Awoot Chapter 21
อาวุธนั่งมองรูปภาพของจักราวุธกับวินเซนต์เพื่อเปรียบเทียบกัน จริงอยู่เขารู้ว่าสองคนนี้นามสกุลเหมือนกันและเป็นญาติห่างๆ กันแต่เขาก็หาจุดเชื่อมโยงสองคนนี้ไม่ได้ ครอบครัวของทั้งสองต่างคนต่างอยู่ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแม้แต่นิด สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือดวงตาที่คล้ายกัน
...มุ่งมั่น!
เหมือนกับดวงตาของนที...
เขารู้ภูมิหลังของนทีน้อยมาก และแม้จะได้รายงานเพิ่มเติมจากพันเอกชัยชนะแต่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนทีก็มีเพียงสามประเด็นเท่่านั้น
นทีมีน้องชายต่างมารดาชื่อวิทวัสหรือวินเซนต์ซึ่งใช้นามสกุลมารดา
นทีเคยทำงานเป็นล่่ามพิเศษให้นาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาในปฏิบัติการหลายครั้งที่คูเวต นั้นก็หมายความว่านทีต้องรู้ภาษาอาหรับ
และทั้งสามคนเคยทำงานในเคนย่า
เขาอยากให้มีอะไรซักอย่างที่จะชี้ให้เห็นว่านทีมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับจักราวุธมากกว่านี้แต่จนแล้วจนรอดเชาก็ยังคิดไม่ออก ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้มีอยู่น้อยมาก
...จนป่านนี้เขายังไม่เข้าใจประโยคที่นทีพูดกับเขาขณะที่จอดรถหลบพายุทะเลทรายในระหว่างการเดินทางไปเมืองทาสิกข์...
...ประโยคเดียวที่เขียนไว้บนกระดาษแผ่นเล็กๆ ซึ่งหายไปหลังจากตำรวจพบศพเพื่อนของนทีเสียชีวิตเพราะถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในห้องพักกลางเมืองมาเซรู เมืองหลวงของประเทศเลโซโท...
...The good Samarian had never been who he was...
...เขาสงสัยมาตลอดว่า the good Samarian คือคนที่ฆ่านที แต่หลายอาทิตย์มานี่เขากลับรู้สึกว่าเขาจับผิดคน เขายังบอกไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า the good Samarian คนนั้นคือใคร...
...บางทีคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างอาจจะเป็น the good Samarian ซึ่งยังคงลอยนวลอยู่ แล้ววินเซนต์จะรู้เรื่องของนทีมากน้อยแค่ไหน จักราวุธล่ะ จะ...
อาวุธหยุดความคิดของตัวเองเมื่อรู้สึกว่ามีมือวางทาบลงบนหัวไหล่ของเขา กษิดิษฐ์ก้มหน้าลงพูดกับเขาเบาๆ ว่า
“สารวัตรใจร้าย ปล่อยให้แขกนั่งเหงาอยู่คนเดียว”
“ขอโทษครับ ผมกำลังทำงาน” อาวุธเงยหน้าขึ้นตอบ
“ผมมารบกวนหรือเปล่าครับ”
“เปล่าครับ ไม่เป็นไร พอดีผมกำลังจะพัก”
“แสดงว่าจะทำต่อ” กษิดิษฐ์ทำหน้าผิดหวัง
“ไม่แล้วครับ” อาวุธส่ายหน้า “ไว้วันหลังดีกว่า วันนี้พอแค่นี้”
“ใครครับ” กษิดิษฐ์ชี้มือไปยังรูปภาพของจักราวุธแล้วหันไปมองรูปภาพของวินเซนต์ “สารวัตรเอารูปแฟนของภาณุวัฒน์มาดูทำไมครับ”
“เปล่า” อาวุธปฏิเสธแล้วเก็บเอกสารทุกอย่างบนโต๊ะใส่ในแฟ้ม
“ดูเผินๆ ก็หน้าตาเหมือนกันนะครับ เหมือนที่สุดตรงดวงตา” กษิดิษฐ์ออกความเห็น “ตาร้าย น่ากลัว”
อาวุธชะงักไปชั่ววินาทีแล้วเก็บเอกสารต่อและพูดกับกษิดิษฐ์โดยไม่มองหน้าว่า “คุณกษิดิษฐ์นี่เก่งไม่ใช่เล่น ช่างสังเกต”
“จะเป็นแฟนตำรวจก็ต้องฝึกเอาไว้สิครับ” กษิดิษฐ์หัวเราะ อาวุธเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้บางๆ แล้วไม่พูดอะไรแต่เมื่อกษิดิษฐ์สอดมือเข้ามากอดเอวเขาจากทางด้านหลังจึงวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะแล้วแกะมือของอีกฝ่ายออกและหันตัวไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
“สารวัตรรังเกียจผม” กษิดิษฐ์ทำเสียงตัดพ้อ
“ผมว่ามันไม่เหมาะ”
“ทำไมจะไม่เหมาะ สารวัตรเอาอะไรมาวัด แล้วนี่ก็ในบ้าน ไม่ได้ยืนอยู่ป้ายรถเมล์ สารวัตรทำยังกับว่านี่เป็นครั้งแรก มากกว่านี้ก็เคย”
“ปล่อยเถอะครับ”
“สารวัตรใจจืดใจดำกับผมมาก ไม่แคร์ความรู้สึกผมบ้างเลยซักนิด” กษิดิษฐ์ขัดขืน พยายามกอดอาวุธแน่นกว่าเดิม
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” อาวุธยังพยายามแกะมือของอีกฝ่ายออกและพูดเสียงจริงจังว่า “ผมแค่ไม่อยากให้คุณเสียใจ”
“หมายความว่ายังไงครับ สารวัตรปฏิเสธผม หรือกำลังจะบอกว่าอย่ามารักสารวัตรเลย เพราะจะเสียใจภายหลัง เพราะสารวัตรมีใครอยู่แล้ว เด็กคนนั้นหรือครับ หรือว่าใคร สารวัตรดูซึมไปตั้งแต่ภาณุวัฒน์ย้ายออกไปอยู่กับวินเซนต์”
“เปล่า”
“เขาเหมาะกัน สารวัตรอย่่ามาเถียงนะว่าสองคนนั้นไม่เหมาะสมกัน วินเซนต์กับภาณุวัฒน์อายุห่างกันไม่มาก วินเซนต์มีเวลาว่างให้กับภาณุวัฒน์ เป็นคนสนุกสนานร่าเริง ทำให้เด็กคนนั้นได้หัวเราะ ถ้าเด็กเขาจะรักกันก็ไม่แปลกและก็ไม่ยากด้วย และที่สำคัญ มันกำลังเกิดขึ้น ป่านนี้เขาคงกำลังหัวเราะสนุกสนามอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้” กษิดิษฐ์เริ่มจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ “ผมต่างหากที่อยู่ตรงนี้ พร้อมจะเป็นของสารวัตร พร้อมทุกอย่าง พร้อมที่จะให้สารวัตรมอบความรักให้ ขอได้ไหมครับ ผมขอหัวใจของสารวัตรอาวุธได้หรือเปล่า ผมต้องการ ผมต้องการใครซักคน ผมต้องการสารวัตร”
อาวุธเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง น้ำตาของกษิดิษฐ์เริ่มไหล ชายหนุ่มกอดเขาแน่นไม่ยอมปล่อย ซบหน้าลงกับหน้าอกของเขาและคร่ำครวญว่ารักและคงทนไม่ไหวหากจะไม่สมหวังในความรัก
“ผมรักสารวัตร ผมรักสารวัตร ได้ยินไหมครับ ผมรักสารวัตร นี่คือผู้ชายดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม อย่าผ่านเลยไปเฉยๆ นะครับสารวัตร อย่าทิ้งผมให้อยู่คนเดียว”
อีกครั้งที่วินเซนต์หันไปมองใบหน้าขาวๆ ของภาณุวัฒน์ซึ่งนอนขดตัวหลับอยู่บนเบาะรถข้างๆ เขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ๆ หลายๆ ครั้ง ในใจพูดกับตัวเองว่า
...วันนี้แล้วสิที่จะได้อยู่กับภาณุวัฒน์เป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เช้ามืดเขาจะต้องหายตัวไปโดยให้เหตุผลว่าไปทำงานภารกิจพิเศษและทิ้งภาณุวัฒน์ไว้ที่บ้านของคุณย่า ที่เหลือ ผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนปฏิบัติการต่อ...
...แต่ภาณุวัฒน์อยากไปอยู่กับอาวุธ เขารู้ดีว่าภาณุวัฒน์อยากไปอยู่กับอาวุธ ความจริงก็ต้องเป็นแบบนั้น ถ้าเขาจะทำอะไรผิดแผนไปบ้างจะเป็นยังไง เพราะจริงๆ แล้วท้ายที่สุดภาณุวัฒน์ก็ต้องลงเอยกับอาวุธไม่ใช่หรือ...
วินเซนต์ลดความเร็วของรถ รู้สึกสับสนบอกไม่ถูก ใจหนึ่งก็อยากจะเลี้ยวรถกลับนิวยอร์คเพื่อพาภาณุวัฒน์ไปส่งคืนอาวุธ
“สารวัตร” เสียงของภาณุวัฒน์พึมพำแล้วพลิกตัวเพื่อเปลี่ยนท่านอน
วินเซนต์กัดฟัน มือกำพวงมาลัยรถแน่น เท้ากดลงไปบนคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วของรถโดยไม่รู้สึกตัว
...เขาหึงหวงภาณุวัฒน์ ตอนนี้เขาเทใจให้ภาณุวัฒน์ไปเต็มที่แล้ว แต่ภาณุวัฒน์กลับไม่มีใจให้เขา...
...ทำไมคนเราต้องมารักกันข้างเดียว ทำไม...
อาวุธเบรกรถพรืดจอดหน้าบ้านสีขาวทางธีโอดอร์หลังใหญ่ชานเมืองนิวซิตี้แล้วรีบเดินไปกดกริ่งที่ประตูหน้าบ้าน เมื่อได้รับโทรศัพท์ของภาณุวัฒน์เขาก็รีบมาเพราะเกรงว่าจะมีอันตราย ภาณุวัฒน์บอกว่ามีคนจะมารับตัวไปอยู่ด้วย ท่าทางไม่น่าไว้ใจและคุณย่่าของวินเซนต์ก็ถกเถียงกับชายคนนั้นอยู่เป็นนาน ส่วนวินเซนต์เดินทางไปทำงานต่างประเทศและติดต่อไม่ได้
ชื่อของคนที่ภาณุวัฒน์บอกว่าจะมารับตัวไปอยู่ด้วยคือ...
จักราวุธ!
คนที่มาเปิดประตูให้อาวุธเป็นหญิงชราอายุราว 80 ปี แต่ก็ยังมีเค้าความสวยอยู่มาก อาวุธทำความเคารพด้วยการไหว้เพราะคิดว่าคงจะเป็นคุณย่าของวินเซนต์
“Mister Awoot/คุณอาวุธ” หญิงชราทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเป็นภาษาอังกฤษ
“You know me?/คุณรู้จักผมหรือครับ”
“Jo Jo told me you are coming/โจโจ้บอกว่าคุณจะมา”
“What about the other guy? The one who wanted to take Jo away?/แล้วอีกคนที่จะมารับโจ้ล่ะครับ” อาวุธถาม
“Oh, Jack. He left. Jo Jo dind't want to stay with him./อ๋อ แจ๊ค เขากลับไปแล้ว โจโจ้ไม่อยากไปอยู่กับแจ๊ค”
“Jack? แจ๊ค” อาวุธเลิกคิ้ว ทำเสียงสงสัย.
“Jakrawoot/จักราวุธ” หญิงชราตอบ หน้าตาเปลี่ยนเป็นฉุนเฉียว “I don't want to see Jack anymore. I made him go away. I don't know why he's here. He disappeared for such a long time. Since Nate was gone, I've never seen him since. ฉันไม่ต้องการเจอหน้าแจ๊คอีก ฉันไล่เขาไปแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแจ๊คมาที่นี่ เขาหายไปนาน ตั้งแต่เนทจากไปฉันก็ไม่เคยเจอเขาอีก”
“And Nate is...? เนทคือ...” อาวุธถาม แทบจะกลั้นหายใจเมื่อนึกถึงชื่อของนทีเมื่อสะกดเป็นภาษาอังกฤษและเรียกสั้นๆ
“It was a sad story. มันเป็นเรื่องเศร้า” หญิงชรารำพัน “a very tragic story. Jack and Net were sad story.”
“Is Nate Natee? เนทคือนทีใช่ไหมครับ” อาวุธตัดสินใจถาม หญิงชราพยักหน้า ดวงตาเหม่อลอย แต่เพียงชั่วครู่ก็รู้สึกตัวจึงเชิญอาวุธเข้าไปในบ้านพร้อมกับบอกว่าจะให้คนไปตามภาณุวัฒน์แต่อาวุธบอกว่าให้รอเดี๋ยวเพราะเขาอยากคุยเรื่องนที
“I know who you are Police Colonel Awoot ฉันรู้ว่าคุณเป็นใครพันตำรวจโทอาวุธ” หญิงชรามองหน้าอาวุธ “Nate had been talking about you. นทีพูดถึงคุณ”
“Is that so? ยังงั้นหรือครับ” อาวุธพูดเสียงแผ่ว
“Nate told me you are the best man he has ever seen, but he could be with you. He wanted you to be happy. It would be his greatest joy if you are happy. เนทบอกว่าคุณคือคนที่ดีที่สุดที่เขาพบ แต่เนทก็อยู่กับคุณไม่ได้ เนทอยากให้คุณมีความสุข เนทบอกว่าเขาจะมีความสุขที่สุดถ้าคุณมีความสุข”
“Natee told you that? นทีบอกคุณอย่างนั้นหรือครับ” อาวุธพึมพำ ประหนึ่งพูดกับตัวเอง “When? เมื่อไหร่ครับ”
“Nate knew it well. He didn't have much time left to survive. เนทรู้ว่าตัวเองคงอยู่รอดได้ไม่นาน” หญิงชราเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย “Nate knew everything. Everything. He also said he would be happy if if had to end. He was luckly he had found the one he loved so much before leaving this world. It is beautiful, grandma, he said. It is so very beautiful. I've never seen such a thing like this. It is sprinkling but there are fireflies everywhere. I love him, grandma. And he loves me. I love him so much, but I don't want him to suffer the feeling of loving me and remembering me always. But I can 't be with me, grandma. I can't. If I don't get killed; I'll be dead anyway./ เนทรู้ทุกอย่าง ทุกอย่าง เนทบอกว่าถ้ามันจะจบเขาก็มีความสุข เนทยังพูดว่าเขาโชคดีที่เจอคนที่เขารักมากก่อนจะจากโลกนี้ไป เนทบอกว่ามันสวยมาก สวยมากจริงๆ ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ฝนตกพรำๆ แต่มีหิ่งห้อยเต็มไปหมด ผมรักเขาครับย่า เขาก็รักผม ผมรักเขามากแต่ผมไม่อยากให้เขาทนทุกข์เพราะรักผมไม่มีวันลืม แต่ผมอยู่กับเขาไม่ได้ ถ้าผมไม่ถูกฆ่า ผมก็ตายอยู่ดี”
“Why...ทำไม...” เสียงของอาวุธหายไปในลำคอ
“Life is like that./ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ล่ะ” หญิงชราหันมามองอาวุธแวบหนึ่งแล้วหันกลับไปมองหิมะที่กำลังโปรยปรายด้านนอก “It's just like this. The rain was sprinkling. The snow is falling. That was last time I heard his voice./แบบนี้เอง ฝนตกพรำๆ หิมะกำลังตก นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้ยินเสียงเนท”
“Why? Please do tell me why./ทำไมครับ กรุณาบอกผมเถอะ ทำไม” อาวุธเสียงสั่น ไม่อยากจะคิดถึงสิ่งที่เขาสงสัยเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงชราเพิ่งพูดไป
แต่เขาก็อยากจะได้ยิน
อยากจะได้ยินเต็มสองหูว่าทำไม...
...นทีรู้ตลอดเวลาว่าตัวเองจะไม่รอด...
...แม้ไม่ถูกฆ่าก็จะตายอยู่ดี...
...คนเข้มแข็งอย่างนทีนะหรือ ไม่มีวี่แววเลยว่าจะเป็นอะไรแบบที่เขากำลังคิด...
“ลูคีเมีย” หญิงชราพึมพำ “ลูคีเมีย...แจ๊คเขารู้ดี”
“จักราวุธเกี่ยวข้องยังไงกับนทีหรือครับคุณย่า” ใจของอาวุธเต้นตึกตักทั้งๆ ที่กลั้นหายใจ เขาอยากจะถามว่าจักราวุธเกี่ยวข้องกับการตายของนทีหรือไม่แต่เขาก็ไม่กล้าถาม
“มันเป็นเรื่องเศร้า” หญิงชราก้มหน้า “เศร้ามากๆ ฉันไม่อยากจะคิดถึงมัน”
“แต่ผม...”
“คุณไม่ควรคิดถึงมันด้วย” หญิงชราหันขวับมาหาอาวุธ ดูกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใดและพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น “มันคืออดีต เข้าใจไหมพันตำรวจโทอาวุธ มันคืออดีต คุณเอาเนทกลับมาไม่ได้อีกแล้ว เนทอยู่บนสววรค์ คุณอยู่บนโลก คุณกำลังหายใจ คุณมีหัวใจที่กำลังเต้น” หญิงชรายกมือขึ้นตบหน้าอกของอาวุธเบาๆ “ปล่อยให้เนทอยู่อย่างสงบสุขในที่ของเขา เนทจะไม่มีวันมีความสุขถ้าคุณไม่มีความสุข”
“ผมมีความสุข” อาวุธพึมพำ เสียงเบาโหวง
“Nate loves you. เนทรักคุณ”
ภาณุวัฒน์ยืนนิ่ง มองคนสองคนที่ยืนคุยกันอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ หิมะด้านนอกกำลังโปรยปรายเป็นฉากหลัง ภาพของคุณย่าเวโรนิก้า หญิงชราใจดี คุณย่าของวินเซนต์กำลังทาบมือลงบนอกซ้ายของอาวุธซึ่งก้มหน้าลงมองมือของอีกฝ่ยด้วยท่าทางเศร้าสร้อยทำให้เขาอยากร้องไห้
เขาได้ยินการสนทนานั้นแว่วๆ แต่ถึงได้ยินชัดเจนก็คงไม่เข้าใจเพราะสองคนนั้นพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษด้วยเสียงแผ่วเบา แต่เขาก็พอจะเดาความหมายบางช่วงได้!
“โจ้โจ้” เสียงของหญิงขชราดังขึ้นมา” มา มานี่ หมีโคล่าน้อยของย่า ดูซิใครมาเยี่ยม”
“ผมไม่ได้มาเยี่ยม ผมรับกลับ” อาวุธแย้งหญิงชราเบาๆ
“วินเซนต์คงไม่ยอม”
“ทำไมครับ” อาวุธถาม
“วินเซนต์บอกว่า...”
“ที่นี่อันตราย จักราวุธต้องการตัวโจ้ ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ต้องมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล ผมไม่อยากเสี่ยงทิ้งโจ้เอาไว้ ถ้าวินเซนต์อยู่ที่นี้ผมจะไม่กังวลเท่าตอนนี้เลย” อาวุธพูดกับหญิงชราด้วยภาษาอังกฤษรัวเร็วจนภาณุวัฒน์ฟังไม่ทัน
คุณย่าเวโรนิก้าถอนหายใจ รู้สึกลังเล อาวุธจึงพูดต่อว่า “ถ้าวินเซนต์กลับมาให้เขาไปหาผมก็ได้ครับถ้าเขาต้องการ แต่ตอนนี้ โจ้ต้องไปอยู่กับผม คุณย่าก็น่าจะรู้ว่าจักราวุธอาจหวนกลับมาอีก”
“แจ๊คไม่ทำร้ายใคร ฉันแค่ไม่อยากให้เขามาเอาโจโจ้ไป”
“ผมว่าวิธีนี้ดีที่สุด” อาวุธพูดเสียงหนักแน่น “ถ้าติดต่อวินเซนต์ได้ ช่วยบอกเขาอย่างนั้นนะครับ เขาจะต้องเข้าใจ”
“วินเซนต์รักโจโจ้” หญิงชราพูดเสียงเบา มองตาอาวุธอย่างครุ่นคิด “ฉันรู้ว่าจะต้องยุ่งแน่ๆ และฉันก็รักวินซ์มาก เขาเป็นคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่”
ภาณุวัฒน์อึ้ง ประโยคแรกเขาฟังรู้เรื่อง แต่ประโยคหลังไม่เข้าใจทั้งที่คุณย่าพูดช้าและชัด
“ไม่เป็นไรครับ คุณย่า ไม่เป็นไร” อาวุธก้มลงพูดกับหญิงชราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วหันไปพยักหน้าให้กับภาณุวัฒน์ซึ่งยืนมองอยู่เงียบๆ เป็นการส่งสัญญาณว่าถึงเวลาเดินทางแล้ว
“ทำไมคุณย่าเรียกว่าหมีโคล่าน้อย” อาวุธถามภาณุวัฒน์ขึ้นมาเบาๆ หลังจากต่างฝ่ายตั้งนั่งนิ่งเงียบมาเป็นเวลาพอสมควร
“คุณย่าบอกว่าผมตัวเล็กน่ารักครับ” ภาณุวัฒน์ตอบ ในใจขอโทษอาวุธที่โกหกเพราะความจริงคนที่เริ่มเรียกเขาแบบนี้คือวินเซนต์
“น่าจะจริงอย่างที่คุณย่าพูด” อาวุธตอบเสียงราบเรียบเช่นเคย สายตามองอยู่ที่รถตู้คันใหญ่ข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง
“ผมไม่เห็นว่าตัวเองจะเหมือนหมีโคล่าตรงไหน” ภาณุวัฒน์ตอบเสียงเบา
“ตอนนี้ยัง ต่อไปไม่แน่” อาวุธตอบ “ตัวกลมขึ้นนะ”
“จริงหรือครับ” ภาณุวัฒน์เลิกคิ้ว
“หิวหรือยัง” อาวุธไม่ตอบคำถาม
“ยังครับ”
“ถ้าง่วงก็นอน ถึงนิวยอร์คจะปลุก”
“ครับ” ภาณุวัฒน์พยักหน้าแล้วเอนเบาะลง หลุบตามองมือแข็งแรงของอาวุธที่วางอยู่บนกระปุกเกียร์รถ ก่อนจะไล่สายตาไปตามแขนยาวๆ ของนายตำรวจจนไปหยุดนิ่งอยู่ที่ต้นคอและผมดกดำที่เริ่มยาว อาวุธผมยาวเร็วมาก ครั้งแรกที่เจอกันอาวุธตัดผมสั้นเกรียน แต่เวลาไม่นานตอนนี้ผมยาวจนระต้นคอและไม่มีท่าทีว่าจะตัด ต่างจากวินเซนต์ที่ชอบบ่นว่าผมยาวและชอบไปตัดให้สั้นเกรียน เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานเขาเห็นวินเซนต์ตัดผมถึงสองครั้ง
...วินเซนต์รักเขา วินเซนต์สนิทกับคุณย่ามากและคงเปิดเผยความในใจทุกเรื่องต่อกัน แต่ทำไมวินเซนต์บอกว่าคุณย่าไม่รู้ว่าตัวเองมีรสนิยแบบไหน...
...วินเซนต์โกหกเขาทำไม...
...แล้วทำไมอาวุธบอกกับคุณย่าว่า ไม่เป็นไร...
...It's o.k., grandma, it's o.k. ไม่เป็นไรครับคุณย่า ไม่เป็นไร...
...มันหมายความว่ายังไงกัน เขาเข้าใจประโยคภาษาอังกฤษประโยคนี้เพราะเป็นคำง่ายๆ แต่เขาก็ไม่เข้าใจความหมายที่สื่อสารออกมา...
...พี่วุธกำลังบอกอะไร...
::: End of Chapter 21 :::