ตอนที่ 32 บอกว่ารัก (อีกสักครั้ง) [1/2]
“หันหลังมาก่อน” ผมส่งเสียงดุคนที่นั่งซ้อนหลังผมอยู่ในอ่างอาบน้ำ แล้วก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตานัวเนียอยู่กับตัวผม จนไม่เป็นอันได้อาบน้ำ ว่าจะขัดหลังให้ก็ทำไม่ได้ รู้ว่าจะทำอะไร แต่อาบน้ำให้มันเสร็จก่อนไม่ได้หรือไง
“ไม่เอา เสร็จแล้วค่อยอาบ จะได้ไม่ต้องอาบหลายรอบไง” ฟังเขาพูดเข้า ไอ้หื่น !!!
“อื้อ” ผมครางออกมา เมื่อถูกคนที่พูดอะไรไม่เคยจะฟังขบเม้มติ่งหูเล่น ก่อนที่ผมจะพยายามเบี่ยงหลบ
“เสร็จแล้ว ก็อาบให้ไม่ไหว” ผมหันหน้าไปพูดกับเขา บอกกันตรงๆ นั่นแหละ เพราะมันเรื่องจริง ถ้าไม่มีอะไรกันนานๆ ทีไร พอมีทีผมก็เป็นอันหมดแรง แทบจะสลบ บางทีหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไปรู้ตัวอีกทีก็เช้า แม้แต่จะทำความสะอาดตัวเองยังไม่ไหว ยังดีที่ได้เขาคอยทำให้
“ไม่ต้องก็ได้ ให้กรทำให้ทีหลังดีกว่านะ” เขาพูด แล้วแย่งฟองน้ำที่ผมถือไว้ในมือมาสักพักแล้ว ขึ้นไปวางไว้ขอบอ่าง “เออ จะเอาให้ได้ตอนนี้ว่างั้น” ผมคิดในใจ แล้วก็ปล่อยเลยตามเลย
“อื้อ...... อืม......” ผมปล่อยเสียงครางให้หลุดรอดออกมา เมื่อถูกคนข้างหลังใช้มือข้างหนึ่งจับประคองใบหน้าของผมให้หันไปรับริมฝีปากนุ่มของเจ้าตัวที่กดลงมาเบาๆ บนริมฝีปากของผม ก่อนจะถอนออกแล้วประกบลงมาอีกครั้ง จากนั้นก็ค่อยๆ ละเลียดเล็มไปตามริมฝีปากของผม แล้วขบเม้มลงเบาๆ ที่ริมฝีปากล่าง จนผมได้แต่ครางฮือกับการยั่วหยอกของเขา
แต่มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่า ทำอะไรกันในอ่างอาบน้ำเนี่ยมันลำบากใช่เล่น พื้นอ่างมันลื่นจนตัวผมแทบจะไถลลงไปกับพื้นอ่าง เลยต้องเอามือคอยเกาะบ่าของอีกคนเพื่อพยุงตัวไว้ แล้วก็ได้แขนข้างที่ว่างอยู่ของเจ้าของบ่าที่ผมกำลังเกาะไว้ มารวบตัวเพื่อช่วยประคองผมไว้ด้วยเช่นกัน
“กร เดี๋ยว... ยะ... หยุดก่อน” ผมส่งเสียงประท้วงเมื่อความรู้สึกบางอย่างมันแล่นเข้ามา ก่อนที่ผมจะเบือนหน้าหนีจากริมฝีปากนุ่มที่กำลังไล่ต้อนผม สองมือที่จับอยู่บนบ่าของคนตรงหน้าถูกคลายออก แล้วเปลี่ยนมาผลักออกไปด้วยแรงที่ไม่มากนัก แต่มันก็ทำให้มีช่องว่างระหว่างเราสองคน ผมหอบหายใจแรงกว่าปกติ และผมไม่กล้าคิดถึงเหตุผลเลยว่าทำไมผมถึงพูด และทำอะไรแบบนั้นออกไป รู้ตัวอีกทีผมก็ทำลงไปแล้ว
“เป็นอะไรไป หืม...” กรยกมือขึ้นมาลูบแก้มข้างหนึ่งของผมเบาๆ จนผมเริ่มหายใจเป็นปกติอีกครั้ง ผมจึงหันหน้ากลับไปทางเดิม และเอนหลังไปพิงกับแผ่นอกของคนด้านหลัง ก่อนจะคว้าแขนของคนที่ผมพิงไว้ให้มาโอบรอบตัวผม
“เปล่า ๆ” ผมตอบ และใช้เวลาอยู่นิ่งๆ สักพัก แล้วค่อยพลิกตัวหันไปหาคนด้านหลังที่คอยมองผมอยู่แล้ว ผมขยับตัวขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตักของเขา แล้วยกมือขึ้นไปลูบแก้มของเขาบ้างเหมือนที่เขาทำกับผมเมื่อกี้ เจ้าของใบหน้าได้แต่ปล่อยให้ผมทำตามใจตัวเองกับการลูบเบาๆ บนใบหน้าของเขา แล้วเปลี่ยนเป็นการไล่นิ้วชี้ขยับลากเรื่อยลงมาจากสันจมูกจนถึงปลาย และมาหยุดที่ริมฝีปากที่จูบผมเมื่อกี้ เมื่อผมหยุดมือค้างไว้ เขาถึงยกมือขึ้นมาจับมือผมแล้วเอากลับไปนาบไว้ที่ข้างแก้มของเขาอย่างเดิม และใช้มือของเขาที่ใหญ่กว่ามือของผมมาทาบทับมือผมไว้อีกที
“บอกรักหน่อยสิ” ผมขอให้คนตรงหน้าบอกรักผม ในขณะที่สายตาของผมกำลังจับจ้องไปที่เขา ผมอยากสบตาเขา อยากเห็นสายตา อยากเห็นสีหน้า และแววตา ขณะที่เขากำลังเอื้อนเอ่ยคำที่ผมอยากฟังที่สุดในเวลานี้
“กรรักกันต์นะ รัก... รักที่สุด”
“รักนะ รู้ไหม... รักมาก...” ผมบอกเขาไปเช่นกัน
“ครับ” เขาตอบ
“มากรอาบน้ำให้ แล้วจะได้เข้านอนนะ” เขาพูดแล้วยกมือขึ้นเพื่อจะหยิบฟองน้ำที่อยู่บนขอบอ่าง ที่เขาเป็นคนเอาออกจากมือผมไปตอนแรก แต่ผมคว้ามือเขาไว้ได้ก่อน แล้วจับมือนั้นให้มาโอบหลังผมไว้แทน
“ต่อจากเมื่อกี้เถอะ” ผมพูด
“ไม่เป็น ระ ...อืม...” แล้วก็เป็นผมที่ใช้ริมฝีปากของตัวเองปิดปากเขาไว้ ก่อนที่เขาจะทันได้พูดออกมาจนจบประโยค “แค่รู้ว่ามีคนที่รักผมอยู่ตรงนี้ ก็คงไม่มีอะไรที่ผมต้องกลัวอีก”
มาถึงตอนนี้ แม้จะผ่านรอบแรกไปแล้ว แต่ก็ใช่ว่าอีกคนจะยอมให้อุณหภูมิในร่างกายของผมที่พุ่งขึ้น ลดต่ำลงได้โดยง่าย แม้แต่อาการหอบหายใจเพื่อพยายามนำอากาศเข้าปอดของผม เขาก็ยังไม่ยอมให้มันกลับคืนสู่ภาวะปกติ ผิวกายที่ถูกแช่อยู่ในน้ำนานสองนานไม่ได้ถูกทำให้เย็นไปตามอุณหภูมิของน้ำที่ลดต่ำลงเลย
ร่างเปลือยเปล่าของผมที่ถูกเช็ดให้แห้งอย่างลวกๆ เพื่อกันไม่ให้ที่นอนเปียกชื้นจนไม่สามารถนอนได้ในคืนนี้ ร่างที่ทอดอยู่บนที่นอนกำลังถูกปลุกเร้าอีกครั้งหลังจากการพักในช่วงสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที เมื่อลิ้นร้อนของอีกคนกำลังลากไล้ผ่านจากสะดือ ลงมาถึงท้องน้อย ก่อนจะถูกขบกัดเบาๆ จนผมอยากจะถดตัวหนีจากฟันคมนั้น แต่ก็ถูกอุ้งมือใหญ่มาคว้าสะโพก และจับยึดไว้ได้ก่อน ผมเลยหมดโอกาสที่จะถอยหนีจากการรุกรานนั้น
“อื้อ...... อา.......” เสียงครางต่ำในลำคอดังขึ้น เมื่อส่วนสำคัญถูกโอบล้อมเอาไว้ด้วยโพรงปากอุ่นของคนด้านบน สองมือของผมได้แต่จิก และดึงรั้งผ้าปูที่นอนเอาไว้เพื่อช่วยระบายความเสียวซ่านจากสัมผัสที่ถูกมอบให้ด้วยความเต็มใจ
“พอ... พอ แล้ว... มะ ไม่ ไหว แล้ว” ผมส่งเสียงออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น เพื่อจะบอกเจ้าของสัมผัสที่กำลังมอบให้ผมอยู่รับรู้ว่าผมกำลังจะถึงที่สุดแล้ว และกำลังจะกลั้นมันไว้ไม่ไหว แต่คนที่มอบความเสียวซ่านให้ไม่ยอมหยุดการกระทำของเขา กลับยิ่งเร่งความเร็วขึ้นอีก และในที่สุดผมก็ไปถึงฝั่ง
“อะ อึก...... อา......” ผมปล่อยเสียงครางยาวออกมาเมื่อถูกชักพาไปถึงฝั่งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้สำหรับผมจะยังอีกยาวไกลนัก
“ฮือ... เบา ๆ” ผมส่งเสียงประท้วงเมื่ออีกคนพาตัวเองเข้ามาหาสัมผัสอุ่นร้อนภายในกายของผมบ้าง เพื่อจะพาตัวเองไปยังจุดหมายเดียวกันกับที่เขาเพิ่งพาผมไปถึงเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้
“เจ็บหรอ” คำถามถูกส่งกลับมา พร้อมกับที่ร่างกายของคนด้านบนหยุดการเคลื่อนไหว
“ไม่มาก แต่เบา ๆ ก่อน” ผมตอบ มันเจ็บ แต่ไม่มาก คงเพราะอยู่ในน้ำเมื่อกี้เลยโดนเสียดสีมากกว่าปกติ
“ไม่เป็นไร ทำต่อเถอะ” ผมพูดอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมขยับตัว ทั้งๆ ที่เขาเองก็กำลังทรมานกับความต้องการของตัวเอง และผมเองก็รับรู้ จนผมต้องเป็นฝ่ายยกมือขึ้นไปรั้งท้ายทอยให้เขาก้มลงมาประกบจูบกับผม แล้วผมก็เป็นฝ่ายแอ่นสะโพกเข้าหาอีกคนแทนเป็นการปลุกเร้าให้อีกคนทำสิ่งที่ค้างเอาไว้ต่อ
“อ้า... อื้อ... อึก” เสียงครางของเราสองคนดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับการเคลื่อนไหวที่กำลังดำเนินต่อไปอีกครั้ง สัมผัสที่เชื่องช้า เนิบนาบ แต่ในขณะเดียวกันมันก็หนักแน่น เหมือนเป็นการย้ำให้เรารู้ตัวว่า กำลังอยู่ด้วยกันตอนนี้
.
.
.
และก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่รู้ตัวว่า ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
......................................................................
“พี่กันต์” เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างๆ หูผม จากนั้นผมก็รู้สึกว่าถูกช้อนตัวให้ไปอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เรียกผมเมื่อกี้
“กี่โมงแล้ว” ผมถามทั้งที่ยังหลับตา แต่ก็ขยับตัวขึ้นมา เพื่อเอนหลังพิงคนที่กอดผมไว้หลวมๆ ให้สบายมากขึ้น
“แปดโมงครึ่งแล้ว” เขาตอบ ผมลืมตา และกระพริบอยู่สองสามครั้ง แล้วหันไปมองหน้าเขา
“อื้อ วันนี้อยากไปไหนหรือเปล่า” ผมถาม
“ไม่รู้สิ แล้วพี่อยากไปไหน”
“ไม่ต้องทำคิ้วขมวดขนาดนั้นก็ได้” เขาพูด จริงๆ ผมไม่ได้คิ้วขมวด เพราะคิดไม่ออกว่าจะไปไหนหรอก แต่เพราะเรื่องอื่นมากกว่า
“เมื่อวานไม่ได้เรียกพี่แบบนี้” ผมพูด แล้วนึกไปถึงตอนที่ผมขอให้เขาพูดว่ารักผม
“หืม...” คนที่นั่งซ้อนหลังผมอยู่ทำหน้าสงสัย
“เรียกชื่อ” ผมพูดสั้น ๆ
“กันต์” เขาเรียกชื่อผม ผมว่า ผมชอบให้เขาเรียกแบบนี้มากกว่า
“เรียกเวลาอยู่กันสองคน” ผมพูด
“ครับ แล้วตกลงว่าอยากไปไหน”
“กลับบ้าน”
“ครับ กลับบ้าน” เขารับคำ ก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม
------------------------------------------------------------
เหมือนจะสั้นรึเปล่า แต่กลัวรอนาน เอามาลงก่อนแล้วกันเนอะ >_<