-- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557  (อ่าน 334533 ครั้ง)

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
น้ำสาบาน
“หน้าเมิงไปโดนตีนที่ไหนมาว่ะ” ผมถามเพื่อนทันทีที่ลงไปนั่งข้างๆมัน
“ตีนKไร เมิงดู” มันชี้ไปทางพวกปีสอง หน้าพวกมันซึ่งเหียอยู่แล้วในสายตาผม ตอนนี้หน้ามันก็ไม่ต่างจากไอ้มิ๊กเลย
“พวกเมิงไปทำ ห่าอะไรกันมาว่ะ” พวกมันไม่ตอบผม แล้วอาจารย์ก็ดึงความสนใจบนใบหน้าของพวกมันไป
“วันนี้มันเป็นวันอะไรของพวกคุณ ทำไมถึงหาแต่เรื่องแต่ราวมาให้ผม ทันบนที่ทำไปมันไม่ได้ทำให้พวกคุณกลัวกันเลยใช่ไหม แล้วพวกคุณเป็นรุ่นพี่ของไอ้พวกนี้แล้ว น่าจะมีวุติธิภาวะมากกว่า แล้วทำไมถึงทำตัวกันแบบนี้ ดูสิหน้าแต่ละคนดูไม่ได้ ” ครูส่ายหัวแล้ว ถอนหายใจเสียงดังมาก
“ถ้าพวกคุณอยากเป็นนักเลงกันมากนัก ก็ไม่ต้องเรียน คุณรู้ใช่ไหมว่าถ้าผมทำทันบนอีกที พวกคุณจะโดนพักการเรียน ” อาจารย์หันไปขู่พวกปี 2
“ใครก็ได้ เล่ามาสิว่ามันเรื่องอะไร ทำไมถึงต้องทะเลาะกันแบบนี้”
“พูดมา” ครูตะคอกใส่พวกผม กรูไม่รู้แล้วกรูจะเล่ายังไงว่ะ
“หนูเล่าเองค่ะ” น้องผู้หญิง ปี 1 คนเดิมกับคนที่พูดเมื่อเช้า
“มันก็เรื่องเมื่อคืนละค่ะ พี่รหัสน้องโทรมาบอกว่าให้ออกมาหาหน่อย น้องก็ออกมา เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไรน้องก็ยอมออกไปกับเพื่อนน้อง” ตอนนี้น้องคนนั้นหันไปมองหน้ารุ่นพี่ กับเพื่อนๆ ที่จ้องเธอ แบบว่าถ้าเมิงพูดออกไปคงจะต้องลาออกแน่ๆ ผมเองก็เป็นห่วงกับไอ้คำพูดที่จะหลุดออกมาจากปาก น้องคนนั้น
“เล่าต่อเถอะ ครูรับรอง ว่าจะไม่มีใครทำอะไรเธอแน่ๆ” อาจารย์รับปาก แต่มันคงจะช่วยได้ละมั้งคราฟ
“พอไปเถอะ น้องก็เห็นพี่ๆ เขากำลังนั่งล้อมวงกินเหล้ากันอยู่ แต่น้องก็คิดว่าไม่มีอะไรเพราะว่าเพื่อนมีกันอยู่เยอะแล้ว พอน้องนั่งคุยกับเพื่อนได้สักพัก รุ่นพี่ก็เรียกรวม แล้วก็ลงโทษพวกเรา สั่งให้เราหมอบบ้าง คลานบ้าง แล้วก็หันไปด่า เอิท พี่เขาให้เอิท ลุกนั่ง เป็นร้อยๆครั้ง จนเอิทลุกนั่งไม่ไหว รุ่นพี่ก็วิ่งไปที่ป่าบอน แล้วเรียกให้พวกผู้ชายวิ่งไปที่ตรงนั้น น้องเห็นว่าเอิทลุกไม่ไหวแล้ว พอน้องเข้าไปช่วย ก็โดนรุ่นพี่ผู้หญิงเข้ามาด่า ” ตอนนี้สายตาพวกเพื่อนผมก็เปลี่ยนจากน้องผู้หญิงคนนี้ ไปทางพวกผู้หญิงปีสองแทน
“แล้วรุ่นพี่ก็สั่งให้เอิท คลานไปหาพวกรุ่นพี่เขา เอิท ก็พยายามคลานไปนะค่ะ แต่รุ่นพี่ก็ยังเอาเขาไปทำโทษอีก พี่คนนั้น” น้องเริ่มระบุตัวคนกระทำแล้ว สายตาของทุกคนก็เปลี่ยนไปตามที่ผู้เล่ากล่าวถึง
“ก็พูด ด่าแต่เรื่องเดิมๆ ได้แต่พูดว่าพี่ปี 3 ไม่ดี ชอบทำแต่เลวไม่ดีแบบนั้นไม่ดีแบบนี้ ไม่เคารพรุ่นพี่ปี 4 บ้าง รับน้องกับพวกรุ่นพี่ปี 2 มาแบบไร้เหตุผล พี่ปี 2 เลยต้องมาลงกับพวกน้องแบบนี้ ต่อจากนั้น น้องก็ไม่รู้ว่าพี่ๆเขาเอาพวกผู้ชายไปทำอะไร เกือบๆชั่วโมง ผู้ชายบ้างส่วนก็เดินกลับมา ตรงที่น้องนั่งอยู่ แต่เอิท แล้วก็เพื่อนบ้างคนไม่ได้กลับมาด้วย แต่ละคนเนื้อตัวเปื้อนโคลนไปหมด รุ่นพี่เองก็มีแต่กลิ่นเหล้า”
“จนพอเกือบๆเที่ยงคืน ก็มีพี่มิ๊กกับพี่โอมห์ เข้ามาที่ตรงนี้ น้องก็คิดว่าเรื่องจะจบแล้วพวกน้องจะได้กลับห้องสะที แต่เรื่องไม่ได้เป็นแบบนั้น พี่มิ๊กเดินเข้ามาตบแก้วเหล้าที่อยู่ในมือพี่คนนั้นตกลงพื้น” มือน้องเขาก็ชี้ไปที่จำเลยอีก 1 คน
“ตอนนั้นที่รุ่นพี่ สั่งให้พวกน้องก้มหน้า ไม่ให้มองว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่มีเพื่อนบ้างคนไม่เชื่อ รุ่นพี่เลยเรียกตัวไปที่ป่าบอน เหมือนเฉือดไก่ให้ลิงดู ไม่มีพวกน้องคนไหนกล้าที่จะมองอีกเลย น้องได้ยินแต่เสียง เหมือนพี่มิ๊กจะพูดประมาณว่า เวลารับน้องไม่ให้พวกรุ่นพี่ดื่มเหล้า แล้วสั่งให้พวกหนูกลับ แต่รุ่นพี่คนไหนไม่รุ้ค่ะ ตะโกนออกมาว่า เรื่องนี้พวกปี สามไม่เกี่ยว แล้วพี่มิ๊กก็เถียงไปประมาณว่า ที่นอนอยู่นั้นก็น้องกรูเหมือนกัน แล้วก็เงียบไปเหมือนมีเสียงคนกำลังตีกัน แต่รุ่นพี่ก็มายืนบังไม่ไม่ให้น้องดูแต่น้องก็พยายามมองรอดขาพวกพี่เขา น้องเห็นพวกพี่ปีสองหลายคนกำลังรุม พี่มิ๊กอยู่ น้องอยากจะช่วยจริงๆนะค่ะพี่โอมห์ แต่น้องก็กลัวรุ่นพี่ปีสองเหมือนกัน  ” น้องคนนั้นร้องไห้ แล้วให้หน้ามาขอโทษผม ผมก็ได้แต่ยิ้มให้เหมือนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันไม่เป็นอะไร

“มีเสียงเหมือนคนกำลังทำอะไรอยู่ไม่นาน ก็มีคนพูดขึ้นมาว่า เมิงเก่งนักใช่ไหมไอ้มิ๊ก แล้วก็เหมือนมีเสียงถุยน้ำลาย แต่ตอนนี้น้องไม่ได้ยินเสียงพี่มิ๊กแล้ว  ได้ยินแต่เสียงพวกรุ่นพี่คุยกัน ประมาณว่า กรูคิดว่าจะแน่ ประมาณนี้ละค่ะ สักพัก พี่โอมห์ก็แบกเอิทขึ้นหลังมา แล้วก็วิ่งเข้าไปหาพี่มิ๊ก แต่พวกพี่ปีสองไม่ยอมให้พี่โอมห์เดินเข้าไปหาพี่มิ๊ก” น้องหันหน้ามาหาผมอีกครั้ง เหมือนจะถามว่าเล่าเรื่องนี้ได้ไหม ผมยิ้มแล้วก็พยักหน้าให้

“น้องได้ยินเสียง พี่โอมห์ขอร้อง ว่าให้ปล่อยพี่มิ๊กแล้วก็เอิท กลับไป เหมือนพี่โอมห์จะร้องไห้ด้วยนะค่ะ แล้วก็พูดอะไรสักอย่าง แล้วก็ถามพวกพี่ปีสองว่า จะต้องให้กราบเท้าเลยใช่ไหม ไม่มีเสียงตอบโต้อะไร แต่ภาพที่น้องเห็นผ่านช่องหว่างระหว่างขาของพวกพี่ๆเขา คือพี่โอมห์ก้มลงไปเหมือนจะไหว้ พวกปีสองที่เท้า แล้วพี่คนนั้นก็มาห้ามไว้” น้องชี้ไปที่ไอ้โอบ ตอนนี้อาจารย์ดูซีเรียจกับเรื่องนี้พอสมควร บรรยากาศโดยรอบก็มืดหมดแล้ว มีแค่แสงไฟลีออนจากถนนเท่านั้น แต่ผมไม่กลัวผีแล้วนะครับ เพราะคนอยู่กันเยอะ
“แล้วพี่โอมห์ก็ได้คลานเข้าไปหาพี่มิ๊ก รู้สึกว่าพี่โอมห์พาพี่มิ๊กออกมาแล้วพยายามที่จะพากับกลับแต่ก็กลับไม่ได้เพราะเอิทก็เจ็บเหมือนกัน น้องเห็นพี่โอมห์เอาพี่มิ๊กมาวางที่ตัก แล้วก็นั่งเงียบไปเลย สักพัก รุ่นพี่ก็มาพูดว่า ไอ้เอิท มันเห็นพวกพี่ปีสามดีกว่า พวกพี่ตัวเอง ผลก็จะเป็นแบบนี้ น้องหันซ้ายหัยขวา ดูว่าเพื่อนรู้สึกยังไง แต่ก็มองไม่ชัด จนรุ่นพี่สั่งให้ยืน น้องถึงเห็นว่ามีหลายคนมากที่เสียน้ำตากับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วรุ่นพี่ก็คุมพวกน้องไม่ให้ไปยุ่งกับ เอิท พี่โอมห์ แล้วก็พี่มิ๊ก มีเพื่อนน้อง ที่จะเดินเข้าไปช่วย แต่ก็โดนรุ่นพี่ดึงให้กลับ น้องก็คิดเหมือนกันว่าจะกลับไปก่อนแล้วจะรอให้รุ่นพี่ปีสองกลับไป แต่พี่คนนั้น” น้องชี้ไปหา รุ่นน้องที่ผมไม่ชอบหน้าที่สุดในชั้นปี
“มานั่งเฝ้า ไม่ยอมให้พวกน้องมายุ่ง ใครที่ ไม่เชื่อพี่เขาจะตัดรุ่น พวกน้องเลยจำใจต้องกลับ” เรื่องเดินมาถึงตรงนี้ผมเข้าใจทุกๆอย่างหมดสิ้นแล้ว แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่เคยโทษปี 1 เลย
“แล้วก็มาจนเมื่อเช้า หลังจากที่น้องออกมาจากห้องประชุม รุ่นพี่ปี สามก็เรียกพวกน้องให้เข้าแถว พร้อมกับเรียกให้เก็บป้ายชื่อ ทั้งหมด พี่ไนท์ เป็นคนเอาใส่ปี๊บ แต่ก็ยังดีที่พี่โอมห์เดินเข้ามา น้องคิดว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทุกๆคนฟังในตอนนั้น แต่ก็ไม่มีโอกาส พี่ไนท์ดึงตัวพี่โอมห์ออกไปข้างนอกเสียก่อน รุ่นพี่ปีสาม เอาไฟมาจุดเผาป้ายชื่อทั้งหมด แล้วก็บอกว่าเรื่องทั้งหมดให้เราจบกันแค่นี้ เราจะไม่ใช่พี่ใช่น้องกันอีกแล้ว รุ่นพี่ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี จนทำให้น้องๆไม่เคารพ แล้วรุ่นพี่ก็ขอโทษที่รับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งกับพี่โอมห์ แล้วก็พี่มิ๊กไม่ได้  ยังไงเพื่อนก็ต้องสำคัญกว่ารุ่นน้องอยู่แล้ว พอพี่เขาพูดจบก็ปล่อยให้พวกน้อง นั่งคุยกัน ”

“พอใกล้ๆจะเย็น พี่ปีสองก็มานัดพวกน้องอีกครั้งให้ขึ้นไปที่น้ำตกหลังค่ายลูกเสือ ตอนนั้นน้องยังนั่งอยู่ที่แผนก น้องเห็นรุ่นพี่ปีสองเดินเข้าไปในห้องเรียนที่พี่ปีสามนั่งเรียนอยู่ แล้วคุยอะไรสักอย่างกับครูคนที่สอน แล้วรุ่นพี่ก็ทยอยกันออกมา น้องขี่รถตามพวกพี่ไปกันติดๆ บนนั้นยุงเยอะมาก พอไปถึงน้องก็เห็นเพื่อนๆน้องนอนหมอบกับพื้นดินกันหมดแล้ว น้องก็เลยรีบเข้าไปหมอบกันเพื่อนเขา สักพัก พี่ๆก็ตามกันมาจนอยู่บนน้ำตกกันหมด พี่ปี 2 เริ่มพูดก่อน บอกว่า วันนี้มีน้องคนหนึ่งปากหมา เอาเรื่องไปบอกครู ซึ่งน้องเข้าใจว่าเป็นตัวน้องเองแน่ๆ แล้วพี่ก็ชี้หน้าไปที่ปีสาม พูดประมาณว่าอยากให้เรื่องมันจบๆกันไป แต่พี่ๆปีสามไม่ยอม บอกว่าให้ไปกราบตีนขอโทษพี่มิ๊กพี่โอมห์กันเอาเอง แล้วอยู่ดีๆก็มีคนพูดขึ้นมาว่า จะให้ไปกราบตีนพวก ตุ้ดกรูไม่ทำ ตอนนั้นละค่ะ ที่เป็นเรื่องชกกัน น้องจำได้ว่าพี่ปีสองเป็นคนขวดขวดน้ำใส่พี่ไนท์ก่อน แต่พี่ไนท์เองก้ไม่ได้ตอบโต้อะไร แล้วพี่ปีสี่ก็กรูเข้ามา มันยุ่งๆไปหมดเลยค่ะ พวกน้องก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมีพี่ปี สองค่อยยืนคุมอยู่ไม่ให้ทำอะไร แล้วอาจารย์ ก็ไป เป็บแบบที่อาจารย์เห็นละค่ะ” น้องผู้หญิงเล่าเรื่องทั้งหมดเสร็จ ตอนนี้เป็นเวลาที่ปีสองจะต้องตอบคำถามแล้ว ว่ามันจริงรึเปล่ากับเรื่องที่เกิดขึ้น
“จริงรึเปล่า ที่น้องเขาเล่ามา มันจริงรึเปล่า” ไม่มีปีสองคนไหน เปิดปาก อาจารย์เลยหันไปถามรุ่นน้องแทน
“จริงรึเปล่าที่เพื่อนพวกเราเล่ามา ไม่ต้องกลัวมีอะไรครูจะดูแลเอง พี่ปีสามก็มี” พวกน้องหันหน้ามาทางพวกผม เหมือนจะขอความมั่นใจ แต่คงหาได้ยากในเวลานี้ จนค่อยๆมีคนตอบที่ละคนสองคน
“จริงครับ .........................................”
“ผมจะให้พวกคุณพักการเรียนทั้งชั้น ถ้าคุณไม่อยากพักการเรียน คุณต้องขอโทษรุ่นพี่ ”
“ขอโทษครับ ...........................” เสียงขอโทษแบบไม่เต็มใจหลุดออกมาจากปากพวกนั้น
“ไม่ใช่ ผมหมายถึงกราบเท้าขอโทษพี่เขา แบบที่พี่เขาทำกับเรา” ผมไม่เคยอยากได้การขอโทษใดๆทั้งสิ้น แล้วผมก็ไม่ชอบการบังคับด้วย น้องดูไม่เต็มใจ พูดคุยปรึกษากันเสียงดังพร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจมาใส่พวกผม
“ไม่ทำก็ได้ แต่พวกคุณพักการเรียน 1 เทรอม เพราะพวกคุณทะเลาะวิวาท” อาจารย์ยังขู่อยู่  ผมเริ่มจะไม่พอใจกับเรื่องที่อาจารย์คิดจะทำแล้ว

“ไม่ต้องหรอกครับครู” ผมลุกขึ้นยืนแล้วออกมาพูดข้างโอ่งน้ำ
“ถ้าเรื่องขอโทษยังต้องมาบังคับกัน ให้วันหนึ่งพวกมันคิดได้แล้วค่อยทำก็ได้ แต่ก็อย่างที่บอก ผมไม่ได้โกรธพวกน้องปีสองเลย แต่เกลียด แต่ที่การกระทำ เกลียดที่พวกมันไร้สติ เกลียดที่ผมรับน้องพวกมันมากลับมือ แต่ก็มาทรยศน้ำใจกันแบบนี้ ต่อจากนี้ไป พวกคุณไม่ต้องมานับถือพวกผมว่าพี่ เพราะผมก็จะไม่คิดว่าคุณเป็นน้องอีกต่อไปแล้ว เจอที่ไหนไม่ต้องไหว้ เจอที่ไหนไม่ต้องทัก เพราะพวกผมไม่ต้องการมันอีกแล้ว กิจกรรมที่เหลือต่อจากนี้ ก็ให้น้องปี 1 เป็นคนตัดสินว่าจะเลือกที่จะอยู่กับใคร ผมเชื่อว่าน้องเขาคงคิดได้จากการกระทำของพวกพี่มัน ”

“ได้ถ้ายังงั้น เอาตามนี้ ผมจะพักการเรียนพวกคุณ 1 เทรอม สำหรับพวกปี 2 ในเหมือนน้องยืนยันว่าพวกคุณไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นเรื่องพวกนี้ ผมจะไม่ลงโทษอะไรพวกคุณ” อาจารย์ดูจะพอกับคำพูดของผมมากๆ
“ยังครับ ครู เรื่องพักการเรื่อง ผมขอนะครับ ให้น้องได้เรียนตามปรกตินั้นละครับ แต่ผมอยากขอที่ อย่ามายุ่งกับพวกผมอีก แล้วถ้าน้องปี 1 เลือกที่จะอยู่ฝั่งไหนก็ช่าง ให้เคารพการตัดสินใจของน้องปีหนึ่ง ผมอยากจะขอแค่นี้ละครับ” อาจารย์หยุดคิดสักพัก แต่ดูจะตกลงกับข้อตกลงนี้ ผมเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของปีสอง ถึงจะเกลียดยังไงแต่ผมก็ทำร้ายอนาคตใครไม่ได้จริงๆ
“พวกคุณตกลงไหมกับข้อเสนอของพี่เขา” พวกนั้น คงไม่มีทางเลือก ได้แต่ก้มหน้ารับความผิดของคนบ้างคนที่ก่อเรื่องขึ้น
“ดีงั้นเรามาดื่มน้ำสาบานกัน ว่าต่อจากนี้ไปเราจะไม่มีเรื่องทะเลาะกันอีกแล้ว อะไรที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป ถ้าใครทำผิดคำสัญญาขอให้มันมีอันเป็นไป” อาจารย์เดินไปหยิบธูป มาบอกกล่าว ต้นไม่ต้นเดิม บรรยากาศเดิมๆ
คันน้ำสีเงินถูกส่งต่อกันไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการทำข้อตกลงว่าเรื่องนี้จะจบไว้เพียงเท่านี้ หลังจบเรื่องนี้ ผมยังตอบคำถามเพื่อนๆเกี่ยวกับเรื่องอาการของมิ๊กแล้วก็เอิท  น้องปี 1 บ้างคนก็เดินเข้ามาขอโทษผมกับเรื่องเมื่อวานที่เกิดขึ้น
“หนูขอโทษนะค่ะพี่ เรื่องเมื่อคืน....” น้องผู้หญิงคนที่พูดเมื่อสักครู่เดินเข้ามาไหว้ผม
“เราขอโทษพี่วันนี้กี่รอบแล้ว นับบ้างรึเปล่า......” ผมแซวน้องเขา
“ไม่ทราบค่ะ แต่หนูขอโทษจริงๆนะค่ะพี่” ยังก้มหน้าก้มตาขอโทษผมต่อไป
“เห้ย ไม่เป็นอะไร เราตกลงกันว่ายังไงแล้วมาบอกพวกพี่นะ พี่ขอตัวกลับก่อน ต้องพาพ่อกับแม่กินข้าว” ผมรับไหว้แล้ว ก็บอกลาเพื่อนๆ ก่อนจะออกจากมหาลัย เพื่อที่จะกลับไปพา ท่านพ่อท่านแม่ไปรับประทานข้าว




“โอมห์ อยู่ที่ไหนลูก ไปกินข้าวด้วยกันไหม” แม่มิ๊กโทรหาขนาดที่ผมกำลังจะกลับไปหามิ๊ก
“กำลังจะไปหามิ๊กครับ แม่มารับที่โรงบาลก็ได้ครับ” ผมวางสายแล้วก็ตรงดิ่งไปรอที่โรงบาล
พอขึ้นตึก ก็เห็น มิ๊กยังนอนเล่นโทรสับเครื่องใหม่อยู่

“เรียนร้อย รึเปล่า” คำแรกที่มันถามผม  ผมไม่ได้ตอบอะไรพยักหน้าให้มันแล้วเดินไปนั่งที่ข้างๆเตียง
“ไปทำไมนานว่ะ ”
“ทำไมมีอะไรรึเปล่า”
“ก็คิดถึง หายไปสะนาน แกะส้มให้หน่อย” คือจะใช้ก็ก็บอกดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องมาหวาน
“เดี๋ยว จะออกไปกินข้าวกับพ่อกับแม่นะ” ผมบอกมันไว้ก่อน
“อะไรว่ะเพิ่งจะมา ไปอีกแล้วไงว่ะเนี่ย” มันบ่นๆๆๆๆๆๆ
“พ่อกับแม่ไม่ได้มาบ่อยๆนะ”
“จะไปก็ไป แล้วจะกลับมาหาอีกไหม”
“ทำไม มีอะไรรึเปล่า” ผมถามมัน เพราะดูมันจะต้องการผมเป็นพิเศษ
“กรูนอนไม่หลับ ” แล้วก็ทำหน้าง่อยๆ ใส่
“เมื่อคืน ก็เห็นหลับสนิท เรียกก็ไม่ตื่น ”
“นั้นมันเรียกสลบ แต่กรูก็รู้สึกเหมือนมีหมามานั่งร้องไห้นะ”
“เดี๋ยวไปถามพยาบาลก่อนนะ ว่าให้นอนรึเปล่า” ผมเดินออกมาถามพยาบาล เพราะห้องที่มิ๊กนอนไม่ใช่ห้องพิเศษ มันเป็นห้องรวม  ได้คำตอบ ว่าเขาอนุญาติ ผมเลยเข้าไปบอกไอ้มิ๊ก ระหว่างนั้น พ่อกับแม่ก็มาถึงที่เตียงมิ๊กแล้ว เห็นเขาคุยกันสักพัก ผมเลยเดินไปดูเอิท เพื่อมันอยากได้อะไร แต่พอไปถึงเตียงผมก็เห็นมันกำลังนั่งคุยโทรสับกับใครบ้างคนอยู่ สีหน้าเคร่งเครียดเลย
“แค่นี้ก่อนนะครับ” ผมได้ยินมันพูดขนาดที่ผมเดินเข้าไปใกล้พอ แล้วมันก็วางสายทันทีที่เห็นผม
“มีอะไรรึเปล่าเอิท ” มันเรื่องส่วนตัวของน้องเขากรูจะไปอยากรู้ทำไมว่ะเนี่ย
“ป่าว เป็นยังไงบ้างพี่โอมห์” มันคงจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นที่มหาลัย ผมเล่าแบบย่อๆให้มันฟัง เพราะต้องไปออกไปกินข้าว
“จะเอาอะไรรึเปล่าเอิท พี่จะออกไปกินข้าวกับพ่อ แม่”
“พี่จะเข้ามาอีกรอบ หรอครับ”
“พี่ต้องมานอนกับมิ๊ก” เอิท มันก็สั่งๆ แล้วผมก็มีหน้าที่จำ ก่อนที่จะเดินจากไปที่เตียงมิ๊ก

“ลูกโอมห์ไปไหนมาจ๊ะ ไม่ดูแลมิ๊กเลย” อ้าวเป็นความผิดกรูสะงั้น
“ช่ายๆ แม่ มันไม่เห็นดูแลมิ๊กเลย” เอากันทั้งแม่ทั้งลูก
“หรอครับ คุณมิ๊ก งั้นคืนนี้ผมกลับไปนอนห้องนะครับ” ผมยิ้มเย้ยมัน
“แม่ ห้ามโอมห์หน่อยสิครับ” มันอ้อนแม่มัน
“ลูกโอมห์ คืนนี้นอนที่นี้กลับมิ๊กที่นี้ละนะ” จริงๆ ผมมีคำพูดพวกนี้อยู่ในใจอยู่แล้ว ผมหันหน้าไปมองแม่ผม ทั้งก็ยิ้มให้เหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าคืนนี้ไม่ได้นอนกอดลูกรักแน่ๆ






-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สบายดีมีความสุกนะครับ ทุกๆคน

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ผมไม่ทราบว่ารุ่นสำหรับเด็กช่างมันยึดถือกันขนาดไหน แต่ในแง่ความเป็นคน เป็นพี่ เป็นน้อง มันคิดกันไม่ได้เลยหรือครับ กับความถูกความผิด  ใครทำผิดก็ควรมีบทลงโทษ ไม่ใช่ พวกมากลากไป ขออภัยเด็กช่างทั้งหลาย หากมีคำพูดที่ทำให้ไม่ถูกใจ

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
โตโตกันแล้ว จะทำอะไรก้ใช้สมองคิดเอาเองละค่ะ ไม่ต้องมีใครมาคอยชักนำ

แต่ระดับ ปัญญาชน เค้าจะคิดได้ช้ามากมายขนาดนี้เหรอค่ะ

หรือที่เรียนมาในระดับ 4 5 6 เค้าไม่สอนการดำรงชีวิตแบบคนกันเหรอค่ะ

เฮ้อ อ่านแล้วอินไปนิด เผลปากจัดอีกแล้ว อีป้าแก่ๆ เสียภาพพจน์หมดค่ะ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
ผมไม่ทราบว่ารุ่นสำหรับเด็กช่างมันยึดถือกันขนาดไหน แต่ในแง่ความเป็นคน เป็นพี่ เป็นน้อง มันคิดกันไม่ได้เลยหรือครับ กับความถูกความผิด  ใครทำผิดก็ควรมีบทลงโทษ ไม่ใช่ พวกมากลากไป ขออภัยเด็กช่างทั้งหลาย หากมีคำพูดที่ทำให้ไม่ถูกใจ


มันไม่ได้เฉพาะ เด็กช่างหรอกนะครับ การขู่เรื่องตัดรุ่น เป็นจิตวิทยา อย่างหนึ่งที่นิยมใช้กันมากๆของรุ่นพี่ เพราะ รุ่นในความหมายในที่นี้ คือ ความสะดวกในการเข้าสมัครงาน
สมมุติว่าผม จบไป 10 ไปเป็นผู้บริหารในองค์กร องค์กรหนึ่ง แล้วมีน้องที่มาสมัยงานจากหลายๆมหาลัย เวลาที่สัมภาร์ ถ้า 1 ในหลายๆคนที่มาสมัครเป็นรุ่นน้อง ที่จบมาจากคณะเดียวกัน น้องคนนี้ก็จะมีโอกาศ มากกว่าคนอื่น มันก็เหมือนกับ คณะอื่นๆตามมหาวิทยาลัยอื่นละครับ สถาปัตย์ วิจิตรศิลป์ คุรุศาสาตร์ ต่างมีความสำคัญกับเรื่องรุ่นหมด แค่ผมหยิบเอาเหตุการณ์พวกนี้มาเล่า แต่ปัจจุบัน ผมก้ไม่ได้สนใจอะไรพวกมันแล้วนะครับ เพราะจบไปยังไง ก็ต้องไปช่วยงานของโรงงานพ่อมิ๊กอยู่ดี เด็กช่างมันไม่ได้ยึดติดนะครับ
คติมัน คือเพื่อนต้องมาก่อนเสมอ รุ่นเอาไว้ที่หลัง แค่รุ่นน้องที่เข้ามาใหม่มันหัวอ่อน รุ่นพี่สั่งให้เดิน ก็เดิน ให้ก้มก็ก้ม พอเอาเรื่องตัดรุ่นมาขู่เข้าหน่อย ก็กลัว พอมันโตมากกว่านี้ แล้วมันก็จะรู้ว่าไอ้รุ่นนะไม่เห็นจะสำคัญ

salemon

  • บุคคลทั่วไป
ว่าปีสองมันเกรียนเกินไป ไม่รู้สึกสำนึกอีก
ไน่ไปช่วยคนอย่างพวกมันเลยอ่ะ

แต่ไม่เป็นไรอย่างไงคงไม่มีเรื่องเกิดขึ้นอีกแล้วนะค่ะ

แต่ชื่อเรื่องมันส่อๆอย่างไงพิกล


Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
no comment เรื่อง พี่น้อง 

need  แค่ มิ๊ก โอมห์ ได้ป่ะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
ในความคิดเรานะคะ ยังไงเพื่อนก็สำคัญกว่ารุ่นน้องอ่ะค่ะ

SpaTa

  • บุคคลทั่วไป
อิอิ สนุกๆ

เปนกำลังใจให้ค๊าบบ
 :L1: :L1:

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
เรื่องเอิทนี้คาใจอ่ะ มีอะไรแอบแฝง
อยากถามนิ๊ดนึง...เรื่องเอิทอีกนานไหมเราถึงจะได้รู้กัน

ขอแซวนิดหนึ่ง...แหมจบมามีที่ทำงานรองรับเชียวนะ อิอิ~

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ืมาให้กำลังใจ
+1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
อภัยให้มันทำไม

ออฟไลน์ konjingjai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +226/-4
หวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นอีกนะ

อ่านแล้วบีบหัวใจ

เอาใจชาวยสุดๆ  ส่วนเรื่องรุ่นน้องผมว่าดีแล้วที่ตัดสินใจทำอย่างนั้นไป

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...ในหมู่คนเกรียนๆๆมันก็มีเด็กน่ารักๆๆ อยู่นะ แต่คงจะเป็น..ความกล้า..มากกว่ามั้งที่ทำให้ต้องอยู่เฉยๆๆ
...บางทีการอยู่เฉยๆๆ ก็ทำให้ตัวเอง เดือดร้อนน้อยลงหน่อย หรือบางคนใจไม่อยากทำ แต่เพราะเพื่อน..ต้องทำ
...มันมองได้หลายมุมเนอะ แต่น้องผู้หญิงปี 1 ก็สุดยอดนะ กล้าที่จะบอกความจริง เพื่อ..ความถูกต้อง
...แต่น้องโอม หน้าตาไม่บ่งบอกเลยนะวุ้ยว่าเป็น..คนจิตใจดี
...หน้าตาดีนะวุ้ย แต่ท่าทางเหมือนคนห้าวๆๆ กวนๆ(รูปที่ใส่แว่นใช่ปล่าว)ขัดกับความประพฤติ
...ตามที่อ่านมา ส่วนมากจะเป็นคนคิดดี ทำดี ซะมากกว่าเค้าถึงว่ากันว่า....
...คนเราดี ดีที่ใจใช่ใบหน้า โอ๊ะโอ๋ เรียนจบจะไปทำงานบ้านซะมีซะแล้ว
:L2:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
น้องเอิทน่าสงสัยนะนี่ :serius2:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
โอมใจดีเกินไปแล้ววววว
แต่ก็ดีแล้วละจะได้จบๆกันไป  :เฮ้อ:

เอิท น้องน้อยอย่าเปลี่ยนไปนะ  :sad4:

yomaster

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่า เรื่อง รับน้อง จะจบลงด้วยดีนะครับ

ตอนนี้ กำลังสงสัย เอิท  ฮ่าๆ

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
สงสัยการกระทำของเอิทมากๆ
ตั้งแต่เอิทมา โอห์มดูจะเจอแต่เรื่องซวยๆนะ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่ท่านๆ แอบชมว่าหน้าผมไม่เหมาะกับการเป็นคนที่มีจิตใจดี ผมถือว่าเป็นคนชมแล้วกันครับ
ในส่วนนี้ผมเขียนบันทึกไว้ในสมุดน้อยมาก เลยนึกไม่ค่อยออกว่ามันเป็นยังไงเพราะมันเริ่มจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแล้ว
ยิ่งผมบันทึกรายละเอียดมากเท่าไร ก็ยิ่งเหมือนเป็นดาบสองคมมากเท่านั้น
ขอเวลาไปนอนคิดสักคืนนะครับ เดี๋ยวจะมาต่อ ช่วงเกินเลยให้
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำปิง บรรยากาศแสนดีเหลือเกิน ตอนนี้เวลาก็เกือบๆ 2 ทุ่มแล้ว อาหารวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ ดูกับข้างแล้วก็คิดถึงคนที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ได้ แต่ก็น่ะ ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมก็คงไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เร็วแบบนี้ เห็นไหมครับที่เขาว่ากันว่าในเรื่องร้ายๆ ก็ต้องมีเรื่องดีๆผ่านเข้ามาบ้างเสมอ
“ กินเยอะๆนะเรา ดูสิผอมไปเยอะเลย ” แม่ผมตักกับข้าวมาใส่จานผม ไม่ทันเสร็จ แม่มิ๊กก็ตักมาวางทับกันอีก
“นั้นนะสิ อยู่กันยังไงเนี่ย ปล่อยให้ตัวเองผอมแบบนี้” แม่มิ๊กกับแม่ผมเนี่ย จริงๆเลย
“พอแล้ว เดี๋ยวกินไม่หมด” ผมบอกให้ทุกคนเบรก ก่อนที่มันจะล้นจาน พวกเรานั่งกินข้าวกัน คุยกันไป พ่อกับแม่ก็ถามเรื่องเรียนบ้าง เรื่องการเป็นอยู่บ้าง แต่ที่ทำให้ผมไม่รู้จะตอบยังไงก็คือเรื่องแฟน ดูแม่มิ๊กจะสนใจเป็นพิเศษกับเรื่องนี้ เพราะมิ๊กมันเป็นลูกผู้ชายคนเดียว แล้วก็ยังไม่เคยพาสาวที่ไหนไปเที่ยวบ้านเลย ตั้งแต่มาเรียนที่ต่างจังหวัดนอกจากผม 
“เอ๋อเจ้าโอมห์ เดี๋ยวเราไปทำ พาร์สปอร์ทิ้งไว้ด้วยนะ” พ่อมิ๊กพูดขึ้น ผมคิดว่าพวกท่านพูดเล่น
“ทำไปทำไมครับ” นั้นดิผมสงสัยมากมาย
“อ๋อ ก็พ่อเขาจะให้เจ้ามิ๊กไปออกบูทที่เมืองจีน แม่ก็เลยบอกให้พาเราไปด้วย เรื่องเรียนก็พักๆไปก่อนก็ได้” ผมทำหน้างงว่ามันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย
“ได้ยังไงละค่ะคุณ เรื่องเรียนต้องมาก่อนสิค่ะ” แม่ผมเบรกสะหัวทิ๋มเลย
“โธ่ คุณค่ะ พอเจ้าสองตัวนี้เรียนจบ ยังไงก็ต้องมาทำงานกับบ้านดิฉันอยู่แล้ว โรงงานออกจะใหญ่โต” บ้านมิ๊กมีโรงงานอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีนะครับ เป็นโรงงานเกี่ยวกับแปรรูปอาหาร ส่วนแม่ผมก็เลิกเถียงแล้ว
“โอมห์ หมดเท่าไรแล้วบอกแม่นะลูก จะไปได้เป็นเพื่อนเจ้ามิ๊กมัน ภาษาอังกฤษเราเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีครับ”
“ดีแล้ว แต่เมืองจีนเขาไม่พูดภาษาอังกฤษกันนะโอมห์ เดี๋ยวพวกเราไปหาโรงเรียนสอนภาษาจีนพื้นฐานไว้ด้วยละ” พอจบประโยคนี้ ไอ้เจ้ามิ๊กก็โทรมาตาม พอดี ผมเลยขอตัว ลุกออกมาจากโต๊ะ (จริงๆแล้วร้านอาหารร้านนี้ละครับที่ผมลองแอบมาทำงานดู 2 วันตอนที่เริ่มๆเขียน) ที่ท่าน้ำของร้านนี้บรรยากาศดีมากๆ
“หิวไหมมิ๊ก” ผมถามตามมารยาท
“ไม่หิวอยากเจอมากกว่า”
“ก็เพิ่งเจอกันเมื่อกี้นิ มามุขไรของเมิงเนี่ย”
“อะไรขึ้นเมิงขึ้นกรูพูดด้วยดีๆนะโอมห์” มันด่าผม
“มิ๊กที่นี้บรรยากาศโครตดีเลย เสียดายที่มิ๊กไม่ได้มา”
“ดีกว่าห้องเราป่ะ มิ๊กคิดถึงเตียงนอนเราจะแย่อยู่แล้ว” กรูไม่เข้าใจเมิงแล้วนิ
“ไม่รู้ดิ ห้องดีกว่ามั้ง”
“มั้งรึไง ห้องเราต้องดีที่สุดสิ” มันขึ้นเสียงใส่ผม สงสัยจะคิดถึงห้องนอนสะละ
“เอ๋อมิ๊ก พ่อมิ๊กพูดถึงเรื่องไปเมืองจีน”
“โอมห์รู้แล้วอ๋อ ไม่เห็นอยากจะไปเลย ” แต่กรูอยากไปเที่ยวเมืองนอก เมิงไม่เคยถามกรูเลย
“ไปนะมิ๊ก โอมห์อยากไป แล้วเขาจะไปกันเมื่อไร”
“ไม่รู้พ่อกำลังติดต่อ อยากไปมากนักไงเมืองนอก เดี๋ยวมิ๊กพาไป” ยังไงว่ะ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันหมายความว่ายังไง ผมเงียบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“รอมิ๊กหายก่อนนะ รีบๆกลับมาละ คิดถึง” มันวางสายใส่ผม อีกแล้วกรูยังไม่ได้บอกเมิงเลยว่ากรูก็คิดถึงเมิงเหมือนกัน

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ พ่อกับแม่ยังคุยกันอย่างสนุกปาก คงเป็นเพราะแม่ผมเพิ่งจะกลับมาจากเมืองนอก ทั้งคู่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะถ้าแม่กลับมาประเทศไทยก็ต้องอยู่ดูร้านที่กรุงเทพ ไม่ค่อยได้กลับมาที่พิษณุโลกสักเท่าไร ผมก็นั่งเล่นมือถือฆ่าเวลารอให้ผู้ใหญ่คุยกัน  อันที่จริงที่นี้เพลงก็เพาะ แต่มันน่าเบื่อที่ไม่มีเพื่อนมาด้วย ถ้าเจอใครสักคนก็คงจะดีนะเนี่ย ผมกวาดสายตาเพื่อหาคนรู้จักในร้าน ฆ่าเวลาระหว่างรอ พวกผู้ใหญ่คุยกัน
“โอมห์ จะกลับไปเฝ้ามิ๊กก่อนก็ได้นะลูก” อ้าวมาด้วยกันแล้วทำไมไล่กลับแบบนี้ว่ะเนี่ย ผมมองหน้าพ่อผม เพื่อท่านจะกรุณาขับรถไปส่งลูกชาย
“อ่ะ นั่งรถแดงไปนะ โตแล้วดูแลตัวเองแล้วกัน”
“จริงๆ ให้กลับเองจริงอ๋อ ”
“โตเป็นควายแล้ว ไปๆ ไปดูมิ๊กไป ผู้ใหญ่จะคุยกัน”แม่ผมออกไปไล่แทนแล้ว สรุปต้องกลับเองใช่ไหมเนี่ย ผมรับเงินจากพ่อ แล้วเดินออกมาจากโต๊ะ กำลังคิดว่า จะเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหาดูของไปฝากไอ้พวกนั้นก่อน
          เคยรู้บ้างไหมครับถ้าเราเปลี่ยนจากการขับรถ มาเป็นการเดินจะทำให้เราเห็นมุมมองที่แปลกตาออกไปในเชียงใหม่ ผมเดินตรงเข้ามาในซอยแล้วตรงดิ่งไปข้ามสะพานอิสลาม เห็นสะพานนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่าเราเคยเจอใครที่นี้ ผมเดินไปเรื่อยๆตาก็มองแม่น้ำปิง จากที่ตรงนี้ก็ยังพอได้ยินเสียงเพลงจากร้านอาหารที่ผมจากมาถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็รู้ว่าเป็นเพลงอะไร แอบเสียงดายอีกแล้วที่ไอ้มิ๊กไม่ได้มาด้วย แต่ก็นะถ้ามันมา มันก็คงไม่มาเดินแบบนี้หรอกครับ เพราะมันทำตัวโรแมนติกไม่เคยเป็นเลย ไม่เคยเลยที่จะยอมเดิน เรื่องของมันต้องมาก่อนเสมอ ผมเป็นคนที่ชอบเดินตลาดนัดมากมาย แต่มันกลับตรงข้ามกัน เกลียดตลาดนัดมาตั้งแต่เด็ก ไอ้มิ๊กไม่ชอบที่ที่คนเยอะ เสียงดังเกลียดการเข้าสังคม แต่ผมกลับตรงข้ามกัน แต่ก็ยังดีที่มีหลายๆเรื่องที่ตรงกัน ก็เราไม่ได้คบกันมาเป็นแฟนตั้งแต่ 3 ขวบนิครับ เราเพิ่งมามองคนใกล้ตัวเราตอนเราอยู่ปี 3 แล้ว เรื่องชอบอะไรไม่ชอบอะไรดูเป็นเรื่องปรกติไปแล้วสำหรับผม เรื่องนี้ไม่เอามาใส่ใจแล้วละครับ แค่แอบน้อยใจบ้างเป็นบ้างเวลา

“โอมห์ ไอ้โอมห์” เสียงใครไม่รู้คุ้นๆ นั่งค่อมมอไซค์อยู่ ผมพยายามเดินเข้าไปให้ใกล้เพื่อจะมองเห็นหน้ามัน
“ว่าไง มาซื้อของอ๋อ” ไม่ต้องบอกแล้วมั้งว่าใคร มันพยักหน้าแล้วยิ้มให้แทนคำตอบ
“แล้วมากับใครละ”ผมก็ถามเป็นมารยาทอีกนั้นละ
“ เห็นใครมาด้วยไหมละ ”  ตอบได้กวนตีนมาก
“ถ้าเมิงมีใครมาด้วยแล้วกรูจะไปรู้จักไหมละไอ้โน้ต กรูไปซื้อของแล้ว”  ผมไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับมัน
“เดี๋ยวแล้วโอมห์มาคนเดียวรึไง ไอ้ตี๋นั้นไปไหนละ” คงจะหมายถึงมิ๊ก
“นอนโรงบาล” มันทำหน้าสงสัย
“ไปกินตีนรุ่นน้องมา”
“ก็สมควรแล้วละ ดีเลยงั้นวันนี้รับอาสาดูแลโอมห์เองแล้วกัน” แค่กาดหลวงนะเมิงอย่ามาเวอร์
“ทำไหมเราบังเอิญเจอกันบ่อยจังเลยว่ะ แอบตามรึเปล่าเนี่ย” ผมหาเรื่องคุยกันไอ้โน้ต
“เมิงจะบ้าไง แบบนี้เรียกว่าพรมลิขิตมั้ง” ผมมองหน้ามัน
“โน้ต เมิงเป็นเกย์รึไงว่ะ มาพูดแบบนี้กับกรู” ผมหยุดเดินแล้วถามมัน
“หน้าตากรูเหมือนเกย์รึไงว่ะ ไอ้เหียนี้ชอบสงสัยอะไรไม่เข้าเรื่อง” แล้วมันก็ดึงแขนผมให้หลบรถ
“ไม่หล่อแล้วยังโง่อีก เมิงจะหยุดเดินทำไมเนี่ย” มันด่าผม
“ขอบคุณ แต่แค่รถแดงมันคงไม่ชนตายหรอกมั้ง” ผมตอบแก้หน้าให้ตัวเอง
“ป่ะ หิวแล้วหาไรกินดีกว่า” ไอ้โน้ตมันเดินซื้อของอะไรไปเรื่อย จากที่ผมคิดว่าผมจะมาซื้อของฝากมิ๊กกับเอิท ดันลืมไปสะสนิทเลย มั่วแต่ดูไอ้โน้ตซื้อของไม่รู้ว่าจะซื้อไปทำไมนักหนา จนพอกำลังจะกลับ มันไปหยุดที่ป้าขายดอกไม้เป็นคนบนดอยสูงนะครับ เขาจะลงดอยมาขายดอกไม้ทุกวัน ผมเองก็ยืนซื้อผลไม้อยู่ แต่ตาก็ค่อยมองหามันตลอดนะ เห็นมันยืนคุยอะไรสักอย่างกับแม่ค้าอยู่นานสองนานไม่รู้ว่าต่อราคารึว่าคุยไม่รู้เรื่องกันแน่ จนผมจัดการกับธุระของผมเองเสร็จแล้วมันยังไม่เสร็จเลย
“โน้ตเดี๋ยวกลับก่อนนะ ต้องไปโรงบาลอีก” เพราะยังไงผมกับมันก็ไม่ได้ไปด้วยกันอยุ่แล้ว
“เดี๋ยวดิโอมห์” มันดึงมือผมไว้ พวกเมิงสองตัวนี้นิสัยไม่ต่างกันเลย เรื่องชอบทำอะไรแบบไม่อายคนอื่นเนี่ย ผมแกะมือมันออก แล้วหยุดดูว่ามันจะทำอะไร
“อะนี้ครับป้า” มันส่งเงินให้ป้า แล้วหยิบเอาดอกไม้ทั้งหมดในถังออกมา
“จะเอาไปทำไมเยอะแยะว่ะ แก้บนศาลพ่อปู่ที่มหาลัยรึไง”
“ป่าว ช่วยถือหน่อยดิ” มันส่งดอกไม้มาให้ผมถือ เต็มมือไปหมด แล้วผมก็เดินไปส่งมันที่มอไซค์
“คือสงสัยอะ ซื้อมาทำไมเยอะจังว่ะ”
“โอมห์ว่าดอกไม้มันเป็นไงละ”
“กรูสวยดี แต่มันเกี่ยวอะไรกับที่ซื้อมาเยอะแบบนี้อะ” เมิงยังไม่ได้ตอบคำถามกรูเลย
“ไม่มีอะไรหรอก เห็นมันอยู่รวมๆกันสวยดี”
“ไม่ตรงคำถามนิว้า” จริงๆแล้วก็เป็นเรื่องของมันจะเอาไปทำอะไรไม่เห็นจะเกี่ยวกับผมเลย
“กรูก็แค่จะเอาไปเก็บไว้ในห้อง เอาไว้นั่งมอง ของบ้างอย่าง กรูแค่มองก็มีความสุขแล้ว” มันหันมายิ้มให้ผม ตอนนี้ผมเดินมาถึงที่รถมันพอดี
“แล้วจะเอากลับไปยังไงหมด” ของมันเต็มไม้เต็มมือไปหมด กับไอ้รถเวปป้า ของมันเนี่ย มันหยิบกระเป๋ามันที่สะพายหลัง เปิดซิป แล้วก็บรรจงเอาดอกไม้ที่มันซื้อมาใส่ไว้ในกระเป๋า ผมยืนดูจนมันเตรียมตัวจะออกรถแล้ว
“แล้วเรื่องนั้นว่ายังไง” มันคงจะถามเรื่องในกระดาษผมนั้น
“ไม่รู้ดิ ยังให้คำตอบไม่ได้เลย กลับก่อนนะโน๊ต” พอดีรถแดงผ่านมาพอดี ผมเลยกระโดดขึ้นไปเลย มันยิ้มแบบงงๆ ผมไม่ได้เข้าไปนั่งหรอกนะครับเอาของที่ซื้อมาเข้าไปวางในรถ แล้วออกมายืนนอกรถ เป็นแบบที่คิดจริงๆด้วยมันขี่รถตามมา ดูน่ารักดีจริงๆ ข้างรักที่กระเป๋าที่ใส่ดอกไม้เต็มไปหมด
“ทำไมไม่ให้กรูไปส่งว่ะ” มันตะโกนถามขึ้น
“ไม่เป็นไร นั่งรถแดงดีกว่า”
“ตามใจ” แล้วมันก็บิดหนีไปเลย สงสัยจะโกรธ แต่จะโกรธผมเรื่องอะไรละครับ ไม่นานรถแดงที่วิ่งด้วยความรถคงที่เมื่อไม่มีรถค้า แต่จะเร่งเครื่องทันทีที่มีคนเดินข้างถนน จอดแบบถี่ๆ ขับเร็วขึ้นเมื่อเจอแยก มันเป็นสันดานของคนขับรถแดงจริงๆ มันก็พาผมมาส่งถึงโรงบาลอย่างปลอดภัย ผมตรงขึ้นตึกไปหามิ๊กทันที พอถึงเตียงก็เห็นว่ามันนอนหลับแล้ว ตรงที่นั่งข้างๆเตียงมีเก้าอี้ แล้วก็ขนมวางอยู่เยอะไปหมด สงสัยว่าเพื่อนๆผมคงจะมาเยี่ยม พอเห็นว่ามันหลับอยู่ผมก็เลยเดินไปหาเอิทเพื่อที่จะเอาของที่มันฝากซื้อไปให้ ผิดคาด ไอ้เอิทยังนั่งกดเกมส์อย่างเมามันส์ไม่มีทีท่าว่าจะนอนหลับเลย มีข้าว มีขนมวางอยู่เยอะพอสมควร สงสัยน้องๆก็คงมาเยี่ยมเหมือนกัน
“กินข้าวสนุกไหมพี่โอมห์” น้องวางเกมส์ทันทีที่เห็นผม แล้วมาคุยกับผมแทน
“ก็ดี นี้ของที่เราสั่ง” เอิทมันทำท่าจะพูดก็ไม่พูด
“เป็นอะไรป่าวว่ะ”
“ป่าวพี่”
“ถ้าป่าวแล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นละ”
“ปวดฉี่ ” มันก็ไปจับที่ท้องน้อยมัน เวงปวดฉี่ก็ไม่ไปฉี่ว่ะ
“ทำไมไม่ไปฉี่ละ”
“ไปได้ที่ไหนละพี่ ปวดแผล” อ้าวแล้วเค้าฉี่กันยังไงว่ะเมิงทำไมไม่บอกพยาบาล
“ก็ไอ้กระโถนละเมิงทำไมไม่เหยี่ยว” มันทำหน้าแบบรังเกียจกระโถน
“ฉี่ไม่ออกลองแล้ว พาผมไปห้องน้ำหน่อยนะพี่” สีหน้ามันทรมานเหลือเกิน เอาว่ะช่วยก็ช่วย ผมค่อยๆประคองมันลงมาจากเตียงแล้วพานั่งรถเข็นไปเข็นไปที่ห้องน้ำ
“ห้องน้ำโรงบาลนี้น่ากลัวดีนะพี่” เมิงจะพูดทำไมว่ะเนี่ย
“แล้วเมิงจะยืนฉี่ยังไง ปวดแผลอยู่ไม่ใช่รึ” ผมเองก็สงสัย
“พี่ก็ช่วยประคองผมยืนดิ ฉี่แป๊บเดี๋ยว” เอาว่ะ ท่ามันมีทางเลือกอื่นเมิงคงไม่มาขอร้องกรุแบบนี้หรอก
“อย่าแอบดูนะพี่” มีการสั่งกรุอีก ผมประคองมันยืนปล่อยให้มันทำอะไรต่อมิอะไรของมันไปคนเดียวเพราะผมก็ไม่ได้สนใจมองอยู่แล้ว
“พี่โอมห์ เสร็จแล้ว แต่ใส่กางเกงไม่ได้อ่ะ มันอยู่ที่เท้า” กางเกงหล่นไปกงอที่อยู่เท้ามัน ก็คงด้อยู่ละเมิง ยืนฉี่มือเดียว กางเกงก็ต้องถอด อาวุธก็ต้องจับ
“แล้วจะให้กรูทำยังไง”
“พี่ก็เก็บดิถามแปลก” เอ๋อกรูถามแปลก ผมเอามือค่อยๆก้มตัวเอื้อมลงไปเก็บมาส่งให้มัน
“มัดด้วยพี่ผมมือเดียวจะมัดได้ยังไงละครับ”
“แต่มือกรูก็ต้องประคองเมิงนะ รึเมิงจะนั่งในส้วมนิ เรื่องมากจริงวุ้ย” วันนี้เจอแต่คนเรื่องเยอะ
“งั้นมาช่วยกันพี่ “ เอิทมันจับมือผมไปโดนน้องชายมันพอดี ผมจำสถานที่แล้วก็ความรู้สึกได้แม่นยำเลยครับ มันกำลังสู้มืออยู่แต่ผมไม่ได้พูดอะไร ก็เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรนั้นสิ
“พี่เป็นไร หน้าแดงเลย” กรูไม่พูดแล้วเมิงยังจะพูดอีกรึไงว่ะเนี่ย ผมพยายามที่จะไม่มอง ก็เดี๋ยวก็ไม่เสร็จสักที
“พี่โอมห์ ” ไอ้เอิทมันเรียกผม
“มีอะไรว่ะ”
“พี่โอมห์ชอบพี่มิ๊กมากรึเปล่า” มันจับมือผมไปวางที่น้องชายมัน


เกินเลย

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
เอิทมันเผยออกมาแล้ว อย่างนี้มันจะมองหน้ากันติดเหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
เข้ามาอ่านหลายตอนแล้วแต่พอจะเม้นท์ต้องโดนเรียกไปทำงานทุกที
ขอแก้ตัวเป็น+1ให้ไรท์เตอร์ก่อนนะ :กอด1:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106

salemon

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดด

เอิทแกทำไรอ่า

อย่านะ

โอมห์เป็นของมิ๊กนะ

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ไอ้เอิทนี่  มิ๊กนอนอยู่ข้างนอกแท้ๆนะเมิง :angry2: โอมอย่าไปเผลอเกินเลยกะมันนะ

แอบชอบโน้ตอ่ะ โรแมนติก เหอๆ
แล้วอีกเรื่องไม่ต่อแล้วเหรอๆ พอดีอยากอ่านแบบเด็กๆ อิอิ :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2010 14:05:16 โดย โจ๊กกุ้ง »

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
เวรแท้ๆ  o22
ไอ้น้องเอิททททททททททททท  :z3: :z3:
อย่านะเว้ย อุตส่าห์ปลาบปลื้ม


โอมห์อย่าหวั่นไหวนะ :try2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2010 15:02:18 โดย L◐L◑JΰnG »

SpaTa

  • บุคคลทั่วไป
กำ งี้คนที่ทำคืนนั่น ก้ เอิทด้วยสิ

 :angry2: :angry2: :angry2:

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
เอิท  แกรอย่าทำตัวเป็นชาวนากับหูเห่านะ  แค่โน๊ต คนเดียวก้เครียดแทนมิกแล้ว

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ชาวนากะงูเห่า


โอมห์อย่านะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด