[fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke  (อ่าน 475387 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
และแล้วมาต้องมาเทคะแนนให้ทาน ว่างๆคลิ๊กเทคะแนนให้ผมบ้างนะ
 :impress: :impress: :impress:


เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ข้อความจากทานตะวัน

ทานตะวันนั่งเงียบ ๆ อยู่ภายในรถเพียงลำพัง ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านมาหลาย ๆ อย่างแล้วก็ได้แต่ยกมือขึ้นปิดที่ริมฝีปากของตัวเองไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาได้

กลัวที่สุดคือกลัวไม่มีใครรัก เลยไม่คิดจะแคร์และไม่คิดจะรักใคร

แต่สุดท้ายก็พลาด

พลาดไปมีความรักเข้าจนได้ ทั้งที่ไม่รู้ว่ารักคืออะไร แต่สิ่งที่รู้ในเวลานี้ คือปวดใจ

เจ็บร้าวไปหมด ไหนใครว่าความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู ความรักทำให้มีความสุข

แต่สิ่งที่ได้เจอไม่ใช่เลยสักนิด แล้วทำไมคนที่มาทำให้รัก มาหลอกให้รักกันได้ง่าย ๆ

ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้ ทำกันได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ

หนูน้อยแก้มแดงคนนั้น คนที่ทำหน้าใสซื่อ ทำไมถึงได้ทำกันได้ลงคอ

ทำไมถึงได้หลอกลวง เหมือนถูกหักหลัง ถูกหักหลัง ถูกหลอก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา

ที่ยิ้มให้ ที่ทำให้ยิ้ม ที่ทำให้มีความสุข สิ่งที่ผ่านไปนั้นมันคืออะไร แค่สายลมงั้นเหรอ

แค่มาทำให้รักแล้วก็มาทำให้เสียใจอย่างนั้นเหรอ

น้ำตายังคงรินไหลพร้อมหัวใจที่เจ็บร้าว

เสียงข้อความจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในความเงียบทำให้ทานตะวันต้องรีบคว้ามานั่งดูหมายเลขที่โทรเข้ามา

โทรมาแก้ตัวแล้วสินะ อะไรล่ะ เหตุผลคืออะไร

อยากฟัง แต่ก็ไม่อยากฟัง

อยากจะฟังคำพูดจากปากของอ้อน

แต่ก็ไม่อยากฟังสิ่งที่จะได้รับรู้

ไม่อยากยอมรับความจริง

ไม่อยากรับรู้สิ่งที่จะได้ยินในวันนี้แต่ฝ่ามืออันสั่นเทาก็เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาถือเอาไว้

และกลั้นใจกดดูข้อความอย่างช้า ๆ

....กลับก่อนได้เลย...เดี๋ยวตามไปทีหลัง.....

สั้น ง่าย ได้ใจความ

แต่บาดลึกไปถึงหัวใจ แค่จะโทรมาบอกกันสักคำว่าจะไปกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมโทร

กลับส่งข้อความเพียงแค่บรรทัดเดียวมาให้ ใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมถึงใจร้ายได้ขนาดนี้

ปลายนิ้วยกขึ้นแตะที่ข้างแก้มของตัวเอง และค่อย ๆ เอื้อมมือไปเสียบกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ

ได้นะ ให้ทำอะไรให้ตอนนี้ก็จะทำ

จะอดทน จะเป็นคนใจเย็น จะทำให้ได้ จะรอ

ทำไมต้องรอด้วย ไม่อยากรอ อยากจะย้อนกลับไปอีกครั้งแล้วก้าวเดินเข้าไปถามให้รู้เรื่อง แล้วก็จบทุกอย่างลงซะ

แต่ทำไม่ได้ ไม่กล้าทำ กลัว ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะกลายเป็นคนขี้ขลาดได้ขนาดนี้

รถเคลื่อนออกจากลานจอดรถอย่างช้า ๆ

ทานตะวันไม่รู้ว่าตัวเองขับรถกลับบ้านได้ยังไง แต่รู้ว่าขับรถไปร้องไห้ไปพร้อมกับหัวใจที่ร้าวราญ

สุดท้ายเมื่อจอดรถแล้วก็ได้แต่เดินก้าวเท้าเข้าบ้านอย่างช้า ๆ

เกลียดที่บ้านกว้าง แต่ไม่มีคนอยู่ เกลียดที่ต้องอยู่คนเดียว

เกลียดที่บ้านมืด มีเพียงแสงไฟจากข้างนอก เกลียดทุกสิ่งทุกอย่ารอบตัว

ขายาว ๆ ก้าวเดินมาทิ้งกายลงนั่งที่โซฟา ที่ ๆ ต้องมาพักพิงก่อนจะเผลอหลับไปในแต่ละคืนเพราะความอ่อนเพลีย

รายการโทรทัศน์ยังคงหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกัน

มือยังคงกดรีโมท ซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

กดไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้จะดูอะไร รู้แต่กดไปร้องไห้ไป เหมือนไม่รู้สึกตัว

สุดท้ายรีโมทโทรทัศน์ถูกขว้างลงบนพื้นจนแตกกระจาย ทานตะวันใช้ฝ่ามือกวาดทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าทิ้งลงกับพื้นและตะโกนโวยวายเสียงดัง

"เกลียดโลกนี้โว้ยยยยยยยยยยยยยยย เกลียด เกลียด เกลียด"

ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้แต่ว่าข้าวของทรัพย์สินในบ้านพักพินาศ คว้าอะไรได้ก็คว้า เตะอะไรได้ก็เตะ

ทั้งแจกัน สมุดหนังสือ โต๊ะ ตู้ ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นขยะไปในเวลาไม่กี่นาทีเพราะการอาละวาดของทานตะวัน

ร่างกายที่หอบเหนื่อย พาตัวเองมานั่งขดตัวอยู่ข้างบันไดทางขึ้นห้องนอน นั่งขดตัวกอดเข่าสะอื้นไห้เสียงดังอยู่คนเดียงเงียบ ๆ

ในเวลานี้มองไม่เห็นใคร รู้เพียงแต่ว่าตัวเองอยู่คนเดียวและถูกทำร้ายจิดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทานตะวันเอนกายลงนอนตรงทางเดินขึ้นบันไดไม่ได้สนใจว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และยังคงปล่อยให้หยดน้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสาย

ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าหัวใจที่แตกร้าวจะกลับคืนสู่สภาพเดิม

ไม่รู้สึกตัว ไม่รับรู้เรื่องราวรอบ ๆ ตัวอีก สุดท้ายคนตัวโตที่ไม่เคยคิดจะสนใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว กลับต้องปล่อยให้ความเหนื่อยอ่อน ในเวลาช่าวงกลางวัน ช่วยพาให้ร่างกายหลับใหลลงไปพร้อมหยดน้ำตา

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 
............................

"ทาน....."

เสียงกระซิบเรียกที่ข้างหู ทำให้ทานตะวันปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างช้า ๆ ฝ่ามือเย็นชื้นที่แตะที่ข้างแก้มทำให้สะดุ้งสุดตัวและค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง เมื่อรู้ว่าเวลานี้ใครมาอยู่ตรงหน้า

"อาบน้ำหรือยัง...ยังใส่ชุดเดิมอยู่นี่นะ...อาบน้ำก่อนดีมั้ยแล้วค่อยขึ้นไปนอน"

ทานตะวันค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และก้าวขาเดินขึ้นบันไดทั้งที่แทบไม่มีเรี่ยวแรง

ใครอีกคนก้าวเท้าเดินตามขึ้นมาพร้อม ๆ กัน และมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน ก่อนจะก้าวเท้าเดินตามเข้าไปภายในห้องนอน

ไฟกลางห้องถูกเปิดขึ้นเพื่อขับไล่ความมืด

ทานตะวันปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด ทั้งที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

นัยน์ตาคมแดงก่ำเหม่อลอยเหมือนคนไม่ได้สติ ท่าทางที่เหมือนคนไม่มีชีวิตยิ่งทำให้อ้อนรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของคนตรงหน้า

แต่ก็ทำได้แค่ยืนมอง ยืนอยู่เงียบ ๆ ไม่ปริปากพูดอะไรเลยสักคำ

"ทาน"

ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีการหันมาตามเสียง มีเพียงร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งที่ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเหมือนคนไม่มีชีวิตและไร้วิญญาณ ไม่มีความรู้สึกไม่มีหัวใจ

"ทานตะวัน"

อีกครั้งที่ชื่อของคนตรงหน้าถูกเรียก อีกครั้งที่อ้อนพยายามจะเรียกให้คน ๆ นั้นรู้สึกตัว แต่ไม่มีการขานรับแม้แต่คำเดียว

"ทาน...ทาน...ทาน...ทาน...ขอโทษ..ขอโทษ..เราขอโทษ เรามันเลวเอง เราขอโทษ"

เพราะรู้ถึงความผิดที่ก่อเอาไว้ รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ทานตะวันต้องกลายเป็นแบบนี้

รู้ทุกอย่าง ทั้งที่รู้ว่าจิตใจของคนตรงหน้าเปราะบางยิ่งกว่าใคร ๆ แต่ก็ยังทำร้ายได้ลงคอ

ทำไมถึงได้เป็นคนเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ ทำไมถึงได้ทำร้ายจิตใจทานตะวันได้ขนาดนี้

อ้อนโผเข้ากอดรัดร่างของคนที่ยืนนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้สิ่งใดรอบตัว

กอดเอาไว้ กอดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ใบหน้าซีดขาวแนบลงบนแผ่นหลังกว้างและซบใบหน้าของตัวเองลงอย่างช้า ๆ ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาอีก

นอกจากการพร่ำพูดขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนที่ยืนนิ่งเงียบ ต้องปล่อยให้น้ำตาที่เหือดแห้งหลั่งรินลงมาอีกครั้ง

ใช่......ที่จิตใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี

เพราะถูกหักหลัง

แต่เพราะรักมากอย่างที่ไม่เคยรักใคร จึงทำให้ความเจ็บปวดทวีคูณสูงขึ้นอย่างไม่มีขอบเขต

"อ้อน...ใจร้าย...กับเรามากเลยนะ..."

เป็นแค่ข้อความสั้น ๆ เป็นแค่คำพูดสั้น ๆ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงที่สั่นสะท้านยากที่จะควบคุม

"เราใจร้ายนะทาน...ร้ายมากเลย..ร้ายกาจแล้วก็เลวที่สุดอย่างไม่น่าให้อภัย...เราเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุด"

งั้นเหรอ

ไม่แก้ตัวหน่อยเหรอ

ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลยใช่มั้ย

ยอมรับง่าย ๆ แบบนี้.........เลยสินะ

นั่นสินะ ทำร้ายกันได้ง่าย ๆ ขนาดนี้ ไม่แก้ตัว ไม่ปลอบใจ ไม่ทำอะไรเลยใช่มั้ย

ยอมรับทุกอย่างเลยใช่มั้ย


......................................

"อ้อน...ทานรักอ้อนว่ะ...มันก็เลยเจ็บ...ถ้าไม่รักคงไม่ต้องเจ็บหรอกเนอะ"

แค่คำพูดเลื่อนลอย แค่คำพูดที่ดังแผ่ว ๆ เหมือนสายลม แค่คำพูดช้า ๆ แต่เหมือนมีดปลายแหลมที่กรีดลึกลงมาบนหัวใจ และยิ่งทำให้รู้สึกว่าความเลวร้ายที่ตัวเองก่อเอาไว้เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ขอโทษ

คงเป็นคำที่เอ่ยช้าไป

ถ้ารู้ว่าในวันหนึ่งข้างหน้าจะรักคน ๆ นี้ได้มากถึงขนาดนี้ คงไม่ทำสิ่งที่ทำ

"ทาน...เรารักทาน..."

ไม่ได้ขอให้เชื่อ ไม่ได้บังคับให้เชื่อ ไม่ได้ต้องการให้เชื่อ แต่แค่อยากให้เชื่อ

"เรารักทาน...ยิ่งตอนนี้ยิ่งรัก....รักมากเลยนะ...รักแบบบ้า ๆ เลย รักทานจริง ๆ ว่ะ"

อ้อนเอ่ยบอกเสียงเบากับแผ่นหลังของร่างตรงหน้า

ทั้งที่รู้ความผิดของตัวเองแต่ก็กล้าที่จะพูด พูดในเวลาที่ไม่ควรจะพูด

ทานตะวันคงจะสะบัดมือหนี คงจะอาละวาด คงจะเกลียดไปจนวันตาย แต่ก็จะพูดออกไป

เพราะมันอาจเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่จะต้องเอ่ยคำลา

"รักทานเหรอ...."

