น้องชาย 1
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: น้องชาย 1  (อ่าน 231519 ครั้ง)

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 15 แล้ว P1 : 12/05/10 )
«ตอบ #30 เมื่อ12-05-2010 21:29:50 »

===  ตอนที่ 16 ===



“ป้าครับ ข้าวมันไก่จานหนึ่งไม่หนัง ไม่ผักชี ไม่แตง ไม่ข้าว ไม่ไก่ ไม่น้ำซุบ ไม่น้ำจิ้มด้วย”
“......” เจ้าของร้านถึงกับนิ่งเลยทีเดียว
“ล้อเล่น ข้าวมันไก่ไม่หนังจานหนึ่งครับ” ผมยิ้ม เจ้าของร้านยิ้มตาม

        ข้างๆยิมมีร้านข้าวมันไก่อยู่ร้านหนึ่งครับ นานๆถึงจะมาฝากท้องกับเค้าสักที จะว่าไปก็อร่อยดีนะ แต่น้ำซุปจืดไปนิ๊ดหนึ่ง อย่าไปบอกป้าเค้านะ เดี๋ยวเค้าจะงอนผม แล้วผมก็นั่งรอไปมองไปไก่ถูกฉีกออกมาแล้วเตรียมเอามีดทุบให้แบนๆ ชิ้นเล็กๆแต่พอถูกทุบจนแบนแล้วได้แผ่นใหญ่น่าดู ยิ่งพอโปะลงบนข้าวด้วยมันเลยทำให้รู้สึกว่าไม่น้อยไป

“ป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ”

        ป้าคนขายฟาดข้างๆมีดลงไปใส่ไก่ที่วางอยู่บนเขียงสามดอก ดูเหมือนว่ายังไม่สุด เพราะป้าง้างแขนขึ้นเตรียมฟาดซ้ำลงไปให้แบนกว่าเดิม แต่พอดีว่าป้าเค้าชำเลืองมาเห็นผมกำลังนั่งมองอยู่ด้วยใจจดจ่อ ป้าคงจะสังเกตได้ถึงสายตาที่ตั้งคำถามว่า

“อย่าบอกนะจานยี่สิบห้าบาทจะได้ไก่แค่นี้”

        ป้ายิ้มให้ผมก่อจะคว้าไก่มาเพิ่มให้ จริงๆผมว่าคนขายเค้ารู้นะว่าบางอย่างเค้าเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างเราๆ ไม่งั้นเค้าก็คงไม่ร้อนตัวกับสายตาของผมที่กำลังมองสาวๆกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งทานเกาเหลาอยู่ร้านถัดไป ส่วนไก่ของป้าเหรอ ก็แค่ทางผ่านของสายตาผมนะเพราะสาวๆนั่งอยู่ ณ องศาเดียวกันกับไก่ป้าพอดี

“อะนี่จ้ะ”

        ข้าวมันไก่ถูกวางอยู่ตรงหน้าผม ผมแอบแปลกใจหน่อยหนึ่งตรงที่ว่ามันนี้มันมากกว่าปรกติหยั่งกับสั่งพิเศษแน่ะ ผมค่อยๆนั่งทานไปช้าๆ แล้วผมก็สังเกตเห็น New C-Class คันหนึ่งมาจอดข้างๆร้านข้าวมันไก่ ผมนั่งมองไปทานไปแล้วก็เห็นน้องบีลงมาจากรถ

“ปึก!”

        บีปิดประตูรถเสร็จปั๊บก็ยืนยิ้มๆมองจนรถวิ่งออกไปก่อนจะหันหลังกลับมาแล้วเห็นว่าผมนั่งทานข้าวมันไก่อยู่ ผมทำเป็นมองไม่เห็น แต่ยังชายตามองอยู่ น้องรีบวิ่งไปหลบตรงรถน้าขายน้ำหน้ายิม แล้วชะโงกๆมองผมอีกสองสามครั้ง คงแน่ใจว่าผมไม่เห็นแล้ว เลยรีบวิ่งเข้ายิมไป

“ป้า เก็บเงินด้วยครับ”
“ยี่สิบห้าบาทจ้ะ”

        ตอนผมกำลังจ่ายเงินผมแอบเห็นน้องบีมายืนด้อมๆมองๆตรงร้านขายน้ำนี้อีกครั้ง แต่ผมไม่ได้ทัก ทำเป็นมองไม่เห็น จ่ายเงินเสร็จผมก็หยิบกระเป๋าเดินออกไปร้านสะดวกซื้อที่เข้าประจำเพื่อซื้อน้ำ ตอนนั้นผมไม่ได้หันหลังไป ผมไม่รู้ว่าบีทำอะไรอยู่

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”

        ผมเดินไปโซนเครื่องดื่มยืนมองว่าวันนี้จะดื่มอะไรดี

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”

        ลูกค้าร้านนี้เยอะนะครับใกล้ๆกันเป็นตลาดแท้ๆกลับมีคนมาใช้บริการร้านนี้มากขนาดนี้ อืมมม วันนี้เอาลิปตันแล้วกันหยิบเสร็จผมก็เดินไปจ่ายเงิน แล้วระหว่างจ่ายเงินอยู่พนักงานก็ยิงบาร์โค้ดแล้วจู่ๆก็มีคนเอาของมาวางไว้ข้างๆ ผมหันไปมองเจ้าของมือก็เห็นน้องบียืนอยู่ แต่น้องไม่มองผมแฮะ วางเสร็จน้องก็วิ่งออกไปนอกร้าน

“สี่สิบบาทคะ”

        ผมจ่ายเงินเสร็จก็เดินออกมานอกร้าน เห็นบียืนพิงตู้โทรศัพท์รออยู่ พอผมเดินผ่านไปน้องก็วิ่งเข้ามาหยิบน้ำออกไปจากถุงแบบไม่พูดไม่จา แล้ววิ่งๆไปเข้ายิม วันนี้น้องแปลกๆแฮะ  พอถึงยิมผมก็เห็นน้องหยิบถุงผ้าใบประจำวิ่งเข้าห้องเปลี่ยนชุดไป โอ๊วว วันนี้เปลี่ยนชุดเองด้วย สงสัยงอนเรื่องวันก่อน พอน้องออกมาก็ใส่ชุดเรียบร้อยแต่อย่างหนึ่งที่ไม่เรียบร้อยคือสาย เพราะน้องมัดผิด

“บี มัดสายผิดอะ”

        บีรีบหันมองที่สายของตัวเอง แล้วแก้ออกมัดใหม่อย่างรวดเร็วแต่ก็ยังผิดอยู่ดี ผมนั่งยิ้มๆอยู่ที่โต๊ะคนเดียวบีเองก็รู้ว่าผมยิ้มเพราะอะไรเค้าก็เดินไปนั่งเงียบๆคนเดียว ไม่นานน้องคนอื่นก็ค่อยๆทยอยกันมาบีเลยมีเพื่อนเล่น ส่วนผมก็นั่งดู DVD การแข่งขันที่พี่ป้อมเอามาให้ดูเพื่อดูเทคนิคการเล่นที่น่าสนใจ มีน้องหลายคนให้ความสนใจเดินมานั่งดู ไม่นานเก้าอี้ที่วางอยู่แถวนั้นก็ถูกนั่งจนเต็ม น้องตั้มเด็กใหม่สายขาวเพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ก็สนใจอยากจะดูแต่ที่นั่งเต็มซะแล้ว น้องต้องยืนดู แล้วจู่ๆน้องตั้มก็ตัดสินใจเดินแทรกๆเข้ามาตรงที่ผมนั่งอยู่ น้องตั้มมาฟอร์มยืนเอนไปเอียงมาพักหนึ่งก็ค่อยๆนั่งลงบนตักผม สงสัยน้องจะเคยเห็นผมให้บีนั่งได้ ก็เลยคิดว่าผมจะให้นั่งได้เหมือนกันผมก็ไม่ได้ว่าอะ น้องตั้มตัวเล็กๆครับ อายุ 10 ขวบเองไม่หนักมาก
        แต่....ระหว่างที่บีกำลังเล่นกับเพื่อนอยู่นั้นบีก็มีหันมามองเป็นระยะๆแล้วก็เห็นน้องตั้มนั่งบนตักผมเข้าบีก็หยุดเล่นทันที แล้วก็ยืนมองอยู่อย่างนั้นพักหนึ่งก่อนจะเดินตรงมาหาผม ทันทีที่มายืนตรงไหนบีผลักน้องตั้มออกจากตักผมแล้วบีก็นั่งลงมาแทนทันที น้องตั้มยืนมองแบบงงๆ ผมเลยให้บีขยับมานั่งข้างขวา แล้วให้ตั้มนั่งข้างซ้ายแทน แล้วบีก็ดึงมือทั้งสองข้างผมไปกอดตัวเค้าไว้ โดยไม่พูดอะไร ผมก็ทำเป็นไม่สนใจไม่ลูบ หรือ ตอบรับการเอามือของผมไปโอบตัวน้องแบบคราวก่อนๆ จนกระทั้งถึงเวลาซ้อม วันนี้บีก็ไม่ได้เรียกผมให้เข้าไปช่วยเค้ายืดเส้นเหมือนเดิม
        จนถึงช่วงพักน้องบีก็เดินไปเล่นการ์ดยูกิกับเพื่อนๆ ส่วนผมก็บอกพี่ป้อมว่าจะออกไปเอาภาพที่สั่งพิมพ์เอาไว้ ตอนนั้นน้องบียังส่องๆอยู่ว่าผมทำอะไร แต่พอเห็นผมหยิบเสื้อวอร์มมาใส่คลุมปั๊บ น้องบีก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ค่อยๆขยับมาใกล้ผมเรื่อยๆ พอเห็นชัดแล้วว่าผมจะออกไปข้างนอกน้องบีรีบลุกจากวงเพื่อนที่กำลังเล่นการ์ดกันอยู่ทันทีแล้วก็ตะโกนว่า

“พี่ไปไหน”

        ผมหันไปมองแต่ไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็ขึ้นคร่อมรถเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผมไม่พาบีไปด้วยแน่ๆแถมไปไหนบีก็ไม่รู้ กระเป๋าสะพายก็ไม่ได้เอาไป ความสงสัยคงจะเกิดขึ้นในใจน้อง แล้วทันทีที่ผมสตาร์ตรถน้องบีก็ตะโกนขึ้นมาทันทีเลย

“พี่....อย่าเพิ่งไป.....ผมไปด้วย”

        ผมสวมหมวกกันน็อคเปิดกระจกขึ้นแล้วพูดกับน้องบีที่กำลังมีท่าทีลุกลี้ลุกลนว่า

“ พี่ไปเอาของเดี๋ยว พี่มา แป๊บเดียว”

        เหมือนว่าน้องจะไม่สนใจว่าแป๊บเดียวหรือไม่ น้องบีรีบวิ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว แล้วมาเกาะตรงหน้าต่างยิม

“ ไม่เอาๆ ไปด้วย”
“รอนี่แหละ”
“ ไม่เอา...... ไม่เอา” บีทำท่าลุกลี้ลุกลนมากกว่าเดิม
“ แป๊บ เดียว”
“แป๊บเดี๋ยวก็ไม่เอา ให้ผมไปด้วย”
“ เดี๋ยวมาจริงๆ”
“ง๊าาาาาาาาาาาาา..... ไม่เอาๆๆๆๆ....เดี๋ยวก็ไม่เอา....ให้ผมไปด้วย”
  
        ระหว่างที่คุยกัน น้องๆในยิมเริ่มหันมามอง พี่ป้อมก็หันมามอง น้อบีรีบวิ่งไปหยิบชุดกันหนาวที่วางไว้บนโต๊ะ จนลืมการ์ดยูกิของตัวเองที่กำลังเล่นกับเพื่อนอยู่ แล้วรีบวิ่งมาขึ้นรถอย่างเร่งรีบ.....น้องบี มุดแขนผม มานั่งหน้า ตอนนั้น น้องบี ยังไม่ทันจะใส่ชุดกันหนาวเสร็จด้วยซ้ำเพราะเพิ่งสอดเข้าไปแค่แขนเดียว พอรู้ว่าได้ไปด้วยแน่ น้องบี เลยใส่แขนอีกข้างเข้าไปแล้วรูดซิบเสร็จปั๊บก็พูดว่า

“ปะ”

        ตอนนั้นน้องๆทั้งยิมหันมามองกันใหญ่ พี่ป้อมก็ด้วย ทำเอาผมวางตัวไม่ถูกเลย ผมขับรถออกไปช้าๆ น้องบี  ค่อยๆเอนหลังมาพิงผมอย่างสบายใจ ตลอดทางน้องบีไม่พูดอะไรเลยจนมาถึงร้านพี่ผมสั่งพิมพ์ภาพไว้ พอรับภาพน้องบีก็ทำตาโตเพราะเด็กผมสีน้ำตาลในภาพเป็นเด็กคนเดียวกับภาพที่ผมเคยให้น้องคราวก่อน แถมมีหลายภาพด้วย

“พี่วาดเองเหรอ” น้องพูดอย่างตื่นเต้น
“อื่อ”
“น่ารักจัง” น้องเอามือลูบๆภาพด้วยความตื่นเต้น
“อื่อ น่ารัก” ผมลูบหัวน้องบีเบาๆ น้องบีหันมายิ้มๆ

        พอรับภาพเสร็จผมก็ให้บีถือภาพให้ระหว่างทางผมก็ชวนน้องคุย

“วันนี้เป็นไร”
“ป่าว”
“จริง?”
“จริง”
“ทำตัวเป็นหัวล้านขี้งอนไปได้”
“ม่ายยย”

        แล้วผมก็เอามือมาเสยผมน้องบีขึ้นสองสามรอบบวกกับลมที่พัดมาด้วยเลยทำให้ผมบีเปิดขึ้นง่ายๆ

“นี่ไงไม่ล้านเลยแต่เหน่งเชียว อิอิอิ”
“เง้อออ พี่อะ”

        บีพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกว่าอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ระหว่างนั้นผมขับผ่านหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งแต่งร้านสวยมากๆผมเลยสะกิดๆน้องบี

“บี ดูร้านอาหารญี่ปุ่นนี้ดิ”

        น้องบีหันไปมองตาม

“สวยอะ ว่างๆมานั่งทานกันดีป่ะ” น้องบีเงยหน้าขึ้นมา
“ผมเคยมาทานแล้ว มันไม่สดอะพี่ ปลาคาวมากๆเลยอะ” พูดเสร็จน้องก็ส่ายหน้า
“ซูชิอะดิ แล้วอย่างอื่นอะอร่อยป่าว”
“ไม่รู้วันนั้นแค่ซูชิผมก็ทานอะไรไม่ลงแล้ว”
“งั้นวันหน้าเรามาลองทานอย่างอื่นกัน”
“อืมมมม เกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า นานๆที เน๊อะ”
“ครับ”
“ว่าแต่บีชอบทานอะไรเหรอ......”



To Be Con






เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายดำขั้นที่ 1

http://www.youtube.com/v/KQFNvjI30j0
Poomsae Koryo เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากดำดั้งที่ 1 ไปสายดำดั้งที่ 2
Clip นี้ถือเป็นมาตรฐานของท่ารำในไทย เพราะเป็นของสมาคมเทควันโด Kukkiwon


Thx  น้องต่ายที่ตรวจทานตัวอักษรให้ครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 16 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #31 เมื่อ12-05-2010 21:31:36 »

===  ตอนที่ 17 ===




        มีหลายคนในยิมสงสัยเรื่องหนึ่ง คิดว่าหลายๆคนที่ติดตามอ่านก็อาจสงสัยเหมือนกัน เรื่องที่ว่าก็คือเวลาไปร้านสะดวกซื้อร้านนั้น หรือ ซื้อของอะไรแล้วผมจ่ายให้บีตลอด น้องๆหลายคนก็เห็นจนนำไปสู่ความเข้าใจผิดส่วนหนึ่งที่ว่า ผมใจดีสุดๆออกเงินซื้อโน้นซื้อนี่ให้บีตลอดจนกระทั่งวันหนึ่ง น้องตั้มที่เฝ้าสังเกตการณ์มานานก็เข้ามาหาผม ตอนนั้นผมกำลังนั่งใจลอยมองท้องฟ้าที่มีเมฆหน่อยๆพอสวยงามอยู่

“พี่เอ” พูดจบน้องก็ดึงเก้าอี้มานั่งฝั่งตรงข้าม
“หือ ว่าไง” ผมหนุนเก้าอี้หันไปทางน้องตั้ม
“วันนี้ทำไมบียังไม่มาอีกล่ะครับ”
“ไม่รู้ซิ”
“พี่”
“อะไร” ผมทำเสียงเซ็งๆหน่อย น้องวางแขนลงบนโต๊ะแล้วชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“ผมขอเงินหน่อยได้ไหมครับ” น้องทำเสียงเบาๆเหมือนกับกลัวคนอื่นจะได้ยิน
“เอาไปทำอะไร”
“ซื้อขนม”
“อ่าว เมื่อกี้เห็นขนมาหยั่งกะจะมาเปิดร้านขายขนมในยิม ยังไม่พออีกเหรอ”
“เพื่อนแย่งหมดแล้ว”
“ไม่เอาๆ พี่ไม่สนับสนุนให้น้องทานขนมถุง ขนมห่อแบบนั้น ไม่ดีๆ ผงชูรสเยอะ” ผมส่ายหน้าไปด้วย
“พี่....ห้าบาทก็ได้ นะๆๆ” น้องจับมือผมทำเสียงอ้อนสุดๆแล้วเขย่าเบาๆไปด้วย
“ห้าบาทก็ไม่ได้”
“อ่า ทำไมทีกับบีพี่ยังให้เลย”
“พี่เคยให้เงินบีด้วยเหรอ”
“ก็เห็นพี่ซื้อโน้นซื้อนี้ให้บีเยอะแยะ”
“เข้าใจผิดแล้วน้อง”
“บางทียังเคยเห็นบีหยิบเงินจากกระเป๋าพี่เลยด้วยซ้ำ”
“นั่นมันเงินเค้า” ผมพูดจบน้องตั้มทำหน้าตา งงๆ ใส่ผม
“จะเป็นเงินบีได้ไง หยิบจากกระเป๋าพี่ก็ต้องเป็นเงินพี่ซิ”
“พี่จะบอกให้ฟังนะ บีเค้าเอาเงินมาฝากกับพี่คราวละยี่สิบ ถึงสามร้อยบาททุกวัน พี่ก็เก็บใส่ถุงใว้ให้เค้าวันไหนที่เค้าลืมมาขอคืน เพราะงั้นเค้าไปหยิบมาใช้มันก็เป็นเงินเค้า เข้าใจยัง” น้องตั้มทำหน้าตา งง หน่อยๆ
“งั้นคราวหน้าผมเอาเงินมาฝากกับพี่ด้วยได้ไหมครับ”
“อื่อได้ เอามาซิ”

        ระหว่างที่คุยกับตั้ม ผมก็มองนาฬิกาไปด้วย อืมมม ใกล้ได้เวลาซ้อมแล้วบียังไม่มาเลยแฮะเป็นไรหรือเปล่าไม่รู้ปรกติน้องไม่เคยมาช้าแบบนี้ ผมรู้สึกเป็นห่วงน้องจัง แล้ว.....ไม่รู่ทำไมวันนี้ผมถึงรู้สึกกระวนกระวายแปลกๆด้วย แล้วก็.....รู้สึกว่าไม่อยากสอนเลย ผมนั่งแบบรู้สึกหดหู่นิ๊ดๆอาจเพราะน้องบียังไม่มาหรือเปล่า ผมชะโงกมองไปหน้ายิมอยู่เรื่อยๆ มองว่าเมื่อไหร่ C-Class คันนั้นจะมาจอดสักที รู้สึกคิดถึงคนๆหนึ่งที่ลงมาจากรถพร้อมกระเป๋าผ้าใบประจำ กลิ่นหอมๆของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันชื่อกลิ่นอะไร ในถุงมีชุดเทควันโดที่ถูกรีดพับกลีบมาอย่างดีทั้งๆที่ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เนื้อผ้าเองก็ไม่ได้พิเศษอะไรกว่าชุดฝึกตัวอื่นๆ แต่ทุกครั้งที่ได้จับก็ทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ลูบลงไปที่เนื้อผ้าเบาๆรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลของเนื้อผ้าแล้วก็ไม่เคยมีวันไหนที่ชุดในถุงนั้นยับเลยสักวัน  ตอนนี้ผมรู้สึกคิดถึงกลิ่นหอมอ่อนๆกลิ่นนั้น ชุดเทควันโดที่เรียบร้อยจนเกินไป เนื้อผ้าที่นุ่มนวลละมุนละไม แล้วก็.....คนที่ใส่ชุดๆนี้ด้วย
        แล้วก็เหลืออีกห้านาทีจะเริ่มการซ้อม ขณะที่ผมกำลังชะเง้อคอมองอยู่เนืองๆก็มี Jazz สีบรอนซ์เงินคันหนึ่งมาจอดหน้ายิม ผมไม่เคยเห็นมาก่อนน่าจะเป็นคนมาธุระแถวนี้ แล้วขณะที่ผมกำลังจะละสายตาผมก็เห็นเด็กคนหนึ่งลงมาจากรถ

“บี”

        ผมเผลอหลุกปากเรียกชื่อน้องเบาๆ รอยยิ้มเกิดขึ้นบนหน้าของผมโดยไม่ตั้งใจ ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่วันนี้น้องมา น้องเลื่อนประตูเข้ามาผมรีบลุกเดินไปหาน้อง

“บี” ผมเรียกน้องเบาๆ
“ครับ” บีหันมาหาผม แล้วผมก็กอดน้องเบาๆไปหนึ่งครั้ง
“เปลี่ยนชุดเองนะ พี่เรียกเข้าแถวก่อน” ผมลูบหัวน้องเบาๆ
“ครับ” น้องบียิ้ม ผมเปลี่ยนไปลูบแก้มน้องเบาๆ แล้วยิ้มกลับไป

        จู่ๆผมก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีผมเรียกน้องๆเข้าแถวแล้วพูดคุยกันเล่นๆ แล้วก็ชี้แจงเรื่องสอบสายให้น้องๆฟังว่าอีกไม่นานจะมีการสอบสาย หลังจากสอบสายเสร็จจะก็จะพาน้องๆนักกีฬาที่ลงชื่อไว้แล้วไปแข่งขันในอีกสองสามวันหลังจากสอบเสร็จ น้องๆหลายคนก็พูดคุยสอบถามกันอย่างสนุกสนาน แล้วผมก็เห็นบีเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุด ถือสายคาดเอวไว้ในมือเดินตรงมาหาผม ซึ่งตอนนั้นผมยืนอยู่หน้ายิม ส่วนน้องๆก็นั่งกันอยู่กับพื้นเบาะ

“พี่” บีเรียกผมเบาๆแล้วก็ยื่นสายคาดเอวให้
“ครับ”
“มัดให้หน่อย”

        ผมรับสายมาแล้วก็มัดสายให้บีน้องๆหลายคนก็มองเพราะทั้งยิมมีบีคนเดียวที่ผมยังมัดให้อยู่ ส่วนมากที่มัดๆให้จะเป็นน้องสายขาวมาใหม่ที่มัดไม่เป็นมากกว่า

“บี ทำไมไม่มัดเองอะ” มิ้นทักขึ้นมา
“ทำไม ก็จะให้พี่เอมัดให้อะ”
“เออ นั่นดิ สายสูงแล้วยังไม่ยอมมัดเองอีก” ต้นทักขึ้นตาม
“ยุ่ง” บีตอบกลับไปแบบรำคาญๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกอดขาผมไว้

        แล้วเมื่อทุกคนพร้อมการซ้อมก็เริ่มขึ้น หลังจากเจ็บขาวันนั้นอ้นกลับมาเตะแบบระวังตัวมากกว่าเดิม ผมเองก็ไปประคองอ้นอยู่เรื่อยๆ ดูเหมือนว่าอ้นจะชอบเวลามีคนประคองอยู่เหมือนกัน มิวเองก็เตะได้ดีขึ้นมากแล้วรู้สึกว่าจะดีขึ้นกว่าบีด้วย อาจเป็นเพราะเคยล้อเค้าว่า สำเนากับต้นฉบับมั้ง ที่ล้ออย่างนั้นเพราะช่วงหนึ่งมิวเตะเหมือนบีเลย มิวเลยพยายามพัฒนาตัวเองมากจนสามารถเตะได้ดีกว่าบีเยอะพี่ป้อมเองก็ชอบใจที่มิวสามารถพัฒนาตัวเองได้เร็ว จนกระทั่งฝึกเสร็จ พี่ป้อมก็คุยกับน้องๆเกี่ยวกับการฝึกซ้อมในวันนี้แล้วก็ชมมิว กับ อ้น ที่สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นได้มาก

“เอ้า กลับบ้านได้”
“แปะ แปะ แปะ เฮ่!!”
“พี่เอ ครูป้อมกลับก่อนนะครับ/ค่ะ”

        เสียงน้องๆจ๊อกแจ๊กจอแจในช่วงกลับ หลายคนผู้ปกครองมารอรับกลับ หลายคนก็จ้องนั่งรอผู้ปกครอง วันนี้บีเองก็นั่งรอผู้ปกครองเหมือนมิวกับอ้นแล้วก็คนอื่นๆอีกสี่ห้าคน ผมไปนั่งพิงกำแพงมุมเดิม น้องมิวกับอ้นต้นหอมแล้วก็ตั้มมานั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่ใกล้ๆ ส่วนบีก็มานอนพิงผมเหมือนเดิม

“บี”
“ครับ”
“ชอบทานเผ็ดเหรอ” ผมเอานิ้วชี้ลูบไปบนริมฝีปากน้องเบาๆไปมา
“อื่อ”
“เคยทานไก่วิงซ์แซ่บแกงไก่ยัง”
“ยัง”
“เผ็ดอะ”
“จริงเหรอครับ” น้องเงยหน้ามองผมหน่อยๆ
“อื่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปทานเอาป่ะ”
“ไม่เป็นไร....เกรงใจ”
“น่า นานๆที พรุ่งนี้รีบมาแล้วกัน”
“ครับ”

        แล้วผมก็กอดน้องบีเบาๆ ผมก้มหน้าลงไปใกล้ๆหูน้องบีแล้วพูดว่า

“วันนี้พี่คิดว่าเราจะไม่มาแล้ว”
“มาซิครับ....ต้องมาอยู่แล้ว”

        น้องเงยหน้ายิ้มให้ผม ผมก้มลงไปหอมลงบนผมน้องเบาๆ หายใจรดลงไป แล้วผมก็เอามือมาลูบแก้มกับคอน้องเบาๆ แล้วน้องๆก็ทยอยๆกลับไป มิวกลับเป็นคนสุดท้ายเพราะคุณแม่ติดประชุม ผมดึงประตูยิมปิดแล้วล็อก ผมมองดูมือขวา......แก้มน้องนุ่มจัง.....อยากลูบไปแบบนี้ทุกวัน ผมยืนใจลอยอยู่พักหนึ่งจู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจากในกระเป๋าสะพาย ไม่ใช่ของผมแน่เพราะของผมอยู่ในกระเป๋าเสื้อ

“Sorry Sorry Sorry Sorry  นุนนี บุชอ บุชอ บุชอ ชุมี มัคคอ มัคคอ มัคคอ เนกา มิชยอ มิชยอ มิชอย เบบี้”

        โอโห เพลงริงโทน กำลังฮิตเลยทีเดียว ผมเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่หน้ารถเปิดออกมาดู ก็พบว่าเป็นมือถือน้องบี กับเงินอีกแปดสิบบาท ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูที่หน้าจอ

“ป๊า”

        อ๊ะ!!! คุณพ่อน้องบีโทรเข้า ผมยืนมองอยู่ไม่กล้ารับจนสายตัดไป แล้วขณะที่ผมกำลังจะใส่ลงไปในกระเป๋าคืนโทรศัพท์ก็ดังสวนขึ้นมาอีก

“ป๊า”

        ผมตัดสินใจกดรับสาย

“ครับ”
“พี่เอ....บีนะ” ผมรู้สึกโล่งขึ้นมาทันที ที่คนโทรเข้ามาไม่ใช่คุณพ่อน้องบี
“ว่าไง”
“เปล่า คิดว่าโทรศัพท์หาย”
“อื่อ อยู่กับพี่”
“ฝากๆ”
“อื่อ คิดถึงนะ” พูดจบปลายสายก็เงียบไปพักหนึ่ง
“.......ครับ”
“พรุ่งนี้รีบมานะ”
“ครับ”

To Be Con








เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
ท่ารำของสายดำขั้นที่ 2

http://www.youtube.com/v/RT4q1F39ZTA
Poomsae Kuemkang เป็นท่ารำสำหรับสอบสายขึ้นจากสายดำดั้งที่ 1 ไปสายดำดั้งที่ 2
Clip นี้ถือเป็นมาตรฐานของท่ารำในไทย เพราะเป็นของสมาคมเทควันโด Kukkiwon

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 16 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #32 เมื่อ12-05-2010 21:34:10 »

===  ตอนที่ 18 ===




        วันพรุ่งนี้ผมจะออกเดินทางไป จังหวัด abc เพื่อทำการแข่งกันกีฬาที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในฐานะประธานชมรมเทควันโด ถึงไม่ได้ลงแข่งยังไงก็ต้องไปอยู่ดี เนื่องจากนักกีฬามีความเชื่อถือในตัวผมมากกว่าโค๊ชที่ไม่ค่อยจะได้มาดูแลสนใจเท่าไหร่ แต่งตั้งไปก็แค่ว่าให้ครบตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยในการตั้งชมรมเท่านั้น
        หลังจากเรียนเสร็จผมก็เดินแจกใบลากับอาจารย์ ซึ่งอาจารย์บางท่านก็ไม่เห็นด้วยที่จะหยุดเรียนหลายวัน แต่อาจารย์หลายท่านก็เข้าใจ หลายท่านสงสัยโทรมาถามผมว่าทำไมในใบลาของน้องๆนอกจากลายเซ็นของ รองฯ ฝ่ายกิจการนักศึกษา และ ผอ. กองพัฒนานักศึกษา จะต้องมี ลายเซ็นผมแปะติดไปด้วย ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเค้าเอามาให้ผมนั่งเซ็นสดก่อนเอาไปให้น้องๆนักกีฬาเอาไปให้อาจารย์ แต่.....ของอาจารย์สองท่านข้างบนกลับ Scan แปะซะงั้น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก อืม แล้วผมก็โทรหารองประธานอีกครั้ง

“ครับพี่”
“ไม้ๆ ถุงที่พี่จัดของข้างๆตู้อุปกรณ์อะ รบกวนไปเช็คให้หน่อยนะ ตอนค่ำๆอะ กลัวหาย”
“ได้ครับพี่”
“แล้ว SMS แจ้งน้องหมดแล้วใช่ไหมว่าวันนี้ไม่มีซ้อมอะ”
“หมดแล้วครับพี่”
“เอ้อ ฝากดูใบประกาศหน้าบอร์ดด้วยนะ ไม่รู้ มู่มี่เอาไปแปะให้ยัง”
“ครับพี่”
“อืมม ขอบใจมาก ไงพรุ่งนี้เจอกันหกโมงครึ่ง”
“ครับพี่”

        จริงๆรองประธานคนนี้ช่วยเบาแรงผมได้เยอะเพราะความรับผิดชอบน้องสูง ผมยังกังวลอยู่ที่น้องเค้าเกริ่นว่าปีหน้าจะไม่ได้มาช่วยเนื่องจากจะไปเรียนภาคค่ำเพิ่มเติม แล้วจะเอาใครมาทำหน้าที่แทนล่ะเนี่ยะ ผมยืนนึกโน้นนึกนี่เล่นอยู่หน้าตึกสาธาฯ ไม่นานผมก็ขับรถกลับบ้าน

“แกร๊ก”

        ผมเปิดประตูบ้าน ขณะที่กำลังถอดรองเท้าอยู่หน้าประตู่

“Sorry Sorry Sorry Sorry  นุนนี บุชอ บุชอ บุชอ ชุมี มัคคอ มัคคอ มัคคอ เนกา มิชยอ มิชยอ มิชอย เบบี้”

        เสียงโทรศัพท์น้องบีก็ดังขึ้นผมรีบเดินไปดูที่หน้าจอ

“ม๊า”

        อ่า.....รับดีไหม รู้สึกว่าตั้งแต่ที่รู้จักกันมา บี ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับคุณแม่เท่าไหร่นะ ไม่รับดีกว่า ผมกดปิดเสียง แล้วเดินไปเปลี่ยนชุด

“Sorry Sorry Sorry Sorry  นุนนี บุชอ บุชอ บุชอ ชุมี มัคคอ มัคคอ มัคคอ เนกา มิชยอ มิชยอ มิชอย เบบี้”

        อีกแล้ว โทรศัพท์น้องดังอีกแล้ว ผมเดินไปดูที่หน้าจอ

“ม๊า”

        อ่ามีซ้ำด้วย แต่ก็ยังมั่นใจในความรู้สึกไม่รับดีกว่าแล้วผมก็กดปิดเสียง ถ้าเป็นน้องบี โทรเข้าเครื่องนี้ไม่รับก็น่าจะโทรเข้าเครื่องผมล่ะ เพราะทั้ง คุณพ่อ แล้วก็ คุณแม่ น้องบีมีหมายเลขโทรศัพท์ผมทั้งคู่ ที่สำคัญเวลานี้เด็กส่วนใหญ่ยังเรียนอยู่ แล้วบีจะเอามือถือคุณแม่มาใช้ได้ไง แล้วผมก็เดินไปเปลี่ยนชุดต่อ เสร็จปั๊บก็ใส่เสื้อวอร์ม สะพายกระเป๋าใบประจำออกไป ผมขับรถกินลมไปเรื่อยๆช้าๆ แต่อากาศร้อนๆของแดดในช่วงบ่ายสามนี่ร้อนสะใจดีนะครับ พอมาถึงยิมผมก็ไขกุญแจ

“พี่”
        เสียงน้องบีนี่ ผมหันหลังไปเจอน้องบีกำลังยืนยิ้มอยู่วันนี้เป็นลูกเสือตัวน้อยด้วย
“เสื้อหลุดอะ รองเท้าเหยียบส้นทำไม” ผมชี้ๆไปที่ชายเสื้อที่หลุดออกมา กับรองเท้า
“มันหลุดเอง” บีรีบยัดเสื้อเข้าในกางเกง
“รองเท้าอะ”
“ก็รีบ” พูดจบน้องก็นั่งยองๆเอานิ้วไปเกี่ยวส้นรองเท้าขึ้นมาเรียบร้อย
“รองเท้าจะมาเรียบร้อยอะไรตอนนี้อะ เข้ายิมก็ต้องถอดอยู่แล้ว” ผมเอามือไปลูบๆหัวน้องเบาๆ
“อืม นั่นซินะ แฮะๆ” น้องหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
        พอเข้าไปผมก็เอาของไปวางน้องบีก็นั่งมองอยู่ที่โต๊ะ
“บี”
“ครับ”
“ปะ”
“ไปไหน” น้องทำหน้าตาสงสัย
“KFC”
“ไปทำไมครับ”
“วิงซ์แซ่บแกงไก่ไง”
“เอ้อ อื่อ ปะๆ” น้องลุกขึ้นแล้วจับมือผมไว้ ผมก็เดินจูงมือน้องออกมา ผมคล้องประตูเสร็จก็พาน้องขึ้นรถ น้องขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งทันที ผมขับรถออกไปช้าๆ
“วันนี้เลิกเร็วจัง”
“คาบว่าง”
“เหรอ”
“แล้วพี่ก็บอกให้รีบมา”
“อื่อ”
“ผมก็สงสัยว่าทำไมให้รีบมา ที่แท้ก็จะพาไป KFC นี่เอง”
“เปล่า”
“อ่าว แล้วทำไมอะครับ” น้องหันมามองผมด้วยความสงสัย
“ก็.....คิดถึง....อยากเจอเร็วๆ”
“.......”

        KFC วันนี้นี้เงียบๆแฮะ ผมเดินจูงมือน้องไปที่เคาน์เตอร์

“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ”
“บีเอาอะไร” ผมหันมามองบี บีกำลังยืนดูเมนูอยู่
“แล้วแต่พี่” น้องหันมายิ้ม
“อืมมม งั้นเอา วิงซ์แซ่บแกงไก่หกชิ้นครับ”
“วิงซ์แซ่บแกงไก่หกนะคะ รับเครื่องดื่มเพิ่มไหมคะ”
“บีเอาน้ำไหม”
“ไม่อะแพง” บีพูดจบพนักงานขายถึงกับยิ้มมุมปากเลยทีเดียว
“รอสักครู่นะคะ” แล้วพนักงานขายหันไปจัดให้
“พี่โทรศัพท์ผมล่ะ”
“อยู่ในกระเป๋าอะ” ผมถอดกระเป๋าสะพายลงมา
“หยิบเอาเลย ฝากถือด้วยแล้วกัน”

        ผมยื่นกระเป๋าให้บีรับไป บีรับกระเป๋าเสร็จก็เดินกอดกระเป๋าไปนั่งรอที่โต๊ะผมเองก็ไม่ได้หันไปมองจนกระทั่งได้ไก่ผมหันกลับไปก็เห็นบียืนอยู่เอากระเป๋าสะพายหน้าเหมือนจะรู้ว่าเตรียมตัวไปได้แล้ว ผมเดินไปจับมือน้องแล้วจูงเดินออกไป

“บี เมื่อบ่ายเห็นม๊าโทรเข้าเครื่องบีอะ”
“ครับ เห็นแล้ว”
“โทรกลับยัง”
“ยังเลยซ้อมเสร็จค่อยโทรก็ได้” น้องหันมายิ้ม

        ก่อนออกมาจาก Big-C ผมแวะซื้อน้ำเพียวริขุ กับชา อย่างละขวด ระหว่างทางกลับผมก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งถึงสนามกีฬา ผมเลี้ยวรถเข้าไป แล้วก็ขับไปเรื่อยๆจนถึงสนามฟุตบอล ตอนนั้นบ่ายแก่แดดจัดยังไม่มีใครมาเล่นกีฬาอะไรสนามกีฬาเลยเงียบมาก ผมเลือกไปจอดรถฝั่งอัฒจันทร์ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อหลบแดดยามบ่าย

“ปะ”
“มาทำอะไรครับ”
“ก็มาทานไก่ กลับไปที่ยิมเดี๋ยวมีคนงอนอีก”
“อิอิอิ” น้องหันมายิ้ม

        ผมจูงมือน้องขึ้นไปบนอัฒจันทร์แล้วหามุมเหมาะๆที่ไม่สกปรกมากนักเพราะผมใส่กางเกงเทควันโดสีขาวมามันจะเปื้อนขี้เกียจซักแฮะๆ พอได้ที่ผมก็นั่งลง แล้วหยิบกล่องใส่ไก่กับเพียวริขุให้บี น้องหันมายิ้มๆก่อนจะค่อยๆหยิบทาน

“อ๊า!! เผ็ด” น้องงับเข้าไปคำแรกถึงกับร้องออกมาเลยเชียว
“ก็บอกแล้วว่าเผ็ด เห็นว่าชอบเลยซื้อให้ทานไง”
“เห๊อะ เผ็ดแค่นี้ผมเท่าไหร่หรอก”

        พูดเหมือนจะไม่ยอมแพ้ น้องหันมายิ้มแล้วค่อยๆทานต่อ ปากน้องที่แดงๆอยู่แล้วเจอความเผ็ดของวิงซ์แซ่บแกงไก่ถึงกับแดงหนักกว่าเดิมอีกแก้มน้องเริ่มแดงหูแดงเหงื่อเริ่มตก ผมนั่งยิ้ม

“เผ็ดดิ” ผมแซวไป น้องปาดเหงื่อที่หน้าผากหนึ่งทีก่อนจะตอบว่า
“ป๊าววว แค่นี้ จิ๊บอะพี่” น้องตอบกลับมาทั้งๆที่เผ็ดจนริมฝีปากสั่นดิ๊กๆ
“บี”
“อื่อ” น้องตอบกลับมาทั้งๆที่ยังเคี้ยวไก่อยู่
“พี่ไม่อยู่สองสามวันนะ”
“หือออ ไปไหนอะ”
“พาพี่ๆที่ ม. ไปแข่ง”
“ที่ไหน”
“จังหวัด abc”
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ” น้องเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ไม่ได้หรอกแต่จะรีบกลับมานะ” ผมก้มลงไปหอมหน้าผากน้องเบาๆ
“อื่อ” น้องขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“บี”
“ครับ”
“ท้องฟ้าตอนเย็นๆนี่สวยดีเน๊อะ” ผมชี้ให้บีดูท้องฟ้า แล้วก็โอบหลังน้องเบาๆ น้องเอียงตัวมาซบลงตรงไหล่ผมเรานั่งกันอยู่อย่างนั้นพักหนึ่ง จนผมลืนทานไก่ไปเลย
“พี่”
“ครับ”
“เผ็ดอะ.....มีน้ำอีกไหมอะ”
“อ่าวแล้วเพียวริขุอะ”
        น้องยกขวดเพียวริขุเปล่าขึ้นมาให้ดู
“ชาพี่เปิดดื่มแล้วอะ”
“ไม่เป็นไร”
        ผมยื่นขวดชาให้น้อง น้องก็ยกดื่มทันที ปรกติผมดื่มชาผมก็ยกดื่มนะ ไม่เคยใช้หลอดสักทีมันไม่ได้อารมณ์ชา ดื่มเสร็จน้องก็ยื่นให้ผมคืน
“อะ”
“ไม่ดื่มให้หมดอะ”
“ไม่เอา เกรงใจพี่” น้องยิ้ม

        พอกลับมาถึงยิมก็ปาเข้าไปเกือบๆห้าโมงเย็นน้องๆหลายคนมากันแล้ว ผมเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดกับน้องบี ผมค่อยๆถอดเสื้อผ้าน้องออกอย่างบรรจงชุดลูกเสือของน้องถูกถอดออกจนหมดมีเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียวที่ยังอยู่กับตัวน้อง ผมสวมกอดน้องเบาๆ เอาแก้มแนบลงที่อกของน้อง กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆจากเสื้อผ้าติดอยู่บนแผ่นอกอุ่นๆนุ่มๆของน้อง หูผมได้ยินเสียงหัวใจน้องเต้นชัดเจน ผมหายใจรดลงไปบนแผ่นอกน้องเบาๆ

“ไม่อยู่ตั้งหลายวัน....คิดถึงแย่เลย” ผมพูดขึ้นเบาๆ
“อะ....อื่อ” มือทั้งสองข้างของน้องโอบหลังผมเบาๆ

        แล้วผมก็ใส่ชุดให้น้องเสร็จผมก็ออกมานั่งคุยเล่นกับน้องๆคนอื่นๆเหมือนเดิมบีเองก็มานั่งจองตักผมเหมือนเดิมพอถึงเวลาซ้อมผมก็เรียกน้องๆมารวมกันแล้วบอกเรื่องที่ผมจะต้องพา พี่ๆนักกีฬาของมหาวิทยาลัยไปแข่ง ก่อนจะพาน้องๆซ้อมตามปรกติ วันนี้รู้สึกเหมือนบีจะหันมามองผมบ่อยๆผมรู้สึกว่าพี่ป้อมจะสังเกตเรื่องนี้ได้ กระทั่งซ้อมเสร็จวันนี้คุณแม่น้องบีมารับเร็วมากเพราะว่าเลิกปั๊บรถคุณแม่น้องบีก็มาจอดหน้ายิมพอดี

“พี่เอๆ กลับก่อนนะครับ ครูป้อมกลับแล้วนะครับ”

        น้องบีวิ่งสวัสดี หยิบกระเป๋า ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ แล้วผมก็นั่งเล่นกับน้องๆจนน้องคนอื่นกลับหมดเหลืออ้นคนเดียวที่คุณพ่อยังไม่มารับ น้องอ้นเป็นเด็กฉลาดไหวพริบสูงกว่าวัยมาก ที่สำคัญเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆกับบี คนในยิมถูกบีแกล้งมาหมดแล้ว มีเพียงอ้นคนเดียวที่บีไม่เคยแกล้งเลย ผมนั่งคุยเล่นไปเรื่อยๆ น้องอ้นเองไม่เปิดใจให้ผมเท่าไหร่ วันนี้เลยนั่งคุยกันจนรู้สึกว่าน้องอ้นจะเล่าเรื่องอะไรให้ผมฟังมากขึ้น ผมถามเรื่องทางบ้านแล้วก็น้องบีเป็นหลักจนกระทั้งผมว่ามันค่ำมากไปแล้วผมก็เลยให้น้องเอาโทรศัพท์ผมโทรตามคุณพ่อ

“อ้น โทรตามป๊าดีกว่าค่ำแล้วอะ”
“ก็ได้”

        ผมยื่นโทรศัพท์ให้อ้น อ้นกดโทรหาคุณพ่อ แต่เหมือนว่าจะไม่มีคนรับสาย อ้นกดไปอีกสองรอบแต่ก็ยังไม่มีคนรับสายอยู่ดี แล้วอ้นก็ยื่นโทรศัพท์ให้ผมพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

“พี่ไปส่งแล้วกัน บ้านอยู่ไกลไหมอะ”
“ไม่ครับ แถวตลาด”
“เหรอ อืมมม บอกทางพี่แล้วกัน”

        ระหว่างทางอ้นเริ่มเปิดฉากถามเรื่องของผมบ้างผมก็พูดติดตลกไปเรื่อยๆจนกระทั้งถึงบ้านน้องเป็นอาคารพาณิชย์สภาพเก่าพอสมควรเลยผมเลยถามน้องไปว่า

“อ้น อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดหรือเปล่า”
“เปล่า” น้องเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ตอนผมเกิดผมอยู่โรงพยาบาล ผมเกิดก่อนกำหนด ผมเป็นเด็ก Preterm อะ”
“อ๊ะ!!”
“จริงๆนะ ตอนเกิดอยู่ในตู้อบด้วยมีรูปด้วยป๊าถ่ายไว้”

        อ่า...สงสัยผมจะกรอกคำถามผิด เหอๆ แล้วน้องก็เดินไปเคาะๆประตูบ้าน พักหนึ่งก็มีเด็กผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งเปิดประตูออกมา อ้น หันมาบ๊ายบายผมก่อนจะเข้าบ้านไป เด็กผู้ชายวัยรุ่นคนนั้นคงจะเป็นพี่ชายของอ้น เค้ายืนจ้องผมอยู่พักหนึ่งก่อนจะปิดประตูบ้านไป


----------------------------------------------------------------------------------


“ติ๊ดๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ”

        เสียงนาฬิกาปลุกดังจากโทรศัพท์ที่ผมตั้งไว้บนหัวนอน ผมเอื้อมมือไปกดปิดเสียงแล้วค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วนั่งใจลอยอยู่ปลายเตียงพักหนึ่งก่อนจะหันไปมองนาฬิกา
“05.45น.”

        ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็นั่งใจลอยต่อตรงโซฟาหน้าทีวีก่อนจะมองนาฬิกาอีกครั้ง

“06.15 น.”

        ผมเดินไปหยิบกระเป๋ากับเสื้อวอร์ม ไม่ต้องห่วงครับ เสื้อวอร์มนี้ผมไว้ใส่ทับเสื้อเทควันโดเฉยๆ เนื้อผ้าแบบนาโนด้วยไม่มีกลิ่นๆส่วนมากสองถึงสามวันผมซักที พอหยิบเสร็จผมก็กำลังจะพับใส่กระเป๋าผมก็เจอ......โทรศัพท์น้องบี อ่า จะไปต่างจังหวัดอยู่แล้ว ผมจะคืนน้องยังไงล่ะเนี่ยะ ไปหลายวันด้วย เฮ้อ..... ผมเอาโทรศัพท์น้องบีใส่กระเป๋ากางเกงไว้ แล้วผมก็ออกจากบ้าน ไปถึง ม. ก็เกือบหกโมงครึ่งพอดี ผมเข้าไปเอาอุปกรณ์ไปรอยังจุดนัดพบ ไปถึงก็เจอรองประธานยืนรออยู่กับน้องๆอีกเกือบสิบคน มีสมาชิกชมรมบางส่วนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาก็อุตส่าห์ตื่นมาส่งด้วย ผมเลยได้โอกาสคืนโทรศัพท์ให้น้องบีแล้ว

“มู่มี่ๆ” ผมกวักเรียกน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่มาร่วมส่งนักกีฬา
“คะพี่”
“เย็นนี้ว่างไหมอะ”
“ว่างค่ะ”
“รบกวนไปที่ยิมหน่อย”
“ได้ค่ะพี่”
“อะ” ผมหยิบโทรศัพท์ของบียื่นให้มู่มี่ มู่มี่รับไว้แล้วทำหน้า งงๆ
“เอาไปให้พี่ป้อมนะ บอกพี่ป้อมว่าฝากให้น้องบีด้วย”
“อ๋อ อืม ค่ะๆ”
“แล้วก็.....ห้ามเปิดเครื่องเล่นนะครับ”
“ค่ะ”

        มู่มี่ตบปากรับคำเรียบร้อย จนเวลาประมาณสองโมงพวกผมก็ออกเดินทาง แต่ผมก็ยังกังวลใจอยู่ดี ไม่รู้คิดผิดคิดถูกที่ฝากโทรศัพท์ไปกับมู่มี่ เดี๋ยวค่อยโทรมาเช็คแล้วกัน อืมมม



To Be Con







เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
การแข่งขันเทควันโดในไทยตอนนี้มีอะไรบ้าง

การแข่งขันเทควันโดในไทยตอนนี้มีอยู่ 2 แบบครับคือ
1. แบบต่อสู้ หรือ Kyorugi ( เคียรูกิ ) ดัง Clip ตัวอย่างด้านล่าง
http://www.youtube.com/v/LGjeikhzkNQ
2. แบบท่ารำ หรือ Poomsae ( พุมเซ ) ซึ่งมีทั้งแบบเดียว และ แบบ ทีม ดัง Clip ตัวอย่างด้านล่าง
http://www.youtube.com/v/KDtatbm7cQ4

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 17 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #33 เมื่อ12-05-2010 21:35:59 »

===  ตอนที่ 19 ===




“พี่.....พี่เอ......พี่เอ” เสียงน้องคนหนึ่งปลุกผมพร้อมกับแตะๆไหล่ผมเบาๆ ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นจากการหลับใหล ขณะนี้ผมกำลังอยู่บนรถทัวร์ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งกำลังเดินทางไปจังหวัด abc เพื่อไปแข่งเทควันโด
“มีไร” ผมถามไปบิดขี้เกียจไปแบบเกรงใจสายตาชาวบ้าน
“ถึงปั๊มแล้วพี่”
“เหรอ อืม ขอบใจ” ผมตอบพร้อมกับมองหาร้านอาหารแถวๆ นั้น

        รถทัวร์จอดแวะพักที่ปั๊มน้ำมันเพื่อให้น้องๆได้ลงพักทานอาหารเที่ยงแล้วก็เข้าห้องน้ำ ผมเองเดินไปซื้อมื้อเที่ยงแบบเรียบง่ายที่ร้านสะดวกซื้อร้านเดิม (แต่คนละที่) ผมรู้สึกว่าไปที่ไหนๆก็เจอตลอดเลยแฮะ ซื้อเสร็จก็ว่าจะกลับไปที่รถเลย แต่บังเอิญเห็นม้านั่งหน้าร้านว่างอยู่ จึงเดินไปนั่งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากะว่าจะลองโทรไปเช็คสักหน่อยว่า มู่มี่ แอบเปิดมือถือที่ผมฝากไว้หรือเปล่า

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุ...” ผมไม่รอเธอพูดจบ รีบกดวางสายทันที

        อืมมม เท่านี้ผมก็สามารถจะรอดูว่าจะมี SMS แจ้งว่า “08xx xxxxxx สามารถติดต่อได้แล้วในขณะนี้” กลับมาก่อนตอนเย็นหรือเปล่า ไม่นานเท่าไหร่นัก คนขับรถก็เรียกพวกผมขึ้นรถ ผมจึงขึ้นไปนอนฟังเพลงเงียบๆคนเดียวอยู่ทางท้ายของรถ ความจริงแล้วผมไม่ชอบนั่งหลังรถเท่าไหร่ มันเหวี่ยงๆแล้วผมจะเวียนหัวทุกที แต่คราวนี้ผมเลือกนั่งหลังดีกว่าเพราะข้างหน้าวุ่นวายอะไรกันก็ไม่รู้ ผมหลับตาลงแล้วฟังเพลงที่อยู่ในมือถือไปเรื่อยๆ ผ่านไปไม่นาน น้องไม้ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม1ปีก็มาสะกิดบอกว่าถึงแล้ว
        เฮ้อ.....แล้วงานราษฎร์งานหลวงก็เริ่มขึ้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รถของมหาวิทยาลัยขับวนไปส่งนักกีฬาตามที่พัก ผมก็ลงไปดูความเรียบร้อยของน้องๆทั้งหญิงและชาย  พอถึงที่พักผมไปเอากุญแจที่เคาน์เตอร์  แล้วก็ขึ้นไปบนห้อง ในห้องมีเตียงสองเตียง เป็นเตียงที่มีขนาดสามฟุตครึ่ง กับเตียงที่มีขนาดหกฟุต เรียงกันอยู่ ฝั่งเตียงสามฟุตครึ่งเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ยาวตั้งแต่เพดานจรดพื้น มีผ้าม่านสีขาวธรรมดาทับด้วยผ้าลูกไม้บางๆ สำหรับบังแดด ที่ปลายเตียงมีตู้เย็นขนาด 3.1 คิวบ์ โทรทัศน์ขนาด 17 นิ้ว (ไม่ใช่โทรทัศน์และ 555+) กระจก แล้วก็ตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ตรงข้ามประตูห้องน้ำพอดี ส่วนเรื่องการนอน... แน่นอนครับไอ้คุณโค้ชจองเตียงใหญ่สุดนอนคนเดียวอยู่แล้ว
        ตอนเย็น ผมกลับไปพาน้องซ้อม แต่เนื่องจากเพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อบ่ายผมเลยให้น้องซ้อมกันแบบเบาๆ แต่เมื่อโค้ชมาถึงกลับเปลี่ยนเป็นให้น้องซ้อมอย่างหนักจนน้องๆหลายคนบ่นอุบกันเลยทีเดียว ทุ่มกว่าๆ จึงซ้อมเสร็จโค้ชก็ชี้แจงกำหนดการณ์วันรุ่งขึ้นว่า พรุ่งนี้ให้เริ่มซ้อมตั้งแต่เวลาหกโมงครึ่ง ตกดึกคืนนั้นไม้ซึ่งเป็นรองประธานชมรมได้ชวนน้องบอลซึ่งเป็นนักกีฬารุ่นน้องที่ลงแข่งปีนี้เป็นปีแรก เดินมาหาผมที่โรงแรมเพราะทนความเป็นอยู่ที่เบียดเสียดของที่พักนักกีฬาไม่ไหว  เมื่อมาถึงโค้ชเราก็ชวนน้องไปเที่ยวทันที แต่น้องทั้งสองก็ปฏิเสธโค้ชไป ไม่รู้ว่าที่น้องปฏิเสธเพราะเกรงใจผมหรือเปล่า สองทุ่ม ผมออกมาข้างนอก  เดินไปตามระเบียงของโรงแรม ห้องที่ผมพักอยู่บนชั้นห้า บรรยากาศดีมากๆ มีลมพัดเบาๆพอให้รู้สึกสบายใจ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็พบข้อความ “08xx xxxxxx สามารถติดต่อได้แล้วในขณะนี้” ถูกส่งมาตอนหนึ่งทุ่มกว่าๆ อืม...ลองโทรหาน้องหน่อยดีกว่า

“ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้ แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย” อ่า เพลงรอสายเก่าไปนิ๊ดแต่ผมว่าเพราะดีนะ  ผมรออยู่ไม่นานเท่าไหร่ก็มีคนรับสาย
“สวัสดีครับ” ผมพูดออกไป
“สวัสดีครับ” อ๊ะ...ไม่ใช่เสียงน้องบีนี่นา
“อะ...เอ่อ...ใช่เบอร์น้องบีไหมครับ” ผมถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจ แต่ผมเมมเบอร์น้องไว้นะ ไม่น่าจะผิด หรือ มู่มี่ เอาโทรศัพท์ไปให้ใครใช้หรือเปล่าเนี่ยะ !! ยังไม่ทันจะฟุ้งซ่านต่อไป
“พี่เอเหรอ นี่คุณพ่อน้องบีนะครับ” อั๊ก !! พ่อน้องบีรับสาย
“ อะ..ครับ สวัสดีครับ” งานเข้าแล้วดันไปพูดซะยืนยันว่าโทรหาน้องบีด้วยจะบ่ายเบี่ยงไปเลนไหนดีเนี่ยะ จะบอกว่าโทรผิดมันก็ไม่ใช่แล้ว
“จะคุยกับน้องบีเหรอครับ” งานเข้าแล้ว ถ้าเค้าถามว่ามีธุระอะไร จะตอบยังไงล่ะที่นี้ แล้วดันโทรหาลูกชายเค้าตอนค่ำๆแบบนี้ ม๊ายน๊า
“อะ...คะ...ครับ” คิดซิคิด ไปเลนไหนๆ วงแหวนรอบนอกไหม หรือ ออกอยุธยาไปเลยดี
“เดี๋ยวน้องมา น้องไปซื้อของแล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ในรถ รอเดี๋ยวนะ” อ๊ากกกก ท่านพ่อ อย่าถามนะว่าผมโทรมาทำไม อย่าน๊า!!
“.......” เสียงจากอีกฝั่งเงียบไป ความกังวลต่อคำถามยังอยู่
“ปึ่ง!!” เสียงปิดประตูรถดังลอดเข้ามาในมือถือ
“ป๊าไม่มีอะลูกอมอะไรนั่น บีซื้อยาแก้ไอแบบน้ำมาให้ม่าแทนแล้วกัน” เสียงน้องบีนี่นา
“เมื่อกี้ พี่เอโทรมา”
“จริงเหรอป๊า”
“พี่เค้ารอสายอยู่ โทรศัพท์อยู่เบาะหลังนั่นแหละ”
“ฮัลลล โหล๋วววววว”
“อะ...อืม”
“เป็นไงบ้างอะพี่”
“ไม่เป็นไร โทรมาเช็คเฉยๆว่าพี่เค้าเอามือถือมาให้บีหรือยัง”
“คืนแล้ว”
“แล้วก็....” ผมเว้นช่วงไว้เพราะไม่รู้จะพูดดีไหม
“แล้วก็.....” บีทวนคำพูดผมเหมือนจะอยากรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ
“คิดถึงนะ......” ผมพูดจบน้องก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“…………..อะ......อืม”
“อย่าลืมทานข้าวเยอะๆด้วยนะ แค่นี้แหละ”
“ครับ”

        ผมกดวางสายแล้วรอยยิ้มเล็กๆก็ผุดขึ้นมาบนหน้าแบบควบคุมไม่ได้ มันรู้สึกมีความสุขยังไงไม่รู้แฮะ แล้วผมก็เดินยิ้มแบบนั้นกลับมาที่ห้องก็สรุปได้ว่าน้องๆไม่ไป ส่วนโค้ชก็เปลี่ยนมานอนเตียงสามฟุตครึ่งที่ผมนอนแทน ส่วนเหตุผลน่ะเหรอ คงเพราะไม้กับบอลขอค้างที่นี่ด้วย เตียงหกฟุตก็เลยต้องนอนสองคน โค้ชเค้าอยากนอนคนเดียวเลยไปนอนเตียงสามฟุตครึ่งแทน ให้ผมนอนเบียดสามคนกับน้องบอลกับน้องไม้ แต่ปรากฏไม้นอนกับพื้นด้วยเหตุผลว่าเกรงใจผม ผมก็เลยนอนบนเตียงกับบอลสองคน (ไม่ต้องจิ้นนะครับ) ตกดึกคืนนั้นโค้ชออกไปเที่ยวครับ กลับมาอีกทีตีห้ากว่าๆเลยเป็นอันเข้าใจในทันทีว่าผมต้องลุกตั้งแต่ตีห้าสี่สิบห้าเพื่อเดินไปที่พักนักกีฬา


“ติ๊ดๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ”
        เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นผมลุกขึ้นมานั่งใจลอยอยู่พักหนึ่งก็เดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า น้องไม้รู้สึกตัวตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จพอดี ไม้เลยปลุกให้บอลที่กำลังหลับสบายให้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว กลายเป็นว่าวันนั้นผมต้องดูแลน้องตลอดเช้า ทำเอาผมไข้รับประทานเลยทีเดียวเนื่องจากพักผ่อนไม่พอ ประมาณเก้าโมงก็ซ้อมเสร็จผมก็ให้น้องๆแยกย้ายกันไปอาบน้ำทานข้าวแล้วก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ส่วนผมก็เดินดูพื้นที่รอบๆสนามแข่งขัน จนตอนเกือบเที่ยง ผมลองกดโทรหาบีดู

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”

        อืมมม น้องคงยังเรียนอยู่ซินะ ผมเดินไปเตรียมเข้าประชุมผู้จัดการทีมแทนไอ้คุณโค้ชที่หายหัวไปไหนไม่รู้ แถมโทรหามันก็ไม่รับ พอถึงหน้าห้องประชุมผมกดโทรอีกครั้งให้แน่ใจว่ามันไม่เข้าแน่ๆ

“ตู๊ดดดดดดด.....ตู๊ดดดดดดดดดด.....ตู๊ดดดดดดดดดดด” เสียงดังอย่างนั้นจนตัดสายไป
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจเบาๆ
“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da” เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น
“น้องบี Calling” น้องบีโทรมาแฮะ
“ฮัลลล โหล๋วววววว” ผมยิ้มกับเสียงสดใสร่าเริงแบบเดิม
“ว่าไงบี”
“พี่โทรมามีไรป่าว” จะอะไรอีกล่ะ ก็คิดถึงบีไง
“คิดถึงดิ” อ๊า ผมบอกไปซะแล้ว
“อะ...แฮะ”
“ไม่ค่อยสบายด้วยอะ” อ้อนหน่อย อิอิ
“เป็นไรครับ”
“ไม่รู้ตัวร้อนๆ”
“ทานยายัง”
“ยัง”
“ทานยาดิพี่จะได้หาย” มีเป็นห่วงด้วย วิ้วววววววว
“ไม่เป็นไรได้ยินเสียงบีพี่ก็ดีขึ้นแล้ว” พูดได้ไงวะ เรา
“.....”
“แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวว่างพี่โทรหาใหม่”
“ครับ”

        หลังประชุมเสร็จผมยังต้องมานั่งปวดหัวเรื่องการจัดรุ่นแทนคุณโค้ชด้วยแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตอนบ่ายผมพาน้องๆไปตรวจร่างกาย แล้วคุณโค้ชก็โผล่หัวมาพอดี ผมเลยให้คุณโค้ชทำหน้าที่อะไรบ้างเดี๋ยวจะเป็นง่อยตายซะก่อน ส่วนผมออกมานั่งรออยู่ตรงที่เค้าซ้อมยูโดซึ่งตอนนี้ไม่มีใครมาซ้อมเลย เบาะนิ่มมากจนผมเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนค่ำ ไม้มาปลุกบอกว่าตรวจร่างกายผ่านหมดทุกคน ผมเลยพาน้องๆซ้อมกันรอเวลาเค้าเลี้ยงนักกีฬาตอนประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพาน้องซ้อม โค้ชก็พาน้องเล่นเตยเฉยเลย (รู้จักกันมั๊ยเนี่ย) เค้าบอกผมว่าเป็นการผ่อนคลาย แต่ดูสภาพน้องๆ แล้วไม่น่าผ่อนคลายเลยซักคน แต่ละคนดูจริงจังเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียวประหนึ่งกำลังแข่งในงานโอลิมปิกรอบชิงชนะเลิศ ผมยืนมองไปเรื่อยๆจนกระทั้งหนึ่งทุ่มเศษๆ ผมก็กดโทรน้องบีอีกครั้ง

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติด...” ปิดเครื่องอีกแล้วแฮะ

        งานเลี้ยงนักกีฬาเริ่มขึ้นซักพัก ผมนั่งทานไปกับน้องๆพอเป็นพิธีผมก็ขอตัวกลับ ไอ้คุณโค้ชสงสัยจะกลัวผมทิ้งเลยรีบลุกตามมาด้วย ส่วนบอลกับไม้ก็ขอตามมานอนด้วยอีก เป็นอันว่ากลับหมด แล้วผมก็กำชับน้องๆทุกคนเรื่องการแข่งขันในวันรุ่งพรุ่งนี้ให้เตรียมตัวให้พร้อมห้ามนอนดึก

“พี่ครับกุญแจห้อง 5xx ด้วยครับ” พอขึ้นถึงห้อง ผมถอดชุดแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินออกไปที่ระเบียงที่เดิม

“ถ้าบอกว่าเพลงนี้ แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้ แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่าย...ดาย” ระหว่างรอสายผมก็ลุ้นอยู่ว่ารอบนี้ใครจะรับสาย

“คร๊าบบบบบบ” บีรับสายด้วยเสียงสดใส ผมโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
“นอนยัง”
“หลับแล้ว”
“อ่าว ไมนอนเร็ว”
“ง่วง”
“งั้นฝันดีๆ” เฮ้อ อดคุยเลย
“ครับ.....พี่”
“หือ”
“หายป่วยยัง”
“หายแล้ว ว่าจะโทรมาบอกเมื่อเย็น แต่บีปิดโทรศัพท์”
“อืม”
“ปิดโทรศัพท์บ่อยจัง”
“ก็กลัวแบตหมด”
“แบตหมดก็ชาร์จได้”
“แล้วถ้าแบตหมดพี่โทรมาไม่ติดทำไงอะ”
“................ไม่กวนแล้ว นอนต่อๆ พรุ่งนี้ตั้งใจเรียนด้วยนะ”
“ครับ”

        คุยเสร็จผมก็กลับมาที่ห้องกลับมาก็เจอโค้ชมันนอนดูทีวีที่ปลายเตียงโดยหันหน้ามาทางทีวีแล้วเอาเท้าก็วางบนหัวนอนเตียงที่ผมนอน
“นิสัย...”
        ผมคิดในใจก่อนจะออกไปคุยโทรศัพท์ต่อเพราะรับไม่ได้ที่โค้ชเอาเท้าไปวางบนหัวนอนแล้วตีนขึ้นลงไปมาอย่างสบายใจ กลับมาอีกทีก็ปาไปห้าทุ่มกว่าๆโค้ชกลับไปนอนเตียงของตัวเองเรียบร้อยแล้วไม้ก็หลับอยู่ข้างเตียงเรียบร้อยมีแต่บอลที่ยังนั่งดูทีวีอยู่บนเตียง

“บอล อย่าดึกนะ พรุ่งนี้มีแข่ง”
“ครับพี่” บอลยิ้มๆ
        ผมขึ้นเตียงแล้วนอน ผมนอนไม่หลับเท่าไหร่ บอลเองก็คงเช่นกันแข่งครั้งแรกนี่นาก็เข้าใจนะ แต่ทำไมต้องเปิดการ์ตูนดูทั้งคืนก็ไม่รู้
“พิกาจู พลังไฟฟ้าแสนโวลต์”......
“พวกเราแก๊งร๊อกเก็ต......”
“เนียสสสสสสสส!!”
“ห๊า ทาเคชิ๊!!”.....
“ม๊ายยย พิกาจู อย่าตายนะ”
ฯลฯ.....


“ติ๊ดๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ”
        เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังขึ้น ผมลุกขึ้นมานั่งเหม่อบนเตียงอยู่พักหนึ่งก่อนจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ไปที่สนามแข่ง การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด หลายมหาวิทยาลัยก็มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมามาก ส่วนใหญ่ที่ลงแข่งจะเป็นหน้าเก่าๆ สุดท้าย.......กีฬาเทควันโดเป็นกีฬาชนิดเดียวที่คว้าเหรียญทองได้มากที่สุดจากทุกชนิดกีฬาที่ทางมหาวิทยาลัยส่งลงแข่งตั้งแต่จัดการแข่งขันมา ท่านอธิการบดีตบรางวัลให้อย่างงาม เย็นวันนั้นผมอยากเลี้ยงอาหารน้องแบบที่ไม่แพงมาก ผมเลยถามความเห็นน้องๆ หลายคนก็ออกความเห็นว่าหมูกระทะ สุดท้ายก็เลยไปเลี้ยงหมูกระทะ อาจารย์ที่ปรึกษาก็ช่วยค่าอาหารด้วย มีแต่โค้ชคนเดียวที่มาเหน็บผมว่า

“ไปเลี้ยงมันทำไม เสียนิสัย เดี๋ยวคราวหน้าก็มาเรียกร้องให้เลี้ยงอีก”

        ดีว่าที่เค้าพูดตอนเดินอยู่ข้างๆผมแล้วน้องไม่ได้ยิน แต่ถึงจะมาเหน็บผมแบบนั้นพอถึงร้านหมูกระทะโค้ชนั่นแหละตัวกินยิ่งกว่าน้องๆอีก แล้วเราก็ค้างคืนกันที่นั่นอีกหนึ่งคืนก่อนจะกลับกันในตอนเช้า แล้วระหว่างที่ทานหมูกระทะกับน้องอยู่โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นหมายเลขที่ผมไม่ได้เมมไว้ ปรกติแบบนี้ผมจะยังไม่รับ แต่ว่าตอนนี้ออกมาแบบนี้อาจเป็นอาจารย์ท่านอื่นโทรมาแจ้งข่าวอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้ รับดีกว่า

“ครับ”
“สวัสดีค่ะ พี่เอหรือเปล่าค่ะ” เสียงผู้หญิงด้วย ใครกันเนี่ยะ
“ใช่ครับ”
“นี่คุณแม่น้องบีนะคะ” อ๊ะ!! แม่น้องบีโทรมาทำไมเนี่ยะ
“ครับคุณแม่”
“ตอนนี้น้องบีอยู่กับพี่เอหรือเปล่าคะ”
“ปะ...เปล่าครับ คือตอนนี้ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ” ทำไมเวลาหาน้องบีไม่เจอต้องคิดว่าผมอยู่กับน้องเค้าหว่า
“เหรอคะ พอดีคุณแม่โทรหาน้องบีไม่ติด คิดว่าน้องบีน่าจะอยู่กับพี่เอ คุณแม่เลยโทรมาถามดู งั้นแค่นี้นะคะ”
“อะ...ครับ”

        แล้วผมก็กลับมานั่งทานหมูกระทะกับน้องๆต่อ จนกระทั่งทานเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับพอมาถึงโรงแรม โค้ช ไม้ แล้วก็บอล นอนเล่นในห้องส่วนผมเดินไปที่ระเบียงผมยืนรับลมเย็นๆ อีกตามเคย

“พรุ่งนี้ก็กลับแล้วซินะ” ผมคิดในใจ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาน้องบี
“สวัสดี คร๊าบบบบบบ แข่งเป็นไงบ้างครับพี่” ปลายสายรับแล้วพูดด้วยเสียงร่าเริง
“6 ทอง 4เงิน 5ทองแดง”
“โอ้โห....เยอะจัง แล้วพี่กลับวันไหน”
“พรุ่งนี้เช้า”
“อื้อ รีบกลับมานะ”
“ครับ บีก็นอนได้แล้วนะ”
“ได้พี่”
“ฝันดี” หยอดหน่อย
“ฝันดีด้วย แฮะๆ”

        ผมไม่ได้บอกเรื่องที่คุณแม่น้องโทรมาเพราะไม่รู้จะบอกทำไม แต่การที่คุณแม่น้องบีโทรมาแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่า......ที่บ้านน้องบีเข้าใจว่า.....ผมกับน้องสนิทกันมากๆ กลัวทางบ้านน้องจะจับตามองแล้วสังเกตเรื่องผมกับน้องได้ สงสัยต้องรักษาระยะห่างหน่อยซะแล้ว

“ตึก ตึก ตึก”
ผมเดินไปตามทางเพื่อกลับเข้าห้องวันนี้ผมเหนื่อยจังรู้สึกอยากนอนชะมัด แต่ว่า....พอผมกำลังจะถึงห้องเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
“น้องอ้น Calling”
“หวัดดี ว่าไงอ้น”
“พี่.......กลับวันไหน”
“พรุ่งนี้ละ”
“เหรอ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ........”
“.......”
“รีบกลับมานะครับ”
“ตู๊ดดด ตู๊ดด ตู๊ดดด”


        ผมยืนมองโทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า....อ้นเปลี่ยนไปนะ.....ทั้งน้ำเสียง.....แล้วก็คำพูด.....ที่สำคัญ.....นี่เป็นครั้งแรกที่น้องโทรหาผม......แล้วรู้สึกได้ถึงความคิดถึง.....





To Be Con





เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
มี Tae Kwon Do Dance ด้วยนะ

http://www.youtube.com/v/xMlV_zrOars
Tae Kwon Do Dance เป็นการผสมผสานระหว่าง เทควันโด กับ ดนตรี เข้าด้วยกัน โดยการนำเอาท่าต่างๆ ทั้งการเตะ การต่อย การบล๊อก หรือ ท่ารำ ของเทควันโดมาใช้ให้เข้ากับเสียงเพลง อาจมีการนำท่าทางอื่นๆมาร่วมด้วยก็ได้ตามแต่ผู้ฝึก หรือ ผู้คิดท่าจะหามาได้ โดยหลักๆจะเน้นท่าที่แสดงออกถึงความเป็นเทควันโดให้มากที่สุด ส่วนมากตามการแข่งขันก็จะมาแสดงโชว์บ้าง ในไทยเองหลายๆยิมก็มีการฝึกซ้อมสำหรับโชว์ด้วยเช่นกัน

http://www.youtube.com/v/hsIuFpHA-Nk


Thx น้องต่ายที่ทานตัวอักษรให้นะครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 18 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #34 เมื่อ12-05-2010 21:37:47 »

===  ตอนที่ 20 ===



“ติ๊ดๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ”
        เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ผมลืมตาขึ้นช้าๆ มองเห็นแสงแดดอ่อนๆสองลอดผ้าม่านเข้ามา ผมค่อยๆลุกขึ้นช้าๆมานั่งเหม่ออยู่พักหนึ่งก่อนจะมองไปทางขวาเห็นน้องบอลกำลังหลับสบาย มองไปทางซ้ายเห็นไม้กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงสามฟุตครึ่ง ดูจากสภาพผ้าห่มกับหมอนที่ลงมากองบนพื้นหมดผมถึงเข้าใจเหตุที่ไม้ไม่ขึ้นมานอนเตียงด้วยกับผม ผมนั่งมองอยู่พักหนึ่งก็ลุกขึ้นอาบน้ำ พอออกมาก็เห็นไม้ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ

“ไง หลับสบายไหม” นี่คำทักทายอรุณสวัสดิ์ของผมครับ
“ก็ดีครับพี่” ไม้พูดจบก็หันไปมองบอลที่กำลังหลับอย่างสบายใจ
“ปล่อยให้นอนไปก่อนแล้วกัน ไม้อาบเสร็จค่อยมาปลุกน้องกัน ท่าทางกำลังสบายเลย”
“ครับ” ไม้ตอบยิ้มๆ

        หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จแล้ว ผมก็พาน้องๆลงมาทานอาหารเช้าของโรงแรมจนเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้าก็ขึ้นรถทัวร์ของทางมหาวิทยาลัยไปที่พักนักกีฬา มาถึงน้องๆก็ยืนรอกันเรียบร้อยพร้อมอยู่แล้ว

“แหม่ ทีกลับบ้านนี่มารอกันตรงเวลาเลยนะ” ผมแซวน้องๆที่มายืนรอกันพร้อมหน้า

        หน้าตาของน้องๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน ขากลับมีเพียงนักกีฬาเทควันโดชนิดเดียวเท่านั้นที่กลับกับรถคันนี้ทำให้รถค่อนข้างเงียบสงบ เพราะน้องๆหลายคนรู้นิสัยผมเลยไม่ค่อยกล้าเสียงดังกันเท่าไหร่ จนมาถึงช่วงกลางทางตรงนี้ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันหามุมหลับนอนของตัวเอง ผมเองก็แอบงีบเหมือนกัน รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถึงมหาวิทยาลัยแล้ว น้องๆหลายค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นไล่ๆกันราวกับมีพรายกระซิบบอกเป็นรายตัวเลยทีเดียว ไม่นานนักรถก็วิ่งถึงจุดรับส่ง

“เอ้าถึงแล้ว ลงๆๆๆ” บอลพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความดีใจราวกับนักรบที่ได้กลับถึงมาตุภูมิ

        หลังจากที่น้องๆหลายคนเอาของลงจากรถเสร็จแล้วผมก็เรียกน้องๆมารวมอีกครั้งเพื่อสอบถามเรื่องการกลับที่พักอาศัยว่า ใครมีคนมารับหรือยังไม่มีคนมารับบ้าง สำหรับรายที่มีคนมารับก็แล้วไป ส่วนที่ไม่มีผมก็ต้องตะลอนๆส่งเป็นรายตัวถึงที่กันเลยทีเดียว แต่ก็ดีที่เคสนี้มีไม่มาก

“ไม้ ฝากอุปกรณ์ไว้กับเราก่อนนะ”
“ครับพี่” พูดจบไม้ก็ถือถุงอุปกรณ์กลับไปด้วย

        ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเป็นรองประธานหรือเป็นรุ่นน้องของผมเฉยๆ ไม้ก็ยังเป็นน้องที่พึ่งได้เสมอ หลังจากที่ผมร่อนส่งน้องๆจนครบผมก็กลับบ้านครับ ถึงบ้านวางกระเป๋าหน้าทีวีแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาหน้าทีวีที่อยู่ใกล้ๆทันทีเพราะผมรู้สึกเพลียมากซะจนไม่อยากจะเดินไปไหนแล้ว ผมผลอยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทั้งที่เสื้อคลุมกับถุงเท้าก็ยังไม่ทันได้ถอดด้วยซ้ำ.....

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

        เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นมากวนการหลับใหลจากความเพลียของผม ผมลืมตาขึ้นมาช้าๆ ค่อยๆเอื้อมมือไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุม แล้วหยิบออกมา

“น้องบี Calling” อ่า.....น้องบีโทรมาทำไมกันตอนนี้เนี่ยะ
“อื่อ” ผมรับสายแล้วกรอกเสียงลงไป
“พี่....กลับมาถึงยัง” น้องบีถามด้วยน้ำเสียงดูกังวลหน่อยๆ
“แล้ว” ผมตอบกลับไปสั้นๆเพราะกำลังเซ่อนอนอยู่
“วันนี้พี่จะมาสอนไหม”
“ไป” ก็ไปดิ ถามแปลกๆ
“แล้วยังไม่มาอีกเหรอ”
“อื่ออออ.....ทำไมอะ” นั่นดิ ทำไมอะ
“คือ.....สี่โมงกว่าแล้ว”
“ห๊า!!” ผมตาสว่างขึ้นมาทันที
“โอ๊ยย!!” ผมรีบลุกขึ้นเร็วไปหน่อยจนนิ้วก้อยเท้าไปเตะกับขาโต๊ะเข้า
“พะ....พี่เป็นไร” น้องบีถามน้ำเสียงตกใจตาม
“อ่า อืม เปล่าๆไม่เป็นไร.....รอเดี๋ยวนะพี่ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“คะ.....ครับ”

        ผมกดวางสายแล้วรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดอย่างด่วน เสร็จปั๊บก็รีบบิดรถตรงไปที่ยิมทันทีพอใกล้ถึงก็เห็นน้องบีกำลังนั่งมองซ้ายมองขวาสีหน้ากังวลเหมือนกำลังรอใครอยู่ พอผมขับรถเข้าไปใกล้มากขึ้น น้องก็หันมาเห็นผมพอดีรอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นมาบนใบหน้า น้องลุกขึ้นมายืนมองจนผมขับรถจอดรถนิ่งสนิทตรงหน้าน้อง ผมลงจากรถน้องก็เดินมาหาจับมือผมข้างหนึ่ง แล้วก็มายืนเบียดๆ ผมเอามืออีกข้างของผมที่น้องไม่ได้จับไว้ไปลูบผมน้องเบาๆ

“ไม่เจอไม่กี่วัน สูงขึ้นเปล่าเนี่ยะ” น้องเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมแทนคำตอบ
“มีใครมาบ้างยัง” ผมถามต่อ
“ยังเลยพี่”
“พี่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลยอะไปซื้อข้าวมาทานก่อนดีกว่า หิวอะ”
“อื่อ ปะๆ” น้องหันมายิ้มๆทำท่าดีใจหน่อยๆ เหมือนน้องหมาช่วงกำลังจะพาไปเดินเล่นเลย

        แล้วระหว่างทางที่เดินไปก็เห็นร้านขายเอ็นไก่ทอดมาเปิดใหม่ ระหว่างที่ผ่านหน้าร้านผมก็หันไปมอง คนขายเป็นผู้หญิงครับ อายุไม่น่าจะเกินยี่สิบห้า หน้าตาถือว่าดีเลยทีเดียว ตากลม คิ้วเรียว ขนตากับหน้าเหมือนว่าจะไม่ได้แต่งอะไรมากมาย ดูน่ารักแบบธรรมชาติเลยทีเดียว ก็มีแค่ที่ปากที่ดูแดงผมชมพูคงทาลิปมั้ง สีผิวออกไปสีน้ำผึ้ง ผมยาวลงไปกว่าบ่าหน่อยหนึ่ง ใส่เครื่องประดับเป็นสร้อยหินสีที่คอเส้นหนึ่งกับข้อมืออยู่สองสามเส้น เสื้อผ้าเป็นแบบวัยรุ่นคอลึกพอสมควรสีขาว ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบรัดๆหน่อยขากางเกงสูงกว่าหัวเข่าเล็กน้อย ผู้อ่านก็ไม่ต้องเดาอะไรยากมากมายผมบรรยายได้ละเอียดขนาดนี้แสดงว่าผมจ้องแม่ค้านานพอสมควรแน่น แล้วดูเหมือนว่าตอนนั้นผมจะเดินช้าลงโดยไม่รู้ตัว ส่วนน้องบีที่จูงมือผมอยู่น่าจะรู้เลยหันมามอง แล้วดึงมือผมเบาๆเพื่อเป็นการบอกว่าให้ไปต่อ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ (เชื่อผมดิ) นอกจากมองแม่ค้าผมก็มองของที่เค้าขายด้วย น่าทานดี

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”

        ผมเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อเลือกอาหารแช่แข็งที่วางเรียงกันไว้อย่างเป็นระเบียบ บีเองก็เดินมายืนข้างๆด้วย

“พี่” บีเรียกผมเบาๆ
“ครับ”
“.......เปล่า”
“.......” อ่าว เรียกแล้วไม่พูดซะงั้น
“ บีเอาอะไรไหม”
“เอาไก่เทอริยากิก็ได้”
“เอาอันอื่นอีกป่าว?”
“เพียวริขุ”
“อืมม ไปหยิบเลย หยิบชามาให้พี่ด้วยสองขวด เดี๋ยวพี่เอาข้าวไปให้เค้าอุ่นให้ก่อน”

        ผมพูดจบน้องพี่ก็เดินไปหยิบชา กับ เพียวริขุที่มุมเครื่องดื่ม ส่วนผมก็เดินเอาข้าวไปให้พนักงานอุ่นให้

“พี่อุ่นให้หน่อยครับ”
“สักครู่นะคะ” พนักงานตอบกลับมาก่อนจะรับข้าวกล่องไป

        บีหยิบน้ำไปวางบนเคาน์เตอร์เสร็จก็กลับมายืนข้างๆ ผมก็เอามือโอบคอบีแล้วยืนเกาคางบีเล่นระหว่างที่รออุ่นข้าวสามนาที พอจ่ายเงินเสร็จผมก็เดินออกมาขากลับก็ต้องเดินผ่านหน้าร้านขายไก่อีกครั้ง พอถึงร้านขายไก่บีก็บอกให้ผมหยุดรอก่อน แล้วบีก็เดินไปเหมือนจะไปซื้อ

“ถ้วยละกี่บาทครับ”
“มีสิบบาท สิบห้าบาท แล้วก็ ยี่สิบบาทค่ะ”
“งั้นเอา ถ้วยละสิบห้าบาทสองถ้วยนะ”
“สองถ้วยนะคะ” แม่ค้าจัดแจงหยิบไก่ใส่ถุงให้บี ส่วนบีก็ทำท่าหยิบกระเป๋าเงินออกมา
“พี่สาว”
“คะ”
“ผมลืมเอาเงินมา รับบัตรเครดิตไหมครับ” น้องบีถามอย่างใสซื่อ
“.........” แม่ค้าถึงกับเงียบกริบเลยทีเดียว ผมรีบเดินเข้าไปทันที
“อะ...เอ่อ เท่าไหร่ครับ” แม่ค้าสุดสวยจะโกรธมั้ยเนี่ย
“สามสิบบาทค่ะ”
“นี่ครับ”

        ผมรีบจ่ายเงินให้แม่ค้าก่อนที่แม่ค้าจะเอากะทะปาใส่หัวเอา แล้วจูงมือบีเดินออกมา ผมไม่พูดอะไรจนถึงยิม

“ไม่มีเงินไมไม่บอกพี่อะ”
“......” บีไม่พูดอะไรแต่สวมกอดผมกลับมาเบาๆ หน้าของน้องแนบบนอกผม
“เฮ้ออ” ผมถอนหายใจแล้วลูบหัวบี บีกอดอยู่อย่างนั้นเนื่องจากยังไม่มีใครมา...
“พี่เอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากหน้ายิม ผมหันไปมองต้นเสียงก็พบน้องอ้นยืนมองอยู่ บีรีบผละตัวออกทันที
“อะ....อืม ว่าไงอ้น” ผมหันไปยิ้มให้อ้นแล้วทักทายให้ดูปรกติที่สุด
“สวัสดีครับ” อ้นยกมือไหว้ผม
“อืม ดีๆ” หูร้อนๆ นิดหน่อยแฮะ
“มากันนานยังครับ”
“พักใหญ่ๆแล้ว อ้นอะมานานยัง” เหงื่อออกเล็กน้อย แหะๆ
“มาเมื่อกี้ๆครับ”

        แล้วช่วงที่ผมคุยกับอ้นอยู่ บีก็หยิบกระเป๋าผ้าเข้าห้องแต่งตัวไป

“พี่กลับมาตั้งแต่กี่โมงครับ แข่งเป็นไงบ้าง”
“ถึงเมื่อช่วงก่อนเที่ยง ส่วนเรื่องแข่งก็ อืมมม ก็ดีนะ”
“นั่นซิครับ ได้เหรียญทองตั้งหกเหรียญนี่นา” เอ๊ะ...ผมยังไม่ได้บอกอ้นเรื่องการแข่งขันนี่นา
“อื่อ”
“พี่.....”
“ครับ”
“คราวหน้าพาผมไป KFC บ้างสิ” อ๊ะ!!.......เรื่อง KFC ผมก็ไม่เคยบอกใครนี่.......นี่อ้นกำลังจะสื่ออะไรกันแน่......
“ได้ซิ” ผมยิ้มๆแล้วตอบรับไป
“พี่เอ......มัดสายให้หน่อย” บีออกมาจากห้องแต่งตัวพอดีแล้วเดินมาหา

        ผมนั่งยองๆมัดสายให้บีส่วนอ้นก็เดินเข้าไปเปลี่ยนชุด อ้นไม่เคยมาคุยกับผมแบบนี้เลย ตั้งแต่น้องซ้อมมาคุยกับผมแทบนับคำได้ แถมน้องอ้นก็ไม่ได้ทำตัวสนิทกับผมสักเท่าไหร่ ออกจะดูห่างเหินหน่อยๆด้วยซ้ำ แต่ทำไมวันนี้น้องกลับมาคุยกับผมเอง ทั้งยังคุยแปลกๆเหมือนจะสื่ออะไรให้ผมเข้าใจ หลังจากนั้นอ้นก็มีปฏิสัมพันธ์กับผมมากขึ้น ใกล้ชิดผมมากขึ้น บางทีก็มานั่งตักแบบบี แต่บีเห็นบีก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนเวลาที่คนอื่นมานั่ง อาจเป็นเพราะคราวก่อนที่คุณพ่อน้องอ้นมารับช้าเลยได้นั่งคุยกันหลายเรื่อง ตรงนั้นอาจทำให้อ้นเริ่มเปิดใจกับผมมากขึ้นก็ได้ ยิ่งผมได้คุยกับอ้นมากขึ้นผมก็ยิ่งเห็นความฉลาดในตัวของเค้าหลายอย่างเค้าฉลาดกว่าวัย การใช้คำพูดที่ฉลาด กระบวนการคิดที่เป็นขั้น เป็นตอนค่อนข้างชัดเจน ดูเหมือนบางครั้งจะมีการวางแผนมาก่อนด้วย

“วันนี้พอแค่นี้นะครับ กลับบ้านได้”
“แปะ แปะ แปะ เย้!!”
“พี่เอ ครูป้อมกลับก่อนนะครับ/ค่ะ”

        เสียงน้องๆที่พ่อแม่มารับกลัวลากันจ้อกแจ้กจอแจ แล้วเด็กที่รั้งกลับหลังเสมอก็กลุ่มเดิมๆ ผมปล่อยๆน้องๆวิ่งเล่นกันพักหนึ่งก็เรียกน้องๆมานั่งจับกลุ่มเล่นเกมกัน คราวก่อนบีทำเอาฮา คราวนี้เราต้องหาแบบใหม่เดี๋ยวมันจะไร้สาระ

“เอาๆ วันนี้เราจะมาเล่นเกมวัดไหวพริบกัน” ผมชวนเล่นเกม
“เกมไรๆ” บีถามอย่างตื่นเต้น น้องๆคนอื่นๆก็เช่นกัน
“ตอนนี้มีห้าคนนะ เดี๋ยวพี่จะบอกตัวเลข แล้วมีเงื่อนไข บวกหรือ ลบ ให้ผลตามที่พี่บอก ใครตอบช้าสุดถือว่าตกรอบ” ผมพูดจบน้องๆมีท่าทีตื่นเต้นมาก
“เอานะ”
“เอาเลยๆๆๆ” น้องตั้มส่งเสียงเร่งด้วยความตื่นเต้น
“50”
“75 ลบ 25” อ้นตอบมาคนแรกอย่างรวดเร็ว
“100 ลบ 50” ตั้มตอบมาไล่ๆกัน
“90 ลบ 40” มิวไล่มา
“65 ลบ 15” บีรีบตอบแล้วเกาะขาผมแน่น
“อ่า........”น้องกันนั่งยิ้มเพราะตอบไม่ทันเค้า

        แล้วเกมก็ดำเนินต่อไปปรากฏว่าท้ายสุดแล้วอ้นชนะตลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงน้องๆค่อยๆทยอยกลับกันเรื่อยๆจนเหลืออ้นเพียงคนเดียว ผมก็นั่งคุยกับอ้นไปเรื่อยๆแต่วันนี้อ้นนั่งพิงผมแฮะ แล้วดูเหมือนน้องจะชอบคุยกับผมมากขึ้นด้วย คุยไปคุยมาผมก็วกมาพูดเรื่องบีเพราะไม่รู้จะคุยอะไร ผมลองถามอ้นเกี่ยวกับน้องบีเวลาอยู่ที่โรงเรียน

“อ้น” ผมเอาแขนไปโอบหลังอ้นไว้
“ครับ”
“บีอยู่ที่ห้องเป็นไงบ้าง”
“ดื้อ....มึน....ซน.....เกเร”
“ขนาดนั้นเลย”
“ครับ แล้วก็.......” น้องทิ้งท้ายเหมือนกับไม่อยากพูดต่อยังไงไม่รู้
“แล้วก็ยังไง”
“แกล้งคนไปทั่ว ทั้งห้องโดนบีรังแกมาหมดแล้ว”
“แล้วอ้นล่ะ”
“ผมไม่โดน”
“ทำไมละ” ผมเอามือไปจับไหล่อ้นไว้
“ไม่รู้ซิ”
“แล้วเรื่องเรียนบีเป็นไงบ้าง”
“มันโง่จะตาย” อ๊ะ!! อ้นเรียกบีว่า “มัน” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยิน อาจเพราะสนิทกับผมมากขึ้นเลยกล้าที่จะพูดออกมา
“สอบได้ที่เท่าไหร่”
“เกือบๆที่สี่สิบ”
“ในห้องมีกี่คน”
“สี่สิบเจ็ด”
“แล้วอ้นได้ที่เท่าไหร่”
“ที่ห้า” อ้นเงยหน้าขึ้นมายิ้มอย่างภูมิใจ
“แล้ว....เพื่อนบีล่ะเยอะไหม”
“ที่บีคบมีแต่พวกโง่ๆ พวกที่สอบได้เกือบสุดท้ายทั้งนั้น”
“แล้วอ้นไหงมาคบบีล่ะ”
“มันต่างหากมาตามผม”

        อ้นก็เล่ามาเรื่อยๆท่าทางอ้นจะไม่ชอบบีเท่าไหร่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้ เพราะก่อนหน้านี้ผมก็เห็นบีตามอ้นอยู่เนืองๆตอนแรกผมคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทกันเสียอีก ยิ่งคุยนานอ้นก็ยิ่งเล่ามากขึ้นราวกับเป็นความอึดอัดภายในใจที่ไม่เคยบอกใคร

“ตอนแรก พี่คิดว่าเป็นเพื่อนสนิทกันซะอีก”
“แล้วทำไมพี่ถึงคิดว่าผมสนิทกับมันล่ะ”
“ก็....เมื่อก่อนเปลี่ยนชุดก็ต้องรออ้นมาก่อน เวลาที่อ้นทำอะไรพี่ก็เห็นบีเค้าไปร่วมวงด้วย แล้วเวลาไปซื้อขนม หรือ น้ำมาทานก็จะซื้อเหมือนๆกันตลอด พี่เลยนึกว่าเราสนิทกันมากๆ”
“ไม่รู้มัน มันอยากรอเอง ของมันก็ชอบซื้อตาม ผมซื้ออะไรมันก็ซื้อตาม ไปไหนก็ชอบเดินตาม น่ารำคาญชะมัด” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
“งั้นคราวหน้าเราก็ซื้อของแพงๆที่บีซื้อตามไม่ได้ซิ”
“เห๊อะ ไม่ได้หรอกพี่”
“ทำไมล่ะ” ผมถามต่อ
“ก็ผมได้เงินมาวันละห้าสิบบาทเอง ส่วนบีมันเอาเงินมาไม่เคยต่ำกว่าวันละหนึ่งร้อยบาท แล้วผมจะซื้อของแพงจนมันซื้อตามไม่ได้ ได้ยังไง” อืมม นั่นสิเนอะ
“อ้น.....”
“ครับ”
“พี่ว่าบีเค้าอาจชอบอ้นก็ได้นะ”
“บ้า” อ้นเงยหน้าขึ้นมาพูด ท่าทางอายๆนิ๊ดๆ
“ก็เค้าไม่เคยแกล้งอ้นเลยนี่นา ดูท่าจะใส่ใจอ้นด้วย ไม่รู้สึกเหรอ” ผมมองอ้น ตอนนั้นอ้นนั่งก้มหน้าอยู่
“ไม่มีทางหรอกพี่ มันเป็นผู้ชายนะ ผมก็เป็นผู้ชาย”
“อะ...เออ ใช่” เวรกรรม ผมเผลอไปเหมารวมว่าน้องชอบชาย ด้วยกันซะแล้ว
“.....” อ้นเงียบ
“แต่ก็ไม่แน่น๊า” ผมไซโคต่อ 555+

        แล้วผมก็ชวนอ้นคุยไปเรื่อยๆจนท้ายที่สุดก่อนที่ป๊าน้องอ้นจะมารับเพียงไม่กี่นาทีกับประโยคที่ทำให้ผมอึ้ง

“ไม่ต้องไปบอกมันนะพี่ ว่าจริงๆแล้วผมรำคาญมันจะตาย”




To Be Con......







เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
การแข่งขัน และ การให้คะแนน

กฏของการแข่งขันเทควันโดนั้นง่ายมากครับ คือเตะให้เข้าเกราะแบบจังๆ ให้มีเสียงดัง ชัดเจนว่าตั้งใจเตะออกไป ห้ามเตะต่ำกว่าสาย และ ห้ามต่อยหน้า
ส่วนการให้คะแนนนั้นแบ่งดังนี้ครับ
1. เตะเข้าเกราะด้วยท่าพื้นฐานได้ 1 แต้ม
2. เตะเข้าเกราะด้วยท่านหมุน หรือ ท่ายาก ได้ 2 แต้ม
3. เตะเข้าหัวท่าอะไรก็ได้ ได้ 3 แต้ม
http://www.youtube.com/v/8Y3-STuMbVE


Thx น้องต่ายที่ทานตัวอักษรให้ครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 20 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #35 เมื่อ12-05-2010 21:39:37 »

===  ตอนที่ 21 ===



        อีกวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ทำไมเวลาถึงผ่านไปเร็วนัก แป๊บๆก็จะถึงเส้นตายส่งงานอีกแล้ว งานของทางมหาวิทยาลัยก็ประเดประดังเข้ามาเรื่อยๆ ผมนั่งอยู่หน้าคอมเปิดเพลง Moonlight Sonata วนไปวนมา มือก็เขียนสคริปต์สำหรับถ่ายมิวสิควีดีโอให้เสร็จจะได้ส่งอาจารย์ให้ทันเวลา

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

        โทรศัพท์ดังอีกแล้วถ้าผมซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ผมจะไม่เลือกโทรศัพท์ยี่ห้อนี้แล้ว คนโทรเข้ามาเยอะจริงๆ

“พี่ป้อม Calling”
“ครับพี่” ผมหันไปมองนาฬิกาบ่ายสามครึ่งแล้ว
“เอ มีน้องผู้หญิงโทรหาพี่เมื่อกี้”
“ครับ แล้ว....”
“เค้าจะมาสมัครเรียน ถ้าเป็นเค้าเข้าไปไงให้เอช่วยดูแลก่อนนะ วันนี้พี่เข้าช้าหน่อย”
“ครับ”
“แล้วเจอกันน้องชาย”

        อืมมม เด็กเข้าใหม่เหรอ ผู้หญิงด้วย ผมเก็บสคริปต์รวมๆกัน เอาโทรศัพท์บีวางทับไว้เพื่อไม่ให้กระดาษปลิวไปตามแรงลมของพัดลมขนาดสิบหกนิ้วที่เปิดไว้อยู่ข้างๆ อืมม แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบของใส่กระเป๋า ปิดประตูบ้าน เอ๊ะ ลืมโทรศัพท์น้องบี ผมกลับเข้ามาหยิบใส่กระเป๋า แล้วก็ปิดประตูบ้านออกรถไปชมรม

“แกร๊ก ครืดดดดดด”

        ผมเลื่อนประตูกระจกแบบเลื่อนแล้วเดินเข้ามาในชมรม ผมไปที่โต๊ะ แล้วหาใบสมัครกับปากกาแล้วก็.....ชุด...แต่ว่ายังไม่เห็นน้องคนที่ว่าเลย รอน้องมาก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยหยิบ ผมนั่งมองฟ้าใสๆยามบ่ายผ่านหน้าต่างกระจก พลางคิดว่าท้องฟ้าวันนี้เมฆสวยจังเลย ลมพัดมาเบาๆมีไอร้อนอยู่บ้างแต่ก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยๆก่อนจะใจลอยคิดเรื่องเรียนไปเรื่อยๆเพราะยังไม่มีใครมาสักคน

“พี่เอ~อ~อ~~…….” บีเรียกผมแบบลากเสียงยาวๆ ผมหันไปมองเห็นลูกเสือน้อยแต่งตัวไม่เรียบร้อยอีกแล้ว
“วันนี้มาช้าจัง” ผมทักน้องบี
“ลูกเสือไงเลยช้า” พูดจบน้องก็เอาหมวกวางบนโต๊ะแล้วลากเก้าอี้มานั่ง
“ร้อนชะมัดเลยอะ” น้องบีเอาคางวางเกยโต๊ะ มือก็ชูยื่นมาข้างหน้าเกือบถึงตัวผม ผมเอื้อมมือไปจับมือน้อง
“เล็บดำอะ” ผมลูบปลายนิ้วน้องบีเบาๆ
“พี่ไป____ปะ....หิวแล้ว”
“ไปล้างมือก่อนพี่รอ”
“อื่อ ก็ได้” บีลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนผมก็เดินออกมายืนรอหน้ายิม ไม่นานนักผมก็เห็นอ้นเดินมากับมิว
“พี่เอดีครับ” มิวยกมือไหว้ปลกๆ
“ดีครับพี่เอ” ทักทายจบอ้นก็ยิ้ม
“อ่าวทำไมวันนี้ได้เดินมาคู่”
“ตอนเดินมาเจอกันพอดีครับ” มิวอธิบายให้ฟัง
“พี่จะไปไหนอะ” อ้นถามขึ้นมา
“เดี๋ยวไป____อะ รอบีอยู่”
“ผมไปด้วยซิ” มิวพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหน่อยๆ
“ไปซิไม่เลี้ยงนะ”
“ด้ายยยยย”
“อ้นไปด้วยกัน”
“อืมมมม”

        ไม่นานนักบีก็เดินออกมาแล้วเราก็เดินกันไปสี่คน โดยน้องๆสามคนหยอกเล่นกันไปตลอดทาง ผมเพิ่งมาสังเกตชัดๆวันนี้เองว่าส่วนมากแล้วบีจะเป็นเข้าหาอ้นซะเป็นส่วนใหญ่ อ้นเองถ้าไม่ได้คุยกันคราวก่อนผมแทบดูไม่ออกเลยว่าอ้นรำคาญบี ยิ่งได้มิวที่อัธยาศัยดีมาอยู่กลุ่มด้วยก็ยิ่งทำให้อ้นกับบีมีอะไรคุยกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่เห็นมาก

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”

        พอเข้ามาถึงต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปมุมของตัวเองบีเองก็รู้หน้าที่ว่าต้องหยิบชามาให้ผมด้วย จนถึงตอนจ่ายเงินครั้งนี้ก็อีกแล้ว บี หยิบของมาเหมือนอ้นทุกอย่างเลย ผมเลยแซวไปว่า

“สองคนนี้ซื้อเหมือนกันเลยอะ”
“บีอะซื้อตามผม” อ้นพูดแล้วหันหน้าไปมองบี
“อะไรๆ น้ำหวานนี้เขาซื้อตั้งหลายครั้งแล้ว ถามพี่เอดูก็ได้” พูดจบพี่ก็เงยหน้ามองผม
“ขนมนี่อะ เขาหยิบก่อนมิวก็เห็น” อ้นหันไปมองมิวที่กำลังยืนดูเหตุการณ์อยู่
“ก็เขาเห็นว่ามันน่ากินดีเขาเลยซื้อ” บียิ้มๆเพราะแก้ตัวไม่ออกแล้ว
        อ้นทำหน้าเซ็งๆหน่อยๆ บรรยากาศชักไม่ดีแล้วแฮะ ไม่น่าไปแซวเลย มิวเองก็ไม่พูดอะไร
“ซื้อเหมือนกันก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เน๊อะมิว” ผมหันไปหามิว
“อะ เออ ใช่ๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย” มิวพูดปนหัวเราะหน่อยๆ

        หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็เดินกลับ อ้นเหมือนจะไม่ค่อยสนใจบีเท่าไหร่จะคุยกับมิวซะมากกว่า บีเองก็หันมาคุยกับอ้นเป็นระยะๆ ส่วนมิวก็กลับไปมากับทั้งบีแล้วก็อ้น อืมมม สงสัยผมจะทำให้อ้นกับมิวไม่สนิทใจกันซะแล้วแฮะ ดันไปพูดเรื่องที่อ้นเคืองใจกับบีออกไป พอมาถึงยิมก็เห็นน้องต้นกล้ากำลังวิ่งหยอกกับน้องตั้มอยู่ แล้วก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะ

“พี่เอสวัสดีครับ” ต้นกล้าทรุดตัวลงกราบแทบเท้าเลยทีเดียว สภาพไม่น่าเคืองเรื่องคราวกระโน้นแต่ทำเอาฮามากกว่านะเนี่ยะ
“พี่เอ....ดีค๊าบบบบ” น้องตั้มวิ่งมาไหว้
“พี่เอครับ พี่สาวคนนั้นเค้าบอกว่าจะมาสมัครเรียน” ต้นกล้าชี้ไปที่น้องผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะ
“เหรอ พี่เค้ามานานยัง” ผมหันไปมอง น้องผู้หญิงเห็นผมหันไปมองน้องก็ยกมือไหว้ตามน้องๆด้วย
“เมื่อกี้ ผมให้พี่เค้าไปนั่งรอตรงนั้นแหละ”
“อื่อ ขอบใจนะ” ผมลูบหัวต้นกล้าเบาๆ

        แล้วผมก็เดินมาที่โต๊ะระหว่างที่กำลังเดินมาที่โต๊ะผมเห็น บี อ้น มิว กำลังตั้งวงทานน้ำกับขนมกันบนเบาะพอดี

“เฮ่ย อย่าทานบนเบาะดิ” ผมตะโกนออก ทั้งสามเกลอได้ยินปั๊บรีบยกวิ่งออกจากเบาะกันแทบไม่ทัน
“สวัสดีครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ
“สวัสดีค่ะครู” โอโห...ให้เกียรติซะทำผมรู้สึกแก่เลยทีเดียว
“พี่ก็ได้ครับ” ผมยิ้มๆ แล้วยื่นใบสมัครให้น้องผู้หญิง
“กรอกข้อมูลลงไปให้ครบนะครับ ตรงไหนสงสัยก็ถามได้” ผมยืนปากกาให้น้อง
“ค่ะ” น้องรับปากกาแล้วก้มหน้าก้มตาเขียน
“สูงเท่าไหร่เหรอครับ”
“ร้อยหกสิบเจ็ดค่ะ”
“งั้น.....เดี๋ยวกรอกเสร็จแล้วเอาชุดเบอร์เจ็ดไปลองนะครับ” ผมยื่นชุดฝึกเทควันโดตัวใหม่เอี่ยมที่ยังอยู่ในถุงพลาสติกใสที่ถูกปิดผนึกอย่างดีวางไว้ให้บนโต๊ะข้างๆมือน้อง
“ค่ะ”
“ชื่ออะไรเหรอ พี่ชื่อเอนะ”
“หนูตองคะ”

        หลังจากกรอกใบสมัครกับลองชุดเสร็จก็เป็นเวลาซ้อมพอดีผมเรียกน้องๆมาเข้าแถวแล้วให้มีการแนะนำตัวทีละคนแล้วการฝึกซ้อมก็เริ่มขึ้น ก็เหมือนกับตอนมิวเข้ามาใหม่ๆครับ ผมต้องเข้าไปดูแลตอง แล้วก็มีบีที่ตามรังควานรับน้องใหม่กับพี่ตองอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งพี่ป้อมมา พี่ป้อมก็ให้ต่อแถวเตะครับ เป็นที่รู้กันว่าบีจะมายืนหน้าผมตลอด เพื่อยืนพิง ไม่ก็เอามือผมไปโอบกอดตัวเค้า แต่.....พี่ตองไม่รู้......ระหว่างการเตะเหมือนพี่ตองจะตื่นเต้นกับเทควันโดเลยอยากเตะมากๆพอเตะเสร็จพี่ตองจะรีบมาเข้าแถวทันทีแต่บีเตะเสร็จอาจมีวิ่งไปหยอกเพื่อนก่อนกลับมาเข้าแถวแล้วตอนนั้นเองพี่ตองก็มายืนหน้าผมแล้วบีก็วิ่งกลับมาจากหยอกเพื่อนพอดี บี เดินมายืนมองพี่ตองอยู่พักหนึ่ง แล้วผลักพี่ตองออกจากแถวทันทีพร้อมพูดว่า

“ออกไปนะ ตรงนี้เป็นที่ของผม คนอื่นห้ามยุ่ง!!” บีพูดจบก็มองพี่ตองตาเขม็ง ส่วนพี่ตองก็ยืนงงๆ
“ไปยืนข้างหน้าผม ไม่ก็ไปยืนข้างหลังพี่เอ ตรงนี้ที่ผม”
        พูดจบบีก็เอามือผมไปสวมกอดตัวเค้า ส่วนตองก็ยืน งงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น อ้นยืนอยู่ข้างหลังผมพอดีก็ดึงเสื้อผมเบาๆ พอผมหันไปน้องก็พูดกับผมเบาๆว่า
“พี่เห็นยัง นี่แหละนิสัยมัน”

        ตกค่ำซ้อมเสร็จผมกับบี อ้น มิว ต้นกล้า ก็นั่งจับกลุ่มคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปทั่ว ส่วนมากเป็นเรื่องตลก แล้วอ้นก็ชวนทุกคนไปเที่ยวงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมือง

“อยากไปเที่ยวงานสมโภชอะ” มิวเปรยๆขึ้นมา
“ไปดิป๊าเราเป็นเจ้าภาพงานด้วย” บีพูดขึ้นอย่างภูมิใจ ขณะที่นั่งกึ่งนอนพิงอกผมอยู่
“เออ เราก็อยากไป” ต้นกล้าพูดจบก็หันหน้ามองมิว
“พี่เอพรุ่งนี้พาผมไปหน่อยซิ” มิวทำเสียงอ้อน
“อ้าวทำไมต้องพี่อะ”
“ก็ถ้าผมขอม๊าไม่ให้ไปแน่เลย” มิวค่อยๆคลานมาเกาะขาผม
“ไปขอเองแล้วกัน ถ้าม๊าให้ไปพี่จะพาไป”
“จริงนะ” มิวทำหน้าตาดีใจใส่ผมด้วย
“ผมไปเที่ยวทุกวันอยู่แล้วอะ เพราะป๊าเป็นเจ้าภาพ” บีพูดอย่างภูมิใจอีกรอบ พร้อมกับลูบฝ่ามือผมเล่นใหญ่เลย
“อ้นอะไม่อยากไปเหรอ” ผมหันไปทักอ้นที่นั่งมองอยู่เงียบๆ
“ไม่อะ น่าเบื่อ เล่นเนทอยู่บ้านดีกว่า”
“อื่อเอาแบบนี้แล้วกันเดี๋ยวไงพรุ่งนี้มิวขอม๊าได้เดี๋ยวพี่พาไปนะ”
“คร๊าบบบบ”

        แล้วน้องๆก็ค่อยๆทยอยกลับกันจนเหลืออ้นคนสุดท้ายอีกแล้ว ช่วงนี้แปลกนะครับ คุณแม่น้องบีมารับค่อนข้างเร็วตลอดเลย อย่างช้าๆก็ยี่สิบถึงสามสิบนาทีไม่ค่อยมีช่วงให้ผมได้คลอเคลียกับบีเท่าไหร่เลย แล้วผมก็นั่งคุยกับอ้นต่อส่วนมากอ้นชอบให้ผมเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง ผมว่าส่วนหนึ่งที่อ้นเค้าเปิดใจกับผมมากก็คงเพราะได้ระบายเรื่องบีกับผมมั้ง คุยไปคุยมาสักพักอ้นก็ขอตัวลุกไปดื่มน้ำ ตอนนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว แล้วอ้นก็เดินกลับมานั่งลงที่ตักผมเฉยเลย เอนตัวพิงลงบนอกผมแบบบีแป๊ะ  อะ.....อะไรกันเนี่ยะ......
        ผมลองค่อยๆสอดมือสวมกอดน้องอ้นช้าๆ.....อ้นไม่พูดอะไรเลยแฮะ.....นั่งนิ่งๆให้ผมกอดแต่โดยดีซะงั้นได้ใจเลย ผมลองแอบสอดมือเข้าไปในเสื้อน้องเริ่มจากตรงเอวก่อนมีช่องสอดมือเข้าไปได้ง่ายสุด ผมสอดเข้าไปช้าๆจนแขนขวาผมมุดเข้าไปอยู่ในเสื้อน้องแล้ว ผมขยับนิ้วชี้วาดวงกลมไปมาๆบนท้องของอ้นแต่นั่งขดไปนิ๊ดเลยติดๆขัดๆยังไงก็ไม่รู้ ผมขยับตัวยืดขึ้นเพื่อให้ตัวอ้นยืดตาม อ่า นิ้วชี้ผมขยับได้เป็นวงกว้างมากขึ้นแฮะ แต่.....

“กรูทำอะไรฟร่ะเนี่ยะ!!”

        ผมรีบเอามือออกอย่างเร็ว ก่อนที่อะไรๆมันจะมากไปกว่านี้ผมรีบพาอ้นไปส่งบ้านโดยไม่ต้องให้น้องโทรถามที่บ้านเลยว่าจะมารับไหม ตลอดทางอ้นไม่พูดอะไรเลย พอมาถึงบ้าน........ครับ.....ไม่เจอใครเลยสักคน.....ผมเลยกดโทรหาป๊าน้องอ้น

“ตู๊ดดดดดดด......ตู๊ดดดดดดดด......” แล้วทันทีที่มีคนรับสาย
“สะ....สวัสดีครับ” ยังไม่ทันที่ผมจะถามอะไรต่อ
“พี่เอ เห็นน้องอ้นไหม ป๊ามาที่ยิมเมื่อกี้ไม่เจอใครเลย”
“อยู่กับผมครับ”
“อ่าว แล้วตอนนี้อยู่ไหนกันครับ”
“หน้าบ้านน้องอ้นนี่ล่ะครับ คือผมผ่านมาธุระทางนี้พอดีเลยพาน้องมาด้วยครับ”
“อ่า เหรอ ขอโทษพี่เอด้วยที่มารับช้า พอดีไปธุระ ว่าจะมารับเค้าไปทานสุกี้กันพอดี เลยไม่มีใครอยู่บ้าน อยู่ร้านกันหมด” อ่าว กรูมาเสียเที่ยวเหรอเนี่ยะ
“อ่าครับ แล้ว.....”
“เอ มาส่งที่ร้านสุกี้____ให้หน่อยได้ไหม เดี๋ยวป๊าให้ค่าเสียเวลา”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปส่งให้”

        คุยเสร็จผมก็เรียกอ้นขึ้นรถแล้วพาไปส่งที่ร้านสุกี้____ พอถึงปั๊บน้องก็ลงจากรถ

“ขอบคุณครับ” น้องยกมือไหว้
“อืมม ไม่เป็นไร”

แล้วผมก็ออกรถกลับบ้านไป.......กลับมาถึงบ้านผมนั่งนิ่งๆหน้าคอมแล้วถามตัวเองว่า......

To Be Con

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
การจัดรุ่นในการแข่งขัน

การจัดรุ่นในการแข่งขันนั้นจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันด้วยครับ ถ้าลงแข่งในระดับนักเรียนนักศึกษา หรือ เยาวชน นอกจากจะมีการแบ่งน้ำหนักแล้วก็ยังมีการแบ่งรุ่นอายุด้วย
ส่วนการแข่งขันกีฬาเยาชนแห่งประเทศไทย หรือ กีฬาแห่งชาติในรุ่นประชาชน ตรงนี้ไม่ได้จำกัดอายุครับ น้ำหนักอย่างเดียวเลย
http://www.youtube.com/v/5qE2oNF9etk
ใน Clip น้องเกราะแดงเล่นดีนะครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 20 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #36 เมื่อ12-05-2010 21:42:53 »

===  ตอนที่ 22 ===




“นะ....นี่.......เราทำอะไรลงไป......”
        ทำไมผมถึงได้ไปทำเรื่องแบบนั้นกับอ้น....ผมค่อยๆลำดับเหตุการณ์ย้อนกลับไป ผมรู้สึกว่าอ้นไม่ได้ทำตัวห่างเหินกับผมไปเสียทีเดียว หลายๆ ครั้งระหว่างสอนหรือทำอะไรก็ตามในยิม ผมจะชอบรู้สึกว่ามีคนกำลังแอบมองผมอยู่ ยิ่งเวลาผมหยอกเล่นกับบีด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกบ่อยมาก ผมพบว่าแท้จริงแล้วคนที่แอบมองผมคืออ้นนั่นเอง อ้นจะชอบยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ จนผมเกือบจะไม่รู้สึกตัว บางครั้งถ้าผมรู้สึกตัวเลยมองกลับไป น้องก็จะรีบหันไปมองทางอื่นอย่างมีพิรุธ
        คืนนั้นหลังจากนั่งเขียนสคริปต์เสร็จผมก็เข้านอนไปอย่างกังวลใจหน่อยๆ เพราะการที่ไปทำแบบนี้มันไม่ดีกับตัวผมเองเท่าไหร่ แต่.....สายตาที่เศร้าสร้อยสักหน่อยดูไม่เหมาะกับวัยที่สดใสของอ้นเลย เพียงแค่การใส่ใจเล็กน้อยในวันนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เค้าดูมีรอยยิ้มที่สดใสขึ้นมาทันที


….


“วันนี้พอแค่นี้นะครับนักศึกษา ส่วนใครยังไม่เสร็จก็เอา File แนบกับ E-Mail ส่งมาให้อาจารย์แล้วกัน” อาจารย์วิชา xyz บอกเมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสิบเอ็ดโมงตรง
“นักศึกษาทำความเคารพ”
“สวัสดีคร๊าบบบ/ค๊า”

        ช่วงนี้รู้สึกเพลียๆอยากพักผ่อนแฮะ เรื่องเรียนเรื่องงานก็เยอะชะมัด คราวก่อนพาน้องๆไปแข่งมาหลายๆคนก็คงอยากพักผ่อนเหมือนกัน หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จผมก็โทรหารองประธาน

“ไม้” ผมกรอกเสียงลงไป
“ครับพี่” อีกฝั่งตอบกลับมา
“เดี๋ยวไงรบกวนปริ้นท์ข้อความว่า ‘งดฝึกซ้อมหนึ่งอาทิตย์’ ไปแปะหน้ายิมให้หน่อยนะ”
“ได้ครับพี่”
“เออ ลงวันที่ด้วยนะ แค่อาทิตย์นี้ก็พอ”
“ครับพี่”
“ขอบใจๆ” พึ่งพาได้จริงๆ

        ผมเก็บของใส่กระเป๋าแล้วก็เดินออกไปกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคนคุยกันเรื่องงานเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ผมกลับไปเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบสมุดสเก็ตช์ภาพกับดินสอสองบี ยางลบ แล้วก็กบเหลาติดมือไปด้วย แล้วก็ขับรถไปที่ยิม ตอนนี้ไม่มีใครเงียบดีผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะ แต่จริงๆ บอกว่าชินน่าจะถูกกว่าเพราะยิมบรรยากาศเหงาๆเงียบๆแบบนี้มันก็ไม่ต่างกันกับบ้านที่ผมอยู่คนเดียวเท่าไหร่ ผมนั่งวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเวลาสี่โมงครึ่ง? น้องคนแรกที่มาถึงเสมอก็คือน้องบี

“พี่เอ~อ~อ~อ~”

        บีเรียกผมลากเสียงยาวๆตั้งแต่ประตูยิม วันนี้น้องใส่ชุดพละแฮะ ถอดรองเท้าเสร็จน้องก็เดินๆเอาของมาวางไว้ที่ชั้นแล้วมานั่งลงบนตักผม ผมสวมกอดน้องก่อนจะจูบลงไปที่หลังคอเบาๆ

“พี่ทำอะไรอยู่” พูดจบน้องก็มองไปที่สมุดสเก็ตช์ภาพที่วางอยู่บนโต๊ะ
“วาดรูป” ผมกระซิบข้างหูน้องเบาๆ
“เมื่อวานพี่ไปส่งอ้นเหรอ”
“อืมม” ผมซุกลงไปที่หลังหูน้อง
“ทำไมอะ......”
“ก็ป๊าอ้นไม่เห็นมารับสักที พี่อยากกลับบ้านเลยไปส่ง”
“เหรอ”
“บี”
“ครับ”
“วันนี้เรียนพละแล้วอู้เหรอ”
“เง้อออ พี่รู้ได้ไง” เวลาทำเสียงไม่พอใจก็น่ารักเหมือนกันแฮะ
“อิอิ ไม่บอก”

        จะบอกได้ไงล่ะครับ ว่าผมจูบลงไปที่ซอกคอน้องเผลอเอาปลายลิ้นออกมาด้วยแล้วตอนลิ้นโดนโดนผิวน้องไม่รู้สึกถึงความเค็มเลย บางทีที่ซ้อมเทควันโดผมไปซุกแล้วเผลอเอาลิ้นออกมาด้วยยังเค็มกว่านี้อีก อิอิ แล้วผมก็ซุกหลังคอน้องอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะจูงมือน้องไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆตอนเดินผ่านร้านขายไก่ บีหันไปแลบลิ้นใส่แม่ค้าขายไก่ด้วย แม่ค้าเห็นเข้าก็ทำหน้าเบ้ใส่คืน แล้วบีก็หัวเราะถูกใจ แม่ค้าเองก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน

“ติ๊งงง ติ่งงงงงง”
“สวัสดีค่ะ”

        บีรู้หน้าที่ ผมยืนรอที่เคาเตอร์ส่วนบีก็เดินไปหยิบน้ำ ระหว่างรอผมเห็นลูกอมยี่ห้อหนึ่งผมไม่ได้อมลูกอมนานแล้วแฮะซื้อไปอมเล่นดีกว่า หยิบน้ำเสร็จบีก็เดินกลับมา

“บี”
“ครับ”
“งานสมโภชฯ จัดถึงกี่ทุ่มอะ”
“ดึกพี่”
“เหรอ”
“ทำไมครับ” บีเงยหน้ามองผม
“ห้าสิบห้าบาทค่ะ” เสียงพนักงานทวงเงิน
“พี่สังหรณ์ว่าวันนี้จะได้พามิวไปเที่ยวอะ”
“จริงเหรอ ก็ดีซิครับ” บียิ้มท่าทางมีความสุข
“อืม งั้นถ้ามิวได้ไป บีโทรบอกป๊าแล้วกันว่าพี่จะไปส่งจะได้ไปด้วยกันเลย” ผมลูบหัวบีเบาๆ บีแสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันทีเลย
“ได้ๆ”

        จ่ายเงินเสร็จผมก็เดินกลับยิมท่าทางบีร่าเริงขึ้นเยอะแล้วเมื่อเดินผ่านรานขายไก่อีกรอบบีก็หันไปหาแม่ค้าขายไก่แล้วถามว่า

“พี่สาว รับบัตรเครดิดยัง”

        แม่ค้ายิ้มมุมปากทันทีผมรีบจูงบีเดินออกไปอย่างเร็ว มาถึงหน้ายิมก็เจอน้องๆหลายคนกำลังวิ่งเล่นกันวุ่นวายอยู่ในยิม บางคนผู้ปกครองก็เพิ่งมาส่ง ผมเห็นมิว ต้นกล้า แล้วก็ อ้นกำลังยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าต่างหน้ายิม ผมเลยเดินเข้าไปหาแล้วก็พูดคุยกันตามประสา

“มิว ม๊าว่าไง”
“ม๊าให้ไปพี่ แล้วให้พี่ไปส่งที่บ้าน”
“ต้นกล้าอะ”
“ไม่ได้....” ต้นกล้าทำเสียงสลด
“อ้นล่ะ ไปด้วยกันไหม”
“ป๊าไม่ให้ไป” อ๊ะ เมื่อวานยังบอกว่ากลับบ้านเล่นเนทอยู่บ้านดีกว่า แต่สุดท้ายก็ไปขอนี่นา หึหึ เด็กน้อย ผมเลือกที่จะไม่ทักเดี๋ยวบรรยากาศพังเหมือนเมื่อวานอีก
“อืมงั้นที่ไปกับพี่ก็มี บี กับ มิวซินะ”
        เราคุยกันไปสักพักเรื่องทั่วไปวันนี้อ้นคุยกับบีน้อยลงแฮะ เหมือนจะถามคำตอบคำกับบีมากกว่า แต่คนอื่นอ้นก็คุยเป็นปรกติ คุยไปคุยมาผมก็หยิบลูกอมออมาจากกระเป๋า
“อะ ใครจะเอาลูกผมบ้าง ห้าเม็ดพอดีเลย”
        ทุกคนยกมือหมดเว้นแต่อ้นคนเดียว ผมยื่นลูกอมให้ ต้นกล้า มิว แล้วก็บี
“เหลือเม็ดหนึ่งอะ” พูดจบปั๊บบีก็คว้าลูกอมเม็ดนั้นออกไปจากมือผมทันที
“งั้นผมขอแล้วกัน เกรงใจพี่จัง”
“โห...ขนาดเกรงใจนะเนี่ยะ คว้าหมั๊บเลย” ผมแซวบี
“ขนาดเกรงใจยังขนาดนี้ ถ้าไม่เกรงใจคงหยิบของพี่กับคนอื่นไปด้วยนั่นแหละ” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์หน่อยๆ
“อะ เออ เอาน่าๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ก็ซื้อมากะว่าแบ่งๆพวกเรานั่นแหละ จริงไหมมิว” ผมมองไปทางมิว
“คะ..ครับ ใช่ๆไม่เห็นเป็นไรเลย”

        แล้วเหตุการณ์ก็เคลียร์ไปวันนี้ดูเหมือนอ้นจะมางองแงกับผมหลายอย่างเหมือนจะอยากอ้อนให้ผมสนใจแต่ก็ไม่มากเท่ากับบี แล้วก็จะทำพฤติกรรมคล้ายๆบี คือ ชอบมาอยู่ใกล้ๆ มานั่งตัก หรือ มานั่งพิง บีเองก็ไม่พูดอะไร แล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลัง พี่ป้อมพาน้องๆฝึกฟุตเวิร์คเพื่อเพิ่มความคล่องตัวที่มีความยากพอสมควร ต้องอาศัยแรง ไหวพริบ และ ทักษะ ทั้งยังต้องเตะด้วย แต่....ยังไม่ทันจะถึงห้านาทีน้องๆหลายคนก็แสดงความเหนื่อยอ่อนออกมาอย่างชัดเจน ผมซ้อมเทควันโดมาหลายปี สำหรับการฝึกแค่นี้ห้านาทีเร็วไปที่จะเหนื่อย ผมเลยดุน้องๆบางคน ไม่ได้เหนื่อยจริงๆแต่ทำเป็นเหนื่อย

“น้องครับ มาฝึกเทควันโดนะครับไม่ใช่มาฝึกรำไทยหรือโขนที่ต้องอ่อนช้อยงดงาม ทำอะไรให้มันแข็งแรงหน่อย ต่อย เตะ ออกไปเอาให้มันแข็งแรง เอาให้แบบว่าถ้าเราไปต่อยใครจริงๆหมัดเดียวเค้าหลับไปเลย โดยเฉพาะน้องผู้ชาย ทำอะไรให้มันแข็งแรงสมกับเป็นผู้ชายหน่อย แล้วถ้าใครไม่ใช่ก็บอกพี่ด้วยพี่จะได้ไม่ต้องเน้นให้*1!!”

        ผมพูดออกไปเสียงดังกึ่งตะคอกแสดงถึงความไม่พอใจพอสมควรน้องๆหลายคนถึงกับเครียดเลยทีเดียว แต่แล้วจู่ๆน้องบีก็ยกมือขึ้น ผมชี้นิ้วไปเป็นสัญลักษณ์ให้ลุกขึ้นพูดได้

“พี่ครับ”
“ครับ”
“ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซนต์นะครับพี่”

        บีพูดเสร็จก็ยิ้ม หลายๆคนก็ยิ้มบรรยากาศเปลี่ยนจากที่เครียดๆกันอยู่กลับมาผ่อนคลายลงเลยทีเดียว แล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งซ้อมเสร็จ น้องมิวหยิบกระเป๋าเตรียมตัวไปกับผมทันทีส่วนบีก็กำลังโทรไปเคลียร์กับคุณพ่ออยู่

“พี่ป้อม วันนี้ผมกลับเร็วนะครับ”
“อ่า อืม ได้ๆ เดี๋ยวพี่ปิดยิมเอง”
“พรุ่งนี้เจอกันพี่” ผมบอกลาพี่ป้อมครับ

        ผมคุยกับพี่ป้อมเสร็จก็เดินไปรอที่รถ บีคุยกับป๊าเสร็จพอดีก็หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามออกมา บีรีบวิ่งขึ้นมานั่งข้างหน้าอย่างรวดเร็วส่วนมิวก็นั่งข้างหลัง ผมค่อยๆออกรถไป ขณะนั้นมี ต้นกล้า กับ อ้นยืนมองอยู่ด้วยสายตาหดหู่เล็กน้อยที่ไมได้ไปด้วย ผมขับรถไปช้าๆเพราะบีเคยบอกว่าถูกลมแรงมากไม่ได้ตาจะแดง ไม่นานนักก็ถึงงานสมโภชฯ คนเยอะมากครับ ถนนเส้นนั้นตลอดแนวรถจอดกันเต็มผมเกือบนึกว่าจะหาที่จอดไม่ได้ซะแล้ว หน้างานที่ร้านอาหารที่ทั้งแจกฟรี แล้วก็ขายจัดอยู่ใกล้ๆกันโดยร้านที่แจกฟรีคนขายจะโพกผ้าสีเหลืองที่หัว ส่วนร้านที่ขายตามปรกติก็จะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่รวมๆแล้วร้านแจกฟรีคนเยอะมาก ตรงข้ามทางเข้ามีเวทีแสดงทั่วไปอยู่ ทางซ้ายของเวลาที่แสดงไปประมาณสิบเมตรก็มีเวทีแสดงงิ้วซึ่งกำลังเล่นอยู่มีคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากกำลังนั่งดูอย่างสนุกสนาน

        ตรงข้ามกับเวทีแสดงงิ้วก็เป็นที่สำหรับกราบไว้บูชาที่ถูกจัดคล้ายกับศาลเจ้าขนาดใหญ่ทาด้วยสีแดงมีหลังด้วยแบบเดียวกับศาลเจ้าเลย กระถางธูปวางเรียงกันพร้อมของไหว้บูชาหลายอย่างที่เด่นๆเห็นจะเป็นผลไม้ กลิ่นธูปเทียนเครื่องหอมบรรยากาศแบบศาลเจ้าลอยไปทั่วบริเวณ บีกับมิวจับมือผมไว้แน่น ผมพาน้องเดินถัดไปหน่อยก็เจอเจ้าประจำเลยครับปาลูกโป่ง โยนห่วง ปืนลม ยิงตุ๊กตา เรียงกันเป็นตับหลายร้านเลยทีเดียวแล้วก็มีเครื่องเล่นพวก ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ บ้านเป่าลม ระหว่างที่เดินกันอยู่บีกับมิวดูจะเข้ากันได้ดีมากๆบีพามิวดูโน้นดูนี่ไปรอบงานเลย มิวเองก็ตื่นเต้นดีใจวิ่งไปมากับบีราวกับเป็นเด็ก  (อ่าว ก็เด็กนี่นา ) จนไปหยุดที่ร้านปาลูกโป่งร้านหนึ่ง บียืนมองๆแล้วหันมาทำสายตาอ้อนวอน โดยไม่ต้องใช้คำพูดผมเข้าใจเลยว่าน้องกำลังหมายถึงอะไร

“ปาเป็นเหรอ” ผมเดินมาลูบหัวบีเบาๆ
“เป็นดิ เมื่อวานผมได้ตุ๊กตาตั้งหลายตัว”
“ไม่อยากจะเชื่อเลย” มิวพูดเย้ยหน่อยๆ
“ลองดูไหมละ เดี๋ยวเอาตุ๊กตาให้ตัวหนึ่ง” บีหันมามายิ้ม
“อะๆ ได้ๆ” ผมให้บีเลือก บีเลือกแบบเจ็ดดอกยี่สิบบาท
“เฮ่ย บี ยี่สิบนะ เอาให้ได้” พูดจบผมก็มายืนลุ้นกับมิวอยู่ข้างๆ
“ ปั๊ง!!” ดอกแรกปาเข้าไป บีหันมายิ้ม
“ ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง” อีกสี่ดอกตามมาติดๆ บีหันมายิ้มอย่างสะใจใส่มิว
“ปั๊ง ปั๊ง”

        ได้อีกสองดอก บีหันมามองผมกับมิวก่อนจะเสยผมตัวเองหนึ่งที ก่อนจะปาต่อบีตั้งท่าอย่างดีหมายมั่นปั้นมือจะลบคำเย้ยหยันของมิวให้ได้ แล้วบีก็ปาออกไป.........แต่...เสียดายครับ ไม่แตก....

“อ๊ากกกกก ม๊ายยยยยยย ม๊ายยยยย” บีร้องออกมาให้ดูตลกกลบเกลื่อนความอาย ก่อนจะหันมายิ้ม
“หึหึหึ” มิวหัวเราะเบาๆ บีหันมามองผม
“พี่ขออีกรอบ” บีทำหน้าตาจริงจังมาก ราวกับนักโทษคดีร้ายแรงกำลังร้องขอความเห็นใจต่อคณะผู้พิพากษาให้เค้าได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“อะๆๆ ได้ๆ เอาแบบไหนอะ” ผมพูดจบบีก็เลือกเอาแบบสามดอกหกสิบบาท
“คอยดูนะแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น”

        บีหันมาพูดกับมิว ก่อนจะเงยหน้ามองตาผมอย่างเชื่อมั่น ก่อนจะหันไปยืนนิ่งๆมองไปที่ลูกโป่งที่เรียงรายกันอยู่ในช่องไม้ บีเอานิ้วหนีบปลายลูกดอกไว้ แล้วตั่งท่า......อะไรกันบีกะปาทีเดียวสามดอกรวดเลยเหรอ!!!

“ย๊ากกก!!!” จริงด้วยครับ บีปาออกไปทีเดียวพร้อมกันสามดอกเลย แล้วปาฏิหาริย์ที่น้องว่าจะเป็นเกิดขึ้นได้ไหมเนี่ยะ!?
“ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง!!!”

        เจ้าของร้าน เด็กดูแล เด็กเป่าลูกโป่ง ลูกค้าที่กำลังจะปา ร้านปาโป่งข้างๆ ร้านขายเกาลัดฝั่งตรงข้าม แม่ค้าร้านกิ๊ฟช๊อป ร้านขายของที่ระลึก หันมาเห็นปาฏิหาริย์ของน้องบีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพราะเสียง “ย๊ากกก” ของบี

“แปะๆๆๆๆๆๆ” เสียงตบมือดังระงม บีเงยหน้ามองดูผลงานตัวเองลูกดอกทั้งสามปักเข้าใส่ลูกโป่งสามลูกแบบเรียงช่องเป็นเส้นตรงเลยทีเดียว
“สุดยอดเลยว่ะน้อง เจ๋งๆๆ” ลูกค้าที่กำลังจะปาถึงกับเดินมาจับมือบีด้วยความตื่นใจ
“อะ...อะ...แฮะๆๆๆ”

        บียิ้มด้วยความเขินอายที่มีคนชื่นชมกับตนเองมากขนาดนี้มันเกินกว่าแค่ลบคำเย้ยของมิวลงได้เสียอีก มิวเองก็อึ้ง หลังจากดีใจกันเสร็จแล้ว เจ้าของร้านก็ให้บีเลือกตุ๊กตาได้สองตัวเพราะชนะใจกรรมการจำเป็นเหล่านั่นรวมถึงเจ้าของร้านเอง บีเลือกตุ๊กตาลิตเติ้ลเดวิลสีแดงสองตัว ตอนรับมาบีกอดตุ๊กตาอย่างภูมิใจ

“เห็นป่าว ถ้าเราเชื่อมั่นอะไรก็เป็นไปได้” บีหันมาพูดกับมิว
“เออ ยอม” พูดจบมิวก็หัวเราะ
        แล้วผมก็พาน้องๆเดินวนออกมาที่ลานแสดงอีกรอบเพื่อตั้งหลักว่าจะไปไหนกันต่อดีแล้วจู่ๆผมก็ได้เจอ.....
“อ่าว บีมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมมองไปตามที่มาของเสียง
“ป๊า!!” บีตะโกนทักเจ้าของเสียงไป ใช่แล้วครับ เจ้าของเสียงคือป๊าของบีนั่นเอง
“พี่บี” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาบี แล้วดึงตุ๊กตาจากมือบีออกไปตัวหนึ่ง บีปล่อยมือให้น้องดึงออกไปอย่างง่ายดาย
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ป๊าน้องบี มิวเองก็ยกมือใหว้ตามผม
“เอ เดินดูงานทั่วหรือยัง”
“ยังเลยครับ เมื่อกี้โดนไปทางที่เค้าปาลูกโป่งกัน”
“ช่ายยย ป๊า เมื่อกี้บีปาทีเดียวสามดอก โดนครบสามดอกเลย เจ้าของร้านเค้าเลยให้บีมาตั้งสองตัว” บีคุยให้ป๊าฟังอย่างภูมิใจ
“จริงเหรอพี่บี” เด็กผู้หญิงที่ตามมาด้วยถามอย่างตื่นเต้น
“ช่ายยยย”  บีตอบกลับไป

        แล้วไม่นานก็มีเด็กๆวิ่งมากันอีกหลายคนรวมถึงผู้ใหญ่ด้วย ผมยืนมองแบบอึ้งๆเพราะวางตัวไม่ถูกไม่รู้ใครเป็นใคร แล้วป๊าของบีก็เริ่มแนะนำญาติๆให้ฟังว่าเป็นใครกันบ้าง ส่วนบีเองก็ช่วยแนะนำ ระหว่างที่แนะนำบีก็แทรกมุขตลกลงไปด้วยเลยสร้างความเป็นกันเองมากขึ้นหลังจากแนะนำกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วป๊าน้องบีก็หันมามองผมแล้วพูดว่า

“พี่เอ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนซิ เดี๋ยวคุณแม่น้องบีก็มาแล้ว” คุณพ่อน้องบียิ้ม
“อะ...เดี๋ยวผมกลับแล้วครับ พอดีมีธุระ” แหง๋ล่ะครับเล่นอยู่ทานข้าวกับครอบครัวน้องแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันขนาดนี้รู้สึกเกรงใจยังไงก็ไม่รู้
“งั้นเดี๋ยวไปทานข้าวกับน้องก่อนก็ได้”
“อะ เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”
“น่า ป๊าเลี้ยงๆ” ป๊าน้องบีทำท่าทางกับคำพูดแกมบังคับหน่อยๆ
“บีๆพาพี่เค้าไปทานข้าวนะ เดี๋ยวป๊าไปดูแขกก่อน” พูดจบป๊าน้องบีก็เดินออกไป
“ครับป๊า” บีทำหน้าตาชื่นมื่นเลยทีเดียว ก่อนจะคว้ามือผม
“ปะพี่ อยากทานร้านไหนชี้เลย”

        พูดจบบีก็จูงมือผมเดินหาร้านสรุปสุดท้ายก็ได้ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ พอหาที่นั่งได้ บี ก็กวักมือเรียกพนักงาน

“พี่ๆ เมนูหน่อย”

        พนักงานเดินมายื่นเมนูให้อย่างรวดเร็วผมกับมิวนั่งมองบีที่วางตัวราวกับว่ามาทานที่นี่บ่อยๆ พนักงานเองก็ดูจะรู้จักบีด้วย

“มิว พี่เอ ทานไรอะ” บีหันมาถามพร้อมยื่นเมนูให้มิว
“บีเอาไร เขาเอานั่นแหละ” มิวพูดจบก็ยื่นเมนูให้ผม
“พี่ไม่เอาอะ”
“พี่ๆ” บีหันกลับไปเรียกพนักงานอีกครั้ง
“ครับ” พนักงานวิ่งเข้ามาพร้อมสมุดเล่มเล็กๆ
“เอาเหมือนเดิมสองนะ”

        นั่นไง มีเอาเหมือนเดิมด้วยแสดงว่ามาบ่อยจนเค้าจำได้ แล้วระหว่างนั่งรอก็มีการคุยกันเล่นๆ แล้วจู่ๆมิวก็นั่งนิ่งแล้วหันมามองบี ตามด้วยผม

“พี่.....”
“ครับ”
“ผมขอขี้แป๊บนะ”
“อะ..เออ ไปดิ บีห้องน้องไปทางไหนอะ” ยังไม่ทันที่บีจะตอบ
“ไม่ต้องพี่ตรงนี้แหละ”

        พูดจบมิวก็หยิบช้อนกับซ่อมที่ถูกกระดาษทิชชู่ห่อรวมกันไว้ขึ้นมา แล้วคลี่ออก.....

“เสร็จแล้วพี่” มิวหันมายิ้ม บีถึงกับอึ้งรับประทานเลย
“มิว.....”
“ครับพี่”
“อันนี่เรียก คลี่ ครับ ไม่ใช่ ขี้” ผมเอามือขยุ้มๆหัวมิว
“ฮ่ะๆๆ” บีหัวเราะชอบใจ

        แล้วไม่นานอาหารก็มาเสริฟ คนเสริฟเป็นผู้หญิงคนหนึ่งผิวขาว ตาตี่ๆ แต่งตัวดีไป ไม่น่าจะเป็นพนักงาน

“อะ บี ได้แล้ว อิกจานของใครเอ่ย” สำเนียงจีนจ๋าเลย
“ซาโก หวัดดีครับ” อ๊ะ ญาติน้องอีกแล้ว
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ มิวก็ไหว้ตาม
“รุ่นพี่เหรอ” พูดแบบสำเนียงจีนๆ
“ครับ พี่เอ กับเพื่อน ชื่อ มิวครับ”
“เออๆ ดีๆ ฝากดูแลอาบีด้วยนา อีดื้อสุดๆเลย “
“โกอะ” บีทำหน้าตาค่อนขอดที่โกมาเผาตรงนี้
“อ่าๆ ก็ล่ายๆพ่อเด็กดี นี่จะเอาอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ มื้อนี้โกไม่คิดเงิน”
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้อีกรอบ

        แล้วซาโกก็เดินกลับเข้าไปในห้องอะไรก็ไม่รู้ ผมก็นั่งดูบีกับมิวเล่นมุขกันสนุกสนานจนทานเสร็จผมกับมิวแล้วก็บีเดินเที่ยวงานกันอีกครั้งโดยที่บีเดินจับมือผมไปมาตลอดงาน แล้วก็เจอญาติกับคนรู้จักน้องมากมายซะจนผมจำชื่อได้ไม่หมดเลยเครือญาติน้องบีมีเยอะจัง แล้วบีกับมิวก็ขอขึ้นชิงช้าสวรรค์ตอนแรกบีคะยั้นคะยอให้ผมขึ้นด้วยแต่ผมก็ไม่ขึ้น ทำให้บีต้องขึ้นไปนั่งกับมิวสองคน ผมยืนมองจากข้างล่างเห็นสองคนท่าทางตื่นต้นชี้โน้นชี้นี่ คุยกันไปยิ้มกันไป จนสุดท้ายก็ได้ไปนั่งเพ้นท์สีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ผมนั่งมองน้องบีจนเกือบลืมไปเลยว่าน้องมิวมาด้วย เวลาที่บีตั้งใจกับอะไรมากๆสายตาเค้าดูมุ่งมั่นดีนะครับ บางทีก็ระบายไปบ่นไป เหมือนจะเลิกกลางคันแต่ก็ทำจนเสร็จ จากตุ๊กตากบเคโระก็กลายร่างเป็นโดเรม่อนซะงั้น บียิ้มอย่างภูมิใจ ตอนนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบๆสามทุ่มแล้ว ดึกมาไปสำหรับเด็กๆแบบมิวกับบี ผมโทรหาป๊าน้องบีเพื่อถามว่าจะให้ไปส่งน้องบีที่ไหน ป๊าน้องบีก็บอกให้รอตรงนั้นเดี๋ยวให้พี่เลี้ยงมารับระหว่างที่รอบียืนจับมือผมไว้ ผมเอานิ้วโป้งลูบไปลูบมาบนหลังมือบีเบาๆจนกระทั่งพี่เลี้ยงมารับ บีก็ยื่นตุ๊กตาลิตเติ้ลเดวิลให้มิว แล้วเดินไปกับพี่เลี้ยง ส่วนผมก็เดินกลับไปที่รถพามิวไปส่งที่บ้าน

“พี่เอ ขอบคุณนะคะ ขอโทษด้วยที่รบกวน” คุณแม่น้องมิวออกมารับที่หน้าประตูบ้าน
“ครับ ไม่เป็นไรครับ”

        แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านวันนี้ผมได้เจอวงศาคณาญาติน้องบีเพียบเลยแฮะเพิ่งรู้ว่าแถวนั้นเป็นเครือญาติแล้วก็คนรู้จักน้องบีทั้งนั้น อืมมม......ผมมาถึงบ้าน ถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดระหว่างนั่นผมก็เจอโทรศัพท์น้องบีอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมผมวางไว้ข้างๆหัวนอน ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วก็ขึ้นนอนเลยรู้สึกเพลียมากอยากพักผ่อน ผมนอนมองโทรศัพท์น้องบีอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบมาวางไว้ใต้หมอนแล้วผมก็นอนคิดเรื่องวันนี้จนกระทั่งผมหลับไป



To Be Con

*1 เน้น คือความใส่ใจครับ เช่นผู้ฝึกคนไหนไม่ทันเพื่อน หรือ ทำไม่ได้จะมีการเข้าไปจี้เป็นรายตัว เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถทำได้ทันเพื่อน หรือ ทำได้ดีขึ้น




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันเทควันโด
        เดี๋ยวนี้การลงแข่งแต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันให้ครบ ในบางรายการอาจมีการโอนอ่อนให้ แต่ในบางรายการถึงกับไม่ยอมให้ลงแข่งขันจนกว่าจะหาอุปกรณ์ได้เลยก็มี ซึ่งตามกฏแล้วถ้านักกีฬาไม่สามารถลงสนามได้เกิน 3 นาทีจะถูกปรับแพ้ ดังนั้นก่อนไปแข่งเราต้องเตรียมอุปกรณ์ไปให้พร้อมนะครับ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกปรับแพ้ หรือต้องวิ่งไปยืมใช้จากของคนอื่นเค้า ซึ่งอุปกรณ์หลักๆจะมีดังนี้
1.เกราะหัว ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
2. เกราะตัว ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
3. สนับมือ ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
4. เกราะแขน ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
5. เกราะขา ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
6. ถุงเท้า
7. กระจับ
8. ฟันยาง

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #37 เมื่อ12-05-2010 21:50:03 »

อ่านตามอีกรอบก็ยังน่ารักเหมือนเดิม...รักน้องบีมากมาย...

รอๆๆๆถึงตอนล่าสุดที่เคยลง  o13

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #38 เมื่อ12-05-2010 21:56:24 »

:mc4:

ยินดีต้อนรับกลับค่า~
:กอด1:

:z13: :z13: :z13:



มารอ
:กอด1:

เด็กๆ จะกลับมาแล้ว :mc4:


:กอด1:

ลงชื่อรอครับ

คิดถึงน้องบีจังเลย
:กอด1:

นึกว่าจะไม่มาอัพซะแล้ว
ยิวดีต้อนรับนะคะ   o13  :call:
:m23: ~ เริ่มไปแล้วก็คงต้องเคลียร์ให้จบอะครับ

:mc4: รออ่านนะครับ

ลงใหม่ก็อ่านใหม่ครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับผม
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ

สู้ๆ ค๊า รออ่านใหม่อีกครั้ง ^^
:กอด1:

มาต่อ ไว ๆๆๆนะ ที่จริงรออ่านตอนที่ 21 และ 22 อยู่นะ อิอิอิอิ เป็นกำลังใจไห้นะครับ
:m23: ~ ถึงตอน 22 แล้วนะครับ

ตกใจหมดเลย ว่าทำไมหายไป กลับมาก็ดีแว้ว :L2:
:กอด1: ~ คิดถึงจัง

โหยยยยยยยยยยยย
ตอนแรกนะเราตกใจอ่ะ  ทำไมหาเรื่องไม่เจอ

ยังไงก็ติดตามอยู่น้า
สู้ๆจ้า
:กอด1: ~ ขอบคุณมากมายครับ

หายไปหลายวันเลยนะพี่เอ นึกว่าจะไม่มาต่อซะแล้วว

เป็นกำลังใจให้นะค๊า^O^
:กอด1: ~ ขอบคุณมากๆๆๆ ครับ

:z13:  พี่เอ

แวะมาให้กำลังใจ อิอิ  :L2:

สู้ๆค้าบบบ
:กอด1: ~ คิดถึงน้องโบ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
:กอด1:

ยินดีต้อนรับกลับเล้าน๊า :mc4:


ก็ว่าแล้วว่าเรื่องหายไป......คิดถึงน้องบีมากมาย...มาเร็วๆๆๆนะเอ o13
:กอด1:

อ่านตามอีกรอบก็ยังน่ารักเหมือนเดิม...รักน้องบีมากมาย...

รอๆๆๆถึงตอนล่าสุดที่เคยลง  o13
:m17: ~ 22 ก่อนแล้วกันนะครับ กลับมาจากสอนเทควันโด ยังไม่ได้อาบน้ำเลยแฮะๆๆ เหนียวตัวมากๆ ไปอาบน้ำก่อน

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #39 เมื่อ12-05-2010 22:08:18 »

กำลังหาอยู่พอดีเลยค่ะ
อ่านถึงตอนที่18แล้ว
เมื่อคืนจะกลับมาอ่านให้ทัน
แต่หาไม่เจอแล้ว
อย่าหายไปอีกนะค่ะ
แล้วก็มาต่อบ่อยๆเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
« ตอบ #39 เมื่อ: 12-05-2010 22:08:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ reneisance

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #40 เมื่อ12-05-2010 22:25:11 »

อย่าหายไปแบบนั้นอีกนะ คนอ่านใจหายอะ ยังไงก็มาต่อตอน 23 24 25 26 ด้วยนะ อิอิอิอิอิอิอิอิ :bye2:

ออฟไลน์ ♥a2k♥

  • 見えないままだって愛しい
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-2
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #41 เมื่อ12-05-2010 22:48:35 »

ดีใจที่กลับมาค่ะ ตอนหายไปตกใจหมดเลย
คิดถึงน้องบี  :กอด1:

Lunaeve

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #42 เมื่อ12-05-2010 22:52:40 »

ชอบบีจัง :mc4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #43 เมื่อ12-05-2010 23:20:07 »

กลับมาแล้ว อย่าหายไปอีกนะ รออ่านตอนต่อไปอยู่

icyblue

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #44 เมื่อ12-05-2010 23:46:03 »

หายไป ตามล่าหาอยู่หลายหน้า ก็หาไม่เจอ  :really2:
ดีใจที่เอ กลับมา  :กอด1: คิดถึงน้องบี น้องอ้น น้องมิว น่าร๊า....ก ทุกคนเลยเนอะ :z2:

มาต่อไวๆนะ  รออยู่ :call:

salemon

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #45 เมื่อ13-05-2010 00:13:08 »

นึกว่าหายไปไหน
คิดพีงน้องบี น้องมิว น้องอ้น น้องต้น พี่เอ(?) :กอด1:

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #46 เมื่อ13-05-2010 00:16:48 »

กลับมาแล้ว ฮือ ฮือ  :monkeysad: ฮือ อย่าหายไปอีกนะ

เปล่า เปล่า ไม่ได้คิดถึงพี่เอ อย่าเข้าใจผิด

เค้าคิดถึง..น้องบี ต่างหาก

ยังโกรธ.. :m16: พี่เอ อยู่นะ โทษฐาน นอกใจ...น้องบี

อ่ะ  :L2: ให้กำลังพี่เอ แทนแล้วกัน  

miz_zu

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #47 เมื่อ13-05-2010 00:41:02 »

(:
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ


( เม้นครั้งนี้ เรียบร้อยมากกกกกกก )

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #48 เมื่อ13-05-2010 12:36:35 »

กำลังหาอยู่พอดีเลยค่ะ
อ่านถึงตอนที่18แล้ว
เมื่อคืนจะกลับมาอ่านให้ทัน
แต่หาไม่เจอแล้ว
อย่าหายไปอีกนะค่ะ
แล้วก็มาต่อบ่อยๆเนอะ
:กอด1:

อย่าหายไปแบบนั้นอีกนะ คนอ่านใจหายอะ ยังไงก็มาต่อตอน 23 24 25 26 ด้วยนะ อิอิอิอิอิอิอิอิ :bye2:
:m23:

ดีใจที่กลับมาค่ะ ตอนหายไปตกใจหมดเลย
คิดถึงน้องบี  :กอด1:
:กอด1:

ชอบบีจัง :mc4:
:กอด1:

กลับมาแล้ว อย่าหายไปอีกนะ รออ่านตอนต่อไปอยู่
:m23: ~ ครับ

หายไป ตามล่าหาอยู่หลายหน้า ก็หาไม่เจอ  :really2:
ดีใจที่เอ กลับมา  :กอด1: คิดถึงน้องบี น้องอ้น น้องมิว น่าร๊า....ก ทุกคนเลยเนอะ :z2:

มาต่อไวๆนะ  รออยู่ :call:
:m13:

นึกว่าหายไปไหน
คิดพีงน้องบี น้องมิว น้องอ้น น้องต้น พี่เอ(?) :กอด1:
:กอด1: ~ กอดคืน

กลับมาแล้ว ฮือ ฮือ  :monkeysad: ฮือ อย่าหายไปอีกนะ

เปล่า เปล่า ไม่ได้คิดถึงพี่เอ อย่าเข้าใจผิด

เค้าคิดถึง..น้องบี ต่างหาก

ยังโกรธ.. :m16: พี่เอ อยู่นะ โทษฐาน นอกใจ...น้องบี

อ่ะ  :L2: ให้กำลังพี่เอ แทนแล้วกัน 
:กอด1: ~ ขอบคุณครับ

(:
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ


( เม้นครั้งนี้ เรียบร้อยมากกกกกกก )
:กอด1:

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
«ตอบ #49 เมื่อ13-05-2010 12:39:24 »

===  ตอนที่ 23 ===



“ซ่า........ฟิ้วววววววว”
        เสียงพายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ต้นไม้ไหวไปมาราวกับมีชีวิต ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่ว ยังไม่รวมกิ่งไม้ผุๆ ที่ถูกกระแสลมลากไปราวกับเด็กๆ กำลังเล่นลากรถ ละอองฝนเล็กๆ ฟุ้งกระจายเข้ามาในห้องเรียน นักศึกษาๆ หลายคนตัดสินใจตากฝนกลับไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงฝนเริ่มรินลงมาใหม่ๆ ส่วนผมยังกลับไม่ได้เพราะต้องเข้าพบท่านอธิการฯเสียก่อน ที่สำคัญวันนี้ผมใส่ชุดสูท แถมผูกไท ส่วนรองเท้าก็ขัดมันวับ จนแทบจะส่องแทนกระจกได้ ผมนั่งเกยแขนตัวเองอยู่ริมหน้าต่างทำหน้าตาเซ็งๆ มองดูพายุฝนที่กำลังตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง

“ทำไมฝนต้องตกเอาช่วงนี้ด้วยฟร่ะ”

        ผมคิดในใจเพราะนี่ก็ปาเข้าไปบ่ายสามจะสี่โมงอยู่แล้วแล้ว ทั้งยังใส่สูทมาอีกจะตากฝนกลับไปก็ใช่เรื่อง เท่านั้นยังไม่พอ ต้องมารอพบท่านอธิการฯ อีกบอกให้มารอตั้งแต่บ่ายสามแล้วยังไม่เห็นวี่แววเลย แล้วที่ผมนั่งเซ็งเป็ดอยู่แบบนั้น ก็เพราะร้อนใจกลัวไปสอนน้องไม่ทันด้วย โทรหาพี่ป้อมก็ไม่ติดอีก โทรหาบีก็ไม่ได้เพราะโทรศัพท์บีอยู่กับผม ผมก็แค่หวังว่าวันนี้มิ้นจะมาเร็วสักหน่อย แต่ฝนตกแบบนี้มิ้นจะมาเร็วได้ไงหว่า เฮ้อ.........

“น้องคะๆ ท่านอธิการเรียกพบคะ”

        พี่สาวคนสวยที่เป็นเลขาหน้าห้องของท่านอธิการยืนเรียกผมอยู่หน้าห้อง ผมเดินตามออกไปเพื่อเข้าพบท่านอธิการซึ่งก็ไม่มีอะไรมากครับท่านเรียกผมมาชมเรื่องผลงานการแข่งขั้นครั้งที่ผ่านมาเฉยๆคุยกันอยู่ไม่ถึงสิบนาทีผมก็ออกมา

“เฮ้อ....มายืนรอเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อคุยไม่ถึงสิบนาที”

        ผมยืนสลดอยู่พักหนึ่ง เหมือนฟ้าฝนจะเป็นใจให้กับความรับผิดชอบของผม เพราะจู่ๆฝนก็ซาลงจนหยุดตกอย่างรวดเร็ว ผมรีบไปขึ้นรถแล้วขับตรงไปที่ชมรมทันทีพอมาถึงผมก็พบน้องมิ้น มิว อ้น ต้นกล้า บี กับน้องๆอีกหลายคนกำลังร่วมแรงร่วมใจกันเช็ดเบาะที่เปียกไปหมดทุกอันเนื่องจากน้ำฝนที่ซึมเข้ามาตามผนังของตึกชมรม   

“พี่เอ ดีครับ / ดีครับพี่ / สวัสดีครับ” น้องๆพร้อมใจกันทักทายมาพร้อมๆกัน
“ไหวไหมเนี่ยะ” ผมเดินไปลองเหยียบๆดู ปรากฏว่าเบาะชื้นมากไป
“ไม่รู้ครับพี่ เดี๋ยวเปิดพัดลมใส่ก็คงแห้ง” มิ้นหันมาพูดกับผม
“พี่เอ ใส่ชุดนี้ดูเท่จังเลย” พูดจบบีวิ่งมายืนข้างๆ ผมแล้วสำรวจสูทผมใหญ่เลย
“ทำไมได้ใส่ชุดนี้มาล่ะครับ” มิวถามอย่างสงสัย
“คือพี่เข้าพบผู้ใหญ่มาครับ มันค่ำแล้วพี่เลยไม่ได้แวะไปเปลี่ยนชุด”
“แล้วพี่จะใส่ชุดไหนสอน” อ้นถามขึ้น
“พี่มีชุดทิ้งไว้ที่นี่อยู่” ผมหันไปยิ้มแล้วลูบหัวอ้น
“พี่เอ” อ้นดึงเสื้อผมให้ผมก้มลง
“ครับ”
“เมื่อกี้บีมันไม่ยอมช่วยงานด้วย มันไปนั่งเล่น พอมันเห็นพี่มามันถึงมาช่วย” อ้นกระซิบข้างๆหูผม
“อืมม” ผมไม่พูดอะไรแต่ลูบหัวอ้นกลับไปเบาๆ

        ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงเบาะยังไม่มีทีท่าว่าจะแห้งทันซ้อม ผมเลยโทรไปหาอาจารย์นกที่สอนอยู่ยิมใกล้ๆกันว่าวันนี้ขอซ้อมร่วม ซึ่งอาจารย์นกก็ไม่ขัดข้องซ้ำยังพูดตอบรับกลับมาอย่างดี ผมจึงพาน้องๆขึ้นรถไปด้วยทีละสองคนไปส่งที่ยิมอาจารย์นก โดยให้มิ้นนั่งเฝ้าแล้วก็คอยบอกผู้ปกครองน้องที่มาส่งทีหลังว่าให้ไปส่งที่ยิมอาจารย์นก การเวียนส่งดำเนินไปเรื่อยจนถึงกระทั่งเหลือ ต้นกล้า มิว บี กับ มิ้น รอบนี้บีขอไปกับมิว จัดแจงเอากระเป๋าวางหน้ารถเสร็จบีก็ขึ้นจองนั่งหน้า ส่วนมิวก็รู้หน้าที่ว่าตัวเองต้องนั่งหลัง แล้วผมก็ออกรถไประหว่างทางก็คุยกันสามคนเรื่องที่ไปเที่ยวกันเมื่อคืนบีเองก็ยังคุยทับมิวเรื่องที่จะให้ตุ๊กตาแล้วก็ให้ได้จริงๆ พักหนึ่งบีก็เงียบลงก่อนหันกลับมาพูดว่า

“พี่เอ~อ~อ~อ~อ~อ”
“ครับ”
“ผมอยากไปบ้านพี่บ้างจัง” มาแปลกแฮะ
“ไปทำอะไร”
“เถอะน่า”
“งั้นนน เป็นเด็กดีก่อน เลิกซ้อมเดี๋ยวพี่พาไป” ผมพูดจบบีนิ่งเงียบเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ไม่เอาๆๆๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“เฮ้ยยย ไม่ได้ พี่ยังพาพวกเรามาส่งไม่ครบเลย นี่มันก็ได้เวลาซ้อมแล้วเนี่ยะ”
“ก็.......................ม่ายๆๆ อยากไปตอนนี้ๆๆๆ” ดื้อจริงวุ้ย
“บี....ไม่ดื้อนะครับ” ผมพูดเสียงแข็งกลับไป น้องบีถึงกับนิ่งเลยทีเดียว

        แล้วก็มาถึงยิมอาจารย์นกมิวลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปซ้อมกับเพื่อนๆอย่างรวดเร็วเว้นแต่ บี ที่ยั่งนั่งเกาะรถเอาไว้อยู่

“บี”
“ถ้าพี่ไม่พาไปผมจะไม่ลง”
“บี.....ลง” ทำไมวันนี้ดื้อจังแฮะ
“ไม่” บีก็ยังยืนกรานเช่นเดิม
“บี” พี่เริ่มหมดความอดทนแล้วนะบี
“ม่ายยยยยยยยย............พี่ต้องพาผมไปบ้านพี่ก่อน”
“บีครับ” ผมขึ้นเสียง
“ม่ายยย อ๊าววววววววววว ถ้าพี่ไม่พาไปยังไงผมก็ไม่ลง ไม่ลง ไม่ ลง ไม่ลง” น้องบีทำท่าหงุดหงิดใส่หน่อยๆ

        วันนี้น้องบีเอาแต่ใจตัวเองแฮะไม่เคยเห็นเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ หรือว่าเริ่มสนิทมากไปเลยเริ่มแผลงฤทธิ์ ผมไม่สนใจ ไม่ลงก็ไม่ลงไปรับคนอื่นต่อเลยแล้วกัน ทำให้รถผมนั่งได้เพิ่มแค่หนึ่งคน ผมเลยต้องวนรับอยู่สามรอบ ผมคิดว่าถ้ารับเสร็จผมก็จะลงจากรถเข้าไปซ้อม ถ้าไม่สนใจเค้าเดี๋ยวเค้าก็ลงมาเองแหละ แล้วผมก็รับส่งน้องจนครบผมลงจากรถแบบไม่สนใจบี เดินเข้าไปในยิมนั่งมองอาจารย์นกสอนผมก็เหล่ๆ ออกมามองบีที่นั่งเกาะรถอยู่ท่าทางไม่ยอมลงจริงๆ แล้วก็หันมามองผมเป็นระยะๆ เหมือนกัน แล้วสุดท้ายก็เป็นผมที่หมดความอดทน ผมเดินออกมาหาน้อง น้องจ้องผมไม่วางตา แล้วผมก็ปรี่เข้าไปกอดน้องจากข้างหลังแล้วอุ้มขึ้นน้ำหนักแค่สี่สิบจิ๊บๆ เลยอุ้มไม่ยากหรอกคนหนักตั้งเก้าสิบผมยังจับทุ่มมาแล้ว แต่.........................ผมยกไม่ขึ้น อ๊ะ ได้ไงกัน ผมแอบชะโงกมองก็พบว่าบีจับแฮนด์มอเตอร์ไซด์ไว้แน่นเลย ส่วนเท้าก็เอาไปเกี่ยวกับที่วางเท้าอีกต่างหาก โอโห แน่นเลยแฮะ ยกออกไงล่ะทีนี้

“แค่ผ่านก็ได้”
        น้องบีพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังพยายามอุ้มน้องบีอยู่ ได้ยินดังนั้นผมก็วางน้องบีลงกับเบาะ
“แค่ผ่านก็ได้ใช่มะ”
“ครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมามองผม
“ได้” แล้วผมก็หันไปหาอาจารย์นกที่กำลังสอนอยู่
“อาจารย์นกครับ ฝากน้องๆเดี๋ยวหนึ่งเดี๋ยวผมมา”
“รีบมานะเอ” อาจารย์นกตอบกลับมา

        แล้วผมก็ออกรถพาบีไปผ่านหน้าบ้านอย่างที่น้องร้องขอ ระหว่างทางจู่ๆบีก็ดูร่าเริงขึ้นมาคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ใหญ่เลยเหมือนกำลังตื่นเต้นอะไรอยู่ จริงๆผมไม่อยากพาน้องไปนะเพราะถ้าเกิดมีปัญหาเดี๋ยวทางบ้านน้องจะตามหาถูก เอ๊ยๆ ไม่ใช่ๆ แล้วพักหนึ่งน้องก็เงียบลงเอนตัวพิงลงมาบนอกผม น้องยกแขนซ้ายมากอดแขนซ้ายผมเบาๆ น้องเริ่มเอียงตัวไปทางไหล่ซ้ายผม แล้วก็หันหน้ามาพิงลงตรงแขนผม แล้วไม่นานก็ถึงบ้านผม

“อะถึงแล้ว” ผมบอกน้อง
“หลังไหนๆๆ” บีถามอย่างตื่นเต้น
“นี่อะ”

        ผมชี้ไปที่บ้านจัดสรรสองชั้นสีขาวหลังคาสีแดง มีบริเวณหน้าบ้านพอจอดรถยนต์ได้สองคัน และ สามารถจัดสวนหย่อมเล็กๆได้หนึ่งสวน รอบๆบ้านด้านซ้ายและขวามีบริเวณห่างจากตัวบ้านหนึ่งเมตรเศษ บีหันไปมอง ผมก็ขับรถให้ช้าลง จนผมขับเลยออกไปเล็กน้อยบีก็ทักว่า

“ไม่จอดอ่ะพี่”
“จอดทำไมเราบอกว่าแค่ผ่านก็ได้”
“พี่อ่า” บีทำเสียงอ้อนสุดๆ

        แต่ผมก็ไม่ได้สนใจแล้วก็ขับเลยไปโดยไม่ได้จอด ชัดเจนแล้วว่าผมไม่จอดแน่บีเลยนั่งพิงมาเหมือนเดิม เอาหน้าพิงแขนซ้ายผม ก่อนน้องจะงับแขนผมลงไปเบาๆแต่ผมก็รู้สึกได้ แล้วผมก็พาน้องไปซ้อมตามปรกติ เพราะอีกไม่กี่วันน้องๆก็ต้องไปแข่งที่จังหวัด def แล้ว ที่ยิมอาจารย์นกจะฝึกซ้อมกันค่ำกว่ายิมผมครับเพราะอาจารย์ยกแยกคอร์สนักกีฬาไว้ต่างหาก น้องๆมาซ้อมร่วมวันนี้เลยได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยกันเลยทีเดียว แล้วระหว่างการฝึกซ้อมน้องตองก็เฝ้ามองน้องบีอยู่เรื่อยๆโดยที่น้องบีไม่รู้ตัวจากเหตุในคราวก่อนทำให้ตองติดใจน้องบีขึ้นมา ผมเองก็เห็นว่าตองมองตามน้องบีเรื่อยๆ แต่บีเองไม่รู้ตัวเลย ยังเดินมาอ้อน มากอด จูงมือ นอนพิง เล่นมือผมอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งตอนพัก ผมไปนั่งพิงกำแพงส่วนบีก็มานอนพิงผมเหมือนเดิมแล้วก็เล่นมือผมไปด้วย อ้น มิว ต้นกล้า มิ้น ตั้ม ก็มานั่งจับกลุ่มคุยกันเรื่องที่จะไปแข่ง คุยไปคุยมาบีก็มาถามผมว่า

“พี่เอ....ไปแข่งพี่เอจะไปรถอะไร”
“รถไฟมั้ง” ผมลูบแก้มบีเบาๆ
“ทำไมล่ะครับ”
“พี่ไม่ชอบนั่งรถตู้ หรือ รถกระบะน่ะ มันอึดอัด”
“งั้นผมไปกับพี่นะ” บีกอดมือผมไว้
“ไม่ไปรถกับอ้นล่ะ”
“ก็.......ผม......อยากไปกับพี่มากกว่า” บีหลบตาผมทำเสียงอ้อนๆเล็กน้อย แล้วกอดมือผมแน่นกว่าเดิม
“ก็ได้ ถ้าป๊า กับ ม๊า เราอนุญาตนะ”
“จริงนะ” บีหันหน้ามาสบตามผม นัยน์ตาเป็นประกายเชียว
“แต่......”
“แต่....” น้องพูดตามแล้วทำท่าทางสนใจในสิ่งที่ผมกำลังจะพูด
“บอกป๊ากับม๊าว่าเราอยากไปกับพี่นะอย่าบอกว่าพี่ชวนหรือพี่ให้ไปล่ะเข้าใจเปล่า” ผมลูบหัวน้องเบาๆ
“ครับๆๆ ได้ๆๆๆ” น้องทำท่าทางดีใจ ผมชอบเวลาน้องดีใจนะครับ รอยยิ้มของน้องทำให้ผมรู้สึกดี ผมเอามือมาลูบริมฝีปากน้องเบาๆ
“เดี๋ยวพี่จะโทรหาป๊ากับม๊าอีกทีหนึ่ง”

        ผมพูดจบน้องบีก็หันหลังนอนพิงผมต่อ แล้วดึงมือผมไปกอดเล่น ระหว่างที่ผมกำลังมีความสุขอยู่หน่อยๆผมก็สังเกตเห็นน้องตองมานั่งอยู่ใกล้ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่มันใกล้พอจะได้ยินเรื่องที่ผมคุยกับน้องบี น้องตองเห็นผมมองน้องก็ยิ้มแหะๆใส่ ไม่นานเท่าไหร่อาจารย์นกก็เรียกซ้อมต่อ ผมก็นั่งมองห่างๆบีเองก็หันมามองผมอยู่เรื่อยๆส่วนตองก็ยังจับตาบีไว้อยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งฝึกซ้อมเสร็จ ผมก็ให้น้องๆยิมผมโทรศัพท์โทรแจ้งผู้ปกครองน้องบางคนที่ยังไม่ทราบว่าเปลี่ยนที่ซ้อมให้มารับที่ยิมอาจารย์นก ระหว่างนั้นตองก็ให้ผมมาสอนเตะท่าแปลกๆอะไรก็ได้ ผมก็สอนโดยมีบีตามประกบอยู่ไม่ห่าง แถมยังคอยแกล้งตองอยู่เป็นระยะๆแบบเดียวกับมิวตอนแรกๆเลย พอผมทำท่าไม่สนใจบีก็จะมากระโดดเกาะแล้วเอาหน้าเกยไหล่ ผมเองก็เซไปบ้าง บีเองพอเกาะได้ก็ไม่ยอมปล่อยผมสะบัดๆ ก็ไม่ยอมปล่อย ตองมองผมเล่นกับบีน้องถึงกับยิ้มเลยทีเดียว จนกระทั่งบีเหนื่อย บีก็ลงมานั่งมองอยู่ใกล้ๆ

“พี่คะ” ตองเรียกผมเบาๆ
“ครับ”
"พี่เอ กับ บีเป็นพี่น้องกันเหรอคะ ?” น้องตองทำหน้าตาสงสัย
“เปล่าครับ”
“เป็นญาติกันเหรอคะ”
“ก็เปล่าอีกนั่นล่ะ ทำไมเหรอครับ ?”
“ก็.......พี่กับบีดูสนิทกันมากๆเหมือนเป็น...............................................” น้องตองไม่พูดต่อแต่ทำท่าทางเขินๆกลับมาแทน ตอนนี้บีเองก็คืบคลานมาเกาะอยู่ที่ขาผม แล้วทำหน้าตาตั้งใจฟังสิ่งที่ผมกับตองกำลังคุยกัน
“เป็น........” ผมพูดย้ำออกไป
“อ๊ะ” น้องตองทำท่าตกในเล็กน้อยเมื่อเห็นบีเกาะขาผมอยู่
“ก็....เหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆเลยอ่ะค่ะ เห็นสนิทกันมากๆ เล่นกันน่ารักดี ถ้าหนูมีพี่ชายแบบพี่ก็คงจะดีนะคะ” พูดจบน้องตองก็ยิ้ม บีเองนอกจากเกาะขาผมก็เอาก้านไม้กวาดดอกหญ้าไปเขี่ยๆ เท้าตองเพื่อเป็นการก่อกวน  ระหว่างที่กำลังคุยกับตองอยู่นั้น อ้นก็เดินมาหาผมแล้วพูดว่า
“พี่เอ.....ตอนไปแข่งผมไปด้วยได้ไหมครับ” บีเงยหน้าขึ้นมามองอ้น
“ได้ซิ ลองขอป๊ากับม๊าก่อนแล้วกัน ถ้าเค้าให้ไปก็ไปด้วยกัน”
“แล้วใครไปกับพี่บ้างครับ”
“ตอนนี้ก็มีแค่บีนะ จะได้ไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ยังไม่ได้ขอป๊ากับม๊าเลย”
“ผมจะลองขอดูนะ”

        อ้นพูดจบก็มองลงไปหาบีที่นั่งเกาะขาผมอยู่ ก่อนจะกลับบ้านไป แล้วไม่นานเท่าไหร่ป๊าน้องบีก็มารับผมนั่งจนน้องๆกลับหมด แล้วก็นั่งคุยกับพี่ป้อมแล้วก็อาจารย์นกจนค่ำถึงแยกย้ายกันกลับ


---------------------------------------------------------------


เมื่อเรื่องที่เขียนวิ่งมาถึงตอนปัจจุบันผมจะมาลงเป็นเป็น DTD แทนนะครับ
Day To Day Sample.....


วันนี้ช่วงประมาณ 17.15 น. ขณะที่ผมกำลังพิมพ์นิยายตอนที่ 23 อยู่

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

“น้องบี Calling”
ผมกดรับสาย
“ฮัลล โหล๋ววววว” น้องบีทักมา
“ว่าไง”
“พี่ วันนี้ผมไม่ได้ไปซ้อมนะ”
“อ้าวทำไมอ่ะ”
“ไปว่ายน้ำมากไปหน่อยเลยไม่สบาย”
“เหรอ เป็นอะไรมากไหมอ่ะ”
“ม่าย ตัวร้อนกับปวดหัวหน่อยๆ”
“อืม”
“พี่ๆแค่นี้ก่อนนะ”

แล้วน้องก็วางสายไป จนกระทั่งโทรศัพท์ผมก็ดังอีกครั้งตอน 20.01 น.

“ฮัลล โหล๋ววววว” น้องบีทักมา
“อือ ทำอะไรอยู่”
“ดูการ์ตูนอยู่”
“ดูกับใคร”
“ดูคนเดียว”
“เหงาไหม”
“ก็...เหงา.......เลยโทรมาหาพี่ไง”
“แล้วคนอื่นไปไหนหมดอ่ะ”
“ไปทานข้าวหมด”
“บีไม่ไปด้วยอ่ะ”
“พี่แป๊บนะๆ” แล้วน้องก็เงียบไปพักหนึ่ง
“มาแล้วๆ” น้องพูดเสียงหอบๆ
“ไปไหนมาอ่ะ”
“น้าไม่ได้ไปอ่ะ”
“หือ”
“ผมไปถามแล้วว่า ‘กลัวผมก่อเรื่องหรือไง’”
“ห๊า!!”
“น้าก็บอกว่า ผมป่วยอยู่จะให้อยู่คนเดียวได้ไง”
“เหอๆ”
“จริงๆกลัวผมก่อเรื่องน่ะสิ หึหึหึ พี่แค่นี้ก่อนนะ”

แล้วน้องก็โทรมาอีกทีตอน 22.15 น. ตอนนั้นผมกำลังนั่งคุย MSN กับต้นหอม แล้วก็ น้องกระต่ายชมจันทร์อยู่

“ฮัลล โหล๋ววววว” น้องบีทักมา
“เฮียบี เฮียบี” เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งลอดเข้ามา
“น้องกลับมาแล้วเหรอ” ผมถามกลับไป
“อือกลับมาแล้ว”
“แล้วบีทำอะไรอยู่”
“นอนอยู่บนเตียง”
“เฮียบี เฮียบี คุยกับใครอะ” เสียงน้องชายของบีแทรกเข้ามา
“ยุ่งๆ ลงไปเลยไป ผู้ใหญ่เค้าคุยธุระกันอยู่”
“.........”
“พี่ต่อๆๆ”
“จะนอนแล้วเหรอ”
“ยังครับ ยังไม่อาบน้ำเลย”
“แล้วไม่สบายจะอาบได้เหรอ พี่ถูตัวให้เปล่า เดี๋ยวถูหลังให้ด้วย”
“อิอิอิ บ้า....พี่อะ.....”
“โป้ง ป๊าง เคร้งๆ” เสียงอะไรสักอย่างตก
“บีเสียงไรอะ” ผมถามไป
“แป๊บนะพี่”
“.......”
“เฮ่ย ไปเล่นข้างนอกเลยไป ถ้าจะเล่นข้างในก็เงียบๆ”
“......”
“ต่อๆๆพี่......”
“บีมีพี่สาวฝากคิดถึงอ่ะ”
“เหรอครับ อิอิ”
“แล้วนี้ดีขึ้นยังอะเสียงสดใสเชียว”
“ก็ดีขึ้นแล้วนะครับ ปวดหัวหน่อยๆ”
“ตัวอะร้อนป่าว ไหนลองเอามือไปแตะๆหน้าผากดิ๊”
“อืมๆ อุ่นๆนะ”
“อะ...เอ่อ...บีดึกแล้วไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดี๋ยวว่างๆโทรมาอีกทีก็ได้เนอะ พี่ทำงานก่อน”
“ก็ได้ เดี๋ยวผมโทรมาอีกที”



To Be Con......

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: น้องชาย ( ลงตอน 22 แล้ว P2 : 12/05/10 )
« ตอบ #49 เมื่อ: 13-05-2010 12:39:24 »





ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 23 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #50 เมื่อ13-05-2010 12:41:16 »

===  ตอนที่ 24 ===


        ท้องฟ้ายามบ่าย ลมร้อนๆ พัดผ่าน นกสักตัวก็ไม่เห็นบินอยู่บนท้องฟ้า ก้อนเมฆสีขาวลอยไปมา แล้ว....แล้ว......แล้วผมจะเขียนอะไรต่อดีน้า..........ผมนั่งใจลอยอยู่เงียบๆ คนเดียวในยิม เดี๋ยวก็ต้องพาน้องๆไปแข่งแล้วสินะ........พี่ป้อมติดธุระ.....อืมมม ผมเคยบอกหรือยังว่าโค้ชที่ดูแลทีมมหาลัยผมเค้าเป็นเพื่อนกับพี่ป้อมอะ หลายครั้งเค้าก็มาช่วยสอนด้วย แต่น้องๆหลายคนไม่ชอบเค้า อ้นเองก็เกลียดโค้ชคนนี้เข้าไส้ถึงขนาดเคย พูดกับผมว่า

        “ถ้าวันไหนครูหนึ่งมาสอน ผมจะไม่เรียน”

แต่ทำไงได้พี่ป้อมไม่ว่างนี่นา ผมเองก็ดูแลคนเดียวไม่ได้ ที่สำคัญโค้ชเค้าเป็นคนต้นเรื่องด้วย แถมยังรับปากเรื่องรถกับที่พักเสียเสร็จสรรพ อืมมม เหตุผลที่อ้นอยากไปกับผมก็คงเพราะไม่อยากเดินทางร่วมกับคนที่เค้าไม่ชอบล่ะมั้ง

“พี่เอ~อ~อ~อ~อ~อ~อ”

        น้องบีเรียกผมแบบลากเสียงยาวๆมาตั้งแต่หน้าประตูขณะที่กำลังถอดรองเท้านักเรียนอยู่ แล้วก็เดินมานั่งบนตักผม ผมสวมกอดน้องไว้เบาๆ แล้วหอมลงไปบนหลังคอน้องก่อนจะหายใจรดลงไปเบาๆ วันนี้บีท่าทางสลดหน่อยๆแฮะ แล้วผมก็ลุกเดินจูงมือพาน้องไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ วันนี้บีไม่แซวแม่ค้าร้านไก่ทอดด้วย

“บี” ผมเรียกบีเมื่อเดินมาใกล้ถึงร้านสะดวกซื้อ
“ครับ”
“วันนี้เป็นไรเงียบๆ” สงสัยฝนจะตกมั้งเนี่ย
“เปล่าครับ”
“ถามป๊ายัง” ผมลูบแก้มบีเบาๆ
“อื่อ” น้องทำคอตกหนักกว่าเดิม ผมรู้แล้วว่าน้องดูสลดเพราะอะไร
“ไม่เป็นไรไปรถตู้ก็ได้” ผมปลอบใจน้อง
“อยากไป....กับพี่.....” น้องบีเงยหน้าขึ้นมามองผม
“น่าๆแป๊บเดียวเองเดี๋ยวเราก็ไปเจอกันที่นั่นแล้ว” 
“อื่ออออ” แล้วพวกผมก็เดินมาถึงร้านสะดวกซื้อนั่นพอดีครับ

“ติ๊งงง ติ่งงงงงงงง”
“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ” พนักงานสาวคนเดิมทักทายตามแบบฉบับราวกับตั้งสวิตซ์ไว้

        ผมเดินโอบคอน้องบีไปที่มุมเครื่องดื่มแล้วหยิบชากับเพียวริขุออกมาอย่างละหนึ่งขวดก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ระหว่างรอจ่ายเงินบีหันมาหาผมแล้วพูดว่า

“พี่” เสียงอ้อนมากๆ
“ครับ”
“ไปถึงที่นั่นแล้ว ผมได้นอนกับใคร”
“ไม่รู้เหมือนกัน ครูหนึ่งยังไม่เห็นบอกอะไรพี่เลย แล้วบีอยากนอนกับใคร” ในใจผมหวังว่าคงจะตอบว่าผมนะ
“อยากนอน.......กับพี่.......” ว่าแล้ว ฮ่าๆๆๆ
“ไม่อยากนอนกับเพื่อนเหรอ เดี๋ยวเหงานะ” ผมทำวางฟอร์ม ไม่ได้ๆ เป็นผู้ใหญ่ต้องมีมาด หึหึ
“ไม่เป็นไร” บียิ้ม ผมก็ยิ้มตาม

        พอจ่ายเงินเสร็จผมก็เดินกลับออกมาผ่านร้านขายไก่ทอดอีกรอบแต่บีก็ไม่แซวแม่ค้าเลยแซวบีก่อน

“น้องๆ วันนี้รับบัตรเครดิตแล้วนะ” พูดจบแม่ค้าขายไก่ก็ยิ้ม แล้วบีก็หันไปหาแม่ค้าขายไก่
“พี่สาว....โตแล้วนะ อย่าพูดเล่นเป็นเด็กๆซิ” พูดจบบีก็หันกลับมาคืน ทำเอาแม่ค้าขายไก่วางตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“บี ไปพูดแบบนั้นได้ไง พี่เค้าแค่แซวเล่นเอง”
“ผมก็แซวพี่เค้าเหมือนกัน ฮะๆๆ” พูดจบบีก็หันไปทำหน้าทะเล้นใส่แม่ค้าขายไก่
“พี่เอ......” ทำเสียงอ้อนอีกล่ะ
“ครับ”
“เมื่อไหร่จะพาผมไปเล่นที่บ้านพี่สักที” บีหันมาทำหน้าตาอ้อนวอน
“อืมมม.......รอพี่ว่างก่อนนะ” ผมลูบหัวบีเบาๆ
“ผมรอนะ.....”

        วันนี้น้องบีดูสุขุมขึ้นมาเล็กน้อยอาจเพราะเครียดเรื่องที่ไม่ได้เดินทางกับผมล่ะมั้ง ทั้งยังดูอ่อนโยนขึ้นมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมายังไงก็ไม่รู้ ผมกอดคอแล้วลูบแก้มน้องเล่นไปเรื่อยๆ แล้วระหว่างที่เดินกลับผมก็เห็นน้องตองยืนแอบมองอยู่ตรงร้านน้าขายน้ำ พอเห็นว่าผมมองมาน้องเค้าก็ยิ้มให้ทันที เพราะหลบก็ไม่ทันแล้ว บีเองก็มองตามผม เห็นตองยืนอยู่ แต่บีก็ไม่สนใจ แล้วการฝึกซ้อมก็เริ่มขึ้นวันนี้เน้นเอากำลังแล้วก็เทคนิคการแข่งขัน ผมเริ่มนำวอร์มอย่างโหดหินสารพัดวิธีที่สรรหามาเพื่อให้น้องๆได้ออกกำลังให้มากๆแต่หลีกเลี่ยงความอ่อนล้าให้ได้มากที่สุด น้องๆในยิมตอนนี้เหงื่อไหลท่วมกันไม่เว้นแม้แต่บี หรือ ตั้ม ที่เหงื่อออกยากๆ เม็ดแล้วเม็ดเล่าจากปลายนิ้วมือ และ ปลายคางหยดลงไปบนพื้นเบาะสีน้ำเงิน หลายคนหอบกันเป็นหมาหอบแดด กระนั้นตองเองก็ยังหันมามองบีเป็นระยะๆ เพราะบีเองก็หันมายิ้มทำตาหวานใส่ผมเป็นระยะๆเหมือนกัน อ่า....หนูตองเหมือนจะสนใจบีนะเนี่ย จนกระทั่งผมสั่งหยุดการวอร์ม

“เอ้าเหนื่อยไหมๆๆๆ” ผมถามเสียงแบบเดียวกับพวกรุ่นพี่ที่สแตนเชียร์
“เหนื่อยยยยยยยยยย”
“ม่ายย เหนื่อยยยยยยยยยย”
        น้องๆหลายคนตอบมา ทั้งๆที่หน้าตายิ้มแย้มเหมือนว่าน้องๆจะสนุกสนานกันนะเนี่ย หลายคนเหงื่อหยดจากปลายคางเห็นๆเลย บางคนยืนเอามือเท้าเข่าหอบแฮ่กๆ
“เดี๋ยวพี่ให้พักห้านาทีนะครับ โชะ”
        สั่งพักเสร็จน้องๆก็วิ่งแตกฮือไปดื่มน้ำกันใหญ่ บีเองก็ด้วย ส่วนผมก็มานั่งพิงกำแพงที่เดิมไม่นานบีก็เดินกลับมาพร้อมชาที่ผมซื้อมา พอมาถึง
“อ่ะ”บียื่นขวดให้ผม
“อื้อ ขอบใจ” ผมรับไว้แล้วบีก็ลงมานอนพิงผมต่อ

        ผมเห็นน้องตองนั่งแอบมองอยู่ห่างๆเวลาที่ผมเล่นหูบี ลูบแก้ม ลูบคอ ลูบริมฝีกผากน้อง หรือ กอดน้อง ตองจะแอบยิ้มเล็กยิ้มน้อยแถมทำท่าเขินๆอีกทั้งๆที่คนที่ถูกกระทำอย่างบี หรือ คนที่เป็นผู้กระทำอย่างผมยังไม่มีท่าทีเขินอายอะไรขนาดนั้นเลย แล้วเมื่อครบห้านาทีผมก็เรียกน้องๆมาซ้อมต่อ โดยผมให้น้องๆเริ่มด้วยการฝึกซ้อมเข้าคู่ ผมเองก็ลงเล่นด้วย ผมให้น้องต่อแถวกันเป็นสองแถวตอนลึกแล้วหันหน้าเข้าหากัน โดยผมให้เตะกันประมาณสองนาที ก็จะให้คนอยู่หัวแถวที่หนึ่งไปอยู่ท้ายแถวที่หนึ่งส่วนคนที่สองก็ให้เลื่อนขึ้นมาอยู่เป็นคนที่หนึ่งแทนแล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งผมได้เตะกับน้องบาส น้องบาสเป็นสมาชิกใหม่ครับ เพิ่งมาเล่นได้ไม่นาน กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ห้าของโรงเรียนอันดับหนึ่งของจังหวัด แต่เนื่องจากบาสมาเล่นไม่นานเลยยังไม่รู้จังหวะการเล่นเตะขึ้นมามั่วมากแล้วในที่สุดก็มีจนได้ ทันทีที่ผมเตะใส่น้อง น้องก็รีบยกขาขึ้นมาเตะคืนทันทีทำให้ผมเตะชนเข้ากับขาบาสจังๆ น้องบาสทรุดตัวลงทันทีด้วยความเจ็บปวด เห็นดังนั้นผมเลยสั่งให้น้องๆทุกคนพักอีกห้านาที แล้วผมก็ประคองน้องบาสไปนั่งที่หลังยิม โดยมีน้องบี กับน้องอ้นวิ่งตามมาอย่างห่วงๆ รั้งท้ายไปหน่อยก็เป็นน้องตอง

“เจ็บตรงไหนอ่ะ” ผมถามน้องบาส
“ตรงแข้งครับพี่” น้องบาสชี้ไปที่จุดที่น้องเจ็บ
“อืมๆ เดี๋ยวก็หาย เมื่อกี้ชนเข่าพี่ไม่แรงเท่าไหร่” ผมปลอบน้องบาส แล้วผมก็หันไปหาอ้น
“อ้นๆ ไปหยิบยานวดมาหน่อยดิ” ผมพูดจบอ้นก็รีบไปไปหยิบยามาให้

        ผมนั่งนวดๆให้น้องบาสอยู่พักหนึ่ง มิวก็อาสามานวดให้แทน ส่วนผมก็เดินไปนั่งพิงกำแพงจุดเดิม บีก็เดินตามมานั่งข้างๆขาผมแล้วเอามือไปลูบๆหัวเข่าผมเบาๆ สายตาน้องบีกำลังบอกผมว่าเค้าเป็นห่วงผมอยู่

“พี่.....เจ็บไหมครับ”
“นิดหน่อย” ผมยิ้มกลับไป
“......” บีนั่งลูบเข่าผมต่อเบาๆ
“พี่...เปิดให้ผมดูหน่อยซิ”
“ไม่เป็นไรหรอก” ผมยิ้ม
“นะครับ” บีจับกางเกงผมไว้
“อ่ะๆๆๆ ก็ได้ๆ” พูดจบผมก็ดึงขากางเกงขึ้นมาเหนือเข้า
“เห็นเปล่า ไม่เป็นไร” ผมพูดจบบีก็เอานิ้วชี้จิ้มๆลงที่เข่าผมเบาๆ ตอนนั้นผมสังเกตว่าน้องตองมาแอบซุ่มอยู่ใกล้ๆ ผมรู้สึกเหมือนถูกจับตายังไงก็ไม่รู้แฮะ
“เจ็บเปล่า” น้องถามแล้วก็เอานิ้วชี้จิ้มๆไปเรื่อยๆ
“จิ้มแบบนี้ก็เจ็บดิ แต่เดี๋ยวก็หายมันเจ็บแบบจุกๆอะ”

        แล้วบีก็เดินไปเอายานวดกับอ้นมาบีบๆลงที่เข่าผมก่อนจะค่อยๆใช้สองมือของน้องนวดลงอย่างนุ่มนวล อืมมมม มีคนนวดให้ด้วยรู้สึกดีแฮะ แล้วน้องตองก็นั่งมองไปยิ้มไป เฮ้อออ น้องตองเนี่ยน้า ครบห้านาทีเสร็จผมก็เรียกน้องๆซ้อมต่อส่วนน้องบาสที่เจ็บขาก็นั่งมองไปก่อนแล้วกัน ตลอดระยะเวลาครึ่งหลังที่ซ้อมบีจะหันมามองผมอยู่บ่อยๆ จนผมรู้สึกว่าพี่ป้อมเองก็เริ่มสังเกตน้องบีขึ้นมาบ้างแล้ว จนอีกสิบห้านาทีหมดเวลาผมก็ให้น้องๆยืดเส้นกันก่อนกลับน้องบีเองก็เรียกผมให้ไปช่วยกดให้ช่วยดันตัวให้ ผมก็เดินดูวนๆไปให้ครบๆกัน น้องอ้นเองปรกติจะแอบเนียนบอกว่าได้แค่นี้ๆวันนี้เลยเจอผมจับฉีกขาซะร้องจ้าขาสั่นระริกเป็นเจ้าเข้าเลยทีเดียวแต่ก็ยังยิ้มสู้อยู่ มิว ต้นกล้า และคนอื่นๆก็ได้พบประสบการณ์เดียวกัน จนกระทั่งซ้อมเสร็จน้องๆหลายคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือแต่น้องๆขาประจำกลุ่มเดิมๆที่มานั่งล้อมวงคุยกันเรื่องที่จะเดินทาง พี่ป้อมเองก็มานั่งคุยด้วย

“พี่เอ....พี่ไปไม่ไปกับพวกผมเหรอ” น้องต้นกล้าถามขึ้น
“อืมม พี่ไม่ชอบนั่งรถตู้อะ”
“แล้วเอจะไปเจอน้องที่ไหน” พี่ป้อมถาม
“ผมว่าจะไปก่อนแล้วไปรอน้องๆ มาชั่งน้ำหนักที่สนามแข่งเลย พอน้องๆไปชั่งน้ำหนักเสร็จค่อยไปโรงแรมพร้อมกัน”
“พี่เอ...ผมอยากไปด้วย” มิวทำเสียงอ้อน
“ขอที่บ้านยัง ถ้าที่บ้านให้ไปพี่ก็ให้ไป”
“ขอแล้ว แต่ป๊าไม่ให้อะพี่เอ” อ้นพูดจบก็เกาะแขนซ้ายผม
“นั่นดิพี่เอ” บีพูดจบก็เกาะแขนขวาตาม
“อิอิอิ” ตองหัวเราะเบาๆ
“อะไรพี่ตอง” น้องอ้นถามตอง
“เปล่า ดูเกาะพี่เอกันซิ เหมือนพ่อลิงกับลูกลิงเลย อิอิอิ” ตองหัวเราะเบาๆ
“เง้อออ ผมน่ารักกว่าลิงอีก อิอิ” บียิ้ม
“เฮอะ!!” อ้นส่งเสียงออกมาเหมือนไม่พอใจหน่อยๆ แล้วขยับตัวขึ้นมานั่งบนตักผมทันที ทันทีที่อ้นขึ้นมานั่งบนตักผมบีก็หันมามอง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“พี่เอ” อ้นทำเสียงอ้อนๆแล้วหันมามองผม
“ครับ”
“ถ้าไม่ใช่รถตู้พี่เอไปไหมอะ”
“ถ้าไม่ใช่รถตู้เหรอ อืมมม ก็ได้นะ ที่ไม่นั่งอัดกันมากๆอะ”

        ผมพูดจบอ้นก็ดึงมือผมไปสวมกอดตัวเค้าเหมือนที่ผมเคยกอดบีบ้าง  พอบีเห็นดังนั้นบีไม่พูดอะไร แต่ดึงมือผมข้างหนึ่งไปกอดไว้แทน  ตอนนั้นไม่มีใครทันสังเกตนอกจากหนูตองเพียงผู้เดียวเพราะเค้ากำลังคุยกันเรื่องอื่นกันอย่างสนุกสนานจนน้ำลายแตกฟองเลยทีเดียวแล้วเวลาก็ผ่านไป น้องๆกลับกันไปทีละคนสองคนจนเหลือผม มิว กับน้องบี สามคน

“ค่ำแล้วอะ” ผมพูดลอยๆออกไป
“พี่ก็ไปส่งพวกผมซิ” บีตอบกลับมา
“ช่ายๆๆ อยากให้พี่เอไปส่ง” มิวเสริมขึ้นมา
“ก็ได้ แต่โทรบอกที่บ้านก่อนนะ โทรเสร็จแล้วก็ปิดไฟให้ด้วย”

        ผมพูดจบบีก็เดินใล่ปิดไฟในยิม ส่วนมิวปิดแค่ไฟห้องน้ำกับพัดลมเสร็จก็เดินออกไปรอนอกยิมเลย ส่วนบีเดินไล่ปิดไฟจากหน้ายิมไปหลังยิม พอปิเสร็จยิมก็มืดพอดี มีเพียงแสงไฟจากถนนเท่านั้นที่ส่องเข้ามา ผมยืนรอบีอยู่ที่โต๊ะ บีปิดเสร็จก็เดินมาหาผม ผมเอามือโอบไหล่บีไว้หลวมๆ แล้วขณะที่กำลังจะเดินออกไป.......ผมหยุดเดินเอามือดึงบีไว้แล้วทันทีที่บีหยุดเดินแล้วกันมาเหมือนจะมองว่าเกิดอะไรขึ้น.......

        ผมก็ก้มลงจูบน้องบีเบาๆ......บียืนนิ่งไม่ไหวติง ผมสอดลิ้นออกมาสัมผัสไปที่ริมฝีปากนุ่มๆของน้องก่อนจะกดลิ้นเข้าไปเล็กน้อยจนไปชนเข้ากับฟันของน้อง แล้วบีก็เอามือขึ้นมาดันอกผมเบาๆ ผมค่อยๆขยับหน้าออกมาช้าๆ ก่อนจะจูบลงไปที่หน้าผากของบีเบาๆ แล้วสิ่งที่ผมไม่คิดก็เกิดขึ้น! เมื่อผมหันออกมาที่หน้ายิม ผมเห็นมิวยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบีเองพอเห็นว่ามิวยืนมองอยู่ก็ถึงกับวางตัวไม่ถูก ผมเองก็เช่นกัน

“ป่ะๆๆ ค่ำแล้วๆ ฮะๆ”

        ผมพูดแบบยิ้มๆแล้วก็หัวเราะแบบกลบเกลื่อน แต่มันคงไม่ช่วยอะไร ไม่รู้ว่ามิวเห็นตั้งแต่ตอนไหน ผมจูงมือบีออกมาที่หน้ายิม มิวเองก็เงียบไปเลย แล้วขณะที่ผมกำลังจะปิดยิม แสดงไฟจากรถคันหนึ่งก็สาดส่องมาที่หน้ายิม ผมหันกลับไปมองก็พบ New C-Class คันหนึ่งจอดเทียบฟุตบาท ใช่แล้วครับ รถที่บ้านน้องบี แล้วประตูรถก็เปิดออก เป็นป๊าน้องบีนั่นเองที่มารับ

“พี่เอ สวัสดีครับ” ป๊าน้องบีทักทายผมทันทีที่ปิดประตูรถเสร็จ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ป๊าน้องบี
“สวัสดีครับ” มิวไหว้ตาม
“ขอโทษด้วยวันนี้มัวแต่ไปดูลูกค้ามาเลยมารับช้า”  ป๊าน้องบีเดินมายืนข้างๆน้องบี
“อ่าครับ กำลังว่าจะไปส่งพอดีเลย”
“เออ นี่พี่เอ เรื่องที่จะไปแข่งที่ จังหวัด def ยังไงก็ฝากพี่เอดูแลน้องบีด้วย” ป๊าน้องบีพูดไปยิ้มไป
“อะ...เอ่อ....ได้ครับ” ตอนนั้นผมสังเกตว่ามิวหันมามองผมที มองบีที
“ไงเดี๋ยวป๊ากลับก่อนนะ บี สวัสดีพี่เค้าก่อน”
“สะ...สวัสดีครับ” พูดจบบีก็เดินไปเปิดประตูรถเข้ารถไป ส่วนป๊าน้องบีก็เดินยิ้มๆให้ผมก่อนจะขึ้นรถแล้วรถคันนั้นก็แล่นออกไป....
“มิว....เมื่อกี้…..” ผมยืนนิ่ง
“ไม่เป็นไรหรอกพี่”
“คือ.....”
“ผมไม่บอกใครหรอกครับ” มิวพูดจบก็เดินมาจับมือผมเบาๆ
“ขอบใจนะ”
“ปะ....กลับบ้านกันพี่” น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นท่าทางสดใสร่าเริงของมิวในเวลาช่วยให้ผมโล่งใจขึ้นมากเลยทีเดียว......


To Be Con




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
การแข่งขัน ท่ารำ หรือ พุมเซ่
การแข่งท่ารำโดยปรกติแล้วในรายการใหญ่ๆเช่น กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ กีฬามหาวิทยาลัยแห่งชาติ กีฬาเยาชนแห่งชาติ การกีฬาแห่งชาติ จะให้นักกีฬาใช้ท่ารำในการแข่งขันอยู่ทั้งหมด 4 ท่ารำคือ
1. Chil Jang ( สายน้ำตาลขั้นที่ 1 )
2. Pal Jang ( สายน้ำตาลขั้นที่ 2 )
3. Koryo poomse ( สายดำดั้งที่ 1 )
4. Kumkang poomse ( สายดำดั้งที่ 2 )
ส่วนในการแข่งขันระดับภาค หรือ ระดับจังหวัด จะมีการแบ่งช่วงอายุด้วย เช่น อายุไม่เกิน 10 ปีจะใช้ท่ารำ il Jang และ I Jnag เป็นต้น ดังนั้นความกังวลสำหรับเด็กนั้นลดลงไปในเรื่องการแข่งขันที่ต้องใช้ท่าที่ยากเหมือนรายการแข่งขันใหญ่ๆ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 24 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #51 เมื่อ13-05-2010 12:42:29 »

===  ตอนที่ 25 ===



“จิ๊บๆๆๆ”

        เสียงนกอะไรสักอย่างส่งเสียงรบกวนการพักผ่อนของผมจนต้องลืมตาขึ้นมามอง แสงแดดอ่อนๆยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบตู้เสื้อผ้าของผม เช้าแล้วซินะ วันนี้ทำไมโทรศัพท์ผมไม่ดังเตือนล่ะ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา

“06.12 น.”

        เฮ้อ....ผมตั้งปลุกที่ 07.00 น. นี่นา ดังตอนนี้ก็คงได้เตรียมซื้อเครื่องใหม่แน่นอน...ผมนอนเอียงตัวมองไปนอกหน้าต่างใจลอยอยู่อย่างนั้น.......แต่ไม่นานผมก็ตัดสินใจลุกไปอาบน้ำดีกว่า วันนี้วันเดินทางไป จังหวัด def แล้ว ต้องจัดเตรียมของก่อนยังเพราะไม่ได้เตรียมเลย เสื้อผ้าก็รีดห้อยไว้ยังไม่ได้พับลงกระเป๋าเลย ผมเดินลงมาจากชั้นสองอย่างช้าๆก่อนจะเริมภาระกิจส่วนตัว แล้วก็ตามด้วยการเก็บของลงกระเป๋า ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยเห็นจะเป็น PSP กับกล้อง Digital แล้วก็มือถือ อืมๆๆ แล้วขณะที่ผมกำลังเก็บของอยู่อย่างใจเย็น

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

“พี่ป้อม Calling”
“ครับพี่”
“น้องชายทำอะไรอยู่”
“เก็บของลงกระเป๋าครับ จะเสร็จแล้ว”
“เรารู้ทางไปสนามแข่งใช่ไหม”
“ครับ”
“คือคุณพ่อน้องอ้นโทรมาบอกพี่ว่าเค้าจะเอารถส่วนตัวไป แต่ไม่ทราบทางเลยจะให้เราไปด้วย”
“เอ่อ...คือ ผมจะไปทางรถไฟอะพี่”
“ซื้อตั๋วยัง”
“ยังเลยครับ”
“งั้นก็ไปกับอ้นแล้วกัน เนี่ยะเค้าบอกว่าอยากให้เราไปด้วย”
“เอ่อ...คือ”
“น่าๆ ประหยัดเงินค่ารถด้วย”
“กะ...ก็ได้ครับ”
“ก็เวลาเดินทางตามกำหนดนะ ไปเจอกันที่ยิมก่อน”
“ครับพี่”
“ฝากด้วยนะไอ้น้องชาย”
“ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดดด ตู๊ดดดดดด”

        ผมยืนนิ่งๆตั้งสติอยู่แป๊บหนึ่ง เนื่องจากนี่ไม่ได้อยู่ในแผนการใช้ชีวิตของผม แผนเดิมคือผมอยากออกตั้งแต่เช้าสักเก้าโมงสิบโมง นั่งรถไฟชั้นสาม เปิดหน้าต่าง ตากลม ฟังเพลงไปเรื่อยๆ พอถึงจังหวัด def ผมก็จะไปเดินเล่นก่อนสักสองสามชั่วโมงค่อยหารถต่อไปสนามแข่ง แล้วจู่ๆแผนก็มาเปลี่ยนซะงั้น ผมเริ่มเก็บของช้าลงเพราะตามกำหนดการณ์เดินทางของทีมจะเดินทางกันตอนบ่ายสาม แต่นี่เพิ่งจะเกือบเก้าโมงเอง ผมยืนสลดที่ถูกเปลี่ยนกำหนดการณ์ชีวิตโดยคนอื่นอยู่หน่อยหนึ่งก็เก็บของต่ออย่างใจเย็น เก็บของเสร็จผมก็เปิดเนทนั่งดูโน่นดูนี่ฆ่าเวลา ผมว่าจะไปนั่งเล่นอยู่ที่ยิมสักเที่ยงๆไม่ก็บ่ายโมงรอน้องๆมา แล้วพักใหญ่ๆโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

“ป๊าน้องบี Calling”

        อ๊ะ!! ป๊าน้องบีโทรมาทำไมกันช่วงนี้

“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับพี่เอ”
“ยุ่งอยู่หรือเปล่า”
“ไม่ครับ”
“คือตอนนี้น้องบีอยู่โรงพยาบาลนะ”
“น้องเป็นอะไรเหรอครับ”
“คือเมื่อคืนน้องบีเป็นอะไรไม่รู้จู่ๆก็ปวดท้อง”
“ปวดท้อง...น้องอาการหนักไหมครับ”
“คุณหมอบอกว่าวันนี้ให้เฝ้าดูอาการจนกว่าจะสี่ทุ่ม”
“คุณหมอบอกว่าเป็นอะไรเหรอครับ”
“คุณหมอยังไม่ทราบเลยครับกำลังรอสังเกตอาการอยู่”
“อ่า.....ครับ”
“คือ.....พี่เอ......น้องบีคงไม่ได้ไปด้วย ไงฝากพี่เอบอกครูป้อมให้ด้วยนะ”
“ได้ครับ”

        อ่า....บีไม่ได้ไปซะงั้น.....อืมมม น้องจู่ๆมาป่วยอะไรเอาวันนี้นะ.....ผมรู้สึกห่วงน้องบีจัง ปรกติเป็นเด็กแข็งแรงนี่นา อืมมมม ผมนั่งเล่นไปเรื่อยๆคิดถึงเรื่องการแข่งขันแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วแป๊บเดียวก็เกือบๆจะบ่ายโมงแล้ว ผมเอากระเป๋าใบไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ลากขึ้นรถแล้วก็ไปที่ยิม พอมาถึงผมก็ยังไม่เจอใคร ผมเข้าไปแล้วเช็คของที่เตรียมไปใช้ในการแข่งขันให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่ขาดตกบกพร่องให้ต้องวิ่งไปยืมชาวบ้านเค้า  ระหว่างนั้นน้องมิ้นก็มา แล้วน้องคนอื่นๆก็ทยอยๆกันมาเรื่อยๆ โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองน้องๆมาส่งข้าวของเครื่องใช้ก็เอามาพะรุงพะรังพร้อมร่ำลาสั่งเสียกันปานกับเตรียมไปอออกรบเลยทีเดียว

        จนเวลาประมาณบ่ายสองเกือบๆบ่ายสามน้องอ้นก็มาที่ยิม ผมไม่ได้ถามอะไรมากมาย แล้วบ่ายสามโมงโค้ชหนึ่งก็เดินทางมาถึงแล้วก็เรียกน้องๆรวมกลุ่มเพื่อชี้แจงรายละเอียดการเดินทางและกำหนดการคร่าวๆให้น้องๆและผู้ปกครองฟัง แถมยังมีติดเซอร์ไพรส์ให้น้องในชมรมของมหาลัยผมติดตามไปโดยไม่แจ้งอีกต่างหาก แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะรถตู้นั่งได้แค่สิบสี่คนครับ แต่มีคนไปยี่สิบเอ็ดคนแล้วโค้ชของเราก็เริ่มหาทางลงจากปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้น

“เอ่อ....มีใครเอารถไปเองบ้างไหมครับ”
“.......” สิ้นคำถามจากปากโค้ช ก็ไม่มีคำตอบใดๆกลับจากน้องๆและผู้ปกครอง ผมเองก็ไม่พูดอะไร
“เอาไงดีล่ะ” โค้ชพูดบ่นกับตัวเอง
“......” ไม่มีใครออกความเห็มเพิ่มเติม ทุกอย่างยังเงียบสงบราวกับไม่มีใครนั่งอยู่แถวนั้น
“ไม่มีใครเอารถส่วนตัวไปเองเลยเหรอครับ” โค้ชถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดๆอีกครั้ง
“.......” ไม่มีใครตอบ แล้วจู่ๆ อ้นยกมือขึ้นแล้วพูดว่า
“ผมเอารถส่วนตัวไปครับ” เท่านั้นแหละโค้ชได้ทีรีบถามต่อเลยว่า
“เอารถอะไรไป”
“Mitsubishi Space Wagon” อ้นตอบกลับแบบห้วนๆไม่มีหางเสียง
“เหรอ ดีเลย เจ็ดที่นั่งใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นฝากเพื่อนๆไปด้วยอีกห้าคนได้ไหม”
“ไม่!!” อ้นตอบเสียงแข็งกลับมา
“ก็....” ยังไม่ทันที่โค้ชจะพูดอะไรจบ
“ผมให้แค่พี่เอ กับ มิวไปด้วยแค่นั้น”
“แต่ว่ายังมีที่ว่างอีกนี่นา” โค้ชพยายามพูดต่อ
“นี่เป็นรถผม ผมจะให้ใครไปด้วยก็เป็นเรื่องของผม”

        โค้ชยืนอึ้งเหมือนถูกเด็กเตะเข้าเต็มหน้าเลยทีเดียว ผลสรุปก็คือรถที่นั่งได้แค่สิบสี่คนจำต้องนั่งไปสิบแปดคนเมื่อถึงเวลาเดินทางผมก็เอากระเป๋าไปขึ้นรถอ้น โดยอ้นให้มิวนั่งหน้ากับคุณอาที่อาสามาขับรถให้ส่วนอ้นเองมานั่งเบาะกลางกับผม ส่วนเบาะหลังก็เก็บกระเป๋าสัมภาระไว้ เมื่อพร้อมรถทั้งสองคันก็วิ่งออกไปตามๆกัน ทันทีที่รถออก มิว กับ อ้น ก็คุยกันอย่างออกรส ผมเองก็ได้แต่นั่งยิ้มๆเพราะเค้าคุยเรื่องที่ผมไม่สนใจเท่าไหร่ พักใหญ่ๆมิวเริ่มมีท่าทีสลึมสะลือก่อจะผลอยหลับไป อ้นเองก็มีท่าทีหาวนอนเหมือนกัน ก่อนที่จะเอนตัวมาพิงไหล่ผมหลับไปแต่ว่าพิงไหล่รถสั่นทีน้องก็สะดุ้งตื่นที น้องอ้นเลยเปลี่ยนลงมานอนหนุนตักผมแทน พอหาจุดสบายได้ก็ดึงเอามือผมข้างหนึ่งไปกอดไว้ พอเด็กๆหลับหมดผมเลยเริ่มนั่งคุยกับคุณอาน้องอ้นไปเรื่อยๆ

        แล้วเราก็จอดพักกันกลางทาง ณ ปั้มชื่อดังแห่งหนึ่งน้องๆหลายคนวิ่งๆออกไปซื้อของทีร้านสะดวกซื้อร้านนั้นกันอย่างสนุกสนานประหนึ่งสนามเด็กเล่นก็ไม่ปาน ผมเองหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินตามน้องๆเข้าไป หยิบเอาชามาสองขวดแล้วก็ขนมปังสองชิ้น ก่อนจะเดินมายืนรอที่หน้าร้านกาแฟชื่อดัง เพราะรถจอดอยู่หน้าร้านนี้พอดี ไม่นานนักอ้นกับมิวก็เดินถือถุงขนมมาหาผมโดยที่คุณอาของอ้นเดินตามมาติดๆ

“มิว อ้น จะไปเปิดร้านขนมบนรถเหรอ” ผมแซวไป
“ป่าววว เค้าเรียกเตรียมพร้อมพี่” มิวตอบกลับมาแล้วยิ้มๆ
“ถูก.....จะได้ไม่ต้องแวะบ่อยๆไง” อ้นเสริม
“ช่าย....จะทำอะไรต้องเผื่อไว้” มิวตามอีกดอก
“จริง....เหลือย่อมดีกว่าขาด” อ้นเสริมอีกครั้ง

        ผมกับอาของอ้นได้แต่ยืนยิ้ม แล้วเราก็กลับขึ้นรถกัน พอรถออกไปได้ไม่นานอ้นก็มานอนหนุนตักผมอักล่ะ มิวเองก็ทำท่าง่วงๆก่อนจะหลับตามไป อาของอ้นขับนิ่มมากเลยครับ ไม่รู้เพราะรถเค้าดีหรือเปล่า อืมมมม ระหว่างทางอาของอ้นก็เปิดเพลงเบาๆทำเอาผมเคลิ้มเกือบหลับไปหลายรอบ แล้วจู่ๆอ้นที่กำลังหลับอยู่บนตักผมก็เกิดเมื่อย หรือ ท่านี้ไม่ถูกใจขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ ดึงมือผมที่อยู่ตรงขอบเสื้อขึ้นมา นิ้วผมก็เกี่ยวกับเสื้อน้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เสื้อของน้องเลิกขึ้นมาถึงหน้าอก (ตามสรีระเวลาเราหันมือเข้าหาตัวปลายนิ้วมักชี้เข้าหาลำตัวใช่ไหมครับ ไม่เชื่อลองนั่งตอนนี้ เอามือวางไว้ที่ขอบเสื้อแล้วลากแบบแนบเนื้อขึ้นมาจนถึงอกดูซิ ) นั่นแหละฝ่ามือผมลอดเข้าไปในเสื้อน้องแล้วน้องก็วางแปะลงบนอกน้อง ตอนนั้นเสื้อน้องเปิดขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องน้องชัดเลยผมเองก็ตกใจไม่ใช่น้อยๆ อาของอ้นหันมามองผ่านกระจกมองหลังอย่างเร็ว ผมก็มองกลับไป แล้วขณะที่กำลังดึงมือออกมาอย่างช้าๆได้หน่อยหนึ่ง อ้นก็คว้าหมับเข้าไปวางไว้ตรงอกอีกครั้ง ผมมองมาที่อาของอ้นแล้วฟองด้วยสายตาว่า

“น้องดึงมาเองครับ น้องดึงมาเอง เห็นป่าว ชัดเลยเมื่อกี้ เอาออกแล้วยังดึงกลับมาคืนเลย”

        อาของอ้นยิ้มเล็กๆมุมปาก ผมกินปูนร้อนท้องไปซะแล้ว มันก็แค่อุบัติเหตุไม่เห็นต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นเลย แต่คุณอาของอ้นก็เหมือนจะไม่ได้ติดใจอะไรนี่นา ผมถอนหายใจเงียบๆคนเดียว ตอนนั้นผมรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจอ้นชัดเจนเลยแฮะ แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมวางมือลงบนตัวอ้นนานขนาดนี้ ผมหันลงมามองอ้นที่กำลังหลับอยู่อย่างสบายบนตักผม จะว่าไปอ้นเองเวลาหลับก็น่ารักดีนะ ผิวหน้าเรียบเนียนใสตามวัย ปากแดงๆผมชมพูหน่อยๆไม่มากเท่าบีแต่ก็ถือว่าเป็นเด็กที่สุขภาพดีคนหนึ่งเลย  ประมาณเกือบสองชั่วโมงหลังจากพักที่ปั๊มเราก็ใกล้มาถึงสนามแข่งครับ

“อ้น ตื่นๆ” ผมส่งเสียงปลุกอ้นเบาๆ
“อื่อ...” อ้นลืมตาขึ้นมาช้าๆ
“ถึงแล้วเหรอ” เสียงอ้นงัวเงียสุดๆ
“อื่อ” ผมตอบกลับไปแล้วอ้นก็ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งแล้วมองไปรอบๆ
“มิวๆ ตื่นๆ ถึงแล้ว” ผมเรียกมิวเบาๆ

        มิวค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วเอามือขึ้นขยี้ตาก่อนจะนั่งมองไปรอบๆแบบเดียวกับอ้น แล้วไม่นานรถก็จอดครับ

“เอาลงๆๆ” ผมเรียกน้องๆลงจากรถ พอลงจากรถได้อ้นก็วิ่งมาจับมือผมไว้แล้วก็เดินไปกับผม มิว กับ คุณอาเองก็เดินตามมาติดๆ
“ถึงแล้วซินะครับ สนามแข่งขัน” อ้นพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น ผสมอาการงัวเงียหน่อยๆ
“อื่อใช่” ผมหันไปบอกอ้น
“แล้วตอนชั่งน้ำหนักต้องถอดเสื้อผ้าแบบนักมวยไหมพี่” มิวถาม
“ต้องซิครับ ต้องถอดให้เหลือน้อยชิ้นที่สุดเลยล่ะ” ผมหันไปมองมิวกับอ้นที่กำลังรอฟังคำตอบแล้วยิ้ม


To Be Con.....




เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
คะแนนการแข่งขัน ท่ารำ หรือ พุมเซ่
กรรมการตัดสินนั้นจะมีอยู่หลายท่านครับ ที่เห็นๆเลยก็มี4 – 6 ท่าน โดยก่อนเริ่มแข่งขันเราจะได้มาเต็มๆเลย 10 คะแนนครับ และ เมื่อเริ่มแข่งขันทุกครั้งที่เราทำท่าผิดเราจะถูกตัดทันที 0.5 คะแนน แต่ถ้าเราทำไม่สวยพอก็จะถูกตัดครั้งละ 0.25 คะแนน ซึ่งเราจะไม่รู้ผลจนกว่าเราจะรำจบครับ แล้วถ้าไม่แน่ใจสามารถกลับมาเริ่มใหม่ได้ แล้วก้ถูกหักคะแนนใหม่อีกรอบถ้าผิดที่เดิมอีก คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ เนียนเข้าไว้ครับ ผิดก็จะอย่าหยุด อย่ากระตุก อย่าทำท่าตกใจ อย่าทำท่าลังเล จงทำไปเรื่อยๆอย่างมั่นใจที่สุดครับ

ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 25 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #52 เมื่อ13-05-2010 12:44:19 »

===  ตอนที่ 26 ===



        ณ สนามแข่งขันเสียงผู้คนดังจ้อกแจ้กจอแจไปหมด ผม อ้น แล้วก็มิวกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าสนามแข่งเพื่อรอรถตู้อีกคันที่วิ่งตามหลังมาแต่คลาดกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ตอนนั้นหลายๆทีมที่มาถึงต่างพากันทยอยเข้าไปรายงานตัวชั่งน้ำหนักกันเรื่อยๆ เกือบสิบห้านาทีผ่านไปกับการนั่งมองทีมอื่นเดินผ่านไปผ่านมามันช่างเป็นเรื่องที่น่าเบื่อจริงๆเลยเชียว อาของอ้นก็ปรับที่นั่งเอนหลังพักผ่อนสายตาอยู่ในรถไปเรียบร้อยแล้ว

“พี่ไปเดินเล่นปะ” มิวสะกิดผมเบาๆ
“อื่อ ไปเดินดูรอบๆปะ” อ้นเสริมตามขึ้นมา
“แล้วถ้ารถตู้มาอะ”
“ก็โทรไปบอกให้เค้าโทรหาพี่ซิ นั่งรอแบบนี้น่าเบื่อจัง” อ้นบ่นพึมพำ
“อะๆ ปะๆ”

        พูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วก็พาน้องๆเดินไปดูรอบๆเพื่อเป็นการฆ่าเวลา มิว กับ อ้น ดูจะตื่นเต้นมากๆ แต่ดูไปแล้วมิวตื่นเต้นที่สุดเพราะนี้เป็นการลงแข่งขันครั้งแรกของมิว แต่อ้นเองเคยลงแข่งมาก่อนหน้านี้แล้ว ผมพาน้องลงไปดูสถานที่สำหรับฝึกซ้อมที่ทางเจ้าภาพจัดไว้ให้ ตอนนั้นมีคนซ้อมอยู่เต็มไปหมดจนบางทีมต้องมายืนรอต่อคิวใช้สถานที่กันเลยทีเดียว เรายืนดูกันอยู่พักหนึ่ง

“พี่ๆ” มิวดึงแขนเสื้อผมเบาๆ
“ครับ”
“พาผมไปดูที่เค้าชั่งน้ำหนักหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิ”

        แล้วผมก็พามิวกับอ้นเดินไปบริเวณสำหรับลงทะเบียนและชั่งน้ำหนัก ระหว่างทางอ้นมีแหย่มิวเรื่องการต้องถอดเสื้อผ้าเป็นระยะๆเพราะอ้นรู้ว่ามิวอายที่จะให้ใครเห็นร่างกายของตัวเองมากๆ ขนาดเปลี่ยนชุดด้วยกันมิวยังแอบๆไปเปลี่ยนอยู่มุมเงียบๆคนเลย

“พี่ๆ” มิวเรียกผม
“ครับ”
“เค้าถอดตอนจะขึ้นตราชั่งหรือเปล่าครับ”
“ไม่ เค้าให้ถอดข้างนอก แล้วค่อยเข้าไปชั่ง” อ้นตอบแทนผม
“อื่อ เค้ามีห้องถอดเสื้อผ้าให้ไม่ต้องอายหรอก” ผมลูบหัวมิวเบาๆ
“แล้วผู้ชาย กับ ผู้หญิง เค้าชั่งห้องเดียวกันไหมอะครับ” มิวถามแบบอายๆ
“อยากดูล่ะซิ” อ้นยิ้ม มิวมองอ้นแล้วทำท่าเขินๆ
“เปล่า เค้าแยกกันครับ ผู้ชายก็ผู้ชาย ผู้หญิงก็ผู้หญิง”
“เหรอ” มิวทำหน้าโล่งใจ

        ไม่นานนักเราก็มาถึงห้องลงทะเบียนและชั่งน้ำหนักครับ พอมาถึงก็เห็นมีน้องๆผู้ชายยืนรอชั่งน้ำหนักกันอยู่หน้าห้องหลายสิบคนเลย บางคนก็ใส่แค่กางเกงใน บางคนก็ใส่กางเกงบ๊อกเซอร์แค่ตัวเดียวเล่นหยอกกันไปมาระหว่างรอชั่งน้ำหนัก เวลานี้ผมว่าใครเป็นพวกโชตะคอนสงสัยจะได้เลือดหมดตัวกันเลยทีเดียว โดยตรงข้ามห้องชั่งน้ำหนักจะมีห้องสำหรับเปลี่ยนชุดอยู่ แต่น้องๆส่วนใหญ่ดูเหมือนว่าจะลงแข่งกันบ่อยแล้วสำหรับการถอดเสื้อผ้ารอชั่งน้ำหนักเลยไม่ใช่เรื่องน่าอาย อีกอย่างมุมตรงนี้ก็จะมีแค่ผู้ดูแลทีม กับนักกีฬา และ กรรมการเท่านั้นที่เข้าได้ มาถึงตรงนี้เมื่อมิวได้เห็นกับสถานที่จริงถึงกับยืนหน้าแดงร้อนฉ่าเลย อ้นเองก็ทำตัวเฉยๆ

“Ichiban Yari Ore Ga itadaki Kiri Komi Taichou Kagamine Len Da”

“โค้ช Calling”

“ครับพี่”
“อยู่ไหนกันเนี่ยะ” โค้ชทำทำเสียงหงุดหงิดใส่ผม
“อยู่ตรงห้องลงทะเบียนชั่งน้ำหนักพี่”
“เออ แล้วอยู่ส่วนไหนละ” โค้ชทำเสียงหงุดหงิดใส่ผมเหมือนกับผมไปพูดกวนเท้าเค้ายังงั้นแหละ
“ข้างหลังพี่ มาถึงก็เดินตรงจากข้างหน้า ตัดสนามแข่งมาก็ถึงเลย”
“ตรู๊ดดดด ตรู๊ดดดดด ตรู๊ดดดดด”

        โค้ชกดวางสายไปเลย เข้าใจไม่เข้าใจ รู้ไม่รู้ก็ไม่เห็นตอบกลับมา ผมยืนส่ายหน้า อ้นเดินมาข้างๆผมแล้วจับมือผมเบาๆด้วยมือของน้องทั้งสองข้าง เหมือนน้องจะรู้ว่าผมเริ่มเครียดสักหน่อย ไม่นานนักโค้ชกับน้องๆก็มาถึงส่วนชั่งน้ำหนัก โดยโค้ชขันอาสาจะพาน้องผู้หญิงไปลงทะเบียนชั่งน้ำหนัก แล้วให้ผมดูแลน้องผู้ชายทั้งหมด หลังจากแยกนักกีฬาชายหญิงเสร็จผมก็เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รออีกสองทีมที่รออยู่เสร็จก็ต่อทีมผมได้เลย ระหว่างที่รอผมเลยพาน้องมานั่งเล่นบริเวณสนามหญ้าด้านหลังสนามแข่งเพื่อเป็นการผ่อนคลาย นอกจากมิวแล้วก็ยังมีน้องอีกหลายคนอายที่จะเหลือแค่กางเกงในไปชั่งน้ำหนัก ผมก็นั่งปลอบนั่งคุยติดตลกไปเรื่อยให้น้องๆสบายใจ จนในที่สุดก็ได้เวลาไปชั่งน้ำหนัก น้องๆหลายคนถอดเสื้อผ้าออกจนแหลือแค่กางเกงในแล้วด้วยความขี้อายน้องมิวก็มาเดินหลบๆอยู่หลังผม แล้วลากอ้นมายืนบังๆเสริมด้วยอีกคน แล้วการลงทะเบียนชั่งน้ำหนักก็เสร็จสิ้น มิวเดินหน้าแดงๆกลับไปขึ้นรถ

“แล้วที่พักอยู่แถวไหนล่ะเอ” อาน้องอ้นหันมาถามผม
“แถวในเมืองครับ เดี๋ยวขับตามรถตู้ไปก็ได้”

        แล้วไม่นานรถตู้ก็ออกนำหน้าไปยังที่พักซึ่งไม่ใกลจากสนามแข่งเท่าไรนัก โดยที่พักเป็นโรงแรมครับน่าจะสักสองดาวเป็นจะได้มีห้องพักประมาณเจ็ดสิบถึงเก้าสิบห้องโดยชณะนี้ห้องพักเต็มหมดแล้วเกินครึ่งเป็นนักกีฬาที่มาแข่งในครั้งนี้หลังจากหาที่จอดรถได้ เราก็เดินไปเช็กอิน

“พี่เอนอนกับใคร” อ้นถามขึ้นมาขณะที่ผมกำลังยืนรอกุญแจ
“ไม่รู้ซิยังไม่ได้จัดเลย”
“พี่เอผมนอนด้วยนะ” มิวเดินมาดึงๆแขนเสื้อผม
“ก็นอนซิ”
“พี่เอ~อ~อ~อ~อ” อ้นเรียกผมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“ว่าไง”
“ผมนอนด้วย” อ้นดึงๆแขนเสื้อผมบ้าง
“แล้วไม่นอนกับคุณอาเหรอ”
“ม่ายยย จะนอนกับพี่” ตอนนั้นอาน้องอ้นได้ยินที่กำลังคุยกันพอดี
“เอก็มานอนห้องเดียวกับอาก็ได้ ห้องหนึ่งนอนได้สี่คนนี่นา”
“เอ่อ คือ....”
“ไม่ต้องเกรงใจ” คุณอาน้องอ้นยิ้ม
“ช่ายๆ พี่เอ มานอนกับผมดีกว่า ให้มิวมานอนด้วย” อ้นดีใจใหญ่
“ก็ดีนะพี่” มิวเสริม
“อะๆ ก็ได้ๆๆ”
“เย้!!” อ้นตะโกนออกมาเบาๆ

        หลังเช็คอินเสร็จเราก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้อง พอถึงห้องก็พบว่าเป็นห้องพักแบบธรรมดาๆเลยครับ มีแอร์ มีทีวีขนาดสิบสี่นิ้วอยู่ตรงปลายเตียง ข้างๆทีวีเกือบติดหน้าต่างก็มีตู้เสื้อผ้าขนาดสามประตู ถัดไปติดหน้าต่างก็มีราวตากผ้าแบบไม้สูงประมาณเมตรเศษๆวางให้ ที่นอนแบบสองเตียง ห่างกันกระมาณสองฟุตลากมาติดกันไม่ได้รู้สึกจะถูกตรึงไว้กับพื้นเลย เก็บของเสร็จแล้วลำดับต่อไปก็คือหาอะไรทานครับ ตอนนี้ก็ค่ำแล้วปาเข้าไปสองทุ่มเศษเลยตัดสินใจทานอาหารกันร้านแถวๆนั้น เมื่อมาถึงร้านทุกคนก็จัดแจงหาที่นั่งส่วนมากจะเลือกอยู่กับคนที่ตัวเองสนิทๆด้วย ส่วนผมเหรอครับที่โต๊ะก็มี คุณอาของอ้น น้องอ้น น้องมิว น้องต้นกล้า กับผม

“พี่ทานอะไร” อ้นถามผมหลังจากที่ผมนั่งลง
“อะไรก็ได้”
“พี่ๆ อะไรก็ได้นี่อร่อยไหมครับ” มิวถามแล้วยิ้มๆ
“กวน” ผมตอบกลับไปแบบติดตลก
“ผมล้อเล่น” มิวหัวเราะกลับมา
“คุณอาทานอะไรครับ”
“พวกเอทานอะไรก็เอาอันนั้นล่ะสั่งเหมือนๆกันจะได้ได้ทานเร็วๆ”
“งั้นผมเอาผัดคะน้าหมูไข่ดาวแล้วกัน”
“ผมด้วยๆ ต้นกล้าเอาเหมือนกันใช่ไหม” อ้นพูดแกมบังคับต้นกล้า
“อะ...อื่อ เอาเหมือนกัน...ก็ได้”
“พี่เอ ไข่ดาว แล้วใครจะผ่อนต่อละครับ” มิว พูดจบก็ยิ้ม
“ตลกแล้ว” มิวเล่นไม่เลิกแฮะ เหอๆ

        สรุปคือสุดท้ายก็สั่งคะหน้าหมูไข่ดาวมาทานกันเสียส่วนใหญ่ครับเลยได้ทานกันเร็วหน่อย แล้วพอข้าวมาถึงโต๊ะ อ้น ก็เริ่มเล่าให้ฟังว่าชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไรบ้างแล้วระหว่างที่ทานๆไป อ้นมีแบ่งไข่ดาวกับเสิร์ฟน้ำให้ผมไม่ขาดจนมิวกับคุณอาบ่นน้อยใจว่าอ้นไม่เป็นเสิร์ฟน้ำให้แบบนี้บ้างเลย ส่วนต้นกล้าคงรู้สถานะตัวเองเลยได้แต่นั่งเงียบๆกับคุยไปตามน้ำ ทานอาหารกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบๆสี่ทุ่ม น้องๆหลายคนเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็เริ่มแสดงท่าที่อ่อนเพลียออกมา พอทานอาหารกันเสร็จก็กลับโรงแรมครับ มาถึงก็ห้องใครห้องมัน

“พวกเราเดี๋ยวอาบน้ำอาบท่านอนเลยนะ อาไปข้างนอกก่อน ไม่ต้องรอ”
“คร๊าบบบ/ ครับ” มิว กับ อ้นตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน
“เอ ไปด้วยกันไหม” ผมรู้เลยว่าไปข้างนอกนี่ไปเที่ยวแน่นอน
“ไม่ดีกว่าครับ พรุ่งนี้ต้องดูแลน้อง”
“งั้นฝากดูเด็กๆด้วยนะ”
“ปึ๊ง!” เสียงอาน้องอ้นปิดประตูห้อง
“มิว เล่นกานนนน”

        แล้วความวุนวายเริ่มขึ้น เมื่อมิวกับอ้นผนึกกำลังกันเล่นอะไรก็ไม่รู้ ส่วนผมก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเตรียมพักผ่อน ผมเข้าไปอาบน้ำพร้อมเปลี่ยนชุดในห้องน้ำเลยกว่าจะออกมาก็ประมาณยี่สิบนาทีได้ ออกมาก็เห็นอ้นกับมิวคุยเรื่องเกมกันอย่างสนุกสนาน

“อาบน้ำๆ” ผมพูดเปรยๆขึ้นมา
“ค๊าบบบบ”

        อ้นตอบรับก่อนเพื่อน แล้วก็ลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช้ดตัวสีขาวเดินเข้าห้องน้ำไป ผมเดินไปหยิบรีโมททีวีจากหลังตู้เสื้อผ้า ( บรรเจิดจริงๆโรงแรมนี้ วางไว้หน้าทีวีไม่ได้หรือไง หรือ กลัวเด็กๆหยิบไปกิน ) แล้วก็นั่งปลายเตียง แล้วก็มีเสียงๆหนึ่งดังออกมจากห้องน้ำ

“พี่เอ~อ~อ~อ” อ้นเรียกผมเบาๆ
“มีอะไร”
“น้ำร้อนเปิดตรงไหน”
“จะต้มไข่กินเหรอ ฮ่าๆๆ” มิวแซวไป
“เดี๋ยวเขาจะเอาไข่เอ็งแหละมาต้ม” อ้นตอบกลับมา
“ก็ก๊อกที่มีสีแดงๆอะ” ผมตอบกลับไป
“.....” อ้นเงียบไปพักหนึ่ง
“พี่....ไม่เห็นจะร้อนเลย พี่มาเปิดให้หน่อย”
“เฮ้อ....”

        ผมถอนหายใจเบาๆด้วยความเซ็งหน่อยๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำ พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นอ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ผืนเดียว

“ตรงไหนพี่ ผมหมุนมันครบทุกอันแล้ว ไม่อุ่นเลย” อ้นชี้ๆไปที่เครื่องทำน้ำอุ่น
“นี่เห็นหัวก๊อกอันนี้ป่าว มันต้องเปิดตัวนี้ด้วย” ผมชี้ไปที่ก๊อกอีกอันอยู่ด้านบนถัดขึ้นไปอีก ผมเข้าใจว่าทำไมต้องทำก๊อกสองชั้นก็ไม่รู้ แถมก๊อกน้ำอุ่นก็อยู่ซะสูงเลยถ้าคนไม่รู้นี่สงสัยไม่ได้อาบ
“ไหนๆ ก๊อกนี้เหรอ” แล้วอ้นก็เอื้อมมือขึ้นไปเปิด
“ฟู่!!!” แรงดันน้ำจากฝั่งน้ำร้อน รวมกับกับน้ำเย็นทำให้น้ำพุ่งออกมาจากฝักบัวอย่างแรง
“เฮ่ย!!” ผมอุทานก่อนจะเฉียดตัวหลบทิศทางของน้ำ อ้นเองก็กระโดดหลบอย่างไวไปยืนอยู่หน้ากระจก จนผ้าเช็ดตัวที่นุ่งอยู่หลุดออกตกลงกับพื้น
“อ๊ะ!!”

        อ้นอุทานออกมาเบาๆ ตอนนั้นผมเห็นอ้นกำลังเปลือยเปล่าไม่ได้ใส่อะไรสักชิ้นยืนจังก้าทำท่าตกใจหน่อยๆแล้วสายตาของผมก็เกเรส่ายลงมองที่จุดสำคัญของอ้นอย่างไม่ตั้งใจ.......ผมเห็นตัวเล็กของอ้นเต็มสองตาเลย แต่น่าแปลกใจที่อ้นไม่เห็นเอามือมาปิดแฮะ ผมเผลอยืนมองสำรวจตัวอ้นที่กำลังเปลือยเปล่าอยู่พักหนึ่งแล้วดูเหมือนตัวเล็กของอ้นจะตอบสนองต่อการมองด้วยผมเห็นมันค่อยๆลุกขึ้นมาทีละนิด แต่ก่อนที่มันจะอะไรไปมากกว่านี้

“อะ...อ้น ก็ปรับตรงเมื่อกี้แหละ ถ้ามันร้อนไปก็หมุนให้เบาลงแล้วกัน ทำเป็นใช่ไหม” ผมรู้สึกเขินๆยังไงก็ไม่รู้แฮะ
“ครับ”

        แล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ มานั่งดูทีวีกับมิวต่อ อ้นเองทำอะไรอยู่พักหนึ่งก็ไม่รู้ก่อนจะได้ยินเสียงอาบน้ำ

“มีอะไรเหรอพี่” มิวถามผม
“อ้นหาที่เปิดน้ำร้อนไม่เจอ” ผมหันไปตอบมิว
“หน้าแดงออกมาด้วย” มิวยิ้ม
“ก็......ในห้องน้ำมันร้อนๆอะ ฮ่ะๆๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน
“.....” มิวไม่ได้พูดอะไรแต่หันมามองเหมือนไม่เชื่อ
“จริงๆ ไม่เชื่อเข้าไปดูดิ”
“ครับ ครับ อิอิอิ” มิวหัวเราะเบาๆ

        แล้วผมก็นั่งดูทีวีกับมิวเงียบๆพักหนึ่ง

“มิวนอนเตียงไหนอะ นอนกะพี่ม๊ะ ให้อ้นนอนกับอาเค้า”
“ไม่ดีกว่าพี่ อ้นบอกผมที่ร้านข้าวแล้วว่าเค้าจะนอนกับพี่”
“หา”.....
“แกร๊ก" เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก
“คุยอะไรกันเหรอ” อ้นถามขึ้นมา ขณะที่กำลังเช็ดผมอยู่
“ก็เรื่องที่นอน”
“ที่นอนทำไม”
“พี่เอเค้าถามว่าเขาจะนอนเตียงไหน”
“แล้วบอกพี่เอยัง”
“บอกแล้ว”
“อ้นไม่นอนกับอาอะครับ” ผมถามขึ้นมา
“ไม่เอา อยากนอนกับพี่มากกว่า” พูดจบอ้นก็ยิ้ม แล้วเดินมานั่งข้างๆผม.....

อะไรกัน....คืนนี้ผมต้องนอนเตียงเดียวกับอ้นแหรอเนี่ยะ!!!



To Be Con




----------------------------------------------
To Day

ขณะที่ผมกำลังจะโพสตอนที่ 26 นี้ ( 20.30 น. ) เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น เป็นเสียง SMS ครับ ผมหยิบขึ้นมาดู

"น้องบี : โปรดติดต่อตอนนี้"

ผมเลยโทรกลับไป

"ว่าไง"
"พี่.....ผมขอโทษ....."
"ขอโทษเรื่องอะไร"
"ก็....พี่โทรมาแล้วผมไมไ่ด้รับ"
"ไม่เป็นไรๆ"
"พอดีเมื่อวานผมเล่นน้ำมากไปหน่อย กลับมาถึงบ้านปั๊บก็หลับเลย"
"ก็ดีแล้ว พักผ่อนเยอะๆ"
"ว่าจะโทรหาพี่ก็ไม่ได้โทร"
"ไม่เป็นไร"
ผมหัวเราะ
"พี่ทำอะไรอยู่"
"เฝ้าร้าน แล้วเราอะ"
"รอป๊าอยู่ในรถ"
"รอป๊าทำไมอะ"
"ป๊าพาลูกค้ามาไดรฟ์"
"แล้วไม่ลงไปไดรฟ์ด้วยอะ"
"ไม่่ได้เอาไม้มา"
"เฮียบี"
เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งลอดเข้ามา
"เฮ่ย ออกไปนะ"
"....."
"แป๊บหนึ่งนะพี่"
" อ๊ากกก ย๊ากกกกกก......"
เสียงบีโวยวายอะไรสักอย่างลอดเข้ามาในโทรศัพท์
"......"
"Ok พี่ กำจัดตัวกวนออกไปแล้ว ต่อๆๆ"
"ใครอะ"
"น้องญาติ......เฮ่ย บอกให้ออกไป อย่ามายุ่งได้ไหม"
บีเหมือนตะโกนไล่ใครสักคนแถวนั้น
"....."
"ต่อๆ"
"แล้ว..."
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อ
"เฮ่ย มาแอบฟังทำไม ไปไกลๆเลยป๊ายยยยย"
"เฮียบีคุยกับแฟน เฮียบีคุยกับแฟน แบร่ๆๆๆ"
เสียงเด็กผู้หญิงคนเดิมลอดเข้ามา
"...."
"เดี๋ยวผมโทรกลับนะพี่ จัดการตัวป่วนก่อน"
"อะ อืมม"


วุ่นวายดีแท้.....



ออฟไลน์ me_alone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: น้องชาย ( ลงตอน 26 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #53 เมื่อ13-05-2010 12:46:07 »

===  ตอนที่ 27 ===


“ตึกๆ....ตึกๆ.....ตึกๆ.....”

        ท่ามกลางความมืดของยามราตรี และ ความเงียบงัน ผมได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นชัดเจนมาก หลังเข้านอนได้ไม่น่าจะถึงสิบห้านาทีมิวก็เงียบไปราวกับหลับสนิทไปแล้วบนเตียงข้างๆผม อ้นนอนอยู่ทางซ้ายมือผมนอนห่างจากน้องเพียงแค่คืบเศษๆ ผมนอนมองเพดานเงียบๆ.....ผมไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ ภาพของน้องในห้องน้ำเมื่อกี้ยังติดตาอยู่เลย

“อื่ออออ....”

        เสียงครางเบาๆดังมาจากอ้น ผมหันไปมองช้าๆ เห็นอ้นกำลังนอนเปลี่ยนท่าหันมาหาผม แถมน้องยังลืมตาปริบๆอยู่ ผมเองก็นอนมองน้องอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ๆ.....จนผมรู้สึกมั่นใจว่ามิวน่าจะหลับไปแล้วจริงๆ....ผมค่อยๆขยับมือค่อยๆวางลงบนฝ่ามือของอ้นที่หงายขึ้น มือน้องนุ่มมากเลยครับ แล้วหัวใจผมเริ่มเต้นแรงกว่าเดิม

“ไม่ง่วงเหรอ” ผมถามน้องไปเบาๆ
“ยังไม่ค่อยง่วงครับ” น้องกระซิบกลับมาเบาๆเช่นกัน
“หลับได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้แข่งไม่ไหวนะ”
“ผม....คิดถึงแม่”
“เดี๋ยวก็กลับแล้ว” ผมตอบกลับไปเบาๆพยายามทำให้น้ำเสียงฟังแล้วอบอุ่นที่สุด
“อื่อ”
“......” ผมไม่ได้พูดอะไรกลับไปนอกจากลูบหัวน้องเบาๆ
“พี่”
“ครับ”
“คือ.........พี่........กอดผมได้ไหม”
“...........ดะ.....ได้ซิ” ผมตอบกลับไปอย่างนั้นน้องก็หันหลังแล้วก็ขยับตัวถอยๆเข้ามาจนแผ่นหลังของน้องแนบชิดกับตัวผม ผมเอาแขนขวากอดลงไป ก่อนที่น้องอ้นดึงแขนขวาผมไปกอดไว้
“มือพี่อุ่นจัง” อ้นพูดเบาๆ

“ตึกๆ.....ตึกๆ.....ตึกๆ......”
        เสียงหัวใจผมดังมากขึ้น.... ตอนนั้นหลังคอน้องอ้นมาอยู่ตรงหน้าผมพอดี ผมค่อยๆขยับเข้าไปใกล้มากพอที่ลมหายใจของผมจะรดลงไปแล้วน้องรู้สึกได้.....กลิ่นหอมหน่อยๆจากชุดนอนสีฟ้าลายทางเริ่มทำให้สติของผมกระเจิงมากขึ้น
“ตึกๆ..ตึกๆ..ตึกๆ..ตึกๆ..” เสียงหัวใจผมเต้นแรงและเร็วขึ้น
‘คะ.....แค่.....จูบ.....ก็พอมั้ง...แค่จูบ....เบาๆเอง.....’ จู่ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมา แล้วผมก็ก้มลงไปจูบลงบนหลังคอน้องอ้นเบาๆก่อนจะค่อยๆถอยออกมาแต่ผมก็ยังหายใจรดลงไปบนหลังคอน้องอยู่
“แฮ่กกก....แฮ่กกกกก.....” ผมได้ยินเสียงลมหายใจน้องอ้น....มือผมตอนนี้ผมรู้สึกได้ว่าอ้นหายใจแรงขึ้น แล้วน้องก็ค่อยๆดึงมือผมขึ้นมาเรื่อยๆ จนผมรู้สึกได้ว่านิ้วชี้ผมไปชนกับริมฝีปากของน้องเข้า ผมหายใจอุ่นๆของน้องรดลงมาที่มือผมจนผมรู้สึกได้ชัดเจน......น้องอ้นเองก็เริ่มถอยเข้ามาชิดตัวผมมากกว่าเดิม....ตอนนี้ในผ้าห่มที่เราห่มกันอยู่มันร้อน ร้อนมากซะจนผมแทบจะละลายไปเลย ตอนนั้นตัวเล็กของผมค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ อ่า...ให้ตายซิ....ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน....อ้นเองก็เบียนมาซะชิดขนาดนี้แล้วจู่ๆอีกความคิดก็ผุดขึ้นมาในขณะที่สติผมกำลังไม่สามารถควบคุมความคิดหรือความรู้สึกได้
‘ของอ้น....ลุกหรือเปล่า.....’

   ไม่สามารถยับยั้งได้แล้ว.....ผมค่อยๆเลื่อนมือที่อ้นกอดอยู่ลงไปช้าๆ....ช้าๆ.....ช้าๆ.....จนลงไปถึงจุดสำคัญของอ้น.....ผมค่อยๆเอานิ้วชี้แตะไปเบาๆ เบาที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ใจหนึ่งผมก็กลัวสิ่งที่กำลังทำอยู่ กลัวว่าน้องจะโกรธ กลัวว่าน้องจะไม่ชอบ แต่อีกใจก็อยากจะรู้เหลือเกิน.....ว่าอ้น....ตอบสนองต่อสิ่งที่ผมทำลงไปไหม.....ระหว่างที่ผมแตะลงไปเบาๆ....ผมก็ไปเจออะไรสักอย่าง.....หัวมนๆ....นิ่มๆ....ตั้งเด่.....ผมเอานิ้วชี้ลูบวนไปวนมาจนแน่ใจ.....ว่าสิ่งนั้นคืออะไร....และ....แน่ใจว่าอ้นเองก็ไม่ขัดขืนถ้าผมจะสำรวจลงไปมากกว่านี้ ผมเลื่อนมือขึ้นมาช้าๆ จนถึงขอบยางยืดกางเกงนอนของน้อง แล้วก็ค่อยๆสอดมือเข้าไปในกางเกง....ผมค่อยๆสอดลงไปช้าๆ ตอนนั้นหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ตัวผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมกำลังจะได้พบ....ผมเลื่อนมือลงไปช้าๆบนท้องน้อยของน้องจนชนเข้ากับโคนท่อนเนื้อ...ท่อนหนึ่งที่กำลังตั้งเด่อยู่ อ่า...ใช่แล้วครับ ผมเจอตัวเล็กของน้องอ้นเข้าแล้ว ผมค่อยๆเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งจับสัมผัสช้าๆ น้องน้องแข็งมากกำลังตั้งเต็มที่เลยทีเดียว ผมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจนถึงปลาย.....

‘ของอ้นไม่ได้ขลิบแฮะ.....แล้วเปิดได้ไหมน้า.....’

        ผมจับของน้องเบาๆแล้วค่อยๆรูดลงช้าๆ เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี

“อ๊ะ!!” เสียงอ้นร้องออกมาเบาๆ ผมหยุดกึกทันที......
“เจ็บเหรอ” ผมกระซิบถามน้องเบาๆ
“อื่อ”

        แล้วผมก็ใช้นิ้วชี้ขึ้นมาสำรวจส่วนปลายของน้อง.....หัวเปิดหมดแล้ว....ผมค่อยๆรูดหนังหุ้มปลายตัวเล็กของน้องปิดอย่างเดิม แล้วก็จับของน้องเล่นอยู่อย่างนั้น........จนผมรู้สึกได้ว่าเริ่มมีของเหลวเหนียวๆออกมาจากตัวเล็กของน้องแล้ว
‘นะ....นี่กรูทำอะไรอยู่เนี่ยะ.....’ สติผมกลับมาทักท้วงว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูก ผมรีบผละมือ แล้วค่อยๆเอามืออกมาช้าๆ ก่อนจะมากอดน้องไว้เหมือนเดิม....อ้นไม่ได้พูดอะไรอีก น้องนอนนิ่งๆแบบนั้น หลังจากนั้นผมเองก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว......


--------------------------------------------------------------------------


“ติ๊ดๆๆๆ.....ติ๊ดๆๆๆๆๆ.....ติ๊ดๆๆๆๆๆ......” เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้น ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มากดปิดเสียง
“เฮ้อ......” ผมถอนหายใจเบาๆ  อ๊ะ....ผมรู้สึกหนักๆแขนแฮะ เหมือนมีอะไรทับอยู่ ผมมองไปทางซ้ายมือ....ก็เห็นอ้นนอนหนุนแขนผมอยู่ แสงแดดอ่อนๆในตอนเช้าที่ผ่านมาทางหน้าต่างตอนนี้ทำให้น้องอ้นดูน่ารักขึ้นมากๆ....ปากสีแดงๆ....แก้มสีขาว....คิ้วดกหน่อย ขนตายาวแถมงอนนิ๊ดหนึ่งอีกต่างหาก
‘น่ารักจัง’ ผมคิดในใจก่อนจะลูบหน้าผากน้องเบาๆ เมื่อคืนผมนอนกอดน้องทั้งคืนเลยเหรอเนี่ยะ
“อ้นครับอ้น เช้าแล้ว” ผมเรียกอ้นเบาๆ
“อือออออออออ......” น้องค่อยๆขยับตัวพร้อมกับบิดขี้เกียจ แล้วเอานิ้วชี้ขยี้ตาตัวเอง
“อิอิ” ผมหัวเราะเบาๆ
“เช้าแล้วเหรอครับ”
“อื่อ”
“ฮ้าวววว” อ้นหาวหวอดอีกหนึ่งรอบ
“นอนเล่นก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่อาบน้ำเสร็จเราค่อยลุก”
“ครับ” น้องตอบมาเบาๆแล้วยิ้ม ผมก็ลุกขึ้นมานั่งเหม่อมองฟ้าพักหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นมายืนบิดไปบิดมา แล้วก็หันไปมองมิว
“เฮ้ยย!!” คุณอาน้องอ้นก็นอนกอดน้องมิวด้วยแฮะ.......อ๊ะ.....หรือว่า!!! ไม่น่าๆ ไม่ใช่แน่ๆ.... ก่อนจะคิดอะไรมากไปผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำด้วยความเร็วสูงไม่น่าจะถึงสิบนาทีผมก็เดินออกมา มิว กับ คุณอาน้องอ้นก็ยังนอนกันท่าเดิมเลย อิ๊วววว....คงไม่ใช่.......ผมเดินตรงไปสะกิดๆอ้นเบาๆ
“อ้นๆอาบน้ำ”
“คร้าบบบบบบบบบ” แล้วอ้นก็ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะบิดขี้เกียจโชว์ผม แล้วอ้นก็หันไปมองมิว
“.....” อ้นไม่พูดอะไร....นั่งนิ่งมองท่าเดียวกันกับผมตอนแรกเลย แล้วไม่นานอ้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วก็มานั่งข้างๆ ผมมองหน้าน้อง น้องก็มองหน้าผม เป็นอันว่าเข้าใจกันว่าไม่กล้าปลุก อ้นเลยหยิบรีโมททีวีมาเปิดทีวี....
“!@$&&^%#$&()()*&%” เสียงจากทีวีถูกอ้นเร่งขึ้นดังพอที่จะปลุกใครสักคนให้ตื่นขึ้นมาได้สบายๆเลย แล้วก็ได้ผลครับ มิวค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อน ผมกับอ้นก็นั่งมองกันอยู่ปลายเตียงที่นอนกันเมื่อคืน แล้วยิ้มให้มิวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทั้งส่งสายตาบอกมิวเป็นนัยๆว่า
‘ตื่นๆ อาบน้ำได้แล้ว’ มิวยิ้มกลับมาเหมือนจะเข้าใจ.....แล้วมิวก็ค่อยๆลุกขึ้นมาช้าๆก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป.....อืมมม  เดี๋ยวนี้เราคุยกันทางสายตาได้แล้วแฮะ ไม่นานคุณอาน้องอ้นก็ตื่นขึ้นมาตาม
“อื่ออออ....ว่าไงเอ เมื่อคืนหลับสบายไหม” คุณอาน้องอ้นทักผม
“ครับ...ก็ดีครับ”
“อืมม....เมื่อคืนกลับดึกไปหน่อย ฮ่าๆ”
“ครับ”
“อืมม เก็บของรอเลย อาอาบน้ำไม่นานหรอก”
“ครับ”

        แล้วผมกับอ้นก็ค่อยๆเก็บของที่เอาออกมา.....ผมไม่กล้าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนแฮะ......อายๆยังไงก็ไม่รู้ พอเก็บของเสร็จผม,มิวและอ้นก็ลงมารอที่ห้องล๊อบบี้ ไม่นานนักคนอื่นๆก็ค่อยๆทยอยมาจนครบ แล้วเราก็เดินทางไปที่สนามแข่ง เมื่อมาถึงผมก็ให้น้องๆไปทานอาหารตรงโซนอาหารที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ หลังทานอาหารเสร็จผมก็ให้น้องๆช่วยกันหิ้วของที่ต้องใช้ในการแข่งขันเข้าสนามแข่งไปเลือกมุมนั่งกัน สถานที่แข่งเป็นยิมเนเซียมแบบสนามบาสครับ เราเลือกมุมแล้วการแข่งขันก็ดำเนินไปเรื่อยๆ อ้นลงแข่งแบบท่ารำครับ โค้ชเลยให้ผมไปติวกับน้องสองคน ผมเลือกมุมเงียบๆสงบๆ เป็นส่วนบนสุดของที่นั่งชมการแข่งขัน ตรงนั้นจะมีพื้นที่แบบยาว กว้างประมาณสามเมตรกว่าๆเกือบสี่เมตร ก่อนจะพาน้องซ้อมเรื่อยๆ เวลาผ่านไปจนเที่ยงผมก็พาน้องๆไปทานข้าว ผมเลือกอาหารเสร็จก็พาน้องๆหามุมนั่งกินกันเป็นทีม อ้นเองก็มานั่งใกล้ๆผม เมื่อทานอาหารเสร็จผมก็พาน้องๆเข้าไปเตรียมแข่งขันต่อในรอยบ่าย ส่วนผมกับอ้นก็แยกไปซ้อมกันต่างหาก ผ่านไปประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ

“พี่เอ....”
“ครับ”
“ผมเหนื่อย”
“ก็พักก่อน”
“ขอบคุณครับ” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆ ผมเลือกนั่งลงตรงที่นั่งแถวบนสุด อ้นเองก็ลงมานั่งข้างๆ
“คิดว่าไง” ผมหันมาถามอ้น
“ไม่รู้”
“ถ้าได้เหรียญทองพี่ซื้อชุดใหม่ให้ชุดหนึ่งเอาป่าว”
“จริงนะ” อ้นหันมามองผมแล้วยิ้มอย่างดีใจ
“จริง”
“เตรียมเงินไว้ได้เลยพี่”
“มั่นใจขนาดนั้นเลย เมื่อกี้ยังบอกไม่รู้อยู่เลย”
“หึหึหึ” อ้นหัวเราะอย่างมีเลศนัย ก่อนจะนอนลงมาหนุนตักผม
“เสียดายเนอะบีไม่มา”
“มันไม่อ่ะก็ดีแล้ว มาก็วุ่นวายเปล่าๆ”
“ทำไมอ่ะ”
“พี่ก็รู้นิสัยมัน”
“.....” พูดต่อไม่ออกเลยแฮะ เพราะอ้นพูดมามันก็ถูก
“แล้วถ้ามันมา พี่เชื่อผมดิ มันจะตามเกาะพี่ ไม่ก็ตามกวนพี่ไปทุกที่อ่ะ”
“......” พูดอีกก็ถูกอีก
“พี่ว่าจริงไหมล่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ” ผมหัวเราะ

        แล้วก็ถึงเวลาที่อ้นต้องแข่ง....อ้นจับมือผมเดินไปที่จุดรายงานตัว โค้ชให้ผมเป็นคนดูแลอ้น*1ในการแข่งขัน แล้ว.....สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออ้นรำจบ.....

“แช เรียต คิง เนง”  

        สิ้นเสียงกรรมการ อ้นได้คะแนนสูงที่สุด แล้วได้เหรียญทองทันทีโดยไม่ต้องลงแข่งต่อเป็นครั้งที่สอง*2 ผมยืนอึ้งอยู่ริมของสนาม พอกรรมการบอกให้กลับออกไปได้อ้นรีบวิ่งมากอดผมทันทีแล้วพูดออกมาเสียงดังๆว่า

“แล้วผมจะลงทีมชาติให้ดู”

        หลายคนหันมาอึ้งกันเป็นแถบๆเพราะอ้นลงแข่งท่ารำเป็นครั้งแรก แถมยังชนะตัวเก็งเหรียญทองเจ้าภาพไปแบบไม่เห็นฝุ่น โค้ชเองก็อึ้งเหมือนกันเพราะโค้ชไม่คิดว่าอ้นจะทำได้

“พี่เอๆ” ผมดึงเสื้อผมเบาๆ
“ครับ”
“ป่ะๆๆ ไปซื้อชุด”
“ตอนนี้เลยเหรอ”
“ช่ายๆๆ ตอนนี้เลย”

        ผมจำต้องยอมไปซื้อชุดให้น้องตามคำสัญญา ผมจูงมือน้องออกไปยังจุดที่เค้าขายชุดข้างนอก พอมาถึงอ้นก็คะยั้นคะยอให้ผมเลือกให้ไม่ยอมเลือกเอง ผมเลยเลือกมาให้น้องแต่ก็ยังต้องถามน้องว่าชอบไหมอยู่ดีสุดท้ายก็ได้มาชุดหนึ่ง ซึ่งกว่าจะได้ก็ปาเข้าไปเกือบๆครึ่งชั่วโมง พอเดินกลับมาที่สนามแข่งอีกทีก็ปรากฏว่ามิวได้เหรียญเงินซะแล้ว แพ้คนที่ได้เหรียญทองแค่หนึ่งแต้ม ส่วนน้องๆคนอื่นก็ทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ หลังจากการแข่งขันจบ ก็ถึงเวลารับมองเหรียญแล้วก็ขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกับประสบการณ์การแข่งขันที่ไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงินบางคนมันอาจมีค่ามากมาย บางคนมันอาจทำให้เข้มแข็งมากขึ้น หรือ กับบางคนมันอาจเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายเมื่อต้องยอมรับว่าตัวเองนั้นฝีมือยังไม่ดีพอ หลายคนร้องไห้ออกมาด้วยความปิติ กับบางคนกลับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความโศกเศร้า อืมมม กีฬาก็แบบนี้ มีแพ้ ก็ต้องมีชนะ อะไรๆที่เราได้มาจะมีค่ามากน้อยมันก็ขึ้นอยู่กับเราจะมอง

“Painful memories, lonely places I had been there a long time Now I found you, where I belong My whole life will never be the same When I fall in love with you Anything is out of the blue In the dark night There'll be sunlight And you'll be the destiny that I'm going to”

        เสียงเพลง When I Fall in Love ดังขึ้นเบาๆช่างเหมาะกับบรรยากาศค่ำๆแบบนี้จังขับรถไปเรื่อยๆฟังเพลงสบายๆ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงเด็กคุยกันเจี๊ยวจ๊าวแทรกไปแทรกมา มิว กับ อ้น คุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องของการแข่งขันวันนี้ แต่ไม่นานเท่าไหร่นักมิวคงจะเพลียจากการแข่งขันมาก เพราะมิวลงแข่งขันแบบต่อสู้ เลยทำให้มิวหลับไป คุณอาของอ้นนั่งเงียบๆ ส่วนอ้นก็ชวนผมคุยเป็นระยะๆ ก่อนจะนอนหนุนตักผม พร้อมใส่หูฟัง ฟังเพลงจากโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วก็เอามือผมไปวางไว้บนอกแบบเดียวกับที่ตอนนั่งรถมา หมดตัวกวนไปสองตัว คุณอาของอ้นก็เริ่มคุยกับผม

“เอเล่นเทควันโดมานานยัง”
“เกือบสิบปีแล้วครับ เล่นๆ หยุดๆ”
“ช่วงนี้เห็นอ้นเค้าชอบเทควันโดมาก กลับไปรอบนี้สงสัยคุยเรื่องเหรียญทองไปได้อีกสองสามเดือนแน่ๆ ฮะๆ” คุณอาของอ้นคุยกับผมด้วยน้ำเสียงกันเอง
“ครับ ตอนแรกผมไม่คิดว่าน้องจะทำได้ดีขนาดนี้”
“นั่นซิ อ้นเค้าไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเลยนะนอกจากเทควันโด”
“ครับ อ้นเองเค้าก็มีพรสวรรค์นะครับ”
“เอ แล้วมิวเค้าเรียนเทควันโดมานานหรือยัง”
“ได้หลายเดือนแล้วนะครับ”
“ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เหรียญเงินเลยนะ”
“นั่นซิครับ มาแข่งครั้งแรกด้วย”
“อืมม แล้วมือ แขน ขา เค้าก็นุ่มมากๆไม่มีกล้ามเนื้อเลย เหมือนไม่ได้ออกกำลังกาย หรือ ทำงานหนัก”
‘อะ...อ้าว...คุณอาแอบไปทราบตั้งแต่ตอนไหนว่าน้องมิวกล้ามเนื้อนุ่มนิ่มล่ะครับเนี่ยะ’ ผมคิดในใจ
“อะ...ครับ ฮะๆ” ผมตอบกลับไปพร้อมหัวเราะหน่อยๆ
“ที่บ้านเค้าทำอะไรเหรอ” อาของอ้นหันมาถามอย่างสนใจ
“รับเหมา กับ โรงสีครับ”
“อืม ว่าแล้วเชียว ลูกคนมีเงินนี่เอง มิน่าล่ะจับๆตามแขนขาเมื่อคืนถึงได้นิ่มไปทั้งตัวเลย”
‘อ้าว เฮ้ย!! คุณอา...พวกเดียวกันเหรอเนี่ยะ’ ผมคิดในใจ

        แล้วก่อนที่ผมจะพูดอะไรต่อจู่ๆอ้นก็สะกิดๆมือผม ผมหันลงไปมอง อ้นก็ถอดหูฟังออกข้างหนึ่งก่อนจะเอาใส่หูผม

“พี่....เพลงนี้เพราะดีเนอะ “ อ้นพูดเบาๆ
“อืมม....เพลงเก่าแล้วนะ”
“เหรอ....แต่เพราะดีนะครับ”
“นั่นซิ”
“พี่ฟังเพลงเป็นเพื่อนผมนะ” อ้นยิ้ม
“.....” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะปรับเบาะเอนหลังลงไปหน่อยหนึ่งแล้วฟังเพลงกับอ้นอยู่แบบนั้น.....




“คนที่เหงาคนหนึ่ง นั้นรอใครที่จะเข้าใจ มาเป็นเพื่อนดูหนัง เป็นเพื่อนฟังเพลงใกล้ๆ
แบ่งปันทุกข์และสุข พูดคุยยามที่เหนื่อยหัวใจ แต่ว่าคนๆนั้น จะได้เจอกันวันไหน”



นั่นซินะ....เพลงนี้เพราะจริงๆ....


To Be Con.....


------------------------------------------------------------

16.50 น.

“ติ๊งง ติ่งงงง”
“สวัสดีคะ”

เหมือนเคยที่ผมมาร้านสะดวกซื้อร้านนี้ แต่วันนี้ไม่มีบีด้วยแฮะ อืมมม ผมเดินเลี้ยวไปที่มุมเครื่องดื่ม แล้วก็เจอเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ผมไม่ได้เจอมาเดือนกว่าๆแล้ว
“บี” ผมเรียกชื่อเด็กผู้ชายคนนั้นออกไป น้องหันมามองผมแล้วรีบเดินกึ่งวิ่งมาหาผมอย่างรวดเร็ว ผมอ้าแขนรับน้องไว้ก่อนจะกอดน้องลงไปด้วยความคิดถึง
“พี่!! กลับมาแล้ว ดีใจจัง”
“อื่อ” ผมลูบหัวน้องเบาๆ
“มากับใครเหรอ”
“คุณแม่” พูดจบน้องก็ชี้ไปที่ Honda CR-V ใหม่เอี่ยมที่ยังไม่มีกระทั่งป้ายทะเบียนที่จอดอยู่หน้าร้าน
“แล้วมาซื้ออะไรเหรอ”
“เพียวริขุ”
“หยิบชามาให้พี่ด้วย”
หลังจากชำระเงินเสร็จผมก็เดินออกมา รถ  CR-V คนนั้นยังจอดนิ่งอยู่ พอผมกับน้องบีเดินเข้าไปใกล้กระจกรถก็ถูกลดลง ผมเห็นคุณแม่น้องบีนั่งอยู่ผมเลยยกมือไหว้ คุณแม่น้องบียิ้มให้ผมก่อนจะรับไหว้ผม แล้วคุณแม่น้องบีก็ขับรถออกไป ผมก็เลยโอบคอน้องเดินไปชมรม
“บี”
“ครับ”
“วันนี้ไปกินหมูกระทะเปล่า”
“ไปซิๆ เดี๋ยวผมโทรบอกม๊า” น้องบียิ้ม

พอกลับเข้ามาในยิมผมก็เล่าเรื่องที่ว่าไปซื้อที่ห้อยโทรศัพท์มาจากธิเบต แล้วปรากฏว่าเจอที่ห้อยโทรศัพท์แบบเดียวกันเลยที่ร้าน Se-Ed น้องบีเลยงอแงขอดู พอดีว่าผมพกไปด้วยสองอันเลยให้น้องดู พอดูปั๊บปรากฏว่าน้องแกะออกมาครับ แล้วเอาไปใส่โทรศัพท์ตัวเองทันที อ้นเองก็ไม่น้อยหน้าหยิบอีกอันไปใส่โทรศัพท์ตัวเองเหมือนกัน น้องๆคนอื่นที่นั่งฟังด้วยอึ้งกันเลยทีเดียว ระหว่างที่ทั้งสองกำลังใส่ที่ห้อยกับโทรศัพท์ตัวเองอยู่นั้นก็หันมาพูดเกือบๆจะพร้อมกันว่า
“พี่....ผมขอนะ”
อืมมม....ใส่โทรศัพท์ไปแล้วนี่จะบอกว่าไม่ให้ก็กระไรอยู่ แล้วก็.....วันนี้ผมเพิ่งเห็นหน้าตาพี่ชายอ้นวันแรก จากคำบอกเล่าของบีที่เคยบอกว่า พี่ชายอ้นมาเรียนด้วย อืมมม หน้าคล้ายอ้นมากๆ คิ้วหนาหน่อย ปากแดงๆ ตาโตๆกลมๆ ผิวขาวมาก หน้าตาจัดได้ว่าดีเลยทีเดียว อายุก็ไล่เลี่ยกับอ้นสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ ใส่กางเกงเทควันโด เสื้อคอกลมสีดำแขนสั้น เป็นคนเงียบๆ ( หรือ ยังไม่สนิทเลยไม่กล้าคุยหว่า ) แต่ผมก็ไม่ได้สนใจมากมาย จนกระทั่งเวลาประมาณ ห้าโมงสิบห้าขณะที่ผมกำลังจะเรียกซ้อมพี่ชายของอ้นก็ถอดเสื้อออก.....ครับ ถอดเสื้ออก ไม่ใช่ในห้องเปลี่ยนชุดด้วย แต่หน้าโต๊ะตรงนั้นเลย อ่า.....มีซิกแพกด้วย.....กล้ามอกหน่อยๆ........อ่า.....ทำตัวเซ็กซี่แต่เล็กเลยนะน้อง ฮ่าๆๆๆ แล้วตลอดการซ้อมบีก็มาเล่นมาหยอก มากอด มานอนพิงเหมือนเคย ผมหมั่นเขี้ยวเลยงับหูน้องบีไปเบาๆหลายที จนกระทั่งถึงเวลาตอนเลิก
“บี โทรบอกม๊ายัง”
“บอกเรื่องอะไร”
“อ้าวไปทานหมูกระทะไง”
“อืมมมม......ไม่ต้องโทรหรอกพี่ ไปที่ร้านเลยแล้วค่อยโทร”
“เฮ้ยย จะดีเหรอ”
“ดีพี่ ถ้าไปถึงร้านแล้วไงๆม๊าก็ไม่ว่าอะไร อิอิอิ”

สรุปคือวันนี้ไม่ได้ไปครับ ไปพรุ่งนี้ มี น้องบี น้องอ้น พี่ชายน้องอ้น น้องว่าน พี่ป้อม แล้วก็ผม หวังว่าฝนจะไม่ตกนะ ฮ่ะๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2010 13:24:56 โดย me_alone »

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #54 เมื่อ13-05-2010 13:04:54 »

waiting ch.28

ออฟไลน์ JAN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #55 เมื่อ13-05-2010 13:19:03 »

เข้ามารอตอน 28 ด้วยคนค่ะ


andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #56 เมื่อ13-05-2010 14:08:01 »

พี่เอกินน้องอ้นแล้ว   ป้ารอตอนที่28จ๊ะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #57 เมื่อ13-05-2010 14:27:45 »

โห....เอ..ฟิตมากมายๆๆ  o13

เย้ๆๆ ถึงตอนที่ลงล่าสุดแล้ว รออ่านตอนใหม่จ้า

nathsan

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #58 เมื่อ13-05-2010 15:09:53 »

รอ.........คำเดียวรอและดัน(พี่เอหลายใจ :o12: :o12: :o12:สงสารน้องบี :o12: :o12:)

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
Re: น้องชาย ( ลงตอน 27 แล้ว P2 : 13/05/10 )
«ตอบ #59 เมื่อ13-05-2010 15:41:45 »

เข้ามาเป็นกำลังใจ แล้วก้อรอตอนใหม่ด้วยคนค่ะ ^ ^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด