น้องชาย 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้องชาย 1  (อ่าน 231521 ครั้ง)

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
น้องชาย 1
« เมื่อ12-05-2010 14:55:04 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้ เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณา กดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้าม มิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้ โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อน


อ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


---------------------------------------------------------------------------------------

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้เขียน
ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สมาคม หรือ เหตุกาณ์จริงแต่ประการใดทั้งสิ้น





=======================


Link ไปที่ตอนต่างๆคลิกข้างล่างเลยครับ

=  ตอนที่ 1  =
=  ตอนที่ 2  =
=  ตอนที่ 3  =
=  ตอนที่ 4  =
=  ตอนที่ 5  =
=  ตอนที่ 6  =
=  ตอนที่ 7  =
=  ตอนที่ 8  =
=  ตอนที่ 9  =
=  ตอนที่ 10  =
=  ตอนที่ 11  =
=  ตอนที่ 12  =
=  ตอนที่ 13  =
=  ตอนที่ 14  =
=  ตอนที่ 15  =
=  ตอนที่ 16  =
=  ตอนที่ 17  =
=  ตอนที่ 18  =
=  ตอนที่ 19  =
=  ตอนที่ 20  =
=  ตอนที่ 21  =
=  ตอนที่ 22  =
=  ตอนที่ 23  =
=  ตอนที่ 24  =
=  ตอนที่ 25  =
=  ตอนที่ 26  =
=  ตอนที่ 27  =
=  ตอนที่ 28  =
=  ตอนที่ 29  =
=  ตอนที่ 30  =
=  ตอนที่ 31  =
=  ตอนที่ 32  =
=  ตอนที่ 33  =
=  ตอนที่ 34  =


=========================



=  A's Diary 1  =
=  A's Diary 2  =
=  A's Diary 3  =
=  A's Diary 4  =
=  A's Diary 5  =
=  A's Diary 6  =
=  A's Diary 7  =
=  A's Diary 8  =
=  A's Diary 9  =
=  A's Diary 10  =
=  A's Diary 11  =
=  A's Diary 12  =
=  A's Diary 13  =
=  A's Diary 14  ( End  ) =


 :m23: ~ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

ตามอ่าน "น้องชาย 2" ได้ที่นี่เลยครับ :
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24289.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2011 18:27:21 โดย me_alone »

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย
«ตอบ #1 เมื่อ12-05-2010 15:02:12 »

 :mc4:

ยินดีต้อนรับกลับค่า~

Classical

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย
«ตอบ #2 เมื่อ12-05-2010 15:07:35 »

 :z13: :z13: :z13:



มารอ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย
«ตอบ #3 เมื่อ12-05-2010 15:10:35 »

ยินดีต้อนรับกลับเล้าน๊า :mc4:


ก็ว่าแล้วว่าเรื่องหายไป......คิดถึงน้องบีมากมาย...มาเร็วๆๆๆนะเอ o13

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
Re: น้องชาย
«ตอบ #4 เมื่อ12-05-2010 15:33:18 »

เด็กๆ จะกลับมาแล้ว :mc4:


ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
Re: น้องชาย
«ตอบ #5 เมื่อ12-05-2010 18:40:41 »

ลงชื่อรอครับ

คิดถึงน้องบีจังเลย

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: น้องชาย
«ตอบ #6 เมื่อ12-05-2010 18:44:26 »

นึกว่าจะไม่มาอัพซะแล้ว
ยิวดีต้อนรับนะคะ   o13  :call:

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: น้องชาย
«ตอบ #7 เมื่อ12-05-2010 19:08:48 »

 :mc4: รออ่านนะครับ

ลงใหม่ก็อ่านใหม่ครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย
«ตอบ #8 เมื่อ12-05-2010 20:32:27 »

===  ตอนที่ 1 ===



        เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อปีที่แล้วนี่เองครับ หลังจากเข้ามาเรียนปีหนึ่งไม่นานผมก็มองหาชมรมกีฬาที่ผมชอบ ผมเล่นกีฬาหลายอย่างครับ แต่ที่ชอบมากๆก็เห็นจะเป็นเทควันโด กับ หมากล้อม นอกนั้นก็เล่นได้แต่ไม่เก่ง แล้วไม่นานผมก็พบว่ามีรุ่นพี่คนหนึ่งเปิดซุ้มเทควันโดอยู่ หลังจากเข้าร่วมได้ไม่นานรุ่นพี่คนนี้ก็ชักชวนให้ไปสอนเทควันโด ณ ยิมแห่งหนึ่ง ตอนนั้นช่วงเย็นๆผมยังว่างเลยตกปากรับคำไป

        วันจันทร์ของอาทิตย์ต่อมาผมก็เริ่มเข้าไปสอนแรกๆก็เข้ามาทำความรู้จักน้องๆ ก่อน ยิมนี้ส่วนมากเป็นเด็กครับเลยวุ่นวายพอดู ไม่นานนักการสอนก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง หลังจากที่ผมสอนอยู่ได้ประมาณ 3 อาทิตย์ก็มีเด็กใหม่คนหนึ่งเข้ามาครับ น้องคนนี้ชื่อน้องบี มาตามเพื่อนที่เรียนอยู่ก่อนหน้านี้ สองคน แน่นอนครับน้องบีมาเพื่อเล่นเป็นหลักเลยคุมค่อนข้างยาก อีกทั้งนโยบายของยิมไม่มีการตี หรือ ด่าทำให้ต้องหาวิธีอื่นในการกำราบ แรกๆน้องบีไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ อาจเพราะผมดุหน่อยๆมั้ง หลายครั้งที่บอกให้ทำโน้นทำนี้แล้วน้องบีไม่ตั้งใจก็จะถูกผมดุ ถ้าใครเคยเล่นเทควันโดจะรู้ว่าเรื่องระเบียบวินัยนั้นค่อนข้างสำคัญมากๆ ทำให้เด็กที่ทั้งดื้อทั้งซนอย่างน้องบีทำหน้าเซ็งๆใส่ผมหลายทีเวลาที่ถูกผมดุ       

        ผมจำได้ว่ามีเด็กอยู่ 5 คนที่ขึ้น Black list เอาไว้เพราะดื้อมาก ต่อต้าน ท้าทาย ซึ่ง 1 ใน 5 ก็มีน้องบีอยู่ด้วย ตอนนั้นผมหาวิธีกำหราบเด็กพวกนี้แล้วก็พบวิธีละมุนละไมวิธีหนึ่ง “ต้อง ทำให้เด็กพวกนี้เปิดใจให้” วิธีนี้พูดง่ายแต่ทำยากเพราะต้องทำให้ เด็กพวกนี้ยอมรับในตัวเรา แล้วเรื่องราวของน้องบีก็เริ่มขึ้นในวันหนึ่งเย็นวันนั้นเด็กทั้งยิมกลับหมดเหลือน้องบีที่ผู้ปกครองยังไม่มารับ ไม่มีเพื่อนให้ด้วยเล่นแล้ว น้องบี นิ่งลงไปเยอะ ผมเลยลองคุยกับน้องดู เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยนั่งคุยกับน้องเลยมีแต่ดุตลอด ไม่เคยนั่งคุยกันจริงๆจังๆสักที

“บี” ผมหันไปเรียกน้องเบาๆ
“......” น้องไม่ตอบแถมยังนั่งเขี่ยดินเล่นอยู่นิ่งๆเหมือนไม่ได้ยิน
“เรียกไม่ตอบอีก”
“ไร” น้องขานรับแล้วแต่ก็ยังไม่หันมาอยู่ดี
“พูดกับผู้ใหญ่พูดงี้เหรอ”
“แล้วจะให้ พูดไงอะ” น้องหันมาทำหน้าตาเซ็งๆใส่
“พูดให้ดีๆหน่อยซิ”
“ก็ได้” ตอบเสร็จน้องก็หันไปเขี่ยดินเล่นต่อ
“แม่ลืมมารับแล้วมั้ง”
“วันนี้ป๊ามารับต่างหาก”
“เออนั่นแหละ”
“......” น้องเปลี่ยนไปเป็นเอากิ่งไม้เล็กๆที่อยู่ในมือตีพื้นแทน
“ที่บ้านทำไรอะ”
“ถามทำไมอะ” น้องหันมามองผม
“พี่ถามก่อน ตอบมา”
“ขาย ของ”
“ขายไร”
“ขาย____อะ”
“ขายส่ง เหรอ หรือ ขายปลีก ร้านอยู่แถวไหนอะ”
“ขายส่งด้วย ปลีกด้วย” ตอนนี้นอกจากหน้าที่หันมาแล้ว น้องเริ่มเอียงตัวมาทางผมด้วย
“ร้านอยู่แถวไหน”
“ถามไมอะ จะไปปล้นบ้านผมเหรอ” น้องแอบยิ้ม
“เออ”
“......” น้องแอบยิ้ม
“ป๊ามารับช้าแบบนี้บ่อยป่ะ”
“ไม่” น้องค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ผม
“อืมม......”
“พี่....” บีขยับๆเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ
“หือ”
“ทำไมชอบดุผมจังอะ” ตอนนี้น้องนั่งอยู่ห่างจากผมไม่ถึงสามคืบ
“ก็ดื้อทำไมอะ” พูดจบผมก็หันไปมองหน้าน้อง
“ตรงไหน” น้องทำหน้าตาสงสัยใส่ผมทันที เหมือนจะไม่รู้จริงๆ
“ตรงที่พูดแล้วไม่ฟังไง”
“ฟัง” น้องตอบมาจ้องตาผมเขม็ง
“แต่ก็ไม่ทำ ตาม”
“ทำ....แต่ช้านิ๊ดหน่อยเอง” ดูมันย้อน
“แล้ว เร็วไม่ได้เหรอ”
“ไม่อะ เดี๋ยวพี่ไม่ดุผม ฮ่าๆๆๆ” พูดจบก็หัวเราะอย่างสะใจ น่าลุกไปเตะสักป๊าบจริงๆเลยเด็กคนนี้


เราคุยเล่นกันจนประมาณ ทุ่มกว่าๆผู้ปกครองน้องบีก็มารับหลังจากวันนั้นน้องบีก็เริ่มคุยกับผมมากขึ้น

        วันหนึ่งผมพาน้องๆที่ยิมไปซ้อมอีกยิมหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆเนื่องจากยิมที่ซ้อม ประจำอยู่เกิดปัญหาน้ำซึมเข้ามาทำให้พื้นจิ๊กซอลื่นจนอาจทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ถ้าฝึกซ้อม เมื่อเดินทางไปถึงยิมที่อยู่ใกล้ๆกันซึ่งอยู่บนชั้นสามของอาคารสี่ชั้น น้องบี กับเพื่อนๆก็วิ่งขึ้นไปเล่นบนชั้นสี่ ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า ผมก็เดินขึ้นไปตามเพราะกลัวว่าจะไปปีนป่ายเดี๋ยวตกลงมาเอา พอขึ้นไปถึง

        ผมเห็นน้องบีกำลังยืนนิ่งๆสายตามองขึ้นไปบนฟ้าอยู่ริมกำแพง ในขณะที่เพื่อนๆกำลังวิ่งเล่นกิ๊วก๊าวๆชี้นั้นชี้นี่ด้วยความตื่นเต้น ผมเดินไปหาน้องบี พอเข้าไปใกล้สักหน่อยน้องก็รู้ตัวว่ามีคนเดินมาข้างๆ น้องหันมามอง แล้วยิ้มให้ตอนนั้นรอยยิ้มของน้องบีน่ารักมากเลยครับ เป็นรอยยิ้มที่น่าประทับใจมาก นัยน์ตาที่สดใส สีหน้าที่แสดงถึงความสุข ตั้งแต่สอนน้องบีมาผมไม่เคยเห็นน้องยิ้มแบบนี้มาก่อน ผมเดินไปใกล้ๆแล้วก็อุ้มน้องขึ้น น้องส่งเสียงหัวเราะ “แฮะๆ” ออกมาเบาๆ แล้วก็เอามือโอบคอผมไว้หลวมๆ เหมือนน้องจะมีความสุขมาก น้องหยี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อมีสายลมพัดมาปะทะ รอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่นานผมก็วางน้องลงคืนแล้วก็เรียกน้องๆทุกคนให้ลงไปที่ชั้นสามเพื่อเตรียม ตัวฝึกซ้อม ตอนเดินลง น้องบีหันมามองผมอีกครั้ง แล้วยิ้มเหมือนเมื่อตอนที่ผมอุ้มอีกครั้ง


        แล้วผมกับน้องบีก็สนิทกันมากขึ้น

To Be Con.....




สาระเพิ่มเพิ่มเกี่ยวกับเทควันโด
      เทควันโดคืออะไร ?
      เทควัน โด คือ ศิลปะการป้องกันตัวด้วยมือเปล่าของชาวเกาหลี   เท  แปลว่า  มือ  ควัน  แปลว่า  เท้า โด  แปลว่า สติปัญญาหรือการมีสติ  (ต่างจากคำว่าโดในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งความหมายโดยรวมของเทควันโดนั้นหมายถึง ศิลปะการใช้มือและเท้าด้วยสติปัญญา ปัจจุบันเทควันโดถูกบัญญัติขึ้นใหม่ โดยแบ่งเป็นหลายสาย หลายสำนักกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก และยังมีการสร้างกติกาการแข่งขันเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของคนยุค ปัจจุบัน เทควันโด ถือว่าเป้นศิลปะหนึ่งที่มีการเผยแพร่ และเติบโตอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังได้บรรจุลงในกีฬา โอลิมปิคเกมส์, ซีเกมส์ อีกด้วย
      ศูนย์กลางเทควันโด โลก  คือ  kukkiwon  เป็นสัญลักษณ์ของเทควันโด โดยมีนายอุน ยอง คิม ( Un Yong Kim ) เป็นประธานสหพันธ์เทควันโดโลก และเป็นประธานสมาคมเทควันโดของประเทศเกาหลี
ปัจจุบัน การฝึกฝนเทควันโด แบ่งออกเป็นส่วนๆ ดังนี้
1. Poomsae - พุมเซ (แพทเทิร์น : Pattern) เป็นการฝึกสมาธิ รวมถึงท่าร่ายรำกระบวนท่าต่างๆ โดยนำท่าพื้นฐานมาประกอบกันเป็นชุดรำที่ใช้ทั้งมือ และเท้าในการโจมตี และตั้งรับ

ภาพประกอบทาง Internet
2. Kyorugi - เคียรูกิ (ฟรีสแปริง : Free Sparring) เป็นการต่อสู้กับคู่ต่อสู้อย่างอิสระ โดยอยู่ภายใต้กรอบกติกากีฬาเทควันโดสากล เป็นวิธีที่ใช้ในเกมการแข่งขันทั่วไป

ภาพประกอบทาง Internet
3. Kyukpa - เคียกพา (เบรกกิง : Breaking) เป็นการฝึกฝนทักษะ และพละกำลัง โดยอาศัยวัสดุต่างๆ เช่น ก้อนอิฐกระเบื้อง หรือไม้กระดานเป็นเครื่องมือเพื่อเป็นการทดสอบความสามารถสูงสุด โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตของผู้อื่น

ภาพประกอบทาง Internet
4. Hoshinsul - โฮชินซูล (Self-Defense) เป็นการฝึกการป้องกันตัวจากสถานการ์ณต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการนำเทคนิคที่เรียนมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่ สุด

ภาพประกอบทาง Internet

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: น้องชาย
«ตอบ #9 เมื่อ12-05-2010 20:33:01 »

สู้ๆ ค๊า รออ่านใหม่อีกครั้ง ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย
« ตอบ #9 เมื่อ: 12-05-2010 20:33:01 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 1 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #10 เมื่อ12-05-2010 20:38:17 »

===  ตอนที่ 2 ===


        หลังจากวันนั้นน้องบีก็คุยกับผมมากขึ้น แล้วก็ให้ผมอุ้มมากขึ้น แล้วการอุ้มที่ไม่สูงนักทุกครั้งที่อุ้มน้องก็จะกอดผมเบาๆแล้วการกอดเบาๆ นั้นก็กลายเป็นการกอดบ่อยขึ้นตามไปด้วย แล้ว....ผมกับน้องบีก็เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น มากขึ้น แต่การดุน้องบีนั้นก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย วันหนึ่งผมพาน้องบีลองเตะท่า Sidekick*2 ดู ผลปรากฏว่าน้องบีเตะเบี้ยวแถมยังเตะต่ำอีก

“บี สูงกว่านี้หน่อย”
“สูงแล้ว” พูดแถมทำหน้าเซ็งใส่
“ไม่เอา สูงกว่านี้อีก” ผมเดินเข้าไปใกล้น้องมาขึ้นเพื่อกดดัน
“ได้แค่นี้แหละ” น้องยืนยันว่าสูงสุดของเค้าได้แค่นี้
“ไหนเตะค้างไว้ดิ๊”น้องเตะค้างไว้ แล้วผมเดินเข้าไปจับเท้าบีแล้วยกขึ้น
“โอ๊ยย เจ็บนะ” น้องพยายามจะดึงขากลับแต่ผมจับไว้แน่น
“เนี่ยะเอาสูงๆแบบนี้อะ จะได้เตะหัวได้” พอยกได้สูงพอควรแล้วผมก็บอกน้องให้รู้ว่า คราวหน้าให้สูงขนาดนี้ ก่อนจะปล่อยขาน้องลง
“นี่ก็หัว” น้องยืนเตะต่ำๆแบบครั้งแรก ประมาณว่าท้าทาย
“หัวอะไรต่ำแค่นี้ หัวเข่าไง หรือ หัวแม่โป้งอะ” ผมฉุนนิ๊ดๆแต่ไม่อยากแสดงออกเลยพูดติดตลกไป
“แย่งมุขอะ” น้องยิ้ม
“ดูดิขนาดต่ำแล้วยังเบี้ยวอีก”  ผมติต่อ
“พี่อะ” น้องทำหน้าตางอนใส่เฉยเลย
“ทำไม”
“ดุแต่ผมล่ะ”
“คนอื่นก็ดุ”
“ไม่เห็นดุเลยเนี่ยะ ดุแต่ผมอยู่คนเดียวเลย”
“ชอบไม่ใช่เหรอ”
“พี่อะ”
“เอ้าทุกคนเดี๋ยวพี่ให้พัก 10 นาทีนะ เว้นบีคนเดียว ที่เหลือไปพักได้” แล้วขณะที่ผมกำลังจะสั่งพัก
“อ้าว ไหงงั้นอะ” บีทักขึ้นมา
“เราไปเตะคนเดียว ซ้าย 50 ขวา 50 แล้วค่อยพัก ไม่ต้องอู้ด้วยนะ นับดังๆเดี๋ยวพี่จะฟังนับไม่ดังเริ่มใหม่ด้วย” แล้วผมก็เดินไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่หลังยิม บีก็เตะไปนับไปท่าทางไม่พอใจเท่าไหร่

        แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ จริงๆจะเรียกว่าการลงโทษมันก็ไม่ใช่นะ น้องบีไม่มีพรสวรรค์ ก็เลยต้องฝึกมากหน่อย ส่วนตัวผมว่าพรสวรรค์ก็แค่ส่วนหนึ่ง ผมเองก็ไม่มีพรสวรรค์ ผมชอบเล่นเทควันโดเพราะได้สนุกกับเทควันโดมากกว่า อีกอย่างถ้าใจรักฝึกมากๆก็เก่งได้ แต่ถ้าพรสวรรค์ด้วยก็ดีเหมือนเสือติดปีก อืมมมม

ระหว่างที่ผมนั่งคิดน้องอ้นเพื่อนน้องบีก็มานั่งใกล้ๆผมเลยเปรยไปว่า
“อ้น ทำไงบีถึงจะตั้งใจซ้อมมากกว่านี้อะ”
“หือ.....ไม่รู้ซิครับ”
“อยากให้เก่งมากกว่านี้อะ”
“เอาอะไรกับมันพี่ ได้แค่นี้ก็หรูแล้ว” พูดจบน้องก็หัวเราะเบาๆ
        เตะครบ บีก็แอบๆเดินมาส่องว่าผมมีท่าทียังไง พอเห็นผมนั่งมองเฉยๆ บีก็รีบวิ่งๆมานั่งบนตักผมแล้วก็เอามือผมไปแอบตัวเค้าเอาไว้ แล้วเค้าก็นั่งพิงผม หัวก็พิงไหล่ผม ได้ยินเสียงหายใจหอบๆของน้องชัดเลย รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วตัวร้อนกว่าปรกติหน่อยๆ
“เหนื่อยอะดิ”ผมทักไป
“พี่ลองดูไหมอะ” น้องบีพูดพลางเล่นมือผมไปด้วย
“บ่อยแล้วอะเลยอยากให้น้องๆลองดูบ้าง”
“......” บีไม่ตอบ เอาแต่นั่งเล่นมือผมลูบไปลูบมาเบาๆ
        วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังรอสอนผมก็นั่งฟังเพลงกับ PSP อยู่บนโซฟา ไม่รู้ว่าน้องบีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นอีกทีก็ยืนอยู่ข้างๆแล้ว ไม่นานเท่าไหร่ น้องบีก็สะกิดเบาๆแล้วก็พูดว่า.....
“เล่นเกมเหรอ” บีถามผม
“เปล่า ฟังเพลง” ผมตอบกลับไป
“ผมฟังด้วย”
        พูดจบน้องบีก็มุดใต้แขนเข้ามานั่งบนตักผมแล้วก็ดึงหูฟังออกจากหูผมข้างหนึ่ง ไปใส่หูตัวเอง แล้วน้องบีก็ค่อยๆเอนหลังมาพิงผมหัวน้องบีพิงกับไหล่ซ้ายผม น้องเอามือผมทั้งสองข้างไปโอบกอดตัวน้องไว้เบาๆ เรานั่งกันอยู่อย่างนั้นสองคนจนกระทั้งเด็กคนอื่นเริ่มทยอยมาไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่กอดน้องบี ในคราวต่อมาเมื่อผมยื่นมือขึ้นมาหนึ่งข้างแล้วแบมือออกเหมือนขออะไรสักอย่าง น้องบี จะทราบทันทีว่าหมายถึงอะไร น้องจะเดินมาหายื่นมือข้างหนึ่งมาวางบนมือผมแล้วก็หันหลังพิงตัวผมให้ผมกอด ซึ่งบางครั้งน้องก็จะเป็นฝ่ายดึงมือผมเข้าไปกอดตัวน้องเอง
        ดูเหมือนว่าการกอดจะเป็นเรื่องปรกติไปซะแล้ว หลังจากนั้นน้องบีเริ่มแสดงความสนิทกับผมมากขึ้น หลายครั้งที่ผมนั่งพิงกำแพงน้องก็จะมานั่งตัก หรือ นั่งบนที่นั่งน้องก็จะมานั่งบนขาแล้วเอามือผมไปเล่น กระทั้งเวลายืดเส้นน้องบีจะต้องให้ผมไปช่วยตลอด จนถึงกับมีน้องคนหนึ่งพูดออกมาว่า “อะไรๆพี่ก็ทำให้แต่บีคนเดียว” ฟังดูแปลกๆแต่มันก็จริงนะผมเน้นสอนแต่กับบีคนเดียวมากกว่าคนอื่น “ก็บีเค้าอ่อนกว่าคนอื่นนี่นา” ใจก็อยากจะพูดออกไปแต่มันก็คงไม่ “แล้วอยากโดนลงโทษบ่อยๆแบบบีดูบ้างไหมล่ะ” ผมพูดถามกลับไปแบบยิ้มๆ น้องๆพากันส่ายหน้าอย่างรวดเร็วแต่กับน้องบีเนี่ยะเค้าก็ยังมีปัญหาอีกเรื่องหนึ่งคือการเปลี่ยนชุด เค้าจะเปลี่ยนชุดทุกครั้งเมื่อเรียกเข้าแถว ทำให้บางครั้งต้องเสียเวลารอ*1 จนวันหนึ่งผมเซ็งๆวันนั้นผมเห็นบีนั่งใจลอยอยู่คนเดียวเพื่อนๆยังมากันไม่เยอะ
“บี” ผมเรียกน้องบี
“ครับ” น้องบีหันมามอง แล้วผมก็ยื่นมือขึ้นมาแล้วแบมือออก น้องบีก็เดินเข้ามาหา เอามือข้างหนังมาวางวนมือผม ผมจับมั๊บเข้าให้ น้องทำท่าตกใจหน่อยๆ แล้วน้องก็คงสังเกตเห็นว่าใกล้ๆกันมีถุงผ้าใส่ชุดของน้องอยู่ ครับตีความออกอย่างเร็ว ผมคิดในใจ “แหม๋เรื่องแบบนี้ฉลาดล้ำโลกจริงๆ”
“ไม่ๆยังไม่เปลี่ยน” น้องเริ่มดิ้น
“เปลี่ยนเลย”
“ไม่ๆๆๆๆๆ”
“รออะไร”
“รออ้น”
“ไม่ต้องรอวันนี้อ้นไม่มา”
“พี่รู้ได้ไง”
“โทรศัพท์ซิ จะให้มีพรายกระซิบไง?”
“จริง”
“โกหกได้อะไร”
        พูดจบน้องก็ยอมเดินตามผมไปแต่โดยดี พอเข้าห้อเปลี่ยนชุดผมก็คิดในใจ “กรูจะเข้ามาด้วยทำไมฟร่ะเนี่ยะ” ผมยื่นถุงใส่ชุดให้น้องบี แล้วผมก็เดินออกมา ผ่านไปกว่า 10 นาทีน้องบีก็ยังไม่ออกมา ผมเลยเดินเข้าไปดูในห้องอีกที ปรากฏว่าน้องยังไม่เปลี่ยนชุดครับ ยืนเก้ๆกังๆอยู่นั้นแหละ ผมเลยเดินเข้ามาหาน้องแล้วจับน้องถอดเสื้อออก
“พี่ทำไรอะ” น้องบีถามขึ้นพร้อมกับมีการปัดป้องพอสมควร
“เปลี่ยนชุดให้”
“ผมเปลี่ยนเองได้”
“นานแล้วไม่เห็นเปลี่ยนสักที”
“ไม่ๆ”
“เงียบ! อยู่นิ่งๆซิ” ทันทีที่พูดจบน้องนิ่งลงทันทีครับ
        ผมเลยถอดเสื้อกับกางเกงน้องออกแล้วก็ใส่ชุดให้น้อง พอใส่เสร็จ ผมกำลังจะเดินออกมาน้องก็คว้ามือผมไว้
“พี่” น้องพูดเบาๆ
“....” ผมไม่พูดแต่หันกลับมามอง
“มัดสายให้ผมด้วย” พูดจบน้องก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม
        พอออกมา ผมมานั่งบนพื้น น้องก็มานั่งตรงหว่างขา แล้วก็พิงผมเหมือนเดิม ดึงมือผมไปเล่นต่อ
“บี ทำไมเปลี่ยนชุดต้องรออ้นล่ะ”
“ก็เปลี่ยนคนเดียวมันเหงา”
“เหงาไง เปลี่ยนชุดแกยังเหงาได้อีกเหรอ”
“ได้ดิ”
“ขี้เหงาเหรอ”
“อื่อ” พูดจบน้องก็พิงหัวบนไหล่ผม
        หลังจากวันนั้นนอกจากต้องมัดสายให้แล้วก็ยังต้องมีเปลี่ยนชุดให้ด้วย อืมมมม แต่แล้วพอใกล้ถึงเวลาซ้อมก็ปรากฏว่าน้องอ้นมาครับ ทันทีที่เห็นน้องอ้นเท่านั้นแหละ น้องบีหันมามองผมทันที
"ไหนว่าอ้นไม่มาอะ"
"ไม่รู้ดิ"
"พี่อ๊า หลอกผม"
"เหอๆๆๆๆ"




To Be Con......


*1 การเข้าแถวจำเป็นจะต้องเรียงตามลำดับขั้นของสาย สายขั้นสูงสุดจะอยู่หน้าสุด ส่วนจะเรียงจากทางซ้ายมือสุดของแถว  หรือ ขวามือของแถว ขึ้นอยู่กับแต่ละยิม
*2 ท่าเตะ Sidekick ครับ 
http://www.youtube.com/v/4j1w--TjqVY&hl=en_US&fs=1&


==================================

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ลำดับขั้น
ลำดับขั้นของเทควันโดนั้นจะมทีอยู่ทั้งหมด 11 ระดับ ( ไม่รวมสายขาว )
1. เหลือง ขั้น 1
2. เหลือง ขั้น 2
3. เขียว ขั้น 1
4. เขียว ขั้น 2
5. ฟ้า ขั้น 1
6. ฟ้า ขั้น 2
7. น้ำตาล ขั้น 1
8. น้ำตาล ขั้น 2
9. แดง ขั้น 1
10. แดง ขั้น 2
11. ดำ

ต่างประเทศจะมีแค่ 8 เพราะต่างประเทศ เมื่อขึ้นสายน้ำตาลแล้ว จะไปสายดำต่อเลย จะมีแค่ประเทศไทยเท่านั้นที่เพิ่มสายแดงเข้ามา
โดยวิธีการสอบเลื่อนสายนั้นแต่ละขั้นก็จะมีท่าจำเพาะของตนเอง
สนใจลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่เวปนี้ : http://chokchaitkd.igetweb.com/index.php?mo=3&art=61936

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 2 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #11 เมื่อ12-05-2010 20:40:46 »

===  ตอนที่ 3 ===



        เคยรู้สึกบ้างไหมครับ เวลาอยู่ใกล้ชิดใครสักคนมากๆบางทีก็ทำให้เราหวั่นไหวได้เหมือนกันนะ ยิ่งกับคนที่พอใกล้ชิดด้วยแล้วมีการตอบรับกลับมาแบบที่ค่อนข้างพิเศษด้วยยิ่งทำให้เราหวั่นไหวได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะตอบรับแบบเพื่อน แบบพี่ แบบน้อง หรือ แบบอื่นๆ ที่ทำให้เรารู้สึกสนิทสนมมากๆ บางคนอาจห้ามความรู้สึกไม่ไหว หลายครั้งที่อยู่ใกล้ๆเค้าแล้วรู้สึกอบอุ่น มีความสุข หัวใจเต้นแรง อยู่ห่างๆแล้วก็คิดถึง เป็นห่วง หรือ แค่เห็นเค้ายิ้ม มีความสุข เราก็อดที่จะยิ้ม แล้วก็มีความสุขตามไม่ได้
        หลายครั้งที่กอดน้องบี ไม่ว่าจะยืนแล้วน้องมายืนพิง นั่งบนเก้าอี้แล้วน้องจะมานั่งบนตัก หรือ นั่งกับพื้นแล้วน้องมานั่งตรงหว่างขา กลิ่นหอมๆจากชุดของน้องจะลอยขึ้นมาถูกจมูกผม แล้วที่น้องมานั่งเล่นมือผมผมก็รู้สึกชอบมีความสุขยังไงก็ไม่รู้มือนุ่มๆนิ้วนุ่มๆของน้องบีลูบไปมาบนฝ่ามือผมจับนิ้วผมบีบๆเล่นเบาๆ อืมมมม รู้สึกดีแฮะ
        วันหนึ่งขณะที่อะไรๆมันก็ดำเนินไปอย่างทุกๆวัน ขณะที่ผมกำลังนั่งวาดรูปเล่นอยู่น้องบีก็วิ่งมาหา

“พี่....” บีเรียกผมเสียงอ่อยๆ
“มีไร” ผมถามกลับไปโดยที่มือยังวาดรูปอยู่
“ปะ”
“ปะ อะไร”
“เปลี่ยนชุด”
“เดี๋ยวก่อน”
“พี่ทำไรอะ” น้องถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความสนใจในสิ่งที่ผมทำอยู่
“กินสุกี้มั้ง”
“พี่อะ” พูดจบบีก็เดินมาใกล้ๆยืนมอง
“ผมก็วาดเป็น”
“จริงอะ”
“จริงดิ”
“งั้นวาดให้ดูหน่อย ห้ามวาดหัวไม้ขีดนะ” แล้วน้องก็มุดแขนผมเข้ามานั่งบนตัก
“ดูแล้วกัน” น้องพูดอย่างท้าทาย
        แล้วน้องบีก็ก้มหน้าก้มตาวาด  ไม่นานน้องก็วาดเสร็จ แล้วก็ชูผลงานขึ้นมาให้ผมดู “อ่า ตัวไม้ขีดเสริมเกราะไม้ขีดชัดๆ” ผมคิดในใจ
“สวยป่ะ” น้องพูดอย่างภูมิใจ
“เออ สวยก็สวย”

        ระหว่างที่น้องพูดชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่นั้นผมมองเห็นหลังคอน้องชัดเจนปรกติผมไม่เคยสังเกตมาก่อนแต่วันนี้ไม่รู้เพราะแสงอาทิตย์ตอนบ่ายๆใกล้พลบค่ำหรือเปล่าที่ทำให้สีผิวน้องบีวันนี้ดูสวยมาก ผิวสีขาวอมชมพูหน่อยๆพอต้องกับแสงแดดสีส้มในช่วงเวลานั้นทำให้สีผิวของน้องดูเนียนมาก ผมมัวแต่มองดูจนไม่ได้ยินเสียงของน้องเลย ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดอะไร จู่ๆผมก็ก้มลงไปหอมเบาๆแล้วก็จูบเบาๆที่หลังคอของน้อง แขนสองข้างของผมสวมกอดตัวน้องเบาๆไว้โดยอัตโนมัติ ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นน้องพูดอะไรหรือเปล่า แต่ที่รู้คือน้องไม่ได้ดิ้นขัดขืน ผมว่าน้องก็รู้สึกแหละว่ากำลังถูกทำอะไรอยู่ หัวใจผมเต้นแรงมากขึ้น น้องบีเองก็เช่นกันตัวน้องเริ่มร้อนขึ้นผมรู้สึกได้ ตอนนั้นเหมือนว่ามันเป็นไปตามขั้นตอนแล้ว ผมอ้าปากออกเล็กน้อย สอดปลายลิ้นออกมา แล้วปลายลิ้นผมก็แตะลงบนหลังคอน้องเบาๆผมค่อยๆขยับไปทางขวาช้าๆ อย่างนุ่มนวนที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ในตอนนั้น แล้วก็วนมาทางซ้าย มือทั้งสองข้างของน้องถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างลำตัว ข้างซ้ายยังกำกระดาษไว้ ข้างขวาก็ยังกำดินสอไว้เช่นกัน ผมกอดน้องแน่นขึ้นมาอีกเล็กน้อย ผมรู้สึกได้ถึงการหายใจของน้องที่เร็วขึ้นแล้วก็แรง น้องกำลังหอบเบาๆ
        ก่อนที่จะทำอะไรต่อไปจู่ๆสติผมก็กลับคืนมา “นี่กรูทำอะไรอยู่ฟร่ะ” ผมคิด ผมค่อยๆเอนหลังออกมาช้าๆ น้องไม่พูดอะไรเลย “เรือหายแล้วกรูทำอะไรลงไปเนี่ยะ น้องเป็นผู้ชายนะ” ผมอุทานในใจเรานั่งนิ่งกันอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง น้องก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ผมเองก็รู้สึกอายมากจนไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน มันอาจจะแค่ 3 หรือ 5 นาที แต่สำหรับผมในตอนนั้นแล้ว มันช่างยาวนานมาก

“พี่” บีพูดขึ้นมาทั้งๆที่ยั่งนั่งหันหลังอยู่
“อะ...อื่อ” ผมตอบกลับไปเสียงสั่นเล็กน้อย
“เปลี่ยนชุดปะ” น้องพูดทั้งๆที่ยังไม่หันมาเหมือนเดิม

        ตอนนั้นผมรู้ว่าผมผิดเต็มๆมันเหมือนผู้ร้ายที่ทำผิดไปแล้วแล้วมาสำนึกผิดทีหลังทำให้ผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับน้องยังไงดี “น้องโกรธไหม น้องจะบอกใครไหม ฯลฯ” คำถามเหล่านี้โผล่ขึ้นมาในใจ น้องลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าที่ใส่ชุดมา ผมก็ลุกแล้วเดินตาม พอเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด ผมดึงประตูปิด น้องบียืนอยู่เฉยๆ ตอนนั้นน้องใส่เสื้อยืดคอกลม กับกางเกงขาสั้น ผมดึงเสื้อน้องขึ้น แล้วก็ดึงกางเกงน้องลง น้องไม่ได้มองผมเลย ผมใส่กางเกงให้น้องก่อน ตามด้วยเสื้อ

“เสร็จแล้ว” ผมพยายามพูดให้ธรรมดาที่สุด
“พี่” น้องหันมามองผม
“หือ”
“สายล่ะไม่มัดเหรอ”น้องยื่นสายขึ้นมาให้ผม แล้วยิ้มนิ๊ดหน่อย

        แล้วผมก็มัดสายให้น้อง แล้วพอออกจากห้องแต่งตัวก็มีน้องมาถึงพอดีอีก 3 – 4 คน ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปรกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  น้องบีดูเหมือนจะไม่โกรธ ไม่พูดอะไรเลย ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
        หลังจากวั้นนั้นทุกครั้งที่สอนแล้วต้องแยกไปสอนตัวต่อตัวการจับหรือสัมผัสตัว*1น้องมันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่โดนรู้สึกได้เลยว่าหัวใจน้องเต้นแรงมาก บางครั้งที่ต้องโอบตัวไว้เพื่อให้น้องเตะท่าที่ถูกต้องได้โดยไม่ล้มน้องมักหน้าแดงหน่อยๆผมว่า...น่ารักดีนะ
ครั้งหนึ่งก่อนไปแข่งกีฬาพี่ที่สอนด้วยกันเค้าพาน้องๆซ้อมหนักมากขนาดที่ว่าผมเองยังขอบายผมเปรยๆกับพี่อีกคนที่กำลังยืนอึ้งอยู่ว่า “เชื่อป่ะพี่ พรุ่งนี้น้องๆต้องปวดขากันหมดแน่”  วันต่อมาก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย มีน้องมากันแค่ ไม่กี่คน พอถึงเวลาซ้อมผมก้เรียกเข้าแถว

“แปะๆๆ” เสียงผมตรบมือเป็นสัญลักษณ์ว่าให้น้องๆหันมาเตรียมรับคำสั่ง
“คัมมาน ชุลซา”*2 พูดจบน้องๆวิ่งกรูกันมาเข้าแถวอย่างรวมเร็ว เว้นแต่ อ้น คนเดียว
“ไวอ้นไว” ผมพูดย้ำให้อ้นรีบวิ่งมาเข้าแถวแทนที่จะเดิน
“คร๊าบๆ”
        พออ้นมาเข้าแถวปั๊บผมก็สั่งให้น้องๆเคารพสถานที่ กับ ผู้สอน แล้วก็ให้นั่งลง ตามด้วยเสียงบ่นแบบเดิมๆ
“ช้าตลอด” ผมพูดเน้นเสียงหนัก
“ครับ” อ้นตอบมาง่ายๆซะงั้น
“รู้ตัวไหมว่าช้า” ผมถามกลับไป
“ครับ”
“แล้วก็ยังจะช้าอีก”
“ครับ”
“รู้ไหมว่าผิด”
“รู้ครับ”
“เออ แฮะ รับง่ายๆไม่มีเถียงกลับเลยงี้ต้องชมสักหน่อย” ผมคิดในใจ
“พวกเราดูอ้นเป็นตัวอย่างนะ เวลาเค้าทำอะไรผิด เค้าก็จะยอมรับผิดตลอด” น้องๆในยิมหันไปมองอ้นประมาณว่า
“โอโหทำผิดก็ยิ่งถูกชม”
“แต่......” ผมเว้นช่วง น้องๆละสายตาจากอ้นมามองผมแทน
“ไม่เคยสำนึกเลย” เท่านั้นแหละ ฮา กันใหญ่ อ้นยิ้มแบบอายๆ แล้วผมก็ชวนคุยต่อว่า
“คนมาน้อยจังวันนี้” น้องๆไม่มีใครพูดอะไรผมเลยต่อ
“คิดถึงน้องเต้ น้องนัท น้องฝน น้องอึ๊ง น้องต้นหอม กับหลายๆคนที่ไม่ได้มาจังเลย” พูดจบน้องบีก็หันมามองผมทำตาหวานใส่ด้วยผมเลยพูดหยอกไปว่า
“มองไร พี่ไม่คิดถึงเราหรอก” พอผมพูดจบเท่านั้นแหละน้องบีหันหน้าออกทันทีเลย แล้วพูดกลับมาว่า
“ก็ช่าง” พร้อมกอดอกทำหน้าตาหงุดหงิดนิ๊ดหน่อย
        แล้วตอนนั้นน้องกล้าที่นั่งใกล้ๆบีเลยพูดแกล้งไปว่า
“ช่าย ไม่ต้องไปคิดถึงมันหรอก ไอ่บีอะ” น้องกล้าทำท่ากำลังจะหัวเรา แต่ยังไม่ทันที่กล้าจะหัวเราะออกมา บีก็หันกลับมาอย่างเร็วแล้วพูดว่า
“เสือก!!!” สั้น ง่าย ได้ใจความ ทำเอากล้าเงียบกริบ ไม่กล้าเล่นกับบีเลยวันนั้น



To Be Con





*1 หลายครั้งการสอนท่าเตะต่างๆผู้เรียนอาจไม่สามารถทรงตัวได้เองในระยะแรกๆจำเป็นที่จะต้องมีการจับประคองเพื่อให้ผู้เรียนสามารถหาจุดทรงตัวได้ ส่วนมากจะใช้กับท่าเตะที่มีความยาก ต้องอาศัยการทรงตัวค่อนข้างมาก หรือ การเคลื่อนไหวกลายจุด เช่น Round kick , Side kick , Back kick , Swing Back kick เป็นต้น
*2 "คัมมาน ชุลซา" เป็นคำสั่งภาษาเกาหลีครับ จริงๆต้องแยกคำสั่งกันนะครับ แต่ยิมส่วนมากจะสั่งรวมกัน เพราะ สะดวก "คัมมาน" แปลว่า พอแล้ว "ชุลซา" แปลว่า เข้าแถว รวมๆกันแล้วก็ประมาณว่า "พอได้แล้ว/หยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ มาเข้าแถว"




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด

มานับเลขภาษาเกาหลีกันเถอะ



โดยมากแล้วการนับจะนิยมนับแบบตัวเลขกันครับ ยกเว้นการรำ Poomsae ที่จะใช้การนับแบบลำดับ


Thx น้องต่าย ที่ตรวจตัวอักษรให้นะครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 3 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #12 เมื่อ12-05-2010 20:43:32 »

===  ตอนที่ 4 ===



“เฮ้ออออออออ” ผมถอนหายใจยาวๆหลังจากถอดหมวกกันน๊อกไปวางไว้กับกระจกมองข้าง ขณะที่ผมกำลังดึงกุญแจรถออกผมก็เห็นน้องบีเดินออกมาจากยิมพร้อมถุงดำใบหนึ่ง
“บีๆ” ผมตะโกนออกไปไม่ดังมาก แต่ก็พอที่บีจะได้ยินชัดเจน
“อ้าว พี่มาแล้วเหรอ” น้องหันมายิ้ม
“ใครใช้อะ”
“เปล่า ผมเอามาทิ้งเองมันเยอะแล้วอะ” น้องพูดแล้วก็เดินมาใกล้ๆผม
“เมื่อเช้าดื่มยาคูลท์ลืมเปิดฝาป่าวเนี่ยะ”
“หือ…..?” น้องบีทำหน้าตา งงๆ
“เปล่า แปลกใจที่เอาขยะมาทิ้ง ปรกติขนาดใช้ให้เอามาทิ้งยังไม่ยอมเลย”
“พี่อะ” น้องทำหน้าตาอายๆนิ๊ดหน่อย

ผมลงจากรถแล้วก็เดินไปข้างๆน้องบี

“ปะ พี่ไปเป็นเพื่อน” พูดจบน้องบีก็เดินไปพร้อมผม
“มีคนมายัง” ผมถามน้องบีระหว่างที่เดินไปด้วยกันช้าๆ เพราน้องเล่นไม่พูดอะไรเลยมันเงียบไป ผมเลยหาเรื่องชวนคุย
“มีแล้ว ทำไมวันนี้พี่มาช้าอะ” น้องแหงนหน้าขึ้นมามองผม
“ติดธุระ”
“อืมมมม.....ผมรอตั้งนาน” น้องพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่เล็กน้อย
“....”
“คิดว่าพี่จะไม่มาแล้ว” น้องพูดเสียเศร้าๆนิ๊ดหนึ่ง แล้วก็ก้มหน้าคอตกซะงั้น
ผมเอามือไปลูบหัวบีเบาๆ “คิดมากน่าพี่เคยไม่มาด้วยเหรอ นานๆถ้าไม่ติดธุระจำเป็นมากๆอะนะ”

พอเดินไปถึงถังขยะใหญ่*1อยู่ในซอย บีก็เดินไปใกล้ๆ แล้วหยุดทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ แล้วน้องก็หันมาพูดว่า

“พี่ๆ ดูไรนะ” พูดจบน้องก็เดินถอยหลับมา ตอนนั้นห่างถังขยะสักเกือบๆ 6 เมตรได้ น้องหันหลังแล้วก็....เหวี่ยงขยะไปหาถังแบบไม่มอง แล้วก็......ลงด้วย
“เป็นไง เจ๋งป่าว” น้องทำท่าดีใจ
“อื่อ เก่ง แต่ถ้าไม่ลง แล้วถุงแตกเนี่ยะจะให้เก็บให้หมดเลย”

        ผมพูดจบก็ยกมือขวาขึ้นมาแล้วแบมือออก น้องบีก็รู้ว่าผมหมายถึงอะไร น้องก็เดินมา ยืนมือขึ้นซ้ายขึ้นมา ขณะที่กำลังจะวางบนมือผมน้องก็เอียงตัวเข้ามากอดซะงั้น น้องกอดผมไว้นิ่ง ผมมองซ้าย มองขวา เห็นว่าไม่มีคนผมเลยโอบตัวน้องกลับไปคืน “อืมมม.......รู้สึก....อบอุ่นจัง.....” หน้าของน้องแนบตรงอกผม ลมหายใจอุ่นๆของน้องผ่านทะลุเนื้อผ้าเข้ามาผมรู้สึกได้ ไม่รู้ทำไมการกอดของน้องแล้วก็ลมหายใจอุ่นๆของน้องทำหัวใจผมถึงเต้นเร็วขึ้น น้องเองน่าจะรู้สึกถึงการเต้นที่รุนแรงของหัวใจผมตอนนั้น “ผมรู้สึกดีจัง”
“ปะ” ผมพูดขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่จะก้มลงมาจูบเบาๆที่หน้าผาก น้องหน้าแดงขึ้นมาทันที
แล้วผมกับน้องก็เดินจูงมือกันกลับไปที่ยิม พอถึงยิมน้องก็ปล่อยมือออก แล้วน้องก็ไปวิ่งเล่นกับอ้น ผมยืนมองอยู่ห่างๆแล้วคำถามหนึ่งก็เกิดขึ้นมาใน “บีคิดอะไรอยู่”


--------------------------------------------


“เอ้าทุกคนเงียบๆ วันนี้เรามีเพื่อนใหม่มาเรียนด้วยนะ เดี๋ยวให้แนะนำตัวกัน” พี่ป้อม ที่สอนเทควันโดกับผม บอกให้น้องๆบางคนที่กำลังหยอกกันวุ่นวายในแถวนิ่งเงียบเพื่อให้ฟังน้องที่มาเรียนใหม่แนะนำตัว
“เอ่อ.....”
“พูดเลยครับ ชื่อเล่น อายุ เรียนชั้นอะไร โรงเรียนอะไร” พี่ป้อมแนะนำแนวทางน้อง เพราะดูเหมือนน้องจะไปไม่ถูก
“คือ....ผมชื่อ......มิว......อายุ....ก็.....13 แล้ว......ม.1 ครับ โรงเรียนabc” น้องมิวแนะนำตัวด้วยเสียงสั่นๆ
“เอ้าทุกคนแนะนำตัวให้มิวรู้จักด้วยว่า ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เรียนชั้นอะไร โรงเรียนอะไร เริ่มที่หัวแถวก่อนเลย” พี่ป้อมบอกให้น้องๆแนะนำตัว ส่วนผมเองก็ยืนดูอยู่ด้านหลัง ระหว่างนั้นบีก็หันมามองผมแล้วกวักมือเรียกผม ผมเลยเดินไปหา
“มีอะไร” ผมถามเสียงห้วนๆหน่อย
“ไม่มีอะไร พี่ยืนตรงนี้ได้ไหมอะ” น้องบีแหงนหน้าขึ้นมาพูดขณะที่นั่งอยู่
“ทำไมอะ”
“คือ....ผม.....เปล่าๆไม่มีอะไร”
“จะเข้าห้องน้ำเหรอ ยกมือบอกครูป้อมดิ”
“เปล่า ไม่ได้จะเข้า คือพี่อยู่ตรงนี้แหละนะๆ” พูดจบน้องก็ดึงสายคาดเอวผมไปกัดแล้วก็คาบค้างไว้ซะงั้น ผมดึงๆน้องก็ไม่ยอมปล่อย ผมเลยยืนอยู่ตรงนั้น จนกระทั้งแนะนำตัวเสร็จผมก็ให้น้องกล้านำวอร์มร่างกาย ส่วนผมก็เดินดูว่าน้องๆทำท่าถูกไหม บางคนอาจต้องการการดูแลเพิ่ม*2  แล้วน้องมิวเพิ่งมาใหม่ไม่รู้เรื่องการยืดเส้นทำให้ผมต้องไปดูแลเพราะทำผิดๆถูกๆ ระหว่างที่ดูแลมิวอยู่ น้องบีก็หันมามองอยู่เรื่อยๆ แล้วพยายามจะเรียกผมให้ไปช่วยดูแลน้องบ้าง
“พี่กดหลังให้หน่อยดิ”
“ทำเองไปก่อนพี่ดูมิวแป๊บหนึ่งเค้ายังทำไม่เป็น” ผมตอบกลับไป
“พี่มาดันขาให้หน่อยผมยืดไม่ได้”
“พยายามไปก่อนได้แค่ไหนเอาแค่นั้นแหละ พี่ดูมิวแป๊บ”
“พี่ จับขาให้หน้อยท่านี้ผมทำแล้วล้ม”
ฯลฯ
จนกระทั้งวอร์มเสร็จผมก็ไม่ได้ไปดูแลน้องบีเลยจนถึงท่าเตะผมก็ยังต้องดูแลมิวอยู่ บีทำท่าหงุดหงิดนิ๊ดหน่อย
“เดี๋ยวพี่ให้พัก 10 นาทีนะครับ ก่อนพัก จับคู่กัน วิดพื้น 20 ลุกนั่ง 50  โช*3 พอโค้งคำนับกันเสร็จ บีก็วิ่งมาเกาะขาผมทันที น้องเอาสองมือกอดขาผมไว้แน่น ขาก็มาเกาะด้วย ( เหมือนลิงเกาะต้นไม้เลย )
“ผมคู่กับพี่” น้องเงยหน้าขึ้นมาพูด
“ไม่คู่กับอ้นอะ”
“ไม่เอา” พูดจบน้องบีก็ทำหน้าตาจริงจังกับชีวิตขึ้นมาทันที
“เอาๆ ก็ได้ๆ”

หลังจากนั้นทุกครั้งที่มีการแยกซ้อม*4 แล้วผมไปดูแลมิว บีก็มักจะมาก่อกวนอยู่เรื่อยๆ

------------------------------------------

“พี่ผมว่ามิวมีพรสวรรค์นะ” ผมพูดกับพี่ป้อมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลังยิม
“พี่ก็ว่าอยู่” พี่ป้อมวางปากกาที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ แล้วเอนเก้าอี้หันมามองผม
“สอนอะไรให้ ให้ทำอะไร น้องเค้าสามารถทำตามได้เร็วมาก ท่าเตะก็ใช้ได้เลย แถมเตะหนักด้วย”
“เราดูแลได้ไหมล่ะ”
“อืมมมม อยากให้พี่ดูมากกว่า”
“เราก็ได้....ลองดูปั้นเด็กสักคน*5 ไม่แน่เราอาจมีวิธีฝึกเด็กให้เก่งได้มากกว่าพี่ก็ได้” พี่ป้อมพูดพลางยิ้มๆ
“ผมจะลองดูแล้วกัน” ผมยิ้มๆกลับไปเพราะไม่มั่นใจว่าผมจะทำให้ มิว เก่งได้
        หลังจากนั้นผมก็เน้นหนักกับน้องมิวเป็นหลัก โดยให้มิวซ้อมมากกว่าคนอื่นประมาณ 1 – 2 เท่า ซึ่งมิวก็ไม่บ่นแต่กลับทำตามจนครบแบบไม่อู้ ซึ่งก็มีบีคอยตามก่อกวนอยู่ไม่ห่าง ปาแป้นใส่มิวบ้าง ทำเป็นมาวิ่งเล่นใกล้ๆบ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่ามิวจะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ จนผมกับน้องมิวสนิทกันมากขึ้น ทำให้ช่วงเวลาที่ไปดูแลน้องบีน้อยลง แล้ววันหนึ่งระหว่างที่พักผมเห็นน้องมิวนั่งใจลอยคนเดียวอยู่บนเบาะผมเลยเดินไปนั่งใกล้ๆแล้วชวนคุย
“มิว สนใจลงแข่งป่ะ”
“แข่งเหรอพี่ ไม่ไหวมั้ง” มิวยิ้ม
“ไม่ลองไม่รู้” ผมพูดทำนองว่าชักชวนออกไป
น้องมิวหันมามองผม “ผมไม่เคยลงแข่งเลย ไม่รู้กฏอะไรเลย” พอพูดจบก็ก้มหน้ามองเพื้น เอานิ้วชี้เขี่ยๆเบาะ
“งั้นเดี๋ยวพี่จะบรรยายให้ฟัง”
        แล้วระหว่างที่ผมนั่งคุยกับมิวอยู่ น้องบี ก็มานอนหนุนตักผม แล้วก็เอามือซ้ายผมไปเล่น ผมก็เอามือข้างขวาลูบผมน้องบีเบาๆสลับกับลูบหูลูบคาง แต่แล้วจู่ๆน้องก็นอนคว่ำหน้าซะงั้น ผมก็ไม่ได้สนใจ ยังลูบหัวน้องเล่นต่อไป สลับกับลูบหลังคอ แล้ว.......จู่ๆผมก็รู้สึกเปียกๆที่ขาขวาเหนือหัวเข่าขึ้นมาเล็กน้อยตรงจุดที่ น้องบีนอนหนุนอยู่.....ผมหันมามองปรากฏว่าน้องบีกำลังแอบเลียขากางเกงผมอยู่ ไม่รู้ว่าทำไม ไม่รู้ว่าเพราะอะไรน้องถึงทำแบบนั้น ก่อนหน้านี้น้องก็เคยงับสายผมจนเปียกน้ำลายไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ว่าคราวนี้.....ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่บอกให้น้องหยุด......ลิ้นอุ่นๆของน้องที่กำลังวาดไปมาช้าๆ เบาๆ สลับกับลมหายใจอุ่นๆที่กระทบ ผมรู้สึกได้เลยผ่านเนื้อผ้าบ้างๆของชุด Adidas Fighter*6 แม้ว่าแค่จุดเล็กๆแต่กลับทำผมขนลุกไปทั้งตัว ไม่นานนัก น้องก็เปลี่ยนมาทำแบบเดิมที่ขาซ้ายบ้าง......พักหนึ่งใจผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
“มิวเดี๋ยวไงมาคุยกันอีกที สงสัยอะไรก็ถามพี่นะ” ผมพูดจบก็เอามือผลักๆน้องบีออกเบาๆ
“อะ...ครับได้ๆ” มิวยิ้ม
แล้วบีก็ขยับไปนั่งเรียบร้อบด้านซ้าย พอผมมองขากางเกงที่เจ้าบีเลียๆเมื่อกี้แล้ว “อิ๊ววววว เปียกน้ำลายเจ้าบีเต็มเลย โถ่ Das Fighter ลูกพ่อ”


To Be Con......



*1 ถังขยะข้างยิมเป็นที่ทิ้งขยะใหญ่ๆอะครับของเทศบาล เป็นเหล็กทั้งอันเลยอะ ผมก็ไม่รู้ว่าเรยกว่าอะไร แต่น่าจะเต็มแล้วยกขึ้นรถเอาไปเททิ้งได้เลย
*2 ท่าวอร์ม หรือ ท่ายืดเส้นบางท่า อาจต้องมีคนช่วยอะครับ เช่นท่าฉีกขาเป็นต้น
*3 "โช ( shee-yo )" เป็นคำสั่งภาษาเกาหลีครับ แปลว่า พัก
*4 หลังจากยืดเส้นยืดสาย เตะวอร์มเสร็จแล้ว จะมีการแยกซ้อมต่างหาก ของใครของมัน ซึ่งจะมีรุ่นพี่มาช่วยดูแลรุ่นน้อง แล้วครูผู้สอนจะเดินดูอีกทีหนึ่ง
*5 ครูแต่ละคนจะมีเด็กที่อยู่ในการดูแลเป็นพิเศษของตนเอง ซึ่งเด็กเหล่านี้ครูอาจดูแล้วว่ามีแวว ถูกชะตาด้วย หรือ อะไรก็ตาม ซึ่งเด็กจะถูกสอนแบบพิเศษกว่าคนอื่น เช่นพวกนักกีฬา หรือ เด็กที่ครูคนนั้นเห็นว่ามีพรสวรรค์สามารถทำให้เก่งได้
*6 Adidas Fighter เป็นชุดเทควันโดรุ่นหนึ่งของ Adidas มีคุณสมบัติพิเศษต่างๆหลากหลายจุดเด่นที่สุดเลยก็คือเนื้อผ้าที่บางมาก


เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
คำสั่งพื้นในชั้นเรียน


จริงๆคำสั่งมีมากกว่านี้ แต่นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆครับ


Thx น้องต่ายที่ตรวจสอบตัวอักษรให้นะครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 4 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #13 เมื่อ12-05-2010 20:46:08 »

===  ตอนที่ 5 ===




“โครกกกกก.......ครืดดดดดดด”

        อ่า เสียงท้องผมร้องช่างน่ากลัวจริงๆ วันนี้ผมยังไม่ได้ทานข้าวเลย เมื่อเช้ามีเรียนตั้งแต่ 08.00 น. ตื่นได้ก็ไป ม. ก่อนเลย กว่าจะเรียนเสร็จ กว่าจะไปทำรายงานส่งอาจารย์เสร็จ ไม่เข้าใจจริงๆว่าสั่งงานเช้าให้ค้นคว้าให้เสร็จแล้วเขียนรายงานมาส่งตอนบ่ายเนี่ยะ ได้ประโยชน์จากการค้นคว้ายังไง เวลาน้อยมาก แทบจะลอกๆต้นฉบับเค้ามาส่งด้วยซ้ำ เฮ้อ บ่นไปก็แค่นั้น หาอะไรทานก่อนดีกว่า จอดรถเสร็จ ถอดหมวกกันตำรวจไปห้อยไว้กับกระจกมองข้าง ร้านค้าแถวนั้นก็ไม่น่าเข้าไปทานเลย แม่ค้าทำหน้าตาเหมือนจะงับหัวให้ได้ถ้าพูดจาไม่เข้าหู อารมณ์ล้วนๆ ผมล้วงมือเข้ากระเป๋า หยิบเงินออกมานับ อืมมมมม.....

“140” ผมพูดกับตัวเองเบาๆเบาๆ
“กินข้าวเวฟก็ได้ฟร่ะ” ผมคิดในใจว่าแล้วก็หันหน้าไปทางร้านสะดวกซื้อที่หลายๆคนรู้จักกันอยู่ ( ไม่ได้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) เดินไปได้สัก 20 ก้าวมั้ง
“พี่” อ่า ผมรู้จักเจ้าของเสียงนี้ ผมหันไปมองก็เห็นบีวิ่งมาหาผมอย่างเร็วแล้วก็......
“โคอะล่าบอม!!” พูดจบน้องก็กระโดดเข้ามาหาผมอย่างเร็ว
“เฮ่ย!” ผมอุทานไปด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าน้องจะมากระโดดหาแบบนี้ สัญชาติญาณบอกผมว่า “เมิงอ้าแขนรับเหอะถ้าไม่อยากเจ็บ”
“ปึ๊ก!!” เสียงตัวน้องกระแทกเข้ากับตัวผมจังๆ ทำเอาผมเซถลาไปข้างหลังประมาณ3 คืบกว่าๆ สองมือผมกอดน้องเอาไว้ น้องเองก็กอดผมเช่นกัน
“ฮะๆๆ” น้องบีหัวเราะชอบใจที่ผมอ้าแขนรับเค้าไว้
“เล่นไรอะ” ผมพูดเสียงดุออกไป
“ไม่ใช่ตัวเล็กๆนะเรา ถ้าพี่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงไปจะทำไง” ผมตะวาดกลับไป แต่เสียงไม่ได้ดังมากนัก
“.....”
“ทีหลังอย่าทำอีก เข้าใจป่าว”
น้องบีถึงกับคอตก “ขอโทษ......” เสียงเล็กๆสั่นเครือดังออกมาจากลำคอ

        ผมหันหลังแล้วเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อที่ว่าต่อ กำลังหิวด้วย ระหว่างที่เดินอยู่นั้นจู่ๆก็มีมือใครก็ไม่รู้มาจับมือผมแล้วก็ดึงเบาๆ ผมหันไปมอง ก็เห็นน้องบีที่เป็นคนมาจับ น้องจับมือผมเบาๆ แต่ผมไม่ได้สนใจเดินไปต่อ น้องก็เดินตามจับมือผมอยู่อย่างนั้น

“พี่....” เสียงน้องบีเรียกผมเบาๆเหมือนรู้สึกผิด
“หืม...”
“ขอโทษ...”
“รู้แล้ว”
“อย่าโกรธนะ”
“ไม่โกรธหรอก ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้รู้ป่าว พี่ล้มอะไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าเราล้มลงไปด้วยล่ะจะทำไง”
“....”
“เดี๋ยวถ้าป๊า ถ้าม๊า เราก็มาดุพี่ จะทำไง” ผมหยุดเดิน
“.....”
“แล้วถ้าเกิดเป็นอะไรหนักๆมา พี่ทำให้ป๊า ให้ม๊า เราคืนไม่ได้นะหน้าตาแบบนี้อะ” พูดจบผมก็เอามือลูบหัวน้องบีเบาๆ น้องบียังยืนก้มหน้าอยู่ มือน้องก็ยังจับมือผมไว่อย่างหลวมๆ ดูเหมือนว่าน้องจะเป็นคนจับฝ่ายเดียวซินะ ผมกำมือน้องตอบกลับไป แล้วผมก็ก้มลงไปหอมหน้าผากน้องเบาๆ

“ปะ” แล้วน้องบีก็เดินตามผมมาต้อยๆ
“สวัสดีค่ะ” พนักงานขายทักทายต้อนรับ

        ผมเดินไปที่ Zone อาหารแช่แข็งทันที พอเดินไปถึงผมปล่อยมือจากมือน้องบี เผื่อว่าน้องจะซื้ออะไรทาน พอผมเลือกเสร็จ ผมก็เอาไปให้พนักงานขายเค้าอุ่นให้ ผมก็เดินวนกลับมาที่ Zone ตู้แช่เพราะก่อนเดินไปเห็นบียืนเหมือนกำลังจะเลือกซื้ออะไรสักอย่างอยู่ พอเดินไปก็เจอน้องยืนอยู่ที่เดิมผมเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ

“ยังเลือกไม่ได้เหรอ” ผมลูบหัวน้องบีเบาๆ
“ได้แล้ว” น้องเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“แล้วทำไมไม่หยิบออกมาอะ” ผมเลื่อนมือไปลูบหูน้องบีเล่นแทน
“.....”
“อืมมมม....เดี๋ยวพี่ซื้อให้ก็ได้”
“ไม่เป็นไร”
“น่า”
“....”
“ไหนๆเอาอันไหน” ผมเปิดประตูตู้แช่ออกให้น้องหยิบ
“.....” น้องเอื้อมมือไปหยิบออกมาช้าๆ เป็นน้ำหวานรสผลไม้ยี่ห้อหนึ่ง ( ไม่ได้ค่าโฆษณา ไม่พูดชื่อนะ ) ขวดละ 20 บาท

        แล้วผมก็เดินโอบคอน้องมาที่เค้าเตอร์เพื่อจ่ายเงิน ตอนนั้นข้าวอุ่นเสร็จพอดี  พอจ่ายเงินเสร็จผมก็เดินโอบคอน้องบีออกไป พอเดินออกมาพ้นร้านสะดวกซื้อที่ว่าได้ประมาณ 10 กว่าก้าว น้องบีก็เอามือซ้ายขึ้นมาจับมือขวาที่ผมโอบคอน้องไว้ น้องกำมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยต้องเดินโอบอย่างนั้นไปเรื่อยๆจนถึงยิม

--------------------------------------------

“พี่หวัดดีครับ” พอถึงยิมน้องมิวก็วิ่งมาสวัสดีผม
“อื่อ มานานยัง”
“สักครู่แล้วครับ ไปไหนกันมาเหรอครับ”
“ไปซื้อข้าวมา ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย เนี่ยะ ข้าวเช้า ข้าวเที่ยง ข้าวเย็น รวมกันมื้อเดียว ประหยัดช่วยชาติ” พูดจบผมก็หัวเราะ น้องมิวก็หัวเราะ
“พี่เอซื้อน้ำให้เขาด้วย” น้องบีพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยนิ๊ดๆ โดยตอนนั้นบีก็ยังไม่ปล่อยมือผมที่โอบคอเค้าไว้อยู่
“มิวๆ” ผมเรียกมิวออกไปขณะที่ผมกำลังเดินไปเข้าห้องเปลี่ยนชุด
“ครับพี่”
“เดี๋ยววิ่งวอร์มรอเลยนะไม่ต้องรอคนอื่น”
“ครับ”
“วิ่งรอบยิมสัก 10 นาทีแล้วกัน ที่เหลือเดี๋ยวพี่พาวอร์ม” พูดจบผมก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนชุด บีเองก็รีบวิ่งไปหยิบถุงใส่ชุดวิ่งตามเข้าไปด้วย

        ปรกติแล้วผมจะใส่กางเกงเทควันโดเอาไว้ส่วนเสื้อก็จะใส่เสื้อยืดค่อยมาเปลี่ยนเสื้อเอาตอนมาที่ยิม*1 พอเข้าห้องแต่งตัวผมก็แค่ถอดเสื้อยืดออก แล้วเอาเสื้อเทควันโดมาใส่ก็เสร็จใม่ถึง 2 นาที ส่วนบี ก็ยังยืนมองอยู่ ผมลากเก้าอี้ตัวอย่างมานั่ง แล้วเรียกบีมายืนใกล้ๆ ผมถอดกระดุมเสื้อนักเรียนน้องออกทีละเม็ดๆ เย็นแล้วแต่ตัวน้องก็ยังหอมอยู่เลย ผมถอดเข็มขัดกางเกงน้องออก ปลดตะขอกางเกง รูดซิบกางเกงน้องลง อืมมม น้องใส่กางเกงในสีขาวทุกวันเลยแฮะ
“ชุดล่ะ”
        ผมถามขึ้น น้องก็หันหลังไปเพื่อที่จะหยิบหยิบถุงใส่ชุดที่น้องทิ้งไว้กับพื้นขึ้นมา แต่ว่าน้องสะดุดกางเกงนักเรียนที่ถอดไว้ซึ่งผมไมได้เอาไปไหนแต่กองอยู่ที่ขาน้องบีนั่นแหละ น้องเซล้มมาด้านหลังที่ผมนั่งอยู่ ผมเอามือขวาคว้าตัวน้องเอาไว้ได้ทันก่อนที่น้องจะเซล้มลงกับพื้น น้องเอียงตัวมานั่งบนตักผมพอดี มือข้างขวาผมกอดตัวน้องเอาไว้  ยังไม่ทันที่จะได้กระดิกตัวไปไหนผมก็ก้มไปหอมหลังคอน้องบีเบาๆ มือซ้ายอีกข้างที่ว่างอยู่ก็สวมกอดเข้าที่ตัวน้องบี จากหอมก็เปลี่ยนเป็นจูบเบาๆ มือข้างขวาผมอยู่ตรงอกน้องพอดีผมเลยลูบอกเบาๆ น้องบีตัวร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีหัวใจน้องเต้นแรงจนรู้สึกได้ ผมได้ใจขึ้นมานิ๊ดหน่อยเลยไซ้ไปที่ข้างคอทั้งซ้ายแล้วก็ขวา น้องบีเองก็นั่งนิ่งๆไม่ขัดขืนอะไร ผมเลยงับติ่งหูน้องบีเบาๆ แล้วก็เลื่อนจูบใล่ลงมาที่บ่า ไหล่ ต้นแขน อ่า “อีกแล้ว” ผมคิดในใจ และ ก่อนที่จะอะไรๆไปมากกว่านี้ ผมตัดสินใจหยุด!! ผมยกมือขวาน้องบีขึ้นมาแล้วจูบลงที่หลังมือน้องเบาๆ น้องบีหันมามองแต่ไม่พูดอะไร ผมยกตัวน้องให้ยืนขึ้น แล้วก็ใส่กางเกงให้ ตามด้วยเสื้อแล้วก็มัดสายให้ หลังจากนั้นทุกครั้งที่เข้ามาเปลี่ยนชุดผมก็มักจะทำแบบนี้ซ้ำๆอยู่เรื่อยๆ จูบหลังคอบ้าง กอดบ้าง จูบมือบ้าง แต่ก็ไม่เคยมากกว่านี้ พอแต่ตังให้น้องบีเสร็จผมก็เดินออกมา บีหน้าแดงออกมาเลย แต่มิวคงไม่ได้สังเกตเพราะเห็นหอบแฮกๆเป็นหมาหอบแดดอยู่

“ครบยัง” ผมตะโกนถามมิว
“ค๊าบบบบบ” น้องตอบออกมาเสียงยาวๆด้วยความเหนื่อย
“เดี๋ยวพี่ยืนเส้นให้” พูดจบน้องมิวก็เดินไปที่กำแพง แล้วผมก็เดินตามไป มีน้องบีเดินตามมาติดๆ

        ผมให้มิวยืนหลังติดกำแพง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาตรงๆ แล้วยกขึ้นเรื่อยๆให้สูงที่สุดโดยที่หลัง แล้วก็ ขาที่ยืนเป็นหลักต่อตรงแนบชิดติดกำแพงอยู่อย่างนั้น

“เจ็บแล้วบอกนะ” ผมพูดพลางดันขามิวให้สูงขึ้นเรื่อยๆ*2
“จะ....เจ็บแล้วครับ” ผมพูดขึ้น โดยขาข้างที่ผมยกขึ้นนั้นสั่นดิ๊กๆเลยทีเดียว
“นับ 1 – 50”

        แล้วระหว่างที่มิวกำลังนับบีทำอะไร.........ครับ..... บีไปเอาก้านไม้กวาดที่เราใช้กวาดบ้านกันหักออกกิ่งหนึ่งเล็กๆแล้วก็.......เอามาก่อกวนครับ บี มายืนหลังผมแล้วแอบเอามาแหย่ๆที่ฝ่าเท้าของมิว แต่มิวไม่สนใจครับ  พอครบ 50 ผมก็ให้น้องเปลี่ยนข้างบ้างเดี๋ยวเส้นยืดไม่เท่ากัน ตอนนั้นผมรู้สึกว่าบีเงียบผิดปรกติ พอหันหลังมาดูก็เห็นเจ้าบีกำลังเขี่ยฝ่าเท้ามิวอย่างเมามัน

“เฮ่ย ทำไรเนี่ยะ”
“แกล้ง” สั้น ง่าย ได้ใจความ อิ๊ววว เฮ่ย ตอบแบบนี้ไม่รู้สึกผิดเลยรึไงกัน
“แกล้งไร มิวเค้ายืดเส้นอยู่ ไปนั่งดูดีๆไป๊”
“เสร็จแล้วทำให้ผมด้วยนะ”
“เห๊อะ แบบธรรมดาๆก็ร้องจะเป็นจะตายอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะไหวร้ออออ” ผมพูดท้าทายออกไป
“ก็ลองดูดิ เดี๋ยวผมจะทำให้มากกว่ามิวให้ดู” บี พูดด้วยท่าทางมั่นใจมาก

        พอผมจัดการยืดเส้นให้มิวเสร็จก็ถึงตาของน้องบีครับ

“อ๊ากกกกกกกกกก!!! พอแล้วๆๆๆ แค่นี้พอๆๆๆๆ” น้องบีตะโกนออกมาด้วยหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด แต่ก็ไม่วายยิ้มออกมาหน่อยๆ
“อ่าวไหนว่าให้มากกว่ามิวไง นี่ยังไม่ถึงมิวเลยนะ”
“พี่อ๊ะๆๆๆ”

------------------------------------------------------------------------

“วันนี้พอแค่นี้นะครับ ถ้าใครผู้ปกครองมาแล้วก็กลับได้เลย ถ้ายังไม่มาให้รออยู่ในยิมนะ” พี่ป้อมพูดบอกน้องๆขณะที่กำลังจะเลิกการฝึกซ้อมประจำวัน
“เอ้ากลับบ้านได้”
“แปะๆๆ เย้*3 เสียงน้องๆตรบมือ 3 ครั้งแล้วร้อง เย้ ดังขึ้นเป็ฯอันรู้ว่าวันนี้ซ้อมเสร็จแล้ว
“มิวๆ” ผมตะโกนเรียกมิว
“ครับ” มิวขานรับแล้วก็เดินมาหาผม
“เดี๋ยวเค้ามีจัดแข่งนะ พี่คุยๆกับครูป้อมว่ายิมเราจะส่งลงแข่งด้วย” แล้วผมก็ยืนคุยกับมิวเรื่องการแข่งโดยไม่ทันสังเกตว่าบีกำลังแอบมองอยู่ห่างๆแล้วพักหนึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อผมคุยกับมิวจบ แล้วมิวก็หันหลังไม่ทันจะก้าวไปไหน
“ผลั๊ก!!!” บีวิ่งมาจากไหนไม่รู้กระโดดถีบมิวซะกระเด็นไปต่อหน้าเลย
“เฮ่ย!!” ผมอุทานออกมา ดีว่าตอนนั้นพี่ป้อม กับ น้องๆหลายคนออกไปอยู่หน้ายิม เลยมีไม่กี่คนที่เห็นเหตุการณ์
“บีทำไรอะ”
“หยอก”
“หยอกอะไร มาถีบเค้าแบบนี้อะ”
“ไม่เป็นไรครับ” มิวพูดขึ้นขณะที่กำลังลุกขึ้นมา
“เฮ่ย ไม่เป็นไม่ได้ หยอกอะไรแรงขนาดนี้ วันนี้สองรอบแล้วนะ เห็นทีต้องลงโทษหน่อยแล้ว ไปวิดพื้น 50 แล้วไปวิ่งรอบยิมอีก 100 รอบ ไม่ครบไม่ต้องกลับบ้าน ป๊ามาเดี๋ยวพี่คุยเอง”
“.....”
“พี่...ผมไม่เป็นไร”
“มิวกลับบ้านได้แล้ว” ผมพูดจบมิวก็เดินออกไปช้าๆ อย่างห่วงๆ
“เราไม่ใช่ต้นเหตุหรอก” ผมพูดออกไปเพราะกลัวว่าน้องมิวจะคิดว่าเค้าเป็นต้นเหตุ

        แล้วการลงโทษก็ดำเนินต่อไป ผมโทรไปบอกป๊าน้องบีว่า “มีการฝึกซ้อมเพิ่มเติมถ้าเสร็จแล้วจะโทรบอก” ซึ่งป๊าน้องบีก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม หลายๆคนกลับบ้านผมดแล้ว กับพี่ป้อมผมก็ชี้แจงให้พี่เค้าฟัง พี่เค้าเลยให้ผมดูแล ส่วนพี่เค้าจะกลับก่อน แล้ว บีก็วิ่งจนครบ 100 รอบ ผมนั่งมองอยู่บนเก้าอี้ พอครบ เหมือนน้องจะไม่พอใจอยู่หน่อยๆ น้องบีล้มตัวนอนแปะอยู่กับพื้น ผมเดินไปใกล้ๆ

“น้ำป่ะ” ผมยื่นน้ำหวานแบบที่น้องซื้อเมื่อตอนเย็นให้
“......” น้องหันหน้าหลบ
“โกรธเหรอ” ผมนั่งลงข้างๆน้อง
“เปล่า” น้องตอบมาห้วนๆ
“.....”
“เหนื่อยเฉยๆ” น้องพูดจบผมก็เอาแขนเสื้อผมเช็ดเหงื่อที่หน้าน้องบี
“ทีหลังอย่าเล่นแรงๆแบบนี้ดิ”
“.......”
“มันไม่ดีรู้ป่ะ”
“........”
“เดี๋ยวเค้าโกรธแล้วเอาเรื่องเราขึ้นมาทำไง”
“ก็ช่าง” น้องพูดตอบมาสั้นๆด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“......” ผมจับมือขวาน้องบีขึ้นมา แล้วจูบลงไปที่หลังมือเบาๆ แล้วก็เอาน้ำใส่มือน้อง น้องลุกขึ้นมานั่งแล้วก็เปิดดื่ม ผมถอยไปนั่งพิงกำแพงแล้วมอง น้องเหล่มองผมอยู่ 2 – 3 ครั้ง แล้วก็ขยับๆมานั่งตรงหว่างขาผม แล้วก็เอนหลังกึ่งๆนอนพิง
“เหงื่อออกเต็มเลย ชุดเปียกหมดแล้ว” ผมทักขึ้น น้องบีก็เอามือไปยกชายเสื้อขึ้นมาดู
“อืมมม.....”

        น้องก็ดันตัวพิงขึ้นมาสูงขึ้นจนหัวถึงไหล่ผม แล้วดึงมือผมไปโอบตัวน้องเอาไว้ ผมหอมแก้มน้องเบาๆ

“พี่ไปส่งแล้วกัน”
“.....”
“ดีป่ะ.....”
น้องบีหันหน้ามามองผม “อื่อ”
“พี่”
“หือ.....”
“ไปซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”
“ก็ตอนที่เราวิ่งนั่นแหละ” ผมยิ้มแล้วลูบหัวบีเบาๆ



To Be Con



*1 ส่วนมากน้องๆที่เล่นเทควันโด จะใส่แต่กางเกงครับครับช่วงมายิม ส่วนเสื้อก็แล้วแต่จะใส่กันมา บางคนก็ใส่ชุดมาเลยแต่ใส่เสื้อคลุมซ้ำ บางคนก็ใส่ซะเต็มยศเลยบางคนอาจเคยเห็นส่วนมากจะเป็นเด็กเล็กๆ
*2 ยกแค่พอที่เจ็บ แล้วจะหยุดดันขึ้นครับ แต่ตะค้างไว้ที่จุดนั้นแล้วให้น้องนับไปเรื่อยๆประมาณ 20 วิ ถึงปล่อย เชื่อไหมครับช่วงเวลาที่เจ็บ นับ 1 – 50 เสร็จเร็วมากๆบางคนไม่ถึง 10 วิด้วย
*3 แต่ละยิมจะมีสัญลักษณ์ตอนเลิกยิมไม่เหมือนกันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละยิม



เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่าเตะพื้นฐาน 3 ท่า


Front Kick
http://www.youtube.com/v/wQD9kf1xAhU&hl=en_US&fs=1&

Side Kick
http://www.youtube.com/v/4j1w--TjqVY&hl=en_US&fs=1&

Round Kick
http://www.youtube.com/v/6msGciC_HFU&hl=en_US&fs=1&

3 ท่านี้เป็นท่าเตะพื้นฐานที่ผู้ฝึกเทควันโดต้องเตะได้ทุกคนครับ เพราะเริ่มต้นเข้าฝึกซ้อมก็จะเจอ 3 ท่านี้ก่อนแลย
ที่สำคัญเป็นท่าที่ใช้สำหรับสอบจากสายขาว ขึ้นมาสายเหลือง ขั้นที่ 1 ด้วย

ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: น้องชาย ( ลงตอน 4 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #14 เมื่อ12-05-2010 20:47:23 »

มาต่อ ไว ๆๆๆนะ ที่จริงรออ่านตอนที่ 21 และ 22 อยู่นะ อิอิอิอิ เป็นกำลังใจไห้นะครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 5 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #15 เมื่อ12-05-2010 20:50:18 »

===  ตอนที่ 6 ===

        หลังจากเรื่องวันนั้นมิวก็ได้พบกับเหตุการณ์แปลกๆอยู่บ่อยๆ......รองเท้าถูกเอาไปซ่อนบ้าง บางทีก็มีเศษอะไรไม่รู้อยู่ในรองเท้า น้ำที่ซื้อมาไว้ดื่มหายตัวได้ ขนมหายตัวได้ จู่ๆขยะที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ในกระเป๋า ครับ ทราบกันอยู่ว่าเกิดจากอะไร แต่มิวก้ไม่พูด ไม่สนใจ อ่า ผมนับถือเด็กคนนี้จริงๆ นิ่งได้ใจผมมากๆ ถ้าเป็นผมสงสัยได้ไปท้าตีท้าต่อยกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
        แต่แล้ววันหนึ่งที่มิวไม่นิ่งก็เริ่มขึ้น ตอนนั้นผมให้น้องๆเข้าแถวเตะแป้นกัน*1 ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยถึงบีจะฟอร์มเตะมือมิวบ่อยๆก็ตามที ดูท่าทีมิวเองก็มีการแก้เกมกลับอย่างเงียบๆด้วยการเอามือหลบเช่นกัน พอถึงตาบีจับแป้นบ้าง คราวนี้มิวเตะแทบไม่แรงเลยเพราะบีแกล้งจับแป้นผิดๆเฉพาะกับมิวคนเดียว
“เฮ่ย จับดีๆดิ สายไรแล้ว จับแป้นผิดอีก” พูดจบผมก็เอามือลูบๆหัวบีเบาๆ
“พี่อ๊ะ”
“ทำไม”
“มิวก็จับผิด ไม่เห็นดุล่ะ” บีหยุดจับแป้นแล้วหันมาคุยกับผมแทน ท่ามกลางสายตาน้องๆในแถวที่สงสัยจะตั้งคำถามว่า “เมิงเอาแป้นลงทำไม คุยก็คุยไปกรูจะเตะ”
“ก็มิวเค้าเพิ่งหัดจับแป้นไม่นาน จะไปเอาอะไรมากมาย”
“ลำเอียงอะ” บีพูดด้วยน้ำเสียงค่อนขอดนิ๊ดๆ
“ไม่ได้ลำเอียงสักหน่อย ก็ทีตอนเรามาแรกๆแล้วจับผิดพี่ก็ไม่ได้ดุอะไรเรานี่ จริงม๊ะ” ผมเอามือไปลูบหัวบีไปๆมาๆจนผมบียุ่งไปหมด
“.....”
“จับดีๆเลย น้องๆพี่ๆเค้ารอเตะอยู่”

        แล้วจู่ๆเรื่องมันก็เกิดขึ้นครับระหว่างที่อะไรๆดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น ตอนนั้นบีนับครบ 50 พอดี*2 เป็นมิวที่จับแป้นต่อ แล้วการยื่นแป้นให้กันในคราวนั้นก็ไม่ง่ายเหมือนการยื่นน้ำ ขนม จานข้าว สมุดการบ้าน ฯ แบบที่เราๆเคยเห็นกัน

“ตุ๊บ!!” เสียงแป้นกระแทกพื้นเบาะจิ๊กซอว์อย่างแรง ผมหันไปที่ต้นเสียงพอดีกับที่แป้นกระดอนไปโดนขามิวพอดี ยังไม่ทันที่ผมจะดุบี มิวก็หยิบแป้นขึ้นมาแล้วปาใส่บีคืน “อ่าว เฮ่ย น้องมิวเปลี่ยนไป ปรกติไม่เคยมีตอบโต้นี่หว่า” ผมคิดในใจ ยังไม่ทันที่ผมจะเข้าไปห้ามทั้งคู่ก็พุ่งเข้าหากันแล้วจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตาย แบบว่าถ้าเป็นปลากัดคงท้องกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครออกหมัด น้องในยิมหยุดเตะแล้วหันมาดู
“มีอะไร” พี่ป้อมตะโกนขึ้น
“.....” มิวไม่พูดอะไร
“.....” บีก็ไม่พูดอะไร
“ไม่มีอะไรครับ เดี๋ยวผมดูเอง” ผมพูดออกไป แล้วก็ลากคอน้องทั้งคู่ไปนอกยิม
“นี่มันอะไรกัน” ผมตะคอกน้องทั้งคู่
“......”
“.....”
 “อย่าให้เห็นว่ามีอีก เข้าใจไหม”
“คะ.....ครับ.....”
“ครับ......”
“ไปวิ่งรอบยิมคนละ 100 รอบไป”

        ระหว่างที่วิ่งก็ยังไม่วายแกล้งกันไปกันมาอยู่เนืองๆ เฮ้ออออออ......


-------------------------------------------------------------------


        วันนี้นอกจากเรื่อง C++ คงจะไม่มีอะไรให้เหนื่อยใจหรอกมั้ง ผมเดินไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆยิม ว่าจะไปซื้อชาดำยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งมาดื่ม ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) ระหว่างเดินไป
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “พี่” อ่า เจ้าของเสียงนี้ ประสบการณ์คราวก่อนบอกผมว่าให้รีบหันกลับไป

“โค อะ ล่า บอม!!” น้องบีวิ่งมากระโดดหาเหมือนคราวก่อนเลย แต่ไม่แรง แล้วก็ไม่สูงมาก ผมอ้าแขนรับน้องไว้ แล้วก็ปล่อย
“ฮะๆๆๆ” น้องหัวเราะชอบใจ
“รู้ได้ไงว่าพี่มาแล้ว” พูดจบผมก็หันหลังแล้วเดินไปต่อ มือข้างหนึ่งก็กอดคอน้องบีไว้หลวมๆ บีเองก็เอามือข้างหนึ่งมาจับมือผมไว้
“ก็ได้ยินเสียงรถ” น้องเยหน้าขึ้นมาพูดแล้วยิ้มๆ
“หูดี.....เป็นหมาเหรอ”
“อื่อ” แล้วน้องก็ยิ้มๆ

        ระหว่างทางที่เดินไปก็เจอน้องหมาพูเดิ้ลตัวหนึ่งสีดำตัวเล็กๆที่ขนรุงรังเต็มตัว ขนที่หน้าก็ปิดตาซะจนไม่เห็นตาน้องหมาเลย แต่ก็มีปลอกคอนะ น่าจะเป็นหมาแถวๆนี้ ท่าทางเจ้าของเค้าจะไม่ได้ใส่ใจน้องหมาเท่าไหร่

“พี่ แป๊บหนึ่ง” แล้วบีก็ปล่อยมือผม ผมหยุดมองดู บีวิ่งเข้าไปหาน้องหมาที่กำลังนั่งมอง ผมกับบีอยู่ พอบีเดินไปใกล้ๆน้องหมาก็กระดิกหางให้ น้องบีนั่งยองๆมองน้องหมาสีดำตัวนั้น ต่างคนต่างมองกัน “ถ้าบีมีหางสงสัยจะกระดิกหางใส่กันเลยนะเนี่ยะ” ผมคิดในใจ
“พี่” บีหันมาหาผมพร้อมทำหน้าตาตื่นเต้นเล็กน้อย
“ว่าไง”
“พี่ว่าน้องมองเห็นป่ะ”
“ลองเอานิ้วไปจ่อๆที่ตาน้องดูดิ ถ้ามันหลบก็แปลว่าเห็น”
“เหรอ” พูดจบบีก็เอานิ้วชี้ไปจ่อๆที่หน้าน้องหมา น้องหมาเห็นบีชี้นิ้วมาดังนั้นเลยเลียแผลบเข้าให้
“ฮะๆ จั๊กจี้” บีหัวเราะชอบใจ น้องหมาเองก็กระดิกหางใหญ่เลย ทำท่าชอบใจใส่บีด้วย
“ปะ” ผมเรียกบี บีลุกขึ้นมาแล้วมายืนข้างๆผม ดึงมือผมไปกอดคอเค้าต่อ แล้วก็เอามือมาจับมือผมไว้
“หมาเลียนิ้วด้วยอะ” ผมแซว บีหันมายิ้ม ดึงมือผมที่โอบคอเค้าอยู่ไปใกล้ๆปากแล้วก็ เลียนิ้วผมซะงั้น
"เฮ่ยทำไร"
“นี่ไง พี่ก็ถูกหมาเลีย อิอิ” น้องหัวเราะชอบใจ

        ทุกครั้งที่บีวิ่งมา “โคอะล่าบอม” ใส่ผม น้องมักจะมีการเอาหน้ามาเกยไหล่ผมทุกครั้ง หลายครั้งก็ทำเอาหัวใจผมเต้นรัวเป็นกลองเลย แล้ววันนี้....ที่ยิมยังไม่ค่อยมีใครมานอกจากมิว แล้วก็ต้นกล้าที่กำลังนั่งเล่นการ์ดยูกิกันอยู่

“พี่”
“หือ.....”
“โค อะ ล่า บอม” พูดจบน้องก็วิ่งเข้ามาทันที

   ผมอ้าแขนรับ น้องพุ่งตัวขึ้นมาเอาหน้าเกยไหล่ผมอย่างเคย แต่ครามนี้ผมไม่ได้ปล่อยน้องลงทันที ผมกอดน้องไว้อย่างนั้น แล้วผมก็ก้มหน้าลงหอมคอน้องเบาๆ “หอมชะมัด” ผมคิดในใจ แล้วผมก็หอมค้างไว้อยู่อย่างนั้น ผมว่าน้องรู้แน่ๆว่าผมกำลังหอมคอเค้าอยู่เพราะผมหายใจรดต้นคอน้องเลย แต่ก็ไม่นานสัก 3 – 4 วิ ผมก็ปล่อยน้องลง หลังจากวันนั้นทุกครั้งที่น้องมา “โคอะล่าบอม” ใส่ผมผมก็จะกอดไว้แล้วก็หอมคอน้องทุกครั้ง บางทีก็งับหูน้องเบาๆ บางทีก็จูบที่คอน้องเบาๆ ซ้ายบ้างขวาบ้างแล้วแต่น้องจะเอาหน้าไปเกยไหล่ข้างไหน แต่ก็มองๆทุกครั้งที่ทำว่ามีใครมองอยู่รึเปล่า น้องบีเองก็จะมากระโดดเกาะเฉพาะตอนที่คนน้อยๆเท่านั้น

“พี่เอ ผมกลับแล้วนะครับ” น้องมิวกล่าวทักทายก่อนกลับบ้านหลังเลิกซ้อม
“อื่อ ใครมารับอะ”
“คุณแม่ครับ”
“อื่อๆ พรุ่งนี้เจอกัน”
        เด็กๆในยิมกลับหมดแล้ว เหลือผมกับบีแค่สองคน
“บีช่วยปิดไฟหน่อยดิ” น้องบีที่กำลังนั่งอ่านการ์ตูนอยู่ก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินไปปิดไฟ แต่ว่ามีสวิตซ์ไฟตัวหนึ่งกดแล้วมันไม่ดับ
“พี่ๆ”
“ครับ ว่าไง”
“มีอันหนึ่งมันปิดไม่ได้อะ” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินไปหาน้อง ส่วนน้องบีก็ยืนชี้ๆให้ดู
“ไหนอันไหน” ผมถามบี
“อันนี้” น้องชี้ สวิตซ์ ตัวหนึ่งที่กดไม่ลง
“เดี๋ยวพี่ปิดให้ดู” ผมพยายามกด แต่ก็ไม่ลงครับ "แสดดด กดลงยากจังฟร่ะ" ผมคิดในใจ  ผมเลยกำหมัดแล้วต่อยลงไปไม่แรงมาก
“ปึ๊ก!!” เสียบหมัดผมกระแทกเข้ากับสวิตซ์เจ้าปัญหา ไฟหลอดสุดท้ายของยิมดับลงทันที
“อ๊า ปิดแล้ว” บีพูดขึ้น
        
        ตอนนั้นแสงไฟสีส้มอ่อนๆจากปลอดไฟหน้ายิมส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาถูกเข้ากับหน้าน้องบีพอดี อีกแล้ว ความรู้สึกเหมือนตอนนั้นเลยที่จูบหลังคอน้องครั้งแรก ปากสีชมพูอมแดงที่ตัดกับผิวขาวๆของน้องทำให้ปากน้องบีดูโดดเด่นขึ้นมา ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรต่อ บีก็หันหน้ามาหาผม

“พะ....อุ๊ฟ!!!” ผมไม่รู้ว่าบีจะพูดอะไรแต่ตอนนั้นผมจูบลงไปที่ปากของน้องแล้ว น้องยืนอึ้งอยู่ผมสอดลิ้นเข้าไปในปากน้องไม่ได้ลึกอะไรมากมายแล้วก็ดูดริมฝีปากด้านบนของน้อง “อ๊า.....กรูทำอะไรอีกแล้วเนี่ยะ.....” ผมอุทานในใจ บีตั้งสติได้ก็เอามือมาผลักอกผมเบาๆให้รู้ว่าพอได้แล้ว ผมถอยหน้าห่างออกมา น้องไม่พูดอะไรเลย พักหนึ่งผมก็หอมแล้วก็จูบหน้าผากน้องเบาๆ
“......”
“ป๊ามารับช้าอีกแล้ว”
“......”
“พี่ไปส่งนะ”
“อื่อ”
ระหว่างที่ผมขับรถอยู่น้องก็ไม่พูดอะไร
“บี” ผมเรียกน้องเบาๆ
“ครับ” น้องตอบกลับมาเสียงดูปรกติธรรมดา
“พรุ่งนี้ไปทานหมูกะทะกันปะ”
“ตอนไหน”
“เลิกแล้วค่อยไป”
“ลองขอป๊าดูก่อน”
“อื่อ กลับบ้านได้ดึกสุดกี่ทุ่มอะ”
“อืมมม.......ไม่รู้”
“นอนกี่ทุ่มอะ”
“5 ทุ่ม”
“งั้นบอกป๊าไม่เกิน 2 ทุ่ม ครึ่ง พี่ไปส่ง Ok ป่ะ”
“พี่เลี้ยงป่าว”
“อื่อ”
“ล้างท้องไว้เลยนะ”
“ได้เลย” พูดจบน้องบีก็หันมายิ้ม อืมมมม คิดว่าน้องจะโกรธผมซะแล้ว


To Be Con.......



*1 การเข้าแถวเตะจะเป็นอย่างในภาพนี้ครับ

ภาพประกอบทาง Internet
*2 เพื่อให้ทุกๆคนมีส่วนร่วมในการจับแป้น ( ไม่ใช่จับอยู่คนเดียว ถ้าไปเลือกเอาเดี๋ยวมีเกี่ยง ) จะให้คนจับแป้นนับคนเตะก็แล้วแต่ 10 ครั้ง 20 ครั้ง ตามแต่ผู้ฝึกสอนจะให้นับครับ


เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ชุดเทควันโด


หลายๆคนอาจเคยเห็นชุดเทควันโดนะครับ

ภาพประกอบทาง Internet
แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ได้สังเกต คือ คอเสื้อชองชุดเทควันโด


ภาพประกอบทาง Internet
ในกรณีชุดคอสีดำแดงอย่างนี้ ส่วนมากจะเป็นชุดของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ( จริงๆต้อง 15 ปี ลงมา ) แต่ในไทย สีอะไรก็ได้ครับดำแดงแบบนี้  ดำล้วน หรือ ขาวก็ได้ ชุดแบบนี้จะเรียกว่า "Poom"


ภาพประกอบทาง Internet
ส่วนกรณีคอดำล้วนหรือ สีขาวล้วน จะเป็นชุดของ เด็กโต จนถึงผู้ใหญ่


ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: น้องชาย ( ลงตอน 4 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #16 เมื่อ12-05-2010 20:52:03 »

ตกใจหมดเลย ว่าทำไมหายไป กลับมาก็ดีแว้ว :L2:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 6 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #17 เมื่อ12-05-2010 20:55:45 »

===  ตอนที่ 7 ===



“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานประจำร้านดังขึ้น ผมเดินตรงไป Zone เครื่องดื่ม ยืนพิจารณาอยู่พักหนึ่งว่าจะดื่มอะไรดี

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ”

        แล้วผมรู้สึกว่ามีใครก็ไม่รู้เดินมายืนอยู่ข้างๆ พอหันไปก็เจอ น้องมิวยืนล้วงกระเป๋ากำลังมองหาเครื่องดื่มเหมือนกัน

“มิว” ผมทักออกไปเบาๆ
“อ่าว พี่เอ สวัสดีครับ มานานยังพี่พอดีไม่ทันมอง”
“พี่ใช้การ์ดวาปมาเมื่อกี้ๆล่ะ”
“.....”
“......”
“ต้องตลกไหมพี่”
“ก็ดีนะ”
"....."
"....."

“แล้วพี่มาซื้ออะไร”
“ว่าจะซื้อซีอิ้วขาวไปไว้ดื่มตอนพักหน่ะ”
“ถามจริง”
“.....”
“ต้องตลกไหมพี่”
“ก็ดีนะ.....เฮ่ย ไม่ใช่ล่ะ”
“อิอิอิอิ” น้องมิวหัวเราะเบาๆ
“เข้ายิมยัง”
“ยังเลยครับ มาถึงก็แวะมานี่ก่อน”
“อืมมมม”
“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ”
“พี่!!” อ่า เสียงนี้.....ที่คุ้นเคย ผมหันไปทางซ้ายก็เจอน้องบียืนมองอยู่
“อ่าว บี ไปไงมาไง” ผมทักน้องบีออกไป น้องบีไม่พูดไม่จาเดินมาจับมือผมไว้ทันที
“เอาน้ำไรม๊ะ” ผมถามน้องบี
“ไม่!!” น้องตอบห้วนๆ
“ไม่เอาก็ไม่เอา” พูดจบบีก็หันมามองผมตั้งคำถามประมาณว่า “ไม่ตื้อหน่อยล่ะ ถามอีกสักทีก็ยอมเอาแล้วล่ะ”
“งั้น พี่เอาชาแล้วกัน บีไม่เอาแน่นะ......”
“เอาก็ได้”

        แล้วบีก็หยิบน้ำผลไม้ที่น้องชอบทานประจำๆไป 1 ขวด แล้วผมก็เดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อจ่ายเงิน บีจับมือผมไว้ไม่ปล่อย มิวก็เดินตามมาติดๆ พอผมวางของบนเค้าเตอร์ มิวก็เอาของมาวางด้วย

“คิดรวมกันเลยไหมค่ะ” พนักงานสาวสวยน่ารักถามขึ้น
“อ่อ คิดระ....” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ บี พูดแทรกขึ้นมาทันที่ว่า
“คิดแยกครับ” พูดเสร็จน้องก็หยิบน้ำ แล้วก็ ขนมในส่วนของมิวแยกออกไป
“ไม่เป็นไร รวมก็ได้”
“ไม่!! ใคร หยิบมาก็จ่ายเอง”
“ไม่เป็นไรพี่ ผมจ่ายเองก็ได้”
“เอา ก็ได้”

        พอจ่ายเงินเสร็จผมกับบี แล้ว ก็มิวเดินออกมาพร้อมๆกัน โดยมีบีเดินตรงกลาง มิวอยู่ซ้ายมือของบี แล้วผมก็เดินอยู่ขวามือ ระหว่างที่เดินบีก็เอามือผมไปกอดคอเข้าไว้หลวมๆ

“บี ป๊าว่าไง”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“หมูกะทะ”
“อื่อ ได้”
“จะไปทานหมูกะทะกันเหรอพี่” มิวหันมาถามผม
“อื่อ ไปด้วยกันไหมล่ะ พี่ไปกับบีสองคนเอง” ตอนผมเอ่ยปากชวนมิวจู่ๆบีก็บีบมือผมซะงั้น
“ไปตอนไหนอะพี่”
“ซ้อมเสร็จก็ไป”
“กลับกี่โมงครับ”
“ไม่เกิน สองทุ่มครึ่ง”
“ก็ได้ เดี๋ยวผมโทรบอกแม่ก่อน” แล้วมิวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่
“พี่ไปชวนมันทำไมอะ” บีหันมาพูดกับผมเบาๆ
“อ่าว ก็ไปหลายๆคนสนุกดีออก” ผมยิ้มๆ


--------------------------------------------------------------------


“ไหนๆจะนั่งโต๊ะไหน” ผมถามขึ้นมาลอยๆ
“ริมน้ำไหมพี่บรรยากาศดี” มิวเสนอขึ้น
“ไม่ๆๆ เอาติดๆที่ตักของกินดีกว่าจะได้สะดวกๆ” บีเสนอตามมา
“ริมน้ำก็ดีนะพี่ลมเย็นดี นั่งในๆมีหลังคากลิ่นควันมันฟุ้งอะ”
“ในๆหน่อยก็ดีนะพี่ สระน้ำร้านนี้ไม่สะอาดเท่าไหร่ ไปนั่งเกิดมีกลิ่นเน่าๆทำไงอะ”
“ริมน้ำดีกว่าผมว่าคนไม่เยอะ ข้างในคนเยอะอึดอัดอะ”
“ข้างในดีกว่าพี่ไฟสว่างไปนั่งริมน้ำมันมืดๆหมูสุกไม่สุกเราจะรู้ได้ไงอะ”
“ริมน้ำดีกว่าพี่ข้างในเสียงดังอะ”
“ข้างในดีกว่าพี่ข้างนอกมีต้นไม้ด้วยอะ กินๆไปกิ่งไม้ตกใส่หัวแตกทำไง”
“พอๆๆๆๆ งั้นพี่เลือกเอง”

        ผมเบรกน้องทั้งคู่ก่อนที่จะเถียงกันจนไม่ได้ทาน แล้วผมก็เลือกที่จะเลือกที่นั่งเอง พอเลือกโต๊ะได้แล้ว  บีก็เลือกที่จะนั่งฝั่งเดียวกับผมปล่อยให้มิวนั่งเหงาๆอยู่คนเดียว

“จะทานอะไรก็ไปตักเอาเลยครับ เอาแค่พออิ่มนะเหลือเดี๋ยวโดนปรับ ไม่ต้องเผื่อคนอื่น เอาแต่ของตัวเองก็พอ” ผมพูดจบมิวก็ลุกไปตัก
“บีไม่ไปตักอะไรมาทานอะ” ผมลูบหัวบีเบาๆ
“รอพี่ไปด้วย” น้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้มๆ
“อืม ปะ” พูดจบผมก็ลุกขึ้นเดินไปที่ตักอาหาร ตอนนั้นมิวกำลังเลือกตักอยู่ แล้วบีก็มองเห็นในจานของมิวมีผักบุ้งอยู่ด้วย
“พี่ๆ” บีเรียกผมเบาๆ
“หือ...”
“พี่รู้ป่ะ เต่า ชอบกินผักบุ้งอะ” บีพูดจบ มิวก็หันมามองควับทันที แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เฮ้อ......” ผมถอนหายใจเบาๆ

        พอกลับถึงโต๊ะอะไรๆก็ดูเหมือนจะสงบลงได้

“รับน้ำอะไรดีครับ” พนักงานคนหนึ่งวิ่งมาถาม
“บีเอาน้ำอะไร มิวล่ะ”
“ผมขอน้ำโค๊กครับ”
“เห๊อะ เค้าค้าเค้าขายไปขอเค้าได้ไง” บีแซวขึ้นมา
“แน่ะ ไปแซวเค้าอีก แล้วเราอะจะเอาอะไร” ผมลูบๆหัวบีเบาๆ
“เอาน้ำเปล่า”
“น้ำเปล่ามีแต่ขวดเล็กนะครับ ขวดใหญ่หมด”
“เอางี้ดิพี่ ถ้าน้ำขวดใหญ่หมด ก็เปิดขวดเล็กมาเทใส่ขวดใหญ่ให้เต็ม แค่นี้ก็ได้ขวดใหญ่แล้ว”
“......” พนักงานยืนอึ้งกิมกี่อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยสีหน้าฝืนยิ้มสุดๆ ผมรีบสั่งให้เสร็จก่อนที่พนักงานเค้าจะเอาปากกากระดาษในมือปาหัวเอา

“ฉ่าๆๆๆ” เสียงหมูที่ถูกปิ้งอยู่บนกระทะดังขึ้น ผมกับมิว แล้วก็บีชวนคุยกันไปเรื่อยถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ ทุกครั้งที่มิวพูดอะไรบีจะแซวอยู่เรื่อยๆแรกๆบรรยากาศก็ดูแปลกๆแต่หลังๆเหมือนมิวจะปรับตัวให้คุยกับบีได้มากขึ้น

“พี่” บีเรียกผมเบาๆ แล้วก็คีบหมูมาให้ผมชึ้นหนึ่ง
“บีมันยังไม่สุก” มิวพูดทักขึ้นขณะที่บีคีบหมูชิ้นหนึ่งขึ้นมา
“สุกแล้ว” บีย้อนกลับไป
“ยัง” มิววางตะเกียบลง
“สุกแล้ว” บีวางหมูลงบนจาน
“ยัง” มิวแบมือวางบนโต๊ะ
“สุกแล้ว” บีเริ่มกำตะเกียบแน่นขึ้น
“สุกก็สุก.....” สมกับเป็นมิวจริงๆ อืมๆ
“ก็บอกแล้วว่าสุก” บียิ้มที่ได้รับชัยชนะแม้เพียงเรื่องเล็กๆแต่ก็ทำให้น้องยิ้มได้
มิวหยิบตะเกียบคีบหมูที่อยู่ในจานขึ้นมาใกล้ๆปาก “สุกด้านเดียว” มิว พูดจบก็เอาหมูใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อยผมหันมามองหมูที่บีคีบมา “เออ จริงด้วย สุกด้านเดียว” ผมคิดในใจ
“แกร๊บ!!” เสียงบีบตะเกียบดังขึ้นจากมือของบี แล้วบีก็ไปคีบหมูจากฝั่งของมิวมา มิวมองอยู่แบบอึ้งๆ แล้วสงครามรุกรานอนาเขตบนกะทะก็เริ่มขึ้น*1 ผมได้แต่นั่งมองสงครามที่เกิดขึ้น โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าสงครามครั้งนี้จะทำให้มิวกับบีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกับในเวลาต่อมา
“พี่แม่ผมมารับแล้ว” มิวชี้ไปที่หน้าร้าน ซึ่งมีรถแล้วก็ลุกค้ายืนกันหลายคนผมไม่เห็นว่าคนไหนที่เป็นคุณแม่น้องมิว
“ไหนอะ”
“ที่ขับ Accord สีขาวอะ” น้องชี้ไปที่ไปที่รถเก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าร้าน
“อืมมม ฝากสวัสดีคุณแม่ด้วย ไงพรุ่งนี้เจอกัน”
“บายพี่” มิววิ่งไปที่รถคันนั้น ตอนนั้นบียืนจับมือผมไว้แน่น
“ป๊ามารับหรือพี่ไปส่งอะ” ผมหันมองบี
“พี่ไปส่ง” บีเงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ก็ได้” ผมเดินไปที่รถ
“พี่” บีเรียกผมเบาๆ ผมหันไปมองน้อง
“วันนี้ไปส่งบ้านอีกที่นะ”
“หลังไหนอะ”
“บ้านโกดัง”
“อื่อก็ได้ บอกทางนะ”

        บีเดินไปหยิบกระเป๋าวางที่หน้ารถผมแล้วขึ้นนั่งหน้า แล้วผมก็ขับรถไปแบบช้าๆเพราะน้องบีเคยบอกว่าตาน้องบีโดนลมแรงมากไม่ได้ น้องบีเอนหลังพิงผมไว้ แล้วมือซ้ายของน้องก็เอื้อมมาจับมือซ้ายผมไว้ ผมเลือกเส้นทางที่รถน้อยๆ แล้วทางที่เลือกก็เป็นทางวันเวย์ 4 เลน ที่มีเสาไฟสีเหลืองส้มสว่างจ้าตลอดเส้นทาง แล้วระหว่างทางก็ต้องผ่านสะพานข้ามทางรถไฟ พอรถวิ่งมาได้เกือบกลางสะพานผมก็เห็นแสงไฟสว่างอยู่ลิบๆบนทางรถไฟ ใช่แล้วครับรถไฟกำลังวิ่งมา ผมชะลอรถช้าลง

“บีดูรถไฟป่าว” ผมเอนหน้าไปถามใกล้ๆกูน้องบี แล้วก็หอมที่หลังหูน้องเบาๆ
“อืมมม.....ก็ได้ครับ” น้องหันหน้ากลับมายิ้ม ผมหอมเบาๆลงที่หลังคอน้องอีกที่หนึ่ง

        ผมเทียบรถที่ข้างๆขอบสะพาน น้องบี ลงมาเกาะขอบสะพานมองดูรถไฟที่กำลังวิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนนั้นสายลมเย็นๆพัดเบาๆพอได้รู้สึกสบาย พัดมาโดนผมน้องบีให้โบกสะบัดเบาๆตามแรงลม แสงไฟที่เหลืองส้มส่องมาที่ปลายเส้นผมของน้องบีที่กำลังไหวไปมาเบาๆตามแรงลม และ ใบหน้าของน้อง สายตาน้องกำลังบ่งบอกถึงความอยากรู้อยากเห็น ตอนนั้นรอยยิ้มเล็กๆที่แสดงถึงความตื่นเต้นโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของน้องเล็ก น้อยแต่ก็เพียงพอที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย ยิ่งรถไฟวิ่งเข้ามาใกล้ สีหน้าที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นของน้องก็เริ่มชัดขึ้น พอรถไฟวิ่งมาเข้าใกล้มากจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน น้องก็หันมามองผมแล้วอุทานอย่างตื่นเต้นว่า

“มาแล้วๆ”

        ตอนนั้นสีหน้าท่าทางของน้องดูมีความสุขอย่างที่เคยเห็นเมื่อตอนที่น้องอยู่ บนดาดฟ้าครั้งนั้น เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นมา พอขบวนรถแล่นลอดสะพาน น้องบี ชี้นิ้วนับโบกี้รถไฟอย่างตั้งใจ

“หนึ่ง...สอง...สาม....สี่.....”

        พอรถไฟลอดผ่านไปจนหมดขบวน น้องบี หันมายิ้มให้ผมด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน

“ตั้ง 14 โบกี้แน่ะครับ ยาวจังเลย ฮะๆ”

        แล้วเมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปจนลับตา น้องบีหันมายิ้มอีกครั้ง สายลมที่พัดเบาๆ ทำให้ผมของน้องพัดไหว แสงไฟเหลืองส้ม ส่องกระทบผม และ ผิว น้องบีจนเป็นสีส้มอ่อนๆ ปากสีแดงๆตอนนี้เปลี่ยนเป็นส้มหน่อยๆ สายตาและรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความสุข ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความสดใสร่าเริงสนุกสนาน ณ ตอนนี้ได้ชัดเจน โดยไม่ต้องอธิบายด้วยคำพูดใดๆ ผมลูบหัวน้องบีเบาๆ แล้วก็เอามือโอบคอน้อง ผมมองดูน้อง “ปากน้องสวยจัง” ผมคิดในใจแล้วเอานิ้วไปลูบๆปากน้องเบาๆ นุ่มจัง ผมเอานิ้วชี้ลูบไปลูบมาบนริมฝีปากน้องบีเบาๆ อืมมมม บีเองเวลาไม่ดื้อก็น่ารักแฮะ

“ปะ” ผมพูดขึ้นเบาๆ

        น้องบีขึ้นรถแล้วก็เอนหลังพิงผม มือซ้ายของน้องเอื้อมไปจับมือซ้ายผมไว้เบาๆ แล้วน้องก็ชวนผมคุยเรื่องต่างๆนานาไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงบ้าน

“วันนี้สนุกจังครับ วันหน้าผมให้พี่พามาอีกได้ป่าว” น้องหันกลับมาคุยกับผม
ผมก้มไปหอมแก้มน้องบีเบาๆ แล้วพูดว่า “อืม.....ก็ได้นะ” พูดจบผมก็ก้มลงหอมผมน้องเบาๆ




*1 ถ้าใครเคยไปทานหมูกะทะบางทีมันจะมีแบบว่า จะมีการจองพื้นที่ย่างเป็นของตัวเอง พื้นที่ใครพื้นที่มันไม่ยุ่งกัน อิอิอิ



เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
สอบสายต้องทำอะไรบ้าง ?

ในส่วของสายขาวเพื่อขึ้นสายเหลืองจะมี

1. 6 Block หรือ การป้องกันด้วยมือ 6 ท่า
2. ท่านั่งม้าชก
3. ท่าเตะ 3 ท่า ดังที่กล่าวมาแล้ว

ส่วนในการสอบสายตั้งแต่สายเหลืองขึ้นไปจนถึงสายดำจะมีการสอบดังนี้ครับ
1. ท่าเตะ แต่ละสายจะมีท่าเตะประจำของตนเอง ยิ่งสายสูงเท่าไหร่ความยากและซับซ้่อนของท่าเตะก็จะมากขึ้นไปด้วย นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ท้าทายความสามารถของผู้ฝึก
2. ท่ารำ ที่เรียกกันว่า "Poomsae ( พุม เซ )" หรือ Patterns ในภาษาอังกฤษ ยิ่งระดับสูงขึ้น ความซับซ้อนก็จะยิ่งมากขึ้นไปด้วย
3. รุก - รับ หรือ ที่เรียกกันว่า "Step" เป็นท่าต่อสู้รุกรับแบบบังคับ ว่าฝ่ายรุกต้องโจมตียังไง และ ฝ่ายรับต้องรับยังไง ในบางยิมหลังสายเขียวขึ้นไปจะให้คิดท่าเอง แต่บางยิมยังต้องรุกรับตามที่สมาคมกำหนดอยู่
4. ต่อสู้อิสระ หรือ free sparing คือการต่อสู้อิสระที่ผู้ฝึกจะใช้ท่าอะไรก็ได้ ไม่มีการนับแต้ม คะแนนตรงนี้จะขึ้นอยู่กับการใช้ท่าในขั้นของตัวเองในการต่อสู้จริงดีแค่ไหน ไม่มีกำหนดเวลา อาจารย์ผู้สอบจะเป็นคนสั่งหยุดเอง
5. การทำลาย หรือ breaking เมื่อก่อนจะใช้อิฐ ต่อยบ้าง สันมือฟันบ้าง ศอกบ้าง ตามแต่ขั้นสาย 1 ก้อน 2 ก้อน ก็ตามแต่ขั้นเหมือนกัน เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นทำลายแผ่นไม้เพียงอย่างเดียวเพื่อป้องกันการบาดเจ็บของผู้ฝึกซ้อม ตัวผู้เขียนเองก็ดันช่วงที่ทำลายอิฐอยู่ ตอนนี้ยังสงสัยอยู้ว่า ต่อย ฟัน ศอก ตอนนี้จะยังแตกหรือเปล่า



ภาพประกอบทาง Internet



Thx น้องต่ายที่ช่วยตรวจทานตัวอักษรให้นะครับ

ออฟไลน์ JAN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: น้องชาย ( ลงตอน 6 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #18 เมื่อ12-05-2010 20:56:59 »

โหยยยยยยยยยยยย
ตอนแรกนะเราตกใจอ่ะ  ทำไมหาเรื่องไม่เจอ

ยังไงก็ติดตามอยู่น้า
สู้ๆจ้า

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 7 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #19 เมื่อ12-05-2010 20:59:36 »

===  ตอนที่ 8 ===




“ฟู่.........” ผมเป่าลมออกจากปากเบาๆเพื่อระบายความร้อนในตัว แต่....ระบายความร้อนแบบนี้....น้องหมา น้องแมว น้องตะเข้เค้าทำกันนี่นา แต่ช่างมันเถอะ ผมเกาะขอบหน้าต่างข้างยิมแล้วมองท้องฟ้า อืมมมม กลิ่นหลังฝนตกเนี่ยะหอมดีจัง ไอดิน กลิ่นหญ้า ลมพัดเบาๆปะทะหน้าผม สบายดีจัง

“เฮ้ออออออ….วันนี้อากาศเย็นดีจังน๊า” น้องบีเดินมาเกาะหน้าต่างบานเดียวกันกับผมตั้งแต่ไหร่ไม่รู้
“อื่อ” ผมเอื้อมมือไปจับมือน้องบีแล้วก็ใช้นิ้วลูบหลังมือน้องไปมาเบา

        ผมกับน้องบียืนอยู่ตรงนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ ผมดึงเก้าอี้มานั่ง บีก็เดินตามมาแล้วก็นั่งลงบนพื้นข้างๆแล้วก็นั่งพิงขาผม แถมเอาสายผมงับเล่นไปพลางๆอีกต่างหาก พักหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นเอามือผมไปเล่นแทน จนกระทั่ง หกโมงครึ่ง พี่ป้อมเลยขอตัวกลับก่อน ทิ้งผมกับน้องบีอยู่กันสองคน
พอพี่ป้อมขับรถออกไปน้องบีก็ดึงเก้าอี้มาอีกตัวมานั่งแล้วก็เอนตัวมาพิงผมเอาหัววางบนบ่าซ้ายผม แล้วน้องก็เอามือผมขึ้นไปกอดตัวเค้าเบาๆโดยที่มือน้องยังทับมือผมไว้อยู่

“อากาศเย็นจัง” น้องบีพูดเบาๆ ผมเป่าลมลงบนบ่าน้องเบาๆ หันหน้าเข้าหาน้องแล้วก็หายใจรดใส่ต้นคอน้อง
“อิอิ จั๊กจี๋” น้องหัวเราะเบาๆ แล้วผมก็มองไปที่มือของน้อง ผมไม่เห็นน้องใส่สายคาดเอวแฮะ
“สายล่ะ”
“ถอด อึดอัด” น้องตอบมาเบาๆ
“พี่” น้องหันหน้ามาหน่อยหนึ่ง
“ครับ”
“รู้ป่ะทำไมผมอยากอยู่ค่ำๆ”
“ทำไมอะ อยากซ้อมเพิ่มเหรอ?”
“ม๊ายยยยยยยย”
“แล้วทำไมถึงอยากอยู่ดึกล่ะ”
“ไม่รู้ซิครับ ไม่รู้ทำไม แต่อยากอยู่อะ......” น้องพูดจบผมก็ก้มลงไปหอมหน้าผากน้องบีเบาๆ

        ผมเอามือขวาขึ้นมาลูบแก้มน้องเบาๆ ผมตั้งใจลูบให้นุ่มนวลสุด ผมไม่รู้ว่าน้องชอบไหม แต่ผมชอบแก้มน้องนะ นุ่มดี แล้วผมก็ลูบไปข้างหน้า ลูบปากน้องเบาๆ ริมฝีปากสีแดงๆ นุ่มๆ ชุ่มชื่น ผมเอานิ้วชี้ลูบไปลูบมาเบาๆ ผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าน้องชอบไหม ผมรู้แต่ว่าผมชอบอะ แฮะๆๆแล้วน้องก็พูดขึ้นว่า

“พี่รู้ไหม ทำไมวันนี้ผมถึงไม่ได้โทรบอกให้ที่บ้านมารับ”
“ทำไมเหรอ”
น้องหันหน้าเข้าหาผมแล้วพูดว่า “ก็ผมอยากให้พี่ไปส่ง” น้องยิ้มๆแล้วก็หันกลับไปคืน

        ตอนหันกลับผมไม่ทันตั้งตัวนิ้วนี้ผมที่กำลังลูบริมฝีปากปากน้องอยู่หลุดเข้าไปในปากน้องบีซะงั้น แต่.ไม่ได้ลึกมากมายแค่หนึ่งข้อกว่าๆ......ส่วนน้องก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจอะไรออกมา ผมเอานิ้วออกมาช้าๆ... “ข้างในปากน้อง....อุ่นจัง” ผมคิดในใจ ผมเอานิ้วที่เปื้อนน้ำลายน้องหน่อยๆไปเช็ดเบาๆกับชายเสื้อน้องระหว่างที่เช็ดผมรู้สึกอยากจะลองลูบๆตัวน้องบีดูจังเลย ผมก้มลงหอมแก้มน้องเบาๆ ใช้ริมฝีปากขบใบหูน้องบีเบาๆ แล้วก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อ น้องไม่ได้ขัดขืนอะไร ผมลูบท้องน้องเบาๆ “อุ่นจัง” ผมคิดในใจ ก่อนที่จะค่อยๆลูบสัมผัสสูงขึ้นมาเรื่อย ผิวของน้องบีเนียนมากเลยครับ ขนาดเพิ่งเล่นกีฬามามีเหงื่อบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเนียนนุ่มได้ขนาดนี้ ผมพยายามลูบให้เบาที่สุด ตอนนั้นก็อีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าน้องชอบไหม แต่ผมอยากอะ ฮ่าๆๆๆ ผมลูบเบาๆให้ปลายนิ้วผมสัมผัสกับผิวน้องให้นุ่มนวลละมุนละไมที่สุด ผมลูบไล่ขึ้นมาถึงอกน้องผมใช้นิ้วชี้วาดไปรอบๆเบาๆผมว่าน่าจะทำให้น้องรู้สึกเพลินเหมือนที่เวลาเราชอบให้คนมาเขียนหลัง นิ้วชี้ของผมวาดไปเรื่อยๆช้าๆตามร่องอกแล้วก็ราวนมของน้องข้างซ้ายผ่านไปข้างขวาลงมาหน้าท้อง ท้องน้อย ลากกลับขึ้นไปที่อกคืน ผมเอานิ้วลูบบนแผ่นอกของน้องไปเรื่อยๆจนไปถูกนมน้องเข้าโดยตั้งใจ

“อ๊ะ อิอิ จั๊กจี๋” น้องหัวเราะขึ้นมาเบาๆ

        ผมเอานิ้วชี้วาดรอบๆหัวนมน้องเบาๆ สลับไปมาซ้ายขวา เหมือนว่าน้องจะชอบนะ แล้วผมก็เอานิ้วชี้ลูบเล่นเบาๆที่หัวนมของน้อง ไม่นานหัวนมของน้องก็ตั้งขึ้น แต่......
ข้างล่างก็ขึ้นด้วยแฮะ ผมสังเกตที่กางเกงน้อง น้องชายตัวเล็กของน้องบีค่อยๆดันผ้าลุกขึ้นมาช้าๆ ตัวน้องเริ่มร้อนขึ้นมาอีกแล้ว หายใจหอบ หูเริ่มแดง ผมใช้ปลายลิ้นเลียใบหูน้องเบาๆ แล้วเอียงดูหน้าน้อง.....
        น้องบีกำลังหลับตา ปากแดงๆของน้องกำลังอ้านิ๊ดหน่อย แก้มขาวๆตอนนี้แดงเลย “น่ารักชะมัด” ผมคิดในใจ ผมแอบก้มลงไปหอมแก้มน้องเบาๆ นิ้วที่กำลังลูบปากน้องอยู่รู้สึกได้เลยว่าหัวใจน้องบีเต้นแรงขึ้น แล้วผมก็เอานิ้วลูบไปเบาๆที่ข้างๆตัวน้อง ลูบท้อง ลูบอกน้องเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเอามือออกมาช้าๆ แล้วผมก็มาลูบริมฝีปากน้องบีอีกครั้ง

“พี่.......ปะ” น้องบีพูดขึ้นเบาๆ เสียงน้องฟังดูนุ่มนวลมากมาย ผมไม่เคยได้ยินน้องพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มขนาดนี้มาก่อน ผมก้มลงหอมแก้มน้องเบาๆอีกครั้ง
“อื่อ ทุ่มกว่าแล้วเดี๋ยวป๊าว่าเอา” แล้วผมก็ดันตัวน้องขึ้นเบาๆน้องก็ลุกตาม


“ฟิ่ววววววววววว ฟิ้ววววววววววว” เสียงลมดังขึ้นเบาๆ ขณะที่ผมขับรถจักรยานยนต์ ไปช้าๆ
“บี”
“ครับ” น้องหันกลับมาตอบ ผมหอมหน้าผากน้องเบาๆ แต่จู่ๆน้องก็หันหลบ ซะงั้น
“พรุ่งนี้......”
“ทำไมเหรอครับ”
“เปล่าไม่มีอะไร” ผมยิ้มๆ น้องบีก็หันมาทำหน้า งงๆ จริงๆผมว่าจะชวนน้องบีไปดูหนังหน่ะครับ แต่มันดึกผมว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ เลยไม่ชวนดีกว่า

“ถึงแล้ว”
บีหยิบของออกจากหน้ารถเสร็จก็พูดว่า “ขอบคุณครับ”
“พรุ่งนี้เจอกัน” ผมยิ้ม น้องบียิ้มรับแล้วก็วิ่งเข้าบ้านไป


----------------------------------------------------------------------------


“วันนี้ร้อนชะมัดเลยแฮะ เมื่อวานฝนพึ่งตกไป มาวันนี้ร้อนตับแตกเลยทีเดียว สงสัยต้องพาน้องซ้อมเบาหน่อย” ผมคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนมองท้องฟ้าที่ไม่ค่อยจะมีก้อนเมฆเท่าไหร่ แล้วขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้ายิม น้องต้นกล้าก็เดินสวนออกมา
“พี่หวัดดีครับ” น้องต้นกล้ายกมือไหว้อย่างสวยงามราวกับประชดเลยทีเดียว สงสัยเป็นกับเมื่อคราวก่อนผมดุน้องเรื่องทำความเคารพล่ะมั้ง
“อืม ดีๆ ไหว้สวยขนาดนี้เดี๋ยวพี่ส่งประกวดเลยแล้วกัน” ผมแซวน้องต้นกล้าไป พลางหัวเราะไปด้วย น้องกล้าพอรู้ว่าผมแซวก็เลยยิ้มๆ
“ใครมาบ้างแล้วอะ”
กล้ามองขึ้นฟ้า “อืม.....ก็มีบี กับ มิว แล้วก็ ผม” น้องกล้าหันหน้าลงมาคืนแล้วมองผม
“กล้า เมื่อกี้ทำหน้าคิดเหมือนกับมากันเป็นสิบเลยอะ “ ผมหัวเราะเบาๆ กล้าเองก็ยิ้มเขินๆ
“พี่ ผมไป____เดี๋ยวมา เอาอะไรไหมครับ”
“อืมมม แล้วสองคนนั้นเค้าทำอะไรกันอยู่อะ”
“เล่นการ์ดยูกิ”
“ห๊า จริงดิ”
“ครับ”
“เออๆ ไปซื้อของเหอะพี่ไม่เอาอะไรหรอก” แล้ว ต้นกล้าก็วิ่งไปร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้ๆ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดชื่อ )

        ผมเดินเงียบๆไปแอบดูอยู่ที่หน้าต่างผมเห็นมิวกับบีกำลังเล่นการ์ดกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งพูดก็พูดนะ การ์ดพวกนี้ผมเล่นไม่เป็น

“เฮ่ยยยยย โกงงงง” บีตะโกนขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่การ์ดใบหนึ่ง
“โกงอะไร”มิวตอบกลับไป
“ตัวนี้ค่าabc น้อยกว่า ทำไมถึงdfg ล่ะ” บีถามมิว
“อ่าวก็ระดับดาวมันต่างกันไง” มิวอธิบาย
“โหยยย ไม่บอกอะ โกงดิเนี่ยะโกงเลย” บียังยืนยันว่ามิวโกง
“เอาๆ โกงก็โกงเล่นใหม่ๆ” สมกับเป็นมิว ยอมความกันง่ายๆ

        ผมยืนมองดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ผมมองเค้าเล่นกันไปกันมาอยู่พักหนึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าบี กับ มิว จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เพราะบีเป็นคนร้อน ส่วนมิวเป็นคนเย็นทั้งคู่จะเติมเต็มให้กันในสิ่งที่ขาด หลังจากวันนั้นทุกครั้งที่มีเหตุอะไรก็ช่าง บีจะเข้ามาปกป้องมิวตลอด ส่วนมิวเวลาเห็นบีทำอะไรไม่ดีก็จะคอยบอกคอยเตือนอยู่เรื่อยๆ ซึ่งมิวก็น่าจะรู้ว่าบีไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดหรอก ถึงจะไม่แสดงท่าทางหรือ พูดออกมาว่ายอมรับ แต่บีก็ฟังคำเตือนของมิว

“ไงสองคนทำอะไรกันอยู่” ผมเดินเข้าไปในยิมวางกระเป๋าแล้วก็ทักให้น้องๆรู้ว่าผมมาแล้ว
“พี่เอดีครับ” มิวหันมายกมือไหว้
“พี่เอมาแล้วเหรอ” น้องบีตะโกนขึ้น แล้วก็ลุกวิ่งมากระโดดกอดเหมือนที่เคยทำ
“ดีกันแล้วไง” ผมถามบีเบาๆ บีไม่ตอบแต่ยิ้มกลับมาแทน

        แล้วมิวก็ลุกขึ้นมา ตอนนั้นผมนั่งอยู่ริมโต๊ะ มิวก็มายืนข้างๆแล้วก็เอาการ์ดมาอวดผม ส่วนบีก็มายืนเบียดมิวอีกที เพราะทางขวามือผมยืนไม่ได้ติดกำแพง มิวพูดถึงเรื่องการ์ดอย่างสนุก อยากจะบอกน้องว่าผมไม่รู้เรื่อง แต่ไม่พูดดีกว่า บี เองก็ถามเรื่องการ์ดจากมิวอย่างสนใจ นี่เป็นครั้งแรกผมเพิ่งเคยเห็นบียิ้มเวลาคุยกับมิวนอกจากยิ้มหลังแกล้งสำเร็จ

“พี่” บีทักผม
“หือ”
“เมื่อวานมีอะไรป่าวอะ” โห....น้องยังติดใจคำพูดที่ผมพูดไม่จบจากเมื่อวานด้วยแฮะ
“เปล่า”
“ไม่ๆ มีอะไร บอกๆๆๆๆ” น้องบีเดินมาเกาะขาผมแทนแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง พลางงับสายคาดเอวผมไปด้วย มิวเองก็มองทำหน้าตาสงสัยใส่อีก จริงๆผมไม่ตอบก็ได้นะ แต่ว่าจู่ๆก็อยากแกล้งเด็กอะ อิอิอิ
“ก็ว่าจะถามว่า วันนี้ว่างป่าว พี่ว่าจะไปดูหนัง เลยจะชวน” พูดจบมิวก็มาเกาะขาผมอีกข้างหนึ่ง ท่าเดียวกับบีเลย  ผมบอกไปเพราะรู้ว่าบอกวันนี้น้องก็ไปด้วยไม่ได้ แต่อยากแกล้งเด็ก แล้วก็เป็นดั่งคาด บี กับ มิว มีการตอบสนองต่อคำชวน
“กี่โมง” บีถาม
“สามทุ่มครึ่ง”
“ดึกจัง” มิวพูดขึ้น
“ทุ่มครึ่งได้ไหมอะ” บีต่อรอง
“ทุ่มครึ่งแต่กว่าหนังจะจบก็ปาไปสามทุ่มนะ ที่บ้านจะให้ไปเหรอ โทรถามที่บ้านก่อนแล้วกัน ถ้าที่บ้านให้ไปพี่ก็จะพาไป” ผมก็ยังมั่นใจว่าทางบ้านน้องจะไม่ให้ไปเพราะมันดึก
“งั้นแป๊บเดี๋ยวผมถามที่บ้านก่อน” บีพูดจบก็ลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ มิวก็ด้วย ณ ตรงนั้นผมก็ยังมั่นใจอยู่ว่าน้องทั้งสองไมได้ไปด้วยแน่ๆ
“พี่” บีวางโทรศัพท์ลงในล๊อกเกอร์เสร็จก็หันมาเรียกผม
“ว่าไง”
“ป๊าให้ไป” น้องบียิ้ม แล้วก็วิ่งมาเกาะขาผม อ๊า งานเข้าล่ะ ยังๆมิวอีกคน ตอนนั้นผมเห็นมิวกดวางสายพอดี สงสัยจะคุยเสร็จแล้วผมเลยถามไปว่า
“มิวอะ”
“ม๊าให้ไป” มิวยิ้ม แล้วก็วิ่งมาเกาะขาผมตามบี
“อ่า งานเข้ากรูแระ”

วันนั้นผมเลยต้องเลื่อนเวลาดูหนังจากที่ปรกติผมชอบดูตอน 21.30 น. มาเป็น 19.30 น. ซะงั้น จริงๆผมไม่ชอบรอบนี้อะเด็กๆเยอะเสียงดัง


----------------------------------------------------------------------------------


        พอเข้าโรงหนังผมให้บีนั่งขวา มิวนั่งซ้าย บี กับ มิวคุยกันไปมาเป็นที่สนุกสนานกันเลยทีเดียวแล้วเมื่อแสงไฟในโรงหนังมืดลงเพื่อเตรียมจะฉาย บีก็เอามือมาจับมือผมไว้ เมื่อตัวอย่างหนังผ่านไป และ บทเพลงสรรเสริญพระบารมีจบลงก็มีการแสดงเรตของภาพยนตร์ แล้วก็มีคำพูดขึ้นว่า

“ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจมีคำพูด ภาพ และ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ควรได้รับคำแนะนำ”

ส่วนตัวหนังสือที่หน้าจอก็ขึ้นว่า

“ภาพยนตร์ไม่เหมาะกับผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี”

แล้วน้องบีก็พูดว่า “ผมเพิ่ง 13 เอง”
ผมเลยเสริมไปว่า “งั้นกลับปะ เดี๋ยวอีก 2 ปีค่อยมาดู”

        ผมไม่รู้ว่าประโยคที่ผมพูดกับบีฮาขนาดไหน แต่ว่าคนที่นั่งข้างหลังสี่คนนั่งหัวเราะอยู่เกือบๆ  5 นาที ทั้งยังหลุดคำว่า “ ฮ่าๆๆ อีก 2 ปี ค่อยมาดู ฮ่าๆๆๆๆ” ออกมาอีก
“ทำฮาขนาดนี้เปิดคณะตลกน่าจะรุ่งนะ” มิวพูดแล้วยิ้มๆ
ตลอดการดูหนังเรื่องนี้ ผมกับบีจับมือกันตลอดทั้งเรื่อง รู้สึกเหมือนออกมาเดตกันยังไงก็ไม่รู้





เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายเหลืองขั้นที่ 1

http://www.youtube.com/v/Z2fSFSebIJU&hl=en_US&fs=1&
Pattern 1  หรือ Poomsae iL Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากเหลืองขั้นที่ 1 ไปเหลืองขั้นที่ 2



Thx น้องต่ายที่ตรวจตักอักษรให้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย ( ลงตอน 7 แล้ว P1 : 12/05/10 )
« ตอบ #19 เมื่อ: 12-05-2010 20:59:36 »





ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 8 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #20 เมื่อ12-05-2010 21:01:48 »

===  ตอนที่ 9 ===


“ตืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ตืดดดดดดดดดดดดดดด ตืดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงโทรศัพท์ที่ผมเปิดระบบสั่นไว้ดังขึ้น ตอนนั้นผมกำลังนั่งหัดวาดรูปกับ โปรแกรม CS4 อยู่ ตอนแรกผมว่าจะไม่รับ แต่ก็นะ อืม มองหน่อยดีกว่าว่าใครโทรมา

“ป้อม Calling”

อืมม พี่ป้อมมีอะไรน๊า ผมมองนาฬิกา 15.30 น.

“จะสี่โมงแล้วแฮะ” ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะขยับตัวไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดรับสาย
“ครับพี่”
“เอ พี่ติดงาน พี่ไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาไหม วันนี้เอดูแลคนเดียวได้ไหมอะ” น้ำเสียงพี่ป้อมฟังดูร้อนใจอยู่
“อืมม ได้ครับ” ผมคิดอยู่พักหนึ่งก่อนรับปากออกไป
“อื่อ ขอบใจมาก ถ้าทันยังไงพี่จะรีบเข้ามาช่วยนะ” แล้วพี่ป้อมก็กดวางสายไป

        จริงๆผมไม่อยากสอนคนเดียวนะเพราะถ้าผมสอนบีเค้าจะแสดงความสนิทสนมกับผมมากๆ เช่น บางทีเรียกเข้าแถว บีก็จะวิ่งมาเกาะขาไม่ยอมปล่อย ไม่ก็เวลาสั่งอะไรจะมีวิ่งออกจากแถวมากอดซึ่งมันไม่ดีเท่าไหร่ แล้วพอถึงเวลาผมก็สอนคนเดียวครับ พี่ป้อมมาไม่ทัน การสอนดำเนินลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงจะมีเหตุวุ่นวายอยู่บ้างแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเลิก วันนี้ฝนตกปรายๆทำให้ผู้ปกครองน้องบางส่วนมารับช้า ผมเลยเรียกน้องๆที่เหลือกันอยู่มานั่งล้อมวงกัน

“แปะๆ” เสียงผมตบมือให้น้องๆหันมามองเพื่อรอรับคำสั่ง
“มานั่งนี่เร็ว” ผมชี้ให้น้องๆมานั่งใกล้ๆผม

        ผมดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่ง ส่วนน้องๆที่เหลือก็ให้นั่งกันเป็นวงกลม พอน้องๆมานั่งล้อมวงกันเรียบร้อย ส่วนน้องบีก็มานั่งกับพื้นตรงหว่างขาผมแล้วพิงเก้าอี้ที่ผมนั่ง มือก็ดึงขาผมเข้าไปแนบตัวเค้า

“พี่มีเกมมาให้เล่น” พูดจบเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็ดังขึ้น
“พี่จะให้พวกเราพูดเกี่ยวกับชื่อสัตว์บกนะ อะไรก็ได้ห้ามซ้ำกัน ถ้าใครพูดซ้ำ หรือ ไปต่อไม่ได้ต้องถูกลงโทษ เข้าใจป่ะ” ผมพูดจบน้องๆทุกคนก็พยักหน้าให้ทราบว่าเข้าใจ
“พี่เริ่มก่อนนะ อืมมม ลิง”
“แมว”
“หมา”
“หมู”
“กระทิงป่า”
“กระทิงโทน” มิวพูดเสร็จปั๊บก็หันมาหาบีทันที แล้วบีก็พูดว่า!!
“กระทิงแดง!!!”
“.............” ทุกคนเงียบ อึ้งรับประทานกันเลยทีเดียว
“บี” ผมเรียกชื่อน้องเบาๆ
“ครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม
“ไปโดดตบ 20 ไป” ผมลูบๆหัวน้องเบาๆ แล้วบีก็ลุกไปโดดตบ

        พอครบ 20 ก็กลับมานั่งที่เดิม แล้วน้องก็เอามือผมไปลูบหน้าตัวเองเล่น

“เอาๆ ต่อไป สัตว์น้ำบ้าง พี่เริ่มก่อนนะ กุ้ง”
“หอย”
“ปู”
“ปลา”
“ปลาช่อน”
“ปลาเก๋า” มิวพูดเสร็จปั๊บก็หันมาหาบีทันที แล้วบีก็พูดว่า!!
“ปลาเก๋านึ่งมะนาว!!!”
“.............” ทุกคนเงียบ อึ้งรับประทานกันเลยทีเดียว
“บี”
“ครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม
“ไปโดดตบ 30 ไป” ผมลูบๆหัวน้องเบาๆ แล้วบีก็ลุกไปโดดตบ

        พอครบ 30 ก็กลับมานั่งที่เดิม แล้วน้องก็เอามือผมไปลูบหน้าตัวเองเล่นต่อ แต่คราวนี้น้องไม่ต้องจับมือผมลูบล่ะ เพราะผมลูบเอง เพราะท่าทางน้องจะชอบให้เอามือลูบหน้าเล่น

“เอา พืชผัก ผลไม้ บ้างแล้วกัน มะกรูด”
“มะนาว”
“มะพร้าว”
“ส้มโอ”
“ฟักแฟง”
“แตงโม” มิวพูดเสร็จปั๊บก็หันมาหาบีทันที แล้วบีก็พูดว่า!!
“ไช โย โฮ่ ฮิ้ววววววววว”
“บี”
“ครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม
“ไปโดดตบ 50 ไป” ผมลูบๆหัวน้องเบาๆ แล้วบีก็ลุกไปโดดตบ

        พอครบ 50 ก็กลับมานั่งที่เดิม แล้วน้องก็เอามือผมไปลูบหน้าตัวเองผมไม่เล่นล่ะ มันไม่จบ ผมเลยเปลี่ยนไปเป็นเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้น้องฟังแทนดีกว่าระหว่างที่น้องๆรอผู้ปกครองมารับระหว่างที่เล่าผมก็ลูบหน้าน้องบีเล่นไปด้วย คางบ้าง หูบ้าง แก้มบ้าง ปากบ้าง เหมือนว่าน้องบีจะชอบ ไม่นานนักฝนก็หยุดตก ป๊าน้องบีก็มารับ แล้วก็ผู้ปกครองน้องคนอื่นๆก็มารับ ผมยืนมองรถคันสุดท้ายของผู้ปกครองที่มารับน้องไปจนไฟท้ายสีแดงๆลับตาไป ผมแบมือขึ้นมา แล้วมองไปที่ฝ่ามือตัวเอง

“หน้าน้องบีนุ่มจัง” ผมคิดในใจ



--------------------------------------------------------------------------------------



        ใกล้งานกีฬาของมหาวิทยาลัยแล้วซินะ อืม ผมลืมบอกไปนอกจากยิมที่นี่แล้วผมยังต้องดูแลชมรมเทควันโดของมหาวิทยาลัยด้วยเพราะโค๊ชที่มีอยู่พึ่งพาอะไรไม่ได้ ผมเลยต้องดำเนินงาน วางแผนการฝึกซ้อม แล้วก็จัดการระบบงานต่างๆของชมรมเองหมด พอใกล้งานกีฬาแบบนี้ ทำให้ผมต้องเข้าไปดูแลเอง ผมเลยต้องออกจากยิมก่อนเวลาประมาณ 45 นาที เพื่อไปดูแลนักกีฬาที่มหาวิทยาลัย

“แปะๆๆ” ผมตบมือเรียกน้องๆ
“คัมมาน ชุลซา” ผมเรียกน้องๆเข้าแถว พอน้องๆเข้าแถวเสร็จแล้วผมก็สั่งให้น้องๆนั่งลง
“อืมมม พี่มีเรื่องจะแจ้งนะครับ คือ เดี๋ยวจากวันนี้เป็นต้นไปพี่กลับเร็วนะ พี่ต้องไปดูแลพี่ๆที่ ม. หน่ะ” น้องๆทุกคนก็พยักหน้ารับทราบ ผมก็สั่งให้น้องๆลุกขึ้นแล้วก็เริ่มการฝึกซ้อมต่อจนถึงเวลาที่ผมต้องไป ม. ผมเดินปลีกตัวออกไปหยิบ เสื้อวอร์ม กับ กระเป๋า 
“พี่” เสียงน้องบีตะโกนออกมาจากแถว ผมหันไปมอง
“ครับ”
“จะไปแล้วเหรอ” พูดจบน้องบีก็วิ่งออกจากแถวมากอดผมไว้
“อื่อ”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” น้องเงยหน้าขึ้นถามทำตาเศร้าๆ
“ไม่ได้ พี่ต้องไปดูแลพี่ๆเค้า” ผมเบี่ยงตัวเข้ามุมหลบสายตาน้องๆคนอื่น แล้วผมก็ลูบหน้าผากน้องแล้วก็ก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากของน้อง
“ผมไม่อยากให้พี่ไป”
“ไม่ได้” ผมเอานิ้วลูบริมฝีปากน้องเบาๆ แล้วก็ไปลูบแก้มน้อง
“ไม่เอาๆ ห้ามไป อยู่ที่นี่กับผมก่อน” น้องบีเริ่มกอดผมแน่นขึ้น ทำตาสลดใส่ด้วย ก่อนที่จะทรุดตัวลงเกาะขาผมไว้ไม่ยอมปล่อย ผมดึงยังไงน้องก็ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยก่อนบี ค่ำแล้วพี่ๆเค้ารอพี่อยู่” ผมพูดพลางดึงขาขึ้นด้วย
“ไม่เอาๆ ไม่ปล่อย ถ้าพี่ไปผมจะเกาะอยู่แบบนี้แหละพี่จะได้ไม่ไป” แล้วบีก็กอดไว้แน่น

        ผมค่อยๆก้มลงไปหอมแก้มน้องเบาๆแล้วพูดว่า

“ไม่ดื้อนะครับเด็กดี ถ้าเป็นเด็กดีเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาไปด้วย”
“จริงนะ” น้องบีตอบกลับมาเบาๆด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย
“อื่อ จริงซิ” ผมยิ้ม แล้วก็หอมแก้มน้องบีเบาๆอีก 1 ที

        น้องบีปล่อยมือออกแต่โดยดีแล้วไปเข้าแถวเตะต่อส่วนผมก็ไปดูแลนักกีฬาที่มหาวิทยาลัยกว่าจะเสร็จก็ปาไป ทุ่มกว่าๆ เกือบ ทุ่มครึ่ง ผลไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ ผมไม่ได้มาดูแล รองประธานเลยไม่เข้มข้นที่จะฝึกน้องๆรุ่นพี่เองก็เอาแต่สั่งน้องๆส่วนตัวเองนั่งเฉยๆ ซ้อมเสร็จผมเลยสวดแถมด้วยหนึ่งบทก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน



---------------------------------------------------------------------



“แกร๊ก” เสียงฝาเครื่องดื่มที่ผมชอบถูกเปิดออก มือเปื้อนเหงื่อนี่มันเปิดฝาขวดยากชะมัด ผมยกขึ้นมากรอกเลยไม่ต้องหลอดง่ายดีคุณว่าป่ะ ดื่มไปมองท้องฟ้าช่วงค่ำๆไปผ่านหน้าต่างบ้านเดิม อืมมมมม ท้องฟ้าช่วงเย็นๆนี้ทำให้รู้สึกจมอยู่กับความคิดของตัวเองดีนะครับ แล้วผมก็รู้สึกว่ามีใครก็ไม่รู้มาดึงเสื้อผม ผมหันไปมองก็เห็นน้องบียืนอยู่
“จะไปยัง” น้องบีเงยหน้าขึ้นถาม
“อื่อ ไปดิ โทรบอกป๊าก่อนด้วยนะว่ากลับค่ำ” ผมพูดจบน้องบีก็หยิบโทรศัพท์มาโทรหาที่บ้าน

        พอโทรเสร็จผมก็พาน้องขึ้นรถไปด้วย น้องนั่งหน้าเหมือนเดิมเอนตัวมาพิงเหมือนเดิม ผมเลือกใช้เส้นทางที่คนน้อยที่สุด ตอนนั้นก็ค่ำแล้วบรรยากาศมืดสลัวพอสมควร ผมใช้เส้นทางอ้อมหลัง ม. พอพ้นเขตถนนเส้นหลัก ผมก้มลงหอมผมน้องเบาๆ น้องเอามือซ้ายผมไปกอดตัวเองเอาไว้ ผมเอามือข้างนั้นลูบท้องน้องเบาๆ ผมชะลอความเร็วของรถให้ช้าลง ก่อนจะเลื่อนลงแล้วสอดมือเข้าไปในเสื้อของน้องอีกครั้งผมลูบท้องน้องไปมาช้าๆเบาๆ ลูบขึ้นมาที่อกวาดนิ้วไปรอบๆ น้องค่อยๆขยับตัวให้ตรงขึ้น อืมมมม  พอตัวน้องตรงทำให้ผมลูบไปมาได้ง่ายขึ้น ผมใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆช้าๆไปมาทั่วท้องแล้วก็อกน้องน้องวาดนิ้วรอบสะดือ สลับกับเอานิ้วชี้เล่นหัวนมน้องเร็วระยะ ไม่นานนมน้องก็ตั้งแข็ง ผมสอดมือลึกขึ้นมาลูบเกือบถึงไหล่น้องไปมาช้าๆ น้องหัวใจเต้นแรงมากทุกครั้งที่ลูบผ่านกลางอก แต่ไม่นานมากนักผมก็มาถึง ม.
        พอมาถึง ม. พี่สาวที่ชมรมก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ต่างพากันชมว่าน้องบีน่ารักอย่างนั้น อย่างนี้ แต่บีไม่ยอมเล่นกับใครเลย เดินตามผมอย่างเดียว พอผมหยุดก็จะมายืนข้างๆกอดผมบ้างดึงมือไปกอดบ้าง จนมีคนแซวว่าเหมือนพ่อลูกกันเลย เพราะน้องเดินตามไม่ห่าง ผมสังเกตเห็นว่า บีเป็นเด็กค่อนข้างวางตัวพอสมควร ใครเข้ามาพูดคุยหยอกด้วย น้องก็จะไม่เล่นกลับไปง่ายๆเหมือนเด็กคนอื่น กระทั่ง ทุ่มหนึ่ง ผมเรียกนักกีฬามารวมแล้วก็สวดไปอีกหนึ่งรอบ บี นั่งยิ้มพอเห็นพี่ๆถูกผมสวด

“เอาวันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้มา รองประธานพาวิ่งรอบ ม. สักสองรอบนะ วอร์มรอ ยืดเส้น เตะพื้นฐานให้เสร็จ พี่มาจะได้ต่อเลย ไม่ต้องมารอเข้าใจป่ะ”
“ครับๆ” รองประธานผงกหัวรับคำสั่ง
“เอากลับบ้านได้” พอสั่งกลับบ้าน น้องๆหลายคนก็ทยอยๆกับกัน ส่วนผมก็คุยกับรองประธาน ส่วนน้องบีก็ถูกพี่สาวที่ยังไม่กลับรุมแซวรุมหยอกกันใหญ่ จนกระทั่งทุกคนกลับหมด
“งั้นผมกลับเลยนะครับ”
“อืมม ขับรถดีๆ”
“แล้วพี่ยังไม่กลับเหรอครับ”
“เดี๋ยวตามไป ขอดูของในตู้อุปกรณ์ก่อน”
“ครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันพี่” พูดจบรองประธานก็ยกมือไหว้ผมก่อนจะเดินออกไป

        น้องบีนั่งรอผมบนรถพอเป็นรองประธานเดินออกไปน้องก็เดินเข้ามาหาแล้วก็จับมือผมไว้ ผมเดินไปที่ตู้อุปกรณ์เพื่อเช็คของ ขณะกำลังยืนเช็คบีก็เดินมายืนหน้าผมแล้วก็ชะโงกๆมองของที่อยู่ในตู้ หลังคอน้องบีอยู่หน้าผมอีกแล้ว ผมย่อตัวนิ๊ดหน่อยลงไปกอดน้องเบาๆแล้วเอาหน้าซุกที่ต้นคอน้องข้างซ้าย ผมสูดกลิ่นน้องเข้าไปเต็มปอด กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจากเสื้อทำให้ตัวน้องบีมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ผมหอมน้องอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง ผมก็เปลี่ยนเป็นจูบเบาๆ ผมดึงคอเสื้อน้องไปทางไหล่ซ้ายเพื่อให้ผมเห็นผิวของน้องมากขึ้น ผมอ้าปากนิ๊ดหน่อยแล้วก็สอดลิ้นออกมาก่อนที่ลิ้นของผมจะแตะลงไปบนต้นคอซ้ายของน้องน้องเบาๆ สลับกับเอาริมฝีปากเม้มลงไป ผมลากปลายลิ้นไปทั่วต้นคอซ้ายของน้องผมพยายามทำให้นุ่มนวลมากที่สุดช้าที่สุดเพื่อลิ้มรสต้นคอของน้องให้เต็มที่ ตอนนั้นตัวผมร้อนผ่าวไปหมด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นเต้น มือผมสั่นเล็กน้อย น้องบีเองก็หลับตา หายใจหอบๆออกมานิ๊ดหน่อย อาจจะเพราะเล่นกีฬามาทำให้มีรสเค็มหน่อยๆแต่ไม่เป็นไร แล้วผมก็ลากลิ้นไปที่บ่า ที่ไหล่ วนไปวนมา ก่อนที่จะกลับมาซุกต้นคอน้องอีกครั้งผมหายใจรดใส่ต้นคอน้องอยู่อย่างนั้น ผมกอดน้องแน่นขึ้นมานิ๊ดหน่อย ตอนนี้ผมอยากรู้จังว่าตัวเล็กของน้องตื่นหรือเปล่า ผมค่อยๆสอดมือขวาข้างที่ผมถนัดที่สุดลงไปช้าๆจนถึงจุดที่ตัวเล็กของน้องอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะสัมผัสน้องก็พูดว่า

“พี่....พอเถอะครับ.......ค่ำแล้วเดี๋ยวม๊ารอทานข้าว” ผมงับใบหูน้องเบาๆก่อนที่จะใช้ลิ้นเลียหูน้องอีกครั้ง น้องบีถึงกับบิดไปมาเล็กน้อยเลยทีเดียว
“อื่อ ปะ”

        ผมดึงประตูตู้เก็บอุปกรณ์ปิด ล๊อกกุญแจ ผมจูงมือน้องบีไปที่รถ น้องนั่งข้างหน้าเหมือนเดิม ขากลับผมเลือกไปใช้อีกหนึ่งเส้นทางเพราะประตูหลัง ม. ปิดแล้ว แต่ก็มีช่วงลับตาคนอยู่ผมยังอยากรู้อยู่ว่าตัวเล็กของน้องตื่นหรือเปล่า ตอนนั้นน้องจับมือซ้ายผมไปกอดตัวเค้าหลวมๆอยู่ ผมเลยเลื่อนมือลงช้าๆ จนไปถึงกางเกง ผมลูบตรงนั้นเบาๆจนไปถูกอะไรสักอย่างเข้า ซึ่งมันกำลังตั้งเด่อยู่ ผมเอาปลายนิ้วลูบจากข้างนอกกางเกงเบาๆ ทันทีที่ลูบน้องบีก็จับมือผมขึ้นมากอดคืนทันที ผมไม่ฝืนที่จะอยากรู้เพราะคิดว่าน้องคงไม่พร้อมแล้วล่ะ จนถึงบ้าน จำได้ว่า ตลอดทาง บีไม่พูดอะไรเลย แล้วตอนถึงหน้าบ้านน้องก็หน้าแดงจนสังเกตได้ ผมไม่รู้นะว่าพรุ่งนี้ บี ยังจะงอแงมาด้วยอีกหรือเปล่า

To Be Con






เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
 ท่ารำของสายเหลืองขั้นที่ 2

http://www.youtube.com/v/4FEydS1uoHE&hl=en_US&fs=1&
Pattern 2  หรือ Poomsae I Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากเหลืองขั้นที่ 2 ไปเขียวขั้นที่ 1

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 9 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #21 เมื่อ12-05-2010 21:04:32 »

===  ตอนที่ 10 ===


        บนเส้นทางที่คุ้นเคยเพราะเดินประจำๆ ร้านสะดวกซื้อเดิมๆที่เข้าไปประจำ กับเด็กที่เดินอยู่ข้างๆอีกหนึ่งคน

“อ๊ะพี่ น้องหมาตัวนั้น”

        บีชี้ไปที่น้องหมาพูเดิ้ลสีดำที่ขนยาวๆปิดตาซะมองไม่เห็นท่าทางน้องไม่น่าจะได้รับการดูแลดีเท่าไหร่ เพราะไม่ต่างจากคราวก่อนที่เจอเลย แต่วันนี้น้องเดินขากะเผลกๆ เหมือนว่าน้องหมาเองก็ได้ยินเสียงน้องบี น้องหมาหันมาทางบียืนนิ่งเหมือนกับกำลังตั้งใจเพ่งมองสังเกตว่าบีจะทำอะไรต่อ แล้วกระดิกหางให้หน่อยๆ น้องบีเห็นดังนั้นเลยวิ่งไปนั่งยองๆมองน้องหมา ส่วนน้องหมาก็ยั่งลงมองบีแล้วกระดิกหางให้ บีเองก็ยกมือเหมือนอยากจะลูบๆหัวน้องหมา

“บี ไม่เอา น้องไม่สะอาด” ผมพูดออกไป
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวล้างมือก็ได้” น้องหันมาตอบแล้วก็ยิ้มๆ

        ก่อนเอานิ้วชี้ไปลูบหัวน้องหมาเบาๆ น้องหมาก็ดีใจกระดิกหางมากขึ้นย่ำเท้าหน้าขึ้นลงไม่สูงมากนักสลับกันไปมา ตัวงี้สั่นระริกด้วยความดีใจเชียว ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาเลียนิ้วน้องบี น้องบีก็หัวเราะชอบใจใหญ่

“ถ้ามีหาง คงจะกระดิกหางใส่กันไปแล้วซินะ” ผมคิดในใจ
“พี่ ขาน้องเจ็บ” บีชี้ที่ขาน้องหมาให้ผมดู
“อื่อ เห็นแล้ว”
“น่าสงสารจัง อยู่ข้างถนนก็แบบนี้ จะมีพวกขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือมาชน”

        น้องบ่นๆขณะที่กำลังเอานิ้วชี้หยอกน้องหมาอยู่ ท่าทางน้องหมาจะรู้ว่าบีเอ็นดูเค้าเลย แสดงท่าทางดีใจแบบนั้นที่เจอบี แล้วก็พยายามอ้อน

“เดี๋ยวก็คงหาย น่าจะมีเจ้าของอยู่มีปลอกคอนี่นา” ผมพูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ผมก็น่าจะรู้ว่าเจ้าของคงไม่สนใจน้องหมาตัวนี้หรอกปลอกคอเก่าแล้วก็มอมแมมขนาดนั้น
“เหรอ”
“ปะ” ผมเรียกน้องบี

        น้องบีเอานิ้วจิ้มๆจมูกน้องหมาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้ววิ่งมาเดินข้างๆผม ระหว่างทางจะมีถังขยะวางอยู่ใบหนึ่ง ทันทีที่เดินผ่านถังขยะน้องก็แอบยิ้มแล้วหันมาหาผม

“พี่”
“ครับ”
“พี่ว่าถ้างูตกลงไปในถังขยะ งูจะฉกอะไรก่อน” พูดจบน้องบีก็ยิ้ม
“ฉก......กะ...ปรก....” ผมตอบเสร็จก็แอบอมยิ้มหน่อยหนึ่ง
“รู้ได้ไงอะ” น้องบีเงยหน้าถามอย่างสงสัย
“เก่าแล้ว” ผมตอบกลับไป
“พี่อะ”
“เอางี้พี่ถามบ้าง”
“อื่อๆ เอาๆ” น้องเดินมาชิดตัวผมแล้วก็ดึงมือผมขึ้นไปโอบคอเค้า
“ชอบดูสารคดีป่ะ”
“ชอบ”
“เคยดูสารคดีสัตว์โลกม๊ะ”
“เคยๆ”
“เคยเห็นเวลาสิงโตมันตื่นนอนม๊ะ”
“เคย”
“คำถามนะ เวลาทำไมสิงโตเวลาตื่นนอนแล้วมันต้องหันไปซ้ายที ขวาที” พูดจบผมก็แอบยิ้ม บีก้มหน้าลงคิดอย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว
“ทำไมเหรอ....อืมมม” น้องคิดอยู่อีกพักหนึ่งพอถึงหน้าร้านสะดวกซื้อน้องก็เงยหน้าขึ้นมาตอบว่า
“ก็เพราะมันจะได้เห็นไงว่ามีอะไรอยู่แถวนั้นบ้าง” น้องพูดอย่างมั่นใจ
“สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานขายประจำร้านทักขึ้น
“เปล่า” ผมตอบกลับไป พร้อมก้มหน้ามองน้องบี ส่วนน้องบีก็เงยหน้ามองขึ้นมาทำหน้าตาสงสัย
“เพราะอะไรอะ”
“ก็ที่สิงโตต้องหันซ้ายที ขวาทีตอนตื่นนอน เพราะมันหันพร้อมกันสองด้านไมได้ เลยต้องหันซ้ายทีหนึ่ง ขวาทีหนึ่ง” พูดจบผมก็ยิ้ม พนักงานขายได้ยินเข้าก็ถึงกับแอบหัวเราะเลยทีเดียว
“เออ.....จริงด้วย พี่อ๊ะๆๆๆ แกล้ง”
“เปล่าแกล้งนะ จริงป่ะล่ะ อิอิ” ผมหัวเราะ
“งื้อออออ ซื้อน้ำให้ผมเลย” น้องบีดึงมือผมไปตรงมุมเครื่องดื่ม
“พี่”
“อื่อ”
“ถ้าพี่เปิดร้านอาหาร แล้วตอนพี่เก็บเงินโต๊ะสอง โต๊ะสามเสร็จ ปรากฏว่าโต๊ะสี่เบี้ยวพี่จะทำไง” น้องบีถามตอนกำลังเดินไปจ่ายเงิน
“โต๊ะสี่เบี้ยวเหรอ......” ผมทำหน้าตาสงสัย แล้วก็วางน้ำที่ถือมาลงบนเคาเตอร์
“อิอิ” น้องบีหัวเราะอย่างมีความหวังว่าผมจะตอบผิด
“โต๊ะสี่เบี้ยว ก็จัดให้ตรงดิ” ผมตอบพร้อมยิ้ม พนักงานขายได้ยินอีกแล้ว ยิ้มออกมาด้วยเลย
“รู้อีกล่ะ” บียิ้มๆ
"พี่ครับ พี่ครับ เอาลองชีส 1 ครับ ไม่ต้องหั่นนะ"
"หือ....ไม่เอาแฮมอะ ชอบ แฮมไม่ใช่เหรอ"

"ไม่ได้กินเอง ซื้อไปให้น้องหมา" น้องเงยหน้าขึ้นมายิ้ม

        ตอนกลับน้องบีก็ไปนั่งยองๆมองหน้าน้องหมาเหมือนเดิมแล้วบีก็เอาฟุตลองชีสวางบนถุงให้น้องหมา น้องหมาดมๆแล้วมองหน้าน้องบีเหมือนจะตั้งคำถามว่า

"ให้ผมเหรอ ผมทานได้่ไหม"

        บีนั่งมองน้องหมา แล้วยิ้มๆก่อนจะฉีกฟุตลองไปยื่นตรงจมูกน้อง น้องหมาเลียๆนิ้วน้องบีกับฟุตลองก่อนจะคาบเอาฟุตลองเข้าปากไปแล้วก็เคี้ยวทานอย่างอร่อย บีเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มแล้วก็ดันๆฟุตลองที่เหลือให้น้อง แล้วยืนดูน้องหมาทานอย่างอร่อย จริงๆน้องบีมุมที่โอบอ้อมอารีแบบนี้ก็น่ารักดีนะครับ รอยยิ้มที่เกิดขึ้นจากการที่เห็นน้องหมามีความสุข สายตาที่ดูสดใสของน้องเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผมชอบมองน้องเวลาน้องทำอะไร


“เฮ้อออออ” ผมล้มตัวลงนอนแผ่อยู่บนเบาะ
“กล้าๆ”
“ครับพี่”
“เปิดหน้าต่างยิมให้หมดเลย ร้อนอะ”
“ครับๆ”

        ตอนนั้นบีเองก็มานั่งคุยเล่นกับมิว แล้วก็อ้นอยู่ข้างๆผม

“บี”
“ครับ”
“วันนี้ไป ม. อีกป่ะ”

        น้องบีนิ่งไปพักหนึ่งเหมือนกำลังคิดอยู่แล้วน้องก็ตอบว่า

“ไม่รู้”
“อืมมม บี อ้น มิว ไปเปลี่ยนชุดปะ”

        พูดจบผมก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดกับน้องๆ มิว กับ บี คุยกันมันมาก อ้นเองก็เป็นเด็กฉลาดหลังๆรู้สึกเค้าจะคุยเชิงประลองปัญญา ไหวพริบ กับความรู้กันยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมว่าดีนะคุยกันแบบนี้จะได้ฉลาดๆ ผมก็เปลี่ยนชุดให้บีเหมือนเดิม มิวก็แซวว่า

“อะไรยังให้พี่เอเปลี่ยนชุดให้อีกโตแล้วนะเรา”
“ก็ขี้เกียจเปลี่ยนเองอะ” บีตอบกลับไป
“อิอิ” อ้นหัวเราะ

        วันนี้ผมเน้นเรื่องการเตะBackkick*1 เพราะอยากให้น้องๆที่ไล่หลังทั้งหลายมีพื้นฐานในการหมุนตัวเตะ น้องมิวยังไม่แข็งแรงกับท่านี้ผมเลยต้องไปช่วยจับประคองตัว*2 จนกระทั่งสอนเสร็จ มิวถือว่าเรียนรู้ได้เร็วมากผมก็คิดว่า อยากจะพามิวไปซ้อมด้วยที่ ม. เพราะวันนี้ผมจะเน้นเรื่อง Backkick ของ นักกีฬาที่ ม. เหมือนกัน จะได้เป็นการพัฒนาน้องมิวเพิ่มมากขึ้นด้วย

“มิวๆ” ผมเรียกมิวเบาๆ ตอนนั้นมิวกำยืนดื่มน้ำอยู่ใกล้ๆ มิวหันมามอง
“ครับ” แล้วน้องก็เดินมาทางผม
“วันนี้ว่างป่ะ”
“ทำไมเหรอครับ” มิวเดินมานั่งข้างๆผม
“ว่าจะให้ไปซ้อมกับพี่ๆที่ ม. อะ”
“กลับกี่โมงครับ”
“ทุ่มหนึ่ง”
“ก็ได้ครับ ผมโทรบอกแม่ก่อน” พูดจบน้องก็ลุกขึ้น
“มิวๆ”
“ครับ”
“ให้คุณแม่ไปรับที่ ม. เลยก็ได้ ถ้าไปไม่ถูกก็โทรเข้าเครื่องพี่เลย”

        ไม่นานพี่ป้อมก็เรียกน้องๆไปรวมแบบไม่เป็นการเป็นงานไปนั่งล้อมวงเหมือนที่ผมเคยเรียก แล้วพี่ป้อมก็พูดคุยเรื่องการซ้อมวันนี้ ส่วนผมก็นั่งบนเก้าอี้ใกล้ๆกับที่น้องๆนั่งกัน ส่วนบีก็ใช้อภิสิทธิ์พิเศษ ถอยกราวกรูดมานั่งตรงหว่างขาผมเหมือนเดิม ระหว่างนั้นน้องบีก็เอามือผมไปลูบหน้าเค้า

“นวดหน้าๆ” น้องบีพูดขึ้น พลางเอามือผมลูบแก้มเค้าไปมา

        ผมก้มมองแล้วพูดขึ้นเบาๆว่า

“บี” น้องบีเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ครับ”
“เมื่อกี้ที่สอน Backkick มิวอะ.....พี่ยังไม่ได้ไปล้างมือเลย*3

        ไม่ต้องอธิบายหรือเพิ่มเติมอะไรลงไป บีเคยถูกสอนมาก่อน แถมยังเห็นผมสอนคนอื่นอยู่บ่อยๆ น้องบีเลยทราบเอาตอนนั้นเองว่า มือที่ลูบหน้าเค้าไปมาแถมปาดริมฝีปากเค้าจนมีน้ำลายติดมาหน่อยๆด้วยเมื่อกี้......จับเท้ามิวมา หลังสิ้นคำพูดผม บี ลุกขึ้นพรวด!! แล้ววิ่งไปหามิว ก่อนถีบหลังมิวเบาๆ แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้า มิว พอถูกถีบก็ทำหน้างงๆ ผมว่าก็สมควรงงแหละ เหอๆ หลังจากนั้นไม่นานผมก็ไปบอกพี่ป้อมเรื่องที่จะพามิวไปซ้อมที่ ม. คุยเสร็จผมก็เดินไปที่รถ มิวก็เดินตาม ตอนนั้นบีเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี พอเห็นผมกำลังออกไป บีเลยวิ่งมาเกาะหน้าต่างแล้วตะโกนออกมาว่า

“พี่” พอได้ยินเสียงน้องเรียกผมก็หันหลังกลับไป
“ว่าไง” ผมถามกลับไปเบาๆ
“ไปไหน”
“ไปสอนพี่ที่ ม.”
“มิวล่ะ”
“ก็ไปกับพี่”
“ให้ไปด้วยทำไม”
“พี่ให้มิวไปซ้อม Backkick เพิ่มกับพี่ๆเค้า”
“พี่”
“อะไรอีก”
“ผม........ไปด้วย.......ได้ไหม..........”
“บอกป๊ายังล่ะ”
“ยัง”
“อืมมม พรุ่งนี้ค่อยไปแล้วกัน วันนี้ค่ำมากแล้ว”
“พี่.....ไปก่อนก็ได้เดี๋ยวค่อยโทรบอกป๊า”

        พูดจบน้องบีก็รีบวิ่งไปเอากระเป๋าผ้าที่วางไว้ แล้วก็ขวดน้ำ วิ่งออกมาหาผมทันที น้องบีวิ่งมาก็เห็นว่ามิววางกระเป๋าอยู่หน้ารถแล้ว บีหยิบกระเป๋ามิวยื่นไปให้มิวแล้วพูดว่า

“นั่งหลัง สะพายเอาดิ เขานั่งหน้าต้องวางตรงนี้” มิวรับกระเป๋าแล้วทำหน้าตา งงๆ พอผมออกรถบีก็พิงมาเหมือนเดิมแล้วก็ถอนหายใจดัง
“เฮ้อออ....”
“เป็นเด็กเป็นเล็กหัดถอนหายใจ” พูดจบผมก็ลูบๆหัวบีเบาๆ

        พอไปถึง ม. พี่สาวหลายคนก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ วิ่งมารุมน้องๆทั้งสอง บ้างก็หยิกแก้มน้อง บ้างก็ดึงน้องไปจะหอมแก้มบ้าง แต่มิว กับ บีก็ปัดป้องกันเต็มที่ เว้นว่าถูกกอดมีมิวคนเดียวยอมให้พี่สาวกอด ส่วนบีจะดิ้นหลบตลอด แต่ดูๆแล้ว มิว จะมีปฏิสัมพันธ์กับพี่ๆได้มากกว่าบี เพราะมีการพูดคุยกับพี่ๆอย่างสนุกสนานการฝึกซ้อมวันนี้มิวพัฒนาตัวเองขึ้นมาก ถึงจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่สำหรับมือใหม่แล้วใช้ได้ทีเดียว พอถึงตอนเลิก เนื่องจากวันนี้เลิกช้า ผมเลยวานให้รองประธานอยู่ปิดยิมให้ ส่วนมิวคุณแม่ก็มารอรับตั้งแต่ทุ่มหนึ่งเลยเลิกปั๊บกลับเลย ส่วนบีผมก็หิ้วขึ้นรถแล้วรีบพาไปส่งที่บ้าน ระหว่างทางขากลับต้องผ่านทางเดิม พอถึงที่ผมก็ทำอย่างที่เคยทำสอดมือเข้าไปในเสื้อน้องแล้วลูบหน้าท้องเรียบๆของน้องเบาๆแค่พอเพลินๆ พอถึงเขตชุมชมน้องบีก็ดึงมือผมออกมากอดตัวเค้าไว้หลวมๆ พอใกล้ถึงหน้าบ้านน้อง มีอีกช่วงหนึ่งที่เงียบ แต่เป็นช่วงสั้นๆ ผมไม่อยากปล่อยผ่านไป พอถึงตรงนั้นผมจบมือน้องบีขึ้นมาแล้วหอมลงไปที่หลังมือน้องก่อนที่จะตามด้วยจูบเบาๆ เมื่อถึงหน้าบ้าน น้องบีลงไปกดกริ่งแล้ววิ่งกลับมาเอากระเป๋า

“พี่” น้องเรียกผมแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ครับ”
“พี่ว่า ไก่เก้าขามีกี่ตัว” พูดจบน้องก็ยิ้มคงคิดว่าหาคำถามที่ผมตอบไม่ได้มาได้แล้วสงสัยถามจากสาวๆที่ ม. แน่เลย
“ไก่....เก้าขา.....” ผมทำหน้า งงๆ เพราคิดว่าคำตอบต้องเสี่ยวแน่ๆ
“ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตอบ” พูดจบน้องก็ยิ้มๆ แล้วประตูบ้านน้องก็เปิดออก มีลูกจ้างคนหนึ่งเดินออกมา
“อ่าว บีเหรอ”
“ก็บีดิ เห็นเป็นหมาเหรอ”
“โอโห ดูมานตอบ” ผมคิดในใจ

อืมมม ไก่เก้าขา........มีกี่ตัว.....

To Be Con




*1 Backkick
http://www.youtube.com/v/_IN4bcarV50
*2 ท่าเตะบางท่าเริ่มแรกผู้ฝึกอาจจะยังไม่สามารถทรงตัวเองได้ การช่วยประคองจะทำให้ผู้ฝึกสามารถหาจุดทรงตัว แล้วก็ทราบถึงท่าที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น และ เป็นเร็วมากขึ้น
*3 ท่าที่ใช้การถีบส่วนมากผู้ที่ฝึกแรกๆจะทำผิดกันกลายเป็นเตะ การจับฝ่าเท้าผู้ฝึกแล้วดึงออกไปให้กล้ามเนื้อรู้ว่าต้องทำอย่างนี้ การดึงเท้าแบบนี้สัก 4 – 5 ครั้ง คราวต่อไปผู้ฝึกจะสามารถถีบได้เอง ถึงจะไม่ดีมาก แต่เท่าที่ผมสอนมาการทำแบบนี้ทำให้ผู้ฝึกถีบเป็นเร็วมากขึ้น





เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
 ท่ารำของสายเขียวขั้นที่ 1

http://www.youtube.com/v/XMhY2Ioeof8

Pattern 3  หรือ Poomsae Sam Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากเขียวขั้นที่ 1 ไปเขียวขั้นที่ 2



Thx น้องต่ายที่ตรวจตัวอักษรให้ครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 10 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #22 เมื่อ12-05-2010 21:07:31 »

===  ตอนที่ 11 ===




“นักศึกษาคะ ให้ไปทำรายงานเรื่อง Law of Demand และ Law of Supply*1 มาส่งอาจารย์ภายในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงนะคะ เขียนเอานะคะห้ามพิมพ์ แล้วก็ทำให้เรียบร้อยตามที่ตกลงกันไว้นะคะ” อาจารย์แม่พูดสั่งรายงานขณะที่ท่านเองก็กำลังเก็บเอกสารประกอบการสอนที่วางอยู่ทั่วโต๊ะมาจัดรวมกันอย่างเรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่อึดใจ
“นักศึกษา ทำความเคารพ” หัวหน้าห้องพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆประมาณว่า
“เขียนอีกละ”

        เสียงจ๊อกแจ๊กๆดังขึ้นหลังจากที่อาจารย์ออกจากห้องไป ผมนั่งมองเพื่อนๆคุยกัน

“ตื๊ดดด ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดดด” เสียงโทรศัพท์กำลังสั่นบอกใผ้มทราบว่ามีคนโทรเข้ามา ผมหยิบขึ้นมาดู ถ้าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้ผมคงจะไม่รับ เพราะกำลังนั่งฟังเพื่อนวางแผนการทำงานกันอยู่จะได้เอาไปเป็นแนวทาง

“น้องบี Calling”

        บีโทรมาแฮะ เพิ่งจะบ่ายสองครึ่งเอง เลิกเรียนแล้วเร๊อะ

“ว่าไง”
“พี่อยู่ไหน”
“อยู่ดาวอังคาร”
“พี่อะ....”
“มีอะไรด่วนป่ะ ตอนนี้กำลังหาแหล่งน้ำอยู่”
“บีพาป๊ามาหาบ้านน้องหมาตัวเมื่อวานอะ ไม่รู้หลังไหน เลยลองถามพี่ดูเผื่อรู้”
“อืม....ร้าน___ ข้างๆป่ะ พี่เห็นน้องชอบไปวิ่งเล่นตรงนั้นอะ”
“ร้านเค้าปิดอะพี่”
“แล้วพาป๊ามาหาบ้านน้องทำไมอะ”
“ก็บีจะให้ป๊าเอาไปให้ คลีนิกแถวบ้านรักษาให้ แล้วค่อยเอามาให้เค้าคืน เลยจะบอกเจ้าของเค้าก่อน”
“อืมม  เค้าคงเปิดตอนเย็นๆอะ ยังไม่ต้องบอกเค้าก็ได้ เค้าไม่ได้สนใจน้องเท่าไหร่อะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่พาไปบอกให้แล้วกัน”
“ครับ”
“แล้วเจอน้องป่าว”
“เจอแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่ป๊าเรียก”

        แล้วบีก็กดวางสาย ยังไม่ได้ถามเลยว่าเลิกเรียนแล้วหรือยัง อืมมม แล้วผมก็ไปหาข้อมูลกับเพื่อนที่ห้องสมุดจนประมาณบ่ายสามโมงผมก็ขอตัวออกมา ตอนเดินไปที่รถรองประธานโทรมาบอกผมว่า วันนี้มีการจัดเลี้ยงเค้าใช้พื้นที่ของยิมในการจัดด้วย ทำให้รองประธานบอกโทรแจ้ง แล้วก็ ทำป้ายหยุดซ้อมหนึ่งวัน ผมว่าไม่ดีเลยนะ ถ้าจะใช้พื้นที่ก็น่าจะแจ้งพวกผมตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่ใช่วันนี้ นี่แหละข้อเสียของการไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็ขับรถออกไปที่ยิมทันที ตอนขับรถออกจาก ม. ผมเห็นหมูปิ้งทรงเครื่องเจ้าหนึ่งกลิ่นแบบว่าหอมสุดๆเลยอะ แต่รถเยอะมากจนขี้เกียจข้ามไปอีกฝั่งเลยไม่ได้ซื้อ แต่.....หึหึหึ แถวยิมผมก็มีขาย พอจอดรถที่หน้ายิม ผมก็ชะโงกๆยังไม่เห็นใครมา ผมเลยเดินไปซื้อหมูปิ้งที่ว่า แต่ว่าระหว่างผมข้ามสะพานลอยไปแล้วครึ่งหนึ่ง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“พี่”

        ผมหันหลังกลับไปตามเสียงเรียกก็เจอน้องบียืนหอบแฮกๆอยู่ในชุดลูกเสือมือซ้ายกำปีกหมวกไว้แน่น เท่าที่มองอะไรๆก็เรียบร้อยหมดแต่....เสื้อออกนอกกางเกงแฮะ อ้อ เหยียบส้นรองเท้าด้วย ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อน้องบีก็วิ่งมากอดแล้วเอาหน้าซุกตรงอกผมทันที เหมือนว่าน้องจะวิ่งตามมาแฮะ ตัวร้อนเชียว หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้เลย หายใจหอบแรงจนทะลุเนื้อผ้าลงไปที่อกผม แต่.....ตรงนี้ไม่ใช่ที่.....ผมรีบดันน้องบีออกแทนที่จะรับกอดน้องเหมือนที่เคย น้องยิ้มๆแล้วดึงมือผมไปโอบคอเค้าเอาไว้ ผมเห็นเหงื่อจากผมของน้องไหลลงบนแขนเสื้อผม

“เหงื่ออะ” ผมพูดขึ้น บีเอาแขนซ้ายขึ้นมาถูๆที่หน้าผากกับแก้มตัวเองแล้วมองดูเหงื่อที่เปื้อนไป น้องเงยหน้าขึ้นมองผมแล้วพูดว่า
“นิ๊ดเดียวเอง” น้องยิ้มๆ

        แล้วผมก็เดินๆไปพอถึงทางลงน้องบีหยุดแล้วเงยหน้ามองผม

“พี่อุ้มผมลงหน่อยซิครับ” พูดจบน้องก็ทำท่าจะกระโดดเกาะหลังผม ผมรีบหลบ
“เฮ่ย ไม่ใช่ตัวเล็กๆนะ ลงเองเลย”  น้องหันมายิ้มๆ
“กี่ไม้ดีจ้ะ”
“ไม้เท่าไหร่ครับ”บีถามขึ้นขณะที่กำลังส่องมองสำรวจหมูที่ถูกปิ้งเสร็จแล้ว
"ไม้เท่าที่เห็นแหละ" ผมแซวบี แม่ค้าได้ยินเข้าเลยหัวเราะออกมาเบาๆ บีหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ สงสัยเขินถูกแซว
“3 บาท 7 ไม้ 20 จ้ะ” แม่ค้าตอบพลางย่างหมูไปด้วย บีดึงๆแขนเสื้อผมแล้วถามว่า
“พี่ แบบนี้อร่อยป่ะ”
“ลองดูดิ” น้องครับ ถ้าตอบไม่อร่อยตรงนี้ มีถูกไม้ปิ้งหมูเสียบตายแน่ๆ
“อื่อ”
“เอา 10 ไม้ครับ ข้าวเหนียวด้วยนะ 20”
“พี่ซื้อเยอะจัง”
“น่า” ครั้นจะบอกว่าไม้หนึ่งนิ๊ดเดียวตรงนั้นเดี๋ยวถูกแม้ค้าเอาไม้เสียบหมูแทงตาย
“อะนี่จ้ะ” แม่ค้าหยิบหมูปิ้งที่ถูกเตรียมใส่ถุงไว้สำหรับขายอยู่แล้ว ใส่ถุงพร้อมข้าวเหนียวยื่นให้อย่างรวดเร็ว
“บี”
“ครับ”
“ถือ” บีรับถุงหมูปิ้งไปถือไว้
“วันนี้เลิกเร็วเหรอ”
“ครับ วันนี้คาบสุดท้ายไม่มีเรียน ผมเลยขออาจารย์ออกมาก่อน”
“น้องหมาอะ”
“ป๊าเอาไปคลีนิคแล้วอะครับ”
“เอาไปทำไรบ้างอะ”

        น้องบีทำหน้านึกๆอยู่แป๊บหนึ่ง

“เห็นป๊าว่าจะเอาไป X-Ray ดูว่ากระดูกหักป่าว ถ้าหักก็ใส่เฝือก แล้วก็ให้ยา”
“วันเดี๋ยวเสร็จเหรอ”
“หมอบอกว่า 2 – 3 วันครับ ตอนนี้ให้น้องอยู่คลีนิคไปก่อน”
“อืมม ดีจัง”
“นั่นซิ”
“บีไปบอกป๊าเหรอ”
“ช่ายยย”

        แล้วผมก็พาน้องไปร้าน____ที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของน้องหมา แล้วก็อย่างที่คิดใช่จริงๆด้วย ผมเลยบอกเล่าเรื่องที่ป๊าน้องบีพาน้องหมาไปหาหมอเจ้าของเค้าก็บอกว่า

“น้องเพิ่งเจ็บขาเมื่อวานนนี้แหละ ว่าจะพาไปหาหมอวันนี้พอดี ก็ยังสงสัยว่าน้องหมาหายไปไหน”

        คุยกันเสร็จผมก็พาบีเข้ายิมตอนนั้นยังไม่มีใครมาสักคน ผมให้บีวางของบนโต๊ะส่วนผมก็เดินไปเปิดหน้าต่าง พอบีเห็นบีก็วิ่งมาช่วยโดยไม่ต้องบอก พอเปิดหน้าต่างเสร็จผมก็มานั่งที่โต๊ะ ส่วนบีก็นั่งฝั่งตรงข้าม ผมมองน้อง น้องมองผม ผมก็วางมือบนโต๊ะแล้วแบมือออก น้องบีทำฟอร์มหลบๆหน่อยหนึ่ง แล้วก็รู้หน้าที่ครับ เอามือมาวางบนมือผมผมก็นั่งลูบฝ่ามือมือนุ่มๆของน้องเล่นอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะเอาหมูปิ้งมานั่งทานกับน้อง ระหว่างทานสงสัยจะอร่อยไปหน่อยน้องบีมีเผลอทำหมูตกเข้าไปในเสื้อด้วย แล้วก็เอามาออกทานต่อซะงั้น พอน้องเห็นว่าผมมองอยู่ก็ยิ้มแบบอายๆใส่ผม มองนาฬิกาอีกทีก็ห้านาทีจะสี่โมงเย็น

“บี เปลี่ยนชุดปะ”

        ผมพูดจบก็เดินไปยืนรอน้องอยู่หน้าห้องเปลี่ยนชุด พอบีเดินมาถึงผมก็จูงมือบีเข้าไป พอเข้าไปถึงผมก็ดึงเก้าอี้ตัวประจำมานั่งแล้วก็ดึงน้องมายืนตรงหน้าผมถอดผ้าผันคอสีส้มของน้องออกก่อนแล้วค่อยๆแกะกระดุมเสื้อน้องออกทีละเม็ดจากเม็ดบนก่อนไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงเม็ดสุดท้ายผมเปิดเสื้อน้องออกจนเห็นอกกับหน้าท้องของน้องอย่างชัดเจน แล้วก็ถอดหัวเข็มขัดลูกเสือออก ดึงตะขอกางเกงออก รูดซิบลง ผมดึงกางเกงน้องลงจนเห็นกางเกงในสีขาวที่น้องชอบใส่ประจำๆ ตามด้วยเสื้อ แต่....ผมเห็นตรงใกล้ๆนมน้องมีคราบหมูที่ตกลงไปในเสื้อน้องเปื้อนอยู่หน่อยๆผมเอานิ้วโป้งไปเช็ดออกให้เบาๆ ตอนนั้นผมมองหน้าน้องเห็นน้องก็ลังมองไปที่หน้าต่างอยู่
        ผมสวมกอดน้องเบาๆทั้งที่ผมนั่งอยู่แบบนั้นแหละ แล้วก็หอมลงไปบนแผ่นออกเรียบๆของน้องเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆจูบช้าๆอย่างทนุถนอมมากที่สุดนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ น้องหันกลับมามองทันทีหลายครั้งที่ผมเปลี่ยนชุดให้น้องผมมองเห็นนมสีชมพูของน้องมันเป็นรอยจางๆสีชมพูอยู่บนผิวกายสีขาวของน้อง ผมใช้ลิ้นสัมผัสลงไปบนรอยสีชมพูนั่นเบาๆน้องสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะตามด้วยจูบลงไปเบาๆ ผมใช้ปลายลิ้นตวัดไปมาสลับกับดูดเบาๆเพราะกลัวว่าจะเป็นรอยตอนที่ดูดผมรู้สึกถึงกลิ่นอะไรสักอย่างที่ขึ้นมาในจมูกผมไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นอะไรแต่มันเป็นกลิ่นที่ทำให้น้องชายผมค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆ ผมเปลี่ยนจากข้างซ้าย ไปข้างขวา น้องยืนนิ่งไม่ไหวติงนอกจากมือที่ทั้งสองข้างที่จับไหล่ผมไว้อย่างหลวมๆผมเริ่มทำแบบเดียวกัน ผมเงยหน้ามองน้องนิ๊ดหน่อย ผมเห็นน้องกำลังหลับตาปากน้องเริ่มแดงขึ้นมากกว่าเดิม มือน้องที่ผมจับไหล่ผมอยู่ร้อนฉ่าเสียงหัวใจน้องดังออกมาเบาๆจนได้ยินหัวนมน้องเริ่มตั้งขึ้นมาหน่อยๆ ผมใช้ลิ้นที่ตวัดไปมากดลงไปมากขึ้น น้องเริ่มเอามือที่จับไหล่ผมมาจับที่หลังคอผมแทน น้องเงยหน้าขึ้นหน่อยๆตัวเริ่มเอียงไปซ้ายที ขวาทีราวกับว่าตอนนี้ที่น้องยืนอยู่ได้ก็เพราะที่ผมกอดไว้เท่านั้น พอทำไปสักพักผมก็มองนาฬิกา

“อ๊ะจะสี่โมงยี่สิบแล้ว”

        ผมคิดในใจก่อนที่จะค่อยๆดันตัวน้องบีออก ผมดึงเสื้อลูกเสือน้องที่ยังเหลือเกาะไหล่อยู่ออก แล้วหยิบกางเองมาใส่ให้น้องตอนที่ผมจะใส่กางเกงให้ผมสังเกตเห็นชัดเจนเลยว่าตัวเล็กของน้องตั้งเด่ดันกางเกงในออกมาซะตุงเลยแต่ไม่ใช่เวลาจะมาชื่นชมเน๊อะ ผมเลยจัดการแต่งตัวให้น้องมัดสายให้เสร็จผมก็กอดน้องเบาๆก่อนที่จะก้มลงไปซุกหอมคอน้องเบาๆ น้องบีอ้าแขนกอดผมกลับคืน จนถึงช่วงซ้อมเหมือนบีจะหันมามองผมบ่อยๆพอผมหันกลับไปมองน้องก็จะยิ้มให้

“ครูป้อม พี่เอ กลับบ้านก่อนนะคะ สวัสดีคะ”

        น้องต้นข้าวยกมือไหว้อย่างรีบๆก่อนวิ่งตามผู้ปกครองและน้องสาวขึ้นรถไป น้องๆส่วนใหญ่ผู้ปกครองมารอรับมีไม่มากที่ต้องมานั่งรอผู้ปกครอง ผมนั่งพิงกำแพงมองน้องๆส่วนบีเองก็กำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ผมชอบมองเวลาน้องบีมีความสุขจัง สีหน้า ท่าทาง รอยยิ้ม แววตา ดูสดใสร่าเริงน่ารัก เสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจที่บางทีฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เพราะน้องไม่ได้อายเท่าไหร่ที่จะแสดงว่าตัวเองมีความสุขแค่ไหนจากการหัวเราะ แล้วระหว่างที่น้องกำลังวิ่งเล่นอยู่นั้นพอเห็นว่าผมนั่งมองน้องก็หยุดเล่นทันที แล้ววิ่งปรี่มาหา น้องนั่งลงตรงหว่างขาผมแล้วดึงมือผมไปเล่น

“พี่”
“ครับ”
“ผมลืมเอาโทรศัพท์มา” น้องทำตาแป๋วทันที
“แล้ว ?”
“ผมยืมโทรศัพท์หน่อย”
“เอาดิอยู่ในกระเป๋าเสื้ออะ”

        พูดจบน้องบีก็วิ่งไปหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อผมทันทีแล้วก็กลับมานั่งตรงหว่างขาผมแล้วก็กดเบอร์ ตอนนั้นมิวเดินมานั่งตากพัดลมข้างๆพอดี

“ป๊า”
“มีใครมารับยัง”
“อื่อ ไม่ต้องมารับก็ได้ เดี๋ยววันนี้พี่เอจะไปส่ง”

        อ่าวน้องโทรไปบอกแบบนี้เลยนะ เดี๋ยวท่านป๊าก็สงสัยหรอก ผมคิดในใจ แล้วตอนนั้นมิวได้ยินพอดีมิวเลยพูดลอยๆว่า

“บอกพี่เค้ายัง จะให้พี่เค้าไปส่งอะ” บีหันมามองมิวทำหน้าตาเขินๆใส่แล้วถีบหลังมิวเบาๆไปหนึ่งดอก
“ก็พี่เค้าจะไปส่ง” โห ดูพูดเหมือนว่าอยากจะไปส่งมากๆเลยนะเนี่ยะ
“อื่อๆแค่นี้นะครับ” น้องบีกดวางโทรศัพท์ยื่นให้ผมแล้วก็ยิ้ม
“พี่วันนี้ไปส่งที่บ้านอาโกนะครับ” พูดจบน้องก็นอนเอนหลังพิงผม
“บี” ผมเรียกน้องเบาๆ
“ครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมาหน่อยๆ
“ไก่เก้าขามีกี่ตัว”
“อ๊ะใช่ๆๆๆ” น้องดันตัวลุกขึ้นมานั่งหันหน้าเข้าหาผมทันที
“หึหึหึหึ ไก่มันก็ก้าวขาทุกตัวแหละน้อง ไก่ตัวไหนบ้างมันไม่ก้าวขาอะ*2” ผมยิ้ม
“เง้ออออออ” น้องบียิ้มแล้วก็เอามือมาตะกายๆฝ่ามือผมเบาๆ
“เอางี้ช้าง กับ โต๊ะมีอะไรเหมือนกัน” สิ้นคำถาม มิวที่นั่งตากพัดลมอยู่ข้างๆก็พูดสวนไปอย่างเร็วว่า
“เหมือนตรงที่มีสี่ขาเท่ากัน” มิวยิ้มมุมปาก


To Be Con




*1 Law of Demand และ Law of Supply คือ กฎอุปสงค์ (Law of Demand) และกฎอุปทาน (Law of Supply) เป็นหลักการที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างราคาและปริมาณความต้องการซื้อหรือ ขาย
*2 คำว่า “เก้า” กับ “ก้าว” ในภาษาพูดออกเสียงเหมือนกันครับ ตอนแรกผมเข้าใจว่าที่บีพูดคือ “เก้า” ที่หมายถึงตัวเลข



เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายเขียวขั้นที่ 2

http://www.youtube.com/v/nrSmpIcRPNc
Pattern 4  หรือ Poomsae Sa Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากเขียวขั้นที่ 2 ไปฟ้าขั้นที่ 1


Thx น้องต่ายที่ตรวจตัวอักษรให้ครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 11 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #23 เมื่อ12-05-2010 21:11:44 »

===  ตอนที่ 12 ===



        ผมนั่งวาดรูปเงียบๆอยู่หน้าคอม อืมม ร่างภาพดินสอ Scan แล้วต้องมานั่งตัดเส้นอีกทีอีกแฮะ วุ่นวายมากๆ แต่ถ้าอยากให้งานออกเนี้ยบๆสวยๆก็คงต้องทำ แต่ผมกำลังหัดนี่นา เอาง่ายๆดีกว่า
“ครืดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดดด”
        เสียงเครื่อง Scan ดังขึ้น ผมนั่งมองขีดเปอร์เซ็นต์ที่กำลังวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ไม่กี่พริบตาก็เสร็จ ผมค่อยๆตัดเส้นไปเรื่อยๆ จริงๆก็อยากตัดเส้นนอกจอเลยนะ แต่ว่าถ้าผิดแล้วมันลบออกได้ไม่สะอาดแบบใน CS อ่ะสิครับ
“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”
        เสียงริงโทนโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมเอามือยื่นไปหยิบมา ผมมองไปที่หน้าจอ
“ป้อม Calling”
“ครับพี่”
“เอ วันนี้พี่เข้าช้าประมาณ 40 นาทีนะ พี่ไปงานต่างพื้นที่น่ะ”
“อ่า ครับ ได้ๆ”
“แล้วก็ เน้นออกกำลังเยอะๆหน่อยแล้วกันใกล้แข่งแล้ว”
“อ่า ได้ครับ”
“แล้วเจอกันน้องชาย”
“ตรู๊ดดดด ตรู๊ดดดด.....”

        ผมนั่งวาดรูปต่อไปเรื่อยๆไม่นานรูปที่วาดอย่างลวกๆก็เสร็จ ผมมองนาฬิกาอีกทีก็บ่ายสามโมงห้าสิบห้าแล้ว ผมกดปริ้นท์ภาพออกมาระหว่างนั่นก็ลุกไปเปลี่ยนชุด วันนี้ผมเลือกใส่ชุดของ Kwon เพราะคิดว่าน่าจะเหงื่อท่วมแน่ๆ พอเปลี่ยนชุดเสร็จผมก็หยิบภาพแล้วก็สายใส่กระเป๋า ออกรถไปยิม พอไปถึงก็เห็น มิว อ้น ต้นกล้า บี กำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน ผมเดินไปเอาของวางบนโต๊ะ ตอนนั้นผมเห็นถ้วยโชยุยากิ ขนมหนึ่งถุง กับน้ำผลไม้ยี่ห้อหนึ่งวางอยู่ แต่ที่แปลกใจคือมีสองชุดเหมือนกันวางอยู่ข้างๆกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ผมเข้าไปเปลี่ยนชุดออกมา ก็เห็น อ้น กับ บี นั่งทานโชยุยากิกันอยู่ อืมมมที่แท้ก็เป็นของสองคนนี้เอง ซื้อมาซะเหมือนกันเลย

“บี”
“ครับ”
“ทานเสร็จแล้วเปลี่ยนชุดเลยนะ”
“ได้ๆ”

        แล้วผมก็เดินไปวอร์มรอ โดยให้มิวกับต้นกล้าที่นั่งเล่นกันอยู่มาวอร์มด้วย

“มิววันนี้ไปที่ ม. ด้วยกันนะ”
“อะ....ได้ครับ”

        แล้วเมื่อถึงเวลาผมก็เริ่มพาน้องๆซ้อมหนักตามที่พี่ป้อมสั่งมา เริ่มต้นด้วยการวิ่งต่อเนื่อง 30 นาที รอบยิม ยืดเส้น แล้วก็เตะพื้นฐานที่มากกว่าที่เคยเตะทุกๆวันอยู่ 2 เท่าตัว รวมถึงท่าเทคนิคอีกหลายท่า ผ่านไปกว่า 40 นาที ผมถึงให้น้องๆพัก บีถึงกับนอนแผ่บนเบาะทันที อ้น มิว กับ ต้นกล้า เดินไปดื่มน้ำ พอดื่มเสร็จ อ้นก็เดินถือน้ำมาให้บีที่กำลังนอนหอบอยู่

“อะไรแค่นี้หมดแรงแล้วเหรอ” ผมแซวบี
“ป๊าววววว ผมแค่....หอบเฉยๆ”
“แล้วจะหอบทำไมอ่ะ วางลงดิ” อ้นพูดจบก็ยิ้ม
“วันนี้ไป ซ้อมกับพี่ๆเปล่า”
“ไปๆ”
“ไหวเหรอ”
“ไหวดิ” บีพูดจบก็ดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง
“ไหวก็ไป เดี๋ยวครูป้อมมาแล้วไปเลย”

        ผมลูบหัวน้องที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเบาๆแล้วก็ยิ้ม ก่อนจะเอามือไปเช็ดกับเสื้อน้องบี แบบเนียนๆ น้องก็หันมายิ้มๆก่อนจะจับมือผมไว้ไม่ให้เช็ดต่อ แล้วไม่นานมากนักพี่ป้อมก็มา ผมเลยขอตัวไปดูน้องๆที่ ม. ตอนที่กำลังเก็บของผมมองดูน้องบีที่กำลังหยิบกระเป๋าผ้าใบประจำ เวลาพาซ้อมหนักๆ ปากน้องบีจะออกสีแดงสดแฮะ น่าลูบเล่นชะมัดเลย น่ารักๆ พอเก็บของเสร็จ บีนั่งหน้า มิวนั่งหลังเหมือนเดิม ระหว่างทางผมแอบเอามือไปลูบปากน้องบีเบาๆ แต่น้องบีก็จับมือผมออก สงสัยกลัวคนเห็น แต่น้องนั่งพิงผมแบบนี้ผมรู้สึกเปียกๆยังไงไม่รู้สงสัยเหงื่อน้องซึมมา พอถึง ม. ผมลงจากรถแล้วก็จริงด้วยครับ เสื้อผมชุ่มเหงื่อน้องบีเต็มเลย อืมนะ
        แล้วผมก็เรียกนักกีฬากับสมาชิกที่มาซ้อมมานั่งรวมกันแล้วก็คุยถึงแผนการฝึกซ้อม ส่วนน้องบีกับมิวก็นั่งเงียบๆกันอยู่ข้างหลังโดยมีพี่สาวที่ชอบเด็กชายไปนั่งประกบอยู่สองสามคน หลังจากคุยเสร็จผมก็พาน้องๆซ้อมโดยให้เข้าแถวเตะแป้น แถวหนึ่งผมเฉลี่ย 5 คน โดยให้บี กับ มิว ไปอยู่แถวนักกีฬา ระหว่างที่เตะก็มีพี่สาวเข้าไปกอดมิวบ้าง กอดบีบ้าง เป็นระยะๆ บางคนก็หยิกแก้มน้องเบาๆ แต่หนักสุดเลยก็มีพี่สาวคนหนึ่งมาแกล้งดึงกางเกงน้องบีลง บีเลยไปดึงกางเกงพี่เค้าลงบ้าง สลับกันไปมาวุ่นวายอยู่พักหนึ่ง ผมเลยไล่ไปกระโดดตบ กับ วิดพื้นทั้งคู่เลย ฐานก่อกวนการฝึกซ้อมคนอื่น
        จนกระทั่งซ้อมเสร็จน้องๆก็ทยอยกลับเรื่อยๆ วันนี้รองประธานกลับก่อนผมเลยต้องอยู่ปิดยิม วันนี้คุณแม่น้องมิวมารับช้า มิวเลยเอาการ์ดมาเล่นกับบี เนื่องจากผมเล่นไม่เป็นก็เลยนั่งดู แล้วตอนที่น้องๆนั่งเล่นกันผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบีต้องมานั่งตักผม วันนี้ผมเปียกเหงื่อบีไปหมด แถมเปียกแต่ข้างหน้าด้วย แล้วชุดที่ผมใส่ประจำที่บีมานั่ง มากอด มาซุก จะมีคราบเหงื่อเปื้อนแต่ข้างหน้าส่วนมากจะเป็นรอยที่ขากางเกง    พักหนึ่งมิวคงสังเกตว่าผมไม่มีส่วนร่วมด้วย พอเล่นจบรอบนั่นมิวเลยบอกว่า

“พี่เดี๋ยวผมจะเล่นมายากลให้พี่ดู” มิวหยิบการ์ดมาใส่ในมือเรียงอย่างเรียบร้อยแล้วก็ยื่นให้ผม
“พี่หยิบออกมาใบหนึ่ง”ผมหยิบการ์ดออกมาใบหนึ่ง ตอนนั้นบีที่นอนพิงอยู่ก็มองการ์ดใบที่ว่าด้วย
“พี่เอามาให้ผม” มิวรับโดยไม่ได้มองว่าด้านหน้าคือการ์ดอะไรแล้วก็สอดการ์ดใบนั้นเข้าสำรับไป ผมก็เห็นแบบนั้นบีก็ด้วยว่ามิวไม่เห็นด้านหน้าของการ์ดเลย
“อ่ะ” มิวยื่นสำรับการ์ดมาให้ผม
“สับเลยพี่” ผมรับสำรับการ์ดมาแล้วก็สับการ์ดประมาณ 4 – 5 รอบ ก็ยื่นให้มิว
“คอยดูนะผมจะหยิบการ์ดใบที่พี่หยิบเมื่อกี้ออกมาให้ดู” มิวพูดจบก็ดึงการ์ดออกมาใบหนึ่ง
“ใบนี้ใช่เปล่าครับที่พี่เลือกเมื่อกี้” มิวยื่นการ์ดใบนั้นให้ผมดู อะ อืมม ใช่จริงๆด้วยน้องทำได้ไงกัน
“อะ....ใช่ มิวเก่งๆๆๆ มานี่พี่เกาคางให้”
“มิวทำได้ไงอะ” บีทักออกไปด้วยความสงสัย
“คนมันเก่งไง หึหึหึ” มิวยิ้ม
“เอาใหม่ดิ” บีพูดจบก็ดึงมือผมไปลูบแก้มตัวเอง
“ได้”

        มิวยื่นสำรับการ์ดให้บี บีหยิบการ์ดออกมาใบหนึ่ง แล้วเอาให้ผมดู ก่อนจะเก็บเข้าสำรับโดยไม่ยื่นให้มิวแบบผมพอใส่เข้าสำรับเสร็จ มิวก็พูดว่า

“งั้นก็สับเลย”

        มิวพูดจบ บีก็ สับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครับใส่ไม้ยมกไม่ผิด บีสับการ์ดอยู่นั่นแหละไม่รู้กี่สิบครั้ง มิวนั่งมองถ้าเป็นการ์ตูนฉากหลังคงเป็นสีม่วงๆ มิวทำตาตี่ๆมีเส้นลงมาตรงหน้าสี่ถึงห้าเส้น ลงสีเทาๆที่หน้าด้วย แล้วก็มี .... อยู่ข้างๆ แถมด้วยรูปเหงื่อตกอีกหนึ่งเม็ด

“บี” มิวพูดเบาๆ
“หือ” บีตอบกลับเสียงออกจากลำคอ
“มีดไหม”
“เอามาทำไมอะ” บันหันหน้ามองมิว
“เปล่า เห็นสับซะ” มิวยิ้มฝืนๆที่มุมปาก

        พอมิวทักเสร็จบีก็หยุดแล้วก็ยื่นสำรับให้มิว แล้วก็เอนหลังมานอนพิงผมต่อ พอมิวรับมามิวก็ทำท่าคิดๆอยู่พักหนึ่งก่อนหยิบการ์ดขึ้นมา 5 ใบที่อยู่ติดๆกันแล้วยื่นให้บี

“ใน 5 ใบนี้ สักใบแหละที่หยิบออกมาเมื่อกี้ใช่ป่ะ” บีมองๆ ผมก็ด้วย อืม จริงด้วยมันมีอยู่หนึ่งในห้าจริงๆ
“ทำไมไม่แม่นแบบมะกี้แล้วอะ” บีถามกลับไป
“เหอๆ” มิวไม่ตอบแต่หัวเราะอย่างมีเลศนัยออกมาแทน

        เสร็จก็นั่งคุยเล่นกันต่อแล้วคุณแม่น้องมิวก็มารับผมลุกขึ้นปิดไฟบีเองก็ช่วยเดินปิดพอไฟดับหมดมีเพียงแสงไฟเพียงหลอดเดียวจากด้านหน้าส่องเข้ามาทำให้ผมพอมองเห็นว่าบียืนอยู่ตรงไหน ผมเดินเข้าไปสวมกอดน้องเบาๆแล้วก็ซุกลงตรงคอน้องผมหอมต้นคอน้องเบาๆ แล้วก็ตามด้วยแก้ม แล้วก็กลับมาซุกคอน้องบีอีกครั้ง ปากติดอยู่กับคอน้องจมูกก็เช่นกันผมหายใจรดใส่ต้นคอน้องเบาๆ ผมรู้สึกดีจังเวลาทำแบบนี้ ตัวน้องก็อุ่นกลิ่นตัว ยังไม่มี กลิ่นเหงื่อก็ไม่มี ( หรือ ผมชินแล้วหว่า ? ) ผมเงยหน้าขึ้นมานิ๊ดหน่อยแล้วก็พูดใกล้ๆหูน้องว่า

“วันนี้เหนื่อยไหม”
“ไม่เท่าไหร่” น้องบีตอบกลับมาเบาๆ
“บี”
“ครับ”
“บีน่ารักจัง”พูดจบผมก็หอมแก้มน้องบีเบาๆอีกครั้งหนึ่ง บีไม่ได้ตอบอะไรกลับมา

“ครืดดดดดด ปึ๊ง!!” เสียงประตูเหล็กบานใหญ่ถูกลากปิด ล้อที่ติดสนิมทำให้ล้อฝืดลากทีก็สั่นสะเทือนไปทั้งบานก็คงได้แต่หวังว่าวันหนึ่งมันจะไม่หลุดลงมาทับใครเข้า ผมขึ้นรถ บีเอากระเป๋าวางที่หน้ารถ แล้วก็มานั่งหลัง
“อ้าว ไม่นั่งหน้าเหรอ” ผมหันไปข้างหลัง
“ม่ายยยย วันนี้ผมแสบตา ไม่อยากถูกลม” พูดจบน้องก็กอดผมไว้หน่อยหนึ่ง

        ผมขับรถไปช้าๆ ผมรู้สึกว่าน้องบีจะวูบซบลงบนหลังผมเป็นพักๆ ผมว่าน้องคงเพลีย ผมกลัวน้องจะตกรถผมเลยดึงมือขวาบีเข้ามากอดเอวผมไว้มากขึ้นแล้วน้องบีก็สอดมืออีกข้างหนึ่งเข้ามาด้วย น้องกอดผมเบาๆแล้วก็ซบหน้าลงบนหลัง ผมจับมือน้องเอาไว้อย่างนั้นตลอดทางจนถึงบ้านน้องยังซบนิ่งอยู่อย่างนั้น ผมเลยเรียกร้องเบาๆ

“บี ถึงแล้ว” ผมหันไปมองบี

        น้องเงยหน้าขึ้นแล้วหันซ้ายหันขวา ตาปรือๆ

“หลับดิ”
“เปล่า....ผมแสบตาเฉยๆเลยหลับตาไว้” พูดเสร็จน้องก็เอามือขยี้ๆตาพอขยี้เสร็จน้องก็ทำหน้าตาตกใจ
“พี่” น้องพูดขึ้นด้วยเสียงตระหนก
“ครับ”
“รองเท้าผมตกหายไปไหนไม่รู้ข้างหนึ่ง!!!” พูดจบน้องก็หันซ้ายหันขวามองหาทันที
“อ้าว ไหนว่าไม่หลับ”
“ก็ไม่ได้หลับจริงๆนะ”
“ไม่หลับแต่รองเท้าตกไม่รู้ตัวเนี่ยนะ"
“เง้ออออออ ตกเมื่อกี้แหละๆ ผมเผลอหน่อยเดียวเองอ่า พี่พากลับไปหาหน่อยสิครับ”

        น้องทำหน้าเสียเลย ไม่อยากแกล้งแล้ว ผมเลยขับวนกลับมาหารองเท้าให้น้อง แล้วก็เจอ อย่างที่น้องพูดจริงๆด้วยตกเมื่อกี้เพราะเจอรองเท้าตกอยู่ห่างจากหน้าบ้านที่คุยกันเมื่อกี้ประมาณสามสิบเมตรสงสัยจะเผลอจริงๆ พอไปเก็บร้องเท้าเสร็จผมก็วนมาที่หน้าบ้านน้องคืน

"บีๆ" ผมเรียกน้องเบาๆ
"ครับ" น้องวิ่งมาหาใกล้ๆ
"อะ" ผมหยิบเอาภาพที่ปริ้นท์ออกมายื่นให้น้อง
"อะไรอะครับ" แล้วน้องก็พลิกดู
"ให้ผมเหรอ" น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วยิ้ม น้องยืนมองภาพอยู่พักหนึ่งก็วิ่งเข้าบ้านไป






To Be Con




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
 ท่ารำของสายฟ้าขั้นที่ 1

http://www.youtube.com/v/0wRWyDguE1w
Pattern 5  หรือ Poomsae Oh Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากฟ้าขั้นที่ 1 ไปเขียวฟ้าขั้นที่ 2


Thx  น้องต่ายที่ตรวจตัวอักษรให้ครับ

Tempura

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 9 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #24 เมื่อ12-05-2010 21:14:13 »

หายไปหลายวันเลยนะพี่เอ นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้วว

เป็นกำลังใจให้นะค๊า^O^

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 12 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #25 เมื่อ12-05-2010 21:16:29 »

===  ตอนที่ 13 ===



“อ่า”
        ผมเอนตัวลงนอนบนโซฟาช้าๆ หยิบรีโมทเครื่องเสียงขึ้นมาแล้วก็กดเปิด Music Box ฟังเบาๆ แดดวันนี้ร้อนมากมาย เปิดแอร์ด้วยดีกว่า แล้วผมก็นอนคิดเรื่องราวต่างๆไปเรื่อยๆ ผมว่าจะเปิดชมรมหมากกระดานด้วยปีหน้าแล้วก็จะลองไปสอบดั้ง ที่สมาคมหมากล้อมดูด้วย ไม่รู้จะได้ไหม พักมือมานานกลัวไปถูกดั้งทุบ ระหว่างที่นอนคิดผมก็ดึงเอาเสื้อวอร์มที่ผมชอบใส่คลุมทุกครั้งที่ไปสอนน้องตอนเย็นมากอดแก้เหงามือ พอผมกอดลงไปผมก็รู้สึกว่ามีของแข็งอะไรสักอย่างที่ผมไม่คุ้นอยู่แถวๆกระเป๋าเสื้อ ผมสอดมือควานๆหาแล้วก็พบเข้ากับของแข็งที่ว่า มันเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งครับ
“ของใครเนี่ยะ”
        ผมลองจิ้มๆดูปรากฏว่าล๊อกหน้าจอแฮะ ผมกดปลดล๊อกแล้วก็ถึงบางอ้อ รูปน้องบีชูสองนิ้วอยู่ที่หน้าจอ
“เครื่องใหม่ซินะ”
        ปรกติน้องบีจะชอบฝากของไว้กับผมครับ มือถือ เงิน เพราะตอนเย็นผมเป็นคนเปลี่ยนชุดให้ ตอนถอดๆน้องก็จะยื่นมาให้ช่วงนั้น แล้วน้องก็มักจะลืมทวงคืนอยู่บ่อยๆ อีกอย่างปรกติที่เอามาฝากไว้ ไม่____ ก็จะเป็น ____ ยังไม่เคยเห็นน้องใช้เครื่องนี้ คราวนี้น้องคงเอามายัดไว้เองไม่ได้บอก แถมลืมเอาคืนอีก ยี่ห้อนี้ก็ไม่ได้ถูกๆนะเนี่ยะ แกล้งเด็กสักหน่อยดีกว่า หึหึหึหึ

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ”

        เหมือนเคยที่ผมกับบีเดินมาซื้อของกันแต่บางวันก็จะมีน้องคนอื่นวิ่งตามมาด้วยอย่างวันนี้น้องต้นกล้าก็มาด้วยมิวก็ด้วยหลังจากเลือกของเสร็จแล้วก็ไปวางจ่ายเงิน แน่นอนเหมือนทุกครั้ง บี จะให้คนอื่นจ่ายเอง ส่วนของบี น้องจะเอามากองรวมกับของผม ตอนนั้นต้นกล้าคงจะหิวซาลาเปา เพราะมีพนักงานเปิดตู้นึ่งเพื่อใส่ซาลาเปาเพิ่มเข้าไป กลิ่นหอมๆของซาลาเปาเลยเตะจมูกต้นกล้าเข้าให้

“พี่ครับ” ต้นกล้าเรียกพนักงานที่กำลังเอาซาลาเปาใส่เข้าตู้นึ่ง
“ลูกเท่าไหร่เหรอครับพี่” ต้นกล้าชี้ไปที่ภาพซาลาเปาหมูสับไข่เค็ม
        ยังไม่ทันที่พนักงานจะตอบกลับมา บี ก็พูดไปว่า
“ลูกเท่าที่เห็นนั่นแหละ” พูดจบบียิ้ม รวมถึงพนักงานที่กำลังจะตอบด้วย มิวยืนอึ้งกับมุขบีอยู่แป๊บหนึ่ง ส่วนต้นกล้า เหว๋อไปเลย พอตั้งหลักได้ต้นกล้าก็ถามต่อ
“พี่ๆ สุกยังอะ” ต้นกล้าชี้ไปที่ซาลาเปาลูกหนึ่งที่อยู่ในตู้นึ่ง เหมือนเดิมยังไม่ทันที่พนักงานจะตอบมิวก็พูดว่า
“ยังไม่ศุกร์ วันนี้ พฤหัส พรุ่งนี้อะถึงจะ ศุกร์” มิวยิ้มมุมปาก บียื่นมือขวาไป มิวยื่นมือซ้าย ทั้งคู่กับจับมือกันแล้วยิ้มอย่างสะใจ
“เออ ศุกร์ พรุ่งนี้อะ ศุกร์ทั้งวันเลย” ต้นกล้าพูดแบบแอบน้อยใจที่ถูกรุม

        พูดจริงๆนะคนที่มาจ่ายเงินค่าโน้นค่านี้กับร้านสะดวกซื้อนี้อะ ( ไม่จ่ายค่าโฆษณาไม่พูด ) ร้านเค้าไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่อะ บางทีมันทำให้คนอื่นที่รอชำระค่าบริการเค้าเสียเวลา ครั้งหนึ่งผมเคยรอต่อคิวแล้วมีอาเจ้คนหนึ่งมาจ่ายค่าอะไรไม่รู้ 3 – 4 บิล ตามด้วยจองตั๋วรถทัวร์อีก กว่าอาเจ้จะเลือกที่นั่งกับทำรายการเสร็จอีกแถวหนึ่งเค้าเสร็จไปเกือบ 10 คนแล้วอะ จนคนต่อแถวผมย้ายไปอีกแถวกันหมดเลย รวมถึงผมด้วย ผมจ่ายเสร็จพร้อมอาเจ้เค้าพอดีเลยอะ วันนี้ก็อีกล่ะ แต่คุยกันสนุกๆเลยเป็นการฆ่าเวลาไปในตัว ระหว่างนั้นต้นกล้าก็ถามอีกแล้ว

“พี่ๆ เอาแฮมไปกินเย็นๆแบบนี้เลยเหรอ” ต้นกล้าเอานิ้วจิ้มๆถุงแฮมที่น้องบีหยิบมาด้วย
“อืม ก็กินเย็นๆล่ะครับ นี่ก็สี่โมงครึ่งแล้วนะหรือกล้าว่ายังไม่เย็นอะ” พูดจบ มิว กับ บีก็มาจับมือผมคนละข้าง แล้วยิ้มกันอย่างสะใจอยู่สามคน ปล่อยให้ต้นกล้ายืนเจ็บใจอยู่คนเดียว

        ขากลับกล้าเดินคอตกเลยทีเดียวมิวเลยเดินเข้าไปคุยหยอกด้วย กล้าคงจะน้อยใจที่ถูกรุม พอถึงยิมกล้าก็ค่อยร่าเริงขึ้นมาหน่อย ผมวางของเสร็จก็จูงมือบีเข้าไปเปลี่ยนชุด วันนี้เสื้อบีเลอะแฮะ ไปซนที่ไหนมาเนี่ยะ

“ไปเล่นไรมาอะ เสื้อเปื้อน”
“ไหนๆ” บีก้มมองหาทั่วตัว
“นี่ไง” ผมชี้ให้ดูตรงคอเสื้อ กับ บ่า
“อื่อ ไปเล่นกับเพื่อนมา” น้องเอามือปัดๆแต่ไม่ออก

        ผมถอดกระดุมตรงคอเสื้อน้องไล่ลงมาเรื่อยๆถอดเข็มขัด ขอเกี่ยว กล้วก็ดึงซิบลง ผมจับชายเสื้อน้องแล้วดึงลงเบาๆเสื้อน้องหลุดตามลงมาอย่างง่ายด้ายเพราะที่ทำให้เสื้อยังไม่ตกก็เพราะตรงบ่าน้องเท่านั้น ผมสวมกอดน้องเบาๆเหมือนที่ทำทุกครั้ง ผมจูบลิ้นปี่น้อง แล้วก็หอมลงไปที่แผ่นอกเรียบๆของน้องเบาๆ อกของน้องนุ่มจังเลยผิวขาวอมชมพูทั้งยังเนียนแล้วก็นุ่มแบบนี้ชวนสะกดใจชะมัด ผมจูบเบาๆตามลงไปบนอกอีกน้องอีก 3 – 4 ครั้ง แล้วก็กอดน้องค้างไว้หน้าผมแนบอยู่กับอกของน้อง ผมได้ยินเสียงหัวใจน้องกำลังเต้นด้วย ตัวน้องอุ่นจัง

“พี่” น้องเรียกผมเบาๆ
“อืมม”
“เห็นโทรศัพท์ผมไหมครับ”
“โทรศัพท์อะไรเหรอ”
“ที่ผมฝากไว้กับพี่เมื่อวาน”
“อ่อ พี่เอาไปแลกข้าวมันไก่ไปแล้ว”
“ห๊ะ” น้องบีทำหน้าตาตกใจ
“เมื่อวานพี่ลืมเอาเงินมาอะ พี่เลยเอาโทรศัพท์เราจ่ายค่าข้าวไปก่อน”
“จริงอะ” บีทำหน้าตาตกใจมากกว่าเดิม
“จริง เนี่ยะ แม่ค้าเค้าขอเงินเพิ่มอีก 20 ด้วย เค้าบอกว่า โทรศัพท์เราอะ ราคาไม่พอค่าข้าวเค้า”
“ห๊ะ ___ เนี่ยนะพี่ ไม่พอค่าข้าวมันไก่”
“ช่าย ต้องเพิ่มอีก 20 บาทด้วยอะ ดีนะมี 20 บาทติดตัวไปไม่งั้นแย่แน่เลย”

        พูดจบผมก็ทำหน้าตาจริงจังใส่น้องบีเองก็ยิ้มๆมุมปากประมาณว่าไม่เชื่อ ก็ต้องไม่เชื่อล่ะครับ ___ ราคาตั้งสองหมื่นกลางๆแถมกำลังฮิตด้วยเป็นไปได้ไงที่จะไม่พอค่าข้าวมันไก่ แล้วน้องก็ยิ้มๆผมกอดน้องเบาๆอีกทีแล้วก็ใส่ชุดให้น้องก่อนจะให้มือถือน้องคืน

“พี่วันนี้ไป ม. อีกไหมครับ” มิวถามผมหลังจากที่ผมให้น้องๆพัก 10 นาที
“วันนี้พี่ๆนัดคุยกันอะ คงไม่ได้ซ้อมแต่จะไปทานหมูกระทะกัน”
“กลับกี่โมง” บีเงยหน้าขึ้นมาถาม
“ก็ไม่น่าจะนานนะ เพราะพี่ๆเค้าก็มีธุระ ไม่น่าเกินทุ่มครึ่งอะ” แล้วผมก็ลูบหัวบีเบาๆ บีเองก็เอามือมาเกี่ยวคอผมไว้
“งั้นก็ไม่ได้ไป”
“คุยไรกันอะ” อ้นเดินมานั่งข้างๆ
“ก็เรื่องไปซ้อมที่ ม.” บีตอบกลับไป
“พี่อะ พาแต่มิว แต่บีไปล่ะ” อ้นพูดออกเสียงน้อยใจนิ๊ดๆ
“ก็นั่งกันได้แค่นั้นนี่นา”
“พี่ผมไปด้วย” บีเงยหน้าขึ้นมาพูด
“ก็ไปได้ บอกป๊าก่อนแล้วกัน” ผมเปลี่ยนไปลูบแก้มน้องบีเล่นแทน
อ้นจับขาผมข้างหนึ่งแล้วพูดว่า “อยากไปบ้าง”
“ก็ขอทางบ้าน ถ้าเค้าให้ไปก็ไปกับพี่ก็ได้” บีเริ่มขยุกขยิกเลื่อนตัวขึ้นมาเอาหัวพิงไหล่ผม แล้วดึงมือผมไปกอด
“อยากไปกับพี่ กับบี กับมิว กับ ต้นกล้ามากกว่า”
“อืม งวดหน้าแล้วกันถ้าจะไปก็บอกไว้ก่อน” ผมเอามือข้างหนึ่งไปลูบหัวอ้นเบาๆ
“อื่อ” อ้นตอบกลับมา
“งั้นวันเราซ้อมกันต่อเลยดีกว่า”

        พูดจบผมก็เรียกน้องๆมาเข้าแถวแล้วซ้อมเตะกันต่อวันนี้ผมเน้นเรื่องการหมุนตัวเตะเหมือนเดิมเพราะคราวก่อนเราเตะ Backkick กันไปแล้ว ต่อไปเลยจะลองให้น้องๆเตะท่ายากขึ้นอ้นเป็นเด็กที่มีความสามารถค่อนข้างสูงผมเลยให้อ้นเตะ Jumping back spining kick*1 ส่วนคนอื่นให้ลองเตะท่า Back Spining Kick *2 ทุกอย่างก็ดำเนินไปเรื่อยๆน้องๆหลายคนตื่นเต้นที่ได้เตะท่าที่ยากขึ้นแล้วก็เป็นท่าใหม่ สำหรับน้องที่เคยซ้อมมาแล้วก็จะต้องพัฒนาให้เตะได้ดีมากขึ้น พอเห็นว่าสอนแบบปิดจังหวะ เปิดจังหวะ*3 ไปพอสมควรแล้วผมเลยพาน้องๆเตะแป้นกันดู ระหว่างที่น้องๆทดลองเตะแป้นกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น

“โอ๊ย!!”

        ผมมองไปทางที่มาของเสียงก็พบอ้นกำลังนั่งบนเบาะจับข้อเท้าอยู่น้องๆหลายคนก็ยืนมองผมรีบวิ่งเข้าไปดู

“เป็นไร” ผมจับลงบนข้อเท้าของอ้น
“เมื่อกี้ตอนเตะจู่ๆมันก็เจ็บข้อเท้าขึ้นมาเฉยๆ” น้ำเสียงสั่นเครือ บอกได้ถึงความเจ็บ
“ลุกไหวไหม”
“คะ...ครับ” ผมประคองอ้นไว้ อ้นเองก็พยายามดันตัวขึ้น
“อะ...โอ๊ยยย”
“ดีๆ ค่อยๆเดิน” ผมประคองอ้นไปที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่หลังยิมอย่างช้าๆ
“มิ้นๆ ดูแลน้องแทนพี่ก่อน”

        ผมตะโกนสั่งมิ้นที่มีขั้นสายสูงกว่าน้องๆพี่ๆในยิมให้ช่วยดูแลการฝึกซ้อมแทน ผมประคองอ้นมานั่งที่ตรงเก้าอี้ แล้วเดินไปหยิบยานวดแล้วก็ผ้ายืดจากลิ้นชักโต๊ะ พอหยิบเสร็จผมก็ลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆอ้น ผมจับขาอ้นอย่างระวังขึ้นมาวางบนตัก แล้วก็นวดยาให้น้อง ผมค่อยๆกดข้อเท้าดูช้าๆว่าน้องเจ็บตรงไหน ผมนั่งนวดน้องอยู่อย่างนั่นพักหนึ่งจนน้องน่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว

“ดีขึ้นยัง”
“ครับ”
“ไหนลองยืนดิ๊” อ้นพยายามลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินกะเผลกๆ
“เป๋เลย” ผมยิ้ม แล้วก็ลูบหัวอ้นเบาๆ
“ไม่พี่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย แค่นี้ จิ๊บๆ” อ้นยิ้มให้ผม บีเองก็ชะโงกๆมองมาเป็นระยะๆ
“คราวหน้าก็ระวังๆหน่อยแล้วกัน” พูดจบผมก็ตบไหล่อ้นไปสองที

        พอถึงเวลาเลยได้มีแค่มิวกับบีที่ติดสอยห้อยตามไปด้วย เมื่อมาถึงที่ร้านก็เจอรุ่นน้องที่นั่งจองโต๊ะกันไว้เรียบร้อยเป็นมุมที่บีเคยบอกว่าดี บีเลยหันไปแซวมิว
“เห็นป่าว ตรงนั้นพี่เค้าก็ยังว่าดีไปนั่งกันเลย”
“สะดวกต่อโต๊ะมากกว่า”

        ยังไม่ทันจะเถียงกันต่อพี่ๆก็ตะโกนเรียกน้องๆทันทีที่เห็น ดูเหมือนพี่ๆเองก็ดีใจที่ได้เจอน้องๆทั้งสองอีกมีแต่คนเอาใจ ตักโน้นตักนี่ให้น้องทาน บางทีก็ปิ้งหมูให้ น้องบีเองก็ยิ้มๆแล้วก็คุยกับพี่ๆคนอื่นมากขึ้นเพราะมิวจะชอบยิงมุขตลกที่ให้บีมีส่วนร่วมด้วยระหว่างที่คุยกันอย่างสนุกสนานเฮฮาจนเรื่องกินไม่ใช่ประเด็นหลักเสียแล้วการพูดคุยที่ถูกคอบวกกับมุขตลกต่างๆที่ขนกันมาทำให้เวลานั้นทุกคนดูเหมือนจะมีความสุขกันทุกคนเสียงหัวเราะสนุกสนานเฮฮาดังไปขึ้นหลายๆโต๊ะก็หันมามอง บางโต๊ะได้ยินที่คุยกันก็ยังแอบหัวเราะตาม เวลาผ่านไปไม่นานมากนักถ่านในเตาก็เริ่มมอด นัท เห็นพนักงานเดินผ่านเลยกวักมือเรียก

“พี่ครับๆ”
“ครับ” พนักงานเดินมาหา
“ไฟจะหมดแล้วครับพี่ วันนี้รู้สึกไฟหมดเร็วจัง”
        ระหว่างที่ นัท คุยกับพนักงาน เสียงคุยนั้นดังพอที่น้องบีจะได้ยินด้วย พอน้องบีกันมามองน้องก็จำได้ว่าคราวก่อนก็พนักงานคนนี้แหละที่มาดูแลโต๊ะที่มาทานกันคราวก่อนน้องบีเลยพูดไปว่า
“พี่ๆ ขอเป็นถ่านชาร์จเลยดีกว่าครับ ให้ไฟนานกว่าถ่านธรรมดา”
        นัดกับพนักงานหันมาอึ้งกับถ่านชาร์จของน้องบี รวมถึงพี่ๆบางส่วนที่ได้ยินด้วย
“จริงๆพี่ ที่บ้านผมก็ใช้แต่ถ่านชาร์จนานมากกว่าไฟจะหมด” น้องบียืนยันอย่างมั่นใจ

        คนที่ได้ยินนอกจากนัทแล้วก็พนักงานเงียบลงทันทีเพราะอึ้งกับถ่านชาร์จของน้องบี ก่อนจะเข้าใจมุขแล้วหัวเราะกันอย่างครื้นเครง เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วแป๊บๆก็ทุ่มครึ่งแล้วคุณแม่น้องมิวก็มารับตรงเวลา แล้วไล่เลี่ยกันป๊าน้องบีก็มารับ ส่วนผมกับน้องๆก็นั่งเล่นกันอยู่พักใหญ่จนกระทั้งสามทุ่มเศษๆถึงได้แยกย้ายกันกลับ พอกลับถึงบ้านผมถอดเสื้อวอร์มที่มีแต่กลิ่นหมูกะทะออก หยิบรีโมทเครื่องเสียงที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกติดกับโซฟามากดเล่นเพลง Music Box เบาๆอืมมม  ผมยืนฟังอยู่เคลิ้มๆ แล้วก็วางเสื้อลงบนโต๊ะ

“ตึ๊ก!!”

        เสียงอะไรสักอย่างในกระเป๋าผมกระแทกลงกับโต๊ะ เอ...ผมไม่ได้ใส่อะไรไว้นะ ผมล้วงกระเป๋าดูก็เจอมือถือ กับเงินอีก สี่ร้อยกว่าบาทอยู่ในกระเป๋า......ครับ......ไม่ใช่มือถือผม แล้วก็ไม่ใช่เงินผมด้วย

“บีเอามาใส่ไว้ตอนไหนฟร่ะ”

To Be Con













*1. Jumping back spining kick
 http://www.youtube.com/v/VVZ1Dc_Yh6Y
*2. Back Spining Kick
http://www.youtube.com/v/Buztke3UZ-8
*3. ปิดจังหวะ เปิดจังหวะ ก็เหมือนการเต้นอะครับ 1 ท่า แบ่งเป็น 3 – 4 เพื่อง่ายต่อการฝึก แล้วก็ลองปิดจังหวะคือทำรวดเดียวเลยให้เป็นท่าเดียวกัน





เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
 ท่ารำของสายฟ้าขั้นที่ 2

http://www.youtube.com/v/A3RTIGj4q-w
Pattern 6  หรือ Poomsae Yook Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากฟ้าขั้นที่ 2 ไปเขียวน้ำตาลขั้นที่ 1

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 13 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #26 เมื่อ12-05-2010 21:19:56 »

===  ตอนที่ 14 ===



        วันนี้วันศุกร์ อืมมมม…...ศุกร์ทั้งวันเลยซินะ หึหึหึ วันนี้สุขจริงๆครับ อาจารย์ไม่เข้าสอนแต่สั่งงานไว้แทน  ผมว่าก็ดีนะเพราะอาจารย์สอน หรือ ไม่สอนมีค่าไม่ค่อยต่างกันเพราะอาจารย์จะอ่านตามหนังสือซะมากกว่า อีกอย่าง เน้นศัพท์ภาษาอังกฤษมากๆจนผมเคยสงสัยว่า นี่ผมมาเรียนภาษาอังกฤษหรือวิชาabc กันแน่ รายงานก็ไม่มีอะไรมากไว้ทำวันเสาร์ก็ได้ แล้ววันนี้ผมก็แอบจิ๊ก Clip จาก Youtube มาให้น้องๆดูด้วยผมว่าน่ารักดี น้องบีต้องชอบแน่ๆ

“ครืดดดดด”

        ผมเลื่อนประตูกระจกช้าๆ มองเข้าไปในยิมยังไม่เห็นใครมาสักคน ผมเอาของไปวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปร้าน____ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) หน้ายิมผมมีร้านขายน้ำอยู่ร้านหนึ่งครับ ผมอยากดื่มอะไรร้านนี้จัดให้ได้หมดเลย

“น้าครับขอไมโลปั่นแก้วหนึ่งเดี๋ยวผมมาเอา”

        แม่ค้ายิ้มรับแสดงว่าเข้าใจ แล้วขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับเพื่อเดินไป  ____ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) ผมก็เห็นรถเก๋งคันหนึ่งมาจอดริมฟุตบาตใกล้ๆ รถคันนี้คุ้นมาก ไม่ทันได้เดาต่อประตูรถด้านหลังก็เปิดออก แล้วผมก็เห็น น้องบี ออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล รู้สึกจะขาติดนิ๊ดหน่อยด้วย ออกมาได้ก็ก้มเข้าไปเอากระเป๋าผ้าใบประจำ ผมไม่รู้นะว่าใครอยู่ในรถแต่ที่แน่ๆ New C-Class ที่บ้านน้องบีคงไม่ได้ให้ตาสีตาสาหรือคนขับรถขับมาแน่ๆ ผมยกมือไหว้แสดงความเคารพไว้ก่อนตามธรรมเนียมคนไทยดีกว่าผู้ใหญ่จะได้รัก พอบีเอากระเป๋าออกมาเสร็จบีก็ยกมือไหว้เหมือนกัน แล้วรถคันนั้นก็ขับออกไป จอดนานไม่ได้ กฏหมายตรงนี้แรงมาก ขนาดผมยังต้องเอารถขึ้นมาจอดบนฟุตบาตเลย

น้องบีเดินเข้ามาใกล้ๆผม “พี่มานานยัง”
“เมื่อกี้ๆแหละ”

        ผมเอามือขึ้นไปลูบหัวบีเล่นเบาๆแล้วก็เดินไป ____ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) บีเองก็เดินตามมาโดยไม่ถามหรือรั้งไว้ ผมเอามือไปลูบๆแก้มน้องเล่นเบาๆ แก้มน้องบีนุ่มนิ่มมากมายลูบเล่นทีไรก็เพลินมือทุกครั้งซิน่า หลังจากหยิบของเสร็จผมก็สังเกตเห็นน้ำผลไม้ที่บีซื้อจะเหมือนกับน้ำผลไม้ที่อ้นซื้อ

“ชอบเหรอ” ผมหยิบขวดน้ำผลไม้นั้นขึ้นมาดู
“ครับ อร่อย” บีหันมาตอบแล้วยิ้ม
“พี่เห็นอ้นก็ชอบนะ”
“อ้นซื้อตามผมอะ”
“เหรอ อย่าทานกันเยอะแล้วกัน น้ำตาลทั้งนั้น เดี๋ยวดุ” ผมยื่นขวดให้พนักงานยิงบาร์โค้ด
“พี่” บีใช้สองมือดึงชายเสื้อผมเบาๆ
“ครับ”
“ผมไม่ใช่หมา”
“อ่าว ไม่ใช่หมาแล้วเหรอ อิอิอิ” ผมลูบหัวบีเล่นเบาๆก่อนจะบีบจมูกน้องเบาๆไปทีหนึ่ง

        พนักงานขายที่มาขายกะนี้ประจำเห็นพวกผมหยอกกันก็จะแอบยิ้มตาม ผมว่าเค้าคงอยากคุยเล่นด้วยบ้างล่ะมั้ง แต่เพราะพวกผมมากันแป๊บๆก็ไปเลยไม่ได้คุยเล่นกัน

“วันนี้ไม่รับชาเหรอคะ” พนักงานขายถามผมด้วยความแปลกใจ เพราะทุกครั้งผมจะซื้อชาติดมือไปด้วย
“ไม่ครับ” ผมยิ้มแล้วตอบกลับไป
“นั่นดิ วันนี้ไมพี่ไม่ซื้อชาอะ”

        ซื้อเสร็จผมก็เดินโอบคอน้องออกมาจนผ่านหน้าบ้านน้องหมา

“บี น้องหมาเป็นไงบ้างอะ”
“ดีขึ้นแล้ว หมอใส่เฝือกให้ เดี๋ยวก็หาย”
“เหรอ”
“ช่ายยยยย” พูดจบบีก็ยกน้ำหวานกรอกเข้าปากไป
“แล้วตอนนี้น้องอยู่ไหนอะ”
“อยู่ คลินิก”
“หือ ?”
“ก็ป๊าฝากไว้ที่คลีนิกให้หมอดูแลเลย หายแล้วค่อยโทรบอกให้ป๊าไปรับ”
“โห...แล้วงี้ค่าฝากอะ”
“วันละ 100 อะ”
“ใครจ่าย”
“เงินเก็บบี”
“แล้วต้องให้น้องอยู่กี่วันเนี่ยะ”
“อาทิตย์ สองอาทิตย์มั้ง”
“ตั้ง 1,400 นะ”
“ไม่เป็นไร บีอยากให้น้องหายไวๆ จะได้กลับมาวิ่งเล่นได้เหมือนเดิม” บีหันมายิ้มให้
“น้ำหวานติดปาก” ผมเห็นคราบน้ำหวานติดอยู่ริมปากน้องนิ๊ดหน่อย ผมเอานิ้วไปเช็ดให้เบาๆ

        พอเดินมาถึงร้านขายน้ำน้าคนขายก็ยื่นแก้วใส่ไมโลปั่นมาให้

“อะไร” บีถามขึ้นมาทำหน้าตา งงๆ ใส่
“ไมโลปั่น”
“อึ๋ยย ขมไหม” น้องบีทำหน้ายี๋ๆ
“ไม่อะ ออกหวาน”
“ผมไม่ชอบ มันขม”
“หวานออก ชิมป่าว” ผมยื่นแก้วให้น้อง
“หวานมากผมก็ไม่ชอบ ผมชอบออกเปรี้ยวๆมากกว่า”
“งั้นก็ใส่มะนาวเพิ่มดิจะได้เปรี้ยว ไมโลปั่นใส่มะนาว อืม แนวดีนะครับ น้าว่าไหม” ผมหันไปยิ้มให้น้าคนขายที่กำลังอึ้งกับ เมนูไมโลปั่นใส่มะนาวอยู่ ก่อนจะยิ้มตอบรับมา น้าเค้าคงจะคิดในใจว่า พวกเมิงเนี่ยะขยันหาเมนูมาแกล้งกรูเจงๆ
“ฮะๆๆ” บีหัวเราะชอบใจ

        แล้วก็เดินเข้ายิมไป ตอนเข้าเห็นน้องต้นกล้ากำลังนั่งอ่านหนังสืออะไรสักอย่างอยู่ แล้วก็น้องๆคนอื่นอีก 4 – 5 คนกำลังวิ่งเล่นกันตามประสา พอวางของเสร็จผมก็พาบีไปเปลี่ยนชุดตามปรกติแต่วันนี้ต้นกล้าเปลี่ยนด้วย

“หึหึหึ” ต้นกล้าหัวเราะอย่างมีเลศนัย ผมกับบีหันไปมอง
“บี” ต้นกล้าเรียกบี
“ไร”
“มีนกเกาะอยู่บนสายไฟ สามต้นถูกยิงตายไปสองตัวอีกตัวหนึ่งจะบินไปไหน” ต้นกล้าถามเสร็จก็ยิ้มคงคิดว่าบีตอบไม่ได้
“ก็บินไปบอกญาติของนกสองตัวนั่น” บีตอบหน้าตาเฉย ต้นกล้าทำหน้าอึ้งๆ แต่ก็ยังยิ้มอยู่หน่อยๆ
“ทำไมแร้งถึงหัวโล้น”
“มันบวชไว้ทุกข์ให้นกสองตัวนั่น”
“ทำไมอีกาถึงตัวดำ”
“เพราะมันไว้ทุกข์ให้นกสองตัวนั่น”
“ทำไมวัดสุทัศน์ถึงนกเยอะ”
“ก็มันไปงานศพของนกสองตัวนั่น”
“งานศพนกสองตัวนั้นจัดที่วัดอะไร”
“อ่าว ก็จัดที่วัดสุทัศน์อะดิ ถามเมื่อกี้ลืมเองซะแล้ว”
“......” อ้น ยืนนิ่งๆ เหมือนจะหาคำถามเพิ่ม ผมมัดสายให้บีเสร็จพอดี ผมเดินไปตบไหล่อ้นเบาๆ
“อ้น......มุขนี้พี่เล่นแล้ว” ผมพูดจบ อ้นก็หันมายิ้ม
“บี!!”
“ทำไมหินถึงจมน้ำ!!”
“.......” บียืนอึ้งกับคำถามอยู่พักหนึ่ง อ้นยิ้มประมาณว่าสำเร็จแล้ว บีตอบไม่ได้ แล้วบีก็ยิ้มมุมปาก
“เพราะหินว่ายน้ำไม่เป็นไง เลยจมน้ำ”

        แล้วทั้งสองคนก็ถามตอบกันต่ออย่างสนุกในเวลาต่อมา บีเองก็ได้มิวมาเป็นกองหนุนอีก วันนี้ต้นกล้า เหมือนจะเตรียมตัวมาดีเลยสนุกสนานกันใหญ่ จนกระทั้งผมเรียกซ้อมการซ้อมทุกอย่างก็เป็นไปตามปรกติ เว้นแต่ว่าวันนี้อ้นไม่มาแฮะ สงสัยเจ็บขายังไม่หาย วันนี้ผมก็ยังเน้นสอนท่า Back Spining Kick เหมือนเดิม จนกระทั่งพัก ผมเดินไปยืนพิงหน้าต่างตากลมที่พัดมาเบาๆ แต่เหงื่อที่ออกตอนนี้แม้ลมจะพัดมาเบาๆก็ทำให้รู้สึกเย็นสบายได้ บีเดินตามมายืนพิงแล้วดึงมือผมไปกอดตัวเค้าไว้เบาๆ ผมเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบแก้มน้องเบาๆแล้วพูดว่า เส้นผมน้องบีเวลาถูกลมแล้วไหวตามแรงลมดีจัง

“บี พี่มีอะไรให้ดู”
“อะไรเหรอครับ”

        ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะ น้องบีก็มานั่งบนตัก ดึงมือผมไปกอดเค้าไว้ข้างหนึ่ง ผมหยิบ รีโมทขึ้นมากด Play แล้ว Clip ที่ว่าก็ถูกเปิดขึ้น น้องๆหลายคนก็วิ่งมาดูด้วย

นี่เป็น Clip ที่เปิดให้น้องๆดูกันวันนั้นครับ 2 Clip
http://www.youtube.com/v/Rr2ydbK3fHc

http://www.youtube.com/v/qnliqmmhmjA


        เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ น้องบีชอบจริงๆด้วย แล้วก็ดูเหมือนจะชอบมากๆ รอยยิ้มที่ชวนหลงใหลปรากฏขึ้นบนหน้าน้องบีอีกครั้ง  มือผมข้างที่น้องบีเอาไปกอดก็อยู่แถวๆอกน้องพอดีผมเลยเอานิ้วลูบวนไปวนมาช้าๆหวังว่าน้องจะเพลิน แล้วขณะที่น้องๆส่วนใหญ่กำลังสนใจ Clip ผมก็แอบก้มไปหอมแก้มน้องบี กับ ซุกหอมคอน้องบีเป็นระยะๆพอดู Clip จบผมก็เรียกน้องๆซ้อมต่อโดยให้พี่ป้อมรับช่วงต่อ ส่วนผมจะเดินเก็บรายละเอียดแทน น้องบีจะชอบช่วงนี้เพราะเค้าจะให้ผมมาดูแลพิเศษกว่าคนอื่น หลายครั้งที่ใกล้ชิดกันก็มาจากช่วงนี้

“พี่เอ ครูป้อม กลับก่อนนะครับ” น้องต้นกล้าไหว้อย่างสวยงามก่อนจะวิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่รออยู่หน้ายิม

        ผมเดินไปนั่งพิงเสาแล้วมองน้องๆที่กำลังค่อยๆทยอยกันกลับบ้าน บีเองก็มานอนพิงผมเอามือผมไปเล่นเหมือนเดิม มิวมานั่งข้างซ้ายมือ

“พี่ ตื่นเช้ามาผมท้องเสียด้วยละ” มิวบ่น
“ เขาไม่เห็นเป็นไรเลย”
“อืม น้ำจิ้มพี่เค้าใส่กระเทียมป่าว ยาระบายอย่างดีเลยนะ”
“สงสัย มันไม่ค่อยสว่างมองไม่เห็น” มิวยิ้มๆ
“พี่ๆ โทรศัพท์ผม” น้องต้อมวิ่งมาขอโทรศัพท์ที่ฝากไว้กับผม
“เอาไปแลกข้าวมันไก่แล้ว ไม่พอด้วย ต้องเพิ่มเงินอีกตั้ง 20 บาท” บีตอบกลับไปแบบยิ้มๆชายตามองผมเล็กน้อย
“เดี๋ยวเหอะ” ผมเอามือขึ้นมาขยำๆแก้มนุ่มๆของน้องบีไปมาเบาๆ
“พี่อะ ฮ่ะๆๆ” น้องบีหัวเราะชอบใจ มิวก็นั่งหัวเราะ
“อยู่ในลิ้นชักอะต้อม” ผมชี้ไปที่โต๊ะ ต้อมพยักหน้าแล้ววิ่งไปเอา
“พี่.....เมื่อวานตอนกลับ ป๊าพาไปซื้อสโม๊กกี้ไบท์ที่ ____ ( ไม่ให้ค่าโฆษณา ไม่พูดๆ ) ด้วย” บีเงยหน้ามองผม
“เหรอ”
“ช่ายยยยยย”
“แล้ววันนี้ใครมารับอะ” ผมลูบริมฝีปากนุ่มๆของน้องบีเบาๆ ส่วนมิวนอนมองเพดานซะแล้ว
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากกลับกับพี่อะ”
“อืมม”
“แต่คงต้องรอม๊าลืมก่อน”
“ลืม?”
“ลืมที่ช่วงนี้กลับบ้านช้าหลายวันไงครับ ก็กว่าพี่จะไปส่งก็ค่ำแล้ว ม๊า กับ น้องๆรอไม่ไหว แต่ป๊าไม่ได้ว่าอะไร จริงๆอยากกลับกับพี่ อยากให้พี่พาไปนั่งรถเล่นอีก แต่ว่ารอให้ม๊าลืมก่อนแล้วกัน เราไปนั่งรถเล่นกันอีกนะ”
“อืม ก็ได้” ผมจบมือน้องบีขึ้นมาจูบลงไปที่หลังมือน้องเบาๆ 

        ริมฝีปากน้องนุ่มจังเลย ผมชอบลูบเล่นยังไงก็ไม่รู้ เวลาน้องอ้าปากหน่อยๆแล้วนิ้วผมโดนลมหายใจอุ่นๆจากปากน้องรู้สึกดีชะมัด บางครั้งที่นิ้วผมก็ใส่ลึกเข้าไปกว่าริมฝีปากน้องหน่อยหนึ่งน้องก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจอะไร อืมมม น้องน่ารักจัง






เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายน้ำตาลขั้นที่ 1

http://www.youtube.com/v/Jasv4JFEsZ8
Pattern 7  หรือ Poomsae Chill Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากน้ำตาลขั้นที่ 1 ไปสายน้ำตาลขั้นที่ 2


Thx น้องต่ายที่ตรวจจักอักษรให้ครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 14 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #27 เมื่อ12-05-2010 21:24:10 »

===  ตอนที่ 15 ===




        วันอาทิตย์วันแห่งการเคลียร์งาน ผมนอนเปิดแอร์ตามปรกติถ้าแสงแดดไม่ส่องเข้ามาแยงตาผมคงไม่ลืมตาขึ้นมาแน่ๆ ผมลุกขึ้นมานั่งเงียบๆอยู่พักหนึ่งเหมือนทุกๆวันที่ตื่นขึ้นมามีผมอยู่แค่คนเดียว ผมลุกขึ้นมาโดยไม่ได้เก็บที่นอน เดินไปห้องน้ำยืมมองกระจก ไม่รู้เหมือนกันว่ามองอะไร ก่อนจะแปรงฟันล้างหน้าอาบน้ำ เดินออกมาจากห้องน้ำก็กดเปิดคอมเปิดโมเด็ม แล้วก็ไปใส่เสื้อผ้า กลับมาผมก็ขอข้อมูลและเอกสารอ่านประกอบจากอาจารย์ Google ทันที วันเวลาผ่านไปรวดเร็วผมลืมทานข้าวเช้า กับ ข้าวเที่ยงอีกแล้ว
        ผมเดินไปเปิดตู้เย็นไม่มีอะไรเลยครับ แหง๋ล่ะ จะมีอะไรได้ยังไงผมไม่เคยซื้ออะไรมาแช่ไว้ทานเลยนอกจากน้ำ มองข้างๆก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ซื้อมาไว้ทานเวลาหิวอยู่สามสี่กล่องซื้อมาก็นานแล้วนะไม่รู้หมดอายุไปหรือยัง แล้วผมก็ตัดสินใจฝากท้องไว้กับวิงซ์แซ่บ มีคนเคยบอกว่าอย่าซื้ออาหารเวลาหิว เพราะเรามักจะซื้อมากกว่าที่เราจะทานหมด ตอนนี้ผมกระจ่างแก่ใจแล้ว ผมกลับมานั่งหน้าคอมพร้อมกับวิงซ์แซ่บสิบสองชิ้น มันบดเล็ก แล้วก็ ทูน่าสลัดใหญ่ ตอนผมหยิบออกมาผมสังเกตเห็นว่าพนักงานให้ช้อนมาสี่คัน อืมมม ประมาณนี้สงสัยจะนิยมทานกันประมาณสี่คนแน่ๆ
        แล้วผมก็เริ่มทาน ผมทานอาหารคนเดียวบ่อยๆผมชินแล้ว ห้องแถว สองชั้น สามห้องนอน สองห้องน้ำ หนึ่งห้องนั่งเล่น หนึ่งห้องครัว ผมอยู่เพียงลำพัง ไม่เหงาเท่าไหร่ ผมมีชุดโฮมเทียเตอร์ 5.1 มี PSone , PS2 , PSP , PC , Net 4 Mb แค่นี้ผมก็อยู่คนเดียวได้แล้ว เอ้อ เดี๋ยวๆ แล้วก็ มือถือสำหรับโทรหาใครสักคน จริงๆผมหวังว่าจะมีคนพิเศษสักคนโทรมามากกว่า ส่วนอีกเครื่องสำหรับติดต่องานผมไม่ปลื้มจะรับสายเท่าไหร่ รับทีไรงานเข้าทุกที

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

        เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นผมวางไก่แล้วเช็ดๆมือด้วยทิชชู่

“น้องบี Calling”
“ว่าไง”
“พี่ว่างไหมครับวันนี้”
“ก็ว่างนะ มีอะไรเหรอ ?”
“คือ......มารับผมที่บ้านได้ไหมครับ”
“บ้านไหน”
“บ้านโกดัง”
“จะให้รับไปไหนเหรอ”
“ไม่รู้ครับ.....พี่มารับผมหน่อยนะครับ......เดี๋ยวผมรอหน้าบ้าน”
“ไม่เอาๆ ถ้าไปรับแล้วไม่รู้จะไปไหน ป๊า ม๊า ถามขึ้นมาจะตอบว่าไงครับ”
“อื่อ นั่นซิ งั้นไม่เป็นไรๆ”

        แล้วน้องก็วางสายไปผมก็กลับมาเริ่มทานไก่ต่อจาก ทานเสร็จก็จริงดังว่านะครับ ไก่เหลือเจ็ดชิ้นจากสิบสองชิ้นมันบดก็ไม่ได้ทานเก็บไว้ทานต่อตอนค่ำแล้วกัน ผมเลือกที่จะพักการทำรายงานไว้ก่อน หยิบปากกากับกระดาษขึ้นมาวาดรูปเล่นดีกว่าอีกไม่นานก็ถึง ซินยุนบก แล้ววันนี้ตอนจบด้วย เวลาเราเพลินๆกับอะไรเวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว และแล้วเรื่อง ซินยุนบก ก็ฉาย ผมนั่งดูอยู่บนโซฟาตรงข้ามกับทีวี มีโต๊ะกระจกรกๆสำหรับวางหนังสือเรียน เอกสาร สมุด ฯลฯกั้นอยู่ระหว่างผมกับทีวี แล้วระหว่างที่ผมดู ซินยุนบก ได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นอีก

“น้องบี Calling”

“ไง”
“พี่.....พรุ่งนี้พี่ว่างเปล่าครับ”
“ก็ว่างนะทำไมเหรอ”
“แล้วพี่อยู่บ้านเปล่าครับ”
“ก็อยู่....พรุ่งนี้ Cleaning Day อะ”
“อ๊ะ พี่เคยบอกว่า Cleaning Day วันอาทิตย์ไม่ใช่เหรอครับ”
“เอาน่าๆ เลื่อนนิ๊ดเลื่อนหน่อย ยังไงก็อยู่ในช่วงวันหยุดเลื่อนได้ๆ ว่าแต่ถามทำไม ?”
“พรุ่งนี้พี่มารับผมไปเล่นที่บ้านพี่หน่อยซิครับ”
“ขอป๊า ขอม๊า ยัง”
“ยัง”
“ไปขอก่อน ถ้าป๊า กับ ม๊า ให้มา เดี๋ยวพี่มารับ”
“ไม่ต้องหรอกครับ”
“อ่าว ทำไมไม่ขอก่อนอะ ถ้าพี่มารับแล้ว ป๊ากับม๊าไม่ให้มาทำไง”
“ก็ค่อยบอกตอนพี่มาถึงก็ได้ ตอนนั้นพี่มารับถึงบ้านแล้วไงๆ ป๊ากับม๊าก็ให้ไปอยู่ดีนั่นล่ะ”
“เห๊อะๆๆ.....ไปขอให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยโทรมา พี่ดูหนังก่อนแค่นี้นะ”

        แล้วผมก็หันกลับมานั่งดู ซินยุนบก ต่อ ตอนจบไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เลยแฮะ

        แล้ววันเสาร์อาทิตย์ที่เงียบเหงาก็ผ่านพ้นไปวันจันทร์เปิดมาก็เจอกับวิชาที่หวังในใจว่าไงๆผมก็ได้เอแน่ๆ ตามด้วยวิชาที่สองที่คิดว่าซีบวกเฉยๆก็ปลื้มใจแล้วการเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น แต่....รื่นไปจนลืมทานข้าวเที่ยงนี่ซิ พอตกตอนเย็นที่เดียวที่ผมฝากท้อง ครับ ร้านที่ผมไม่เคยเอ่ยชื่อเลยร้านนั้นนั่นแหละ ทันทีที่ถึงยิมผมปรี่ไปร้านสะดวกซื้อร้านนั้นทันทีโดยมีน้องบีตามมาติดๆ เมื่อถึงผมคว้า ไก่ห่อสาหร่ายสองกล่อง ซาลาเปาเห็ดหอมเจอีกหนึ่งลูก โออิชิอีกหนึ่งขวด น้องบียืนมองแบบ งงๆ ที่วันนี้ผมไม่ค่อยพูดค่อยจา ก็หิวนี่นา น้องบีรีบคว้าไก่ห่อสาหร่าย แล้วก็โออิชิตามอีกหนึ่งขวด พนักงานขายคงแปลกใจที่วันนี้ผมไม่พูดอะไรเท่าไหร่ น้องบีเองก็วิ่งตามต้อยๆ

“พี่” น้องบีดึงเสื้อผมเบาๆ
“หือ” ผมหันไปมองน้องหน่อยๆ
“ทำไมวันนี้พี่ดู....เงียบๆ ไม่พูดไม่จา”
“หิว.....”
“ไม่ได้ทานข้าวเหรอ”
“อื่อ”
“.....” น้องบีทำท่าทางเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“อะ....” น้องบียื่นไก่ห่อสาหร่ายของตัวเองให้ผม
“กินเถอะ” ผมลูบหัวน้องบีเบาๆ
“ไม่เอา ให้พี่ อิ่มแล้วค่อยให้ผมก็ได้” พูดจบน้องบีก็ยัดกล่องไก่ห่อสาหร่ายลงในถุงของผม

        พอถึงยิมผมก็นั่งทานซาลาเปา กับไก่ห่อสาหร่ายหมดไปหนึ่งกล่อง ที่เหลือผมเก็บไว้ในกระเป๋าไว้ทานทีหลัง เพราะแค่นั้นก็รู้สึกว่าอิ่ม หลังจากเปลี่ยนชุดให้น้องบีเสร็จผมก็ไปนั่งเล่นอยู่ตรงโต๊ะ น้องๆหลายคนขอดู Clip แมลงคราวก่อนต่อผมก็เปิดให้น้องๆดู แต่แปลก วันนี้น้องบีไม่มานั่งตักผมแฮะ แต่ความสงสัยของผมก็เกิดขึ้นได้ไม่นานเพราะน้องกันเดินมาหาผมแล้วถามว่า

“พี่ครับ”
“ว่าไงกัน”
“ขอกินไก่ของพี่ได้ไหมครับ”
“ไก่ไหน” ผมหันไปมองน้องกันอย่างสงสัย
“ไก่ในกระเป๋าพี่” น้องกันชี้ไปในห้องแต่งตัว
“เอ่อ.....เดี๋ยวซ้อมเสร็จก่อนเดี๋ยวพี่แบ่งให้” ผมยิ้ม ในใจก็สงสัยว่าน้องรู้ได้ไงว่าในกระเป๋าผมมีไก่ด้วย
“ตอนนี้ไม่ได้เหรอครับ” พูดจบน้องก็ทำตาใสใส่ทันที
“เดี๋ยวก่อน”
“แต่เมื่อกี้ผมเห็น บี หยิบทานไปแล้วหนึ่งชิ้น”
“ห๊ะ” อ่า.....รู้แล้วทำไมน้องกันถึงรู้ว่ามีไก่
“ผมถามบีแล้วว่าขอพี่ยังแต่บีบอกว่า ‘เขาอะไม่ต้องขอหรอก พี่เอให้เขากินอยู่แล้ว แต่คนอื่นห้ามยุ่ง!!’” อ่า.....
“พูดงี้จริงดิ” ผมถามเพื่อให้แน่ใจอีกครั้ง
“ถามคนอื่นดูเลยพี่ ได้ยินเหมือนกัน”
“น้องบี ใครให้กินฟร่ะ ออกมานี่นะเฟร้ยะ!!!”

        ผมตะโกนออกไป คิดว่าบีต้องได้ยินแน่ๆ แล้วบีก็เดินออกมายิ้มแฮะๆทำตาหวานมาแต่ไกล

“ครับ” บียิ้ม
“มานี่” ผมชี้ให้บีมายืนหน้าโต๊ะ
“....” บียืนทำหน้า งงๆ
“กอดอก”
“กอดทำไมอะพี่”
“ป๊าบบ ป๊าบบบ ป๊าบบบ” ผมเอาแป้นตีก้นบีเบาๆไปสามที น้องๆในยิมต่างพากันตกใจแล้วหันมามอง
“....” น้องบีหันมามองหน้าผมแต่ไม่พูดอะไร ทำตาสลดใส่เหมือนจะถามว่า ผมทำอะไรผิดเหรอ
“ทีหลังถ้าจะหยิบอะไรของใครให้ขอเจ้าของเค้าก่อนนะครับ”

        ผมพูดเสียงดังพอที่เด็กๆในยิมทุกคนจะได้ยิน น้องบียืนมองแบบวางตัวไม่ถูกผมเอามือไปลูบแก้มน้องเบาๆ น้องถลาตัวเข้ากอดผมทันที น้องเอาหน้าซุกอกผมทันที ผมอื้อมมือมาลูบหัวน้องเบาๆก่อนจะจูงมือน้องมานั่งที่โต๊ะ ให้น้องนั่งตัก แล้วสวมกอดน้อง แล้วผมก็กระซิบเบาๆข้างหูน้องว่า

“ขอโทษ” น้องกำมือผมเบาๆ
“บีจะทาน พี่ไม่ว่าหรอก แต่คราวหน้ามาขอก่อนนะ เดี๋ยวคนอื่นจะเอาเป็นแบบอย่างมันไม่ดี”
“อื่อ” บีตอบกลับมาเบาๆ ผมก้มหอมลงไปที่ต้นคอน้องแล้วก็จูบลงไปเบาๆหนึ่งที

        น้องบีดูเหมือนจะโกรธนิ๊ดหน่อยแต่พอเล่นด้วยสักพักน้องก็กลับมาร่าเริงเหมือนเดิมหวังว่าน้องคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพูดแล้วก็ทำลงไปนะ










เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายน้ำตาลขั้นที่ 2

http://www.youtube.com/v/7OVy2qReaEc
Pattern 9  หรือ Poomsae Pal Jang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากน้ำตาลขั้นที่ 2 ไปแดงขั้นที่ 1


Thx น้องต่ายที่ตรวจตัวอักษรให้นะครับ

Flower night

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 15 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #28 เมื่อ12-05-2010 21:26:04 »

 :z13:  พี่เอ

แวะมาให้กำลังใจ อิอิ  :L2:

สู้ๆค้าบบบ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: น้องชาย ( ลงตอน 15 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #29 เมื่อ12-05-2010 21:29:02 »

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด