=== ตอนที่ 28 ===
“มิ้น...วันนี้พี่เข้าสายหน่อยไปเปิดยิมแทนพี่หน่อยนะ”“ครับพี่”“เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจยาวๆพร้อมบิดขี้เกียจไปมาบนที่นั่งหน้าคอม เหนื่อยจังเลยกลับมาถึงเมื่อคืนก็เกือบๆตีหนึ่งแถมยังต้องเทียวไปส่งน้องอีกหลายคนกว่าจะได้กลับมาบ้านตัวเองก็ปาเข้าไปเกือบๆตีสอง อยากนอนกลิ้งๆชะมัดวันนี้ไม่อยากไปสอนเลยจริงๆ ว่าแล้วผมก็ลุกไปนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาไปมาๆอยู่คนเดียว แล้วสายตาผมก็ส่ายไปเห็นนาฬิกาหน้ากว้างสิบสองนิ้วที่ห้อยอยู่บนทีวี
“16.04 น.” เจ้านาฬิกาเนี่ยะ ผมไม่น่าเอามาแขวนบนทีวีเลยจริงๆ เวลาที่วิ่งไปเรื่อยๆคอยกวนใจผมไม่หยุด ทำเอาผมหลับตาแอบงีบไม่ลงจริงๆ ทุกๆวินาทีที่เข็มวิ่งไปมันก็เหมือนมีใครสักคนมาสะกิดที่ต่อมความรับผิดชอบของผมเบาๆ ยิ่งใกล้เวลามากขึ้นมันก็เหมือนจะสะกิดแรงมากขึ้นมาด้วย
‘ลุกก็ได้ว่ะ’ ผมคิดในใจก่อนจะลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วออกไปที่ชมรมเส้นทางเดิมๆแต่....ช่วงเย็นๆแบบนี้รถเยอะดีจังแฮะกว่าผมจะมาถึงชมรมเล่นทำเอาหายง่วงเลย หลังจากจอดรถเสร็จผมก็เดินเข้ามาในชมรมเห็นน้องๆหลายคนนั่งเล่นกันอยู่ พอเห็นผมเข้าไปก็ยกมือไหว้กันใหญ่ ทำเอารู้สึกแก่ขึ้นมาเลยทีเดียว ผมส่ายสายตามองไปรอบๆไม่เห็นบีแฮะ เห็นแต่อ้น มิว ต้นกล้า นั่งจับกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องการแข่งขันที่ผ่านมาจนลืมมองมา ผมไม่ได้ทักเพราะเห็นคุยกันสนุกสนาน แล้วก็เดินไปนั่งเล่นที่โต๊ะ ก่อนที่มิวจะหันมาเห็นผมเข้า
“พี่เอ มาแล้วๆ” มิวพูดขึ้นทักต้นกล้ากับอ้นที่กำลังนั่งคุยกันอยู่
“พี่เอ....สวัสดีคร้าบบบบ” น้องๆหันมาสวัสดีพร้อมกันก่อนที่จะกรูกันเข้ามาหาผมแล้วพูดถึงเรื่องการแข่งขันกันต่อผมก็นั่งคุยเล่นไปจนเกือบๆห้าโมงเย็นน้องบีก็มาถึงพอลงจากรถน้องบีก็เดินมาเกาะๆที่หน้าต่างเหมือนกำลังมองหาใครสักคนอยู่ แล้วน้องก็หันมามองทางผม พอเห็นผมน้องก็ยิ้ม แล้วก็เดินเข้ามาหา น้องพยายามเดินให้ดูปรกติ แต่มันก็ดูไม่ปรกติเท่าไหร่เพราะมีท่าทีอายๆเขินๆติดมาด้วยอยู่ พอน้องแอบมองมาเห็นว่าผมมองอยู่น้องก็ก้มหน้าแอบยิ้มๆ จนมาถึงผม น้องบีก็มานั่งลงบนตัก แล้วดึงๆมือผมไปกอดตัวเองไว้
“ไปซื้อน้ำปะ” ผมกระซิบข้างหูน้องบีเบาๆแล้วผมกับบีก็เดินจูงมือกันไป จนถึงหน้าร้านขายไก่ แม่ค้าแอบชำเลืองตามามองบีอยู่หน่อยๆสงสัยคราวก่อนถูกน้องตอกกลับไปเลยทำเอาไม่กล้าหยอก พอบีเห็นพี่เค้านั่งแอบหันมามอง บีก็หันไปทำหน้าทะเล้นใส่แม่ค้า แม่ค้าเห็นบีทำหน้าทะเล้นมา เค้าเลยทำหน้าทะเล้นกลับ ก่อนจะหัวเราะใส่กันทั้งคู่ เลยร้านขายไก่มาหน่อยผมก็พูดขึ้นมาว่า
“เสียดายเนอะ จะได้ไปอยู่แล้ว” ผมพูดจบบีก็เงยหน้าขึ้นมามองผม
“ก็หมอน่ะซิครับ ไม่รู้จะให้อยู่ดูอาการทำไมไม่รู้ ผมบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร หมอก็บอกว่าให้ดูอาการๆอยู่ได้ มันหายตั้งแต่ก่อนวันจะเดินทางซะอีก หมอไม่ฟังผมเลยอ่ะ น่ารำคาญจริงๆ” บีพูดแบบอารมณ์ล้วนๆ
“น่าๆคราวหน้าก็ได้ ตอนขากลับอ้นนอนหนุนตักพี่ตลอดทางเลย”“....”น้องเงียบก่อนจะพูดว่า
“ถ้าคนที่หนุนตักพี่เป็นบีน่าจะดีเนอะ” พูดจบน้องบีก็คว้ามือผมมากอดไว้
“แล้วตอนนอนพี่นอนกับใคร”“นอนกับอ้น พอดีห้องมันนอนได้สี่คน มีพี่ คุณอาของอ้น มิว แล้วก็อ้น”“.....”“ทำไมเหรอ”“คราวหน้านะ......ต่อให้ป่วยแค่ไหน.....ผมก็จะต้องไปด้วยให้ได้....คอยดูนะ”“......” แล้ววันนั้นบีก็ไม่ยอมคุยกับอ้นเลย อ้นเองก็เริ่มแสดงท่าทีรำคาญบีออกมาหน่อยๆ แต่ว่ามันก็แค่พักเดียวสุดท้ายก็มานั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ดี แล้วอ้นกับบีตอนนี้ก็มากอดๆผมคล้ายๆกันแต่บียังมากกว่าอ้นอยู่ดี จนถึงช่วงซ้อมเสร็จ ต้นกล้าก็เข้ามาคุยกับบีเรื่องการแข่งขัน อ้นก็กลับบ้านที่กลับเร็วก็เพราะวันนี้คุณพ่อว่างเลยมารับเร็ว เหลือแค่มิวที่กำลังนั่งดื่มน้ำอยู่ผมเลยเดินไปเข้าไปนั่งใกล้ๆ
“มิวๆ” ผมเรียกน้องเบาๆ
“ครับ”“ถามอะไรหน่อยดิ”“ถามอะไรเหรอ”“คือ.....คืนนั้นน่ะ”“คืนนั้น......” มิวถามย้อนกลับมาทำหน้า งงๆ
“ที่มิวนอนกับคุณอาน้องอ้นอะ”“......”“คือ......”“.......”“เปล่าๆ ไม่มีอะไร ฮะๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน
“.......” มิวยังเงียบแฮะ ผมทำถูกไหมเนี่ยที่ถามออกไป
“แล้วขาหายเจ็บยัง”“......คืนนั้น.....”“......”“อาเค้าแค่มาจับๆบีบๆ แขนกับขาผมเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร”“อ่า เอ่อ...อืม ฮ่ะๆๆๆ” อุตส่าห์ไปเรื่องอื่นแล้วยังมาตอบอีกแฮะ
“ทำไมเหรอครับ”“เปล่า คือเห็นอาเค้าบอกว่า มิวไม่มีกล้ามเนื้อเลย เหมือนลูกคุณหนูที่ไม่ได้ทำงานอะไร แล้วก็เหมือนไม่เคยเล่นกีฬาอะไรมาก่อนน่ะ”“เหรอครับ ก็ถูกนะอยู่บ้านผมไม่เคยทำอะไรเลย มีแต่คนทำให้ ฮ่าๆๆๆ” พูดจบมิวก็หัวเราะ
ตอนนั้นบีคงเห็นว่าผมนั่งคุยกับมิวอย่างสนุกสนานบีเลยรีบลากต้นกล้ามานั่งล้อมวงด้วยไม่นานเท่าไหร่หลังการล้อมวง คุณแม่น้องมิวก็มารับ ตามด้วยน้องต้นกล้า ตอนนี้เหลือผมกับน้องๆอีกไม่กี่คนแล้ว พี่ป้อมเองก็ทำท่าทีอยากจะกลับแล้วเหมือนกัน บรรยากาศเริ่มเงียบเหงา บีค่อยๆขยับมานอนพิงตัวผม
“พี่” บีเรียกผมเบาๆ
“ครับ”“วันนี้พาผมไปบ้านพี่หน่อยซิครับ”“ไปทำไมอะ”“เถอะน่า”“โทรบอกม๊ากับป๊ายังอะ”“ยืมโทรศัพท์พี่หน่อยซิครับ ของผมแบตหมด”“พี่ไม่ได้เอามา” จริงๆผมเอามานะ แต่ไม่อยากให้น้องไปที่บ้านผมเลยพูดไปแบบนั้น
“งั้นรอเดี๋ยว” พูดจบบีก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพี่ป้อมพักหนึ่งบีก็เดินกลับมาคืนพร้อมโทรศัพท์
“ม๊า~า~า~า~า~า~า~า ไม่ต้องมารับนะ เดี๋ยวพี่เอไปส่ง บอกป๊าด้วยนะว่าไม่ต้องมารับ แค่นี้แหละ”“....” พูดไม่ออกเลย
“บอกแล้ว ให้ผมไปได้ยัง” ผมยิ้มรับแต่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากปิดยิมแล้วบีก็โดดขึ้นมานั่งบนรถผม แล้วระหว่างที่ผมกำลังจะออกรถบีก็หันมาแล้วก็พยายามจะดึงกระเป๋าที่ผมสะพายอยู่ออก ผมเห็นน้องดึงๆไม่รู้จะดึงทำไมผมก็เลยถอดกระเป๋าให้ พอถอดเสร็จน้องบีก็เอาไปนั่งกอดซะงั้น แล้วผมก็ขับรถไปช้าๆเรื่อยๆจนถึงแยกแรกมีซ้ายกับขวา ทางขวาไปบ้านผม ทางซ้ายไปบ้านน้องบี แน่นอนครับผมเลือกทางซ้าย ทันทีที่เลี้ยวบีก็ทักว่า
“ไม่ใช่ทางไปบ้านพี่นี่ครับ”“คือ...วันหน้าค่อยไปได้ไหมอะ”“ไม่เอาๆ วันนี้แหละ นะครับๆๆ”“......”น้องพูดจบผมก็รีบหาเหตุผลต่ออย่างด่วน
“.....” น้องบีเหล่มามอง
“เอ่อ....พอดีป้าพี่เอากุญแจบ้านไปอะ กว่าจะกลับก็ดึก เราจะรอเหรอ กลับช้าเดี๋ยวม๊าดุนะ”“แล้วทำไมพี่ไม่ปั๊มกุญแจไว้ล่ะครับ วันหน้าปั๊มเอาไว้เลยนะ” บีหันมาพูดแบบหงุดหงิดหน่อยๆ
“อื่อๆ” ผมตอบกลับไปแล้วบีก็นั่งเงียบๆอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันกลับมา
“แล้วเข้าทางอื่นไมได้เหรอครับ..แบบพวกประตูหลังบ้าน หน้าต่างอะไรแนวๆนี้อะ” โห....กะเข้าให้ได้เลยนะเนี่ย
“ไม่ดีมั้งครับ” “งั้นผ่านหน้าบ้านเหมือนเดิมก็ได้” บีหันมาทำหน้ามุ่ยใส่
ตอนนั้นเป็นทางแยกสุดท้ายแล้ว ถ้าเลี้ยวไปทางบ้านบีอีกก็คือไปบ้านบีเลย
“ถ้าพี่ไม่เลี้ยวนะ ผมจะทำให้รถมันเลี้ยวให้ดู” บีพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดมาก
“.....” ผมไม่พูดอะไร แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเลี้ยวไปทางบ้านน้องบี แล้วทันทีที่ผมเลี้ยว
“พี่อ๊าๆๆๆๆๆๆ ไม่พาไปผมจะเกาะอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ยอมลงจริงๆด้วย” พูดจบน้องก็เกาะรถท่าเดียวกับที่เคยเกาะทันที
แต่ดูเหมือนจะไม่ถนัดเท่าไหร่เพราะเอากระเป๋าผมไปกอดไว้นี่นา ผมก็ไม่สนใจจนพาน้องไปถึงบ้านน้องบี ก็พบป๊าน้องบีกำลังยืนรออยู่พอดี เหตุการณ์เป็นดังนั้นน้องบีเลยยอมลงจากรถแต่โดยดีแล้วส่งกระเป๋าผมมาคืนแล้วก็เดินเข้าบ้านไป
“ขอบใจมากเอ”“ไม่เป็นไรครับ”“แล้วแข่งเป็นไงบ้าง”“ก็ดีครับ อ้นได้เหรียญทองด้วย”“อืมม อ้นเค้าน่าจะได้อยู่แล้ว รูปร่างกำยำแข็งแรง”“ครับ”“ส่วนบีถ้าได้ไปจริงๆสงสัยจะตกรอบแรก”“ไม่หรอกครับ บีถ้าได้ไปอย่างน้อยๆก็น่าจะได้เข้าชิงทองแดง”“อืม น่าเสียดายนะมาป่วยซะก่อน”“นั่นซิครับ”“เดี๋ยวคราวหน้าก็ฝากพี่เอดูแลให้หน่อยแล้วกัน”“ครับๆ” ผมยิ้มๆ
แล้วคุณพ่อน้องบีก็ขอตัวกลับเข้าบ้านไป
To Be Con
---------------------------------------------------------------------------------
Today ( 06/05/10 )
วันนี้น้องบีมาซ้อมช้าครับ มาถึงก็ตอนผมเริ่มเรียกซ้อมพอดี แต่ก็ยังดีที่ว่าใส่ชุดมา ก็ยังไม่วายมีข้อเสียที่ไม่ยอมมัดสายให้เรียบร้อย ผมเลยต้องไปมัดสายให้ แถมตอนให้จับคู่ยืดเส้นก็จะคู่แต่กับผมให้ได้อีก หลังจากยืดเส้นเสร็จพี่ป้อมก็พาน้องๆซ้อมต่อโดยที่ผมเป็นคนเดินตามเก็บรายละเอียด แล้วพี่ชายน้องมิวก็เป็นหนึ่งในนั้น หลายๆคนที่ตามอ่านแต่แรกน่าจะพอทราบนะครับว่ามีอะไรบ้าง พี่ชายน้องอ้นว่านอนสอนง่ายครับ ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่บ่นสักคำแถมดูแล้วว่ามีความพยายามค่อนข้างสูงด้วย แถมยังบอกว่าอยากทำท่ายากๆด้วย เสียดายที่น้องอ้นไม่ยอมสอนอะไรพี่ชายตัวเองเลย แล้ววันนี้พอผมสอนพี่ชายเค้าเสร็จผมก็ให้อ้นพาพี่ชายไปซ้อมเล่นๆอ้นก็ไม่ยอม สงสัยกลัวพี่ชายเก่งกว่า
แล้ววันนี้ก็มีน้องชายคนหนึ่งมาเรียนเพิ่ม จริงๆน้องเข้ามาเรียนได้สองอาทิตย์แล้วครับ แต่เมื่อวานไม่ได้มาผมเลยไม่ได้เจอน้องอายุสิบสี่เองแต่สูงตั้งร้อยแปดสิบห้าท่าทางเก้ๆกังๆหน่อยๆอาจเพราะยังปรับตัวไม่ทันกับส่วนสูงของตัวเองมั้ง น้องคนนี้มีเชื้อสายจีนแน่นอนแบบไม่ต้องถามครับ แล้วตามสูตรคือขาว แล้วก็ตาตี่ๆสองชั้น เฉพาะน้องคนนี้ทำเอาผมเหนื่อยไม่ใช่เล่นๆเลยทีเดียว ก็อย่างที่บอกทีแรกว่าน้องยังเก้ๆกังๆทำให้ผมต้องตามจัดท่าให้ตลอดเวลาที่สำคัญผมว่าน้องไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนแหง๋ๆเพราะที่ถูกๆตัวน้องเค้าเนี่ย เคสเดียวกับมิวที่มาตอนแรกๆเลย แล้วการซ้อมครึ่งแรกก็ผ่านไปครับถึงเวลาพักบีเดินตามผมตอนที่ผมเดินไปดื่มน้ำ ตอนเย็นบีไม่ได้ไปร้านสะดวกซื้อร้านนั้นด้วย ผมเลยหยิบน้ำที่บีชอบดื่มติดมือมาให้ด้วย
“บีๆ”“ครับพี่”“พี่ซื้อน้ำมาให้”“น้ำอะไรเหรอครับ เพียวริขุหรือเปล่า”“อื่อ”“ขอบคุณคร้าบบบบบ” บีแสดงสีหน้าดีใจขึ้นมา แล้วผมก็เดินไปหยิบเพียวริขุให้น้อง
“พี่เอ” น้องเรียกผมเบาๆตอนเปิดกระเป๋า
“ครับ”“ทำไมถึงชอบซื้อชามาดื่มล่ะ”“อืมม....ไม่รู้ซิเหมือนที่บีชอบเพียวริขุมั้ง”“แฮะๆๆ” น้องหัวเราะเบาๆ
ซ้อมเสร็จ อ่าาาาา วันนี้ไปทานหมูกระทะซินะ ตามความเดิมที่ต้องมี น้องบี น้องอ้น พี่ชายน้องอ้น ว่าน พี่ป้อม แล้วก็ผม สุดท้ายก็เหลือแค่ ผม ว่าน กับ บี สามคนที่ไปนั่งทานด้วยกัน ผมกับบีนั่งฝั่งเดียวกันครับ ตรงข้ามก็มีว่านกับเก้าอี้วางกระเป๋า วันนี้ร้านหมูกระทะลูกค้าเยอะมากๆ บีเองก็เลือกตักของคล้ายๆกับผม ส่วนว่านก็เลือกตักที่ตัวเองชอบ พอตอนมาปิ้ง บีถามผมอยู่เนืองๆว่าชิ้นนี้สุกยัง ชิ้นนั้นสุกยัง ผมเลยบอกให้น้องนั่งรอทานอย่างเดียว เดี๋ยวผมคีบใส่จานให้ ตอนแรกที่อะไรๆก็ยังไม่สุกสักอย่างน้องบ่นๆว่า
“พี่....สุกยางงงง ผมหิวแล้ว ท้องร้องตั้งแต่อยู่ยิมแล้ว” เท่านั้นแหละพอสุกปั๊บผมเลยประโคมลงไปใส่จานน้องบีซะจนพูนจานเลยทีเดียว บีนั่งอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนจะคีบกลับมาใส่จานผมคืนบางส่วน ตอนนั้นน้องว่านหันมามองว่าผมคีบให้บี บีคีบให้ผม น้องบีคงจะรู้ตัวเลยไม่ลืมที่จะคีบให้ว่านด้วย
“พี่เอวันนี้กลับกี่โมง” บีถามผมเบาๆ
“รีบกลับเหรอ”“ครับ วันนี้วันเกิดน้องชายผม” แล้วพอประมาณสองทุ่มสี่สิบผมก็พาน้องว่านไปส่งที่บ้านก่อนจะพาน้องบีไปส่งต่อขากลับจากทางบ้านว่านเงียบน่าดูเลยผมกอดน้องบีเบาๆก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อน้องแล้วใช้นิ้วชี้ลูบๆหัวนมน้องบีเล่นเบาๆ น้องบีเองก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร ผมเลยลูบอกน้องไปมาเบาๆด้วย แต่ว่า....ปกรติแล้ว....หมายถึงเมื่อก่อนถ้าเข้าเขตชุมชนสักหน่อยบีก็จะปัดป้องมือผมออกแล้ว แต่วันนี้ไม่แฮะ ระหว่างที่ผมลูบๆท้องกับอกน้องเบาๆอยู่นั้นผมก็กระซิบข้างๆหูน้องว่า
“แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว บีไม่ได้มีพุงสักหน่อยนี่นา ไม่เห็นต้องลดอาหารเลย”“ผมว่ามีกล้ามหน่อยๆเท่ดีนะ” บีกระซิบกลับมา
“ก็เท่ดี แบบนี้ก็น่ารักดีนะ”“ปรกติผมสมส่วนอยู่แล้ว ผมว่าถ้ามีกล้ามด้วยเท่แน่เลย”“อืมม ก็ตามใจแล้วกัน อย่าอดข้าวมากไปล่ะ ทำตามที่พี่เคยแนะนำเข้าใจเปล่า”“ครับ”แล้วผมก็ลูบๆนมน้องเล่นไปเรื่อยๆจนถึงบ้านน้อง พอถึงหน้าบ้านบีลงจากรถแล้วหันมาหาผม
“ขอบคุณครับ” “อื่อ พรุ่งนี้รีบมานะ”“ครับผม”แล้วน้องบีก็เดินเข้าบ้านไป.....