รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 581202 ครั้ง)

Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ย!! มดกัดอ่ะ จะหวานกันไปไหนคะคู่นี้ <<แซวเล่นน้า

ชอบจัง น่ารัก และดูอบอุ่นแบบนี้  :m17:

ถึงจะมาสั้นๆ แต่ความหวานเต็มเปี่ยม
 

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
 :m25:

คู่นี้เค้ารักกันมากขึ้นทุกวันเลยน้า

อิจฉาจัง

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 32 บอกว่ารัก (อีกสักครั้ง) [2/2]

“ลุกไหวหรือเปล่า” ผมถามคนที่ยังคงนอนพิงผมอยู่

“ไหว แต่มันง่วงขอนอนอีกแป๊บนึง” เขาตอบผม แล้วทำท่าจะหลับตาลงอีกครั้ง ผมก็รู้นะว่า จะไม่ให้ง่วงได้ยังไงไหว เพราะกว่าที่ผมจะปล่อยให้เข้าได้นอนก็เกือบๆ ฟ้าสางแล้ว

“ไหนว่าจะกลับบ้านไง เดี๋ยวค่อยกลับไปนอนต่อนะ” ผมพูด และพยายามดันตัวของคนที่กำลังจะหลับไปจริงๆ ให้ลุกขึ้นนั่ง ใช่ว่าผมจะแกล้งคนที่กำลังง่วงนอนนะ แต่นี่มันก็จะเก้าโมงแล้ว คือมันยังไงล่ะ ที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านผมเอง จะให้มาตื่นเอาเกือบเที่ยงเหมือนอยู่บ้านตัวเองคงดูไม่ดีมั้ง เลยต้องปลุกลูกชายเจ้าของบ้านให้ตื่นขึ้นมาอยู่ด้วยกันซะดี ๆ แล้วตอนนี้ลูกชายเจ้าของบ้านก็ยอมลุกขึ้นนั่งแล้ว แต่ยังไม่ยอมลงจากเตียง

“อืม... ช่วยหน่อย” คนที่นั่งอยู่ส่งเสียงบอก ผมเลยลุกออกจากเตียงแล้วลงมายืนข้างๆ แทน ก่อนจะยื่นมือลงไปคว้าต้นแขนของคนที่นั่งอยู่ขึ้นมา แล้วออกแรงดึงให้ลุกตามขึ้นมา ถ้าเขาบอกแบบนี้เมื่อไหร่นั่นแปลว่า แค่ช่วยพยุงเขาขึ้นมาแค่นั้น แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ เขาถึงจะขอให้ผมอุ้มไปส่งห้องน้ำเลย จริงๆ ให้อุ้มตลอดก็ได้นะ ไม่ว่าตอนไหน ผมไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แต่ถ้าให้อุ้มเพราะสาเหตุที่ผมทำให้เขาเจ็บตัวนี่ก็ไม่อยากให้มีบ่อย มันเหมือนกับว่าผมเป็นคนทำเขาเจ็บ เขาเองก็ไม่เคยออกปากว่าอะไรผมนะ แต่ผมเห็นเขาแล้วสงสารมากกว่า แต่ก็นะ เขานั่นแหละที่น่ารักเกินไป เลยมีบ้างที่ผมยั้งตัวเองไม่ค่อยอยู่  


................................................................

“ทิพย์ พ่อกับแม่ล่ะ” คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมเอ่ยถามพี่แม่บ้านที่กำลังยกจานข้าวผัดทะเลมาให้เราสองคน

“ไปออกรอบกันตั้งแต่หกโมงแล้วค่ะ”

“อ้าว หรอ”  

“ตอนเที่ยงคุณกันต์จะทานอะไรคะ” พี่ที่ชื่อทิพย์ถาม

“ไม่ต้องทำหรอก เดี๋ยวสายๆ ก็กลับแล้ว”

“ค่ะ” พอรับคำแล้วพี่ทิพย์เดินออกไป เหลือแค่เราสองคน

“อยากกินสปาเก็ตตี้ กลับไปแล้วทำให้หน่อย” คนที่กำลังตักข้าวผัดในจานบอกผม ก่อนที่จะส่งข้าวที่อยู่ในช้อนเข้าปาก นี่แหละวิธีอ้อนของคนที่ทำกับข้าวเก่งกว่าผม เหมือนจะเอาแต่ใจ เหมือนจะสั่ง แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะด้วยความที่เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยมีหรอกที่จะพูดอะไรหวานๆ เลี่ยน แต่การกระทำมันบอกได้ว่าเขากำลังคิดอะไร ทำอะไร ขอให้ผมทำนู่นทำนี่ให้ก็จริง แต่ก็มายืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง เคยแอบเห็นด้วยว่ามองผมไปก็ยิ้ม เคยถามเหมือนกันว่ายิ้มอะไร เขาก็บอกมีคนตั้งใจทำอะไรให้แล้วมันรู้สึกดี เลยพอเข้าใจว่านี่แหละ อ้อนสุดแล้ว  เพราะฉะนั้นเมื่อวานนี้พูดว่า “รัก” ให้ผมได้ยินได้นี่ ผมก็ดีใจแทบตัวลอยแล้ว

“ถ้าอย่างนั้น ออกจากบ้านแล้วเราแวะซื้อของกันก่อน ของในตู้เย็นเหมือนจะหมดแล้ว” ผมพูดแล้วตักข้าวเข้าปากไปด้วย พอเห็นข้าวผัดหอม ๆ มาอยู่ตรงหน้าแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้น้ำย่อยในกระเพาะมันทำงานดีเข้าไปใหญ่

“อื้ม” คนที่เคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ งึมงำรับคำ

“เออ แล้วพ่อกับแม่จะกลับมาเมื่อไหร่” เขาถามผมต่อ หลังจากกลืนข้าวผัดลงไปแล้ว

“อาทิตย์ที่แล้วโทรมาบอกว่าจะกลับมากลางเดือน พ่อแม่กลับมาแล้วกรก็คงไป ๆ มา ๆ นะ แต่ไม่หายไปนานหรอก กลัวมีคนคิดถึง” ผมพูดก่อนที่อีกคนจะทันได้พูดอะไร

“คงไม่มีหรอก” ฟังที่เขาตอบผมสิ แล้วดูเขา พูดเสร็จแล้วยังทำไม่สนใจผมอีก ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อเฉยเลย

“คนไม่คิดถึงไม่เป็นไร อย่างน้อยเจ้าเรนกับซูชิ มันคงคิดถึงพ่อมันบ้างแหละ” ผมพูดต่อ ส่วนเจ้าเรนกับซูชิที่ว่านี่ ก็ไม่ได้หมายถึงหมาตัวโตของผมกับเขานะ แต่หมายถึงเจ้าปลาทองตัวยักษ์ที่เราสองคนเพิ่งไปหามาเลี้ยงได้ไม่นานนี้ เราอยากหาอะไรมาเลี้ยงบ้าง แต่ถ้าจะให้เลี้ยงหมาคงไม่สะดวก แล้วก็ดูวุ่นวายไปหน่อย ถึงห้องที่อยู่จะใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนึงเลยก็เถอะ สุดท้ายก็มาสรุปอยู่ที่ปลาทองตัวใหญ่กว่าฝ่ามือคู่หนึ่ง ก็เลี้ยงในอ่างแก้วใบใหญ่ จริง ๆ ต้องบอกว่าใบใหญ่มากต่างหาก ไม่ได้ใส่ตู้กระจกสี่เหลี่ยมเหมือนที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงกัน พอเลี้ยงไปสักพักผมเลยเอาชื่อหมาของเราสองคนมาเรียกมันซะเลย

“กรไม่อยู่กลัวมันจะเฉาตายซะก่อน” ผมพูด ก็เอาปลามาอ้างไปอย่างนั้นแหละ อันที่จริงผมเองนี่แหละจะเฉาซะเอง ส่วนปลาไม่ต้องห่วงหรอก ถึงผมไม่อยู่มันก็มีอาหารกิน เพราะมีเครื่องให้อาหารอัตโนมัติที่ตั้งเวลาเอาไว้ พอถึงเวลาอาหารมันก็ออกมา แล้ววานให้แม่บ้านที่คอยมาทำความสะอาดช่วยดูให้ด้วย

“ก็พากลับบ้านไปด้วยเลยสิ” สุดที่รักผมพูด

“โห ใจคอ จะบอกว่าคิดถึงสักนิดให้พอชื่นใจบ้างก็ไม่มีอ่ะ โกหกก็ยังดี กรไม่อยู่อย่าให้รู้แล้วกันว่าแอบเหงาอ่ะ” ผมพูดขำๆ

“พอๆ พูดไปเรื่อย เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”

“เป็นแบบนี้แล้วรักไหมล่ะ” ผมถาม

“กร...” นั่นๆ เสียงห้วนมาเลย

“แล้วตกลงว่ารักไหมครับ” ผมถามเสียงเบา พอให้ได้ยินกันแค่สองคน

“เออ รัก” บอกรักเสียงห้วนมาก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ดีใจอยู่ดี ใครจะหาว่าผมเพี้ยนก็ตามสบาย ไม่มาเป็นผมไม่รู้หรอกว่า ทำแบบนี้แล้วมีความสุขมากขนาดไหน  

“รักเหมือนกัน” ผมพูด




...............................................................


“เรียนจบแล้ว จะเข้าไปทำงานเลยหรือเปล่า หรือจะเรียนต่อ” คนที่ยืนหั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็กๆ สำหรับใส่ในซอสสปาเก็ตตี้ถามผม ส่วนผมกำลังตั้งน้ำสำหรับต้มเส้นสปาเก็ตตี้อยู่ จากที่ตอนแรกจะทำเป็นมื้อเที่ยงก็เปลี่ยนมาเป็นมื้อเย็นแทน เพราะกว่าจะออกจากบ้านนู้นก็เกือบสิบเอ็ดโมง ไหนจะไปเดินซื้อของกันอีก กลับมาถึงนี่ก็บ่ายสองกว่า แล้วข้าวผัดจากตอนสายก็อยู่ท้องใช่เล่น ตอนบ่ายเราสองคนเลยกินแค่ขนมที่ซื้อมากัน ก่อนอีกคนจะบ่นว่าง่วง เพราะเมื่อคืนนอนไปได้นิดเดียว เลยขอนอนหลับต่อ ส่วนผมก็เอาโปรเจคมานั่งทำ จนห้าโมงนี่แหละถึงได้มาทำมื้อเย็นกัน

“คงเข้าไปดูงานที่บริษัทฯ ก่อนสักปีสองปี แล้วกรก็อยากลองรับงานข้างนอกด้วย เป็นฟรีแลนส์ที่รับเป็นงานๆ ไปเหมือนที่เคยให้ทำอ่ะ ส่วนเรื่องเรียนต่อยังไงก็คงต้องเรียนอยู่แล้ว” ผมตอบ ระหว่างที่กำลังหยิบเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ลงในหม้อน้ำเดือด ที่บ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ หลักๆ ก็จะส่งผ้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั้งในประเทศ แล้วก็ต่างประเทศ ซึ่งตรงนี้ผมต้องเข้าไปรับช่วงต่อ ส่วนงานฟรีแลนส์ที่อยากรับมาทำ ก็เพราะอยากลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ตั้งใจเรียนมาทั้งทีขอเอามาใช้ให้คุ้มหน่อย  สุดท้ายเรื่องเรียนต่อ ก็ไม่น่าจะพ้นพวกบริหารละมั้ง

“หยิบจานให้กรหน่อย” ผมพูด แล้วปิดไฟที่เตาเมื่อต้มเส้นสปาเก็ตตี้จนได้เวลาแล้ว คนข้างๆ ก็เปิดลิ้นชักข้างตัวหยิบจานใบใหญ่สองใบออกมา แล้วส่งให้ผมทีละใบ พอผมคีบเส้นมาใส่ลงไปในจานเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งกลับไป

“แป๊บนึงนะ” ผมพูด เมื่อได้ยินเสียงจากโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่ที่โต๊ะกินข้าว

.
.
.

“ครับ แม่” ผมรับสาย พอมองเข้าไปในครัวก็เห็น อีกคนกำลังจัดการกับหม้อที่ใช้ต้มเส้นสปาเก็ตตี้เมื่อกี้

“ให้กรไปรับไหม”

“ครับ”

“คิดถึงเหมือนกันครับ”

“แล้วเจอกันครับ”

“บาย”

ผมใช้เวลาคุยกับแม่ไม่ถึงสามนาที ก็วางสายแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง แล้วหยิบกระทะที่เก็บอยู่ในลิ้นชักออกมาตั้งบนเตา

“แม่โทรมาบอกว่าจะกลับมาอาทิตย์หน้า” ผมพูด เมื่อกี้แม่เพิ่งโทรมาบอกว่าจะเลื่อนกำหนดกลับเร็วขึ้น เพราะงานทางนู้นเรียบร้อยแล้ว

“อ้าว ไหนว่าอีกสองอาทิตย์”

“พอดีงานเสร็จแล้ว แล้วก็จะรีบกลับมาดูเรื่องจะขยายโรงงานใหม่ด้วย”

“สร้างที่ใหม่หรือว่าต่อเติมที่เดิม”

“สร้างใหม่เลย” ผมตอบ ระหว่างที่ทำซอสสปาเก็ตตี้ไปด้วย

ก็ทำไปคุยไปใช้เวลาไม่นานนักซอสสปาเก็ตตี้ก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมตักเสิร์ฟ
ให้ที่รักของผม

----------------------------------------------------------      

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2010 22:47:55 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
หวานแหวว น่ารักจังคู่นี้ :-[ :-[

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
มดกัดเต็มตัวเลยค่ะ :a5: :a5:
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
 :กอด1: ชอบอ่าน part ของกร  น่ารักจริง ๆ

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
ที่รักของผม กรน่ารักเนอะ ชอบคู่นี้ตรงที่พูดตรงดี และดูเข้าใจกันมากด้วย

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อยากจะกินสปาเก็ตตี้มั่งจังเลย 555 +1ค่ะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ชอบกร โรแมนติค ชัดเจนดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
หวานมากกกกกกกกกกกกกก  :-[

 :กอด1:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักตลอดอ่ะคู่นี้ :-[
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกดีอ่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
ดูเป็นคู่ที่ไม่หวือหวาแต่น่ารักชะมัด ^^
รู้สึกว่าแบบถึงจะไม่ค่อยแสดงออกมามากมาย แต่ก็รู้ว่ารักกันอะค่ะ ชอบจัง  :-[

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
เลียนแบบน้องพาร์ก่อน
"ไม่หวือหวา แต่น่ารักชะมัด" มันใช่เลยค่ะสำหรับคู่นี้


คุณแม่กลับมา หวังว่าจะไม่พามาม่าชามโตกลับมาด้วยนะคะ หงิงๆ
(อ่านเรื่องนี้แล้วมักกังวลล่วงหน้าวุ้ย)

lasom

  • บุคคลทั่วไป
อนาคตจะไหวมั้ยเนี้ย ดูงานยุ่งทั้งคู่เลยอ่ะ
เอาใจช่วยเน้อส์  :L1:

cmos

  • บุคคลทั่วไป
แหมพี่กันต์อ่ะ จะหวานมั่งก็ไม่ได้นิ อิอิ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้น่ารักได้เรื่อยๆตลอดเวลาสิน่า  :o8:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
กร
น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย
ผู้ชายอะไร เพรียบพร้อมจริงๆเลย  :z1:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
น่ารักสม่ำเสมอที่สุด
กรเอาใจใส่กันต์สุด
อ่านแล้วยิ้มได้ตลอดเรื่องนี้
หวังว่าคุณแม่กลับมาเนี่ย จะไม่หอบเอาพายุมาด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้นี่ลงตัวกันพอดีเลยเนอะ
กันต์พูดไม่เก่ง แต่ใช้วิธีแสดงออกแทน
ส่วนกร ช่างพูด ช่างคุย มองเห็น และเข้าใจสิ่งที่กันต์ทำให้เสมอ
เอาใจใส่กันดีจังเลย
:impress2:
ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจาก
เขาน่ารักกันจังเลยเนอะ อ่านแล้วก็ยิ้ม ^_^

อีกไม่นานคงมีเรื่องให้ลุ้นกันอีกใช่ไหมเนี่ย

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 33 ขอบคุณครับ

ผมออกมาจากคอนโดฯ หลังจากส่งอีกคนไปทำงานได้สักพักแล้ว และแวะกลับเข้าบ้านเพื่อไปเปลี่ยนเอารถอีกคันออกมาแทน แต่เห็นว่ายังพอมีเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลาที่เครื่องลง เลยเอางานออกมานั่งทำ และกินข้าวกลางวัน ก่อนจะขับไปรับพ่อกับแม่ที่สนามบิน ที่ต้องเปลี่ยนรถเพราะกลัวว่าจะขนกระเป๋าเดินทางกับสัมภาระของพ่อกับแม่ไม่หมด ไปกันนานขนาดนั้นของคงเยอะเอาเรื่อง

จากบ้านผมไปถึงสนามบินก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมง มาถึงก็เกือบจะได้เวลาพอดี ดีที่ผมเผื่อเวลาไว้ค่อนข้างเยอะไม่อย่างนั้นได้ปล่อยให้พ่อกับแม่รอกันบ้าง แล้วก็เห็นพ่อกับแม่เดินออกมา แม่ผมนี่เดินตัวปลิวมาเลย มีแค่กระเป๋าถือสีดำคล้องแขนอยู่ใบเดียว ส่วนพ่อมาพร้อมกับรถเข็นที่มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สามใบกับใบเล็กอีกสอง ก่อนจะถูกแม่เดินทิ้งห่างออกมาพอสมควร แม่ไม่ได้ทิ้งพ่อนะ แค่เห็นผมเลยรีบเดินมาหา ตอนแรกเขาก็เดินคู่กันมานั่นล่ะ

“สวัสครับแม่” ผมพูด และยกมือไหว้แม่ ก่อนจะกางแขนออกเพื่อกอดตอบแม่ที่เข้ามาสวมกอดผม บ้านผมกอดกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติ น่าจะเป็นมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าของผมเลยมั้ง กับตายายจะไม่ค่อยนะ แต่กับย่านี่จะกอดพ่อแม่ กอดผม ทุกครั้งที่เจอกัน ตั้งแต่ผมยังเด็กจนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ยิ่งกับผมย่าจะทั้งกอดทั้งหอม หอมแก้มซ้าย แก้มขวา หน้าผาก คาง เรียกว่าครบทั้งหน้า แล้วย่าผมก็ตัวเล็กนิดเดียว จะหอมผมแต่ละที ผมก็ต้องย่อตัวแบบสุดๆ แล้วย่าก็จะเอามือมาจับหน้าหันซ้ายหันขวา ก้มเงย จนหอมทั่วหน้านั่นละ หอมแล้วก็กอดกันอีกที  

“ไหนให้แม่ดูหน้าสิ เอ๊ะ!! แม่ไม่อยู่นี่ทำไมหน้าใสเชียว โปรเจคเสร็จแล้วหรอ” แม่ผมทัก เพราะก่อนหน้าที่แม่จะไปผมดูโทรมๆ ไปหน่อย ช่วงนั้นมีงานต้องส่งหลายชิ้นเลยนอนน้อย แล้วก็ไม่ได้ดูแลตัวเอง แต่ตอนนี้ได้คนดูแลดี หน้าเลยใสกิ๊ก ฮาๆ ก็คนดูแลผมเขาเป็นคนรักสุขภาพ และด้วยความที่เขาต้องพบเจอคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อยๆ ต่อให้งานเยอะก็ไม่เคยปล่อยตัวเองโทรม ผมก็พลอยได้อานิสงค์ไปด้วย แล้วไม่ใช่ว่าแม่ผมดูแลไม่ดีนะ ดีมาก แต่ผมไม่ค่อยสนใจตัวเองเท่าตอนนี้มากกว่า  

“สวัสดีครับ พ่อ” ผมพูด แล้วยกมือไหว้พ่อ

“แล้วตกลงว่าเป็นยังไงบ้างเรื่องโปรเจค ทำไปถึงไหนแล้ว” พ่อถามผมซ้ำ พอถามจบก็ยกมือขึ้นมายีหัวผมเบาๆ ซะหนึ่งที ก่อนที่ผมจะเดินไปเข็นรถเข็นแทน

“ใกล้แล้ว เหลือแก้นิดหน่อย แล้วก็นัดพรีเซ็นกับอาจารย์หลังฝึกงานเสร็จ ก็จบแล้ว” ผมตอบ จากนั้นก็พากันเดินไปที่รถ พอเดินมาถึงรถ ผมก็จัดการเปิดท้าย แล้วยกกระเป๋าขึ้นใส่ท้ายรถ ก่อนขึ้นไปประจำที่คนขับแล้วออกรถ

“นี่กลับมานอนบ้านหรือยัง” แม่ผมถาม เพราะก่อนหน้านี้ผมบอกว่าไปนอนบ้านเพื่อน

“ก็กลับวันนี้พร้อมแม่” ผมตอบ ส่วนเรื่องที่ผมคบอยู่กับกันต์ ผมก็คิดไว้แล้วว่าจะบอกกับแม่        

“ถ้าแม่ไม่กลับมานี่ กะจะไม่กลับบ้านหรือไง ไปอยู่ตั้งนานช่วยเพื่อนจ่ายค่าน้ำค่าไฟหรือเปล่า แล้วพ่อแม่เขาไม่ว่าเอาหรอ” แม่ผมร่ายยาวเป็นชุด  

“ก็ช่วย” ผมตอบสั้นๆ เดี๋ยวไว้ผมคุยกับแม่เรื่องกันต์เมื่อไหร่ ค่อยอธิบายยาวๆ ทีเดียว กับที่ผมตอบแม่ไปผมก็ทำตามนั้นจริงๆ ค่าน้ำค่าไฟ แม้แต่ของใช้ผมก็ขอจ่ายเองหมด ตอนแรกก็มีเถียงกันกับเขาเหมือนกัน เขาว่าผมยังไม่ได้ทำงานจะมาจ่ายอะไรยังไง แล้วผมไปอยู่อีกคนก็ใช่ว่าค่าใช้จ่ายมันจะเพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ ผมเลยต้องบอกเขาว่าผมรู้สึกไม่ดี เขาถึงยอม อีกอย่างเรื่องค่าใช้จ่ายผมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นถึงจะต้องมาจ่ายตรงนี้ด้วย เพราะผมก็เอาจากที่เหลือจากที่พ่อแม่ให้ไว้สำหรับใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่บ้านนั่นแหละมาจ่าย  

“ได้ที่ฝึกงานที่ไหน” พ่อถามต่อ

“INDEED” ผมตอบ ง่ายไหมละผม จะต้องไปฝึกที่ไหนไกลล่ะ

“ที่อ่านอยู่นะหรอ” พ่อถามต่อ คงจะเห็นจากชั้นหนังสือที่บ้าน

“นั่นละครับ” ผมตอบ

“แล้วฝึกกี่เดือน” แม่ผมถามบ้าง

“3 เดือน” ผมตอบแม่ แล้วหลังจากนั้นก็ถามตอบกันอีกหลายคำถามกว่าจะถึงบ้าน รวมถึงคุยเรื่องงานที่บริษัทฯ ด้วย


...............................................................

“ถึงบ้านหรือยัง” ผมโทรไปหากันต์ หลังจากกินข้าวเย็น และกลับขึ้นมาบนห้องนอนแล้ว ส่วนพ่อแม่ผมกำลังรื้อกระเป๋ากันอยู่เลยยังไม่ได้คุยอะไรกันต่อ ระหว่างคุยโทรศัพท์ผมเองก็แกะของฝากในถุงที่พ่อกับแม่ซื้อมาให้ไปด้วย

“ถึงแล้วตั้งแต่หกโมงครึ่งแล้ว กำลังหาอะไรกินอยู่” เสียงเขาตอบกลับมา

“ทำอะไรกิน” ผมถาม แล้วเปิดฝากล่องรองเท้าที่อยู่ตรงหน้า สุดยอด!! กำลังอยากได้รุ่นนี้อยู่พอดี จะว่าไปรองเท้าของผมเกือบครึ่งที่มีอยู่เป็นของที่พ่อซื้อมาให้ แล้วก็ถูกใจผมทุกคู่

“กะเพรากุ้งกับไข่เจียว” เสียงตอบผ่านสายโทรศัพท์ และตามมาด้วยเสียงเหมือนเสียงส้อมกระทบกับชามกระเบื้อง คงกำลังเจียวไข่

“น่ากินเชียว” ผมพูด แล้วเริ่มต้นรื้อถุงต่อไป
“น่ากิน ก็กลับมา” เขาตอบผม ก็ช่างตอบซะเหลือเกินนะ พอไม่อยู่ด้วยแบบนี้

“โห พูดแบบนี้ เดี๋ยวก็กลับตอนนี้ซะเลย” ผมพูด แล้วก็หยิบเสื้อที่อยู่ในถุงออกมากางดูทีละตัว ได้เสื้อโปโลมาอีกสามตัว สีขาวสองตัว อีกตัวเป็นสีน้ำเงินเข้ม ดูเสร็จก็ลุกเอาไปใส่ตะกร้ารอซักพรุ่งนี้

“หึหึ” เสียงเขาหัวเราะ

“เดี๋ยวเข้าไปหาวันพุธนะ” ผมบอก วันพรุ่งนี้คงต้องอยู่ที่บ้านอีกวันก่อน
“อื้อ”

“กันต์” ผมเรียกชื่อเขา
“ครับ”  

“คิดถึงนะ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็เลยพูดไปแค่นั้น ถึงปกติช่วงวันหยุดเขากับผมจะกลับไปนอนที่บ้านตัวเองกัน แต่ผมรู้สึกว่านี่มันไม่เหมือนกัน เฮ้อ!!
“ครับ”

“แค่นี้ก่อนนะ ขอกินข้าวก่อน” เขาบอกผม
“ครับ บาย”

“บาย” แล้วเขาก็วางสายไป ผมเลยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ แล้วออกมานั่งเล่นคอมฯ ออนเอ็มคุยกับเพื่อน จนเกือบเที่ยงคืนถึงส่งข้อความไปหาคนที่ผมโทรหาเมื่อตอนหัวค่ำเพื่อเตือนให้เขาเข้านอน เขาเองก็ส่งกลับมาเหมือนกันว่าให้ผมเข้านอนได้แล้วเพราะมีเรียนตอนเช้า


....................................................................

ผมเดินมานั่งที่โซฟา แล้วเอนตัวลงนอนหนุนตักแม่ หลังจากกินข้าวเย็นกันสองคนแม่ลูก เพราะพ่อยังกลับมาไม่ถึง เพิ่งกลับมา งานทางนี้ก็คงจะเยอะเอาเรื่อง เลยโทรมาบอกให้ผมกับแม่กินกันไปก่อน

“อยากได้อะไรหรือเปล่า มาอ้อนแม่แบบนี้” แม่ถามแล้วก็ลูบหัวผม ก็ปกติเวลาผมมานัวเนียแบบนี้แปลว่ามีอะไรที่ผมอยากได้ แม่เลยรู้ทัน

“แม่ แม่เคยคิดไหม ว่าอยากให้อนาคตลูกแม่เป็นยังไง” ผมถาม

“เป็นอะไร อยู่ดีๆ มาถาม”
“ก็ลองถามดู”

“แม่ก็คงอยากเห็นเราเรียนจบ ออกมาทำงาน ยืนได้ด้วยตัวเอง แล้วแม่ก็อยากเห็นกรมีความสุข” แม่ตอบ

“แค่นั้น??” ผมถามต่อ
“แค่นั้นแหละ” แม่ตอบ

“แล้วไม่คิดว่ากรต้องแต่งงาน มีหลานอะไรอย่างนั้นหรอ” ผมถาม เพราะคิดว่าแม่น่าจะตอบว่าอยากเห็นผมมีครอบครัวอะไรแบบนั้นด้วย

“ไม่แต่งก็ไม่เห็นเป็นอะไร ดีซะอีกจะได้อยู่กับแม่แบบนี้ไง” แม่ผมตอบแล้วก็ยิ้ม อันนี้นี่ออกแนวหวงลูกชายแล้วนิ แม่ผม

“อืม... ถ้ากรมีแฟน แต่แฟนกรไม่เหมือนอย่างที่แม่คิดล่ะ” ผมลองเลียบๆ เคียงๆ ถาม ส่วนในใจนี่ก็บอกไม่ถูกว่ากำลังรู้สึกแบบไหน เรื่องกลัวนี่มันแน่นอนอยู่แล้ว กลัวที่จะทำให้แม่เสียใจ แต่อีกใจหนึ่งผมกลับมั่นใจว่า แม่จะรับในสิ่งที่ผมกำลังจะบอกแม่ได้ ผมมั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้น

และถึงตอนนี้ตอนที่ผมกำลังจะบอกกับแม่ว่าแฟนผมเป็นผู้ชาย แต่รู้อะไรไหม ผมกลับรู้สึกแปลกๆ ที่จะต้องยอมรับกับตัวเองว่าผมเป็นเกย์ กับเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึก แม้แต่กันต์ก็ยังรู้สึกแบบนี้ เราสองคนเคยคุยกันเรื่องนี้จริงๆ จังๆ กันอยู่ครั้งหนึ่งว่าตกลงผมกับเขาเป็นเกย์กันจริงๆ แล้วใช่ไหม ปรากฏว่าเราสองคนกลับรู้สึกแปลกๆ กับการที่ถูกเรียก หรือจำกัดความการที่เรามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยคำๆ นั้น ก็ในเมื่อถ้าไม่ใช่เขา ผมก็คงไม่คบกับผู้ชายคนไหนอีก และเขาเองก็เช่นเดียวกัน

แล้วอย่าเพิ่งมองว่าอนาคตผมกับเขาอาจจะไปคบกับใครอีกก็ได้ ให้มองแค่ตอนนี้ ตอนที่เราสองคนกำลังคบกันอยู่

“แล้วเขาเป็นยังไง ถึงบอกว่าไม่เหมือนอย่างที่แม่คิด รู้หรอว่าแม่คิดอะไร” แม่พูด และถามกลับมา ในขณะที่มือก็ยังคงลูบหัวผมไปเรื่อยๆ

“ถ้ากรบอกว่าแฟนกรเป็นผู้ชายล่ะ” ผมพูดออกไปแล้ว และผมก็รู้สึกได้ว่ามือของแม่ที่อยู่บนหัวผมนั้นหยุดนิ่งไป ผมเลยขยับตัวจะลุกขึ้น แต่แม่ผมก็ขยับมือลูบหัวผมต่อ ผมเลยนอนนิ่งอยู่เหมือนเดิม

“แม่... เสียใจหรือเปล่า กรขอโทษ” ผมพูดออกมา ก่อนจะคว้ามือแม่มากุมไว้ที่หน้าอก

“กรรักเขามากไหม” แม่ไม่ตอบ แต่ถามผมต่อ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าแม่ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะโล่งใจไหม ที่ผมก็ไม่เห็นน้ำตาอยู่บนหน้าของแม่

“รักสิ” ผมพูด

“แล้วเขารักกรไหม กรมีความสุขไหมลูก”
“รัก แล้วกรก็มีความสุขนะแม่”
“อื้ม” แม่ผมตอบรับ

“ใช่คนที่กรไปอยู่กับเขาหรือเปล่า”
“ครับ”

“แล้วพ่อแม่เขาละรู้ไหม” แม่ผมยังคงถามต่อไปเรื่อยๆ จนผมอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า

“แม่ แม่จะไม่ถามอย่างอื่นหรอว่าทำไมกรถึงเป็นแบบนี้ แม่ไม่ว่าอะไรกรหรอ” ผมถาม ด้วยความสงสัย ถึงผมจะมั่นใจว่าแม่จะรับได้ แต่ไม่คิดว่าจะได้มากขนาดนี้

“จะถาม จะว่าทำไมล่ะ กรมาบอกแม่ ก็กลัวแม่เสียใจอยู่แล้วใช่ไหม” แม่พูดและถามกลับ ผมก็พยักหน้าตอบ

“แม่จะว่ากรทำไม แม่ไม่อยากให้กรเสียใจเหมือนกัน แม่บอกแล้วไงว่า แม่แค่อยากเห็นเรามีความสุข” แม่พูด กลายเป็นว่าผมเองที่น้ำตาร่วงลงมาแทนแม่  

“ร้องทำไม แม่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ไหนเมื่อกี้แม่ถามอะไรยังไม่ได้บอกแม่เลย” แม่ผมทวงคำตอบ
“ยังไม่รู้ แต่กรก็เคยไปบ้านเขานะ”

“เขาชื่ออะไร เรียนที่เดียวกันหรอ”
“กันต์ เขาเรียนจบแล้ว จบโทแล้วด้วย ตอนนี้ทำงานแล้ว แม่จำที่ที่กรบอกจะไปฝึกงานได้ไหม” ผมพูด แม่พยักหน้าตอบ
“นั่นแหละของเขา”

“จะไปอยู่กับเขาเหมือนเดิมหรือเปล่า” แม่ถามอีก ส่วนตอนนี้ผมก็รู้สึกโล่งขึ้นมาจริงๆ แล้ว

“ถ้ากรไปอยู่กับเขาแม่จะว่าอะไรไหม”
“เขาอยู่ที่ไหนละ”
“อยู่คอนโดฯ ซอย 39”
“ใกล้แค่นี้เอง ของเขาหรอ”
“ครับ”
“ก็ตามใจ แต่ก็กลับมาบ้านบ้างแล้วกัน แล้วก็ตั้งใจเรียนนะ” แม่พูด ผมเลยยิ้ม แล้วดึงมือแม่มาหอมทีนึง

“แล้วพ่อละ” ผมถาม ถึงแม่จะเข้าใจ แต่พ่อละ
“ก็ไปบอกพ่อเขาเหมือนที่บอกแม่นี่แหละ แม่กับพ่อรักกรนะ”

“ขอบคุณครับ” ผมขยับตัวลุกขึ้นแล้วหันไปกอดแม่เอาไว้แน่นๆ

“กรก็รักแม่นะครับ”

--------------------------------------------------------------

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-09-2010 23:29:12 โดย Angel_K »

lasom

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #712 เมื่อ05-09-2010 22:04:20 »

อิ่มใจ  :กอด1: แม่น่ารักเนอะ
ถ้าได้ครอบครัวดีๆแบบนี้ทุกคนก็คงดีซิ
ชอบอ่ะ "น่ากินก็กลับมา" :o8:
ฟังดูเหมือนการอ้อนเล็กๆ

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #713 เมื่อ05-09-2010 22:05:47 »

เอ่อ...คุณแม่ครับ
ทำไมมันง่ายอย่างงี้หล่ะครับ
ช่างแนวจริงๆเลยครับคุณแม่ o13

Rockstar

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #714 เมื่อ05-09-2010 22:23:22 »

ครอบครัวนี้มองอะไรที่เป็นจริงและปัจจุบันดีอ่ะ ชอบนะแบบนี้
แม่แบบนิ่งได้อีก แม่เจ๋งมากๆ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #715 เมื่อ05-09-2010 22:48:50 »

คุณแม่ใจดีมากๆๆๆเลยอ่ะ.......

แบบนี้ค่อยโล่งหน่อย อิอิ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #716 เมื่อ05-09-2010 22:57:54 »

สุดยอดครอบครัวนี้
+1

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
Re: รักคือ... รัก >>> ขอบคุณคับ p.24 (up 5-9-10)
«ตอบ #717 เมื่อ05-09-2010 23:07:36 »

ทำไมได้เกิดมากับแม่ที่ประเสริฐพร้อมและรักลูกขนาดนั้น เพียงแค่อยากให้ลูกมีความสุขไม่ปริปากทำลายน้ำใจสักนิด บุญจริงๆเลยกร  :กอด1:   :L1:   :กอด1:   :L1:   :กอด1:   :L1:

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ปลาบปลื้ม คุณแม่เยี่ยมสุดๆ
กรโชคดีที่แม่เข้าใจ ซึ้งเลยอ่ะ


Sweet cream

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:

ตอนนี้อ่านแล้วน้ำตาคลอเลย
รู้เลยว่าทำไมกรถึงจิตใจดีขนาดนี้ มีครอบครัวน่ารักแบบนี้นี่เอง

คนเป็นแม่ จริงๆ แล้วก็คงมีที่เสียใจอยู่แล้วอ่ะ
แต่ก็ไม่พูดหรือแสดงอะไรออกมาว่าตัวเองก็เสียใจ
ให้ลูกเห็นแล้วใจเสีย

สุดยอดไปเลยค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด