จันทรุปราคา..ของเราแสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์สาดส่องกระทบใบหน้า โชคดีที่แว่นใสยังช่วยบดบังได้บ้าง นั่งจ๋องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไล่สายตาเช็ครายละเอียดของข้อความเชิญชวนให้เข้าพักโรงแรมในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึง ยิ้มบางเมื่อหลังผมสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่ลูบเน้นตามแนวกระดูกสันหลัง เอียงแก้มรับปลายจมูกที่กดซ้ำย้ำจนต้องอมยิ้มแก้มตุ่ย เหลือบมองหน้าหล่อเกยคางที่ไหล่ผมมองผลงานสุดไฮโซที่โชว์หราอยู่หน้าจอ มืออุ่นเลื่อนโอบเอวแล้ววางแหมะลงที่หน้าตัก กลั้นยิ้มเมื่อริมฝีปากสีแดงนุ่มไล่งับหน้าซีกซ้ายเหมือนมันเขี้ยว
“555 พอแล้วไท” มืออุ่นที่โอบเอวเปลี่ยนมาล็อคตัวผมไว้ไม่ให้หนี พยายามก้มหน้าก็โดนแรงกดมหาศาลจากริมฝีปากจู่โจมที่มุมปาก คลี่ยิ้มก็โดนฉกจูบ ขำก็โดนปลายลิ้นอุ่นเลียที่ริมฝีปาก
“เป็นหมาเรอะ!” เบี่ยงหน้าหนีแล้วถามมัน เด็กญี่ปุ่นยิ้มกว้างแล้วทำปากขยับเสียงเบา ‘ฮ่ง’ พ่นเสียงหัวเราะใส่หน้า แล้วดิ้นจนหลุด มือจับเม้าส์กดเซฟแล้วลุกจากเก้าอี้ โดดขี่หลังเด็กญี่ปุ่นแล้วหอมคืนที่แก้มใส เด็กญี่ปุ่นหันหน้ามาทำแก้มป่องอีกข้างให้ มองมันแล้วนิ่วหน้า มันเปล่าปัญญาอ่อน แต่..มันหอมยากไอ้สัตว์!
“ไม่เอา..ไม่ต้องเอี้ยวมาขนาดนี้ไท คอเคล็ดนะมึง..” เด็กญี่ปุ่นยังคงมุ่งมั่นทำแก้มป่องรอคอยปลายจมูกผมที่จะทำให้แก้มมันคืนสภาพเป็นปกติ ประหนึ่งเจ้าหญิงนิทรารอจูบจากเจ้าชายมาปลุก อมยิ้มแล้วแตะปลายมูกทิ่มไปเบา ๆ ที่แก้มป่องสนองตัณหามัน เสร็จแล้วเขย่าคอเสื้อให้เดินไปในครัวซักที ไทรับคำสั่งแล้วพาขี่หลังเดินไปที่ครัวใหญ่ พาเดินออกมาผ่านล็อบบี้รีสอร์ท ไทคลายแรงที่ประคองก้นแกล้งให้ผมยิ่งต้องกอดคอมันแน่นขึ้น หนีบเอวให้แน่นที่สุดแล้วกระซิบบ่นเบา ๆ ที่ข้างหู..
“ไอ้เหี้ย” ทำแก้มชมพูเมื่อมันหันหน้ามามอง เม้มปากแน่นหลบตามองคอเสื้อแก้เขิน เด็กญี่ปุ่นหัวเราะเสียงดังก่อนจะปล่อยผมลงยืนแล้วรัดแน่น ระดมหอมหน้าผม..ไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น
อาห์..ปวดแก้ม ~
ฟัดจนหนำใจก็จับมือผมแน่นแล้วดึงเข้าหาตัว เอามือผมคล้องคอมันเสร็จก็ย่อตัวขึ้นอุ้มผมเหมือนอุ้มเด็กน้อยลูกคนงานวัย 3 ขวบ ความขี้เกียจมีอิทธิพลมากกว่าความอายครับ ฉะนั้น..กลางวันนี้แขกที่รีสอร์ทเลยต้องทนเห็นภาพเจ้าของรีสอร์ททำสวีทลี่กับฮันนี่ก่อนยัดห่าข้าวเที่ยง.
อดทนกันหน่อยนะครับ >///<
พูดถึงเจ้าหญิงนิทรานอนหลับตาพริ้มรอจูบจากเจ้าชายปลุกให้ตื่น ที่นี่ก็เลี้ยง ‘เจ้าหญิง’ ไว้ตัวนึงเหมือนกันครับ ได้มาอย่างไม่ตั้งใจ ไม่ต้องการ ไม่เคยเอ่ยปากว่าอยากได้ แต่เพราะเป็นเลขาแม่แล้วคอยจะทำให้พี่เรย์เคืองใจ แม่ก็เลยจับส่งมาอยู่กับผม ให้มาอยู่กับผู้ชายเฟรนด์ลี่ แฮปปี้ ไม่เรื่องมากอย่างผม หนึ่งเดียวคนนี้.. ‘พิรุณ’ นั่นเอง มาใหม่ ๆ ผมก็ยังปลื้มอยู่ครับ หน้าตาดี แลดูมีการศึกษา พูดจาก็ไพเราะเสนาะหูดี แต่ความน่ารักของคุณมัณฑนา อดีตเลขาของแม่ มันมีวันหมดอายุครับ หมดตอนทำท่าจะโปรยเสน่ห์ใส่เด็กญี่ปุ่นนี่ล่ะ!
ผมจำได้ดีเลย ครบอาทิตย์แรกที่คุณมัณฑนามาอยู่รีสอร์ท คุณมัณฑนาก็เดินผ่านล็อบบี้รีสอร์ทด้วยความมั่นใจ แต่พอเห็นไทที่เดินมาหาผมที่ล็อบบี้เท่านั้นล่ะครับ ตกจากส้นสูงแล้วทำท่าว่าเท้าจะแพลง ไทก็ประคองไว้เพราะคุณมัทเธอเท้าแพลงตอนไทเดินผ่านพอดี ผมที่นั่งหน้ามึนอยู่ในล็อบบี้ก็วิ่งออกมาเพราะเสียงไทเรียกหาพนักงานหญิงที่เป็นเวรเฝ้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์..
“อะไรไท? คุณมัทเป็นอะไรครับ?!” ผมตกใจเพราะเห็นคุณมัณฑนายืนพิงอกเด็กญี่ปุ่นไว้ทั้งตัว ไทจับไหล่อดีตเลขาแม่แล้วบอกผมว่าเธอเจ็บขา ผมพยักหน้าแล้วนั่งยอง ๆ จับเท้ายกขึ้นแล้วดึงรองเท้าออก พลิก ๆ ดูก็ไม่มีรอยแดงหรือเขียวอะไร เงยหน้าจะถามว่าเจ็บตรงไหนก็เห็น..
เห็นสายตาเยิ้มของคนเจ็บที่ยืนพิงคนของผม หายใจรวยริน ทำตาเชื่อมใส่หน้าไท อารมณ์ผมมันกรุ่นเหมือนตอนขี้จะแตกอยู่รอมร่อแล้วมีคนเข้าส้วมตัดหน้าซะอย่างนั้น หันไปมองน้องผู้หญิงที่วิ่งออกมาจาดเคาน์เตอร์ด้วยกันแล้วพยักหน้าเรียก น้องคนนั้นมองเหตุการณ์อยู่ก่อนแล้วพยักหน้ารับกับผม ลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนคุณมัณฑนาออก น้องผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาสอดแขนที่ใต้รักแร้ ลากออกไปดูว่าอดีตเลขาแม่เจ็บปวดตรงไหนบ้าง
ไทมองตามคุณมัณฑนาแล้วหันมามองผมที่ยืนนิ่งจ้องมันอยู่ แววตากังวลใจของมันทำให้ผมโมโหไม่ลง ไทยื่นมือมาจับมือผมแล้วดึงให้เดินไปดูคุณมัณฑนาพร้อมกัน ถอนหายใจยาวแล้วเดินตามแรงดึงนั้น เข้าไปใกล้ ๆ ก็ได้ยินเสียงแว้ดของใครซักคนว่าไม่ได้เป็นอะไร อย่ามาจับผิดนะ อะไรประมาณนั้นล่ะครับ ไทที่สูงกว่าผมหยุดเดินแล้วจับมือผมแน่นขึ้น เงยหน้าขึ้นมอง เด็กญี่ปุ่นก็ก้มลงสบตาพอดี นิ่งมองตาสีน้ำตาลของไท เด็กญี่ปุ่นคลี่ยิ้มบางแล้วหันหลังกลับมาหาผมเต็มตัว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแตะกับปลายจมูกผม..
“..กลับห้องเรากัน” เลิกคิ้วงงก่อนจะหมุนตัวไปตามแรงของไท หันหลังไปพยายามมองกลุ่มพนักงานที่ล้อมอดีตเลขาแม่ไว้ เด็กญี่ปุ่นก็ยิ้มกว้างแล้วรุนหลังผมให้รีบเดิน ถอนหายใจแล้วเดินกึ่งวิ่งกลับไปนอนกกกันที่ห้อง..จนลืมอาการเจ็บข้อเท้าของผู้หญิงคนนั้นไปซะสนิทเลย
หลังจากวันนั้น คุณมัณฑนาก็มักจะคอยมองเด็กญี่ปุ่นด้วยสายตาเคลิ้มฝันอย่างไม่ปิดบัง จนถึงตอนนี้ รีสอร์ทเปิดให้บริการแล้ว อดีตเลขาแม่ก็ยังคงเส้นคงวาในการแอบมองไทแล้วคอยมองผมบ่อย ๆ อาจจะมองว่าผมจะโมโหที่มองไทแบบนั้นรึเปล่า? ผม..เอาเถอะ..ผมยอมรับว่าผมเองก็หงุดหงิดกับสายตาแบบนั้นไม่น้อยเลย เด็กญี่ปุ่นไม่สนใจก็จริง แต่มันก็..ขวางหูขวางตาน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่ ผมไม่เคยบอกว่าผมกับเด็กญี่ปุ่นเป็นอะไรกัน แต่คนของแม่ คนที่มาจากการทำงานกับบ้านมุราคาวะจะทำไม่รู้ไม่ชี้กับสถานภาพของนายน้อยของบ้านได้เหรอ? เมื่อกี้ก็เหมือนกัน ผมขี่หลังไทแล้วมายืนทำสวีทลี่กันตรงล็อบบี้ คุณมัณฑนาก็น่าจะเห็น เพราะเธอต้องอยู่ตรงนั้นตลอดอยู่แล้ว คิดว่ากินข้าวแล้วเดินออกมา เธอก็น่าจะเลิกมองไทแบบนั้นได้ซะที แต่..เปล่าเลย ตอนนี้เธอก็ยัง..ยังแอบส่งสายตาให้คนของผมอยู่ดี
“พิ..เป็นอะไรครับ?” สะดุ้งกับเสียงกระซิบที่ดังข้างหู ดึงตัวเองออกมาจากความหงุดหงิดเล็ก ๆ แล้วเงยหน้าไปยิ้มกว้างให้เด็กญี่ปุ่นสบายใจ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนนิ่งมองผมแล้วยื่นมือมาประคองหน้า ปลายนิ้วโป้งคลึงใบหู ผมถอนหายใจยาวแล้วเหลือบไปมองคุณมัณฑนาที่ยืนสวยตรงล็อบบี้โรงแรม แอบมองไทอีกแล้ว..แม่ง! เด็กญี่ปุ่นจับหน้าผมให้หันมามองตามัน ประกายรักใคร่จากดวงตาคู่สวยส่งมาให้ผมคนเดียว ไทคลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วยื่นริมฝีปากมาจูบหน้าผากผม ระเรื่อยไล้จูบมาถึงริมฝีปาก มือที่ประคองหน้าค่อย ๆ เลื่อนลงมากอดเอว ขาขยับแทรกขาผมแล้วเบี่ยงตัวผมให้รับปลายลิ้นที่พยายามเข้ามาดูดกลืนความหวานให้มากขึ้น แลกลมหายใจจนผมลืมเรื่องที่กังวลไปจนหมด เด็กญี่ปุ่นกระชับกอดผมแน่นขึ้นเพื่อพยุงตัวผม ผละริมฝีปากออกอ้อยอิ่งแล้วจูบซับความชื้นเบา ๆ อีกหลายครั้ง
ลืมตาขึ้นมาสบตาสีน้ำตาลแล้วคลี่ยิ้มให้เด็กญี่ปุ่นที่ยิ้มบางรออยู่ ไทเลื่อนมือที่จับเอวลงมาจับมือ จูงให้เดินไปที่ล็อบบี้ ขมวดคิ้วมุ่นมองไทที่กำลังจ้องหน้าอดีตเลขาแม่นิ่ง หันไปมองคุณมัณฑนาก้มมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างหน้าด้วยความแปลกใจ เพราะคุณมัณฑนาหลบตาเด็กญี่ปุ่นแทนที่จะสบตาแล้วทำเคลิ้มเหมือนทุกครั้ง ไทดึงมือผมให้เดินตามและยังจ้องหน้าสวย ๆ ไม่วางตา พาผมเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าอดีตเลขาแม่ ห่างแค่เคาน์เตอร์คั่น
“เลิกคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้..อย่าใช้ความเป็นผู้หญิงมาทำให้พิหวั่นไหว พิรักผม..คนเดียว!” อ้าปากค้างจ้องหน้าด้านข้างของไท ในหัวมีเพลงของไอ้หัวฟูพล่ากุ้งดังขึ้นมา ‘ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ไม่เชื่อ ไม่เชื่อรูหูตัวเอง!’ มันเอาอะไรคิดว่าเจ้าหญิงนิทราอยากให้ ‘พระพิรุณ เทพแห่งวสันตฤดู’ สนใจอยากจุมพิตให้ฟื้นตื่นจากที่นอนนุ่ม กะพริบตาปริบเรียกสติแล้วหันไปมองคุณมัณฑนาที่กำลังโดนเด็กญี่ปุ่นเข้าใจผิด
“คุณพิน่ะ..ไม่ได้รักคุณหรอก ขนาดมัทเข้าใกล้คุณ คุณพิยังไม่สนใจเลย หัวใจของคุณพิ..ไม่มีทางจะเลือกรักเพศเดียวกันค่ะ แล้วที่สำคัญ..คุณพิไม่เคยบอกมัทซักคำว่าคุณพิรักคุณ ไทโยซัง!” ปากที่อ้าค้างของผมแทบจะต้องขอยืมส้นตีนใครซักคนมาถีบเพื่อให้มันงับได้สนิท กะพริบตาปริบเมื่อคุณมัทเดินออกมาจากเคาน์เตอร์แล้วจับมือผม ไม่ทันได้ชักหนี เด็กญี่ปุ่นก็ดึงมือผมออกมาแล้วเหวี่ยงตัวผมไปหลบข้างหลัง เจ้าหญิงนิทราทำท่าจะเดินตามผม น้องคนงานผู้หญิงแถวนั้นก็เดินเข้ามาช่วยดึงเอาไว้
เฮ้ย! มันหนังคนละม้วนแล้วนะเว้ยเฮ้ย!
“ทำให้ดูขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมเลิกอีกนะ ผมจะไม่สงสารคุณอีกแล้วมัณฑนา ส่งไปอยู่ปัตตานี!” สะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำสั่งประกาศกร้าวของนายน้อยบ้านมุราคาวะ ไทจะส่งอดีตเลขาแม่ให้ไปอยู่โรงงานปลากระป๋องของป๊าที่ปัตตานี! ที่นั่นไม่มีคนนอกเข้าไปเป็นคนงานเลยครับ มีแต่คนในพื้นที่ดูแลอยู่ ความรุนแรงในพื้นที่ทำให้ป๊าเกือบจะปิดโรรงงานไปหลายครั้ง แต่คนงานส่วนมากขอร้องเอาไว้ เลยยังต้องเปิดอยู่จนถึงทุกวันนี้ ขืนคนนอกอย่างเจ้าหญิงนิราไปอยู่..เดี่ยวก็ได้เป็นศพกลับมาหรอก
“ไม่ไป! มัทขอลาออก!” เสียงแว้ดของอดีตเลขาแม่ดังกึกก้อง เด็กญี่ปุ่นปล่อยมือผมก่อนจะหันมาจับไหล่แน่น สบตาสีน้ำตาลแล้วกลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ ยิ้มยิงฟันส่งให้แล้วยื่นหน้าข้ามไหล่หนาไปมองอดีตเลขาแม่ แววตาขุ่นเคืองของคุณมัทในตอนแรกหม่นลงไปเยอะเมื่อได้สบตาสวย ๆ ของผม ก้าวขาออกมาจากหลุมหลบภัย เผชิญหน้ากับเจ้าหญิงในเวอร์ชั่นของแม่มดหน้าสวยใจหมา แย้มยิ้มพิมพ์ใจแล้วบอกเสียงดังฟังชัด
“ผมไม่เคยบอกคุณเรื่องผมกับไทโย เพราะคุณเป็นคนอื่น แต่ถ้าการที่ผมเงียบ มันทำให้คุณกล้าเข้ามาทำให้เราต้องปวดหัว ผมก็จะบอก..” คุณมัณฑนากะพริบตาปริบแล้วยิ้มให้ผม เหมือนให้กำลังใจผมให้กล้าพูดมันออกมา นิ่งมองปฏิกิริยาของอดีตเลขาแม่แล้วสูดลมเข้าปอด คุณมัณฑนาจ้องผมตาแป๋ว หน้าตาเหมือนรอลุ้นกับประโยคที่ผมตั้งใจจะบอกเต็มที่
“ผมเป็นเมียไทโยโดยเต็มใจ ได้กันมาแล้วไม่รู้กี่พันครั้ง เรารักกันมาก แสดงความรักต่อกันทุกคืน ไม่เคยต้องกังวลใจกับสายตาคนรอบข้าง” ดวงตาสวยของอดีตเลขาแม่เบิกโพลง ริมฝีปากอ้าค้างก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเริ่มเม้ม แต่..ดวงตาที่เบิกโพลง ผมยังเห็นประกายความหวังอยู่..ถึงจะน้อยนิดแต่ผมก็เห็น ฉะนั้นแล้ว..
“..อย่ามาโมเมว่าผมไม่เคยหวงมัน ผมหวงกะดอพันล้านของมันมากกว่าที่คุณจะคิดหยั่งถึงได้! ผมทั้งรักทั้งหลงมันหัวปักหัวปำ อยากจะซั่มกันทั้งเช้าทั้งบ่าย สายก็ว้อนท์ ตอนเย็นก็เสี้ยน ไม่มีเวลาจะนึกเหลียวแลหมาตัวเมียที่ไหน!..” คุณมัณฑนาหายใจถี่ หน้าตาเสียใจสุดแสน แต่ยังคงยืนนิ่งเหมือนไม่อิ่มเอมเปรมปรีดา เยี่ยงนั้นแล้ว..
“อย่ามาคิดว่าผมจะเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่มันเด็ดขาด รู้รึเปล่าว่าผมกับมันต้องผ่านอะไรกันมาบ้างถึงได้มาตัวติดกันอยู่ตรงนี้! รอมันตั้งหลายปีผมก็ทำได้ ทำไมน่ะเหรอ?! เพราะผมรักมัน! รักไอ้บ้านี่คนเดียว หลงมันจนหาทางกลับบ้านไม่ถูก และไม่มีวันที่ผมจะเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่มัน ไม่เท่าแขนทำแทนไม่ได้เคยได้ยินป่าว!?” ตะโกนไล่หลังคุณมัณฑนาที่เดินน้ำตาไหลพรากไปทางบ้านพัก จริง ๆ อดีตเลขาแม่ทนฟังไม่ได้ตั้งแต่คำว่า ‘ผมรักมัน’ แล้วล่ะครับ แววตาก็หมดประกายความหวังไปแล้วด้วย แต่ก็นะ..มันติดลมก็เลยพูดต่อ เผื่อคุณมัณฑนา เจ้าหญิงนิราของผมเธอจะหมดไฟเลิกยุ่งกับเราอย่างถาวรไปเลย ยืนกะพริบตาปริบมองหาคนรอบข้างที่ไม่รู้ว่าหายไปกันหมดตอนไหน เหลียวไปข้างหลังก็เห็นเด็กญี่ปุ่นยืนเอามือเท้าเอวไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างเอามาปิดปาก ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองนิ่ง หน้าเหน้อนี่แดงก่ำไปหมด เดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วดึงมือที่ปิดปากมันออก ไทเบือนขึ้นมาสบตาแล้วยกนิ้วโป้งให้ผมทั้ง 2 ข้าง ยิ้มแหยแล้วปล่อยมือหนา ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาจากตรงนั้น ความร้อนจากภายในพุ่งเผ่นออกมาถึงหนังกำพร้าด้านนอก..
อาห์..เพิ่งจะมาเขินนี่ล่ะครับ >////<
เด็กญี่ปุ่นเดินตามผมแล้วดึงมือผมไปกุม หันไปสั่งคนขับรถให้บริการคุณมัณฑนาไปส่งในที่ที่เธออยากไป ยืนมองตามหลังคนขับรถแล้วสบตาเศร้าของคุณมัณฑนา ‘อดีตประชาสัมพันธ์ของรีสอร์ท’ ส่งเธอให้ไปที่ชอบด้วยรอยยิ้มแล้วดึงมือไทมากอดตัวเองไว้ น้ำตาของเจ้าหญิงร่วงเผาะก่อนจะกัดผ้าเช็ดหน้าขึ้นรถไป นึกถึงคำพูดของพี่เรย์ทันที..
ผู้หญิงบางประเภท..ก็ไม่น่าเข้าใกล้
ชีวิตผมไม่ราบรื่นเหมือนที่คุณคิดหรอก ตกเย็นก็เล่นกับเด็กน้อยลูกคนงานตามปกติ แต่พอความมืดมิดปกคุลมเท่านั้นล่ะ ความหายนะก็เข้ามาเยือนผมทันที คนงานเตรียมไม้ไว้คนละอันยืนรอใต้ต้นหมากรากไม้ในสวนของรีสอร์ท คืนนี้จะมีจันทรุปราคาไงครับ ความเชื่อที่ว่าพอดวงจันทร์ถูกเงามืดกลืนกินเมื่อไหร่ ก็เคาะตามต้นไม้ให้ลูกดกมั่งไรมั่งก็ถูกเอามาใช้..ไม่เว้นแม้แต่ในรีสอร์ทแห่งนี้ ความซวยของผมไม่ได้อยู่ที่ไทโย เด็กญี่ปุ่นหัวใจไทยแท้เอาไม้มารอเคาะต้นมะม่วงอกร่องที่ปลูกเองกับมือหลังบ้านพักเราหรอกครับ
“ไท..ต้องใส่ถุงมือจับไม้ด้วยเหรอ?” เด็กญี่ปุ่นมองตามมือผมที่จ้องมือหนาของมันสวมถุงมือจับไม้รอเคาะต้นมะม่วง ยิ้มแย้มให้ผมแทนคำตอบ ดึงมือผมนั่งลงรอเวลาจันทรุปราคาเกิด นั่งเงียบ ๆ กันเพียงอย่างเดียว ผมนั่งเฉย ๆ แล้วมันเบื่อครับ เลยหลับคอพับคออ่อนซบไหล่หนา พอถึงเวลาเกิดจันทรคราสก็ลืมตาตื่นเพราะได้ยินเสียงเคาะจากทั่วทุกทิศ เด็กญี่ปุ่นลุกขึ้นยืน เหลือบมองดวงจันทร์ที่เหลือแสงเพียงน้อยนิดก่อนจะดับมืดเพราะถูกกลืนจนหมดดวง หันไปเคาะที่ต้นมะม่วงรัวหลายครั้งแล้วทิ้งไม้ลงข้างตัว หันมาหาผมแล้วจับผมหันหลัง..
“ข้าแต่องค์ราหู ขอให้ก้นนี้ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจใคร..” มันพูดงึมงำแล้วรัวมือตีก้นผมไม่ยั้ง พูดไม่ออกเมื่อได้ยินประโยคถัดไป ‘ขอสิ่งนี้ให้กระผมได้เชยชมเพียงคนเดียว’ แล้วมันก็..ตีมือที่เป้ากางเกงผมเบา ๆ 5-6 ที กะพริบตาปริบแล้วยืนนิ่งมองมันผ่านความมืดมิด เด็กญี่ปุ่นเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบขอพระราหูที่ริมฝีปากผมอีกหลายเรื่อง..
“ขอดวงตาคู่นี้มองผมคนเดียว..” จูบพรมลงที่เปลือกตาเบา ๆ
“ขอจมูกโด่งนี้สูดกลิ่นผมเพียงคนเดียว..” งับปลายจมูกผมแล้วจูบช้า ๆ
“ขอริมฝีปากนี้เรียกหาแต่ผมคนเดียว..” ลืมตามองเด็กญี่ปุ่นที่ย่อตัวลงไปที่หน้าอกข้างซ้าย คลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วดึงมันขึ้นมากอด กระซิบบอก ‘หัวใจผมอยู่ที่คุณอยู่แล้ว..ไม่ต้องขอให้พระราหูช่วยหรอก’ ไทยืนนิ่งแล้วกอดตอบผมเบามือ ริมฝีปากสีแดงหอมขมับผมก่อนจะจูบระลงมาที่ริมฝีปาก เผยอจูบตอบเนิ่นนานจนเสียงเคาะจากคนงานเงียบหมด ลืมตาขึ้นมองพระจันทร์พร้อมกัน ก็ยังเป็นจันทรุปราคาอยู่ ยิ้มให้เด็กญี่ปุ่นที่หันหลังย่อตัวให้ผมขี่ โดดขี่หลังแล้วเดินเข้าบ้านพัก อาบน้ำด้วยกันแล้วออกมานอนกอดต่อที่เตียงใหญ่ พลิกหันหลังให้ไทซ้อนนอนกอดจากด้านหลัง นอนมองพระจันทร์ที่กำลังเคลื่อนออกจากราหูช้า ๆ ..จนงามสุกใสเต็มดวง
ไทโย..เด็กประหลาดขอให้ผมเป็นของมันคนเดียว..แล้วคุณล่ะครับ..ขออะไรกันบ้าง? ผมขอให้ได้และขอให้มีความสุขทุกคนนะครับ!
สุขสันวันเกิดจันทรคราสครับผม!
…………………………
กอดรวบ!
คิดถึงน้องพิก็เลยปั่นมาให้อ่านค่ะ -///- จริง ๆ จิตั้งใจจะลงให้พอดีกับวันราหูอมจันทร์ค่ะ แต่พิมพ์ไม่เสร็จ งานเข้าแล้วก็ไม่มีเวลาด้วย ย้อนหลังก็ยังทันเนอะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ปล.จันทรุปราคาของน้องพิช่างแตกต่างกับจันทรุปราคาของพี่หนึ่งเหลือเกิน -_-.