภาษาในการแต่งหรือบรรยายเรื่องราวในนิยายได้ดีมากคนหนึ่ง..
เราก็ไม่ใช้คนเก่งทางด้านภาษาอะไรหรอกนะ..แต่เท่าที่อ่านมา เวลาบรรยายหรือพรรณาเรื่องราว
ที่ต้องใช้ทักษะทางด้านภาษาสูง หรือการบรรยายเชิงเปรียบเทียบ อุปมา อุปมัย สำนวนโวหาร แล้วมันดูไหลลื่นดีจัง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน..ไม่ขัดกัน
เท่าที่สังเกตุมา..ไรเตอร์น่าจะเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมากคนหนึ่ง....ทั้งหนังสือเกี่ยวกับธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า..ปรัชญาชีวิต หนังสือธรรมะ
กฎแห่งกรรม และอีกมากมาย..ไม่งั้นคงไม่สามารถสื่อสารหรือบรรยายได้ดีขนาดนี้..เพราะสังเกตุได้จากสำนวนภาษาที่นำมาใช้ในนิยาย..
นอกจากนี้ บางช่วงบางตอนของนิยายได้ให้ข้อคิดแก่รีดเดอร์อย่างเราๆมากกกกกก และบางช่วงบางตอนก็เป็นสิ่งใหม่ๆที่รีดเดอร์อย่างเราๆเพิ่งจะได้รับทราบ..
ไม่ได้กะโหลกกะลาเลยนะเนี้ยะ..

อีกอย่างบทสนทนาระหว่างตัวละคร ก็สามารถสื่อออกมาได้อย่างไหลลื่น
และตอนนี้ โดยเฉพาะบทพูดของแพรในขณะที่นำเสนอพรีเซ็นเทชั่น และบทพูดของภูมิตอนที่เสอนความคิดเห็นของตัวเอง..หรือบทพูดในห้องประชุม
มันเป็นบทสนทนาจริงที่เจอในที่ทำงาน....คือจะบอกว่าอะไรดีอ่ะ..มันโดนอ่ะ..เจอประจำ..
เรารู้ว่าการเขียนนิยายซักเรื่อง ที่ต้องผูกเรื่องราวที่ซับซ้อน แล้วค่อยๆๆคลายปมของนิยายให้คลี่คลายออกไปที่ละขั้นที่ละตอน มันยากมากแค่ไหน..
ผู้เขียนจะต้องอาศัยทักษะอย่างมากในการวางพล็อตเรื่อง..จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวที่ต้องการจะนำเสนอ บรรยาย
รวมทั้งแบล็กกราวของเนื้อหาที่จะใส่ลงไป เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงหรือเนื้อหาของนิยาย จะต้องมีการศึกษาและทำการบ้านมาดี..ไม่ใช้ซักแต่ว่าอยากใส่อะไรก็ใส่
ขอชมไรเตอร์อีกครั้งว่า เป็นคนที่เอาใจใส่และทำการบ้านมาดีมาก..

และขอสารภาพจากใจจริงว่า..อันที่จริงก็เห็นไรเตอร์แต่งหลายเรื่องนะ..แต่เราก็อ่านเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียว..ไม่รู้ทำไมหมือนกัน..ฮาๆๆๆๆ
เรื่องอื่นๆๆไม่เคยเปิดเข้าไปอ่านเลย..เดียวถ้ามีเวลาจะเข้าไปอ่านเน้อ..ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าเพิ่งน้อยใจ..ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆ

เรื่องนี้ถ้าจะได้รับรางวัลออสก้าร์ ก็ไม่แปลกอะไร..สมควรด้วยซ้ำ..
ก่อนที่จะได้รับรางวัลออสก้าร์
เอาช่อดอกไม้ของเราไปก่อนแล้วกัน..หุหุ