สิ่งที่ได้ยินคือคำว่ารัก....คำว่ารักแบบไม่นึกถึงสถานการณ์ ไม่นึกถึงความเป็นจริง

คำว่ารักที่มาไม่ถูกเวลามักทำให้จิตใจปวดร้าวมากขึ้น

แต่ไม่ใช่กับทานตะวันคนนี้

ใบหน้าที่หมองเศร้า ค่อย ๆ มีรอยยิ้มเจือจางบนใบหน้า

ไม่ได้อยากได้อะไรที่มากกว่านี้ แค่อยากได้คำว่ารัก ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากกว่านี้

แค่อยากได้ความใส่ใจจากใจจริง โดยไม่มีเงื่อนไข

"อ้อนส่งผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านดีหรือเปล่า.....บ้านเขาอยู่ไกลจากบ้านทานมากมั้ยกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ดึกแล้ว นั่งรถเมล์มาเหรอ ขาไม่ดีอยู่ไม่ใช่หรือไง แล้วมายังไง ทำไมไม่โทรบอกให้ไปรับล่ะ จะได้ออกไปรับ...เนี่ยทานนั่งรออยู่ตั้งนานแน่ะ เห็นแต่ข้อความมาแค่ข้อความเดียว เลยไม่รู้จะทำยังไง...เลยได้แต่นั่งรอ..รออ้อนกลับมาบ้าน รอตั้งนาน นึกว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก....ทานนึกว่าอ้อนจะไม่ยอมกลับมา..."

เจ้าชายน้อย อย่าใจดีนักเลย อย่าทำหน้าแบบนี้ อย่าทำเสียงแบบนี้ อย่า อย่า อย่า อย่าร้องไห้

อย่ายิ้มทั้งน้ำตา อย่าฝืนยิ้มเวลาที่พูด อย่าทำแบบนี้เลย อย่าทำแบบนี้ มันยิ่งทำให้เจ็บ ยิ่งทำให้รู้ว่าตัวเองเลวร้าย

ทานตะวันปลดมือของอ้อนออก และหันกลับมาส่งยิ้มให้กับคนที่ยืนก้มหน้าไม่กล้าสู้หน้า

รอยยิ้มที่ที่ต้องใช้ความพยายามในการฝืนที่จะยิ้ม

เพียงแค่นั้น เพียงเท่านั้น

แล้วใครจะทนได้

ไม่อาละวาดไม่โวยวาย ไม่ตะโกนด่าทอ ทั้งที่ควรจเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นทานตะวันในเวลาปกติคงทำแบบนั้น

"ทาน...อย่ายิ้มแบบนี้ อย่ายิ้มแบบนี้ อย่าทำอย่างนี้"

อ้อนได้แต่โผเข้าหาร่างที่ยืนนิ่ง และกอดรัดร่างที่สั่นเทาเอาไว้แนบแน่น

ร่างกายสูงใหญ่ทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างช้า ๆ และนิ่งร้องไห้เงียบ ๆ โดยมีคนตัวเล็กกว่ากอดรัดเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"เรารักทาน...รักมาก ๆ เรารักทานนะ...รัก...เรารักทาน"

อ้อนยังคงพร่ำพูด อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่ยอมหยุดพัก

ไม่ได้ขอความเห็นใจ ไม่ได้ต้องการอะไรที่มากกว่านี้ ขอแค่เพียงคำตอบคำเดียว

ขอแค่คำเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินทุกอย่าง

ไม่ได้หวังคำว่าให้อภัย ไม่ได้หวังให้หายโกรธ ไม่ได้ขอให้ยกโทษให้ หวังเพียงแค่คำ ๆ เดียว คำพูดแค่คำ ๆ เดียวจากปากของคน ๆ นี้ ขอเพียงคำยืนยันอีกสักครั้ง ขอเพียงคำเดียวเท่านั้น

"งั้นก็รู้ไว้เถอะ..ถึงตอนนี้จะทั้งโกรธทั้งช็อคและเสียใจมากแค่ไหน....ตอนนี้ทานก็ยังรักหนูน้อยแก้มแดงเหมือนเดิม"

TBC


 
โดย aoikyosuke

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ้างถึง
"งั้นก็รู้ไว้เถอะ..ถึงตอนนี้จะทั้งโกรธทั้งช็อคและเสียใจมากแค่ไหน....ตอนนี้ทานก็ยังรักหนูน้อยแก้มแดงเหมือนเดิม"

โดนอย่างแรง
















เมนท์ 1 ของผมคร้าบบบบบบบบบบบบบ

 :laugh3: :laugh3: :laugh3: :laugh3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2007 16:49:47 โดย หมูพูห์ »

AcOustic_Guitar

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึม สงสารทั้งอ้อนทั้งทาน  :dont2:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
 :serius2: ไม่น๊าาาาาาาา


......................................

"อ้อน...ทานรักอ้อนว่ะ...มันก็เลยเจ็บ...ถ้าไม่รักคงไม่ต้องเจ็บหรอกเนอะ"


 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ปล. เนื่องจากฉากทำร้ายจิตใจ เศร้าสะเทือนอารมณ์อย่างแรง ให้พี่เรย์ 1+  :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เมนท์ 4 จ้าาาาาา

ตอนนี้เศร้ามากมาย  o7

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เศร้ามากเลยตอนนี้  :dont2:

สงสารทานที่สุดเลยอ่ะ   o7


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ม่ายจริงงงงงงงงงง  o9   o9   o9 เศร้ามากมาย  :sad4:  :sad4:
ไม่รักก็ไม่เจ็บ เนอะทานเนอะ   :sad2:
เม้นต์ที่ 6  :o12:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :sad3: :sad3:  สงสัยต้องให้เวลากับทานแล้วก็อ้อนในการปรับตัวอีกนิดละมั้งครับ  ความรักวัยรุ่นนี่มันรุนแรงเจงๆเลย :haun5: :haun5:

รี7แย้วววววว o17 o17

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
แล้วนางผู้หญิงคนนั้นละ เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปเอามาลงต่อไวๆนะ  :impress: :impress:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:

9th Comment

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
  o1

ในที่สุดก็อ่านถึงตอนปัจจุบันจนได้

แอบมีหลายตอนที่น้ำตาวึมเลยคับ

ชอบมากๆๆ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคับ

nanao

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากเม้นต์ 10 พอดี  :impress:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ่านตอนนี้แล้วแอบน้ำตาซึมเลย  o7
สงสารอ่ะ  แต่ก็ดูเหมือนจะทำให้เข้าใจจิตใจกันมากขึ้นนะ

นี่มัน...  เม้นต์ที่ 12 แล้วเรย์  ต่อๆ  o11

ออฟไลน์ akitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :monkeysad2: :monkeysad2: :monkeycry4: :monkeycry4:

คำว่ารัก มาไม่ถูกเวลา  แต่ก็ยังดีที่ได้ยินน่า   :sad4:
เม้นต์ที่ 13

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
การทะเลาะครั้งนี้หวังว่าจะทำให้ทานกับอ้อนรักกันแล้วเข้าใจกันมากกกกกกกกกขึ้นนะคร้าบ

เม้นท์ที่ 14 แล้นนนนนนนนนนนนนนนนน คร้าบบบบบบบบบบบบ  o17

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
ปัญหาเยอะจังเลย   :serius2:


ขอบคุงที่มาต่อนะงับ o15

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
:monkeysad2: :monkeysad2: :monkeycry4: :monkeycry4:

คำว่ารัก มาไม่ถูกเวลา     :sad4:

ต้องมีคนเจ็บปวดกับมันอีกกี่คน
***************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน สภาวะฉุกเฉิน

ทานตะวันคนดี ขอโทษนะครับขอโทษ เจ้าชายน้อยครับ ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจ

อ้อนใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่หล่นลงปรกที่หน้าผากของเจ้าชายน้อย ที่นอนหลับอยู่เคียงข้าง
ทานตะวันตัวโตใช้แขนของอ้อนแทนหมอนหนุน และหลับตาลงอย่างง่ายดาย มีหลายครั้งที่สะดุ้งตื่น แต่เพราะฝ่ามือที่ลูบไล้ที่เส้นผมและเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู
ทำให้คลายความกังวลลงจนสามารถปิดเปลือกตาลงได้อีกครั้ง

"ชู่วววววว ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร นอนซะทานหลับตาซะ อยู่ตรงนี้แหละไม่ได้ไปไหนจริง ๆ เราอยู่ตรงนี้นะ"

ถ้อยคำปลอบใจยังคงเอ่ยซ้ำ ๆ ทุกครั้งที่คนตัวโตเริ่มรู้สึกตัว และเพราะคำพูดนั้นจึงทำให้ทานตะวันยอมหลับตาลงได้ง่าย ๆ
ทานตะวันอาศัยความเหนื่อยและความอ่อนเพลีย เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้หลับลงได้ในคืนนี้ และอาศัยอ้อมแขนอุ่น ๆ ของคนที่นอนอยู่เคียงข้างเป็นที่พักพิง
ทั้งที่เพิ่งถูกทำร้ายจิตใจให้ต้องเจ็บปวดทรมาน แต่ก็ไม่ยอมผละจากไปไหน ไม่อาละวาดไม่โวยวาย ไม่ทำเหมือนอย่างที่เคย
อาจจะเป็นเพราะเหนื่อยจนแทบไม่มีแรง หรือสภาพจิตใจย่ำแย่จนออกฤทธิ์ไม่ได้ แต่สิ่งที่ทานตะวันไม่ยอมทำ คือไม่ยอมทำร้ายคนที่รัก
ไม่ยอมทำร้ายอ้อนคนที่ตัวเองรัก และจะไม่มีวันทำให้คนรักต้องเจ็บปวด เหมือนอย่างที่พ่อกับแม่ทำให้ทานตะวันต้องเสียใจ

เพียงสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเคยรู้

สิ่งที่ทานตะวันจะไม่ทำไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ไม่ว่าจะต้องเจ็บปวดทรมานจนแทบขาดใจ แต่จะไม่มีวันทำให้คนที่ตัวเองรักต้องเสียใจ

"ทาน...."

อ้อนแตะปลายจมูกลงที่หน้าผากของคนที่หลับสนิท และโอบกอดร่างที่หลับใหลเอาไว้แน่น

รู้ว่าตัวเองทำเรื่องแย่ ๆ กับคน ๆ นี้เอาไว้
รู้ว่าตัวเองเลวร้ายแค่ไหน รู้ทุกอย่างแต่ก็ยังทำ
ทั้งที่รู้อย่างนั้น ก็ยังทำได้ลงคอ

อ้อนแตะมือลงที่ต้นแขนของทานตะวันอย่างช้า ๆ และลูบไล้ด้วยสัมผัสแผ่วเบาให้ร่างที่นอนนิ่งเงียบได้คลายกังวลลงบ้างแม้จะอยู่ในความฝัน

ขอโทษที่ทำให้เป็นทุกข์ ขอโทษที่ทำเรื่องแบบนี้ลงไป
เรา..........รักทานนะ...........ตอนนี้เรารัก...........แต่ทำไมเราถึงได้แบ่งพื้นที่เผื่อความรู้สึกบางอย่างไว้ให้คนอีกคน

ถ้านี่คือการหักหลัง เรากำลังทำสิ่งนั้นอยู่ ก็แล้วใครจะรู้ว่าตอนนี้เราจะหลงรักเจ้าชายน้อยคนนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ใครจะรู้ว่าเราจะรักคนที่ตัวเองเอาแต่บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเกลียด
ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรได้ขนาดนี้

ไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ

อ้อนยังคงกอดรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมหลับตาลงแม้สักวินาที เพราะกลัว กลัวว่าถ้าเผลอหลับไป อาจเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
เรื่องที่ตัวเองไม่คาดฝัน เรื่องที่ทำให้เหตุการณ์เลวร้ายมากขึ้น ตอนนี้ทำได้แค่ปลอบโยนให้จิตใจของทานตะวันคลายความเศร้าลงบ้าง

ทำได้แค่นั้น

ทำให้ได้เพียงแค่เท่านั้น และสำนึกอยู่ตลอดเวลา ว่าตัวเองเลวแสนเลว ที่ทำร้ายคน ๆ นี้ได้อย่างเลือดเย็น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
........

"คบกันนานแค่ไหน............กี่ปี กี่เดือนที่รู้จักกับผู้หญิงคนนั้น"

คำถามง่าย ๆ ถูกเอ่ยถาม ในขณะที่อ้อนกำลังนอนครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน
เจ้าชายน้อยรู้สึกตัวตื่นตอนเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน

ดวงตาคมยังคงแดงก่ำ และเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเวลา แค่ได้เห็นก็ทำให้ปวดใจ แค่รู้ว่าคนอย่างทานตะวันไม่เคยร้องไห้ให้ใครแต่กลับต้องมาร้องไห้เพราะเรื่องแบบนี้
เพียงแค่ได้รู้ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำความร้ายกาจของตัวเองให้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา

"6 ปี.....แล้วล่ะ"

นานขนาดนั้นเลยเหรอ ก่อนหน้าที่เราจะรู้จักกัน แล้วใครกันแน่ที่มาทีหลัง มันน่าอนาถใจที่รู้ว่าตัวเองคือคนที่มาทีหลัง ทานตะวันได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ และหรุบสายตาลงต่ำ
ก่อนจะค่อย ๆ เอนกายเข้าหาคนตัวเล็กกว่า และยกเรียวแขนรัดร่างของคนที่นอนเคียงข้างเอาไว้แนบอก

ใจมันสั่น หวั่นไหวกับคำตอบ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ เมื่อรู้สถานะของตัวเอง

"แล้วทำไมก่อนหน้านี้....ทานไม่รู้เรื่อง"

ถามไปแล้วและค่อย ๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ตั้งใจฟังคำตอบ ทั้งที่รู้ว่าคำตอบที่ได้รับคงยิ่งเป็นการทำร้ายจิตใจของตัวเองมากขึ้น

"เลิกกันไปตั้งแต่....ตอนที่รู้ว่าเราวิ่งไม่ได้อีก...พ่อแม่เขาขอให้เลิก...เราเป็นคนไม่มีอนาคต...เขาขอให้ปล่อยลูกสาวเขาไปเจอคนที่ดีกว่านี้
แล้วช่วงนั้นไหมก็ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก...ไหมไม่รู้ว่าเราจะเลิกก็เลยห่างกันไป...ย้ายบ้านใหม่ด้วยเลยไม่คิดว่าจะกลับมาเจอกันอีก
ไหมเป็นคนรักคนแรก....รักมาก...อยู่ในใจตลอด...ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง......จนเมื่อช่วงต้นปี...ค้นเจอสมุดบันทึกของไหมที่เขาส่งมาให้
ช่วงนั้นก็....เราก็เพิ่งรู้จักกับทานไม่นาน....แล้วไหมเขาก็เพิ่งกลับมาเราก็เลยส่งของขวัญส่งดอกไม้ไปให้....เรา....ยังคิดถึงไหมอยู่...
ไม่นึกว่าไหมเขาจะรอ....เราทำให้ไหมเสียใจ...แล้วก็ทำให้ทานเสียใจ.....เลวเนอะ....เกลียดเราแล้วใช่มั้ย...ขอโทษที่ทำให้เกลียด"

คำสารภาพจากใจ เรื่องที่ทานตะวันไม่เคยคิดว่าจะได้ฟัง เรื่องราวหลายอย่างที่อ้อนไม่เคยเล่าให้ฟัง วันนี้ทานตะวันได้รับรู้
หนึ่งในนั้นคือเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อไหม ผู้หญิงคนนั้น.......ผู้หญิงที่ยืนร้องไห้ในวันนั้น

"อ้อน....พอแค่นี้แหละ....ไม่ใช่ความผิดของอ้อน..ไม่รู้...เราไม่รู้แต่มันไม่ใช่ความผิด...."

ทั้งที่พูดอย่างนั้น ทั้งที่พยายามจะพูด แต่ทานตะวันก็ทำได้แค่เป็นเด็กชายตัวน้อยขี้แย ทั้งที่พยายามจะไม่ร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้อาจะเป็น เพราะกำลังรู้สึกว่าถูกแย่งของรักของตัวเองไป
และไม่อยากจะแบ่งความรักให้ใครอีกคน ความรู้สึกหวงความรักจึงประเดประดังเข้ามาและถาโถมเข้าใส่จิตใจที่เปราะบางอย่างรุนแรงจนทำให้แทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้

"ไม่เอาแล้ว....ไหนบอกว่าถ้าเราเล่าให้ฟังจะไม่ทำหน้าแบบนี้ไงล่ะ....เราหักหลังทานอยู่...ร้ายกาจขนาดนี้...ยอมทนเฉยอยู่ได้ยังไง ทำไมไม่อาละวาดอย่างที่เคยทำ
แบบนี้ไม่ใช่ทานตะวันคนที่เราเคยรู้จักเลย อย่างน้อยก็...ด่าเราสักนิดก็ได้นะ....จริง ๆ ทานด่าเราให้หายโมโหบ้างก็ยังดี"

อ้อนเอ่ยบอกพร้อมกับซุกซบใบหน้าลงแนบอกของทานตะวัน ฝ่ามืออุ่น ๆ ของใครคนนั้นยังคงลูบไล้แผ่วเบาที่เส้นผม ไม่มีวี่แววของความโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย
ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างทานตะวันจะใจเย็นได้มากขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนมีความอดทนให้กันได้มากเท่านี้

อยากจะร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป ได้แต่ครุ่นคิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเพียงคนเดียว คิดวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา จนหัวแทบระเบิด

"ช่างมันเถอะ......เรารักอ้อน....ผู้หญิงคนนั้นก็รักอ้อน....เขาก็รักอ้อนมากเหมือนกันใช่มั้ย....ถ้า...วันไหนที่จะไปหาผู้หญิงคนนั้น...บอกเรานะ
เราจะให้ไป....เราให้ไป...ได้..."

ใครจะบ้าพูดแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว ใครจะยอมให้คนรักของตัวเองไปมีใครอีกคนเพียงเพราะอยากให้คนที่ตัวเองรักสบายใจ

"ถ้าอยากไปหาตอนไหน อยากเจอตอนไหน...บอกเรา..ระ...ระ...อึก...ฮือ"

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นและสะกดกลั้นน้ำตาของตัวเองเอาไว้ ไม่มีแรงจะพูดคำพูดใด ๆ ออกมาอีก ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินรดที่ข้างแก้ม

"ถ้าอยากจะไปตอนนี้....เราก็จะ.......ให้ไป"

เพียงแค่ได้ยิน เพียงแค่ได้รับรู้ความรู้สึกทั้งหมด ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แบบนี้เลยใช่มั้ย ไม่คิดจะรั้งไม่คิดจะห้ามเลยใช่มั้ย
ทั้งที่ทำเลวด้วยขนาดนี้แล้วยังฝืนทนอยู่ได้ ทำแบบนี้ทำไม ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน ยอมเจ็บอยู่คนเดียวได้ยังไง ทนได้ยังไง

อ้อนค่อย ๆ หยัดกายขึ้นนั่งและหันกลับไปจ้องมองใบหน้าของคนที่หลับตานิ่งเงียบ

ไอ้บ้าทาน...ไอ้...ไอ้ โธ่โว้ยยยยยยยยยย ทำไมมันถึงได้บ้าขนาดนี้วะ

ไอ้บ้าทาน ไอ้ ไอ้ โธ่โว้ยยยยยยยยย

ฝ่ามือตะกุยเข้าที่ไหล่ของทานตะวันอย่างรุนแรง และคนที่เอะอะโวยวายกลับกลายเป็นอ้อนที่อาละวาดไม่ยอมหยุด

"ไอ้ทานบ้า ไอ้บ้า ไอ้ทาน....ทำไมทำแบบนี้ ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมไม่ด่าไม่โกรธ ไม่เกลียดกันไปเลย ทำไมต้องทำดีกับเราด้วย ทำไมวะ ทำไม"

ยิ่งออกแรงมากขึ้น

ยิ่งโมโห แต่กลับไม่มีอะไรดีขึ้นได้

ทานตะวันยังคงนอนนิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้ ไม่โมโห ไม่โวยวาย สุดท้ายคนที่ต้องยอมล่าถอยกลายเป็นอ้อนซะเอง

"ทำไมไม่เกลียดเรา ทำไมไม่โกรธเรา...ทำไมยังยอมรักคนเลวอย่างเราได้อีก ทาน ฮือ ฮือ ทาน ทำไมทำแบบนี้...จะทำเพื่อคนเลวอย่างเราไปทำไม"

อ้อนร้องไห้โวยวายเสียงดังเหมือนคนบ้า และทรุดกายลงนอนกอดรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่น
ซบหน้าลงร้องไห้เงียบ ๆ กับแผ่นอกกว้างอบอุ่นที่ยังโอบกอดอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยผลักไส

จะทำให้เลวไปถึงไหนกัน จะทำเพื่อคนเลว ๆ คนนี้ทำไม ทั้งที่ตัวเองต้องเสียใจขนาดนี้ยังจะทำไปเพื่ออะไร

"ไม่รู้....ทานเกลียดอ้อนไม่ได้อีกแล้ว...จะให้บังคับแค่ไหนก็ทำไม่ได้...ให้ตายเราก็เกลียดอ้อนไม่ลง....อย่าร้องไห้เลยหนูน้อยแก้มแดง...อย่าร้องไห้
ร้องแบบนี้ใจไม่ดีเลย บอกแล้วไงว่าปลอบใจใครไม่เป็น....คนโง่อย่างเรา...ปลอบใจใครไม่เป็นจริง ๆ "

TBC...


 
โดย aoikyosuke

ออฟไลน์ Felm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :sad4:
 :sad4:
 :dont2:
 :o7:
 o7
 :o12:

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
โถทานของผม  :dont2: :dont2:

ยังไงก็ขอให้ตอนจบของเรื่องนี้ทั้งทานและออ้นได้อยู่ด้วยกันอยากมีความสุขนะคับขอร้องคนเขียน :impress:

a22a

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ย.....สุดท้ายก็เอ่ยปากบอกรักกันเสียทีลุ้นแทบตาย แต่ก็เศร้าเนาะสงสารทานจัง(คนขาอความอบอุ่นเศร้า)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






AcOustic_Guitar

  • บุคคลทั่วไป
 สงสารทั้งคู่เลย ทานอย่าปล่อยให้อ้อนไปนะ :sad2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :o11:  :o11:  :o11:
*
*
*
*
เมนท์ 5 จ้า  o19 แล้วก็หลับรอเรย์

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
เอาใจช่วยทั้งคู่ น้า     :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ยิ่งอ่านก็ยิ่งรักทาน

ยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกดีกว่าทาน

" ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีวันทำร้ายคนที่ตัวเองรัก "

รู้สึกดีจังที่มีคนที่คิดแบบนี้อยู่  :monkeysad2:

ออฟไลน์ akitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
>>>ทานตะวันคนดี ขอโทษนะครับขอโทษ เจ้าชายน้อยครับ ผมขอโทษที่ทำให้เสียใจ <<<  :impress:
ประโยคนี้  เหมือนจะเศร้า  แต่เหมือนจะอุ่น ๆ ....สับสนแฮะ เอาไงดี  :laugh3:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เศร้าครับแล้วอย่างนี้ อ้อนกับทานตะวันจะเข้าใจกันมั้ยอ่ะคับ

แล้วอ้อนจะตัดใจจากไหมได้มั้ย อยากรู้แล้ววววววววววววววววว คับ :impress:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
โอ้ย ...

อ่านแล้ว ทำไมมันปวดใจจัง

เศร้าจัง  :o12:

ออฟไลน์ Felm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มายัง น๊า....



เมนต์ 11 แย้ววว

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เมื่อมีการพบเจอ ก็ต้องมีการพรากจาก
 o7
****************************
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน รอคำตอบ

สองสามวันมานี้ ไม่ใช่สองสามวันหรอก หลายวันมานี้ต่างหากล่ะ
ตอนนี้คนข้าง ๆ อยู่ในสภาพนี้ สภาพนี้ไง นี่ไง นี่ นี่ นี่

อ้อนหันไปมองคนตัวโตที่ทั้งพัวพัน ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ยอมปล่อย แถมเดินตามต้อย ๆ แทบไม่ยอมให้คลาดสายตา
จะใครซะอีก ถ้าไม่ใช่......ทานตะวัน.....

คนบ้า ๆ คนนี้ ทำหน้าเศร้ามาหลายวัน บางวันก็แอบเห็นน้ำตาซึม ถามว่าเป็นอะไร ก็ได้คำตอบเดิม ๆ ว่า "เปล่า"

รู้ทั้งรู้ว่าเป็นอะไรแต่ก็ยังอุตส่าห์ถามไป ถามเพราะอยากมีเรื่องคุยกันบ้าง ทานตะวันไม่ช่างพูดช่างคุย ไม่เล่น ไม่เอะอะโวยวายไม่แกล้ง และไม่หาเรื่อง
แต่ชอบแอบหลบไปนั่งเงียบ ๆ คนเดียว บางครั้ง เดินเข้าไปหาก็ลุกขึ้นเดินหนี เป็นแบบนี้หลายวัน

จนแม้แต่ตัวอ้อนเองก็ยังเศร้าไปด้วย ไม่กล้าเข้าหน้า เพราะบางครั้งเมื่อต้องพบกับสายตาที่เจ็บปวดของทานตะวันเวลาที่อีกฝ่ายมองมา ยิ่งตอกย้ำความชั่วร้ายของตัวเองให้มากขึ้น

แต่แล้วเมื่อผ่านไปหลายวัน จากไม่ยอมให้เข้าใกล้ มาคราวนี้ คนที่กอดเอวไม่ยอมปล่อยก็กลับกลายเป็นอีกคน
จากที่เอาแต่หลบหน้าและคอยวิ่งหนี วันนี้กลับแปลกกว่าทุกวัน

เพราะตั้งแต่เช้าที่ตื่นมาพร้อมกัน ทานตะวันก็เอาแต่ร้องเรียกไม่ยอมให้ห่างตัว ไม่เข้าใจว่าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ก็ยังคงกอดแน่น ทำหน้าเศร้า ไม่ยอมให้เดินไปไหนได้เลย

"อ้อน...หนาว"

แล้วไง กอดขนาดนี้ ยังหนาวอีกเหรอ

"อือ...หนาว.."

อ้อนตอบไปแค่นั้นแล้วคนตัวโตก็ตามเกาะแจ ไม่ว่าจะเดินไปไหน ก็เอาแต่เดินตาม กลัวจะคลาดสายตาไปไหนหรือไง ไม่ได้ไปไหนซะหน่อยแล้วทำไมตามติดขนาดนี้

"เมื่อคืน...โดนแย่งผ้าห่มด้วย..งอน"

ทานตะวันบ่นเสียงเบาแล้วก็ทำหน้างอเหมือนเด็ก ๆ ส่วนคนฟังได้แต่แอบลอบยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำอยู่ในใจ

ก็แล้วใครใช้ให้นอนดิ้นขนาดนั้น เห็นนอนไม่หลับกระสับกระส่ายมาหลายคืน แล้วทำไมคืนก่อนถึงได้นอนกลิ้งไปกลิ้งมา
สงสัยอดนอนหลายคืน เลยหมดสภาพ แล้วรู้ได้ไงว่าแย่งผ้าห่ม ยังไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย แถมซ้ำยังลุกขึ้นมาห่มผ้าให้เมื่อกลางดึกอีก แล้วใครกันแน่ที่โดนแย่งผ้าห่ม
ตื่นมาอีกที ก็เห็นผ้าห่มไปกองอยู่ปลายเตียง เตะลงไปเอง แล้วจะให้โทษใคร

"แล้วเป็นไง...โดนแย่งผ้าห่มแล้วทำไงล่ะ"

ก็แค่คำถามเรื่อยเปื่อย ในขณะที่พยายามจะเดินไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำในครัว โดยมีทานตะวันเกาะติดตามมาด้วย

"ก็ไม่แล้วไง...ก็หนาวสิไม่มีผ้าห่มก็หนาว"

ใช่ ไม่มีผ้าห่มก็หนาว แล้วนี่เป็นอะไรถึงได้มาคุยเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ได้ ทั้งที่หลายวันมานี้แทบไม่รู้จะคุยอะไรกันด้วยซ้ำ
บรรยากาศอึมครึมมาตลอด แต่แล้วพอถึงวันนี้ ทำไมบรรยากาศถึงได้เปลี่ยนไป ใช่ เปลี่ยนไป แล้วก็เปลี่ยนไปในทางที่นับว่าดีขึ้นมากด้วย

"เอ้า...ก็รู้นี่ไม่มีผ้าห่มก็หนาว..."

อ้อนตอบออกไปในขณะที่พยายามเอื้อมหยิบแก้วกาแฟที่อยู่บนตู้ เอื้อมไม่ถึง แต่ก็มีทานตะวันเอื้อมแขนไปหยิบมาให้และวางเอาไว้ให้ตรงหน้า

"ไม่มีผ้าห่มก็หนาว...แล้วถ้าไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย"

บทสนทนาที่ราบรื่นมาตลอดยามเช้ามีอันต้องสะดุดลง อ้อมแขนที่โอบรัดที่รอบเอวคลายออกแล้ว พร้อมกับที่คนตัวโตยืนก้มหน้าทำหน้าเศร้าอยู่ข้าง ๆ

ไม่มีทาน...อ้อนจะเหงามั้ย...จะเอาคำตอบว่าอะไร ให้ตอบว่า "เหงา" หรือตอบว่า "เฉย ๆ"

"แล้วไม่มีคนใช้สักคน...จะเป็นอะไรมั้ยล่ะ"

คำถามของอ้อนทำให้ทานตะวันยิ่งก้มหน้า และยืนนิ่งเงียบก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

"สำหรับอ้อน ตอนนี้ทานเป็นแค่เจ้าหนี้กับเจ้านายแค่นั้นเองเหรอ...แค่นั้นเองใช่มั้ยล่ะ"


ทานตะวันพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็ก้าวเท้าเดินหนีผละจากไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกเลย ทิ้งให้อ้อนยืนนิ่งเงียบอยู่ในครัวเพียงลำพัง

...ไม่ใช่หรอก ทานไม่ได้เป็นแค่นั้น แต่ตอนนี้ทานเป็นมากกว่านั้น แต่จะให้บอกว่าเป็นอะไร
ในเมื่อ...เวลานี้ ยังไม่รู้จะตอบตัวเองยังไง กับความรู้สึกที่แบ่งให้คนสองคนในเวลาเดียวกัน

เห็นหน้าไหมครั้งแรกหลังจากไม่ได้เจอกันมานาน สิ่งแรกที่รู้สึกคือตกใจ แต่หลังจากนั้น เมื่อได้พูดคุยกันอีกครั้ง ความรู้สึกที่พยายามจะลืมไปให้หมดก็กลับหวลคืนมาอีกครั้ง

มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ กับความรู้สึกที่มีให้ทานตะวัน

 
......................................

"เอามีดมาหั่นแบ่งครึ่งไปเลยดีมั้ย จะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้...เดี๋ยวแม่งก็หนีไปให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย"

แค่คิด แล้วก็ยิ้มอย่างเศร้า ๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันวะเนี่ย เกิดจะมีรักซ้อนซ่อนรักกันตอนนี้อีก
เป็นปีเป็นชาติไม่ยอมมี อยู่ดีมีสุขมาได้ตั้งนาน แล้วทำไมถึงได้มีพายุเข้ากันตอนนี้

"กาแฟใส่น้ำตาลกี่ก้อน ทาน ทาน ทานโว้ยยยยยย"

เรียกก็แล้ว ตะโกนก็แล้ว แต่ไอ้คนหน้าหงิกหน้างอนั่นก็ไม่ยอมตอบ จนอ้อนต้องเดินมาหาที่ข้างสระน้ำ

"น้ำตาลกี่ก้อนครับคุณชายทานตะวัน"

อ้อนนั่งลงข้าง ๆ คนที่นั่งเงียบอยู่ข้างสระ แล้วก็ก้มหน้าลงไปถาม

"น้ำตาลกี่ก้อน...สองมั้ย..หรือสาม..จะได้หวาน ๆ "

ถามแล้ว พูดแล้ว แต่ก็ยังได้คำตอบเป็นความเงียบเหมือนเดิม อ้อนก็เลยได้แต่ส่ายหน้า แล้วก็ถอนใจด้วยความกลุ้ม

"อ้อน...ไปทะเลกันเถอะ.."

อะไรนะ...ไปทะเล...บ้า..อยู่ดี ๆ เล่นพูดออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย บ้าแล้ว ตอนนี้เนี่ยนะ หน้าหนาวไปทะเลเนี่ยนะ บ้า

"เฮ้ย..ไปได้ไง"

งง แล้วก็ อึ้ง แล้วก็อยากจะหัวเราะ แต่ทานตะวันทำหน้าจริงจังแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นการล้อเล่น แถมยังลุกขึ้นคว้าข้อมือของอ้อนให้เดินตาม

"ไปทะเลกัน ไปตอนนี้เลย แล้วจะบอกว่าจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน ไปกันเลย ตอนนี้แหละ ดีที่สุด"

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง ของไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยน ได้แต่ทำหน้าเหรอหราด้วยความมึนงง สุดท้ายก็ขึ้นมาอยู่บนรถด้วยกันจนได้

อ้อนหันไปมองหน้าของทานตะวันอีกครั้ง พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาเต็มหัว

...อารมณ์ไหนอีกล่ะเจ้าชายน้อย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวทำเหมือนจะร้องไห้ เดี๋ยวก็ชวนไปเที่ยวกันดื้อ ๆ...

"นี่...แล้วตกลงจะเอาน้ำตาลกี่ก้อน"

อ้อนแกล้งถามไปเล่น ๆ แต่คำตอบที่ได้กลับมา กลับทำให้ต้องหันไปมองหน้าทานตะวันนิ่งๆ อีกครั้ง

"น้ำตาลอะไรไม่เอาทั้งนั้น ไม่เอาอะไรแล้ว...อยากจะใส่น้ำตาลกี่ก้อนก็ใส่ไป..อยากจะทำอะไรก็ทำไปแต่อยู่กับทานนะ..อยากจะทำอะไรกับชีวิตทานก็ได้
แต่อย่าทิ้งทานไปเหมือนที่คนอืน ๆ ทิ้ง...ห้ามทิ้งไปเหมือนคนอื่น ๆ เข้าใจมั้ย..อยากจะมีใครอีกกี่คนก็ได้..แต่ต้องกลับมานะ...ต้องกลับมาหาทานตลอดไป"

บ้า...พูดแบบนี้ได้ยังไง

จะร้องไห้อยู่แล้วนะโว้ย พูดบ้าอะไรวะ พูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังเลยเหรอ นึกว่าคนฟังไม่มีหัวใจหรือไง พูดออกมาคิดบ้างหรือเปล่า ว่าคนฟังก็เจ็บปวดเหมือนกัน

ไอ้ทาน ไอ้บ้า

"ดี..งั้นจะไป..จะไปให้ดู..คอยดูเถอะ..ไปแน่..ขืนพูดอย่างนี้อีกครั้งเดียวไปแน่ ๆ"

กรีดลึกไปถึงหัวใจ ทานตะวันได้แต่ฟังคำพูดของอ้อน รู้สึกว่าตัวเองอยากจะตะโกนออกมาให้ดังที่สุด แต่ก็ทำได้แค่ขบริมฝีปากแน่น แล้วก็ได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป

"ไปแน่ ๆ นะ...ขืนพูดแบบนี้อีกครั้งเดียว..คอยดูให้ดี..จะไปไม่กลับมาอีกเลยด้วย"

จะตอกย้ำให้ยิ่งเจ็บช้ำกันไปถึงไหน

ถึงแม้อ้อนจะพูดอย่างนั้น แต่การกระทำกลับไม่เป็นไปตามคำพูด

ศรีษะเอนซบลงที่ลาดไหล่ของคนที่พยายามจะหันเหความสนใจไปกับการมองถนน

มือที่เอื้อมหยิบเม็ดบ๊วยในกระปุกมาส่งให้ที่ริมฝีปากยิ่งทำให้ทานตะวันสับสนกับการกระทำของอ้อนมากขึ้น

"เจ้าชายน้อย...คิดว่าเราหลายใจขนาดนั้นเลยเหรอ...ห๊า..คิดว่าหลายใจขนาดนั้นเลยหรือไง"

ได้ยินนะ ได้ยินเหมือนเสียงตะคอกแต่ไม่ดังนัก

อะไรล่ะ ที่ว่าไม่หลายใจ...นี่จะทำให้ดีใจหรือเปล่า...หรือจะให้เข้าใจว่ายังไง

"ไม่หลายใจแล้วรักทานคนเดียวหรือไง..."

ถามออกไปเหมือนคนโง่ แล้วคำตอบที่ได้กลับมาคือ บ๊วยอีกเม็ดที่อ้อนจงใจจะยัดเยียดใส่ปากให้ เพราะอยากจะให้หยุดพูด

สัญญาณแบบนี้...เอ๊ะ...เข้าข้างตัวเองหรือเปล่า

หรือว่า...หรือ...อ้อนจะเอายังไง

"อ๋ายอามว่าไงเนี่ย อึก ไอ้เอาแล้ว ไม่ต้องป้อนแล้ว"

ทานตะวันดึงกระดาษทิชชู่ออกมาจากกล่องแล้วคายเม็ดบ๊วยทิ้ง พยายามจะจับอาการของคนพูด แต่กลับไม่ได้รับอะไรกลับมา

ไอ้ท่าทางออดอ้อนแบบที่ไม่เคยทำของอ้อนนี่มันหมายความว่าไงอ่ะ

เฮ้ย แล้วตกลงจะให้ทำยังไง

สรุปว่า...หนูน้อยแก้มแดงจะเอายังไงกับชีวิตของกระผมครับเนี่ย ทานตะวันก็งงเป็นนะครับ ตกลงจะเอายังไงเนี่ย

TBC....

meeza31

  • บุคคลทั่วไป
ทำใมออ้นถึงไม่เลือกใครซะทีละ  :impress:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด