.
.
.
“ชั้นว่าชั้นกลับบ้านดีกว่าไอติม อาบน้ำแล้วนอนคงจะดีขึ้น..แล้วจะโทรหานะ” ระหว่างขับรถกลับบ้านก็เอาแต่ครุ่นคิดถึงอาการแปลกที่ตนทำกับเพื่อนหน้าหวาน รู้ตัวว่าชอบทำเวลาเมา แต่หลังๆ นี่ไม่เมาก็ยังอยากทำ แล้วที่ยอมยกโทษให้เพื่อนง่าย ๆ เพราะไม่รู้..ว่าตนเป็นคนเริ่มก่อนรึเปล่า? กัดริมฝีปากแน่นขึ้นแล้วจอดรถเข้าข้างทาง โขกหน้าผากกับพวงมาลัยเต็มแรงหลายครั้ง เสียงแตรรถของตนก็ส่งเสียงลั่นรบกวนชาวบ้านแถวนั้นจนมีคนเขวี้ยงรองเท้ามาให้ ทิ้งแผ่นหลังกระแทกเบาะแล้วขับรถกลับบ้าน เข้าบ้านได้ก็โทรหาเพื่อนสาวคนสนิทในกลุ่ม..
“ไงล่ะน้องออม..มีเรื่องขัดข้องอันใดจะปรึกษา? ร้อยปีพันวันไม่เคยจะโทรหาชั้น เล่ามา..เดี๋ยวนี้!” เพื่อนสาวคนสนิทกดรับด้วยน้ำเสียงเริงร่า อนิรุทธ์ถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่องที่ตนกำลังไม่สบายใจอยู่..เรื่อง ‘ไอติม’
“ฮึฮึฮึ กูนึกแล้วว่าวันนี้มันต้องมี555+” เพื่อนสาวหัวเราะเสียงเล็กก่อนจะระเบิดเสียงห้าวใส่โทรศัพท์ อนิรุทธ์ถอนหายใจด้วยความเซ็งก่อนจะกดวางสาย
“อีสางเขียว! แค่นี้ต้องงวาง?! มึงไม่รู้ตัวหรอกออม มึงน่ะนึกถึงแต่เรื่องของนังติ๋มตลอดเวลา เป็นห่วงมันสารพัด อีรากเลือด! ลูกในอุทรมึงรึก็เปล่า? อย่าเถียงว่ามึงมีมดลูกอีปลวก! เวลามึงเมามึงชอบเข้าไปก้อร่อก้อติกนังติ๋มมันตลอดแหละ..ตั้งแต่สมัยมาม่า(ขนอวัยวะเพศ)ยังไม่ขึ้นตอนนี้เป็นมนุษย์ขนดกแล้วก็ยังไม่เลิก อีออม..จิตใต้สำนึกมึงมันชอบไอติม มึงรู้ตัวไว้ซะ!” เมื่อถูกเพื่อนสาววิเคราะห์เจาะลึกและฟันธงลงมา อนิรุทธ์ก็เถียงไม่ออก เพื่อนสาวได้ทีเลยเม้าท์ต่อ
“กูเข้าไปประคองมึงตอนเมามึงผลักกูออกเหมือนกูเป็นรถขยะเทศบาลก็ไม่ปาน เรียกหาแต่นังติ๋มอยู่คนเดียว อีห่าจิก! รู้มั้ยว่าผู้ชายเป็นล้านฝันถึงอ้อมแขนกู มึงทำกูเสียเซลฟ์อีนิลนรี(ดำเนียน สเปคฝรั่ง)” อนิรุทธ์ถอนหายใจยาว..
“กูควรจะทำยังไง..กังกา(กะเทยที่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดี)” เพื่อนสาวปลายสายกรีดร้องโหยหวน
“กรี๊ดดดดด อี@+!*0#&*%=฿<...” ด่ากราดจนพอใจ ปรับลมหายใจให้เป็นปกติก่อนจะแนะนำเพื่อนสาวต่อด้วยอารมณ์เรียบเฉย
“กระแอมกระไอ..กูจะถือว่าเมื่อกี้มึงไม่ได้สำรอกอะไรออกมา พวกกูรับได้นะออมถ้ามึงจะกินกันเอง มึงหลอกตัวเองได้เหรอออม กูเป็นคนอื่นกูยังรู้เลยว่ามึงชอบไอติม นังติ๋มมันก็ไม่รังเกียจมึงนี่ออม กูว่าดีไม่ดี..มันอาจจะชอบมึงจริง ๆ ก็ได้..รุกซะ! ถ้ามันไม่เอามึงก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่หลัง ทำซะให้เต็มที่..อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะออม” ฟังคำจากเพื่อนสาวแล้วถอนหายใจยาว ขอบใจเพื่อนก่อนจะวางสาย
รุ่งเช้าก็ไม่กล้าโทรหาไอติม จนแล้วจนรอดวันนี้ทั้งวันก็ยังไม่กล้ากดไปหา ไอติมที่รอโทรศัพท์จากเพื่อนสาวก็เข้าใจว่าออมคงจะยังแฮงค์อยู่เลยไม่ได้โทรหาตน จนเข้าวันที่สองโทรศัพท์ก็ยังคง..เงียบ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาว..” ฟังเพลงนี้จนขึ้นจำเนื้อใจ นึกไปว่าอนิรุทธ์คงทำธุระอะไรอยู่ละมั้งถึงไม่รับโทรศัพท์ตน ทิ้งระยะแล้วโทรออกหาอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งจนถอดใจ ‘อาจจะออกไปข้างนอกแล้วลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ล่ะมั้ง’ อนิรุทธ์นั่งมองโทรศัพท์ของตัวเองที่ดังแล้วเงียบด้วยอารมณ์ว่างเปล่า ยกหูโทรศัพท์บ้านเรียกคู่ขาที่เคยคั่วให้มาหาที่บ้าน บทรักเริ่มขึ้น ไม่ทันได้ถึงสวรรค์ก็จบลงที่อนิรุทธ์บอกเลิกกับคู่ขา ความเร่าร้อนที่เคยมีมันหายไป ความอยากที่เคยเกิดมันแห้งเหือด ทุกคนที่เคยสร้างความตื่นเต้น..วันนี้กลับไม่สามารถเติมเต็มให้อนิรุทธ์ได้ นอนคว่ำหน้า ปล่อยร่างกายเปลือยเปล่าให้สัมผัสโลกหยาบกร้าน น้ำตาไหลเมื่อค้นพบว่าตนอยากได้ความอ่อนโยนจากมือน้อยนุ่มนิ่มของเพื่อน สะอื้นเมื่อคิดถึงอ้อมกอดอบอุ่นที่ไอติมมอบให้ยามอ่อนแอ พ่ายแพ้ต่อความรู้สึกที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันเมื่อนึกถึงความน่ารักของไอติม
“ชั้นรู้แล้วติม..ว่าชั้นเป็นอะไร” กระซิบเบา ๆ กับตัวเองก่อนจะหลับตาลงพักกายและหัวใจ เมื่อลืมตาอีกครั้ง..อนิรุทธ์จะไปหาหัวใจตัวเองที่ฝากไว้กับเพื่อนหน้าหวาน บอกความจริงและรับผลนั้นอย่างเต็มใจ
หนุ่มหน้าหวานนั่งเล่นกับแมวขนฟูที่ซื้อมาเป็นคู่กับเพื่อนสาว ตัวที่อยู่กับเพื่อนสาวหนีออกจากบ้านไป คาดการณ์ว่าจะหนีตามแมวตัวเมียที่ไหนไปซักแห่ง นึกถึงใบหน้าอนิรุทธ์โวยวายเรื่องแมวหายแล้วก็อมยิ้ม ‘เป็นแค่แมวแท้ ๆ แรดยิ่งกว่าคน! หนีตามใครไปไม่กลับบ้านกลับช่อง นับแต่นี้..ชั้นตัดแกออกจากกองมรดก! อย่ามาทำรู้จักกันอีก ไอติม..แกอย่าทำตัวเหมือนแมวนะ ต้องรักนวลสงวนตัว..รู้มั้ย’ ด่าแมวเสร็จก็มาสอนตนว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ยิ้มขำและล้างมือแล้วแต่งตัวขับรถไปหาอนิรุทธ์ที่บ้าน ขับสวนกับรถคู่ขาที่เคยคั่วกับเพื่อนสาวก็เข้าใจ ‘ออมติดคนนี่เอง..หึหึ’ เลี้ยวรถขับกลับมาที่บ้าน เจอพ่อนั่งคุยกับเพื่อนคู่ค้าอยู่ก็ยกมือไหว้ พ่อให้พาลูกชายเพื่อนพ่อไปเดินดูรอบ ๆ บ้านก็ยิ้มแย้มทั้งที่ในใจร้อนรุ่มด้วยพิษหึง..หึงอนิรุทธ์
“บ้านน้องไอติมกว้างดีนะครับ พื้นที่เยอะดี เลี้ยงปลาอะไรครับ?” ยิ้มตอบก่อนจะคุยปกติ ชวนทานข้าวเที่ยงนอกบ้าน ไอติมจะปฏิเสธพ่อก็ให้ไปเป็นเพื่อนเพราะลูกชายเพื่อนพ่อคนนี้เพิ่งกลับมาจากนอก ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพาไปกินข้าวนอกบ้าน กลับมาก็มานั่งคุยต่อจนเย็น เพื่อนพ่อขอตัวกลับแต่ลูกชายขอนั่งต่อจนใกล้ค่ำ
“น้องไอติม..พี่มาอีกได้มั้ยครับ?” ไอติมเงยหน้ามองใบหน้าสะอาดสะอ้าน ดวงตาสดใสที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นคู่นั้นเป็นมิตร..ประกายพึงใจหลังกรอบนั่นส่งมาให้เป็นระยะ เหนื่อยใจกับคนบางคนที่ไม่เคยมองเห็นการมีตัวตนแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ‘ถ้าจะคบไว้ดูไปก่อน..คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?’ ยิ้มมารยาทแล้วพยักหน้า..
“บ้านนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ ไม่มีความจำเป็นที่คุณจะต้องมาบ่อย ๆ จริงมั้ย..ติม” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง ไอติมชะงักนิ่ง อนิรุทธ์เดินเข้ามาหาช้า ๆ ก่อนจะโอบไหล่ไอติม..แน่นขึ้น ‘..ครับ’ เสียงรับคำแผ่วจากหนุ่มหน้าหวานทำให้หนุ่มแว่นถอนหายใจ ‘มีแฟนแล้วหรอกเหรอ?..’ ลากลับและตั้งใจจะไม่มาอีก
“มันเป็นใครไอติม..ไอ้หน้าจืดใส่แว่นถูก ๆ นั่นใคร?” แค่นถามเสียงเข้ม ไอติมตอบกลับเรียบ ๆ ‘ลูกเพื่อนพ่อ’ อนิรุทธ์ขมวดคิ้วมองใบหน้าด้านข้างที่เฉยเมยก่อนจะดึงไหล่มาถาม
“ไอศครีม..เป็นอะไร?” ไอติมจ้องกระดุมเสื้ออนิรุทธ์ก่อนจะเบะปากเมื่อคิดถึงคนที่ขับสวนตนในซอยบ้านอนิรุทธ์
“มาทำไม?! ทำไมไม่อยู่กกแฟนออมไปล่ะ มาหาเราทำไม?! บอกว่าจะโทรหาเราเราก็รอ เราโทรหาออมก็ไม่รับ ถ้าเราไม่ไปหาออมเราก็ไม่รู้หรอก..ว่าออมติดสัดอยู่!” โพล่งคำพูดออกไปจนหมดด้วยความไม่พอใจ อนิรุทธ์ถึงกับครางเสียงอ่อนแรง
“ไอติม..คือ เรา หืม? ใครสอนให้พูดแบบนี้ห๊ะ!” ตกใจที่ไอติมรู้ว่าตนทำอะไร กับใคร แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคำพูดหยาบคายที่ออกจากปากไอติมต่างหาก จับไหล่เล็กแน่นขึ้นจนไอติมนิ่วหน้า แต่อารมณ์ที่ยังโกรธอยู่จึงไม่ยอมแพ้ เชิดหน้าขึ้นท้าทายเพื่อนสาว
“จะเอามาจากไหนมันก็เรื่องของเรา ไม่ต้องมายุ่ง!” อนิรุทธ์กัดฟันแน่น ข่มอารมณ์ให้สงบ ไม่บ่อยนักที่ไอติมจะดื้อกับตน
“เราผิดก็เราขอโทษ..แต่ไอติมไม่ควรพูดแบบนี้กับเรานะ เราไม่ได้เป็นสัดกับใคร คนที่เค้ามาหาเรา เราก็ไม่ได้ทำอะไรไปมากเหมือนที่ติมคิด..เรา เราไม่มีอารมณ์” บอกหนุ่มหน้าหวานให้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ไอติมกัดริมฝีปากกลั้นน้ำตาให้กลับเข้าไปเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของเพื่อนสาว ‘ขึ้นเตียงกันไปแล้ว วัวเคยค้าม้าเคยขี่นี่นะไม่มีอะไรกัน!’ ทุบอกอนิรุทธ์เต็มแรง กัดฟันกรอดแล้วมองด้วยสายตาเจ็บปวด
“ไม่มีอะไรกันงั้นเหรอ!? ออมจะบอกว่าทศไปหาออมแล้วก็นั่งคุยกันอย่างเดียวงั้นสิ! อึก ไม่ไหวแล้ว..” ตะโกนใส่หน้าแล้วกำชายเสื้ออนิรุทธ์แน่น อารมณ์หึงหวงรุนแรงเกินกว่าไอติมระทนรับไหว สะอื้นฮัก ปล่อยน้ำตาร่วงเผาะ ทรุดนั่งกับพื้น..
“ไม่ไหวแล้วออม..เราเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้” พึมพำกับอกแกร่ง อนิรุทธ์ลูบไหล่ลูบหลังแล้วตั้งใจฟังคำพูดงึมงำของหนุ่มหน้าหวาน
“..เจ็บจนทนไม่ไหวแล้วออม เรา..เราทนไม่ได้ถ้าจะเห็นออมรักกับคนอื่น เจ็บจนจะตายอยู่แล้วออม..” มือปิดหน้าสะอื้นไห้ อนิรุทธ์มองไอติมด้วยความรู้สึกเข้าข้างตัวเองเต็มที่ ดึงข้อมือเล็กออกแล้วประคองหน้าเรียว นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาเบามือ
“เจ็บทำไมไอติม ไม่อยากเห็นออมมีความสุขเหรอ? ออมได้อยู่กับคนที่ออมรัก นอนกอดกัน แล้วมีความสุขด้วยกันทุกวัน ออมมีความสุขแล้วไอติมไม่ดีใจเหรอ?” หนุ่มหน้าหวานสะอึกสะอื้น คิดภาพตามที่อนิรุทธ์บอกแล้วปิดหูส่ายหน้ารับไม่ได้
“พอแล้ว ชั้นทนไม่ได้..ออม ออมอย่ามีแฟนเลยนะ ผู้ชายมันไม่มีใครจริงจังกับคนแบบเราหรอก ออมเป็นคนบอกไอติมเองนะ..” กล่อมให้อนิรุทธ์เลิกคิดจะมีแฟน จับข้อมือแกร่งที่ประคองหน้าตัวเองไว้ก่อนจะขอร้องอนิรุทธ์
“ออม ผู้ชายเดี๋ยวนี้มันไว้ใจไม่ได้หรอก อยู่กับออมมันก็บอกรักออม ลับหลังมันก็มีคนอื่น อย่ามีแฟนเลย..อยู่ ฮึก อยู่กับไอติมนะออม อย่ามีใครเลยนะ..ไอติมเป็นทุกอย่างให้ออมได้นะ อย่ามีแฟนเลยนะออม” อนิรุทธ์ยิ้มบาง ๆ มองสำรวจใบหน้าหนุ่มหน้าหวานจนทั่ว คิ้วเข้ม ตาสีน้ำตาลสวยที่ใครต่อใครหลงใหล จมูกโด่ง ปากสีชมพูที่เอาแต่ขอร้องอย่าให้ตนมีใคร หน้าเรียวเล็กที่มือตนประคองอยู่ ไม่อยากเชื่อว่าคนคนนี้อยู่ข้างกายตนมาเกือบสิบปี อยู่ข้าง ๆ มานานแต่กลับมองข้ามไปตลอด มัวแต่มองหาคนที่คล้ายพิ ทั้งที่ลึก ๆ แล้วอยากให้คนคนนี้ต่างหากมาอยู่เคียงข้าง
“ถ้าออมไม่มีแฟน ไอติมต้องทนเป็นแฟนออมแบบนี้ไปตลอดนะ ถึงจะเบื่อก็ไปไหนไม่ได้..มีใครก็ไม่ได้ ต้องมีแต่เราตลอดชีวิต แบบนี้..ยังจะอยากให้เราอยู่กับติมอีกมั้ย?” สะอื้นแล้วพยักหน้าเร็ว ๆ ‘ได้..ติมรับได้นะออม อยู่กับออมไปจนตายติมก็อยู่ได้..จริง ๆ นะออม’ อนิรุทธ์โอบกอดหนุ่มหน้าหวานไว้หลวม ๆ ก่อนจะเรียกร้องสิทธิที่ไอติมควรจะได้ให้เสร็จสรรพ
“มันเสียเปรียบนะนังติ๋ม! ริจะมีแฟนแต่ยอมเค้าหมดทุกอย่างมันใช้ไม่ได้นะยะ แกต้องเป็นคนคุมเกมส์ทุกครั้งเข้าใจมั้ย?! แล้วต้องคอยตามติดมันไปทุกฝีก้าว โทรเช็คมันทุกชั่วโมง แล้วที่สำคัญ..ตรวจถุงยางอนามัยในกระเป๋ามันทุกครั้งที่มันเผลอ..แค่นี้ทำได้รึเปล่าไอศครีม ถ้าหล่อนทำได้ชั้นก็พร้อมจะปล่อยให้หล่อนได้โบยบินในโลกกว้างได้อย่างวางใจ..” หนุ่มหน้าหวานมองอนิรุทธ์อย่างงุนงง เมื่อไม่กี่นาทียังยอมให้อยู่ข้าง ๆ แต่ตอนนี้กลับผลักไสให้พ้นไปจากชีวิต
“ไม่เอา..ติมจะบินไปพร้อมออม เมื่อกี้ออมยังให้ติมอยู่กับออมอยู่เลย ..ทำไมผีเข้าผีออกแบบนี้ห๊ะ!” ถามด้วยความไม่เข้าใจ แต่พอเห็นหน้ายิ้ม ๆ ของออมก็ยิ่งงงหนัก เอียงคอถามเรื่องอารมณ์แปรปรวนของเพื่อนสาว อนิรุทธ์ยิ่งยิ้มกว้าง
“ถ้าเราเป็นเพื่อนติมอยู่เราจะเปลี่ยนเป็นแฟนติมได้ไงล่ะ ต้องเลิกเป็นเพื่อนก่อนถึงจะเป็นแฟนได้..เข้าใจมั้ย?” หนุ่มหน้าหวานส่ายหน้าหวือก่อนจะงงอแงใส่อีกครั้ง
“ทำไมไม่ทำเหมือนเดิมล่ะออม เป็นแฟนด้วยเป็นเพื่อนด้วยแบบเมื่อก่อนก็ได้นี่ ติมชอบแบบที่ออมเป็นอยู่แล้ว แบบไม่ต้องแมนเต็มร้อยก็เอาไว้เวลาเราเป็นเพื่อนกัน แบบแมนก็เอาไว้เวลาเป็นแฟน คนอื่นมีแต่จะอิจฉาติมที่มีแฟนอเมซิ่งแบบออม” ยิ้มแก้มปริของไอติมกับคำพูดตรง ๆ ทำให้อนิรุทธ์คิดได้ ไม่จำเป็นต้องเลิกเป็นเพื่อนแล้วเปลี่ยนตัวเองให้แมนเต็มตัวเพื่อเอาใจไอติม เพราะที่ไอติมชอบมันก็คือตัวตนของอนิรุทธ์ที่เห็นกันมาตั้งแต่แรก
“ขอบใจนะไอติม..ชั้นสัญญากับหล่อนนะว่าชั้นจะดูแลหล่อนให้ดีที่สุด เท่าที่คนอย่างเราจะดูแลซึ่งกันและกันได้..” อนิรุทธ์มองตาหนุ่มหน้าหวานก่อนจะสัญญา ไอติมยิ้มกว้างรับคำสัญญานั้น หลับตาลงรอรับจูบแบบมีสติเต็มร้อยจากอนิรุทธ์ หนุ่มคมเข้มนั่งจับไหล่ไอติมแบบเก้ ๆ กัง ๆ ยื่นหน้าข้าไปหาทางซ้ายมุมมันก็ไม่พอดี เปลี่ยนองศามาทางขวาก็กลัวจะไม่งาม สุดท้ายก็ต้องกระซิบบอกหนุ่มหน้าหวานเบา ๆ
“..ติดไว้เป็นคืนนี้นะไอติม กลางวันชั้นไม่กล้า..มันสว่างโร่เลยอ่ะ” ไอติมลืมตามามองอนิรุทธ์ด้วยความอึ้ง น้องออมคนที่วิ่งไล่หอมคนโน้นคนนี้หน้าตาเฉย น้องออมคนที่มีอะไรกับคู่ขาได้แม้กระทั่งในลานจอดรถโล่ง ๆ จะอายกับจูบนิด ๆ หน่อย ๆ เพียงเพราะนี่มันกลางวันแสก ๆ! แต่หากมองอีกด้าน อนิรุทธ์ตั้งใจจะให้เกียรติคนรัก เพราะนี่มันในบ้านของไอติม พ่อแม่ก็อยู่ มันไม่เหมาะหากจะล่วงเกินหนุ่มหน้าหวานในเวลานี้ ตระกองกอดไอติมไว้แนบอก หอมหน้าผากแล้วกอดแน่นขึ้น
“ชั้นรักแก..นังติ๋ม” หนุ่มหน้าหวานยิ้มกว้างกับเสียงกระซิบที่เบาที่สุดในโลกของอนิรุทธ์ เวลานับสิบปีที่หนุ่มหน้าหวานอดทนอยู่ข้าง ๆ เก็บความรู้สึกชอบเอาไว้คนเดียวจนทนไม่ไหวก็หมดลง อนิรุทธ์รับรู้ความรู้สึกนั้นและพร้อมจะเข้ามาใช้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งร่วมกัน
“ขอบคุณนะออม” กระชับกอดอนิรุทธ์บ้าง ในที่สุดตนก็ได้เจออีกครึ่งของชีวิตสักที
ลมเย็นที่มีกลิ่นของหน้าหนาวโชยมากระทบผิวกาย คนที่เกลียดหน้าหนาวอย่างอนิรุทธ์ขนลุกเกรียวเมื่อสัมผัสลมเย็นนั้น มือเล็กนุ่มของคนที่อยู่ในอ้อมกอดเอื้อมมาลูบเบา ๆ ให้หายหนาว หอมผมนิ่มของไอติมแล้วยิ้มสู้ลมหนาวที่แสนเกลียด..
‘ปีนี้จะมาอีกกี่ระลอก..ชั้นก็ไม่หวั่นย่ะ!’
จบ.
…………………………
แถม
.
.
“ไอติม..หลับตาก่อน เราจูบติมไม่ได้นะถ้าไม่หลับตา” กระซิบเบา ๆ ให้หนุ่มหน้าหวานที่นอนรอรับจูบบนเตียงกว้างของอนิรุทธ์ให้หลับตาก่อน ไอติมกลั้นยิ้มก่อนจะพยักหน้าหงึก ๆ หลับตารอรับความหวานจากหนุ่มหน้าคมเข้ม อนิรุทธ์สูดลมเข้าปอดก่อนจะก้มลงจูบแก้มเบา ๆ เสียง ‘จุ๊บ’ จากริมฝีปากนิ่มของอนิรุทธ์ดังทั้งหน้าหวานของไอติม สัมผัสนุ่มของอนิรุทธ์วนเวียนแถวปลายคางก่อนจะเลื่อนขึ้นมาจูบริมฝีปากฉ่ำของหนุ่มหน้าหวาน
“..ออม” ลืมตาเรียกชื่อคนที่แอบชอบมาสิบปี อนิรุทธ์ขยับตัวทาบทับก่อนจะมองลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลสวย ‘หืม?’ กระซิบตอบไอติม เจ้าตัวส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนจะโอบรอบคอดึงเข้ามาจูบบ้าง กระบวนการแลกเปลี่ยนเอนไซม์อะไมเลสใช้เวลายาวนานร่วมชั่วโมงจนกล้ามเนื้อปากหนุ่มหน้าหวานเริ่มล้า
“..ออม..ออมจะจูบติมถึงเช้าเลยเหรอ?” เบี่ยงริมฝีปากหลบฉากออกมาแล้วถามเพื่อนสาวด้วยความสงสัย
“ไอติม..เราเพิ่งเป็นแฟนกันนะ จะรีบทำอย่างอื่นไปทำไม? เรารักติมนะ อยากเก็บเอาไว้แบบนี้นาน ๆ ..เราจะค่อย ๆ ชิมไอศกรีมของเรา จนกว่าไอศกรีมจะละลายเข้าไปในใจจนเต็ม..เข้าใจมั้ย?” พูดจบก็ก้มลงไปจูบปิดริมฝีปากนุ่มของไอติมต่อ หนุ่มหน้าหวานดิ้นขลุกขลักแต่อนิรุทธ์จับกดไว้ปล้ำจูบต่อจนไอติมต้องยอมแพ้ ‘..ใจคอจะจูบจนจบโทเลยรึไง?..เฮ้ออออ ว่าไงว่าตามกัน’ พอหนุ่มหน้าหวานยอมโอนอ่อนผ่อนตาม..กระบวนการรักก็เริ่มต้น
“อือออ ออม..ไหนว่า ว่าจะค่อย ๆ ชิมไง อ๊ะ..” อนิรุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามนั้น ปลายลิ้นร้อนไล้เลียตุ่มไตบนหน้าอก ฝ่ามือเคล้นคลึงความต้องการที่บวมเป่งของไอติมอย่างยั่วยวน คิดและตอบในใจว่า ‘..หล่อนยังตามไม่ทันเล่ห์ผู้ชายนะไอติม..สงสัยชั้นต้องสอนหล่อนไปอีกนาน ฮึฮึ’ ละเลงปลายลิ้นระเรื่อยลงต่ำถึงประตูหลัง แยงเข้าไปในจีบยับย่นสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่รังเกียจ หนุ่มหน้าหวานครางเสียงต่ำปลุกเร้าความแข็งขืนของอนิรุทธ์ให้ตื่นง่ายดาย กระชับเอวเล็กแน่นแล้วยกขึ้น ‘ซด’ จนร่างกายของไอติมพร้อมก็จ่อความแข็งขืนเข้าไปทักทาย
“..ออม เราเจ็บ! เบา ๆ หน่อย..อึ๊!” สูดลมหายใจเข้า ดันเข้าไปช้า ๆ ก้มลงจูบหน้าอก ซอกคอ และริมฝีปากนิ่มดึงดูดความสนใจจนไอติมพร้อมรับบทรัก ขยับรับจังหวะกันด้วยความรักจนใกล้ถึงสวรรค์ ‘ออม..พร้อมกันนะ’ อนิรุทธ์ยิ้มแล้วจูบริมฝีปากนิ่มที่พูดแต่เรื่องน่ารักก่อนจะขยับบั้นเอวแบบลืมเหนื่อย
“อึ๊! ซี้ดดดดดดดดดด” ครางออกมาไล่เลี่ยกันก่อนจะนอนกอดกันเมื่อเสร็จสม หนุ่มหน้าหวานนอนกอดก่ายก่อนจะพลิกตัวนอนทับอนิรุทธ์ ปลายนิ้วเรียวลูบอกหนาก่อนจะเอ่ยปาก..
“ออม..ให้ติมรุกบ้างนะ ติมอยากรุกอ่ะ นะครับ?” อนิรุทธ์ยิ้มปลาบปลื้ม ‘ไอศครีม’ ที่ตนเสี้ยมสอนนำคำสอนมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา แต่..ไม่ถูกคน! พลิกกลับก่อนจะเริ่มบทรักเร่าร้อนกว่าเดิมอีกครั้ง กระซิบสอน ‘ไอศครีม’ ขณะสอดใส่..
“เป็นคนรักที่ดีต้องรู้จักออดอ้อนบนเตียงแบบนี้ถูกแล้วล่ะไอติม” ขยับเอวแล้วจับความแข็งขืนของไอติมไว้
“แต่..อย่าขอรุกเด็ดขาด! แฟนติมคนนี้ไม่ชอบให้ใครมารุก สำหรับบางคน..ผิดพลาดแค่ครั้งเดียวมันก็เกินพอแล้ว ซี้ดดด” หนุ่มหน้าหวานสะบัดหน้าไปมากับหมอนก่อนจะผวากอดอนิรุทธ์เมื่อใกล้ถึงจุดปลดปล่อย ‘อืออออ ออม..’ บทเรียนบทใหม่ซึมซาบลงในใจของ ‘ไอศครีม’ ทันที นอนกอดกันจนอนิรุทธ์เข้าสู่นิทรา หนุ่มหน้าหวานก็สอนตัวเองเรื่องบทเรียนนี้
‘..ถ้าขอตอนมีสติแล้วไม่ให้’ ปลายนิ้วลูบหน้าอกแฟนเพลินจนเลื้อยต่ำไปจับแครอทที่ตอนนี้หลับไปพร้อมกับเจ้าของ ยิ้มแล้วจูบแก้มสาก
‘..รอตอนเมาแล้วกดซะก็จบ ฮุฮุ’
………………………………..
1 ตอนเต็ม ๆ ของอนิรุทธ์และไอศครีมตามบัญชาค่า
ตอนหน้าเป็นของคู่สุดท้ายนะคะ..คู่ที่ใคร ๆ ก็ลืม กระซิก คู่นี้จิขอมาหลังปีใหม่นะคะ เค้าไม่ว่างแต่งอ่า -////-
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ปล.รบกวนตรวจคำผิดให้ด้วยนะคะ
ปล.2 แต่งไปก็ขำไปค่ะ555+