ช่วงนี้แรงดี มาวันละสองรอบ กร้ากกกกกกกกกกส์
เอ้า ใครยังไม่หลับมาอ่านกันเลยค่ะ
...........................
...........................
ตอนที่๑๖ ลูกชายคนเล็กพี่อากาศผู้กำลังออกอาการเขินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่
กินเวลาเท่ากับที่ไอ้หนูป่วนอายไปด้วยจ้วงซ่าหริ่มไปด้วยจนหมดถ้วย
เห็นอย่างนั้น คุณพี่อากาศท่านเลยเลื่อนถ้วยทับทิมกรอบและมะพร้าวกะทิของตัวเองที่แตะไปได้ไม่กี่คำ เพราะมัวแต่เขินอยู่ส่งให้ไอ้เด็กเลี้ยงง่ายให้อะไรก็กินตรงหน้า
ตัวป่วนมันก็ไม่ว่าอะไร พี่ฟ้าของมันอุตส่าห์เสียสละของอร่อยมาให้ มันก็ตักกินต่อไปอย่างสบายอารมณ์
จนกินเสร็จจ่ายเงินเรียบร้อย สองคนหอบของเล่นของกินเต็มไม้เต็มมือก็พากันเดินกลับไปที่รถ
“ไปไหนต่อน่ะพี่ฟ้า?”
“ตัวป่วนเหนื่อยรึยังล่ะ?”
“ไม่เหนื่อย แต่ร้อน.....ข้างนอกร้อนมากอ้ะ เข้ามาในรถได้เหมือนขึ้นสวรรค์”
ไอ้หนูป่วนปลดกระดุมเม็ดเดียวที่มีอยู่ แล้วกระพือเสื้อพร้อมเป่าลมลงไปใส่พุงตัวเองประกอบคำพูด
แสดงอาการว่าร้อนจริงๆอีกต่างหาก
“งั้นเดี๋ยวเราไปกินข้าวมื้ออร่อยกันแล้วกลับเลยดีกว่าเนอะ”
พี่อากาศผู้เชื่อมั่นในความอดทนอดกลั้นของตัวเองมาตลอด ขณะนี้อยู่ในภาวะเสี่ยงจะตบะแตก
เหลือบตามามองไอ้ผู้โดยสารเพียงคนเดียวของตัวเองแล้วทำได้แค่ตวัดสายตากลับไปมองทางข้างหน้าอย่างด่วน
ในใจภาวนายุบหนอ....ยุบหนอ.....ยุบเถิดหนอให้วุ่นวาย
.................................
.................................
“เปิดเพลงนะพี่ฟ้า”
ส่วนไอ้นี่ก็ไม่รู้อะไรด้วยเลย บอกกึ่งขออนุญาตเสร็จก็เอื้อมมือไปข้างหลังหยิบกล่องที่มีซีดีบรรจุอยู่เต็มมารื้อค้น พอเลือกได้ก็เอาใส่เครื่องทันที
ก็นั่งฟังกันไป พอได้เพลงช่วยพี่อากาศแกก็ค่อยหายเกร็ง ขับรถต่อด้วยท่าทางที่สบายขึ้น
ตัวป่วนก็ฟังเพลงไป บางเพลงไม่ถูกใจก็กดข้าม จนถึงเพลงนี้.....
ยิ่งฉันฝืนไม่คุยกับเธอ ยิ่งฉันฝืนไม่มองหน้าเธอ
ใจของฉันก็ยิ่งอยากเจอ ยิ่งคิดถึงเธอทุกที
กลัวพูดมาแล้วฉันจะหวัง กลัวยิ้มมาแล้วฉันจะพัง
กลัวหัวใจที่มันจริงจัง จะตั้งความหวังกับเธอคนนี้
ก็เธอนั่นแหละน่ารักขึ้นทุกที
พยายามค้นหาว่าเพราะอะไร ใจของฉันจึงไม่ไปไหน
ยิ่งฉันฝืนจะไม่ใส่ใจ ยิ่งแย่ลงไปทุกที
ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปกับใคร
รู้ไหมฉันไม่เคยเปลี่ยนใจ ก็ได้แต่มองเธอในแง่ดี
ก็เธอนั้นแหละน่ารักขึ้นทุกที อย่างนี้
อยากมองเธอในแง่ร้าย ให้จิตใจได้หยุดพัก
แต่ยิ่งมองเท่าไร มันช่างยิ่งตกหลุมในความรัก
ไม่เข้าใจสงสัย เพราะเหตุใดประหลาดนัก
ยิ่งระวังเท่าไร ฉันยิ่งตกหลุมรักเธอ
ก็อยากจะพูดให้ฟังสักที ว่าเธอนั่นแหละน่ารักขึ้นทุกที อย่างนี้
อยากมองเธอในแง่ร้าย ให้จิตใจได้หยุดพัก
แต่ยิ่งมองเท่าไร มันช่างยิ่งตกหลุมในความรัก
ไม่เข้าใจสงสัย เพราะเหตุใดประหลาดนัก
ยิ่งระวังเท่าไร ฉันยิ่งตกหลุมรักเธอ(*)พี่อากาศตัวโตออกเสียงร้องคลอกับเสียงพี่โป้ที่ดังจากลำโพง แถมมีบริการเสริมเป็นการส่งสายตาหวานเยิ้มให้ไอ้หนูป่วนทุกครั้งที่มีโอกาส
จนตัวป่วนมันทนไม่ไหวกดเปลี่ยนโหมดเป็นวิทยุเสียเลย
“หึๆๆๆ”
“ขำผมเหรอ?”
“อืม.....ขำตัวป่วนที่อายพี่จนต้องเปลี่ยนไปฟังวิทยุ....แล้วก็ขำตัวเองด้วย”
“ขำตัวเอง?”
“ใช่ พี่ขำตัวเองเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงเพราะรู้สึกแบบเดียวกับเพลงเมื่อกี้ขึ้นมาจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงให้คนอื่นฟังโดยไม่ได้เตรียมตัว แล้วก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน....”
“............”
“ตัวป่วนพูดอะไรบ้างสิ นี่พี่กำลังอายมากเลยรู้มั้ยที่มานั่งอธิบายอะไรแบบนี้”
“.........พี่ฟ้า”
“หืม?”
“พี่ฟ้าโกหกผมแล้วนะ” ไอ้หนูป่วนมันหันมาทำหน้าตาล้อเลียนใส่คนขับรถกิตติมศักดิ์
“โกหก? ตรงไหน?” นี่ก็ถึงกับเอ๋อ.....งงล่ะสิพี่ฟ้า
“ก็ผมไม่เห็นพี่จะฝืนอะไรสักนิด นึกจะจีบก็เข้ามาจีบ แถมจีบแบบหน้าไม่อายด้วย”
ตัวป่วนมันกล้าตอบโต้แถมกล่าวหาว่าพี่อากาศแกโกหกอีก โฮ่......ตัวป่วนเวอร์ชั่นพัฒนาไปอีกขั้นโผล่มาแล้ว
“เฮ้อ.....ตัวป่วนจำพี่ไม่ได้จริงๆนั่นแหละ จะน้อยใจดีมั้ยน้า...” ปากว่าจะน้อยใจแต่กลับอมยิ้มจนแก้มตุ่ย
“เอ๊ะ? ก็เมื่อสี่ปีก่อนผมก็จำได้แล้วนี่”
ไอ้หนูป่วนเริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ในขณะที่คุณพี่อากาศเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังโรยกรวดที่เลียบไปตามริมแม่น้ำท่าจีน แล้วจอดรถเทียบหน้าบ้านไม้สองชั้นทาสีฟ้าอ่อน
“แล้วพี่จะเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้เราลงไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า หิวแล้วยัง?”
“ครับ หิวแล้ว” พอคุณพี่อากาศปลดล็อคไอ้หนูป่วนก็เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ มองไปรอบๆอย่างถูกอกถูกใจ
“พี่ฟ้ารู้จักร้านนี้ได้ไงอ้ะ ถ้าคราวหน้าให้มาเองนะ ยังไงผมก็เข้ามาไม่ถูก”
พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์หันมาส่งยิ้มกว้างๆหนึ่งครั้งแล้วก็แบมือมาตรงหน้า
ไอ้หนูป่วนเห็นแก่ความมีมารยาทไม่จู่โจมฉวยมือไปเองแบบเมื่อก่อนเลยยอมให้จูงโดยดี
“ไป.....เข้าบ้านกัน”
“ฮ้า????”
..............................
..............................
“ฟ้า ทำไมมาช้าอย่างนี้ พาน้องไปเที่ยวถึงไหนมา?”
“ตัวป่วน นี่แม่จ๋าของพี่”
“........แม่จ๋า? เอ่อ....สวัสดีครับ” เด็กดีมีมารยาทถึงจะงงและเอ๋ออยู่ก็ยังยกมือไหว้นอบน้อมสวยงาม
“เข้าบ้านก่อนลูก หิวมาเลยใช่มั้ย ขอสักสิบนาทีนะ ข้าวสุกเรียบร้อย แต่กับข้าวพ่อเขาบอกว่าต้องทำเสร็จใหม่ๆถึงจะอร่อย”
แม่จ๋าของพี่อากาศเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง55-60 ปี ท่าทางใจดี รูปร่างเล็กๆสมส่วน ใส่เสื้อคอกระเช้าผ้าลูกไม้สีชมพูอ่อนจางกับผ้านุ่งสีเขียวเข้มทอมือ
“ฟ้าบอกแม่ว่าจะพาตัวป่วนมาตั้งแต่เที่ยงๆ แล้วนี่มัวไปเถลไถลกัน ดูซิเนื้อตัวหน้าตาแดงไปหมด พาน้องไปตากแดดอย่างนี้ไม่ดีเลยนะฟ้า”
ท้ายประโยคหันไปส่งสายตาคาดโทษให้ลูกชายคนโตเสียด้วย
ตัวป่วนหน้าเอ๋อเริ่มเข้าใจว่าที่ว่าพามาเที่ยวนั้น ที่แท้แล้วเป็นแผนของพี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ตั้งใจจะพามาบ้าน สงสัยพามาให้พ่อกับแม่ดูตัวแหงๆ แต่จะปฏิเสธก็ไม่ทันแล้ว
“พ่อจ๋า ลูกๆมากันแล้วนะ จะให้เค้าช่วยทำอะไรรึเปล่า?”
อะไรนะ แทนตัวสามีว่าพ่อจ๋า แล้วแทนตัวเองว่า “เค้า” เค้าเนี่ยนะ โอย......เรียกกันได้ไม่แคร์อายุเลยวุ้ย
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ในครัวเค้าจัดการเอง แม่จ๋าพาลูกๆไปหาคุณยายเถอะ” เอิ่ม......พ่อจ๋า กับ แม่จ๋า เค้า....ดีนะไม่เรียกอีกคนว่าตะเอง ตรูจะบร้า
“ฟ้าก็จูงน้องอยู่ได้ ปล่อยมือน้องได้แล้วลูก พาน้องไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อน ตากแดดมาหลายชั่วโมง ตัวป่วน..เดี๋ยวเข้าห้องน้ำเรียบร้อยให้พี่ฟ้าพาไปหาคุณยายนะลูก แม่ไปช่วยพ่อจ๋าหน่อยดีกว่า”
พอแม่จ๋าแกผละไปหาพ่อจ๋าเท่านั้นแหละ ไอ้หนูป่วนมันก็หันมาโวยวายใส่คุณพี่อากาศทันที
“พี่ฟ้า อธิบายมาเดี๋ยวนี้”
“พี่อยากแสดงความจริงใจ อยากให้รู้ว่าพี่ไม่ได้จะเล่นๆกับป่วน”
“เพราะเรื่องเมื่อคืนที่ผมเล่าให้ฟังรึเปล่า?”
“ไม่ใช่ครับ พี่วางแผนไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เลือกวันที่แน่ใจว่าป่วนว่าง พี่ก็ว่าง แล้วชมพูก็ไม่กลับบ้านด้วย เพราะพี่อยากไปเที่ยวกับป่วนสองคน อยากใช้เวลากับป่วนสองคนนานๆ ไม่อยากหนีบคนอื่นมาด้วย”
“............”
“ตัวป่วน โกรธพี่เหรอ? พี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ใช้วิธีแบบนี้ ทำเหมือนหลอกลวงป่วน.......”
ก็รู้อยู่ว่าไอ้หนูป่วนมันใจอ่อน พอมันเห็นพี่ฟ้าของมันหน้าซีดหน้าเซียวมีหรือมันจะโกรธลง
“พี่ฟ้า.....อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ผมโกรธนิดเดียวเอง ตอนนี้ก็หายแล้วด้วย” เห็นพี่ฟ้าของมันมองมาอย่างยังไม่แน่ใจ ตัวป่วนมันก็ก้าวเข้าไปใกล้แล้วใช้นิ้วชี้สองข้างลูบไปที่หัวคิ้วของคนคิ้วขมวดตรงหน้าช้าๆ
“ทำคิ้วขมวดบ่อยๆหน้าจะแก่เร็ว รู้รึเปล่าน่ะพี่ฟ้า.....”
“ขอบคุณนะครับ”
“อืม......ไปๆ รีบพาไปห้องน้ำเลย เดี๋ยวคุณยายรอ”
........................
........................
“ไหนๆเข้ามาใกล้ๆซิ นี่เหรอตัวป่วนที่ฟ้าเล่าว่าไปแอบชอบอยู่ตั้งนานน่ะ เออๆน่ารักดีนี่ กระจุ๋มกระจิ๋ม น่ารักกว่าคนก่อนตั้งเยอะ โฮะๆๆๆ”
คุณยายคือแบบจำลองของแม่จ๋าที่แก่กว่า หน้าเหมือนกันแบบไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแม่กับลูก
ต่างตรงที่ฟันของคุณยายเรียงเรียบเป็นระเบียบ เป็นระเบียบมากจนดูออกว่าคุณยายใส่ฟันปลอมทั้งแผง
ไอ้หนูป่วนสะดุดหูนิดหน่อยเรื่องที่คุณยายบอกว่ามันน่ารักกว่าคนก่อนตั้งเยอะ แต่เอาเถอะ มันทำใจได้แล้วว่าเรื่องอะไรที่พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ยังไม่ต้องการให้รู้ ให้พยายามยังไงก็คงไม่ได้รู้
เพราะงั้นทำใจเย็นๆแล้วรอให้เจ้าตัวบอกออกมาเองดีกว่า
.................................
.................................
“กินเยอะๆเลยนะตัวป่วน ตัวเล็กนิดเดียวอย่างนี้จะมีแรงไปสู้รบตบมือกับฟ้ามันได้ยังไง”
ไอ้หนูป่วนมันเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกชายบ้านนี้ทั้งสองคนถึงได้ตัวโตนัก
ก็พ่อจ๋าของพี่อากาศตัวโตน่ะสิตัวโต๊โต สูงพอๆกับพี่อากาศแต่หนากว่า ดูก็รู้ว่าออกกำลังกายเป็นประจำ
“กินเยอะๆนะลูก ไม่ต้องเกรงใจ ฟ้าก็ตักปลาลวกให้น้องหน่อย กินได้นะตัวป่วน มีแต่ต้มยำปลาม้าแหละที่รสจัด นอกนั้นพ่อจ๋าเขาทำรสอ่อนๆ เอาใจลูกชายคนเล็กเต็มที่”
“ขอบคุณครับ อร่อยทุกอย่างเลย”
นี่ถ้ามันดีแต่พูดพ่อจ๋าท่านคงไม่ปลื้มลูกชายคนเล็กนัก แต่ไอ้หนูป่วนมันใช้ความจุของกระเพาะให้เป็นประโยชน์ ตักกับข้าวทุกชนิดอย่างทั่วถึง
แถมเติมข้าวสองรอบ พอจบมื้อพ่อจ๋าของพี่อากาศก็หน้าบานเป็นจานเชิง
พอจบมื้ออาหารมื้อใหญ่แสนอร่อย ตัวป่วนกับพี่อากาศของมันก็เตรียมตัวกลับบ้าน แม่จ๋าขนเสบียงมาใส่ให้จนแทบจะล้นเบาะหลัง
“คราวหน้า มาค้างนะลูก ถือว่าบ้านนี้เป็นบ้านของตัวป่วนอีกหลัง อยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องรอพี่ฟ้าก็ได้ ทั้งฟ้าทั้งชมพูน่ะ นานๆถึงจะกลับบ้านที แม่กับพ่อจ๋าแล้วก็คุณยายเลยเป็นผู้ใหญ่ขาดความอบอุ่น ไหนมาให้แม่กอดลาก่อน”
ไอ้หนูป่วนหลงรักแม่จ๋าของพี่อากาศเข้าเต็มเปาเลยก้าวเข้าไปหาอ้อมกอดโดยดี ระหว่างกอดร่ำลากันอยู่พ่อจ๋าของพี่อากาศก็เอื้อมมือมาขยี้ผมไอ้หนูป่วน แล้วก็กระซิบกับมันโดยไม่ให้พี่อากาศแกได้ยิน
“บ้านเรายินดีต้อนรับตัวป่วน ไม่ใช่แค่ฐานะคนรักของฟ้า แต่ในฐานะลูกชายคนเล็กของบ้าน ถ้าต่อไปฟ้ามันรังแกอะไร บอกพ่อนะลูก”
ตัวป่วนมันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมมันถึงไม่ปฏิเสธไปว่ามันยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับพี่อากาศตัวโต แต่มันคิดว่า ถ้าได้เป็นลูกชายบ้านนี้ก็คงจะดี
...............................
...............................
“ตัวป่วนๆ ตื่นได้แล้ว”
“งืม.....” แทนที่จะยอมลืมตาตื่นดีดี ไอ้หนูป่วนตัวเล็กกลับหันหน้ามาซุกกับฝ่ามืออุ่นๆที่เอื้อมมาเขย่าปลุกที่หัวไหล่
“ป่วน ตื่นๆ ถึงบ้านแล้ว” คราวนี้พี่อากาศแกเลยใช้ไม้เดิม ส่งเสียงดังเข้าว่า เพราะขืนปล่อยให้ซุกต่อไปพี่แกก็ชักไม่ไว้ใจตัวเอง
“.......ถึงบ้าน?.....”
“คร้าบบบบบบบ พี่มาจอดอยู่หน้าบ้านจะสิบนาทีแล้วเนี่ย”
“แหะๆ งั้นผมเข้าบ้านนะครับ”
“เดี๋ยวๆ อ้ะ....ขึ้นไปข้างบนแล้วค่อยอ่านนะตัวป่วน พี่ไปล่ะ”
“พี่ฟ้า.......เอ่อ...ขับรถกลับดีๆนะ”
“รับทราบครับผม”
พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ขับรถออกไปแล้ว ไอ้ตัวป่วนปิดล็อคประตูหน้าบ้าน
พบว่าของในมือคือกระดาษที่ฉีกออกมาจากสมุด บนกระดาษนั้นมีหมึกสีเขียวเข้ม
และข้อความที่อ่านแล้วทำให้มันเกิดอาการหน้าร้อน พร้อมกับเข่าอ่อนในคราวเดียวกัน
“แก้มใสใสอยากดอมดมให้สมจิต ปากนิดนิดอยากประทับแล้วรับขวัญ
ผิวผ่องผ่องอยากลูบไล้ทุกคืนวัน กี่วารวันจะได้ชมสมอุรา
ยิ่งได้ชิดพี่ยิ่งอยากเป็นเจ้าของ ยิ่งได้ต้องพี่ยิ่งเพ้อละเมอหา
ยิ่งได้กลิ่นเจ้าเนื้ออ่อนนะขวัญตา ยิ่งแทบบ้าต้องห้ามใจไม่แตะนวล”(*)เพลง อยากมองเธอ...ในแง่ร้าย ศิลปิน:โยคี เพลย์บอย
..โปรดติดตามตอนต่อไป..