ติดอกติดใจอ๊อฟกันไปยกใหญ่กันเลยนะครับ ... แต่ตอนนี้อย่าคาดหวังอะไรมากนะครับ เพราะเธอคนนี้ ... ไม่ได้มีดีแค่ความแรงอย่างเดียว
มีหลายอย่างที่ให้น่าค้นหาอีกเยอะ ...
บทมันก็ไปตามความคิดไรเตอร์นั่นแหละครับ ... ไหลไปเรื่อย ถ้าไม่ถูกใจใคร (โดยเฉพาะเพื่อนอ๊อฟ) ก็ขอโทษด้วยนะจ๊ะ คริ คริ
............................................................
ชั้นกับคุณเวย์เข้ามาในห้องก็เห็นยัยเต้กับคุณเท่ห์เค้าจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระหนุงกระหนิงกันเชียว คุณเวย์เดินมาเห็นถึงกับตกใจหยุดชะงัก ... สองคนนี้เล่นอะไรไม่ดูเวลาเล๊ยยย
“อ้าวคุณเวย์ มาแล้วเหรอครับ พอดีเลย พวกเราเพิ่งทำสปาเก็ตตี้เสร็จ มาทานด้วยกันนะครับ” เป็นยัยเต้ที่หันหน้ามาเห็นคุณเวย์แล้วพูดขึ้น
“อ๋อครับ แล้วน้องเต้หายดีแล้วเหรอครับ ดูยิ้มแย้มแจ่มใสเชียว” คุณเวย์พูดพร้อมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหาร หงอยเชียว
“ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ” ยัยเต้พูดไปพร้อมกับรินน้ำใส่แก้วทั้งสี่ใบ ทำหน้าที่ภรรยาได้ดีที่สุด
“แหม คุณเวย์ครับ เต้มันทนถึกจะตายไป เท่านี้มันไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอกครับ คนมันเคยๆ” ดูบรรยาการมันอึมครึมยังไงไม่รู้ ชั้นไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาซะเล๊ยยย
“คุณเท่ห์ครับ ลูกชายคุณเท่ห์ชื่ออะไรแล้วนะครับ” รู้สึกว่าคุณเท่ห์ก็เงียบ คุณเวย์ก็เงียบ ยัยเต้ยิ่งแล้วใหญ่ ... ชั้นเลยต้องหาอะไรคุย
“อ๋อ ชื่อเจเจครับ เดี๋ยวซักพักก็กลับมาแล้ว อ๊อฟจะพักที่นี่รอดูเจเจกลับมาก่อนก็ได้นะ” แหมๆ พ่อคุณทูนหัว พอเห็นค่าชั้นขึ้นมาก็ให้ชั้นอยู่ต่อเลยนะ ... ทีตอนแรกแล้วเหมือนจะบังคับกัน
“จะดีเหรอครับ อ๊อฟเกรงใจ๊ เกรงใจยังไงไม่รู้” ที่จริงก็ไม่มีที่ไป แต่พูดไว้ให้ดูดีก่อน
“แล้วมึงจะไปอยู่ไหนละอ๊อฟ หรือจะกลับใต้เลย เพิ่งขึ้นมาเองนะ” เป็นยัยเต้ที่ขอร่วมเสวนาด้วย ชั้นรู้แล้วยะ
“นั่นสิน้องอ๊อฟ ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนด้วยกันเลย” มีคุณเวย์อีกหนึ่งเสียง นึกว่าจะไม่รั้งชั้นไว้ซะแล้ว
“โอเคครับ นี่เห็นแก่คุณเวย์นะครับ ถึงยอมอยู่ด้วย” พูดไปก็หันหน้าส่งสายตาบวกยิ้มหวานให้คุณเวย์ซะหน่อย หรือที่เค้าเรียกกันว่า อ๋อยขั้นแรก
“เดี๋ยวทานเสร็จแล้วเราออกไปเดินเล่นที่สวนกันมั๊ยครับ” คุณเท่ห์คิดอะไรแบบนี้ขึ้นมา กะจะไปสวีทกับยัยเต้สินะ แล้วคนชายที่นั่งข้างชั้นละ เค้าจะรู้สึกอย่างไร
“ก็ดีเหมือนกัน กูไม่ได้มาเดินเล่นสวนคอนโดมึงนานแล้ว ไปด้วยกันนะครับน้องเต้” แป๋ว ... ไม่คิดจะอยากเดินเล่นกับชั้นบ้างเหรอ ... แต่ก็ช่างเหอะ
“ไปครับไป อ๊อฟไปด้วย” คนอื่นไปหมด ชั้นจะอยู่ทำไมไม่รู้ ... ไปมองหนุ่มๆในสวนคงจะเจริญหูเจริญตากว่านี้ ...
สวนของคอนโดนี้อากาศดีเหมือนกันนะครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีมุมสงบๆ กลางเมืองที่วุ่นวายแบบนี้ ให้พอได้พักผ่อนสายตา มีที่สูดหายใจเต็มๆปอดกับเค้าบ้าง ...
“อากาศดีจังเลยนะครับคุณเท่ห์ ไม่ได้ขึ้นมาซะนานเลย” อีเต้นี่มันสวีทอะไรไม่เกรงใจคุณเวย์ของชั้นเลย เดี๋ยวแม่ก็ปั๊ดให้
“ใช่ ... ชั้นคิดถึงเจเจอีกแล้ว เจเจชอบมาเล่นที่สวนนี่มากเลยนะ” คุณเท่ห์ก็อีกคน ทำคะแนนเข้าไป หวังจะบุกยัยเต้สินะ
“ใช่ คิดถึงเจเจจริงๆด้วย” พอจ๊ะพอ ... ปล่อยให้คู่ใหม่ปลามันเค้าสนทนากันไป ... ชั้นขอไปเดินมุมอื่นบ้างดีกว่า ว่าแต่คุณเวย์อยู่ไหนนะ
อ๊ะ อ๊ะ เจอแล้ววว
“มายืนทำเป็นพระเอกมิวสิคอยู่ตรงนี้เองเหรอครับคุณเวย์ ผมมองหาตั้งนาน” คนอะไรไม่รู้ ยืนนิ่งๆยังหล่อ นี่ถ้าไม่รู้จักกัน จะตักทุบหัว แล้วลากเข้าข้างทางเลย
“คงมีแต่น้องอ๊อฟนั่นแหละครับ ที่มองเห็นผมในตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของเรื่องยังไงไม่รู้” โถ ๆๆ คุณพระคุณเจ้า ช่างน่าสงสารยิ่งนัก ... น้ำตาแม่ยกอย่างอิชั้นแทบไหล
“คุณเวย์ไม่สบายใจ อึดอัดอะไร ก็ระบายกับอ๊อฟได้นะครับ คิดซะว่าอ๊อฟเป็นกระโถน” ดูซิ .. ดูสิ เอาตัวเองไปเปรียบซะต่ำเชียว นี่ถ้าไม่ใช่คุณเวย์ ชั้นไม่ทุ่มขนาดนี้หรอก
“ฮ่าๆ น้องอ๊อฟก็พูดเข้า ... ไม่ถึงขนาดหรอกครับ น้องอ๊อฟแค่ซักโครกเอง ฮ่าๆๆ” ปร๋อยยยย ตกลงมันดีกว่าเดิมมั๊ยละนี่
“โห คุณเวย์ พูดซะเห็นขี้เลย เหม็นมาเชียว ... อ๊อฟแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” มันน่าน้อยใจนัก ผู้ชายหน้างาม ปากร้าย ชั้นรับไม่ได้ ... เพราะชั้นจะรักหมดใจ ...
อร๊ายยยยย หยอดเอง อายเอง ... บ้าแล้วกู
“พี่รู้สึกเหมือนว่า ไอ้เท่ห์กับน้องเท่ห์ดูสนิทสนมกันมากเลยนะ ... มันมีอะไรที่พี่ไม่รู้รึเปล่าน้องอ๊อฟ” คุณเวย์หันมาพูดหน้าจริงจังกับชั้น ... อารมณ์เปลี่ยนเร็วจริงๆนะเนี่ย ..
“เอ่อ ... อ๊อฟว่าคุณเวย์ถามสองคนนั้นดีกว่านะครับ ...” จะให้ชั้นพูดไงละ ... ชั้นไม่อยากเห็นใครอกหักต่อหน้าชั้น
“ความรักนี่มันห้ามยากจังเลยนะครับ รักไปแล้วยากจะตัดใจ ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งเจ็บมาก รู้อย่างนี้ไม่น่ารักตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องเสียใจ” คุณเวย์พูดไป สายตามองยาวไกลไปข้างหน้าไร้ซึ่งจุดจับจ้อง แววตาที่มีแต่ความเศร้า อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ก็จริงของคุณเวย์ แต่ก็อย่าลืมนะครับ ว่าช่วงนึงที่ได้รัก เราก็มีความสุขกับมัน ถ้ามันจะไปจากเรา เราก็ต้องยินดีสิครับ ... ยินดีกับคนที่เรารัก” ไม่รู้ว่าคุณเวย์จะทำใจกับเรื่องนี้อีกนานไหม ... แต่ชั้นก็ได้แต่ภาวนาให้เค้าหายเจ็บไวๆ
“ยังไงซะ ผมก็จะจีบน้องเต้ จนกว่าที่เค้าจะบอกให้ผมหยุด ... จนกว่าจะถึงวันนั้น” คุณเวย์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ถ้าเป็นอย่างนั้น คงต้องเป็นชั้นนะสิ ที่จะต้องหยุด ...
“ครับ ยังไงคุณเวย์ก็สู้ๆนะครับ ... ความรักชนะทุกอย่าง” จะทำไงได้ละครับ ... ก็เพิ่งเข้ามา ถึงแม้จะรู้สึกดี แต่ก็ได้แค่รู้สึกเท่านั้น ... คุณเวย์เค้ารู้สึกกับเต้ไปมากแล้ว แต่เรายัง ... เรายังรู้สึกไม่มากขนาดนั้น ... แค่ปลื้ม แค่ชอบ แค่หลง ไม่ได้รัก ดังนั้น ต้องเป็นชั้นที่ควรหยุด !!!!!
“ไปที่สองคนนั้นกันเถอะครับ ถ้าเลือกจะสู้ต่อ ก็อย่ามาหลบมุมพักยกอยู่แถวนี้สิครับ บนสนามแข่งขัน ไม่มีคำว่าเพื่อนนะครับ” ว่าแล้วชั้นก็ผลักหลังคุณเวย์ให้เดินไปทางๆที่คุณเท่ห์และก็ยัยเต้ยืนอยู่
“คุณเวย์ ผมกำลังหาอยู่พอดีเลย” เป็นยัยเต้ที่หันมาเห็นคุณเวย์เดินมา แล้วทักขึ้น
“ว่าไงครับน้องเต้ คิดถึงพี่เหรอครับ” เอาแล้วสิครับ เมื่อกี้ยังหงอยๆอยู่เลย ตอนนี้ซ่าได้แล้วสินะ
“แหมคุณเวย์ อันที่จริงผมก็ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณเท่ห์ต่างหากที่ต้องการจะคุยกับคุณ” ยัยเต้พูดพร้อมกับโบ้ยหน้าไปทางคุณเท่ห์ที่ยืนห่างออกไป คุณเท่ห์ส่งยิ้มมาให้ คุณเวย์เห็นแบบนั้น จึงเดินเข้าไปหาคุณเท่ห์ สาธุพระคุณเจ้าคุ้มครอง อย่าต่อยกันเลยนะ ... ชั้นไม่อยากรุม ... เอ๊ยย ไม่อยากห้าม
“นี่หล่อน เค้ามีไรกันเหรอ อย่าบอกนะว่าจะเคลียร์กันเรื่องหล่อน” พอคุณเวย์เดินออกไป ชั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามยัยเต้
“จะบ้าเหรอมึง เค้าคงมีเรื่องคุยกันมั้ง ปล่อยเค้าเถอะ เพื่อนๆกัน ไปมึงไปเดินเล่นทางโน้นกับกู” พูดจบยัยเต้ก็เดินนำไปอีกทางนึง ... แบบนี้ก็ไม่ได้ยินที่สองคนนี้จะพูดกันสิวะ เซ็งเลย
“เออ เต้ แล้วมึงคิดรึยัง ว่าจะเอาไงเรื่องกับคุณเวย์กับมึง” อยากรู้เหมือนกันว่ามันคิดยังไง
“คิดอยู่ ว่าจะบอกเค้าว่ากูตกลงคบกับคุณเท่ห์แล้ว กูไม่อยากให้เค้ามีความหวังกับกู กูสงสารเค้า” อีนี่คนเขียนบทเขียนให้มันเป็นนางเอกจริงๆครับ ... จิตใจดีเว่อร์
“ก็ดี จะจัดการอะไรก็ทำๆซะนะ มึงอ่าชอบเก็บอะไรมาคิดคนเดียว ทำคนเดียว เดี๋ยวก็กลุ้มตายพอดี มีผัวแล้วก็ปรึกษาเค้าบ้าง” ต้องสั่งสอนครับ งานนี้ต้องสั่งสอน
“ผัวบ้า ผัวบอมึงสิ ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน” แหนะๆๆ มีอายๆๆ น่ารักตายแหละมึง
“หรา..... มึงคอยดูไม่พ้นคืนสองคืนนี้ ได้เรียกสามีขา สามีขาแน่” พูดไปคืนนี้คุณเท่ห์ไม่น่าพลาด เตรียมตัวช่วยแล้วนิ
“จะบ้าเหรอมึง กูไม่ได้คิดเรื่องนั้นซะหน่อย มึงอย่ามามั่ว” โอ๊ยยย อิดอก อายเยอะไปแล้ว
“พอเถอะมึง ไม่ต้องหมุนตัวแล้ว อายแบบมึงกูทำบ่อย แล้วกูทำน่ารักกว่าด้วย ไม่อยากเห็นมึงทำ ทุเรศสายตา” รับไม่ได้กับมันจริงๆครับ
“เออ แล้วเมื่อตอนเที่ยงมึงคุยอะไรกับคุณเกด กูเห็นท่าทางเค้าจะโกรธมึงมากๆเลยนะ” ยัยเต้ทักเรื่องนี้ขึ้นมาพอดี ... ว่าจะลืมแล้วเชียว
“กูก็สั่งสอนเค้าไปนิดหน่อยเรื่องมารยาทหญิงไทยที่สมควรเป็น ตามที่หม่อมแม่ถ่ายทอดให้ท่านพี่สาวกูฟัง และกูแอบจำมา พร้อมทั้งแอบปฎิบัติตาม” พูดไปชั้นถนัดนะ เรื่องมารยาทนี่ ตอน ป. 4 เป็นตัวแทนโรงเรียนประกวดมารยาทงามด้วยนะ ... แต่ดันไปตบกับอีตุ๊ดเด็กโรงเรียนเพื่อนบ้าน เลยตกรอบซะก่อน คิดแล้วหงุดหงิดชิบหาย
“มึงคงด่าเค้าไปเยอะสินะ เค้าคงโกรธแน่ๆ เฮ้อออ” ยัยเต้พูดไปพร้อมถอนหายใจออกมาเพิ่มความร้อนให้กับโลก
“เออหน่า มึงไม่ต้องไปกังวลเรื่องนั้น กูรับรองว่ายัยนั้นคงไม่กล้าโผล่หน้ามายุ่งกับมึงอีกนาน ถ้ามันมาคราวนี้มึงก็อย่าไปยอม มันกะจะจับคุณเท่ห์อย่างกับอะไรดี ... อย่าเสียทองเท่าหัว และ อย่าเสียผัวให้ใคร จำไว้นะมึง” พูดไปก็เซ็งครับ สอนเพื่อนได้แต่ตัวเองเพิ่งจะเสียไป
“เออหน่า... กูจะพยายามต่อกรกับเค้า แล้วแฟนมึงละ โทรมาบ้างหรือเปล่า” นั่นไง พอชั้นกำลังคิดถึง ถามมาถูกเวลาทันที
“โทรมา แต่กูไม่รับ กูยังไม่พร้อม” พูดไปก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมากดตัดสาย เบอร์ที่โทรมาวันนี้ไม่ต่ำกว่าพันครั้ง แบตกูจะหมดกับมันนี่แหละ ...
“มึงโกรธมันมากเลยเหรอ ถึงไม่อยากรับสาย ไม่อยากเคลียร์ หรือว่ามึงหมดรักมันแล้ว” หมดรักเหรอ ???
“กูจำไม่ได้แล้ววะ ว่าเคยรักมันตอนไหน ... แค่ผูกพันกับมันในคำว่าแฟนเท่านั้น ก็ดีเหมือนกันกูจะได้ไปจากมันซักที แล้วมันก็คงจะดีใจเหมือนกัน เพราะมันก็รอเวลานี้มานานแล้ว” เฮ้ออ พูดแล้วอยากจะร้องไห้
“มึงไม่เป็นไรนะ... มึงยังมีกู” มันพูดพร้อมกับเอามือมาตบบนบ่าผม ...
“ขอบใจมึงมากนะ” แล้วจะให้ชั้นไม่รักเพื่อนคนนี้ได้อย่างไรละ ... คำปลอบใจอะไรต่างๆไม่อยากได้ยินหรอก ... เอาแค่นั้นพอ
“มึงก็เหมือนกัน ... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คิดถึงกูละ ดีใจมา เสียใจมา โทรหา โทรเล่ากับกูบ้าง อีกไม่กี่วันกูก็จะกลับไปเรียนครูแล้ว คงต้องลดความแรดลง ... มึงว่ากูจะทำได้มะ” พูดแล้วเครียดเหมือนกัน ... ต้องเป็นตัวอย่างแก่เยาวชน แต่ดีที่ได้มองเด็กๆหนุ่มนม.ต้น ม.ปลาย
ว๊ายยย คิดไรของชั้นเนี่ย
“ทำไมมึงจะทำไม่ได้วะ ก็ที่มึงทำอยู่ทุกวัน กับคุณเท่ห์ คุณเวย์ มึงก็เป็นปกติดีนี่” ปกติ ??
“แปลว่าที่กูทำกับมึง มันผิดปกติเหรอยะ” ถามไปงั้นแหละครับ ยังไงซะ ชั้นก็มีมันเป็นเพื่อนที่เข้าใจชั้นตลอด แล้วชั้นก็เข้าใจมันด้วย ...
“นั่นคุณเวย์ คุณเท่ห์มาแล้ว กลับคอนโดกันเถอะ เย็นแล้ว” ยัยเต้ทักขึ้นเมื่อเห็นสองคนนั้นเดินเข้ามา
“มึงลงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวกูลงตามไป” ชักชอบบรรยากาศของสวนนี่แล้วละครับ
“เอางั้นเหรอ ให้กูอยู่เป็นเพื่อนมั๊ย” มันถามกลับมาครับ
“ไม่เป็นไร กูอยากจะนั่งคิดอะไรคนเดียว กูไม่โดดตึกตายหรอก ไปๆ บรรดาหนุ่มๆของเธอรอใหญ่แล้ว” ผมพูดพร้อมไล่มันไป เพราะเห็นหน้าคุณเท่ห์ตอนนี้ชักจะหวงว่าที่เมียคนนี้มากมายแล้ว
ตอนนี้ชั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ของสวนสาธารณะของคอนโด มองดูสนามหญ้า ขี้หมา ท้องฟ้า และผู้คน (จะมองขี้มาทำไมเนี่ย !!! ) ไม่อยากจะทำตัวเองให้ดูเศร้าเลย แต่ก็ดันเศร้าซะแล้ว ... เป็นคนที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองเศร้า ... ไม่อยากให้คนอื่นไม่สบายใจ ... เลยขอคิดอะไรๆคนเดียวดีกว่า ... วันนี้พบเจออะไรมากมายเลยสินะ ... แฟนสวมเขา ... เพื่อนมีแฟนใหม่ ... ตัวเองแอบมีใจให้คนที่ชอบเพื่อนตัวเอง ...
เฮ้ออออ
ชั้นเป็นตัวประกอบของเรื่องนี้เหรอเนี่ย ... แค่ตัวประกอบสินะ ... เข้ามาแล้วก็ต้องออกไปตามทางสินะ ... ถ้าเรื่องนี้เขียนเอาไว้แค่ พระเอก นางเอก เพื่อนพระเอก นางร้าย ... แล้วชั้นอยู่ตรงตำแหน่งไหนละ ...
ชีวิตชั้นผ่านรัก ผ่านสุข ผ่านทุกข์มามากมาย ... แต่ก็ไม่เคยเจ็บ ... ไม่จำซักที แล้วชั้นจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม
ชั้นเดินไปที่ขอบผนังสวนของคอนโด มองพื้นข้างล่าง ความสูงยี่สิบกว่าชั้น จากชั้นหนึ่ง ถึงดาดฟ้านี้ มันสูงเท่าไหร่กันนะ ...
ว่าไปชั้นก็ปีนขึ้นไปยืนบนบนขอบกำแพงนั้น ...
สูงดีจังเลย ...
ตอนเด็กๆ เคยฝันว่าอยากบินได้ ....
อยากกลายเป็นเซอร์เลมูน ...
อยากมีหน้ากากทักซิโด้คอยช่วยเหลือ ...
ตอนนี้ชั้นบินได้แล้ว ...
“อ๊าสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”
“คุณครับ คุณครับๆ เป็นอะไรไปครับ” เอ๊ะ เหมือนเสียงคนเรียก เมื่อกี้ชั้นโดดมาจากดาดฟ้า ตั้งยี่สิบกว่าชั้น ชั้นต้องตายแล้วสิ
“คุณครับๆ ตื่นเถอะครับ นี่มืดแล้วนะครับ ไม่กลับห้องเหรอครับ” เอ๊ะ ... อะไรยังไง ลืมตาก็ได้เว๊ยย
โอ้วววววววว ... นี่ชั้นคงตายไปแล้วจริงๆ เพราะพ่อหนุ่มรูปหล่อนิรนามคนนี้ คงเป็นเทวดาแน่ๆ ... ชั้นทำดีไว้มากขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ... ได้ขึ้นสวรรค์ด้วย กรี๊ดดดดดด
“คุณครับ ผมเห็นคุณหลับไป แล้วกรี๊ดออกมา ผมนึกว่าคุณเป็นอะไร เลยมาปลุกคุณนะครับ และอีกอย่างนี่ก็มืดแล้วด้วย กลับห้องเถอะครับ” หา หือ ... อะไรนะ หลับ กรี๊ดดดด ชั้นยังไม่ตาย
“เอ่อออ ... ขอบคุณมากนะครับ” ลุกขึ้นสิครับตอนนี้ ... เผลอทำอะไรแย่ๆไปแล้วนะเรา ... เฮ้อออ
“คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ”พอมองหน้าชัดๆ ให้ตายเถอะ หล่อน้อยกว่าคุณเท่ห์นิด เท่ห์น้อยกว่าคุณเท่ห์หน่อย แต่ท่าทางจะอร่อยเหาะ อยากจะบ้าตายกับผู้ชายคอนโดนี้
“อ๋อ เป็นเกย์ครับ ... เอ๊ยย ไม่ใช่ครับ ไม่เป็นไรครับ สงสัยผมนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เลยหลับไป แล้วก็ฝันอะไรนิดหน่อย ขอบคุณมากนะครับที่ปลุก” ตอนนี้ลุกลี้ลุกลนไปหมดแล้วครับ ... เหมือนคนเป็นไข้จับไข่ เอ๊ยย ไข่จับสั่น เอ๊ย ไข้จับสั่น เอ๊ยย ถูกแล้ว !!! ดูซิ พิมพ์มั่วหมดแล้ว
“ถ้าไม่เป็นอะไรมาก งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” หา ... จะไปแล้วเหรอ
“อ๋อ ครับ ผมอ๊อฟนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณอยู่ห้องอะไรเหรอครับ” อย่างน้อยก็ขอรู้อะไรซักเล็กน้อยแล้วกัน
“อ๋อ ผมชื่อปกรณ์ครับ ไม่ได้พักที่นี่ ผมมาทำธุระนะครับ ไปแล้วนะครับ” กรี๊ดดดด ชื่อปกรณ์ ชื่อจริง ชื่อเล่นวะเนี่ย ... แต่ไม่ได้อยู่นี่เหรอ เสียดาย เฮ้อออ ... แล้วจะได้เจอกันอีกเปล่าเนี่ย ...
ขอยืดเส้นยืดสายหน่อยแล้วกัน ตอนนี้คนในสวนไม่มีเลยสินะ ... เราเผลอหลับไปได้ไงเนี่ย
“เอ่อคุณครับ ...” ผมหันกลับไปมองเสียงที่เรียกมาด้านหลัง
“ผมขอเบอร์คุณหน่อยได้มั๊ยครับ”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พระเจ้าประทาน อลังการมิสทิฟฟี่ ...
แบบนี้เค้าเรียกว่าถูกจีบใช่มั๊ย ...
ไอ้เราก็เพิ่งรู้จักกัน ... จะทำแบบนั้นได้เหรอ ...
แถมแม่ยังสอนอีกว่าอย่าให้เบอร์คนแปลกหน้า
ว่าแต่ว่า ....
“เอาเบอร์คุณมาดีกว่าครับ !!!!! ”
................................................................
หมดพาร์ทของอ๊อฟแล้วนะครับ ... ถือว่าเป็นตอนพิเศษคลายเครียด
ตอนหน้าเรากลับมาลุ่นคู่คุณเทห์พี่เต้ต่อนะครับ ... ว่าจะได้หรือจะเสีย (???)
อีกอย่าง ... มาช้า ขอโทษครับ !!!